ขายของ
วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
รักยม ตอนที่ 66 - มื้อค่ำสุขสันต์
ร่างกำยำสมส่วนของชายหนุ่มที่นอนเปลือยแผ่หราอยู่ในโรงแรมพลิกตะแคงตัวอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะ
เอื้อมมือคว้าหยิบเอาผ้าผืนน้อยที่อยู่ใกล้มือมาปิดบังแสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นมาอย่างกระทันหันด้วยความ
รู้สึกง่วงเหงาหงุดหงิด
ความรู้สึกวาบหวามซาบซ่านที่ได้สวิงกิ้งเสพเซ็กส์กับกระแตดาราสาวนมโตและแพรนางแบบคู่ขายังคง
หลงวนเวียนอยู่ในสัมผัสมิรู้คลาย สัมผัสของสองเต้าอวบนุ่มล้นมือคล้ายยังคงค้างคาอยู่บนสองมือตน
กลิ่นกายหอมหวานยั่วเย้าของสองสาวคล้ายยังคงวนเวียนยั่วเย้าอยู่ในอากาศ มันเป็นความฝันที่หวาน
ละมุนเสียจนบอยแทบไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมา
กระนั้นก็ต้องพยายามฝืนปรือตาขึ้นมาเมื่อร่างของเขาโดนเขย่าอย่างแรง ขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้น
ภาพแรกที่บอยเห็นกลับเป็นภาพหญิงสาวสวยน่ารักผิวขาวใส่แว่นยืนคร่อมอยู่บนร่างของเขา หญิงสาว
แปลกหน้านางนั้นยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มอันแปลกประหลาด คล้ายโกรธขึ้งขัดเคือง หากผสานผสมไปด้วย
รอยยิ้มเยาะจนน่าขนลุก ริมฝีปากบางสวยนั้นอ้าปากพูดอะไรบางอย่างที่เขาจับใจความได้ไม่มากเท่าไหร่
นัก ที่พอได้ยินก็มีคำว่า 'นายโดนเอาคืนแน่'
"กรี๊ดดดดดดด ไอ้บอย ไอ้โรคจิต นี่แกทำอะไรกับเสื้อผ้าของชั้นกันยะ !!!!"
บอยที่กำลังสะลึมสะลือค่อยลืมตาโพลงตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงร้องหวีดด่าทออยู่ข้างหู และเมื่อหันไป
มองจึงค่อยพบว่า เจ้าของเสียงสูงปรี๊ดนั้นคือแพรนางแบบสาวคู่ขาของเขานั่นเอง เขาหันไปมองใบหน้า
อันบูดบึ้งของแพรด้วยความรู้สึกงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
"โอ๊ย โอ๊ย อะไรของแกเนี่ย คนจะหลับจะนอน อ้าว กระแตไปไหนแล้วล่ะ ฮ้าวว นี่มันกี่โมงแล้ว ยังไม่เช้า
อีกเหรอ?"
บอยหันไปรอบห้องพักมองหาดาราสาวหุ่นอวบนมโต หากในห้องกลับไม่มีใครอยู่ กระแตไม่อยู่ เจ้าเอก
เพื่อนสนิทคนใหม่ก็หายหัว เหลือแต่เพียงเขาและแพรอยู่ในห้องเพียงสองคน มองออกไปนอกหน้าต่าง
ก็มืดสนิทเห็นแต่เงาลางเลือนของยอดมะพร้าวที่ส่ายไหวไปมา
"ยังไม่เช้าบ้าอะไรเล่า นี่มันค่ำแล้วย่ะ แกเล่นนอนกินบ้านกินเมืองข้ามวันข้ามคืนไม่รู้เวลาเลยเหรอไงยะ
ชั้นตื่นไปทำงานมาเสร็จแล้ว กระแตก็ไปแข่งรถเสร็จแล้ว คุณเอกก็กลับกรุงเทพแล้ว แต่แกก็ยังนอนอุตุ
เป็นหมูอยู่แบบนี้"
บอยที่นอนสลบยาวจนไม่รู้เวลาถึงกับปวดหัวตุบจนต้องยกมือขึ้นไปเกาหัวแกรก ๆ เพราะเพิ่งรู้ว่าตัวเอง
