ขายของ
วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
รักยม ตอนที่ 63 – เคราะห์ร้ายย้ายที่
ฮรื่มมมม ... ฮรื่มมมม .... ฮรื่มมมมม ....
เครื่องยนต์จากรถแข่งนับสิบคันที่จอดนิ่งอยู่บนสนามแข่งส่งเสียงกระหึ่มประชันรอคอยสัญญาณ
แสงไฟสีเขียวปล่อยตัวจากจุดเริ่มกันอย่างสนั่นหวั่นไหว และเฉกเช่นเดียวกันกับเสียงหัวใจที่เต้น
ตึกตักระทึกอยู่ในทรวงอกอวบอิ่มจนแทบทะลักล้นของดาราสาวสวยทรงโตซึ่งพยายามนั่งสงบ
จิตใจอยู่ในรถแข่งสีขาวปลอด
กระแต หันใบหน้าส่งรอยยิ้มน้อย ๆ ไปยังชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผู้มีตำแหน่งเป็นแฟนที่คบหากันอย่าง
เปิดเผยตามสื่อบันเทิงทั้งหลาย แฟนที่คบหากันอย่างเปิดเผยคนนั้นกำลังยืนโบกมือไหว ๆ ให้กำลัง
ใจอยู่ข้างสนามแข่ง เธอยกนิ้วโป้งชี้ขึ้นส่งให้เขาคนนั้น จากนั้นจึงแอบเหลือบมองส่งสายตาอันเร่า
ร้อนวาบหวามมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอีกคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งดูดดื่มเกินเลยยิ่ง
กว่าคำว่าแฟนหรือคำว่าสามีภรรยาเสียด้วยซ้ำ หากทว่านั่นก็เป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ในเชิงซ่อน
เร้นที่มิอาจเปิดเผยออกมาให้สื่อรายใดรับรู้ได้
เพียงสบตากับชายหนุ่มชื่อเอก ผู้เป็นแฟนหนุ่มที่คบหากันแบบไม่ได้เปิดเผยคนนี้เข้า ดาราสาวก็
ถึงกับบังเกิดความร้อนวูบวาบขึ้นมาตรงบริเวณท้องน้อยและจุดอ่อนไหวต่อสัมผัสทุกส่วนอีกครั้ง
ความรู้สึกวาบหวิวที่บังเกิดขึ้นนั้นทำเอาเธออดใจไม่ไหวต้องลอบขยับฝ่ามือมาบีบคลึงทรวงอก
ตัวเองครู่ใหญ่
ค่ำคืนที่เพิ่งผ่านมา เธอกับเขาคนนี้เพิ่งจะผ่านการร่วมรักรอบแล้วรอบเล่าจบแทบไม่รู้วันไม่รู้เวลา
รู้สึกตัวอีกครั้งก็เช้าตรู่เสียแล้ว และที่สำคัญก็คือเกมรักในคราครั้งนี้ยังมีชายและหญิงแปลกหน้า
อีกคู่หนึ่งเจ้ามาร่วมด้วย ซึ่งคงต้องถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่การแข่งรถนั้นมีขึ้นในตอนเย็น เธอจึงพอ
จะมีเวลาพักผ่อนอยู่บ้าง
ดาราสาวหันใบหน้ากลับมาสวมใส่หมวกสีขาวที่ผสานกลมกลืนเข้ากับสีของชุดแข่งและรถ
เธอเริ่มรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านจนใกล้จะเดือดไหลเวียนอยู่ในเลือดเนื้อวัยสาวของตน
หากกลับมิอาจแบ่งแยกได้ว่าความตื่นเต้นนั้นเป็นเพราะการได้เข้าร่วมแข่งขันบางแสนสปีด
เฟสติวัลในครั้งนี้ หรือว่าเป็นเพราะมีผู้ชายที่คบหากันอย่างลับ ๆ คนนั้นมาคอยให้กำลังใจถึง
ขอบสนามแบบนี้กันแน่
ผู้คนเริ่มส่งเสียงเชียร์และเป่าปากวี้ดวิ้วกันดังขึ้น เมื่อสาวสวยสะคราญในชุดรัดสั้นนับสิบชีวิต
เดินนวยนาดออกมาแอ่นสะโพกโยกย้ายบั้นเอวอวดสัดส่วนโค้งเว้าที่โดนเนื้อผ้ารัดปลิ้นจนแทบ
ทะลักหลุดออกมาข้างนอกอยู่รอมร่อ เสียงเป่าปากตะโกนโห่ฮาอย่างถูกอกถูกใจของบุรุษเพศ
ดังประสานไปพร้อมกับแสงแฟลชที่กระหน่ำยิงโลมไล้ไปทั่วเรือนกายอันเต่งแน่นของสาวสวย
ทุกนางอย่างบ้าคลั่ง
กระแตรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นเมื่อเหลือบตามองไปเห็นนางแบบสาวผิวสีน้ำผึ้งใบหน้าสวยคม
เฉี่ยวที่สวมใส่ชุดหนังรัดสีดำแบบเปิดเผยเนื้อหนังไม่แพ้ชุดว่ายน้ำเดินถือป้ายโฆษณาอยู่ ภาพ
เกมกามอันแสนเร่าร้อนของค่ำคืนที่ผ่านมาคล้ายย้อนวนกลับมากระตุ้นความทรงจำของดารา
สาวทรงโตอีกครั้งว่ามันมิได้เป็นเพียงความฝัน หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งที่ชื่อแพรคนนี้คนเป็นคนเดียว
กับหญิงสาวที่ปล่อยตัวปล่อยอารมณ์ดื่มด่ำไปกับรสชาติอันหอมหวานของเกมกามระหว่างสอง
หญิงสองชายในค่ำคืนที่ผ่านมา
ดาราสาวทรงโตสะบัดใบหน้าที่มีหมวกใบใหญ่ครอบไว้ไปมาด้วยพยายามจะสลัดภาพอันวาบหวาม
ออกไปจากหัวสมอง หนึ่งนั้นเธอต้องการมีสมาธิกับการแข่งครั้งนี้ และข้อสองนั้นคือเธอเองยังแทบ
ไม่อยากเชื่อตัวเอง ว่าเธอจะอาจหาญถึงขั้นปล่อยเนื้อปล่อยตัวมั่วเซ็กส์กับชายและหญิงที่แทบไม่รู้
จักกันเลยได้ขนาดนี้ ต่อให้หนึ่งในนั้นคือเอกผู้ชายที่เธอแสนจะหลงไหลคลั่งไคล้ก็ตามที
กระนั้นเธอเองก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมานั้น มันช่างสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจและสุขสมมากที่สุด
อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต มากเสียจนเพียงแค่นึกถึง เธอก็รู้สึกสยิวกายจนอดไม่ได้ต้องหนีบขา
เข้าหากันพร้อมกับปล่อยมือออกจากพวงมาลัยรถ แล้วแอบเอื้อมมาบีบนวดคลึงทรวงอกอวบอิ่มของ
ตนเองด้วยอารมณ์อันเร่าร้อนอีกครั้งโดยไม่ลืมที่จะอำพรางท่าทีระมัดระวังปิดบังมิให้คนอื่นที่อยู่ด้าน
นอกมองเห็น
เสียงและแสงไฟสัญญาณที่บ่งบอกให้เตรียมพร้อม ฉุดกระชากอารมณ์ของดาราสาวกลับมาจากจินตนาการ
รักอันวาบหวิว เธอพยายามสะบัดหน้าไล่ภาพเรือนร่างกำยำสมส่วนของแฟนหนุ่มที่คบหากันอย่างไม่เปิดเผย
ออกไป ก่อนรีบเอื้อมมือมาจับพวงมาลัยแล้วเหยียบคันเร่งเบิ้ลเครื่องเตรียมพุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ท และเมื่อ
แสงไฟเปลี่ยนไปเป็นสัญญาณปล่อยตัว ดาราสาวที่ชื่นชอบในความเร็วก็ควบขับรถแข่งสีขาวปลอดพุ่งตัวออก
ไปพร้อมกับรถแข่งอีกหลายสิบคันที่เหลือ
เสียงร้องคำรามของเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มกว่าเดิม และกลิ่นไหม้ของยางรถที่บดกับพื้นถนน เรียกสมาธิของ
กระแตกลับมาได้อีกครั้ง เธอขยับมือปรับเปลี่ยนเกียร์อย่างคล่องแคล่วไปพร้อมกับหักหมุนพวงมาลัยหลบหลีก
รถแข่งที่ออกตัวช้าจนกลายเป็นสิ่งกีดขวางทางอยู่เบื้องหน้าได้อย่างเฉียดฉิว จากนั้นเมื่อเธอหักพวงมาลัยอีก
ครั้งเธอก็สะบัดทิ้งรถแข่งส่วนมากไว้เบื้องหลัง หลงเหลือเพียงรถแข่งอีกสองคันที่นำเธออยู่ไม่ไกลนัก
เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นไปถึงจุดหนึ่ง ภาพรอบข้างก็เริ่มกลืนหายไปเป็นเส้นตรงเส้นหนึ่ง ช่วงเวลานั้นโลกทั้งใบ
คล้ายหยุดนิ่งลงจนเหลือแต่เพียงเธอและรถแข่งสุดรักคันนี้เท่านั้น และนั่นก็เป็นหนึ่งในความรู้สึกที่เธอชื่นชอบ
ที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นเวลาเพียงครู่เดียวก็ตามที เพราะเธอจำเป็นต้องลดความเร็วลงในช่วง
เข้าทางโค้ง
ในช่วงเส้นทางตรงที่รถแข่งวนกลับมายังจุดสตาร์ท สายตาของกระแตเหลือบมองไปยังข้างสนามแข่ง ก่อน
มองข้ามแฟนหนุ่มที่คบหากันอย่างเปิดเผยคล้ายไม่แยแสสนใจแม้แต่น้อย เธอเลือกที่จะเหลือบมองดูชาย
หนุ่มที่คบหากันอย่างลับ ๆ ตามที่หัวใจดวงน้อยของเธอเรียกร้อง
ความรู้สึกสับสนก่อตัวขึ้นมาในห้วงความคิด แฟนหนุ่มที่คบหากันอย่างเปิดเผยนั้น พูดได้ว่าเป็นชายหนุ่ม
แสนดีที่แทบจะหาที่ติไม่ได้ เธอและเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก บ้านของเขามีฐานะร่ำรวย เป็นถึง
กัปตันของสายการบินชื่อดัง ทั้งหล่อ นิสัยดี เอาใจเก่งสารพัด ทั้งยังคอยดูแลเทคแคร์เธออย่างดีราวกับ
ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงก็มิปาน กระนั้นเธอก็ยังมัวแต่คิดถึงผู้ชายอีกคนที่เจอหน้ากันเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเสีย
อย่างงั้น
ชายหนุ่มที่คบหากันในทางลับนั้นชื่อเอก เขาได้ความสาวของเธอไปอย่างบังเอิญเหลือเชื่อในค่ำคืนที่
เธอโดนแฟนเก่าหลอกมอมยาพาไปรุมโทรม เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำงานอะไร มีพื้นเพทางบ้านเป็นเช่น
ไร เธอรู้แต่เพียงว่าเขามีแฟนแล้วและสวยมากเสียด้วย หลังจากวันนั้นเธอจึงตั้งใจที่จะลืมการร่วมรักอัน
เร่าร้อนของเอก เพราะแฟนคนปัจจุบันของเธอได้เดินเข้ามาในชีวิตทันที หลังได้ยินข่าวว่าเธอเลิกคบหา
กับแฟนเก่าที่พยายามหลอกมอมยาเธอ กระนั้นหลังจากคบหากันในช่วงเวลาสั้น ๆ เธอกลับรู้สึกเหมือน
มีบางอย่างที่เธอและกัปตันสุดหล่อคนนั้นยังเข้ากันไม่ได้
กัปตันหนุ่มหล่อแสนดีคนนั้นเหมาะที่จะเป็นสามีที่ผู้หญิงคนไหนก็ต้องพากันอิจฉาอย่างไม่ต้องสงสัย
กระนั้นตัวของเธอเองต่างหากที่เป็นปัญหา หลังจากได้สัมผัสกับรสรักของเอกเข้าอย่างจัง ดาราสาวก็
รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของตัวเองที่แปรเปลี่ยนไป ในค่ำคืนที่อยู่อย่างเดียวดาย เธอต้องช่วยบำบัดอารมณ์ใคร่
ของตัวเองอย่างโหยหาทุรุนทุราย โดยทุกครั้งเธอก็อดไม่ได้ต้องจินตนาการถึงใบหน้าและรูปร่างอันแข็ง
แรงสมส่วนของเอกไปเสียทุกครา
มีหลายครั้งที่เธอตัดสินใจเปิดทางให้กัปตันหนุ่มคนนั้นได้เชยชมเรือนร่างของเธอ ถึงขนาดใส่ผ้าขนหนู
เพียงผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยที่มีเพียงเธอและเขาอยู่ในห้องเธอก็ลองทำมาแล้ว หากทว่าเขา
กลับเพียงแสดงท่าทีเขินอาย และไม่กล้าแตะต้องเนื้อตัวของเธอแม้เพียงปลายเล็บ จนเธอรู้สึกหงุดหงิด
รำคาญในความเป็นสุภาพบุรุษจนเกินเหตของเขาเสียเหลือเกิน
ต่างกันราวกับหน้ามือและหลังเท้า เอกนั้นเป็นผู้ชายอีกประเภทที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับเธอได้แทบ
จะตลอดเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิด เขาพร้อมจะล่วงล้ำสัมผัสเนื้อตัว ร่วมรักกับเธอได้ในทุกเวลา และทุกสถานที่
อีกทั้งเขายังเป็นเหมือนฮีโร่สำหรับเธอไปเสียแล้ว เพราะเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้ถึงสองครั้งอย่างน่าอัศจรรย์
แม้ว่าผลของการช่วยเหลือในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านไปนั้น จะลงเอยด้วยการที่เธอต้องหลวมตัวเข้าไปร่วมรักแบบ
สองหญิงสองชายที่แสนน่าอับอายก็ตามที
อีกทั้งในตอนเช้าตรู่ เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็ยังพบว่าเธอย้ายมานอนอีกห้องหนึ่งได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ที่เธอรู้
ก็คือเอกคนนั้นกำลังร่วมรักอย่างเร่าร้อนอยู่กับเด็กสาวอ่อนวัยหน้าตาน่ารักน่าใคร่ที่ชื่อว่าเมย์และมายด์อยู่
ทีแรกเธอรู้สึกโกรธเคืองไม่พอใจเพราะไม่ชอบเห็นใครทำให้เด็กน้อยเสียผู้เสียคนแบบนี้ กระนั้นเมื่อได้มอง
ดูกิริยาอันสุขล้นของสองเด็กสาววัยกระเตาะแล้ว เธอเองก็อดไม่ได้ต้องโผเข้าไปร่วมวงแบบสามหญิงหนึ่ง
ชายเสียอย่างงั้น และสุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจและมีความสุขชะมัด
ซึ่งในที่สุดเธอก็เข้าใจในความต้องการของตนเองแล้ว แม้ว่านั่นจะเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจก็ตาม
ที เพราะเธอนั้นต้องการคบหาดูใจกับกัปตันหนุ่มต่อไปก่อน โดยมีเอกเป็นแฟนลับ ๆ ไว้คอยสนองความ
ต้องการอันเร่าร้อนของเธอ เพราะเอกนั้นเปรียบได้เหมือนกับรถแข่งแรงสูงที่เธอกำลังควบขับอยู่ เขาสร้าง
ความตื่นเต้นเร้าใจอย่างรุกเร้ารุนแรงในช่วงที่ห้อตะบึงด้วยความเร็วสูง หากทว่าในเวลาที่เธอต้องการพัก
ผ่อน ต้องการคนดูแลนั้นเล่า เอกที่ไม่ใคร่ใส่ใจเธอนักคงจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสักเท่าไหร่
ความคิดเหล่านี้แวบผ่านเข้ามาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่กระแตจะสะบัดใบหน้าเรียกสมาธิมาจดจ่อกับการ
ขับรถแข่งอีกครั้ง เธอขยับมือไปปรับเกียร์เหยียบคันเร่งมากกว่าเดิมจนพุ่งเข้าไปแทบประชิดชนกับรถแข่ง
สีดำที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้า ระยะห่างเริ่มย่นลดลงเล็กน้อยเมื่อเจ้าของรถสีดำคันนั้นเหยียบเบรคในช่วงก่อน
ถึงทางโค้ง หากทว่ารถสีขาวของกระแตก็ยังคงพุ่งไปด้วยความเร็วเท่าเดิมจนกระทั่งพุ่งแซงรถสีดำไปได้
สำเร็จ
กระแตย้ำเบรคอย่างแรงพร้อมกับหักพวงมาลัยจนเกือบสุด เสี้ยววินาทีนั้นรถสีขาวที่เข้าทางโค้งด้วยความเร็ว
สูงแกว่งสะบัดบดล้อรถเสียดสีกับพื้นสนามแข่งส่งกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งอย่างน่าหวาดเสียวว่าจะแหกทาง
โค้งออกไป หากทว่าเสี้ยววินาทีถัดมารถแข่งสีขาวก็พุ่งทะยานไปเบื้องหน้าด้วยความเร็วเช่นเดิมราวกับไม่มี
เรื่องราวอันใดเกิดขึ้น และการเข้าโค้งอันสวยงามครั้งนี้ก็เรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมทั้งหลายได้ไม่น้อย เพราะ
ตอนนี้ดาราสาวเจ้าของอกอึ๋มขวัญใจมหาชนเบียดแซงขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สองแล้ว
ดาราสาวรู้สึกหัวใจของตนกำลงเต้นกระหน่ำหนักหน่วงกว่าเดิม เมื่อเริ่มมองเห็นรถแข่งสีแดงสดที่วิ่งนำเป็น
อันดับหนึ่งมาตั้งแต่แรกอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก หากทว่ายังเหลือรอบให้รถวิ่งอีกเพียงสองรอบซึ่งค่อนข้าง
จะน้อยไปอยู่บ้างหากยังคงขับขี่โดยใช้ความเร็วเพียงเท่านี้
รถแข่งสีขาวร้องคำรามก่อนโผพุ่งตัวไปเบื้องหน้าเร็วกว่าเดิม เมื่อคันเร่งถูกเหยียบลงไปจนเกือบมิด เพียงแค่
นึกไปว่าผู้ชายคนนั้นกำลังส่งเสียงเชียร์เธออยู่ กระแตก็รู้สึกได้ถึงความมั่นใจอันทะลักล้น เธอหักพวงมาลัยวูบ
เหวี่ยงสะบัดรถแข่งไปตามทางโค้งด้วยความเร็วมากกว่าปกติที่เธอเคยชินได้อย่างสวยงามอีกครั้ง และอีกครั้ง
ติดกัน จวบจนกระทั่งรถสีขาวของเธอตามประชิดจ่อติดรถสีแดงที่นำเป็นอันดับหนึ่งอยู่เพียงไม่กี่เมตร
รถแข่งสีแดงที่กำลังร้อนตัวเร่งความเร็วตีห่างออกไปอีกเล็กน้อย หากทว่าเมื่อผ่านช่วงทางโค้งไป รถสีขาวของ
กระแตก็ตีวงโค้งด้วยความเร็วอย่างสวยงามอีกครั้งจนรถทั้งสองคันตีคู่อยู่ในระนาบเดียวกัน โดยไม่อาจบอกได้
ว่าใครกำลังอยู่อันดับหนึ่งหรืออันดับสอง
กองเชียร์ทั้งสองฟากข้างของถนนส่งเสียงโห่ร้องกระหึ่มด้วยอารมณ์อันเดือดพล่านขณะที่รถแข่งทั้งสองคันอัด
เร่งเครื่องในช่วงเส้นทางตรงอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร กระนั้นรถแข่งสีแดงที่แพ้ใจตัวเองก็ตัดสินใจลดความเร็ว
ลงเล็กน้อยในช่วงเส้นทางก่อนถึงทางโค้งสุดท้าย
รถแข่งสีขาวของกระแตที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นกลับมิได้ชะลอความเร็วลงจึงสามารถเบียดแซงนำไปได้สำเร็จ
ถัดจากนั้น ดาราสาวทรงโตก็หักพวงมาลัยสะบัดเหวี่ยงรถแข่งเลี้ยวไปตามทางโค้งได้อย่างสวยสดงดงามอีกครั้ง
ก่อนจะควบขับรถแข่งสีขาวเข้าเส้นชัยคว้าตำแหน่งอันดับหนึ่งท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มได้สำเร็จ และเธอ
ก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองส่งสายตากึ่งวาบหวามกึ่งอิจฉาให้เอกที่โดนสองเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูคู่นั้น
กอดขนาบซ้ายขวาก่อนที่รถของเธอจะพุ่งผ่านเลยไป
..........................................................
