ขายของ

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 2 - ความแค้น ความใคร่

ยามเช้า ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง "อรุณสวัสดิ์จ้ะต้นกล้า" เสียงใส ๆ ของดาวสาวสวยเอ็กซ์ร้องทักออกมาทันทีที่ผมจอดรถตรงที่ประจำเหมือนกับว่าเธอมาดักรอผมอยู่นานแล้ว "อ้าว ดาว หวัดดี" ผมอดแปลกใจไม่ได้ ที่เธอคนนี้จะมาตั้งแต่เช้าตรู่อย่างนี้ได้ แต่ก็ร้องทักสาวต้นเสียงอย่างขอไปที พร้อมก้าวลงจากรถ แต่ทันทีที่เท้าถึงพื้น ดาวก็ขยับตัวเอาเรือนร่างอวบอัดราวนางแบบของเธอเข้ามาใกล้ตัวผมเหมือนเจตนาจะยั่วยวน เธอคนนี้ชื่อดาวเป็น อดีตแฟนที่เคยทำร้ายน้ำใจผมอย่างรุนแรงมาก่อน เธอเรียนปี 4 เหมือนกับผม หน้าตาสวยน่ารักประเภท ขาว หมวย สวย เซ็กส์ ทรวดทรง องค์เอวของเธอก็ช่างเต็มไม้เต็มมือจนจัดได้ว่าเข้าขั้นนางแบบหนังเอ็กซ์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว เธอเองก็เคยเป็นอดีตดาวเฟรชชี่มาก่อนเหมือน กับน้องแพรที่ผมเฝ้าฝันถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา หากแต่สาวสองคนนี้ต่างกันแบบคนละเรื่องเลยทีเดียว หากแพรเป็นเหมือนสาวสวยหวานเรียบ ร้อยล่ะก็ ดาวคนนี้ก็เปรียบเหมือนสาวเปรี้ยวจี๊ดที่พร้อมจะแสดงออกทุกอย่างอย่างมั่นใจในตัวเอง เธอคนนี้นิยมชมชอบในการแต่งเนื้อ แต่งตัวมากทีเดียว โดยเฉพาะเสื้อนักศึกษารัดรูปที่เธอใส่อยู่ นอกจากความฟิตรัดตามสมัยนิยมแล้ว มันยังบางเฉียบซะจนมองเห็นเนื้อ ขาว ๆ ที่อยู่ภายในได้ไม่ยาก แถมวันนี้กระดุมเม็ดบนสองเม็ดโดนปลดออกไปเหมือนกับว่าจงใจเป็นพิเศษ จนทำให้ผมมองลอดเข้าไปเห็น ยกทรงสีดำชูเด่นดันออกมาตามรูปทรงของสองเต้าเต่งขาวกลมกลึงอันน่าขยำขยี้ กลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำหอมราคาแพงโชยไปมาในอากาศ ส่งกลิ่นเขย่าประสาทสัมผัสของผมอย่างรุนแรง อารมณ์เงี่ยนเริ่มลุกโชนอย่างควบคุมไม่อยู่ "อะ ... เอ่อ" ผมส่งเสียงขัดคอเมื่อรู้สึกว่าดาวขยับตัวเข้ามาใกล้จนแทบจะเรียกได้ว่ากอดกับผมอยู่แล้ว "ต้นกล้า ดาวคิดถึงต้นกล้า" ดาวทำหน้าจริงจังมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน ดวงตาของเธอดูฉ่ำเยิ้มผิดปกติ เหมือนกับว่าเธอกำลังอยู่ในห้วง แห่งความรักแสนหฤหรรษ์ นี่เธอเป็นบ้าอะไรขึ้นมาล่ะเนี่ยวันนี้ ความสวยเอ็กซ์ของเธอแทบจะทำเอาผมห้ามใจไม่อยู่ หากแต่ความเจ็บปวด ที่เคยได้รับมันยังปวดร้าวเพียงพอที่จะทำให้ผมทำใจยอมรับมันไม่ได้ เธอคนนี้คือคนที่ผมหลงรักอย่างสุดหัวใจตั้งแต่ตอนเข้ามหาวิทยาลัย ผมคบกับเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจและหวังว่าจะได้แต่งงานกับเธอคนนี้ ผมเฝ้าถนอมดูแลเธอมาอย่างดีตลอดเวลาที่คบกัน แม้ว่าการกอดจูบ ลูบสัมผัสและมีเพศสัมพันธ์จะเป็นเรื่องธรรมดาของเราสองคน ทุกสัดส่วนของดาวต่างเคยผ่านมือ ลิ้นและลำควยอันยาวใหญ่ของผมมาจน หมดแล้ว ยกเว้นเสียก็แต่ผมยังไม่เคยฉีดน้ำเงี่ยนเข้าไปราดรดข้างในตัวเธอแม้แต่ครั้งเดียว ผมกะจะเก็บไว้จนกว่าเราจะแต่งงานกัน อาจ จะมีหลายครั้งที่ผมเกือบจะยับยั้งห้ามใจตัวเองไม่ได้เพราะหลงไหลในเสน่ห์เรือนกายของเธอ แต่ผมก็พยายามเต็มที่ที่จะยับยั้งใจไว้ ส่วนผล ตอบแทนที่ผมได้รับจากความอดทนอดกลั้นนี้ก็คือ ดาวหลงเสน่ห์ไอ้ชัยถึงขนาดหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับมันที่บ้านพักส่วนตัว สถานที่ซึ่งกลาย เป็นรังรักของเธอและมันอยู่นานถึง 1 เดือนเต็ม ก่อนที่ไอ้ชัยจะเบื่อดาวและเฉดหัวออกจากบ้านไป เท่าที่ผมรู้เธอไม่ได้เสียทีให้แต่ไอ้ชัยคน เดียวเท่านั้น เธอยังโดนไอ้อ้วนและไอ้เบี้ยวลูกสมุนของไอ้ชัยอีก 2 คน ร่วมกระทำชำเราด้วย ... ผมไม่รู้หรอกว่าเธอจะยินยอมหรือไม่กับการ กระทำนั้น แต่ดาวผู้เป็นที่รักของผมนั้นได้ตายไปจากใจของผมเรียบร้อยแล้ว เธอคนนี้เป็นดาวอีกคนหนึ่ง ที่ผมแทบจะไม่รู้จักเลย "ดาว วันนี้เป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมท่าทางแปลก ๆ" ผมพยายามผลักร่างของเธอที่บดเบียดยั่วยวนเข้ามาออกไป เริ่มนึกสงสัยว่าไอ้ยาแฝดบ้าบอ นั่นจะเป็นต้นเหตของเรื่องนี้หรือเปล่า "รู้มั้ยเมื่อคืนนี้ดาวนอนไม่หลับเลย เพราะดาวคิดถึงต้นกล้า ดาวอยากใกล้ชิดกับต้นกล้าเหมือนที่เคยเป็น ดาวทนคิดถึงต้นกล้าไม่ไหวแล้ว" ดาวขยับตัวเบียดสู้แรงผลักของผม เธอจ้องหน้าผมท่าทางเอาจริงเอาจังอย่างที่สุด ... คิดถึงผมเนี่ยนะ ? ... วันนี้เธอมาแปลก แอบมีแผน อะไรหรือเปล่าเนี่ย "ดาว จริง ๆ แล้วเราก็พูดเรื่องนี้กันไปหลายครั้งแล้วนะ ... เราไม่มีทางเหมือนเดิมได้หรอก" ผมพูดปฎิเสธเสียงหนักแน่น ความเจ็บปวดรวด ร้าวที่เคยประสบมาทำเอาผมแทบจะเสียผู้เสียคน แล้วเธอจะมาบอกให้ผมลืมมันไปง่าย ๆ นี่นะ "ต้นกล้า ... ดาวขอโทษ" เธอเบือนสายตาหนีการจ้องมองของผมเหมือนกับไม่กล้าสู้ความจริงที่ผ่านมา "... ถ้าอยากให้ดาวขอโทษ ดาวก็จะขอโทษจนกว่ากล้าจะพอใจ ขอแค่กล้ายอมยกโทษให้ดาวก็พอ" เธอมองหน้าผมอีกครั้ง "...." ไม่มีเสียงตอบจากผม "... หรือถ้าหากกล้าอยากจะลงโทษดาว ไม่ว่าจะทำอะไร ดาวก็ยอมทั้งนั้น เพราะหัวใจของดาว ร่างกายของดาว ดาวยกให้ต้นกล้าไปแล้ว" เธอไม่พูดเปล่า มือนุ่ม ๆ ของเธอจับสองมือของผมขึ้นมาแปะที่เนื้อหน้าอกอวบใหญ่ทั้งสองลูกของเธอพร้อมกับแอ่นอกรับ "..." ผมแอบคิดในใจ หัวใจเน่า ๆ ของคนทรยศน่ะ ผมไม่ต้องการหรอก แต่มาสะดุดหูกับไอ้คำว่าร่างกายสุดเอ็กซ์ของเธอนี่แหละ ถึงแม้ว่ามัน จะเคยเปื้อนราคีย์คาวจากไอ้ชัยและผองเพื่อนของพวกมันมาแล้ว แต่ความสดใหม่ของเรือนร่างสายวัยรุ่นของเธอ ก็ยังคงเย้ายวนเพศตรงข้าม ได้ทุกผู้คน สองมือของผมขยับทำงานด้วยตัวเองโดยไม่รอการสั่งการจากสมอง ผมออกแรงบีบขยำเคล้นคลึงทรวงอกเต่งตึงที่มีเสื้อนักศึกษา สีขาวบางรัดรึงอยู่อย่างมันส์มือ "อืมมมม" ดาวเผยรอยยิ้มออกมา ดูเธอจะพออกพอใจที่ยั่วยวนผมได้สำเร็จ ใบหน้าของเธอตอนแอ่นหน้าอกตอบสนองรับการบีบคลึงของผมนี่ มันช่างยั่วอารมณ์ผมได้ดีจริง ๆ สัมผัสเต่งตึงที่เด้งรับสองมือทำเอาผมรู้สึกพอใจอย่างรุนแรง ความเงี่ยนร่าน ความต้องการ ความใคร่ ความ โกรธ ความสมเพชเวทนา ผสมผสานคลุกเคล้ากันไปมาอย่างแยกไม่ออก ผมโกรธเธอ เกลียดเธอ สมเพชเธอ แต่ผมก็ชอบเธอ ผมอยากจะ ร่วมรักกับเธอ ผมอยากจะกระแทกอัดใส่ให้เธอร้องระงม ให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำกับผมไว้ ไวกว่าความคิดของสมองด้านบน สมองด้านล่างสั่งการร่างกายเรียบร้อยแล้ว ท่อนเนื้อแข็งชูชันพองตัวออกมาจนผมรู้สึกปวดหนึบ ๆ เธอเหลือบ ตามองลงไปเบื้องล่างพร้อม ๆ กับเผยรอยยิ้มดีใจเสมือนว่าได้กระทำการบางอย่างสำเร็จไปแล้ว ความคิดชั่วร้ายแว้บผ่านเข้ามาในหัวสมองของ ผมราวกับเป็นคำสั่งจากปีศาจนรก ผมจะไม่ยอมยกโทษให้เธอ แต่ผมจะลงโทษเธอด้วยร่างกายของเธอเอง ผมจะกระหน่ำอัดความแค้นเข้าไป ในรูสวาทของสาวมากรักอย่างเธอให้หมด ดูซิว่าเธอจะรับไหวมั้ย "เฮ้ย ๆ อีดาว มาพรอดรักกับใครที่ไหนวะ ลืมพวกกูผัวเก่าทั้งสามคนแล้วเหรอวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เสียงไอ้ชัยและพวกที่เดินผ่านมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ส่งเสียงร้องแซวดาวเสียงดังลั่น พวกมันส่งเสียงหัวเราะฮาอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ยังดีที่ตอนนี้บริเวณนี้มีแต่ผม ดาว และพวกไอ้ชัยเท่านั้น ดาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับความเสียวซ่านรีบขยับตัวหลบมายืนด้านหลังผม ตัวเธอสั่นเทาราวกับลูกนกตกน้ำ ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปโดน ไอ้พวกนี้ทำอะไรมาบ้าง ... ผมแอบรู้สึกสะใจในอารมณ์ที่ผลตอบแทนที่เธอจากการทรยศผมนั้นเป็นความปวดร้าวและหวาดกลัว แต่อีกใจ หนึ่งก็รู้สึกสงสารที่อดีตสาวคนรักของผมต้องไปเจอกับอะไรบางอย่างที่มันโหดร้ายอย่างล้นเหลือ "คืนนี้พี่ ๆ ยังว่างนะจ๊ะ เดี๋ยวจะช่วยรุมโทรมให้อย่างเคยดีมั้ย หรือว่าจะเป็น 4-1 ดี ให้ไอ้หน้าจืดนั่นมันแจมด้วย ฮ่า ฮ่า" เสียงไอ้อ้วนชาย ตัวใหญ่ที่เดินตามไอ้ชัยดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจดาวและผมแม้แต่น้อย ผมแอบหัวเราะในใจ มันไม่รู้หรอกว่าเมื่อคืนน่ะมันเพิ่งจะกราบไหว้ ตีนผมในฐานะหมอผีกำมะลอประหลก ๆ เสียยิ่งกว่าผมเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของมันเสียอีก "ใครนะ เคยร้องว่า พี่เบี้ยวขารีบกระเด้าแรง ๆ แรงอีก ๆ" ไอ้เบี้ยวชายหนุ่มร่างเล็กอีกคนส่งเสียงร้องแซวดาวอย่างย่ามใจ จริง ๆ แล้ว ไอ้สอง คนนี้ไม่ได้เรียนที่นี่หรอก เพราะพวกมันโง่เป็นควาย ที่พวกมันอยู่ที่นี่ก็แค่ทำตามหน้าที่บอดี้การ์ดที่ต้องคอยเดินติดตามไอ้ชัย หนุ่มเจ้าสำอางค์ อยู่ตลอดเวลาเท่านั้น ส่วนไอ้ชัยวัน ๆ มันก็ไม่ได้คิดจะเรียนอยู่แล้ว ปกติไม่ค่อยเห็นมันที่มหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่วันนี้มัน มาเรียนได้ หรืออาจจะมีเจตนาอย่างอื่น ผมเหลือบมองเห็นไอ้ชัยถือกระปุกแก้วใสขนาดเล็ก ภายในบรรจุยาแฝดที่พวกมันได้มาเมื่อวาน ผมเดา ว่าพวกมันคงกำลังหาทางให้น้องแพรกินยาแฝดซะมากกว่าจะมาร่ำเรียนเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้า "ไอ้กล้า ถ้ามึง อยากจะรับของเหลือเดนจากพวกกู กูก็ไม่ว่าอะไรนะโว้ย อีดาวนี่ของเหลือ พวกกูฟาดจนเบื่อแล้ว ฮ่า ฮ่า" ไอ้ชัยส่งเสียงอย่าง คึกคะนอง จนดาวสาวสวยบุคลิคมั่นใจในตัวเอง ทำได้แค่ร้องไห้กลัวจนตัวสั่นหลบอยู่ที่หลังผม ความสงสารแล่นขึ้นมาจับใจ ความโกรธแค้น ที่มีต่อไอ้ชัยทะลักล้นออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ ผมไม่อยากจะโทษมันที่แย่งชิงดาวไปจากผม หากแต่ผมโกรธแค้นที่มันทำกับดาวอดีตคนรัก ของผมแบบนี้ "ไอ้ชัย ... กูขอเตือนแค่ครั้งเดียว ถ้ามึงลามปามอีกคำเดียว ได้เลือดกลบปากอีกรอบแน่" ผมมองขมึงใส่ไอ้ชัยด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว สองหมัด กำแน่น พร้อมที่จะอัดปากพล่อย ๆ ของมันให้เลือดกลบปาก "...." ไอ้ชัยเมื่อเจอท่าทีเดือดดานของผมเข้าไป ก็ถอยกรูดไม่เป็นท่า สองลูกสมุนของมันก็ออกแนวกระอักกระอ่วนเหมือนกัน พวกมันสามคน เคยโดนผมระเบิดอารมณ์ใส่ไปแล้ว 1 ครั้ง ก็ตอนที่มันแย่งดาวไป แล้วก็มาหัวเราะเยาะเย้ยผมนี่แหละ ความโกรธแค้นของผมทำให้ผมพุ่งไป สาวหมัดใส่พวกมันอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง ๆ ที่อยู่ในโรงอาหารที่ผู้คนพลุกพล่าน จนเกือบจะโดนพักการเรียน แม้ว่าไอ้อ้วนและไอ้เบี้ยวจะเป็นคนแข็ง แรง แต่ผมเองก็ไม่แพ้กัน เพราะที่ด้านหลังบ้านของผมเป็นค่ายมวยไทย ผมเลยร่ำเรียนเกี่ยวกับวิชาการต่อสู้มาเยอะ ผมอาจจะตัวไม่ใหญ่เท่า ไอ้พวกนี้ แต่ร่างกายก็แข็งแรงกำยำและมีแม่ไม้มวยไทยพอที่จะอัดพวกมันจบสลบเหมือดได้ไม่ยาก "เออ กูไม่ยุ่งกับหมาบ้าอย่างมึงหรอก กูไปหาน้องแพรนางฟ้าของกูดีกว่า" พวกมันก้าวถอยหลังไป 3-4 ก้าว ก่อนที่จะรีบหันหน้าเดินฉับ ๆ หลบ ออกไปอย่างเร็ว เหมือนกลัวว่าจะโดนบทเรียนแบบเดิมอีกครั้งหนึ่ง ......................................................................... "ฮืออ ... ฮือออ ... ต้นกล้ายกโทษให้ดาวนะ ยกโทษให้ดาวด้วย ดาวรักต้นกล้าคนเดียว ดาวจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ดาวขอโทษ ฮือ ฮือออ" เมื่อเห็น ว่าอดีตชู้รักทั้งสามคนจากไป เธอก็โอบเอวของผมแน่นพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก เนื้อหน้าอกนุ่ม ๆ ของเธอบดเบียดกับแผ่นหลังของ ผมอย่างเย้ายวนใจ มือเล็ก ๆ ของเธอลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องผมอย่างแผ่วเบาจนผมสั่นสะท้าน มือผมกุมมือของเธอไว้เพื่อปลอบใจในสิ่งเลวร้าย ที่เธอได้รับรู้มา ผมไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เลยแม้แต่เพียงครั้งเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหยดน้ำตาใส ๆ ไหลออกจากดวงตาของเธอ มัน เหมือนกับน้ำเย็นที่มาดับเพลิงไฟแห่งความโกรธแค้นของผม จนเริ่มมอดดับลงไปอย่างช้า ๆ หากเพียงแต่ความรักที่ผมเคยมอบให้เธอมันคง ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้ ผมยืนปล่อยให้เธอกอดผมอยู่อย่างนั้น รอจนกว่าเธอจะพอใจ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้ง รถ BMW คันหรู ทะยานมาจอดตรงพื้นที่ว่างข้างรถที่ผมจอดไว้อย่างพอดิบพอดี และคนที่ผมไม่อยากจะ ให้เห็นภาพเหตการณ์แบบนี้มากที่สุดก็ดันเป็นคนขับซะด้วย ท่อนขาขาวเรียวที่ตัดกับกระโปรงสีดำก้าวลงมาจากรถอย่างเชื่องช้า ใบหน้าสวย หวานจ้องมองมาทางผมและดาวอย่างงง ๆ เธอแสดงสีหน้าตกใจและตะลึงน้อย ๆ ดวงตากลมโตสวยของเธอผสานเข้ากับสายตาของผมอยู่ เนิ่นนาน สติของผมเหมือนจะโดนดูดหายเข้าไปในดวงตากลมโตสีดำสดใสนั้นเสียให้ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอะเจอกับน้องแพรแบบ ใกล้ชิดแต่มันแย่ตรงที่ว่าผมดันอยู่ในสถานะการณ์ที่เลวร้ายสุดขีด มีผู้หญิงกอดผมไว้อย่างแน่นหนา แถมยังร้องไห้ฟูมฟาย ผมไม่อยากจะคิด เลยว่าน้องแพรคนสวยนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ สักครู่น้องแพรก็ขยับตัวไปหยิบของที่อยู่เบาะหลังรถ แล้วเดินสะบัดก้นงอน ๆ จากไป ด้วยท่าทาง งง ๆ ปล่อยให้ผมอยู่กับดาวตามลำพังต่อไป ผมพยายามแกะมือของดาวออก แล้วหันไปมองใบหน้ายั่วสวาทของเธอ "ดาว ... ต้นกล้ายอมอภัยให้กับสิ่งที่ดาวทำ เพียงแต่ต้นกล้าไม่สามารถทำให้เราเป็นเหมือนเดิมได้ เราเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ" ผมมองนัยย์ตา คมสวยที่เต็มไปด้วยน้ำตาใส ๆ ของเธออย่างอ่อนโยน ใบหน้าขาวผ่องเย้ายวนเสน่ห์ของเธอทำเอาผมเกือบลืมตัวก้มหน้าลงไปบดจูบซะแล้วซิ ดีนะที่ยั้งใจไว้ได้ทัน " ... ต้นกล้า ... ได้ค่ะ ถ้าอย่างงั้นดาวก็จะรอวันที่ต้นกล้ายอมรับดาว" เธอพูดพร้อมกับดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาที่ไหลนองหน้าออกไป "ต้นกล้า ช่วยปิดตาแว้บนึงนะ" เธอพูดแฝงรอยยิ้มเย้าเสน่ห์ เมื่อเช็ดคราบน้ำตาออกไปหมดแล้ว "หือ ... ได้ซิ" ผมหลับตาอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนเหมือนกัน "อืมมม" เธอขยับร่างอวบอัดนั้นมากอดผมแน่น พร้อมทั้งประกบปากบาง ๆ นั้นมาที่ปากของผมอย่างรวดเร็ว สัมผัสวาบหวามที่ได้รับทำเอา เธอครางอือในลำคอเบา ๆ ผมปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพียงอ้าเผยอปากออกเล็กน้อย ลิ้นนุ่ม ๆ ของเธอก็ฉวัดเฉวียนแหย่แยงเข้ามา อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งตวัดเกี่ยวพันไปมาทั่วในโพรงปากของผมราวกับแม่งูน้อยร่านสวาท ลีลารักของเธอเปลี่ยนไปมาก จากรสจูบที่ผมจะ เป็นคนเดินเกมเป็นหลัก ตอนนี้เธอกลับทำมันได้อย่างเชี่ยวชาญ เธอคงได้มันมาจากการอยู่กับไอ้ชัย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแค้นใจตัวเอง ผมตวัด ลิ้นพัวพันกลับอย่างดูดดื่มราวกับต้องการจะสูดดมความหอมหวานในโพรงปากของเธออกมาให้หมด สองมือใหญ่บีบเคล้นเนื้อสะโพกอวบ เต่งอย่างแรงจนกระโปรงนักศึกษายับยู่ยี่ด้วยความสะใจ "อืมมม อือออ อืมม อาาา" ดาวร้องครวญครางในลำคอรับความเสียวซ่านในรสรักที่ได้รับ เธอบิดตัวไหวไปมาแอ่นอกดันเข้าเสียดสีกับด้านหน้า ของผมอย่างร่านสวาท ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจูบกันอย่างดูดดื่มนานแค่ไหน แต่มารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่ได้ยินเสียงรถยนต์อีกคันวิ่งเข้ามาจอดในที่ ว่างอีกด้าน ผมเลยพยายามผลักตัวเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้าจะไม่เหมาะ แต่เธอยังคงกอดผมไว้แน่น ดูเหมือนว่าตอนนี้ เธอจะไม่อยากแยกออกจากผมแม้สักวินาทีเดียว เธอไม่สนใจสายตาคนอื่นที่มองมาด้วยซ้ำ "ต้นกล้า ... เราไปหาที่เงียบ ๆ สานความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนได้มั้ย ดาวอยากจะ ..." ดาวหน้าแดงซ่านพูดเอ่ยเชิญชวนผมแบบซึ่งหน้า ดวงตา ของเธอหวานหยดเยิ้มฉ่ำราวกับหญิงร่านสวาท ผมเข้าใจความหมายของคำเชิญชวนนี้ดี แต่ผมและเธอต่างก็มีเรียนช่วงเช้าเหมือนกัน ความอยากและความคิดกำลังตบตีกันอย่างหนักในห้วงความคิด แต่แค่เพียงผมเหลือบมอบลงไปเห็นเรือนร่างสุดเซ็กส์และสองเต้าอวบที่สั่น กระเพื่อมไหวไปมา ผมก็พาเธอขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วตะบึงรถออกไปจากมหาลัยทันที ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เข้าห้องเรียนแม้แต่นาทีเดียว ..................................................................................... ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง สาวสวยในชุดนักศึกษาสุดเซ็กส์นอนแผ่หราอยู่บนเตียงนอนนุ่มกลางห้องหับที่เต็มไปด้วยกระจกล้อมรอบทุกด้านไม้เว้นแม้แต่เพดาน เธอปล่อย ให้ชายหนุ่มในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกำลังนั่งคร่อมเอวของเธออยู่ "อะ อืมมม ต้นกล้า บีบดาวแรง ๆ เลย ลงโทษดาวให้สาสมเลย อ๊าา อืมม" ดาวบิดเอวแอ่นอกเร่า ๆ ตอบสนองความเสียวซ่านจากการโดนบีบ เค้นสองเต้าอวบจากมือหยาบใหญ่แบบเต็ม ๆ มือ สาบเสื้อนักศึกษาแบะอ้าออก พร้อมทั้งยกทรงสีดำสวยก็โดนถลกขึ้นไปกองที่ด้านบนเนินเนื้อ ทรวงอกเต่งตูมเด้งชูชันท้าทายให้ผมขย้ำเล่นได้เท่าที่ต้องการ ความอวบตูมและหนั่นแน่นของก้อนเนื้อทำเอาผมยิ่งรู้สึกสะใจมากยึ่งขึ้นเรื่อย ๆ สองมือบีบกำสองเต้ารุนแรงราวกับจะดึงให้มันฉีกขาดออกมาด้วยอารมณ์ร้อนแรงแห่งความเงี่ยนร่านและความแค้นใจ สองเต้านี้เคยเป็นของผม คนเดียวเท่านั้น แต่แล้วไอ้ชัยและพวกมันกลับได้ไปเสพสมเอาซะเฉย ๆ พอคิดไปว่าพวกมันจะทำยังไงกับสองเต้าอวบใหญ่เร้าเสน่ห์นี้ ก็ยิ่ง เร่งเร้าอารมณ์รักของผมให้มากขึ้นไปอีก "อะ โอยย กัดเบา ๆ อึ๊ยยยย กล้าจ๋า อู้ยยย" ผมก้มหน้าลงไปดูดดุนปลายถันที่แข็งเป็นเม็ดเสียงดังจ๊วบ ๆ เหมือนเด็กทารกที่อยากกินนมของแม่ พร้อมทั้งละเลงลิ้นสาก ๆ ไปรอบหัวนม ก่อนที่จะปากออกงับเบา ๆ ที่ปลายถันสีชมพูสวยหวาน ทำเอาเธอแอ่นอกขึ้นมาสุดตัวราวกับโดนไฟช๊อต "ต้นกล้า จ๋า อืมมมมม" ดาวสะดุ้งตัวเฮือกเอามือกดหัวผมไว้แน่น เมื่อผมออกแรงดูดและบีบเคล้นสองเต้าอวบนั้นอย่างแรงจนเนื้อขาวผ่อง กลายเป็นรอยสีแดงจ้ำ ๆ ตามรอยบีบของมือและรอยกัด มือผมยังคงเค้นคลึงสองเต้างามต่อไป ผมลากลิ้นลงต่ำมายังหน้าท้องเนียนราบ ซุกไซร้วนรอบสะดือขาวสวยอยู่ครู่ใหญ่ ผมละมือจากเต้าสวย นั่งลงแล้วมองหน้างามของเธอ เธอเหนื่อยหอบหายใจหนักจนทรวงอกงาม สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะหายใจ เธอมองมาที่ผมอย่างสงสัยว่าทำไมถึงหยุดมือไป ผมเลิกกระโปรงของเธอขึ้นไปกองที่สะโพกโดยที่เธอให้ความร่วมมือด้วยการยกสะโพกขึ้น กางเกงในสีดำขลับลอยเด่นขึ้นมาท้าทาย สายตาผมทันที ผมใช้นิ้วเกี่ยวที่ขอบกางเกงในลายลูกไม้นั้นแล้วรูดลงไปตามเรียวขาขาวอวบของเธออย่างระรานใจ ผมรูดมันออกจากขาขวา ของเธอ โดยยังคงปล่อยให้มันเกี่ยวค้างอยู่ที่ข้อเท้าซ้าย ผมว่ามันดูเร้าใจดีที่ทำอย่างนี้ เนินหีได้รูปเป็นลอนสวยปรากฎออกมาท้าทายสายตา ผมทันทีมันยังคงดูสวยงามอย่างที่มันเคยเป็น กลีบแคมที่ผมคิดว่าคงจะพังยับเยินจากพวกไอ้ชัย ปรากฎว่ายังคงมีสภาพดีอยู่ มันอาจจะไม่ได้ ปิดสนิทเหมือนอย่างเคย แต่มันก็ยังคงเป็นสีชมพูสวยดูดีน่าลิ้มลองอยู่เหมือนเดิม ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ได้ทะลวงกลีบเสียว ของเธอคนนี้เสียจริง "อะ อ๊าาาา กล้าจ๋า อย่าคว้านน อึ๋ยยยย" ผมเสียบชำแรกนิ้วเขาไปในร่องหลืบ พร้อมกับเขี่ยติ่งเสียวของดาวอย่างเชี่ยวชาญ ทำเอาเธอเสียวซ่าน จนร้องครวญครางออกมาเสียงกระเส่า มืออีกข้างของผมก็ลูบคลำไปทั่วตามลำขาอ่อนเกลี้ยงเกลาไร้รอยตำหนิอย่างสะใจ "อา อือออ ซี้ด …" สาวสวยถ่างอ้าขาออกกว้างอย่างรู้งาน เธอส่ายร่อนเอวรับนิ้วมือที่เสียบทะลวงเข้าออกร่องรูของเธออย่างกระสันร่าน ผมทั้งเสียบทั้งคว้านนิ้วไปมาภายในร่องอย่างสะใจในอารมณ์อยู่พักใหญ่ จนอารมณ์รักร้อนของเธอพุ่งทะยานถึงจุดสุดยอด "ต้นกล้า ต้นกล้า อ๊าาา ดาวไม่ไหวแล้วว ต้นกล้าาาา อ๊าาาาาาาา" ดาวร้องเสียงหลงเมื่อความเสียวทะลักจุดสุดยอด ร่างกายของเธอแอ่นกระตุก ร่อนไปมาอย่างร้อนแรง เธอกรีดร้องออกมาอย่างสุขสมด้วยความสุขที่ไม่ได้รับมานาน อย่างน้อยเท่าที่ผมรู้ ก็น่าจะตั้งแต่ที่เธอโดนพวกไอ้ชัย มันทอดทิ้งซึ่งก็มาผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว และด้วยเหตผลนี้กระมังที่ทำให้ร่องสวาทที่เคยถูกใช้งานมาอย่างหนักกลับคืนสภาพสดสวยตาม เดิมได้ ผมปล่อยให้เธอนอนตาปรือ หายใจเหนื่อยหอบ ตัวอ่อนระทดระทวยอยู่บนเตียงนอน ในขณะที่ผมกำลังถอดเสื้อและกางเกงออกไป จากร่างช้า ๆ ผมจับจ้องไปที่เรือนร่างงาม ที่นอนแผ่เปลือยกายขาวโพลนอยู่บนเตียงนอน เหมือนกับเป็นของหวานจานโปรดที่รอให้เข้าไปลิ้มชิมรส เรือน กายของเธอบิดไหวไปมาเบา ๆ เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาลุกวาวเมื่อเห็นเจ้าท่อนเอ็นลำเขื่องของผมที่กำลังผงกหัวหงึก ๆ อยู่อีกครั้งหลัง จากวันที่เราแยกจากกัน ดูเธอจะพอใจในขนาดของท่อนลำอันเขื่องที่ยาวกว่า 8 นิ้วนี้อยู่มิใช่น้อย อีกทั้งท่อนลำยังอวบอ้วนพอ ๆ กับข้อมือของ เธอเห็นจะได้ ปลายหัวบานแดงโร่ราวกับเหล็กที่ร้อนจนติดไฟ "อยากได้นี่ล่ะซิ หือ" ผมใช้มือรูดถอกหนังหุ้มเข้า ๆ ออก ๆ เบา ๆ จนน้ำเงี่ยนใส ๆ เอ่อล้นที่เต็มปลายหัวบานใหญ่ "ดาวอยากได้ ต้นกล้ารีบเย็ดดาวแรง ๆ เลย ลงโทษดาวแรง ๆ เลยนะ" เธอออดอ้อนร้องขอพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน ให้ผมรีบหยุดความทรมาณ ของเธอซักที แน่นอนเราต่างก็รู้ว่าเธอต้องการมัน และผมเองก็ต้องการจะระบายอารมณ์ใคร่ใส่ตัวเธอด้วย "อ๊า" ดาวร้องเสียงหลง ผมจับท่อนเอ็นจ่อที่ปากร่อง และขยับเบา ๆ ไปมาให้มันเขี่ยติ่งเสียว เร้าอารมณ์เธอ เธอส่ายก้นไปมาเบา ๆ "ซี้ดส์ ดะ ดาวเสียวว อือ " ผมใช้ท่อนเอ็นลาเขี่ยไปตามร่องเสียวเร็วขึ้น เธอยิ่งส่ายก้นไปมาเร็วขึ้น เหมือนหญิงร่านสวาทช่ำชองเกมรัก จริง ๆ แล้วถ้าดูจากปริมาณน้ำรักที่เอ่อล้นออกมา ผมคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องอุ่นเครื่องอีกต่อไป เธอคนนี้โดนจุดไฟรักติดไปเรียบร้อยแล้ว หากแต่ผมเองแค่อยากจะแกล้งเธอให้สาแก่ใจผมซักหน่อยก็แค่นั้นเอง "ตะ ต้นกล้า อย่าหยุดซิคะ อืออ" ผมแกล้งหยุดการรุกเร้าไว้ชั่วคราว ดูเธอเหมือนจะขัดใจอย่างรุนแรง จนต้องส่ายสะโพกแรงขึ้นเพื่อให้สัมผัส กับท่อนเอ็นของผม เธอสอดเอื้อมมือลงมาจับปลายหัวบานของผมให้บดครูดไปที่กลีบเสียวของเธอราวกับกระหรี่ร่านรัก "ต้นกล้า ... ได้โปรด อย่าทรมาณดาวเลยนะ อืมมม" สาวสวยส่งสายตาหวานหยดเยิ้มพยายามยั่วยวนอย่างสุดความสามารถ ก้นยังคงส่ายไปมา หาท่อนเอ็นที่จรดจ่ออยู่ ปากร่องเสียวของเธอตอดรัดตุบ ๆ ที่ปลายหัวควยของผมอย่างรุนแรง ผมรอสักครู่ก็ออกแรงดันบั้นเอวยัดท่อนเอ็นใส่ เข้าในร่องหลืบพรวดเดียวสุดแรงทันที "อ๊า ซี๊ดดดส์" เธอตัวกระตุกทันที เมื่อผมพยายามกดท่อนเอ็นเข้าไปในกลีบเนื้อนั้น เธอกัดฟัน สองมือตวัดรัดคอดึงเข้าหาเธอ สองขาฉีกกว้าง ตวัดรัดเอวเหมือนจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกันกับผม "อึ๊ยยยย มันแน่นจัง เจ็บ แล้วก็เสียว อ๊า" ดาวร้องครางขณะที่ผมค่อย ๆ ขยับเอวดันท่อนเอ็นชำแรกเข้าไปทีละน้อย ผิดจากที่ผมคาดไว้มิใช่ น้อยที่โพรงสวาทของเธอยังคับคับแน่นขนาดนี้อยู่ หรือว่าพวกไอ้ชัยมันจะมีจู๋เล็กกันทั้งนั้นล่ะเนี่ย พอมาเจอของแท้อย่างผมเข้าไปก็เลยแน่น จนดันแทบจะไม่เข้า ใบหน้าสวยหวานของเธอกำลังบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเจ็บและเสียว ผมก้มลงไปจูบแลกลิ้นกับสาวสวย พร้อมทั้งกด ท่อนเอ็นผมเข้าไปช้า ๆ "อาาา อือ ดาวเสียว" เธอครางอือด้วยความพอใจ "อื๊อออ" ตัวเธอกระตุก เธอครางอือในลำคอ อย่างสุดเสียง มือจิกแน่นไปที่ผ้าปูที่นอน เพราะผมเร่งกดท่อนเอ็นอันเขื่องเข้าไปจนสุดลำในที เดียว ผมรู้สึกได้ถึงการตอดรัดภายในอย่างรุนแรง "ซี๊ดดดส์ ผัวขา เมียเสียว" เธอเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ด้วยความเสียวซ่าน หน้าแดงแหงนเชิดขึ้น ผมค้างท่อนเอ็นไว้อย่างนั้นชั่วคราว เพื่อให้ดาว ปรับตัวได้ก่อน ผมถอนปากออกขยับตัวอยู่ในท่านั่ง ผมยกเอวของเธอให้ลอยขึ้นนิดนึง เพื่อให้ได้ระดับความสูงเดียวกันกับท่อนเอ็น ตอนนี้ขา ข้างหนึ่งของเธอพาดอยู่บนไหล่ผม ส่วนอีกข้างอยู่ข้างเอว ผมเอามือตะปบไปที่อกอูม แล้วขยำขยี้อีกครั้ง ผมไม่รู้สึกเบื่อเลยที่ได้ขยำขยี้อกงาม คู่นี้ "อูย ฟิตจริง ๆ" ผมก้มลงมองดูท่อนเอ็นที่เสียบมิดลำเข้าไปในร่องสวาทของดาวอีกครั้ง ร่องหลืบฟิตคับกำลังตอดตุบ ท่อนเอ็นของผมอย่างรุนแรง "อือออ อา อูยย" ดาวร้องครางอือ เมื่อผมเริ่มกระเด้าเอวซอยเข้าออกอย่างเบา ๆ ร่องหลืบของเธอยังคงตอดรัดผมอย่างรุนแรงอยู่ ด้วยความ สะใจในอารมณ์ผมค่อย ๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ อัดกระหน่ำบั้นเอวเข้าใส่ร่างของเธอหนักขึ้น ๆ "อา ผัวจ๋า มันคับจังเลย เมียเสียววววว อ๊า" ผมเร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สะโพกขาวผ่อนเด้งขึ้นลงรับการกระเด้าเอวของผมอย่างรู้งาน เธอคงรู้สึก เสียวกระสันอย่างรุนแรง เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ พั่บ พั่บ สองมือผมบีบบี้บดขยี้ไปที่อกอูมต่อไปอย่างไม่คิดทะนุถนอม "อาา ซี๊ดดส์ ผัวจ๋าเย็ดเมียแรง ๆ เลย" สาวสวยในชุดนักศึกษาร้องดังลั่นอย่างลืมตัวว่ายังเป็นนิสิต ขณะที่ผมยังคงกระเด้าต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง กลีบแคมสีชมพูสดปลิ้นเข้าออกตามจังหวะการอัดกระหน่ำเข้าใส่ของผม เธอส่ายร่อนก้นเข้าใส่ท่อนเอ็นผมอย่างไม่กลัวว่าจะเจ็บ ใบหน้าสวย หลับตาพริ้ม หัวสะบัดไปมาผมเผ้าดูยุ่งเหยิง เธอร้องเรียกหาผัวอย่างไม่เหลือมาดของอดีตดาวเฟรชชี่ผู้สวยเริ่ดเชิดหยิ่งแม้แต่น้อยนิด "อ๊า ซี๊ดดดดส์ ไม่ไหวแล้ว"ร่างงามของเธอกระตุกส่ายแอ่นก้นเข้ารับการกระเด้าอย่างรุนแรง สองขาเกี่ยวตวัดรัดเอวผมไว้ เธอดันตัวขึ้นมากอด คอผมในท่านั่ง สองมือจิกไปที่แผ่นหลังและต้นคอผมอย่างรุนแรง เธอแลกจูบกับผมอย่างดูดดื่ม ดาวถึงจุดสุดยอดกับผมเป็นครั้งที่ 2 แล้วใน วันนี้ แต่ความเงี่ยนและความแค้นของผมยังอัดแน่นอยู่เต็มอก และผมจะระบายมันออกมาใส่ร่างบอบบางของเธอจนกว่าผมจะหนำใจ ผมเริ่ม ขยับซอยเอวอีกครั้ง เพื่อดื่มด่ำรับความซาบซ่านของรสสัมผัสเนื่อเยื่ออ่อนนุ่มในโพรงสวาทของดาวที่ตอดรัดแก่นกายของผมอย่างแนบแน่น และแล้วเสียงร้องครวญครางกระเส่าของนักศึกษาสาวที่โดดเรียนมาเข้าคอร์สเรียนพิเศษเรื่องวิชารักอยู่ ก็ดังลั่นห้องพักในโรงแรมม่านรูด อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษายับยู่ยี่ ......................................................................................... ตื้ด ตื้ด ตื้ด เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น ผมงัวเงียตื่นขึ้นมามองหาต้นเสียง ผมขยับตัวลงจากเตียงนอนล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกางเกง ขายาวที่กองอยู่กับพื้นห้องใกล้ ๆ ขอบเตียง "เออ ว่าไงไอ้โก้" ผมพูดน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย รู้สึกหัวยังมึน ๆ อยู่เลย "มึงอยู่ไหนวะ วันนี้แม่งโดดเรียนเฉย" เสียงไอ้โก้ดังมาตามสาย "เอ่อ .... กูนอนอยู่บ้าน วันนี้ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่" ผมโกหกไป มองนาฬิกาที่ฝาผนัง นี่มันทุ่มกว่า ๆ แล้วเหรอเนี่ย "มิน่าเสียงแหบ ๆ เออ มึงนอนพักผ่อนเหอะ ... เฮ้ย มึงรู้ป่าวว่าดาวไปไหน วันนี้เห็นโดดเรียนเหมือนกัน" ไอ้โก้ถามต่อ "... ไม่รู้ว่ะ ... กูนอนต่อล่ะนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้" ผมพูดโกหกแล้วกดปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่อยากจะบอกมันเลยว่า สาวสวยคนที่มันคิดอยากจีบ แต่เธอไม่เล่นด้วย เพิ่งจะโดนผมทะลวงสวาทอยู่แหมบ ๆ เมื่อกี้นี้เอง ผมนั่งมองสาวสวยเซ็กซ์สุดหยิ่งประจำมหาวิทยาลัยนอนหลับถ่างขาอ้าซ่า กลีบเสียวสีสวยที่แทบจะปิดสนิทก่อนหน้านี้ ตอนนี้บวมแดง แง้มอ้าออก จนมองเข้าไปเห็นเนื้ออ่อนสีชมพูด้านใน คราบน้ำกามสีขาวขุ่นล้นทะลัก ออกมาจากร่องรูเสียวของเธออย่างไม่ขาดสาย อันเป็นหลักฐานบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านเกมรักร้อนแรงมาได้ไม่นานนัก เธอหลับตาพริ้ม นอนหลับด้วย ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขที่สุด ส่วนผมเองก็รู้สึกสะใจเหมือนกัน ที่ได้ทำให้นักศึกษาสาวสวยอย่างเธอ อยู่ในสภาพเหมือนกะหรี่ข้างถนนไร้ ราคาแบบนี้ได้ พอได้ระบายอารมณ์ออกไป ก็พอจะมีสติคิดเรื่องราวอะไรสักหน่อย ผมเริ่มคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง ว่าทำไมวันนี้ดาวถึงได้ร้อนแรง และดูจะลุ่ม หลงในตัวผมมากมายเหลือเกิน วันนี้เธอไม่ได้สนใจมองในสิ่งประดับรอบกาย เช่น รถยนต์คันหรู อย่างที่เธอเคยมองเป็นประจำ วันนี้ดวงตา หยาดเยิ้มของเธอจับจ้องมองมาที่ตัวผมโดยตรง เหมือนกับว่าผมเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอต้องการ ไม่มีอาการหยิ่งผยอง อาการไว้ตัว หรืออาการ เสแสร้งใด ๆ แสดงออกมา ... หรืออย่างน้อย ผมก็ไม่อาจจะรับรู้ถึงมันได้ แถมวันนี้เธอยังตอบสนองในทุกท่วงท่าของเกมรักอันหนักหน่วงอย่างไม่อิดออด ทั้ง ๆ ก่อนหน้านี่ที่เราเคยคบกัน เธอเคยหวงเนื้อหวงตัวกลัว ว่าจะหากทำรุนแรง ร่างกายของเธอจะหย่อนคล้อยไม่สวย จึงยอมให้ผมทำกระทำการได้เพียงแบบเบา ๆ เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นผมเองก็อยากทะนุ ถนอมเธอไว้เหมือนกันจึงยินดีปฎิบัติตาม ... นี่เธอเปลี่ยนใจมารักผมจริง ๆ งั้นเหรอ ... ไม่มีทางหรอก ผู้หญิงบ้าเห่อวัตถุนิยมอย่างเธอ ใช่จะ เปลี่ยนแปลงกันง่าย ๆ ... หรือ หากจะมีอะไรที่ทำให้คนอย่างดาวเปลี่ยนใจจากวัตถุนิยมมาชมชอบในตัวผมอย่างจริงจังได้ล่ะก็ เท่าที่ผมนึก ออกก็มีเพียง ยาแฝดมหาเสน่ห์เม็ดสีขาวขุ่นที่เธอกินไปเมื่อวานนี้เท่านั้น ... หรือว่ามันจะได้ผลจริงๆ ? เลยทำให้สาวเริ่ดเชิดหยิ่งอย่างเธอ เปลี่ยนไป? ... ถ้างั้นหากไอ้ชัยทำสำเร็จ ให้น้องแพรได้กินยาแฝดเข้าไปจริง ๆ ล่ะก็ ... ผมแอบคิดไปถึงใบหน้าสวยหวานของน้องแพร หน้าอกอวบตึง ท่อนขาขาวเรียว ผิวพรรณขาวละเอียดแบบคุณหนูแสนน่าหลงใหล ภาพในจินตนาการที่คุณหนูสุดสวยแสนเรียบร้อยนอนร้องครางหงิง ๆ ส่ายเอวส่ายก้นร้องเรียกหาผม ดูเหมือนจะเป็นจริงได้ในไม่ช้า ... ยิ่งนึกไป เจ้าท่อนเอ็นที่เหนื่อยอ่อนจนปวกเปียกคอพับคออ่อน ก็เริ่มแข็ง ตัวชูชันขึ้นมาอีกครั้ง ผมขยับตัวไปทางดาวที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ ร่างขาว ๆ ของเธอเต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงจากการบีบขย้ำ โดยเฉพาะที่สองเต้าอวบนั้นผมเน้น บีบขยี้อย่างแรงเป็นพิเศษเลยทีเดียว ใบหน้าแสนยั่วยวนนั้นเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกามที่ผมได้ปลดปล่อยออกมาจนเป็นมันปลาบ ผมลูบไล้เรือนร่างของดาวที่ยังสลบไสลอยู่ แต่กลับจินตนาการถึงใบหน้าของน้องแพร อารมณ์กระหายอยากเร่งเร้าให้ผมจับแยกสองขาเรียวของ เธอออกจากกัน ก่อนที่จะยัดท่อนเอ็นดุ้นใหญ่เสียบพรวดกลับเข้าไปในร่องหลืบที่เปียกชุ่ม แล้วโยกเอวบดใส่ดาว จนบังเกิดเสียงเนื้อกระทบ เนื้อดัง ปั่บ ปั่บ ปั่บ อีกครั้ง ... ทั้งผมและเธอกำลังดำดิ่งลงไปสู่ห้วงหฤหรรษ์แห่งความใคร่ของกามโลกีย์อย่างมิอาจจะถอนตัว ...........................................................................................

หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 1 - หมอกำมะลอ

ณ บ้านหลังใหญ่ห่างไกลจากชุมชน นาฬิกาที่ข้างฝาห้องกระดิกเข็มไปที่หมายเลข 12 บ่งบอกเวลาเที่ยงคืนตรงตามหน้าที่ของมัน ตึกรามบ้านช่องและห้องพักอื่น ๆ ต่างก็ปิดไฟเข้านอนพักผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากันอย่างเงียบสงบ แต่แสงไฟในห้องของผมยังคง เปิดสว่างจ้าอยู่โดยไม่รู้จักหลับนอน ผมนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์คู่ใจเสียงกดแป้นพิมพ์และเมาส์ดังกิ๊ก ๆ ร้องระงมราวกับนกแตกรัง "เฟรชชี่ ปีนี้เด็ดดวงจริง ๆ ขาว ๆ ทั้งนั้นเลย" ผมมองภาพสาวสวยในชุดนักศึกษาที่ปรากฎอยู่บนจอภาพคอมพิวเตอร์ อย่างเร้าอารมณ์ รูปส่วนใหญ่จะเป็นรูปที่ถ่ายมาจาก ตอนช่วงงานรับน้องใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว ในฐานะประธานชมรมถ่ายรูปของมหาวิทยาลัย ผมเลยมีรูป พวกนี้อยู่ในครอบครองจนหนุ่ม ๆ หลายคนอิจฉา ภาพบนจอเปลี่ยนสลับไปเรื่อย ๆ ตามเสียงกิ๊ก ๆ ที่ผมกระแทกนิ้วใส่เมาส์ นักศึกษา สาวสวยคนแล้วคนเล่าผลัดกันมาโชว์ตัวอวดเนื้อหนังมังสาต่อสายตาผมโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รับรู้แม้แต่น้อย หลายรูปเป็นรูปถ่ายหน้าตรง และรูปเต็มตัว ที่แสดงให้เห็นถึงความน่ารักสดใสของบรรดาสาว ๆ น้องใหม่บริสุทธิไร้เดียงสาทั้งหลาย "อื้อ หืออ คนนี้ซิน่ารักสุดยอด ..." ผมหยุดกดแป้นพิมพ์ เมื่อรูปนางฟ้านางหนึ่งปรากฎขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใบหน้าของเธอนั้นช่าง สวยหวานจับใจ ดวงตาใสกลมโต ผมสีดำยาวสลวย ลักยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากบางสีชมพูอ่อนของเธอช่วยเพิ่มเน้นความน่ารักให้เจ้าตัวราว สวรรค์ช่วยเติมแต่ง แก้มสวยใสสีชมพูระเรื่อนั้นทำเอาผมอยากซุกไซร้ สูดดมความหอมหวานจากเธอเสียให้ได้ "น่ารักแถมยังเอ็กซ์อีก หูยยย ...." ผมมองเลื่อนต่ำผ่านลำคองามระหงลงมา ก็เห็นเรือนร่างอวบอัดราวนางแบบที่โดนห่อหุ้มไว้ด้วยชุด นักศึกษาฟิตรัดขนาดเล็ก สองเต้าขาวอวบดันผ้าสีขาวบางเบาออกมาเป็นก้อนกลม หากคะเนด้วยสายตาแล้วเธอคนนี้มีหน้าอกไม่ต่ำกว่า 34 - 35 นิ้วแน่ ๆ ความบางของเนื้อผ้าตามสมัยนิยม เพียงพอที่จะทำให้ผมเห็นรูปร่างของยกทรงที่ดุนดันออกมาจนกระดุมนักศึกษาเม็ด เล็ก ๆ แทบจะปริหลุดออก รูปใบนี้ถ่ายตอนที่เธอกำลังซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ เธออยู่ในท่ายืนแอ่นอกแอ่นเอว ทำให้สามารถสังเกตเห็นสัดส่วน สุดเซ็กส์ของเธอได้โดยง่าย เอวบางคอดกิ่วราวกับแจกันใบสวย สะโพกผายงอนเด้งจนแทบจะล้นออกมาจากกระโปรงสีดำฟิตเปรี๊ยะสั้น เต่อนั้น สีขาวผ่องของน่องขาเรียวสวยช่างตัดกับกระโปรงสีดำแสนฟิตสั้นนั้นอย่างเหมาะเจาะ "น้องแพร สวยยังกับนางฟ้าเลย ... อูยยย" ผมครางกระเส่าเมื่อล้วงมือลงไปในกางเกงกำเอาท่อนเอ็นที่แข็งจนชี้เด่ด้วยความพิศวาสใน เรือนร่างของน้องแพร ผมออกแรงรูดท่อนเนื้อที่กำลังโตเต็มที่ไปมาอย่างสะใจในอารมณ์ ในหัวจินตนาการไปไกลว่ากำลังจัดการกับสาว ดาวหมาลัยคนนี้อย่างร้อนแรงถึงพริกถึงขิง ความสวยใสของเธอช่างสร้างความกำหนัดให้เพศตรงข้ามได้ดียิ่งนัก แถมนอกเสียจากเรือน ร่างแสนสวยสดที่ฟ้าประทานให้แล้ว เธอคนนี้ยังคงกิริยามารยาทอ่อนหวานราวกับกุลสตรีไทย รอยยิ้มสดใสเป็นกันเองนั้นบ่งบอกได้ถึง ความไร้เดียงสา และอ่อนต่อโลกของเธอ ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไร เพราะเธอเองก็เป็นลูกสาวคนเดียวของนักการฑูตชื่อดังคนหนึ่ง ย่อมที่ จะต้องได้รับการเลี้ยงดูฟูมฟักมาเป็นอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว "อูยยย นมขาวจริง ๆ " ผมคลิกเปลี่ยนรูปถัดไป ภาพนี้ถ่ายตอนที่เธอก้มตัวลงมาข้างหน้า จนคอเสื้อเปิดกว้างปล่อยให้ผมมองลอดเข้า ไปเห็นร่องอกขาวอวบที่โดนสองเต้าเบียดจนแน่นได้อย่างชัดเจน ผมล่ะอยากจะเอาท่อนควยเบียดเข้าไปในร่องอกขาว ๆ คับแน่นนั้น แล้วกระเด้าเอวใส่ซะให้หายอยาก ผมคลิกเปิดหนังโป๊ญี่ปุ่นขึ้นมาช่วยประกอบจินตนาการเสียว ร่างสาวญี่ปุ่นโดนดุ้นอวบใหญ่กระแทก เสียบใส่จนส่งเสียงร้องครวญครางดังลั่นห้อง เสียงร้องลั่นอย่างสุขสมนั้น ช่วยเร่งเร้าให้ผมจินตนาการเห็นภาพน้องแพรนอนเปลือยกาย อ้าขาออกปล่อยให้ผมกระเด้าเอวอัดใส่เนื้อหน้าอกเธอตามอำเภอใจ ยิ่งคิดมืออีกข้างก็ยิ่งรูดถอกท่อนเนื้อเข้าออกเร็วและแรงขึ้นตาม ระดับของอารมณ์เงี่ยนที่กำลังพวยพุ่งจนแทบกระฉูด "น้องแพรจ๋า อูววว ซี้ดสสสส" ผมมองภาพถ่ายถัดไป เป็นภาพที่ผมแอบถ่ายตอนเธอเผลอนั่งอย่างไม่ทันระวัง สองขาของเธออ้าออก ทำให้ผมมองลอดลึกเข้าไปในร่องหลืบจนเห็นกางเกงในสีขาวสวยอย่างชัดเจน ท่อนขาขาวเรียว และโคกเนินเนื้อที่ดันตัวออกมาเป็นลอน สวยงามทำเอาผมยิ่งเพ้อคลั่งเข้าไปกันใหญ่ ภาพน้องแพรคนสวยนอนแหกแข้งแหกขาให้ผมกระหน่ำเกมรักใส่ปรากฎขึ้นในจินตนาการ อย่างชัดเจนยิ่ง ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมเร่งรูดกระถอกท่อนเอ็นลำเขื่องเร็วและแรงขึ้น "อะ อูยยยย ซี้ดสสสสส" ผมรูดกระถอกทรมาณตัวเองได้ครู่ใหญ่ ปลายหัวบานแดงโร่ ก็กระดกหงึก ๆ ฉีดอัดเอาลำน้ำสีขาวขุ่นที่กักเก็บไว้ กระจายออกมาภายนอกอย่างเต็มที่ ความเสียวซ่านที่ได้รับช่างสุขสมยิ่งนัก นี่ขนาดแค่ผมจินตนาการนะเนี่ย หากได้จัดการกับเธอจริง ๆ คงจะสะใจน่าดู ... แต่ผมก็คงจะได้แค่ฝันเท่านั้น เพราะเธอคนนี้มีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัย และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอ จะกำลังคบอยู่กับไอ้ชัยคู่แค้นของผมอยู่ซะด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะว่าไอ้ชัยมันทั้งหล่อรวยแถมมีพ่อเป็นรัฐมนตรีรวยล้นฟ้า เรียกได้ ว่ามันมีดีทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายควรจะมี แถมเท่าที่รู้ครอบครัวของไอ้ชัยและแพรก็สนิทสนมกันดีเสียด้วย ดูไปก็เหมือนจะเหมาะสมกันดีอยู่ แต่จะเสียก็อย่างเดียว เรื่องที่มันมักจะฟันหญิงแล้วทิ้งขว้าง ทำเอาสาว ๆ ตรอมใจไปซะหลายคน และนั่นก็รวมถึงน้องดาวอดีตแฟนสาว สุดเอ็กซ์ของผมด้วย เธอทิ้งผมไปเพราะหลงเสน่ห์ไอ้ชัย แต่เพียงแค่ 2 เดือน มันก็เขี่ยเธอทิ้งเพราะความเบื่อ ตามสันดานของมัน คิดไป แล้วก็น่าสงสารน้องแพรเหมือนกันหากเธอจะต้องเสร็จคนชั่วอย่างไอ้หมอนี่ "ตายห่า" ผมร้องลั่นห้อง เมื่อเหลือบเห็นว่าคราบน้ำขาว ๆ นั้นพุ่งกระจายไปเลอะเต็มหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้แสดงรูปใบหน้าสวยหวาน ของน้องแพรอยู่เต็มจอ ผมหยิบเอาผ้าขนหนูกะจะมาเช็ดคราบนั้นออก แต่แทนที่ผมจะรีบเช็ดน้ำว่าวนั้นออกไป เมื่อมองแล้ว ภาพสาวสวย เปรอะเลอะไปด้วยน้ำเงี่ยนของผม มันยิ่งกระตุ้นอารมณ์หื่นของผมขึ้นมาจนผมต้องเริ่มรูดถอกท่อนเอ็นใหม่อีกครั้งด้วยความหลงไหลใน เสน่หาอันล้นเหลือของน้องแพรสาวสวยดาวมหาลัย และไม่นานนักน้ำกามระลอกใหม่ก็กระฉูดออกมาเต็มใบหน้าของน้องแพรคนสวยที่อยู่ ในหน้าจอคอมอีกครั้ง ผมนั่งหอบแฮ่ก ๆ แอบชำเลืองมองไปทางขวดโหลแก้วใสเล็ก ๆ ที่ภายในบรรจุยาเม็ดกลม ๆ คล้ายยาลูกกลอน แต่เป็นสีขาวนวลแทนที่ จะเป็นสีดำอัดอยู่สามเม็ด พ่อผมที่ประกอบอาชีพเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดชื่อดังบอกว่า มันคือยาแฝด ยามหาเสน่ห์ ซึ่งทำขึ้นมาโดยใช้น้ำ เงี่ยนของผมเป็นส่วนผสมหลักตามสูตรเก่าแก่ของครอบครัว หากหญิงคนใดกินเข้าไป จะบังเกิดความรักและลุ่มหลงในตัวผู้ทำเสน่ห์ ซึ่งในที่นี้ก็คือตัวผมนั่นเอง ความรักความโหยหาจักบังเกิดต่อเหยื่อสวาทอย่างไม่รู้จักจบสิ้น จนกว่าผู้ถูกยาแฝดนั้นจะมาอยู่ใกล้ชิดสนิท สนมกับผู้ทำเสน่ห์ และโดนน้ำกามขาวข้นร้อน ๆ ราดรดใส่ จึงจะลดอาการโหยหาลงไปได้บ้าง ใครถูกยาแฝดอยู่ไกลได้ไม่เกินสามวัน จะทนอยู่ไม่ได้ ต้องรีบมาหาท่อนควยเพื่อดับร้อนให้หายอยาก ... หากมันเป็นของจริง อย่างที่พ่อผมว่าล่ะก็ ผมก็อยากจะเอาใช้กับน้อง แพรสุดสวาทขาดใจของผมเหมือนกัน หากทำให้เธอคนนี้มาเป็นทาสรักทาสสวาทของผมได้ล่ะก็ จะยังไงก็ยอม "ไร้สาระน่า ..." ผมแอบคิดไปไกลถึงภาพน้องแพรนอนครางหงิง ๆ ให้ผมอัดกระแทกควยใส่อย่างสบายอารมณ์ แต่ก็ต้องแว้บกลับมาสู่ความ เป็นจริง แม้ว่าพ่อผมจะเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดชื่อดังก็ตามเถอะ แต่ผมไม่เคยเลยที่จะเชื่อในเรื่องแบบนี้ เพราะเท่าที่เห็น พ่อผมไม่ได้มี ลูกศิษย์ลูกหาพวกผู้ชายเท่าไหร่นัก จะมีก็แต่เพียงบรรดาคุณนายไฮโซมีกะตังค์ ที่หวังจะมาทำเสน่ห์สามีแสนเจ้าชู้ให้อยู่กับบ้าน แต่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นว่า โดนพ่อผมจับทำพิธีเสกเด็กเข้าท้อง จนส่ายเอวดิ้นพราด ๆ ร้องครวญครางติดใจในรสสวาทซะเอง จะโทษพวกคุณ หญิงคุณนายพวกนั้นก็ไม่ได้หรอก ก็พ่อผมน่ะรูปหล่อใช่ย่อยซะเมื่อไหร่ ทั้งคารมดี แถมแก่ปูนนี้ร่างกายยังแข็งแกร่งเหมือนนักกีฬามาราธอน ส่วนไอ้ที่เด็ดสุด ก็น่าจะไม่พ้นไอ้เจ้าท่อนควยอันใหญ่โคตร ๆ นั่นแหละ ผมเคยแอบเห็นพ่อเสียบมันใส่คุณนายคนหนึ่ง เธองี้ดิ้นพราด ๆ ร้องครวญครางเรียกผัวจ๋า ๆ เอวร่อนไม่ติดพื้นเลย ผมเองก็สืบทอดมาจากพ่อไม่น้อยเหมือนกัน เรื่องความหล่อผมไม่แพ้แน่ ๆ แต่ว่าเรื่อง ท่อนควยนี่ผมยอมแพ้จริง ๆ ของผมว่าใหญ่พอดูแล้วเมื่อเทียบกับของเพื่อน ๆ ที่รู้จัก แต่ของพ่อนี่ต้องยกระดับพ่อม้าพันธ์มหาหื่นให้ไปเลย ... ถึงผมจะพยายามพร่ำบอกตัวเองว่าไม่เชื่อ แต่ในความรู้สึกลึก ๆ ของผม กลับรู้สึกว่ายาเม็ดสีขาวหม่นนี้มันมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างอยู่ มันจะเป็นของจริงหรือของเก๊ก็ตามแต่ แต่ว่ามันก็เปรียบได้กับแสงหิ่งห้อยตัวน้อยในคืนเดือนมืดสำหรับผม โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดและครอบ ครองน้องแพรสุดสวยที่กำลังยิ้มอย่างสดใสร่าเริงอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม ... แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ ผมจะหาทางให้น้องเค้ากินยาเม็ด บ้า ๆ นี้ได้ยังไงกัน? ขนาดแค่คุยยังแทบไม่มีโอกาสเลย ... เฮ้อ ... ผมถอนหายใจอย่างหมดหวัง ก่อนที่จะผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่สบายตัวอย่างสุด ๆ ........................................................................ ยาม เย็นหลังเลิกเรียนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ผมนั่งเล่นอยู่กับกลุ่มเพื่อน ๆ ชมรมถ่ายรูปที่ม้านั่งที่ประจำ ปกติแล้วผมไม่ได้สนใจนั่งในที่ ที่คนเยอะ ๆ เสียงดัง ๆ แบบนี้ซักเท่าไหร่หรอก แต่ที่มานั่งเนี่ย เพราะว่าอยากจะมาเห็นหน้าน้องแพรก็เท่านั้น และนั่นไงนั่งรอไม่มนานนัก เธอก็มาแล้ว น้องแพรเพิ่งเลิกเรียนวิชาสุดท้ายของวัน เดินออกมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงหลายคน หลายคนก็ดูสวยน่ารักอยู่หรอก แต่ว่า พอเทียบกับน้องแพรแล้ว มันคนละชั้นกัน เหมือนพวกเธอเหล่านั้นเป็นแค่ไม้ประดับที่เสริมความงาม ให้กับสาวสวยดาวมหาลัยคนนี้ยิ่งขึ้น ไปอีก ใบหน้าสวยหวานปานนางฟ้า ผิวพรรณขาวผ่องใสแทบไร้รอยตำหนิ แถมยังมีสัดส่วนอวบอัดแสนยั่วยวนนั่นอีก ทันทีที่เธอปรากฎตัว เสียงคุยดังจอแจก็เงียบลงไปส่วนหนึ่ง เพราะบรรดาผู้ชายทั้งหลายต่างก็หันไปจับจ้องมองชื่นชมความงามอันแสนโดดเด่นของเธอแทน การพูดคุย ... เธอจะรู้มั้ยหนอว่าเทพธิดาจากสรวงสวรรค์คนนี้ทำเอาบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งหลายใจเต้นระส่ำแทบคลั่งตายเพราะความเพ้อรัก อยู่แล้ว อย่างน้อยก็มีผมคนนึงล่ะ ที่แอบมองตามพลางคิดจินตนาการไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว สวรรค์วิมานในอากาศของผมอยู่ได้ไม่นานนักก็พังทลายลงอย่างรวดเร็ว เพราะน้องแพรสาวสวยในฝันของผมโบกมือลาเพื่อน ๆ ก่อนที่ จะเดินก้าวขึ้นไปนั่งบนรถสปอร์ตราคาแพง โดยมีไอ้เหี้ยชัยเป็นคนขับ ผมเพ้อมองตามเงาร่างของแพรผ่านกระจกรถคันหรูไปจนเธอลับตา ตอนนี้รู้สึกเหมือนหมามองเครื่องบินยังไงยังงั้นเลยทีเดียว ... โบร๋ววว ... ขอหอนให้สมกับเป็นหมาหน่อยเถอะวะ ผมหยิบเอายาแฝดสีขาว ขุ่นออกมาถือเล่นในมือ พลางคิดฝันไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าไอ้ยาบ้านี่จะเป็นของแท้หรือของเทียมกันแน่ ถ้าเป็นของแท้ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นของ เทียม แล้วทำเอาน้องแพรท้องเสียไปจะว่ายังไง ... เฮ้อ ไอ้บ้าเอ๊ย คิดไปซะไกล ความจริงแล้วมันมีปัญหาใหญ่ข้อแรกและเป็นปัญหาข้อ เดียวเท่านั้น ก็คือ ผมจะเอายาบ้านี่ไปให้น้องแพรกินได้ยังไงวะเนี่ย " แม่ง ขึ้นรถไอ้ปีศาจนรกไปซะแล้ว นางฟ้าคนสวยของพี่โก้" เสียงไอ้โก้เพื่อนร่วมชมรมของผมเพ้อรำพัน ไอ้นี่รูปร่างอ้วนเตี้ยตัวดำเซ้กส์จัด แต่ยังเสือกฝันเรียกว่า น้องแพรของพี่โก้ ไอ้เหี้ยโก้เอ้ยไม่ดูตัวเองเลย ที่บอกว่ามันเซ็กส์จัด ก็เพราะว่าไอ้นี่มันไปเที่ยวหาสาว ๆ ในอาบอบ นวดบ่อยมาก มันบอกว่าง่ายดี น้ำแตกแล้วแยกทาง ไม่ต้องปวดหมอง แต่มันก็มีข้อดีข้อนึงของมันคือพ่อมันรวย แถมมันยังใจป้ำซะด้วย " เสียดายจริง ๆ ว่ะ ไอ้ชัยแม่งโชคดีเหี้ย ๆ น้องเค้าสวยเหมือนนางเอกหนังเลย เห็นข้างนอกยังสวยขนาดนี้ ข้างในจะขนาดไหนวะ" ไอ้ตี๋ หนุ่มเชื้อจีน ผอมขาวสูงท่าทางขี้โรคช่วยผสมโรงอีกคน " ถ้าเป็นกูนะโว้ย น้องแพรไม่ได้ไปไหนแน่ กูจะแช่ควยเสียบไว้ทั้งวันทั้งคืนให้หีบานเลย" ไอ้โก้พูดอย่างหื่นกระหาย ทำเอาผมรู้สึกหวง น้องแพรขึ้นมาจับใจ นี่ขนาดเพื่อน ๆ ผมเห็นเธอแล้วยังหื่นกันขนาดนี้ แล้วนี่นางฟ้าของผมไม่โดนไอ้ไอ้เหี้ยชัยเสียบทะลวงจนเละเทะ ไปแล้วเหรอเนี่ย "นี่พวกแก เกรงใจ สุภาพสตรี อย่างชั้นบ้างซิ พูดมาได้ไม่อายปาก สงสารน้องเค้าออกแต่ก็นะ ไปกับไอ้เหี้ยชัยแบบนี้ไม่รอดหรอก" เสียง ของดาวสาวหน้าหมวยดังขึ้น พร้อมกับทำหน้าดุใส่ชายหื่นทั้งโต๊ะ ก่อนที่จะแอบปรายตามามองทางผมจนผมต้องเบือนหน้าหนี ใช่แล้ว ดาวสาวสวยคนหนึ่งของคณะบัญชีคนนี้นี่แหละที่เคยเป็นแฟนผม เธอเป็นอดีตแฟนสาวที่เคยทำร้ายน้ำใจผมอย่างรุนแรงมาก่อน เธอ เรียนปี 4 เหมือนกับผม หน้าตาสวยน่ารักประเภท ขาว หมวย สวย เซ็กส์ ทรวดทรงองค์เอวของเธอก็ช่างเต็มไม้เต็มมือ จนจัดได้ว่าเข้า ขั้นนางแบบหนังเอ็กซ์ได้เลยทีเดียว เธอเองก็เคยเป็นอดีตดาวเฟรชชี่มาก่อนเหมือนกับน้องแพรที่ผมเฝ้าฝันถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา หาก แต่สาวสองคนนี้ต่างกันแบบคนละเรื่องเลยทีเดียว หากแพรเป็นเหมือนสาวสวยหวานเรียบร้อยน่าค้นหาล่ะก็ ดาวคนนี้ก็เปรียบเหมือนสาว เปรี้ยวจี๊ดที่พร้อมจะแสดงออกทุกอย่างออกมาอย่างมั่นใจในตัวเอง ข้อเสียคือเธอคนนี้นิยมชมชอบในการแต่งเนื้อแต่งตัวและเครื่อง ประดับราคาแพงมากทีเดียว จนเรียกได้ว่าโคตรฟุ่มเฟือย ทั้ง ๆ ที่บ้านเธอมีฐานะธรรมดาเอามาก ๆ และนั่นก็คือสาเหตหนึ่งที่เธอผละ จากผมไปหาไอ้ชัยที่มีเงินให้เธอผลาญเล่นได้ แม้ว่าจะเป็นสาวใช้เงินเปลืองซะยิ่งกว่าน้ำ แต่เรือนกายสุดเอ็กซ์ของเธอยังคงเร้าอารมณ์ชายหนุ่มได้ดีเสมอมา ทำให้มีหนุ่ม ๆ วนเวียน เข้ามาซื้อของแพง ๆ ให้เธอเพื่อหวังเคลมสวาท แต่จนแล้วจนรอดเท่าที่ผมรู้ ก็ยังไม่มีหนุ่มคนไหนได้แอ้มแม่สาวปลาไหลใส่เสก็ตคนนี้ ซักกะที เพราะถึงเธอจะเป็นสาวใจแตกบ้าวัตถุ แต่เธอก็ไม่ได้เป็นสาวร่าน ที่จะทอดกายให้ชายคนไหนก็ได้ฟาดฟัน และนั่นก็ทำให้ผมยัง คงมองเธอในแง่ดีได้บ้าง แถมยังอดภูมิใจนิดหน่อยด้วย เพราะว่าผมเคยเสพสมกับร่างกายอวบอัดสุดแสนจะเซ็กส์ซี่ของเธอมาแล้วหลาย ต่อหลายครั้ง ทุกซอกมุมของเรือนกายสุดเอ็กซ์นั้น ไม่มีส่วนไหนเลยที่ยังไม่เคยผ่านการเล้าโลมของผม แน่นอนผมยอมรับว่าเธอสวยและ มีเสน่ห์มาก หากเพียงแต่อารมณ์แค้นที่เธอได้ฝากรอยแผลไว้นั้นไม่ใช่จะเลือนหายไปง่าย ๆ วันนั้นที่เธอทิ้งผมไปหาไอ้ชัยเธอมองผม เหมือนกับคนไม่เคยรู้จักกัน เธอบอกว่าผมเป็นคนดีเพียงแต่ไม่รวยพอเท่านั้นเอง เธออยากได้แฟนที่มีรถขับมีเงินให้เธอเยอะ ๆ ซึ่งนั่น เป็นสิ่งที่เธอคิดผิด เธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อผมต้มตุ๋นเงินจากพวกไฮโซมาได้มากแค่ไหน เพียงแต่ผมไม่ใช่พวกที่จะเอาเงินมาใช้อวดสาว ก็เท่านั้นเอง ไอ้โก้บอกผมว่าตอนที่ดาวรู้ความจริงว่าผมมีเงินเหลือใช้ขนาดไหนก็ถึงกับตาลุกวาว และเมื่อเธอโดนไอ้ชัยเฉดหัวทิ้ง เธอก็ สะบัดตูดงอน ๆ กลับมาอยู่กับกลุ่มเพื่อนเพื่อของ้อคืนดีกับผมได้อย่างไม่รู้จักอายแม้แต่น้อยนิด ... ผมไม่รู้เหมือนกันว่าระยะเวลา 2 เดือน ที่เธอระเริงรักกับไอ้ชัย เธอจะโดนมันถลุงซะจนยับเยินแค่ไหนแล้ว บ่อยครั้งที่เธอพยายามมองผมด้วยแววตาหวานซึ้ง แต่เธอไม่รู้หรอกว่า ดาวผู้เป็นที่รักของผมนั้นได้ตายไปใจของผมเรียบร้อยแล้ว เธอคน นี้เป็นดาวอีกคนหนึ่ง คนที่ผมแทบจะไม่รู้จักเลยซักนิดเดียว ... ผมไม่คิดจะญาติดีกับแม่มดใจดำอย่างเธออีกแม้แต่นิดเดียว แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยดาวก็เป็นญาติกับไอ้โก้เพื่อนซี้ผม และท่าทางไอ้โก้หนุ่มตัวดำจะแอบชอบดาวสาวสุดเซ็กส์คนนี้ซะด้วย "นั่นอะไรน่ะต้นกล้าน่าอร่อยนะ ดาวขอล่ะกัน" ดาวมองมาทางเม็ดยาแฝดที่อยู่ในมือของผม แล้วก็คว้าหยิบออกไปเอาเข้าปากเคี้ยวหยับ ๆ อย่างที่ผมไม่ทันจะได้ตั้งตัวซักนิด ผมมองเธอด้วยอาการตกใจ ยาแฝดมหาเสน่ห์ที่ผมอยากจะใช้กับน้องแพร โดนเธอคนนี้คว้าไปกินซะ เฉยเลย "รสชาติปะแล่ม ๆ นะ คาว ๆ กลิ่นมันแปลก ๆ เหมือนอะไรซักอย่างคุ้น ๆ นะ ..." ดาวทำหน้าเบ้เล็กน้อย ท่าทางยาแฝดที่พ่อให้ผมมา จะ รสชาติห่วยแตกสิ้นดี แต่ก็นะคงจะคุ้นอยู่หรอก ก็นั่นน่ะมันทำมาจากน้ำเงี่ยนที่ผมเคยแตกกระฉูดใส่ปากเธอบ่อย ๆ นั่นแหละ ผมเฝ้ามอง ใบหน้าสวยของเธอด้วยใจระทึก อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยาเม็ดบ้า ๆ นี่เป็นของจริงหรือปลอมกันแน่ แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไร เปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว " เฮ้ย ไอ้กล้า จ้องหน้าดาวเหมือนจะกลืนกินแบบนี้ ถ่านไฟเก่าลุกโชนแล้วหรือไงวะ" ไอ้โก้พูดดังขึ้น เมื่อเห็นว่าผมจ้องหน้าดาวอยู่ "เฮ้ย เปล่า ... กูจะกลับแล้ว ... ดาว เรากลับก่อนล่ะ" ผมพูดแก้ตัว พลางหยิบหนังสือบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นยืนอย่างเซ็ง ๆ ในอารมณ์ ไม่เห็น ไอ้ยาบ้านี่จะมีอะไรเลย ความไม่สมหวังในตัวน้องแพรก็ทำร้ายจิตใจพออยู่แล้ว นี่ผมยังกล้ามาคาดหวังกับไอ้ยาบ้า ๆ ที่พ่อของผมให้มาอีก เหรอเนี่ย ผมเดินฉับ ๆ ไปทางที่จอดรถซึ่งไม่ค่อยจะมีผู้คนอยู่ สักพักดาวก็แอบเดินตามมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว "ต้นกล้า ... ดาวขอโทษนะ ถ้าจะทำให้กล้าหายโกรธล่ะก็ ให้ดาวทำอะไรก็ได้ ... ดาวให้ต้นกล้าทำอะไรก็ได้จริง ๆ นะ " เธอร้องเรียกผม พร้อมกับขยับตัวเบียดเข้ามาใกล้จนเนื้อหน้าอกของเธอบดเบียดกับตัวผม กลิ่นหอมจาง ๆ ของน้ำหอมราคาแพงที่เธอชอบใช้ยั่วยวนผู้ชาย โชยกลิ่นไปมาเขย่าประสาทสัมผัสของผมอย่างรุนแรง ความนุ่มนิ่มของเนื้อหน้าอกทำเอาอารมณ์เงี่ยนของผมเริ่มลุกโชนอย่างควบคุมไม่อยู่ ผมรู้ดีว่าดาวหมายความว่ายังไง เพียงแต่รู้สึกแปลกใจในกิริยาอาการของเธอ ผมรู้ว่าเธอยังคงชอบผมอยู่ แต่เธอก็ไม่เคยทำกิริยาอาการยั่ว สวาทถึงเนื้อถึงตัวกับผมขนาดนี้ ส่วนใหญ่จะแค่แกล้งเปิดโน่นเปิดนี่ให้ผมเห็นซะมากกว่า เพิ่งจะเริ่มมีอีกครั้งก็วันนี้แหละ หรือจะเป็นเพราะ ฤทธิ์ของยาแฝดที่เธอเพิ่งกินเข้าไป ? ... ไม่มั้ง เพราะถึงเธอจะไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนแบบนี้ แต่สายตาของเธอที่มองผม ก็พอที่จะ อ่านออกว่าเธอยังคงคาดหวังอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพื่อผม หรือว่าเพื่อหาคนซื้อของให้กันแน่ "ดาว จริง ๆ เราก็พูดเรื่องนี้กันไปหลายครั้งแล้วนะ ... เราไม่มีทางเหมือนเดิมได้หรอก" ผมพูดปฎิเสธเสียงหนักแน่น ความเจ็บปวดรวดร้าว ที่เคยประสบมาทำเอาผมแทบจะเสียผู้เสียคน แล้วเธอจะมาบอกให้ผมลืมมันไปง่าย ๆ นี่นะ ผมผลักตัวเธอออกไปก่อนที่สมองส่วนล่างจะมี อำนาจมากกว่าสมองส่วนบน "ต้นกล้า ลืมดาวได้จริง ๆ เหรอ ... งั้นทำไมต้นกล้าถึงได้ซื้อรถคนนี้ล่ะ คนนี้คือคนที่ดาวเคยบ่นว่าอยากให้ต้นกล้าซื้อมาขับไม่ใช่เหรอ" ดาวชายตามองรถคันหรูที่ผมเพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน และเธอพูดถูก ตอนนั้นผมอยากจะประชดเธอจริง ๆ ที่เธอหนีผมไปเพราะเรื่องเงิน ผมเลยถอยรถคันหรูนี้ออกมากะว่ามันคงจะทำให้เธอรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เธอได้ทำไว้บ้าง "... ใครว่าล่ะ เราอยากได้คันนี้มานานแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับดาวทั้งนั้น" ผมอ้อมแอ้มตอบ แอบหลบสายตาวิบวับเป็นประกายของเธอ "ถ้าต้นกล้าซื้อแบบนี้มาตั้งแต่แรกล่ะก็ ดาวไม่หนีไปหาคนอื่นให้โง่หรอก คนอะไรทั้งหล่อ แข็งแรง แถม ... ยังรวยด้วย" ดาวเดินวนไปมา มองรถคันหรูผมอย่างพินิจพิเคราะห์ เธอพูดหน้าตายแต่คำพูดของเธอน่ะทำเอาผมรู้สึกโกรธอย่างที่สุด สรุปว่า เธอไม่วายเป็นผู้หญิง หน้าเงิน ... ทำไมผมถึงได้หน้ามืดเคยรักเคยชอบผู้หญิงคนนี้ไปได้นะ "... ต้นกล้า ชอบน้องแพรล่ะซิ ดาวเห็นนะ แววตาที่ต้นกล้ามองน้องแพรน่ะ มันเหมือนตอนที่ต้นกล้าเคยมองดาวเมื่อก่อนนี้เลย" ดาวมอง ผมด้วยแววตามีเลศนัย ผมล่ะเกลียดจริง ๆ ที่เธอสอดรู้สอดเห็นเรื่องผมไปได้ซะทุกเรื่อง ความเขินพวยพุ่งออกมาจนผมเถียงอะไรไม่ออก "ใช่จริง ๆ ด้วยซิ ... จะบอกอะไรให้นะ ถ้าทำดีกับดาวล่ะก็ ... ต้นกล้าอาจจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดน้องแพรคนสวยด้วยน้า ..." เธอสรุปทุกอย่าง เอาเองอย่างรวดเร็ว แถมยังพูดอะไรแปลก ๆ ที่ผมรู้สึกสนใจ เธอพูดเหมือนว่าเธอรู้จักกับน้องแพรด้วยงั้นแหละ ถึงจะสามารถช่วยเปิด โอกาสให้ผมได้? "... ขอโทษนะ เราจะไปแล้ว ... " ผมพูดแล้วสะบัดตัวหันหลังกลับแล้วรีบขึ้นรถตะบึงขับออกไปให้ไกลเธอให้มากที่สุดและเร็วที่สุดด้วย อารมณ์ขุ่นเคือง แต่กระนั้นเจ้าสมองท่อนล่างที่ทำงานโดยไม่ยึดถือจากสมองส่วนบน พยายามพองตัวประท้วงการกระทำที่ไม่ยอมให้มัน ได้ระบายน้ำเงี่ยนออกมา ... ผมโกรธเธอจริง ๆ โกรธมากด้วย แต่ก็ไม่วายแอบรู้สึกว่า ผมก็ยังแอบหลงไหลใคร่เสน่ห์ในตัวเธอคนนี้อยู่ ................................................................................. ในบ้านหลังใหญ่ อันเป็นสำนักทรงของพ่อหมอเสน่ห์ยาแฝดชื่อดัง เวลาล่วงเลยไปเกือบ 2 ทุ่มแล้ว แต่ผมยังคงสลัดความว้าวุ่นในใจออก ไปไม่ได้ ภาพน้องแพรโดนไอ้เหี้ยชัยกระทำชำเราผุดขึ้นมาในสมองอย่างไม่อาจควบคุม ความโกรธเกรี้ยวหึงหวงพวยพุ่งออกมาจาก ส่วนลึกของจิตใจเหมือนเพลิงไฟร้อนแรง ผมพยายามปล่อยวางด้วยการนุ่งขาวห่มขาวไปนั่งหน้าหน้าโต๊ะหมู่บูชากลางบ้าน ที่ซึ่งพ่อใช้ใน การทำพิธีแหกตาหาเงินจากลูกค้าเป็นประจำ วันนี้พ่อผมไม่อยู่ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำพิธีเสกเด็กเข้าท้องให้คุณนายไฮโซไฮซ้อที่ ไหนอีกหรือเปล่า ผมลองนั่งสมาธิได้ซักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ตอนแรกสุดนึกว่าเป็นพ่อกลับมาแล้ว แต่กลับมอง เห็นเป็นชายหนุ่มในชุดนักศึกษา 3 คนแทน และหนึ่งในนั้นคือไอ้เหี้ยชัย ... ผมไม่รู้หรอกว่าพวกมันมาที่นี่ทำไม แต่ไม่ใช่มาเพื่อพบผม แน่ เพราะพวกมัน ไม่น่าจะรู้จักบ้านผมซะด้วยซ้ำ ... หรือว่า พวกมันจะมาหาพ่อผม ? พอนึกขึ้นได้ผมก็รีบวิ่งกลับไปนั่งที่อาสนะหน้าโต๊ะ หมู่บูชาที่มีแต่รูปปั้นศิวะลึงค์พร้อมกับหยิบหน้ากากไม้รูปศิวลึงค์ที่พ่อใส่ประจำเวลาทำพิธีขึ้นมาสวมใส่ปิดบังหน้าตา "สวัสดีครับพ่อหมอ" เสียงที่ผมจำได้ว่าเป็นของไอ้อ้วนลูกสมุนของไอ้ชัยร้องทักทายผมที่ใส่หน้ากากปลอมเป็นพ่ออยู่ รูปร่างมันสูงใหญ่ เกือบ 190 เซนเห็นจะได้ เรียกว่าใครไปมีเรื่องกับมันล่ะก็คงจะต้องคิดหนักหน่อย เพื่อน ๆ ที่มหาลัยนิยมเรียกไอ้อ้วนว่าไอ้ยักษ์หรือ ไจแอนท์มากกว่า เพราะความบ้าพลังของมัน แถมดูท่าทางมันจะชื่นชอบกับชื่อนี้ซะด้วยซิ "มาถูกที่ป่าววะ ไอ้อ้วน เงียบ ๆ ไม่เห็นมีคนเลย เห็นบอกว่าเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดชื่อดัง" เสียงไอ้เบี้ยว ชายปากเจ่อผู้ได้รับสมญานามว่า ซูเนโอะปากหมาจอมกะล่อนดังขึ้นตามมา มันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยผ้าและสายสิญจน์สีขาวโยงใยเต็มไปหมด ดูท่าแล้วไอ้เบี้ยวมันไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแนวนี้ซักเท่าไหร่ ไม่เหมือนไอ้อ้วนที่แสดงสีหน้าและท่าทางบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ามันเชื่อและศรัทธา อย่างที่สุด " ไอ้อ้วน มึงแน่ใจนะ ว่าที่นี่น่ะของจริง" เสียงไอ้ชัยหนุ่มเจ้าสำอางค์ หัวหน้าไอ้สองตัวนั่นที่ผมเกลียดแสนเกลียดดังตามมา มันมองมาทางผม อย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยท่าทางเต๊ะจุ๊ยเหมือนปกติ สันดานของมัน แต่มันก็ยังคงไม่รู้อยู่ดีว่าผมเป็นใคร แล้วผมจะเอาไงดีล่ะเนี่ย ผมยังนึกไม่ ออกเลยทำท่านั่งสมาธิไปเหมือนจะไม่สนใจไอ้บ้าสามตัวนี้ " เฮ้ย พวกมึงอย่าลบหลู่ นี่หมอผีสีเหียบ เป็นหมอผีเขมรชื่อดัง หมอผีประจำตระกูลเจ้าสีหนูเลยนะเว้ย แม่กูมาอาศัยไหว้วานให้พ่อหมอเค้า ทำเสน่ห์ ให้พ่อกูอยู่บ้านประจำ" เสียง ไอ้อ้วนดังขึ้นอย่างชื่นชม นี่ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่า พ่อผมใช้ชื่อว่า อะไรหว่า สีเหียบ แถมยังอ้างว่าเป็น หมอผีเขมรซะด้วย ทั้ง ๆ ที่เกิดในสลัมคลองเตยแท้ ๆ "แล้วเป็นไงวะ พ่อมึงน่ะ ยอมอยู่บ้านเรอะ" ไอ้ชัยถามลูกสมุนตัวโตด้วยความอยากรู้อยากเห็น " ใช่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา พ่อกูงี้อยู่ติดบ้าน ไม่ออกไปหาอีหนูที่ไหนนอกบ้านเลยเว้ย สุดยอดมั้ยล่ะ" ไอ้อ้วนพูดต่อ ทำเอาไอ้ชัยตาลุกวาว ผม เดาว่าถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงล่ะก็ คงจะเป็นเพราะพ่อผมสอนท่าดีลีลาเด็ดให้แม่ของไอ้อ้วนเอาไปใช้ยั่วสวาทพ่อมันอย่างช่ำชองซะมากกว่าล่ะมั้ง "พ่อหมอจ๊ะ ผมไอ้อ้วน หลานแม่ปริก ที่มาหาพ่อหมอบ่อย ๆ ไงล่ะจ้ะ" ไอ้อ้วนพูดน้ำเสียงสุภาพที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ เสียงของมันทำเอาผม ขนลุกกราว แทบอยากจะวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำซะเดี๋ยวนั้น ผมอยากจะไล่พวกมันไปให้พ้น ๆ ซะ จะได้ไม่ต้องเปิดเผยตัวเอง แต่ในใจก็อยากรู้ว่า พวกมันจะมาหาพ่อผมทำไมกันแน่ "เออ แล้วพวกมึงมาหากู มีธุระอะไร" ผมแกล้งทำเสียงแหบ ๆ เหมือนคนแก่หลอกพวกมัน "คือว่า ... ลูกพี่ บอกพ่อหมอเค้าไปซิ" ไอ้อ้วนอ้ำอึ้ง โบ้ยบอกไปทางไอ้ชัย " ของจริงหรือเปล่าเนี่ย แค่เรื่องที่พวกเรามาก็ยังไม่รู้เลยว่ามาทำไม" เสียงไอ้เบี้ยวปากแหลมแถมปากหมาพูดขัดจังหวะ ปากหาเรื่องสมชื่อจริง ๆ "ไอ้ปากเบี้ยว ... มึงอย่าปากหมาให้มากนัก วันก่อนมึงต้องรับเคราะห์ปากแตก เพราะความปากหมาของมึงไปยังไม่หลาบจำอีกเรอะ" ผมรู้สึก โกรธนิด ๆ ก็เลยตะเบ็งเสียงดังขู่ใส่มัน ผมรู้มาว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ ไอ้เบี้ยวไปปากหมาใส่นักเลงคนหนึ่งเลยโดนรุมต่อยจนปากแตกเย็บไป หลายเข็ม "... เอ่อ ... พ่อหมอ รู้เรื่องนี้ได้ไง ...." ไอ้เบี้ยวทำหน้าจ๋อย ๆ ท่าทางมันเริ่มเกรง ๆ ผมหน่อย ๆ แล้ว ที่ไปรู้เรื่องของมันเข้า " ส่วนเอ็ง ... ไอ้หนุ่มสำอางค์ มาหากูเรื่องผู้หญิงล่ะซิท่า มึงน่ะทำร้ายผู้หญิงมามากแล้ว ระวังกรรมจะตามทัน" ผมลองเดาสุ่มต่อ ปัญหาสำหรับ ไอ้เวรคนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องสาว ๆ อยู่แล้ว ผมเลยทำเสียงดังขู่ใส่ไอ้ชัยที่เริ่มจะทำหน้าเลื่อมใสขึ้นมาบ้าง "พะ พ่อหมอ รู้ด้วย ..." ไอ้ชัยพูดเสียงสั่นเครือ ท่าทางเริ่มเกรงขามในตัวผมมากขึ้น " เออ กูรู้ แต่กูรู้แค่คร่าว ๆ กูไม่เก่งขนาดรู้รายละเอียด ว่ามึงทำอะไรกับใครท่าไหน ดังนั้นถ้ามึงอยากให้กูช่วย ก็จงบอกมาให้ละเอียด" ผมขู่ ต่อจนไอ้สามตัวนั่นเริ่มตัวสั่นน้อย ๆ พวกมันคงเริ่มหลงไปกับความขลังของสถานที่แล้ว และแล้วไอ้ชัยก็เริ่มปริปากบอก มันบอกผมว่ามันพบ รัก กับสาวสวยคนหนึ่ง แต่เธอไม่เล่นด้วยเท่าไหร่นัก แม้จะได้ชื่อว่าแฟน คอยตามรับส่งไปโน่นไปนี่ แต่มันก็ไม่เคยได้ล่วงเกินอะไรคุณหนูคนนี้ เลย เพราะคุณหนูสุดสวยที่ท่าทางดูเป็นสาวสมัยใหม่นี้ กลับหวงเนื้อหวงตัวอย่างที่สุด และเธอไม่มีทีท่าว่าจะรักมันตอบด้วย แต่ที่ยังคบกันฉันท์ แฟนก็เพราะว่าครอบครัวของทั้งสองคนสนิทกัน และอยากให้มันและน้องแพรเกี่ยวดองกัน เท่าที่มันเล่าน้องแพรยอมให้มันทำมากที่สุดก็แค่จับ มือเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียวที่เธอจะยอม ... ผมฟังแล้วรู้สึกเบิกบานใจอย่างที่สุด อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อก่อนหน้านี้หาย ไปจนหมดสิ้น น้องแพรคนสวยของผมยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องรอให้ผมเป็นคนเปิดซิงอย่างแน่แท้ "ผมหลงไหลเธอแทบบ้าอยู่แล้ว ผมเลยมาหาพ่อหมอ อยากจะขอยาเสน่ห์ยาแฝด ไปใช้กับผู้หญิงคนนี้น่ะครับ" ไอ้ชัยพูดออกมาพลางทำหน้าเขิน ๆ ".... อืมม ... กูเห็นแล้ว สาวสวยราวกับนางฟ้าคนนี้ล่ะซิ .... ชื่ออะไรนะ ... แพร ใช่มั้ย" ผมแสร้งหลับตาเหมือนเข้าสมาธิแกล้งทำเล่นไปตามบท หมอผีผู้รอบรู้ แต่ในใจร้องด่าไอ้เหี้ยชัยไปแล้วไม่รู้กี่ร้อยรอบ นี่มึงคิดจะวางยาเสน่ห์น้องแพรงั้นเรอะ ไอ้เหี้ย ไอ้เลว ... แต่ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน .... ผมนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ... น่าสนใจ ... น่าลองดูเหมือนกันแฮะ " พ่อหมอรู้ด้วย !!! ของจริง ๆ แน่ ๆ งั้นได้โปรดช่วยผมด้วยนะครับ ผมจะให้พ่อหมอ 1 ล้านทันทีถ้าทุกอย่างสำเร็จ" ไอ้ชัยรุกต่อ มันเห็นเงินยัง กับเป็นเศษกระดาษ เงินล้านนึงมันเอาใช้กับเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้ได้แบบไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย แต่เสียใจผมไม่สนใจเงินนั่นหรอก ก็แค่เงินที่พ่อ ผมให้เป็นค่าขนมน่ะ มันก็เหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว "... กูเห็นแก่แม่ไอ้อ้วนฉุนี่ล่ะกัน กูจะยอมช่วย แต่ให้ยาแค่เม็ดเดียวเท่านั้น เอาไปให้นังนั่นกิน แล้วมันจะรักจะหลงมึงไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่" ผมแกล้งทำท่าลังเลแต่ยอมให้เหมือนกับคนเห็นแก่เงินหน่อย ๆ แต่เปล่าหรอก ผมสนใจในตัวน้องแพรต่างหาก และผมก็มียาแฝดที่เก็บ ไว้ในห้องนอน ถึงจะไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่ามันจะใช้ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็มีคนที่พอจะเอาไปให้น้องแพรกินได้ไปให้ลองแล้ว หึ หึ "ขอบคุณครับพ่อหมอเสียบหี เอ้ย สีเหียบ ชื่อยากจัง" เสียงไอ้ชัยเริงร่าดีใจอย่างที่สุด "แต่เดี๋ยวก่อน กูต้องขอตัวประกอบตัวยาที่สำคัญตัวหนึ่งก่อน นั่นก็คือน้ำว่าวของมึง และต้องเป็นน้ำว่าวที่มึงคิดถึงแต่ผู้หญิงคนนั้น ไม่งั้นไม่ขลัง" ผมแกล้งทำให้เรื่องหลอกลวงดูน่าเชื่อถือขึ้น และสร้างทางรอดให้พ่อผมไม่เสียชื่อหน่อยนึงด้วย ไอ้ชัยก็ดูจะเชื่อฟังดี มันเดินไปเข้าห้องน้ำหาย ไปราว ๆ 15 นาที ก็ถือขันใส่น้ำว่าวของมันออกมา ผมรับมาแล้วพาไปโยนทิ้งหลังบ้าน ก่อนเดินไปด้านบนห้องนอน แล้วหยิบเม็ดยาสีขาวกลม หม่นออกมา 1 เม็ด จากที่เหลืออยู่เพียง 2 เม็ด แล้วพาไปให้พวกหื่นกามที่อยู่ด้านล่าง " เอาล่ะ เสร็จแล้ว ยาแฝด มหาเสน่ห์ ... จำไว้ ยาจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นว่าเมื่อกี้มึงคิดถึงแต่สาวคนนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ฤทธิ์ยาจะลดลงไป" ผมยื่น ยาเม็ดลูกกลอนสีชาวให้ไอ้ชัย ที่ยื่นมืออันสั่นเทาออกมารับเอาไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับเป็นของล้ำค่า "เอ่อ ... พ่อหมอครับ ... งั้นผมขอลองใหม่ได้มั้ยครับ คือเมื่อกี้นี้ ผมเปิดหนังโป๊ในมือถือ แล้วช่วยตัวเอง ..." ไอ้ชัยพูดน้ำเสียงไม่มั่นใจ "ไอ้พวกโลภมาก ได้คืบจะเอาศอก กูมีให้พวกมึงเม็ดเดียวเท่านั้น มึงคิดถึงใครก็ ก็เอาไปให้คนนั้นแดกซิวะ" ผมทำเสียงขู่ฟอด ๆ จนไอ้ชัย ทำหน้าถอดสี มันรีบเอายาแฝดยัดเก็บใส่กระเป๋าเสื้ออย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าจะโดนแย่งชิงไป "งั้น ขอพวกผมคนละเม็ดด้วยได้มั้ยครับ ... นะครับพ่อหมอ" ไอ้เบี้ยวพูดขอมีส่วนร่วมด้วย ในขณะที่ไอ้อ้วนก็ยื่นมือเหมือนผีขอส่วนบุญด้วยคน "กูมีให้เม็ดเดียว ถ้าพวกมึงจะเอา ก็เอาเม็ดนั้นคืนมา แล้วกูจะทำให้พวกมึงใหม่" ผมทำเสียงดุ ๆ ใส่อีก "... ไอ้อ้วน .. มึงไม่ต้องห่วง ไว้กูเบื่อน้องแพรคุณหนูสุดสวยเมื่อไหร่ ก็จะยกให้พวกมึงสองคน เหมือนกับอีดาวน่ะแหละ" ไอ้ชัยพูดหน้าตา เฉยแต่แววตาของมันจริงแท้แน่นอน ไอ้พวกเหี้ยสองคนนั้นนั้นก็ยิ้มดีใจกันใหญ่ ที่จะได้ฟาดของสูง เลือดของผมเดือดปุด ๆ ไหนจะเรื่อง ดาว ไอ้พวกนี้ยังคิดจะทำเรื่องเลว ๆ ใส่น้องแพรอีกคนเรอะ หากว่าตอนนี้ไม่มีหน้ากากสวมทับไว้ล่ะก็ พวกมันคงเห็นใบหน้าแดงกล่ำของคนที่ กำลังโกรธจัดไปแล้ว "พวกมึงจะไปไหนก็ไป กูรำคาญแล้ว ไปให้พ้นโว้ย ..." ผมตะคอกเสียงดังสนั่นด้วยความโกรธ จนไอ้พวกเวรสามตัวนั้นสะดุ้ง พวกมันคงเข้าใจ ว่า ผมโกรธเรื่องที่พวกมันโลภมากกระมัง พวกมันเลยรีบตาลีตาเหลือกลุกขึ้น วิ่งออกไปจากบ้านแล้วก็ซิ่งรถจากไปอย่างรวดเร็ว ... ผมอยากรู้จัง ว่าไอ้ พวกนั้นจะวางแผนให้น้องแพรกินยาเม็ดบ้า ๆ นั่นเข้าไปได้ยังไงกัน แต่ยังไงก็ตามแต่ที่ผมอยากรู้มากกว่าก็คือ น้องแพรจะเป็นยังไง เมื่อ ได้กินยาเสน่ห์ที่ทำมาจากน้ำเงี่ยนของผมเข้าไป เธอจะมาเป็นทาสสวาทให้ผมหรือเปล่า ... แต่ยังไงก็แล้วแต่ แค่ให้น้ำกามของผมได้มีโอกาส เข้าปากของคุณหนูสุดสวยคนนี้เข้าไป ผมก็พอใจแล้ว หึ หึ ................................................................

