ขายของ

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เมื่อแม่และผมมีสามีใหม่

บ้านผมอยู่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ผมเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่ของผมแยกทางหย่าร้างกันตั้งแต่ผมอยู่ ม4 ผมอยู่กับแม่ ส่วนพ่อไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพ ผมเรียนที่โรงเรียนมัธยมในตัวเมืองเชียงใหม่เพราะเชียงดาวเป็นอำเภอเล็กๆ โรงเรียนมัธยมไม่ดังเท่าไหร่ แม่จึงส่งผมมาอยู่หอพักในตัวเมืองคนเดียว สัปดาห์หนึ่งถึงกลับบ้านที นานๆทีเป็นเดือนแล้วแต่อยากกลับ ส่วนแม่ก็ตกพุ่มหม้ายแต่ก็ไม่น่าห่วงเพราะข้างบ้านก็ญาติพี่น้องตายายก็อยู่ใกล้ๆ บ้านกัน จนกระทั่งผมเรียน ม 6 และได้กลับบ้านวันศุกร์ซึ่งแม่บังคับว่า "วันนี้ต้องกลับมาบ้านให้ได้นะลูก เพราะที้บ้านเราจะงานเลี้ยงกันกับญาติ" แต่แม่ไม่ได้บอกว่าเป็นงานอะไร เมื่อผมไปถึงบ้านก็พบว่าญาติพี่น้องอยู่กันพร้อมหน้า และมีคนแปลกหน้าอีกหลายคนที่ผมไม่รู้จัก แม่แต่งตัวสวยข้างๆแม่มีผู้ชายวัย 40 พอๆกับแม่ 39 ยืนอยู่ข้างๆ และแม่บอกให้ผมกราบสวัสดีพ่อใหม่ ผมตลึงพูดไม่ออกได้แต่ยกมือไหว้ตาม เขายกมือมาจับไหล่สองข้างผมและพูดขึ้นก่อน "ยินดีที่รู้จักฝิ่นนะ ขอให้ฝิ่นคิดว่าพ่อเป็นพ่อของฝิ่นอีกคนนะ พ่อสัญญาว่าจะดูแลแม่ของฝิ่นอย่างดี และพ่อจะช่วยแม่ทำงานส่งเสียฝิ่นให้เรียนจบสูง" "ครับ" ผมตอบแค่นี้เพราะงงๆกับสิ่งที่พบอย่างไม่รู้มาก่อน และแม่ก็สารภาพว่ารู้จักกับผู้ชายคนนี้มาได้เกือบปี ตั้งแต่ผมอยู่ ม 5 เป็นคนอำเภอแม่แตง และได้รู้จักแม่ตอนงานปอยหลวงของวัดหมู่บ้านปีที่แล้ว และติดต่อดูใจกันโดยที่ผมไม่รู้มาก่อน งานเลี้ยงแบบง่ายๆวันนั้นผ่านไป รุ่งขึ้นผมได้พิจารณารูปร่างน่าตาของพ่อใหม่ ยอมรับว่าดีทีเดียว พ่อเป็นคนผิวเข้มน้ำตาลแดง ไม่คล้ำแต่ไม่ขาวมากไป จมูกโด่ง น่าตาคมนับว่าหล่อทีเดียว ร่างกายกำยำสมส่วนแข็งแรง กล้ามแขนและกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ แม่กับพ่อใหม่ตื่นแต่เช้าเพราะต้องช่วยกันเก็บล้างข้าวของที่เลี้ยงเมื่อคืน วันนี้ผมจึงมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อใหม่มากขึ้น เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นนักมวยเก่าตอนหนุ่มๆ มิน่าหุ่นถึงดีผมคิดในใจ และแอบอิจฉาแม่เล็กๆ ที่ได้ผัวใหม่หล่อกว่าพ่อจริงของผม พ่อพูดคุยกับผมพร้อมสายตาที่อ่อนโยนบางทีก็จับแขนหรือตัวผม ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนแม่ก็ดีใจที่เห็นผมเข้ากับพ่อใหม่ได้ ตกดึกคืนนั้น ผมต้องสดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงแม่ร้องครวญครางข้างห้องนอนของผม ฝากั้นห้องนอนเป็นแผ่นไม้ และมีรอยแยก ประกอบกับคืนนั้นเดือนสว่างแสงเดือนสาดส่องเข้ามาหน้าต่างห้องแม่ ผมลุกขึ้นและสอดตาตรงรอยแยกแผ่นไม้ฝาห้อง ภาพที่เห็นผมตลึงชาไปทั้งตัว พ่อใหม่นั่งคร่อมระหว่างขาของแม่ที่แยกอ้าออกและกำลังโยกตัวกระเด้ากลางลำตัวของแม่อย่างเมามัน ทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อน เสียงแม่ร้องครวญคราง และส่งเสียงโอ้ย โอว ตลอดอย่างได้อารมณ์ "เบาๆ พี่จ๋า เดี๋ยวฝิ่นตื่น อายมัน โอ้ยเจ็บผัวขา เมียไม่ไหวแล้ว" เสียงแม่ร้องซี้ดซ้าด "ทนอีกนิดเดียว ผัวใกล้จะออกแล้ว โอวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" สักพักพ่อใหม่ก็เอาควยออกจากร่างของแม่ อุแม่เจ้ามันช่างใหญ่ยาวเสียเหลือเกิน พร้อมกับจ่อควยที่ปากแม่ แม่พลิกตัวขึ้นและก้มหน้าลงทันที "ดูดให้ผัวนะ เมียจ๋า ผัวทนไม่ไหวแล้ว " ทั้งคู่เล่นเพลงรักกันอย่างไม่สนฟ้าดิน โดยไม่รู้ว่าผมมองเห็นทุกอย่าง ผมเกิดอารมณ์ จึงช่วยชักว่าวตนเองและดูแม่กับพ่อใหม่เล่นกันจนเสร็จ คืนนั้นกว่าผมจะข่มตาหลับกับภาพที่เห็นสดๆ ทำให้ผมอิจฉาแม่และอยากจะลองแบบนี้ดูบ้าง แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้น อีกอย่างก็ยินดีที่แม่มีความสุข เพราะแม่เองก็ห่างเรื่องแบบนี้มานาน รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ผมทำตัวปกติ ราวกับไม่เห็นอะไรเมื่อคืนนี้ กินข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน พ่อใหม่ถามผม "จะกลับเย็นนี้เหรอ" " " ครับ" ผมตอบ "ตอนเย็นให้พ่อเขาไปส่งฝิ่นขึ้นรถที่ตลาดนะ แม่จะออกไปปลูกนาข้าวช่วยป้าอรแกหน่อย ต้องเอาลงแขกไว้เพราะเดือนหน้าเราก็จะปลูกเหมือนกัน วันนี้พ่อเขาไม่ไปไหนหรอก อยู่บ้านกับพ่อไปก่อน เย็นๆค่อยๆกลับหอในเมือง" แม่บอกกับผมพร้อมกับส่งสายตาหวานให้พ่อตามประสาข้าวใหม่ปลามัน ผมได้แต่ยิ้มกับความสุขของแม่ วันนั้นผมช่วยพ่อใหม่ทำงานบ้านหลายอย่าง พ่อใส่กางเกงสะดอ(กางเกงชาวเล)ตัวเดียว ไม่ใส่เสื้อ ทำให้ผมอดที่จะลักลอบมองร่างกายของพ่ออยู่บ่อยๆ กล้ามเนื้อหน้าท้องของพ่อเป็นลอนๆแข็งแรง มีขนหน้าท้องและสะดือลามระเรื่อเซ็กซี่ไม่เบา ช่วงที่ผมเผลอพ่อก็คงแอบลอบดูกริยาอาการผมเช่นกัน "มองพ่อบ่อยๆ มีอะไรหรือฝิ่น" ผมสะดุ้งรู้สึกตัว "เออ เปล่าครับ พ่อหุ่นดีจัง ไม่เหมือนพ่อแท้ของผมเลย อ้วนลงพุง" ผมพูดตอบพลางขำขันๆ ปกปิดความรู้สึกตัวเอง "เพราะพ่อทำงานหนักมั้ง ตั้งแต่หนุ่มๆ พ่อก็ชกมวยเป็นอาชีพ ว่าแต่ฝิ่นเถอะร่างกายเล็กบางเหมือนผู้หญิงเลย ไม่เคยทำงานหนักสิท่า" ผมหลบสายตาพ่อใหม่ทันที กลัวเขาจะรู้ว่าผมก็อีแอบอยู่ ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่กับพ่อใหม่ ทั้งวัน จนกระทั้งเย็นพ่อก็ขับมอไซค์ไปส่งผมที่ตลาดเชียงดาวเพื่อขึ้นรถโดยสารกลับเชียงใหม่ ระหว่างทางซ้อนท้ายผมกอดเอวพ่อใหม่ตลอด เขาบอกเขาดีใจมากที่ผมรู้สึกดีกับเขาและยอมรับเขาเป็นพ่ออีกคน สัปดาห์ที่สองผ่านไปผมกลับบ้านปกติ กลางคืนก็แอบดูแม่กับพ่อเล่นรักเล่นเสียวกันอย่างถึงลูกถึงคน กลางวันก็ทำตัวปกติและเย็นอาทิตย์ก็กลับเชียงใหม่ ผมกับพ่อใหม่สนิทกันมากขึ้นและผมอยากกลับบ้านทุกวันศุกร์อยากเจอพ่อเขาอยากอยู่กับเขา โดยที่แม่ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของผมเลย และแล้วสัปดาห์แห่งความสุขก็มาถึงผมกลับบ้านตอนเย็นวันศุกร์ พบแม่อยู่คนเดียว แม่บอกว่าพ่อไปนอนห้างนา เพราะไปนอนเฝ้าต้นกล้าข้าวที่ถอนไว้เพื่อจะปลูกวันอาทิตย์ "ฝิ่นมาก็ดีแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเอาข้าวเย็นไปส่งให้พ่อที่นานะ หรือจะค้างกับพ่อที่ห้างนาก็ได้ เพราะจะมืดแล้วเดี๋ยวกลับมาคนเดียวอันตราย ไม่ต้องกลับ ดีเหมือนกันแม่ขี้เกียจไปฝนก็จะตก ไปรีบไปนะลูกเดี๋ยวพ่อหิว" พอแม่อนุญาตเช่นนี้ผมรีบเลยครับ เพราะใจก็อยากเจอพ่อใหม่เต็มทีจะแย่อยู่แล้ว "เอาฝิ่น มาเมื่อไหร่ แล้วแม่ไปไหนล่ะ" พ่อถามทันทีที่เห็นผม "แม่กลัวฝนจะตกเลยเฝ้าบ้านครับ แม่ให้ผมเอาข้าวมาให้พ่อครับ" "จะมืดแล้วฝนก็จะตก ฝิ่นคงต้องค้างกับพ่อแล้วล่ะ" "ครับ แม่บอกแล้ว อันตรายไม่ต้องกลับก็ได้" ผมตอบพร้อมกับยิ้มอายๆ สักพักหนึ่งฝนห่าใหญ่ตกลงมาอย่างหนัก พ่อชวนผมอาบน้ำฝนที่ไหลลงมาจากชายคาห้างนา พ่อนุ่งกางเกงในตัวเดียวอาบน้ำฝนส่วนผมนุ่งผ้าขาวม้าของพ่ออาบน้ำด้วยกัน ลำควยของพ่อใหญ่จริงเพิ่งเห็นชัดๆวันนี้ ขนาดไม่แข็งตัวและซ่อนอยู่ในกางกางในที่รัดรูปโดนน้ำ โนกนูนเป็นสันลำยาวเย้าใจเสียเหลือเกิน ใจผมเต้นโครมครามเมื่อพ่อเอามือที่มีแชมพูมาขยี้หัวให้ผม ผมทำทีเบียดร่างของพ่อรู้สึกถึงลำควยในร่มผ้าเสียดถูบนหน้าท้องของผม เพราะพ่อสูงกว่าผมมาก อาบน้ำเสร็จผมก็นุ่งกางเกงขาสั้นที่ใส่มา ส่วนพ่อนุ่งกางเกงสะดอไม่ใส่กางเกงในเพราะใส่ตอนอาบน้ำฝนไปแล้ว เผยให้เห็นถึงความใหญ่ยาวของลำควยที่นูนขึ้นมากับกางเกง จนผมลอบมองหลายครั้ง ฝนยังไม่ยอมหยุดคงตกอย่างหนัก อากาศค่อนข้างจะหนาวเย็น ห้างนาเป็นไม้ฟาก( ไม้ไผ่ที่นำมาสับแล้วแบออกให้เป็นแผ่น) ที่กั้นฝาและปูพื้น ไม่สามารถกันลมอากาศหนาวเย็น ได้ พ่อชวนผมเข้านอน กับที่นอนฟูกยัดนุ่นผ้าห่มมีแค่ผืนเดียว เพราะพ่อจะมานอนเฝ้านาเพียงคนเดียว ผมนอนเบียดกับพ่อเป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพ่อขนาดนี้ ผ้าห่มผืนเดียวทีไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่จึงทำให้เรานอนเบียดชิดกัน "ฝิ่น หนาวไหม พ่อกอดให้เอามั้ย" พ่อพูดพร้อมกับพลิกร่างตะแคงกอดผมด้านหลัง ผมไม่ขัดขืนแต่รู้สึกถึงลมหายใจของพ่อรดท้ายทอยตนคอผมชวนสยิว พ่อเอาแขนสองข้างสอดเข้ามากอดรัดลำตัวผมอย่างแน่นหนัก ใจผมสั่นรู้สึกถึงความผิดปกติ ผมไม่ปฏิเสธ แต่ก็ลองใจพ่อดูโดยผมแกล้งตะแคงร่องก้นไปชนและเบียดลำควยของพ่อ ที่เริ่มขยายตัวรู้สึกได้ถึงความใหญ่ยาว พ่อเอามือทั้งสองลูบไล้หน้าอกและหัวนมผมตัวแข็งเริ่มจะหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ " ฝิ่น เนื้อนุ่มจังเลย เหมือนเนื้อผู้หญิง น่าจะเกิดเป็นหญิงมากกว่าชายนะ" พ่อพูดพร้อมกับใช้มือไล่ๆ ไปตามลำตัวผม "ผมเป็นชาย แล้วพ่อไม่ชอบหรือไงครับ" ผมลองเชิงหยั่งใจพ่อดู "ใครบอกว่าไม่รัก ไม่ชอบ แต่พ่อบอกว่าฝิ่นเหมือนสาวๆ มากกว่า" ผมพลิกร่างจากการหันด้านหลังมาเป็นหันข้างด้านหน้าชนกับลำตัวพ่อที่ยังกอดรัดผมอยู่ "พ่อครับ ผมอิจฉาแม่จังที่ได้แฟนหล่อๆอย่างพ่อ" "ฝิ่น อยากลองดูเหมือนแม่มั้ย ว่าพ่อทำอย่างไรกับแม่" "ครับ ผมรักพ่อครับ" พ่อกอดรัดตัวแน่นขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับประกบปากจูบปากกับผมอย่างสะท้านไปทั้งตัว พ่อเริ่มบดขยี้ริมฝีปากและใช้ลิ้นพันพัวกับลิ้นผม และผมก็รู้สึกท่อนควยที่เบียดและกะเด้าหว่างขาของผม จากนั้นพ่อก็ค่อยซุกไซ้ซอกคอ ติ่งหูและไล้ลงมาหน้าอก ตอนที่พ่อเอาปากกัดและดูดหัวนมทำให้ผมเสียวสะท้านไปทั้งทรวง พ่อใช้ลิ้นและฝีปากเลียลงมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องน้อยของผมอย่างเมามัน ผมแอ่นหน้าท้องกระเด้งรับอย่างเตลิดเปิดเปิง พ่อถอดกางเกงผมออกและกระตุกปมกางกางสะดอตัวเองหลุดจากร่างกาย เผยให้เห็นความมหึมาอันใหญ่ยาวของท่อนควยที่แข็งโด่เช่นเดียวกับมะเขือยาว เส้นขนไม่รุกรุงรังมากแต่ก็ลามหน้าท้องใต้สะดือพองาม "ฝิ่น เป็นของพ่อนะ พ่อเองก็แอบชอบฝิ่นนานแล้ว" พ่อนอนหงาย" ฝิ่นจ๋า ดูดควยให้พ่อที พ่อไม่ไหวแล้ว" ผมเริ่มซุกไว้ลำตัวพ่อก่อน เลียหัวนมที่ดำคล้ำ หน้าอกที่เป็นกล้ามมัดๆ ลงมาถึงหน้าท้องที่เป็นลอนเนื้อที่แข็งแรง ผมใช้ปากดึงเส้นขนตรงหัวหน่าวของพ่อก่อน พ่อสะดุ้งเฮือกพร้อมแอ่นตัวขึ้นรับการโลมเลียจากริมฝีปากผม ผมยังแกล้งพ่อต่อไปโดยเลียไปตามง่ามขา ที่มีขนหมอยขึ้นอย่างรุนแรง "ฝิ่น โอวๆๆๆๆ ดูดให้พ่อเร็ว ไม่ไหวแล้ว อูยๆๆ" เสียงพ่อกระเส้า พร้อมกับเอามือจับหัวผมกดลงไปที่หว่างขา ผมใช้ปลายลิ้นเลียหัวกะโป้ก ที่แดงเถือกและลอกออกมาจากหนังหุ้มอย่างฉวัดเฉวียน เสียงพ่อครวญคราง "ดูดเร็ว ที่รักของพ่อ โอยๆๆ" ผมดูดลำควยเข้าไปในปากและรูดขึ้นลง แทบทะลุคอหอย อย่างกระหาย "โอว ดีจังฝิ่นเร็วเข้า พ่อไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน" ปากผมทั้งอมทั้งดูดจนในที่สุดพ่อร้องขึ้น "โอย ออกแล้ว ฝิ่น พ่อไม่ไหวแล้ว" พร้อมกับน้ำหวานๆมันๆคาวๆอุ่นๆ พุ่งในปากผม ผมกลืนกินอย่างอร่อยและเลียจนหมดหยดสุดท้าย จากนั้นพ่อก็กลับพลิกตัวผมกึ่งคว่ำกึ่งตะแคงด้านข้าง และยกขาผมขึ้นข้างหนึ่ง พ่อเข้ามาประกบด้านหลังผมและพยามยามถูไถลำควยตรงร่องก้นประตูหลังของผม "พ่อ ฝิ่นกลัวเจ็บ" "ไม่เป็นไร ทนนิดเดียวนะ รับรองฝิ่นจะมีความสุข พ่อจะทำเบาๆ" พ่อเริ่มกระเด้าและสอดลำควยเข้ารูหลัง พ่อพยายามถูไถและกระเด้าแรงขึ้นๆๆๆ จนในที่สุดหัวควยก็หลุดเข้าไปในรูจนได้ เมื่อเริ่มได้ที่พ่อก็เริ่มกระแทกๆๆๆๆ อย่างเมามัน จนสุดโคนลำควย ผมร้องออกมาอย่างไม่อาย โอว ๆๆๆ พ่อ ฝิ่นเจ็บ พอเถอะ โอยๆๆ" "โอย ฝิ่นจ๋า พ่อไม่ไหวแล้ว ทนนิดเดียว โอๆๆๆๆๆๆๆ" พ่อทั้งซอยและกระแทกเร็วๆขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนน้ำเหงี่ยนผมแตกและพุ่งออกมาเลอะหว่างขาตัวเอง "พ่อ โอย น้ำฝิ่นออกแล้ว เร็วซิ โอย"""" พ่อกะเด้าและกระแทกอย่างแรงอีกสองสามที ร่างของพ่อกระตุกก่อนที่จะมีน้ำอุ่นๆ พุ่งในประตูหลังของผม ร่างของพ่อล้มทับร่างของผม และดึงควยของเขาออกจากรูพร้อมกับน้ำรักที่ไหลเยิ้มออกมาระหว่างร้องก้นและขาของผม "ฝิ่น พ่อขอโทษ โกรธพ่อมั้ย" "ไม่ครับ ฝิ่นรักพ่อครับ ฝิ่นอยากอยู่แบบนี้กับพ่อไปนานๆ ครับ แต่กลัวแม่รู้" "ไม่มีใครรู้หรอก ถ้าเราไม่พูดไม่บอกใคร พ่อรักฝิ่นนะ ทนเอาพ่อจะหาโอกาสให้ความสุขกับฝิ่นอีก" แล้วคืนนั้นผมกับพ่อใหม่ก็เล่นรักกันหลายรอบจนฟ้าสาง คืนวันเสาร์ผมก็มานอนห้างนากับพ่ออีกหนึ่งคืน และบรรเลงเพลงรักกันอีกหลายรอบ เพราะวันอาทิตย์ผมต้องตัวเมือง จะกลับมาก็วันศุกร์หน้า หลังจากนั้นมาผมก็กลับบ้านบ่อยๆ แอบดูพ่อเล่นกับแม่บ้าง กลางวันแม่ออกไปข้างนอก เพราะต้องไปช่วยเอาแรงคนอื่น ผมกับพ่อก็จะล่อกันกลางวันที่บ้าน โดยที่แม่ไม่สงสัย แต่แม่ดีใจที่เห็นลูกกับผัวใหม่เข้ากันได้ดี โดยไม่ระแวงการเข้ากันได้ดีเลยว่าเพราะเหตใด บางทีพ่อมาธุระเอาผักมาขายในเมืองเชียงใหม่ พ่อก็จะมาเล่นเสียวกับผมที่หอก็มีเป็นบางครั้ง จนผมเรียนจบ ม6 และย้ายที่เรียนต่อมหาลัยต่างจังหวัด ทำให้ผมกับพ่อห่างกันไป นานๆกลับบ้านที ผมกับพ่อก็ล่อกันเหมือนเดิม แต่อย่างไร ผมนึกถึงบทรักบทสวาทที่ห้างนา ได้อารมณ์ดีกว่าที่ อื่นๆ และเป็นที่แรกที่ผมยอมเป็นเมียของพ่อใหม่ ซึ่งเป็นผัวของแม่อีกคน

sex in family จบ

อย่าทรมานเราเลยคะ เข้าไปกับเราเถอะคะ แล้วหนูจะบอกอะไรบางอย่าง” เธอจับมือผมดึงกลับเข้าไปนั่งลงบนโซฟา ส่วนน้องบิวนั่งลงบนพื้น “เอาละ…จะถามอะไรกับพวกเราก็ถามมาได้ทุกอย่างเลยคะ” บิวพูดออกมา ผมนั่งลงกำลังคิดว่าจะถามอะไรพวกเขาก่อนดี จูนก็เริ่มขึ้นมาก่อน “ลูกมีการป้องกันหรือเปล่า ตั้งแต่มีอะไรกันมา” จูนถามลูก “ผมไม่เคยสวมถุงยาง หรือป้องกันอย่างอื่นเลยครับ” เบิร์ดพูดออกมาเบาๆ บิวนั่งนิ่งสักครู่ก็พูดออกมา “ครั้งแรกที่หนูเสียความบริสุทธิ์ให้กับโจหนูโชคดีที่ไม่ท้อง ทั้งที่ไม่ได้คุม แต่หลังจากนั้นหนูก็กินยาคุมมาตลอด” “แล้วบีละลูก” จูนถามน้องบีทันทีที่บิวพูดจบ เธอคงไม่รู้ว่าเบิร์ดนั้นยังไม่ได้เอากับน้องบี แค่ทำกันภายนอกเท่านั้น “ทำไมหนูต้องคุมด้วยคะ ในเมื่อพี่เบิร์ดไม่เคยเอาหนูซักที” น้องบีพูดออกมาเหมือนน้อยใจ “แล้วบิวกับเบิร์ดเคยยุ่งกับคนอื่นอีกหรือเปล่า นอกจากที่พูดมาแล้ว” ทั้งสองสั่นหัวพร้อมกันเพื่อยืนยันว่าไม่เคยยุ่งกับใครอีกแล้ว “แล้วพวกเธอไม่หึงหวงกันบ้างหรือ” จูนถาม “ไม่คะ” บิวบอก “บางทีน้องบีกับหนูก็กอดรัดฟัเหวี่ยงกันต่อหน้าเบิร์ดแต่เราก็ไม่เคยน้อยใจ กัน บางทีเบิร์ดเอากับหนูต่อหน้าน้องบี น้องบีก็เข้ามาช่วย พอหนูกับเบิร์ดเอากันเสร็จก็มาช่วยน้องบีโดยเบิร์ดจะเลียหีน้องบีหนูก็จะ ช่วยดูดนมจนน้องบีเสร็จ เรารักกันและมีความสุขดีคะ” จูนเห็นว่าลูกมีความสุขแบบนี้ก็พูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มแหยๆ “แล้วถ้ามีคนอื่นด้วยละ….เบิร์ด..ถ้าบิวมีผู้ชายคนใหม่แล้วต้องการเลิกกับ เบิร์ดละ…” จูนถามขึ้นมาอีก “ไม่เป็นไรครับแม่…ผมรู้ว่าสักวันพี่บิวต้องพบกับคนที่ดีๆ..แล้วแต่งด้วย เข้าสักวัน…แต่ถ้าถ้าผู้ชายคนนั้นทำให้พี่บิวเสียใจผมจะอยู่ข้างพี่บิวเสมอ” “แล้วสักวันถ้าพวกเธอต้องการมีลูกละ” ผมถาม “วันหนึ่ง” บีวกับบีพูดออกมาพร้อมกัน “ถ้ามีก็ต้องไม่ใช่กับเบิร์ดเพราะว่ามันผิด” บิวบอก แต่แล้วน้องบิวก็พูดออกมาอีก “เมื่อหนูได้อยู่กันตามลำพังกับเบิร์ด หนูรู้สึกมีความสุขและรักน้องมาก ตอนหนูจูบกับโจไม่ดีเหมือนจูบกับเบิร์ดและน้องบีเลย การจูบแต่ละครั้งมันเต็มไปด้วยความรักหนูห้ามใจไม่ให้รักน้องไม่ได้ เมื่อเรามี sex กันหนูมันมีความสุขมากแบบไม่เคยมีมาก่อน” บิวสารภาพออกมาจากใจส่วนลึกๆของเธอ แต่คำพูดต่อไปนี้ทำให้เราตกใจมากกว่าและที่หนูกับน้องไม่เข้าใจกับจิตใจของพวกเราก็คือ เราสามคนชอบและต้องการจะมี sex กับพ่อและแม่ด้วย เราคุยกันเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะเบิร์ดอยากมี sexกับแม่มาก พอกับที่น้องบีอยากมี sex กับพ่อเลย” “พอ..พอ..บิว..พอ..” ผมให้เธอหยุดพูด ผมหันไปมองจูน เธอหันไปจ้องหน้าเจ้าลูกชายอยู่พอดีหน้าเธอแดง “ทำไมคะพ่อ…ในเมื่อเป็นความจริง…มันคือความฝันของหนูและพี่ๆ” น้องพูดขึ้นมาบ้าง “นี่พวกเธออยากมีอะไรกับพ่อได้ไง…พ่อเป็นพ่อของลูกนะ…และพ่อก็แก่แล้ว..อายุ ปาเข้าไปจะ 47..48 แล้ว” “แม่ก็อายุตั้ง 45 “ เสียงจูนพูดออกมาสั่นๆ “แม่ไม่ใช่สาวๆ สวยๆ เหมือนบิวกับบี ทำไม่เบิร์ดถึงคิดอย่างนั้นกับแม่” “แม่ครับ..แม่ยังไม่แก่หรอกครับ…และสวยมากด้วย” เบิร์ดบอกแล้วมองหน้าแม่จนทำให้จูนต้องหลบตาลูกชาย “มันไม่เกี่ยวกับที่แม่อายุมากหรอกคะ” บิวเสริมขึ้นมา “แต่เราคิดว่าพ่อกับแม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมานะคะมันเกี่ยวกับรสนิยมของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน เรารู้ว่าเราผิดปกติที่มารักคนในครอบครัวเดียวกันแต่เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร นี่คะ” ผมหันไปหยิบกะป๋องเบียร์มาดื่ม “บิวพ่อขอถามหน่อยว่าบิวเคยคิดที่จะหาผู้ชายอื่นมาแต่งานด้วยไหมนอกจาก เบิร์ด” “ตอนนี้ยัง” เธอตอบออกมาทันที “แล้วเราจะเข้าสังคมกันอย่างไร…มันจะมีความสุขหรือ” “พ่อพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก…นอกบ้านเราก็เป็นพี่น้อง..พ่อ..แม่..ลูก..กัน..แต่ เวลาส่วนใหญ่เราอยู่กับครอบครัวนี่ครับ” เบิร์ดบอกกับเรา “หนูก็คิดแบบนี้เหมือนกัน” “ฮื่อ..ใช่” ทั้งบีทั้งบิวสนับสนุนกันใหญ่ “เราไม่ต้องการที่จะแต่งงาน..แต่จะอยู่กันอย่างนี้” บิวบอก “พ่อคะ..แล้วหนูพอที่จะมี sex ได้หรือยังคะ หนูไม่อยากรอ กว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วพบกับหนุ่มหล่ออย่างพี่เบิร์ดหรือไม่ก็สมาร์ท อย่างพ่อ” “จูนว่าอย่างไร..ช่วยพี่คิดหน่อยซิ” ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร แล้วเลยหันไปปรึกษากับจูน “เฮ่อ…จูนว่าเราคงต้องยอมรับมันแล้วละ…มันมาถึงขนาดนี้แล้ว” ลูกๆดูจะรอว่าพ่อกับแม่จะว่าอย่างไร “แม่พอจะรู้มาบ้างแล้วแต่ไม่แน่ใจ” จูนหันไปทางบิว “แม่รู้เรื่องบิวกับโจแต่ไม่ถึงกับรู้เรื่องเบิร์ดหรอก” บิวหน้าตาตื่นเล็กน้อย “แม่รู้ด้วยหรือคะ” จูนพยักหน้า ทำไมจูนเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว..ไม่บอกพี่” ผมถามเธอทันที “ที่รักคะ…อย่างโกรธจูนนะ..จูนอธิบายได้” ผมนั่งเงียบจูนขยับมาใกล้ๆ “โจเขาเป็นรุ่นพี่แล้วก็สนิทกับบ้านเรา ทำให้เด็กทั้งสองสนิทกัน แต่จูนสังเกตเห็นว่าทั้งสองคนนั้นดูสนิทกันเกินเพื่อนธรรมดา มีออดอ้อนกันเมื่อลับตาคน แต่จูนไม่กล้าบอกถึงแม่จูนจะไม่ชอบก็ตาม แต่ดูๆไปโจเขาก็ไม่มีอะไรเสียหายและโจเขาก็กำพร้าแม่ตั้งแต่เล็กพอบิวทำให้ แกมีความสุข จูนเลยปล่อย…จูนอยากจะบอกเหมือนกัน แต่เห็นว่าบิวได้เลิกคบกันแล้วเลยไม่ได้บอก” จูนพูดไปทำตาแดงๆ จนผมต้องดึงเธอเข้ามากอด “อย่าคิดมากไปเลยเรื่องมันผ่านไปแล้ว” น้องบิวพูด ออกมาขัดเราทั้งสอง “แม่คะ…ครอบครัวเราใครว่ายังไงก็ช่างมันซิคะ…ขอให้เรารักกันก็พอ” ผมไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดที่ออกจากลูกสาวคนเล็ก เธอเดินเข้ามานั่งใกล้ๆผมแล้วเอามือกอดแล้วซบลงบนไหล่ผม “มันเป็นสิ่งที่เราปราศนาและมหัศจรรย์มาก…หนูแสดงให้พ่อดู” น้องบีเอียงหน้ามาหา ผมก้มลงมองเธอ นัยตาน้องบีที่มองผมมันหยาดเยิ้ม ผมเห็นจูนตาค้างเลยเมื่อเห็นลูกสาวกำลังจูบกับพ่อเขาเอง เธอมองสักพักเธอก็พยักหน้าให้ผมช้าๆ เบาๆ ผมรู้สึกเหมือนฝัน ผมกลับมาที่น้องบีเธอหลับตาพริ้ม..ตั้งหน้าตั้งตาจูบผม…โอ..มันช่างหอมหวาน ดีจริงๆ ผมกอดรัดลูกสาวแน่น…มือไม้ลูบไล้ไปทั่วร่าง จูน..บิว..เบิร์ด..มองดูเรากันเงียบกริบ น้องบีคราง..ฮือ..ๆ..ๆ..ในลำคอ…มือน้อยของเธอล้วงมาจับที่กางเกงขาสั้นผม แล้วรูดซิปออก ผมใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นเกือบจะห้ามเธอไปแล้ว ผมยังไม่อยากเปลือยกายต่อหน้าทุกๆคนในตอนนี้ แต่เมื่อเจอรสจูบของน้องบีเข้าผมก็ลืมไปหมดทุกสิ่ง น้องบีค่อยเลื่อนหน้าลงแล้วอ้าปากอมควยผมทันที เธอกระดกลิ้นเลียควยผมอย่างคล่องแคล่ว เธอคงดูดควยของเบิร์ดบ่อยถึงได้เก่ง ผมหลับตาแล้วเอนหลังพิงโซฟาครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อโดนน้องบีทั้งดูด ทั้งเลีย และเมื่อผมลืมตามาอีกครั้ง ทุกคนนั่งอยู่รอบๆตัวผม มองดูผมด้วยความเคลิบเคลิ้มไม่ยอมกระพริบตา เมื่อน้องบีดูดแรงขึ้น เธอเก่งพอๆกับจูนแม่ของเธอเลยครับ และแล้วผมก็ต้องปล่อยน้ำกระฉูดเข้าไปในปากของของลูกสาว เด้งควยอัดเข้าไปในปาก เอามือจับหัวเธอไว้ สักพักน้องบีก็เงยหน้าขึ้นมา เธอจูบและเลียริมฝีปากผมก่อนที่จะก้มลงไปดูดควยผมอีกครั้ง จนมันเริ่มแข็งขึ้นมาอีกเธอมองอย่างพอใจ “ควยพ่อสวยจังเลย” เธอพูดแล้วยิ้มอย่างหยาดเยิ้มแล้วเธอก็ลุกขึ้นถลกกระโปรงขึ้นไปไว้ที่เอว เนินหีอวบโล้นเกลี้ยงเกลาลอยเด่นอยู่ตรงหน้าผม โอ..เธอไม่ได้นุ่งกางเกงในหรือนี่ น้องบีก้าวเข้ามาแล้วก้มจูบผมอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆหย่อนก้นลงมาแล้วบอกกับ ผมว่า “พ่อรู้ไหมคะว่าหนูต้องการแบบนี้มากขนาดไหน” เธอบอกเสียงเบาๆหอบนิดๆ ราวกับไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน เธอล้วงมือมาจับควยผมไปจ่อที่ปากรูหีเธอแล้วนั่งทับลงไป อาศัยน้ำลายที่ควยผมกับน้ำเงี่ยนที่หีเธอควยผมค่อยๆจมหายเข้าไปในรูหีได้ อย่างไม่ยากนัก น้องบีกัดฟันแน่นไม่ร้องออกมาซักคำจนควยผมเข้าไปสุดลำ เธอนั่งทับนิ่งหีเธอขมิบบีบรัดควยผมแน่น เธอค่อยๆเริ่มขยับบดก้นไปมา พอเธอเสียวมากขึ้นเธอก็ ขย่มช้าๆ สั้นๆ น้องบีครางออกมาตลอดเวลาด้วยความเสียว สมความปรารถนา ไม่แสดงว่าเจ็บปวดเลย ไม่นานตัวเธอก็สั่น เธอลืมตาขึ้นมามองมาที่ผม หายใจแรงเสียงฟืดฟาดๆ อ้าปาก น้องบีหันไปมองไปที่จูน ซึ่งนั่งอยู่ในมุมมืดมองดูเราอยู่ “แม่ขา…ดูหนูกับพ่อซิคะ” เธอพูดเสียงเหนื่อยหอบ “แม่ขา..หนูได้เย็ดกับพ่อแล้ว…พ่อเปิดซิงหนูด้วย…พ่อขา..หนูเสียวจังเลย …ซี๊ดด…” น้องบีขย่มอย่างแรงตามอารมณ์ปรารถนากล้ามเนื้อหีเธอบีบ..ตอดควยผมเสียวไปถึง ขั้วหัวใจเลยครับ…จนผมต้องน้ำแตกไปกับเธอด้วย แล้วก็ค่อยๆผ่อนช้าลง “พ่อขา..หนูมีความสุขมากที่สุดเลย…” โอ..มันสุดยอดจริง…ผมไม่เคยเย็ดหีคับแน่นขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต…มันสุดๆไป เลย น้องบียื่นปากมาจูบผมอย่างเร่าร้อน…พันลิ้นกันนัวเนีย…”หนูรักพ่อคะ…รักมาก ที่สุดเลย…” เราสองคนกอดจูบกันกลม ขณะที่ควยผมยังคาอยู่ในรูหีน้องบี รู้สึกว่าหีน้องบีจะขมิบรัดผมเป็นระยะเหมือนกับยังต้องการอีก มาถึง ตอนนี้ ดูทุกคนจะให้ความสนใจในเรื่องนี้มาก ตื่นเต้นและมีความสุข ภายในห้องเงียบไปชั่วขณะ สักพักน้องบีก็ลุกขึ้นจากตัวผมแล้วเดินไปหาพี่ชายเธอแล้วกระซิบที่หู เบิร์ดยิ้มแล้วน้องบีก็ขยับมากระซิบกับบิวอีกคนบิวยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วน้องบีก็เดินไปหาแม่ “แม่คะ..มานี่หน่อยค่ะ” เด็กๆล้อมตัวแม่ของเธอแล้วกอดจูบนัวเนียไปหมด “อุ๊ย..อย่าซิลูก” จูนร้องห้ามลูก น้องบีจูบแม่แล้วสะกิดให้พี่ชายเข้าไป เบิร์ดเข้าไปกอดแล้วพยายามถอดเสื้อผ้าแม่แต่จูนจับชายเสื้อเอาไว้ เบิร์ดเลยหันมาถอดกางเกงขาสั้นของตัวเองลำควยดีดผึงออกมา ถึงจะไม่ใหญ่เท่ากับของผมก็ตามแต่มันก็ยาวพอสมควร และน่าจะยาวกว่าของผมด้วยซ้ำ จูนโดนลูกๆปล้ำกอดจูบ พยายามถอดเสื้อผ้า น้องบีดึงกางเกงยางยืดที่จูนใส่อยู่ออกไปทางปลายเท้าจนท่อนล่างเปลือย “ไม่เอาลูก…อย่าทำแม่เลย” จูนขอร้องลูกแต่ยังไม่เห็นว่าเบิร์ดนั้นได้แก้ผ้าควยชี้เด่มาที่เธอแล้ว “บีเอากับพ่อ แม่ก็ไม่ว่าหรอก แต่แม่ไม่ต้องการ…หยุดเถอะ” จูนขอร้องลูกๆ “พ่อคะมาช่วยหน่อยซิ…” บิวเรียกผม ผมยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีกเมื่อบิวเรียก ผมขยับเข้าไปหามองหน้าจูนแล้วยิ้มให้และผมก็เข้าไปช่วยถอดเสื้อจูนออก “อย่า..พี่..” เสียงร้องห้ามแผ่วเบาลง “จูนไม่ต้องการจริงๆ” ผมคุกเข่าตรงหน้าเธอล้วงมือไปที่หีเธอใช้นิ้วกรีดไปตามร่องพร้อมกับก้มลงไป จูบปากเธอ “อย่าคะพี่…หยุดเถอะ…อย่า..อูยย” ความเสียวเริ่มเข้าไปครอบครองใจเธอจากการปลุกเร้าของทุกคน ร่องหีของจูนเยิ้มไปด้วยน้ำเสียว มันคงจะออกมาตั้งแต่นั่งดูผมเอากับลูกสาวแล้ว “อูยย..ซี๊ดด…จูน…พี่..ย.ย่า..” เธอร้องเสียงสั่นแต่ผมก็ยังคงบี้แตดเธอไม่ยอมหยุด ลูกสาวสองคนนั่งมองหัวเราะกันคิกๆ แล้วบิวก็ก้มลงมาช่วยดูดนมให้กับแม่เธอ ช่วงที่บิวคุกเข่าดูดนมแม่ น้องบีก็เอื้อมมือมาถอดกระโปรง-เสื้อของพี่สาวออก ทำให้ทุกคนในห้องต่างก็เปลือยกันหมด จูนเริ่มไม่มีการขัดขืนแล้ว จูนมองเบิร์ดที่นอนสาวลำควยอยู่ข้างๆ เธอมองตาค้างกับความยาวของมัน ผมช้อนมือไปอุ้มจูนไปที่เบิร์ดซึ่งนอนรออยู่ ผมค่อยๆหย่อนตัวเธอลงไป “ตรงหรือเปล่าบิว” “หย่อนลงมาเลยพ่อ” บิวเป็นคนจับควยน้องจ่อให้ตรงรูหีของแม่ผมก็ค่อยๆวางลงไป “โอ๊ะ…พี่.ซี๊ดด..อูยย” จูนตัวสั่นระริกเมื่อควยลูกชายจมหายเข้าไปในรูหีเธอพอควยของเบิร์ดเข้าไปมิด ด้ามผมก็ปล่อยตัวจูน ถึงตอนนี้จูนดูจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างก้มลงไปจูบกับลูกชายอย่างเร่าร้อน รุนแรง บดปากเสียงครางในลำคอ..ฮือ..ฮา…สะโพกก็ขยับขึ้นลง บิวกับบีและผมต่างก็ยืนขึ้นดูลูกชายเย็ดกับแม่กันอย่างเงียบ สักพักจูนก็เงยหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆแต่พวกเราก็พอได้ยิน “แบบนี้ใช่ไหมที่ลูกต้องการ…เบิร์ดอยากเย็ดกับแม่ใช่ไหม” จูนถามลูกชาย เบิร์ดครางตอบออกมา “อูย อูยย..ชะ..ใช่..ครับแม่..ผมอยากเย็ดแม่แบบนี้มานานแล้ว” จูนยิ้มแล้วกระซิบที่หูลูกชาย “ก็ลูกได้เย็ดแล้วไง…ตอนนี้แม่อนุญาตแล้ว…เย็ดเลยลูก” จูนเอามือยันหน้าอกของลูกชายแล้วขย่มควยลูกชายอย่างบ้าคลั่ง เบิร์ดเองก็เด้งเอวขึ้นรับอย่างมีความสุขสมความปรารถนาของเขาที่อยากเย็ดกับ แม่ตัวเอง สองเต้าของจูนเคลื่อนไหวขึ้นลงตลอดเวลาที่เธอขย่ม เสียงร้องครวญครางของทั้งสองคนดังประสานกันลั่นห้อง “อูยย…แม่ครับเสียวจังเลย…ซี๊ดด..หีแม่รัดควยผมแน่นดีจัง…โอ้วว..แม่ครับ ..ผม..ผมจะทนไม่ไหวแล้วแม่..อูยย…” “อย่าเพิ่งออกซิเบิร์ด..รอแม่ด้วย..แม่อยากเอานานๆ” จูนหยุดเคลื่อนไหวก้มลงไปดูดปากกับลูกชายเพื่อชลอการเย็ดให้ยาวนานขึ้น สักพักเบิร์ดก็จับแม่พลิกตัวลงแล้วตัวเองก็เป็นฝ่ายอยู่ข้างบนแทน เบิร์ดเริ่มกระเด้าเอวเย็ดแม่ตัวเองหลังจากที่ดูดปากกันได้พักหนึ่ง จูนยกมือขึ้นกอดที่คอลูกชายส่วนขาก็รัดที่เอวไว้ส่งเสียงครวญครางด้วยความ เสียว จูนเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์ทางเพศที่รุนแรงพอสมควร เมื่อเครื่องติดแล้วเธอจะเร่าร้อนอย่างบ้าคลั่งทีเดียว เธอทั้งเด้งทั้งร่อนรับการเย็ดจากลูกชายตลอดเวลา “โอ้วว..ดีจังเลยลูก…ซี๊ดด..เบิร์ดเย็ดเก่งจังเลย..แม่เสียว..