"พี่เอกจ๋า มายด์อยากขับรถเก่ง ๆ เหมือนพี่กระแตจัง พี่เอกให้พี่กระแตสอนมายด์บ้างนะจ๊ะ"
มายด์เด็กสาววัย 11 ขวบพูดด้วยดวงตาอันตื่นเต้นเป็นประกาย เธอกระโดดโหยงเหยงจนตัวลอยขณะที่สองแขน
อันเล็กจ้อยยังคงกอดรัดท่อนแขนของเอกเอาไว้แน่น กระเปาะนมเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะแตกพานขึ้นมาจึงเบียดเสียดสี
เข้ากับแขนของชายหนุ่มอย่างจงใจจนบรรดาชายหนุ่มคนอื่นที่แอบยืนชมมองดูความน่ารักสดใสของเด็กสาว
ต่างพากันมองชายหนุ่มด้วยดวงตาอิจฉาร้อนผ่าว
"เอาซิ ไว้ถ้ามีเวลา พี่จะบอกกระแตให้ แต่วันนี้เราต้องกลับกันก่อนแล้ว"
เอก ตอบพลางหันไปส่งยิ้มให้มายด์ ก่อนส่งสายตามองลอดเสื้อกล้ามรัดรูปสีขาวคอเว้าลึกลงไปจนเห็นเต้านม
ที่เพิ่งแตกพานของเด็กสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักสดใสเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบคนนี้ ส่วนมือซ้ายที่นาบอยู่
ตรงกลางหว่างขาของเด็กสาวนั้นก็ขยับยุกยิกบดสัมผัสกับกางเกงผ้ายืดรัดสั้นที่หยิบยืมมาจากแพรให้เด็กสาว
ได้สวมใส่แทนชุดนักเรียนที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดจนเด็กสาวสะดุ้งตัวน้อย ๆ
"พี่เอกขา อย่าเพิ่งกลับได้มั้ยคะ อยู่เที่ยวต่ออีกคืนนะคะ ชวนพี่กระแตไปด้วย เมย์อยากขอลายเซ็นต์ แล้วก็ถ่าย
รูปคู่กับพี่กระแต เมย์จะได้เอาไปอวดยัยต่ายกับเพื่อนที่โรงเรียน นะคะ นะคะ นะ นะ น้า"
เมย์ เด็กสาวแสนสวยวัยสิบสี่ปี เจ้าของเรือนร่างที่อวบอิ่มเกินวัย พูดจาส่งเสียงออดอ้อนพลางเบียดกระแซะ
ทรวงอกบิ๊กไซส์แนบเข้าหาแขนขวาของเอกจนเนื้อนิ่มของสองเต้าที่อวบอึ๋มแทบจะปลิ้นทะลักออกมาจาก
เสื้ออยู่รอมร่อ
เมย์สวมใส่เสื้อกล้ามคอลึกและกางเกงผ้ารัดรูปเช่นเดียวกันกับมายด์ผู้เป็นน้องสาว แต่สิ่งที่แตกต่างกันนั้น
ก็คือทรวดทรงองค์เอวของเมย์นั้นอวบอัดเด้งชูชันกว่าของมายด์อย่างเห็นได้ชัด พอสวมใส่เสื้อผ้าแบบนี้
เข้าโดยไม่มียกทรงและกางเกงในปิดกั้น
เด็กสาวก็เลยกลายเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มกลัดมันอย่างช่วยไม่ได้ เพราะไหนจะปลายถันที่ดันออก
มาเป็นเม็ด และโคกที่โหนกนูนเป็นเนินเด่นเสียขนาดนั้น ทั้งยังมีท่อนขาขาวอวบกับแก้มก้นที่ปลิ้นออก
มาจากกางเกงตัวเล็กจ้อยอีก ซึ่งจะว่าไปการแต่งตัวของสองเด็กสาวที่คล้ายสก๊อยรุ่นเยาว์ก็ออกจะวาบ
หวามเปิดเผยมากกว่าบรรดาพริตตี้ในงานหลายคนเสียด้วยซ้ำไป
"ไม่ได้หรอก ต้องกลับแล้ว เดี๋ยวดึกไป พรุ่งนี้เมย์กับมายด์ต้องไปโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้รูปคู่
ที่ว่า เมื่อคืนก็ถ่ายไปตั้งหลายรูปแล้วไม่ใช่เหรอ เอารูปที่จูบปากกันก็ได้นี่ หรือจะเอารูปที่ช่วยกันเลีย
ไอติมก็ได้ แถมมีแบบคลิปเคลื่อนไหวอีกต่างหาก"
"พี่เอกอ่ะ ถ่ายตอนไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนั้นจะเอาไปให้เพื่อนดูได้ไงล่ะคะ เดี๋ยวเมย์ก็โดนเพื่อนว่าเป็นเด็ก
ใจแตกกันพอดี อืมมม ... แต่จะว่าไปถ้าเอาให้ยัยต่ายเพื่อนซี้ของเมย์ดูก็พอได้อยู่นะ ... นะคะพี่เอกอยู่
ต่ออีกคืนนะคะ เมย์ยังไม่อยากกลับบ้าน คืนนี้เมย์อยากให้พี่เอกสอนอีกหลายเรื่องเลย"
เมย์พูดพลางหว่านเสน่ห์ด้วยการจับแขนของเอกซุกเข้ามาในร่องนม พร้อมกับให้ฝ่ามือของเอกแปะอยู่
ตรงกลางหว่างขาของเธอแล้วส่ายสะโพกยุกยิกอย่างยั่วเย้า ซึ่งมายด์ที่อยู่อีกด้านก็ทำแบบเดียวกันพร้อม
กับส่งเสียงออดอ้อนออเซาะไม่แพ้กัน บรรดาชายหนุ่มที่แอบมองอยู่รอบข้างจึงได้แต่พากันมองดูด้วย
สายตาหื่นกลัดมันกันอย่างถ้วนหน้า ทั้งยังมีบางคนที่เริ่มถือวิสาสะตั้งกล้องถ่ายรูปสองเด็กสาวตัวน้อย
เข้าให้เสียด้วยซ้ำ
"สรุปว่าอยากได้รูปถ่ายคู่ หรือว่าอยากปั่มป๊ามกันแน่ล่ะ เมื่อเช้าก็โดนจัดไปคนละหลายรอบแล้วนะ แต่
สรุปว่ายังไงก็ต้องกลับกรุงเทพแล้วล่ะ ส่วนเรื่องอื่นไว้พี่จัดให้ที่คอนโดดีกว่านะ ไปเหอะเดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน"
เอก ลังเลเล็กน้อยเมื่อนึกไปว่าจะได้ร่วมรักกับสองน้องสาวและกระแตอีกรอบในค่ำคืนนี้ หรือดีไม่ดีก็อาจจะ
มีพริตตี้ดาวรุ่งอย่างแพรมาร่วมด้วยอีกคน แต่กระนั้นเมื่อนึกไปถึงคลิปลับที่นางฟ้าแสนสวยของเขาส่งมาให้
เอกก็ตัดสินใจปฎิเสธคำขอของสองน้องสาวได้อย่างไม่ยากลำบากนัก เพราะจะอย่างไรเสน่ห์ของน้องหญิง
ก็ยังเหนือล้ำกว่าผู้หญิงคนอื่นอยู่หลายขั้นจนเขาแทบจะอดใจกลับไปหาเธอไม่ไหวแล้ว
"โธ่ พี่เอกอ่ะ ... ไปก็ได้ มายด์ ... เรามาเป่ายิ้งฉุบตกลงกันก่อนนะ"
เมย์ทำท่าอิดออดครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับคำของผู้เป็นพี่ชายอย่างเสียมิได้ แต่ก่อนหน้าที่จะขยับไป
ไหนเมย์ก็หันหน้าไปทางมายด์พร้อมกับยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะเป่ายิ้งฉุบกัน ส่วนด้านมายด์ก็หันมามอง
พร้อมกับยกมือขึ้น โดยที่เอกได้แต่ยืนงงว่าน้องสาวแสนสวยทั้งสองคนกำลังคิดทำอะไรกัน
"เย้ เย้ มายด์ชนะล่ะ"
มายด์ ส่งเสียงร้องดีใจออกมาพร้อมกับกระโดดโหยงเหยงเบียดกระแซะหน้าอกเข้ากับแขนของเอกอีกครั้ง
อย่างเริงร่า ส่วนด้านเมย์ก็ได้แต่สะบัดหน้าใส่อย่างไม่พอใจที่ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เอกก็เลยต้องหันไป
ถามด้วยความสงสัย
"ทำอะไรกันล่ะเรา เป่ายิ้งฉุบทำไม?"
"ก็ตกลงกันว่าใครจะได้นั่งเบาะหน้าก่อนไงล่ะจ๊ะ มายด์ชนะ ก็เลยได้นั่งหน้าก่อน พอถึงครึ่งทางค่อยสลับให้
พี่เมย์นั่ง"
"แล้วจะแย่งนั่งเบาะหน้ากันทำไมล่ะ?"
เอกถามแบบยิ้ม ๆ เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าน้องสาวแสนสวยทั้งสองของเขากำลังคิดจะทำอะไรกัน ก็เลยลองพูด
แหย่ให้น้องสาวของเขาพูดออกมาให้ชัด
"ก็ถ้านั่งหน้า ก็จะได้ดูดไอติมของพี่เอกไงล่ะจ๊ะ อุ๊ยย ... พี่เอกอ่ะ แกล้งให้มายด์พูดไม่ดีอีกแล้ว"
มายด์ที่ยังอยู่ในวัยใสซื่อเงยหน้าขึ้นตอบโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อโดนเอกมองตอบด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เข้า
เธอจึงค่อยรู้ตัวว่าโดนกลั่นแกล้ง ก็เลยอายจนต้องซุกหน้าหลบเข้ากับท่อนแขนของผู้เป็นพี่ชาย
"ฮึ ยัยมายด์ไม่ต้องทำเป็นดี๊ด๊าเลย เดี๋ยวพอถึงครึ่งทางต้องเปลี่ยนทันทีเลยนะ ห้ามเกินแม้แต่เมตรเดียวเข้า
ใจมั้ย พี่จะนั่งโทรเม้าท์กับยัยต่ายรอไปพลางก่อนก็ได้"
เมย์บ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ก่อนเกาะแขนยอมเดินตามเอกไปด้านนอกแต่โดยดี ด้าน
เอกขณะที่เดินออกจากสนามแข่งรถก็หันไปมองกระแตที่กำลังยืนอยู่บนแท่นรับรางวัลด้วยความรู้สึกชื่นชม
และความเป็นห่วง
'ว่าแต่กระแตไม่เป็นอะไรแน่เหรอ ไม่มีคนคอยคุ้มครองแบบนี้? รักยม ? พี่แก้ว ?'
เอก หันไปสื่อสารกับรักยมและนางตะเคียนผ่านทางกระแสจิตโดยที่คนอื่นไม่อาจรับรู้หรือได้ยินได้ จากนั้นก็
เป็นเสียงของรักยมที่ตอบกลับมาแทบจะในทันที
'น่าจะไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ คราวเคราะห์ของพี่สาวคนนั้นหายไปแล้ว น่าจะปลอดภัยไปอีกสักพักเลยจ้ะพ่อจ๋า'
'แน่ใจนะ ว่าไม่เป็นอะไรจริง ๆ'
'เชื่อรักยมได้เลยจ้ะ รับรองว่าวิชาจับยามสามตาดูดวงแม่นเสียยิ่งกว่าตาทิพย์ของป้าตะเคียนแก๊แก่แน่ ๆ จ้ะ'
'ชิ อ้ายพวกเด็กเหลือขอ หมอเดาอย่างพวกเอ็งน่ะเรอะจะมาแม่นสู้ตาทิพย์ของข้าได้ เพ้อเจ้อชัด ๆ อย่าคิดนะ
ว่าพอนิคกี้ลูกศิษย์คนแรกของข้าไปอยู่กับไอ้หนุ่มนั่นแล้วพวกเอ็งสองตัวจะรุมเถียงชนะข้าได้'
'พอก่อน พอก่อน อย่าเพิ่งทะเลาะกัน สรุปว่ากระแตน่าจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ย'
'ใช่จ้ะ รับรองไม่ต้องห่วง พ่อไม่ต้องตามคุ้มครองพี่สาวคนนั้นหรอก เก็บแรงไว้คุ้มครองสาว ๆ คนอื่นของ
พ่อดีกว่าจ้ะ คิก คิก'
พูดจบร่างวิญญาณของเด็กน้อยรักยมทั้งสองก็ลอยวูบห่างออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ เอกจึงต้องเดิน
โอบประคองสองน้องสาวแสนสวยขึ้นไปบนรถโดยไม่แน่ใจว่าคำพูดของรักยมนั้นแฝงความหมายอะไร
เป็นพิเศษหรือไม่
แต่ความสงสัยนั้นก็ไม่ได้อยู่ยาวนานนัก เพราะเมื่อโดนบดเบียดด้วยความนุ่มนิ่มของสองเด็กสาว ความ
คิดถัดมาของชายหนุ่มก็วนกลับมาที่ว่าระหว่างทางจะทำเซอร์ไพรส์พาสองน้องสาวไปแวะจัดหนักแบบ
นอกสถานที่แถวไหนดี รวมทั้งยังแอบวางแผนจะทำเซอร์ไพรส์ให้น้องหญิงด้วยเมื่อเขาเดินทางไปถึง
กรุงเทพ
ชายหนุ่มจึงไม่ได้รับรู้เลยว่าที่ด้านหลังนั้นมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งกำลังเดินถือกล้องถ่ายวิดีโอความละเอียด
สูงตามมาแอบถ่ายนมถ่ายก้นอันเต่งเด้งของสองน้องสาววัยกระเตาะด้วยดวงตาอันหื่นกระหายอยู่ไกล ๆ
อีกทั้งยังมีชายฉกรรจ์อีกคนที่เหมือนจะเป็นพวกเดียวกันกับคนแรกแอบลอบขับรถติดตามรถยุโรปคันหรู
ของเอกที่กำลังมุ่งหน้ากลับไปยังกรุงเทพอีกด้วย
................................................................................
เพล้งงงงงงงงงง แก้วไวน์คริสตัลเนื้อดีราคาแพงระยับโดนเหวี่ยงไปกระแทกกับผนังห้องจนแตกกระจัด
กระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนร่วงหล่นผลอยลงไปกองบนผืนพรมราวกับเศษก้อนกรวดอันไร้ค่า
เมื่อสิ้นเสียงนั้น ภายในห้องอันหรูหราที่มีชายสองคนก็มีแต่เพียงความเงียบกริบเข้ามาปกคลุม หรือ
หากจะมีเสียงอะไรอยู่บ้าง ก็คงจะมีแต่เสียงพ่นลมหายใจฟืดฟืดอย่างไม่พอใจของชายวัยกลางคน
ผิวขาวอ้วนลงพุงที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่อยู่เพียงเสียงเดียว
"ไอ้แสง ไหนลื้อบอกไม่ต้องห่วงงาย แล้วไหนอีนังกระแตนมโตของอั๊วะวะ"
เสียงตะคอกสำเนียงไทยปนจีนจากปากของรัฐมนตรีอ้วนลงพุงดังลั่นห้อง ขณะที่เจ้าตัวเหลือบดวงตา
อันหยีเล็กมองไปยังชายวัยกลางคนในชุดสูทที่ชื่อว่าแสง ด้านชายชื่อแสงหาได้แสดงท่าทีหวาดหวั่น
หรืออย่างไร มันเพียงโค้งคำนับคล้ายยอมรับในความผิดพลาดของตนเอง ก่อนเหลือบดวงตาที่เต็ม
ไปด้วยประกายแห่งความเจ้าเล่ห์มองตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
"ผมขอโทษครับท่าน แต่ท่าทางเราจะเจอของแข็งเข้าแล้ว ผมไม่นึกว่านังดาราคนนั้นจะมีคนเก่งคุ้มครอง"
"ลื้อไม่ต้องมาแก้ตัว อั๊วะไม่สนจาย ถ้าพรุ่งนี้อั๊วะยังไม่เห็นอีกระแตนอนรออยู่ในห้องอั๊วะ ลื้อลำบาก
แน่ไอ้แสง"
"ขอโทษครับท่าน แต่ผมคิดว่าเราคงต้องพักเรื่องของดาราคนนั้นไว้ก่อน อย่างที่ผมบอกครับว่า เราเจอ
ของแข็ง"
"ไม่ต้องแล้ว ของแข็งอาราย อั๊วะบอกแล้วงาย ว่าอั๊วะไม่สนจาย ถ้าอั๊วะอยากได้อะไรก็ต้องได้ ลื้อไปจับ
อีกระแตมาใหม่ คราวนี้ให้ไอ้เต้งมังไป พวกไอ้เต้งมังทำงางไม่เคยพลาด อั๊วะไว้ใจพวกมัง"
"ท่านครับ ที่ผมส่งไปเมื่อวานก็คือทีมของไอ้เต้นนี่ล่ะครับ มันไปกับมือดีของมันอีกสามคน แล้วก็ยังมี
หมอลิงลมลูกศิษย์ของมหาเดโชไปกันเหนียวด้วยอีกคน แต่สุดท้ายก็ยังพลาดครับนาย"
"หา ... ไอ้เต้งอีทำงางพลาดได้ไงวะ แถมมีอีหมอลิงไปด้วยอีกคง อีกระแตมังมีใครคุ้มครอง"
"ผมยังไม่ทราบครับท่าน แต่เมื่อวานตอนเย็นไอ้เต้นโทรมารายงานว่า มันดักฉุดกระแตได้สำเร็จแล้ว
กำลังจะพามาส่งให้ท่านที่กรุงเทพ ผมก็เลยวางใจ แต่กลายเป็นว่ามันกับพวกดันเงียบหายกันไปหมด
หมอลิงลมก็ติดต่อไม่ได้ จนเที่ยงคืนผมก็เลยส่งลูกน้องไปตรวจสอบที่ซ่อนตัวบนเขา ทีแรกก็ไปเจอ
แค่รถตู้ของไอ้เต้นจอดทิ้งไว้ แล้วก็เจอเสื้อผ้าผู้หญิงที่น่าจะเป็นของกระแตอยู่ในรถ ..."
"ไอ้พวกเวง เลี้ยงเสียข้าวสุก พวกมังปล้ำอีกระแตของอั๊วะใช่มั้ย ลื้อบอกมาอีนมโตมังเปงไงบ้าง"
"เรื่องนั้นยังสรุปไม่ได้ครับท่าน แต่พอสำรวจไปรอบ ๆ แล้ว ก็ไปพบไอ้เต้นกับลูกน้องของมันนอนสลบ
เหมือดปางตายอยู่ในป่า พวกมันบางคนกระดูกแขนหัก ซี่โครงหัก หัวแตกเหมือนโดนของแข็งทุบตี แต่
ไม่มีร่องรอยการใช้ปืนที่น่าแปลกที่สุดก็คือพวกมันทุกคนโดนมนต์ตะปูผีที่น่าจะเป็นของหมอลิงลมเข้า
ไปกันทุกคนครับท่าน ..."
"เฮ้ย ไม่ใช่ว่า อีหมอลิงลมมันแย่งอีกระแตของอั๊วะนะเว้ย"
"น่าจะไม่ใช่อีกครับท่าน เพราะหมอลิงลมเองก็นอนสลบอยู่ในป่าใกล้ ๆ กัน ท่าทางเหมือนจะโดนของ
ย้อนกลับ ตอนนี้เลยมีสภาพเป็นครึ่งคนครึ่งลิงพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วครับท่าน ผมขอร้องให้มหาเดโชเดิน
ทางไปช่วยรักษาให้พวกมันแล้ว แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะพอรอดมาให้ข้อมูลได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไร
ขึ้นกันแน่"
"แล้วมังเกิดอารายขึ้งกันแน่วะไอ้แสง ทำมายขนาดอีหมอลิงลมยังสู้ไม่ได้ หรือว่าเปงฝีมืออีหมอเสือ"
"ไม่ใช่หมอเสือแน่ครับท่าน เพราะเท่าที่สายรายงานหมอเสือยังอยู่แถวอีสาน แต่ไม่ทราบว่าทำอะไรอยู่
... ส่วนที่เกิดเหต ลูกน้องผมบอกว่ามีตะปูลงอาคมหล่นอยู่เกลื่อนเต็มพื้น มีร่องรอยต้นไม้โดนทำลายจน
หักกลางหลายต้น ผมเลยคาดว่าหมอลิงลมคงจะสู้กับใครสักคน แล้วสู้ไม่ได้จนต้องเสี่ยงใช้มนต์รวมวิญ
ญาณ แต่สุดท้ายก็ยังแพ้อยู่ดี นี่ล่ะครับผมเลยบอกว่าพวกเราเจอของแข็ง และคงไม่คุ้ม หากจะส่งใครไป
เสี่ยงโดยที่ยังไม่รู้ว่าเรากำลังสู้กับใคร และใครเป็นคนคุ้มครองนังดาราคนนั้น ตอนนี้ผมให้ทีมสายลับตาม
จับตาดูอยู่ครับ หากมีโอกาสผมจะสั่งให้ลงมืออีกคร้ง"
"อืม อืมม ... แล้วอีกระแตตอนนี้มันเป็นยังไง โดนพวกไอ้เต้งมังทำอะไรหรือเปล่า"
"ผมไม่ทราบเหตการณ์เมื่อคืนครับท่าน แต่เมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่แล้วกระแตเพิ่งจะไปแข่งรถต่อ แถมยัง
ชนะได้ที่หนึ่งอีก ผมเลยเดาว่าน่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอครับ นี่ครับวีดีโอตอนเธอรับรางวัล"
ไอ้แสงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนหันไปหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดจอทีวีจอใหญ่ จากนั้นก็ปรากฎภาพของ
กระแตที่กำลังยืนเด่นอยู่บนแท่นรับรางวัลอันดับหนึ่งด้วยรอยยิ้มชื่นบาน
รัฐมนตรีอ้วนท้วมจ้องมองดาราสาวทรงโตบนหน้าจอทีวีด้วยดวงตาอันเล็กหยีที่แฝงความโล่งใจ และความ
หื่นกระหายไปพร้อมกัน เพราะผู้ถ่ายเหมือนจะรู้ใจผู้เป็นนายจึงพยายามซูมกล้องเน้นไปที่บริเวณทรวงอกอวบ
โอฬารของกระแต ซึ่งแม้ว่าจะมีเสื้อยืดสีขาวเนื้อหนาและยกทรงขวางกั้นเอาไว้ แต่ขนาดและรูปทรงของสอง
เต้าก็เร้าอารมณ์เสียจนรัฐมนตรีร่างอ้วนแลบลิ้นออกมาเลียรอบปากตัวเองเข้าแล้ว
"ผมรับรองว่าจะหาทางจับกระแตมาให้ท่านให้ได้แน่นอนครับ แต่ท่านอาจจะเปลี่ยนใจก่อนก็ได้ เพราะทีมงาน
สายลับของเราที่ไปตามจับตาดูกระแตเพิ่งจะค้นพบเด็กสาวสวยน่ารักเหมือนลูกคุณหนูอีกสองคนในงานแข่งรถ
โดยบังเอิญ และผมคิดว่าสองคนนี้น่าสนใจกว่ากระแตอีกนะครับท่าน ... นี่ครับทีมสายลับเพิ่งจะอัพโหลดวีดีโอ
ผ่านดาวเทียมมาให้เมื่อสิบนาทีที่แล้วนี้เอง"
ไอ้แสงพูดพลางหันไปยิ้มให้กับผู้เป็นนาย ก่อนกดรีโมตสลับภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอไปเป็นภาพของเด็กสาว
แสนสวยน่ารักในชุดรัดสั้นอวดเนื้อหนังมังสาอันขาวสะอาดสะอ้านสองนางกำลังยืนขนาบซ้ายขวากอดแขนชาย
คนหนึ่งอยู่ ซึ่งดูจากท่าทีของสองเด็กสาวแล้วคงดูออกได้ไม่ยากว่า พวกเธอคงจะมีสัมพันธ์สวาทอันสนิทแนบ
แน่นแบบเนื้อแนบเนื้อกับชายคนนั้นอย่างแน่นอน
รัฐมนตรีอ้วนท้วมเมื่อได้เห็นภาพนั้นก็ถึงกับดีดผึงร่างที่เต็มไปด้วยก้อนเนื้อจนอ้วนฉุของตัวเองเดินเข้าไปใกล้
หน้าจอทีวีราวกับต้องมนต์สะกด เด็กสาวร่างเล็กอ่อนวัยบอบบางที่สวยน่ารักดั่งตุ๊กตาตัวน้อยช่างดูอ่อนวัยไร้
เดียงสาน่าบีบขยี้ไปเสียทุกสัดส่วน ด้านเด็กสาวอีกคนที่เติบโตกว่าเล็กน้อยนั้นเล่า กลับอวบอึ๋มเนื้อแน่นเต็ม
ไม้เต็มมือเสียขนาดนั้น ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมไหน สองเด็กสาวแสนสวยที่น่าทะนุถนอมก็น่าจะอายุอานาม
ไม่เกินสิบห้าสิบหกปี และมันก็เป็นอะไรที่ยากมากหากจะต้องตัดสินใจว่าคนไหนน่าลิ้มลองขบเคี้ยวมากกว่ากัน
"จุ๊ จุ๊ นังหนูพวกนี้ อีเปงลูกเต้าเหล่าใครวะไอ้แสง ... สวย ... น่ารัก ... "
เสียงอันหื่นกระหายแว่วดังออกมาจากริมฝีปากหนาเตอะเลอะน้ำลายราวกับเสียงของคนละเมอ ดวงตาอันหยี
เล็กกลอกกลิ้งสลับเนื้อตัวมองเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างซ้ายและขวาในจอทีวีอย่างลุ่มหลงงมงาย
"ยังไม่ทราบครับท่าน แต่เหมือนจะอยู่ในกรุงเทพนี่เอง ทีมสายลับเพิ่งส่งภาพนี้มา แล้วก็ส่งคนตามรถที่เด็กสาว
สองคนนี้ขึ้นไปกับผู้ชายที่เหมือนจะเป็นแฟนคนนั้น รถวิ่งตามถนนบางแสนมากรุงเทพ แต่พอติดตามไปซักพัก
รถของสายลับก็ยางแตกลงไปกระแทกต้นไม้ก็เลยไม่ได้ตามต่อครับท่าน แต่พวกเราได้หมายเลขทะเบียนรถมา
แล้ว รถแพงแบบนี้ คงตามหาเจ้าของได้ไม่ยากครับท่าน"
"ลื้อรีบไปหาให้เจอเดี๋ยวนี้ ฉุดเอานังเด็กสองคงนี้มาให้อั๊วะ ส่วนไอ้ผู้ชายก็สั่งสองมังด้วยว่าอย่ามาแย่งผู้หญิง
กับอั๊วะ"
ชายร่างอ้วนส่งเสียงคำรามขณะหันไปมองแผ่นหลังของชายหนุ่มที่โดนสองเด็กสาวกอดขนาบทั้งซ้ายขวา
ด้วยความเคืองแค้น เด็กสาวทั้งสองเป็นใคร ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร หาใช่เรื่องสลักสำคัญอันใดสำหรับนัก
การเมืองมากอิทธิพลเช่นมันแม้แต่น้อย สิ่งสำคัญมีเพียงว่าเด็กสาวทั้งสองจะต้องมาเป็นทาสสวาทของมัน
ส่วนชายหนุ่มที่สร้างความอิจฉาให้แก่มันจะต้องโดนกระทืบให้เละจมดิน ซึ่งหากว่ารัฐมนตรีร่างอ้วนรู้เข้าว่า
ผู้ชายคนนั้นคือคนเดียวกับที่ทำให้มันอดเชยชมกระแตดาราสาวนมโตด้วยแล้วล่ะก็ คงจะต้องมีการสั่งระดม
กองทัพไปถล่มใส่ให้หายแค้นเลยทีเดียว
"ได้ครับท่าน ผมจะติดตามให้ แต่ทีมสายลับของเรายังมีของดีกว่าเด็กสาวสองคนนี้อีก ถ้าเด็กสาวสองคนนี้
เป็นนางฟ้าตัวน้อย ผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นนางฟ้าสวยเต็มวัย สวยแบบหาใครเทียบไม่ได้ สวยเหมือนนางฟ้าตก
มาจากสวรรค์ แถมยังเป็นนักศึกษาเอ๊าะ ๆ ด้วย ท่านสนใจมั้ยครับ"
ไอ้แสง พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกล้อ ขณะแกว่งไกวรีโมททีวีในมือไปมาเหมือนถือไพ่เหนือกว่าผู้เป็นนาย
เดือดร้อนถึงผู้เป็นนายต้องรีบถลึงตามองแล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้น
"หา ลื้อจะบอกว่ายังมีสวยกว่าอีนังหนูสองคงนี้อีกเหรอวะ เปิกให้อั๊วะดูเดี๋ยวนี้"
สิ้นเสียงสั่งการของผู้เป็นนาย ภาพบนหน้าจอทีวีจอใหญ่ยักษ์ก็วูบเปลี่ยนไปเป็นภาพของนักศึกษาสาวแสนสวย
ราวกับนางฟ้าคนหนึ่งกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเพื่อนวัยเดียวกัน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของนางฟ้าผู้นั้นแฝงความ
บริสุทธ์สดใสร่าเริงจนรัฐมนตรีร่างอ้วนท้วมถึงกับอ้าปากค้างตื่นตะลึงไปกับความงามอันสมบูรณ์แบบแทบไร้ที่
ติที่ไม่เคยได้พบเห็นจากผู้หญิงคนใดมาก่อน
เพียงแค่หน้าตาอันสวยหวานสะคราญของหญิงสาวก็ปลุกเร้าอารมณ์จนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว นี่ยังมีเรือนร่าง
ที่สวยอวบอัดเต่งแน่นไปเสียทุกตารางนิ้วมายั่วเย้าเข้าไปอีก รัฐมนตรีหื่นกามที่ผ่านหญิงสาวสวยมานับไม่ถ้วน
ก็ถึงกับน้ำลายสอไหลเอ่อย้อยออกมาอย่างน่าเกลียด มันเดินดิ่งตรงเข้าไปหาหน้าจอทีวีอย่างลุ่มหลงงมงาย
ฝ่ามืออวบอ้วนขยับเลื่อนไปแตะสัมผัสบริเวณใบหน้าของหญิงสาวบนจอทีวีอันแบนเรียบ แล้วลูบไล้ไปมาราว
กับกำลังสัมผัสผิวพรรณอันนุ่มนิ่มอยู่ก็มิปาน
ถัดจากนั้นทั้งสองฝ่ามืออ้วนกลมก็เลื่อนต่ำลงไปแตะสัมผัสลูบไล้เข้ากับบริเวณปทุมถันอันอวบเต่งล้นทะลัก
ทั้งสองข้างบนหน้าจอทีวีอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม ก่อนขยับตัวชิดเข้าไปอ้าปากเลียใบหน้าของหญิงสาวที่สวย
