ขายของ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผมถูกเลี้ยง ต้อยภาค2 ตอนที่4 จบ

ผมเข้าใจเรื่องการร่วมรักมากขึ้นมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นแต่พร้อมกันนั้นผมก็ รู้จักที ่จะเลือกวันเวลากำหนดวันเวลาไม่ปล่อยไปตามความต้องการของอารมณ์ พ่อและแม่ช่วยผมมากในเรื่องนี้ จนเดี๋ยวนี้เวลาผ่านมาเข้าเทอมสุดท้ายของปีที่สองของการเรียนในระดับมัธยม ปลาย วันเวลาที่ผมมีโอกาสที่จะร่วมรักดูเหมือนว่าพ่อจะกำหนดตามตารางเรียนของผม หลายเดือนม าแล้วที่ผมสังเกตว่าวันใดที่ผมมีตารางเรียนที่ค่อนข้างจะหนักก่อนหน้านั้น หนึ่งคืน การร่วมรักของผมจะเป็นไปอย่างสุดๆแม่ปล่อยอารมณ์ทุกอย่างเต็มที่กระเจิด กระเจิงไปกับ ความเสียวซ่านสุขสมของผม โดยเฉพาะกับในคืนวันศุกร์ด้วย แล้วเป็นคืนที่แม่และพ่อสละให้กับผมจริงๆ &n bsp; โชคดีที่ผมถูกสอนให้รู้จักเวล่ำเวลารู้จักอดกลั้นผลการเรียนของผมจึงอยู่ใน ระดับดีถึ งดีมากพร้อมๆกับการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายผมแข็งแกร่งเติบใหญ่ การร่วมรักเป็นสิ่งที่วิเศษแต่แม่และพ่อย้ำเตือนเสมอเพื่อให้ผมรู้ว่าเซ็กส์ ไม่ใช่เป ็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ คงจะเป็นเช่นเดียวกับอาหารในแต่ละมื้ออร่อยวิเศษวิโสแค่ไหนก็กินได้เท่าที่ ร่างกายต้ องการอาหารถูกปากเรากินบ่อยแค่ไหนก็ได้เช่นเดียวกับการร่วมรักบ่อยครั้ง เท่าไรก็ได้แ ต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราต้องการหรือทุกครั้งที่เราอยาก การที่ผมรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์รู้จักท่าทางต่างๆที่จะเสริมให้มีความสุข ในการร่ว มรักพูดได้ว่าแม่คือผู้สอนในภาคปฏิบัติพ่อคือผู้สอนในภาคทฤษฏี ในโรงเรียนเมื่อมีเวลาว่างเพื่อนรุ่นเดียวกับผมมีแต่เรื่องคุยกันเรื่องเพศ เรื่องเซ็ กส์เรื่องร่วมเพศ เรื่องการช่วยตนเอง บางคนมีเรื่องเล่าเหมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญในเกมกาม กับผมแล้วได้แต่อือออรับฟังโดยไม่ออกความเห็นทั้งขัดแย้งหรือสนับสนุน หลายคน พูดกับผมมองผมกระเซ้าเย้าแหย่ผมในเรื่องพวกนี้ว่าผมเป็นคนอ่อนต่อโลก สิ่งที่ผมทำได้คือยิ้มรับแต่ก็มีอยู่คนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะรู้เท่าทันผม ไม่ใช่เพื่ อนผมแต่เป็นครูสอนพละและวิชาเพศศึกษาเป็นครูสาว