ทัวร์ยั่วรัก ตอนที่ 4 - สาวอาชีวะ

... น้องนิวเป็นสาวอาชีวะ อายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี หน้าจะออกสวยคมดุเอาเรื่องเล็กน้อย เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสูงยาวขาวดี สูงร้อยเจ็ดสิบกว่า ๆ เกือบเท่าผมเลย ถึงนมจะไม่ใหญ่บึ้บบั้บแบบน้องอาย แต่ก็มีตามมาตรฐานวัยรุ่นทั่วไป เสน่ห์ของเธอคนนี้เป็นคนละแบบกับแฟนผม และน้องอายโดยสิ้นเชิง เธอดุตามสไตล์สาวอาชีวะ เรียกได้ว่าใครพูดไม่เข้าหูเป็นต้องโดนเตะโดนต่อย แต่ถึงจะดุแบบนี้ ผมเห็นเธอทีไร เป็นต้องเกิดอาการจู๋โด่ทุกที ก็อย่างว่าล่ะครับ วัวเคยค้า ม้าเคยขี่ กันมาก่อน จุดเด่นของน้องนิวอยู่ที่หุ่นเพรียว ๆ เอวบาง ๆ แต่ช่วงล่างงี้บึ้บบั้บน่าฟัดที่สุด สะโพกก้นงี้โค้งเว้าน่าขยำมาก ขาก็ขาวเรียวแบบไม่มีใครเหมือน ผมเองยังเคยเผลอคิดจินตนาการตอนเอากับแฟนบ้างในบางครั้ง ว่ากำลังกระแทกประตูหลังน้องนิวอยู่ ยิ่งตอนนี้ได้เห็นเธอเดินออกมาจากห้องกับไอ้เบิร์ธ โดยสวมใส่แค่ชุดว่ายน้ำทูพีซตัวเล็กจ้อย ผมก็ยิ่งอารมณ์เตลิดจนลืมเรื่องแฟนตัวเองไปเสียสนิท "นี่ครับน้องนิว กินน้ำเย็น ๆ ก่อน ... โอ๊ยยย" พอออกมายืนหน้าห้อง ไอ้เบิร์ธก็หันไปหยิบเอาน้ำเปล่ามาให้น้องนิวขวดนึง ซึ่งเมื่อมองจากมุมนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหยิบขวดไหนไปให้น้องเค้า แต่แล้วไอ้เบิร์ธก็ต้องร้องโอ๊ยออกมาดังลั่น เพราะตอนมันกำลังจะแอบฉวยโอกาสโอบเอวน้องนิว เธอก็สะบัดหลังมือพลั่กเข้าไปเต็มหน้าของไอ้เบิร์ธเสียแล้ว มันก็เลยได้แต่ทำหน้าเสีย แต่ก็ยังพยายามจะยื่นน้ำให้น้องนิวดื่ม "ยื่นน้ำให้เฉย ๆ ก็พอ ไม่ต้องฉวยมาโอบเอว นิวไม่ใช่เมียพี่" "แหม น้องนิวก็ พี่เบิร์ธแค่เป็นห่วงน่ะ เอ้าดื่มน้ำหน่อยนะ" "แล้วของพี่ล่ะ?" น้องนิวรับขวดน้ำเอาไว้ แล้วหันไปส่งสายตาดุ ๆ ที่แปลความหมายไม่ออก ไอ้เบิร์ธก็เลยรีบหันไปคว้าเอาน้ำมาขวดนึง แล้วเปิดฝาเทใส่ปากอึก ๆ ซึ่งคงเป็นขวดที่มันคิดว่าปลอดภัย แต่ความจริงที่มันไม่รู้คือ ผมสลับเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้ว ซึ่งจะเป็นอะไรผมก็ไม่อาจจะตรัสรู้ได้เหมือนกัน "นี่ไงของพี่" "งั้นเอาขวดของพี่มาให้นิว แล้วเอาของนิวไป เพราะนิวไม่ไว้ใจพี่" น้องนิวเองก็สมกับที่เป็นสาวอาชีวะ ท่าทางจะพอเก๋าเกมอยู่บ้าง พอเห็นไอ้เบิร์ธกลืนน้ำลงคอไป เธอก็กระชากเอาขวดน้ำที่มันกินไปหน่อยนึงมาถือไว้ แล้วยื่นขวดน้ำในมือของเธอให้ไอ้เบิร์ธไป เจอเข้าไปแบบนี้ มันก็เลยยืนอึ้งอ้าปากค้างไปครู่ใหญ่ ซึ่งความจริงแล้ว ที่น้องนิวทำแบบนี้มันก็ถูกต้องอยู่หรอก คือรอให้อีกฝ่ายกินก่อน แล้วค่อยเอาขวดนั้นมากิน แต่ในกรณีนี้ มันไม่ใช่แบบนั้นนี่ซิ !!! "... เอ่อ จะดีเหรอ คือ ขวดนี้มันเลอะน้ำลายพี่แล้วนะ สกปรกออก" "เลอะน้ำลาย ยังดีกว่าเลอะยาปลุกเซ็กซ์" "เฮ้ย ยา เยอ อะไร ไม่มี๊ น้องนิวคิดมากไปแล้ว พี่เบิร์ธออกจะเป็นคนดี" "คนดีไม่ห่างเหินอ่ะดิ คิดออกมาได้นะแผนสลับขั้วสลับรัก หื่นจนอยากอึ๊บแฟนเพื่อน นึกว่านิวไม่รู้เหรอ แล้วก็อย่าหวังนะ ว่านิวจะเล่นด้วย นิวล่ะเกลียดผู้ชายประเภทนี้ที่สุด คอยดูเหอะ เจอตัวเมื่อไหร่แฟนนิวโดนกระทืบม้ามแตกแน่" "แหม น้องนิวก็ คิดมากเกินไปแล้ว พวกพี่ ๆ ก็แค่อยากจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีแบบนั้นเลยนะ จริงจริ๊งงง" "ถ้าบอกว่านิวคิดมาก พี่ก็กินน้ำให้หมดขวดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นโดนนิวกระทืบแน่!!!" ไอ้เบิร์ธถึงกับหน้าเสีย มันมองขวดน้ำในมือ สลับกับมองหน้าน้องนิวที่รู้ทันไปหมด มันคงกำลังพยายามชั่งใจน่าดู ว่าระหว่างเสี่ยงดวงกินน้ำผสมยาเข้าไป กับโดนสาวห้าวอย่างน้องนิวกระทืบ แบบไหนจะดีกว่ากัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเคยโดนน้องนิวกระทืบมาหรือยัง แต่สุดท้ายมันก็เลือกกินน้ำเข้าไปจนหมดขวด ท่ามกลางเสียงหัวเราะร่วนของน้องนิว เธอรอจนมันกินน้ำเข้าไปจนหมด แล้วค่อยยกขวดน้ำในมือขึ้นมาซดกลืนอึก ๆ เข้าไปราวครึ่งขวด ตอนนี้ผมก็เลยได้แต่แอบมองอย่างงง ๆ สับสันไปหมด เพราะไม่รู้ว่าใครกินอะไรเข้าไปกันแน่ !!! "พี่เบิร์ธแอบใส่ยาอะไร? ยาสลบ? หรือยาปลุกเซ็กส์?" "เฮ้ย!!! ใส่อะไร ไม่มี๊" "ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย เดี๋ยวนิวจะคอยดู ว่าพี่จะออกอาการอะไร ถ้าเป็นยาสลบ นิวจะจับพี่ไปนอนแก้ผ้าตรงชายหาด แต่ถ้าเป็นยาปลุกเซ็กส์ ก็อย่าหวังว่านิวจะยอมให้เอานะ นิวจะจับพี่ไปโยนหน้าบังกะโลของฝรั่งคู่เกย์โน่นแน่ะ" "..." โดนน้องนิวอัดเข้าไปแบบตรง ๆ ตามประสานักเลงสาวสุดห้าวแบบนี้ ไอ้เบิร์ธก็หน้าขาวซีดไปเลย เพราะแผนของมันดูจะผิดพลาดไปหมด เห็นหน้ามัน ผมเองก็เกือบจะหลุดหัวเราะก๊ากออกมาอยู่แล้ว แต่พอนึกได้ว่าตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าใครกินขวดไหนเข้าไป ก็เลยแอบรู้สึกตื่นเต้นเล็ก ๆ อยู่เหมือนกัน ว่าเหตการณ์จะเป็นยังไงต่อ ไอ้เบิร์ธทำท่าขอตัวเข้าไปในห้องพัก แต่น้องนิวทำหน้าดุยืนขวางเอาไว้ มันก็เหมือนจะไม่กล้าทำอะไรมาก ได้แต่เดินกระวนกระวายไปมาอยู่แถวนั้น "พี่เบิร์ธนี่ใจไม่นักเลงเลย ไม่รู้น้องอายหลงไปเป็นแฟนได้ไง อยากฟันหญิงยังต้องอาศัยยา อาศัยแผนการ อยากได้อะไรก็ใจนักเลงหน่อย ขอกันตรง ๆ ลุยกันตรง ๆ ไม่ต้องกลัวเจ็บ ไม่ต้องกลัวพลาด แบบพี่ไม้นั่นไง รายนั้นใจเด็ดน่าดู ขนาดมีโอกาสยังไม่ยอมนอกใจแฟนเลย" อยู่ ๆ น้องนิวก็พูดชมขึ้นมาจนผมงง แต่พอนึกไปก็พอจะนึกเหตการณ์ครั้งแรกที่ผมเจอกับน้องนิวขึ้นมาได้ ตอนนั้นเป็นกลางดึก แถมฝนตกด้วย ผมกำลังวิ่งผ่านทางลัดที่ไม่ค่อยมีคน แล้วบังเอิญไปสะดุดกับก้อนหินก้อนนึงจนล้มหัวทิ่มพื้น ตอนนั้นผมอารมณ์เสียมาก จับเอาหินก้อนนั้นโยนเข้าไปในดงหญ้าคาข้างตัว แต่ดันได้ยินเสียงร้องโอ๊ยออกมาดังลั่น ผมตกใจยืนตัวแข็งทื่อ นึกว่าเป็นเสียงผี ซักพักก็มีเงาแหวกพงหญ้าออกมาสองเงา ตอนนั้นก็มืดมาก ผมไม่รู้อะไรเป็นอะไร มีท่อนไม้ใกล้มือก็หยิบฉวยมาหัดใส่ ได้ยินเสียงร้องโวยวาย เงานึงล้มตึงลงไปกองกับพื้น อีกเงาก็พยายามพุ่งเข้าหาผม ผมก็หลับหูหลับตาหวดไปเรื่อย พอเปิดตามองอีกทีไอ้เงานั่นก็นอนกองอยู่บนพื้นหน้าผมเสียแล้ว รอจนได้สติ ผมค่อยได้รู้ว่าเงาทั้งสองนั่นเป็นเด็กช่าง เพราะเห็นคนนึงใส่เสื้อช่างอยู่ แต่ทำไมพวกมันดันไม่ใส่กางเกงกันก็ไม่รู้ ผมเดินฝ่าพงหญ้าเข้าไปทางที่พวกมันโผล่ออกมา ก็เห็นผู้ชายอีกคนนอนเปลือยหน้าคว่ำนิ่งอยู่บนพื้น โดยมีหินที่ผมขว้างไปกลิ้งอยู่แถวนั้น และจังหวะนั้นก็พอดีมีแสงจากฟ้าผ่าแวบขึ้นมา จนผมเห็นผู้หญิงคนนึงโดนมัดขึงพืดนอนหงายร้องไห้อยู่บนพื้นหญ้า เสื้อผ้าของเธอโดนฉีกขาดกระจุยกระจายเละเทะ เหมือนกับกำลังจะโดนข่มขืนรุมโทรม และผู้หญิงคนนั้นก็คือน้องนิวคนนี้นั่นเอง เหตการณ์หลังจากนั้น ก็คือ เธอปฎิเสธไม่กล้าแจ้งความ ผมเลยทิ้งไอ้สามโจรปล้นสวาทนั่นไว้ตรงนั้น แล้วช่วยประคองพาเธอไปที่หอพักแบบแอบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะลืมฉากเสื้อผ้าพวกมันมาใส่ เลยกลัวคนอื่นเห็น ซึ่งก็ยังดีที่ดึกแล้ว และฝนตกก็เลยไม่มีใครเห็น หรือสนใจมาก หลังจากอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเล่าให้ฟังว่า กำลังจะกลับบ้าน แต่โดนนักเลงคู่อริดักฉุดเข้าไปในพงหญ้า เธอเกือบจะโดนข่มขืนแล้ว แต่ผมขว้างหินเข้าไปช่วยเธอไว้ได้ทันพอดี แถมยังชื่นชมที่ผมอัดกับไอ้พวกนั้นเพื่อช่วยเธออีกต่างหาก ตอนนั้นมองท่าทีเธอแล้ว ผมเชื่อว่าเธอคงแอบหลงผมเข้าแล้ว ก็เล่นนั่งอ่อยห่มแต่ผ้าเช็ดตัวบนขอบเตียงแบบนั้นอยู่นานสองนาน เรียกได้ว่าถ้าผมลงมือล่ะก็ เธอคงต้องยอมเสียสาวให้ผมแน่ ๆ แต่ปัญหาก็คือ คืนนั้นผมนัดแฟนผมไว้ และไม่รู้ว่าเธอจะมาหาเมื่อไหร่ ผมก็เลยได้แต่กล้ำกลืนฝืนความอยาก หาเสื้อผ้าให้เธอใส่ แล้วพาเธอไปส่งที่พัก โดยไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเลยสักนิดเดียว คืนนั้นผมจัดหนักใส่แฟนไปหลายยก เพราะอารมณ์ค้างมาจากนิว เรียกได้ว่าเสียดายสุด ๆ ที่ยอมปล่อยเธอไปแบบไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ใครจะรู้ว่าเช้าวันถัดมาเธอก็วกกลับมาเคาะประตูห้องผมเสียแล้ว ซึ่งยังโชคดีที่วันนั้นแฟนผมออกไปเรียนตั้งแต่เช้าจึงไม่มีเรื่องไม่มีราว น้องนิวเองก็สมกับที่เป็นสาวอาชีวะใจเด็ด เธอพูดกับผมตรง ๆ ว่าขอเป็นแฟนกัน พอผมบอกว่าผมมีแฟนแล้ว เธอก็ทำหน้าเสียอยู่บ้าง แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม บอกว่าจะตามตื๊อจนผมใจอ่อน แถมเธอพูดจริงทำจริงเสียด้วย เธอบังคับให้ผมโทรบอกเธอทุกครั้งที่แฟนผมไม่อยู่ แล้วเธอจะเข้ามาขลุกอยู่ในห้องกับผม ซื้อของกิน ซื้อขนมมาคุยเล่นหัวเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกัน ผมเองก็มีสันดานเจ้าชู้ของผู้ชายอยู่บ้าง แม้จะยังเกรงใจแฟนที่เพิ่งคบกันไม่นาน แต่ก็โทรบอกนิวทุกครั้งที่ปลอดภัย ความสัมพันธ์แบบลับ ๆ ของผมกับนิวดำเนินไปแบบนี้นานหลายวัน โดยที่ผมยังคงไม่กล้าทำอะไรเธอ ทั้งที่เธอก็เปิดทางอ่อยยั่วผมแบบโจ่งแจ้ง บางครั้งเธอก็มานอนหลับในห้องผมแบบนุ่งน้อยห่มน้อยให้เห็นกันแบบเต็มตา บางครั้งก็อาบน้ำนุ่งผ้าห่มผืนเดียวเดินไปเดินมาในห้อง ผมน่ะอยากจับเธอกดจะแย่ แต่กลัวมีปัญหาทีหลัง สุดท้ายความอดทนของผมก็มาขาดผึงจนได้ วันนั้นนิวมาถึงห้องผมก็เปลี่ยนชุดอาชีวะออก แล้วใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงในยั่วจนผมควยโด่ แต่ที่ทำให้ผมตบะแตกจริง ๆ ก็อีตอนที่เธอขยับมานั่งคร่อมผมไว้ เธอทำตัวเป็นฝ่ายรุก บอกรัก และจูบผมเป็นการใหญ่ ทั้งยังถอดเสื้อแอ่นนมบดใส่หน้าผมแบบทุ่มหมดหน้าตัก แต่ผมเองก็ยังเกร็ง ๆ เพราะรักแฟนตัวเองมาก แต่ก็มาหลุดเอาตอนที่น้องนิวกระซิบข้างหูผมว่า เธออยากให้ครั้งแรกกับผู้ชายที่เธอรัก จะไม่ถือว่าเป็นพันธะ ไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น พอได้ยินว่าไม่ต้องรับผิดชอบแค่นั้น สติของผมก็เหมือนสัตว์ร้ายที่ได้หลุดจากกรง ผมระบายความอัดอั้นใส่น้องนิวรุนแรงมาก รุนแรงแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน ทั้งขบทั้งกัดทั้งขยี้ จับเธอโยนขึ้นเตียง โถมทับขย่มกระแทกทำลายความบริสุทธ์ของน้องนิวจนป่นปี้ เธอร่ำร้องไม่ขาดปาก ผมก็ครางอูยสุดเสียวไม่หยุด กว่าไฟรักจะสงบลงได้ก็เกือบเช้า ผมน้ำแตกไปห้าครั้งจนฟ้าเหลืองอ๋อย แต่น้องนิวน่าจะเกินสิบ ที่แย่ก็คือวันนั้นผมขาดเรียนไม่ได้เพราะมีสอบย่อย ก็เลยต้องไปมหาลัยทั้งที่เบลอ ๆ แล้วโกหกแฟนว่าไม่สบาย เมื่อพลั้งเผลอมีครั้งแรก ก็ย่อมต้องมีครั้งต่อไป น้องนิวเริ่มมาหาผมที่ห้องตอนแฟนผมไม่อยู่ถี่ขึ้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ เธอจะเป็นฝ่ายรุกหนักมากขึ้น เรียกได้ว่าถ้าเธอมีอารมณ์ก็จะล้วงจับควยผมรูดแล้วขึ้นขย่มเองเลย และทุกครั้งเธอก็จะบอกตรง ๆ ว่าไม่ต้องคิดมาก เธอเต็มใจทำให้เพราะเธอรัก เธอบอกว่าเธอมีความเป็นลูกผู้ชายรู้ตัวดีว่ามาทีหลัง จะไม่ทำให้ผมกับแฟนลำบากใจเด็ดขาด ความสัมพันธ์ของเราเริ่มแตก เมื่อวันนึงผมกำลังอึ๊บกับน้องนิวอย่างเมามันส์ แต่ดันลืมล๊อคประตู แล้วไอ้คมเพื่อนผมก็เปิดประตูผางเข้ามาเห็นฉากเด็ดพอดี ผมกับน้องนิวหันไปมองด้วยความตกใจ แต่ต่างฝ่ายต่างก็ใกล้จะเสร็จเต็มที ก็เลยหยุดไม่อยู่ ต่างฝ่ายต่างยังคงกระแทกเอวใส่กันต่อ ไอ้คมก็รู้งานพอดู มันมองน้องนิวตาลุกวาว แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนดีใจที่ได้กุมความลับของผมเอาไว้ มันถอดกางเกงเดินปรี่เข้ามาบอกให้น้องนิวดูดควยให้ แล้วมันจะไม่บอกเรื่องนี้กับแฟนผม น้องนิวหันมามองผมด้วยความลังเล แล้วก็หันไปคว้าเอาควยไอ้คมเข้าปากดูดจ๊วบ ๆ ผมทั้งหึงทั้งเสียดาย แต่ตื่นเต้นเสียมากกว่า ก็เลยยิ่งกระแทกเอวแรงกว่าเดิม จนน้ำแตกพร้อมกับน้องนิว แล้วไอ้คมก็น้ำแตกคาปากน้องนิวติด ๆ กัน หลังจากวันนั้น ไอ้คมก็พยายามตามจีบน้องนิว ท่าทางมันจะถูกใจความเป็นนักเลงของน้องนิวมาก จนสุดท้ายมันทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ จีบน้องนิวได้สำเร็จ จากนั้นผมกับน้องนิวก็ห่างกันเกือบปี จนวันนี้มาได้พบกันอีกครั้ง ..............................................