ดั่งนางฟ้า แล้วไล่ลิ้นต่ำลงไปตรงบริเวณซอกคอ และทรวงอกของหญิงสาวจนหน้าจอทีวีเปียกเยิ้มเลอะเปรอะ
ไปด้วยน้ำลายอันเหนียวหนืดโสโครก ซึ่งหากว่าโทรทัศน์เครื่องนี้มีรูอยู่สักรูล่ะก็ คงจะได้เห็นชายร่างอ้วนร่วมรัก
กับทีวีเครื่องนี้เป็นแน่
"นางสาวสุดคะนึง ชัยตระกูล ชื่อเล่นชื่อน้องหญิง อายุ 18 ปี สูง 170 ซม หนัก 45 กก สัดส่วน 38-24-36 มีตำ
แหน่งเป็นดาวมหาลัย เพิ่งเข้าปีหนึ่ง เรียนเก่งได้ที่หนึ่งตั้งแต่เด็ก เป็นลูกคุณหนู เป็นลูกสาวคนเดียวของ นาย
วิทยา ชัยตระกูล นักธุรกิจหมื่นล้านที่ท่านเคยร่วมงานด้วยหลายครั้ง ... จากสายข่าวคาดว่ายังไม่มีแฟน และ
น่าจะยังไม่เคยสัมพันธ์กับผู้ชายคนใดมาก่อน เพราะท่านวิทยาเลี้ยงดูแบบริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม"
ระหว่างที่ผู้เป็นเจ้านายกำลังพยายามเล่นเซ็กส์วิตถารกับจอทีวีอยู่ ไอ้แสงก็ยกรายงานขึ้นมาอ่านบรรยายเรื่อง
ราวของนักศึกษาสาวบนหน้าจอทีวีราวกับกำลังบรรยายสรรพคุณของสินค้าอันวิเศษเลิศเลอสักชิ้นอยู่ แต่ก็ดู
เหมือนว่าสายข่าวของไอ้แสงจะตกหล่นข้อมูลไปมิใช่น้อย เพราะว่าน้องหญิงคนนี้มีแฟนหนุ่มเป็นตัวเป็นตน
ไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่มิได้เปิดเผยออกมาให้ใครรับรู้ก็เพียงเท่านั้น
"ไอ้แสง ลื้อไปจักกางให้อั๊วะเดี๋ยวนี้ อูยยยยย สวยยยย สวยเหลือเกิง น่ากิง น่าเลียไปทั้งตัว ไอ้แสง !!! ลื้อ
จะทำยังไงก็ล่าย จะใช้คง หรือใช้เงิงเท่าไหร่อั๊วไม่ว่า แต่ลื้อต้องจักการพาน้องหญิงคงนี้ของอั๊วะมาให้ล่าย
เข้าจายมั้ย"
มุมปากของไอ้แสงกระตุกแสยะยิ้มออกมาแวบหนึ่งเมื่อได้ยินเต็มหูว่าผู้เป็นนายออกปากอณุญาติให้ตน
สามารถใช้ทรัพยากรทุกอย่างได้อย่างเต็มที่อย่างที่ต้องการ
"ท่านครับ ผู้หญิงคนนี้อาจจะจัดการด้วยกำลังยากนะครับ เพราะเป็นถึงลูกสาวของท่านวิทยาอย่างที่ผมบอก
ที่สำคัญท่านไม่เสียดายเหรอครับ หากว่าท่านจะปลิดดอกไม้ที่สวยที่สุดมาชมเชยเพียงแค่ไม่กี่วัน แล้วมันก็
เฉาตายไป ทำไมท่านไม่ลองทำให้ดอกไม้ดอกนี้ยอมมาอยู่กับท่านอย่างสมัครใจบ้างล่ะครับ ผมว่าผู้หญิงที่
สวยที่สุดคนนี้แหละที่เหมาะจะเป็นภรรยาของท่าน ท่านคิดดูซิครับถ้าได้ผู้หญิงที่สวยเหมือนนางฟ้าแบบนี้มา
คอยติดตามดูแลไปตลอดชีวิตล่ะก็ ท่านไม่คิดว่าเหมือนได้อยู่บนสวรรค์เหรอครับ"
"ให้แต่งอีเปงเมียอั๊วะเหรอวะไอ้แสง ... อื้มมม น่าสงใจ น่าสงใจ ... ถ้าเปงน้องหญิงคงนี้ล่ะก็ยังไงก็ล่าย อั๊วะ
ยอมทุกอย่าง แต่งล่ายก็ดี อั๊วะอยากแต่งกับอี จาล่ายเอาไปอวกเพื่อง ๆ ให้พวกมังอิกฉาอั๊วะจนอกแตกตาย
ว่าแต่จะทำไงให้อีอยากแต่งกับอั๊วะวะไอ้แสง"
"ผู้หญิง ยังไงก็คือผู้หญิง ถ้าท่านกล้าทุ่มเวลา ทุ่มเงิน ผมว่าคนใหญ่โตระดับรัฐมนตรีอย่างท่านยังไงผู้หญิง
ก็ไม่กล้าปฎิเสธพ่อของเธอยังไงก็เป็นนักธุรกิจ คงพอพูดคุยเรื่องผลประโยชน์กันได้ อันดับแรก ก็ต้องจัดฉาก
ให้พบเจอพูดคุยกันก่อน"
"จะให้เจอกันยังไงวะไอ้แสง จะให้อั๊วะไปหาไอ้วิทยาที่บ้านตองนี้เลยดีมั้ย"
"ผมรู้ว่าท่านร้อนใจครับ แต่อย่ารีบร้อนขนาดนั้นจนเสียงานใหญ่ การพบกันครั้งแรกมันต้องมีอะไรสร้างความ
ประทับใจให้ฝ่ายหญิงมาก ๆ หน่อย ท่านยังจำได้มั้ยครับว่าวันก่อนท่านพลเอกองอาจส่งการ์ดเชิญงานเลี้ยง
ฉลองวันเกิดมาให้ท่าน"
"มีด้วยเรอะ อั๊วะลืมไปแล้ว ... อ้อ ที่อั๊วะขี้เกียกไปคุยกับไอ้นายพงคงนั้น แล้วสั่งให้ลื้อเป็นตัวแทงอั๊วะไปมอบ
ของขวัญให้ใช่มั้ยวะไอ้แสง"
"ครับท่าน เท่าที่ผมสืบทราบมา ท่านนายพลองอาจ เป็นเพื่อนสนิทกับท่านวิทยา พ่อของน้องหญิงคนนั้น
และผมก็สืบมาแล้วว่าสองพ่อลูกจะไปร่วมงานวันเกิดของนายพลองอาจทุกปี ... ทำไมท่านไม่ใช้โอกาสนี้
ไปทำความรู้จัก แล้วก็มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอสักชิ้นล่ะครับ ผู้หญิงทุกคนแพ้ของขวัญราคาแพงกันทั้ง
นั้นล่ะครับท่าน แล้วก็เป็นการประกาศไปในตัวด้วยว่าท่านสนใจผู้หญิงคนนี้ ห้ามคนอื่นมาแหยม ดีมั้ยครับท่าน"
"โอ้ ม่ายเลว ม่ายเลว แผงกางของลื้อใช้ได้ ๆ เรื่องของขวังเดี๋ยวอั๊วะจักการเอง รับรองว่าน้องหญิงของอั๊วะ
จาต้องหลงเสน่ห์อั๊วะแน่นอง อูยยยย นางฟ้าของอั๊วะ สวยอารายอย่างงี้ อั๊วะอยากเย็กอีจาแย่แล้ว ไอ้แสงเอ๊ย
ช่วยอั๊วะล่วย"
รัฐมนตรีร่างอ้วนพูดเสียงกระเส่าขณะโอบกอดและบดเป้ากางเกงคลึงวนใส่จอทีวีที่มีรูปน้องหญิงกำลังเดิน
ส่ายสะโพกไปมาด้วยแรงหื่นกลัดมันอันล้นเหลือ
"ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ผมจะขอเปลี่ยนรูปน้องหญิงของท่านออกไปก่อนนะครับ เพราะผมได้จ้างเด็กมัธยมต้นเนื้อ
หวานฉ่ำห้าคนมาให้ท่านเคี้ยวเล่น ระหว่างที่รอกินมื้อหลักสุดอร่อยอย่างน้องหญิง ท่านสนใจมั้ยครับ"
"ไอ้แสงเอ๊ย อย่างงี้ซิวะ ถึงถึงได้ยอมให้ลื้อเปงมือขวาอั๊วะ"
ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนวูบไปอีกครั้งเมื่อรัฐมนตรีร่างอ้วนพยักหน้าและขยับถอยห่างออกมาจากจอทีวี จากนั้นก็
ปรากฎภาพของเด็กสาวสวยน่ารักในชุดนักเรียนมัธยมปลายจากหลากหลายโรงเรียนจำนวนห้าคนนั่งเรียงราย
สลอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ซึ่งคาดเดาได้ว่าเด็กสาวหน้าตาดีที่นั่งรอการเชือดเหล่านี้คงมิได้รู้ตัวว่าตนเองกำลัง
โดนแอบส่องด้วยกล้องวงจรปิดอยู่อย่างแน่นอน
"เด็กสาวพวกนี้เป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนคุณหนูไฮโซทั้งห้าคนครับท่าน พวกเธอเป็นเด็กขายบริการแบบ
แอบ ๆ ผมตรวจสอบประวัติดูแล้วแต่ละคนเพียงแค่ยังผ่านงานมาไม่มาก ของยังดีเนื้อยังแน่นอยู่ และพวกเธอ
มาด้วยความเต็มใจ ดังนั้นท่านก็สามารถใส่ได้เต็มที่ครับ"
"อื้ม ๆ ม่ายเลว ม่ายเลว ถึงจาม่ายล่ายปลายเล็บน้องหญิงของอั๊วะ แถมยังสู้อีนังหนูที่บางแสงสองคงนั้งม่าย
ด้าย แต่ก็น่ารักน่ากิงอยู่ ไอ้แสงลื้อลองเปิกเสียงหน่อยซิ อั๊วะอยากรู้ว่าพวกอีพูกคุยอารายกัง"
ไอ้แสงพยักหน้ารับคำแล้วกดเปิดเสียง กระนั้นก็ไม่มีเสียงพูดคุยอันใดออกมาจากเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทั้ง
ห้านางที่นั่งรออยู่อย่างกระสับกระส่าย หากจะมีเสียงอยู่บ้างก็คงจะมีแต่เสียงเสียดสีของเสื้อผ้าเมื่อพวกเธอ
ขยับตัวไปมาในระหว่างการรอคอยเพียงเท่านั้น
รัฐมนตรีอ้วนกรอกตากวาดมองเด็กสาวทั้งห้านางสลับไปมาอย่างพินิจพิเคราะห์ขณะที่มีแต่เพียงความเงียบ
ปกคลุมทั่วทั้งห้อง หลังจากที่ได้เห็นความสวยสมบูรณ์แบบของน้องหญิงเข้าอย่างจัง รัฐมนตรีร่างอ้วนก็พบ
ว่าเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีข้อตำหนิเต็มไปหมด ทั้งที่ความจริงแล้วความสวยของพวกเธอ
ก็จัดได้ว่าสามารถเป็นดาวของโรงเรียนได้อย่างสบาย ๆ
เด็กสาวสองคนที่ดูจะสวยโดดเด่นกว่าอีกสามคนที่เหลือในกลุ่มอยู่เล็กน้อย โดนดวงตาอันหยีเล็กจับจ้องมอง
อย่างหื่นกระหายหมายมั่นอยากขบเคี้ยวลิ้มลอง ซึ่งเวลาเดียวกันนั้นหนึ่งในสองเด็กสาวที่โดนรัฐมนตรีร่างอ้วน
หมายตาเอาไว้ก็สะดุ้งตัวขึ้นมาเบา ๆ เมื่อมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา เธอหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมามองด้วย
ท่าทางลังเลเล็กน้อย ก่อนหันมองซ้ายมองขวา แล้วกดรับโทรศัพท์สายนั้น ซึ่งแม้ว่าเธอจะพูดคุยอย่างแผ่วเบา
เพียงใด แต่เสียงสนทนาของเธอและอีกฝ่ายก็ถูกส่งต่อไปยังจอทีวีในห้องทำงานของรัฐมนตรีอยู่ดี
"ฮัลโหล ยัยเมย์ตัวยุ่ง มีอะไรป่าว ต่ายกำลังยุ่งอยู่นิดหน่อย"
"ยุ่งอะไรจ๊ะ ยัยต่ายจอมกวน โรงเรียนก็ไม่ได้เปิดซักหน่อย ขอเม้าท์หน่อยไม่ได้หรือไง"
"จะเมาท์อะไรล่ะยัยตัวยุ่ง เอ้ารีบ ๆ เลย ชั้นมีเวลาให้แกสิบวินาที"
"โห ยัยนักธุรกิจพันล้าน กับเพื่อนกับฝูง มีเวลาให้แค่นี้เองเหรอ "
"เหอะน่า ชั้นกำลังยุ่งจริง ๆ ยัยเมย์ มีอะไรก็รีบพูดเหอะ"
"อื้ม ๆ ก็ได้ แค่จะบอกว่า พรุ่งนี้เจอกัน เมื่อคืนชั้นกับพี่เอกทำกันตั้งหลายครั้งแน่ะ ตอนนี้กำลังกลับจากบางแสน
พี่เอกกำลังขับรถ ยัยมายด์กำลังดูดไอติมให้พี่เอกอยู่แกไม่เชื่อแน่ว่ามาบางแสนครั้งนี้ชั้นทำอะไรมาบ้าง แต่รับ
รองว่าแกต้องอึ้งแน่"
"หา มายด์น้องสาวแกเนี่ยนะ ทำไมไปดูดไอติมให้พี่เอกของแกล่ะ นี่สรุปว่าพี่เอกรวบหัวรวบหางฟาดเหมาแกทั้ง
พี่สาวน้องสาวเลยเหรอยะ !?"
"อื้ม ไม่ใช่แค่นี้หรอกนะ มีอีกหลายเรื่องเลย เมย์เกือบโดนผู้ชายที่ไม่รู้จักข่มขืนในห้องน้ำด้วย แต่ยังดีรอดมา
ได้หวุดหวิด แล้วเมย์กับมายด์ก็โดนพี่เอกจัดหนักทั้งคืนยันเช้า แถมพอตอนเช้าพี่เอกก็พาผู้หญิงอีกคนที่เป็น
ดาราชื่อดังมาร่วมวงด้วย ถ้าบอกชื่อแกต้องรู้จักแน่เลย โห สุดยอดมากเลยล่ะแก อยากฟังต่อมั้ย"
"โห ยัยตัวยุ่ง นี่ชั้นไม่เจอแกแค่วันสองวัน แกไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้ขนาดนั้นเนี่ย ชั้นน่ะนะอยากฟังแกเม้าท์
ต่อใจจะขาด แต่ว่าไม่ได้จริง ๆ นะ ตอนนี้ชั้นทำงานอยู่ เข้าใจนะ มีอะไรไว้ค่อยเมาท์กันพรุ่งนี้นะ"
"อื้ม ท่าทางแกจะยุ่งจริง ๆ ปกติพูดแบบนี้แกต้องอยากรู้ให้ได้ ... เอาเหอะไว้ค่อยเม้าท์กันวันพรุ่งนี้ที่โรงเรียน
ก็ได้"
"ขอบใจที่เข้าใจ งั้นบายนะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่"
"จ้า บ๊าย บาย ... เอ๊ะ ยัยมายด์ หยุดเลยนะอย่าทำเนียน นี่มันครึ่งทางแล้ว ถึงรอบพี่ดูดไอติมให้พี่เอกแล้ว ..."
ขณะที่รัฐมนตรีอ้วนกำลังรับฟังอย่างสนอกสนใจ เสียงสนทนาใจความวาบหวามของเด็กสาวมัธยมต้นบนจอทีวี
ก็หยุดอยู่เพียงแค่นี้ ดวงตาอันหยีเล็กกระตุกเล็กน้อยเมื่อเสียงของเด็กสาวในโทรศัพท์พูดถึงดารา หากเมื่อสุดท้าย
แล้วเด็กสาวคนนั้นไม่ได้เอ่ยชื่อออกมา เจ้าของร่างอันบวมฉุจึงเลิกสนใจและหันมาจับจ้องมองเด็กสาวชื่อต่าย
อย่างสนอกสนใจเป็นพิเศษกว่าเด็กสาวคนอื่น
"อั๊วะเอาแค่สองคงพอ เอาอีนังเด็กที่คุยโทรศัพท์ กับอีนังเด็กหน้าหมวยคงนั้ง ลื้อพาอีสองคงไปรออั๊วะที่ห้องสี
ขาว อ๊ะ ม่ายลีกว่า พาไปห้องสีดำ แล้วก็พาไปให้มหาเดโชสองคง ส่วงที่เหลืออีกคงอั๊วะไม่สงใจ ลื้อจัดกางเอง
ก็ล่าย ยังไงก็ล่าย"
เจ้าของร่างอันบวมฉุสั่งการเสียงดังลั่น ก่อนเดินไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอาโซ่ แส้ และกุญแจมือสีดำออกมาเลีย
ด้วยความหื่นขณะที่ในหัวสมองนั้นมีแต่ภาพความงามสมบูรณ์แบบของน้องหญิงอยู่เต็มหัว ซึ่งคงไม่ต้องบอกก็
รู้ได้ว่าต่ายเพื่อนรักของเมย์ และเด็กสาวอ่อนวัยหน้าตาจิ้มลิ้มอีกคนที่ถูกเลือกจะต้องโดนระบายอารมณ์อันกลัด
มันด้วยอุปกรณ์ทั้งหลายเหล่านี้ในฐานะตัวแทนของน้องหญิงแบบหฤโหดอย่างแน่นอน
........................................................