เรื่องที่เพื่อนบางคนเอามาเล่าผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นฟังคนอื่น อ่านจากหนั งสือหรือเขาอาจจะมีประสบการณ์จริงๆเช่นเดียวกับที่ผมมี ไม่มีใครบอกได้แน่นอนที่เรื่องของผมก็ยังเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่สามคนพ่อ แม่และผม แต่วันหนึ่งก็มีบุคคลที่สี่ที่รู้เรื่องราวของผม เอาเถอะถ้าคุณยังไม่เบื่อเรื่องของผมๆจะเล่าให้ฟัง หลายๆคนที่อ่านเรื่องของผมมาตั้งแต่ต้นคงจะคิดว่าเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังนี้ เป็นเรื่อ งที่ผมเพ้อเจ้อแต่งขึ้นเองและถ้ามันเป็นเรื่องจริงทุกๆท่านก็คงจะก่นด่าสาป แช่งเราพ่ อแม่ลูกสามคนที่ทำเรื่องอย่างนี้ให้เกิดขึ้น ไม่ว่าใครจะใช้หลักอะไรมาวิเคราะห์หาเหตุผล กฎระเบียบจารีตศีลธรรม เราคงไม่ไปโต้แย้งเพียงแต่อยากจะฝากไว้ให้พวกท่านทั้งหลายนั้นเข้าใจว่ากฎ เกณท์ทั้งข องสังคมระเบียบประเพณี ศีลธรรมอันดีงามนั้นเป็นเรื่องที่เราผู้คนสร้างมันขึ้นมามิใช่หรือ เราสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติรักใคร่กลมเกลียวกัน แล้วสิ่งที่เราทั้งสามได้กระทำลงไปนั้นมีใครได้รับผลในทางที่ไม่ดีจากเราสาม คนบ้าง สำหรับเราสามคนนั้นแน่นอนเรามีความสุขมีความรักมีความอบอุ่นพ่อยังเป็นพ่อ แม่ยังเป็น แม่ผมยังเป็นลูกของท่านทั้งสอง และท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่าการร่วมรักมีมาพร้อมกับการกำเนิดของมนุษย์ เพราะการร่วม รักนี้มิใช่หรือที่ทำให้มนุษย์ดำรงพงศ์เผ่ามาจนทุกวันนี้ ผมอาจจะยังดูเด็กในสายตาของทุก ท่านอายุเพียงสิบห้าย่างสิบหก แต่เราวัดความเป็นเด็กความเป็นผู้ใหญ่กันด้วยอายุเพียงแค่นั้นหรือ ต้นเดือนธันวาคมเป็นวันหยุดยาวสามวันเราพ่อแม่ลูกใช้ชีวิตกันตามปกติเหมือน คนอื่นๆออ กนอกบ้านเปิดหูเปิดตาพร้อมกันสามคนในช่วงสองวันแรกผมไม่อยากจะพูดว่าเราก็ ยังทำบุญตั กบาตรกันตามปกติ วันหยุดวันที่สองหลังจากเรารับประทานมื้อเย็นนอกบ้านกันแบบสบายๆเข้าบ้านกัน แล้วก็ใช ้เวลากันตามปกติ ต้นธันวาคมคืนนั้นอากาศเย็นสบายท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆหมอกเป็นคืนเดือนหงาย จันทร์ทรงก ลดอยู่บนท้องฟ้า จากห้องนอนของผมเมื่อมองลงไปทางหน้าบ้านมุมรั้วด้านทิศไต้พ่อจะทำศาลาพัก ผ่อนไว้หนึ่ งหลังเป็นศาลาหกเหลี่ยมยกพื้นสูงจากพื้นสักห้าสิบเซ็นต์ไม่มีหลังคามีแต่ โครงเสาตั้ง