เผลอนอนยาวเสียขนาดนั้น แต่ที่สัมผัสอยู่บนหัวกลับเป็นผ้าเนื้อนิ่มชิ้นเล็กบางสองชิ้น และเมื่อหยิบยก
ลงมาดูจึงค่อยพบว่ามันคือกางเกงในจีสตริงของแพรนั่นเอง
ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากเหวอเมื่อพบว่าที่แท้แล้วสิ่งที่ทับถมอยู่บนร่างของเขาเป็นกองใหญ่นั้นล้วนแล้ว
แต่เป็นเสื้อผ้า ยกทรง ถุงน่อง และกางเกงในของแพรทั้งนั้น และนั่นก็คงจะเป็นเสื้อผ้าทั้งหมดเท่าที่เธอ
มีเพราะกระเป๋าของแพรที่สมควรวางอยู่ปลายเตียงตอนนี้กลับวางอยู่บนเตียงเคียงข้างเขาในสภาพเปิด
อ้าว่างเปล่า
"ชั้นดีใจนะที่แกหลงเสน่ห์ชั้นขนาดนี้ แต่ชั้นไม่นึกเลยว่าแกจะโรคจิตขนาดนี้ เมื่อคืนก็สนุกกันยันเช้าแล้ว
แกยังหื่นจนต้องเอาเสื้อผ้าชั้นมากอดมาดมมาช่วยตัวเองแบบนี้อีกเหรอยะไอ้บอย !!!"
นางแบบสาวผิวสีน้ำผึ้งส่งเสียงแหวดแหวพลางสะบัดมือขวับคว้าเอากางเกงในที่อยู่ในมือของเขาไป
พินิจพิจารณาตรวจดูด้วยสายตาโกรธขึ้งบึ้งตึง จากนั้นก็คว้าหมับจับเอาเสื้อผ้าที่วางกองสุมอยู่บนตัว
ของบอยคัดแยกโยนเอาบางชิ้นลงไปกองบนพื้น และบางชิ้นที่ยังสะอาดไม่เลอะคราบก็โยนใส่กระเป๋า
เสื้อผ้าลงไป
"เฮ้ย ๆ เดี๋ยว ๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน แกแอบแกล้งใช่มั้ย ใครจะไปเอากางเกงในแกมานอนดมเล่นแบบนี้"
"อ๋อ เหรอ จะแถว่าชั้นแกล้งแกงั้นเหรอไอ้บอย ไม่ต้องเลยย่ะ ... กรี๊ดดดด นี่มันกางเกงในตัวโปรดของ
ชั้น แกเอามาชักว่าวใส่จนแห้งแข็งแบบนี้เลยเหรอ กรี๊ดดด ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ ไอ้โรคจิตวิปริต ไอ้ ไอ้"
แพรถึงกับอ้าปากกรีดร้อง และรีบวิ่งหยิบเอากางเกงในสีสวยที่ยับย่นเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำกาม
แห้งแข็งไปแช่ในห้องน้ำแล้วซักขยี้ พร้อมกับส่งเสียงด่าทอชายหนุ่มไม่หยุด
บอยก็ได้แต่อ้าปากเหวอไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเขาไม่ได้
เป็นคนทำ แพรก็ไม่น่าจะลงทุนแกล้งเขาซะขนาดนั้น กระแตกับเอกก็ไม่น่าใช่ นึกถึงตอนนี้ก็เริ่มไม่
แน่ใจว่าเขาดื่มจนเมามากไปหรือเปล่า เพราะที่จำได้ก่อนจะหลับไปก็คือตอนที่น้ำแตกใส่กระแต
เป็นรอบสุดท้ายหลังจากนั้นก็นอนหลับนึกอะไรไม่ออกอีกเลย
"ฮ้าววว ... อืมมมมม ... ทำไมเมื่อยไหล่ เมื่อยคอจังวะ ยังกับโดนใครขี่คออยู่แน่ะ"
ร่างกำยำสะบัดเหวี่ยงกางเกงในที่ยังวางทับอยู่ตัวทิ้งไป แล้วลุกขึ้นมายืนบิดตัวบิดเอวไปมาเพื่อ
คลายความเมื่อย รู้สึกสงสัยว่าทำไมรู้สึกปวดเมื่อยที่ต้นคอและไหล่แปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
มาก เพราะเข้าใจว่าอาจจะเมา เหนื่อย และนอนนานเกินไป
"เอ๊ะ !!! ..."