ทัวร์ยั่วรัก ตอนที่ 3 - สวีท

... "อ้าว ลุง มายืนทำอะไรกัน?" ผมถามแบบงง ๆ เพราะพอเปิดประตูห้องน้ำปุ๊บ สองตาลุงที่นั่งใกล้กันก็เซถลาเข้ามาในห้องน้ำ ท่าทางเหมือนจะกำลังแอบยืนแนบหูฟังเสียงผมเล่นเซ็กส์กับน้องอายในห้องน้ำเสียเพลินเลย "อะแฮ่ม ... ไม่มีอะไรร๊อก ลุงก็แค่มาฟังด้วยความเป็นห่วง เห็นเล่นกันแรง กระแทกปั้ง ๆ ประตูแทบพัง แถมนังหนูก็ร้องออกมาซะดังลั่นอีก" "เอ้อ ใช่ ข้าก็กลัวเอ็งจะทำประตูเค้าพัง เลยมาช่วยยันเอาไว้ให้" สองตาลุงส่งเสียงกระแอมพูดแถแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่ผมก็ยิ้ม ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แอบตื่นเต้นเสียดายด้วยซ้ำ เพราะถ้ารู้ว่ามีคนมาแอบฟังอยู่ คงจะทำอะไรตื่นเต้นกว่านี้อีกสักหน่อย ดีไม่ดีกะว่าจะแง้มประตูห้องน้ำโชว์เสียเลย "อู้ววว แล้วนังหนูทำไมเสื้อหดเหลือตัวแค่นั้นล่ะนั่น ยกทรงก็ไม่ใส่ เห็นจุกนมแล้วนั่น !!!" พอผมประคองน้องอายออกมาจากห้องน้ำ สองตาลุงก็อุทานขึ้นมาเสียงดัง มองน้องอายกันตาลุกวาวเชียว เนื่องจากเสื้อสายเดี่ยวน้องอายขาด ตอนกำลังเด้ากันอยู่ ผมก็เลยจัดการแปรรูปเล็กน้อย จับมัด ๆ พันนมเอาไว้ แปรรูปไปเป็นเหมือนผ้าพันรอบอก แต่ผ้ามันก็สั้นอยู่แล้ว ก็เลยปิดเนื้อหนังอะไรไม่ค่อยได้ แถบผ้าด้านบนก็แค่พอปิดนมไว้ได้ครึ่งเต้าจนเห็นร่องอก แถบผ้าด้านล่างก็สูงเลยหน้าท้องขึ้นมาจนเกือบถึงฐานนม มองไปแล้วเหมือนจะโป๊กว่าใส่ยกทรงเสียอีก แต่ที่เด็ดคือผมยึดยกทรงกับกางเกงในเธอไว้ไม่ยอมให้เธอใส่ ผ้าก็เนื้อบางเฉียบ ก็เลยเห็นเม็ดจุก กับรูปทรงสองเต้าของน้องอายได้แบบเต็มตา แถมผมยังแอบกั๊กไว้ไม่ให้เธอรู้ด้วยว่ามีคราบน้ำว่าวของผมติดหนึบอยู่ตรงแถวจอนผมของเธอหย่อมใหญ่ ทั้งโดนแซวทั้งโดนสองตาลุงหื่นแอบมอง น้องอายเขินจนหน้าแดงก้มหน้างุด เกาะแขนผมกับนมเธออย่างแน่นหนึบ พอพาเธอไปนั่งบนเก้าอี้ สองตาลุงก็เหมือนจะเห็นว่าผมไม่ว่าอะไร ก็เลยพากันมองหนักขึ้น แถมคราวนี้พอใส่ชุดยั่วขนาดนี้ ก็เริ่มมีพวกผู้ชายที่เดินผ่านไปผ่านมา แอบชำเลืองมองน้องอายเป็นระยะด้วย น้องอายพยายามขอเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ไม่ให้เสียอย่าง เพราะกำลังรู้สึกสนุกกับสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน กับน้ำแฟนผมน่ะ ผมไม่กล้าทำแบบนี้หรอก กลัวเธอว่าเอา แต่กับน้องอายที่อายุน้อยกว่า พอเธอไม่ว่า ผมก็ได้คืบเอาศอกไปเรื่อย ... แต่เอ๊ะ จะว่าไป ตอนนี้แฟนผมจะเป็นยังไงบ้าง จะโดนคนอื่นปล้ำเหมือนที่ผมทำกับน้องอายหรือเปล่า? "พี่ไม้ ทำไมเงียบไป แถมไม่ยิ้มด้วย?" "ไม่มีอะไรหรอก ... แค่สงสัยว่า ... ตอนนี้คนอื่นเค้ากำลังทำอะไรกัน?" "อายไม่รู้หรอกค่ะ ... แฟนพี่อาจจะกำลังพลอดรัก เหมือนเราสองคนก็ได้" "..." "หวงพี่น้ำเหรอคะ?" ผมได้แต่เงียบพูดอะไรไม่ออก พอนึกภาพไปว่าแฟนผมกำลังนั่งโอบเอวโอบไหล่ออเซาะกับผู้ชายคนอื่น เหมือนที่ผมกำลังทำกับน้องอายก็เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ทั้งหวง ทั้งหึง ทั้งไม่พอใจ แต่ไม่รู้ทำไม พอนึกภาพว่าแฟนผมที่ค่อนข้างเรียบร้อย ขึ้นขย่มใส่ผู้ชายคนอื่น อีกด้านกลับรู้สึกตื่นเต้น เสียววูบ ๆ จนควยลุกโด่ขึ้นมาอีกรอบ ... นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่? "อุ๊ย!!! ... ของพี่มันผงกหัวขึ้นมาอีกแล้ว" น้องอายก้มมองที่เป้ากางเกงผม แล้วกระซิบส่งเสียงหัวเราะคิกคักยกใหญ่ ผมก็เลยยิ้มให้ หันไปหอมแก้ม ล้วงมืออ้อมหลังไปแอบลูบนมเธอ แล้วก็มารยาอ้อนน้องอายเล็กน้อย "อยากให้น้องอายโม้กควยให้จังเลย" "ไม่ค่ะ อายทำให้จนแตกคาปากไปตั้งสองรอบแล้ว พี่ยังไม่เบื่ออีกเหรอ?" "จะเบื่อได้ไง เก่งขนาดนี้ แฟนพี่ยังสู้ไม่ได้เลย แบบนี้ต่อให้น้องอายโม้กให้วันละร้อยครั้งก็ยังไม่เบื่อ" "แหวะ ใครจะไปทำให้ตั้งร้อยครั้ง เมื่อยปากแย่" "อ่ะ งั้นเหลือสิบครั้งก็ได้" "ฮึ อายไม่ใช่ของซื้อของขายนะคะ มาต่อราคาอะไรแบบนี้ งอนแล้วนะ" "โถ โถ น้องอายสุดที่รักจ๋า อย่าเพิ่งงอนเลยนะ เป็นคนรักกันก็ช่วยกันหน่อยซิ" "... บอกรักอายอีกรอบก่อน" "อีกร้อยรอบก็ได้ พี่รักอาย พี่รักอาย พี่รักอาย ..." ผมแสร้งบอกรักออกมาเสียงดังเล็กน้อย จนสองตาลุงได้ยิน น้องอายเลยหยิกแขนผม แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนหุบแก้มกลมป่องแทบไม่ลง "พี่ไม้บ้า ... ทำให้ก็ได้ แต่ขออายพักอีกหน่อยนะคะ ของพี่ไม้ใหญ่มากเลย อายหุบขาแทบไม่ลงแน่ะ" "งั้น ... ตอนนี้ ... น้องอายใช้มือชักว่าวให้ก่อนได้มั้ย?" ผมหันไปประซิบบอกน้องอาย เธอก็มองซ้ายมองขวาแล้วส่ายหน้า ซึ่งก็สมควรอยู่ เพราะถึงจะมีคนไม่มาก แต่ยังไงนี่มันก็ที่สาธารณะ ผมก็เลยหันไปล้วงเอาผ้าเช็ดตัวออกมาหนึ่งผืน แผ่คลุมตักพวกเราสองคนเอาไว้ เธอมองผมด้วยความสงสัยเล็กน้อย ผมก็เลยจับมือซ้ายของเธอลอดใต้ผ้าเช็ดตัวมาวางบนเป้ากางเกง ส่วนผมเองก็ล้วงมือขวาลอดผ้าเช็ดตัวไปขย้ำหว่างขาเธอเหมือนกัน พออยู่ในท่านี้ ก็ไม่มีใครเห็นของลับของเราสองคนแล้ว แต่น้องอายยังไม่ยอมขยับมือ ผมเลยจัดกรุยทางไปก่อน ทั้งสะกิด ทั้งเขี่ยปาดไปตามร่องจนน้องอายกระตุก เธอพยายามหนีบขากันมือผมไว้ แต่ก็เปล่าประโยชน์ ยังไงก็โดนผมล้วงอยู่ดี สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ แยกขาออกจากกันปล่อยให้ผมเขี่ยติ่งเธอเล่น มือของเธอก็เริ่มลูบคลำเป้ากางเกงผมไปพลางตามระดับอารมณ์ ไม่นานนักก็เริ่มใจกล้าปลดตะขอกางเกง ล้วงมือเข้าไปจับควยผมขึ้นมารูดถอกยุกยิก เทียบกันแล้วตอนเธอโม้กให้ยังเสียวกว่ากันเยอะ ผมเลยทนได้อยู่ แต่น้องอายน่ะโดนเกี่ยวเบ็ดให้จนตัวกระตุก ชิงเสร็จคามือผมไปก่อนแล้วหนึ่งรอบ ผมเลยส่งเสียงอ้อนขอให้เธอใช้ปากให้ น้องอายอิดออดพอเป็นพิธีก็ยักหน้า ผมก็เลยประคองพาเธอเข้าไปห้องน้ำอีกรอบ โดยมีเสียงแซวของสองตาลุงเพื่อนร่วมทางดังตามหลังมา ความคิดในห้องน้ำตอนนั้นของผมมันผิดเพี้ยนพิกลสิ้นดี ทั้งที่กำลังเอากับน้องอาย เด็กมอปลายแสนสวยที่หลงรักผมจนหัวปักหัวปำอยู่ แต่หัวสมองของผมดันมัวแต่คิดเรื่องที่ว่าแฟนตัวเองกำลังจะโดนคนอื่นฟัน แล้วดันมีอารมณ์หื่นตื่นเต้น อยากเห็นอยากมีส่วนร่วมรับชมตอนเธอโดนคนอื่นปลุกปล้ำซะด้วย สุดท้ายผมก็เลยแตกคาปากน้องอายหนึ่งรอบ แล้วเล่นท่าหมาจนแตกในไปอีกรอบ ... แล้วผมก็ได้แต่ครุ่นคิดว่า แบบนี้พอตอนไปถึงเกาะ ผมควรทำอะไรต่อดี? ไปช่วยแฟน ... หรือว่าไปร่วมชม? ...................................................... ตึ๊ง ... ตึ๊ง ... ตึ๊ง ... ผมลืมตาตื่นขึ้นมามองโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงร้อง และสั่นดังครืดครืดบนโต๊ะข้างเตียงด้วยความรำคาญ คิดจะนอนพักต่ออีกสักหน่อยก็ข่มตาหลับไม่ลง จึงได้แต่ค่อย ๆ ดันร่างนุ่มนิ่มของน้องอายที่นอนเปลือยซบอกผมอยู่ลงไปด้านข้าง เธอส่งเสียงร้องอืมเบา ๆ แต่ก็ยังคงหลับสนิท ผมก็เลยแอบฉวยโอกาสลูบคลำนมเด็กสาวมอปลายคนนี้เบา ๆ อีกรอบ ตอนมาถึงเกาะก็ไม่เจอใคร ผมจึงได้แต่ไปเชคอินเข้าห้องตามที่ไอ้เบิร์ทเพื่อนผมมันเขียนบอกไว้ แต่พอนึกว่าแฟนผมกำลังโดนทำอะไรอยู่หรือเปล่า ผมก็งุ่นง่านจนทนไม่ไหว ต้องลากน้องอายไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วเอากันต่อในห้องน้ำ เรียกว่าเธอเพิ่งจะได้นอนพักก็เมื่อชั่วโมงที่แล้วนี้เอง โทรศัพท์ลายคิตตี้สีชมพูสวยของน้องอายส่องแสงแวบวาบ ผมยกขึ้นมาดูแบบมึน ๆ ทำท่าจะกดปิดเครื่อง หรือปิดเสียงอะไรสักอย่าง แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ ... โทรศัพท์ !!! ... ทำไมน้องอายไม่โดนยึดโทรศัพท์มือถือไปอย่างที่เธอบอก? แล้วทำไมมันถึงมาอยู่บนโต๊ะได้? แต่ช่างเหอะ ยังไงก็แล้วแต่ ผมหยิบขึ้นมาทำท่าจะโทรหาแฟนผม แต่เหลือบเห็นข้อความบนโปรแกรมแชทที่น่าสนใจเข้าเสียก่อน อายูมิ: พี่เค้าหื่นอ่ะ ยั่วหน่อยเดียว โดนฉุดเข้าไปปล้ำในห้องน้ำเฉยเลย โดนฉีกเสื้อขาดด้วย ... แต่ ... ฟินดีจัง เสร็จตั้งหลายที ผู้พัน: เล่าให้ฟังเลย อายูมิ: ขี้เกียจพิมพ์อ่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะ ตอนนี้พี่เค้าเข้าห้องน้ำ ผู้พัน: ถึงห้องแล้วใช่มั้ย? ไปไหนต่อ? อายูมิ: ถึงแล้ว แต่พี่เค้าคงไม่ยอมให้ออกไปไหน แค่นี้นะ smile.gif ผู้พัน: อืม ถ้าสะดวกแวะมาหาได้ที่ รีสอร์ทมะพร้าวหอม ห้อง 125 อายูมิ: บายค่ะ ผมอ่านแล้วเหมือนจะเริ่มหายง่วงไปเลย ไม่รู้ว่าน้องอายเอาเรื่องนี้ไปคุยกับใคร อายูมิ น่าจะเป็นชื่อที่น้องอายใช้ แต่อีกคนล่ะ ผู้พัน? เท่าที่นึกออกคนที่เคยเรียกตัวเองว่าผู้พัน ก็มีแต่ไอ้เจ้าเบิร์ทที่อยากเป็นทหารแค่คนเดียว ... หรือว่าจริง ๆ แล้วน้องอายกับไอ้เบิร์ทก็แอบสุมหัววางแผนในครั้งนี้ด้วยกัน? ไวเท่าความคิด ผมรีบกดโทร ซึ่งยังดีที่น้องอายไม่ได้ล๊อคเครื่องไว้ ... แต่จะว่าไปก็แปลก ทำไมเธอถึงไม่ล๊อคเครื่อง แล้วก็ยังตั้งเอาไว้ให้ผมเห็นแบบนี้อีก ... ช่างเหอะ ในเมื่อคิดไม่ออก ผมก็กดโทรหาแฟนผม แต่ไม่มีใครรับ ได้ยินแต่เสียงเรียกดังอยู่นานสองนาน ... ผมลองกดโทรอีกสามครั้ง แต่ทุกอย่างเหมือนเดิม เลยต้องยอมแพ้ ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า แล้วออกไปข้างนอก ทิ้งให้น้องอายนอนหลับพักผ่อนต่อไป โดยมีเป้าหมายตามที่ระบุไว้ในข้อความสนทนา สอบถามคนแถวนั้นเล็กน้อย ผมก็ได้รู้ว่ารีสอร์ทเป้าหมายมันอยู่ติดกับรีสอร์ทที่ผมอยู่นี่เอง ผมเลยเดิน ๆ วิ่ง ๆ แวบเดียวก็ถึง เดินมองหาเบอร์ห้องไม่นาน ก็ดันเหลือบไปเห็นไอ้เบิร์ทเพื่อนตัวแสบยืนอยู่ที่หน้าบังกะโลหลังนึงเสียก่อน จึงไม่ต้องเสียเวลาหามาก ทีแรกผมเดินเข้าไปด้วยความหงุดหงิด กะจะเพ่นกะบาลมันสักที แต่พอใกล้ถึงที่หมาย ผมก็เปลี่ยนใจเดินย่อง ๆ ไปหลบหลังพุ่มไม้ใกล้บังกะโลเพื่อแอบดูเสียก่อน ซึ่งก็ยังดีที่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืด และตรงนี้ก็ไม่มีแสงไฟส่องให้ความสว่าง แอบมองแอบฟังไอ้เบิร์ทเดินฮัมเพลงได้ครู่นึง ก็เห็นมันหยิบเอาขวดน้ำเปล่าจากถังน้ำแข็งขึ้นมาวางเรียงกันสามขวด มันมองซ้ายมองขวาสองสามรอบ แล้วก็ล้วงเอาเข็มฉีดยา กับหลอดยาขึ้นมาสองหลอด มันเอาเข็มฉีดยาดูดน้ำสีใสแล้วแทงทะลุขวดพลาสติคฉีดเข้าไปผสมกับน้ำด้านใน จับเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นก็ทำแบบเดียวกันกับน้ำอีกขวด "อันนึงยาสลบ อันนึงยาปลุกเซ็กส์ เสี่ยงดวงดูก็แล้วกันนะน้อง ว่าจะถูกหวยอันไหน" พูดจบก็จับเอาขวดน้ำทั้งสามขวดวางกลับลงไปในถังน้ำแข็ง แล้วเดินหายเข้าห้องปิดประตู ผมยืนนิ่งไปครู่นึง แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองคิดอะไร รู้ตัวอีกทีก็วิ่งไปหยิบขวดน้ำทั้งสามขวดสลับไปสลับมา แล้ววิ่งกลับมาซ่อนตัวที่เดิมต่อเสียแล้ว รอไม่นานไอ้เบิร์ทก็เดินฮัมเพลงออกมา พร้อมกับหญิงสาวสวยน่ารักรูปร่างสูงเพรียว และนั่นก็คือน้องนิวสาวอาชีวะแฟนของเพื่อนผมอีกคน .........................................................

ทัวร์ยั่วรัก ตอนที่ 2 - รักต้องปล้ำ

... "... พี่ไม้จะทำอะไร?" พออยู่ในห้องน้ำสองต่อสอง น้องอายก็มองผมด้วยดวงตากลมโต ตัวเธอสั่นน้อย ๆ ยกมือขึ้นมากอดปิดหนองโพไซส์ใหญ่เอาไว้ ดูเธอออกจะตื่น ๆ อยู่เหมือนกัน เพราะคงรู้อยู่หรอกว่าจะโดนผมทำอะไร "พี่ไม้ เดี๋ยวอายร้องให้คนช่วยนะ !!!" น้องอายพยายามส่งเสียงห้าม แต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้กำลังหน้ามืด ได้แต่เดินลุกไล่เข้าไปหาจนเธอเดินถอยหลังกรูดไปชนเข้ากับผนัง ห้องน้ำมันก็แคบแค่นั้นจะหลบซ้ายก็ไม่ได้ จะหลบขวาก็ไม่พ้น ผมเดินเข้าไปอีกหน่อยก็จับข้อมือทั้งสองข้างของน้องอายดึงขึ้นชูไว้ด้านบน แล้วเดินเข้าไปประกบเอาลำตัวบดเข้ากับหน้าอกคัพใหญ่ของเธอ เด็กสาวมอปลายจะยังไงก็ยังไม่สูงไม่แข็งแรงเท่าไหร่ เจอผมจับเข้าไปแค่นี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้ว ข้อเสียอย่างเดียวคือเธอสูงแค่คางของผม จะก้มลงจูบก็ยังไม่ค่อยถนัด ก็เลยได้แต่ขยับตัวตามจังหวะส่ายโยกของรถไฟ บดตัวเข้ากับหน้าอก ยกขาขยับเสียดสีกับหว่างขาปลุกอารมณ์เธอไปพลาง ๆ ก่อน "พี่ไม้ เดี๋ยวอายไปฟ้องพี่น้ำแฟนพี่นะ" น้องอายพยายามยกแฟนผมขึ้นมาข่มขู่ แต่ก็สังเกตได้ชัดว่าน้ำเสียงของเธออ่อนยวบลงไปเยอะ เพราะพูดออกมาไม่ดังเท่าตอนแรก เหมือนกลัวว่าจะมีใครได้ยินเข้า แต่ต่อให้เธอตะโกนออกมาก็ใช่ว่าจะมีใครได้ยิน เพราะเสียงรถไฟก็ดังใช่ย่อย ผมจัดการรวบสองมือเธอไว้ด้วยมือซ้ายข้างเดียว แล้วขยับมือขวาลงมาขยำคลึงนมเต้าของเธอเล่น บีบจนเธอเริ่มส่งเสียงครางก็จับชายเสื้อสายเดี่ยวถลกขึ้นไปด้านบน เธอส่งเสียงร้องห้าม พยายามดิ้นขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็ขัดขวางผมไม่สำเร็จ แวบเดียวเสื้อสายเดี่ยวของเธอก็โดนรวบขึ้นไปพับย่นอยู่ตรงข้อมือ พอดีสังเกตเห็นราวผ้าม่านอยู่ตรงนั้น ผมก็เลยนึกพิเรนท์ใช้เสื้อของเธอเองนั่นแหละมัดพันสองมือของเธอเอาไว้กับราวผ้าม่าน น้องอายพยายามดิ้นรนอีกรอบเหมือนจะตื่นตกใจว่าผมทำอะไร แต่ก็ไม่รอดมือผมอยู่ดี แวบเดียวสาวน้อยมอปลายแสนสวยนมโตคนนี้ ก็โดนผมจับมัดขึงพืดชูมือทั้งสองข้างเอาไว้อย่างแน่นหนา "น้องอายนมสวยจัง ใหญ่กว่าของแฟนพี่อีก ขอดูดนมหน่อยนะ?" เสื้อปราการด่านแรกโดนถลกขึ้นไปแล้ว ยกทรงที่เป็นปราการด่านที่สองก็โดนผมกระตุกปึดเดียว ร่วงลงไปกองกับพื้นห้องน้ำ สองเต้าขาวอวบของเธอจึงเด้งดีดผึงออกมาสู่สายตาชาวโลก นมของน้องอายสวยมาก กลมดิก แถมใหญ่ไม่แพ้ใคร ปลายหัวนมก็เป็นสีชมพูระเรื่อตามที่ผมชอบเลย "ไม่เอาอ่ะ อยากดูดก็ไปขอดูดของพี่น้ำซิ เรื่องอะไรมาดูดของเค้าล่ะ" "แต่นมอายสวยน่าดูดกว่านี่นา รู้งี้จีบอายตั้งแต่แรกก็คงดีหรอก ไม่น่าปล่อยให้ถึงมือไอ้เบิร์ทมันหรอก" พอได้ยินผมชมเธอก็ทำท่าเม้มปากน้อย ๆ เหมือนจะแอบดีใจอยู่ในที แต่ก็ยังไม่วายมีจริตพยายามดิ้นรนขัดขืนอยู่บ้างเล็กน้อย ผมไม่รอว่าเธอจะอนุญาตหรือเปล่า ขยับตัวไปนั่งบนฝาชักโครก แล้วดึงเธอมายืนหลังพิงกระจก พอผมนั่งลงความสูงของหน้าก็พอดีกับนมเธอพอดี เรียกได้ว่าหัวนมเกือบจะทิ่มตาเลยทีเดียว มองดูนมเธออีกแวบ ผมก็ยกมือขยำทั้งสองเต้า แล้วซุกหน้าลงไปตรงร่องนม ทั้งบีบ ทั้งเขี่ยสะกิด จูบ ซุกไซร้ อ้าปากงับ ขบกัด เรียกได้ว่าบรรเลงความหื่นใส่เธอเต็มที่เหมือนกับตายอดตายอยากมานาน ทั้งที่เมื่อวานผมก็เพิ่งฟัดนมของแฟนมาหมาด ๆ แต่นาทีนี้ยอมรับเลย ว่านมของน้องอายสาวมอปลายคนนี้ทำให้ผมมีอารมณ์กว่านมแฟนผมหลายเท่า "อ๊อยยย พี่ไม้ ... พี่ ... อืมมมมม .... อูยสสสสส ... อย่า ... พี่ไม้ ... อ๊อยยยย ... อย่ากัด ... ซี้ดดสสสส" น้องอายเองก็ดิ้นพราด ๆ ร้องครางซี้ดซ้าดเสียงกระเส่า บางทีก็กัดเม้มปากสั่นระริก ท่าทางของเธอคงจะเสียวน่าดู และหากที่เธอพูดเกี่ยวกับบทรักของแฟนเธอเป็นจริง ผมว่านี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับความเสียวขนาดนี้ ผมดูดนมให้เธอได้ไม่นาน เธอก็เริ่มส่งเสียงร้องโอดโอย หอบหายใจถี่แรงกว่าเดิม แถมเด้งสะโพกโยกไปมาจนผมประหลาดใจ สักครู่ตัวเธอก็กระตุกเฮือก ๆ หวีดร้องเสียงหลงออกมา ผมถึงได้รู้ว่าเธอชิงน้ำแตกไปแล้วหนึ่งรอบ ทั้งที่ผมแค่ดูดนมให้เธอเท่านั้น "โห ... แค่ดูดนมให้ก็น้ำแตกแล้วเหรอ แล้วถ้าโดนซั่มจะเสียวขนาดไหนเนี่ย" ผมส่งเสียงแซวพลางรูดกระโปรงกับกางเกงในออกจากสะโพกของเธอ น้องอายที่กำลังหน้าแดงก่ำหันมามองค้อนผมหนึ่งที ผมก็เลยอดใจไม่ไหวต้องขยับตัวไปจูบดูดปากกับสาวน้อยน่ารักน่าใคร่คนนี้สักที และแล้วผมก็ได้พบว่าเธอจูบเก่งมากทีเดียว ลิ้นน้อย ๆ ตวัดรัวสู้กับลิ้นของผมได้แบบถึงพริกถึงขิง จนเราสองคนได้แต่จูบกันแบบไม่ยอมปล่อยปากออกเลยสักนิด เธอไม่ยอมแพ้ ผมก็ไม่ยอมปล่อย ต่างฝ่ายต่างรัวลิ้นส่งเสียงหายใจฟืดฟาด สมแล้วที่แฟนน้องอายเคยมาโม้ให้ฟังว่า น้องอายไม่ค่อยยอมให้เด้าเท่าไหร่ แต่ปากของน้องอายนี่ชั้นหนึ่งเลย ให้น้องอายใช้ปากโม้กควยให้อยู่ในรายการถัดไปที่ผมอยากทำทันที แต่ตอนนี้กำลังเงี่ยนจัดจนทนไม่ไหวแล้ว ในท่าที่จูบกันอยู่ ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จับยกสองขาของน้องอายให้พับรัดพันกับบั้นเอวผมไว้ ยกจนสะโพกของเธอขึ้นไปพาดกับขอบหน้าต่างรถไฟ ขยับตัวอีกสองสามทีก็เข้าที จากนั้นผมก็จับควยเดินหน้าเข้าหาร่องของน้องอายอย่างเชื่องช้า "อื้อออออ" น้องอายตัวกระตุกร้องเสียงหลงอยู่ในลำคอ เพราะยังจูบกับผมอยู่ ท่าทางเธอจะเจ็บไม่น้อย เพราะร่องของเธอคับใช่เล่น นี่ขนาดน้ำเยิ้มแฉะขนาดนี้ยังใส่เข้าไปได้อย่างลำบากลำบน กระถอกกระแทกจนน้องอายร้องโอดโอยอยู่ตั้งนานสองนานกว่าที่จะมุดเข้าไปได้จนหมดลำ พอใส่จนสุดเท่านั้นแหละ ร่องน้องอายก็ขมิบตอดหนุบหนับจนผมเกือบน้ำแตก เธอชิงตัวกระตุกเฮือก ๆ เสร็จนำหน้าผมไปอีกรอบ แต่ยังไม่ยอมปล่อยจูบออก "อ๊อยยยย อื๊อออออ อื้มมมมม อื๊ออออ ..." ผมรอให้น้องอายหายเกร็งนิดนึง แล้วค่อยเริ่มขยับโยกเอว เริ่มจากเบา ๆ ช้า ๆ ให้ร่องของเธอปรับตัวบ้าง จากนั้นค่อย ๆ โยกกระเด้าแรงขึ้น พวกเราสองคนก็เริ่มครางในลำคอแข่งกัน เพราะยังคงจูบปากกันอยู่เหมือนเดิม ขบวนรถไฟเริ่มโยกไปโยกมาเล็กน้อย บางจังหวะโยกแรงจนผมเผลอทำควยหลุดพล๊อบออกมา น้องอายเลยต้องลำบากกระดกก้นเข้าหาด้วยความเงี่ยน จังหวะนั้นพอผมใส่กลับเข้าไปแล้วออกแรงกด รถไฟก็โยกเสริมแรง จนผมเผลอกระแทกใส่ดังปั้ก น้องอายก็ตัวกระตุกเฮือกหลับตาปี๋เพราะทั้งเจ็บทั้งเสียว เห็นแล้วก็ยิ่งรู้สึกสนุกกับประสบการณ์ครั้งแรกบนรถไฟอยู่เหมือนกัน ผมซอยไปพักไปอีกครู่ใหญ่ รถก็โยกโคลงเคลงแรงมาก แรงจนผมเซถอยหลังไปสองสามก้าว แต่คราวนี้น้องอายใช้ขารัดเอวผมไว้แน่น ควยก็เลยไม่หลุดออกมา แต่พอผมเซถอยมาอีกก้าว เสื้อสายเดี่ยวที่ผมรัดมัดแขนของน้องอายเอาไว้ ก็ยืดรับน้ำหนักไม่ไหวขาดเสียงดังแคว้ก ผมก็เลยอุ้มแตงน้องอายเซมาชนกับผนังอีกด้านของห้องน้ำในรถไฟดังโครมทีนึง พอมือน้องอายเป็นอิสระ เธอก็โอบแขนมากอดรอบคอผมไว้ แล้วมองผมตาเยิ้มเหมือนใกล้จะเสร็จอีกรอบ ทีแรกผมตั้งใจจะจับซอยในท่าลิงอุ้มแตงแบบนี้แหละ แต่พอลองดูแล้วมันกินแรงน่าดู รถไฟก็โยกไปโยกมา ก็เลยพลิกหมุนตัวให้หลังน้องอายพิงกับผนังแทน แต่จังหวะหมุนไม่ค่อยดี เลยกลายเป็นทำให้หลังน้องอายกระแทกกับประตูห้องน้ำดังโครมอีกทีนึง น้องอายถึงกับร้องครางออกมาเสียงดังเสร็จสมไปอีกรอบ เพราะจังหวะกระแทกนั้นทำให้ควยของผมสอดลึกเข้าไปได้อีกหน่อย เธอคงจะเจ็บพอดูเหมือนกัน แต่น่าจะเสียวมากกว่าก็เลยไม่ได้ว่าอะไร ส่วนผมจังหวะนี้ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว ไม่รอให้เธอหายเกร็งด้วย เร่งเอวกระแทกปั้ก ๆ สุดแรงเท่าที่มี จนประตูห้องน้ำสะเทือนดังกึกกึก จากนั้นอีกไม่ถึงห้านาทีก็กระฉูดน้ำเงี่ยนแตกปรี๊ดเข้าไปในร่องของน้องอาย ผมหยุดนิ่งเพราะเพิ่งน้ำแตก แต่น้องอายน่ะกำลังหอบหายใจฟืดฟาด พร่ำบอกผมว่าอย่าเพิ่งหยุดแล้วเด้งเอวไปมา ทำท่าเหมือนใกล้จะเสร็จอีกรอบ ผมก็เลยจูบปากเธอไปอีกทีเตรียมกระเด้าต่อ แต่รถไฟก็โยกอีกรอบ จนผมอุ้มน้องอายเซไปนั่งอยู่บนฝาโถส้วม น้องเค้าก็เหมือนจะได้จังหวะเหมาะ ยกสะโพกขย่มใส่ผมยิก ๆ ผมก็ได้จังหวะเหมาะเหมือนกัน อยู่ในท่านี้ นมเธออยู่ตรงตำแหน่งหน้าผมพอดี มือผมคว้านม ซุกหน้าดูดหัวนมเธอเล่น กระตุ้นอารมณ์ ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายคุมเกมขย่มใส่ผมเอง ขย่มตอได้ไม่เกินสองนาที น้องอายก็ตัวกระตุกเสร็จไปอีกรอบฟุบหน้าลงบนไหล่ผม เธอเรียกชื่อผมตลอดท่าทางเหมือนจะมีความสุขมาก แต่ตอนนี้ผมกำลังอยากน้ำแตกอีกรอบ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ลองปากของเธอเลยนี่นา "น้องอายจ๋า ใช้ปากโม้กควยให้หน่อยดิ" "... ไม่เอาอ่ะ ของพี่ไม้ใหญ่ขนาดนี้ เมื่อยปากตายเลย" "นะจ๊ะเมียจ๋า โม้กควยให้ผัวหน่อยนะ" "ทำให้ก็ได้ แต่ต้องบอกรักอายก่อน" "พี่ไม้รักอายที่สุดในโลกเลยจ้า นะ นะ" "ก็ได้ค่ะ สำหรับคนที่อายรัก" ผมส่งเสียงออดอ้อนงัดทุกกลเม็ดมาใช้งานจนเธอยอมใจอ่อน ถอนตัวลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นห้องน้ำ แล้วจับเอาควยผมไปใช้มือรูดถอกยิก ๆ จนผมครางอูย พอนึกขึ้นได้ผมก็รีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ น้องอายส่งเสียงอิดออดเหมือนจะไม่ยอม ผมเลยต้องสาบานว่าจะไม่ให้คนอื่นเห็น เธอถึงค่อยยอมอ้าปากอมควยของผมเข้าไปในปาก อื้อฮือ ผมงี้เสียวจนขนลุกร้องครางอูยเลย น้องอายใช้ปากเก่งมาก ๆ ทั้งดูด ทั้งเลีย จนเสียวแล้วเสียวอีก แถมยังมีเงยหน้ามายิ้มเล่นกล้องด้วย เรียกได้ว่าไม่เสียทีที่ไอ้เบิร์ทชมว่าปากชั้นหนึ่งจริง ๆ "อูยสสสส อายจ๋า ดูดควยเก่งจัง โคตรเสียวเลย" "มีเสียวกว่านี้อีกนะคะที่รัก อายยังไม่เคยทำให้ใครนะจะบอกให้ น้องอายยิ้มรับคำชมของผมอย่างภาคภูมิใจ แล้วเธอก็ทำให้ผมเสียวกว่าเดิมอีก เมื่อขยับตัวขึ้นมาเล็กน้อย เอาลำควยผมพาดเข้าไปในร่องนม สองแขนหนีบสองเต้ารัดควยผมไว้ ส่วนปลายควยก็โดนอ้าปากดูด ๆ เลีย ๆ ไม่หยุด แค่นี้ผมก็ครางอูยเสียวไม่หยุดแล้ว แต่เธอยังโยกตัวไปพลางด้วยอีกทาง ทำเอาผมทนไม่ไหวน้ำแตกใส่เต็มหน้าเต็มนมเธอไปอีกครั้ง "ถ้าเป็นแฟนกัน อายจะโม้กให้พี่ทุกวันเลยเอามั้ยล่ะคะ?" "งั้นตอนนี้ขอลองของก่อนนะ" สาวมอปลายแสนสวยหันมายื่นข้อเสนอกับผมด้วยรอยยิ้ม แล้วก็ก้มหน้าลงไปดูดเลียทำความสะอาดให้ผมต่อจนของผมตื่นขึ้นมาอีกรอบ ผมยังไม่คิดสัญญาให้คำตอบเธอ ตอนนี้ผมแค่อยากระบายความใคร่อย่างเดียว ผมเลยจับน้องอายไปยืนโก้งโค้งเอาสองมือยันกับอ่างล่างหน้าเอาไว้ แล้วก็เปิดซิงกระแทกรูก้นเธอจนน้ำแตกไปอีกคนละรอบ แล้วก็เปลี่ยนท่าใหม่อีก สุดท้ายแล้วจำไม่ได้เหมือนกันว่าเราน้ำแตกกันไปกี่รอบ แต่ตอนออกจากห้องน้ำ น้องอายหุบขาลงแทบไม่ได้ ผมเลยต้องเดินแข้งขาสั่นพยุงเธอออกมา ......................................................