ขึ้นไปให้เป็นที่เลื้อยพันของไม้เลื้อยที่ส่งกลิ่นหอมยามารตรี ห่างจากศาลาประมาณสองเมตรโดยรอบพ่อปลูกไม้พุ่มเป็นรั้วระดับสายตาบังสายตาคน เดินเข้า ออกจากตัวบ้านได้รอบทิศ แต่จากห้องนอนที่ผมนอนอยู่นั้นมองเห็นศาลาจากมุมก้มได้ชัดเจน ในขณะเดียวกันถ้าเป็นเวลากลางคืนและผมไม่ปิดไฟในห้อง จากศาลาหกเหลี่ยมมองด้วยมุมเงยก็จะเห็นห้องผมได้ชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อผมยืน อยู่ที่หน้ าต่าง คืนนั้นหลังจากทบทวนวิชาเรียน และเตรียมการในเนื้อหาที่จะต้องเรียนในวันต่อๆไปแล้ว สักสี่ทุ่มเศษผมเตรียมตัวจะเข้านอน ลุกขึ้นยืนจากโต๊ะหนังสือเดินไปชิดหน้าต่างบิดร่างกายคลายความเมื่อยขบ ตาผมกวาดไปทั่วสวนรอบบ้านด้านหน้าและก็ต้องมาหยุดอยู่ที่ศาลาหกเหลี่ยม ตะลึงอยู่กับภาพที่เห็น แน่นอนแม้จะไม่มีไฟส่องสว่างที่ศาลาหกเหลี่ยมนั้นแต่ท่ามกลางแสงจันทร์ทรง กลดและศาลา ที่ไม่มีหลังคาภาพที่ผมเห็นนั้นชัดเจน พ่อกับแม่ผมอยู่ที่นั่น เกลือกกลิ้งโอบกอดรัดรึงร่วมรักกันอยู่ที่นั่น ภาพที่เห็นครั้งแรกทำให้ผมเกิดอารมณ์ปั่นป่วนเกิดความต้องการที่จะร่วม เพศอย่างรุนแร งแต่เมื่อเพ่งพิศนานไปอารมณ์ในทางเพศของผมก็เจือจางลงเพราะภาพที่ผมเห็นแม้ จะเป็นการ ร่วรักท่ามกลางแสงจันทร์ มันเป็นความงามความงามที่สุดบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นท่าทางของการก่าย กอด ท่าทางที่พ่ออยู่บนตโบมโลมลูบไปทั่วเนื้อตัวของแม่พร้อมกับการกระแทกกระทั้น บั้นเอว หรือท่าทางของแม่ที่ขึ้นคร่อมอยู่บนกลางลำตัวของพ่อแอ่นกายท่อนบนเหยีดตรง อวดช่อชูชั นของบัวตูมต่อแสงจันทร์อันทรงกลด หรือไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ท่านทั้งนั่งหันหน้าเข้าหากันก่ายสอดขาทั้งสี่ ข้างไปรอบตั ว จากมุมที่ผมมองจากแสงจันทร์อันสกาวภาพที่เห็นเป็นภาพที่งดงาม งามอย่างที่ผมไม่คิดว่าจะมีจิตรกรคนใดสามารถปั้นแต่งได้งามเท่า หรือแม้แต่กล้องบันทึกภาพทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวก็ไม่สามารถที่จะบันทึก ความงามได้ อย่างตาที่ผมเห็นในคืนนั้น ผมยืนดูความงามที่พ่อและแม่ปั้นแต่งกันขึ้นมาอย่างมีความสุขอารมณ์ทางเพศลด หายไปจากภ าพที่แสนงามเหล่านั้นทุกท่วงท่าลีลาของการร่วมรักของพ่อและแม่ในครั้งนี้ เป็นครั้งแร กที่ผมเห็นตั้งแต่ต้นจนจบและเป็นความงามที่ธรรมชาติปั้นแต่งมาให้ ธรรมชาติก่อให้เกิดเป็นผู้คน