บอยหยุดชะงักร่างแล้วรีบเดินถอยมามองดูกระจกเงาของโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาของชายหนุ่ม
พยายามหรี่มองจรดจ้องสำรวจด้วยความตื่นตัวสงสัย เมื่อครู่ที่เขาเดินผ่านกระจกคล้ายมอง.
เห็นเงาสีขาวของผู้หญิงกำลังนั่งขี่คอเขาอยู่แวบหนึ่ง แต่เมื่อมองดูดี ๆ และลองยื่นมือแตะ
สำรวจก็ไม่พบเห็นอะไร บอยจึงได้แต่ยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แล้วรีบ
เดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ
ชายหนุ่มเดินอ้อมแพรที่กำลังยืนซักล้างกางเกงในอยู่ตรงอ่างล้างหน้า เขายิ้มแห้ง ๆ ตอบ
สายตาขุ่นมัวของแพรที่จับจ้องมา แล้วก็เดินเปลือยโทง ๆ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจตรงไป
ยืนฉี่ที่โถส้วม แต่เมื่อเดินผ่านด้านหลังของแพรไป กลับได้ยินเสียงดังเพี๊ยะเบา ๆ พร้อมกับ
ร่างของแพรที่สะดุ้งโหยงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหต
"ไอ้บอย ไอ้โรคจิต ไม่ต้องมาตีก้นชั้นเลยย่ะ คนกำลังโกรธอยู่ ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย"
แพรหันมาด่าทอพร้อมกับส่งสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ด้านบอยที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้
แต่ยืนอ้าปากเหวออีกรอบ เขามั่นใจว่าไม่ได้โดนเนื้อตัวของแพรแม้สักปลายก้อย แล้วอยู่ ๆ
เธอก็มาด่าว่าเขาไปตีก้นเธอเสียอย่างงั้น
ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุยกับแพรตอนเธอกำลังโกรธ บอยเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงได้แต่ขยับไปยืน
ฉี่อย่างนิ่งเงียบ เขาสยิวกายน้อย ๆ เมื่อเสียงจ๊อกจ๊อกของสายน้ำสีเหลืองเข้มดังขึ้น หากขณะ
ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับความสุขเล็ก ๆ ของการฉี่ ชายหนุ่มกลับพบว่าเจ้าปลายกระบอกปืน
ของเขากลับหันไปซ้ายทีขวาที จนน้ำสีเหลืองเข้มไหลทะลักลงไปเลอะเทอะเปรอะเปื้อนรอบ
โถฉี่จนเจิ่งนองเป็นหย่อมใหญ่
"กรี๊ดดด ไอ้ซกมก แกฉี่ให้ตรงไม่ได้หรือไงยะ แกรีบล้างให้สะอาดเลย เดี๋ยวชั้นต้องใช้ห้องน้ำ
อาบน้ำต่อนะ ต้องรีบไปทำงานอีก"
ท่ามกลางความงุนงงนั้น เสียงสูงแหลมของแพรก็ตวาดด่าทอจนรูหูสั่นสะเทือนอีกครั้ง บอย
ได้แต่รีบเอื้อมมือไปจับปลายกระบอกปืนให้ชี้นิ่งไปที่โถฉี่ แล้วก็ยืนรับคำด่าด้วยไม่เข้าใจว่า
วันนี้มันคือวันนรกอะไรกัน หรือว่าเมื่อคืนเขาใช้งานอาวุธประจำกายมากไปหน่อยมันก็เลย
หันซ้ายหันขวาได้เองแบบนี้
เสียงชักโครกดังขึ้น มือหนึ่งนั้นถือที่ฉีดน้ำฉีดล้างคราบฉี่ที่ตัวเองทำเปรอะเลอะเอาไว้ ด้าน
อีกมือนั้นยังคงจับอาวุธประจำตัวเอาไว้จนแน่นเหมือนกลัวว่ามันอาจจะกระดิกตัวเองอีกเมื่อ
ไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีความผิดปกติอะไร ชายหนุ่มจึงค่อยยอมปล่อยมือออกด้วยความ
ระแวดระวัง แล้วเดินไปที่อ่างล้างหน้า สลับกับแพรที่เดินเอากางเกงในมาแขวนตากไว้
บอยแปรงฟันไปพลางมองภาพตัวเองในกระจกไปพลางด้วยความรู้สึกงง ๆ ปวดหัวตุ้บ ๆ
เพราะฤทธิ์เหล้า ไหล่และคอก็ปวดเมื่อยจนรู้สึกอยากหาสาวสวยมาบีบนวดให้เสียหน่อย
เลยแอบคิดเพลิดเพลินไปว่าหากได้กระแตมานวดเฟ้นให้ก็คงจะดี เขาจะได้นวดเฟ้นกลับ
ให้ดาราสาวนมโตแบบเมื่อคืนอีกสักรอบ แต่เมื่อแปรงฟันเสร็จ แพรก็ส่งเสียงด่าทอออก
อีกครั้ง แถมคราวนี้ยังหยิกแขนหยิกหลังเขาเสียจนสะดุ้งโหยงด้วย
"ตายแล้วว !!!! ไอ้บอย นี่แกเอาแปรงสีฟันของชั้นมาใช้ทำไมยะ ของแกเองก็มี แหวะ
สกปรกเหม็นขี้ฟัน ..."