น้องหญิง นักศึกษาสาวแสนสวยเจ้าของเรือนร่างเพรียวงามสมบูรณ์แบบรู้สึกหนาววูบจนถึงกับสั่นสะท้านกาย
ขึ้นมาอย่างกระทันหัน ปลายนิ้วเรียวงามทั้งสิบที่กำลังบรรจงกดจิ้มลงไปบนแป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์
พกพาแม็คบุ๊คแอร์หุ่นบางเฉียบหยุดชะงักนิ่ง ขณะที่ใบหน้าสวยหวานระรานตาเงยขึ้นหันมองไปรอบกายด้วย
ความฉงนสนเท่ห์
ความเงียบสงบในห้องสมุดประจำมหาวิทยาลัยพลันถูกทำลายด้วยเสียงกุกกักโครมครามจากการเคลื่อนไหว
ของผู้คน และเสียงของสิ่งของที่ตกหล่นลงบนพื้น ทั้งนี้เพราะนักศึกษาชายหลายสิบชีวิตที่นั่งแอบเพ้อจ้อง
มองชื่นชมความงามของน้องหญิงอยู่รายรอบต่างพากันรีบก้มหน้าหลบด้วยไม่อยากให้รู้ว่ากำลังแอบมองเธอ
อยู่ ในขณะที่บางคนก็ถึงกับรีบเก็บกล้องถ่ายรูปที่กำลังซูมเก็บภาพของนักศึกษาสาวดาวมหาลัยลงไปใต้โต๊ะ
แทบไม่ทัน
"เป็นอะไรยัยคุณหนู อยู่ดี ๆ ก็เงยหน้าพรวดขึ้นมา ชั้นกำลังมองหน้า มองนมแกเพลิน ๆ ตกใจหมด"
นักศึกษาสาวหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ฝั่งตรงข้ามน้องหญิงถามขณะหันมองซ้ายมองขวา
ด้วยความสงสัยในกิริยาของเพื่อนสาว
"ยัยเนยบ้า จะมามองของชั้นทำไมล่ะ เป็นผู้หญิงเหมือนกันแท้ ๆ"
น้องหญิงขมวดคิ้วใส่เพื่อนสาว ก่อนรีบยกแขนขึ้นมาทำท่ากอดอกเพื่อปิดบังมิให้เนยมองหน้าอกอันขาวอวบ
ของตัวเอง
"อ้าว ก็ใครใช้ให้เพื่อนของชั้นสวยน่ามองล่ะ ดูเมื่อไหร่ก็เพลิน หน้าก็สวย ผิวก็ขาว หุ่นก็ดี ก้นก็ใหญ่ นมก็อวบ
เห็นทีไรชั้นล่ะรู้สึกมีอารมณ์อยากฟัดทุกที นี่ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันนะเนี่ย ชั้นชักจะเริ่มสงสัยแล้วซิว่าชั้นเป็น
ทอมหรือเปล่าที่มีอารมณ์อยากฟัดกับแกเนี่ย"
"ไม่ต้องเลยย่ะ ยัยเนยประมาณนั้นแหละ ถ้าแกเป็นทอม แล้วบรรดาพวกแฟน ๆ ของแกล่ะ ไหนจะกิ๊ก แล้วยัง
มีแฟนคลับในเฟซบุ๊คอีกต่างหาก"
"นั่นซิยะ ชั้นว่าชั้นก็ชอบผู้ชายอยู่นะ แต่พออยู่กับแกทีไร ชั้นล่ะเริ่มไม่มั่นใจตัวเองทุกที เห็นแกแล้วอยากลอง
จับนมจับตูดแกชะมัดเลยล่ะยัยคุณหนู โอ๊ย แกช่วยสงเคราะห์ให้ชั้นลองจับหน่อยซิ เผื่อชั้นจะได้รู้ซะที ว่าชั้น
กลายพันธ์เป็นทอมไปแล้วหรือเปล่า"
"ไม่ต้องเลยย่ะยัยเนย อู้ไม่ยอมทำงานแบบนี้เมื่อไหร่รายงานจะเสร็จ ที่หญิงบอกให้ช่วยหาเอกสารอ้างอิงน่ะ
ได้หรือยัง ตัวรายงานพิมพ์เสร็จหมดแล้วนะ รอเอกสารอ้างอิง กับรอให้พวกเธอเอาไปตรวจอีกรอบอยู่เนี่ย"
"ว้าววว เสร็จแล้วเหรอยะ ไวจริง แหม ต้องแบบนี้ซิ ไม่เสียทีที่มาอยู่ทีมเดียวกับเธอนะยัยคุณหนู เรื่องเอกสาร
อ้างอิงไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวชั้นค้น ๆ ในกูเกิ้ลซักพักก็เจอเองแหละ ว่าแต่เมื่อกี้แกน่ะเป็นอะไรทำไมอยู่ดี ๆ
ก็เด้งพรวดขึ้นมาแบบนั้นล่ะ"
"อืมมม ... ก็ ... ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกหนาว ๆ หวิว ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนโดนใครมอง"
"โธ่ ... ยัยคุณหนูอินโนเซ้น ยังไม่ชินอีกเหรอไงจ๊ะ ผู้ชายทุกคนเค้าก็แอบมองแอบถ่ายรูปเธอกันทั้งนั้นแหละ
ใครใช้ให้เกิดมาสวยไม่บันยะบันยังแถมยังหุ่นดีนมใหญ่แบบนี้กันล่ะยะ เอ ... หรือว่าจะมีใครแอบมองเธอไป
พลางช่วยตัวเองในห้องสมุดไปพลางล่ะเนี่ย คุณหนูสุดสวยของชั้นถึงได้หนาว ๆ หวิว ๆ เพราะรังสีอำมหื่น
ขึ้นมาแบบนี้"
"บ้าเหรอ ใครเค้าจะทำเรื่องแบบนั้นในห้องสมุดกัน"
"อ้าว ก็ไม่แน่นะ แกไม่รู้ล่ะซิ ว่าคลาสเมื่อกลางวันน่ะ มีผู้ชายคนนึงแอบมองขาอ่อนกับร่องกระดุมแกไปพลาง
แถมยังชักว่าวไปพลางในห้องเรียนเชียวนะ ชั้นล่ะแอบนั่งมองเพลินเลย กล้าดีชะมัด ชักจนน้ำแตกเลยนะ แต่
เสียดายหน้าไม่ค่อยหล่อ แถมยังจู๋เล็กอีก ... ที่สำคัญตอนนี้ก็มีนะ คนนั้นไงทางซ้ายมือแกน่ะ กำลังแอบขยำ
เป้ากางเกงตัวเองมันมือเชียว"
น้องหญิงแอบเหลือบมองไปทางที่เนยบอก ก่อนจะต้องรีบหันกลับมาด้วยความเขิน เพราะมีคนกำลังทำแบบ
นั้นอยู่จริง ๆ สาวสวยถึงกับขมวดคิ้วคล้ายไม่พอใจ กระนั้นก็มิใช่ว่าเธอไม่พอใจเพื่อนสาวของเธอคนนี้ เธอ
เพียงขมวดคิ้วให้กับความคิดในหัวของตัวเอง ที่ดันแอบลอบจินตนาการตามไปด้วยว่าหากพี่เอกของเธอมา
แอบหื่นแบบนั้นกับเธอบ้าง เธอคงจะรู้สึกดีพิลึก
"แหม ไม่ต้องมาทำขมวดคิ้วใส่ชั้นเลยย่ะ ชั้นไม่ได้พูดโอเว่อร์นะยะ ดูซิ ยัยคุณหนู เธอน่ะเสื้อก็รัดติ้วจนนมจะ
ทะลักออกมาอยู่แล้ว กระโปรงก็ทั้งสั้นทั้งรัด แล้วก็นะ แกเล่นใส่ยกทรงสีดำแบบนี้ก็เลยยิ่งยั่วน้ำลายผู้ชายเขา
น่ะซิยะ ฮึ ชั้นล่ะไม่อยากนั่งข้าง ๆ แกเลย โดนแย่งสายตาผู้ชายไปหมด น่าอิจฉา แล้วก็นะแกอย่ามาสมัครเล่น
เฟซบุ๊คแย่งแฟนเพจของชั้นเชียวนะยะ ไม่งั้นชั้นไม่ยอมจริงด้วย"
"ไม่ต้องมาทำเป็นบ่นกับชั้นเลยย่ะยัยเนย ชั้นน่ะแต่งตัวถูกระเบียบเหมือนคนอื่นเค้าน่ะแหละ สั้นนิด ๆ หน่อย ๆ
ตามแฟชั่น แต่แกน่ะแหละ ทั้งสั้น ทั้งรัดติ้ว แถมยังบางซะจนเหมือนจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว ชั้นว่าแกน่ะไม่
ต้องใส่เสื้อก็ได้นะจ๊ะ"
น้องหญิงพูดพลางปรายตามองไปยังเสื้อนักศึกษาสั่งตัดพิเศษไซส์ซุปเปอร์เล็กจิ๋วที่เนยสวมใส่อยู่ เสื้อผ้านัก
ศึกษาที่เธอเองสวมใส่นั้นแม้จะวับ ๆ แวม ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่าไม่ผิดระเบียบ และยังเป็นมาตรฐานเดียวกัน
กับที่นักศึกษาผู้หญิงคนอื่นเขาสวมใส่กัน แต่เสื้อผ้าของเนยนั้นกลับถือได้ว่าผิดระเบียบได้อย่างเต็มปาก เพราะ
ชายเสื้อสั้นร่นลอยขึ้นมาจนเกือบเห็นสะดือ แขนเสื้อก็ยังกุดซะจนเหมือนไม่มีแขนเสื้อ แถมร่องกระดุมก็อยู่
ห่างซะจนเห็นลึกไปถึงไหนต่อไหน ด้านกระโปรงก็เหอะ สั้นซะจนขนาดแค่ท่ายืนก็แทบจะเห็นกางเกงในอยู่แล้ว
เนยเคยโดนอาจารย์ผู้หญิงเรียกไปตักเตือนหลายครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าแบบนี้เดินเฉิดฉาย
อวดเนื้อหนังมังสาล่อตาล่อใจผู้ชายอยู่ในมหาลัยต่อไปโดยไม่สนใจใคร เพราะเนยเองนั้นแม้จะไม่ได้สวยเด่น
แบบน้องหญิง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นคนสวยน่ารักติดอันดับหนึ่งในสิบสาวน่าฟันประจำมหาลัย เรียกได้ว่าหน้าตา
และรูปร่างนั้นสวยพอ ๆ กันกับฟ้าสาวหมวยหมัดหนัก แต่เนยนั้นจะแต่งตัวอวดเรือนร่างมากกว่า จึงได้รับแรง
เชียร์จากหนุ่ม ๆ นักศึกษาและบรรดาอาจารย์อยู่มิใช่น้อย
"แหม สั้นนิดสั้นหน่อย ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ผู้หญิงเรามีดีก็ต้องอวดซิ แล้วชั้นก็สวยสู้แกไม่ได้นี่นา ชั้นก็เลย
ต้องโหมโฆษณาสร้างแบรนด์ของชั้นหน่อยซิยะ ชั้นจะได้มีหนุ่ม ๆ มาให้เลือกมาก ๆ หน่อย ไม่เหมือนแกหรอก
หนุ่ม ๆ เล็งแกจะแย่ แต่แกดันไม่สนใจใครเลย ยัยคุณหนูเวอร์จิ้น ส่วนยัยนี่ก็อีกคน ยัยฟ้าจอมบู๊ เอาแต่ฝึกต่อสู้
ไม่สนใจผู้ชาย ทั้งที่ความจริงสวยออก แบบนี้เมื่อไหร่จะมีแฟนกับเค้าบ้างล่ะ เอ้าตื่นซักทีซิยัยฟ้าขี้เซา"
เนย เชิดหน้าเชิดตาพูดจาโดยไม่รู้สึกว่าการแต่งกายผิดระเบียบมหาลัยจะเป็นความผิดแม้แต่น้อย แถมขณะที่
พูดยังหันไปส่งสายตามองซ้ายมองขวาให้หนุ่ม ๆ ที่อยู่รอบ ๆ อีกต่างหาก แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครสนใจ
เพราะทุกคนกำลังเอาแต่แอบมองน้องหญิงตาเป็นมัน เนยก็เลยสะบัดหน้าหันไปเขย่าไหล่ของฟ้าที่นั่งฟุบหน้า
หลับอยู่บนโต๊ะเพื่อระบายความหงุดหงุดในใจ
"'งืมมม แง่ม แง่ม ... พี่เอกขา ... ขออีกรอบนะคะ ... ฟ้ายังไหว ... งืมมม"
ฟ้ายังคงนั่งฟุบหน้าหลับอยู่เช่นเดิม แถมยังส่งยิ้มหวานแล้วพูดละเมอด้วยถ้อยคำน่าสนใจออกมาอีกต่างหาก
ด้านเนยที่ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำนั้นยังรู้สึกสงสัยอยู่บ้างว่าฟ้าละเมอเรื่องอะไรอยู่ แต่ด้านน้องหญิงนั้นกลับ
ถึงกับใจหายวาบขึ้นมาทันที เพราะเกรงว่ายัยฟ้าเพื่อนรักของเธอจะเผลอละเมอเปิดเผยเรื่องราวที่ยังเป็นความ
ลับอยู่ออกมามากเกินไป ก็เลยรีบเอื้อมมือไปเขย่าแขนปลุกฟ้าแรงกว่าเดิม แล้วก็พูดจาสร้างเรื่องกลบเกลื่อน
จนเนยเลิกสงสัย
"ยัยฟ้าตื่นได้แล้ว ฝึกเทควอนโด้หนักจนเก็บมาละเมอเลยเหรอเนี่ย ตื่น ๆ ลุกขึ้นมาช่วยกันทำรายงานก่อน"
ฟ้าสาวหมวยหมัดหนักตื่นขึ้นมาส่ายหัวโงนเงนไปมาโดยที่ดวงตาเรียวเล็กทั้งสองข้างยังคงปิดปรืออยู่ เนยที่
กำลังนั่งมองอยู่ด้วยความหมั่นไส้ก็เลยแกล้งทำการปลุกด้วยการเอื้อมมือทั้งสองข้างไปบีบขยำทรวงอกทั้ง
สองข้างของฟ้าจากด้านนอกเสื้อนักศึกษาเพราะหวังจะทำให้อีกฝ่ายตกใจตื่นขึ้นมา อีกทั้งยังอยากลองจับ
นมของเพื่อนสาวบ้ากีฬาคนนี้ด้วยว่าจะมีดีกว่าของตัวเองหรือเปล่า
เมื่อได้เห็นฉากเด็ด หนุ่ม ๆ ที่แอบนั่งมองอยู่รอบข้างก็ถึงกับครางอือออกมาพร้อมกัน แต่กลับกลายเป็นว่าฟ้า
ยังคงนั่งสลึมสลือละเมอออกมาเหมือนเดิม โดยไม่ตกใจ หรือสะบัดตัวหนี เนยที่ได้รับฟังก็เลยถึงกับอึ้งไม่นึก
เลยว่าฟ้าที่ไม่เคยมีท่าทีสนใจผู้ชายถึงได้ละเมอออกมาแบบนี้ได้
"อืมมมม ... พี่เอกขา ... บีบแรง ๆ อีกหน่อยค่ะ"
"ยัยฟ้าาา ตื่นได้แล้ว ละเมอเรื่องอะไรเนี่ย ตื่น ๆ "
เดือดร้อนถึงน้องหญิงที่ต้องรีบเขย่าไหล่ของฟ้าแรงกว่าเดิมจนฟ้าตื่นขึ้นมามองเพื่อนสาวร่วมกลุ่มทั้งสองคน
ด้วยสายตางุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น น้องหญิงก็เลยแกล้งทำเป็นบ่นเพื่อเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เนยสงสัยมากไปกว่านี้
แต่ก็ดูเหมือนว่าเนยจะเกิดความสงสัยขึ้นมาเสียแล้วว่าฟ้าละเมอเรื่องอะไรกันแน่
"ไม่ต้องมาทำหน้างงเลยย่ะยัยฟ้า เธอนี่นะทำรายงาน หรืออ่านหนังสือทีไรเป็นต้องแอบหลับทุกที ทำไมไม่ขยัน
เรียนเหมือนตอนเล่นกีฬาบ้างนะ"
"อื้ม ๆ โทษทีจ้ะยัยคุณหนู อืมมม ว่าแต่เริ่มทำกันหรือยัง จะให้ฟ้าช่วยตรงไหน"
"ยัยฟ้าเอ๊ย เริ่มทำอะไรกันล่ะยะ ยัยคุณหนูกับชั้นช่วยทำจนเสร็จไปแล้ว เนี่ยเหลือส่วนการหาเอกสารอ้างอิง แล้ว
ก็ตรวจทานข้อความอีกรอบ งานที่เหลือน่ะแกเอาไปทำเลย มัวแต่นอนอู้กินแรงไม่ช่วยเพื่อน"
"โห ยัยเนย ไม่ต้องมามั่วนิ่มเลยย่ะ เธอน่ะก็พอกันกับยัยฟ้าน่ะแหละ เอาแต่เล่นเฟซบุ๊คแชทกับหนุ่ม ๆ ไม่เห็นช่วย
อะไรเลย พวกเธอทั้งสองคนน่ะแหละ ต้องช่วยกันทำงานส่วนที่เหลือให้เสร็จ"
"แหม ยัยคุณหนูก็ช่วยกันหน่อยก็ไม่ได้นะ อื้ม ๆ เอาเหอะ ยังไงก็เหลืออีกนิดเดียว เดี๋ยวชั้นกับยัยฟ้าจัดการให้เอง
ว่าแต่ ... ยัยฟ้าจอมแสบ เธอมีอะไรจะสารภาพกับเพื่อนสนิทอย่างชั้นมั้ยจ๊ะ?"