ผู้คนก็ให้เกิดอารมณ์ความต้องการ ความต้องการทำให้เกิดความสวยงามที่ยากจะบรรยาย ผมยืนมองอย่างมีความสุขจนทุกอย่างเงียบสงบมองเห็นแต่ร่างของพ่อและแม่นอนกอด ก่ายไม่ไ หวติง ผมปิดไฟล้มตัวลงนอนแต่ยังไม่หลับภาพอันงดงามนั้นติดหูติดตาผมหลับตาทบทวนภาพ ท่วงท่าล ีลาที่เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่ด้วยเกิดจากอารมณ์เพศไม่ใช่เกิดจากต้องการ เรียนแบบท่ าท่างเหล่านั้นแต่ต้องการประทับท่วงท่าแห่งความงดงามเหล่านั้นไปให้อยู่ใน ส่วนลึกที่ สุดของความทรงจำ ผมนอนหลับตายิ้มด้วยภาพที่ ประทับใจนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไร แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างที่ผมเปิดม่านเอาไว้ กระจ่างไปทั่วห้อง แม่ในชุดนอนบางเบาเปิดประตูเข้ามายืนอยู่ตาเตียงผมยืนอมยิ้มพิศเพ่งมาตลอด ทั่วร่างขอ งผม ตาสบตาผมได้แต่ยิ้มแม่ทรุดตัวลงนั่งยกมือข้างหนึ่งลูบเสยไปที่หน้าผากผม พร้อมกับเสีย งใสของความเมตตาว่า “นอนไม่หลับเหรอลูก” ผมยิ้มจับมือแม่มาแนบแก้ม “ยังไม่อยากหลับฮะ” “หือ?..ทำไมล่ะ” “กลัวว่าหลับแล้วผมจะจำภาพของความงามที่สุดบรรยายที่เห็น ไม่ได้” “เห็นชัดเจนไหมลูก” “ชัดครับ เป็นความงามที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นทุกท่วงท่าลีลาเลยครับ” “เห็นแล้วลูกรู้สึกอย่างไร?” “แรกเห็นผมมีอารมณ์มีความต้องการมากครับ แต่เมื่อตั้งใจมองนึกถึงคำที่พ่อและแม่เฝ้าบอกเรื่องอดทนอดกลั้น ภาพที่เห็นจึงเป็นความงาม ความอยากความต้องการมันลดลงไปเองฮะแม่ ยิ่งมองยิ่งเป็นความงามแบบศิลปะ ศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ ไม่ได้เห็นเป็นภาพที่คนสองคนร่วมรักกันเลยฮะ ขอบคุณที่เปิดหูเปิดตาผมฮะ” แม่ทรุดตัวลงเอาคางวางไว้บนอกผมสองมือโอบอยู่รอบศรีษะปลายนิ้วเขี่ยปอยผมและ วนเวียนอ ยู่แถวหน้าผาก กระซิบเบาพร้อมกับจ้องตาผมว่า “ทำไมลูกไม่ปิดไฟในห้อง” “กลัวครับ กลัวว่าแม้เพียงชั่ววินาทีที่ผมผละไปที่สวิทช์ไฟ ภาพแห่งความงามนั้นจะหายไป” ผมตอบพร้อมกับสอดสองมือรัดรอบร่างของแม่ให้กระชับสนิทแนบแน่นขึ้นอีก “พ่อนอนหรือยังครับ” “คงหลับแล้วละลูกก่อนหลับบอกแม่ให้มาดูลูกว่าเป็นอย่างไร บ้าง คั่งหรือค้างไหม” ผมเปลี่ยนมือมาเป็นประคองสอง แก้มแม่และประคองแม่ให้ขึ้นมาทาบบนตัวผม ผมจูบแม่อย่างดูดดื่มจูบอย่างสุดรัก จูบจากใจที่ความรักของลูกที่ไม่ได้เกิดจากความต้องการทางเพศก่อนที่จะถอน ปากออกแล้พู ดเบาข้างหูแม่ว่า “ขอบคุณ พ่อ ขอบคุณแม่ แม่มีความสุขไหมครับ แม่เหนื่อยไหมครับ” &n bsp; แม่ใช้ปลายลิ้นและเล็มที่ริมฝีปากและกระดกหยอกล้อกับปลายลิ้นของผมก่อนที่จะ กระซิบว่ า “แม่มี ความสุขมากเลยลูกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่อาบน้ำแล้วก็หายเหนื่อยแล้ว” ผมและเล็ม*หูของแม่ด้วยริม ฝีปากและใช้ปลายลิ้นความเข้าไปในหูแม่กระซิบพร่าว่า “แม่มี ความสุขมากแล้ว คงไม่มีเหลือให้ผมอีกแล้วสำหรับคืนนี้” แม่ไม่ตอบแต่ลุกขึ้นนั่งสบตา มองผม มือสองข้างปลดกระดุมเสื้อผม ผมขยับตัวจนเสื้อหลุดไปอยู่ที่หัวเตียง ผมแกะขอเสื้อนอนที่บางเบาจนท่อนบนของแม่เปลือยเปล่า อกอวบชูชันของแม่ถูกผมใช้ฝ่ามือลูบไล้แผ่วเบา ดูเหมือนจะพร้อมกันที่ผมสอดมือผมไปที่แพนตี้โปร่งเบของแม่กับมือของที่สอด เข้าไปไต้ส ายรัดกางเกงนอนของผม &n bsp; มืออันอบอุ่นนุ่มนิ่มแต่มีพลังของเกาะกุมเจ้าตัวดีของผมที่ตื่นขึ้นกลางดึก อย่างกระฉ ับกระเฉง ผมโอบกอดแม่ดึงตัวลงมาทาบทับเนื้อแนบเนื้อ บิดกายจากที่ผมอยู่ร่างมาเป็นอยู่บน &n bsp; สอง มือลูบไล้ไปทั่วร่าง “แม่ เหนื่อยมาแล้ว นอนเฉยๆนะครับ” แม่นอยเหยีดยาวปล่อยตัวตามสบายตาหลับแต่ปากอวบ อิ่มยังมีรอยยิ้ม ผมรู้ว่าแม่ยังไม่หลับ ท่านอนเปลือยเปล่าสบายๆของแม่นั้นชวนมองชวนลุ่มหลง ผมดำเข้มเป็นมันยาวสยายปกคลุมอยู่บนหมอนอันอ่อนุ่ม ตาหลับพริ้มหายแผ่วเบาสม่ำเสมอ อกอวบที่เคยชูชันยามนั่งหรือยืนในท่านอนราบนี้แม้จะดูเหมือนก้อนเนื้อ กองอยู่บนแผ่นอ กเบี่ยงออกข้างซ้ายขวามรกตแดงเข้มบนยอดเนินเป็นเม็ดชูชันเห็นเด่นชัดน่ามอง น่าลุ่มหล ง หน้าท้องแบนราบขยับเคลื่อนไหวตามแรงลมหายใจปราศจากร่องรอยของไขมัน นูนเนินกลางห่วางขาปกคลุมด้วยพงไหมดกดำสนิทที่ผ่านการตกแต่งดูสวยงาม ต้นขาอวบเรียวได้สัดส่วนปลายเท้าแยกจากกันเล็กน้อยพอเห็นร่องธารไต้พงไหมปริ แยกชวนกร ะสัน &n bsp; ผมทรุดตัวคุกเข่าที่ปลายเท้ายกสองเท้าสะอาดเอี่ยมได้รูปทรงดมดูดและเล็มเลีย ตั้งแต่อ ุ้งเท้าฝ่าเท้าและปลายนิ้วทั้งสิบ จากปลาย เท้าปลีน่องทุกตารางนิ้วไม่ผ่านการลิ้มเลียจากปากลิ้นของผม หัวเข่าขาอ่อนอวบขาวเต่งตึงไล่ไปจนถึงพงอ้อกอแขมที่ปกคลุมเนินสามเหลี่ยม แห่งชีวิตเอ าไว้ ผมคืบคลานขึ้นไปครั้งนี้ผมไม่ฝังหน้าไปในร่องเนินอวบอูมนั้นได้แต่ใช้ลิ้น แลบเลียลาก