แพรทั้งด่าทั้งหยิก แถมยังใช้อีกมือคว้าเอาแปรงสีฟันสีส้มของเธอไปล้างทำความสะอาด
กับก๊อกน้ำราวกับว่ามันเพิ่งจะไปเปรอะเลอะน้ำเน่าในคูน้ำมาก็มิปาน
เป็นอีกครั้งที่บอยได้แต่ยืนทำหน้าเหรอหรา เขามั่นใจว่าเขาไม่น่าจะหยิบผิด แต่แปรงสีฟัน
สีดำที่มียาสีฟันละเลงอยู่บนแปรงยังคงวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า และแปรงสีฟันสีส้มที่แพร
เพิ่งจะหยิบฉวยออกไปจากมือของเขาก็คือของแพร
จากนั้นบอยก็โดนหยิกโดนข่วนจนส่งเสียงร้องโอดโอย แล้วก็โดนผลักไสไล่ส่งออกจาก
ห้องน้ำ แล้วเสียงน้ำซู่ซ่าจากฝักบัวก็ดังขึ้น บอยทำท่าจะยกมือขึ้นเคาะประตูเพื่ออธิบาย
และขอโทษกับแพร แต่กระเพาะเจ้ากรรมก็ส่งเสียงประท้วงร้องโครกครากออกมาเสียก่อน
ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนใจเดินไปสวมใส่เสื้อผ้า หยิบเอาตะกรุดเขี้ยวสมิงพรายขึ้นมาคล้องคอ
แล้วออกจากห้องไปหาอะไรกินแก้หิว
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก บอยก็เบียดตัวเข้าไปด้านในแล้วก็แอบส่งยิ้มให้แหม่มผมทองหุ่น
อวบ แสงไฟบนหน้าจอเปลี่ยนจากเลขเจ็ดกลายเป็นเลขหก แล้วประตูก็เปิดออกมีแขกของ
โรงแรมเบียดเข้ามาในลิฟท์อีกสองคน สภาพภายในไม่ถึงกับแออัดแต่ก็เรียกได้ว่าใกล้ชิด
บอยอดคิดอกุศลไม่ได้ว่าอยากจะจับก้นของแหม่มผมทองหุ่นดีที่ยืนอยู่ด้านหน้าสักหน่อย
อยู่ดี ๆ แหม่มผมทองคนนั้นก็สะดุ้งโหยงหันมองทางเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร บอยที่ไม่
รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ตามความเคยชิน แหม่มคนนั้นขมวดคิ้วแล้วก็หันกลับไป
อีกครั้ง แต่เพียงแว้บเดียวแหม่มคนนั้นก็สะดุ้งตัวอีกครั้ง คราวนี้เธอแค่ชำเลืองมองมาทาง
บอยเหมือนจะเกรง ๆ กลัว ๆ อะไรบางอย่าง
บอยก็ได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ คิดว่าแหม่มคนนี้เป็นโรคจิตอะไรหรือเปล่า หรือว่าแอบ
สนใจเขาอยู่กันแน่ และความสงสัยนั้นค่อยได้รับคำตอบ เพราะเมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้นที่
ชั้นหนึ่ง แหม่มผมทองคนนั้นก็หันมามองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วก็ตวัดมือตบ
เพี๊ยะเสียเต็มแรงจนเขาหน้าหัน จากนั้นเธอก็ด่าทอเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงอันดัง
จับใจความได้ว่า 'ไอ้สารเลวอย่ามาจับก้นฉัน' แล้วก็เดินย่ำเท้าตึงตึงออกไป
ชายหนุ่มจึงได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดลงไป แขกคนอื่น
ก็เริ่มหันมามองด้วยสายตาดูถูกไม่เป็นมิตร เขาจึงได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าออกไปด้านนอก
ประตูลิฟต์ปิดลงอีกครั้ง ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนงงงันอยู่ตัวเดียว และเวลานั้นเองที่บอยรู้สึก
ได้ถึงความอุ่นวาบจากตะกรุดเขี้ยวสมิงพรายที่สวมใส่อยู่ อีกทั้งยังได้ยินเสียงคล้าย
กับเสียงหัวเราะร่วนสาแก่ใจของหญิงสาวจากที่ไหนสักแห่ง
..............................................................