ซี๊ดด” เสียงครางจากจูน เบิร์ดเงยหน้าขึ้นจับขาทั้งสองข้างของแม่ขึ้นพาดบ่าแล้วดันไปข้างหน้าจนหน้า ขาของแม่ติดกับหน้าอกแล้วก็กระเด้าเย็ดอย่างรุนแรงและหนักหน่วงจนแม่ร้อง ครางลั่นด้วยความเสียว เพราะท่านี้ทำให้ลำควยที่ยาวของเบิร์ดพุ่งเข้าไปจนถึงปากมดลูกเลย เราสามคนที่ดูอยู่ได้ยินเสียงน้ำที่เยิ้มออกมาปากรูพอเบิร์ดกระเด้าเย็ดก็มี เสียงดังออกมาผสมกับเสียงครางระงมไปหมด จนควยผมเริ่มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง “ว้าว…ดีจังเลยพ่อ” บิวร้องออกมาอย่างดีใจพร้อมกับยื่นมือมาจับควยผมทันที ผมหันไปยิ้มให้ลูก ร่างของเธอตอนนี้เปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิด แล้วกลับไปดูเบิร์ดที่กำลังเย็ดกับแม่เขาอย่างเมามัน เบิร์ดกระแทกจนแม่ร้องลั่นห้อง กอดรัดลูกชายแน่น ทั้งคู่น้ำแตกออกมาพร้อมๆกัน ราวๆ 5 นาทีทั้งสองค่อยๆ ผ่อนคลายลง เบิร์ดดูดปากแม่แล้วจูบไซ้ลงมาที่หน้าอกดูดหัวนมที่สองข้างสลับไปมา และเลื่อนลงไปข้างล่างเรื่อยจนถึงสะดือก็ต้องร่นตัวลงไป ลำควยที่อ่อนตัวลงของเบิร์ดก็หลุดจากรูหีจูน เบิร์ดซุกหน้าลงไปที่ร่องหีของแม่เขาทันที เบิร์ดใช้ลิ้นเลียหีของแม่โดยไม่รังเกียจ น้องบีเดินไปคนทั้งสองแล้วทรุดตัวลงบนพรมข้างตัวแม่ ผมสังเกตุเห็นน้ำของผมที่ปล่อยใส่ไปในรูหีน้องบีไหลเยิ้มเต็มหว่างขา น้องบีสะกิดเอวพี่ชายแล้วบอกให้เขาขยับออกเพื่อเธอจะได้เข้าไปแทนที่ น้องบีก้มลงดูดกินน้ำที่ร่องหีแม่ที่ไหลซึมออกมาเพราะเบิร์ดยังเลียไม่หมดที เบิร์ดล้มตัวลงนอนข้างๆแม่อย่างหมดแรงพร้อมกับหันไปดูดปากกับแม่อย่างดูด ดื่ม มือก็บีบคลึงที่นมของแม่ด้วย “โอ้วว..ซี๊ด น้องบีจ๋า…แม่เสียว…บีเลียหีแม่…แม่เสียว..ซี๊ดด” น้องบีไม่ได้ดูดอย่างเดียวยังจะเอานิ้วแยงเข้าไปด้วยสองนิ้ว “พ่อขา…พ่อจะเย็ดกับหนูมั๊ยคะ” บิวกระซิบที่หูผมมือก็กำควยผมรูดไปตลอด “หนุรู้ว่าตอนนี้เบิร์ดคงเอาหนูไม่ไหวแล้วละ…แต่ตอนหนูอยากมากเลยคะพ่อ…พ่อ จะไม่เอาอีกหรือคะ” ผมได้ยินอย่างนั้นก็หันไปจูบปากบิวทันที อยากได้ยินคำนี้มาตั้งนาน ขณะที่เรากอดจูบกันก็ได้ยินเสียงจูนร้องครางว่าน้ำแตกอีกแล้วลั่นห้องเลย “โอ้ววว..ซี๊ดด…แม่น้ำแตกอีกแล้ว..อูยยย” หลังจากที่จูนน้ำแตกแล้วน้องบีกับเบิร์ดก็ล้มตัวลงนอนกอดแม่คนละข้างอย่างมี ความสุข จูนกอดจูบลูกทั้งสองอย่างดูดดื่มซึ่งผมไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน ผมกับบิวยังคงยืนเปลือยกายกอดจูบกันไม่ยอมพูดยอมจา ผมรู้สึกเหมือนเป็นการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เลย มันสดชื่น มีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่าถึงแม้จะเพิ่มผ่านการเย็ดกับลูกสาวคนเล็กมาก็ตาม ผมพาบิวมาที่โซฟาแล้วให้เธอนั่งลง ผมนั่งลงดูดสองเต้าของเธอซึ่งอวบใหญ่กว่าของน้องบีมาก เมื่อพอใจแล้วผมก็ซุกหน้าลงไปเลียหีเธอ หีเธอขนดกมาก มีน้ำเยิ้มเต็มไปหมด ทุกคนต่างก็มีความสุขไปหมดแล้วเหลือแต่เธอคนเดียว “โอ้วว..พ่อขาไม่ไหวแล้วพ่อ…เย็ดเลยคะ..ไม่ต้องเลียแล้ว..เดี๋ยวหนูก็น้ำแตก พอดี..หนูอยากน้ำแตกกับควยพ่อมากกว่า..” ผมจึงลุกขึ้นจับควยจ่อที่รูหีเธอแล้วดันเข้าไป มันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ถึงจะไม่คับแน่นเหมือนน้องบีก็ตามแต่ก็ดูดตอดดี ผมเริ่มกระเด้าเย็ดทันทีบิวเอามือมาจับที่เอวผมแล้วดึงเข้าไปหาพร้อมกับเอา ขารัดที่ต้นขาผมไว้ด้วยผมกระเด้าเยูดเธอไม่ทันถึง 5 นาทีเธอก็น้ำแตกออกมาก่อน “อ่า..อ่า..นะ..หนู..หนูน้ำแตกแล้วพ่อ..ซี๊ดด” ภายในรูหีเธอบีบรัดควยผมจนรู้สึกได้ ไม่นานบิวก็ปล่อยมือลงข้างลำตัวอย่างหมดแรง ส่วนผมนั้นยังไม่ทันเสร็จเลยกำลังมันเลยบิวชิงน้ำแตกเสียก่อนผมต้องรอให้เธอ ฟื้นเสียก่อน แต่ก็ไม่นานเธอก็ฟื้นตัวอาจจะเป็นเพราเธอยังสาวอยู่แต่พอผมจะเย็ดต่อผมก็เลย เปลี่ยนท่า ให้เธอคุกเข่าลงบนโซฟาหันก้นออกมา ผมยืนประกบบั้นท้ายเธอจับลำควยไปจ่อหีเธอซึ่งมันปลิ้นออกมาทางด้านหลังเป็น พู แล้วดันเข้าไปทีเดียวมิดลำผมยืนกระเด้าเย็ดลูกสาวอย่างเมามัน บิวเป็นผู้หญิงที่ทีก้นดังนั้นเวลาเอากันท่านี้มันเลยนิ่มดีมาก บิวโดนผมเย็ดถึงกับร้องครางดังลั่นห้องจนสามคนที่นอนอยู่ต้องหันมามองแล้ว หัวเราะกันคิกคักๆ “โอ้วว..พ่อขา…ควยพ่อแน่นหีหนูไปหมดเลย..อูยย..พ่อจ๋าเย็ดแรงๆเลยหนูชอบ…พ่อ จ๋า..พ่อเย็ดมันจังเลย..ซี๊ดดด..หนู..จะทนไม่ไหวแล้วพ่อ..” “รอพ่อด้วยบิว..พ่อก็จะออกแล้วเหมือนกัน..” ผมกระเด้าเย็ดอีก 5-6 ทีก็น้ำแตกออกมาพร้อมๆกับบิว บิวถึงกับทรุดลงบนโซฟาอย่างหมดแรงผมเองก็ทาบลงไปบนตัวเธอเช่นกัน ไม่นานควยผมก็หลุดออกจากรูหีเธอ ผมพลิกตัวลงนอนบนโซฟาข้างๆบิวเสียงหายใจหอบของเราสองดังฟืดฟาดๆๆ มาถึงตอนนี้ต่างคนก็ไม่รู้สึกอายซึ่งกันและกันแล้ว ใครอยากจะเย็ดกับใครก็เย็ดกันได้ทันทีไม่มีการอายกัน ส่วนมากเราจะเย็ดกันในห้องเดียวกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนคู่กันไป โดยมากแล้วเบิร์ดจะเย็ดกับจูนมากที่สุด ขนาดเย็ดกับบิวก็ยังไปเอาน้ำออกกับจูนไม่ยอมเอาออกกับบิว ส่วนผมเลยต้องรับภาระไปสองคนน้องบีกับบิว มันเป็นการเล่นเซ็กส์หมู่ภายในครอบครัวเดียวกันที่มหัศจรรย์ที่สุด

sex in family

น้องบียืนดู ทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น “น้องบี..ทำไมไม่นั่งดูละจ๊ะ” ผมถามเธอ “หนูหมุนเสาอากาศมัน…ดูว่ามันชัดหรือยัง…เอ่อ..แล้วแม่อยู่ไหนคะพ่อ” “แม่ไปนอนแล้วจ๊ะ” “ดูหนังกับหนูไหมคะพ่อ” “สนุกไหม..เดี๋ยวพ่อดูซักพักก็ได้” น้องบีสวมเสื้อเชิ้ตสีม่วงเวลาเธอแขย่งจับเสาอากาศทีวีทำให้ชายเสื้อยกขึ้น สูง มองเห็นกางเกงในสีขาวรัดก้นเธออยู่ เพราะเธอไม่ได้สวมกางเกงขาสั้น ผมนึกว่าเธอสวมกางเกงขาสั้นเสียอีก ด้วยร่างกายวัยแรกสาวของเธอดูน่ารักไปเสียหมด ผมเดินเข้าไปในห้องนั่งลงบนโซฟาแล้วเอนหลัง น้องบีเข้ามานั่งข้างๆผมเบียดตัวเอาหัวมาพาดที่ไหล่ผมดูหนัง นั่งดูไปสักพักก็เคลิ้มหลับไป “อืม ดีจัง” เสียงลูกสาวทำให้ผมตื่นขึ้นมา น้องบีจับมือผมซุกเข้าไปในเสื้อของเธอแล้วลูบไล้หน้าอกของเธอซึ่งผมไม่รู้ ว่าเธอถอดเสื้อชั้นในออกไปตอนไหน แต่ตอนนี้ที่มือผมสัมผัสนั้นมันนมเด็กสาว ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย มือผมค่อยๆได้สัมผัสกับเต้านมสาวๆ ด้วยความที่ไม่ได้เย็ดกับเมียมาสอง-สามวันทำให้ควยผมแข็งขึ้นมาทันที จมูกของผมค่อยๆซุกไซ้ไปที่ซอกคอลูกสาว ที่กกหู เธอครางออกมาเบาๆ หลับตาพริ้ม “อืมม..ดีจังเลยคะพ่อขา.” แล้วผมก็รู้สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวผมมีอารมณ์ ก็หนังในทีวีนะซีมันกลายเป็นหนังอาร์เสียนี่ ผมได้แต่จูบไซ้ที่คอ แก้ม ซอกหู สลับไปมา มือก็ลูบคลึงบนเนินหีลูกสาวโดยมีมือเธอประกบอยู่ด้านบน แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือของลูกสาวมาจับหมับเข้าที่ลำควยของผมเข้า “ฮืออ..ของพ่อแข็งจังเลย” เสียงลูกสาวผมร้องออกมา มือไม้ที่จับควยผมสั่นเล็กน้อยควยผมอัดแน่นจนอึดอัดพอผมขยับตัว น้องบีเงยหน้ามามองผมแล้วถามผมว่า “หนูทำให้พ่อเจ็บหรือคะ” ใบหน้าเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบจนรู้สึกได้ถึงลมอุ่นจากลมหายใจของเธอมาปะทะ กับต้นคอผมแรงเป็นระยะๆ “เปล่าหรอกลูก…พ่อเพียงขยับให้มันสบายตัวเท่านั้น” ผมพยามพูดให้เสียงปกติมากที่สุด ไม่ให้แสดงออกถึงความอยากให้ลูกรู้ ลูกสาวผมค่อยๆเลื่อนตัวมานั่งลงบนตักผมแล้วส่ายก้นอัดกับลำควยผมไปมา “ทำอะไรนะน้องบี” ผมร้องถามเสียงเบาหวิวด้วยความเสียว “หนูนั่งแบบนี้แล้วสบายดี” เธอพูดออกมาหน้าตาเฉยแล้วทำต่อไป มือผมเลื้อยไปที่หน้าท้องลูกสาวอย่างอัตโนมัติ ลูบเบาๆขณะที่เธอส่ายก้นบนควยผม เธอหลับตาส่ายก้น ผมยังไม่อยากล้วงมือไปแยงหีลูกสาวกลัวเธอจะหาว่าผมจะทำร้ายเธอ ปล่อยให้เธอส่ายก้นกับควยผมต่อไป จนเธอตัวสั่นกันฟันดังกรอดเอามือจับไหล่บนแน่น พอเธอหยุดเกร็งเธอก็เอาปากมาจุ๊บที่ปากผมทีหนึ่งแล้ว ลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องเธอไป ผมนอนพิงโซฟานิ่งงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะลุกขึ้นไปปิดทีวี ผมเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วฉี่ ฉี่เสร็จควยก็ยังแข็งอยู่ผมเลย จัดการชักว่าวซะหนึ่งทีก่อนที่จะเข้าห้องนอน จูนเมียผมตื่นขึ้นเมื่อผมคลานขึ้นไปบนเตียง “ไปทำอะไรมาตั้งนาน” เธองัวเงียขึ้นมาถาม “ดูหนังกับน้องบีมา” ผมบอกกับเธอ “อืมม” ด้วยความที่ยังไม่หายอยาก ผมค่อยเข้าไปกอดจูน ลูบไล้ตามตัว จูบที่แก้ม คอ กกหู สะโพกเธอเริ่มเคลื่อนไหวขณะที่ตายังหลับอยู่ แต่สมองผมกลับผุดคิดขึ้นมาว่าสมควรจะบอกเธอว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น “จูน..ตอนที่พี่ดูหนังอยู่กับน้องบี น้องบีขึ้นมานั่งบนตักพี่…แล้ว..ควยของพี่ก็แข็งขึ้นมา” จูนหยุดชะงักแล้วลืมตาขึ้นมา “โอ..น้องบีโตพอที่ทำให้คุณแข็งแล้วรึ” เธอพูดออกมา “ยังมีอีกนะ” “นี่คุณทำอะไรอีกหรือ” เธอถามออกมาทันที “เปล่า..แต่น้องบีนะซี..นั่งบนตักแล้วแกก็ส่ายก้นสีกับควยพี่” “โอ..ไม่น่าเชื่อ” จูนนอนนิ่งสักพักแล้วเธอก็พูดในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน “จูนจะบอกความลับกับคุณ” เธอกระซิบที่หูผม “เมื่อตอนจูนอายุเท่าน้องบี..จูนเคยคิดแบบนั้นกับพ่อด้วยละ..และในคืนนั้น ที่จูนกับพ่อได้เต้นรำด้วยกัน..” “จูน..พูดเล่นหรือเปล่า” “จริงๆ..” เธอยืนยัน “จูนเอาตัวเบียดอัดกับลำตัวของพ่อหลังจากนั้นจูนก็เข้าห้องไปช่วยตัว เองอย่างบ้าคลั่ง” “โอ…พระเจ้า..” ผมครางออกมา ใจเต้นตึกๆๆ ในเวลานั้นผมต้องการรู้ทั้งหมดในความคิดของเธอ อยากรูว่าเธอคิดไปไกล ขนาดมอบกายให้พ่อไปเลยหรือเปล่า แต่ก็ไม่กล้าถาม ในใจก็นึกถึงลูกสาวขึ้นมา เธอไปช่วยเหลือตัวเองแล้วคิดถึงผมอยู่ในห้องหรือเปล่าหนอ จูนพลิกตัวหันมาทางผมทำให้จิตใจกลับมาที่เดิมอีกครั้ง “แล้วจูนคิดว่าที่เกิดขึ้นระหว่างพี่กับน้องบีมันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าละ ” จูนยิ้มๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ซิ” เธอพูดยิ้มๆ อาย ๆ ต่อไปว่า “ต้องให้เห็นก่อน” แล้วจูนก็พลิกตัวขึ้นมาบนตัวผมทันทีเอามือมาจับควยผมแล้วยยัดเข้าปากเธอ ผมเสียวหัวควยวาบเมื่อเธอดูด เธอดูดแล้วเลียวนรอบๆหัวควย และดูดเข้าไปในปากอีกครั้ง จูนดูดควยเก่งมากผมไม่เคยผิดหวัง จนผมน้ำเกือบแตกคาปากเธอ เธอจึงเลื่อนตัวขึ้นมายกตัวขึ้นจับควยผมไปจ่อตรงหีเธอแล้วนั่งลงมา เธอขย่มเย็ดกับผมจนเธอและผมน้ำแตกไปพร้อมๆกัน หลังจากหายเหนื่อยแล้ว เธอก็เล่าให้ฟังว่า ต่อมาหลังจากที่เธอคิดจะมี sex กับพ่อเธอเองแล้ว เธอก็พยามยามยั่วยวนพ่อเมื่อลับตาคน จนมาคืนวันหนึ่งพ่อกลับจากงานเลี้ยงในบ้านไม่มีใครอยู่ พ่อเมามานิดหน่อยเธอ จัดการปรนนิบัติพ่อทุกอย่าง เปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดตัวให้ พอพ่อเผลอเธอก็เอามือไปรูดควยพ่อจนควยพ่อแข็งด้วยความเมาบวกกับอารมณ์ดิบ แล้วในคืนนั้นนั่นเองเธอกับพ่อก็ได้เย็ดกัน มันเป็นเรื่องที่แปลกที่สุดในชีวิตที่ผมได้รู้มา ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าที่ไม่ต้องทำอะไรเพราะเป็นวันพักผ่อนของผม จูนเมียผม , เบิร์ดลูกชาย และน้องบิวลูกสาวคนโต ออกไปซื้อของที่ห้างฯ ทิ้งให้ผมอยู่กับน้องบีกันตามลำพัง ผมอาบน้ำ , โกนหนวด และทานอาหารเช้าที่จูนจัดไว้ให้เสร็จแล้วก็กลับขึ้นไปนอนอีกและลืมเรื่องที่ เกิดขึ้นเมื่อคืนเสียสนิท “คุณพ่อขา…คุณพ่อขา..” ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นน้องบียืนยิ้มอยู่ “เอ้า…หวัดดีสาวน้อย..” ผมงัวเงียๆทักลูกสาว “พ่อขา..ขอหนูอาบน้ำหน่อยนะ” “ได้ซิลูก…” แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่าทำไมเธอไม่ไปอาบน้ำห้องอื่น “ขอบคุณคะพ่อ..” ดูเธอดีใจมาก น้องบีถือผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำไปผมหันไปมองที่ห้องน้ำประตูห้องน้ำ น้องบีไม่ได้ปิดสนิทมันอ้าสามารถมองเห็นน้องบีค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ต , ยกทรง และกางเกงในตัวน้อย ผมตะลึงไปชั่วขณะและผมก็ตัดสินใจหันกลับมานอนหลับตา แต่ก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เมื่อเสียงน้ำในห้องน้ำหยุดไหลผมก็ลืมตาขึ้นมา เห็นน้องบียืนอยู่มีผ้าเช็ดตัวสีขาวห่อหุ้มตัวอยู่ ผมของเธอเปียกยาวประบ่า เธอใช้หวีแปรงผมเธอขณะที่เดินมาหาผม “พ่อขา…หนูจะคุยกับพ่อตอนนี้ได้ไหมคะ” “ได้ซิ..มีอะไรหรือลูก” เธอกลับไม่พูด แต่คลานขึ้นมาบนเตียงที่ผม เธอทำเหมือนเมื่อคืน เธอเอาตัวมาแนบกับตัวผม เอาขาข้างหนึ่งยกขึ้นมาก่ายที่หน้าขาผม หัวของเธอวางพาดลงบนไหล่ผม แล้วเธอก็เอาหน้าหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มให้ผม “ไม่มีอะไรหรอกคะพ่อ” ผมเอาแขนโอบกอดเธอด้วยความรัก “เอ่อ..นี่ล่ะคะสิ่งที่หนูต้องการ” ผมยิ้มให้เธอแล้วดึงเธอเข้ามากอดแน่นขึ้น รู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด ร่างกายของเธอรู้สึกอุ่นดี “พ่อขา” เธอเรียกผมแล้วเงียบไป “อะไรหรือลูก” “พ่อขาจูบที่ซอกคอหนูอีกซิคะเหมือนที่พ่อจูบเมื่อคืนไง” ผมนิ่งไปสักพักแล้วบอกกับเธอว่า “ตกลงจ๊ะ” ผมซุกจมูกเข้าไปในซอกคอใต้ใบหูของเธอเบาๆ แล้วลากต่ำลงไปอีก จูบลงไปที่ต้นแขน หลัง ตัวเธอหอมไปเสียหมดเพราะเพิ่งอาบน้ำมา ผมหยุดจูบที่ซอกคอเธอชั่วขณะ เธอก็ร้องบอกผมทันที “จูบอีกซิพ่อ” เธอบอกเสียงสั่นเลยครับ ”ได้ซิลูกรัก” ผมเริ่มจูเธออีกครั้งแล้วก็มันเป็นสถานที่ที่เอื้ออำนวยมาก บนเตียงที่ลูกสาวผมมีเพียงผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวห่อหุ้มกายอยู่ ผมจูที่ต้นคอเธอก็แอ่นตัวเข้ามาหาผมทันที “อูยย..ดีจังเลยพ่อผมจูบอย่างอ่อนโยน น้องบีครางออกมาเบาๆ ตลอดเวลาที่ผมจูบ และผมก็ตัวเกร็ง…ควยผมมันเริ้มแข็งขึ้นมาแล้ว กลัวก็กลัวอยากก็อยาก กอดจูบกับไปมาควยผมก็แข็งแล้วอัดอยู่ที่สะโพกเธอ ผ้าเช็ดตัวเธอค่อยๆเลื่อนจากายทีละน้อย ทีละน้อย “อุ๊ย..ของพ่อแข็งอีกแล้ว” เธอร้องบอกออกมาเหมือนกับดีใจ และแล้วเธอสะโพกที่ปราศจากผ้าเช็ดตัวก็ปะทะกับลำควยผมเข้าอย่างจังเมื่อเธอ ดึงผ้าห่มออกจาตัวผม เธอหันมามองผมแล้วยิ้ม ผมกำลังจะก้มลงไปจูบที่คอเธออีกแต่เธอกลับยื่นปากมาจูบปากผม ผมแทนทันที ผมบดปากจูบกับเธออย่างเร่าร้อน เธอสอดลิ้นเข้ามาในปากพันลิ้นกับผมเสียง ฮือ..ๆ ๆ เธอเอาแขนมาคล้องคอผมแล้วรัดลงไปจูบสักพักเธอก็คลายออก ผมจึงบอกกับเธอว่า “น้องบี…นี่เรากำลังทำอะไรกันนี่” เธอไม่พูดอะไรแต่ดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้ง ปากต่อปากประกบกันแน่น “เดี๋ยวก่อนลูก…มันไม่ดีนะที่เราจะทำกันแบบนี้….” ผมพูดไม่ทันจบน้องบีก็เอาปากของเธอมาปิดปากผมเสียก่อน “พ่ออย่าพูดเลย…นะ” เธอกระซิบบอกผม “เพื่อหนูนะพ่อ..นะ” แล้วเธอก็จูบกับผมอีกครั้งเหมือนไม่อยากให้ผมได้พูดอะไรเลย ผมจุบกับลูกสาวอย่างลึกซึ้ง ดูดดื่ม ลืมทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่อารมณ์ทางเพศ น้องบีจับมือผมไปที่หน้าอกของเธอผมลูบคลึงเบาๆทันที่ที่ได้สัมผัส ถึงตอนนี้ผ้าเช็ดตัวได้หลุดจากร่างกายของลูกสาวไปเสียแล้ว มือผมกุมอยู่ที่เต้านมของน้องบีจนมิดพอดีมือ หัวนมเธอแข็งจนเป็นไตสู้มือผม พอผมเอานิ้วเขี่ยเล่นที่หัวนมน้องบีร้องครางซี๊ดด..ซ๊าด..ทันที น้องบีเอามือมาจับที่ใบหน้าผมแล้วดึงไปจูบอีก ผมกอดเธอด้วยมืออีกข้างหนึ่งขณะที่อีกมือหนึ่งยังคงอยู่ที่นมเธอ แต่ย้ายไปอีกข้างหนึ่ง ก่อนที่จะเลื้อยต่ำลงไป ผ่านหน้าท้อง ขาวเนียนแบนราบของเธอ เพื่อไปที่เนินสวาทของเธอ แล้วผมก็ได้พบกับเนินอวบอูม มีขนบางๆ แต่เปียกเยิ้มไปด้วยของเหลว ปลายนิ้วของผมได้กรีดไปตามรอยแยกของสองกลีบ เธอถึงกับอายใจเฮือก แล้วร้องครางออกมาด้วยความเสียว เด้งเอวส่ายไปมา “โอ้วว..ซี๊ดด..พ่อขา..เสียวจังเลย…” “น้องบีชอบแบบนี้หรือลูก” ผมร้องถามด้วยเสียงอันสั่นพร่า “โอ้วว..คะพ่อ..ซี๊ดดด” ผมเอานิ้วแยงเข้าไปในรูหีเธอ เธอถึงกับเด้งเอวเร่าๆ ผมแทงเข้า ดึงออก ๆ ๆ น้องบีร้องครางลั่นด้วยความเสียวตลอดเวลา เด้งหน้าอก ส่ายเอว มั่วไปหมด ไม่นานเธอก็ร้องลั่นอ้าปากค้างตัวสั่นระริกกอดผมแน่น จิกเล็บลงบนหลังผมจนเจ็บ เธอน้ำแตกไปกับนิ้วผมแล้ว รูหีเธอบีบตอดรรัดนิ้วผมเป็นระยะ นานพอสมควรกว่าเธอจะลืมตาขึ้นมา “ดีจังเลยคะพ่อขา…หนูมีความสุขมากที่สุดเลย” เธอกระซิบบอกผมด้วยเสียงสั่น หอบ ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่นิ่ง “ขอบคุณคะพ่อ…ที่ทำเพื่อหนู” “พ่อยินดีทำเพื่อลูกตลอดเวลา” ผมบอกไปอย่างไม่รู้ตัว น้องบีนอนยิ้มอย่างมีความสุข แล้วเธอก็ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าตรงหน้าผมเอามือมาจับที่ลำควยผม “โอ..ดีจัง..” เธอร้องออกมาขณะที่ควยผมอยู่ในมือเธอแล้ว ผมมองการกระของเธออย่างตื่นเต้น เธอค่อยก้มลงไปจูบลงบนหัวควยผม แล้วผมก็รูสึกเสียววาบเมื่อเธอเริ่มดูดควยผมด้วยปากเล็กๆ นุ่มๆ ของเธอ เธอพยามยามเอาควยผมเข้าไปในปากเธอให้ได้มากเท่าที่เธอจะทำได้ แต่แล้วก็มีเสียงดังมาจากชั้นล่าง “กลับมาแล้วจ้า…ตื่นกันหรือยังจ๊ะ…” เมื่อจูนเข้ามาก็เห็นผมนั่งอยูบนเตียงโดยมีน้องบีนุ่งผ้าเช็ดดตัวนั่งอยู่ ข้างๆ “ทำอะไรกันหรือพ่อลูก” เธอถามอย่างสงสัย “เรามีเรื่องคุยกันนิดหน่อยจ๊ะ” “ใช่คะแม่..เราแค่คุยกัน” น้องบีร้องบอกออกมาอย่างร้อนตัว “จูนยืนขมวดคิ้วแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรงั้นน้องบีกลับห้องของหนูได้แล้ว แม่มีเรื่องจะคุยกับพ่อเขาหน่อย” “คะแม่..” น้องบีรีบลุกขึ้นแล้วรีบกลับห้องไป จูนหันมาทางผม “เอาละ…บอกมามันเกิดอะไรขึ้น” เธอคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่รู้ว่ามันขนาดไหนเธอถึงได้ถามขึ้นมา ผมนั่งนิ่งไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดีจนเธอตัดพ้อออกมา “ที่รัก..ทำไมคุณถึงไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง…ทำไมคุณถึงไม่กล้า” “ตกลงจูน…คุณต้องการรู้อะไรว่ามา” “น้องบีเกือบเปลือยกาย มันเกิดอะไรขึ้น” “เธอเข้ามาในห้องนี้แล้วคลานมาหาพี่ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ด้วยชุดที่จูนเห็นนั่นแหละ เธอเข้ามากอด ก่าย แล้วให้พี่จูบซอกคอเธอเหมือนเมื่อคืนที่พี่เล่าให้จูนฟังไง แล้วของพี่ก็แข็งขึ้นมาอัดเข้ากับลูกเหมือนเมื่อคืนเลย” จูนจับกางเกง ในผมรูดออกไปแล้วหยิบขึ้นมาดูเหมือนหาหลักฐาน “ทั้งหมดมีเท่านี้หรือ” “เปล่าจ๊ะ” “มีอะไรอีกละคะ” ผมนิ่งไปชั่วครู่ สังเกตเห็นนัยตาของจูนเป็นประกาย “พี่..พี่..ใช้นิ้วช่วย..กับน้องบีจนเธอเสร็จ…ก็เท่านั้นแหละ” “แล้วน้องบี..ได้จับของพี่หรือเปล่าคะ” จูนพูดออกมา “เอ่อ…จับจ๊ะ…เธออยากลองจับดู” “พี่แน่ใจหรือว่าเธอถึงจุดสุดยอด” “พี่แน่ใจ..” ผมสังเกตว่าจูนจะมีความกระตือรือร้นมาก “แล้วของน้องบีแฉะมากไหม” จูนกระซิบที่หูผม “แฉะมากเลยละ…น้ำของเธอออกมามากจนเปียกมือพี่ไปหมดเลย” จูนเอื้อมมือมาจับมือผมเหมือนไม่เชื่อ เธอยกมือผมขึ้นดูน้ำของน้องบีที่ยังพอติดที่นิ้วผมอยู่บ้าง แล้วกลืนน้ำลาย “โอพระเจ้า..” จูนครางออกมาแล้ววางมือผมลง “จูน..เป็นอะไรหรือเปล่า” ดูเธอหน้าซีดตกใจกับสิ่งที่เห็น “จูน..คลื่นไส้” จูนรีบลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำล้างมือล้างปาก ผมใจไม่ดีเลยรู้สึกกังวลเกี่ยวกับจูนที่รับเรื่องผมกับลูกสาวไม่ได้ จูนออกจากห้องน้ำตาเธอแดงเหมือนร้องไห้มา จูนจ้องหน้าผมเหมือกับจะพูดบางอย่างกับผม “อะไรหรือที่รัก” ผมดึงเธอเข้ามากอดรู้สึกว่าที่อกผมจะอุ่นๆ เพราะน้ำตาเธอ “พี่คะ..จูน…ยังทำใจไม่ได้…แต่..” “อะไรหรือบอกพี่ซิ” เธอหยุดร้องไห้ชั่วครู่ “จูนไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไรมันสับสน…จะเกลียพี่…จะเกลียดลูกหรือเกลียดทั้ง คู่” แล้วเธอก็เริ่มสะอื้นอีกครั้ง “แต่จูนรักพี่…รักพี่มาก..และ…” เธอหยุดแล้วขยับตัวออกจากอ้อมกอดผมแต่ผมดึงเธอกอดไว้แน่น “จูนอาจจะเห็นแก่ตัว…จูนอยากขังพี่ไว้กับจูนคนเดียวแล้วไล่น้องบีไปอยู่ที่ อื่น..แต่จูนทำไม่ได้…อีกใจหนึ่งจูนก็รู้สึกตื่นเต้นที่น้องบีน้ำแตกกับนิ้ว พี่..ลิ้นพี่..หรือแม้แต่…โอพระเจ้า..มันทำให้จูน..จูน..ตื่นเต้น…จูนผิดไหม พี่” จูนสะอื้นมากขึ้นผมพยายามนึกคำพูดที่จะพูดกับเธอให้ดีที่สุด ตลอดเวลาชีวิตแต่งงานของเราเรื่อง sex ไม่เคยขาด “ไม่ผิดหรอกที่รัก…มันเป็นความตื่นเต้นและความคิดที่ฟุ้งซ่านของพี่และน้อง บีเท่านั้น” “มันไม่ใช่ความคิดฟุ้งซานหรอกพี่…ตลอดเวลา…พี่มีเซ็กส์กับลูก..จิตใจของจู นก็เข้าไปร่วมด้วยโดยสิ่งที่ปลุกเร้าในอดีต” “โอ๊ะ..จูน..พี่ยังไม่ได้เซ็กส์กับน้องบี..เราแค่ทำกันภายนอกเท่านั้น แล้วน้องบีก็อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น” จูนค่อยๆดีขึ้นเธอเอามือป้ายน้ำตาแล้วพูดว่า “แล้วถ้าลูกอายุมากกว่านี้พี่จะทำเธอมากกว่านี้ไหม” “ไม่จ๊ะ..แต่พี่ไม่มั่นใจในความต้องการของลูกเรา..” “จูนเข้าใจ..พี่..แต่เราต้องคุยกันในเรื่องนี้…คุยกับน้องบีด้วย…พี่สัญญา กับจูนนะว่าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้” “จ๊ะพี่สัญญา” หลังจากนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนอยู่กันอย่างมีมีความสุข ลูกๆก็ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่มีบางสิ่งที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อน ดังนั้นมีอยู่วันหนึ่งผมก็ถามลูกว่า “หนูมีเพื่อนผู้ชายที่สนิทเป็นพิเศษไหม” พวกเธอคงสงสัยที่ผมถามมองหน้ากันไปมา “คะมี..” น้องบิวตอบ “ครับส่วนผมมีทั้งหญิงและชายเลย” เบิร็ดตอบ “บางทีพ่อคิดมากไปนะ” ผมบอกไปเบาๆ “แต่พ่อเคยเห็นรุ่นพี่ที่เที่ยวกับน้องบิวบ่อยๆชื่ออะไรละ” ชื่อโจ..คะพ่อ” “แล้วหนูคิดอย่างไรกับโจ” “..เอ่อ..โจเป็นคนน่ารักดีคะ” “แล้วหนูมีอะไรกับโจหรืยัง” “เอ่อ..คะ..มีแล้ว” “แล้วเบิร์ดละ…เคยเอากับผู้หญิงหรือยัง..กับใคร” “ก็..บิวไงพ่อ” เบิร์ดตอบออกมาแล้วยิ้มให้กับพี่สาวพร้อมกับเอามือไปจับมือเธอไว้แสดงการ เป็นเจ้าของ “หา..เบิร์ด..นี่เธอเอากับพี่สาวเธอเหรอ..” “ครับ..” “นานหรือยังเบิร์ด.” “ราวๆ..6-7 เดือนแล้วครับ” แล้วจูนก็ก้าวเข้ามา “โอ..นี่ลูกมีอะไรกันแล้วหรือจ๊ะ..” จูนพูดออกมาเสียงดัง ลูกๆนั่งกันเงียบ “เอาอย่างนี้จ๊ะต่อไปนี้เลิกทำกันไหม..พ่อขอ..” “แต่พ่อคะ…หนูกับโจตอนนี้ก็เลิกกันไปแล้วนะ” น้องบิวร้องบอกออกมาแล้ววิ่งเข้าห้องเธอไป จูนเดินตามน้องบิวไป น้องบีกับเบิร์ดนั่งเงียบ “พ่อเสียใจ” ผมบอกกับพวกเขา “เราเข้าใจคะพ่อ” น้องบีบอก “พี่บิวเธอผิดหวังจากพี่โจ…แล้วเกิดติดใจพี่เบิร์ดเข้าพอพ่อห้ามก็เลยเสียใจ ” “แล้วหนูรู้ได้อย่างไรลูก” “ก็หนูกับพี่บิวและพี่เบิร์ดสนุกด้วยกัน..แต่พี่เบิร็ดไม่ยอมเอาหนูซักที ได้ แต่เลียให้แล้วไปเอากับพี่บิว” ผมได้ฟังแล้วตลึงไปเลย มิน่าละน้องบิวถึงกล้าทำกับผม “พี่เบิร์ดเราไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า” เบิร์ดหัวเราะหึ..หึ..แล้วยิ้มให้น้องสาว น้องบีหันมาหาผม “พ่อขา..ไปสนุกด้วยกันนะ” เบิร์ดเดินเข้ามาหาน้องสาวแล้วบอกว่า “น้องบี..ไปเถอะอย่ากวนพ่อเลย” “ไม่..หนูอยากสนุกกับพ่อด้วย..พี่ไม่เห็นจะเอาหนูเลย” “จะไปไหนกันลูก” “ผมจะพาน้องบีไปคุยอะไรหน่อย” ผมไม่รู้ว่าครอบครัวของผมทำไมถึงเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น คงเป็นเพราะผมกับจูนไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกก็ได้ ผมเดินออกข้างนอกบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์สักพักก็เดินเข้าบ้านไปเปิดตู้เย็น กินน้ำก็ไดยินเสียงพึมพำอยู่ใกล้ๆ มันมาจาห้องเบิร์ดลูกชายผม “พี่เบิร์ดเลียให้หนูหน่อยซิ..พี่เบิร์ดไม่ได้เลียให้หนูมา 1 อาทิตย์แล้วนะ” เสียงน้องบีอ้อนพี่ชาย ผมถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอที่ได้ยินคำพูดของลูก “เร็วๆซิพี่..หนูอยากจะแย่ แล้ว” “ตกลง..แต่บีต้องเงียบๆนะ” “คะพี่” น้องบีพูดแล้วได้ยินเธอหัวเราะคิกๆ ผมยืนฟังเพลินๆก็มีมือมาจับที่ไหล่ ผมสะดุ้งโหยง “อะไรหรือพี่” จูนร้องถามผม “เปล่า ไม่มีอะไร” ผมรีบบอกแต่ดูเธอยังสงสัยอยู่ผมจึงตัดสินใจบอกกับเธอ “น้องบีอยู่กับเบิร์ดในห้อง” เงียบเสียงเพื่อฟังเสียงในห้อง แต่ก็ไม่ได้ยิน แต่สักพักก็ได้ยินเสียงน้องบีครางออกมาอย่างมีความสุข จูนมองหน้าผมอย่างตื่นเต้น “โอ้ว..เสียวจังเลยพี่ขา..” เสียงน้องบีครางออกมา “อ่า..อ่า..อูยย..ซี๊ดด..พี่เลียหีหนูเสียวจังเลย” จูนดึงมือผมไปที่ห้องนอนด้วยหน้าตาตื่น แก้มแดง “เราต้องหยุดพวกเขา” เธอร้องออกมา “ใจเย็นๆ ที่รัก” ผมพยายามให้เธอใจเย็นๆ จูนจะเดินไปที่ห้องเบิร์ดแต่ผมดึงเอาไว้ “ปล่อยซิพี่…เราต้องหยุดพวกเขา..อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” “ก็ได้..” ผมจึงเดินไปกับเธอที่ห้องเบิร์ด “เบิร็ด..บี..ออกมาคุยกับพ่อซิ” เงียบไม่มีเสียงตอบผมกำลังจะเคาะประตูก็มีเสียงตอบออกมา “ได้ครับพ่อเดี๋ยวออกไป” ผมหันมาทางจูน หน้าตาเธอยังเครียดอยู่ “เราจะทำอย่างไรกับพวกเขาดี” “เราอย่าโวยวาย..ต้องพูดดีๆกับลูก..ฟังเขาพูดก่อน” “พี่รู้เรื่องนี้มาก่อนหรือ….นานหรือยัง” เธอถามทันที “เปล่า…พี่ไม่ได้รู้มาก่อน…แต่พี่สงสัยที่น้องบีกล้าทำ..ทำ..กับพี่” จูนค่อยสงบลง สักพักเบิร์ดกับน้องบีก็ออกมาแต่ที่แปลกกว่านั้นก็คือน้องบิวตามออกมาด้วย ผมกับจูนจึงพามานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เบิร์ดดูกลัวๆ แต่น้องบีกลับทำท่าโกรธ “บิวทำไมหนูไม่อยู่ในห้องหนูละ” จูนถามทันที “พ่อกับแม่ต้องคุยกับลูก” น้องบิวก็พูดออกมาทันที “พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหนูกินยาคุมไม่ท้องหรอก ส่วนน้องบีเบิร์ดก็ทำเพียงภายนอก เราทั้งหมดรู้จักการป้องกัน พ่อกับแม่ไม่ต้องกลัวว่าหนูกับน้องจะท้องหรอก” จูนกำลังจะอ้าปากพูดแต่น้องบิวก็ชิงพูดก่อน “นะแม่นะ..อย่าห้ามพวกเราเลย พวกหนูมีความสุขกับจินตนาการแบบนี้มานานพอสมหวังก็อย่าห้ามเลย” จูนนั่งเงียบไปนาน กว่าจะเอ่ยออกมา “ก็ได้..แต่เรื่องนี้มันเกิดมาได้อย่างไร..บอกแม่ซิลูก” “หลังจากที่หนูกับโจได้กันแรกก็มีความสุขดี แต่ภายหลังหนูมีความรู้สึกแปลกๆ คือไม่ค่อยจะมีความสุขกับโจ แต่กลับอยากมีอะไรกับ เบิร์ด ก็เลยทำให้ต้องเลิกกับโจไป วันที่หนูกับเบิร์ดวันนั้นหนูชวนเบิร์ดไปเที่ยวกันเราดื่มกันเล็กน้อยและหนู ก็พยามยามชักชวนน้องมีเพศสัมพันธ์กันด้วยความที่ดื่มมาทำให้อารมณ์เราสอง เดือดพล่าน ภายหลังหนูจึงรู้ว่าเบิร์ดก็ชอบหนูเหมือนกัน เบิร์ดชอบคนที่มีอายุมากกว่า หลังจากนั้นหนูกับเบิร์ดก็แอบเอากันมาตลอดจนน้องบีแอบเห็นเข้า น้องบีเลยจากมีความสุขด้วยคน แต่เบิร์ดไม่ยอมเอาน้องบี เบิร์ดบอกว่าไม่มีอารมณ์เพราะน้องบียังเด็กเกิน เบิร์ดชอบแก่ๆ เบิร์ดเลยขอแค่เลียหีให้น้องบีจนน้องบีเสร็จ หลังจากนั้นน้องบีเคยบอกหนูว่าแกชอบคนมีอายุเหมือน…เหมือนพ่อ..นี่แหละ” ทุกคนนั่งนิ่ง นิ่งเงียบโดยเฉพาะจูนถึงกับอึ้งที่รับรู้ความจริง ผมเริ่มพูดอีกครั้ง “เรื่องนี้อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดนะ…และพ่อขอร้องหยุดได้ไหม..อย่ามีเซ็กส์กัน อีก..สัญญากับพ่อได้ไหม..” “ทำไมละพ่อ” เบิร์ดถาม “พ่อกับแม่ยังทำใจไม่ได้ในเรื่องนี้..สัญญากับได้ไหม” ผมพยามยามถามทีละคน “เบิร์ด” “ครับ..ผมสัญญา” เบิร์ดพูด “บิว” “คะ..หนูสัญญา” บิวสัญญาออกมาทั้งๆที่ไม่พอใจนัก “แล้วบีล่ะ” เงียบน้องบีไม่พูด “น้องบี” “ก็ได้..หนูสัญญา” “ตกลงตามนี้นะ…กลับไปห้องใครห้องมันได้แล้ว…พ่อมีเรื่องคุยกับแม่เขา” บีกับเบิร์ดเดินห้องของตัวเองแต่บิวยังไม่ยอมไป “พ่อ…พ่ออายพวกหนูหรือคะ” เธอถามผมเบาๆ “เปล่านี่ลูก..พ่อไม่ได้อายพวกหนู..กลับห้องได้แล้ว..พ่อจะได้คุยกับแม่” บิวพยักหน้าแล้วเดินไป “พี่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อนไหม” “ก็เคยบ้าง..พี่กับน้องมีอะไรกัน…แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา” ผมดึงจูนเข้ามากอดเพื่อเธอจะได้สบายใจบ้าง “จูนไม่รู้ว่าจูนจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีพี่…จูนรักพี่มากคะ” เธอกอดผมแน่น “เราน่าจะมีเวลาให้กับลูกๆมากกว่านี้นะจูน…ลูกจะได้ไม่เหงา” “ก็ดีคะพี่…เราหาวันหยุดไปเที่ยวพักผ่อนกัน” “แล้วจะไปที่ไหนกันดีล่ะ” “เราไปเที่ยวให้ไกลๆไปเลย…ไปเกาะก็ได้นะอากาศบริสุทธิ์ดี..