เนย เบะหน้าเล็กน้อยด้วยความขี้เกียจ แต่ก็ยอมรับงานส่วนที่เหลือไปทำแต่โดยดี กระนั้นเนยก็ยังไม่วายหันไป
มองฟ้าแบบยิ้ม ๆ แล้วก็ถามลากเสียงยาวแบบเน้น ๆ ด้วยสายตาวาววับเหมือนจ้องจับผิดเด็กน้อยสักคน ฟ้าที่
โดนถามก็เลยทำหน้างง ๆ เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"หา สารภาพ? สารภาพเรื่องอะไรล่ะ"
"ก็เมื่อกี้แกนอนละเมออะไรกันล่ะ พี่เอกคะ ขออีกรอบนะคะ พี่เอกคะบีบแรง ๆ หน่อยค่ะ ... พี่เอกของแกคือใคร
สารภาพมาซะดี ๆ อย่าบอกนะว่าสาวทอมอย่างแกริไปมีแฟนที่ไหนเสียแล้ว"
พอเริ่มโดนถามคาดคั้นเจาะข้อมูล ฟ้าก็เลยเริ่มทำหน้าเหวอ ๆ แล้วหันไปมองหน้าน้องหญิงเพื่อขอความช่วย
เหลือ น้องหญิงก็เลยต้องแสร้งสร้างเรื่องขึ้นมาอีกรอบ ฟ้าก็พยักหน้ารับลูกต่อทั้งที่ยังงง ๆ อยู่เล็กน้อย
"อ๋อ ยัยฟ้า ตอนแกหลับเมื่อกี้น่ะ แกละเมอออกมา ประมาณว่าขอซ้อมเทควอนโด้ต่ออีกรอบ แล้วก็ขอให้พี่เอก
อะไรของแกนวดขาให้ด้วยมั้ง แกซ้อมหนักไปแล้วนะ เก็บมาฝันแบบนี้เชียว"
"... อ้าว เหรอ ... อืมมม อืมมมม สงสัยจะอย่างงั้นแหละ สงสัยต้องหยุดซ้อมเทควอนโด้บ้างแล้ว"
"หยุดเลยจ้ะยัยคุณหนู ไม่ต้องมาแก้ต่างให้ยัยฟ้าเลย พวกเราคบกันมาตั้งหลายปีแล้ว ชั้นมองหน้าเอ๋อ ๆ ของ
ยัยฟ้าก็รู้แล้วว่ามันต้องมีความลับอะไรบางอย่าง และที่สำคัญถ้าเป็นปกติตอนชั้นจับนมแก แกต้องร้องโวยวาย
ไปแล้ว แต่ที่ไหนได้ แกดันทำหน้าเคลิ้มมีความสุขเชียว อาการแบบนี้มัน ... อย่าบอกนะว่าสาวทอมหมักหนัก
เท้าหนักอย่างแกน่ะดันแอบไปมีอะไรกับผู้ชายจนเสียจิ้นซะแล้ว กรี๊ดดด เรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ก็มีด้วย"
"ทำไมยะยัยเนย ถ้าชั้นจะเสียจิ้นอะไรอย่างที่แกว่า มันจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดเหลือเชื่ออะไรขนาดนั้นเลย
เหรอยะ"
"ใช่ซิยะ ก็แกน่ะพอมีผู้ชายเดินเข้ามาใกล้ ๆ สักคน แกก็มองยังกับจะจับเค้าไปหักคอจิ้มน้ำพริกกิน ผู้ชายทั้ง
มหาลัยน่ะแค่โดนแกจ้องตาก็ฝ่อหมดแล้ว ต่อให้แกจะสวยหุ่นดีพอ ๆ กับชั้นก็เหอะ แต่พอใครเข้าใกล้แกเล่น
ทั้งเตะทั้งต่อยแบบนี้ ชั้นก็เลยสงสัยไงว่าผู้ชายแบบไหนที่ฝ่าดงหมัดดงเท้าของแกเข้าไปปล้ำแกได้สำเร็จ
แถมแกเองก็ไม่ค่อยจะแต่งเนื้อแต่งตัวบริหารความสวยด้วย ... เอ๊ะ ... แต่จะว่าไป ช่วงนี้แกเริ่มแต่งเสื้อผ้ารัด
ๆ สั้น ๆ เหมือนกันบ้างแล้วนี่นา"
"เดี๋ยว ๆ เงียบก่อน ยัยฟ้า ยัยเนย ทั้งสองคนนั่นแหละ นี่มันในห้องสมุดนะ เงียบ ๆ กันหน่อย"
น้องหญิงรีบจับแขนของทั้งคู่แล้วส่งเสียงห้ามปราม เพราะฟ้า กับ เนย เริ่มจะขึ้นเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจจะ
รบกวนคนอื่น และทำให้คนอื่นได้ยินเรื่องราวเข้าได้ พอสองเพื่อนสาวยอมนั่งลงเงียบ ๆ น้องหญิงก็เริ่มนึกเรื่อง
ราวขึ้นมากลบเกลื่อนเรื่องราวของพี่เอกที่ฟ้าละเมอออกมา
"เอาล่ะ เดี๋ยวหญิงเล่าให้ฟังก็ได้ คือเมื่อไม่กี่วันก่อนยัยฟ้าแอบไปอินเลิฟกับผู้ชายคนนึงอยู่น่ะซิ พอช่วงนี้ไม่
ได้เห็นหน้า ก็เลยเก็บมาฝันหวานซะขนาดนี้"
"ถึงว่าซิ ว่าแต่ยัยคุณหนู แกแน่ใจนะว่าคู่ซี้ของแกน่ะไม่โดนพี่เอกอะไรนั่นเปิดซิงเข้าไปแล้ว แกอยู่ควบคุม
ความประพฤติยัยฟ้าตลอดใช่มั้ย"
"อื้ม หลายวันมานี่ ชั้นอยู่กับฟ้าเกือบตลอดเลยล่ะ นอนก็นอนด้วยกัน ถ้าแอบไปทำอะไรก็รู้หมดแหละ"
น้องหญิงตอบด้วยดวงตาเป็นประกายไร้เดียงสา ทั้งนี้เพราะเธอเองก็ไม่ได้โกหก เพราะเธอก็แค่บอกว่าเธออยู่
กับฟ้าเกือบตลอดเวลา รวมทั้งเวลานอนด้วย แต่ก็ไม่ได้บอกออกไปว่าที่แท้จริงแล้วพวกเธอน่ะนอนกับผู้ชาย
คนเดียวกัน
"งั้นก็แล้วไป ถ้ายัยคุณหนูยืนยันขนาดนี้นะ ... สรุปว่ายัยทอมยังจิ้นอยู่ซินะ ส่วนแกยัยคุณหนูก็เอาแต่เล่นตัว
ไม่ยอมรับใครเป็นแฟนซักที งั้นในกลุ่มนี้ก็คงจะมีแค่ชั้นคนเดียวซินะที่เป็นสาวเต็มตัวแล้ว"
เนยที่เข้าใจไปเองว่าน้องหญิงกับฟ้ายังไม่มีประสบการณ์รักพูดจาด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ ก่อนก้มหน้าลงมองโต๊ะ
แล้วพูดด้วยเสียงที่เบาแผ่วกว่าเดิมเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน แต่น้องหญิงกับฟ้าที่ได้ยินเข้าก็ต่างพากันหันขวับ
มามองดูเนยด้วยสายตาที่แปลความหมายได้ว่า จงเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาซะดี ๆ
เนยมองซ้ายมองขวาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ แต่กระนั้นก็ยังก้มหน้าลงตรงกลาง
โต๊ะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอันเบาเหมือนกระซิบ ลำบากให้น้องหญิงและฟ้าต้องก้มหน้าขยับเข้ามาตรงกลางโต๊ะ
ด้วย หนุ่ม ๆ ที่อยู่รอบข้างแม้จะไม่ได้ยินเสียงสนทนา แต่ก็ได้อาหารตาเพราะตอนที่สามสาวพากันตั้งอกตั้งใจ
เล่าและฟังอยู่นั้น พวกเธอโน้มตัวเข้าหากันจนหน้าอกเนื้อแน่นทั้งหกเต้าต่างวางแหมะอยู่บนโต๊ะอย่างพร้อม
เพรียง แถมร่องกระดุมเสื้อก็เป็นใจเปิดอ้าออกจนเห็นนมขาว ๆ ได้แบบเต็มตา ทุกสายตาจึงถลึงมองจนแทบ
หลุดออกมาจากเบ้าโดยเฉพาะน้องหญิงที่มีเต้าไซส์ใหญ่ที่สุดนั้นก็โดนจับจ้องมองด้วยความหื่นมากเป็นพิเศษ
"ไม่ต้องมองอย่างงั้นหรอกน่า จริง ๆ ชั้นก็ไม่ค่อยอยากเล่าหรอกนะ เพราะครั้งแรกของชั้นมันไม่ค่อยน่าประทับ
ใจเท่าไหร่ แต่ก็นะ ยังไงเราก็เพื่อนสนิทกัน ถ้าชั้นไม่เล่าให้พวกแกฟัง ชั้นคงต้องอกแตกตายแน่"
"แล้วใครล่ะที่ได้เปิดซิงแกนัยเนย กัปตันทีมบาสท่าทางซื่อบื้อคนนั้นหรือเปล่า หรือว่าอีตาประธานนักเรียน
ขี้เก๊กนั่น?"
"เปล่า ... ยัยฟ้าแกไม่ต้องเดาหรอก เดายังไงก็ไม่ถูก ...พวกแกรู้จักนายตี๋ใช่มั้ย เด็กเนิร์ดที่ผมเกรียน ใส่แว่น
เรียนเก่ง ๆ เอาแต่อ่านหนังสือทั้งวันนั่นน่ะ"
"หา !!!! อย่าบอกนะว่าสาวฮอตอย่างแกไปเสียท่านายตี๋เกรียนนั่น"
"อื้ม แกอย่าเสียงดังซิยัยฟ้า ชึ้นถึงได้บอกว่าไม่น่าประทับใจไง เพราะชั้นเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ที่จริง
เช้าวันนั้นชั้นแค่กะจะไปให้นายตี๋ช่วยสอนทำการบ้านให้ ... เอ่อ ก็ให้ทำการบ้านให้น่ะแหละ ไม่ต้องมองแบบ
นั้นเลย ... ชั้นก็แต่งตัวชุดนักศึกษาเต็มยศแหละ เพราะกะว่าจะยั่วผู้ชายที่อื่นต่อตอนบ่าย ๆ ... อ้อ ลืมบอกไป
ตอนชั้นเข้าไปในห้องนายตี๋นั่นนะ ในห้องนอนมันมีแต่รูปโปสเตอร์แกเต็มไปหมดเลยล่ะยัยคุณหนู แถมยังมี
ฟิกเกอร์โมเดลหน้าเหมือนแกอีก ท่าทางจะคลั่งแกมาก เห็นมีแต่เขียนบนรูปว่าที่รักของฉัน นางฟ้าของฉัน
อะไรงี้เต็มเลย ชั้นงี้เห็นตอนแรกก็อี๋มาก ๆ เลย แต่ก็ยอมทน ๆ ไปก่อน กะว่าใช้งานเสร็จค่อยชิ่ง"
เนยพูดพลางหันหน้ามามองน้องหญิงที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเกิดอาการรับไม่ได้ที่โดนผู้ชายคนนั้นคลั่ง
ไคล้หลงไหลเสน่ห์ของตัวเอง
"ช่วงแรกชั้นก็แกล้ง ๆ แหย่ ๆ หว่านเสน่ห์ไปเรื่อย ๆ ทำนมหกบ้าง เปิดเหวอบ้าง นายตี๋นั่นก็ทำหน้าหื่นใหญ่เลย
ยังกับหมาตัวผู้แน่ะ ชั้นก็เลยสั่งให้เค้าทำรายงานให้ชั้นซะเลย ส่วนชั้นก็ไปนอนงีบพักสายตาบนเตียง ... แล้วก็
เผลอหลับไป ..."
เนยแกล้งพูดเว้นระยะแล้วหันมามองเพื่อนสาวทั้งสองที่กำลังทำสายตาวิบวับอยากรู้อยากเห็นเต็มพิกัด
"พอรู้สึกตัว ชั้นก็กำลังโดนนายตี๋นั่นลูบขาอ่อนอยู่ ทีแรกชั้นก็ว่าจะด่าเปิงมันอยู่เหมือนกัน แต่พอโดนลูบ ๆ
มันก็หวิว ๆ สบาย ๆ ดี ชั้นก็เลยแกล้งนอนหลับต่อ ปล่อยให้มันลูบขาไปเรื่อย ๆ ตั้งใจว่าอีกซักพักค่อยด่ามัน
... แต่พอโดนล้วงมาจับตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง ... ชั้นก็เสียวจนตัวเกร็งเลย ... ทำอะไรไม่ถูก มันเสียว ๆ หยิว ๆ
ตื่นเต้น ๆ ก็เลยปล่อยให้ลูบต่อ มันก็ลูบไป ชั้นก็แกล้งนอนหลับไป ... ชั้นก็เริ่มมีอารมณ์ ตอนนั้นน่ะเปียกไป
หมดเลย ตื่นเต้นมาก ใจนึงก็อยากจะห้าม แต่อีกใจก็อยากจะโดนทำต่อ สุดท้ายนะมันก็ถอดกางเกงในชั้น
ออกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้"
"แล้วแกก็แกล้งนอนหลับต่อ?"
"เปล่าย่ะยัยฟ้า ถ้าชั้นเป็นผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นชั้นคงเสร็จผู้ชายไปหลายคนแล้วล่ะย่ะ ตอนนั้นชั้นก็ลืมตา
ขึ้นมาดิ้นพรวดพราดแล้วส่งเสียงโวยวายเลย แต่ไอ้ตี๋มันไม่ยอม มันกดชั้นลงนอนบนเตียงต่อ แล้วก็จับล๊อค
แขนล๊อคขา เห็นติ๋ม ๆ เนิร์ด ๆ แบบนั้นนะ ไอ้ตี๋มันแรงเยอะมากเลย ชั้นสู้ไม่ได้ แล้วตอนนั้นหน้ามันก็หื่นมาก
เลย ชั้นร้องห้ามจนเสียงแหบมันก็ไม่สน พอโดนจับนม โดนกอด โดนไซร้มาก ๆ เข้า ชั้นก็เริ่มมือไม้อ่อน ไอ้
ตี๋มันก็เลยรีบฉวยโอกาสตอนชั้นเผลอนั่นแหละถอดกางเกงแล้วขึ้นขย่มเอวกระแทกชั้นยิก ๆ เลย ..."
น้องหญิงกับฟ้ายิ่งรับฟังคำของเนยก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนในอารมณ์ ซึ่งแม้ว่าเนยจะไม่ได้รับรู้ แต่ว่าทั้งน้องหญิง
และฟ้านั้นต่างก็เคยผ่านประสบการณ์รักอันสุดยอดกับเอกมาหลายครั้งหลายครา เมื่อโดนกระตุ้นด้วยเรื่อง
ราวอันน่าตื่นเต้นของเนย พวกเธอทั้งสองก็เลยต่างพากันแอบจินตนาการไปพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ว่าหากพวกเธอโดนพี่เอกปลุกปล้ำแบบนั้นบ้างจะตื่นเต้นเร้าใจขนาดไหนกัน ซึ่งเพียงแค่คิดเท่านั้นสองสาว
ก็ถึงกับหน้าแดงเกิดอารมณ์จนน้ำเยิ้มกันเสียแล้ว
โดยเฉพาะน้องหญิงนั้นถึงกับขนลุกไปทั้งตัว ตอนนี้เธอรู้สึกพลุ่งพล่านมากจนผิดปกติ เพราะรู้สึกร่างกาย
ทุกส่วนตื่นตัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน และอาการเช่นนี้ช่างคล้ายคลึงกับตอนที่เธอร่วมรักอยู่กับพี่เอกของ
เธอ หรือไม่ก็ตอนที่เธอโดนวางยาปลุกเซ็กส์นั่นเอง
นิ้วทั้งสิบของนักศึกษาสาวแสนสวยบีบประสานเข้าหากันจนแน่นเมื่อรู้สึกว่าผิวกายของตนเองวาบหวิว
เพราะต้องแรงลมของเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งสัมผัสเสียดสีอันแผ่วเบาของยกทรงกับหัวนมกำลังสร้าง
กระแสความวาบหวิวเร้าอารมณ์ของเธอจนพลุ่งพล่านขึ้นมาเสียแล้ว
ซึ่งแม้ว่าใบหน้าอันสวยหวานจะพยายามปั้นนิ่งเงียบเอาไว้โดยไม่แสดงอารมณ์อันใดออกมา กระนั้นสอง
ขาที่อยู่ใต้โต๊ะนั้นก็อดไม่ได้ต้องเหยียดเกร็งบิดขยับกระดุกกระดิกไปมาอย่างอยู่ไม่สุข
"... ไอ้ตี๋มันกระแทกใส่ชั้นแป๊บเดียว มันก็น้ำแตกเลอะเต็มหน้าท้องชั้น ตอนนั้นแหละชั้นถึงดิ้นจนหลุดออกมา
จากไอ้ตี๋เนิร์ดได้ แต่หลุดมาก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเสียสาวให้ไอ้แว่นหน้าจืดแบบนี้ ชั้นก็เลย
ตบหน้ามันแล้วก็รีบแต่งตัววิ่งร้องไห้ออกมาเลย ... เรื่องราวมันเป็นแบบนี้แหละ ชั้นก็เลยไม่อยากเล่าให้พวก
แกฟังไง ใครจะเชื่อว่าสาวไฟแรงสูงที่รอดเสียตัวมาได้ตั้งหลายครั้งอย่างชั้น ต้องมาตกม้าตายแบบนี้ เฮ้อ"
"ตายแล้ว แบบนี้แกก็โดนไอ้ตี๋มันข่มขืนน่ะซิ หนอย มาทำกับเพื่อนชั้นได้ ให้ชั้นไปกระทืบสั่งสอนมันมั้ย ให้รู้
ซะบ้างว่าใครมารังแกเพื่อนฟ้ามันต้องโดนดีกันทุกคน"
"ขอบใจย่ะยัยฟ้า แต่อย่าทำเรื่องให้มันแดงขึ้นมาได้มั้ย ถ้าคนอื่นรู้ขึ้นมาล่ะก็ชั้นน่ะเป็นฝ่ายเสียหายรู้มั้ย ส่วน
เธอยัยคุณหนู หยุดทำหน้าเหลือเชื่อแบบนั้นได้แล้วย่ะ"
เนยหันไปแสดงความขอบคุณฟ้าที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเรื่องของเธอ ก่อนหันไปจ้องดูน้องหญิงที่นั่งอยู่ใน
ท่าเอาสองมือป้องปากตัวเอง ซึ่งแลไปก็คล้ายกับท่าทางตื่นตกใจไม่อยากเชื่ออยู่เหมือนกัน กระนั้นจริง ๆ
แล้วน้องหญิงกำลังพยายามป้องปากปิดเสียงตัวเองมิให้เผลอร้องครางออกมาต่างหาก
"ขอโทษจ้ะ "
"งั้นไม่กระทืบมันก็ได้ แต่ชั้นจะไปตั๊นหน้ามันแทน เอ ว่าแต่แกโดนปล้ำแบบนี้ไม่เจ็บแย่เหรอยัยเนย แล้ว
แล้วแกเผลอเสร็จหรือเปล่า เอ้อ แบบว่ามีอารมณ์ร่วมหรือเปล่า"
"ทำไมต้องเจ็บด้วยล่ะ ก็ไม่เห็นจะเจ็บอะไรนี่ ไอ้ตี๋มันก็ไม่ได้ตัวหนักอะไรสักหน่อย แต่ชั้นก็ไม่เสร็จแบบที่
เคยเห็นในหนังโป๊นะ แบบว่าแค่รู้สึกหวิว ๆ หยิว ๆ แล้วไอ้ตี๋มันก็น้ำแตกซะก่อน"
"ไม่ใช่ย่ะ ชั้นไม่ได้หมายถึงเจ็บเพราะโดนนอนทับ แต่ชั้นหมายถึงว่าครั้งแรกของแกน่ะ ตอนที่โดน ... เอ่อ
ตอนโดนไอ้ตี๋มันใส่เข้าไปน่ะ แกไม่เจ็บแย่เหรอ"
"ใส่เข้าไป? แกหมายถึงอะไรยะยัยฟ้า? ใส่อะไร ? เข้าไปที่ไหน?"
เนยเอียงคอไปมาทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะหันมาถามฟ้าด้วยสีหน้างุนงง เล่นเอาฟ้าที่กำลังเขินเพราะคำถาม
ตัวเองถึงกับต้องงงตามไปด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองถาม มันไม่ชัดเจนตรงไหน กระนั้นเพื่อให้ชัด
เจนฟ้าก็เลยยกมือซ้ายขึ้นมาจีบนิ้วโป้งและนิ้วชี้ประกบกันเป็นวงกลม จากนั้นก็กำมือขวาแล้วยกนิ้วชี้ขึ้น
มาอยู่ใกล้ ๆ กับวงกลมที่มือซ้าย
"สมมติว่านี่เป็นของแก .... แล้วนี่ก็ของไอ้ตี๋ ..."
"ชั้นว่าแกใช้นิ้วก้อยเปรียบเทียบกับของไอ้ตี๋ดีกว่าย่ะ แต่จริง ๆ ก็เล็กกว่านิ้วก้อยอีก แถมยังอ่อนปวกเหมือน
ไม่ค่อยมีแรงด้วย ไม่เห็นน่าดูเหมือนในหนังโป๊เลย"
"อื้มม งั้นสมมตินิ้วก้อยเป็นของไอ้ตี๋ก็แล้วกัน ส่วนวงกลมนี่ของแก ที่ชั้นถามก็คือตอนที่ไอ้ตี๋มันเอาของมัน
ใส่เข้ามาในของแกน่ะ แกเจ็บหรือเปล่า"
ฟ้าหัวเราะขำ ๆ ก่อนหุบนิ้วชี้ลง แล้วยกนิ้วก้อยขึ้นมาแทน จากนั้นก็ขยับเอานิ้วก้อยใส่เข้าไปในรูของวงกลม
ที่เกิดจากนิ้วชี้และนิ้วโป้งของมือซ้าย พอหันไปเห็นเนยยังขมวดคิ้วทำท่างง ๆ ฟ้าก็เลยลากนิ้วก้อยเข้า ๆ
ออก ๆ วงกลมช้า ๆ อีกหลายรอบเพื่อประกอบการบรรยาย แต่เนยก็ยังคงทำท่างงอยู่ดี
"ยัยเนย ชั้นว่าชั้นถามละเอียดชัดเจนแล้วนะยะ นี่แกแกล้งไม่เข้าใจใช่มั้ยยะ"
"ชั้นไม่ได้แกล้งย่ะ แต่ชั้นไม่เข้าใจคำถามของแก จะใส่เข้าไปทำไมยะ ทำแบบนั้นไม่เจ็บแย่เหรอ"
"...... !?"
คราวนี้เป็นฟ้าที่ต้องขมวดคิ้วงงบ้าง งงเสียจนต้องหันหน้าไปมองน้องหญิงเพื่อขอความคิดเห็น แต่ด้านน้อง
หญิงเองก็กำลังงงเหมือนกัน และที่สำคัญสมาธิส่วนใหญ่ของน้องหญิงนั้นไม่ได้อยู่ที่บทสนทนาสักเท่าไหร่
หากแต่กำลังพยายามใช้สมาธิยับยั้งความเสียวแปลบปลาบจากการมีอารมณ์ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหต
"ยัยเนย แกพูดมาให้ชัดซิ สรุปว่า ไอ้ตี๋มันได้ใส่เข้าไปในตัวแกหรือเปล่า?"
"ไม่ได้ใส่ย่ะ ชั้นก็บอกแล้วไงว่า จะใส่เข้าไปทำไมยะ"
"โอ๊ย ชั้นงงแล้วนะเนี่ย งั้นแกบอกชั้นมาซิ ที่บอกว่าไอ้ตี๋มันขย่มใส่แกน่ะ มันทำยังไงกันแน่ อธิบายมาให้ชัด"
เนยทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนหันไปงอพับข้อศอกข้างซ้ายของตัวเองแล้วใช้นิ้วก้อยของมือขวาเปรียบเป็น
ของนายตี๋ ก่อนยกนิ้วก้อยขยับไปทาบแล้วถู ๆ อยู่บนรอยพับที่เปรียบเทียบเป็นส่วนนั้นของเธอ โดยมิได้
สอดแทงเข้าไป
"ก็แบบนี้ไงล่ะ ไอ้ตี๋มันเอามาถู ๆ ไถ ๆ แบบเนี้ยะ อะไรกันยัยฟ้าแกลืมไปแล้วเหรอ ทำแบบเดียวกับในหนังโป๊
ที่ชั้นแอบจิ๊กมาจากพ่อ แล้วแกก็มานั่งดูด้วยกันกับชั้นที่บ้านไง จำได้มั้ย? เพิ่งผ่านมาแค่ปีกว่าเอง เรื่องโปรด
ของชั้นเลยนะ"
ฟ้าทำท่าครุ่นคิดนึกไปถึงหนังโป๊เรื่องแรกที่เธอเคยดูกับเนย ซึ่งแม้ว่าจะผ่านเลยไปปีกว่าแล้ว แต่ฟ้าก็ยังพอ
จะจำเนื้อเรื่องได้อยู่บ้างว่า เป็นแนวหนังอาร์ที่ไม่ได้สอดใส่กันจริง ๆ มีแต่เพียงฉากที่แนบถูไถกันแต่เพียง
ภายนอกทั้งเรื่อง
"เดี๋ยวนะยัยเนย ... ชั้นขอถามหน่อยซิว่าแกเคยดูหนังโป๊เรื่องอื่นนอกจากเรื่องนั้นหรือเปล่า"
"ว่าจะหามาดูอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสย่ะ แกก็รู้นี่บ้านชั้นมีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวอยู่กลางบ้าน
จะดูทีก็ต้องรอให้ทุกคนไม่อยู่บ้านกันก่อน"
"งั้นอย่าบอกนะว่าแกไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ผู้ชายกับผู้หญิง ถ้าจะทำกันจริง ๆ มันต้องเอาของผู้ชาย ใส่เข้า
ไปในตัวของผู้หญิง ... สำหรับเรื่องของไอ้ตี๋ ถ้ามันยังไม่ได้ใส่เข้าไปในตัวแกจริง ๆ ก็แสดงว่าแกน่ะยังบริสุทธ์
ผุดผ่องอยู่ย่ะ"
"จะบ้าเหรอ ก็ในหนังยังทำอย่างงั้นเลย แล้วจะใส่เข้าไปได้ยังไงล่ะยะ ของชั้นมันก็รูเล็กนิดเดียว จะยัดใส่
เข้าได้ยังไงกัน แหกกันหมดพอดีซิ"
เนยเจ้าของตำแหน่งนักศึกษาสาวที่แต่งตัวเซ็กส์ซี่ที่สุดในมหาลัยหันมาพูดแย้งด้วยดวงตาอันใสซื่อบริสุทธ์
ฟ้า และน้องหญิง จึงได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยใบหน้าอันเหรอหรา และต่างฝ่ายต่างก็เริ่มคิดตรงกันว่าแท้
ที่จริงแล้ว เนยที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดที่สุดในมหาลัย อาจจะเป็นผู้หญิงที่บริสุทธ์ไร้เดียงสา
ในเรื่องนี้มากที่สุดคนหนึ่งก็เป็นได้
........................................................
น้องหญิงเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ เธอปล่อยให้ฟ้ารับหน้าที่อธิบายแก้ไข
ความคิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหญิงชายให้กับเนยที่เข้าใจผิดมาตลอดอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งที่จริงแล้วเธอ
เองก็อยากจะอยู่ช่วยอธิบายให้เนยเข้าใจด้วยเหมือนกัน แต่ทว่าอารมณ์ของเธอกำลังกระเจิดกระเจิงไป
หมด ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้รับรู้เลยว่าที่เธอเกิดอารมณ์เช่นนี้ขึ้นมานั้นก็เป็นเพราะมีชายคนหนึ่งแอบมาร่าย
มนต์ใส่เธอเข้าแล้ว
นักศึกษาสาวสวยพยายามปั้นหน้าส่งยิ้มทักทายเพื่อนนักศึกษาชายรุ่นเดียวกันคู่หนึ่งที่เดินสวนทางมา
พวกเขายิ้มทักทายให้แวบหนึ่ง ก่อนจะแอบลอบชำเลืองสายตากวาดมองสำรวจสัดส่วนอันอวบอิ่มเร้า
อารมณ์ของน้องหญิงตาเป็นมัน โดยเฉพาะตรงส่วนหน้าอกไซส์ใหญ่ที่เด้งชูชันดันเสื้อนักศึกษาออกมา
เป็นก้อนกลมดิกจนหนุ่มทั้งมหาลัยต่างต้องพากันเก็บไปประกอบจินตนากามระบายความใคร่ให้ตัวเอง
"อืมมมมม ... อื๊ออออ .... อูยยยยย ... "
เมื่ออดทนนำพาตัวเองมาถึงมุมหนึ่งในห้องสมุดที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ เสียงครวญครางอันเสียวซ่านก็หลุด
ออกมาจากริมฝีปากเรียวบางสีชมพูอ่อนอย่างสุดจะทานทนอดกลั้นได้ไหว นักศึกษาสาวแสนสวยก้ม
ใบหน้าอันแดงก่ำอิงแอบแนบชิดอยู่กับชั้นวางหนังสือ หน้าอกอวบเด้งสะท้านสั่นไหวไปมาด้วยเจ้าตัว
กำลังหอบหายใจอย่างหนักหน่วงไปกับอารมณ์ทางเพศที่กำลังเดือดทะลัก
"อึ๊ยยยย .... อะ อะ อาา อืออออ ..... อืมมมมม"
นักศึกษาสาวดาวมหาลัยแสนสวยหยิบเอาหนังสือเล่มใหญ่มาเปิดทำท่าทีเหมือนกำลังอ่าน กระนั้นแท้
ที่จริงแล้วเธอกำลังกดขอบอันแข็งและหนาของหนังสือกระแซะสะกิดเสียดสีเข้ากับปลายถันด้วยกิริยา
อันร่านรักอย่างที่คงไม่มีใครเชื่อ ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เธอรู้เพียงแต่ว่าเพียงแค่นี้ยัง
ไม่พอเพียงที่จะสนองอารมณ์ของเธอ และเธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อระบายอารมณ์ที่ใกล้จะระเบิด
ออกมา
เสียงคนเดินใกล้เข้ามาขณะที่น้องหญิงกำลังใช้ความคิด จากนั้นก็เป็นนักศึกษาชายรูปร่างผอมสูง
ผู้หนึ่งค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเธออย่างช้า ๆ เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่แฝงความตื่นเต้นอันสุดจะ
ระงับได้ไหวในขณะที่น้องหญิงก็ได้แต่เก็บความหงุดหงิดที่ไม่สามารถระบายอารมณ์ต่อได้เอาไว้
"สวัสดีครับ น้องหญิง คือผมชื่อติ๊กนะครับ เรียนวิศวะปีหนึ่ง ผมแอบมอง แอบชอบคุณมาตั้งแต่แรก
เห็นแล้ว คุณเป็นเหมือนนางฟ้าของผมเลย สวย น่ารัก เรียบร้อย นิสัยดี ... เอ่อ คือ ผมแค่อยากบอก
ว่าผมชอบคุณน่ะครับ อยากเป็นแฟนกับคุณ ... แต่ก็รู้ตัวว่าคุณเป็นนางฟ้าที่สูงเกินเอื้อม ผู้ชายทุกคน
อยากเป็นแฟนด้วยทั้งนั้น ผมก็ไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไรนะครับ ผมแค่อยากจะฝากบทกลอนที่ผม
แต่งมานานให้กับคุณเอาไว้ แล้วถ้าคุณไม่รังเกียจยังไงพวกเราอาจจะคบเป็นเพื่อน ไปทานข้าวด้วย
กัน ไปดูหนังด้วยกันอะไรแบบนี้ก็ได้นะครับ ในนี้มีเบอร์โทร แล้วก็ประวัตินิดหน่อยของผมอยู่ด้วย
ยังไงก็โทรมาคุยกันได้นะครับ"
นักศึกษาชายคนนั้นชิงแนะนำตัวเสียยืดยาวจากนั้นก็ยื่นเอาสมุดเล่ม ๆ เล็กให้กับน้องหญิง เธอจึง
ยื่นมือออกไปรับพร้อมกับสิ่งยิ้มให้ตามปกติ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สาวสวยเสน่ห์แรงอย่างเธอโดน
ผู้ชายบอกรักแบบนี้ ซึ่งหากจะว่าไปนี่ก็เกือบจะเป็นครั้งที่ร้อยแล้วเสียด้วยซ้ำกระมังที่เธอจะต้อง
พยายามพูดปฎิเสธความรักที่พยายามส่งมอบให้กลับไปอย่างนุ่มนวล
"ขอบคุณค่ะ ... ขอบคุณสำหรับของขวัญ แต่ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่าค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ... น้องหญิง ทั้งสวย ทั้งเก่ง รวย แบบนี้ยังไงก็ต้องหาคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว"
นักศึกษาชายคนนั้นก้มหน้าทำท่าทางจ๋อย ๆ เมื่อโดนปฎิเสธแบบอ้อม ๆ เข้าไป กระนั้นจู่ ๆ สายตาของ
ชายคนนั้นก็หันมาจับจ้องมองดูเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากท่าทางตื่นเต้น กลับเปลี่ยนไปเป็นสาย
ตาที่ลุกวาวหื่นกระหายกลัดมันขึ้นมาอย่างกระทันหัน
"เอ่อ ... วันนี้น้องหญิงแต่งตัวเซ็กส์ซี่จังครับ"
น้องหญิงรับฟังด้วยความรู้สึกงุนงงในคราวแรก แต่เมื่อเห็นสายตาอันหื่นกระหายที่จับจ้องสำรวจเรือนร่าง
ของเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เธอก็ต้องก้มลงมองตามก่อนจะพบว่าเนื้อตัวของเธอตอนนี้เริ่มมีเหงื่อซึม
ออกมาจนเสื้อนักศึกษาสีขาวเนื้อบางแนบลู่ไปกับผิวขาว ๆ จนท่อนบนโป๊เปลือยแทบจะเหมือนใส่แต่ยก
ทรงสีดำอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น
"ว้ายยยย !!!! ..."
เธอร้องออกมาคำหนึ่งขณะที่รีบเอาสองมือมาปิดป้องทรวงอกตัวเองเอาไว้ สมุดแห่งความรักที่อีกฝ่าย
มอบให้จึงเบียดแนบชิดอยู่กับทรวงอกอวบที่มีบราสีดำห่อหุ้มอย่างแนบแน่น และนั่นก็ยิ่งทำให้นักศึกษา
ชายผู้นั้นยิ่งอดคิดจินตนาการจนเตลิดเปิดเปิงไม่ได้ว่าหากได้สัมผัสสองเต้าบิ๊กไซส์ของนางฟ้าที่สวยที่
สุดในโลกคนนี้แบบเดียวกับเจ้าสมุดที่เขามอบให้ เขาจะมีความสุขมากมายขนาดไหนหนอ
"เอ่อ คือ ... หญิงไปก่อนนะคะ"
น้องหญิงรีบเป็นฝ่ายชิงอำลา เธอก้มหน้าเพราะเขินจนไม่กล้าสู้สายตาอีกฝ่าย กระนั้นเมื่อก้มต่ำลงเธอ
ก็แอบเห็นเป้ากางเกงของชายหนุ่มตุงเด่ขึ้นมาเสียแล้ว เธอก็เลยต้องรีบเดินออกห่างให้เร็วกว่าเดิมเพราะ
นั่นยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของเธอมากกว่าเดิมเสียอีก
น้องหญิงนำพาเรือนร่างที่กำลังร้อนผ่าวด้วยความใคร่ไปยืนหลบอยู่ที่มุมอันเงียบสงบมุมหนึ่ง เธอหยิบ
หนังสือเล่มใหญ่เล่มหนึ่งขึ้นมาถือไว้เบื้องหน้าด้วยท่าทีเหมือนกำลังจะอ่าน แต่ความจริงนั้นคือถือไว้
เพื่อบดบังไม่ให้คนที่บังเอิญผ่านมาเห็นเข้าได้ เพราะมืออีกข้างของเธอนั้นกำลังบีบเคล้นขยี้ทรวงอก
อวบของตัวเองอยู่อย่างเร่าร้อนกระวนกระวาย
เสียงครางอืออาดังแว่วออกมาอย่างแผ่วเบา ขณะที่ทรวงอกอวบเด้งสะท้านไปตามแรงบีบขยี้ หากทว่า
นั่นดูจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ผุดทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก น้องหญิงจึงหันหน้ามองหา
เครื่องมือช่วยเหลือ กระนั้นก็ยังไม่พบเห็นตัวช่วยที่เหมาะสม เธอจึงได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างผิด
หวัง
"พี่เอกบ้า เพราะพี่เอกคนเดียว ทำให้หญิงมีอารมณ์เป็นผู้หญิงใจแตกแบบนี้ พี่เอกบ้า"
"จ้า จ้า ยอมรับผิดก็ได้เอ้า ว่าแต่จะให้พี่เอกไถ่โทษยังไงดีล่ะครับ?"
เสียงอันคุ้นเคยที่ดังขึ้นมาในระยะประชิดทำเอาน้องหญิงถึงกับสะดุ้งน้อย ๆ เพราะเธอนั้นคอยมองอย่าง
ระแวดระวังจนค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ กระนั้นเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังถือโทร
ศัพท์มือถือบันทึกภาพของเธออยู่ สาวสวยก็อดไม่ได้ต้องแย้มยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้นยินดี
"พี่เอก ? มาได้ยังไงคะ นึกว่ายังอยู่บางแสน ? แล้วพี่เอกเข้ามาในห้องสมุดได้ยังไงเนี่ย เค้าให้เข้าเฉพาะ
นักศึกษากับอาจารย์นะคะ"
เอกยิ้มน้อย ๆ โดยยังไม่ยอมตอบคำถาม เพราะความจริงคือเขามาถึงที่นี่ครู่ใหญ่แล้ว เพียงแต่ใช้คาถา
กำบังกายไม่ให้ใครมองเห็นอยู่น้องหญิงและฟ้าจึงไม่รู้ว่า เขาน่ะแอบยืนฟังบทสนทนาของพวกเธอและ
เนยสาวสวยที่น่าฟันอีกคนอยู่ใกล้ ๆ
"... ก็แค่ล่องหนเดินเข้ามาทางประตูหน้าน่ะแหละ ... ว่าแต่ไม่ช่วยตัวเองในห้องสมุดต่อแล้วเหรอ?"