'เฮ้อ คิดถึงนิคกี้ลูกศิษย์ของเราเหลือเกิน ไม่รู้ว่าไปอยู่กับเจ้าหนุ่มปากเก่งนั่นแล้วจะ
เป็นอย่างไรบ้าง'
เมื่อรถยนต์ยุโรปคันหรูถอยจอดและดับเครื่องลง เสียงทอดถอนหายใจของร่างวิญญาณ
สีเขียวบอบบางสะโอดสะองของนางตะเคียนที่กึ่งนั่งกึ่งลอยตัวอยู่ในรถก็ดังขึ้น
'โห หนูว่าป้าตะเคียนถามผิดแล้วล่ะ ยัยผีแว่นหน้าขาวโบ๊ะลูกศิษย์คนดีของป้าน่ะไม่เป็น
อะไรร้อก ที่น่าห่วงน่ะ น่าจะเป็นเพื่อนของพ่อต่างหาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะโดนแกล้งจนหัว
โกร๋นไปแล้วหรือเปล่า'
เสียงแหลมเล็กของสองเด็กน้อยรักยมที่นั่งเล่นอยู่บนหลังคารถพูดตอบออกมาแทบจะ
ในทันที ก่อนที่ร่างวิญญาณของทั้งสองจะลอยวูบไหวลงมาเล่นวิ่งไล่จับกันเองวนเวียน
ไปมารอบตัวรถ แล้วส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวซุกซน
'คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง ก็อธิบายไปแล้วนี่นา ว่าเหตการณ์ตอนนั้นมันสุดวิสัย บอย
เค้าก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก'
เอก ที่เพิ่งเปิดประตูลงมาจากรถขยับตัวหลบวูบแทบไม่ทันเมื่อร่างวิญญาณของสองเด็ก
น้อยวิ่งเข้าใส่แบบไม่เกรงว่าจะชนปะทะกันเลยสักนิด แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นร่าง
วิญญาณที่ชนกันไม่ได้อยู่แล้วหากไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ช่วย ก็เลยได้แต่สะบัดส่ายหน้าไป
มาเพราะยังคงทำใจให้รู้สึกเคยชินเรื่องแบบนี้ไม่ได้สักที
'คิก คิก เจ้านายสุดที่รักของข้า เจ้าดูแคลนความอาฆาตแค้นของสตรีมากไปหน่อยแล้ว
กระมัง เพื่อนรักของเจ้าคงจะโดนดีมิใช่น้อย แต่อย่างไรเสียข้าก็ได้กำชับกับศิษย์ข้าไว้
แล้วว่าอย่าได้กระทำการล้างแค้นมากเกินไป ดังนั้นเจ้าจงอย่าได้ห่วง จงห่วงแต่ตนเอง
เถิด เพราะช่วงยามสี่ของค่ำคืนนี้ เจ้าต้องเข้ารับการฝึกฝนที่หนักกว่าครั้งก่อนหน้าหลาย
เท่านัก'
'... โห พี่แก้วอย่าขู่กันขนาดนั้นซิ แค่นี้ก็กลัว ๆ ไม่กล้าฝึกแล้วเนี่ย ... เอ แล้วไอ้ยามสาม
ยามสี่อะไรนั่นมันคือตอนไหน ตีสี่หรือว่ายังไง?'