เราไปซัก 6-7 วัน “ “ก็ดีลูกๆจะได้สบายใจ..” ผมกับจูนจึงรีบเคลียงานเพื่อจะได้ลางานเพื่อพาลูกๆไปพักผ่อน ตลอดเวลาก็คิดถึงความรู้สึกของน้องบีไม่ได้ และผมก็นึกถึงจูนที่เธอบอกเกี่ยวกับพ่อของเธอ เธอน่าจะรับได้ถ้าผมจะมีอะไรกับลูกบ้าง ผมพยามพูดชักชวนเธอแรกๆเธอก็ทำท่าจะโกรธผมพอผ่านไป 2-3 วันดูเธอจะอ่อนลง แต่ก็ยังกลัวปัญหาต่างที่จะเกิดภายหลังอยู่ พอผมพูดถึงเรื่องน้องบีควยผมก็จะแข็งขึ้นมาทันที พอจูนได้สังเกตเห็นดูเธอจะคล้อยตามผมเธอจึงแหย่ผมว่า “ก็ดีเหมือนกันนะ…น้องบีเหมือนยาชูกำลังเลยพ่อพูดถึงก็แข็งทีนทีเลย” ผมยิ้มให้จูนแบบอายๆ แล้วแหย่กับเธอว่า “แล้วจูนไม่อยากลองกับเบิร์ดบ้างเหรอ” จูนถึงกับหน้าแดงก่ำอายม้วนเอาหน้ามาซบอกผมทันที “ไม่รู้ซิ..แต่ตอนนี้เราไปที่ห้องกันดีกว่า” เธอบอกผมเบาๆ “จูนอยากแล้วละ…พี่เย็ดจูนให้หนักเลยวันนี้…เอาให้จูนน้ำแตกจนลืมทุกสิ่ง ทุกอย่างไปเลย” “พี่ยังคุยไม่จบเลย” “เอาไว้ทีหลังเถอะ…เย็ดจูนก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกัน” จูนดึงมือผมเดินเข้าไปในห้อง พอถึงห้องจูนรีบถอดเสื้อผ้าออกทันที ผมรีบเอาไปซุกหน้าที่หน้าอกเธอ แล้วดันตัวเธอนอนลงไปที่เตียงโดยที่ขาเธอห้อยลงที่พื้น ผมจูบไล่ลงมาที่หน้าท้อง แล้วเนินหีอวบใหญ่ของเธอซึ่งตอนนี้มันเยิ้มไปด้วยน้ำ ผมดูดเลีย กลืนกินน้ำของเธอจนหมด ผมลุกขึ้นยืนแล้วรีบถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปในหว่างขาของจูน จับลำควยจ่อไปที่รูหีจูนที่อ้ารออยู่แล้ว ดันเข้าไปพรวดเดียวมิดด้าม ผมยืนกระเด้าเย็ดเธออย่างเมามัน แต่ในใจกลับนึกว่าได้เย็ดกับน้องบี จูนยิ่งร้องผมก็กระแทกแรงขึ้น กว่าที่ผมน้ำจะแตกจูนก็เสร็จไปสองรอบ “จูนรักพี่จังเลย…” เธอกรซิบบอกผมทั้งน้ำตาแห่งความสุข “พี่ก็รักจูนมาก” เราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่มอีกครั้งเด็กดีใจกัน ใหญ่ที่จะได้ไปเที่ยวเกาะ รีบเตรียมเสื้อผ้าเพื่อไปพักผ่อน อีก 2 วันต่อมาเราก็มาอยู่ที่เกาะๆ หนึ่งที่เงียบสงบ เด็กๆ รีบวิ่งลงไปที่ชายหาด ผมกับจูนเอากระเป๋าเก็บพร้อมกับสำรวจบ้านพัก บ้านที่เช่าใหญ่พอสมควรมี 2 ห้องนอนใหญ่ ผมไม่ค่อยพอใจนักที่จะให้เด็กๆพักรวมกันผมจึงคิดว่าพอถึงเวลาผมจะให้เปิด ประตูไว้ตลอดเวลาจะได้ควบคุมได้ ห้องน้ำมีสองห้องพร้อมด้วย ด้วยอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ พอเราจัดของเสร็จเราก็เดินลงไปที่ชายหาดจูนพูดขึ้นมาว่า “มาแบบนี้เหมือนเราแต่งงานกันใหม่ๆเลยนะ” จูนคล้องแขนผมเดินลงไปอย่างมีความสุข “แต่เรามีเด็กมาด้วยนะ” ผมบอกเธอ “เออ..เกือบลืมไป..” จูนหัวเราะแล้วแขย่งเท้าจูบผมทีหนึ่ง “ไม่ต้องเสียใจไปหรอกที่รัก…เดี๋ยวเราค่อยหาเวลาไปเที่ยวกันเพียงสองคนก็ได้ ” “จริงๆ นะพี่” จูนรีบถามทันที ผมจึงหับไปจูบเธอเพื่อยืนยัน เราลืมเรื่องที่ผ่านมาจนสิ้น บนหาดทรายมีหนุ่มสาวมาเที่ยวกันไม่มากนักเลยดูสงบดี ผมมองหาลูกๆ เห็นน้องบีกับเบิร์ดเล่นน้ำกันอย่างมีความสุขมองไม่เห็นบิว สักพักก็เห็นโผล่ขึ้นมาจากน้ำใกล้ๆเบิร์ด เบิร์ดคว้าเธอมากอดทันทีแล้วทั้งสองก็จูบกันอย่างดูดดื่ม เมื่อทั้งสองแยกออกจากกันน้องบีก็เข้ามาจูบกับเบิร็ดต่อ เป็นครั้งแรกที่เห็นพวกเขากอดจูบกันอย่างดูดดื่มเคยได้ยินแต่เสียง ผมหันไปมองจูนซึ่งเธอก็หยุดมองลูกอยู่เช่นกัน ผมเดินไปที่ชายหาดแล้วเรียกพวกเขามานั่งที่ชายหาด พอพวกเขาได้ยินผมเรียกก็รีบขึ้นมาจากน้ำ “ลืมสัญญากับพ่อแล้วหรือ” ผมถามทันที่พวกเขาขึ้นมา “หนูไม่ได้ผิดสัญญา” บิวพูดขึ้นมาทันที “พ่อบอกว่าอย่างมีเซ็กส์กัน ไม่ได้บอกว่าห้ามจูบกันนี่คะ” “ก็ได้..มานั่งตรงนี้มา” เรานั่งลงบนเตียงชายหาดมีร่มขนาดใหญ่กางกันแดดให้ จูนสั่งน้ำมากินแก้กระหายแล้วชี้ให้ดูหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินผ่านไป “พี่ดูซิ..น่ารักดีนะ” แต่บิวกลับพูดแย้งมาทันที “ไม่เห็นน่ารักเลย..ยังกะจิ้งเหลน…พ่อกับเบิร์ดหล่อกว่าตั้งเยอะ” ผมหันไปบอกกับเบิร์ดว่า “เบิร์ดดูเด็กคนนั้นซิ” เบิร็ดยักไหล่แล้วบอกว่า “ตัวนิดเดียวแต่หน้าอกใหญ่เกินไป” ส่วนจูนก็พยายามชักชวนให้น้องบีสนใจหนุ่มๆ “น้องบีจ๊ะ..ดูคนนั้นซิหล่อจังเลย” น้องบีหัวเราะ จนตาปิด “แม่…ไม่เห็นหล่อเลยพ่อหล่อกว่าอีก” ตกลงไม่มีใครสนใจกับสิ่งที่เราแนะนำเลย สักพักเด็กๆก็วิ่งลงไปเล่นน้ำอีกครั้ง “โอ…ไม่ได้ผลเลย..” ผมรำพึงกับจูน “จูนรู้คะ...แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ” “ไม่รู้ซิ..พี่คิดไม่ออก” ผมกับจูนรู้สึกกังวลกับลูกๆของเรา ตกกลางคืนฝนเริ่มตกลงมา เมื่อทานอาหารอิ่มแล้วผมออกมายืนรับลมกับเบิร์ดผมจึงถามเบิร์ดว่า “เบิร์ด..ทำไมลูกถึงไม่ชอบเด็กสาววัยรุ่นบ้างล่ะ” “ผมขอโทษครับพ่อ…ไม่รู้เหมือนกันในใจผมมันถึงชอบแต่คนมีอายุเหมือน..แม่..” ผมอยากร้องตะโกนออกมาเลยที่ได้ยินเจ้าลูกชายสารภาพออกมา “พ่อรู้..แต่มันผิดนะลูก..” “ผมรู้ครับพ่อแต่มันห้ามไม่ไห้คิดไม่ได้ครับ..ผมกับพี่บีคุยกันมาตลอดพยายาม เลิกแต่ก็ทำไม่ได้” แล้วกับน้องบีละเบิร์ดคิดอย่างไร” “ผมแค่สงสารน้องเท่านั้น…อยากให้เธอมีความสุข..พ่อครับน้องบีเล่าให้ผมฟังนะ เรื่องที่เธอไปทำอะไรกับพ่อเมื่อวันก่อน” เบิร์ดบอกกับผม “จริงหรือเบิร์ด” “ครับ..เธอบอกว่าเธอมีความสุขมากกว่าที่ผมทำให้เสียอีก” ผมถึงกับอึ้งไปเลยเราสองคนเงียบไปชั่วขณะ “พ่อครับน้องบีบอกว่าอยากให้มันเกิดอีกถ้าพ่อไม่รังเกียจมันไม่ดีนะลูก..น้องบีเป็นลูกของพ่อนะ” “แล้วแม่โกรธพวกผมหรือเปล่าพ่อ..” “คงไม่มั๊ง” “พ่อครับ…ผมว่าแม่ยังสวยมากเลยนะครับ” “ฮื่อ” และเราก็เงียบไปแล้วผมก็เดินเข้าไปในห้องน้องเปิดน้ำอุ่น ออกมาหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่ออาบน้ำ เมื่อเสร็จแล้วทุกคนก็เข้ามารวมตัวกันที่หน้าทีวีเรานั่งดูหนังเอาขนมออกมา กินกัน ดูไปดูมาน้องบิวก็เดินไปเข้าห้องน้ำกลับมาอีกทีเธอเไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เบิร์ดแล้วน้องบิวก็หันไปจูบที่ปากของเบิร์ดทำไมถึงทำกันแบบนี้” ผมหันไปบอกกับเธอ น้องบิวรีบขยับห่างจากเบิร์ด “ไม่อายกันบ้างหรือ “ “พี่คะ” จูนเรียกผม น้องบิวดูเศร้าๆ แต่น้องบีกลับไม่รู้สึกอะไร เธอคงยังเด็กจึงไม่คิดอะไร ผมจึงเดินเข้าห้องนอนไป แต่บิวเดินตามผมไป “พ่อขอโทษที่พูดไปแบบนั้น” แต่น้องบิวกลับสั่นหัวแล้วโอบกอดผมทางด้านหลัง สายตาผมมองออกไปข้างนอกดูสายฝนแล้วหันมากอดลูกสาวอารมณ์โกรธค่อยจางลง “พ่อขา..มาคุยกับเราเถอะคะ” เธอพูดอ้อนผม “หนูรู้ว่าพ่อรู้สึกอย่างไร แต่พวกหนูก็ต้องการพ่อนะคะ

รักยม ตอนที่ 68 - คืนฝันหวาน 2

.............................................................. ร่างงามเปล่งปลั่งสวยสะพรั่งของนักศึกษาสาวหน้าหมวยวัยสิบแปดปียืนแอ่นนม แอ่นสะโพกบิดกาย อวดเรือนร่างอวบอัดเกือบเปลือยที่มีเพียงยกทรงและกางเกงในตัวน้อยปิดกั้น ด้วยความรู้สึกวาบหวามว้าวุ่น ดวงตาวาววับคู่นั้นของชายหนุ่มที่จับจ้องมองผ่านกระจกเงาในห้องน้ำกำลังจะทำ ให้เธอคลั่งตาย ร่างกายของเธอโดนดวงตาของเขาปลุกเร้าเสียจนร้อนผ่าวราวกับมีเพลิงไฟขุมใหญ่ สุมรุมอยู่ในร่าง แม้ร่างของสาวนักกีฬาอย่างฟ้าจะมิได้สูงโปร่งแบบพวกนางแบบ แต่ก็ไม่ถือว่าต่ำเตี้ย ทรวดทรงองค์เอวสวยสมส่วนกำลังดี ผิวพรรณขาวเนียนสะอาดตาตามฉบับของเชื้อสายชาวจีน หน้าอกตึงเด้ง เอวคอดกิ่ว บั้นท้ายผึ่งผาย เรียกได้ว่าทุกสัดส่วนที่เธอมีนั้นมีพลังเสน่ห์เหลือเฟือที่จะทำให้ผู้ชายสักคนเกิดอารมณ์คลั่งกลัดมันได้ไม่ยาก สองมือที่ว่างอยู่ขยับลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่เริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดผาดขึ้น มาสะท้อนแสงไฟเป็นประกายพราวพร่าง สองมือบีบขย้ำรีดเร้นขาอ่อนตนเองไล้ขึ้นมาทางง่ามขา ก่อนแตะสัมผัสวนเวียนไปมาเป็นวงกลมรอบโคกสวาทอย่างเร่าร้อนโดยมิคิดขยับ เฉียดใกล้เข้าไป เพราะเมื่อไหร่ที่เธอทำท่าจะล้วงมือเข้าไปแตะต้องตรงส่วนนั้น ชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าก็จะห้ามปรามและส่งสายตาดุใส่ในทันที "อูววววว ... อืมมมมมม ... ฟ้าจะไม่ไหวแล้วนะคะพี่เอก" นักศึกษาสาวหมวยหมัดหนักส่งเสียงครวญครางที่เต็มไปด้วยความอึดอัดสุดกลั้น เธอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้ม พลางแอ่นนมแอ่นก้นดิ้นเร่ายั่วเย้าสุดชีวิต หากทว่าชายที่เธอหลงไหลก็ยังคงยืนพิงประตูห้องน้ำด้วยท่าทีสงบนิ่ง มีแต่เพียงสายตาของเขาเท่านั้นที่จับจ้องมองชมลีลายั่วเย้าร่านสวาทของเธอ ด้วยแววตากระหายกลัดมัน ร้อน อึดอัด และอยากร่วมรักผสานรวมร่างกับชายหนุ่มเบื้องหน้า คือความต้องการเพียงสิ่งเดียวของเธอในตอนนี้ เธออยากกระชากยกทรงและกางเกงในให้ขาดวิ่นคามือแล้วขยำขยี้สองเต้าและบดบี้ ติ่งแตดระบายอารมณ์เสียให้หายอยาก แต่กลับมิอาจทำได้ เพราะจะขัดต่อคำสั่งของเขาผู้ที่เธอยึดถือเป็นเจ้านาย "อ๊ะ อ๊ะ บอกแล้วไงว่าให้เรียกเจ้านาย แล้วก็ห้ามช่วยตัวเอง ห้ามจับนม ห้าจมจับหอย ส่วนอย่างอื่นจะทำอะไรก็ได้" "... เจ้านายขา ... ฟ้าจะไม่ไหวแล้ว ... อูยยสสส ... มันแฉะไปหมดเลย" ฟ้าพูดพลางขมิบเบียดสองขาเข้าหากัน ร่างของเธอสั่นเทิ้มไปทั้งตัวด้วยความกระสันที่ไม่อาจระบายออกอย่างน่าเวทนา แต่กระนั้นตัวเธอเองกลับรู้สึกดีอย่างน่าแปลกประหลาด ทั้งที่ปกติแล้วเธอได้ชื่อว่าผู้หญิงที่เกลียดและไม่ยอมแพ้ผู้ชายที่สุดคน หนึ่ง แต่ผู้ชายคนที่เธอหลงไหลที่สุดคนนี้กลับสามารถขุดค้นตัวตนที่แท้จริงของเธอ ออกมาได้จนหมดสิ้น ทุกวินาทีที่ได้กระทำตามคำสั่งของเขา ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ก้าวเขาใกล้จุดสุดยอดแห่งอารมณ์ไปทีละก้าว ราวกับว่าอารมณ์ส่วนเบื้องลึกที่สุดของเธอต้องการเช่นนี้ ต้องการโดนข่มเหงบังคับโดยใครสักคนที่มีอำนาจ ใครสักคนที่เธอยอมรับ และใครสักคนที่ว่าก็คือพี่เอกที่เลือกหาเธอเป็นคนแรก แทนที่จะไปหายายคุณหนูเพื่อนสาวแสนสวยของเธอ ซึ่งข้อนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกพอใจจนได้แต่เพ้อซ้ำไปซ้ำมาว่า 'เขาเลือกเธอ' สาวหมวยหรี่ตาปรือมองเขาอย่างยั่วเย้า มือข้างหนึ่งขยับไล้ไปปาดเม็ดเหงื่อบริเวณด้านบนทรวงอกออกแต่ยังมิกล้าขยับไปใกล้กว่านี้ มืออีกข้างก็ลูบขาลูบหน้าท้องพร้อมกับหอบหายใจกระเส่าดัง เลือดสาวกำลังสูบฉีด อารมณ์ของเธอกำลังพลุ่งพล่านจนแทบระเบิด แต่เธอก็มิอาจล้ำหน้าไปไกลกว่านั้น เพราะว่าเจ้านายของเธอยังไม่อณุญาติ "อยากโดนขนาดนั้นเลยเหรอ?" "ค่ะ เจ้านาย ... ฟ้าอยากจนจะทนไม่ไหวแล้ว" "งั้นก็เอานี่ไป ใช้ทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามใช้มือทำเอง" ฟ้ายื่นมือไปรับแปรงสีฟันที่เอกยื่นให้ด้วยความรู้สึกงุนงงเหม่อลอยไม่ทราบ ว่าเขาให้แปรงสีฟันเธอมาทำอะไร จวบจนกระทั่งเขาหยิบเอาแปรงสีฟันอีกด้ามขึ้นมา แล้วก็เอาปลายด้ามแปรงจิ้มดุนดันบริเวณปลายถันแล้วลากไล้ไปมาจนร่างเธอสั่นสะท้าน เธอจึงค่อยเข้าใจว่าเจ้านายของเธออยากให้เธอทำอะไร "อูยสสสส อ๊อยยยย อืมมมม ซี้ดสสสส" ด้วยกำลังมีอารมณ์เต็มที่อยู่แล้ว ฟ้าจึงแทบไม่มีความรู้สึกอายเลยสักนิดที่ต้องมายืนใช้ด้ามแปรงสีฟันถูไถปลายถันตัวเอง เรียกได้ว่าถูไปร้องครางไปแบบไม่มีเม้ม อีกทั้งยังขยับเลื่อนปลายด้ามแปรงลงต่ำไปกดบี้เขี่ยสะกิดรัวยิกตรงบริเวณเนินสวาท เนื้อผ้าของกางเกงในที่เปียกชื้นอยู่แล้วก็เลยยิ่งโดนกดบุ๋มหายลงไปในร่องเสียวจนเปียกชุ่มยิ่งกว่าเดิม ฟ้าหนีบสองขาแน่น มือที่จับแปรงสีฟันก็ขยับยุกยิกถูไถใช้ปลายด้ามช่วยตัวเองไม่หยุด เธอร้องคราง หลับตาเคลิ้มดื่มด่ำความสุขเสียวจากอุปกรณ์ทำความสะอาดอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ซึ่งหากว่าได้ทำต่อไปอีกสักครู่ ก็อาจจะนำพาห้วงอารมณ์แห่งความหื่นกลัดมันไปถึงจุดสุดยอดก็เป็นได้ แต่ว่าใครบางคนกลับใจร้ายออกปากสั่งการให้เธอหยุดเสียวเสียได้ "หยุด พอแค่นี้แหละ ส่งแปรงสีฟันมา" "เจ้านาย !!!!" "ไม่ต้องเถียง ส่งมานี่" "แต่ว่า ... ฟ้า ..." สาวหมวยที่กำลังเพลินในอารมณ์เสียวพยายามส่งเสียงประท้วงแง่งอนไม่ยินยอม แต่เอกก็ยังคงทำหน้าเข้มย้ำคำสั่ง ฟ้าจึงได้แต่ทำหน้ามุ่ยยอมหยิบยื่นแปรงสีฟันที่ใช้เล่นเสียวกลับคืนไปให้แบบไม่เต็มใจนัก แต่หลังจากนั้นเธอก็ต้องทำตาลุกวาว เพราะเอกจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด เหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่า และเจ้าดุ้นเอ็นอันยาวใหญ่ที่เธอใฝ่หา ฟ้าคล้ายถูกมนต์แห่งความใคร่สะกด ความอดทนพังทลายหายไปสิ้น เธอเดินดิ่งเข้าไปหาพยายามกอดจูบชายหนุ่ม หากเขากลับใช้มือจับหัวไหล่ของเธอผลักดันไว้มิให้เข้าใกล้ สาวสวยที่หน้ามืดตามัวก็ไม่ยินยอมพยายามขืนตัวเสนอเบียดเข้าหา สองฝ่ายจึงปลุกปล้ำกันชุลมุน ก่อนที่เรือนร่างสวยปราดเปรียวของฟ้าจะโดนเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกชนกับบานประตูห้องน้ำดังตึง สาวหมวยรู้สึกเจ็บแผ่นหลังเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกสาสมใจไปพร้อมกัน เธอยังคงพยายามยื่นหน้าเสนอจูบราวกับหญิงสาวร่านสวาท แต่สองมือของเธอก็โดนเขารวบจับล๊อคชูเอาไว้เหนือหัวด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียวจนแทบมิอาจผลักดันตัวเองไปเบื้องหน้าได้มากนัก ชายหนุ่มก้มหน้าเข้ามาใกล้แต่ไม่ถึงระยะที่เธอสามารถยื่นใบหน้าขึ้นไปถึง ฟ้าจึงได้แต่ขมวดคิ้วส่งเสียงฮึดฮัดไม่ยินยอมพร้อมใจออกมา เขากำลังทำตัวเหมือนนายพรานหยอกล้อเล่นกับเธอที่เป็นแม่เสือสาวติดบ่วง "ดุจริงเชียว แม่เสือสาวสุดสวย ไหนบอกว่าจะเชื่อฟังคำสั่งเจ้านายไง ... " เขาพูดเล่นลิ้นกับเธอด้วยรอยยิ้มของผู้มีชัย แต่ฟ้าคล้ายคนติดยาที่เกิดอาการลงแดง เธอพยายามออกแรงฝืนต้านมือของชายหนุ่ม เธอต้องการเขาเดี๋ยวนี้ และเธอต้องได้ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม แต่ไม่ว่าจะพยายามรีดเร้นเรี่ยวแรงออกมามากเพียงใด สาวนักกีฬาที่ออกกำลังแทบทุกวันเช่นเธอ กลับไม่สามารถสลัดตัวเองให้หลุดจากการจับด้วยมือเดียวของเขาได้เลยสักนิด เหมือนกับว่ามือของเขานั้นหล่อหลอมด้วยแท่งเหล็กก็มิปาน "เอ้า ยังไม่ยอมเชื่อฟังอีก อย่างงี้ต้องโดนลงโทษหน่อยแล้ว" เอกพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบฝักบัว ก่อนจะเปิดน้ำเย็นเยียบสาดเข้าใส่ฟ้าจนร่างของเธอเปียกปอน สาวสวยร้องวี้ดว้ายพยายามเบือนหน้าหนี แต่ชายหนุ่มก็ยังคงขยับฉีดน้ำเข้าใส่ตั้งแต่ศรีษะยันปลายเท้าจนเธอตัวเปียกมะล่อกมะแล่กเหมือนลูกแมวตกน้ำที่น่าสงสาร และแล้วไม่นานนักแม่เสือสาวก็หมดพยศ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาส่งเสียงหอบกระเส่าหมดแรงสู้ "หายพยศหรือยังจ๊ะแม่เสือสาว?" "... ขอโทษค่ะ เจ้านาย" ฟ้าหยุดดิ้นโดยสิ้นเชิง เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่เชื่องเชื่อ ซึ่งเธอเองก็อดรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่ได้ เพราะเขาลงมือกลั่นแกล้งรังแกเธอถึงเพียงนี้ แต่ทำไมเธอกลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นสาสมใจ เหมือนกับว่าอยากให้เขาลงมือทรมาณทรกรรมกลั่นแกล้งเธอให้มากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ "ดีมาก งั้นเอารางวัลไป" ชายหนุ่มพูดจบก็โน้มตัวเข้าไปแนบประกบปากบดจูบอย่างหนักหน่วงรุนแรงจนฟ้าทั้งเจ็บทั้งสะใจ ที่หน้าอกก็เสียวแปลบเพราะโดนมือของเขาบีบขยำเคล้นด้วยความแรง เขาปลุกเร้าโอ้โลมเธอนานพอดู ก่อนที่จะถอนปากปลดปล่อยริมฝีปากที่เต็มไปด้วยรอยช้ำให้เป็นอิสระ ฟ้าก็อดไม่ได้ต้องโน้มใบหน้าตามไปเพื่อแสวงหารสจูบแสนร้อนแรง เพราะเพียงแค่นี้ยังไม่ทำให้รู้สึกพอเลยสักนิด แต่ก็ติดที่ว่าสองมือยังคงโดนมือของเขากดล๊อคอยู่ เขาไม่สนใจสนองตอบอารมณ์ของเธอ เพียงก้มหน้าลงไปซุกไซร้ที่ร่องนม ใช้จมูกใช้ปากเสพความหอมหวานของเนินอกเนื้อแน่น ก่อนจะใช้มือฉีกกระชากยกทรงจนขาดวิ่นติดมือไป จากนั้นสองเต้าที่ไร้ปราการคุ้มครอง ก็โดนมือขวาของเขาบีบขยี้ทึ้งดึงเหมือนตั้งใจจะปลิดให้หลุดออกไปจากร่าง ด้านใบหน้าและปากก็อ้างับขบกัดซุกไซร้ไปตามความนุ่มนิ่มไม่หยุด ถัดจากนั้นเพียงไม่ถึงนาที กางเกงในของเธอก็โดนเขากระชากทิ้งเป็นชิ้นถัดไป ก่อนจะแหย่ปลายนิ้วสอดเข้าสอดออกร่องรูจนร่างเธอกระตุกเฮือกเป็นจังหวะ ซึ่งฟ้าก็ไม่เข้าใจนักหรอกว่าทำไมพี่เอกของเธอจึงต้องทำแบบนี้ แต่เธอเองก็แอบรู้สึกตื่นเต้นสะใจในเกมกามอันดิบเถื่อนนี้อยู่ไม่น้อย เพราะยิ่งเขาทำแบบนี้ เธอก็ยิ่งมีอารมณ์มากขึ้น และมากขึ้น มากในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ฟ้าหมุนตัวหน่อยซิ ... อื้ม ดีมาก... ฟ้าเซ็กส์ซี่ดีจัง ขาว น่ากินไปทั้งตัวเลย" เขาปล่อยมือฟ้าให้เป็นอิสระ แล้วออกป่าวกล่าวชมพลางมองสำรวจเนื้อตัวของเธอด้วยสายตาวาววับ ฟ้ายืนหอบหายใจมองค้อนที่โดนเขาแกล้งปลุกปั่นอารมณ์แล้วก็หยุดรอบแล้วรอบเล่า แต่ก็ยอมหมุนร่างอวดสัดส่วนโค้งเว้ารับสายตาหื่นกระหายด้วยอารมณ์ร้อนแรงวาบหวามแต่โดยดี เรือนร่างนั้นเปลือยเปล่าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ผมสีดำขลับยาวเปียกลู่อยู่ตรงกลางแผ่นหลัง สะโพกผายขาวกลมกลึงงอนงามน่าลูบไล้ ผิวพรรณวัยสาวรุ่นก็ขาวกระจ่างน่ามองน่าจับต้อง ซึ่งไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลยว่าเหตใด สาวหมวยหมัดหนักนิสัยห้าวไม่ยอมใครคนนี้จึงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสิบสาวน่าฟันประจำมหาวิทยาลัยชื่อดัง "เจ้านายก็รีบกินฟ้าซักทีซิคะ" ฟ้าส่งสายตาหยาดเยิ้มมองดูเขาเหมือนแม่เสือสาวในฤดูผสมพันธ์ แต่เขากลับเพียงยิ้มรับด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ที่อ่านไม่ออก "จะรีบไปไหนล่ะ มาถูสบู่ให้เจ้านายก่อน" ฟ้ายื่นมือไปรับขวดน้ำยาอาบน้ำด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ก็ยอมรับคำสั่งแต่โดยดี เธอจึงบีบครีมอาบน้ำออกมาแล้วก็ใช้มือละเลงถูไปตามกล้ามเนื้อกระชับแน่นได้รูปของเขาด้วยความรู้สึกหวิว ๆ อดใจไม่ไหวต้องลองบีบและหยิกเบา ๆ ไปพร้อมกัน กล้ามเนื้อของเจ้านายสุดที่รักกำลังจะทำให้เธอคลั่ง "ใครเขาถูสบู่กันแบบนี้ล่ะ ? ต้องแบบนี้ต่างหาก" เอกส่ายหน้าไปมา ก่อนจะผลักร่างของเธอออกห่างเล็กน้อย แล้วก็บีบเอาครีมอาบน้ำละเลงใส่จนเลอะเต็มสองเต้า หน้าท้อง และง่ามขาของฟ้า จากนั้นก็ใช้มือถูไถฟอกสบูุ่จนเกิดเป็นฟองฟอดสีขาว ฟ้าร้องครางอืมออกมาแผ่วเบา แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าสิ่งที่เจ้านายทำมันต่างกับที่เธอทำตรงไหน เมื่อละเลงฟองสบู่จนเกือบทั่วร่างเธอแล้ว เขาจึงค่อยทำให้เธอหายข้องใจด้วยการกอดร่างของเธอแนบกับร่างของเขา ดันตัวเธอเข้า ผลักร่างเธอออก ร่างเปลือยนุ่มนิ่มของเธอจึงถูไถไปตามร่างแกร่งของเขาราวกับว่าร่างของเธอเป็นฟองน้ำถูตัวก้อนหนึ่ง คราวนี้เขาปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายกระทำเอง ฟ้าก็รีบขยับบดเบียดร่างถูไถไปบนร่างของเขาอย่างเร่าร้อน สัมผัสของกล้ามเนื้อแข็งแกร่งกำลังทำให้เธอคลั่งไคล้ เต้านมขนาดกำลังดีบดถูกับแผงอกและหน้าท้องของเขาส่งเสียงดังประหลาดคล้ายเสียงฟองน้ำ ความเสียวที่ปลายถันไถลครูดไปกับร่างแกร่งทำเอาเธอสูดปากร้องซี้ดออกมาไม่ขาดสาย นักศึกษาสาวหมวยพรมจูบแผงอกและลำคอของเขาด้วยกิริยาร้อนร่าน ร่างกายยังคงขยับโยกขึ้นโยกลงเคลื่อนไหวไปมาไม่หยุดยั้ง ดุ้นเอ็นอันเขื่องของเขาโดนจับจัดวางเอาไว้ตรงง่ามขาอย่างพอเหมาะพอเจาะ ซึ่งยิ่งเธอขยับเขยื้อนร่างกาย ดุ้นเอ็นของเขาก็จะไถลครูดคราดปาดไปบนปากร่องเสียวของเธอจนเสียวแปลบปลาบ ฟ้าอยากจับมันยัดใส่เข้ามาในร่องเสียวจนน้ำลายสอ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้มากนัก จึงทำได้แค่เพียงขยับโยกร่างถูไถไปมาแรงขึ้น เร่งโยกสะโพกสะบัดบั้นเอวแอ่นเข้าหาดุ้นเอ็นที่ร้อนผ่าวถี่รัวระริก ร่องเสียวโดนดุ้นเอ็นพาดบดครูดคราดรอบแล้วรอบเล่า บางครั้งเมื่อเธอโยกตัวแรงพอ สัมผัสเสียวก็จะไปไกลถึงติ่งแตด เธอเริ่มหอบหายใจกระเส่า ร่างของเธอยิ่งขยับเร่งร้อนขึ้นด้วยไฟสวาทที่ใกล้เสร็จสม แต่เมื่อเหลืออีกเพียงไม่กี่อึดใจ ก่อนที่เธอจะสำเร็จความใคร่ เขาก็ผลักไสร่างของเธอให้ออกห่างอย่างกระทันหัน "เจ้านายขา ..." ฟ้าที่กำลังอารมณ์ค้างเติ่งใกล้เสร็จสมอยู่รอมร่อ ยืนหอบกระเส่ามองชายหนุ่มด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ สองขาของเธอหนีบเข้าหากันขยับสลับไปมาด้วยกิริยาร่านสวาท ไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ "เป็นนางทาสแล้วจะมาเสร็จก่อนเจ้านายได้ยังไง นั่งคุกเข่าลง" เขาพูดสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนจะใช้มือกดหัวไหล่ของเธอลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำ จากนั้นสายน้ำอุ่นจากฝักบัวก็พรั่งพรูเป็นฟูฝอยลงมาจากด้านบนจนฟ้าแทบเงยหน้าลืมตาไม่ขึ้น เขาไม่ปล่อยให้เธอสงสัยนานนัก ก็จับรั้งด้านหลังศรีษะของฟ้าเอาไว้ แล้วกดใบหน้าของเธอเข้าหาดุ้นเอ็นอันยาวใหญ่ทันที ฟ้าคล้ายพอจะรู้อยู่บ้างแล้วว่าเขาอยากให้ทำอะไร เธอรีบเอื้อมมือขึ้นไปเกาะกุมรูดถอกดุ้นเอ็นนั้น พร้อมกับอ้าปากขม้ำกลืนกินแล้วก็ดูดอมอย่างสุดฝีมือ แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างกับสายน้ำที่หลั่งไหลลงมาไม่ขาดสาย แต่ฟ้าก็มีประสบการณ์พอที่จะปรับลีลาจังหวะไปตามเกม ปากและลิ้นสีชมพูอ่อนของสาวหมวยบ้างกลืนกินเข้าไปจนเต็มปาก บ้างก็อ้าคายออกมาเลียไล่ไปถึงพวงไข่ทั้งสองข้าง เรียกได้ว่าทั้งดูดทั้งเลียจนครบถ้วนทุกสัดส่วนของความเป็นชายจนเขาส่งเสียงครางอูวเลยทีเดียว ฟ้าผงกหัวอ้าปากดูดอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ครู่ใหญ่ ซึ่งในช่วงเวลานั้นก็แอบยกสะโพกส่ายยิก ล้วงมือข้างหนึ่งลงไปบดบี้ติ่งแตดเร่งเร้าอารมณ์เสียวของตัวเองไปพลาง แต่เหมือนชายหนุ่มจะยังไม่รู้สึกสาแก่ใจในลีลาดูดเลียของสาวหมวย เขาจับล๊อคศรีษะของฟ้าเอาไว้แน่น แล้วแอ่นเอวยัดเยียดเอาดุ้นเอ็นขนาดบิ๊กไซส์สอดเข้าไปในปากของสาวสวยจนกระแทกชนกับโพรงด้านในปาก ฟ้าตัวกระตุกเพราะสำลักจนน้ำหูน้ำตาไหล แต่เขาก็ไม่สนใจ จับศรีษะของเธอไว้แน่น แล้วโยกเอวซอยยิกกับโพรงปากของเธอด้วยความเอร็ดอร่อยเมามันส์ แต่แทนที่สาวหมวยจะรู้สึกไม่พอใจที่โดนกระทำถึงเพียงนี้ อารมณ์กลัดมันของเธอกลับยิ่งลุกโชนหนักหน่วงขึ้นมาเสียอีก คล้ายกับว่าเธอถวิลหาเซ็กส์ที่รุนแรงเร่าร้อนเยี่ยงนี้มาตั้งนานแล้ว แม้จะตั้งตัวไม่ติดในคราวแรก แต่นี่ก็มิใช่การใช้ปากครั้งแรกของเธอ เธอจึงยังพอปรับตัวตามจังหวะดิบเถื่อนของเขาได้ทัน เขาอยากเล่นดิบเถื่อน เธอก็พร้อมจะตอบสนอง ฟ้าเริ่มโยกศรีษะตามจังหวะเร่งเร้าได้ดีขึ้น ปากของเธอออกแรงขบดูดเลียดุ้นเอ็นของเขาได้ดีขึ้น แม้จะมีน้ำจากฝักบัวไหลลงมาอย่างท่วมท้น แต่เธอก็พอจะจับจังหวะหายใจเอาอากาศเข้าปอดได้อยู่ "อูยสสสส แบบนี้ซิ ดูดควยเก่งดีมาก" เมื่อได้ยินชายหนุ่มส่งเสียงครางกระเส่าอย่างพออกพอใจ ฟ้าก็รู้สึกยินดีอย่างที่สุด เธอยิ่งเร่งเหวี่ยงโยกผงกหัวเข้า ผงกหัวออก ดูดเลียแท่งเนื้อสุดแรงจนแก้มตอบ และไม่นานนักเสียงครางของเขาก็ยิ่งดังเร่าร้อนกว่าเดิม ดุ้นเนื้อแท่งนั้นเริ่มกระตุกเกร็งน้อย ๆ อันเป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะได้ลิ้มชิมรสอันแสนเอร็ดอร่อยของน้ำกาม กระนั้นในห้วงเวลาที่ชายหนุ่มใกล้จะถึงสวรรค์ เขากลับเร่งรีบถอนดึงเอาดุ้นเอ็นที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายออกจากปากของเธออย่างกระทันหัน เขาไม่พูดไม่จา จับร่างของเธอให้ยืนขึ้นหันหน้าไปทางฝักบัว ก่อนจะโอบกอดบีบขยำขยี้สองเต้านุ่มนิ่มสุดแรงจนเธอร้องซี้ด เวลาเดียวกันนั้นก็สอดเอาความเป็นชายเบียดแทรกเข้ามาจนสุดทางได้อย่างรวดเร็ว "อูยสสสส อ๊อยยยย อืมมมม ซี้ดสสสส" ฟ้าส่งเสียงร้องครางลั่น ขณะปล่อยตัวปล่อยใจให้เขากระหน่ำกระแทกดุ้นเอ็นเข้าใส่แบบไม่มียั้งเสียงดังสนั่นหวั่ีนไหว ฟ้าปลดปล่อยตัวตนแห่งความใคร่ออกมาเต็มที่ เธอแอ่นเอียงคอเปิดทางให้เขาซุกไซร้ แอ่นอกอวบเสนอเข้าหาฝ่ามืออันร้ายกาจของเขา สะโพกด้านล่างก็เด้งขยับรับไปตามจังหวะลีลาแห่งความสุขเสียวสุดชีวิต เขายังคงขยับเขยื้อนไม่หยุด แต่ฟ้าก็อดรนทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายร้องกรี๊ดเพราะถึงจุดสุดยอดไปก่อน ในห้วงแห่งความหฤหรรษ์นั้นร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกสะท้านสุดแรง แข้งขาของสาวหมวยอ่อนแรงจนแทบยืนหยัดไม่อยู่ เขาก็เลยผลักดันร่างของเธอเข้าไปกดแนบชิดกับผนังห้องน้ำอันเย็นเยียบ ดุ้นเอ็นยังคงวิ่งเข้าวิ่งออกทะลวงร่องรูของฟ้าอย่างไม่มีหยุดพัก เธอหวีดร้องเพราะเสร็จสมไปอีกสองครั้งติด ๆ กันจนแทบสำลักความสุขตาย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เธอได้พักแม้สักวินาที จวบจนกระทั่งเขาเริ่มร้องครางเสียงดังขึ้น เขาก็ถอดเอวจับร่างเธอหมุนหันหน้าเข้าหา สองขาของเธอโดนจับตวัดขึ้นไปเกาะเกี่ยวรอบเอวของเขา เปิดทางให้บั้นเอวแกร่งกร้าวอัดกระแทกซอยได้อย่างถนัดถนี่ เธอจูบเขา เขาจูบเธอ ต่างฝ่ายต่างแลกลิ้นสนองต่อตัณหาราคะเป็นพัลวัน จวบจนกระทั่งร่างของเขาเริ่มสั่นเทิ้มกระตุก ร่างของฟ้าก็กระตุกเฮือกไปพร้อมกัน แม้จะแนบปากจูบแลกลิ้นกันอยู่ แต่เสียงร้องครางของสองหนุ่มสาวก็หลุดออกมาแทบจะพร้อมกัน เธอเสร็จไปอีกรอบ ชายหนุ่มก็เสร็จไปพร้อมกัน ฟ้าสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนของน้ำรักที่กำลังหลั่งไหลทะลักล้นเข้าไปในร่างตัวเองได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกนี้มันช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียม ช่างอบอุ่น สุขล้น จนอยากจะเกาะกอดร่วมรักกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไปอีกตลอดกาลนาน "ฟ้ามีความสุขมั้ย?" น้ำเสียงอันอบอุ่นของชายหนุ่มผู้สวมบทบาทเจ้านาย โดยมีเธอเป็นทาสสวาท ทำให้เธอรู้สึกแปลกหูอยู่บ้าง เพราะเหมือนจิตวิญญาณของทาสสวาทสาวจะยังตกค้างอยู่ในร่างกายโดยที่ไม่มีวันถอดถอนได้ออก เพราะนี่คือหนึ่งในตัวเธอ หนึ่งในความต้องการอันดำมืดของเธอ แต่ในเมื่อเขาพูดคุยในฐานะคนรัก เธอก็จะตอบกลับในฐานะคนรัก "ค่ะ ... พี่เอก ฟ้ามีความสุขที่สุดเลย ... แต่ฟ้าถามอะไรหน่อยได้มั้ย?" "ถามว่า?" "ก็ ... พี่เอกมาหาฟ้าแบบนี้จะดีเหรอ ? .. พี่เอกน่าจะไปหาหญิงมากกว่า" "ทำไมล่ะ มาหาคนที่อยากมาหาที่สุด มันไม่ดียังไง?" "พี่เอก !!!!" ฟ้าแทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดัง ๆ นั่นเป็นคำตอบที่แสนจะอบอุ่นวาบหวามใจที่สุดในโลกที่เธอเคยได้ยินมา 'เธอคือคนที่พี่เอกอยากมาหามากที่สุด' นี่เธอฝันไปหรือเปล่า? "อื้ม แต่ฟ้าต้องสัญญาเรื่องนึงก่อนนะ" "เรื่องอะไรคะ?" "สัญญาว่าจะไม่บอกใครว่า พี่เอกเลือกมาหาฟ้า ... พี่จะแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ไปหาใครเลย จะได้ไม่มีใครเสียใจไง" "... ได้ค่ะ ฟ้าสัญญา" "ดีมากคนเก่ง พี่รักฟ้าจัง" เอกกล่าวชมพร้อมกับก้มหน้าลงมาจูบปากเป็นรางวัล ฟ้าก็จูบตอบอย่างเร่าร้อนเพราะในใจนั้นกำลังตลบอบอวลไปด้วยเพลิงไฟแห่งความรักและความใคร่ เขาเริ่มขยับบั้นเอวอีกครั้ง เธอก็สนองตอบชายหนุ่มที่เธอหลงรักทั้งตัวและหัวใจด้วยลีลารักอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้รับรู้เลยสักนิดว่าในเวลาเดียวกันนี้ตนมิได้เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กำลังมีความสุขอยู่กับเขา .............................................................