เอก พูดทีเล่นทีจริงออกไป ทั้งที่ยังคงยกกล้องขึ้นถ่ายคลิปอันวาบหวามของนักศึกษาสาวดาวมหาลัย
กำลังช่วยตัวเองอยู่ในห้องสมุด
"พี่เอกอ่ะ ชอบพูดเล่นอีกแล้ว ... ว่าแต่มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?"
น้องหญิงเชิดใบหน้าอย่างแง่งอนใส่เขาครั้งหนึ่งก่อนจะส่งสายตาวิบวับยั่วเย้าเชื้อเชิญไปพร้อมกับยืดกาย
แอ่นอกอวบตูมแน่นขึ้นท้าทายให้เขารุกเร้าเข้าหา ขณะที่เอกยังคงรักษาท่าทีหยอกล้อทีเล่นทีจริงเช่นเดิม
"ก็ทันพอที่จะเห็นใครบางคนโดนหนุ่มมาแอบสารภาพรักก็แล้วกันล่ะ"
"แล้วพี่เอกหึงป่าวล่ะคะ?"
"หึงซิ แต่ช่วยไม่ได้นะ มีแฟนสวยน่ารักเหมือนนางฟ้าแบบนี้ ก็ต้องทำใจไว้หน่อยว่าจะมีคนอื่นมาแอบคิด
ตีท้ายครัวบ้างแหละ"
น้องหญิงหัวเราะคิกคักด้วยพออกพอใจในคำตอบของแฟนหนุ่มสุดที่รัก กระนั้นก็ยังแอบหยอกล้อเล่นกลับ
ไปเล็กน้อย
"ใครเค้าจะเหมือนพี่เอกล่ะ รักใครชอบใครก็ไม่กล้าเข้าไปจีบ ตอนนั้นหญิงได้แต่รอจนอดใจไม่ไหวต้องเป็น
ฝ่ายเข้าไปทอดสะพานให้พี่เอกแทน"
น้องหญิงพูดพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้ ๆ ก่อนยกรองเท้าส้นสูงก้าวเดินออก
ไปข้างหน้าสองก้าวจนหน้าอกอวบตูมสะกิดกระแซะโดนเข้ากับแผงอกของชายหนุ่มอย่างยั่วเย้า
"แล้วถ้าตอนนั้นพี่เข้าไปจีบล้อมหน้าล้อมหลังเหมือนคนอื่น น้องหญิงจะมาทอดสะพานให้ป่าวล่ะ?"
เอกขยับตัวไปเบื้องหน้าเล็กน้อยขณะตอบคำ หน้าอกอวบตูมเด้งที่เบียดกระแซะอยู่แบบผิวเผินจึงโดนแผง
หน้าอกอันแข็งแกร่งกำยำของเขากดใส่จนสาวสวยครางอือออกมา เสน่ห์อันร้อนแรงของดาวมหาลัยคนนี้
กำลังกระตุ้นความเป็นชายของเขาจนตื่นเต้นคึกคักได้อย่างไม่มีใครเทียบเทียม
"ถ้าตอนนั้นพี่เอกทำตัวเจ้าชู้มาตามตื๊อตามจีบ จ้างให้หญิงก็คงไม่ทอดสะพานให้หรอกค่ะ ..."
"นั่นไงล่ะ ว่าแล้วเชียว"
"หญิงยังพูดไม่จบซะหน่อย ... ถ้าตอนนั้นพี่เอกกล้าเป็นฝ่ายมาจีบ แล้วกล้าขอมีอะไรด้วยล่ะก็ หญิงคงต้อง
เสียสาวให้พี่เอกตั้งแต่วันนั้นเลยต่างหากล่ะ"
นักศึกษาสาวพูดพลางโอบสองแขนขึ้นคล้องกอดรอบคอของเขาอย่างหลวม ๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองประสาน
สายตากับชายหนุ่มด้วยดวงตาอันวิบวับไปด้วยประกายแห่งความรัก ก่อนจะหลับตาพริ้มแล้วเขย่งปลายเท้า
บดริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูอ่อนเสนอจูบอันดูดดื่มเร่าร้อนให้อีกฝ่าย
เสียงพูดคุยเงียบหายไปด้วยโดนแทนที่โดยเสียงจูบอันหอมหวานและเสียงของลมหายใจอันหนักหน่วงระรัว
เรียวลิ้นสีชมพูสดใสเปิดฉากรุกเร้าเข้าไปพัวพันดูดดุนอยู่ในโพรงปากของชายหนุ่ม เธอเสนอรสชาตอันหอม
หวานของเนื้อสาวให้เขาเสพสมอย่างถึงอกถึงใจ จากนั้นเขาก็โอบกอดรัดรั้งร่างอวบอิ่มนุ่มนิ่มของเธอไว้จน
แน่นก่อนจะตวัดลิ้นพัวพันโลมเลียรักเร้าเข้าไปดูดกินความหอมหวานในโพรงปากของนักศึกษาสาวที่สวย
เด่นอย่างมิมีใครเทียบเทียมคนนี้
รสสัมผัสและกลิ่นกายอันแตกต่างของทั้งสองต่างกระตุ้นเร้าปลุกปั่นเพลิงไฟแห่งความปราถนาของอีกฝ่าย
จนลุกโชนขึ้นมาราวกับกองไฟกองใหญ่ที่ยากจะมอดดับลง ฝ่ามือนุ่มนิ่มของสาวสวยไล้ลงมาตามแผงอก
และกล้ามเนื้อหน้าท้องของชายหนุ่มด้วยกิริยาโหยหา ก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงไปตะปบหมับที่เป้ากางเกงอันตุง
เด่ของชายหนุ่มด้วยกิริยาที่โหยหายิ่งกว่าส่วนอื่นใด
เอกส่งเสียงครางอือเมื่อความเป็นชายของเขากำลังโดนมือของหญิงสาวบีบขยำคลึงอย่างมันมือจนแข็ง
ตัวตื่นขึ้นมาเต็มที่อย่างรวดเร็ว สองมือของชายหนุ่มจึงขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวอันนิ่ม
ละมุนเต่งเด้งของหญิงสาวอย่างไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนกระทำเพียงฝ่ายเดียว
มือข้างหนึ่งเกาะกุมบีบขยี้อยู่ที่ทรวงอกบิ๊กไซส์ของหญิงสาวจนเสื้อนักศึกษาของเธอยับย่นไปตามแรงกด
ขณะที่มืออีกข้างก็ขยับวูบลงไปบีบขยำกระโปรงนักศึกษาตรงเนื้อสะโพกที่แฝงความหยุ่นเด้งสะท้อนสู้มือ
ไม่แพ้สองเต้าอวบ
ร่างของนักศึกษาสาวแสนสวยกระตุกสะท้านพร้อมกับส่งเสียงครางอือออกมาไม่หยุด ความวาบหวิวซาบ
ซ่านกำลังแล่นพล่านแผ่วพริ้วไปทั่วร่างจนเธอแทบจะขาดใจตายไปกับรสสัมผัสของเขาไปเสียให้ได้ กระ
นั้นขณะที่เธอกำลังเคลิบเคลิ้มราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์เขากับปลดปล่อยริมฝีปากเธอออกจนเป็นอิสระ
แล้วผลักไสเรือนร่างที่กำลัวหิวโหยความรักของเธอออกห่างราวกับไม่สนใจใยดี
ขณะที่เธอกำลังยืนงุนงงในสภาพใบหน้าอันแดงก่ำ ก็ปรากฎเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้บริเวณที่เธอกำลัง
ยืนอยู่กับพี่เอกของเธอ เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ที่ปากตัวเองแล้วส่งเสียงจุ๊จุ๊บอก ก่อนจะเดินห่างออกไปแล้ว
แสร้งทำท่าเหมือนกำลังยืนเลือกหนังสืออยู่อีกด้านหนึ่ง
น้องหญิงที่เพิ่งเข้าใจเหตการณ์รีบหันหน้าไปทางชั้นวางหนังสือ เธอทำท่าทีเหมือนกำลังเลือกดูหนังสือ
อีกเล่ม และวินาทีถัดจากนั้นนักศึกษาสาวสองคนก็เดินผ่านเข้ามาบริเวณที่เธอยืนอยู่ จากนั้นก็เดินผ่าน
ไปโดยมิได้สนใจอะไรนัก เพราะหากมองเพียงผิวเผินแล้วก็มิได้มีสิ่งใดผิดปกติ นอกไปจากเสียงหอบ
หายใจกระเส่าของนักศึกษาสาวดาวมหาลัยคนนั้น
เมื่อเสียงเดินค่อยห่างไกลออกไป เอกก็รีบโผเข้ามาโอบกอดรัดเนื้อตัวอันนุ่มนิ่มเร้าอารมณ์ของสาวสวย
จากทางด้านหลัง สองมือของชายหนุ่มลูบไล้แปะป่ายสัมผัสไปทั่วสัดส่วนอันหนั่นแน่นรัดรึงของหญิงสาว
ขณะที่เบียดกระแซะท่อนเอ็นดุนดันแนบเข้าไปตรงร่องก้นของสาวสวย
น้องหญิงส่งเสียงครางอือไปพร้อมกับแอ่นสะโพกเด้งเบียดสัมผัสกับท่อนเอ็นของชายหนุ่มอย่างยั่วเย้า
เธอแอ่นเอียงคอเปิดทางให้ริมฝีปากของเขาซุกไซร้สูดดมความหอมไปทั่วซอกคออันขาวผ่องของตน
เอง สองมือของเธอจิกกำอยู่บนชั้นวางหนังสือจนแน่น ร่างทั้งร่างของเธอกำลังสั่นระริกไปกับความวาบ
หวิวแห่งกามารมณ์อันอยากจะขัดขืน
"อืมมมมมม .... อูยยยยยยย ...... อืมมมมมม"
น้องหญิงส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างเร่าร้อน ความเสียวแปลบปลาบวาบหวามเมื่อแท่งเนื้ออันแข็ง
แกร่งขยับวนบดเบียดเข้ากับร่องก้นของเธอกำลังจะทำให้เธอคลั่ง และถึงแม้ว่าจะยังมีกระโปรงนักศึกษา
และกางเกงในสีดำตัวเก่งของเธอขวางกั้นอยู่ถึงสองด่านก็ตามที แต่ขนาดอันใหญ่โตของเขาก็กำลัง
กระตุ้นเร้าจนเธออยากจะจับมันใส่เข้ามาในร่างของเธอเสียตั้งแต่วินาทีนี้เลย
"พี่เอก ... อื้อมมมมมมม ... อะ .... อือออออ .... ซี้ดดดดสสส"
เนื้อตัวและมือไม้ของเธออ่อนปวกเปียกไปหมด ลีลาสองมือที่ทำการบีบคลึงนวดเฟ้นสองเต้าขาวอวบ
ของเธอกำลังทำให้เธอหอบกระเส่าจนหายใจแทบไม่ทัน ซึ่งแม้จะยังมีเสื้อนักศึกษาและยกทรงยี่ห้อหรู
ขวางกั้นไว้ถึงสองชั้น แต่ลีลาอันพลิกพริ้วของปลายนิ้วทั้งสิบที่หนีบปลายถันและบีบบี้ขยำเคล้นจนสอง
เต้าขาวอวบของเธอบี้แบนก็ทำเอาเธอรู้สึกราวกับว่าเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่ก็มิปาน
ความหฤหรรษ์รุกเร้าหนักหน่วงกว่าเดิมเมื่อกระโปงนักศึกษาสีดำโดนดึงถลกร่นขึ้นไปด้านบนจนเห็น
แก้มก้นอันขาวนวลเนียนที่มีเพียงกางเกงในสีดำตัวน้อยห่อหุ้มรัดรั้งเอาไว้ ตามมาด้วยแท่งเนื้ออัน
แข็งแกร่งที่เบียดซุกพาดเข้าไปในร่องก้นดุนดันจนเนื้อผ้านุ่มของกางเกงในยับยู่เข้าไปด้านใน จาก
นั้นฝ่ามืออันหยาบกระด้างข้างหนึ่งก็ล้วงซุกเข้าไปในกางเกงในด้านหน้าแล้วบดบี้ขยี้ขยำโคกสวาท
ที่ฉ่ำชื้นแฉะอยู่แล้ว
"อี๊ออออออ ... อ๊ะ ... อ๊ะ ... อ๊ายย ... อ๊าาา อ๊าาาา อื๊ออออ ..."
สาวสวยเผลอร้องครางออกมาเสียงดังจนต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ เรือนร่างสวยอวบอิ่มเร้า
อารมณ์แห่งความใคร่เด้งกระตุกอย่างเร่าร้อน สะโพกขาวเนียนส่ายเด้งรับดุ้นเอ็นที่พาดอัดบดเบียด
อยู่กับร่องก้นไปตามอารมณ์อันหนักหน่วงที่กำลังลุกไหม้แผดเผา เนินเนื้ออันโหนกนูนก็ส่ายร่อนเด้ง
รับฝ่ามืออันหยาบใหญ่ของเขาไปพร้อมกับแลบลิ้นเลียวนไปรอบริมฝีปากตนเองอย่างหิวกระหาย
น้องหญิงรู้สึกได้ถึงอารมณ์อันกระสันซ่านที่ปั่นป่วนอยู่ภายใน โดยเฉพาะตรงท้องน้อยที่เสียววาบจน
คัดหลั่งเอาน้ำรักไหลเยิ้มออกมาเปียกชุ่มฉ่ำเต็มกางเกงใน
เสียงของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้อีกครั้ง หากทว่าชายหนุ่มยังคงเล้าโลมเธอต่อไปราวกับ
ไม่สนใจสิ่งใด กระนั้นสติของเธอเองก็ดูจะโดนไฟแห่งราคะแผดเผาจนมอดไหม้ไปเสียแล้ว เพราะ
รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะมีใครมาพบเห็นฉากรักของเธอกับพี่เอกในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจนเสื่อมเสีย
ชื่อเสียง แต่ร่างกายอันสาวสะพรั่งของเธอกลับกำลังต้องการรสรักจนมิอาจหยุดยั้งไว้ได้
สุดท้ายเธอก็เริ่มปล่อยตัวเลยตามเลย รองเท้าส้นสูงสีดำยกขยับออกไปทางด้านข้าง เปิดถ่างสอง
ขาที่หนีบแน่นอยู่ออกปล่อยให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายนิ้วแหย่แยงรุกล้ำเข้าไปในร่องสวาทอันร้อนฉ่า
ของตนโดยไม่คิดสนใจเสียงเดินที่ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่ก็ดูจะโชคดีอยู่บ้างที่เสียงเดินนั้นหยุด
อยู่ถัดไปจากชั้นหนังสือที่เธออยู่สองแถว
น้องหญิงปรือตามองลอดช่องว่างของชั้นหนังสือไปเบื้องหน้าก่อนจะพบเห็นว่าเสียงที่ใกล้เข้ามา
นั้นก็คือนักศึกษาชายสองคนในคณะเดียวกันกับเธอ ซึ่งหากพวกเขาจะสนใจมองย้อนมาทางเธอ
เสียหน่อยแล้วล่ะก็ คงจะได้เห็นฉากรักระหว่างดาวมหาลัยที่พวกเขาใฝ่ฝันหากับชายหนุ่มแปลกหน้า
ในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเข้าอย่างแน่นอน
หญิงสาวหลับตาพริ้มกัดเม้มปากเพื่อปิดเสียงครวญครางมิให้หลุดออกไปอย่างเต็มความสามารถ
กระนั้นชายหนุ่มกลับลงมือเล้าโลมเธออย่างหนักหน่วงรุนแรงกว่าเดิมขึ้นมาเสียอีก มือของเขาทั้ง
บด ทั้งบีบ ทั้งบี้ ขยำขยี้รัวนิ้วแหย่แยงจนเธอขาสั่นพั่บ ๆ แทบยืนทรงตัวไว้ไม่อยู่
สมองของเธอก็เริ่มขาวโพลนอีกครั้งเมื่ออารมณ์รักของเธอกำลังพุ่งไต่ทะยานขึ้นไปจนเกือบแตะ
เพดานแห่งจุดสุดยอดของความใคร่ เสียงเจ๊าะแจ๊ะของปลายนิ้วที่ลากวิ่งเข้าวิ่งออกโพรงสวาท
ยิ่งมายิ่งถี่ยิบหนักหน่วงกว่าเดิม น้ำรักระลอกแล้วระลอกเล่าหลั่งไหลย้อยทะลักไปตามง่ามขาขาว
อวบจนไปถึงรองเท้าส้นสูงสีดำ
เลือดเนื้ออันสาวสะพรั่งเริ่มบิดเกร็งสั่นสะท้าน ริมฝีปากบางส่งเสียงร้องอ๊ะอ๊ะออกมาอย่างต่อ
เนื่องเหลืออีกเพียงนิดเดียว สวรรค์ของเธออยู่เบื้องหน้าอีกเพียงนิดเดียว เขากำลังจะนำพาเธอ
ไปถึงจุดนั้นในอีกเพียงอึดใจ
"ซี้ดดสสสส มะ ไม่ ไม่ไหวแล้ว อะ อ๊าาาาาาาาาาา"
เสียงครวญครางแห่งความสุขสุดยอดหลุดออกมาจากริมฝีปากบางอย่างมิอาจปิดกลั้นไว้ได้ไหว
เรือนร่างอันอวบอัดเด้งกระตุกเกร็งร่อนส่ายเด้งไปมาเร่า ๆ ในอ้อมกอดของเขาด้วยความเสียว
หฤหรรษ์สุดชีวิต กระนั้นในวินาทีแห่งความสุขนั้นดวงตาอันหรี่ปรือของเธอก็สังเกตเห็นได้ว่า
นักศึกษาชายเพื่อนร่วมคณะทั้งสองคนของเธอกำลังหมุนตัวหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังพยา
ยามค้นหาต้นเสียงร้องครวญครางที่เธอเผลอหลุดปล่อยออกไปเมื่อครู่ และกำลังพากันเดินอ้อม
มาทางชั้นหนังสือที่เธอกำลังยืนเกาะอยู่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรงแล้วด้วยอีกต่างหาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
6 ความคิดเห็น:
รอนานมากๆ เกือบลงแดง ขอบคุณมากๆ
ขอบคุณคับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ
ขอบจัยจ้า
สุดยอดไปเลยคราบบบบ
แสดงความคิดเห็น