ทัวร์ยั่วรัก ตอนที่ 1 - เริ่มเดินทาง

...................................................... "เพิ่งเคยนั่งรถไฟครั้งแรกอายตื่นเต้นจัง แต่จะว่าไป เดินทางแยกสลับคู่กันแบบนี้ มันก็รู้สึกแปลกดีเหมือนกันนะคะ พี่ไม้ว่ามั้ย?" ผมถึงกับสะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อน้องอายละสายตาจากวิวข้างทาง แล้วหันมามองผมอย่างกระทันหันจนตั้งตัวไม่ทัน ผมจึงได้แต่รีบเบือนสายตาออกจากน่องและนมขาว ๆ ของเธอ แต่ดูไปก็เหมือนจะไม่ทันอยู่ดี เพราะผมแอบเห็นน้องอายชะงักทำหน้าเขินเล็กน้อย "อื้ม รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน ไม่รู้ว่าแฟนพี่ไปถึงไหนแล้ว แต่แฟนน้องอายคงอีกนานกว่าจะถึงท่าเรือ" ผมตอบพลางหันหน้าไปมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเพื่อแก้ความเขิน เพราะก่อนหน้านี้ได้แต่นั่งแอบมองดูนมดูหน้าของน้องอายมาตั้งนานสองนาน ก็น้องอายน่ะสวยน่ารักน่าฟันชะมัด แถมยังใส่เสื้อสายเดี่ยว คอเว้า เอวลอย กับกางเกงรัดขาสั้นมายั่วสายตาอีก ถึงเธอจะยังอยู่แค่มอห้า ตัวก็เล็กนิดเดียว สูงแค่ร้อยห้าสิบเซนต์หน่อย ๆ แต่หน้าตางี้น่ารัก ผิวขาว นมโตเกือบเท่าของแฟนผมที่อยู่มหาลัยทั้ังที่ตัวเล็กกว่าเยอะ ขาวอวบอัดน่าฟัดแบบนี้ ถ้าจะเรียกว่าหน้ามัธยมนมมหาลัยก็คงไม่ผิด คิดแล้วก็แอบเสียดายเหมือนกัน ที่ตอนเจอน้องอายผมก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว จึงได้แต่ทำหน้าที่พ่อสื่อให้ไอ้เพื่อนรัก ทั้งที่ตอนนั้นน้องอายก็ดูจะแอบมีใจให้ผมอยู่เหมือนกัน "อายว่าแฟนพี่ไม้น่าจะใกล้ถึงแล้ว เพราะนั่งรถบัสไปกันตั้งแต่เช้า แต่แฟนอายนี่คงอย่างที่พี่บอก ขับรถไปเอง น่ากลัวจะแอบเถลไถลยังไม่ถึงไหน" "เป็นห่วงแฟน กลัวว่าจะแอบแวะโรงแรมข้างทางล่ะซิ?" "พี่ไม้ก็เหอะ ไม่หึงแฟนคนสวยของพี่บ้างเหรอ ระวังเถอะจะโดนปล้ำเอา ฮึ พวกพี่ชาย คิดอะไรกันก็ไม่รู้ ให้แยกคู่กันเดินทาง ทำเป็นอ้างว่าจะได้สนิทสนมกับเพื่อนแฟน แต่อายรู้นะ แต่ละคนน่ะแอบคิดอะไรไม่ดีเอาไว้ทั้งนั้น" ผมหันมาถามแหย่เล่น ก็เห็นน้องอายทำหน้างอแก้มป่องไม่พอใจ แถมยังหันมาแหย่ผมกลับจนผมหน้าเสีย เพราะจะว่าไปผมเองก็เป็นห่วงแฟนผมเหมือนกัน ว่าจะโดนไอ้เพื่อนรักมันทำอะไรหรือเปล่า "ก็เป็นห่วงอยู่เนี่ย แต่พี่ไม่รู้เรื่องด้วยนะ เพิ่งรู้เรื่องเมื่อคืนนี้เอง ไอ้สองคนนั่นมันคิดเองทำเองหมด แถมยังไปหลอกแฟนพี่ ว่าพี่เห็นด้วย แบบไม่ได้มาปรึกษาซักคำ" "แต่พี่ไม้ก็น่าจะปฎิเสธได้นี่คะ ทำไมพี่ไม้ไม่ห้ามแฟนพี่ล่ะ" "จะห้ามยังไงล่ะ เมื่อคืนแฟนพี่นอนหอพักตัวเอง โทรศัพท์มือถือพี่ก็โดนยึดไป โทรสาธารณะก็ติดต่อแฟนพี่ไม่ได้ สงสัยจะโดนยึดไปเหมือนกัน พี่ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงนี่ซิ พอตอนเช้าพวกมันก็ส่งน้องอายพร้อมตั๋วรถไฟมายัดเยียดให้พี่ดูแลถึงหน้าห้องแล้วเนี่ย" ผมบ่นกลับไป เพราะเหตการณ์ก็คือ ผมคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ตื่นมาตอนเช้า แฟนของอายก็พาน้องอายมาส่งที่หน้าห้อง มันยึดโทรศัพท์ผมไป แล้วก็ทิ้งข้อความไว้เล็กน้อยว่า แฟนผมจะไปเกาะเต่าด้วยรถทัวร์กับเพื่อนผมอีกคน ส่วนแฟนน้องอายก็จะขับรถไปกับแฟนของเพื่อนผมอีกคนที่ไปกับแฟนผม และผมก็ต้องเดินทางไปกับน้องอาย ... เอ่อ อ่านที่ตัวเองเขียนแล้วก็งง ๆ เหมือนกัน แต่สรุปก็คือ ผมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน รวมเป็นผู้ชายสามคน แต่ละคนก็มีแฟน และพวกเราก็ออกเดินทางไปที่จุดหมายเดียวกันคือเกาะเต่า แต่ต้องเดินทางแบบสลับคู่ ไม่ได้เดินทางกับแฟนตัวเอง แล้วก็ต้องเดินทางคนละเวลา คนละวิธีการเดินทางด้วย ถ้าให้เดาแผนของไอ้สองคนนั้นก็คือ แต่ละคนจะได้มายุ่งเกี่ยวขัดคอกันไม่ได้นั่นแหละ เพราะมันสองคนเคยพยายามกล่อมตะล่อมผมหลายครั้งแล้วเรื่องสวิงกิ้งสลับคู่มั่วเซ็กส์ ส่วนผมน่ะไม่อยากเล่นด้วยเพราะหวงแฟน แต่ไอ้พวกนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้ มันพยายามกล่อมผมอีกหลายครั้ง ซึ่งผมเองก็เข้าใจพวกมันอยู่บ้าง ว่าพวกมันเคยอกหักจากแฟนผมมาก่อน พวกเราสามคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วตอนมัธยมปลาย ก็ดันมาหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน ก็คือแฟนผมที่เป็นดาวโรงเรียนข้างเคียงนี่แหละ เรื่องความสวยไม่ต้องพูดถึง ผมเห็นครั้งแรกก็เพ้อต้องเก็บไปฝันแล้ว ตอนนั้นพวกเราสามคนพยายามแย่งกันจีบ แต่ผมโชคดีที่จีบเธอติด เราก็เลยคบหากันมาเรื่อยจนตอนนี้ก็เรียนมหาลัยเดียวกันถึงจะคนละคณะก็เหอะ ระดับความสัมพันธ์ของผมกับแฟน เรียกได้ว่าลึกซึ้งถึงเนื้อถึงหนังตามธรรมเนียมวัยรุ่นสมัยใหม่ เธอเสียสาวให้ผมก่อนจบมอหกในคืนวันวาเลนไทน์ จากนั้นเราก็มีอะไรกันเรื่อย ๆ ตามจังหวะและโอกาส เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยังเด็ก และต้องนอนพักที่บ้านตัวเอง จนกระทั่งพวกเราสอบได้มหาลัยเดียวกันที่กรุงเทพนี่แหละ พวกเราค่อยมีโอกาสได้เช่าหอพักใกล้กัน แต่ส่วนใหญ่เธอก็จะมานอนกับผมที่ห้องแทบทุกคืน ผมเองก็ไม่อยากโม้หรอกนะ แต่แฟนผมน่ะ ระดับดาวมหาลัย ทั้งสวยทั้งหุ่นดี แถมเซ็กส์จัดติดใจลีลาผมไม่น้อย ผมกับแฟนก็เลยต้องจัดหนักกันคืนละสามดอกเป็นอย่างน้อยตลอด แรกทีเดียวพวกเราก็มักจะมีอะไรกันในห้องนอนเป็นหลัก แต่พอผ่านไปสักระยะ ผมและเธอก็เหมือนจะแอบคิดตรงกัน ก็เลยพากันไปนอกสถานที่บ้างเป็นครั้งคราว จนกระทั่งหลัง ๆ นี่ ผมเริ่มเห็นแฟนผม แอบเปิดดูหนังโป๊แนวสวิงกิ้งในคอมผมหลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเธออยากลองแบบนั้นบ้างหรือเปล่า ตอนนี้พอผมหันมามองน้องอายที่เงียบเสียงลงไป ผมก็ต้องใจหายวาบ ท่าทางเหมือนผมจะบ่นด้วยเสียงที่เครียดมากเกินไปหน่อย น้องอายก็เลยเงียบทำหน้าสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แถมยังก้มหน้างุดพูดแบบน้อยใจใส่ผมอีกต่างหาก "... ขอโทษนะคะ ที่อายมาเป็นภาระให้พี่" "เฮ้ย เปล่า ๆ พี่ไม่ได้ว่าอย่างงั้น พี่ไม่ได้คิดว่าน้องอายเป็นภาระเลยนะ พี่สาบานให้ฟ้าผ่าหมาตายเลยเอ้า" "แหวะ ไม่เชื่อหรอก คำสาบานก็ไม่จริงใจ ให้ฟ้าผ่าหมาที่ไหนก็ไม่รู้" "เอ๋า ก็พี่กลัวฟ้าผ่าลงมาตอนนี้แล้วน้องอายจะตกใจน่ะซิ" "ฮึ เห็นอายเป็นภาระจริงด้วย แล้วทำไมตอนนั้นไม่ปฎิเสธซะล่ะคะ ยอมรับอายมาเป็นภาระทำไมคะ" "... เอ่อ ก็ ..." เธอชะโงกหันมาทำหน้าบึ้งใส่ ผมจึงได้แต่อ้ำอึ้งตอบกลับไม่ถูก ได้แต่ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะตอนเธอก้มหน้าลงมาแบบนี้ มันทำให้คอเสื้อสายเดี่ยวที่เว้าลึกอยู่แล้ว ยิ่งเปิดเผยอออกจนผมเห็นยกทรงกับนมขาวอวบละลานตาไปหมด ผมก็เลยได้แต่แอบคิดว่าเด็กสาวมอปลายคนนี้นมใหญ่น่าดูดชะมัด น่าดูดกว่าของแฟนผมเสียอีก "... พี่ไม้ลามก !!!" เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ น้องอายถึงจะเริ่มเอะใจรู้ว่าผมแอบมองนมเธออยู่ พอเธอรู้เธอก็รีบยกมือขึ้นมาบังร่องนม แล้วส่งเสียงด่าทอผมอีกยกใหญ่ ส่วนผมน่ะเหรอ ก็ได้แต่นั่งยิ้มกริ่มควยลุกโด่อยู่ตรงนั้น เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เหตผลที่ผมไม่ปฎิเสธไอ้เกลอตัวแสบทั้งสองเมื่อเช้า ก็เพราะตอนนั้นแฟนของน้องอายมาแอบกระซิบข้างหูของผมว่า 'จะบอกอะไรให้นะไอ้ไม้ ตอนแรกน่ะน้องอายไม่ยอมท่าเดียว แต่พอบอกว่าจะให้พี่ไม้พาไปส่งเท่านั้นแหละ เสียงอ่อนเลย สงสัยจะยังแอบรักมึงอยู่ว่ะ กูสัญญา งานนี้มึงจัดหนักได้เต็มที่กูไม่ว่าอะไรเด็ดขาด' ฟังทีแรกผมก็ไม่ได้เชื่ออะไรมากมาย เพราะน้องอายอาจจะเคยแอบชอบผมก็จริง แต่เรื่องมันก็ผ่านไปเกือบปีแล้ว แถมตอนนี้น้องอายยังเป็นแฟนกับเพื่อนผมแบบเปิดเผยแล้วด้วย ... ผมเชื่อแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้นี่แหละ ที่ผมเริ่มไม่แน่ใจ เพราะผมเห็นน้องอายยิ้มเขินหน้าแดง แอบชำเลืองสายตามองตรงเป้ากางเกงของผมบ่อยครั้ง และเมื่อผมมองตามลงไปก็เห็นดุ้นของผมกำลังดันกางเกงออกมาเป็นลำเหมือนกระบอกไฟฉาย ...................................................... บรรยากาศในตู้นอนแอร์กลายเป็นเงียบลงไปกระทันหัน มีแต่เสียงฉึกฉักของรถไฟ น้องอายเอาแต่หันมองไปทางนอกหน้าต่าง แล้วคอยหันชำเลืองมองมาทางผมเป็นระยะ ส่วนผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เลยได้แต่นั่งมองชมนกชมไม้ไปพลาง แล้วก็แอบคอยลอบมองขาขาว ๆ กับนมอวบ ๆ ที่เด้งกระเพื่อมตามแรงสั่นของรถไฟด้วยความหื่น ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่น้องอายก็เหมือนจะยอมปล่อยให้ผมดูตามใจ เพราะไม่ได้หาอะไรมาปิดบังสัดส่วนเลยสักนิด ผลบุญในครั้งนี้ก็เลยกลายเป็นอาหารตาของผมที่นั่งเก้าอี้ด้านตรงข้ามเข้าอย่างจัง แถมยังเผื่อแผ่ไปถึงนกกาอย่างคุณลุงสองคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งด้วย เพราะผมหันไปทีไร ก็เห็นตาลุงสองคนนั้นแอบมองน้องอายด้วยสายตาหื่น ๆ อยู่ทุกที พอเห็นแบบนี้บ่อยเข้าผมก็ยิ่งฟุ้งซ่านน่ะซิครับ ทางหนึ่งก็ตื่นเต้นเป็นห่วงแฟน ไม่รู้ว่าเธอจะโดนไอ้เกลอของผมฟันเอาหรือเปล่า อีกทางหนึ่งก็ตื่นเต้น เพราะอยากฟันน้องอายคืนบ้าง จะได้ไม่เสียเปรียบดุลย์การค้า แต่ผมก็ยังได้แค่คิด ไม่กล้าทำอะไรต่อ ได้แต่ท่องในใจว่า แฟนเพื่อน แฟนเพื่อน สถานการณ์ก็เลยกลายเป็นเงียบไปอีกนาน จนกระทั่งน้องอายเป็นฝ่ายหันมาพูดกับผมแทนนั่นแหละ "ขออายไปนั่งฝั่งพี่ได้ป่าวคะ ตรงนี้แดดส่อง" "อื้อ มาซิ สลับที่กันก็ได้" "แบบนั้นพี่ไม้ก็ร้อนซิคะ ไม่เป็นไรหรอก นั่งสองคนก็ได้ แต่อายขอที่ริมหน้าต่างนะ" ผมทำท่าจะลุกขึ้นแลกที่นั่งกัน เพราะแดดเริ่มออกโดนฝั่งน้องอายเต็ม ๆ แต่น้องอายส่ายหน้าห้ามไว้ แล้วก็มาเบียดผมนั่งทางฝั่งหน้าต่าง แถมยังยกขาพาดกับที่นั่งอีกฝั่งอวดน่องขาว ๆ ให้ผมใจเต้นแรงเล่นอีกต่างหาก หากใครเคยนั่ง ก็คงพอจะรู้นะครับที่นั่งตู้นอนแอร์มันก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย พอนั่งกันสองคนก็เลยต้องเบียดแขนชนแขน ไหล่ชนไหล่ ผมก็เลยได้โอกาสสัมผัสกับแขนนุ่มนิ่มของน้องอายโดยตรงก็วันนี้แหละ แถมพอนั่งใกล้ ๆ ก็ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ แรงกว่าเดิม พอก้มหน้าลงไปหน่อย ก็มองลอดคอเสื้อลงไปเห็นร่องนมกับยกทรง แล้วก็ยังมีขาขาว ๆ ให้ดูเล่นอีก ตอนนี้ผมก็เลยยิ่งหื่นจนฟุ้งซ่าน อยากสัมผัสเนื้อตัวของเด็กสาวมอปลายคนนี้อีกหน่อยเสียแล้ว เห็นน้องอายนั่งนิ่งมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ว่าอะไร ผมก็เลยลองรวบรวมความกล้า ทำเนียนขยับแขนนิดนึง จนข้อศอกไปแตะเฉียดโดนนมของเธอแล้วค้างไว้อย่างงั้น น้องอายก็ยังไม่ว่าอะไรอีก ผมก็เลยขยับดันข้อศอกกดเข้าไปจนหนองโพไซส์โตน่าดูดของเธอบุ๋มลึกลงไป ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเธอครางออกมาเบา ๆ แต่เธอก็ยังทำหน้านิ่งมองไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม "สวยจังเลยนะ" "อื้อ วิวสวยดี อืมมม" "เปล่า พี่ว่าน้องอายน่ะสวย" "แหวะ ทำเป็นปากหวาน ยังไงอายก็สวยสู้แฟนพี่ไม้ไม่ได้หรอก" "ใครบอกล่ะ ตอนนี้อายสวยสู้แฟนพี่ได้สบาย นี่ถ้าโตอีกหน่อยนะ น่าจะสวยเซ็กส์ซี่กว่าแฟนพี่อีก เป็นดารานางแบบสบาย ๆ" "พี่ไม้รู้ด้วยเหรอ ว่าอายจะไปแคสท์หน้ากล้องเป็นดารา ... แอบเสียดายแล้วอ่ะดิ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ ... อุ๊ยย ... อืมมมมม" "... เรื่องของน้องอายน่ะ พี่รู้หมดแหละ ... ขนาดหน้าอกคัพอะไรพี่ยังรู้เลย" ผมอุทานออกมาเบา ๆ แล้วพยายามโกหกไหลไปตามน้ำ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าน้องอายใกล้จะได้เป็นดาราแล้ว ที่จริงแล้วผมน่ะก็แค่แอบหยอดคำหวานเอาใจ เพราะอยากฉวยโอกาสลวนลามเธอก็แค่นั้นแหละซึ่งมันก็ได้ผลอยู่ โดนผมหยอดไปนิดหน่อย เธอก็หันหน้าไปแอบอมยิ้ม แล้วเอนหลังพิงพนัก เหมือนจะตั้งใจแอ่นหน้าอกให้ผมทำอะไรก็ได้ตามใจ ได้โอกาสงามแบบนี้ ผมก็ดันศอกกด ๆ คลึง ๆ แถว ๆ หัวนมจนเธอเริ่มสะดุ้งเบา ๆ หลายครั้ง สักพักเริ่มหอบหายใจฟืดฟาดออกมา เธอมองผมตาหวานฉ่ำ ท่าทางจะยังแอบรักผมอยู่จริง ๆ นั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวง่ายขนาดนี้ แบบนี้ผมคงต้องจัดหนักเสียหน่อยแล้ว เพราะสวยขนาดนี้ ลองได้ออกทีวี คงต้องดังระเบิดจนผมไม่มีโอกาสฟันเธออีกแน่ ๆ "อายจ๋า ขอจับนมหน่อยได้มั้ย?" ผมก้มหน้าลงไปพูดกระซิบที่ข้างหู แล้วก็ถือโอกาสจูบเธอไปพลาง น้องอายตัวสั่นเล็กน้อย เธอหันมามองผมแล้วก็พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ผมเลยยกมือขวาอ้อมไปด้านหลัง สอดผ่านใต้ซอกแขน แล้วขยำเต้าข้างขวาของเธอจากด้านนอกเสื้อสายเดี่ยว ส่วนมือซ้ายก็ไม่ยอมแพ้ เอื้อมไปขยำเต้าซ้ายอย่างพร้อมเพรียง นมของน้องอายใหญ่แล้วก็เนื้อแน่นดีมาก เรียกว่าบีบมันจนไม่อยากปล่อยมือเลย ผมค่อย ๆ คลึง ค่อย ๆ ขยำ น้องอายก็เริ่มตัวอ่อนระทวย หลับตาพริ้มร้องครางออกมาไม่ขาดปาก ท่าทางเธอเองก็คงจะอยากเต็มที่อยู่เหมือนกัน ผมชะงักเล็ก ๆ ก็อีตอนมองซ้ายมองขวา แล้วหันไปเห็นตาลุงสองคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งกำลังนั่งมองลีลาของผมกันอย่างตั้งอกตั้งใจ แถมยังยกนิ้วโป้งให้เหมือนจะชมผมอีกต่างหาก ผมก็เลยเอาวะ โชว์ของดีให้ชาวบ้านชาวช่องเห็นเสียหน่อยน่าจะตื่นเต้นดี ผมขยับสองมือที่ขยำนมจากด้านนอก ล้วงวูบลงไปใต้เสื้อสายเดี่ยว ถลกยกทรงขึ้นไปด้านบนให้พอหลุดจากเต้า แล้วก็นวดขยำนมน้องอายแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ จนเธอตัวกระตุกเฮือก ๆ พอได้แตะแบบนี้ผมก็เลยเพิ่งรู้ ว่านมเด็กสาวมอปลายร่างเล็กคนนี้ มีดีไม่แพ้ดาวมหาลัยอย่างแฟนผมเลยสักนิด แถมยังเนื้อแน่นเด้งกว่าอีกต่างหาก เห็นแล้วไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเธอโตกว่านี้อีกสักหน่อย จะน่ากินมากขนาดไหน "อืมมมม ... พะ พอแล้ว อืออออ ... พี่ไม้ อายคนอื่น ... เค้า ... อูยยสสส" น้องอายส่งเสียงครางสลับกับเสียงร้องห้าม เพราะแม้จะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าออก แต่หากมองจากคนนอกแล้ว ก็จะเห็นรอยปูดเป็นรูปนิ้วทั้งสิบกำลังขยับยุกยิกพัวพันรอบหัวนมที่ซ่อนอยู่ด้านในเสื้อสายเดี่ยวเนื้อบาง ผมไม่สนใจเสียงห้ามของน้องอาย แถมยังหันไปส่งยิ้มให้สองตาลุงที่กำลังถลึงตามองอยู่อีกต่างหาก จากนั้นก็ค่อย ๆ นวด ค่อย ๆ คลึง ค่อย ๆ ขยี้นมขาวอวบของน้องอายไปเรื่อย ๆ เพื่อปลุกอารมณ์เธออีกหน่อย ผมนวดจนน้องอายเริ่มหอบกระเส่า เธอเริ่มขยับขาไปมาอย่างกระสับกระส่าย ท่าทางเหมือนจะอยากโดนเต็มที ผมก็เลยละมือขวาออกจากนมของเธอ แล้วก็ล้วงวูบลงไปลูบขาขาว ๆ ของเธอเล่น "อูยสสสส ... พี่ไม้ ... ดีจัง ... เสียว ... อือออ อืมมมมม ... แรงอีกนิดนะคะ ... อูยสสส" "แค่นี้ก็เสียวแล้ว แฟนไม่เคยนวดนมให้แบบนี้หรือไง?" น้องอายส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอแลบลิ้นออกมาเลียรอบปาก ทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม ผมก็เลยได้แต่งงไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้เกลอเพื่อนผมถึงไม่เล่นกับนมอวบ ๆ ของน้องอายให้คุ้มค่าเสียหน่อย อุตส่าห์ได้เป็นแฟนกับเด็กสาวมอปลายที่น่าฟันคนนี้ทั้งที แต่ก็พอจะเป็นไปได้ เพราะเท่าที่ได้ยินมาไอ้เกลอของผมคนนี้มันเป็นพวกเสือปืนไวหลั่งเร็วเสียด้วย "แล้วเคยโดนดูดนมบ้างหรือยัง?" "... เคยค่ะ ... อืมมม ... แต่แค่แป๊บเดียว ไม่ทันเสียว ... อูยสสส ... ไม่เสียวเหมือนที่พี่ไม้ทำให้ตอนนี้ ... ซี้ดดสสส" "น้องอายเอากับแฟนบ่อยมั้ย?" ".... อาย ... อืออออ ... อาย ... ซี้ดดดสสส ... อายไม่ค่อยทำบ่อยค่ะ ... อืมมม .. ประมาณเดือนละครั้ง" "แล้วตอนเอากัน น้องอายถึงจุดสุดยอดมั้ย?" "... ไม่ค่ะ ..." "อ้าว แล้วทำยังไงล่ะแบบนี้?" "อืมมมม ... ก็ ... นึกภาพคนที่อายแอบรัก ... อุ๊ยยย อูยสสสส ... แล้วก็ช่วยตัวเอง" ฟังแบบนี้ก็ชัดเลย ไอ้เกลอเพื่อนผมเป็นพวกท่าดีทีเหลวนี่เอง เปลือกนอกหว่านเสน่ห์จีบสาวไปทั่ว แต่พอบทเข้าพระเข้านางดันไม่มีน้ำยา น้องอายก็เลยต้องกลายเป็นสาวเก็บกดอัดอั้นแบบนี้ "ใครล่ะคนที่อายแอบรัก?" ผมถามซ้ำ แต่น้องอายไม่ยอมบอก เธอแค่มองผมตาหวานฉ่ำ ซึ่งผมก็พอรู้แหละว่าเธออยากจะบอกอะไร แต่ถ้าเธอไม่อยากพูดออกมาผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผม เรื่องสำคัญของผมน่ะมันอยู่ร่มผ้าของเธอต่างหาก "อย่าค่ะ พอแค่นี้นะคะพี่ไม้ ... อายไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย อายยอมเฉพาะแฟนของอายคนเดียว" เธอรีบส่งเสียงร้องห้าม ทำหน้าดุ แล้วก็จับมือของผมไว้ไม่ให้สอดมุดลงไปตรงเป้ากางเกง ผมพยายามขืนดันมืออีกหน่อย แต่น้องอายยังคงผลักมือผมออกไม่ยินยอม ผมจึงลองขยำนมของเธอแรงขึ้น เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมคิดจะล้วงลงไปตรงเป้ากางเกงของเธอล่ะก็ เป็นต้องโดนเธอปัดมือทิ้งตลอด "พี่ไม้ ... เรามาคบกันนะคะ ... แล้วอายจะยอมทำตามใจพี่ไม้ทุกอย่างเลย" "เราเป็นแค่กิ๊กกันได้มั้ย? พี่มีแฟนแล้ว อายก็มีแฟนแล้ว" "เป็นกิ๊กกัน อายก็ให้ทำได้แค่นี้แหละค่ะ" "งั้นขอเป็นชู้ก็ได้" "ไม่ได้ค่ะ พี่ไม้ต้องเลิกกับแฟน แล้วมาคบกับอาย อายก็จะเลิกกับแฟนเหมือนกัน" "อาย พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ แฟนพี่ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วเราก็ยังรักกันอยู่ด้วย" ผมพยายามตะล่อมไปเรื่อย เพื่อจะได้ฟันเธอ แต่ที่ยอมไม่ได้คือ เรื่องที่จะให้ผมเลิกกับแฟนคนปัจจุบันนี่แหละ พอเธอเห็นว่าผมไม่ยอมท่าเดียว ก็ทำหน้าบึ้งใส่ ปัดมือผมออกจากตัว รีบจัดเสื้อผ้าแบบลวก ๆ แล้วก็ลุกพรวดเดินไปทางห้องน้ำด้านท้ายขบวนรถไฟ ทีแรกผมได้แต่นั่งนิ่งทำตัวไม่ถูก ได้แต่คิดว่างานนี้คงอดแน่แล้ว แต่พอหันไปมองตาลุงสองคนที่แอบนั่งลุ้นอยู่ ก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่าปล้ำเลยไอ้น้อง ผมเองก็เป็นพวกบ้ายุ แถมยังกำลังหื่นอยู่ด้วย ก็เลยรีบลุกพรวดเดินตามน้องอายไปอย่างเร่งด่วน ทันเวลาพอดี เธอเข้าไปในห้องน้ำแล้ว และกำลังจะปิดประตูห้องน้ำ แต่ผมเอามือดันขวางไว้ได้ทันเสียก่อน เธอหันมามองผมด้วยสายตาสงสัย ระคนกับตื่นเต้นดีใจ เธอคงคิดว่าผมยอมเธอแล้วกระมัง "พี่ไม้เปลี่ยนใจแล้วเหรอคะ?" เธอถามยิ้ม ๆ แต่ผมไม่สนใจจะตอบ ผมอาศัยลูกบ้าและความหื่นมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าไม่มีใคร ก็ผลักประตูเข้าไปอยู่ในห้องน้ำกับน้องอายแบบสองต่อสอง แล้วบิดปิดล๊อคกุญแจ ในหัวตอนนี้มีแต่คำว่า ถ้าไม่ยอม ก็ปล้ำซะ .....................................................

รักยม ตอนที่ 70 - ฝึกปรือ

........................................ แสงไฟในห้องที่โดนเปิดจนสว่างโร่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทำให้บอยสะดุ้งลืมตาตื่นจากฝันหวานขึ้นมา และเมื่อเขาหันไปมอง ก็เห็นแพรนางแบบสาวผิวสีน้ำผึ้งกำลังเดินตาปรือโซซัดโซเซเมาแอ๋เข้ามาในห้องพักอย่างหมดสภาพ ชายหนุ่มส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปช่วยหิ้วปีกประคองนางแบบสาวที่มีสถานะเป็นคู่นอนแบบครั้งคราวขึ้นไปเกลือกกลิ้งบนเบาะนุ่ม ความร้อนแรงของสุราที่ดื่มกินมาไม่น้อย และอารมณ์กลัดมันที่ติดพันมาจากการทำงาน ทำให้นางแบบสาวหุ่นอวบอัดสะลึมสะลือถอดเสื้อสายเดี่ยว และกระโปรงสั้นโยนทิ้งไป เหลือไว้ก็แต่เพียงยกทรงและกางเกงในตัวจิ๋ว แล้วขยับมือทั้งสองข้างมาบีบคลึงหน้าอกและโคกสวาท พร้อมทั้งส่งเสียงครางเรียกชื่อชายหนุ่มที่เธอหลงไหลในรสสวาทที่เขาเคยมอบให้ "อืมมม คุณเอกขา อืมมม เสียวจัง อืมมม" งานของนางแบบสาวดาวรุ่งจะอย่างไรก็เป็นงานที่ไม่พ้นเรื่องเปลืองเนื้อเปลืองตัว การมาบางแสนในครั้งนี้ ตอนกลางวันเธอจะรับงานเป็นพริตตี้งานแข่งรถ ส่วนตอนกลางคืน เธอก็รับงานอวดเนื้อหนังมังสาในผับ ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่ในสถานที่เช่นนั้นย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการโดนชายหื่นแย่งกันสัมผัสเนื้อตัวจนอารมณ์กระเจิงได้ "เหอะ เหอะ ไอ้แพรเอ๊ย เป็นเอามาก" หากเป็นผู้ชายคนอื่น เมื่อเจอเหตการแบบนี้ คงไม่แคล้วต้องถอดเสื้อผ้า แล้วกระโดดขึ้นไปคร่อมขย่มยัดเยียดความเป็นผัวให้นางแบบสาวสวยเสียแล้ว แต่สำหรับบอยนั้นแพรไม่ใช่ของใหม่สดซิงที่ไม่เคยลอง เขาจึงเพียงยิ้มน้อย ๆ แล้วเลือกเดินไปล้างหน้าล้างตาเสียก่อน จากนั้นค่อยกลับออกมาดูนาฬิกา ที่กำลังบอกเวลาตีสองครึ่ง "เวรกรรมจริงกู อุตส่าห์มาถึงบางแสน ก็ดันเอาแต่นอน ตอนนี้ยังที่ให้ไปหม้อสาวมั้ยเนี่ย" บอยส่งเสียงสบถด้วยความเสียดาย เพราะเมื่อเย็นที่ผ่านมาเขาก็เตรียมจะออกไปท่องราตรีหาสาว ๆ ลงท้องตามปกติ แต่กลับเจอเหตการณ์แปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้ไปหลายอย่าง จึงต้องตัดใจกลับมาตั้งหลักใหม่ที่ห้อง แล้วก็เผลอนอนหลับไปจนกระทั่งเพิ่งตื่นเอาตอนนี้ "เอาไงดีหว่า ... ยิ่งกำลังอยาก ๆ อยู่ด้วย ... หรือจะลักหลับไอ้แพรอีกรอบดี อยากนอนยั่วดีนัก" หนุ่มเพลย์บอยพูดพลางนั่งลงบนเตียงขนาบข้างนางแบบสาว มือข้างหนึ่งขยับวูบสอดเข้าไปในยกทรง แล้วบีบขยำหน้าอกคัพใหญ่ด้วยความรุนแรงพอประมาณจนแพรตัวกระตุก ซึ่งความจริงนั้นบอยเองก็กำลังรู้สึกหื่นอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะเพิ่งตื่นจากฝันแสนหวาน ว่าได้ขึ้นเตียงแบบสุขเสียวกับสามสาวสวยพร้อมกัน สาวคนแรกก็คือน้องเมย์เด็กสาวแสนสวย ที่บอยเกือบจะได้ยัดเยียดความเป็นสามีให้ในห้องน้ำปั๊ม สาวคนที่สองคือสาวสวยผิวขาวผุดผ่องชื่อฝ้าย ที่เขาเจอหน้าเพียงครั้งเดียวตอนเฝ้าโรงแรมม่านรูด ส่วนสาวสวยคนที่สามนั้น คือผู้หญิงที่บอยกล้าใช้คำว่าสวยสมบูรณ์แบบเหมือนนางฟ้า เสียดายก็แต่เขาไม่รู้จักชื่อของเธอ เห็นก็แต่คลิปลีลาการยั่วเย้าในโทรศัพท์มือถือของเพื่อนเกลอคนล่าสุด และสาวสวยทั้งสามนางนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงของไอ้เกลอเอก ที่แสนจะน่าอิจฉาคนนั้นนั่นเอง ความหื่นที่เก็บกดค้างคามาจากความฝัน ปลุกเร้าให้เขาขยับร่างขึ้นไปคร่อมบนร่างของนางแบบสาว ยกทรงและกางเกงในสีสวยโดนถลกออกไปอย่างรวดเร็ว เขาจับสองขาขาวเพรียวถ่างออกจนสุด แล้วเดินหน้ายัดเยียดแก่นกายกระแทกซอยเข้าใส่อย่างไม่มียั้ง แต่สาวสวยกลับร้องครางส่งเสียงซี้ดซ้าดเรียกชื่อไอ้เกลอของเขาออกมาทั้งที่ยังหลับไหล บอยได้ยินเต็มหูแต่ก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแต่อย่างใด เพราะในหัวของเขาตอนนี้ก็กำลังจินตนาการว่ากระเด้าใส่นางฟ้าเดินดินแสนสวยบริสุทธ์ที่ไม่รู้จักชื่อคนนั้นเช่นกัน นอกจากนั้นยังฝันหวานไปไกลลิบ ว่าบนเตียงนั้นมีฝ้ายและน้องเมย์นอนฉีกแข้งฉีกขารอคอยให้เขาระบายความใคร่ใส่อยู่ด้วย จินตนาการอันแสนเร้าใจนี้ สร้างความสุขให้กับชายหนุ่มได้อย่างล้นเหลือจนแทบไม่น่าเชื่อ ทั้งที่เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่ก็เร่งเร้าอารมณ์จนบั้นเอวกระแทกใส่ร่างของแพรแบบไม่มียั้ง และเพียงเวลาไม่นานนักเขาก็ตัวเกร็งระเบิดน้ำกามพุ่งปรี๊ดออกไปจนแทบหมดก๊อก ... ชายหนุ่มจึงได้แต่ทิ้งตัวลงไปนอนซบอกของแพรเพื่อพักเหนื่อย และได้แต่คิดในใจว่าเพียงความฝันก็เร้าใจขนาดนี้ หากได้นอนกอดเสพสุขกับบรรดาสาวสวยทั้งสามคนพร้อมกัน จะสุขสุดยอดถึงเพียงไหน ........................................ แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนเกือบถึงตีสาม ผู้คนก็พากันกลับเข้าที่พักกันเกือบหมด บรรยากาศของเลาจ์เครื่องดื่มริมสระว่ายน้ำจึงค่อนข้างเงียบเหงาไร้ผู้คน หลงเหลือก็แต่บอยที่ข่มตานอนไม่หลับ เพราะนอนกินบ้านกินเมืองมาแล้วแทบจะทั้งวัน ขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับรสชาตของฟองเบียร์นุ่มลิ้น และกำลังคิดหาสถานที่เกี้ยวสาวสวยมารองท้องสักคน สายตาของบอยก็เหลือบแลไปเห็นร่างงามเปล่งปลั่งระยิบระยับตาของสาวสวยนางหนึ่งเข้าเสียก่อน สาวผิวขาวหน้าตาดีใส่แว่นคนนั้น นั่งอ้อยอิ่งอยู่ริมสระว่ายน้ำอยู่เพียงลำพัง เธอสวมใส่เสื้อยืดคอเว้าลึกสีขาวเนื้อบาง และกางเกงขาสั้นเต่อถึงโคนขา บอยเพ่งมองร่องอกของเธอแทบไม่กระพริบตา ในใจก็ส่งเสียงร้องอื้อฮือไปกับความสวยน่ารักของหญิงสาวหน้าตาดีคนนั้น แม้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้สวยเลิศเลอแบบนางฟ้าเดินดินคนนั้น หรืออาจเทียบไม่ได้กับน้องเมย์และฝ้าย แต่เธอคนนี้ก็จัดได้ว่าสวยเซ็กส์ซี่น่ากินไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวยันปลายเท้า ... สาวสวย เซ็กส์ซี่ นั่งเหงาเพียงลำพังคนเดียวในยามดึกแบบนี้ ... ขอแค่กล้าลุย โอกาสมีชัยมากกว่าครึ่ง หนุ่มเพลย์บอยย่อมไม่ขลาดเขลาจนไม่กล้ารุกเร้า แต่เขาก็รักษาเชิงไม่เปิดฉากรุกจนทำให้เหยื่อตื่นกลัว บอยจับจ้องมองรอคอยจนกระทั่งเธอคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาทางเขา เขาส่งยิ้มให้พร้อมกับยกแก้วเบียร์เป็นการทักทายหยั่งเชิง และตอนนี้เขาจึงค่อยรู้สึกคุ้นหน้าเธออยู่บ้าง แต่ไม่ทราบว่าเคยพบเห็นที่ไหน สาวแว่นแสนสวยคล้ายจะคุ้นเคยกับการเกี้ยวพาราสีอยู่บ้าง เธอยิ้มและยกแก้วไวน์ในมือขึ้นแทนการทักทายตอบ คล้ายกับจะเปิดทางให้เขาเข้าไปหา แต่ในขณะเดียวกันเธอก็มิได้มองสนใจเขานานเกินไป เหมือนจะบอกว่าเธอพร้อมสนทนา แต่ไม่ใช่ของง่ายให้เขาเคี้ยวเล่น กิริยาของสาวแว่นสุดสวยยิ่งปลุกเร้าความสนใจให้บอยมากกว่าเดิม เขาไม่ชื่นชอบผู้หญิงที่สร้างกำแพงจนหนาเตอะยากเข้าหา และในขณะเดียวกันก็ไม่นิยมผู้หญิงที่ปล่อยตัวปล่อยใจจนเรียกว่าง่าย ดังนั้นเมื่อได้เจอกับกิริยากึ่งยั่วเย้ากึ่งท้าทายจึงทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกระสันอยากลิ้มลองสาวแว่นนางนี้ขึ้นมาทันที "มาเที่ยวเหรอครับ? หรือมาทำงาน?" ชายหนุ่มไม่ยอมพลาดโอกาสทอง เขาจัดเสื้อผ้าหน้าผมพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้โดยมิได้ขออนุญาต พร้อมทั้งฉวยโอกาสเปิดฉากพูดคุยไปพร้อมกัน "... มาเที่ยวกับแฟนค่ะ" เธอหันมาตอบด้วยรอยยิ้มที่ยากคาดเดาความคิด หากแปลความตามประโยคโดยตรง ก็อาจมองได้ว่าเป็นการประกาศตัวว่าเธอมีเจ้าเข้าเจ้าของแล้ว แต่อากัปกิริยาท่าทางที่ไม่มีท่าทีรังเกียจ ทั้งยังมองกลับมาด้วยสายยั่วเย้านั้นกลับทำให้บอยแปลความหมายได้อีกแบบว่า เธอมีเจ้าของแล้ว แต่ก็พร้อมเปิดโอกาสให้เขาอยู่ในที บอยจึงถามหยั่งเชิงไปอีกครั้ง "แฟนหลับไปแล้วเหรอครับ?" "เปล่าค่ะ ... แฟนของนิคกี้ มีธุระสำคัญ ต้องกลับไปกรุงเทพก่อน คืนนี้นิคกี้ก็เลยต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียว" คำตอบของเธอทำให้บอยยิ้มร่าออกมา เพราะการเปิดเผยชื่อตัวเองทั้งยังบอกว่าเหงานั้น ย่อมแปลความได้ว่าเธอกำลังมองหาใครสักคนเพื่อคลายเหงา และเขาเองก็อยู่ในข่ายที่เธอคิดพิจารณาเลือกด้วย "งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนิคกี้ ผมชื่อบอย เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม กำลังเหงาเหมือนกัน งั้นผมขอนั่งเป็นเพื่อนคุยด้วยก็แล้วกันนะครับ" "เหงาจริงเหรอคะ? นิคกี้นึกว่าคุณบอยจะเป็นพวกผู้ชายเจ้าชู้ ฝากรักกับผู้หญิงไปเรื่อยซะอีก" เธอถามพร้อมทั้งก้มโน้มตัวลงมาวางแก้วไวน์บนโต๊ะ คล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ แต่นั่นทำให้เสื้อคอเว้าที่สวมใส่ห้อยตกลงจนบอยแลลอดเข้าไปเห็นสองเต้าขาวอวบเกือบเต็มสองตา ... สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้กำลังตั้งใจยั่วเขาชัด ๆ "ไม่ใช่หรอกครับ คุณนิคกี้เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ใช่พวกผู้ชายเจ้าชู้หรอก ผมน่ะแค่ยังหาตัวจริงไม่เจอ" "คิก คิก งั้นผู้หญิงที่หลับอยู่ในห้อง ก็เป็นตัวสำรองเหรอคะ?" บอยชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อเธอทิ้งท้ายคำถามที่ไม่แน่ใจว่า เธอเพียงคาดเดาไปเรื่อย หรือว่ารู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขา บอยจึงไม่คิดจะพูดโกหกไปแบบตรง ๆ "หมายถึงคนไหนเหรอครับ?" "ท่าทางจะมีจริง ๆ ด้วยซินะคะ นิคกี้ไม่รู้หรอกค่ะว่าคนไหน นิคก็แค่เดาเอา ถึงนิคจะเป็นนางแบบ แต่นิคก็ชอบดูหมอน่ะค่ะ ชอบเดานิสัย เดาบุคลิกคน อย่างคุณบอย ดูหล่อ ๆ มีฐานะสักหน่อย นิสัยก็เหมือนจะใช้ได้ นิคก็เลยเดาว่าไม่น่าจะมานอนคนเดียว ... นิคเดาถูกมั้ยคะ?" เธอหัวเราะตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ซ้ำร้ายยังแกล้งยั่วยวนซ้ำด้วยการสลับไขว้ขาขาว ๆ ตอนที่พูดว่าตัวเธอเองเป็นนางแบบ ให้เขากลืนน้ำลายเล่นไปอีกหนึ่งอึก "คุณนิคดูแม่นนะครับ ผมสารภาพก็ได้ว่า ผมมากับผู้หญิงคนนึงจริง ๆ แต่ว่านั่นยังไม่ใช่ตัวจริงของผมครับ" "แล้วตัวจริงของคุณบอย ต้องเป็นยังไงเหรอคะ?" "ก็แบบ ... ผู้หญิงผิวขาว ขี้เล่น ใส่แว่น เซ็กส์ซี่ ... แบบคุณนิคกี้นี่ผมว่าเข้าข่ายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย" บอยมองเธอด้วยดวงตาลุกวาว และตอบแบบเอาอกเอาใจตามแบบฉบับของหนุ่มเพลย์บอยโดยเน้นรุกคืบในทุกคำพูด แต่สาวแว่นแสนสวยกลับพูดตอบกลับมาแบบตรงไปตรงมาเกินเหต จนเขารู้สึกกระดากอยู่บ้าง "คิก คิก ผู้ชายร้อยทั้งร้อย พูดแบบนี้เพราะอยากหลอกฟันผู้หญิงทั้งนั้นแหละ ... คุณบอยก็เหมือนกันหรือเปล่าคะ?" "อะแฮ่ม ... เอ่อ ... อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ เรียกว่าพูดคุยเพื่อสร้างความสนิทสนมดีกว่า" "อืม เรียกแบบนั้นมันฟังดูดีกว่าซินะ ... งั้น ... นิคขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ ... ถ้าคุณบอยตอบถูกใจ ... คืนนี้ทั้งคืนนิคจะยอมตามใจคุณบอยทุกอย่างเลย" นิคกี้พูดพลางทำหน้าตาออดอ้อน มือข้างหนึ่งของเธอขยับวูบไปแปะบนลำคอขาวผ่องของตัวเอง แล้วก็ลากวูบลงไปเบื้องล่างอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วลากผ่านร่องอก ผ่านหน้าท้อง แล้วไปจบลงที่โคนขาอ่อน และนั่นก็ทำเอาบอยต้องกลืนน้ำลายลงคออีกหนึ่งอึก แล้วส่งเสียงถามด้วยลำคออันแห้งผาก "งั้นถามมาเลยครับ" "งั้นถามนะคะ ... นิคกี้เคยคบกับผู้ชายมาหลายคน แต่นิคกี้ยังไม่เคยเจอใครที่จะมอบความสาวให้ ... แต่แล้ววันหนึ่งนิคกี้ก็เจอผู้ชายที่นิคกี้ถูกใจ และอยากมอบความสาวให้เขา ... เมื่อคืนวานนิคกี้ตั้งใจจะมอบความสาวให้ผู้ชายคนนั้นด้วยหัวใจระทึก ... แต่แล้ว ... กลับมีผู้ชายอีกคนมาชุบมือเปิบ ข่มขืนขยี้ครั้งแรกของนิคกี้จนพังยับเยิน ... คุณบอยคิดว่า นิคกี้ ควรจะแก้แค้นผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาสคนนี้ยังไงดีคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น ดวงตาของเธอเหมือนจะแฝงแววแห่งความโกรธเกรี้ยวมากกว่าเดิม จนบอยเริ่มอึดอัดไม่แน่ใจว่าควรตอบอย่างไร เขาเพียงมั่นใจว่าเธอน่าจะพูดความจริง และนั่นก็หมายความว่าสาวแว่นแสนสวยคนนี้เพิ่งผ่านประสบการณ์เสียสาวมาเมื่อคืนวานแบบสด ๆ ร้อน ๆ ดังนั้นเขาจึงเน้นตอบแบบเอาใจเป็นหลัก ทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ "ผู้ชายแบบนี้เลวมากครับ ต้องจับมาสับเป็นพันชิ้น แล้วโยนให้เป็ดกิน ... แต่ยังไงถ้านิคกี้จะให้โอกาส ผมยินดีจะช่วยเยียวยาแผลใจครั้งนี้นะครับ" "สับเป็นพันชิ้น ... คิก คิก น่าสนใจนะคะ ... ตอบถูกใจส่วนนึง แต่ไม่ทั้งหมด ... งั้นเอาแบบนี้นะคะ ... เรามาเล่นไล่จับกันดีกว่า" "ไล่จับ?" "ใช่ค่ะ ตอนเด็ก ๆ นิคชอบเล่นไล่จับกับเพื่อน นิคจะวิ่งหนีก่อน แล้วให้เพื่อนไล่ตาม ถ้าเพื่อนไล่ทัน นิคก็จะยอมทำตามที่เพื่อนบอกให้ทำ ... ทุกอย่าง ..." สาวแว่นพูดด้วยน้ำเสียงเซ็กส์ซี่ยั่วยวนจนบอยตื่นกระสัน โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าเธอจะยอมทุกอย่างหากเขาไล่ตามเธอทัน และเมื่อเธอพูดจบก็ก้มหน้าลงมาถอดรองเท้าเหมือนตั้งใจจะให้เขาเห็นร่องอก แล้วเริ่มเดินนวยนาดด้วยฝ่าเท้าอันเปลือยเปล่าไปตามริมสระว่ายน้ำอีกทางหนึ่ง "มาซิคะ" เธอส่งเสียงเชื้อเชิญออกมาคำหนึ่งเมื่อเดินออกไปได้ระยะพอประมาณ บอยจึงฉีกยิ้มกว้าง ด้วยความตื่นเต้นเร้าใจไปกับเกมใหม่ ที่เขาอยากตั้งชื่อว่า ถ้าหนีไม่ทัน ฉันจะฟันเธอ เขาเริ่มด้วยการเดินอย่างรักษามาด ไม่กระโตกกระตาก ไม่พยายามแสดงท่าทีหื่นกามมากเกินไป แต่เมื่อเธอเริ่มเร่งความเร็วจากเดินเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนทิ้งระยะห่างออกไป บอยก็อดไม่ได้ต้องเริ่งฝีเท้าเร็วขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าร่างของเธอทำท่าจะมุดหายเข้าไปในพุ่มไม้หนาทึบหลังตึก เขาก็ซอยเท้าเร่งความเร็วโผกระโจนตามร่างอ้อนแอ้นเข้าไปในนั้น บอยฉีกยิ้มด้วยความมั่นใจว่าเธอต้องเสร็จเขาแน่ เพราะโรงแรมแห่งนี้เขามาพักแล้วนับสิบครั้ง และจำได้เป็นอย่างดีที่ทิศทางที่เธอวิ่งนำไปนั้นเป็นทางตันไม่มีทางออก แต่แล้วเมื่อกระโจนพุ่งผ่านทะลุพุ่มไม้หนาทึบออกไปได้ บอยก็รู้สึกได้ว่าร่างตัวเองกำลังลอยคว้าง ไม่มีที่เหยียบเท้า "เฮ้ยยยยยย !!!" ชายหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อร่างของเขากำลังร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง แต่ยังดีที่เพียงแวบเดียว ร่างของเขาก็ร่วงลงไปกระแทกเข้ากับพื้นน้ำเสียงดังตูมสนั่น ระยะเหมือนจะไม่สูงมาก เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มองไปมองมาด้วยความเป็นห่วงว่าสาวแว่นแสนสวยจะร่วงลงมาก่อนเขาหรือเปล่า ก็ไม่พบเจอใครอื่น นอกจากได้รับรู้ว่าเขากำลังอยู่ในบ่อขนาดเล็ก ที่มีน้ำเหม็นเน่าบรมบ่อหนึ่ง "แหวะ โคตรเหม็น ... คุณนิคกี้ เฮ้ คุณตกลงมาหรือเปล่า เป็นยังไงบ้าง?" เขาส่งเสียงตะโกนด้วยความเป็นห่วง จนเสียงนั้นสะท้อนก้องไปก้องมาในบ่ออันเล็กแคบ รอคอยจนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงค่อยได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักสดใสเหมือนพออกพอใจของหญิงสาวสักคน แต่เนื่องจากมีเสียงก้องสะท้อนไปมา เขาจึงไม่แน่ใจนักว่าเป็นเสียงของนิคกี้หรือเปล่า รู้แต่ว่าถัดมาอีกไม่นานนัก ก็เห็นเงาคนโผล่หัวมามองที่ขอบบ่อ แล้วตะโกนส่งเสียงลงมา ท่าทางเหมือนจะเป็นคนเห็นเหตการณ์แถวนี้พอดี "คุณ ... เป็นอะไรหรือเปล่า ... อยู่ ๆ ก็วิ่งคนเดียว แล้วกระโดดลงมาในบ่อของเสียทำไม คุณ เฮ้ เป็นอะไรมั้ย เมาเหล้าหรือเปล่า?" เมื่อได้ยินว่ากำลังอยู่ในบ่อของเสีย บอยจึงค่อยรู้สึกพะอืดพะอมมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าไอ้เจ้าพวกก้อนเละ ๆ เหม็น ๆ ในความมืดพวกนี้คืออะไรกันแน่ ว่าแต่ที่อีกฝ่ายบอกว่าเขาวิ่งคนเดียว มันหมายความว่ายังไง ก็เขาวิ่งตามนิคกี้มาชัด ๆ "มะ ไม่เป็นไร ... เอ่อ ช่วยด้วย ... แล้วช่วยดูด้วยนะครับว่า ผู้หญิงสวย ๆ นมใหญ่ ๆ ใส่เสื้อกล้ามอยู่แถวนั้นหรือเปล่า" "ผู้หญิงอะไรที่ไหนครับ ผมไม่เห็น ผมเป็นบ๋อยที่ซุ้มเบียร์ เห็นคุณไปนั่งริมสระคนเดียว แล้วอยู่ ๆ ก็วิ่งกระโดดเข้าไปในพุ่มไม้ ยังดีนะที่ไม่บาดเจ็บ รอแว้บนะครับ เดี๋ยวผมไปตามพวกมาช่วยก่อน" ถ้อยคำของบริกรคนนั้นคล้ายฟ้าผ่ากลางแจ้ง บอยขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกงุนงงและเย็นเยียบ ทำไมบริกรถึงบอกว่าเห็นเขานั่งคุยคนเดียว แล้ววิ่งคนเดียว ... นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ........................................ ชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวในวงล้อมของหกบุปผางามกัดฟันดังกรอดขณะซึมซับรับแรงตอดรัดจากเด็กสาววัยแรกแย้ม จากนั้นจึงค่อยเร่งขยับร่างกำยำที่เปียกชุ่มด้วยเม็ดเหงื่อ ออกแรงกระแทกขย่มจนเตียงนอนสะเทือน เด้งขึ้นเด้งลงสั่นยวบยาบราวกับลูกคลื่นในช่วงพายุฝน ส่งผลให้ร่างอวบอัดหนั่นแหน่นของบรรดาสาวสวยที่อยู่บนเตียงผืนเดียวกันเด้งสะท้านขึ้นลงไม่ได้หยุด โดยเฉพาะร่างของเด็กสาวตัวน้อยมัธยมต้นวัยสิบสี่ขวบ ซึ่งเป็นผู้รองรับแรงกระแทกแห่งอารมณ์กระสันโดยตรง ร่างอวบเปลือยโดนร่างกำยำแกร่งกร้าวโถมทับกดใส่จนจมบุ๋มลงไปในเตียงนุ่ม จากนั้นก็เด้งสะท้อนขึ้นมาเพื่อรับแรงกระแทกครั้งใหม่ มองไปคล้ายกับกับเรือลำน้อยท่ามกลางคลื่นพายุแห่งอารมณ์ใคร่อันดำมืด จนเด็กสาวได้แต่หลับตาปี๋สะบัดหน้าเริ่ดส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความหฤหรรษ์ปริ่มว่าจะขาดใจตาย กระนั้นเรือนร่างที่แลดูบอบบางหากทว่าอวบเต่งหนั่นแน่นเกินวัย ก็ใช่จะทำตัวเป็นเรือลำน้อยรอคอยรับความเสียวแต่ฝ่ายเดียว ขณะที่เขากระแทกลงมาใส่ บั้นท้ายผึ่งผายของเธอก็กระเด้งขึ้นแอ่นรับจังหวะกระแทกกระทั้นแห่งความหฤหรรษ์อย่างเหมาะเจาะลงตัว สุดท้ายจึงกลายเป็นว่าเขากระเด้าเธอกระเด้ง จนน้ำรักหลั่งออกมาผสานผสมกับคราบน้ำกามไหลนองทะลักล้นไปทั้งง่ามขา "อะ อูยย ... อ๊อย ... อ๊อย ... อ๊อย ... อูยยสส ... อะ อาจารย์ อะ อ๊ายยย พี่เอก ... ซี้ดดสสส ... อาจารย์ อาจารย์ อ๊ายยยยยยย" เด็กสาวหน้าใสหุ่นอวบอัดร่ำร้องด้วยน้ำเสียงอันขาดห้วง ดวงตากลมโตทั้งสองข้างปิดสนิทเพราะตกอยู่ในห้วงคล้ายจริงคล้ายฝัน สองมือของเธอจิกกำผ้าปูที่นอนเท่าที่เรี่ยวแรงจะพึงมี ร่างอวบอิ่มเกินวัยที่มีเสื้อนักศึกษาไซส์เล็กสั่งตัดพิเศษห้อยอยู่หงายนอนถ่างแข้งขาอ้าซ่า ร่องรักที่ยังไม่เติบใหญ่เต็มวัยเปิดรับแรงกระแทกจากร่างกำยำของชายหนุ่มที่กำลังเมามันสะใจ ท่อนเอ็นดุ้นใหญ่วิ่งเข้าวิ่งออกร่องรักจนเปียกแฉะส่งเสียงดังเจ๊าะแจ๊ะออกมาอย่างแผ่วเบา ในขณะที่เสียงเนื้อหน้าขาชายหนุ่มกระทบกระแทกกับเนื้อนวลนั้นกำลังดัง ป้าบ ป้าบ สนั่นหวั่นไหวจนได้ยินชัดไปทั่วทั้งห้องนอน สุดท้ายเมื่อความหฤหรรษ์พุ่งปรี๊ดจนถึงขีดสุด เด็กสาวก็ส่งเสียงหวีดร้องออกมาลั่นห้อง สองมือไขว่คว้ากอดรัดตวัดจิกปลายเล็บลงไปบนแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม ปลายเท้าทั้งสองเหยียดเกร็งไปพร้อมกับร่างงามที่แอ่นสะท้านกระตุกสุดชีวิต ร่องรักสดใหม่วัยมัธยมต้นจึงขมิบตอดดูดรัดท่อนลำลึงค์บ๊วบสุดแรง ส่งความหฤหรรษ์ที่เสียวแปล๊บย้อนกลับคืนไปให้ชายหนุ่มอีกระลอก ชายหนุ่มเองก็สุดแสนจะทานทนต่อรสเสียวในคราวนี้ได้ไหว เขาแอ่นสะโพกอัดเข้าไปในร่องหลืบจนลึกสุดเหยียด สองมือเอื้อมลงไปบีบขยี้หนองโพอวบเต่งเกินวัยของน้องสาววัยมัธยมต้นตัวน้อยจนแทบแตกคามือ จากนั้นดุ้นเอ็นลำยาวใหญ่ก็กระตุกสะท้าน ปลดปล่อยเอาน้ำกามข้นคลั่กที่เหมือนจะไม่มีวันหมด ละเลงหลั่งรินเข้าไปในร่องรักของเด็กสาวตัวน้อยเป็นรอบที่หกในค่ำคืนนี้ "อูยยสส ... เมย์ ... เย็ดมันส์จริงๆ" เมื่อปลดปล่อยน้ำกามไปอีกระลอก เอกก็ส่งเสียงครางอย่างสุขสม พลางล้มตัวฟุบลงไปนอนกอดรัดกับร่างงามของเด็กสาว เขาจูบดูดปากกับริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดงสด แหย่แยงลิ้นเข้าไปพัวพัน โดยที่ยังคงปล่อยดุ้นเอ็นให้ฝังตัวซึมซับสัมผัสอันแสนสุขอยู่ในร่องรักของเธอเช่นนั้นอีกเนิ่นนาน รอคอยกระทั่งรู้สึกสาสมใจ เขาจึงค่อยดันตัวถอนเอาดุ้นเอ็นที่ยังรากลึกจนสุดทางถอยครูดออกมาอย่างเชื่องช้า เธอพยายามผวาเด้งเข้าหาร่ำร้องเรียกหา เหมือนไม่อยากให้แยกร่างออกจากกัน แต่แอ่นเด้งได้เพียงเล็กน้อย ร่างงามที่เต็มไปด้วยสัดส่วนอวบใหญ่เกินวัยก็ร่วงผลอยปล่อยสะโพกลงไปหย่อนแหมะบนเตียงนอน แล้วหมดเรี่ยวหมดแรงสลบไสลไป ซึ่งความจริงแล้วเมย์ก็ยังคงตกอยู่ในบ่วงมายามนตร์อยุ่ตั้งแต่ต้น เธอยังคงฝันหวานเห็นเหตการณ์ว่ากำลังระเริงรักกับเอกผู้เป็นพี่ชาย ที่สวมบทบาทอาจารย์อยู่เพียงลำพังสองต่อสอง ทั้งที่ความจริงแล้วยังมีหญิงสาวอีกห้านางที่กำลังดื่มด่ำระเริงรักอยู่ในห้องหอแห่งเดียวกันนี้อยู่ด้วย เอกก้มหน้าลงไปฟอนเฟ้นดูดกินหน้าอกไซส์สามสิบสี่นิ้วของเด็กสาวมัธยมต้นเป็นการปิดท้าย ก่อนยันร่างลุกขึ้นนั่งมองฟองสีขาวฟ่อดที่ละเลงออกมาจากร่องกลวงโบ๋ สองขาของเด็กสาวมัธยมต้นถ่างอ้าออกจนหุบไม่ลง เพราะโดนกระแทกกระทั้นจนเธอเสร็จไปสิบกว่ารอบ และเขาก็ได้ฝากเอาน้ำแห่งความใคร่เอาไว้กับเธอไปแล้วทั้งสิ้นหกครั้งด้วยกัน ดังนั้นเขาจึงเปิดโอกาสให้เด็กสาวได้พักเหนื่อยเสียบ้าง เสียงครางสลับกับเสียงหอบหายใจกระเส่าที่อยู่ด้านข้างเรียกความสนใจจนเอกต้องหันไปมอง บนโซฟาสีครีมที่ถูกลากมาวางติดกับเตียงนอนเพื่อเพิ่มพื้นที่นั้น สองสาวหุ่นสะบึมกำลังนอนตะแคงกอดรัดฟัดเหวี่ยง แลกลิ้นจูบปากกันอย่างดูดดื่ม พวกเธอต่างแอ่นอกอวบบดเบียดเสียดสีเข้าหากัน ขณะที่ด้านล่างก็แอ่นโคกสวาทฉ่ำเยิ้มบดขยี้ใส่กันอย่างไม่หยุดยั้ง "เจ้านายขา ... อูยยสสส เจ้านาย ... ลงโทษฟ้าแรง ๆ เลยค่ะ เจ้านายขา อูยสสส" รอจนกระทั่งริมฝีปากของทั้งคู่เผยอแยกออกจากกัน หนึ่งในนั้นจึงค่อยส่งเสียงครวญครางสะท้านอารมณ์ออกมา ซึ่งหญิงสาวคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นน้องฟ้านักศึกษาสาวขาวหมวยหุ่นน่าฟัดวัยสิบแปดปี ผู้ถือครองตำแหน่งนักสู้สาวหมัดหนักขวัญใจสาว ๆ ของทั้งมหาลัยนั่นเอง เวลานี้เธอยังคงจมดิ่งอยู่ในมนตราเฉกเช่นคนอื่น จึงไม่ได้รับรู้ว่าจริง ๆ แล้วร่างเลือดเนื้อกำลังร่วมสมสู่กับสตรีเพศเดียวกัน ส่วนฝันแสนหวานของเธอนั้นก็ออกจะขัดกับภาพลักษณ์นักสู้ไม่ยอมใครของเธออยู่บ้าง ซึ่งนั่นก็คือการรับบทบาททาสสวาทที่ต้องโดนเอก ผู้เป็นเจ้านายที่เธอแอบหลงรักระทำการกดขี่ข่มเหงทางเพศ โดยในฝันนั้นเธอกำลังถูกจับมัดอยู่บนเก้าอี้ขาหยั่งเพียงลำพังในห้องลับ และโดนเขากดกระแทกกระทำย่ำยีด้วยความหื่นกระหายแบบไม่ยั้ง เหมือนกับในหนังโป๊เรื่องหนึ่งที่เธอเคยดูในวัยเด็ก เรื่องนั้นจะมีเนื้อหาน้ำเน่าประมาณว่า นางเอกเป็นนักคาราเต้ทีมชาติ แต่โดนพระเอกที่ต่อสู้เก่งกว่า จับตัวไปเพื่อแก้แค้นความเลวที่พ่อเธอกระทำกับครอบครัวเขา เขาข่มขืนกระทำชำเราอยู่นานหลายวัน โดยแรกสุดตัวนางเอกนั้นคับแค้นพระเอกสุดใจ แต่เมื่อร่วมรักนานเข้าเธอก็แอบหลงรักพระเอกจนถอนตัวไม่ได้ และเนื้อหาเหล่านี้เอง ที่ประทับตราตรึงอยู่ในก้นบึ้งของฟ้าสาวหมวยหมัดหนัก โดยที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัว "อู้ยยย ซี้ดดดสสสส สุดยอดเลย อูยยสสส เย็ดฝนแรง ๆ เลย อู้ยยสสส" หญิงสาวหุ่นนางแบบอีกคนที่กำลังกอดรัดเล่นฉิ่งฉาบอยู่กับน้องฟ้า ก็คือฝนพริตตี้สาวขาวยาวก้นสวยประจำค่ายรถยนต์ยี่ห้อดัง เธอส่งเสียงร่ำร้องออกมาดังไม่แพ้น้องฟ้าผู้เป็นคู่ขา และกำลังตะเกียกตะกายไขว่คว้าพยายามนำพาอารมณ์สยิวให้ไปถึงสรวงสวรรค์ ด้วยการแอ่นสะโพกดินระเบิด เบียดอัดโคกสวาทเข้าหาด้วยสุดเรี่ยวแรงเท่าที่มี แน่นอนว่าฝนเองก็ไม่ได้ชื่นชอบการตีฉิ่งฉาบกับเพศเดียวกันนัก เธอชื่นชอบความรู้สึกของการโดนดุ้นเอ็นอันอุ่นร้อนสอดแทรกลึกเข้าไปในร่างเฉกเช่นหญิงสาวทั่วไป แต่ที่เธอกำลังร่วมรักกับฟ้า ก็เป็นเพราะกำลังตกอยู่ในมายามนต์ที่เขาได้ร่ายเอาไว้ตั้งแต่แรก ฝันแสนหวานของพริตตี้สาวนั้นออกจะแตกต่างจากฝันหวานของเพื่อนร่วมสามีอยู่บ้าง เพราะเธอกำลังฝันหวานว่าตนเองเป็นผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในวงล้อมนายแบบหุ่นล่ำบึ้กนับสิบ ผู้ชายทุกคนจ้องมองเธออย่างหื่นกระหายราวกับสัตว์ป่าเพศผู้ในฤดูติดสัด ทุกผู้คนต่างกระเหี้ยนกระหือรือยื้อแย่งเบียดเสียดเข้ามาหาหมายร่วมสมสู่กับเรือนร่างของเธอ กระนั้นท่ามกลางสัตว์ป่ากลัดมัน กลับมีชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่แกร่งกล้าที่สุดและแข็งแรงที่สุด กำลังครอบครองร่วมรักเสพสุขกับเธออยู่ด้วยความเร่าร้อน เขาจับเธอนอนหงาย นั่งชันเข่ายกสะโพกเธอขึ้นมากระแทกซอยยิกด้วยความหนักหน่วงรุนแรง บรรดาบุรุษกลัดมันที่อ่อนแอกว่าเหล่านั้น จึงทำได้เพียงแค่ยื่นคว้ามือเข้ามาลูบไล้บีบขยำขยี้เนื้อตัวของเธอ ที่น่าแปลกใจอยู่บ้าง ก็คือในบรรดานายแบบหุ่นล่ำเหล่านั้น กลับมีคุณพ่อของน้องหญิง และลุงสมคนขับรถประจำบ้านน้องหญิงติดมาด้วย อีกทั้งในความฝันนั้น ฝนก็ดูจะมีความสุขที่ได้จับดุ้นเอ็นของสองผู้หลักผู้ใหญ่หุ่นลงพุง มาจรดจ่อบนใบหน้าและตามร่างกาย แล้วกระถอกมือซอยยิกจนน้ำกามข้นคลั่กเปรอะเลอะจนเต็มเนื้อตัว สำหรับคุณพ่อของน้องหญิงนั้น เอกไม่ได้รู้สึกแปลกใจนัก เพราะจะอย่างไรตอนนี้ฝน ก็เป็นเหมือนเด็กเสี่ย หรือเมียเช่าให้กับคุณพ่อของน้องหญิงอย่าไม่เปิดเผย ดังนั้นหากเธอจะแอบมีใจอยู่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เอกจึงก็ไม่ได้รู้สึกหึงหวงแต่อย่างใด เพียงแต่ในกรณีของลุงสมที่อ้วนดำหน้าตาน่าเกลียดนั้น ออกจะผิดจากการคาดการของเขาไปอยู่บ้าง เพราะคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าฝนติดใจจนขนาดเก็บมาฝัน ชายหนุ่มมองสำรวจความฝันในก้นบึ้งของสองสาวแล้วอมยิ้มน้อย ๆ เขาทำท่าจะขยับไปช่วยปลดปล่อยคลายความกระสันให้สองสาว แต่แล้วก็ต้องชะงัก เพราะเหมือนจะไม่จำเป็นนัก หนึ่งสาวมหาลัยวัยใส หนึ่งพริตตี้สาววัยทำงาน ต่างก็กำลังเร่งเร้ากระดกร่อนแอ่นโคกสวาทด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี จากนั้นเพียงไม่นานนักเรือนร่างอวบอิ่มน่าฟัดของสองสาวก็กระตุกเกร็งสะท้าน ต่างหวีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยเพิ่งไต่ไปถึงจุดแห่งความหฤหรรษ์ แล้วต่างก็ม่อยผลอยหลับไปโดยที่ยังมีคราบน้ำกามอยู่เต็มร่อง เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองสาว ต่างก็ผ่านการร่วมรักและรับน้ำกามไปแล้วคนละสามรอบเท่ากัน ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก ปล่อยให้ฝนและน้องฟ้านอนพักผ่อนไป เฉกเช่นเดียวกับน้องมายด์เด็กสาวตัวน้อยวัยเพียงสิบเอ็ดขวบ ร่างบอบบางเปลือยเปล่าของน้องมายด์กำลังนอนกอดตุ๊กตาหมีอยู่ใกล้กับสองสาว ค่ำคืนนี้เอกไม่ได้ร่วมรักกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว หากทว่าเด็กสาวตัวน้อยที่หน้าตาสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบก็เหน็ดเหนื่อยเพียงพอแล้วจากการไปเที่ยวทะเล "งืม งืม พี่เอกขา มายด์ดูดเก่งใช่มั้ยล่ะจ๊ะ" มายด์ส่งเสียงละเมอแผ่วเบา พลางห่อปากแลบลิ้นเลียอะไรบางอย่าง ซึ่งอะไรที่ว่าในฝันของเด็กสาวก็คือดุ้นเอ็นของผู้เป็นพี่ชายที่เธอแสนจะหลงไหล และในฝันนั้นก็สมกับที่เป็นฝันของเด็กน้อย เธอและเขากำลังนอนอยู่บนเตียงในบ้านขนมที่มีตุ๊กตากินได้มากมาย โดยที่เธอกำลังแสดงฝีไม้ลายมือทั้งดูดทั้งเลียจนเอกร้องครางซี้ดอย่างสุดเสียว เอกยื่นมือไปลูบศีรษะน้อย ๆ ของเด็กสาวด้วยความทะนุถนอม แล้วก้มลงไปหอมแก้มของมายด์ฟอดใหญ่ จากนั้นจึงค่อยผละออกมาปล่อยให้เธอนอนหลับฝันต่อไปเช่นเดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้อารมณ์ใคร่และกำลังวังชาของเขายังคงมีอย่างเปี่ยมล้น จึงต้องหันมามองหาตัวช่วยเพื่อระบายออกอีกสักหน่อย มองไปก็เห็นร่างเปลือยที่ขาวกระจ่างกว่าใครอื่นของฝ้ายแวบเข้ามาก่อน ร่างที่ขาวนวลเนียนของเธอนั้นยังคงแฝงเสน่ห์ดึงดูดอยู่มิคลาย โดยเฉพาะยามที่เธอเปลือยกายล่อนจ้อนอวดผิวขาวเนียนเผยให้เห็นลึกถึงทุกซอกทุกมุมก็ยิ่งเพิ่มพูนเสน่ห์ของตัวเธอไปอีกขั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝ้ายจะเป็นพยาบาลดาวเด่นขวัญใจแพทย์และคนไข้ในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งนั้น ฝันหวานของพยาบาลสาวที่นอนสลบไสลถ่างขาอ้าซ่าจนหุบไม่ลง เพราะโดนกระเด้าจนเสร็จไปห้ารอบก็คือ เธอและเขากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในบ้านหลังโต ด้านข้างมีเปลของทารกเพิ่งเกิดที่กำลังหลับปุ๋ย ส่วนบนเตียงนอนนั้นก็มีเด็กชายที่โตขึ้นมาหน่อยกำลังนอนหลับอยู่ ส่วนเธอและเขาที่เป็นพ่อและแม่ก็กำลังหยอกล้อระเริงรักกันบนพื้นพรมโดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีเด็กน้อยเพิ่มอีกสักคน ฝ้ายก็เป็นเช่นนี้ เธอมีความเป็นแม่มากกว่าใครอื่น และเขามั่นใจว่าเธอจะต้องเป็นแม่ที่ดีได้อย่างแน่นอน หลายครั้งเขาจึงลองถามตัวเองดูว่า หากเลือกได้คนเดียว เขาจะเลือกใคร? สุดท้ายเขาก็มักจะพบว่าคำตอบของเขาคือ ฝ้ายเป็นเพียงเบอร์สอง ไม่ต่างกันกับน้องเมย์ รองลงไปก็คือน้องฟ้า ตามด้วยฝน ส่วนน้องมายด์นั้นขอยกเว้นเพราะยังเด็กเกินไป แต่มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าเมื่อน้องมายด์เติบโตขึ้นมาอีกสักหน่อย จะต้องมีเสน่ห์เรือนกายที่น่าลุ่มหลงไม่แพ้น้องเมย์อย่างแน่นอน ส่วนอันดับหนึ่งในใจนั้น เขารู้สึกมั่นใจเต็มร้อยว่าคือใคร ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอ เธอน่ารักที่สุดยิ่งกว่าใคร และเข้ากันได้ดีกับเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเซ็กส์ เรื่องความสนใจ นิสัยใจคอ ทุกอย่างเหมือนกับถูกออกแบบมาให้เป็นของกันและกัน ทั้งที่เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมอันหรูหรามั่งคั่ง ส่วนเขานั้นเติบโตมาด้วยการเป็นเด็กวัด อาศัยทุนการศึกษาเพื่อนำพาให้ตัวเองเรียนจบ "... พี่เอก ... " น้องหญิงที่กำลังนอนบีบขยำทรวงอกตนเอง ถึงกับขยับร่างอวบอิ่มลุกขึ้นมาทันทีที่เขาร่ายมายามนตร์เชื่อมจิตเข้าไปยังห้วงแห่งความฝันอันแสนหวาน เธอเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา หากทว่าแฝงความหมายแห่งห้วงคำนึงอันมากมายมหาศาล และแม้ว่าเขาจะร่วมรักกับเธอเป็นจำนวนครั้งมากกว่าใคร แต่ความกระหายในรสรักของนางฟ้าเดินดินคนนี้ ก็ดูจะไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกันกับพลังแห่งความใคร่ของเขา ความฝันของเธอแทบจะตรงไปตรงมากว่าใครอื่น ไม่ต้องมีเหตการณ์อะไรเพื่อกระตุ้นอารมณ์ ไม่ต้องการเหตผลในการร่วมรัก เธอเพียงต้องการร่วมรักหลอมร่างรวมกันกับเขาโดยไปสนสิ่งอื่นใด ไปตราบนานเท่านาน ไม่ต้องรีรอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่ม เธอโผเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมกับกลิ่นกายอันหอมกรุ่น เธอเสนอจูบอันร้อนแรงให้ ไปพร้อมกับการจับดุ้นเอ็นอันเขื่องของเขาตั้งตรง แล้วขยับสะโพกขึ้นไปนั่งคร่อม ขยับสะโพกอีกเล็กน้อยร่องสวาทที่กระชับแน่นเหมือนจะสดซิงตลอดเวลา ก็กลืนกินดุ้นเอ็นเข้าไปจนสุดลำ เวลาทุกวินาทีแทบไม่มีการเสียเปล่า เธอเร่งโยกเอวขย่มใส่เขาอย่างเร่าร้อน พลางคล้องแขนจับหลังศีรษะกดใบหน้าของเขาให้ซุกเข้าหาทรวงอกอวบเต่งของเธอ จากนั้นก็แหงนหน้าเริ่ด ส่งเสียงร่ำร้องครวญครางออกมาอย่างสุดเสียว เอกตอบสนองได้ไวทันใจเช่นกัน เมื่อเธอเสนอหน้าอกที่สวยงามที่สุด และเต่งตึงกระชับแน่นนที่สุดมาให้ถึงที่ เขาก็ก้มหน้าก้มตาลงไปฟอนเฟ้นดูดเม้มปลายถันสีชมพูอ่อน สลับกับล้วงมือขยำขยี้จนเธอตัวกระตุกเร่า ๆ ขณะกำลังโยกเอวขย่มใส่เขาไม่ยั้ง ร่างกายที่แสนจะสวยงามของนางฟ้าเดินดินคนนี้กำลังทำให้เขาคลั่งเช่นเคย ทุกสัมผัสบนเนื้อตัวเธอล้วนแล้วแต่นุ่มนิ่มแฝงแรงดีดสะท้อน ทุกพื้นผิวสัมผัสเนียนละเอียดแทบไม่มีจุดด่างพร้อยอันใด แต่ที่น่าคลั่งไคล้กว่าสิ่งใด ก็คือร่องสวรรค์สร้างอันแสนมหัศจรรย์ที่แฝงแรงดูดตอดจนแม้แต่เขาเองก็ยังแทบทนทานรั้งน้ำกามเอาไว้ไม่อยู่ "ซี้ดดดสสส ... หญิงรักพี่เอกค่ะ อะ อ๊ายยยยย" เธอขย่มใส่เขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่ความกระสันร้อนร่านนั้นจะพุ่งไปถึงขีดสุด ร่างของเธอบิดไหวกระตุกสะท้าน สองมือจิกกดศีรษะของเอกเข้าหาอ้อมอกสุดแรง ริมฝีปากบางเผยอหวีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา จากนั้นจึงค่อยหมดเรี่ยวหมดแรงสงบนิ่งปล่อยให้ร่องหลืบตอดรัดท่อนเอ็นของเขาหนุบหนับไม่หยุด ตอนนี้จึงเป็นรอบของเขาที่ใกล้เสร็จอยู่รอมร่อ เขาผลักเธอลงไปนอนหงายบนเตียงนอน จับเอาหมอนมารองสะโพกเพื่อยกให้สูงได้ระดับ จากนั้นก็โหมเร่งกระเด้าซอยใส่อย่างไม่ลืมหูลืมตา จนได้กระฉูดน้ำกามเข้าใส่ร่องหลืบของเธอเป็นรอบที่แปดในค่ำคืนนี้ เพียงแต่นี่อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายก่อนฟ้าสาง เพราะเธอยังคงมองเขาตาแป๋ว ราวกับว่าไม่เคยอิ่มเอมเฉกเช่นเดียวกับเขา เขาจึงขยับพลิกตัวลงนอนหงาย เปิดทางสลับให้เธอเป็นฝ่ายขย่มบ้าง สุดท้ายหนึ่งหญิงหนึ่งชายที่ไม่เคยพอในราคะ ก็สลับกันส่งเสียงกระเส่าครวญครางต่อไปอีกเนิ่นนานเกือบชั่วโมงในขณะที่ผู้อื่นหมดเรี่ยวหมดแรงผลอยหลับสลบไสลกันไปหมดแล้ว ........................................ "เอาล่ะ จวนได้เวลาแล้ว เริ่มกันเสียที ..." น้ำเสียงอันสดใสของสตรีเพศเสียงหนึ่งแว่วดังขึ้นในความมืดสลัว นางตะเคียนในร่างวิญญาณสีเขียวอ่อนจางลืมตาขึ้นจากการนั่งสมาธิจากขอบเตียงทางด้านทิศตะวันออก "โอเคครับพี่แก้ว ... จัดตำแหน่งแบบนี้ถูกแล้วนะ?" เอกที่นั่งรอคอยอยู่ที่กึ่งกลางเตียงนอนอ้าปากขานรับ พลางจับร่างขาวโพลนของฝ้ายพยาบาลสาวขึ้นมานั่งคร่อมทับบนร่างตนเอง เขาขยับร่างกระเด้งสะโพกอีกสองสามครั้ง ก็สอดใส่แก่นกายที่แข็งแกร่งสอดใส่เข้าไปในร่องรักของฝ้ายได้อย่างไม่ยากลำบาก จากนั้นจึงค่อยทิ้งตัวลงไปนอนหงายบนผืนเพียง ปล่อยให้ดุ้นเอ็นสอดใส่ค้างคาอยู่ในร่องของฝ้ายที่มีธาตุวิญญาณสูง กระตุ้นจนความรู้สึกจนพยาบาลสาวที่ดำดิ่งอยู่ในฝันหวานตัวกระตุกขึ้นมาหนึ่งครั้ง "... ถูกต้องแล้ว ณ จุดกึ่งกลาง จงเชื่อมต่อผูกพันธุ์กับธาตุวิญญาณให้แนบแน่น ส่วนด้านซ้ายและขวาให้ขนาบเชื่อมโยงด้วยธาตุแห่งแสงและความมืด" นางตะเคียนนั่งบริกรรมคาถาอีกครู่หนึ่ง จนปรากฎสัญลักษณ์แสงสีดำขึ้นที่หน้าผากของฝ้าย แล้วจึงค่อยตอบคำ เธอโบกมือวาดจากขวาไปซ้ายหนึ่งครั้ง จากนั้นร่างของน้องหญิง และน้องเมย์ที่นอนขนาบอยู่ซ้ายขวา ก็ขยับพลิกร่างเข้ามานอนตะแคงหนุนแขน ยกขาขึ้นเกยทับขาของชายหนุ่ม แล้วแอ่นร่างอวบอิ่มบดเบียดเนื้อตัวหอมกรุ่นเข้าแนบกับร่างแกร่งกำยำจนแนบสนิท เวลานี้ที่กึ่งกลางเตียงนอน จึงมีร่างของเอกนอนรับเป็นฐาน มีร่างของฝ้ายนอนทับอยู่ด้านบน ด้านขวามีน้องหญิงซึ่งเปี่ยมด้วยธาตุแสง และด้านซ้ายมีน้องเมย์ที่มีธาตุความมืดกอดร่างแนบสนิทเข้าหากัน โดยที่เวลานี้ทั้งน้องหญิง และน้องเมย์ ต่างก็ปรากฎสัญลักษณ์เวทย์สีดำขึ้นที่หน้าผากด้วยกันทั้งคู่ เมื่อนางตะเคียนวาดมือไปมาอีกครั้ง พยาบาลสาวที่นอนคร่อมร่างอยู่ด้านบน ก็เริ่มส่งเสียงคราง พลางละเมอขยับสะโพกโยกก้นกระแทกเข้าใส่ชายหนุ่ม แล้วก้มหน้าลงจูบปากแลกลิ้นทั้งที่ยังสลบไสล ด้านหนึ่งสาวมหาลัย หนึ่งเด็กสาวมัธยมต้น ที่นอนตะแคงอยู่อยู่สองข้างก็เหมือนจะไม่ยอมน้อยหน้า พวกเธอซุกหน้าเข้าหาใบหน้าด้านข้างของเอกทั้งด้านซ้ายและขวา จากนั้นก็แลบลิ้นน้อย ๆ จูบดูดเลียแหย่แยงเข้าไปในรูหูของเขา สลับกับส่งเสียงครางละเมอ และขยับกระดกก้น แอ่นโคกโหนกนูถูไถไปกับความหยาบกระด้างของเนื้อท่อนขาชายหนุ่ม น้ำรักที่ยังคงหลั่งเยิ้มออกมาไม่หยุดยั้งจึงเลอะเปรอะเต็มหน้าขาของชายหนุ่ม "ทิศอุดร แห่งอัคคี ... ทิศทักษิณ แห่งวารี ... ทิศประจิมแห่งวายุ ... และสุดท้าย ทิศบูรพาแห่งปฐพี ... " นางตะเคียนร่ายบริกรรมคาถาต่อไป จากนั้นสัญลักษณ์แห่งมนตราสีดำมืดก็ค่อยผุดโผล่ปรากฎขึ้นบนหน้าผากของหญิงสาวที่เหลือ เริ่มจากน้องฟ้าสาวหมวยหมัดหนักตัวแทนแห่งธาตุไฟที่ประจำอยู่บนเตียงทางด้านทิศเหนือ ตามด้วยน้องมายด์เด็กสาวร่างบางตัวแทนแห่งธาตุน้ำทางทิศใต้ จากนั้นจึงเป็นฝนพริตตี้สาวสะโพกดินระเบิดตัวแทนแห่งธาตุลมที่ประจำอยู่ทางทิศตะวันตก ก่อนจะปิดท้ายด้วยตัวนางตะเคียนตัวแทนแห่งธาตุดิน ซึ่งนั่งประจำอยู่ที่ตำแหน่งทิศตะวันออก และเมื่อสัญลักษณ์แห่งมนตรานั้นปรากฎขึ้นที่ใคร หญิงสาวที่นอนสลบไสลอยู่นั้น ก็จะเริ่มขยับมือไม้ บีบคลึงเนื้อตัวตนเอง กระตุ้นจนอารมณ์รักที่สงบลงไปแล้วตื่นขึ้นมาใหม่อีกรอบ "น่าเสียดายที่พวกเรายังขาดสตรีแห่งธาตุปฐพี แต่เวลาไม่คอยท่า หากปล่อยผ่านฤกษ์เวลานี้ไปโดยไม่ทำอะไรเลย ก็คงต้องรออีกสี่สิบเก้าปีจึงจะมีอีกครั้ง นี่ยังดีที่เราเป็นตัวแทนแห่งธาตุปฐพีชดเชยได้บ้าง จึงพอจะสร้างวงเวทย์แห่งเจ็ดธาตุเวียนวนได้อย่างไม่ตกไม่พร่อง ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์เท่าร่างเลือดเนื้อที่เต็มไปด้วยเชื้อรักของสตรีเหล่านี้ก็ตามที" ร่างสีเขียวอ่อนจางของนางตะเคียนซึ่งนั่งอยู่ทางทิศตะวันออกเอ่ยปากอธิบาย ขณะทำสีหน้าเคร่งเครียดหันไปร่ายมนตราใส่สายสิญจน์ปลุกเสกสีขาวหม่นที่ถูกขึงเอาไว้รอบด้าน เพื่อป้องกันการรบกวนจากภูติผีวิญญาณร้ายที่อาจผ่านมาโดยบังเอิญ เพราะขณะอยู่ในห้วงพิธีนี้ ดวงวิญญาณของเอกจะไม่อยู่กับร่างเนื้ออันเป็นกายหยาบ "คิก คิก พวกหนูว่า ถ้าป้าตะเคียนมีร่างเลือดเนื้อ สงสัยว่าพิธีกรรมนี้คงจะไม่ได้ทำ เพราะป้าตะเคียนคงจะเหนื่อยหมดแรงซะก่อน" เสียงแหลมสูงของสองเด็กน้อยรักยมดังขึ้นมา พร้อมกับการปรากฎของร่างวิญญาณสองร่าง ซึ่งบัดนี้กำลังทำท่าเดินเหยียบย่องข้ามร่างเปลือยของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง นางตะเคียนที่กำลังทำสีหน้าจริงจัง หันมาขมวดคิ้วทำตาดุใส่สองเด็กน้อยคู่กัดขาประจำเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดุด่าอะไรเช่นเคย เพราะหนึ่งนั้นพวกรักยมก็พูดความจริง ในแง่ที่ว่าหากเธอมีร่างเลือดเนื้อ ก็คงต้องกระโจนลงไปร่วมรักกับเอกแล้ว ส่วนเหตผลที่สองก็คือเธอกำลังรวบรวมสมาธิไม่ให้เสียงานใหญ่อยู่ "ชิ ไอ้พวกเด็กเหลือขอ นี่ใช่เวลามาต่อล้อต่อเถียงหรือไม่ หน้าที่ของพวกเจ้ามี กระทำแล้วหรือยัง ข้ากำลังทำหน้าที่ของข้า แล้วหน้าที่ของเจ้าเล่า?" "จ้า จ้า พวกหนูยอมก่อนก็ได้ กลับออกมาแล้วค่อยมาด่ากันใหม่ คิก คิก ... พ่อจ๋า พวกหนูเข้าไปช่วยจัดการข้างในนั้นก่อนนะจ๊ะ" อาจเป็นเพราะความสำคัญของพิธีกรรม สองเด็กน้อยที่ปกติไม่ยอมลดลาวาศอกจึงยอมเลิกการทะเลาะวิวาทแต่โดยดี พวกเขาหันไปมองเอกที่กำลังโดนสามสาวรุมจูบพรมไปทั่วใบหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยกมือขึ้นพนม แล้วกลายเป็นอณูแสงเล็ก ๆ ลอยหายเข้าไปในจี้ห้อยคอที่ห้อยอยู่บนคอของชายหนุ่ม "จงจดจำไว้เจ้านายและสามีของข้า ... เวลาในโลกแห่งความตายนั้นไม่เที่ยง บางเพลาอาจรวดเร็ว บางเพลาอาจเชื่องช้า ดังนั้นการไปในครั้งนี้อาจรวดเร็วจนไม่รู้สึก หรืออาจยาวนานจนแทบลืมเลือนตัวตน ... แต่จงอย่าได้ห่วงว่าตัวตนเจ้าจะสูญหายลบเลือน เพราะเมื่อเวลาในโลกแห่งชีวิตผ่านไปครบสามชั่วยามเมื่อไร ดวงจิตของเจ้าก็จะถุกพันธะที่เราสร้างไว้กับยอดเหล็กไหลดึงกลับมาทันที ... จงจำไว้ ... อย่าได้หวาดกลัวจนแพ้พ่าย อย่าได้ลืมเลือนว่าเข้าไปเพื่อสิ่งใด ... อย่าได้ลืมเลือนว่าเจ้าต่อสู้เพื่ออะไร ... และที่สำคัญก็คือจงอย่าได้ลืมเลือนว่าเจ้าคือใคร ..." นางตะเคียนกล่าวอธิบายเป็นครั้งสุดท้าย เอกเหลือบตาหันมามองเธอแวบหนึ่ง เพราะกำลังโดนสามสาวห้อมล้อมอยู่ แม้อยากจะเอ่ยปากถาม แต่ก็ไม่อาจทำได้ เพราะฝ้ายแทบไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเขาเป็นอิสระเลยแม้แต่วินาทีเดียว "เวลาไม่คอยท่าแล้ว ... จงไปเถอะ และจงจำไว้ว่า การฝึกปรือในครั้งนี้ มิใช่เพื่อบำเพ็ญตบะสร้างเสริมพลัง หากแต่เป็นเพื่อฝึกความเชี่ยวชาญ และซึมซับผสานพลังที่มีอยู่ ให้เข้ากับกายละเอียดของเจ้าให้มากที่สุด" นางตะเคียนยิ้มและพยักหน้า เหมือนจะบอกว่าอย่าได้กังวล จากนั้นเธอก็ยกสองมือขึ้นพนม แล้วบริกรรมคาถาด้วยสุ้มเสียงอันสดใสน่าฟังอีกครู่ใหญ่ กระทั่งปรากฎไอสีดำแห่งไสยเวทย์แผ่คลุมไปทั่วบริเวณ เสียงหอบครางของหกสาวค่อยแผ่วเบาจนสลายหายไป เอกก็เริ่มสงบนิ่งและผลอยหลับไป จากนั้นอณูแสงสีขาวเล็ก ๆ หย่อมหนึ่งก็ลอยล่องออกมาจากร่างของเขา แล้วลอยหายเข้าไปในจี้ห้อยคอรูปน้ำค้าง ที่สองเด็กน้อยรักยมได้นำเข้าไปก่อนหน้า นางตะเคียนยิ้มอย่างพอใจ แล้วหันมาบริกรรมคาถาอีกครั้ง จากนั้นก็ปรากฎอณูแสงสีขาวหย่อมเล็ก ๆ ออกมาจากร่างของหญิงสาวทั้งหก และลอยหายเข้าไปในจี้ห้อยคอนั้นเช่นกัน "คิก คิก และเราก็ต้องขอโทษด้วย ที่ไม่ได้บอกเจ้าล่วงหน้า แต่นี่คือท่าไม้ตายลับที่เจ้าเด็กปากเหลือขอบอกเอาไว้ ว่าจะช่วยให้เจ้าฝึกปรือได้สำเร็จ" มองดูร่างอันไร้วิญญาณของหญิงสาวทั้งหก ที่กำลังนอนหายใจแผ่วเบาในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย แล้วนางตะเคียนก็แย้มยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเด็กน้อยที่กำลังคิดกลั่นแกล้งเพื่อนสนิท เธอหัวเราะออกมาแผ่วเบา ทิ้งท้ายประโยคคำพูดไว้หนึ่งคำ ก่อนจะนำพาร่างวิญญาณของตนเอง ตามเข้าไปด้านในสุดยอดแห่งเหล็กไหลนั้น ปล่อยให้ห้องหอที่เพิ่งถูกไฟสวาทแผดเผาจนร้อนฉ่ากลับกลายเป็นเงียบสนิทวังเวงอย่างฉับพลัน ........................................