รักยม ตอนที่ 67 - คืนฝันหวาน 1

........................................................... "ถ้าพี่เอกเลือกได้เมื่อไหร่ก็ไปหาผู้โชคดีได้เลยนะคะ พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะรอแยกกันคนละห้อง แล้วก็จะไม่ออกมาจนกว่าจะครบหนึ่งชั่วโมงตามกติกาค่ะ" ฝนพริตตี้สาวสวยชื่อดังที่สวมใส่เพียงยกทรงและกางเกงในยืนพิงแผ่นหลังกับบานประตูของระเบียงด้วยท่วงท่ายั่วยวนสุดฤทธ์ เธอจับจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งลังเลอยู่กลางห้องด้วยแววตาอันคาดหวังสุดฤทธ์ว่าเขาจะเลือกเธอก่อนเป็นคนแรก ในขณะที่หญิงสาวอีกห้านางต่างก็คิดแบบเดียวกัน สาวสวยเสน่ห์แรงต่างวัยทั้งหกนางต่างยืนพิงบานประตูคนละบานด้วยท่วงท่ายั่วเย้ากิเลสไม่แพ้กัน ต่างสวมใส่เพียงยกทรงและกางเกงในอวดเรือนร่างขาวผ่องละลานตากันอย่างถ้วนหน้า ยกเว้นแต่ก็เพียงน้องมายด์เด็กสาววัยสิบเอ็ดขวบที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำสีเหลืองสดใสเพราะยังไม่ถึงวัยที่จะสวมใส่ยกทรงเช่นพี่สาวแสนสวยทั้งหลาย มองแบบผิวเผินแล้วจะใช้คำว่าฮาเร็มบรรยายสภาพการในที่นี้ก็คงไม่ผิด หากทว่าชายหนุ่มที่สุดแสนจะโชคดีได้ครอบครองสาวสวยทั้งหกนางกลับรู้สึกตึงเครียดเหมือนกับนั่งอยู่ในดงระเบิด ไม่ทราบว่าบรรดาสาว ๆ ของตัวเองแอบไปพูดคุยกันตกลงกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อพวกเธอทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าจะบีบบังคับให้เขาเลือกใครคนใดคนหนึ่งให้ได้ และทำให้แผนการณ์ปรองดองที่จะทำเนียนเลือกทุกคนพังไม่เป็นท่าตั้งแต่แรก เอกมองสาวสวยหกนางสลับไปมาด้วยความสับสนว้าวุ่น ต่างคนต่างก็สวยน่ารัก ต่างรูปแบบ ต่างวัยต่างน่าลิ้มลองไม่แพ้กันสักเท่าไหร่ ยกเว้นก็แต่เพียงน้องหญิงของเขาที่สวยสง่าโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเธอกำลังยืนส่งยิ้มหวานยั่วเย้าอวดเรือนร่างสวยสมบูรณ์แบบต่อเขาที่หน้าประตูห้องนอนใหญ่ เสน่ห์ร้อนแรงของเธอนั้นทำให้เขารู้สึกได้ทันทีว่าหากต้องเลือกใครสักคนจริง ๆ เขาก็คงต้องเลือกน้องหญิงที่ถือได้ว่าเป็นเมียหลวงของเขาก่อนใครอื่น กระนั้นก็รู้ดีว่าการเลือกใครสักคนนั้น จะเป็นการทำลายความคาดหวังของสาว ๆ ที่เหลือมากขนาดไหน ต่อให้พวกเธอจะบอกว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ตามที ถัดจากน้องหญิงนั้นก็เป็นฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยเจ้าของเรือนร่างขาวเปล่งปลั่งที่ยืนพิงอยู่กับบานประตูของห้องครัวด้วยท่วงท่ามธุรสเอียงอาย จนชายหนุ่มอดไม่ได้ให้รู้สึกอยากโผเข้าไปโอบกอดปลอบโยนสาวหวานปานน้ำผึ้งคนนี้สักหน่อยหากเมื่อมองผ่านเลยไปที่ประตูห้องน้ำใหญ่ สายตาดุดื้อรั้นไม่ยอมคนแต่ซุกซ่อนไปด้วยท่าทีเสนอสนองของนักศึกษาสาวหมวยหมัดหนักอารมณ์ร้อนอย่างน้องฟ้าก็ให้ความรู้สึกน่าขยี้ลิ้มลองไม่น้อย ยิ่งเมื่อเธอมองมาด้วยสายตาเอาเรื่องสื่อความหมายว่าหากไม่เลือกเธอล่ะก็จะต่อยซะเลย ก็ยิ่งกระตุ้นเร้าความรู้สึกอยากกำราบปราบสาวห้าวให้ร้องครางหงิง ๆ ขึ้นมาตะหงิด ๆ กระนั้นเสน่ห์ของสองน้องสาวแสนสวยน่ารักบริสุทธ์สดใสอย่างน้องเมย์และมายด์ก็ไม่อาจจะตัดใจมองข้ามไปได้ สองเด็กสาวอ่อนวัยที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนคนละห้องนั้นจ้องมองมาทางเขาด้วยแววตาระยิบระยับคาดหวังในตัวพี่ชายสุดรักอย่างเขาจนเต็มเปี่ยม และนั่นก็ทำให้เขาไม่อาจตัดใจทำลายความฝันของสองเด็กน้อยด้วยการเลือกคนอื่นได้เช่นกันนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เอกเริ่มรู้สึกเสียใจที่ตัวเองซื้อคอนโดที่กว้างข วางและมีห้องหับหลายห้องขนาดนี้หากทำลายฝาผนังออกเสียให้หมดจนเหลือห้องนอนเพียงห้องเดียวก็คงไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวปวดกบาลแบบนี้แล้ว "พวกเราจะรอนะคะ" เสียงของฝนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก ก่อนที่สาวสวยทั้งหกจะเดินหายเข้าไปในห้องแล้วบานประตูสู่สวรรค์ทั้งหกบานก็ปิดสนิทลงพร้อมเพรียงกัน "เฮ้อ แล้วจะเลือกใครล่ะเนี่ย หญิงในห้องนอนใหญ่ ฝ้ายที่ห้องครัว ฝนระเบียงตากผ้า ฟ้าห้องน้ำ เมย์ห้องนอนกลาง มายด์ห้องนอนเล็ก ... โอย ๆ จะบ้าตาย อยากแยกร่างให้ได้ซักหกร่าง" เอกทิ้งตัวตุบลงไปนอนบนโซฟาแล้วส่งเสียงบ่นพึมพำออกมาด้วยหมดปัญญาที่จะคิดหาทางออกที่จะไม่ทำให้สาว ๆ ขุ่นข้องหมองใจ แต่เมื่อเหม่อมองขึ้นไปบนเพดานห้องก็เห็นร่างวิญญาณของนางตะเคียนและสองเด็กน้อยรักยมกำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่อย่างสนุกสนาน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่ได้เห็นคู่กัดต่างวัยไม่ทะเลาะกันเช่นเคย ชายหนุ่มจึงส่งเสียงทางจิตตวาดดุหนึ่งผีสาวและสองผีเด็กด้วยอารมณ์ขุ่น ๆ 'ขำอะไรมิทราบ ?' 'พวกหนูก็ขำที่แผนรวบเหมาหมดของพ่อพังไม่เป็นท่าไงจ๊ะ ผู้หญิงของพ่อนี่นับวันจะยิ่งรู้ทันพ่อเข้าไปทุกทีแล้ว พ่อระวังเหอะอีกหน่อยจะแอบหนีเที่ยวไปไหนไม่ได้เอา' 'โอ๊ย ๆ ถ้าไม่คิดจะช่วย ก็ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะเลย คนยิ่งเครียด ๆ อยู่' 'คิก คิก เจ้าหนุ่มน้อยยอดรักของข้างอนเสียแล้ว เช่นนี้คงไม่สนใจหนทางแก้ไขเรื่องราวของเราแล้วกระมัง?' ร่างวิญญาณสีเขียวโปร่งของนางตะเคียนส่งเสียงหัวเราะร่วนขณะลอยร่อนลงมานอนคว่ำหน้าแนบสัมผัสกับร่างเนื้อของชายหนุ่ม 'พี่แก้วมีทางแก้เหรอ งั้นก็รีบบอกมาก่อนเลย' 'หากอยากจะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น อย่างน้อยก็ต้องพูดจาอ่อนหวานไพเราะหน่อยมิใช่หรือ?' 'พี่แก้วสุดสวย สุดที่รัก ช่วยผมหน่อยนะครับ' เอกเมื่อได้ยินว่ามีหนทางก็ยิ้มหวาน พูดชมนางตะเคียนออกมาไม่ขาดปาก พร้อมกับโอบแขนรัดรั้งรอบร่างวิญญาณของนางตะเคียนเอาไว้ ซึ่งแม้ว่ากายเนื้อและกายวิญญาณจะมิอาจสัมผัสได้โดยตรงหากมิได้ใช้เวทย์มนต์คาถา แต่เพียงเท่านี้นางตะเคียนแสนสวยก็พึงพอใจแล้ว 'คิก คิก หากบอกกล่าวด้วยความรักเช่นนี้แต่ทีแรกข้าก็คงยินดีกระทำการทุกอย่างให้เจ้าเองเสียตั้งแต่แรกแล้ว ... เจ้าลืมไปแล้วหรือไร ว่าเจ้ามีมนตราชั้นสูงอย่างมายามนตร์อยู่ในกำมือ' 'มีน่ะมีอยู่หรอกพี่แก้ว แต่ว่าผมใช้คาถาได้อย่างมากก็แค่สี่บทพร้อมกัน แต่นี่มีตั้งหกคน แล้วจะให้ผมใช้คาถายังไง' 'เจ้าเด็กน้อยอ่อนหัด ฝ่ายตรงข้ามมีหกคน แล้วเจ้ามีเพียงคนเดียวหรือไง เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้ายังมีนางตะเคียนใจดีเช่นข้าและสองเด็กน้อยรักยมที่น่าเกลียดน่าชังนั่นอยู่ข้างเจ้าอีก' 'โห ๆ คุณป้าใจร้ายหน้าเหี่ยวล่ะซิไม่ว่า พวกหนูน่ะยังเด็กน่ารักน่าเอ็นดูนะจ๊ะ ไม่ใช่แก่งั่กจนน่าเกลียดน่าชังแบบป้าแก้ว' 'ไอ้เจ้าพวกเด็กเลว ...' 'เดี๋ยว ๆ ๆ หยุด ๆ ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ... แก้ปัญหานี้ให้เสร็จก่อน แล้วจะไปทะเลาะที่ไหนก็ตามใจ' เมื่อคู่กัดที่ปรองดองกันได้เพียงครู่เดียวเริ่มหันมากัดกันเองอีกครั้ง เอกจึงต้องรีบส่งเสียงตวาดห้ามทัพไว้เสียก่อนไม่งั้นอาจจะบานปลายไปอีกไกล 'ก็ง่าย ๆ จ้ะพ่อจ๋า งานนี้พ่อก็ไม่ต้องเหนื่อยใช้คาถาให้มากด้วย เพราะต้องเก็บแรงไว้ฝึกหนักคืนนี้ แต่อันดับแรก พ่อต้องเลือกก่อน ว่าจะไปหาใครเป็นคนแรก ส่วนคนที่เหลือก็ให้พวกหนูกับป้าแก้วจัดการด้วยมนตร์มายาเอง แค่นี้ทุกคนก็จะคิดว่าพ่อไปหาตัวเองเป็นคนแรกเหมือนกันหมด' เอกพยักหน้าด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะนอนนิ่งใช้ความคิดใคร่ครวญอีกครู่ใหญ่ ซึ่งเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีชายหนุ่มก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังบานประตูที่ตัวเองได้เลือกไว้ โดยที่ในเวลาเดียวกันนั้นสองเด็กน้อยรักยม และนางตะเคียนก็เริ่มช่วยกันร่ายมนตร์มายาสร้างภาพหลอกหลอนให้กับอีกห้าสาวที่เหลือ ........................................................... ฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยจัดวางจานกระเบื้องที่เพิ่งถูกเช็ดจนแห้งขึ้นไปวางบนชั้นวางถ้วยชามด้วยดวงตาเหม่อลอย ก่อนจะหันใบหน้าเหลือบมองนาฬิกาในห้องครัวด้วยความรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง ช่วงเวลาห้านาทีที่เดินผ่านไปคล้ายสั้นกระชั้นเพียงชั่วพริบตา หากสำหรับเธอแล้วกลับรู้สึกราวกับเป็นห้านาทีแห่งการรอคอยที่แสนจะยาวนานจนแทบมิอาจทานทนไหว เหลือบมองไปทางประตูห้องครัวก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มที่เธอทั้งรักทั้งหลงจะเปิดประตูห้องครัวเข้ามาหาเสียที แรกทีเดียวเธอก็อดรู้สึกตื่นเต้นคาดหวังไม่ได้ ว่าเขาอาจจะเลือกเธอเป็นคนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านความคาดหวังจึงค่อยพังทลาย และโดนแทนที่ด้วยความรู้สึกหดหู่เศร้าเสียใจ 'สุดท้าย ... เราก็เป็นได้แค่เมียน้อยของเขาซินะ ... ฝ้ายเอ๊ย ตื่นซะทีเถอะ ... พี่เอกเค้ามีน้องหญิงเป็นคนรักอยู่แล้ว ... เธอน่ะเป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้นนะฝ้าย ...' ฝ้ายส่งเสียงรำพันรันทดกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองอ่างล้างจานด้วยดวงตาร้อนผ่าวปริ่มจะร้องร่ำไห้ออกมาด้วยความน้อยอกน้อยใจในชะตาของตัวเอง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายมีสาวสวยเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างน้องหญิงเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังคงมิอาจตัดใจ และแอบหวังว่าจะได้เป็นคนพิเศษของเขาบ้างสักครั้ง ซึ่งความจริงแล้วฝ้ายนั้นถือได้ว่าสวยเด่นไม่แพ้ใคร เรียกได้ว่าเป็นดาวของโรงพยาบาลที่ทำงานอยู่ก็ไม่ผิดเพี้ยน ไม่เพียงมีหน้าสะสวยเพียงอย่างเดียว หากยังมีผิวที่ขาวผุดผ่อง และทรวดทรงองค์เอวที่อวบอิ่มยั่วกิเลสจนชายหนุ่มและแก่ต่างต้องพากันน้ำลายสอนายแพทย์อนาคตไกลไม่รู้กี่คนที่พยายามแจกขนมจีบอยากได้เธอเป็นแฟน ไม่เว้นแม้แต่บรรดาคนไข้ที่ต่างก็หลงเสน่ห์จนแทบไม่ยอมออกจากโรงพยาบาล มีอาเสี่ยหลายคนถึงกับเสนอเงินจำนวนมากเพื่อให้เธอไปเป็นเมียน้อย แต่เธอกลับไม่รู้สึกสนใจผู้ชายเหล่านั้นแม้สักเศษเสี้ยว คล้ายกับว่าหัวใจและร่างกายของเธอมีเพียงที่ว่างเว้นไว้สำหรับเอกเพียงคนเดียวเท่านั้น ครืดดดด เสียงประตูห้องครัวที่ดังขึ้นเพียงแผ่วเบากลับทำเอาพยาบาลสาวแสนสวยอารมณ์โศกถึงกับสะดุ้งโหยง มือไม้ปั่นป่วนขึ้นมากระทันหันจนแก้วน้ำในมือเกือบจะหล่นตกลงไปอ่างล้างจาน แม้จะรู้ตัวแล้วว่ามีคนเข้ามา แต่ฝ้ายก็ยังคงยืนนิ่งหันหลังให้ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง หัวใจของเธอกำลังเต้นส่ำด้วยความปิติยินดีผสมผสานกับความสับสนหวาดหวั่นว่าเขาเลือกมาหาเธอเป็นคนแรกจริงหรือ หรือว่านี่เป็นเพียงความฝันที่หากเพียงเธอหันไป เขาก็จะสลายมลายหายวับไปกับอากาศธาต หรือคนที่เข้ามาคือเพื่อนสาวคนอื่นที่ไม่ได้รับเลือกเหมือนกัน "วันนี้กับข้าวที่ฝ้ายทำอร่อยมากเลย ถ้ารู้ว่าฝ้ายทำอาหารเก่งแบบนี้ คงจะขอให้ฝ้ายเป็นแม่ครัวทำให้กินทุกวันไปแล้ว" น้ำเสียงทุ้มต่ำและสัมผัสของฝ่ามืออันอบอุ่นที่ลูบไล้แตะสัมผัสต้นแขนของเธอราวกับเสียงจากสรวงสวรรค์ ความหวาดหวั่นพลันละลายหายสิ้น เหลือไว้แต่เพียงความตื้นตันยินดีที่ท่วมล้นปรี่ไปทั่วห้วงแห่งอารมณ์สุขสันต์จนอยากร้องกรี๊ดออกมา .... เขาเลือกเธอเป็นคนแรก !!!! "อ้าว ฝ้าย ร้องไห้ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย?" เขาถามไถ่ด้วยน้ำเสียงห่วงใยพร้อมกับสวมกอดมาจากทางด้านหลัง ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของชายคนรักทำให้เธอเพิ่งได้รู้สึกตัวว่าเธอเผลอเสียกิริยาร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจเสียแล้ว "ไม่เป็นอะไรค่ะ ... คือฝ้าย แค่ดีใจ ... ดีใจที่พี่เอกเลือกมาหาฝ้าย ... แต่แบบนี้จะดีเหรอคะ ... ฝ้ายไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ พี่เอกรีบไปหาน้องหญิงของพี่เอกเถอะค่ะ ฝ้ายเข้าใจดีว่าฝ้ายมาทีหลัง ..." "ฝ้ายอยากให้ไปจริง ๆ เหรอ?" "... ฝ้าย ... ฝ้าย ... ฝ้าย ..." "ถ้าฝ้ายอยากให้ไป ... งั้นพี่ไปหาคนอื่นดีมั้ย?" "ไม่ ... อย่าไปนะคะ ... พี่เอกอย่าเพิ่งไปนะ" ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยโอบอ้อมอารีย์คิดแทนคนอื่นทำให้ฝ้ายรู้สึกลังเลไม่อยากให้ชายคนรักของเธอมีปัญหากับผู้หญิงคนอื่น แต่เมื่อเขาทำท่าจะคลายอ้อมแขนจากไปจริง ๆ เธอกลับใจหายวาบจนต้องรีบคว้าแขนของเขาเอาไว้มิให้เขาถอยหนีหายไปที่ไหนอีก "ฝ้ายนี่ใจดีจังนะ เป็นห่วงแทนคนอื่นตลอด ... แต่ว่าบางครั้งคนเราก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อนบ้างนะ" ฝ้ายแอ่นตัวสยิวเมื่อชายหนุ่มจูบลงที่หัวไหล่ขาวผ่องกลมมนของเธอ หากความสยิวนั้นกลับไม่ได้สักเศษเสี้ยวของความสุขล้นที่ได้ทราบว่าเขาเข้าใจความคิดความอ่านในใจของเธอจนหมด "อืมมม ... ฝ้ายก็แค่เป็นห่วงพี่เอกน่ะคะ กลัวว่าจะมีปัญหากับคนอื่น ... อืมมมม พี่เอก ...." "เรื่องนั้นฝ้ายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ... ขอแค่ฝ้ายรับปากมาสองเรื่องก็พอ รับรองไม่มีปัญหา" "อืมมมมมม ระ เรื่องอะไรคะ .... อืออออ ... ฝ้ายยอมรับปากทุกเรื่องเลย" พยาบาลสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เพราะริมฝีปากของเขากำลังขบกัดไล้ไปตามลำคอขาวเนียนจนเธอขนลุกซู่ "เรื่องแรก ... ห้ามบอกใครว่าพี่มาหาฝ้าย ... สาบานได้มั้ย?" "... ได้ค่ะ ... ฝ้ายสาบาน อะ อืมมมมม ... พี่เอก ..." "ส่วนเรื่องที่สอง ... อย่าร้องครางเสียงดังนักล่ะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเข้า" "... พี่เอกอ่ะ !!! ... อุ๊ยยย อ๊อยยย ซี้ดดสสสส อืมมมมมมม อ๊อยยย" ฝ้ายพยายามส่งเสียงประท้วงด้วยความแง่งอน แต่แล้วก็ต้องเสียวจนตัวกระตุกร้องครางออกมา ยกทรงสีขาวสะอาดของเธอโดนเขาปลดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่คว้าหมับประคับประคองบีบเคล้นขยี้สองเต้าขนาดพอดีมือจนบี้แบน สัมผัสนั้นบ้างลูบไล้แผ่วเบาบ้างบีบขยี้ที่ปลายยอดอย่างหนักหน่วง ความเสียวสยิวจึงแล่นพล่านไปทั่วร่างจนสาวสวยอดไม่ได้ต้องแอ่นอกอวบส่ายเด้งเข้าหา "ฝ้ายขาวจัง ผิวก็เนียน ... โดยเฉพาะตอนที่ฝ้ายยอมแก้ผ้านอนราดน้ำสลัดกับผักบนตัวนี่น่ากินสุด ๆ ไว้ทำแบบนี้อีกนะ" "... ไม่เอาค่ะ แค่นี้ก็อายจะแย่ ... อูยสสสส อะ อึ๊ยยย อูยสสสส" ร่างขาวผ่องนวลเนียนยิ่งดิ้นพล่านหนักหน่วงขึ้น เพราะตอนนี้มือข้างหนึ่งของเขาได้ล้วงลึกเข้าไปสำรวจมุดกางเกงในบีบขยำบดขยี้ติ่งแตดของเธอเข้าอย่างจัง และยิ่งเมื่อเขาสอดปลายนิ้วแหย่ทะลวงความฉ่ำเยิ้มเข้าไปด้านในโพรงสวาท ร่างของเธอก็กระตุกเฮือกเหมือนโดนไฟฟ้าช๊อตอย่างต่อเนื่อง "ฝ้ายจ๋า ... เรามีลูกกันดีมั้ย?" "... ลูก !!!?" ฝ้ายทวนคำว่า "ลูก" ด้วยน้ำเสียงวาบหวิวตื่นเต้นสงสัย ความต้องการส่วนลึกที่แอบเก็บซุกซ่อนไว้ในส่วนลึกของจิตใจกลับโดนเขารื้อฟื้นขึ้นมา ความใฝ่ฝันอันสูงสุดของเธอนั้นคงจะเหมือนผู้หญิงหลายคน นั่นคือแต่งงานกับเขา และมีลูกน้อยวิ่งเล่นอยู่รายรอบ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่กล้าเปิดเผยความฝันนั้นออกมา เพราะสำนึกได้ว่าเธอมีสถานะเป็นเพียงเมียน้อยของเขา จึงมิกล้าเรียกร้องอะไรมากเกินไป แต่มาวันนี้เขากลับเป็นฝ่ายเสนอสิ่งที่เธอใฝ่ฝันอยากได้ให้กับเธอเสียเอง เธอจึงแทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า "อื้มมม ลูก ... ตอนนี้ฝ้ายกินยาคุมอยู่ใช่มั้ยล่ะ หยุดกินดีมั้ย แล้วเรามามีลูกด้วยกัน แต่เรื่องแต่งงานคงต้องรอให้น้องหญิงเรียนจบก่อนนะ แล้วค่อยแต่งพร้อมกัน ... เราปั๊มลูกกันซักโหลนึงเลยก็ได้ จะได้เอาไปตั้งทีมฟุตบอล" "พี่เอกอ่ะ ฝ้ายไม่ใช่หมูแม่พันธ์นะคะ จะได้มีลูกเป็นสิบคน ... อืมมม อ๊อยย .... อูยยยยยสสส ... พี่เอก .. อูยสสส" ฝ้ายส่งเสียงครางประท้วงด้วยความแง่งอน หากขณะนั้นไม่ทราบว่ากระแสความสุขทะลักออกมาจากที่ใด แต่มันกำลังท่วมท้นจนเธอแทบตั้งตัวไม่ติด 'เขาอยากมีลูกกับเธอ' ประโยคนี้สะท้อนก้องสลับไปมาอยู่ในหัวจนสุขล้นยิ่งกว่าครั้งคราใด ยิ่งเขาขยับมือหนึ่งมาลูบหน้าท้องเรียบเนียนของเธอด้วยแผ่วเบาทะนุถนอมราวกับว่ามีเด็กน้อยอยู่ภายใน เธอก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความรักที่กำลังท่วมทะลักล้น "งั้นถือว่าตกลงนะ เรามาทำลูกกันเลยดีกว่า เมียจ๋า" พูดจบฝ้ายก็พบว่าตัวเองโดนจับหมุนหันหน้าไปหาเขา จากนั้นก็โดนเขาจับยกขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างล่างจ้าน ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาแอบถอดกางเกงในของเธอออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเปลือยถ่างขาอ้าซ่าเรียบร้อยแล้ว ฝ้ายขัดเขินจนใบหน้าแดงซ่าน เธอยกมือขึ้นปิดบังหน้าอก และโคกสวาทแบบพอเป็นพิธี แต่แววตาก็บ่งบอกว่าพร้อมสนองตอบรับบทรักกับเขาอย่างเต็มที่ "อูยยสสสสส พี่เอกคะ ... อ๊าาาาา อือออออ อูยยยยสสสส" พยาบาลสาวสวยหลับตาปี๋ส่งเสียงร้องครางสะท้าน ร่างของชายหนุ่มขยับเข้ามาประกบแนบติดกับร่างของเธอ ดุ้นเอ็นที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้ากำลังสอดแทรกแหย่แยงเข้ามาในความคับแน่นของร่องสวาทอย่างเชื่องช้า เธอได้แต่ผวาโอบกอดรัดรั้งร่างแกร่งของชายหนุ่มสุดตัว ในหัวมีแต่เพียงสัมผัสรับรู้ถึงแรงตอดรัดที่ขมิบใส่ท่อนเนื้อแกร่ง ตั้งแต่เริ่มสอดใส่ จวบจนกระทั่งสิ่งนั้นสอดลึกเข้าไปจนเกือบสุดทาง "ซี้ดสสสส อ๊อยยย พี่เอก อื๊อออ อืมมม เข้ามาอีก ... อ๊อยยย อีกนิดนึง ... เข้ามาอีกนิดนึง ... อึ๊ยยย ..." ชายหนุ่มหยุดยั้งการเคลื่อนไหวลงชั่วคราวเพื่อให้ร่องรักของอีกฝ่ายปรับตัว แต่พยาบาลสาวสวยกลับพยายามเด้งสะโพกยุกยิกไปมาเพราะรับรู้ได้ว่ายังมีที่ว่างหลงเหลือให้เขารุกล้ำเข้ามาได้อีกหน่อย และการกระทำของเธอก็ประสบผลสำเร็จ ส่วนปลายของดุ้นเอ็นสอดลึกเข้าไปจนสัมผัสลึกถึงส่วนในสุด หลังจากนั้นเสียงครางซี้ดซ้าดที่พยายามกดข่มไว้ก็ค่อยทวีดังขึ้น เช่นเดียวกันกับเสียงกระแทกเอวที่ยิ่งมายิ่งดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกันนั้นเสียงแก๊ง ๆ ของจานชามบนชั้นวางที่กระทบกระทั่งกันเพราะแรงสั่นสะเทือนก็ดังประสานด้วยอีกแรง "อูยยสสส ฝ้ายจ๋าฟิตดีจัง" ชายหนุ่มเสพสมกับร่างงามพลางส่งเสียงร้องครางกระเส่าด้วยความมันส์สะใจ เขาเร่งเดินเครื่องกระแทกบดบี้ไปทั่วทุกทิศทุกทาง เดี๋ยวแยงซ้าย เดี๋ยวแยงขวา เดี๋ยวเสยบน เดี๋ยวเสยล่าง สอดใส่จนร่องรูคับแน่นเล็กจ้อยเปิดอ้าเป็นโพรงขนาดพอดีรับกับดุ้นเอ็นอันเขื่อง "อ๊ายยย ซี้ดดสสส ฝ้ายจะไม่ไหวแล้ว พี่เอก อย่าหยุดนะคะ ซี้ดสสสส" สาวสวยส่ายร่อนสะโพกแอ่นรับการจู่โจมอย่างเต็มที่ เพื่อปลดปล่อยเพลิงไฟที่ใกล้จะระเบิด และเอกก็ตอบสนองเธออย่างเต็มที่เช่นกัน เขาแอ่นเอวอัดกระเด้าท่อนเนื้ออันอวบใหญ่เข้าใส่ร่องหลืบราวกับลูกสูบเครื่องยนต์ สองมือหนึ่งปากก็ลูบโล้มไล้เลียวนปุกเร้าอารมณ์กระสันของเธออย่างต่อเนื่อง "ซี้ดสสส อะ อูวววว อะ อะ อ๊าาาาาาาาาาา" ความหฤหรรษ์สุดเสียวปลุกเร้าจนฝ้ายมิอาจทานทน เธอผวากอดรัดร่างของเขาสุดแรง อ้าปากขบงับหัวไหล่ของเขา เพื่อห้ามมิให้ตนเองเผลอผิดสัญญาส่งเสียงกรีดร้องออกมา ซึ่งมันก็ได้ผลอยู่บ้าง เพียงแต่การห้ามตนเองเช่นนี้กลับยิ่งทำเอากล้ามเนื้อของเธอบิดกระหวัดเกร็งหนักหน่วงกว่าเดิมจนกระตุกเฮือกไม่หยุด "ฝ้ายขี้โกงนี่นา เล่นขึ้นสวรรค์ไปก่อนแบบนี้ พี่ยังไม่เสร็จเลย แล้วแบบนี้จะมีเด็กได้ไง?" ชายหนุ่มพูดหยอกล้อกับสาวสวยขณะจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานรูปไข่ที่กำลังบิดเบี้ยวเหยเกด้วยรสเสียวสุดหฤหรรษ์ แต่เมื่อเธอยังคงตัวกระตุกเร่าระริกมิอาจเอ่ยปากตอบคำ เขาก็ฆ่าเวลาเล่นด้วยการเอื้อมมือไปล้วงควานหาอะไรบางอย่างในตะกร้าผักผลไม้ที่อยู่ใกล้มือ จากนั้นก็กระตุกบั้นเอวกระแทกใส่เบา ๆ พร้อมกับก้มหน้าก้มตาลงไปดูดเลียที่ทรวงอกอิ่มกระตุ้นเร้าอารมณ์ของเธอไปพลาง จนกระทั่งฝ้ายเริ่มคลายจากความเสียว เธอก็มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม แล้วก็พูดออกมาด้วยท่าทีเอียงอายว่า "... พี่เอกก็ทำอีกหลาย ๆ รอบซิคะ ..." ชายหนุ่มยิ้มกริ่มตอบรับ ก่อนจะจับเอาร่างอ้อนแอ้นบอบบางของพยาบาลสาวแสนสวยหมุนตัวหันหลังให้เขา ผลักเบา ๆ ดันให้เธอก้มหน้าลงไปใช้มือค้ำยันอยู่กับอ่างล้างจาน ฟาดฝ่ามือสะบัดตีเนื้อสะโพกขาวผ่องงามงอนด้วยความแรงพอประมาณจนเนื้อขาวดั่งหยวกแดงปื้น และเมื่อเธอสะดุ้งโหยงอ้าปากหวอออกมา เขาก็จับเอามะเขือยาวขนาดกำลังเต็มปากเต็มคำยัดใส่เข้าไปในปากของฝ้าย พร้อมกับจับดุ้นเอ็นกดพรวดทะลวงจากทางด้านหลังอัดเข้าไปจนเต็มร่องหลืบที่เปียกเยิ้มอยู่แล้ว "อ๊อยยยย .... อืออออ ... อืมมมมม ... อืมมมมมม" เป็นที่แน่นอนว่าสาวหวานใสซื่อเช่นฝ้าย ย่อมไม่เคยมีความคิดอุตริอยากเล่นเซ็กส์กับสิ่งอื่นนอกจากชายคนรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาพืชผักสวนครัวอย่างมะเขือยาว เธอจึงทำท่าจะอ้าปากสะบัดใบหน้าคายเจ้าแท่งแข็ง ๆ อันนี้ออกไปจากปาก แต่เมื่อเขาเร่งเครื่องกระเด้าซอยยิกอัดกระหน่ำแรงขึ้นแรงขึ้น ความกระสันที่กำลังปั่นป่วนก็ทำให้เธออดไม่ได้ต้องใช้ลิ้นเลียดูดวนไอ้เจ้ามะเขือยาวในปากด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน ก่อนจะพานพบว่าการทำแบบนี้มันก็ได้อารมณ์เสียวน่าลิ้มลองไปอีกแบบเหมือนกัน เธอจึงค่อยปลดปล่อยตัวตนส่งเสียงร้องครางผงกหัวเด้งสะโพกโยกเอวไปตามจังหวะแห่งรักที่เขาปรนเปรอให้ เพราะอย่างไรเสียวันนี้เขาก็ได้เลือกเธอให้เป็นคนพิเศษคนแรกก่อนผู้หญิงคนอื่นแล้ว แล้วเธอจะยังต้องการอะไรอีก? นึกเพียงข้อนี้ข้อเดียว ความสุขก็พลุ่งพล่านอยู่ในอกจนล้นปรี่ ร่างกายตอบสนองลีลารักสุดชีวิต ด้วยอยากดูดกลืนเอาน้ำเชื้อของเขาเข้าไปในร่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่กระนั้นบางครั้งสิ่งที่ตัวเองรับรู้ กับสิ่งที่เป็นความจริงก็อาจมิใช่สิ่งเดียวกันเสมอไป เพราะในขณะที่เธอกำลังมีความสุขสุดเสียวจนร่ำร้องเสียงหลงอยู่นี้ เพื่อนสาวร่วมสามีอีกทั้งห้าคน ต่างก็กำลังร่ำร้องครวญครางเสียงหลงอยู่ในห้องหอของตัวเองเช่นเดียวกัน ........................................................... ดวงตาสวยคมของพริตตี้สาวสวยระดับท๊อปของค่ายรถยนต์ยี่ห้อดังเหม่อมองจ้องท้องฟ้าที่ไร้เงาจันทร์จากระเบียงห้องอย่างเงียบเชียบเปล่าเปลี่ยว เรือนร่างบอบบางของนางแบบสาวสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อสายลมพัดผ่านลูบไล้ผิวพรรณเปล่งปลั่งที่แทบมิมีอาภรณ์ห่มสวมคลุม หากเจ้าตัวกลับไม่มีความคิดจะหยิบฉวยเอาผ้าผ่อนที่ตากไว้บนระเบียงห้องมาสวมคลุมคลายหนาวสักนิด ฝนแอบชำเลืองมองไปทางประตูระเบียงอีกครั้งด้วยหวังว่าใครคนนั้นจะเปิดออกมา หากทว่าประตูบานนั้นก็ยังคงปิดสนิทนิ่ง ทิ้งเธอให้จมจ่อมอยู่กับความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเพียงลำพัง นางแบบสาวสวยทอดถอนหายใจจนสองเต้าอวบที่มีเพียงยกทรงสีดำแบบครึ่งเต้ารัดรั้งเอาไว้สั่นกระเพื่อม บั้นท้ายงามงอนที่มีเพียงกางเกงในสีดำตัวเล็กจิ๋วส่ายไปมาอย่างเชื่องช้าตามจังหวะที่เธอส่งเสียงฮัมเพลงจังหวะเร็วร้อนแรงออกมาอย่างเดียวดาย แม้จะแอบทำใจไว้อยู่บ้างแล้ว ว่าพี่เอกของเธออาจจะเลือกไปหาคนอื่นก่อน แต่ก็อดเจ็บแปลบในใจไม่ได้ที่ตนเองถูกมองเป็นเพียงตัวสำรอง