ผ่านร่องน้ำแวะสัมผัสเล็มเลียดูดดุนที่เมล็ดแห่งความสุขเหนือธารน้ำรัก ใบหน้าปากลิ้นผมเกลือกกลั้วคลุกเคล้าอยู่บนเนินนูนนั้นเนิ่นนานแต่แผ่วเบา ครั้งแล้วค รั้งเล่า ท่อนร่างแม่เกร็งแอ่นส่ายไหวตามจังหวะลีลาของปากลิ้นของผม หน้าท้องแบนราบเริ่มสะท้อนขึ้นลงถี่ขึ้นแรงขึ้น เสียงครางแผ่วเบาใบหน้าส่ายไปมาบนหมอนนิ่ม &n bsp; ทั้งตัวผมทาบทับไปบนลำตัวที่สั่นไหวเกร็ง เหยีดของแม่ อกอวบที่กองย้วยบนแผ่นอกถูกผมใช้ปากลิ้นเม้มดูดเลียดอมดม ปล่อยตัวทาบทับเต็มที่โดยใช้สองแขนพยุงถ่วงน้ำหนักข้างศรีษะ ปากพบปากลิ้นพบลิ้น เมื่อทาบทับเต็มร่างแทบจะทำให้สองร่างกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แก่นขายอันแข็งแกร่งของผมทาบไปบนร่องธารรักที่เริ่มเปียกชื้น ผมส่ายแม่ขยับ เสียงครางงึมงำด้วยความซ่านเสียวจากเราสองคนหลุดรอดมา เป็นระยะ &n bsp; ท่อนร่างหว่างขาแม่ขยับเหมือนจะรู้จังหวะเพราะเจ้าหนูผมชูชันเต็มที่มุดหัว ส่ายอยู่แ ถวร่องธารหน้าปากถ้ำ ผมบรรจงสอดดันเจ้าหนูเข้าสู่ปากถ้ำเชื่องช้าเนิบนาบ สองแขนแม่ตวัดรัดรอบลำตัวผม ปากผมลิ้นผมวนเวียนอยู่ที่ซอกหู*หูปากลิ้นของแม่ เนิบช้าผมถอยเจ้าออกจากก้นถ้าแล้วบรรจงผลักดันอย่างแผ่วเบาเข้าไปอีกครั้ง แล้วครั้งเ ร่า ผมกดลงแม่แอ่นขึ้นรับเสียงครางอย่างเต็มสุขของแม่เริ่มดังขึ้น &n bsp; ท่อนร่างเกร็งบิดส่ายแอ่นขึ้นตกลงและทันทีที่แม่ยกสองขากระหวัดรัดรอบเอวผม ความเสียว ซ่านสุดก็พลุ่งทะลักจากปากเจ้าหนูตัวเก่งน้ำอุ่นขาวข้นฉีดพุ่งไปสู่ก้นถ้ำ พร้อมๆกับท ี่แม่ร้องเสียงลั่นในป่ากผมร่างบิดเกร็งแอ่นขึ้นสุดเหยีด ในถ้ำเหมือนมีสิ่งที่เลื่อนไหวต่อสู้กับน้องชายตอดขมิบจนผมสุดทนต้องทิ้งตัว ลงนอนราบ เนื้อแนบเนื้อ &n bsp; เสียงหอบหายใจของเราสองเบาลงจนเป็นปกติ แม่ประคองแก้มผมเข้าไปจูบดอมดมทั่วใบหน้า กระซิบแผ่วใส &n bsp; “เก่งมากลูกแม่ รู้จักอดทนอดกลั้น ถ้าลูกทำแบบนี้คงไม่มีสาวคนไหนที่จะไม่ลุ่มหลงลูกแน่” &n bsp; “ขอบคุณครับแม่ ผมอยากให้แม่มีความสุขมากๆ แม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผมของพ่อ”“เท่าที่มีกับแม่ผมก็ไม่คิดว่า จะมีใครวิเศษเท่าแล้วครับ ถ้าจะลุ่มหลงผมก็คงหลงอยู่กับแม่นี่แหละ” &n bsp; แม่เปลี่ยนท่าร่างเป็นนอนตะแคงข้างมือ เท้าก่ายกอดรัดรึงไปทั่วตัว ปากจ่อปากตาหยาดเยิ้มจ้องอยู่ที่ผมเปิดปล่อยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่จริงจังว่า &n bsp; “ลูกแม่ เราคงจะทำกันอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของเวลาเรื่องของธรรมชาติ ลูกจะต้องเติบใหญ่ได้พบกับคนใหม่ๆ แม่และพ่อร่างกายก็จะร่วงโรยตามเวลาที่ล่วงผ่าน ใช่จ๊ะแม้จะมีอีกหลายปี แต่พ่อและแม่ก็ต้องปล่อยตามวัย ลูกจะซ้ำซากจำเจกับแม่ไปตลอดชีวิตไม่ได้ และแม่ก็ไม่หวงห้ามที่ลูกจะมีใครเมื่อไร” แม่ลูบไล้ใบหน้าแผ่นหลังของแผ่วเบาก่อน จะกล่าวต่อว่า “ช่วงเวลา นี้ลูกรู้จักการมีรักร่วมรักก็จากแม่ ก็เหมือนลูกได้กินอาหารที่ถูกปาก วันหนึ่งใดที่ลูกได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารจานอื่นดูบ้าง ลูกอาจจะไม่คิดอย่างนี้ก็ได้ แต่เอาเถอะตราบใดที่ลูกต้องการ ต้องการแล้วมีความสุขแม่ก็จะยินดีตอบสนองปรนเปรอ แต่ลูกก็ต้องรู้นะว่าที่ไหนเมื่อไรอย่างไรควรหรือไม่ควร แม่และพ่อเชื่อมั่นในตัวลูกว่าจะรู้จักแยกแยะได้ สำหรับวันนี้แม่ได้รับความสุขสุดจากทั้งพ่อและลูกแม่มีความสุขมากจ๊ะ ลูกนอนได้แล้วแม่จะกลับห้องละ” หมายเหตุ &n bsp; ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา จากความทรงจำเมื่อวันที่ผมเกษียณจากการงานแล้ว คุณพ่อผมอายุเกือบจะแปดสิบคุณแม่ก็ไม่ห่างกันสักเท่าไร ทั้งสองท่าน เลิกละกับเรื่องพวกนี้ไปแล้วแม้จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ดีกว่าคนในวัยเดียวกัน ผมขอนุญาติท่านทั้งสองเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา นานกว่าท่านจะตัดสินใจ สุดท้ายท่านอนุญาต โดยที่ท่านบอกว่าเขียนไปเถอะ เพราะในโลกนี้ ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าความรักอีกแล้ว พ่อรักแม่ ลูกรักพ่อแม่ แม้ว่าความรักจะมีโอกาสที่แสดงออกได้หลากหลายรูปแบบ แต่ความรักก็คือความรัก ความรักคือการที่ทำให้คนที่เป็นที่รักของเรามีความสุข ไม่มีอะไรที่มากไปกว่านั้น &n bsp; ที่จริงแล้วประสบการณ์ของผมมีอีกมากมาย ที่เขียนได้ตั้งแต่เรียนในมหาวิทยาลัย ออกมาทำงาน มีภรรยา มีลูก แต่เรื่องเล่าและฉากเหตุการณ์ก็ไม่พ้นที่เขียนมาทั้งหมด ก็อยากจะบอกว่า ถ้าคุณมีความรักก็จงทำให้สมรัก ถ้าสิ่งที่คุณทำนั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งหมดที่เล่ามาไม่ต้องการที่ จะให้เป็นเยี่ยงและอย่างแก่ผู้ใด เพียงแต่จะบอกว่าความรัก(ไม่ว่าจะรูปแบบใด)เป็นเรื่องที่ล้วนจะน่าจดจำเอา ไว้

ไม่มีความคิดเห็น: