ขายของ

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รักยม ตอนที่ 67 - คืนฝันหวาน 1

........................................................... "ถ้าพี่เอกเลือกได้เมื่อไหร่ก็ไปหาผู้โชคดีได้เลยนะคะ พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะรอแยกกันคนละห้อง แล้วก็จะไม่ออกมาจนกว่าจะครบหนึ่งชั่วโมงตามกติกาค่ะ" ฝนพริตตี้สาวสวยชื่อดังที่สวมใส่เพียงยกทรงและกางเกงในยืนพิงแผ่นหลังกับบานประตูของระเบียงด้วยท่วงท่ายั่วยวนสุดฤทธ์ เธอจับจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งลังเลอยู่กลางห้องด้วยแววตาอันคาดหวังสุดฤทธ์ว่าเขาจะเลือกเธอก่อนเป็นคนแรก ในขณะที่หญิงสาวอีกห้านางต่างก็คิดแบบเดียวกัน สาวสวยเสน่ห์แรงต่างวัยทั้งหกนางต่างยืนพิงบานประตูคนละบานด้วยท่วงท่ายั่วเย้ากิเลสไม่แพ้กัน ต่างสวมใส่เพียงยกทรงและกางเกงในอวดเรือนร่างขาวผ่องละลานตากันอย่างถ้วนหน้า ยกเว้นแต่ก็เพียงน้องมายด์เด็กสาววัยสิบเอ็ดขวบที่สวมใส่ชุดว่ายน้ำสีเหลืองสดใสเพราะยังไม่ถึงวัยที่จะสวมใส่ยกทรงเช่นพี่สาวแสนสวยทั้งหลาย มองแบบผิวเผินแล้วจะใช้คำว่าฮาเร็มบรรยายสภาพการในที่นี้ก็คงไม่ผิด หากทว่าชายหนุ่มที่สุดแสนจะโชคดีได้ครอบครองสาวสวยทั้งหกนางกลับรู้สึกตึงเครียดเหมือนกับนั่งอยู่ในดงระเบิด ไม่ทราบว่าบรรดาสาว ๆ ของตัวเองแอบไปพูดคุยกันตกลงกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อพวกเธอทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าจะบีบบังคับให้เขาเลือกใครคนใดคนหนึ่งให้ได้ และทำให้แผนการณ์ปรองดองที่จะทำเนียนเลือกทุกคนพังไม่เป็นท่าตั้งแต่แรก เอกมองสาวสวยหกนางสลับไปมาด้วยความสับสนว้าวุ่น ต่างคนต่างก็สวยน่ารัก ต่างรูปแบบ ต่างวัยต่างน่าลิ้มลองไม่แพ้กันสักเท่าไหร่ ยกเว้นก็แต่เพียงน้องหญิงของเขาที่สวยสง่าโดดเด่นที่สุดในกลุ่มเธอกำลังยืนส่งยิ้มหวานยั่วเย้าอวดเรือนร่างสวยสมบูรณ์แบบต่อเขาที่หน้าประตูห้องนอนใหญ่ เสน่ห์ร้อนแรงของเธอนั้นทำให้เขารู้สึกได้ทันทีว่าหากต้องเลือกใครสักคนจริง ๆ เขาก็คงต้องเลือกน้องหญิงที่ถือได้ว่าเป็นเมียหลวงของเขาก่อนใครอื่น กระนั้นก็รู้ดีว่าการเลือกใครสักคนนั้น จะเป็นการทำลายความคาดหวังของสาว ๆ ที่เหลือมากขนาดไหน ต่อให้พวกเธอจะบอกว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ตามที ถัดจากน้องหญิงนั้นก็เป็นฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยเจ้าของเรือนร่างขาวเปล่งปลั่งที่ยืนพิงอยู่กับบานประตูของห้องครัวด้วยท่วงท่ามธุรสเอียงอาย จนชายหนุ่มอดไม่ได้ให้รู้สึกอยากโผเข้าไปโอบกอดปลอบโยนสาวหวานปานน้ำผึ้งคนนี้สักหน่อยหากเมื่อมองผ่านเลยไปที่ประตูห้องน้ำใหญ่ สายตาดุดื้อรั้นไม่ยอมคนแต่ซุกซ่อนไปด้วยท่าทีเสนอสนองของนักศึกษาสาวหมวยหมัดหนักอารมณ์ร้อนอย่างน้องฟ้าก็ให้ความรู้สึกน่าขยี้ลิ้มลองไม่น้อย ยิ่งเมื่อเธอมองมาด้วยสายตาเอาเรื่องสื่อความหมายว่าหากไม่เลือกเธอล่ะก็จะต่อยซะเลย ก็ยิ่งกระตุ้นเร้าความรู้สึกอยากกำราบปราบสาวห้าวให้ร้องครางหงิง ๆ ขึ้นมาตะหงิด ๆ กระนั้นเสน่ห์ของสองน้องสาวแสนสวยน่ารักบริสุทธ์สดใสอย่างน้องเมย์และมายด์ก็ไม่อาจจะตัดใจมองข้ามไปได้ สองเด็กสาวอ่อนวัยที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนคนละห้องนั้นจ้องมองมาทางเขาด้วยแววตาระยิบระยับคาดหวังในตัวพี่ชายสุดรักอย่างเขาจนเต็มเปี่ยม และนั่นก็ทำให้เขาไม่อาจตัดใจทำลายความฝันของสองเด็กน้อยด้วยการเลือกคนอื่นได้เช่นกันนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เอกเริ่มรู้สึกเสียใจที่ตัวเองซื้อคอนโดที่กว้างข วางและมีห้องหับหลายห้องขนาดนี้หากทำลายฝาผนังออกเสียให้หมดจนเหลือห้องนอนเพียงห้องเดียวก็คงไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวปวดกบาลแบบนี้แล้ว "พวกเราจะรอนะคะ" เสียงของฝนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก ก่อนที่สาวสวยทั้งหกจะเดินหายเข้าไปในห้องแล้วบานประตูสู่สวรรค์ทั้งหกบานก็ปิดสนิทลงพร้อมเพรียงกัน "เฮ้อ แล้วจะเลือกใครล่ะเนี่ย หญิงในห้องนอนใหญ่ ฝ้ายที่ห้องครัว ฝนระเบียงตากผ้า ฟ้าห้องน้ำ เมย์ห้องนอนกลาง มายด์ห้องนอนเล็ก ... โอย ๆ จะบ้าตาย อยากแยกร่างให้ได้ซักหกร่าง" เอกทิ้งตัวตุบลงไปนอนบนโซฟาแล้วส่งเสียงบ่นพึมพำออกมาด้วยหมดปัญญาที่จะคิดหาทางออกที่จะไม่ทำให้สาว ๆ ขุ่นข้องหมองใจ แต่เมื่อเหม่อมองขึ้นไปบนเพดานห้องก็เห็นร่างวิญญาณของนางตะเคียนและสองเด็กน้อยรักยมกำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่อย่างสนุกสนาน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องแปลกไม่น้อยที่ได้เห็นคู่กัดต่างวัยไม่ทะเลาะกันเช่นเคย ชายหนุ่มจึงส่งเสียงทางจิตตวาดดุหนึ่งผีสาวและสองผีเด็กด้วยอารมณ์ขุ่น ๆ 'ขำอะไรมิทราบ ?' 'พวกหนูก็ขำที่แผนรวบเหมาหมดของพ่อพังไม่เป็นท่าไงจ๊ะ ผู้หญิงของพ่อนี่นับวันจะยิ่งรู้ทันพ่อเข้าไปทุกทีแล้ว พ่อระวังเหอะอีกหน่อยจะแอบหนีเที่ยวไปไหนไม่ได้เอา' 'โอ๊ย ๆ ถ้าไม่คิดจะช่วย ก็ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะเลย คนยิ่งเครียด ๆ อยู่' 'คิก คิก เจ้าหนุ่มน้อยยอดรักของข้างอนเสียแล้ว เช่นนี้คงไม่สนใจหนทางแก้ไขเรื่องราวของเราแล้วกระมัง?' ร่างวิญญาณสีเขียวโปร่งของนางตะเคียนส่งเสียงหัวเราะร่วนขณะลอยร่อนลงมานอนคว่ำหน้าแนบสัมผัสกับร่างเนื้อของชายหนุ่ม 'พี่แก้วมีทางแก้เหรอ งั้นก็รีบบอกมาก่อนเลย' 'หากอยากจะร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น อย่างน้อยก็ต้องพูดจาอ่อนหวานไพเราะหน่อยมิใช่หรือ?' 'พี่แก้วสุดสวย สุดที่รัก ช่วยผมหน่อยนะครับ' เอกเมื่อได้ยินว่ามีหนทางก็ยิ้มหวาน พูดชมนางตะเคียนออกมาไม่ขาดปาก พร้อมกับโอบแขนรัดรั้งรอบร่างวิญญาณของนางตะเคียนเอาไว้ ซึ่งแม้ว่ากายเนื้อและกายวิญญาณจะมิอาจสัมผัสได้โดยตรงหากมิได้ใช้เวทย์มนต์คาถา แต่เพียงเท่านี้นางตะเคียนแสนสวยก็พึงพอใจแล้ว 'คิก คิก หากบอกกล่าวด้วยความรักเช่นนี้แต่ทีแรกข้าก็คงยินดีกระทำการทุกอย่างให้เจ้าเองเสียตั้งแต่แรกแล้ว ... เจ้าลืมไปแล้วหรือไร ว่าเจ้ามีมนตราชั้นสูงอย่างมายามนตร์อยู่ในกำมือ' 'มีน่ะมีอยู่หรอกพี่แก้ว แต่ว่าผมใช้คาถาได้อย่างมากก็แค่สี่บทพร้อมกัน แต่นี่มีตั้งหกคน แล้วจะให้ผมใช้คาถายังไง' 'เจ้าเด็กน้อยอ่อนหัด ฝ่ายตรงข้ามมีหกคน แล้วเจ้ามีเพียงคนเดียวหรือไง เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้ายังมีนางตะเคียนใจดีเช่นข้าและสองเด็กน้อยรักยมที่น่าเกลียดน่าชังนั่นอยู่ข้างเจ้าอีก' 'โห ๆ คุณป้าใจร้ายหน้าเหี่ยวล่ะซิไม่ว่า พวกหนูน่ะยังเด็กน่ารักน่าเอ็นดูนะจ๊ะ ไม่ใช่แก่งั่กจนน่าเกลียดน่าชังแบบป้าแก้ว' 'ไอ้เจ้าพวกเด็กเลว ...' 'เดี๋ยว ๆ ๆ หยุด ๆ ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ... แก้ปัญหานี้ให้เสร็จก่อน แล้วจะไปทะเลาะที่ไหนก็ตามใจ' เมื่อคู่กัดที่ปรองดองกันได้เพียงครู่เดียวเริ่มหันมากัดกันเองอีกครั้ง เอกจึงต้องรีบส่งเสียงตวาดห้ามทัพไว้เสียก่อนไม่งั้นอาจจะบานปลายไปอีกไกล 'ก็ง่าย ๆ จ้ะพ่อจ๋า งานนี้พ่อก็ไม่ต้องเหนื่อยใช้คาถาให้มากด้วย เพราะต้องเก็บแรงไว้ฝึกหนักคืนนี้ แต่อันดับแรก พ่อต้องเลือกก่อน ว่าจะไปหาใครเป็นคนแรก ส่วนคนที่เหลือก็ให้พวกหนูกับป้าแก้วจัดการด้วยมนตร์มายาเอง แค่นี้ทุกคนก็จะคิดว่าพ่อไปหาตัวเองเป็นคนแรกเหมือนกันหมด' เอกพยักหน้าด้วยความรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะนอนนิ่งใช้ความคิดใคร่ครวญอีกครู่ใหญ่ ซึ่งเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีชายหนุ่มก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังบานประตูที่ตัวเองได้เลือกไว้ โดยที่ในเวลาเดียวกันนั้นสองเด็กน้อยรักยม และนางตะเคียนก็เริ่มช่วยกันร่ายมนตร์มายาสร้างภาพหลอกหลอนให้กับอีกห้าสาวที่เหลือ ........................................................... ฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยจัดวางจานกระเบื้องที่เพิ่งถูกเช็ดจนแห้งขึ้นไปวางบนชั้นวางถ้วยชามด้วยดวงตาเหม่อลอย ก่อนจะหันใบหน้าเหลือบมองนาฬิกาในห้องครัวด้วยความรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง ช่วงเวลาห้านาทีที่เดินผ่านไปคล้ายสั้นกระชั้นเพียงชั่วพริบตา หากสำหรับเธอแล้วกลับรู้สึกราวกับเป็นห้านาทีแห่งการรอคอยที่แสนจะยาวนานจนแทบมิอาจทานทนไหว เหลือบมองไปทางประตูห้องครัวก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มที่เธอทั้งรักทั้งหลงจะเปิดประตูห้องครัวเข้ามาหาเสียที แรกทีเดียวเธอก็อดรู้สึกตื่นเต้นคาดหวังไม่ได้ ว่าเขาอาจจะเลือกเธอเป็นคนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านความคาดหวังจึงค่อยพังทลาย และโดนแทนที่ด้วยความรู้สึกหดหู่เศร้าเสียใจ 'สุดท้าย ... เราก็เป็นได้แค่เมียน้อยของเขาซินะ ... ฝ้ายเอ๊ย ตื่นซะทีเถอะ ... พี่เอกเค้ามีน้องหญิงเป็นคนรักอยู่แล้ว ... เธอน่ะเป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้นนะฝ้าย ...' ฝ้ายส่งเสียงรำพันรันทดกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองอ่างล้างจานด้วยดวงตาร้อนผ่าวปริ่มจะร้องร่ำไห้ออกมาด้วยความน้อยอกน้อยใจในชะตาของตัวเอง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายมีสาวสวยเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบอย่างน้องหญิงเป็นคนรักอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังคงมิอาจตัดใจ และแอบหวังว่าจะได้เป็นคนพิเศษของเขาบ้างสักครั้ง ซึ่งความจริงแล้วฝ้ายนั้นถือได้ว่าสวยเด่นไม่แพ้ใคร เรียกได้ว่าเป็นดาวของโรงพยาบาลที่ทำงานอยู่ก็ไม่ผิดเพี้ยน ไม่เพียงมีหน้าสะสวยเพียงอย่างเดียว หากยังมีผิวที่ขาวผุดผ่อง และทรวดทรงองค์เอวที่อวบอิ่มยั่วกิเลสจนชายหนุ่มและแก่ต่างต้องพากันน้ำลายสอนายแพทย์อนาคตไกลไม่รู้กี่คนที่พยายามแจกขนมจีบอยากได้เธอเป็นแฟน ไม่เว้นแม้แต่บรรดาคนไข้ที่ต่างก็หลงเสน่ห์จนแทบไม่ยอมออกจากโรงพยาบาล มีอาเสี่ยหลายคนถึงกับเสนอเงินจำนวนมากเพื่อให้เธอไปเป็นเมียน้อย แต่เธอกลับไม่รู้สึกสนใจผู้ชายเหล่านั้นแม้สักเศษเสี้ยว คล้ายกับว่าหัวใจและร่างกายของเธอมีเพียงที่ว่างเว้นไว้สำหรับเอกเพียงคนเดียวเท่านั้น ครืดดดด เสียงประตูห้องครัวที่ดังขึ้นเพียงแผ่วเบากลับทำเอาพยาบาลสาวแสนสวยอารมณ์โศกถึงกับสะดุ้งโหยง มือไม้ปั่นป่วนขึ้นมากระทันหันจนแก้วน้ำในมือเกือบจะหล่นตกลงไปอ่างล้างจาน แม้จะรู้ตัวแล้วว่ามีคนเข้ามา แต่ฝ้ายก็ยังคงยืนนิ่งหันหลังให้ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง หัวใจของเธอกำลังเต้นส่ำด้วยความปิติยินดีผสมผสานกับความสับสนหวาดหวั่นว่าเขาเลือกมาหาเธอเป็นคนแรกจริงหรือ หรือว่านี่เป็นเพียงความฝันที่หากเพียงเธอหันไป เขาก็จะสลายมลายหายวับไปกับอากาศธาต หรือคนที่เข้ามาคือเพื่อนสาวคนอื่นที่ไม่ได้รับเลือกเหมือนกัน "วันนี้กับข้าวที่ฝ้ายทำอร่อยมากเลย ถ้ารู้ว่าฝ้ายทำอาหารเก่งแบบนี้ คงจะขอให้ฝ้ายเป็นแม่ครัวทำให้กินทุกวันไปแล้ว" น้ำเสียงทุ้มต่ำและสัมผัสของฝ่ามืออันอบอุ่นที่ลูบไล้แตะสัมผัสต้นแขนของเธอราวกับเสียงจากสรวงสวรรค์ ความหวาดหวั่นพลันละลายหายสิ้น เหลือไว้แต่เพียงความตื้นตันยินดีที่ท่วมล้นปรี่ไปทั่วห้วงแห่งอารมณ์สุขสันต์จนอยากร้องกรี๊ดออกมา .... เขาเลือกเธอเป็นคนแรก !!!! "อ้าว ฝ้าย ร้องไห้ทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย?" เขาถามไถ่ด้วยน้ำเสียงห่วงใยพร้อมกับสวมกอดมาจากทางด้านหลัง ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของชายคนรักทำให้เธอเพิ่งได้รู้สึกตัวว่าเธอเผลอเสียกิริยาร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจเสียแล้ว "ไม่เป็นอะไรค่ะ ... คือฝ้าย แค่ดีใจ ... ดีใจที่พี่เอกเลือกมาหาฝ้าย ... แต่แบบนี้จะดีเหรอคะ ... ฝ้ายไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ พี่เอกรีบไปหาน้องหญิงของพี่เอกเถอะค่ะ ฝ้ายเข้าใจดีว่าฝ้ายมาทีหลัง ..." "ฝ้ายอยากให้ไปจริง ๆ เหรอ?" "... ฝ้าย ... ฝ้าย ... ฝ้าย ..." "ถ้าฝ้ายอยากให้ไป ... งั้นพี่ไปหาคนอื่นดีมั้ย?" "ไม่ ... อย่าไปนะคะ ... พี่เอกอย่าเพิ่งไปนะ" ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยโอบอ้อมอารีย์คิดแทนคนอื่นทำให้ฝ้ายรู้สึกลังเลไม่อยากให้ชายคนรักของเธอมีปัญหากับผู้หญิงคนอื่น แต่เมื่อเขาทำท่าจะคลายอ้อมแขนจากไปจริง ๆ เธอกลับใจหายวาบจนต้องรีบคว้าแขนของเขาเอาไว้มิให้เขาถอยหนีหายไปที่ไหนอีก "ฝ้ายนี่ใจดีจังนะ เป็นห่วงแทนคนอื่นตลอด ... แต่ว่าบางครั้งคนเราก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อนบ้างนะ" ฝ้ายแอ่นตัวสยิวเมื่อชายหนุ่มจูบลงที่หัวไหล่ขาวผ่องกลมมนของเธอ หากความสยิวนั้นกลับไม่ได้สักเศษเสี้ยวของความสุขล้นที่ได้ทราบว่าเขาเข้าใจความคิดความอ่านในใจของเธอจนหมด "อืมมม ... ฝ้ายก็แค่เป็นห่วงพี่เอกน่ะคะ กลัวว่าจะมีปัญหากับคนอื่น ... อืมมมม พี่เอก ...." "เรื่องนั้นฝ้ายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ... ขอแค่ฝ้ายรับปากมาสองเรื่องก็พอ รับรองไม่มีปัญหา" "อืมมมมมม ระ เรื่องอะไรคะ .... อืออออ ... ฝ้ายยอมรับปากทุกเรื่องเลย" พยาบาลสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เพราะริมฝีปากของเขากำลังขบกัดไล้ไปตามลำคอขาวเนียนจนเธอขนลุกซู่ "เรื่องแรก ... ห้ามบอกใครว่าพี่มาหาฝ้าย ... สาบานได้มั้ย?" "... ได้ค่ะ ... ฝ้ายสาบาน อะ อืมมมมม ... พี่เอก ..." "ส่วนเรื่องที่สอง ... อย่าร้องครางเสียงดังนักล่ะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเข้า" "... พี่เอกอ่ะ !!! ... อุ๊ยยย อ๊อยยย ซี้ดดสสสส อืมมมมมมม อ๊อยยย" ฝ้ายพยายามส่งเสียงประท้วงด้วยความแง่งอน แต่แล้วก็ต้องเสียวจนตัวกระตุกร้องครางออกมา ยกทรงสีขาวสะอาดของเธอโดนเขาปลดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่คว้าหมับประคับประคองบีบเคล้นขยี้สองเต้าขนาดพอดีมือจนบี้แบน สัมผัสนั้นบ้างลูบไล้แผ่วเบาบ้างบีบขยี้ที่ปลายยอดอย่างหนักหน่วง ความเสียวสยิวจึงแล่นพล่านไปทั่วร่างจนสาวสวยอดไม่ได้ต้องแอ่นอกอวบส่ายเด้งเข้าหา "ฝ้ายขาวจัง ผิวก็เนียน ... โดยเฉพาะตอนที่ฝ้ายยอมแก้ผ้านอนราดน้ำสลัดกับผักบนตัวนี่น่ากินสุด ๆ ไว้ทำแบบนี้อีกนะ" "... ไม่เอาค่ะ แค่นี้ก็อายจะแย่ ... อูยสสสส อะ อึ๊ยยย อูยสสสส" ร่างขาวผ่องนวลเนียนยิ่งดิ้นพล่านหนักหน่วงขึ้น เพราะตอนนี้มือข้างหนึ่งของเขาได้ล้วงลึกเข้าไปสำรวจมุดกางเกงในบีบขยำบดขยี้ติ่งแตดของเธอเข้าอย่างจัง และยิ่งเมื่อเขาสอดปลายนิ้วแหย่ทะลวงความฉ่ำเยิ้มเข้าไปด้านในโพรงสวาท ร่างของเธอก็กระตุกเฮือกเหมือนโดนไฟฟ้าช๊อตอย่างต่อเนื่อง "ฝ้ายจ๋า ... เรามีลูกกันดีมั้ย?" "... ลูก !!!?" ฝ้ายทวนคำว่า "ลูก" ด้วยน้ำเสียงวาบหวิวตื่นเต้นสงสัย ความต้องการส่วนลึกที่แอบเก็บซุกซ่อนไว้ในส่วนลึกของจิตใจกลับโดนเขารื้อฟื้นขึ้นมา ความใฝ่ฝันอันสูงสุดของเธอนั้นคงจะเหมือนผู้หญิงหลายคน นั่นคือแต่งงานกับเขา และมีลูกน้อยวิ่งเล่นอยู่รายรอบ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่กล้าเปิดเผยความฝันนั้นออกมา เพราะสำนึกได้ว่าเธอมีสถานะเป็นเพียงเมียน้อยของเขา จึงมิกล้าเรียกร้องอะไรมากเกินไป แต่มาวันนี้เขากลับเป็นฝ่ายเสนอสิ่งที่เธอใฝ่ฝันอยากได้ให้กับเธอเสียเอง เธอจึงแทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า "อื้มมม ลูก ... ตอนนี้ฝ้ายกินยาคุมอยู่ใช่มั้ยล่ะ หยุดกินดีมั้ย แล้วเรามามีลูกด้วยกัน แต่เรื่องแต่งงานคงต้องรอให้น้องหญิงเรียนจบก่อนนะ แล้วค่อยแต่งพร้อมกัน ... เราปั๊มลูกกันซักโหลนึงเลยก็ได้ จะได้เอาไปตั้งทีมฟุตบอล" "พี่เอกอ่ะ ฝ้ายไม่ใช่หมูแม่พันธ์นะคะ จะได้มีลูกเป็นสิบคน ... อืมมม อ๊อยย .... อูยยยยยสสส ... พี่เอก .. อูยสสส" ฝ้ายส่งเสียงครางประท้วงด้วยความแง่งอน หากขณะนั้นไม่ทราบว่ากระแสความสุขทะลักออกมาจากที่ใด แต่มันกำลังท่วมท้นจนเธอแทบตั้งตัวไม่ติด 'เขาอยากมีลูกกับเธอ' ประโยคนี้สะท้อนก้องสลับไปมาอยู่ในหัวจนสุขล้นยิ่งกว่าครั้งคราใด ยิ่งเขาขยับมือหนึ่งมาลูบหน้าท้องเรียบเนียนของเธอด้วยแผ่วเบาทะนุถนอมราวกับว่ามีเด็กน้อยอยู่ภายใน เธอก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความรักที่กำลังท่วมทะลักล้น "งั้นถือว่าตกลงนะ เรามาทำลูกกันเลยดีกว่า เมียจ๋า" พูดจบฝ้ายก็พบว่าตัวเองโดนจับหมุนหันหน้าไปหาเขา จากนั้นก็โดนเขาจับยกขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างล่างจ้าน ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเขาแอบถอดกางเกงในของเธอออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเปลือยถ่างขาอ้าซ่าเรียบร้อยแล้ว ฝ้ายขัดเขินจนใบหน้าแดงซ่าน เธอยกมือขึ้นปิดบังหน้าอก และโคกสวาทแบบพอเป็นพิธี แต่แววตาก็บ่งบอกว่าพร้อมสนองตอบรับบทรักกับเขาอย่างเต็มที่ "อูยยสสสสส พี่เอกคะ ... อ๊าาาาา อือออออ อูยยยยสสสส" พยาบาลสาวสวยหลับตาปี๋ส่งเสียงร้องครางสะท้าน ร่างของชายหนุ่มขยับเข้ามาประกบแนบติดกับร่างของเธอ ดุ้นเอ็นที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้ากำลังสอดแทรกแหย่แยงเข้ามาในความคับแน่นของร่องสวาทอย่างเชื่องช้า เธอได้แต่ผวาโอบกอดรัดรั้งร่างแกร่งของชายหนุ่มสุดตัว ในหัวมีแต่เพียงสัมผัสรับรู้ถึงแรงตอดรัดที่ขมิบใส่ท่อนเนื้อแกร่ง ตั้งแต่เริ่มสอดใส่ จวบจนกระทั่งสิ่งนั้นสอดลึกเข้าไปจนเกือบสุดทาง "ซี้ดสสสส อ๊อยยย พี่เอก อื๊อออ อืมมม เข้ามาอีก ... อ๊อยยย อีกนิดนึง ... เข้ามาอีกนิดนึง ... อึ๊ยยย ..." ชายหนุ่มหยุดยั้งการเคลื่อนไหวลงชั่วคราวเพื่อให้ร่องรักของอีกฝ่ายปรับตัว แต่พยาบาลสาวสวยกลับพยายามเด้งสะโพกยุกยิกไปมาเพราะรับรู้ได้ว่ายังมีที่ว่างหลงเหลือให้เขารุกล้ำเข้ามาได้อีกหน่อย และการกระทำของเธอก็ประสบผลสำเร็จ ส่วนปลายของดุ้นเอ็นสอดลึกเข้าไปจนสัมผัสลึกถึงส่วนในสุด หลังจากนั้นเสียงครางซี้ดซ้าดที่พยายามกดข่มไว้ก็ค่อยทวีดังขึ้น เช่นเดียวกันกับเสียงกระแทกเอวที่ยิ่งมายิ่งดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกันนั้นเสียงแก๊ง ๆ ของจานชามบนชั้นวางที่กระทบกระทั่งกันเพราะแรงสั่นสะเทือนก็ดังประสานด้วยอีกแรง "อูยยสสส ฝ้ายจ๋าฟิตดีจัง" ชายหนุ่มเสพสมกับร่างงามพลางส่งเสียงร้องครางกระเส่าด้วยความมันส์สะใจ เขาเร่งเดินเครื่องกระแทกบดบี้ไปทั่วทุกทิศทุกทาง เดี๋ยวแยงซ้าย เดี๋ยวแยงขวา เดี๋ยวเสยบน เดี๋ยวเสยล่าง สอดใส่จนร่องรูคับแน่นเล็กจ้อยเปิดอ้าเป็นโพรงขนาดพอดีรับกับดุ้นเอ็นอันเขื่อง "อ๊ายยย ซี้ดดสสส ฝ้ายจะไม่ไหวแล้ว พี่เอก อย่าหยุดนะคะ ซี้ดสสสส" สาวสวยส่ายร่อนสะโพกแอ่นรับการจู่โจมอย่างเต็มที่ เพื่อปลดปล่อยเพลิงไฟที่ใกล้จะระเบิด และเอกก็ตอบสนองเธออย่างเต็มที่เช่นกัน เขาแอ่นเอวอัดกระเด้าท่อนเนื้ออันอวบใหญ่เข้าใส่ร่องหลืบราวกับลูกสูบเครื่องยนต์ สองมือหนึ่งปากก็ลูบโล้มไล้เลียวนปุกเร้าอารมณ์กระสันของเธออย่างต่อเนื่อง "ซี้ดสสส อะ อูวววว อะ อะ อ๊าาาาาาาาาาา" ความหฤหรรษ์สุดเสียวปลุกเร้าจนฝ้ายมิอาจทานทน เธอผวากอดรัดร่างของเขาสุดแรง อ้าปากขบงับหัวไหล่ของเขา เพื่อห้ามมิให้ตนเองเผลอผิดสัญญาส่งเสียงกรีดร้องออกมา ซึ่งมันก็ได้ผลอยู่บ้าง เพียงแต่การห้ามตนเองเช่นนี้กลับยิ่งทำเอากล้ามเนื้อของเธอบิดกระหวัดเกร็งหนักหน่วงกว่าเดิมจนกระตุกเฮือกไม่หยุด "ฝ้ายขี้โกงนี่นา เล่นขึ้นสวรรค์ไปก่อนแบบนี้ พี่ยังไม่เสร็จเลย แล้วแบบนี้จะมีเด็กได้ไง?" ชายหนุ่มพูดหยอกล้อกับสาวสวยขณะจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานรูปไข่ที่กำลังบิดเบี้ยวเหยเกด้วยรสเสียวสุดหฤหรรษ์ แต่เมื่อเธอยังคงตัวกระตุกเร่าระริกมิอาจเอ่ยปากตอบคำ เขาก็ฆ่าเวลาเล่นด้วยการเอื้อมมือไปล้วงควานหาอะไรบางอย่างในตะกร้าผักผลไม้ที่อยู่ใกล้มือ จากนั้นก็กระตุกบั้นเอวกระแทกใส่เบา ๆ พร้อมกับก้มหน้าก้มตาลงไปดูดเลียที่ทรวงอกอิ่มกระตุ้นเร้าอารมณ์ของเธอไปพลาง จนกระทั่งฝ้ายเริ่มคลายจากความเสียว เธอก็มองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม แล้วก็พูดออกมาด้วยท่าทีเอียงอายว่า "... พี่เอกก็ทำอีกหลาย ๆ รอบซิคะ ..." ชายหนุ่มยิ้มกริ่มตอบรับ ก่อนจะจับเอาร่างอ้อนแอ้นบอบบางของพยาบาลสาวแสนสวยหมุนตัวหันหลังให้เขา ผลักเบา ๆ ดันให้เธอก้มหน้าลงไปใช้มือค้ำยันอยู่กับอ่างล้างจาน ฟาดฝ่ามือสะบัดตีเนื้อสะโพกขาวผ่องงามงอนด้วยความแรงพอประมาณจนเนื้อขาวดั่งหยวกแดงปื้น และเมื่อเธอสะดุ้งโหยงอ้าปากหวอออกมา เขาก็จับเอามะเขือยาวขนาดกำลังเต็มปากเต็มคำยัดใส่เข้าไปในปากของฝ้าย พร้อมกับจับดุ้นเอ็นกดพรวดทะลวงจากทางด้านหลังอัดเข้าไปจนเต็มร่องหลืบที่เปียกเยิ้มอยู่แล้ว "อ๊อยยยย .... อืออออ ... อืมมมมม ... อืมมมมมม" เป็นที่แน่นอนว่าสาวหวานใสซื่อเช่นฝ้าย ย่อมไม่เคยมีความคิดอุตริอยากเล่นเซ็กส์กับสิ่งอื่นนอกจากชายคนรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาพืชผักสวนครัวอย่างมะเขือยาว เธอจึงทำท่าจะอ้าปากสะบัดใบหน้าคายเจ้าแท่งแข็ง ๆ อันนี้ออกไปจากปาก แต่เมื่อเขาเร่งเครื่องกระเด้าซอยยิกอัดกระหน่ำแรงขึ้นแรงขึ้น ความกระสันที่กำลังปั่นป่วนก็ทำให้เธออดไม่ได้ต้องใช้ลิ้นเลียดูดวนไอ้เจ้ามะเขือยาวในปากด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน ก่อนจะพานพบว่าการทำแบบนี้มันก็ได้อารมณ์เสียวน่าลิ้มลองไปอีกแบบเหมือนกัน เธอจึงค่อยปลดปล่อยตัวตนส่งเสียงร้องครางผงกหัวเด้งสะโพกโยกเอวไปตามจังหวะแห่งรักที่เขาปรนเปรอให้ เพราะอย่างไรเสียวันนี้เขาก็ได้เลือกเธอให้เป็นคนพิเศษคนแรกก่อนผู้หญิงคนอื่นแล้ว แล้วเธอจะยังต้องการอะไรอีก? นึกเพียงข้อนี้ข้อเดียว ความสุขก็พลุ่งพล่านอยู่ในอกจนล้นปรี่ ร่างกายตอบสนองลีลารักสุดชีวิต ด้วยอยากดูดกลืนเอาน้ำเชื้อของเขาเข้าไปในร่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่กระนั้นบางครั้งสิ่งที่ตัวเองรับรู้ กับสิ่งที่เป็นความจริงก็อาจมิใช่สิ่งเดียวกันเสมอไป เพราะในขณะที่เธอกำลังมีความสุขสุดเสียวจนร่ำร้องเสียงหลงอยู่นี้ เพื่อนสาวร่วมสามีอีกทั้งห้าคน ต่างก็กำลังร่ำร้องครวญครางเสียงหลงอยู่ในห้องหอของตัวเองเช่นเดียวกัน ........................................................... ดวงตาสวยคมของพริตตี้สาวสวยระดับท๊อปของค่ายรถยนต์ยี่ห้อดังเหม่อมองจ้องท้องฟ้าที่ไร้เงาจันทร์จากระเบียงห้องอย่างเงียบเชียบเปล่าเปลี่ยว เรือนร่างบอบบางของนางแบบสาวสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อสายลมพัดผ่านลูบไล้ผิวพรรณเปล่งปลั่งที่แทบมิมีอาภรณ์ห่มสวมคลุม หากเจ้าตัวกลับไม่มีความคิดจะหยิบฉวยเอาผ้าผ่อนที่ตากไว้บนระเบียงห้องมาสวมคลุมคลายหนาวสักนิด ฝนแอบชำเลืองมองไปทางประตูระเบียงอีกครั้งด้วยหวังว่าใครคนนั้นจะเปิดออกมา หากทว่าประตูบานนั้นก็ยังคงปิดสนิทนิ่ง ทิ้งเธอให้จมจ่อมอยู่กับความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเพียงลำพัง นางแบบสาวสวยทอดถอนหายใจจนสองเต้าอวบที่มีเพียงยกทรงสีดำแบบครึ่งเต้ารัดรั้งเอาไว้สั่นกระเพื่อม บั้นท้ายงามงอนที่มีเพียงกางเกงในสีดำตัวเล็กจิ๋วส่ายไปมาอย่างเชื่องช้าตามจังหวะที่เธอส่งเสียงฮัมเพลงจังหวะเร็วร้อนแรงออกมาอย่างเดียวดาย แม้จะแอบทำใจไว้อยู่บ้างแล้ว ว่าพี่เอกของเธออาจจะเลือกไปหาคนอื่นก่อน แต่ก็อดเจ็บแปลบในใจไม่ได้ที่ตนเองถูกมองเป็นเพียงตัวสำรอง เพราะจะอย่างไรเสียเธอเองก็เป็นถึงนางแบบสาวสวยระดับท๊อปที่มีแต่ผู้ชายหมายปองจนนับหัวแทบไม่หวาดไม่ไหว กระนั้นเมื่อต้องมาอยู่ในดงสาวงามที่คล้ายกับฮาเร็มแห่งนี้เธอก็อดไม่ได้ให้รู้สึกสูญเสียความมั่นใจไปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นฝ้ายที่เป็นเพื่อนรักของเธอก็สวยหวานเรียบร้อยดั่งกุลสตรีไทย ที่ไม่ว่าชายใดก็อยากจะได้ไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน ส่วนฟ้าสาวหมวยนิสัยห่าม ๆ คล้ายทอมคนนั้นก็สวยน่ารักสดใสสมวัยไม่ด้อยไปกว่าเธอ น้องมายด์แม้จะยังเด็กกระเปี๊ยกไปบ้าง แต่ก็มองเห็นเค้าลางแห่งความสวยน่ารักน่าหลงไหลอยู่ไม่น้อย คาดเดาได้ไม่ยากว่าอีกไม่กี่ปี น้องมายด์คนนี้จะต้องเติบใหญ่เป็นสาวรุ่นที่สวยสง่าเป็นดารานางแบบได้สบาย ๆ ส่วนด้านน้องเมย์สาวหน้ามัธยมนมมหาลัยนั่นก็อีกคน อายุก็แค่นี้เอง แต่ไม่รู้ว่าไปสรรหาเนื้อนมไข่มาจากที่ไหนจนเธออดไม่ได้ต้องแอบอิจฉาอยากมีหน้าอกหน้าใจที่แทบจะล้นทะลักแบบเด็กสาวรุ่นน้องคนนั้นบ้าง กระนั้นที่สร้างความหนักใจให้กับเธอมากที่สุด ก็คงจะเป็นน้องหญิง คุณหนูไฮโซ ดาวมหาลัยสุดสวยคนนั้น ไม่รู้ว่าทำบุญมาด้วยอะไรจึงได้สวยสมบูรณ์เพียบพร้อมจนมิอาจหาที่ติ รูปร่างหน้าตาสวยสง่าดั่งนางฟ้า หน้าอกหน้าใจก็อวบอิ่มทะลักล้นชวนมอง ผิวพรรณก็ขาวเนียนเป็นประกายระยิบระยับสะอาดตาไปเสียทุกสัดส่วน ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรที่จะทำให้พี่เอกของเธอคลั่งไคล้หลงไหลได้มากกว่าใครอื่น ความเหงาทำให้นางแบบสาวอดคิดถึง 'ป๋า' ของเธอขึ้นมาอย่างกระทันหัน ซึ่งป๋าคนนั้นก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็นคุณพ่อทางสายเลือดของน้องหญิงนั่นเอง หากลองถามตัวเองว่าจะมีใครสักคนที่พร้อมจะโอบกอดเทคแคร์ดูแลเธอตลอดไปแล้วล่ะก็ ฝนก็คงจะนึกถึงป๋าคนนี้เป็นคนแรก ความจริงใจที่เขามีให้ ผนวกกับการกระทำที่คอยดูแลเอาใจเธออย่างอบอุ่นมาตลอดเวลาทำให้เธอรู้สึกวาบหวามใจไม่น้อย อย่างเช่นเช้าวันนี้ เขาก็พาเธอไปเที่ยวเล่นเอาอกเอาใจเสมือนว่าเป็นสามีภรรยากัน แม้จะปิดท้ายได้ไม่ค่อยสวย เพราะเขาพาเธอไปขึ้นเตียงที่บ้าน แล้วชิงเสร็จก่อนเธอไปตั้งสองครั้งก่อนจะหลับผบอยไป โดยที่เธอยังไม่ทันถึงจุดสุดยอดก็ตามที อารมณ์ที่ค้างคาทำให้เธอบ้าบิ่นไม่น้อย เพราะเมื่อลุงสม ชายแก่ผิวดำมะเมื่อมเจ้าของตำแหน่งคนขับรถประจำคฤหาสน์ของป๋าพาเธอมาส่ง เธอก็เลือกนั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วแอบเปิดกระโปรงร่นจนเห็นกางเกงใน วินาทีนั้นเธอยอมรับว่าเธอมีความต้องการสูงมาก ในหัวมีแต่ภาพดุ้นเอ็นสีดำมะเมื่อมของลุงสมเต็มไปหมดจนน้ำลายสอ แต่ลุงสมในวันนี้กลับแปลกไป แม้จะมองเธอด้วยสายตาหื่นกามแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมลงมือทำอะไรสักอย่าง แม้กระทั่งเธอยอมลดตัวทอดสะพานเอื้อมมือไปลูบขาของลุงสมก็แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับเพียงร้องอูยเหมือนเจ็บปวดแล้วขยับขาหนีมือของเธอไปเอง สุดท้ายเธอก็เลยได้แต่สั่งให้ลุงสมมาส่งเธอที่คอนโดของพี่เอกด้วยอารมณ์หงุดหงิด ฝนเคยถามตัวเองหลายครั้งหลายคราว่า ความคิดที่เปิดกว้างเกินไปในเรื่องเซ็กส์ของเธอเป็นสิ่งไม่ดีหรือไม่ ผู้หญิงที่ดีควรจะรักนวลสงวนตัวพลีกายให้ชายเพียงคนเดียวแบบฝ้ายจริงหรือ แต่คำตอบที่ตัวเองได้ก็คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงหัวโบราณแบบนั้น เธอรู้สึกพอใจป๋า เธอก็ร่วมรักด้วย ต่างคนต่างมีความสุขแล้วก็จบกันไปเมื่อเธอมีความต้องการ ลุงสมสามารถช่วยเหลือเธอได้ แล้วหากเธอจะใช้เขาให้เป็นที่ระบายอารมณ์เปลี่ยวแล้วเธอผิดตรงไหน เพราะทีผู้ชายยังมีผู้หญิงไว้ระบายความใคร่ได้ตั้งหลายคน เธอต้องการมีชีวิตที่อิสระ อยากจะไปโบยบินไปที่ไหนก็ได้มากกว่าที่จะโดนล่ามตรวนอยู่กับที่ แต่เธอก็ยังคงแอบหวังเอาไว้ ว่าพี่เอกคนที่เธอหลงรักและแคร์ที่สุดในโลกจะยอมโบยบินเคียงคู่ไปกับเธอด้วย ใช่แล้ว เขาคนนี้แหละที่เธอต้องการ ... ฝนหลับตาพริ้มคิดจินตนาการถึงพี่เอกตั้งแต่แรกพบ ร่างอวบอิ่มสะท้านใจชายสั่นน้อยระริกเมื่อนึกไปถึงเจ้าท่อนเนื้อดุ้นใหญ่ของเขา เธอยังจำความรู้สึกสุดยอดตอนที่มันเสียบกระทุ้งใส่เข้าไปในตัวเธอได้เป็นอย่างดี มันเสียวสุดยอดยิ่งกว่ารสเสียวที่ได้รับจากชายใดนับร้อยนับพันเท่า ซึ่งเพียงแค่เธอนึกถึงเท่านั้นท่อนขาขาวเรียวยาวก็เริ่มขยับเบียดเข้าหากันแน่นขึ้นด้วยความรู้สึกวาบหวิวปั่นป่วนที่ร่องหลืบ "อะ ... อาา ... พี่เอกใจร้าย ... ซี้ดสสส ฝนเงี่ยนจัง ... อูววว ... ใครก็ได้มาช่วยที" สาวสวยร้องครางซี้ดซ้าดด้วยอารมณ์เปลี่ยวอยู่ตรงระเบียงห้อง เมื่อเธอเลื่อนมือลงไปด้านล่างตรงกลางหว่างขา มือนุ่มนิ่มบีบคลึงโหนกเนื้อนูนเบา ๆ ปลายนิ้วเบียดกลีบเสียวแทรกเข้าไปด้านใน เธอคว้านปลายนิ้วไปมาในโพรงสวาทที่เปียกชุ่มฉ่ำ ก่อนที่จะใช้อีกมือเอานิ้วมาวน ๆ บดบี้รอบ ๆ ติ่งเสียว ความเสียวซ่านรุมเร้าเข้ามามากขึ้นและมากขึ้น สะโพกอวบอัดส่ายร่อนไม่อยู่นิ่ง พร้อมกับสองขาที่ยิ่งถ่างอ้าออกกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ มือน้อย ๆ เร่งรีบถูไถไปมาทั่วเนินเสียวเร็วขึ้น แรงขึ้น ดวงตาคู่สวยสอดส่ายกวาดมองลงไปยังเบื้องล่างที่มีแสงไฟจากหน้ารถวิ่งสวนไปมาขวักไขว่ หากทว่าไม่มีใครสักคนเลยที่จะมองเห็นเธอ หัวใจของเธอตะโกนร่ำร้องภาวนา เธออยู่ตรงนี้ จะมีใครสักคนไหมที่จะมองเห็นเธอ และมาช่วยเธอระบายความงุ่นง่าน จะเป็นใครก็ได้ ขอให้มาช่วยให้เธอเสร็จได้ก็เพียงพอแล้ว พริบตานั้นบังเกิดฟ้าแลบสว่างวาบทำลายความมืดขึ้นมาแวบหนึ่ง ฝนสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อเสี้ยววินาทีนั้นเหลือบไปมองเห็นเงาร่างของใครอีกคนปรากฎขึ้นมาอย่างกระทันหันที่ข้างกายของเธอ หากเมื่อแสงจากฟ้าแลบนั้นหายไป ความมืดมิดก็ห่มคลุมเข้ามาปกปิดระเบียงห้องจนมืดสลัวอีกครั้ง เสียงเปรี๊ยะของฟ้าแลบเพิ่งมาถึง ฝนก็ถอยกรูดหนีเงาร่างดำมืดทะมึนที่ขยับใกล้เข้ามาจนสะโพกผึ่งผายชนกระแทกเข้ากับราวระเบียง เธอสลับมองไปยังประตูระเบียงด้วยความงุนงง ประตูระเบียงไม่ได้เปิดออกอย่างแน่นอน และนั่นก็หมายความว่าเงาร่างนี้ไม่ได้ออกมาจากห้องพัก หรือว่าจะปีนมาจากระเบียงห้องข้าง ๆ ? "ใครน่ะ อย่าเข้ามานะ" ฝนพูดขู่ด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว แต่เจ้าเงาร่างนั้นก็มิได้ตอบอะไร นอกจากส่งเสียงหัวเราะร่วนที่คล้ายคุ้นเคยคล้ายไม่คุ้นเคยออกมา แต่ที่เธอรู้ได้ตอนนี้ก็คือเจ้าเงาร่างนั้นจะต้องเป็นผู้ชายแน่นอน "ว้ายยยย !!!" พริตตี้สาวร้องเสียงหลง เมื่อชายคนนั้นเอื้อมมือมาคว้าจับแขน แล้วเหวี่ยงร่างเกือบเปลือยของเธอจนร่างด้านหน้ากระแทกชนเข้ากับประตูระเบียงที่เป็นกระจกใสดังตุบ จากนั้นร่างในเงามืดก็ตามติดเข้ามาแนบประกบร่างของเธอจากด้านหลัง มือข้างหนึ่งหยิบฉวยเอากางเกงในผ้าลื่นที่ตากไว้มายัดปิดปากของเธอ ในขณะที่อีกข้างก็คว้าจับล๊อคบริเวณหน้าท้องของเธอราวกับคีมเหล็กจนกระดุกกระดิกร่างแทบไม่ได้สักนิด "สวย เซ็กส์ซี่ น่าปี้ขนาดนี้ ทำไมมายืนตกเบ็ดอยู่คนเดียวล่ะจ๊ะคนสวย?" น้ำเสียงหื่นกระหายของชายปริศนาคนนั้นกระซิบดังที่ข้างใบหู เป็นอีกครั้งที่ฝนรู้สึกว่าน้ำเสียงนั้นคลับคล้ายกับพี่เอกของเธออยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เธอจึงพยายามออกแรงดิ้นรนต่อต้านขัดขืนอ้อมกอดนั้น แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงไร ร่างของเธอก็ยังคงโดนกดแนบกับบานประตู และได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขาเช่นเดิม "อื๊อออออ ..... อื้อออออออ .... " ฝนพยายามส่งเสียงประท้วงต่อต้าน หากแต่เมื่อมีผ้ายัดอยู่ในปาก เธอจึงได้แต่เพียงส่งเสียงร้องห้ามปรามดังอู้อี้อยู่ในลำคอ ร่างนางแบบสะดุ้งเฮือกเมื่อชายคนนั้นกระชากดึงยกทรงสีดำของเธอดังปึ้ดจนขาดหลุดลุ่ยออกไปจากร่าง ไม่ทันที่เธอจะขัดขวางได้ทัน ร่างท่อนบนของเธอก็เปล่าเปลือยอวดเต้านมกลมกลึงออกมาท้าทายสายลมหนาวเสียแล้ว หากนั่นดูเหมือนจะยังไม่สาแก่ใจของอีกฝ่าย เพราะพริบตาถัดมากางเกงในที่เป็นอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายบนร่างก็โดนเขาออกแรงกระชากทีเดียวหลุดลุ่ยออกจากร่างเธอไปเช่นกัน "อื๊ออออออ ..... อื้อออออออ .... " พริตตี้สาวร้องเสียงหลง เขาเดินหน้าอัดแนบร่างเข้าหาเธอมากขึ้น ดันร่างเปล่าเปลือยของเธอจนแนบเข้ากับบานประตูกระจกใสจนแทบหายใจหายคอไม่ออก สองเต้าอวบอิ่มขนาดกำลังดีโดนกดบดเบียดจนแทบบี้แบนอยู่ตรงนั้น ปลายนิ้วของผู้บุกรุกก็ร้ายเหลือ เพราะเผลอคลายการหนีบขาเพียงพริบตาเดียว ก็โดนปลายนิ้วของเขากดแทรกเกี่ยวแยงเข้าไปซอยยิกในร่องเสียแล้วเมื่อปราการป้องกันด่านสำคัญพังทลาย ฝนก็แทบไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านอีกแล้ว เพราะยิ่งเธอพยายามฝืนหนีบขาเข้าหากัน นิ้วของเขาก็ยิ่งครูดคราดกับผนังร่องด้านในแรงขึ้นจนเสียวซี้ดน้ำไหลเยิ้ม กระตุกเร่าไปทั้งตัว นอกจากนี้ที่ด้านหลังก็ยังมีท่อนเนื้อที่แข็งและร้อนผ่าวดุจแทงเหล็กกำลังเบียดอยู่กับร่องก้นของเธออีกทาง และเท่าที่สัมผัสได้นั้นดุ้นของชายคนนั้นก็ใหญ่ไม่น้อย "อูวววว ... อื้อออออ ... อูววววว" ฝนสูดปากสั่นระริกตัวเกร็งแล้วเกร็งอีก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอหยุดเคลื่อนไหวต่อต้านขัดขืน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังจะโดนใครก็ไม่รู้ข่มขืนกระทำชำเรา แต่ความเสียวที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างนั้นก็ยากจะให้ทำการปฎิเสธได้ เลือดเนื้อวัยสาวคล้ายกำลังพออกพอใจกับสัมผัสกระด้างร้อนแรงของอีกฝ่าย และเธอเองก็เช่นกัน เธอกำลังตื่นเต้นมีอารมณ์ร่วมไปกับการโดนข่มขืนด้วยเสียแล้ว "เงี่ยน ยอมแล้วล่ะซิ?" ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงหื่น ที่ฝนรู้สึกอีกครั้งว่ามันฟังดูคุ้นหูไม่น้อย เขาหายใจส่งเสียงฟืดฟาดหนักหน่วงขณะอ้าปากงับกัดซุกไซร้ไล่ไปตามซอกคอของเธอแล้วกัดฝากรอยฟันเอาไว้เป็นหย่อม ๆ จนเธอสะดุ้งโหยงรอบแล้วรอบเล่า แต่การกระทำนั้นกลับสร้างความเสียวระทึกเร้าใจให้กับเธอได้มากมายเหลือเกิน มากเสียจนน้ำรักหลั่งไหลออกมาจากร่องจนแฉะเยิ้มยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ครั้งไหน ๆ "อะ อูยยสสส อะ อูยยยสสสส อูยยสสส" ฝนร้องครางออกมาเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายสอดแทรกความใหญ่ยักษ์ยัดเยียดเข้าไปในร่องของเธอจากด้านหลังแบบไม่ให้เตรียมเนื้อเตรียมตัว จากนั้นก็ได้แต่อ้าปากค้างน้ำลายสอเพราะโดนเขากระเด้ากระแทกเข้าใส่แบบไม่ยั้ง เนื้อหน้าขาของเขากระแทกสะโพกก้นของเธอดังปั่บปั่บถี่ยิบ ร่างของเธอก็กระแทกกับประตูกระจกดังกึกกึกไม่หยุด แต่เสียงที่ฟังดูเร้าใจที่สุดก็คงเป็นเสียงของสองเต้าที่เบียดถูไถกับกระจกเรียบลื่นดังกี๊ด ๆ เหมือนกับตอนใช้ฟองน้ำขัดถูกับกระจก “อะ. อะ อะ อะ.อะ... ซีดสสสส ...... อูววว ... อูวววว ... อูวววว ... เสียว อูวววว เสียว ซี้ดสสสสส” เหมือนอีกฝ่ายจะเห็นเธอเป็นเนื้อในเขียง จึงล้วงมือเอากางเกงในที่ยัดปากเธอไว้ออกมาโยนทิ้ง เมื่อปากเป็นอิสระแทนที่จะร้องห้าม กลับเอาแต่ส่งเสียงเสียงครางรับกับจังหวะการโหมกระเด้าของชายหนุ่มที่ค่อยเร่งความเร็วขึ้นโดยไม่มีการหยุดพัก ป้าบ ป้าบ ป้าบ เสียงกระแทกดังสนั่นถี่ยิบ ผสานผสมกับเสียงเนื้อนมเต่งเบียดถูกับเนื้อกระจก แต่เสียงเหมือนใช้ฟองน้ำถูกระจกก็ส่งเสียงดังเพียงไม่นานนัก เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนใจเอื้อมมือมาบีบขยำขยี้จนนมต้มแทบปริแตก “โอ๊วววววสสสสส เสียว อะ อู๊ววววววววววววววว ซี้ดดสสสสสสสส อะ อูววววว จะเสร็จแล้ว อะ อะ โอ๊ววววว” ฝนใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกในความกระสันที่ใกล้ระเบิด ปลายเล็บทั้งสิบเกร็งจิกเข้าหาแผ่นกระจกใส ขณะพยายามอ้าสองขาถ่างออกจนสุดหล้า พร้อมกับร่อนแอ่นโคกสวาทเข้าหาอย่างร้อนร่าน ด้วยอยากให้อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามาให้ลึกจนสุดทาง และเมื่อโดนเขากระเด้าอย่างเมามันส์อีกเพียงครู่เดียว พริตตี้สาวก็หวีดร้องออกมาสุดเสียงร่างขาวโพลนเต่งตึงยังไม่ทันจะคลายจากอาการเกร็ง ก็โดนเหวี่ยงสะบัดไปยืนโก้งโค้งที่รั้วระเบียง ร่างท่อนบนอันเปลือยเปล่าโดนกดโน้มก้มออกไปด้านนอกระเบียงจนหมิ่นเหม่ว่าจะร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง แต่ท่อนล่างนั้นกลับโดนโดนยึดตรึงไว้อย่างแน่นหนาด้วยร่างอันแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ส่วนสองมือก็โดนเขาจับยึดขึงรั้งร่างของเธอไว้ราวกับสะพานแขวน เขาเริ่มโยกเอวกระหน่ำกระแทกรัวใส่อีกครั้งแบบไม่ถามไถ่สักคำ ฝนนั้นแม้จะกลัวแทบแย่ว่าร่างจะร่วงหล่นลงไปเบื้องล่าง แต่ก็อดไม่ได้ให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจในลีลาดิบเถื่อนสุ่มเสี่ยงในแบบที่ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน เรือนร่างมากราคะของเธอจึงเด้งแอ่นกระดกสะโพกโยกเอวตอบสนองลีลารักของเขาสุดชีวิตฝนแทบจะสลบเหมือดให้กับสุดยอดแห่งความหฤหรรษ์ในครั้งนี้ เพราะนอกจากเธอจะตื่นเต้นมีอารมณ์ร่วมสุดฤทธ์แล้ว อีกฝ่ายก็ยังมีความอึดถึกทรหดอดทนและลีลาดีเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง บัดเดี๋ยวก็กระแทกไปทางซ้าย แล้วก็ย้ายไปทางขวา บ้างเสยขึ้น บ้างเสยลง มีเร่ง มีผ่อน มีหนัก มีเบา มีลึก มีตื้น เรียกได้ว่าทุกจุดเสียวในร่องสวาทคงไม่มีจุดไหนเลยที่สามารถหลบซ่อนเร้นจากสัมผัสแข็งกระด้างของดุ้นเอ็นยาวใหญ่ดุ้นนี้ได้ เขากระเด้าไม่หยุดจนพริตตี้สาวเสร็จสมส่งเสียงหวีดร้องติดกันอีกสองรอบ ก่อนจะดึงครึ่งร่างที่ห้อยโหนอยู่กลางอากาศกลับมาเข้ามาด้านใน ร่างอวบอัดที่อ่อนแรงกระปลกกระเปลี้ยโดนพยุงลงนั่งบนร่างของเขาที่นั่งพักอยู่บนเก้าอี้ เธอสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนแห่งราคะจากร่างของเขาผ่านแผ่นหลัง สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งแห่งเรือนร่างเพศชาย สัมผัสได้ถึงอารมณ์กลัดมันที่ยังคงอัดแน่นจนล้นปรี่ในร่างนั้น ซึ่งก็แน่ล่ะ เพราะเขายังไม่เสร็จเลยสักครั้ง "ร่านจังเลยนะ" เสียงแหบกระด้างที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ หึ หึ ทำเอาฝนรู้สึกฉุนกึกอยากจะต่อว่าอีกฝ่ายขึ้นมาบ้าง แต่ร่างกายกลับอ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงจนแทบทำอะไรไม่ไหว อีกทั้งยังไม่มีคำพูดอะไรจะไปแก้ตัวกับเขาด้วย เพราะเธอก็ร่านจริง ๆ อย่างที่เขาว่าน่ะแหละ มีอย่างที่ไหนดันไปมีอารมณ์ร่วมกับใครก็ไม่รู้ที่มาข่มขืนเธอ "อยากโดนอีกมั้ย? " เขากระซิบถามเสียงอ่อนหวานลงขณะพรมจูบซุกไซร้ไปทั่วใบหูและปรางแก้ม สองมือก็เริ่มทำตัวซุกซนบีบขยำขยี้ลูบไล้ไปตามเรือนร่างจนเธอเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่จะอย่างไรเธอเองก็เป็นผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรีในตัวเองอยู่บ้าง อีกทั้งก็เผลอตัวจนได้ระบายความอยากออกไปไม่น้อย ก็เลยพยายามฝืนใจตัวเองตอบปฎิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้า "... ไม่ ..." "แน่ใจนะ ว่าไม่อยาก เอ้า ให้ตอบใหม่ ถ้ายังตอบว่าไม่อีกที ก็จะไปแล้ว" "........ ไม่" ฝนลังเลอยู่ครู่ใหญ่ แต่สุดท้ายก็รวบรวมสติพูดปฎิเสธไปได้จนสำเร็จ กระนั้นในใจเธอกลับคิดไปว่า ต่อให้เธอปฎิเสธยังไง อีกฝ่ายก็คงไม่มีทางปล่อยเธอไปให้โง่อยู่แล้ว "โอเค งั้นไปล่ะ เหตการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เพราะอีกฝ่ายกลับทำตัวว่าง่ายขึ้นมากระทันหัน เขาพูดเสียงอ่อนหวานแล้วหอมแก้มของเธอหนึ่งฟอด ก่อนจะลุกขึ้นยืน ปล่อยวางร่างเปลือยของเธอนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้แบบไม่มีท่าทีลังเลสักนิด แถมยังหันหลังเดินไปทางรั้วระเบียงทำท่าเหมือนจะปีนออกไปห้องข้าง ๆ อีกต่างหาก ฝนที่เพิ่งโดนข่มขืนมาหมาด ๆ ก็เลยต้องกลายเป็นฝ่ายส่งเสียงยื้ออีกฝ่ายไว้แทน ".. ดะ ... เดี๋ยว ... นาย ..." "ว่าไง?" "... นายจะไปไหน ? อยู่ห้องข้าง ๆ นี้เหรอ?" "อย่างอื่นไม่อยากคุย ขอถามคำเดียวว่าอยากโดนอีกมั้ย? ตอบมาให้ชัด ๆ" "..." "งั้นไปล่ะนะ" ฝนรู้สึกสับสนปั่นป่วนจนแทบคลั่ง อีกฝ่ายทำตัวคล้ายสายลมที่คิดจะมาก็มา พอปลุกปล้ำข่มขืนเธอจนสำเร็จแล้วก็จะจากไปอย่างไม่ใยดี ทั้งยังพยายามบีบให้เธอเป็นฝ่ายออกปากร้องขอเองอีกต่างหาก แต่เธอก็อดแอบแค้นตัวเองไม่ใช่น้อย ที่ดันเผลอตัวไปติดอกติดใจลีลารักของชายในเงามืดคนนั้นเสียแล้ว "เดี๋ยว ... อย่าเพิ่งไป" "เอ้า โอกาสสุดท้ายแล้ว ว่ายังไงบอกมาให้ชัด อยากโดนอีกมั้ย?" "... อื้มมม ..." "อื้ม อะไร?" "..... อื้มมม ... อยาก" "อยากโดนอะไรล่ะ?" "ก็อยากโดนนายเย็ดนั่นแหละ จะทำหรือไม่ทำล่ะ" ฝนตอบน้ำเสียงอ่อนลงด้วยความขวยเขิน แต่อีกฝ่ายกลับเร่งจี้ถามแบบไม่คิดเปิดช่องให้เธอบ้างเลยสักนิด พริตตี้สาวสวยก็เลยอดตอบแบบขึ้นเสียงด้วยความโกรธเคืองไม่ได้ กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงเอาแต่หัวเราะร่วนพออกพอใจไม่สนอารมณ์โกรธของเธอสักนิด "อยากโดนก็จัดให้" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับเงามืดของชายคนนั้นที่ขยับวูบใกล้เข้ามา ฝนแอบรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เปิดไฟเอาไว้แต่แรกก็เลยมองไม่เห็นใบหน้าของสามีคนล่าสุดสักนิดว่าจะน่าเกลียดหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเท่าที่ได้สัมผัสแตะต้องก็พอจะบอกได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแรงกำยำใช่เล่น เขาจับเธอขึ้นมาอยู่ในท่ายืน แล้วสวมกอดจูบบดปากจนเธอหัวหมุน เรียกได้ว่าลีลารักของชายในเงามืดคนนี้ไม่แพ้พี่เอกของเธอเลยสักนิดเดียว อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยความรู้สึกดิบถ่อยเถื่อนเร้าใจอีกต่างหาก จูบของเขาปลุกเร้าจนร่างกายของเธอตื่นตัวอย่างรวดเร็ว จนอดไม่ได้ต้องสนองบดปากจูบแลกลิ้นตอบกับเขาด้วยความเร่าร้อนราวกับจะพยายามกลืนกินซึ่งกันและกัน แต่ไม่นานนักเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้แล้วฉุดรั้งเธอลงไปนั่งทับหันหน้าเข้าหากันอยู่บนร่างของเขา ฝนรับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการให้เธอทำอะไร และเธอเองก็ไม่มีเหตผลที่จะไม่กระทำ เพราะกำลังมีอารมณ์ร่วมจะแย่ พริตตี้สาวขยับยกยันตัวขึ้นเล็กน้อย ใช้มือควานหาจับดุ้นยาวใหญ่ของเขาจากเงามืดตั้งลำขึ้นด้านบน แล้วค่อย ๆ หย่อนกายลงทาบทับ ใช้ร่องรูเล็กคับกลืนกินไถลไปตามความยาวใหญ่จนหายเข้าไปทั้งลำลึงค์ เสียงสูดปากซี้ดซ้าดมันสะใจในอารมณ์แว่วกระเส่าไปพร้อมกับอาการสั่นกระตุกของร่างกาย ทั้งจุกเสียดในท้องน้อย และเสียวสยิวหนักหน่วงกว่าเดิม ยิ่งเขาสะบัดมือตีสะโพกก้นของเธอเสียงดังเพียะจนสะดุ้งโหยง เธอก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ อดไม่ไหวต้องจิกปลายนิ้วทั้งสิบลงบนแผ่นหลังของเขา หากการเล้าโลมยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เขาก้มหน้าอ้าปากขบงับเนื้อนิ่มบนอกอวบรอบแล้วรอบเล่าฝากรอยฟันอันอ่อนจางจนถ้วนทั่วบริเวณ มันเป็นความเจ็บแปลบเพียงแผ่วเบา ที่มาพร้อมกับความสุขเสียวหฤหรรษ์ ฝ่ามือที่ฟาดตีบั้นท้าย คล้ายแส้ที่หวดใส่ม้าแข่ง บั้นท้ายกลมกลึงยิ่งโดนหวดฟาดก็ยิ่งยกโยกขย่มโถมทับดุ้นเอ็นเร็วขึ้นถี่ขึ้น และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฝนได้ตระหนักว่า เธอเสพติดชื่นชอบบทรักที่ดิบเถื่อนแรงถึงใจแบบนี้เสียแล้ว “โอ๊วววววสสสสส เสียว อะ อู๊ววววววววววววววว ซี้ดดสสสสสสสส เสียวจัง อูยยยสสสส ... เอ๊ะ !!!!?" พริตตี้สาวสวยรีดเร้นพลังออกมาเร่งโยกขย่มเข้าใส่จนสุดตัว ขณะที่อีกฝ่ายก็ช่วยกระตุ้นอารมณ์ด้วยการบีบเคล้นขยำขยี้สองเต้าของเธออย่างเมามัน และเมื่อความเสียวสยิวพุ่งขึ้นใกล้ถึงขีดสุด ก็ปรากฎแสงฟ้าแลบแปลบปลาบขึ้นมาอีกครั้ง และมันก็ช่วยเปิดเผยใบหน้าของชายที่ถูกเงามืดปิดบังออกมาให้เธอเห็นได้ชัดเจนเป็นครั้งแรก ฝนอ้าปากเหวอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่บั้นท้ายก็ยังคงขยับโยกขย่มไปตามคำสั่งแห่งอารมณ์กระสัน เธอก้มลงใช้มือจับใบหน้าของเขา ประกบปากจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม ก่อนจะส่งเสียงร้องครางลั่น จิกปลายนิ้วทั้งสิบลงบนไหล่ของอีกฝ่ายจนเป็นริ้วรอยแด้งจ้ำ ร่างนางแบบสั่นสะท้านระริก กระตุกเฮือกรอบแล้วรอบเล่าขณะเหยียบย่างถึงเขตแดนแห่งสรวงสวรรค์ชั้นเจ็ด จากนั้นจึงฟุบหน้าลงไปแนบหอบหายใจกระเส่ากับแผงอกกำยำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกำลังละเมอออกมาว่า "พี่เอก ... พี่เอก จริงเหรอ?" "อื้ม ... ตื่นเต้นดีมั้ยล่ะ จัดฉากเหมือนโดนข่มขืนแบบนี้? เหมือนจะมีอารมณ์ร่วมน่าดูเลยนี่นา" เมื่อสิ้นเสียงทุ้มต่ำอันคุ้นเคย ฝนจึงค่อยแน่ใจว่าอีกฝ่ายคือพี่เอกสุดที่รักของเธอจริง ๆ เธอจึงขยับใบหน้าขึ้นไปจูบดูดปากแลกลิ้นกับเขาอีกครั้ง แล้วพูดปฎิเสธด้วยความขัดเขิน "เปล่าซะหน่อย ... " "จริงอ่ะ?" "ไม่รู้ไม่ชี้ ... แล้ว ... ทำไมพี่เอกมาหาฝนล่ะ? ไม่ไปหาน้องหญิง ฝ้าย หรือน้องเมย์แทนเหรอ?" ฝนพยายามพูดบ่ายเบี่ยง ไม่อยากจะทำใจยอมรับว่าเธอแอบชื่นชอบความรู้สึกที่โดนกระทำชำเราแบบดิบเถื่อนมากเหลือเกิน "แล้วทำไมจะมาหาฝนไม่ได้ล่ะ?" "พูดแบบนี้ เดี๋ยวสาว ๆ คนอื่นโกรธเอา ฝนไม่รู้ด้วยนะ" แม้ว่าตรงระเบียงห้องจะมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร แต่ฝนก็ยังอดไม่ได้ต้องซุกใบหน้าลงแนบกับแผงอกของเอกเพื่อปกปิดรอยยิ้มยินดีบนใบหน้า สองแขนกอดกระชับร่างของเขาแน่นขึ้น สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วจะมีอะไรน่าดีใจกว่าผู้ชายที่ตัวเองรักเห็นความสำคัญของตัวเองมากกว่าคนอื่นอีกล่ะ "ถ้าฝนไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอก ฝนสัญญาได้มั้ย ว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด?" "ไม่เอา ฝนอยากให้ทุกคนรู้ว่าพี่เอกมาหาฝน" "ว้าาา งั้นรีบไปปลอบคนอื่นก่อนดีกว่า" เอกพูดพลางทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นยืน ฝนก็เลยต้องรีบตอบตกลงเป็นพัลวัน "เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวค่ะพี่เอก ฝนสัญญาก็ได้ แต่พี่เอกอย่าเพิ่งไปไหนนะ" "ดีมากคนเก่ง ... หนาวมั้ย อยากเข้าไปข้างในหรือเปล่า ตรงนี้ลมเย็นน่าดู" "ไม่เข้า อยู่ตรงนี้ดีแล้วกอดกันแบบนี้ยังไงก็ไม่หนาว" "แค่กอดเฉย ๆ เองเหรอ?" เอกพูดกระซิบที่ข้างหู แล้วใช้ลิ้นเลียวนแหย่แยงเข้าไปจนฝนตัวสั่น เธอก็เลยตอบโต้กลับด้วยการเริ่มขย่มโยกบั้นเอวกลืนกินดุ้นอันเขื่องของเขาอีกครั้ง เรือนร่างขาวโพลนของพริตตี้สาวดีดเด้งรอบแล้วรอบเล่า ริมฝีปากบางสูดปากร้องซี้ดด้วยความปิติยินดีที่เธอได้รับเลือก ปลดปล่อยอารมณ์เตลิดหลงเข้าไปในส่วนลึกบ่วงกามโลกีย์ที่ไร้จุดสิ้นสุด โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยว่าแท้ที่จริงแล้ว เวลาเดียวกันนี้เพื่อนร่วมสามีอีกทั้งห้าคน ต่างก็กำลังมีร่วมรักเสพราคะอยู่กับชายหนุ่มคนเดียวกันทั้งนั้น .......................................................................................

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบจัยจ้า