เพราะจะอย่างไรเสียเธอเองก็เป็นถึงนางแบบสาวสวยระดับท๊อปที่มีแต่ผู้ชายหมายปองจนนับหัวแทบไม่หวาดไม่ไหว กระนั้นเมื่อต้องมาอยู่ในดงสาวงามที่คล้ายกับฮาเร็มแห่งนี้เธอก็อดไม่ได้ให้รู้สึกสูญเสียความมั่นใจไปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นฝ้ายที่เป็นเพื่อนรักของเธอก็สวยหวานเรียบร้อยดั่งกุลสตรีไทย ที่ไม่ว่าชายใดก็อยากจะได้ไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน ส่วนฟ้าสาวหมวยนิสัยห่าม ๆ คล้ายทอมคนนั้นก็สวยน่ารักสดใสสมวัยไม่ด้อยไปกว่าเธอ น้องมายด์แม้จะยังเด็กกระเปี๊ยกไปบ้าง แต่ก็มองเห็นเค้าลางแห่งความสวยน่ารักน่าหลงไหลอยู่ไม่น้อย คาดเดาได้ไม่ยากว่าอีกไม่กี่ปี น้องมายด์คนนี้จะต้องเติบใหญ่เป็นสาวรุ่นที่สวยสง่าเป็นดารานางแบบได้สบาย ๆ ส่วนด้านน้องเมย์สาวหน้ามัธยมนมมหาลัยนั่นก็อีกคน อายุก็แค่นี้เอง แต่ไม่รู้ว่าไปสรรหาเนื้อนมไข่มาจากที่ไหนจนเธออดไม่ได้ต้องแอบอิจฉาอยากมีหน้าอกหน้าใจที่แทบจะล้นทะลักแบบเด็กสาวรุ่นน้องคนนั้นบ้าง กระนั้นที่สร้างความหนักใจให้กับเธอมากที่สุด ก็คงจะเป็นน้องหญิง คุณหนูไฮโซ ดาวมหาลัยสุดสวยคนนั้น ไม่รู้ว่าทำบุญมาด้วยอะไรจึงได้สวยสมบูรณ์เพียบพร้อมจนมิอาจหาที่ติ รูปร่างหน้าตาสวยสง่าดั่งนางฟ้า หน้าอกหน้าใจก็อวบอิ่มทะลักล้นชวนมอง ผิวพรรณก็ขาวเนียนเป็นประกายระยิบระยับสะอาดตาไปเสียทุกสัดส่วน ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรที่จะทำให้พี่เอกของเธอคลั่งไคล้หลงไหลได้มากกว่าใครอื่น ความเหงาทำให้นางแบบสาวอดคิดถึง 'ป๋า' ของเธอขึ้นมาอย่างกระทันหัน ซึ่งป๋าคนนั้นก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณพ่อทางสายเลือดของน้องหญิงนั่นเอง หากลองถามตัวเองว่าจะมีใครสักคนที่พร้อมจะโอบกอดเทคแคร์ดูแลเธอตลอดไปแล้วล่ะก็ ฝนก็คงจะนึกถึงป๋าคนนี้เป็นคนแรก ความจริงใจที่เขามีให้ ผนวกกับการกระทำที่คอยดูแลเอาใจเธออย่างอบอุ่นมาตลอดเวลาทำให้เธอรู้สึกวาบหวามใจไม่น้อย อย่างเช่นเช้าวันนี้ เขาก็พาเธอไปเที่ยวเล่นเอาอกเอาใจเสมือนว่าเป็นสามีภรรยากัน แม้จะปิดท้ายได้ไม่ค่อยสวย เพราะเขาพาเธอไปขึ้นเตียงที่บ้าน แล้วชิงเสร็จก่อนเธอไปตั้งสองครั้งก่อนจะหลับผบอยไป โดยที่เธอยังไม่ทันถึงจุดสุดยอดก็ตามที อารมณ์ที่ค้างคาทำให้เธอบ้าบิ่นไม่น้อย เพราะเมื่อลุงสม ชายแก่ผิวดำมะเมื่อมเจ้าของตำแหน่งคนขับรถประจำคฤหาสน์ของป๋าพาเธอมาส่ง เธอก็เลือกนั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วแอบเปิดกระโปรงร่นจนเห็นกางเกงใน วินาทีนั้นเธอยอมรับว่าเธอมีความต้องการสูงมาก ในหัวมีแต่ภาพดุ้นเอ็นสีดำมะเมื่อมของลุงสมเต็มไปหมดจนน้ำลายสอ แต่ลุงสมในวันนี้กลับแปลกไป แม้จะมองเธอด้วยสายตาหื่นกามแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่าง แม้กระทั่งเธอยอมลดตัวทอดสะพานเอื้อมมือไปลูบขาของลุงสมก็แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับเพียงร้องอูยเหมือนเจ็บปวดแล้วขยับขาหนีมือของเธอไปเอง สุดท้ายเธอก็เลยได้แต่สั่งให้ลุงสมมาส่งเธอที่คอนโดของพี่เอกด้วยอารมณ์หงุดหงิด ฝนเคยถามตัวเองหลายครั้งหลายคราว่า ความคิดที่เปิดกว้างเกินไปในเรื่องเซ็กส์ของเธอเป็นสิ่งไม่ดีหรือไม่ ผู้หญิงที่ดีควรจะรักนวลสงวนตัวพลีกายให้ชายเพียงคนเดียวแบบฝ้ายจริงหรือ แต่คำตอบที่ตัวเองได้ก็คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงหัวโบราณแบบนั้น เธอรู้สึกพอใจป๋า เธอก็ร่วมรักด้วย ต่างคนต่างมีความสุขแล้วก็จบกันไปเมื่อเธอมีความต้องการ ลุงสมสามารถช่วยเหลือเธอได้ แล้วหากเธอจะใช้เขาให้เป็นที่ระบายอารมณ์เปลี่ยวแล้วเธอผิดตรงไหน เพราะทีผู้ชายยังมีผู้หญิงไว้ระบายความใคร่ได้ตั้งหลายคน เธอต้องการมีชีวิตที่อิสระ อยากจะไปโบยบินไปที่ไหนก็ได้มากกว่าที่จะโดนล่ามตรวนอยู่กับที่ แต่เธอก็ยังคงแอบหวังเอาไว้ ว่าพี่เอกคนที่เธอหลงรักและแคร์ที่สุดในโลกจะยอมโบยบินเคียงคู่ไปกับเธอด้วย ใช่แล้ว เขาคนนี้แหละที่เธอต้องการ ... ฝนหลับตาพริ้มคิดจินตนาการถึงพี่เอกตั้งแต่แรกพบ ร่างอวบอิ่มสะท้านใจชายสั่นน้อยระริกเมื่อนึกไปถึงเจ้าท่อนเนื้อดุ้นใหญ่ของเขา เธอยังจำความรู้สึกสุดยอดตอนที่มันเสียบกระทุ้งใส่เข้าไปในตัวเธอได้เป็นอย่างดี มันเสียวสุดยอดยิ่งกว่ารสเสียวที่ได้รับจากชายใดนับร้อยนับพันเท่า ซึ่งเพียงแค่เธอนึกถึงเท่านั้นท่อนขาขาวเรียวยาวก็เริ่มขยับเบียดเข้าหากันแน่นขึ้นด้วยความรู้สึกวาบหวิวปั่นป่วนที่ร่องหลืบ "อะ ... อาา ... พี่เอกใจร้าย ... ซี้ดสสส ฝนเงี่ยนจัง ... อูววว ... ใครก็ได้มาช่วยที" สาวสวยร้องครางซี้ดซ้าดด้วยอารมณ์เปลี่ยวอยู่ตรงระเบียงห้อง เมื่อเธอเลื่อนมือลงไปด้านล่างตรงกลางหว่างขา มือนุ่มนิ่มบีบคลึงโหนกเนื้อนูนเบา ๆ ปลายนิ้วเบียดกลีบเสียวแทรกเข้าไปด้านใน เธอคว้านปลายนิ้วไปมาในโพรงสวาทที่เปียกชุ่มฉ่ำ ก่อนที่จะใช้อีกมือเอานิ้วมาวน ๆ บดบี้รอบ ๆ ติ่งเสียว ความเสียวซ่านรุมเร้าเข้ามามากขึ้นและมากขึ้น สะโพกอวบอัดส่ายร่อนไม่อยู่นิ่ง พร้อมกับสองขาที่ยิ่งถ่างอ้าออกกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ มือน้อย ๆ เร่งรีบถูไถไปมาทั่วเนินเสียวเร็วขึ้น แรงขึ้น ดวงตาคู่สวยสอดส่ายกวาดมองลงไปยังเบื้องล่างที่มีแสงไฟจากหน้ารถวิ่งสวนไปมาขวักไขว่ หากทว่าไม่มีใครสักคนเลยที่จะมองเห็นเธอ หัวใจของเธอตะโกนร่ำร้องภาวนา เธออยู่ตรงนี้ จะมีใครสักคนไหมที่จะมองเห็นเธอ และมาช่วยเธอระบายความงุ่นง่าน จะเป็นใครก็ได้ ขอให้มาช่วยให้เธอเสร็จได้ก็เพียงพอแล้ว พริบตานั้นบังเกิดฟ้าแลบสว่างวาบทำลายความมืดขึ้นมาแวบหนึ่ง ฝนสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อเสี้ยววินาทีนั้นเหลือบไปมองเห็นเงาร่างของใครอีกคนปรากฎขึ้นมาอย่างกระทันหันที่ข้างกายของเธอ หากเมื่อแสงจากฟ้าแลบนั้นหายไป ความมืดมิดก็ห่มคลุมเข้ามาปกปิดระเบียงห้องจนมืดสลัวอีกครั้ง เสียงเปรี๊ยะของฟ้าแลบเพิ่งมาถึง ฝนก็ถอยกรูดหนีเงาร่างดำมืดทะมึนที่ขยับใกล้เข้ามาจนสะโพกผึ่งผายชนกระแทกเข้ากับราวระเบียง เธอสลับมองไปยังประตูระเบียงด้วยความงุนงง ประตูระเบียงไม่ได้เปิดออกอย่างแน่นอน และนั่นก็หมายความว่าเงาร่างนี้ไม่ได้ออกมาจากห้องพัก หรือว่าจะปีนมาจากระเบียงห้องข้าง ๆ ? "ใครน่ะ อย่าเข้ามานะ" ฝนพูดขู่ด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว แต่เจ้าเงาร่างนั้นก็มิได้ตอบอะไร นอกจากส่งเสียงหัวเราะร่วนที่คล้ายคุ้นเคยคล้ายไม่คุ้นเคยออกมา แต่ที่เธอรู้ได้ตอนนี้ก็คือเจ้าเงาร่างนั้นจะต้องเป็นผู้ชายแน่นอน "ว้ายยยย !!!" พริตตี้สาวร้องเสียงหลง เมื่อชายคนนั้นเอื้อมมือมาคว้าจับแขน แล้วเหวี่ยงร่างเกือบเปลือยของเธอจนร่างด้านหน้ากระแทกชนเข้ากับประตูระเบียงที่เป็นกระจกใสดังตุบ จากนั้นร่างในเงามืดก็ตามติดเข้ามาแนบประกบร่างของเธอจากด้านหลัง มือข้างหนึ่งหยิบฉวยเอากางเกงในผ้าลื่นที่ตากไว้มายัดปิดปากของเธอ ในขณะที่อีกข้างก็คว้าจับล๊อคบริเวณหน้าท้องของเธอราวกับคีมเหล็กจนกระดุกกระดิกร่างแทบไม่ได้สักนิด "สวย เซ็กส์ซี่ น่าปี้ขนาดนี้ ทำไมมายืนตกเบ็ดอยู่คนเดียวล่ะจ๊ะคนสวย?" น้ำเสียงหื่นกระหายของชายปริศนาคนนั้นกระซิบดังที่ข้างใบหู เป็นอีกครั้งที่ฝนรู้สึกว่าน้ำเสียงนั้นคลับคล้ายกับพี่เอกของเธออยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เธอจึงพยายามออกแรงดิ้นรนต่อต้านขัดขืนอ้อมกอดนั้น แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงไร ร่างของเธอก็ยังคงโดนกดแนบกับบานประตู และได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขาเช่นเดิม "อื๊อออออ ..... อื้อออออออ .... " ฝนพยายามส่งเสียงประท้วงต่อต้าน หากแต่เมื่อมีผ้ายัดอยู่ในปาก เธอจึงได้แต่เพียงส่งเสียงร้องห้ามปรามดังอู้อี้อยู่ในลำคอ ร่างนางแบบสะดุ้งเฮือกเมื่อชายคนนั้นกระชากดึงยกทรงสีดำของเธอดังปึ้ดจนขาดหลุดลุ่ยออกไปจากร่าง ไม่ทันที่เธอจะขัดขวางได้ทัน ร่างท่อนบนของเธอก็เปล่าเปลือยอวดเต้านมกลมกลึงออกมาท้าทายสายลมหนาวเสียแล้ว หากนั่นดูเหมือนจะยังไม่สาแก่ใจของอีกฝ่าย เพราะพริบตาถัดมากางเกงในที่เป็นอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายบนร่างก็โดนเขาออกแรงกระชากทีเดียวหลุดลุ่ยออกจากร่างเธอไปเช่นกัน "อื๊ออออออ ..... อื้อออออออ .... " พริตตี้สาวร้องเสียงหลง เขาเดินหน้าอัดแนบร่างเข้าหาเธอมากขึ้น ดันร่างเปล่าเปลือยของเธอจนแนบเข้ากับบานประตูกระจกใสจนแทบหายใจหายคอไม่ออก สองเต้าอวบอิ่มขนาดกำลังดีโดนกดบดเบียดจนแทบบี้แบนอยู่ตรงนั้น ปลายนิ้วของผู้บุกรุกก็ร้ายเหลือ เพราะเผลอคลายการหนีบขาเพียงพริบตาเดียว ก็โดนปลายนิ้วของเขากดแทรกเกี่ยวแยงเข้าไปซอยยิกในร่องเสียแล้วเมื่อปราการป้องกันด่านสำคัญพังทลาย ฝนก็แทบไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านอีกแล้ว เพราะยิ่งเธอพยายามฝืนหนีบขาเข้าหากัน นิ้วของเขาก็ยิ่งครูดคราดกับผนังร่องด้านในแรงขึ้นจนเสียวซี้ดน้ำไหลเยิ้ม กระตุกเร่าไปทั้งตัว นอกจากนี้ที่ด้านหลังก็ยังมีท่อนเนื้อที่แข็งและร้อนผ่าวดุจแทงเหล็กกำลังเบียดอยู่กับร่องก้นของเธออีกทาง และเท่าที่สัมผัสได้นั้นดุ้นของชายคนนั้นก็ใหญ่ไม่น้อย "อูวววว ... อื้อออออ ... อูววววว" ฝนสูดปากสั่นระริกตัวเกร็งแล้วเกร็งอีก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอหยุดเคลื่อนไหวต่อต้านขัดขืน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังจะโดนใครก็ไม่รู้ข่มขืนกระทำชำเรา แต่ความเสียวที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างนั้นก็ยากจะให้ทำการปฎิเสธได้ เลือดเนื้อวัยสาวคล้ายกำลังพออกพอใจกับสัมผัสกระด้างร้อนแรงของอีกฝ่าย และเธอเองก็เช่นกัน เธอกำลังตื่นเต้นมีอารมณ์ร่วมไปกับการโดนข่มขืนด้วยเสียแล้ว "เงี่ยน ยอมแล้วล่ะซิ?" ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงหื่น ที่ฝนรู้สึกอีกครั้งว่ามันฟังดูคุ้นหูไม่น้อย เขาหายใจส่งเสียงฟืดฟาดหนักหน่วงขณะอ้าปากงับกัดซุกไซร้ไล่ไปตามซอกคอของเธอแล้วกัดฝากรอยฟันเอาไว้เป็นหย่อม ๆ จนเธอสะดุ้งโหยงรอบแล้วรอบเล่า แต่การกระทำนั้นกลับสร้างความเสียวระทึกเร้าใจให้กับเธอได้มากมายเหลือเกิน มากเสียจนน้ำรักหลั่งไหลออกมาจากร่องจนแฉะเยิ้มยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ครั้งไหน ๆ "อะ อูยยสสส อะ อูยยยสสสส อูยยสสส" ฝนร้องครางออกมาเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายสอดแทรกความใหญ่ยักษ์ยัดเยียดเข้าไปในร่องของเธอจากด้านหลังแบบไม่ให้เตรียมเนื้อเตรียมตัว จากนั้นก็ได้แต่อ้าปากค้างน้ำลายสอเพราะโดนเขากระเด้ากระแทกเข้าใส่แบบไม่ยั้ง เนื้อหน้าขาของเขากระแทกสะโพกก้นของเธอดังปั่บปั่บถี่ยิบ ร่างของเธอก็กระแทกกับประตูกระจกดังกึกกึกไม่หยุด แต่เสียงที่ฟังดูเร้าใจที่สุดก็คงเป็นเสียงของสองเต้าที่เบียดถูไถกับกระจกเรียบลื่นดังกี๊ด ๆ เหมือนกับตอนใช้ฟองน้ำขัดถูกับกระจก “อะ. อะ อะ อะ.อะ... ซีดสสสส ...... อูววว ... อูวววว ... อูวววว ... เสียว อูวววว เสียว ซี้ดสสสสส” เหมือนอีกฝ่ายจะเห็นเธอเป็นเนื้อในเขียง จึงล้วงมือเอากางเกงในที่ยัดปากเธอไว้ออกมาโยนทิ้ง เมื่อปากเป็นอิสระแทนที่จะร้องห้าม กลับเอาแต่ส่งเสียงเสียงครางรับกับจังหวะการโหมกระเด้าของชายหนุ่มที่ค่อยเร่งความเร็วขึ้นโดยไม่มีการหยุดพัก ป้าบ ป้าบ ป้าบ เสียงกระแทกดังสนั่นถี่ยิบ ผสานผสมกับเสียงเนื้อนมเต่งเบียดถูกับเนื้อกระจก แต่เสียงเหมือนใช้ฟองน้ำถูกระจกก็ส่งเสียงดังเพียงไม่นานนัก เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนใจเอื้อมมือมาบีบขยำขยี้จนนมต้มแทบปริแตก “โอ๊วววววสสสสส เสียว อะ อู๊ววววววววววววววว ซี้ดดสสสสสสสส อะ อูววววว จะเสร็จแล้ว อะ อะ โอ๊ววววว” ฝนใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกในความกระสันที่ใกล้ระเบิด ปลายเล็บทั้งสิบเกร็งจิกเข้าหาแผ่นกระจกใส ขณะพยายามอ้าสองขาถ่างออกจนสุดหล้า พร้อมกับร่อนแอ่นโคกสวาทเข้าหาอย่างร้อนร่าน ด้วยอยากให้อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามาให้ลึกจนสุดทาง และเมื่อโดนเขากระเด้าอย่างเมามันส์อีกเพียงครู่เดียว พริตตี้สาวก็หวีดร้องออกมาสุดเสียงร่างขาวโพลนเต่งตึงยังไม่ทันจะคลายจากอาการเกร็ง ก็โดนเหวี่ยงสะบัดไปยืนโก้งโค้งที่รั้วระเบียง ร่างท่อนบนอันเปลือยเปล่าโดนกดโน้มก้มออกไปด้านนอกระเบียงจนหมิ่นเหม่ว่าจะร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง แต่ท่อนล่างนั้นกลับโดนโดนยึดตรึงไว้อย่างแน่นหนาด้วยร่างอันแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ส่วนสองมือก็โดนเขาจับยึดขึงรั้งร่างของเธอไว้ราวกับสะพานแขวน เขาเริ่มโยกเอวกระหน่ำกระแทกรัวใส่อีกครั้งแบบไม่ถามไถ่สักคำ ฝนนั้นแม้จะกลัวแทบแย่ว่าร่างจะร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง แต่ก็อดไม่ได้ให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจในลีลาดิบเถื่อนสุ่มเสี่ยงในแบบที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน เรือนร่างมากราคะของเธอจึงเด้งแอ่นกระดกสะโพกโยกเอวตอบสนองลีลารักของเขาสุดชีวิตฝนแทบจะสลบเหมือดให้กับสุดยอดแห่งความหฤหรรษ์ในครั้งนี้ เพราะนอกจากเธอจะตื่นเต้นมีอารมณ์ร่วมสุดฤทธ์แล้ว อีกฝ่ายก็ยังมีความอึดถึกทรหดอดทนและลีลาดีเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง บัดเดี๋ยวก็กระแทกไปทางซ้าย แล้วก็ย้ายไปทางขวา บ้างเสยขึ้น บ้างเสยลง มีเร่ง มีผ่อน มีหนัก มีเบา มีลึก มีตื้น เรียกได้ว่าทุกจุดเสียวในร่องสวาทคงไม่มีจุดไหนเลยที่สามารถหลบซ่อนเร้นจากสัมผัสแข็งกระด้างของดุ้นเอ็นยาวใหญ่ดุ้นนี้ได้ เขากระเด้าไม่หยุดจนพริตตี้สาวเสร็จสมส่งเสียงหวีดร้องติดกันอีกสองรอบ ก่อนจะดึงครึ่งร่างที่ห้อยโหนอยู่กลางอากาศกลับมาเข้ามาด้านใน ร่างอวบอัดที่อ่อนแรงกระปลกกระเปลี้ยโดนพยุงลงนั่งบนร่างของเขาที่นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ เธอสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนแห่งราคะจากร่างของเขาผ่านแผ่นหลัง สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งแห่งเรือนร่างเพศชาย สัมผัสได้ถึงอารมณ์กลัดมันที่ยังคงอัดแน่นจนล้นปรี่ในร่างนั้น ซึ่งก็แน่ล่ะ เพราะเขายังไม่เสร็จเลยสักครั้ง "ร่านจังเลยนะ" เสียงแหบกระด้างที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ หึ หึ ทำเอาฝนรู้สึกฉุนกึกอยากจะต่อว่าอีกฝ่ายขึ้นมาบ้าง แต่ร่างกายกลับอ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงจนแทบทำอะไรไม่ไหว อีกทั้งยังไม่มีคำพูดอะไรจะไปแก้ตัวกับเขาด้วย เพราะเธอก็ร่านจริง ๆ อย่างที่เขาว่าน่ะแหละ มีอย่างที่ไหนดันไปมีอารมณ์ร่วมกับใครก็ไม่รู้ที่มาข่มขืนเธอ "อยากโดนอีกมั้ย? " เขากระซิบถามเสียงอ่อนหวานลงขณะพรมจูบซุกไซร้ไปทั่วใบหูและปรางแก้ม สองมือก็เริ่มทำตัวซุกซนบีบขยำขยี้ลูบไล้ไปตามเรือนร่างจนเธอเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่จะอย่างไรเธอเองก็เป็นผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีในตัวเองอยู่บ้าง อีกทั้งก็เผลอตัวจนได้ระบายความอยากออกไปไม่น้อย ก็เลยพยายามฝืนใจตัวเองตอบปฎิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้า "... ไม่ ..." "แน่ใจนะ ว่าไม่อยาก เอ้า ให้ตอบใหม่ ถ้ายังตอบว่าไม่อีกที ก็จะไปแล้ว" "........ ไม่" ฝนลังเลอยู่ครู่ใหญ่ แต่สุดท้ายก็รวบรวมสติพูดปฎิเสธไปได้จนสำเร็จ กระนั้นในใจเธอกลับคิดไปว่า ต่อให้เธอปฎิเสธยังไง อีกฝ่ายก็คงไม่มีทางปล่อยเธอไปให้โง่อยู่แล้ว "โอเค งั้นไปล่ะ เหตการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เพราะอีกฝ่ายกลับทำตัวว่าง่ายขึ้นมากระทันหัน เขาพูดเสียงอ่อนหวานแล้วหอมแก้มของเธอหนึ่งฟอด ก่อนจะลุกขึ้นยืน ปล่อยวางร่างเปลือยของเธอนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้แบบไม่มีท่าทีลังเลสักนิด แถมยังหันหลังเดินไปทางรั้วระเบียงทำท่าเหมือนจะปีนออกไปห้องข้าง ๆ อีกต่างหาก ฝนที่เพิ่งโดนข่มขืนมาหมาด ๆ ก็เลยต้องกลายเป็นฝ่ายส่งเสียงยื้ออีกฝ่ายไว้แทน ".. ดะ ... เดี๋ยว ... นาย ..." "ว่าไง?" "... นายจะไปไหน ? อยู่ห้องข้าง ๆ นี้เหรอ?" "อย่างอื่นไม่อยากคุย ขอถามคำเดียวว่าอยากโดนอีกมั้ย? ตอบมาให้ชัด ๆ" "..." "งั้นไปล่ะนะ" ฝนรู้สึกสับสนปั่นป่วนจนแทบคลั่ง อีกฝ่ายทำตัวคล้ายสายลมที่คิดจะมาก็มา พอปลุกปล้ำข่มขืนเธอจนสำเร็จแล้วก็จะจากไปอย่างไม่ใยดี ทั้งยังพยายามบีบให้เธอเป็นฝ่ายออกปากร้องขอเองอีกต่างหาก แต่เธอก็อดแอบแค้นตัวเองไม่ใช่น้อย ที่ดันเผลอตัวไปติดอกติดใจลีลารักของชายในเงามืดคนนั้นเสียแล้ว "เดี๋ยว ... อย่าเพิ่งไป" "เอ้า โอกาสสุดท้ายแล้ว ว่ายังไงบอกมาให้ชัด อยากโดนอีกมั้ย?" "... อื้มมม ..." "อื้ม อะไร?" "..... อื้มมม ... อยาก" "อยากโดนอะไรล่ะ?" "ก็อยากโดนนายเย็ดนั่นแหละ จะทำหรือไม่ทำล่ะ" ฝนตอบน้ำเสียงอ่อนลงด้วยความขวยเขิน แต่อีกฝ่ายกลับเร่งจี้ถามแบบไม่คิดเปิดช่องให้เธอบ้างเลยสักนิด พริตตี้สาวสวยก็เลยอดตอบแบบขึ้นเสียงด้วยความโกรธเคืองไม่ได้ กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงเอาแต่หัวเราะร่วนพออกพอใจไม่สนอารมณ์โกรธของเธอสักนิด "อยากโดนก็จัดให้" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับเงามืดของชายคนนั้นที่ขยับวูบใกล้เข้ามา ฝนแอบรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เปิดไฟเอาไว้แต่แรกก็เลยมองไม่เห็นใบหน้าของสามีคนล่าสุดสักนิดว่าจะน่าเกลียดหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเท่าที่ได้สัมผัสแตะต้องก็พอจะบอกได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแรงกำยำใช่เล่น เขาจับเธอขึ้นมาอยู่ในท่ายืน แล้วสวมกอดจูบบดปากจนเธอหัวหมุน เรียกได้ว่าลีลารักของชายในเงามืดคนนี้ไม่แพ้พี่เอกของเธอเลยสักนิดเดียว อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยความรู้สึกดิบถ่อยเถื่อนเร้าใจอีกต่างหาก จูบของเขาปลุกเร้าจนร่างกายของเธอตื่นตัวอย่างรวดเร็ว จนอดไม่ได้ต้องสนองบดปากจูบแลกลิ้นตอบกับเขาด้วยความเร่าร้อนราวกับจะพยายามกลืนกินซึ่งกันและกัน แต่ไม่นานนักเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้แล้วฉุดรั้งเธอลงไปนั่งทับหันหน้าเข้าหากันอยู่บนร่างของเขา ฝนรับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการให้เธอทำอะไร และเธอเองก็ไม่มีเหตผลที่จะไม่กระทำ เพราะกำลังมีอารมณ์ร่วมจะแย่ พริตตี้สาวขยับยกยันตัวขึ้นเล็กน้อย ใช้มือควานหาจับดุ้นยาวใหญ่ของเขาจากเงามืดตั้งลำขึ้นด้านบน แล้วค่อย ๆ หย่อนกายลงทาบทับ ใช้ร่องรูเล็กคับกลืนกินไถลไปตามความยาวใหญ่จนหายเข้าไปทั้งลำลึงค์ เสียงสูดปากซี้ดซ้าดมันสะใจในอารมณ์แว่วกระเส่าไปพร้อมกับอาการสั่นกระตุกของร่างกาย ทั้งจุกเสียดในท้องน้อย และเสียวสยิวหนักหน่วงกว่าเดิม ยิ่งเขาสะบัดมือตีสะโพกก้นของเธอเสียงดังเพียะจนสะดุ้งโหยง เธอก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ อดไม่ไหวต้องจิกปลายนิ้วทั้งสิบลงบนแผ่นหลังของเขา หากการเล้าโลมยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เขาก้มหน้าอ้าปากขบงับเนื้อนิ่มบนอกอวบรอบแล้วรอบเล่าฝากรอยฟันอันอ่อนจางจนถ้วนทั่วบริเวณ มันเป็นความเจ็บแปลบเพียงแผ่วเบา ที่มาพร้อมกับความสุขเสียวหฤหรรษ์ ฝ่ามือที่ฟาดตีบั้นท้าย คล้ายแส้ที่หวดใส่ม้าแข่ง บั้นท้ายกลมกลึงยิ่งโดนหวดฟาดก็ยิ่งยกโยกขย่มโถมทับดุ้นเอ็นเร็วขึ้นถี่ขึ้น และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฝนได้ตระหนักว่า เธอเสพติดชื่นชอบบทรักที่ดิบเถื่อนแรงถึงใจแบบนี้เสียแล้ว “โอ๊วววววสสสสส เสียว อะ อู๊ววววววววววววววว ซี้ดดสสสสสสสส เสียวจัง อูยยยสสสส ... เอ๊ะ !!!!?" พริตตี้สาวสวยรีดเร้นพลังออกมาเร่งโยกขย่มเข้าใส่จนสุดตัว ขณะที่อีกฝ่ายก็ช่วยกระตุ้นอารมณ์ด้วยการบีบเคล้นขยำขยี้สองเต้าของเธออย่างเมามัน และเมื่อความเสียวสยิวพุ่งขึ้นใกล้ถึงขีดสุด ก็ปรากฎแสงฟ้าแลบแปลบปลาบขึ้นมาอีกครั้ง และมันก็ช่วยเปิดเผยใบหน้าของชายที่ถูกเงามืดปิดบังออกมาให้เธอเห็นได้ชัดเจนเป็นครั้งแรก ฝนอ้าปากเหวอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่บั้นท้ายก็ยังคงขยับโยกขย่มไปตามคำสั่งแห่งอารมณ์กระสัน เธอก้มลงใช้มือจับใบหน้าของเขา ประกบปากจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม ก่อนจะส่งเสียงร้องครางลั่น จิกปลายนิ้วทั้งสิบลงบนไหล่ของอีกฝ่ายจนเป็นริ้วรอยแด้งจ้ำ ร่างนางแบบสั่นสะท้านระริก กระตุกเฮือกรอบแล้วรอบเล่าขณะเหยียบย่างถึงเขตแดนแห่งสรวงสวรรค์ชั้นเจ็ด จากนั้นจึงฟุบหน้าลงไปแนบหอบหายใจกระเส่ากับแผงอกกำยำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกำลังละเมอออกมาว่า "พี่เอก ... พี่เอก จริงเหรอ?" "อื้ม ... ตื่นเต้นดีมั้ยล่ะ จัดฉากเหมือนโดนข่มขืนแบบนี้? เหมือนจะมีอารมณ์ร่วมน่าดูเลยนี่นา" เมื่อสิ้นเสียงทุ้มต่ำอันคุ้นเคย ฝนจึงค่อยแน่ใจว่าอีกฝ่ายคือพี่เอกสุดที่รักของเธอจริง ๆ เธอจึงขยับใบหน้าขึ้นไปจูบดูดปากแลกลิ้นกับเขาอีกครั้ง แล้วพูดปฎิเสธด้วยความขัดเขิน "เปล่าซะหน่อย ... " "จริงอ่ะ?" "ไม่รู้ไม่ชี้ ... แล้ว ... ทำไมพี่เอกมาหาฝนล่ะ? ไม่ไปหาน้องหญิง ฝ้าย หรือน้องเมย์แทนเหรอ?" ฝนพยายามพูดบ่ายเบี่ยง ไม่อยากจะทำใจยอมรับว่าเธอแอบชื่นชอบความรู้สึกที่โดนกระทำชำเราแบบดิบเถื่อนมากเหลือเกิน "แล้วทำไมจะมาหาฝนไม่ได้ล่ะ?" "พูดแบบนี้ เดี๋ยวสาว ๆ คนอื่นโกรธเอา ฝนไม่รู้ด้วยนะ" แม้ว่าตรงระเบียงห้องจะมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร แต่ฝนก็ยังอดไม่ได้ต้องซุกใบหน้าลงแนบกับแผงอกของเอกเพื่อปกปิดรอยยิ้มยินดีบนใบหน้า สองแขนกอดกระชับร่างของเขาแน่นขึ้น สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วจะมีอะไรน่าดีใจกว่าผู้ชายที่ตัวเองรักเห็นความสำคัญของตัวเองมากกว่าคนอื่นอีกล่ะ "ถ้าฝนไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอก ฝนสัญญาได้มั้ย ว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด?" "ไม่เอา ฝนอยากให้ทุกคนรู้ว่าพี่เอกมาหาฝน" "ว้าาา งั้นรีบไปปลอบคนอื่นก่อนดีกว่า" เอกพูดพลางทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นยืน ฝนก็เลยต้องรีบตอบตกลงเป็นพัลวัน "เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวค่ะพี่เอก ฝนสัญญาก็ได้ แต่พี่เอกอย่าเพิ่งไปไหนนะ" "ดีมากคนเก่ง ... หนาวมั้ย อยากเข้าไปข้างในหรือเปล่า ตรงนี้ลมเย็นน่าดู" "ไม่เข้า อยู่ตรงนี้ดีแล้วกอดกันแบบนี้ยังไงก็ไม่หนาว" "แค่กอดเฉย ๆ เองเหรอ?" เอกพูดกระซิบที่ข้างหู แล้วใช้ลิ้นเลียวนแหย่แยงเข้าไปจนฝนตัวสั่น เธอก็เลยตอบโต้กลับด้วยการเริ่มขย่มโยกบั้นเอวกลืนกินดุ้นอันเขื่องของเขาอีกครั้ง เรือนร่างขาวโพลนของพริตตี้สาวดีดเด้งรอบแล้วรอบเล่า ริมฝีปากบางสูดปากร้องซี้ดด้วยความปิติยินดีที่เธอได้รับเลือก ปลดปล่อยอารมณ์เตลิดหลงเข้าไปในส่วนลึกบ่วงกามโลกีย์ที่ไร้จุดสิ้นสุด โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่าแท้ที่จริงแล้ว เวลาเดียวกันนี้เพื่อนร่วมสามีอีกทั้งห้าคน ต่างก็กำลังมีร่วมรักเสพราคะอยู่กับชายหนุ่มคนเดียวกันทั้งนั้น .......................................................................................

รักยม ตอนที่ 66 - มื้อค่ำสุขสันต์

ร่างกำยำสมส่วนของชายหนุ่มที่นอนเปลือยแผ่หราอยู่ในโรงแรมพลิกตะแคงตัวอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะ เอื้อมมือคว้าหยิบเอาผ้าผืนน้อยที่อยู่ใกล้มือมาปิดบังแสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นมาอย่างกระทันหันด้วยความ รู้สึกง่วงเหงาหงุดหงิด ความรู้สึกวาบหวามซาบซ่านที่ได้สวิงกิ้งเสพเซ็กส์กับกระแตดาราสาวนมโตและแพรนางแบบคู่ขายังคง หลงวนเวียนอยู่ในสัมผัสมิรู้คลาย สัมผัสของสองเต้าอวบนุ่มล้นมือคล้ายยังคงค้างคาอยู่บนสองมือตน กลิ่นกายหอมหวานยั่วเย้าของสองสาวคล้ายยังคงวนเวียนยั่วเย้าอยู่ในอากาศ มันเป็นความฝันที่หวาน ละมุนเสียจนบอยแทบไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมา กระนั้นก็ต้องพยายามฝืนปรือตาขึ้นมาเมื่อร่างของเขาโดนเขย่าอย่างแรง ขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น ภาพแรกที่บอยเห็นกลับเป็นภาพหญิงสาวสวยน่ารักผิวขาวใส่แว่นยืนคร่อมอยู่บนร่างของเขา หญิงสาว แปลกหน้านางนั้นยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มอันแปลกประหลาด คล้ายโกรธขึ้งขัดเคือง หากผสานผสมไปด้วย รอยยิ้มเยาะจนน่าขนลุก ริมฝีปากบางสวยนั้นอ้าปากพูดอะไรบางอย่างที่เขาจับใจความได้ไม่มากเท่าไหร่ นัก ที่พอได้ยินก็มีคำว่า 'นายโดนเอาคืนแน่' "กรี๊ดดดดดดด ไอ้บอย ไอ้โรคจิต นี่แกทำอะไรกับเสื้อผ้าของชั้นกันยะ !!!!" บอยที่กำลังสะลึมสะลือค่อยลืมตาโพลงตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงร้องหวีดด่าทออยู่ข้างหู และเมื่อหันไป มองจึงค่อยพบว่า เจ้าของเสียงสูงปรี๊ดนั้นคือแพรนางแบบสาวคู่ขาของเขานั่นเอง เขาหันไปมองใบหน้า อันบูดบึ้งของแพรด้วยความรู้สึกงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ "โอ๊ย โอ๊ย อะไรของแกเนี่ย คนจะหลับจะนอน อ้าว กระแตไปไหนแล้วล่ะ ฮ้าวว นี่มันกี่โมงแล้ว ยังไม่เช้า อีกเหรอ?" บอยหันไปรอบห้องพักมองหาดาราสาวหุ่นอวบนมโต หากในห้องกลับไม่มีใครอยู่ กระแตไม่อยู่ เจ้าเอก เพื่อนสนิทคนใหม่ก็หายหัว เหลือแต่เพียงเขาและแพรอยู่ในห้องเพียงสองคน มองออกไปนอกหน้าต่าง ก็มืดสนิทเห็นแต่เงาลางเลือนของยอดมะพร้าวที่ส่ายไหวไปมา "ยังไม่เช้าบ้าอะไรเล่า นี่มันค่ำแล้วย่ะ แกเล่นนอนกินบ้านกินเมืองข้ามวันข้ามคืนไม่รู้เวลาเลยเหรอไงยะ ชั้นตื่นไปทำงานมาเสร็จแล้ว กระแตก็ไปแข่งรถเสร็จแล้ว คุณเอกก็กลับกรุงเทพแล้ว แต่แกก็ยังนอนอุตุ เป็นหมูอยู่แบบนี้" บอยที่นอนสลบยาวจนไม่รู้เวลาถึงกับปวดหัวตุบจนต้องยกมือขึ้นไปเกาหัวแกรก ๆ เพราะเพิ่งรู้ว่าตัวเอง เผลอนอนยาวเสียขนาดนั้น แต่ที่สัมผัสอยู่บนหัวกลับเป็นผ้าเนื้อนิ่มชิ้นเล็กบางสองชิ้น และเมื่อหยิบยก ลงมาดูจึงค่อยพบว่ามันคือกางเกงในจีสตริงของแพรนั่นเอง ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อพบว่าที่แท้แล้วสิ่งที่ทับถมอยู่บนร่างของเขาเป็นกองใหญ่นั้นล้วนแล้ว แต่เป็นเสื้อผ้า ยกทรง ถุงน่อง และกางเกงในของแพรทั้งนั้น และนั่นก็คงจะเป็นเสื้อผ้าทั้งหมดเท่าที่เธอ มีเพราะกระเป๋าของแพรที่สมควรวางอยู่ปลายเตียงตอนนี้กลับวางอยู่บนเตียงเคียงข้างเขาในสภาพเปิด อ้าว่างเปล่า "ชั้นดีใจนะที่แกหลงเสน่ห์ชั้นขนาดนี้ แต่ชั้นไม่นึกเลยว่าแกจะโรคจิตขนาดนี้ เมื่อคืนก็สนุกกันยันเช้าแล้ว แกยังหื่นจนต้องเอาเสื้อผ้าชั้นมากอดมาดมมาช่วยตัวเองแบบนี้อีกเหรอยะไอ้บอย !!!" นางแบบสาวผิวสีน้ำผึ้งส่งเสียงแหวดแหวพลางสะบัดมือขวับคว้าเอากางเกงในที่อยู่ในมือของเขาไป พินิจพิจารณาตรวจดูด้วยสายตาโกรธขึ้งบึ้งตึง จากนั้นก็คว้าหมับจับเอาเสื้อผ้าที่วางกองสุมอยู่บนตัว ของบอยคัดแยกโยนเอาบางชิ้นลงไปกองบนพื้น และบางชิ้นที่ยังสะอาดไม่เลอะคราบก็โยนใส่กระเป๋า เสื้อผ้าลงไป "เฮ้ย ๆ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน แกแอบแกล้งใช่มั้ย ใครจะไปเอากางเกงในแกมานอนดมเล่นแบบนี้" "อ๋อ เหรอ จะแถว่าชั้นแกล้งแกงั้นเหรอไอ้บอย ไม่ต้องเลยย่ะ ... กรี๊ดดดด นี่มันกางเกงในตัวโปรดของ ชั้น แกเอามาชักว่าวใส่จนแห้งแข็งแบบนี้เลยเหรอ กรี๊ดดด ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิตวิปริต ไอ้ ไอ้" แพรถึงกับอ้าปากกรีดร้อง และรีบวิ่งหยิบเอากางเกงในสีสวยที่ยับย่นเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำกาม แห้งแข็งไปแช่ในห้องน้ำแล้วซักขยี้ พร้อมกับส่งเสียงด่าทอชายหนุ่มไม่หยุด บอยก็ได้แต่อ้าปากเหวอไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่ได้ เป็นคนทำ แพรก็ไม่น่าจะลงทุนแกล้งเขาซะขนาดนั้น กระแตกับเอกก็ไม่น่าใช่ นึกถึงตอนนี้ก็เริ่มไม่ แน่ใจว่าเขาดื่มจนเมามากไปหรือเปล่า เพราะที่จำได้ก่อนจะหลับไปก็คือตอนที่น้ำแตกใส่กระแต เป็นรอบสุดท้ายหลังจากนั้นก็นอนหลับนึกอะไรไม่ออกอีกเลย "ฮ้าววว ... อืมมมมม ... ทำไมเมื่อยไหล่ เมื่อยคอจังวะ ยังกับโดนใครขี่คออยู่แน่ะ" ร่างกำยำสะบัดเหวี่ยงกางเกงในที่ยังวางทับอยู่ตัวทิ้งไป แล้วลุกขึ้นมายืนบิดตัวบิดเอวไปมาเพื่อ คลายความเมื่อย รู้สึกสงสัยว่าทำไมรู้สึกปวดเมื่อยที่ต้นคอและไหล่แปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร มาก เพราะเข้าใจว่าอาจจะเมา เหนื่อย และนอนนานเกินไป "เอ๊ะ !!! ..." บอยหยุดชะงักร่างแล้วรีบเดินถอยมามองดูกระจกเงาของโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาของชายหนุ่ม พยายามหรี่มองจรดจ้องสำรวจด้วยความตื่นตัวสงสัย เมื่อครู่ที่เขาเดินผ่านกระจกคล้ายมอง. เห็นเงาสีขาวของผู้หญิงกำลังนั่งขี่คอเขาอยู่แวบหนึ่ง แต่เมื่อมองดูดี ๆ และลองยื่นมือแตะ สำรวจก็ไม่พบเห็นอะไร บอยจึงได้แต่ยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แล้วรีบ เดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ชายหนุ่มเดินอ้อมแพรที่กำลังยืนซักล้างกางเกงในอยู่ตรงอ่างล้างหน้า เขายิ้มแห้ง ๆ ตอบ สายตาขุ่นมัวของแพรที่จับจ้องมา แล้วก็เดินเปลือยโทง ๆ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจตรงไป ยืนฉี่ที่โถส้วม แต่เมื่อเดินผ่านด้านหลังของแพรไป กลับได้ยินเสียงดังเพี๊ยะเบา ๆ พร้อมกับ ร่างของแพรที่สะดุ้งโหยงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหต "ไอ้บอย ไอ้โรคจิต ไม่ต้องมาตีก้นชั้นเลยย่ะ คนกำลังโกรธอยู่ ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย" แพรหันมาด่าทอพร้อมกับส่งสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ด้านบอยที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้ แต่ยืนอ้าปากเหวออีกรอบ เขามั่นใจว่าไม่ได้โดนเนื้อตัวของแพรแม้สักปลายก้อย แล้วอยู่ ๆ เธอก็มาด่าว่าเขาไปตีก้นเธอเสียอย่างงั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุยกับแพรตอนเธอกำลังโกรธ บอยเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงได้แต่ขยับไปยืน ฉี่อย่างนิ่งเงียบ เขาสยิวกายน้อย ๆ เมื่อเสียงจ๊อกจ๊อกของสายน้ำสีเหลืองเข้มดังขึ้น หากขณะ ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับความสุขเล็ก ๆ ของการฉี่ ชายหนุ่มกลับพบว่าเจ้าปลายกระบอกปืน ของเขากลับหันไปซ้ายทีขวาที จนน้ำสีเหลืองเข้มไหลทะลักลงไปเลอะเทอะเปรอะเปื้อนรอบ โถฉี่จนเจิ่งนองเป็นหย่อมใหญ่ "กรี๊ดดด ไอ้ซกมก แกฉี่ให้ตรงไม่ได้หรือไงยะ แกรีบล้างให้สะอาดเลย เดี๋ยวชั้นต้องใช้ห้องน้ำ อาบน้ำต่อนะ ต้องรีบไปทำงานอีก" ท่ามกลางความงุนงงนั้น เสียงสูงแหลมของแพรก็ตวาดด่าทอจนรูหูสั่นสะเทือนอีกครั้ง บอย ได้แต่รีบเอื้อมมือไปจับปลายกระบอกปืนให้ชี้นิ่งไปที่โถฉี่ แล้วก็ยืนรับคำด่าด้วยไม่เข้าใจว่า วันนี้มันคือวันนรกอะไรกัน หรือว่าเมื่อคืนเขาใช้งานอาวุธประจำกายมากไปหน่อยมันก็เลย หันซ้ายหันขวาได้เองแบบนี้ เสียงชักโครกดังขึ้น มือหนึ่งนั้นถือที่ฉีดน้ำฉีดล้างคราบฉี่ที่ตัวเองทำเปรอะเลอะเอาไว้ ด้าน อีกมือนั้นยังคงจับอาวุธประจำตัวเอาไว้จนแน่นเหมือนกลัวว่ามันอาจจะกระดิกตัวเองอีกเมื่อ ไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีความผิดปกติอะไร ชายหนุ่มจึงค่อยยอมปล่อยมือออกด้วยความ ระแวดระวัง แล้วเดินไปที่อ่างล้างหน้า สลับกับแพรที่เดินเอากางเกงในมาแขวนตากไว้ บอยแปรงฟันไปพลางมองภาพตัวเองในกระจกไปพลางด้วยความรู้สึกงง ๆ ปวดหัวตุ้บ ๆ เพราะฤทธิ์เหล้า ไหล่และคอก็ปวดเมื่อยจนรู้สึกอยากหาสาวสวยมาบีบนวดให้เสียหน่อย เลยแอบคิดเพลิดเพลินไปว่าหากได้กระแตมานวดเฟ้นให้ก็คงจะดี เขาจะได้นวดเฟ้นกลับ ให้ดาราสาวนมโตแบบเมื่อคืนอีกสักรอบ แต่เมื่อแปรงฟันเสร็จ แพรก็ส่งเสียงด่าทอออก อีกครั้ง แถมคราวนี้ยังหยิกแขนหยิกหลังเขาเสียจนสะดุ้งโหยงด้วย "ตายแล้วว !!!! ไอ้บอย นี่แกเอาแปรงสีฟันของชั้นมาใช้ทำไมยะ ของแกเองก็มี แหวะ สกปรกเหม็นขี้ฟัน ..." แพรทั้งด่าทั้งหยิก แถมยังใช้อีกมือคว้าเอาแปรงสีฟันสีส้มของเธอไปล้างทำความสะอาด กับก๊อกน้ำราวกับว่ามันเพิ่งจะไปเปรอะเลอะน้ำเน่าในคูน้ำมาก็มิปาน เป็นอีกครั้งที่บอยได้แต่ยืนทำหน้าเหรอหรา เขามั่นใจว่าเขาไม่น่าจะหยิบผิด แต่แปรงสีฟัน สีดำที่มียาสีฟันละเลงอยู่บนแปรงยังคงวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า และแปรงสีฟันสีส้มที่แพร เพิ่งจะหยิบฉวยออกไปจากมือของเขาก็คือของแพร จากนั้นบอยก็โดนหยิกโดนข่วนจนส่งเสียงร้องโอดโอย แล้วก็โดนผลักไสไล่ส่งออกจาก ห้องน้ำ แล้วเสียงน้ำซู่ซ่าจากฝักบัวก็ดังขึ้น บอยทำท่าจะยกมือขึ้นเคาะประตูเพื่ออธิบาย และขอโทษกับแพร แต่กระเพาะเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงร้องโครกครากออกมาเสียก่อน ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนใจเดินไปสวมใส่เสื้อผ้า หยิบเอาตะกรุดเขี้ยวสมิงพรายขึ้นมาคล้องคอ แล้วออกจากห้องไปหาอะไรกินแก้หิว เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก บอยก็เบียดตัวเข้าไปด้านในแล้วก็แอบส่งยิ้มให้แหม่มผมทองหุ่น อวบ แสงไฟบนหน้าจอเปลี่ยนจากเลขเจ็ดกลายเป็นเลขหก แล้วประตูก็เปิดออกมีแขกของ โรงแรมเบียดเข้ามาในลิฟท์อีกสองคน สภาพภายในไม่ถึงกับแออัดแต่ก็เรียกได้ว่าใกล้ชิด บอยอดคิดอกุศลไม่ได้ว่าอยากจะจับก้นของแหม่มผมทองหุ่นดีที่ยืนอยู่ด้านหน้าสักหน่อย อยู่ดี ๆ แหม่มผมทองคนนั้นก็สะดุ้งโหยงหันมองทางเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร บอยที่ไม่ รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ตามความเคยชิน แหม่มคนนั้นขมวดคิ้วแล้วก็หันกลับไป อีกครั้ง แต่เพียงแว้บเดียวแหม่มคนนั้นก็สะดุ้งตัวอีกครั้ง คราวนี้เธอแค่ชำเลืองมองมาทาง บอยเหมือนจะเกรง ๆ กลัว ๆ อะไรบางอย่าง บอยก็ได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ คิดว่าแหม่มคนนี้เป็นโรคจิตอะไรหรือเปล่า หรือว่าแอบ สนใจเขาอยู่กันแน่ และความสงสัยนั้นค่อยได้รับคำตอบ เพราะเมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้นที่ ชั้นหนึ่ง แหม่มผมทองคนนั้นก็หันมามองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วก็ตวัดมือตบ เพี๊ยะเสียเต็มแรงจนเขาหน้าหัน จากนั้นเธอก็ด่าทอเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงอันดัง จับใจความได้ว่า 'ไอ้สารเลวอย่ามาจับก้นฉัน' แล้วก็เดินย่ำเท้าตึงตึงออกไป ชายหนุ่มจึงได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดลงไป แขกคนอื่น ก็เริ่มหันมามองด้วยสายตาดูถูกไม่เป็นมิตร เขาจึงได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าออกไปด้านนอก ประตูลิฟต์ปิดลงอีกครั้ง ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงงันอยู่ตัวเดียว และเวลานั้นเองที่บอยรู้สึก ได้ถึงความอุ่นวาบจากตะกรุดเขี้ยวสมิงพรายที่สวมใส่อยู่ อีกทั้งยังได้ยินเสียงคล้าย กับเสียงหัวเราะร่วนสาแก่ใจของหญิงสาวจากที่ไหนสักแห่ง .............................................................. 'เฮ้อ คิดถึงนิคกี้ลูกศิษย์ของเราเหลือเกิน ไม่รู้ว่าไปอยู่กับเจ้าหนุ่มปากเก่งนั่นแล้วจะ เป็นอย่างไรบ้าง' เมื่อรถยนต์ยุโรปคันหรูถอยจอดและดับเครื่องลง เสียงทอดถอนหายใจของร่างวิญญาณ สีเขียวบอบบางสะโอดสะองของนางตะเคียนที่กึ่งนั่งกึ่งลอยตัวอยู่ในรถก็ดังขึ้น 'โห หนูว่าป้าตะเคียนถามผิดแล้วล่ะ ยัยผีแว่นหน้าขาวโบ๊ะลูกศิษย์คนดีของป้าน่ะไม่เป็น อะไรร้อก ที่น่าห่วงน่ะ น่าจะเป็นเพื่อนของพ่อต่างหาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะโดนแกล้งจนหัว โกร๋นไปแล้วหรือเปล่า' เสียงแหลมเล็กของสองเด็กน้อยรักยมที่นั่งเล่นอยู่บนหลังคารถพูดตอบออกมาแทบจะ ในทันที ก่อนที่ร่างวิญญาณของทั้งสองจะลอยวูบไหวลงมาเล่นวิ่งไล่จับกันเองวนเวียน ไปมารอบตัวรถ แล้วส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวซุกซน 'คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง ก็อธิบายไปแล้วนี่นา ว่าเหตการณ์ตอนนั้นมันสุดวิสัย บอย เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก' เอก ที่เพิ่งเปิดประตูลงมาจากรถขยับตัวหลบวูบแทบไม่ทันเมื่อร่างวิญญาณของสองเด็ก น้อยวิ่งเข้าใส่แบบไม่เกรงว่าจะชนปะทะกันเลยสักนิด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นร่าง วิญญาณที่ชนกันไม่ได้อยู่แล้วหากไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ช่วย ก็เลยได้แต่สะบัดส่ายหน้าไป มาเพราะยังคงทำใจให้รู้สึกเคยชินเรื่องแบบนี้ไม่ได้สักที 'คิก คิก เจ้านายสุดที่รักของข้า เจ้าดูแคลนความอาฆาตแค้นของสตรีมากไปหน่อยแล้ว กระมัง เพื่อนรักของเจ้าคงจะโดนดีมิใช่น้อย แต่อย่างไรเสียข้าก็ได้กำชับกับศิษย์ข้าไว้ แล้วว่าอย่าได้กระทำการล้างแค้นมากเกินไป ดังนั้นเจ้าจงอย่าได้ห่วง จงห่วงแต่ตนเอง เถิด เพราะช่วงยามสี่ของค่ำคืนนี้ เจ้าต้องเข้ารับการฝึกฝนที่หนักกว่าครั้งก่อนหน้าหลาย เท่านัก' '... โห พี่แก้วอย่าขู่กันขนาดนั้นซิ แค่นี้ก็กลัว ๆ ไม่กล้าฝึกแล้วเนี่ย ... เอ แล้วไอ้ยามสาม ยามสี่อะไรนั่นมันคือตอนไหน ตีสี่หรือว่ายังไง?' 'เฮอะ ลูกหลานชาวไทยสมัยนี้เป็นกะไรกันไปหมด หาได้รู้จักสืบทอดคำไทยโบราณไม่ ยามสามก็คือช่วงเวลา 0 ถึง 3 นาฬิกา ส่วนยามสี่ก็คือช่วงเวลา 3 ถึง 6 นาฬิกาอย่างไร เล่า' 'จ้า จ้า ขอโทษจ้าพี่แก้ว เคยได้ยินสมัยเรียนเหมือนกันแหละ แต่ไม่ได้ใช้เลย ก็ลืมเป็น เรื่องธรรมดา ... ว่าแต่คราวนี้จะเอาไงดีเนี่ย แบบเดิมหรือเปล่า ให้พี่แก้วช่วยสิงร่างของ น้องหญิงกับน้องฟ้า แล้วพาเดินขึ้นไปบนห้องทีละคน?' เอกที่เพิ่งจะเปิดประตูรถฝั่งตรงข้ามคนขับออกยืนมองอย่างครุ่นคิด น้องหญิงของเขา ยังคงนอนเอนราบหลับตาพริ้มฝันหวานอยู่บนเบาะหน้า ส่วนน้องฟ้าก็นอนแผ่หราอยู่ ตรงเบาะหลัง สองนักศึกษาสาวยังคงส่งเสียงครางพึมพำมีความสุขด้วยยังมิหายคลาย จากเศษเสี้ยวของมายามนตร์ที่ตกค้างอยู่ ดวงตาของชายหนุ่มทอประกายแวววาวขึ้นมาอีกครั้ง ขณะจ้องมองไปตามเรือนร่างงาม ระหงสมบูรณ์แบบในชุดนักศึกษาของน้องหญิง เพียงมองไปตามท่อนขาขาวเรียว หน้า อกอวบอิ่มตูมตั้ง และใบหน้าสวยหวานปานนางฟ้า ความเป็นชายที่เพิ่งจะได้พักผ่อนเพียง ไม่นานก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง จนแทบอยากจะลองจัดการขย่มใส่สุดที่รักของเขาในที่ จอดรถของคอนโดเสียเลย "น้องหญิง ตื่นได้แล้ว ถึงคอนโดแล้ว" เอกส่งเสียงปลุก พลางเอื้อมมือข้างหนึ่งล้วงลงไปตะปบลูบที่ขาอ่อน ขณะที่ฝ่ามืออีก ข้างก็ขยับไปบีบขยำเสื้อนักศึกษาที่รัดรั้งทรวงอกอวบอิ่มด้วยความคิดอุตริว่าหากยังไม่ ยอมตื่น ก็จะลงมือลวนลามลักหลับแฟนสาวสุดเซ็กส์เสียตรงที่จอดรถนี้สักรอบ ดาวมหาลัยแสนสวยปรือตากระพริบคล้ายตื่นคล้ายไม่ตื่น เธออ้าปากร้องครางพลางแอ่น เด้งทรวงอกและกลีบอวบอูมเข้ารับรสสัมผัสแห่งความเสียวจากฝ่ามือหยาบกร้าน ภาพแห่ง ความจริงและฝันแห่งมายามนตร์ยังคงซ้อนทับจนทุกสิ่งที่มองเห็นขุ่นมัวพล่าเลือนสับสน เธอไม่ทราบว่าเธออยู่ที่ไหน และไม่ทราบว่าขณะนี้เป็นเวลาใด แต่เพียงได้ทราบว่าชาย หนุ่มสุดที่รักของเธออยู่ตรงนี้ และเขากำลังสัมผัสเนื้อตัวของเธอด้วยรักเสน่หาก็เพียงพอ แล้ว อารมณ์ปราถนาคล้ายกองไฟที่ประทุคุโชนไม่ยอมมอดดับ สองมือของเธอเอื้อมไขว่คว้า กอดรัด เด้งตัวสัมผัสแนบประกบร่างด้วยใคร่ปราถนาไขว่คว้าหาความร้อนแรงแห่งอภิรมย์ สมสู่ เขาตอบรับด้วยการกระชากรั้งร่างของเธอขึ้นไปโอบกอดพร้อมด้วยบดจูบอย่างหนัก หน่วงจนเธอหัวหมุน ยิ่งร่างกำยำแข็งแกร่งโถมทับกดบดขยี้ใส่เพลิงไฟแห่งความใคร่ของ เธอก็ยิ่งลุกโชนโชดช่วงแผดเผาทุกสิ่งอย่าง "พี่เอก ช่วยด้วยค่ะ หญิงอยากอีกแล้ว ..." เมื่อริมฝีปากบางถูกปลดปล่อยจากจุมพิตร้อนแรง คุณหนูดาวมหาลัยแสนสวยก็ส่งเสียง ครางอ้อนวอนร้องขอความเอ็นดูกรุณาจากแฟนหนุ่ม เขาตอบรับแรงปราถนาของเธอด้วย การฉีกทึ้งดึงกางเกงในของเธอจนขาดหลุดลุ่ย จากนั้นความหฤหรรษ์อันใหญ่ยักษ์คับแน่น ก็เริ่มแทรกตัวเสือกไสคืบคลานเข้าไปในร่าง สาวสวยกอดรัดรั้งร่างเขาจนแนบแน่นพลางส่งเสียงร่ำร้องครวญครางออกมาไม่ขาดปาก หากในห้วงแห่งอารมณ์หฤหรรษ์นั้นกลับปรากฎแสงไฟสว่างเจิดจ้าขึ้นมาอย่างกระทันหัน มโนสติที่จมจ่อมแหวกว่ายอยู่ในทะเลกามโดนกระชากดึงกลับสู่ความเป็นจริงจนแทบปรับ เนื้อปรับตัวไม่ทัน ที่แท้แสงไฟสว่างจ้านั้นก็คือแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งที่วิ่งมาจอดในช่องว่างถัดออกไป ภาพรถที่จอดเรียงรายเป็นแถวยาวทำให้สาวสวยค่อยได้รู้ตัวว่าที่นี่คือที่จอดรถในคอนโด ของพี่เอก แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนั้นเธอกลับนึกไม่ออก เพราะเท่าที่จำความได้ ล่าสุด เธอเข้าไปในหอพักของฟ้าพร้อมกับฟ้าและเนย จากนั้นความสุขหฤหรรษ์ที่ประดังเข้ามา ก็ทำให้เธอหัวหมุนงุนงงไม่แน่ใจว่า มันเป็นความจริงหรือความฝัน รู้แต่ว่าสัมผัสของสาย น้ำเย็นฉ่ำและเสียงร้องของสรรพสัตว์ยังคงตกค้างอยู่ในสัมผัสอย่างมิรู้คลาย "... อาจารย์ธันวดี !!!" น้องหญิงส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจ แม้จะมีกระจกรถขวางกั้นอยู่หนึ่งชั้น แต่เธอก็จดจำได้เป็นอย่างดีว่าผู้หญิงวัยสามสิบต้น ๆ ที่กำลังมองมาด้วยสายตาตื่น ตะลึงนั้นคืออาจารย์สอนวิชาการเงินที่มหาวิทยาลัย เธอสนิทสนมกับอาจารย์คนนี้ไม่ น้อย เพราะอาจารย์เป็นสาวสวยมาดมั่น ทั้งยังเก่งรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องโดยมีดีกรีดอก เตอร์พ่วงท้ายไว้อีกต่างหาก ส่วนทางด้านอาจารย์เองก็ดูจะรักและเอ็นดูเธอไม่น้อยเช่น กัน ถึงกับยอมให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวและกำชับว่าโทรมาปรึกษาได้ทุกเรื่องทุกเวลา ใบหน้าของนักศึกษาสาวถึงกับแดงปลั่งขึ้นมา ทั้งขัดเขินอับอายและเกรงกลัวว่าจะโดน อาจารย์สาวที่เป็นไอดอลตำหนิติเตียน เพราะโดยปกติแล้วภาพลักษ์ของเธอในสายตา ของอาจารย์ธันวดีนั้นคือ เด็กสาวใสซื่อเรียบร้อยน่ารัก หากทว่าวันนี้อาจารย์กลับได้เห็น ภาพอีกด้านที่ซุกซ่อนไว้เสียจนเต็มสองตา อะไรจะสร้างความเสื่อมเสียได้มากกว่าการ โดนเห็นว่าลูกศิษย์คนโปรดกำลังมั่วเซ็กส์กับผู้ชายในที่จอดรถอีกล่ะ ด้านเอกนั้นแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะ แต่เมื่อได้ยินเสียงของน้องหญิงก็พอจะรู้ สถานการณ์อยู่บ้าง ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นความผิดของเขาเองนั่นแหละที่ลืมร่ายมนตร์กำบัง กายเอาไว้เสียก่อน พอโดนขัดจังหวะแบบนี้เข้าก็เลยได้แต่ต้องปรับเปลี่ยนท่วงท่า ถอนดึง ดุ้นเอ็นที่สอดใส่ค้างคาอยู่ในร่องของน้องหญิงออกมา พร้อมกับใช้มือช้อนประคองสองขา ที่กระหวัดรัดรอบเอวของเขาอยู่ออก แล้วจับประคองให้เธอยืนหอบกระเส่าพิงอยู่กับประตูรถ ความรู้สึกขัดใจแปรเปลี่ยนไปเป็นความสนอกสนใจในทันทีที่ชายหนุ่มหันมามองสบตา กับหญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ เธอคนนั้นดูสาวและสวยใช่ย่อย แม้จะใส่แว่นกรอบหนา เตอะคล้ายเด็กเนิร์ดแต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนสวยสง่าอยู่ดี ด้านอาจารย์ที่รู้สึกโกรธและผิดหวังในพฤติกรรมเหมือนเด็กใจแตกของลูกศิษย์สาวสุดรัก ก็ถึงกับพูดอะไรออกมาไม่ออก แรกทีเดียวเธออยากจะลงจากรถไปต่อว่าลูกศิษย์ของเธอ สักคำสองคำ แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อโดนจ้องมองด้วยสายตาของชายหนุ่มที่เร่าร้อนแหลม คมเข้าเพียงหน่อยเดียว เธอก็ถึงกับสั่นสะท้าน สายตานั้นของเขาราวกับจะมองผ่านทะลุเสื้อ ผ้าเข้ามากลืนกินโลมเลียเนื้อตัวของเธอได้จนหมดสิ้นในคราวเดียว ยิ่งเมื่อได้มองเห็นความเป็นชายที่ใหญ่โตแข็งแกร่งชูคอผงาดอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดอยู่ เบื้องหน้า อาจารย์สาวดีกรีด๊อกเตอร์ที่ไร้ประสบการณ์ทางเพศก็ถึงกับเกิดอารมณ์ร้อนวูบ วาบจนน้ำลายสอ รู้สึกอยากแตะสัมผัสกลืนกินความเป็นชายของเขาขึ้นมาเสียอย่างงั้น ร่างของเธอสั่นเทิ้มเล็กน้อย ความรู้สึกสยิวซาบซ่านไม่ทราบผุดเกิดขึ้นมาจากที่ใด รู้แต่ ว่าร่างกายของเธอกำลังเปลี่ยนแปลง ภายในเวลาอันแสนสั้นนั้น ปลายถันของเธอแข็ง เต่งขึ้น ร่องสวาทของเธอถึงกับขมิบตัวหนุบหนับขับหลั่งเอาหยาดน้ำออกมาจนกางเกง ในเปียกชุ่ม ดวงตาของเธอได้แต่จ้องมองความเป็นชายของเขาราวกับต้องมนตร์สะกด เมื่อเขาล้วงเก็บสิ่งนั้นกลับเข้าไปในกางเกง เธอถึงกับทอดถอนหายใจออกมาด้วยความ รู้สึกผิดหวัง ด้วยอยากมองพิจารณาให้นานกว่านี้ อยากเอื้อมมือไปบีบสัมผัส อยากคว้า มันมาดูดกลืนกินเพื่อดับอารมณ์หิวกระหายในลำคอที่แห้งผาก สติของเธอค่อยหวนกลับคืนมาเมื่อมองขึ้นไปเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มที่ประดับ ด้วยรอยยิ้มเหมือนจะอ่านความคิดของเธอออกจนทะลุปรุโปร่ง อาจารย์สาวสวยจึงรีบสะ บัดใบหน้าหันมองไปทางอื่นเรียกคืนสติของตัวเองกลับมาให้ครบร้อย ก่อนจะหายใจเฮือก ใหญ่ บิดกุญแจดับเครื่อง ฉวยกระเป๋าถือใบโปรด แล้วก้าวเดินลงไปจากรถ เธอต้องทำหน้า ที่อาจารย์แล้ว "อาจารย์คะ ... คือว่า ... หนู ..." "สุดคะนึง ... อาจารย์ไม่คิดเลยนะว่าเด็กน่ารักนิสัยดีอย่างเธอจะทำตัวเป็นเด็กใจแตกแบบนี้" "ขอโทษค่ะ ... คือ ..." "ไม่ต้องมาขอโทษอาจารย์หรอกจ้ะ เธอควรจะไปขอโทษผู้ปกครองของเธอมากกว่า พวก ท่านส่งเธอมาเรียนหนังสือหาความรู้ ไม่ใช่ส่งให้มาโดนผู้ชายเกเรนิสัยไม่ดีพวกนี้หลอกเจาะ ไข่แดงในที่จอดรถแบบนี้ ถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง" 'ผู้ชายเกเรนิสัยไม่ดี' ที่โดนพาดพิงถึงกับสะดุ้งโหยงขึ้นมา แถมเมื่อหันไปมองทางแฟนสาว สุดที่รักก็เริ่มจะเห็นตาเธอแดง ๆ น้ำตาปริ่ม ๆ ใกล้จะร้องไห้โฮออกมา ก็เลยเริ่มรู้สึกโกรธอา จารย์คนสวยขึ้นมาบ้างแล้ว "น้องหญิงกลับเข้าไปแต่งตัวในรถให้เรียบร้อยก่อนไป เดี๋ยวตรงนี้เคลียร์เอง" น้องหญิงที่ทำอะไรไม่ถูกพอได้ยินก็พยักหน้าแล้วรีบเข้าไปนั่งในรถ มอบหน้าที่ให้เอกเป็น คนรับหน้าอาจารย์ธันวดีเพียงคนเดียว "พี่สาวคนสวยยังซิงใช่มั้ยครับ? น่าเสียดายจัง" "... ธะ เธอ ใครเป็นพี่สาวของเธอกัน แล้วรู้มั้ยว่าถามอะไรออกมา? ถ้าชั้นยังไม่เคยมีแฟน แล้วมันน่าเสียดายอะไรตรงไหน" "แสดงว่ายังซิงจริงด้วย น่าเสียดายที่ว่าสาวสวยเซ็กส์ซี่อย่างอาจารย์ ยังไม่เคยได้รับความ สุขแบบสุด ๆ เหมือนขึ้นสวรรค์จากผู้ชายน่ะซิครับ ดูซิ ขาว สวย นมใหญ่ ก้นใหญ่ น่ากินจะแย่" "นะ นี่ เธอคิดจะลามปามชั้นงั้นเหรอ?" เมื่อโดนมองด้วยสายตาอุกอาจลวนลามอาจารย์ธันวดีก็ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกแปลก ใจที่ร่างกายเลือดเนื้อที่ยังบริสุทธ์ผุดผ่องของตัวเองเต้นระริกปราถนาอยากโผเข้าไปให้ชาย หนุ่มอ่อนวัยกว่าคนนี้แตะต้องลูบไล้สัมผัสเนื้อตัวใจจะขาด เอก ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะยื่นมือออกไปอย่างเชื่องช้า เป้าหมายปลายทางก็คือที่บริเวณทรวง อกของอาจารย์คนสวยที่โดนมนตร์ปลุกสวาทเข้าไปจนเต็มเปา อาจารย์ธันวดีได้แต่ยืนนิ่งตัว แข็งทื่อไม่กล้าหลบหลีกฝ่ามือที่เอื้อมเข้ามาหาหน้าอกตัวเองอย่างช้า ๆ เธอหอบใจฟืดฟาด ออกมาอย่างหนักหน่วงลุ้นระทึกเมื่อปลายนิ้วของเขาอยู่ห่างจากทรวงอกของเธอไม่ถึงนิ้ว เอกหยุดยั้งมือเอาไว้ตรงนั้นไม่รุกคืบไม่ถอยกลับ แต่จิตนั้นกำลังเร่งเร้าเป้ามนตราปลุกความ ใคร่ของอาจารย์สาวให้โหมกระหน่ำจนหนักหน่วงรุนแรงแทบถึงขีดสุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเธอ อดรนทนไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายแอ่นอกอวบเสนอสนองมาโดนปลายนิ้วของเขาเอง เมื่อเธอเด้งแอ่นหน้าอกเข้าหา ปลายนิ้วของชายหนุ่มก็กดเข้าหาที่บริเวณปลายยอดทรวงอก อย่างถนัดถนี่จนเนื้อนิ่มยุบบุ๋มลงไป อาจารย์ธันวดีส่งเสียงครางขณะร่างกระตุกเบา ๆ ไม่เข้า ใจว่าตนเองเผลอใจทำอะไรลงไป รู้แต่ว่ารสสัมผัสที่ได้จากการโดนปลายนิ้วของเขาจิ้มไปที่ ปลายถันนั้นช่างซาบซ่านวาบหวานจนน่าเหลือเชื่อ ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าและยกทรงขวางกั้น กลางระหว่างเขาและเธอเอาไว้ก็ตามที เอกยืนยิ้มอย่างพออกพอใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเนื้อตัวของสาวใหญ่วัยมากกว่าเขา สัมผัส เต่งตึงเด้งสะท้อนของหน้าอกที่ปลายนิ้วสัมผัสกลับมีเสน่ห์เย้ายวนไม่แพ้สาวรุ่นสักเท่าไหร่ และ นั่นก็ทำให้เอกอดไม่ได้ต้องหมุนปลายนิ้วคลึงวนกดบดบี้ไปรอบปลายถันจนอาจารย์สาวสวยตัว กระตุกส่งเสียงครางสะท้านออกมา ชายหนุ่มมองภาพใบหน้าใต้กรอบแว่นหนาเตอะของอาจารย์สาวด้วยความสาแก่ใจ ก่อนจะแกล้ง สาวใหญ่รุ่นพี่ด้วยการถอนดึงนิ้วออกมาจากอกอวบอย่างกระทันหัน และเหตการณ์ก็เป็นไปอย่าง ที่เขาคาดเดา ภายใต้มนตราสิเน่หานั้นเธอขยับร่างเดินเข้ามาประชิดพร้อมแอ่นอกอวบเสนอเข้าหา ปลายนิ้วของเขาที่เอาแต่ถอยออกห่าง "พี่สาวชื่ออะไรครับ อยู่ห้องไหน ให้ผมไปหาได้มั้ย?" "... ชื่อจริง ธันวดี ... ชื่อเล่นชื่อแตนจ้ะ ... พะ พี่อยู่ห้อง 647 ..." เมื่อเห็นกิริยาที่หนุ่มหล่อรุ่นน้องหยอกล้อยั่วเย้า แตนสาวใหญ่วัยสามสิบต้น ๆ ก็ได้แต่ฝืนใจตัวเอง สุดกำลังเพื่อที่จะไม่โผเข้าไปหาร่างแกร่งกำยำสมส่วนของเขา เธอพยายามหยุดรวบรวมสติ แต่หัว ใจก็ยังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งคล้ายกลับกลายไปเป็นเด็กสาววัยรุ่นจนทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็เลย ได้แต่เรียกตัวเองเป็นพี่สาว และปล่อยการกระทำไปตามที่หัวใจเรียกร้อง "พี่แตนคนสวย ยังไม่ได้บอกเลยว่า จะให้ผมไปหาที่ห้องได้มั้ย?" หนุ่มหล่อรุ่นน้องพูดพลางถือวิสาสะเอื้อมสองมือมาลูบคลำที่เอวและสะโพกของเธออย่างแผ่วเบา สาวรุ่นพี่อย่างเธอจึงได้แต่มองค้อนในวาจารุกไล่คาดคั้นของหนุ่มรุ่นน้อง เธอบอกเบอร์ห้องเพราะ อยากให้เขาไปหาอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังพยายามคาดคั้นให้เธอเป็นฝ่ายออกปากบอกว่าอยากให้เขา ไปหาอีก "อยากไปก็ไปซิ พี่ไม่ได้ห้ามซักหน่อย" "แสดงว่าไม่อยากให้ผมไป งั้นผมไม่ไปก็ได้" "เดี๋ยว ๆ ... ไปหาพี่นะ พี่อยากให้เธอไปหาพี่ที่ห้อง" "ต้องแบบนี้ซิครับ พี่สาวคนสวย งั้นถ้ามีเวลาผมจะไปหานะครับ ส่วนตอนนี้ผมขอมัดจำก่อน" รอยยิ้มแห่งผู้ชนะประดับอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่ม เขากระชากรั้งร่างของสาวรุ่นพี่เข้ามากอดจูบ อย่างหนักหน่วงจนเธออ่อนปวกเปียกสะท้านเฮือกไปทั้งร่าง จากนั้นเธอก็เดินกลับไปที่ห้องตามที่ เขาสั่ง โดยตลอดเวลานั้นในหัวสมองของเธอมีแต่ภาพของชายหนุ่มที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเต็มไปหมด ความรู้สึกคล้ายกับรักแรกพบของสาวน้อยวัยรุ่นก็มิปาน "น้องหญิงไปกันเถอะ เคลียร์เรียบร้อยแล้ว อาจารย์เข้าใจดี รับรองไม่มีปัญหา" เอกหันมาเปิดประตูแล้วโอบกอดน้องหญิงที่นั่งหน้าตาตื่นอยู่ในรถ ความกังวลจึงค่อยคลายหายไป จากใบหน้าสวยหวานจนหมดสิ้น ความจริงเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เมื่อแอบมองเห็นว่าพี่เอกของเธอ ยืนคุยกับอาจารย์ธันวดีพลางหัวเราะร่วนกันทั้งคู่ และยิ่งได้เห็นอาจารย์ของเธอส่งยิ้มให้พร้อมกับยก นิ้วทำท่าโอเคไม่มีปัญหาแล้วโบกมือลา เธอก็เลยรีบยกมือไหว้ด้วยความโล่งอก กระนั้นเธอกลับหารู้ไม่ว่าภาพที่เธอเห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพมายาที่ชายหนุ่มสร้างขึ้นเพื่อซุกซ่อน ฉากรุกเร้าลวนลามกอดจูบกับอาจารย์ของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด "ฟ้าตื่นได้แล้วจ้ะ" เอกขยับไปเปิดประตูหลังแล้วใช้มือลูบขาอ่อนของฟ้าเรียกให้เธอตื่น พอเธอตื่นขึ้นมา ยังไม่ทันหาย งัวเงียก็โผเข้ากอดกับเขาแล้วบ่นพึมพำออกมาเสียงอ่อนเสียงหวานเพราะยังอยู่ใต้มายามนตร์ จน น้องหญิงถึงกับต้องหันขวับมามองด้วยความตื่นเต้นสงสัยว่าเกิดอะไรกับเพื่อนสาวจอมห้าวของเธอ กันแน่ "เจ้านายขา ลงโทษฟ้าอีกนะคะ" "ฝันอะไรแปลก ๆ อีกล่ะฟ้า ตื่นได้แล้ว" เอกส่งเสียงปลุกฟ้าพลางหันไปส่งยิ้มกลบเกลื่อนกับน้องหญิง แต่ฟ้าก็ยังไม่ยอมตื่นแถมยังเอาแต่ พร่ำเรียกหาเขาเป็นเจ้านาย แล้วก็ระดูมจูบใส่เขายกใหญ่ ชายหนุ่มที่นึกไม่ถึงว่ามายามนตร์จะคงทน อยู่นานขนาดนี้จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ช้อนอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของสาวหมวยหมัดหนักขึ้นมา จากรถ โดยในใจนั้นก็แอบคิดไปว่าเนยนักศึกษาสาวหุ่นเอ็กซ์ที่เขาปล่อยให้นอนอยู่ที่ห้องของฟ้าจะรู้ตัว หรือไม่ว่าโดนเขาเปิดซิงไปแล้ว เพราะก่อนออกมาเขาได้ทำความสะอาดทำลายหลักฐานเกือบ ทุกอย่างแล้ว โดยลงทุนพาสามสาวไปล้างเนื้อล้างตัวสระผมแล้วจัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่าง เหมือนเดิมเป๊ะ กลบเกลื่อนขนาดนี้ดีไม่ดีเนยตื่นมาอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเสียสาวไปแล้ว .............................................................. ในความมืดมิดนั้น เนยกลิ้งพลิกตัวคว้ามือเปะปะไปมาด้วยความหงุดหงิด เสียงเพลง จากโทรศัพท์มือถือที่กระหน่ำโทรเข้ามาไม่หยุดทำลายอารมณ์วาบหวามสุดหฤหรรษ์ ของเธอเสียจนป่นปี้ ไม่ เธอไม่อยากยอมรับแม้แต่นิดว่าประสบการณ์สุดยอดที่ได้รับ มานั้นเป็นเพียงความฝัน หรือหากว่านั่นจะเป็นความฝัน เธอก็อยากจะจมจ่อมอยู่กับ มันไปตลอดกาล เธอกดไม่รับสายและปิดเครื่องทันทีที่เห็นชื่อของผู้โทรเข้า รุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ก็ หล่อดีอยู่หรอก เขาคงจะมาชวนเธอไปเที่ยวผับตามเคย แต่ตอนนี้เธอไม่สน เธอ ไม่ได้อยากแดนซ์ เธอแค่อยากจะนอนหลับฝันถึงชายหนุ่มเสน่ห์แรงอีกคนมากกว่า "อืมมม จารย์เอกสุดหล่อขา มาต่อกันนะคะ ..." เนยส่งเสียงพึมพำด้วยความรักใคร่ ในความมืดนั้นเธอหยิบคว้าเอาหมอนข้างมากอดจูบ พลางใช้สองขาหนีบเสียจนแน่น สะโพกสวยแอ่นกระดกบดโคกสวาทเบียดเสียดสีเข้าหา หมอนข้างราวกับว่านั่นคือชายหนุ่มที่เธอลุ่มหลง พยายามคิดจินตนาการถึงฉากรักวาบ หวามร้อนแรงสานต่อจากความฝันเมื่อครู่ ... ใช่แล้ว ที่ตรงนั้น ในห้องเรียน เขากำลังขึ้น คร่อม กระแทกใส่เธอด้วยดุ้นยาวใหญ่ แรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น จนเธอใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว นักศึกษาสาวสวยขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกหงุดหงิด จินตนาการของเธอกลับสร้างความ เสียวไม่ได้สักเศษเสี้ยวของความฝันที่เธอเพิ่งประสบพบเจอ เธอเหวี่ยงหมอนข้างทิ้งไป ก่อนจะพลิกตัวเปลี่ยนเป็นนอนหงาย แล้วล้วงมือลงไปบีบขยำนม พร้อมกับบดคลึงขยี้ติ่ง แตดจนเริ่มสูดปากส่งเสียงซี้ดซ้าดออกมา ถึงจะยังไม่เท่า แต่ความรู้สึกแบบนี้แหละที่ถึง ใจใกล้เคียงอยู่บ้าง สองมือเล็กบอบบางบีบขยำขยี้ไปตามเนื้อตัวรุนแรงยิ่งกว่าคราใด เรือนร่างงามดุจนาง แบบของเธอเริ่มดิ้นพล่านกระตุกสะท้านแรงขึ้นเรื่อย ๆ เสื้อนักศึกษาที่รัดรั้งกั้นกลางอยู่ บนร่างโดนปลดทึ้งออกไปด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน เธอยกสะโพกเกี่ยวรูดเอากางเกง ในลงไปด้านล่าง พลางถลกกระชากเอายกทรงออกไป เมื่อไร้ซึ่งสิ่งขวางกั้น มือข้างหนึ่งก็บีบกำขยำเต้าอวบเสียจนเต็มแรง อีกมือหนึ่งก็งอนิ้ว เกี่ยวเบ็ดช่วยตัวเองเสียจนสะโพกลอยเด้ง เธอแหงนหน้าเริ่ด เลียลิ้นรอบปากตนเองด้วย ความหิวโหย ก่อนจะสูดปากร้องครางออกมาสุดเสียง "จารย์เอกขา จารย์เอกขา อูยสสสส เสียววว ซี้ดดสสส จารย์เอก จารย์เอก ... ซี้ดดสสส" ปลายนิ้วของเธอแหย่แยงสอดกระหวัดเกี่ยวลึกเข้าไปจนสุดหล้า สองขาเพรียวเริ่มเหยียด เกร็งสั่นสะท้านระริก ในที่สุดอารมณ์ใคร่ที่ใต่ถึงจุดสุดยอด ก็ได้เปิดผนึกปลดปล่อยความ สุขเสียวสุดหฤหรรษ์แล่นพล่านทะลุทะลวงไปทั่วร่างของเธออีกครั้ง เนยนอนหอบหายใจเสียงกระเส่า ในห้วงจินตนาการนั้น เธอกำลังกอดกระหวัดรัดพัวพัน กับชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งได้พบเจอเพียงครั้งเดียว หากในความฝันนั้นเล่า เธอและเขา กลับเสพสมร่วมรักกันไปแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มีความเป็นมายังไง เธอรู้เพียงแค่ว่าเพื่อนของเธอเรียกหาเขา เป็นอาจารย์ชื่อเอก และเขามีสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับน้องหญิงเพื่อนสนิทของเธอ แน่ล่ะ เล่นมีเซ็กส์กันในห้องสมุดแบบนั้น คงไม่ธรรมดาแน่นอน แต่การพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว ชายคนนั้นก็ฉวยโอกาสแทะโลมลวนลามจนเธอเสร็จสมในห้องสมุดไปด้วย ทั้งยังแอบ ฉกยึดเอายกทรงของเธอไปเสียอีก แต่เพราะเขาทำแบบนั้นนั่นแหละเธอจึงยิ่งหลงไหล ในเสน่ห์ของเขาเสียจนหัวปักหัวปำยิ่งกว่าชายใดเสียแล้ว เนยทอดถอนหายใจด้วยความเสียดาย มันเป็นแค่เพียงความฝันจริงหรือ เรื่องราวที่เธอโดน ลวนลามบนรถเมล์ แล้วโดนเขาจับลากมาเปิดซิงในมหาลัยอย่างสุดเสียว นั่นมันคือความฝัน แค่นั้นหรอกเหรอ เธอพยายามปฎิเสธไม่เชื่อว่านั่นเป็นแค่ความฝัน แต่กลับไม่อาจอธิบายตัว เองได้ว่า มันเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะสามารถหอบหิ้วพาเธอไปมีเซ็กส์ได้ทั่วทั้งมหาลัยแบบนั้น โดยไม่มีใครพบเห็น ไหนจะหน้าเสาธง ในห้องเรียน โรงยิม สนามบอล โรงอาหาร ข้อเท็จจริงเหล่านี้ทำให้เธอได้แต่ยอมรับความจริงว่ามันคงเป็นแค่ความฝัน กระนั้นสัมผัสแข็ง กระด้างโค้งเว้าของยกทรงที่ปลายนิ้วของเธอกำลังสัมผัสกลับจุดประกายความสงสัยของเธอ ขึ้นมาอย่างฉับพลัน โคมไฟที่หัวนอนโดนเปิดขึ้นจนทั้งห้องสว่างไสว เนยกระพริบตาสี่ห้าครั้งพยายามปรับสายตา จากความมืดมาสู่ความสว่างก่อนจะมองสำรวจไปรอบห้อง ทีแรกเธอคิดว่ากำลังนอนหลับอยู่ ในห้องนอนตัวเอง แต่เมื่อมีแสงไฟจึงค่อยได้รู้ว่านี่เป็นห้องนอนของฟ้า จากนั้นความทรงจำ ก็ค่อยผุดเข้ามาว่า เธอมาในห้องนี้พร้อมกับหญิงและฟ้า แต่ตอนนี้สองสาวเพื่อนสนิทหายไป ไหนไม่รู้ และหลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย เนยคว้าเอายกทรงที่กองอยู่บนเตียงนอน แล้วเดินฉับ ๆ ไปเปิดไฟดวงใหญ่ในห้อง เธอมอง ยกทรงสีสวยในมือตัวเองอย่างพินิจพิจารณา นี่คือยกทรงของเธอที่โดนอาจารย์ชื่อเอกคน นั้นฉกไปในห้องสมุดไม่ผิดแน่นอน คำถามก็คือ ทำไมมันถึงกลับมาสวมใส่อยู่บนร่างของ เธออีกครั้ง แล้วใครเป็นคนสวมให้เธอ? นักศึกษาสาวขยับร่างไปยืนเหม่อที่หน้ากระจก เสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่บนเนื้อตัวโดนปลดถอด ออกจนหลุดลุ่ย เหลือแต่เพียงเนื้อตัวเปลือยเปล่า เธอมองเรือนร่างอวบอัดน่าฟัดของตัวเอง ที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาพลางครุ่นคิด กลิ่นสบู่อ่อน ๆ โชยออกมาจากร่างคล้ายกับว่าเธอเพิ่ง จะอาบน้ำมาหมาด ๆ บนร่างของเธอปรากฎรอยจ้ำสีแดงเล็ก ๆ อยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะบริ เวณทรวงอก และที่สำคัญตรงนั้นของเธอก็เผยออ้าแง้มออกมามากกว่าปกติ ร่องรอยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เนยเชื่อว่าเธอคงโดนเปิดซิงไปเสียแล้ว แต่ใครกันที่เป็นคน ทำลายความบริสุทธ์ของเธอ สาวสวยได้แต่แอบคิดภาวนาว่าใครคนนั้นคืออาจารย์เอกสุด หล่อที่เธอหลงไหล แต่ในขณะเดียวกันก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นคนอื่นเธอจะทำยังไง เป็นไปได้ที่ว่าเธออาจจะเผลอนอนหลับในห้องของฟ้า แล้วก็โดนเขาคนนั้นมาลักหลับเปิดซิง แต่หญิงกับฟ้าหายไปไหนกัน เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนจะต้องให้คำตอบได้แน่ เนยที่คิด เช่นนั้นรีบวิ่งไปเปิดโทรศัพท์ แล้วโทรหาหญิงก่อนเป็นอันดับแรกแต่กลับติดต่อไม่ได้ เธอจึง เปลี่ยนไปโทรหาฟ้าเป็นอันดับที่สอง แต่ก็ยังคงติดต่อไม่ได้อยู่ดี เนยเอนหลังลงนอนบนเตียงทั้งที่พยายามโทรออกเป็นรอบที่ห้า แต่แล้วความง่วงงุนก็จู่โจม เข้ามาอย่างกระทันหัน เธอหลับตาพริ้มผลอยหลับไปทั้งที่โทรศัพท์ยังคงอยู่ในมือ จมจ่อมอยู่ กับฝันหวานของเศษเสี้ยวตะกอนที่หลงเหลืออยู่ของมายามนตร์ และไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยจวบ จนกระทั่งเกือบพลบค่ำของอีกวัน .............................................................. "กลับมาแล้วจ้าสาว ๆ" เอกพูดส่งเสียงดังขณะโอบเอวกอดน้องหญิงและน้องฟ้าสองนักศึกษาสาวสุดสวยที่ยังงัวเงีย ครึ่งหลับครึ่งตื่นเดินเข้าไปในห้องพักอันโอ่โถงหรูหรา เมื่อสิ้นเสียงก็ปรากฎใบหน้าขาวผ่องของ สองสาววัยทำงานและสองเด็กสาวอ่อนวัยชะโกงหน้าออกมาดูด้วยแววตาตื่นเต้นคิดถึงเหมือน กับว่ารอคอยอยู่เนิ่นนานแล้ว ฝ้ายพยาบาลสาวเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับใช้มือปัดปอยผมขึ้นด้วยท่าทางขัดเขิน เมย์ เด็กสาวมัธยมต้นวัยสิบสี่ขวบก็เดินเคียงคู่กันออกมาโดยทั้งคู่ต่างก็สวมใส่ผ้ากันเปื้อนเอาไว้ สองแม่ครัวต่างวัยต่างสวยน่ารักแลดูอ่อนหวานสดใสจนกินกันไม่ลง ขณะที่คู่ฝ้ายและเมย์ช่วยกันทำครัวอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งมายด์เด็กสาววัยสิบสองขวบก็กำลังกด รัวจอยบังคับดวลเกมอยู่กับฝนพริตตี้สาวสุดเซ็กซ์ซี่อยู่ที่หน้าจอทีวีอย่างเมามันส์ แต่พอได้ยิน เสียงของเขา มายด์ก็โยนจอยเล่นเกมทิ้งลงแล้วโผร่างบอบบางขึ้นมากระโดดโลดเต้นอยู่บน โซฟาร้องเย้เย้ด้วยอารมณ์รื่นเริงสดใส ด้านฝนเองก็กระโดดโลดเต้นยินดีเช่นกัน แต่รายนี้ไม่กระโดดเฉย ๆ เพราะเธอนั้นกึ่งวิ่งกึ่งกระ โดดโผใช้สองมือเข้ามากอดคอ ด้านสองขาก็ตวัดรัดรอบเอวเขาไว้ พร้อมกับบดนมขนาดพอ ดีมืออัดใส่หน้า แล้วก็ทิ้งตัวให้เขาอุ้มแบบไม่เกรงใจใคร จนน้องหญิงและน้องฟ้าต้องหลบให้ แบบไม่เต็มใจนัก "คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันหนึ่งคืน" ฝนที่มีนิสัยเปิดเผยกอดรัดพัวพันใช้หน้าอกบดเบียดกับใบหน้าจนชายหนุ่มแทบหายใจหายคอ ไม่ออก ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปคงจะล้มหรือเซไปเซมาแล้วเพราะเธอเล่นกระโดดทิ้งน้ำหนักเข้า หาเขาทั้งหมดแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่เอกนั้นใช่คนธรรมดาซะที่ไหน เขายังคงยืนนิ่งแบบสบาย ๆ เหมือนกับว่าน้ำหนักเกือบสี่สิบห้ากิโลของฝนนั้นเบาเหมือนปุยนุ่น ชายหนุ่มปล่อยให้ฝนทำตามใจครู่ใหญ่ ก่อนจะลงมือแกล้งกลับด้วยการร่ายมนตร์ปลุกสวาท พลางใช้สองมือขยำขยี้สะโพกก้นของเธอ แล้วอ้าปากงับซุกไซร้สูดดมความหอมหวานของ ร่องอกพริตตี้สาวจนเธอสั่นสะท้านส่งเสียงครางมือไม้อ่อนระทวย พอสองมือสองขาของเธอเริ่มคลายตัว เอกก็อุ้มขยับเธอต่ำลงมาเล็กน้อย แล้วก็บดจูบบี้ปาก แลกลิ้นรุกเร้าจนฝนหัวหมุนติ้วตัว ก่อนจะเดินอุ้มประคองร่างอ่อนปวกเปียกของเธอลงไปนั่ง หอบหายใจกระเส่าบนเก้าอี้โซฟาโดยที่เธอไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจปล่อยเขาไปเท่าไหร่นัก "ฝ้ายล่ะ คิดถึงป่าว?" เอกหันไปทักทายพูดคุยกับฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยที่ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่ตรงประตูห้อง ครัว เขาอ้าสองแขนออกเหมือนจะบอกใบ้ให้ฝ้ายโผเข้ามากอดเขาแบบเดียวกับที่ฝนเพิ่งทำ ไป ด้านสาวขี้อายอย่างฝ้ายก็ได้แต่หน้าแดงผ่าวก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ใจน่ะคิด ถึงอยากทำแบบเดียวกับฝนจะแย่ แต่ก็เขิน ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองออกไปแบบนั้น เอกที่เข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนยังไงก็ไม่ทำให้เธอเป็นฝ่ายลำบากใจมากนัก เขาเดินเข้าไปหาเธอ เองถึงหน้าประตูห้องครัว จากนั้นก็โอบเธอมากอดจูบแบบนิ่มนวล แรกทีเดียวพยาบาลสาวนั้น ลังเลเก้ ๆ กัง ๆ ไม่กล้าแสดงอารมณ์ออกมา แต่พอโดนเขาเล้าโลมอีกหน่อย ก็อดใจไม่ไหวต้อง โอบสองแขนกอดเขาแน่น แล้วจูบแลกลิ้นกับเขาเป็นพัลวัน ชายหนุ่มฉวยโอกาสกระตุ้นอารมณ์ของฝ้ายด้วยการลากมือลูบไล้ไปทั่วผิวกายที่ขาวผุดผ่อง เขาร่ายมนตร์กระตุ้นเร้าอารมณ์พลางล้วงมือเข้าไปด้านในเสื้อยืดแล้วบีบขยำนมจนสาวสวยตัว กระตุกสั่นระริก และเมื่อสังเกตเห็นว่าร่างของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาเพราะอารมณ์ใคร่ เอกก็ลงมือ กลั่นแกล้งฝ้ายด้วยการอุ้มพาเธอไปปล่อยวางไว้บนโซฟาข้างฝนแบบดื้อ ๆ จนเธอต้องแอบส่ง สายตามองค้อนเข้าให้ ด้านน้องหญิงและน้องฟ้าที่เพิ่งจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามฝน พอได้เห็นลีลารักของ แฟนหนุ่มกับสองสาวรุ่นพี่ก็ต่างพากันเบิกตามองด้วยความตื่นเต้นสงสัย ต่างฝ่ายต่างแปลกใจ ที่ทำไมตัวเองไม่เกิดอารมณ์หึงหวง แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วมไปด้วยเสียอีกต่างหาก มันคล้ายกับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความเคยชิืนที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตสำนึกไปเสียแล้ว เอกหันสลับไปมองเมย์กับมายด์สองศรีพี่น้องที่ยืนหน้าจ๋อยด้วยความรู้สึกสงสาร พวกเธอต่างทำ หน้าสลดเพราะอยากไปกอดพี่ชายสุดที่รักใจจะขาด แต่เนื่องจากเคยสัญญาว่าจะเก็บรักษาความ สัมพันธ์ฉันท์สวาทระหว่างพี่น้องไว้เป็นความลับไม่ให้ใครรู้ พวกเธอจึงได้แต่พยายามเก็บกดอารมณ์ เอาไว้ไม่กล้าแสดงออกมา "ก่อนอื่น .. สาว ๆ ฟังนะ ผมมีเรื่องสำคัญจะสารภาพ ..." ด้วยความสงสารสองน้องสาว เอกหันไปมองน้องหญิง น้องฟ้า ฝ้าย และฝน แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่ ควรทำ เขาได้ปรึกษากับพี่แก้วนางตะเคียนเอาไว้แล้ว และเธอก็บอกว่าสารภาพความจริงไปเสีย แล้วทุกอย่างจะดีเอง ซึ่งสี่สาวต่างก็ทำหน้าฉงนสงสัยว่าชายหนุ่มจะสารภาพเรื่องอะไร "... น้องเมย์ น้องมายด์ มากอดหน่อยซิ" เอกหันไปมองสองน้องสาวแล้วผายมือออกบอกให้พวกเธอเข้ามาหา เมย์และมายด์ต่างฝ่ายต่าง มองหน้ากันด้วยความลังเล จนเมื่อเมย์ผู้เป็นพี่สาวเดินเข้าไปหา มายด์น้องสาวในโอวาทจึงค่อย กล้าเดินเข้าไปหาพี่เอกของเธอด้วย พอสองน้องสาวอ่อนวัยเดินเข้ามาใกล้ เอกก็กอดอุ้มสองเด็กสาวขึ้นมาพร้อมกันคนละมือจนพวก เธอร้องวีดว้ายตกใจ จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปจูบแลกลิ้นกับเมย์ที่โดนอุ้มด้วยแขนขวาก่อน แล้วค่อย สลับไปจูบปากแลกลิ้นกับน้องมายด์ที่อยู่อีกข้าง พอสองสาวอ่อนระทวยเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ที่อยู่หัวโต๊ะโดยมีสองน้องสาวตัวน้อยหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดทั้งซ้ายและขวา "นี่แหละเรื่องที่จะสารภาพ" เอกพูดพลางกวาดตามองสำรวจอาการของสี่สาวไปรอบโต๊ะ ง่าย ๆ แบบนี้แหละ ที่สื่อความสัมพันธ์ ระหว่างเขาและสองน้องสาวออกไปได้ชัดเจนที่สุด "สารภาพอะไรเหรอ ก็เมย์ กับมายด์ น่ะเป็นเมียเด็กของพี่เอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?" ฝนพูดขึ้นมาเป็นคนแรก สีหน้าของเธอเฉยเมยเหมือนเข้าใจว่ามันเป็นอย่างงี้อยู่แล้ว แต่จะว่าไป ด้วยนิสัยไม่สนใจกรอบระเบียบของเธอ ต่อให้เอกจะมีผู้หญิงสักกี่คนเธอก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่อยู่ แล้ว ขอแค่ให้เขามีเวลามีกำลังมอบความสุขให้เธออย่างที่ผ่านมาก็พอแล้ว ฝ้ายไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ก็หันไปมองสองเด็กสาวด้วยความเป็นห่วงผสมกับกังวลเล็กน้อย เธอเคยคุยกับฝนหลายครั้งแล้ว ว่าสองน้องสาวก็ไม่น่าจะทานทนเสน่ห์ของพี่เอกไหว เพราะขนาด เธอเองที่รักนวลสงวนตัวเสียขนาดนั้น ยังเผลอตัวยอมให้เขามีอะไรด้วยทั้งที่ได้คุยกันวันแรกเลย "น้องเมย์ น้องมายด์ ไม่ได้โดนพี่เอกขืนใจใช่มั้ย ถ้าใช่บอกมาเลยนะ พี่ฟ้าจะกระทืบให้เอง" ฟ้าสาวหมวยหมัดหนักลุกพรวดขึ้นยืนแล้วพูดโพล่งขึ้นมา แม้จะแอบคิดอยู่บ้างแล้วในเรื่องนี้ แต่ก็อดไม่ได้ให้รู้สึกเคืองและผิดหวังที่ชายสุดที่รักของเธอข่มเหงรังแกน้องสาวร่วมสายเลือด ตัวน้อยทั้งสอง "ฟ้า !! ใจเย็นก่อน พี่เอกไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ใช่มั้ยคะ พี่เอก" น้องหญิงรีบฉุดมือน้องฟ้าให้นั่งลง แล้วหันไปมองเอก ดวงตากลมสวยของเธอนั้นเต็มไปด้วย ความเชื่อมั่นในตัวชายคนรัก หากแฝงเร้นไปด้วยความรู้สึกสั่นคลอนไม่มั่นใจอยู่เล็กน้อย "ไม่ใช่นะคะ พี่ฟ้า พี่หญิง ... พี่เอก ไม่ได้รังแก ไม่ได้ใช้กำลังกับเมย์เลย แต่เป็นเมย์ต่างหาก ที่ยั่วแล้วก็ตื๊อให้พี่เอกมีอะไรด้วย จนพี่เอกทนไม่ไหว ..." เมย์ที่เห็นท่าไม่ดีรีบลุกขึ้นยืนขวางระหว่างฟ้ากับพี่เอกสุดที่รักของเธอ แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องราวตั้ง แต่ได้ได้พบเจอพี่เอก แล้วก็ไปเสนอขายตัวให้เขาดูแล แล้วก็ตอนที่เธอตามตื๊อยั่วพี่เอก จนเขา ทนไม่ไหวออกไปจนหมด "... แหม เห็นตัวเล็กนิดเดียว ร้ายเหมือนกันนะจ๊ะน้องเมย์ ... สรุปว่าตอนแรกไปเสนอขายตัวแลก เงินกับพี่เอก แต่พี่เอกหยุดซะก่อนเพราะเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ... จากนั้นพอมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็ เสนอตัวเปลืองผ้าเข้าไปยั่วพี่เอกในห้องอาบน้ำ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ... ก็เลยใช้แผนยั่วให้หึง พาแฟน หลอก ๆ มาที่บ้าน จนพี่เอกสติแตกใช่มั้ย ... แหม ตัวแค่นี้ แผนลึกซึ้งจริง ๆ นะจ๊ะ" เมื่อเล่าจบทุกคนก็นั่งฟังกันเงียบกริบ ฝนที่นั่งฟังด้วยความสนุกตื่นเต้นก็ทำการสรุปเรื่องราวให้ น้ำเสียงของเธอคล้ายกับจะชื่นชมในการกระทำของเมย์ซะด้วยซ้ำ "แล้วมายด์ล่ะจ๊ะ?" น้องหญิงที่สีหน้าดีขึ้น หันไปถามน้องมายด์ "มายด์เห็นพี่เอกมีอะไรกับพี่เมย์แล้วมายด์อิจฉาน่ะค่ะ อยากโดนพี่เอกรักแบบนั้นบ้าง แต่พี่เอกไม่ได้ รังแกมายด์นะคะ มายด์เต็มใจ" มายด์พูดพลางกอดแขนของเอกไว้แน่นเหมือนจะบอกว่าเธอพร้อมจะปกป้องพี่ชายสุดที่รักของเธอ อย่างเต็มที่ ขณะที่น้องหญิง น้องฟ้า และฝ้ายนั้น ต่างก็พากันนั่งเงียบกริบครุ่นคิด "แหม ๆ พวกหล่อน จะทำหน้าเครียดอะไรกันจ๊ะ สรุปว่าทุกคนก็หลงเสน่ห์พี่เอกของพวกเรา แล้วเป็น ฝ่ายเข้าหาเหมือนกันหมดใช่มั้ยล่ะ? อย่างชั้นเองแค่เจอหน้าในผับครั้งแรก ก็หลงรัก ยอมให้เขากอด จูบลูบคลำแล้วพาไปเปิดซิงในโรงแรมแล้ว ... อ๋อ ขนาดยัยฝ้ายที่รักนวลสงวนตัวนักหนาก็เหอะ ได้ คุยกันหน่อยเดียว ก็ยอมเสนอตัวเข้าหา ให้พี่เอกฟันถึงห้องพักในโรงพยาบาลมาแล้ว" "ยัยฝน ... !!!" ฝ้ายรีบส่งเสียงประท้วงฝนที่แฉเรื่องราวของเธอออกมาจนหมดเปลือก แล้วก็รีบก้มหน้างุดไม่กล้ามอง หน้าใคร เพราะถ้าฟังจากคำบอกเล่าของฝนแล้วล่ะก็ จะใช้คำว่าแรดร่านมาบรรยายแทนก็ยังได้ พอเห็น ฝ้ายเงียบไป ฝนก็เลยหันไปไล่ถามฟ้าสาวหมวยหมัดหนักต่อ "แหม ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ เรามันคนกันเองทั้งนั้น เธอล่ะยัยฟ้า โดนพี่เอกฟันยังไง สารภาพมาซะดี ๆ" "ฟ้า ... เอ่อ ... ฟ้า ..." ฟ้าหันไปมองหน้าหญิงเพื่อนรัก ก่อนจะอ้าปากบรรยายเรื่องราวออกไปจนหมดเปลือก โดยที่ตัวเองก็ไม่ มั่นใจว่าทำไมตัวเองถึงได้กล้าเล่ารายละเอียดยิบขนาดนี้ "ว้าว ๆ เธอก็ไม่เบานะยะยัยหมวย เจอกันวันแรกก็อ่อยเหยื่อให้เขาไปฟันในห้องซะแล้ว สรุปว่าเจอกันวัน แรก เธอวิ่งไปชนเค้าซินะ แล้วก็ต่อยเค้า ... ที่เด็ดก็คือ หลังจากนั้นก็แอบไปนั่งช่วยตัวเองในห้องเรียนจน เสร็จเพราะเอาแต่คิดถึงพี่เอกใช่มั้ย ... พอเลิกเรียนก็ไปเจอพี่เอกโดยบังเอิญ แล้วก็ขาแพลง ก็เลยให้พี่ เอกประคองพาไปขึ้นห้องพัก แล้วก็ยั่วให้พี่เอกฟัน?" "เปล่าน่ะ ไม่ได้ยั่วซะหน่อย" "ไม่ได้ยั่วที่ไหนจ๊ะ ผู้หญิงทำแบบนั้นน่ะเค้าเรียกว่ายั่วเต็ม ๆ เลยจ้ะ พี่ฝนจะบอกให้ ... เอ้าสรุปว่าเธอก็เป็น เหมือนน้องเมย์ น้องมายด์ ซินะ หลงเสน่ห์ แล้วก็ยั่วให้พี่เอกฟัน?" "ไม่ใช่นะ ... ก็ ... เอ่อ ... คือ ..." ฟ้าโดนฝนรุกไล่จนได้แต่ลงไปนั่งจ๋อยบนโซฟา เพราะจะว่าไปตัวเธอเองก็เป็นฝ่ายยั่วพี่เอกจริง ๆ อย่างที่ อีกฝ่ายกล่าวหา "แล้ว เธอล่ะจ๊ะ คุณภรรยาหลวง จะบอกได้มั้ยว่าครั้งแรกกับสามีของพวกเราน่ะเป็นยังไง?" "หญิง ... คือ ..." น้องหญิงดาวมหาลัยแสนสวยหันไปมองรอบโต๊ะด้วยใบหน้าเขินอาย บรรยากาศตึงเครียดเหมือนจะหมด สิ้นไปแล้ว เธอเองก็เริ่มไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรกับเรื่องเมย์และมายด์ กลับเริ่มรู้สึกดีเสียอีกที่พี่เอกของเธอ ยอมสารภาพเล่าความสัมพันธ์ออกมาด้วยตัวเอง เธอก็เลยเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองกับพี่เอกตั้งแต่แรก พบ (แต่ก็แอบข้ามตอนที่โดนพ่อตัวเองแอบลักหลับจนเกือบเสียสาวไป) "อื้อหือ เธอเองก็ร้อนแรงใช่เล่นนะจ๊ะยัยคุณหนูไฮโซ ... อ่อยเหยื่อชวนผู้ชายออกไปกินข้าว แล้วก็ตั้งใจ อ่อยให้เขาพาไปส่งที่บ้านด้วยใช่มั้ยล่ะ แต่ใจร้ายน่าดูนะจ๊ะ ตอนอยู่บนรถเมล์ก็ปล่อยให้พี่เอกเขาล้วงเอา ล้วงเอาจนเสร็จ แล้วไม่ยอมให้พี่เอกพาไปต่อที่อื่น ... ตอนโดนโจรบุกบ้านจนเกือบโดนข่มขืนนั่นก็ไม่เบา ดีนะพี่เอกของเรามาช่วยทัน ... แล้วพอพี่เอกออกจากโรงพยาบาลก็เสนอตัวให้เอกเปิดซิงด้วย แต่พอดี โดนพ่อตัวเองโทรมาห้ามได้ทันเสียก่อน ... แล้วคืนนั้นก็โทรเรียกพี่เอกไปหาถึงที่บ้าน แล้วให้เขาเปิดซิง ในสระน้ำ ... แหม ถ้าพูดถึงเรื่องยั่วเสนอตัวล่ะก็ เธอนี่แหละเบอร์หนึ่งในกลุ่มเลย" ฝนพูดสรุปย้อนความอีกทีจนน้องหญิงเขินหน้าแดงก้มหน้างุดไปอีกคน จะเถียงกลับก็เถียงไม่ได้ เพราะ เมื่อลองนึกย้อนกลับไปดู มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ พี่เอกไม่ได้เป็นฝ่ายรุกเร้าเข้าหารังแกเธอเลย แต่เป็น เธอเองนี่แหละที่เสนอตัวเข้าหาเขาเองเกือบจะทั้งหมด "เอาล่ะนะ สรุปว่าพวกเราสาวร้อนรัก เห็นชอบให้น้องเมย์ และน้องมายด์ มีสถานะเป็นเมียของพี่เอกได้ สาว ๆ มีอะไรขัดข้องหรือเปล่าจ๊ะ?" ฝนถือโอกาสสรุปเรื่องราว แล้วหันไปขยิบตาให้เอก ซึ่งกำลังแอบงุนงงว่าทำไมวันนี้ฝนถึงได้พูดจา เข้าข้างเขาอย่างมีเหตผลมากผิดปกติ แต่เมื่อหันไปเห็นร่างวิญญาณสีเขียวอ่อนจางที่คอยพูดกระซิบ อยู่ที่ข้างหูของฝน เอกก็รับรู้ได้ทันทีว่าที่แท้แล้วก็เป็นฝีมือของพี่แก้วนั่นเองที่แอบช่วยสะสางปัญหาให้ "เอาล่ะ ไม่มีใครคัดค้าน งั้นเราก็เริ่ม Party กันเถอะ หิวจะแย่แลว " ฝนลุกขึ้นเดินนวยนาดด้วยมาดนางแบบไปเปิดเพลงคลาสสิค แล้วเดินมาลากมือฝ้าย น้องฟ้า และ น้องหญิงไปที่โต๊ะอาหาร ปล่อยให้เมย์กับมายด์ได้นอนอิงแอบกับเอกด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข เพราะ พวกเธอไม่ต้องปิดบังความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับพี่ชายสุดที่รักอีกต่อไปแล้ว .............................................................. ปาร์ตี้ยกทรง เอก นั่งยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขอยู่ที่หัวโต๊ะ สำหรับเขาแล้วเรียกได้ว่ามื้อค่ำคืนนี้เป็นมื้อที่อร่อยและ มีความสุขมากที่สุดยิ่งกว่ามื้อใด อาหารที่ทำโดยสองแม่ครัวต่างวัย ฝ้าย และ เมย์ แม้จะไม่ได้เป็น อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก แต่เมื่อได้มานั่งล้อมวงดื่มกินกับสาวสวยระดับดารานางแบบยังอายถึง หกนางพร้อมกัน มองดูพวกเธอบิดกายพูดคุยสนทนาหัวร่อต่อกระซิกในสภาพสวมใส่เพียงชุดชั้นใน อวดเนื้อหนังผิวพรรณขาวผ่อง และเรือนร่างอวบอิ่มโค้งเว้าเร้าอารมณ์ พลางอ้าปากงับอาหารเข้า ไปก็ได้อารมณ์สุขสุนทรีย์ยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นใดจะเทียบเทียมแล้ว "พี่เอกขา มองกันแบบนี้ อยากจะหม่ำข้าว หรือจะหม่ำนมฝนกันแน่คะ?" ฝนพริตตี้สาวที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือหัวเราะคิกคักจนหนองโพขนาดพอดีมือสั่นกระเพื่อมอยู่ใน ชุดชั้นในสีดำสนิท มือหนึ่งของเธอกำลังป้อนข้าวเสนอให้เอก ส่วนอีกมือนั้นกำลังลูบไปตามท่อน ขากำยำพลางส่งสายตายั่วเย้าหิวกระหายราวกับอยากจะจับเขากินเสียตรงนี้ เอกไม่ตอบคำ เพราะข้าวยังเต็มปากอยู่เลย แต่ก็ยอมอ้าปากงับข้าวในช้อนที่ฝนป้อนให้ ซึ่งไม่ทันไร ก็ต้องหันหน้าไปทางขวาอ้าปากงับหมูทอดจากฝ้ายพยาบาลสาวเจ้าของเรือนร่างขาวผ่องละลานตา ที่นั่งอยู่อีกข้าง ชายหนุ่มอ้าปากเคี้ยวไปพลาง ชำเลืองมองดูฝ้ายที่สวมใส่ยกทรงสีขาวสะอาดไปพลางด้วยสายตา หิวกระหาย ฝ้ายสั่นสะท้านเอียงอายหลบสายตา หากยังคงเผยอแอ่นทรวงอกไซส์ใหญ่กว่าฝนเล็ก น้อยขึ้นยั่วเย้าชายหนุ่ม ฝ้ายไม่ได้รุกเร้าเสนอสนองแบบฝน กระนั้นเอกกลับรู้สึกว่าท่าทีเอียงอาย ขัดเขินของฝ้ายกลับเร้าอารมณ์ของเขาได้มากกว่า เมื่อมองความขาวของนมและขาของฝ้ายจนอิ่ม ชายหนุ่มก็หันหน้ามองไปยังน้องหญิงและน้องฟ้า ที่นั่งถัดไปจากฝ้ายและฝน สองนักศึกษาสาวคู่ซี้ในชุดชันในสีสวยสดใสโดนจัดให้นั่งห่างออกไป เพราะฝนบอกว่าได้ใกล้ชิดกับเขาที่มหาลัยไปแล้ว ส่วนสองน้องสาวอ่อนวัยเมย์และมายด์นั้นก็นั่ง ถัดออกไปที่ปลายโต๊ะอีก เพราะสาว ๆ คนอื่นแอบเคืองที่พากันไปเที่ยวทะเลโดยไม่บอกไม่กล่าว เมย์ที่ใส่ชุดชั้นในสีฟ้าลายการ์ตูนหันมาส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะหันกลับไปพูดคุยเล่าเรื่องราวที่เธอไป เที่ยวทะเลมาให้หญิงและฟ้าฟัง น้องมายด์เด็กสาวที่อ่อนวัยที่สุดในกลุ่มนั้นแต่งตัวแปลกกว่าคนอื่น เล็กน้อย เพราะเธอยังไม่โตพอที่จะใส่ยกทรง จึงเลือกสวมใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซสีเหลืองสดใสแทน สาว ๆ หันไปมองทางน้องเมย์ทำท่าลุ้นระทึกจนตัวโก่ง ตอนที่เมย์เล่าให้ฟังว่าเธอเกือบจะโดนชาย แปลกหน้าข่มขืนในห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ซึ่งเอกเองที่รู้เรื่องอยู่แล้วก็ยังแอบฟังไปตื่นเต้นไปไม่ได้ เพราะว่าน้องเมย์ของเขานั้นดูจะมีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องชะมัด เล่าซะจนเขาเห็นภาพเลยทีเดียว แต่พอน้องเมย์เล่าไปถึงตอนที่ว่าเขาพากระแตดาราสาวอกอึ๋มขึ้นเตียงพร้อมกับสองน้องสาว เอก ก็ถึงกับต้องยิ้มแห้ง ๆ เพราะหญิง ฟ้า และฝ้าย ต่างก็พากันหันหน้ามามองด้วยสายตาที่แปลความ หมายได้ว่าแอบไปมีผู้หญิงคนอื่นอีกแล้วเหรอเนี่ย ส่วนฝนนั้นก็แค่หัวเราะปรบมือชอบใจ แล้วก็หัน มาถามว่าไปเจอกับกระแตได้ยังไง เอกก็เลยเล่าเรื่องไปตามความจริง ว่าไปช่วยกระแตที่โดนนักเลงฉุด แล้วปราบนักเลงไปสี่ห้าคน แล้วก็ปราบหมอผีที่แปลงร่างเป็นลิงยักษ์ได้อีกหนึ่ง กระแตก็เลยสำนึกบุญคุณแล้วยอมมีอะไรกับ เขา แต่พอฟังจบสาว ๆ ก็ปรบมือหัวเราะคิกคักบอกว่าเอกแต่งนิทานได้เก่งเสียอย่างงั้น ซึ่งก็แน่ ล่ะเรื่องราวมันออกจะเหลือเชื่อเกินไป ยกเว้นก็แต่น้องหญิง และฝ้าย ที่มองมาด้วยสายตาแปลก ๆ เหมือนพวกเธอจะไม่คิดว่าเรื่องที่เขาเล่าเป็นเรื่องโกหกพกลม "พวกเรามาเล่นเกมกันดีกว่านะ ใครชนะมีรางวัล ชื่่อเกมคือ อะไรดีน้า เอานี่ดีกว่า ป้อนข้าวหฤหรรษ์" ฝน พูดแทรกเสนอขึ้นมาจนทุกคนเงียบหันมามอง และเป็นฟ้าสาวหมวยหมัดหนักที่ดูจะไวกับการ แข่งขันมากที่สุดที่ถามขึ้นมาก่อน "ชื่อเกมแปลก ๆ นะ เล่นยังไง?" "ก็ง่าย ๆ กรรมการคือ พี่เอกสามีสุดที่รักของพวกเรา พวกเราผลัดกันทีละคน ป้อนข้าวให้พี่เอก ด้วย ลีลายังไงก็ได้ แต่ห้ามใช้เวลาเกิน 1 นาที แล้วสุดท้ายก็ให้พี่เอกตัดสินว่าใครชนะ" "ถ้าชนะแล้วได้อะไรล่ะ?" "ก็จะได้สิทธิขึ้นเตียงกับพี่เอกเป็นคนแรกน่ะซิ แถมเวลาให้สวีทหวานกันหนึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นคนอื่น ห้ามยุ่ง เห็นด้วยกับพี่ฝนมั้ยจ๊ะสาวๆ ?" นอกจากผู้เสนอไอเดียแล้ว หนึ่งสาววัยทำงาน สองสาววัยรุ่น และสองสาวน้อยอ่อนวัย ต่างพากันหัน มามองทางชายหนุ่มตาเป็นมัน เมื่อได้ยินว่ารางวัลคืออะไร เพราะสำหรับพวกเธอแล้วคงไม่มีรางวัล ไหนที่อยากได้มากกว่าเวลาที่จะได้อยู่กับชายคนรักเป็นการส่วนตัว "งั้นเอาแบบนี้นะ เดี๋ยวจะหมุนตะเกียบก่อน ถ้าปลายตะเกียบชี้ไปทางใคร คนนั้นก็เป็นคนเริ่มก่อน แล้ว ก็ออกไปยืนรอนอกโต๊ะ พอป้อนครบ พี่เอกก็จะเดินมาเลือกอุ้มใครก็ได้เข้าห้องเพียงรอบเดียว ส่วนคน ที่เหลือห้ามเข้าไปรบกวนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ... เอาล่ะ หมุนนนนนน" ห้องทั้งห้องกลายเป็นเงียบกริบในทันที เพราะทุกคนเอาแต่มองดูไปที่ปลายตะเกียบ ว่าจะไปตกที่ใคร และเมื่อตะเกียบหยุดหมุนทุกคนก็อุทานขึ้นมาพร้อมกันว่า "น้องมายด์" มายด์ยิ้มยินดีจนตาหยี เธอกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาเอก โดยมีทุกคนคอยลุ้นว่าเด็กน้อยจะใช้ ลีลาการป้อนอาหารให้ชายหนุ่มอย่างไร "พี่เอกขา ทานข้าวนะคะ" มายด์เดินไปหยุดยืนยิ้มอย่างสดใสจนเห็นไรฟัน แล้วก็หยิบช้อนตักข้าวให้เอกอ้าปากงับไป จากนั้นเธอ ก็เดินไปยืนนอกโต๊ะ ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนว่าจบแล้วเหรอ และเมื่อมายด์พูดทำลายความ เงียบว่า "เสร็จแล้วค่ะ" ทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมาแล้วบ่นพึมพำว่า "เด็กเอ๋ยเด็กน้อย" "เด็กหนอเด็ก ชางไร้เดียงสา งั้นอับดับถัดไป ....... ฟ้า ออกมาเลย" ฝนบ่นพลางส่ายหน้าไปมา เพราะดูเหมือนทุกคนจะลืมไปเสียแล้วว่ามายด์นั้นเพิ่งอายุแค่สิบสองขวบ เท่านั้น คงจะไม่ได้เข้าใจความนัยที่พูดคุยกันสักเท่าไหร่ ก็เลยป้อนข้าวแบบธรรมดาเรียบร้อยเสีย อย่างงั้น ฟ้าสาวหมวยหมัดหนักที่ถูกเรียกชื่อเดินออกมาตัวเกร็ง ๆ ไม่สมกับบุคลิกสาวห้าวที่พร้อมลุยกับคน ทั้งโลกสักเท่าไหร่ และเมื่อฝนบอกว่าให้เริ่มและจับเวลา ฟ้าก็ยืนคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะขยับสะโพก ขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะอวดขาอ่อนและเรือนร่างให้เอกมองเห็นเต็มตา จากนั้นก็ขยับตัวด้วยท่าทางเกร็ง เอาปลายเท้าไปเหยียบคลึงที่ต้นขาใกล้ความเป็นชายของเอกพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบแก้มแล้วตัก ป้อนน้ำซุปเข้าปากชายหนุ่มไปทีละคำ เมื่อฝนประกาศออกมาว่าหมดเวลาทุกคนก็หายใจออกมาเฮือกใหญ่ ส่วนฟ้าก็เดินเขิน ๆ ไปยืนรอ ข้างมายด์ซึ่งตอนนี้เด็กน้อยวัยสิบสองกำลังยืนแก้มป่องทำหน้าบูดอยู่ เพราะดูเหมือนเธอจะเริ่มรู้ แล้วว่าเกมนี้จริง ๆ ควรจะเล่นยังไง "เอ้า หมุนนนนนนน คนต่อไป ... เย้ ฝนเอง ..." ทุกคนเงียบเสียงลงอีกครั้ง ต่างลุ้นระทึกสนใจว่าพริตตี้สาวที่มีนิสัยเปิดเผยที่สุดในกลุ่มคนนี้จะใช้ ท่วงท่าลีลาอะไรออกมา ฝนหยิบกดจับเวลาแล้วยื่นนาฬิกาจับเวลาให้กับฝ้ายที่นั่งอยู่ด้านข้าง เธอเดินโยกย้ายสะโพกด้วย ท่วงท่าลีลาของนางแบบอ้อมไปด้านหลังของเอกแล้วเอื้อมมือโอบกอดรัดรอบคอพลางแอ่นอก แอ่นหน้าอกนุ่มนิ่มเบียดกับหลังศรีษะของเขา มือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นไปบนโต๊ะแล้วหยิบฉวยเอาแก้ว น้ำมาป้อนให้เอกดื่มครู่หนึ่ง พริตตี้สาวก้มหน้าจูบศรีษะของชายหนุ่มอย่างหลงไหล ก่อนจะหมุนเหวี่ยงเรือนร่างเซ็กส์ซี่ของตัว เองขึ้นไปนั่งบนตักของเขา โดยตั้งใจให้สะโพกผึ่งผายของเธอเบียดเสียดกับความเป็นชายของเขา พลางแอ่นหน้าอกแนบทาบเข้ากับร่างแกร่งกำยำ แล้วจ้องมองและส่งยิ้มยั่วเย้า ฝนยกแก้วน้ำในมือขึ้นมาแนบชิดที่ริมฝีปาก เธอแลบลิ้นออกมาจูบและเลียวนรอบขอบแก้ว แววตา ของเธอเต้นระริกยั่วเย้าขณะเว้นช่วงจังหวะให้ทุกคนครุ่นคิดสงสัยว่าเธอกำลังจะทำอะไร และเมื่อ ได้เวลา เธอก็อ้าปากงับกลืนน้ำเข้าในปาก แล้วก็ก้มลงประกบจูบป้อนน้ำให้ชายหนุ่มแบบปากต่อ ปาก ซึ่งชายหนุ่มเองก็ตอบรับด้วยการกอดรัดร่างของเธอแล้วบดจูบพลางดูดน้ำที่อยู่ในปากของ ฝนออกมาจนเธอเสียวสะท้าน และลีลานั้นก็เรียกเสียงฮือฮาจากสาว ๆ ที่เหลือได้ไม่น้อย "หมดเวลา ... หมดเวลาแล้วจ้ะฝน ... ยายฝน" ฝ้ายส่งเสียงบอกให้หยุดเมื่อครบเวลาหนึ่งนาทีตามที่กำหนดกันไว้ แต่กลายเป็นว่าฝนนั้นยังคงจูบ ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มไม่ยอมหยุด จนฝ้ายต้องเรียกย้ำอีกสองสามรอบนั่นแหละ ฝนถึงจะยอมถอน ปากออกมาจากปากของเอกด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยินยอม แล้วก็เดินอ้อยอิ่งไปทำหน้าที่หมุนตะเกียบ ที่อยู่กลางโต๊ะต่อ "เอาล่ะนะ เหลืออีกสามคน ยัยฝ้าย น้องเมย์ แล้วก็น้องหญิง หมุนล่ะน้าาา .... เลขที่ออกกกกก .... น้องเมย์ " พอได้ยินเสียงเรียก เมย์เด็กสาววัยสิบสี่ก็สูดหายเฮือกด้วยความตื่นเต้นจนสองเต้าที่อวบอัดเกินวัย เด้งสะท้านไหว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วหยิบฉวยคว้าเอาแก้วนมเดินพาเรือนร่างเล็กบอบบางไป หาพี่ชายสุดที่รักของเธอ "อ๊ะ ๆ น้องเมย์จะทำอะไรจ๊ะ จะป้อนนมเหรอ ห้ามเลียนแบบพี่ฝนนะจ๊ะ" ฝนแอบส่งเสียงทักท้วงขณะมองเรือนร่างของเด็กสาววัยสิบสี่ด้วยความชื่นชมผสมกับความอิจฉา เพราะแม้นว่าอีกฝ่ายจะยังอ่อนวัยแต่ร่างกายนั้นกลับเติบโตนำไปไกลลิบเสียแล้ว เรียกได้ว่าแทบ ไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่ว่าเด็กสาวคนนี้ยังอยู่แค่ชั้นมัธยมต้น "หนูไม่เลียนแบบหรอกค่ะ" เมย์หันมาส่ายหน้าแล้วก็ปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักหันหน้าเข้าหาพี่ชาย แล้วก็หันมาสายตาให้ฝ้าย เริ่มจับเวลา "พี่เอกกินนมนะคะ" เมย์พูดจบก็ยันตัวขึ้นเล็กน้อยจนทรวงอกอวบอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของเอก เธอยกแก้วนมในมือ ขึ้นสูงเหนือทรวงอกเล็กน้อยแล้วเอียงแก้วรินน้ำนมสีขาวสะอาดหยดแหมะลงบนเนื้อนิ่มของสอง เต้าข้างละเล็กน้อย เอกที่ทันเกมก็ส่งยิ้มให้แล้วก้มใบหน้าลงไปใช้ลิ้นเลียน้ำนมที่ที่กำลังไหลย้อยเลอะอยู่บนสองเต้า และร่องอกจนสะอาดเอี่ยม น้องเมย์ที่ตัวสั่นสะท้านเล็กน้อยด้วยความเสียวพยายามข่มกลั้นอารมณ์ ตัวเองแล้วเริ่มขั้นตอนถัดไป มือข้างที่ว่างอยู่ของเธอเอื้อมขึ้นไปดึงยกทรงลายการ์ตูนลงไปด้านล่างจนสองเต้าเด้งผึงออกมาอวด เปลือยโชว์รูปร่างอันสวยงามน่าลูบไล้ มือข้างนั้นขยับมาโอบประคองช้อนใต้เต้านมข้างหนึ่งแล้วแอ่น ตัวป้อนเสนอปลายถันสีชมพูสวยสดใสเข้าปากของชายหนุ่มไป เอกอ้าปากงับอย่างไม่รอช้าจนเมย์สั่นสะท้านร้องครางออกมา จากนั้นแก้วนมก็เอียงเทน้ำนมไหลริน ลงไปที่ด้านบนของทรวงอก แล้วย้อยไหลลงไปที่ปลายถันเป็นเส้นสายโค้งเว้าสวยงาม ชายหนุ่มมาก ประสบการณ์ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของน้องสาวอ่อนวัย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเผยออ้า ปากออกเล็กน้อยแล้วดูดกลืนกินน้ำนมที่ไหลเทลงมา ไปพร้อมกับดูดเลียที่หัวนมของเด็กสาวที่กำลัง แข็งเต่งเด้งชูชันด้วยความเสียว เสียงฮือฮาของสาว ๆ ที่เหลือดังขึ้นดังกว่าครั้งใด ขณะที่ชายหนุ่มกำลังดูดนมสดจากเต้าของเด็กสาว อ่อนวัย ซึ่งแลดูไปก็คล้ายเด็กทารกกำลังดูดนมจากทรวงอกของผู้เป็นแม่ ผิดกันก็แต่เด็กทารกคนนี้ออก จะตัวโตเกินไปสักหน่อย แล้วก็ลีลาดูดกินก็ออกจะตะกละตะกลามมากเกินไป เพราะเล่นเอาน้องเมย์ที่ รับบทเป็นแม่นั้นถึงกับตัวกระตุกแล้วกระตุกอีกไม่หยุด เสียงครางของเด็กสาวดังขึ้น มือไม้ของเธออ่อนแรงจนเผลอปลดปล่อยแก้วนมอันว่างเปล่าหล่นตุบลง ไปบนพื้นพรม หากยังดีที่แก้วใบนั้นมิใช่เนื้อแก้วแท้ แต่เป็นวัสดุสังเคราะห์ก็เลยไม่แตกกระจายเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย แต่ดูเหมือนว่าสติของเมย์และเอกนั้นได้กระเจิดกระเจิงไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเอกนั้นก็ยังคงก้ม หน้าก้มตาดูดเลียทรวงอกของเมย์อย่างตายอดตายอยากไม่หยุดทั้งที่น้ำนมหมดไปตั้งนานแล้ว เมย์ก็เลย เสียวสะท้านจนน้ำลายสอ ตัวกระตุกเฮือก ๆ รู้สึกเหมือนใกล้จะถึงจุดสุดยอดอยู่รอมร่อ สาว ๆ ทุกคนที่เหลือต่างพากันจ้องมองดูจนตาค้าง ต่างคนต่างเกิดอารมณ์จนต้องหนีบสองขาเข้าหากัน แน่น ไม่รู้เลยว่าเวลาน่ะผ่านเกินไปแล้วตั้งเกือบห้านาที "อ๊อยยย พี่เอกขา ไม่ไหวแล้ว อะ พี่เอก พี่เอก อ๊ายยยย พี่เอกขาาาาาาา" เด็กสาวอ่อนวัยร่ำร้องด้วยสุ้มเสียงที่ขาดห้วง สองมือยึดเหนี่ยวรั้งดึงศรีษะของพี่ชายเข้าหาตนเองสุดแรง พลางแอ่นตัวบดเบียดหน้าอกอวบอูมเข้าใส่สุดชีวิต แม้จะยังมิได้โดนสอดใส่ แต่ลีลาลิ้นของชายหนุ่มก็ ปลุกเร้าจนอารมณ์ของเด็กสาวแตกกระเจิดกระเจิงไปตั้งนานแล้ว ยิ่งโดนเขาร่ายมนตร์สวาทเข้าใส่ด้วย อีกอย่าง อารมณ์เด็กสาววัยใสสะพรั่งจึงพุ่งพรวดขึ้นไปถึงจุดสุดยอดได้อย่างง่ายดาย เธอหวีดร้องออกมาสุดเสียงขณะที่ร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกอย่างรุนแรงจนน่ากลัวว่าจะดิ้นหลุดไปจากอ้อม กอดของพี่ชายสุดที่รัก แต่อ้อมกอดของชายหนุ่มนั้นแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่ง ไม่ว่าร่างของเธอจะดิ้นพล่าน มากเพียงใด จวบจนกระทั่งเสียงหวีดร้องหยุดลง เด็กสาวก็แนบใบหน้าซบลงบนหัวไหล่ของชายหนุ่ม ตัว สั่นสะท้านหอบหายใจกระเส่าราวกับลูกนกตัวน้อยอ่อนแรง ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องครู่ใหญ่ เพราะสาว ๆ ที่เหลือต่างก็นั่งตัวเกร็งเพราะมีอารมณ์กันหมด ก่อนที่ น้องหญิงที่ได้สติก่อนใครเริ่มปรบมือส่งเสียงชมเชยน้องเมย์ จากนั้นสาว ๆ ที่เหลือจึงค่อยได้สติพากันเป่า ปากปรบมือชมเชยให้กับลีลาและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กสาวตัวน้อยออกมาไม่ขาดปาก จนน้องเมย์ ยิ้มแก้มแทบไม่หุบ "โห เจ็ดนาทีกว่าแล้ว ..." ฝ้ายรีบพลิกนาฬิกาจับเวลาขึ้นมาดูแล้วก็แจ้งให้คนอื่นรู้ ซึ่งทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันว่าตัวเองแอบนั่งลุ้น ตัวโก่งจนลืมเรื่องเวลาไปเลย "แหม แหม ร้ายจริงนะยะเรา ตัวแค่นี้เอง เอาล่ะงั้นเล่นต่อกันเลยดีกว่านะ เหลือฝ้าย กับ น้องหญิง สองคน" ฝนเดินเข้ามาขยี้ศรีษะของเมย์ด้วยความรู้สึกทึ่ง เพราะทำเอาเธอทนไม่ไหวต้องบีบนมบีบหอยคลายอารมณ์ ให้ตัวเองไปด้วย จากนั้นก็ขยับตัวเข้าไปหมุนตะเกียบต่อ และคราวนี้ผู้เล่นลำดับถัดไปก็คือฝ้ายพยาบาลสาว แสนสวยนั่นเอง "ขอเวลาเตรียมตัวนิดนึงได้มั้ยจ๊ะฝน ... แล้ว ที่อยากทำมันต้องอาศัยเธอช่วยนิดนึงด้วย" ฝ้ายหันมาพูดกับฝนด้วยน้ำเสียงประหม่าเขินอายสุดชีวิต "ได้ซิจ๊ะ แต่ห้ามไปแตะต้องตัวพี่เอกล่ะ จะให้ชั้นช่วยอะไรก็ว่าเลย เพื่อนรัก ... หา เอาจริงเหรอ !!!" เมื่อฝ้ายเดินมากระซิบที่ข้างหู ฝนก็ถึงกับต้องทำตาโตยกมือขึ้นป้องปากตัวเองเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น แล้วก็หันหน้าไปสั่งการทุกคน "ทุกคนปิดตาเดี๋ยวนี้ ห้ามเปิดจนกว่าจะบอกนะ พยาบาลสาวสวยแสนขี้อายมีอะไรดี ๆ จะโชว์" ทุกคนต่างก็ทำหน้าสงสัย แต่ก็อยากร่วมสนุกด้วยก็เลยหลับตานิ่งรอคอยว่าสาวขี้อายที่สุดในกลุ่มจะมี อะไรออกมาแสดง เมื่อทุกคนหลับตาลงก็ได้ยินเสียงเคลื่อนย้ายจานชามบนโต๊ะกินข้าว หลังจากนั้นก็ เป็นความเงียบอีกเกือบสิบนาที จนแทบจะอดใจรอไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้ยินสัญญาณบอกให้ลืมตาได้ซะ ก่อน "โหหหหหหหหหห" นอกจากฝนและฝ้ายแล้ว ทุกคนต่างก็ต้องส่งเสียงฮือฮาออกมากันหมด โดยเฉพาะเอกนั้นถึงกับตาลุก โพลง จับจ้องมองสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา ฝ้ายพยาบาลสาวนอนหงายหลับตาพริ้มเปลือยกายอยู่บนนั้น เธอหอบหายใจกระเส่าด้วยความตื่นเต้น ยกทรงและกางเกงถูกถอดออกจากร่างวางอยู่ด้านข้างลำตัวแลดูคล้ายเครื่องเคียงของอาหารจานใหญ่ บนร่างขาวผ่องนวลเนียนนั้นมีผักสดหลายชนิดวางแปะปิดจุดสำคัญของร่างกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ น่าลิ้มลอง ริมฝีปากบางโดนทาเคลือบไว้ด้วยน้ำสลัดสีใสจนมันวาว น้ำสลัดนั้นราดรดเป็นทางไปที่ปลายคาง ผ่าน ลำคอระหง ไล่ต่ำลงไปตามร่องอก แล้วแต่อ้อนฐานนมเป็นวงโค้งอ้อมขึ้นไปที่ปลายถัน ที่ปลายยอดนั้น มีแตงกวาชิ้นเล็กจ้อยปิดแปะประดับเอาไว้ข้างละชิ้น จากนั้นเส้นสายของน้ำสลัดก็ลากไล้ต่ำลงไปที่สะดือ และสิ้นสุดลงที่ตรงกลางหว่างขา ซึ่งที่ตรงนั้นมีใบผักสีเขียวสดวางปิดบังความอวบนูนของเนินเนื้อเอา ไว้อย่างวับแวม เอกนั่งมองจนตาค้างไม่นึกว่าฝ้ายที่แสนขี้อายจะกล้าทำถึงขนาดนี้ แต่ก็ยอมรับว่าเธอทำให้เขารู้สึกมี อารมณ์หื่นได้ยอดเยี่ยมมาก เธอตีโจทย์แปลกแหวกแนวไปจากคนอื่น เพราะคนอื่นนั้นใช้วิธีรุกป้อนเข้า หา แต่ฝ้ายกลับคิดวิธีที่สมกับเป็นตัวเธอ คือตั้งหลักรอให้เขาเป็นฝ่ายเข้าหาแทน ชายหนุ่มที่ไม่อยากเสียเวลาให้เปล่าประโยชน์ รีบเป็นฝ่ายขยับตัวก้มหน้าลงไปเลียน้ำสลัดที่รอบริมฝีปาก ของฝ้ายอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม พยาบาลสาวสวยตัวสั่นเล็กน้อย แต่เริ่มหอบหายใจถี่แรงขึ้นจนแผ่นแตง กวาที่แปะปิดหัวนมเกือบหลุดเพราะแรงกระเพื่อม เอกบดจูบแลกลิ้นอย่างแผ่วเบาครั้งหนึ่ง ก่อนจะไล่ลิ้นโลมเลียน้ำสลัดที่ราดเป็นทางไปที่ปลายคาง และ ลำคอขาดสะอาดตา ปลายลิ้นลากตามเส้นทางลงไปที่ฐานหน้าอก ก่อนจะตัดสินใจวนออกไปทางซ้าย อ้อมไปตามความโค้งของก้อนเนื้อกลมดิก แล้วไต่ขึ้นไปบนยอดเขาอ้าปากงับแตงกวาแผ่นบางเข้าปาก ไปกัดกินพร้อมกับขบกัดปลายถันอย่างเอร็ดอร่อยจนฝ้ายตัวกระตุกเฮือกร้องครางออกมาเสียงสั่น ปลายลิ้นไล่ลงไปที่ฐานนมอีกครั้งแล้วขยับอ้อมเป็นวงไต่ขึ้นไปอ้าปากงับแตงกวาอีกแผ่นที่เหลืออยู่ เอก ขบเม้มดูดดุนปลายถันสีสวยของฝ้ายเล็กน้อยฝากรอยฟันอ่อนจางเอาไว้รอบหัวนม ก่อนจะขยับตัวเอื้อม สองมือขึ้นไปบีบคลึงขยี้สองเต้าของพยาบาลสาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้หนักหน่วงกว่าเดิม ร่างขาวโพลนส่งเสียงร้องครวญครางพลางกระตุกระริก ขณะที่ปลายลิ้นไล่ต่ำลงไปเลียวนที่สะดือ และต่ำ ลงไปที่บริเวณหน้าขา สะโพกของเธอเด้งสะท้านเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มใช้จมูกกดผักสีเขียวสดลงไปบดบี้ กับเนินสวาทที่อยู่ด้านล่าง ยิ่งเมื่อเขาอ้าปากงับกลืนกินผักชิ้นเล็กเข้าปากไป แล้วใช้จมูกคลึงวนกับติ่งแตด สาวสวยก็ถึงกับดิ้นพล่านจนเกือบตกจากโต๊ะกินข้าว แต่ยังดีที่สองมือของชายหนุ่มนั้นจับกดบีบบี้ขยี้หน้า อกของเธอเอาไว้จนแน่น "ซี้ดสสสสส พี่เอก ... พี่เอก ... ฝ้ายเสียว ... ซี้ดดสสส พี่เอก ..." ฝ้ายร้องครางพลางกระตุกเฮือกจนโต๊ะทานข้าวสั่นสะเทือน เสียงช้อนและจานชามกระทบกันส่งเสียงดัง แกร๊ง ๆ ไม่หยุด เธอถ่างอ้าสองขาออกจนสุดหล้า แอ่นสะโพกยกกลีบสวาทเสนอป้อนเข้าหาชายหนุ่ม ขณะที่สองมือของเธอก็กดรั้งศรีษะของเขาเข้าหาตัวเองสุดแรง เอกแหวกลิ้นแทงรัวเข้าไปในร่องรักระริกเร็ว กวาดเขี่ยไล่กระทบติ่งแตดเม็ดเสียวไม่ยั้ง น้ำรักหลั่งไหลออก มาจากร่องของพยาบาลสาวสวยราวกับสายน้ำตก แต่ก็ถูกชายหนุ่มดูดกลืนเข้าไปจนหมดเกลี้ยง เพียงแต่ ไม่นานนัก ฝ้ายก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมา เธอแอ่นหน้าเริ่ดด้วยใบหน้าที่บ่งบอกความเสียวสุดชีวิต พลาง แอ่นเอวกระดกเนินเนื้ออวบอูมเด้งเข้าหาใบหน้าของเอกด้วยถึงจุดสุดยอดคาปากของเขาไปแล้วหนึ่งครั้ง เอกลุกขึ้นมองภาพฝ้ายที่นอนหลับตาพริ้มหอบหายใจกระเส่าด้วยแววตาเปี่ยมรัก ก่อนจะหันมองไปรอบห้อง มองดูสาวสวยอีกห้านางที่บ้างนั่งบ้างยืนมองจนตาค้าง และที่น่าตื่นเต้นก็คือทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังบีบนม บีบหอยคลายอารมณ์สวาทให้กับตัวเองอย่างถ้วนหน้า ความเงียบที่มีแต่เสียงหอบหายใจของสาวอารมณ์เปลี่ยวหกนางคงอยู่อีกครู่ใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียง ปรบมือชื่นชมที่ดังไม่แพ้เมย์ขึ้นมา แต่เมื่อฝ้ายได้ยินเสียงปรบมือกลับรู้สึกตัวแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งแจ้นไปหยิบผ้า ขนหนูมาพันปิดบังเรือนร่างด้วยความอายจนหน้าแดงแป๊ดเสียอย่างงั้น ทุกคนต่างก็มองท่าทางเขินอายของฝ้ายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองน้องหญิงที่หลงเหลือเป็นคนสุดท้าย ของเกมอย่างพร้อมเพรียง ด้วยอยากรู้ว่าผู้หญิงที่สวยมีเสน่ห์มากที่สุดกลุ่มจะมีอะไรดี ๆ มาโชว์ น้องหญิงหันมองทุกคนด้วยรอยยิ้มพราย คล้ายพกพาความมั่นใจมาอย่างเปี่ยมล้น ซึ่งจะว่าไปเพียงแค่เธอ ยิ้มออกมา รอยยิ้มของนางฟ้าเดินดินก็ทำเอาคนรอบข้างต้องเผลอยิ้มออกมาด้วย เธอลึกขึ้นยืนอวดเรือน ร่างที่สวยสมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมากระซิบบอกข้อความเอกด้วยลีลาไม่แพ้ นางแบบระดับโลก "ห้ามกลืนนะคะ ... ตะขอยกทรงอยู่ด้านหน้า ... แล้วก็กางเกงในเป็นแบบบางกระชากทีเดียวก็ขาดแล้ว ... แล้วก็ .............................." เอกรับฟังคำพูดซุบซิบของน้องหญิงด้วยไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเธอจะให้เขาทำอะไร แต่เธอก็ไม่ได้อธิบายเพิ่ม อะไรนอกจากการส่งรอยยิ้มที่หนุ่มทุกคนต้องใจละลายให้ แล้วก็จูงมือเขาย้ายไปนั่งบนโซฟาที่อยู่กลางห้อง "ยัยคุณหนู เธอจะป้อนอะไรน่ะ เดินตัวเปล่ามาเชียว" ฟ้าที่เดินตามมามุงดูด้วยนั้นอดถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วงแทนไม่ได้ เพราะเธอนั้นขึ้นชื่อเรื่องไม่ยอมแพ้ เป็นที่หนึ่ง แต่เมื่อตัวเองน่าจะแพ้ไปแล้ว ก็เลยอยากจะเชียร์ให้เพื่อนรักของตัวเองเอาชนะคนอื่นได้แทน ตัวเอง "เมื่อกี้ตอนฝ้ายเตรียมตัว หญิงก็เตรียมตัวรอไว้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะยัยฟ้า" น้องหญิงหันไปมองฟ้าส่งความหมายว่าไม่ต้องห่วง จากนั้นก็ยื่นมือออกมาแล้วพลิกแบเผยผลเชอรี่สีแดง สดวางอยู่ในฝ่ามือขาวผ่องเนียนนิ่มสองลูก นักศึกษาสาวดาวมหาลัยแสนสวยหยุดจังหวะรอครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆยกประคองผลเชอรี่ที่มีก้านเหลืออยู่เข้าปากอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน ว่าเธอกำลังจะกินก้านเชอรี่เข้าไปด้วยหรือยังไง สาวสวยหันมองส่งยิ้มให้ทุกคนครู่หนึ่งก่อนจะอ้าปากแลบลิ้นสีชมพูสวยออกมา ผลเชอรี่สองลูกยังคง อยู่ในสภาพเดิมที่ตรงกลางลิ้น แต่ที่ตื่นตะลึงก็คือที่ปลายลิ้นนั้นมีก้านของผลเชอรี่ที่ถูกมัดเป็นเงื่อนรูป หัวใจวางอยู่ ทุกคนจึงต้องพากันมองด้วยความตื่นเต้น เพราะเท่าที่รู้การใช้ลิ้นผูกก้านเชอรี่ในปากเพียง อย่างเดียวนั้นยากมาก ๆ จนหาคนทำได้น้อยมาก แต่เมื่อได้เห็นกับตาว่าเธอคนนี้ทำได้ทั้งที่มีผลเชอรี่ อยู่ในปากอีกสองลูกด้วยก็ต้องยิ่งรู้สึกทึ่งให้กับลีลาการใช้ลิ้นขั้นเทพของคุณหนูไฮโซแสนสวยคนนี้ น้องหญิงที่ควบคุมผู้คนได้จนอยู่หมัด อมก้านและผลเชอรี่กลับเข้าไปในปาก ก่อนจะเริ่มต้นด้วยการเดิน เข้าไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของชายหนุ่ม โดยหันหน้าเข้าหาเขา สองมือลูบไล้ไปตามใบหน้าของชาย หนุ่มด้วยลีลารักร้อนแรงจนเขาเกิดความตื่นเต้นตื่นตัวขึ้นมา เวลานั้นเธอก้มหน้าลงไปบดปากจูบกับชายหนุ่มอย่างเร่าร้อนรุนแรงทำลายภาพลักษณ์นางฟ้าแสนสวย บริสุทธ์เสียจนสิ้น คล้ายกับกำลังจะจุติใหม่กลายร่างไปเป็นนางมารร้ายร่านสวาท เธอเสนอเขาสนอง ต่างกอดรัดพัวพันบดจูบหนักหน่วง มือไม้แปะป่ายลูบไล้ขยำขยี้เนื้อตัวฝ่ายตรงข้ามจนแดงจ้ำ แต่เพียงชั่วครู่นักศึกษาสาวแสนสวยก็หยุดชะงักทุกอย่าง แล้วถอนปากออกมาจากชายหนุ่มโดยที่เขาไม่ ค่อยจะยินยอมนัก แต่เธอก็ใช้เพียงปลายนิ้วแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาเพื่อหยุดยั้ง อารมณ์กลัดมันของเขา เอกยอมหยุดโดยไม่ค่อยยินยอมนัก ก่อนจะขยับปากเคี้ยวบางสิ่งในปากไปพลาง น้องหญิงเผยออ้าปากออกมาอีกครั้ง และคราวนี้ก้านของผลเชอรี่ที่ถูกมัดไว้เป็นเงื่อนรูปหัวใจก็ถูกคลาย ออกมาเป็นเส้นตรงแล้ว แต่ในปากเห็นผลเชอรี่สีแดงสดเหลืออยู่เพียงลูกเดียว ทุกคนที่กำลังอึ้งอยู่กับลี ลาลิ้นระดับเทพของเธอจึงค่อยรู้ว่า เชอรี่อีกลูกนั้นได้ป้อนให้เอกเคี้ยวกินเล่นไปแล้ว น้องหญิงหยิบเอาก้านเชอรี่ที่ถูกคลายปมออกด้วยลิ้นโยนทิ้งไปอย่างแยแส ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเล็กน้อย จนทรวงอกอวบอิ่มไซส์ใหญ่บึ้มอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่ม เธอใช้มือโอบกอดต้นคอของชายหนุ่มเอาไว้ พลาง เอนตัวไปเบื้องหลังเล็กน้อยราวกับกำลังโหนเล่นกับบาร์ แล้วคายผลเชอรี่สีแดงผลเดียวที่เหลือ อยู่ ให้มันกลิ้งขลุกขลักลงไปที่ซุกอยู่ตรงกลางร่องอกขาวอวบ พร้อมกับดันตัวไปเบื้องหน้าเสนอสอง เต้าเข้าหาใบหน้าของเขา ชายหนุ่มไม่รอช้าซุกหน้าลงไปจูบพรมลากลิ้นเลียที่กลางร่องอกของสาวสวยด้วยกิริยาดุดันราวสัตว์ป่า ที่กำลังหิวกระหาย ผลเชอรี่สีแดงสดโดนจมูกและปากของเขากดจนจมลึกหายเข้าไปในร่องอกลึกล้ำ ของสองเต้าอวบกลมใหญ่ทะลักล้นมือ ก้อนเนื้อนิ่มสั่นไหวยวบสะท้านเด้งเมื่อโดนบีบขยำเคล้นคลึง โดยฝ่ามือทั้งสองของชายหนุ่มอย่างรุนแรง ขณะที่เธอสั่นสะท้านส่ายศรีษะร้องครางด้วยลีลาของสาวร้อนรักแรดร่านอยู่นั้น ทุกคนก็แอบสงสัยว่า พี่เอกของพวกเธอจะอ้าปากงับที่บริเวณกึ่งกลางยกทรงทำไม แต่เมื่อยกทรงนั้นหลุดผึงจนนมทะลัก หลุดออกมาอวดเปลือยจึงค่อยได้รู้ว่าที่แท้คุณหนูไฮโซหน้าหวานคนนี้สวมใส่ยกทรงแบบตะขออยู่ ด้านหน้านั่นเอง ห้าสาว หนึ่งหนุ่ม ต่างพากันจ้องมองเต้านมขาวสวยกลมกลึงอวบอิ่มเนื้อแน่นของดาวมหาลัยแสนสวย จนตาลอย ห้าสาวต่างแอบนึกอิจฉาว่าอยากจะมีหน้าอกอวบและสวยเช่นเธอคนนี้บ้าง ส่วนด้านชายหนุ่ม นั้นไม่ต้องพูดถึง มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ จับกี่ครั้งก็ยังคงตื่นเต้นลุ้นระทึก ยิ่งเมื่อได้เห็นว่าที่ปลายถันของ เธอทั้งสองข้างนั้นมีแยมรสส้มและรสสตรอเบอรี่ทาอยู่ข้างละสี ชายหนุ่มก็ยิ่งหน้ามืดอดไม่ได้ต้องก้มหน้า ก้มตาลงไปอ้าปากงับดูดเลียลิ้มรสความหอมหวานอย่างเมามันส์ เสียงดูดเลียปลายถันดังจ๊วบจ๊าบ แว่วผสานผสมไปกับเสียงร้องครางซี้ดซ้าดของสาวสวย พร้อมกันนั้น สองมือของชายหนุ่มก็บีบขยี้ฟอนเฟ้นและกดบีบสองเต้าเบียดเข้าหากันอย่างแรงจนเนื้อนิ่มบิดเบี้ยวผิด รูปคล้ายลูกโป่งที่ใกล้แตก ห้าสาวที่ได้แต่ยืนมองครางฮือฮาออกมาด้วยความลุ้นระทึก เมื่อได้เห็นหนองโพไซส์ใหญ่โดนบีบบี้จน แทบแหลกเละแล้วปล่อยออกรอบแล้วรอบเล่า แต่บีบขยี้เท่าไหร่สองเต้าของสาวสวยก็ยังคงเด้งดึ๋งกลับ มาเป็นแบบเดิมได้ในทันที กองเชียร์ยิ่งส่งเสียงออกมามากกว่าเดิมเมื่อเห็นน้ำสีแดงสดของผลเชอรี่ที่ โดนหนีบอยู่ในร่องอกไหลรินลงไปที่หน้าท้องละเลงถึงสะดือ แล้วไหลย้อยลงไปทางกางเกงในสีสวย ตัวน้อย ตอนนั้นเองที่น้องหญิงผลักไสศรีษะของชายหนุ่มที่กำลังอิ่มอร่อยเพลิดเพลินอยู่กับทรวงอกอวบเต่ง ออกไปอย่างไม่ใยดี ก่อนจะดันตัวขึ้นยืนบนโซฟาแทบจะในทันทีที่ชายหนุ่มทำท่าจะก้มหน้าลงมาฟอน เฟ้นร่างของเธอใหม่ เมื่อสาวสวยอยู่ในท่ายืน และชายหนุ่มอยู่ในท่านั่ง เนินสวาทอวบอูมก็ลอยส่ายไหวอยู่เบื้องหน้าของ ชายหนุ่ม ก่อนที่น้ำเชอรี่สีแดงสดจะไหลไปถึงกางเกงในนั้น ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปขยำสะโพกผึ่งผาย แล้วกดรั้งเข้าหา พร้อมซุกใบหน้าลงไปยังเนินสวาทที่ฉ่ำแฉะอย่างรวดเร็ว "ซี้ดดสสส พี่เอก ..." เสียงครางดังออกมาจากเรือนร่างเกือบเปลือยของนักศึกษาสาวดาวมหาลัยที่ยืนแอ่นตัวสะท้านระริก ในอารมณ์เสียว ภาพนั้นกระตุ้นเร้าอารมณ์สาวสวยอีกห้าคนที่ยืนอยู่รายล้อมได้อย่างน่าประหลาด แม้ จะเป็นเพศเดียวกัน แต่พวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าอยากแตะสัมผัสเสพสมกับเรือนร่างของน้องหญิง บ้าง จากนั้นเสียงดังปึ้ดเหมือนเสื้อผ้าฉีกขาดก็ดังขึ้นเรียกร้องความสนใจจากทุกผู้คนให้หันมอง พวกเธอ ค่อยพบว่าพี่เอกของพวกเธอนั้นอ้าปากงับขอบกางเกงในแล้วกระชากออกมาดื้อ ๆ เสียจนขาดวิ่น ยิ่ง ได้เห็นลีลาดิบเถื่อนของชายสุดที่รักแบบนี้พวกเธอก็ยิ่งรู้สึกร้อนวูบวาบมากกว่าเดิมเข้าไปอีก เมื่อกางเกงในหลุดลุ่ยออกจากร่าง ดาวมหาลัยแสนสวยที่ยืนเด่นอยู่บนเวทีขนาดเล็ก ก็ยกขาขวาตวัด ขึ้นพักพิงอยู่บนหัวไหล่ซ้ายของเขา ก่อนจะใช้สองมือจิกศรีษะของชายหนุ่ม แล้วแหงนหน้าเริ่ด อ้าสอง ข้าออกให้มากที่สุด เพราะรู้ดีว่าท่วงท่านี้จะเปิดทางให้ชายหนุ่มลากลิ้นได้สะดวกกว่าท่ายืนธรรมดา เวลาเดียวกันนั้นน้ำเชอรี่ที่เพิ่งถูกบีบคั้นโดยสองเต้าอวบก็ไหลรินลงมาถึงตรงเนินสวาทของเธอพอดี ชายหนุ่มที่ซุกไซร้ใบหน้าตวัดลิ้นเลียไปที่ร่องเสียวฉ่ำแฉะจึงได้ลิ้มชิมรสหวานฉ่ำของน้ำผลไม้ไป พร้อมกับน้ำรักของสาวสวย "พะ พี่เอกกกก อะ อ๊ายยยย ซี้ดดดสสสสสสส อ๊าาาาาาาาาาาาา อืออออออออออออออออออ........" สาวสวยกรีดร้องครวญครางลั่นอย่างสุดกลั้น เธอหลับตาปี๋กัดฟันแน่น ร่างของเธอเริ่มกระตุกรับความ กระสันเสียวรุนแรงที่อยู่ด้านในท้องน้อย ร่องเสียวตอดเกร็งรัดตอดตุบเข้าใส่ปลายลิ้นที่ฉกวูบรุกไล่เข้า ใส่ราวกับงูพิษ เขาเร่งลิ้นตวัดโลมเลียลากขึ้นลงตามร่องเสียว สลับกับตวัดละเลงที่ติ่งเสียว และแหย่ แยงลึกเข้าไปในร่องหลืบจนเธอตัวอ่อนระทวยแทบยืนไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้เขาช่วยประคองร่างของเธอ เอาไว้ "พี่เอก พี่เอก อ๊าายยยย หญิง ไม่...ไหวแล้ว ซี้ดดสสสส อ๊าาาา" สาวสวยร้องเสียงหลงลั่นห้อง เธอแอ่นเนินเนื้ออัดใส่ใบหน้าชายหนุ่ม จนเขาแทบหายใจหายคอไม่ออก แต่จะอย่างไรชายหนุ่มมากประสบการณ์ก็ได้เตรียมตัวรับสถานการณ์เอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ก็เลยยังคง สามารถใช้ลิ้นเลียได้ไม่หยุด สาวสวยที่ถึงจุดสุดยอดก็เลยตัวกระตุกบิดเกร็งสะท้านแล้วสะท้านอีกมิได้ หยุดพัก สะโพกผายกระตุกเร่าเร่า น้ำรักหอมหวานหลั่งทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก เมื่อเสียงหวีดร้องหยุดลง เรือนร่างงามสมบูรณ์แบบที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อก็ไหลพรืดลงมานั่งซบกับชาย หนุ่มอย่างเชื่องช้า หนุ่มสาวร้อนรักบดจูบแลกลิ้นแสดงความรักกันอีกรอบหนึ่ง ก่อนจะนั่งพักหอบหายใจ กอดกันตัวกลมบนโซฟาตัวใหญ่ เอกลืมตามองด้วยความสงสัยว่าเหตใดทุกคนจึงได้เงียบกันนัก ค่อยได้พบว่าห้าสาวที่ยืนมองอยู่รายรอบ บัดนี้บ้างนั่งบ้างยืนมองเขาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ ต่างกำลังล้วงมือบีบขยำนม และหนีบขาใช้นิ้วตกเบ็ด ให้ตัวเองกันยกใหญ่ ขณะที่กำลังสงสัยว่าทำไมสาวสาวถึงได้กลัดมันกันขนาดนี้นั้น เขาค่อยนึกขึ้นมาได้ ว่าเพราะเขามีพลังมนตร์ดำอยู่ในระดับสูงมาก หากมีเพศตรงข้ามมาอยู่ใกล้จะรักจะลุ่มหลง ยิ่งหากเขา กำลังมีอารมณ์ทางเพศมากเพียงใด พลังมนตร์ดำนั้นก็จะยิ่งสูงส่งขึ้น ส่งผลให้เพศตรงข้ามที่อยู่ใกล้ยิ่ง มีอารมณ์หนักขึ้นไปเหมือนกับตอนโดนมนตร์ปลุกสวาทนั่นเอง หลังจากโดนเอกมองผ่านด้วยรอยยิ้ม สาวทั้งห้านางที่ล้วงควักช่วยตัวเองอยู่นั้นจึงค่อยได้สติกลับคืน มาบ้าง พวกเธอต่างก้มหน้าหลบสายตาคนอื่นด้วยความขัดเขิน ก่อนช่วยกันปรบมือส่งเสียงร้องชมเชย ให้กับลีลารักของน้องหญิงที่เพิ่งได้แสดงออกมา สุดท้ายชายหนุ่มที่กำลังคิดว่าจะเลือกให้ใครเป็นผู้ชนะก็ต้องลอบเหงื่อตก เพราะทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่ จ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาคาดหวัง แม้ว่ามายด์จะไร้เดียงสาเกินไป ฟ้าเกร็งจนทำได้ไม่ดีนัก และ ฝนก็อาจจะสู้ เมย์ ฝ้าย และน้องหญิงไม่ได้ แต่การจะตัดพวกเธอออกไปดื้อ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้นี่จะ เป็นเกมที่ตกลงกติกาไว้แล้ว แต่ชายหนุ่มก็เข้าใจนิสัยผู้หญิงดีว่าการเลือกเพียงแค่คนเดียวอาจจะทำ ให้คนอื่นรู้สึกผิดหวังขัดเคืองใจได้ ถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะเลือกให้ใครได้รางวัล ?