'เฮอะ ลูกหลานชาวไทยสมัยนี้เป็นกะไรกันไปหมด หาได้รู้จักสืบทอดคำไทยโบราณไม่
ยามสามก็คือช่วงเวลา 0 ถึง 3 นาฬิกา ส่วนยามสี่ก็คือช่วงเวลา 3 ถึง 6 นาฬิกาอย่างไร
เล่า'
'จ้า จ้า ขอโทษจ้าพี่แก้ว เคยได้ยินสมัยเรียนเหมือนกันแหละ แต่ไม่ได้ใช้เลย ก็ลืมเป็น
เรื่องธรรมดา ... ว่าแต่คราวนี้จะเอาไงดีเนี่ย แบบเดิมหรือเปล่า ให้พี่แก้วช่วยสิงร่างของ
น้องหญิงกับน้องฟ้า แล้วพาเดินขึ้นไปบนห้องทีละคน?'
เอกที่เพิ่งจะเปิดประตูรถฝั่งตรงข้ามคนขับออกยืนมองอย่างครุ่นคิด น้องหญิงของเขา
ยังคงนอนเอนราบหลับตาพริ้มฝันหวานอยู่บนเบาะหน้า ส่วนน้องฟ้าก็นอนแผ่หราอยู่
ตรงเบาะหลัง สองนักศึกษาสาวยังคงส่งเสียงครางพึมพำมีความสุขด้วยยังมิหายคลาย
จากเศษเสี้ยวของมายามนตร์ที่ตกค้างอยู่
ดวงตาของชายหนุ่มทอประกายแวววาวขึ้นมาอีกครั้ง ขณะจ้องมองไปตามเรือนร่างงาม
ระหงสมบูรณ์แบบในชุดนักศึกษาของน้องหญิง เพียงมองไปตามท่อนขาขาวเรียว หน้า
อกอวบอิ่มตูมตั้ง และใบหน้าสวยหวานปานนางฟ้า ความเป็นชายที่เพิ่งจะได้พักผ่อนเพียง
ไม่นานก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง จนแทบอยากจะลองจัดการขย่มใส่สุดที่รักของเขาในที่
จอดรถของคอนโดเสียเลย
"น้องหญิง ตื่นได้แล้ว ถึงคอนโดแล้ว"
เอกส่งเสียงปลุก พลางเอื้อมมือข้างหนึ่งล้วงลงไปตะปบลูบที่ขาอ่อน ขณะที่ฝ่ามืออีก
ข้างก็ขยับไปบีบขยำเสื้อนักศึกษาที่รัดรั้งทรวงอกอวบอิ่มด้วยความคิดอุตริว่าหากยังไม่
ยอมตื่น ก็จะลงมือลวนลามลักหลับแฟนสาวสุดเซ็กส์เสียตรงที่จอดรถนี้สักรอบ
ดาวมหาลัยแสนสวยปรือตากระพริบคล้ายตื่นคล้ายไม่ตื่น เธออ้าปากร้องครางพลางแอ่น
เด้งทรวงอกและกลีบอวบอูมเข้ารับรสสัมผัสแห่งความเสียวจากฝ่ามือหยาบกร้าน ภาพแห่ง
ความจริงและฝันแห่งมายามนตร์ยังคงซ้อนทับจนทุกสิ่งที่มองเห็นขุ่นมัวพล่าเลือนสับสน
เธอไม่ทราบว่าเธออยู่ที่ไหน และไม่ทราบว่าขณะนี้เป็นเวลาใด แต่เพียงได้ทราบว่าชาย
หนุ่มสุดที่รักของเธออยู่ตรงนี้ และเขากำลังสัมผัสเนื้อตัวของเธอด้วยรักเสน่หาก็เพียงพอ
แล้ว
อารมณ์ปราถนาคล้ายกองไฟที่ประทุคุโชนไม่ยอมมอดดับ สองมือของเธอเอื้อมไขว่คว้า
กอดรัด เด้งตัวสัมผัสแนบประกบร่างด้วยใคร่ปราถนาไขว่คว้าหาความร้อนแรงแห่งอภิรมย์
สมสู่ เขาตอบรับด้วยการกระชากรั้งร่างของเธอขึ้นไปโอบกอดพร้อมด้วยบดจูบอย่างหนัก
หน่วงจนเธอหัวหมุน ยิ่งร่างกำยำแข็งแกร่งโถมทับกดบดขยี้ใส่เพลิงไฟแห่งความใคร่ของ
เธอก็ยิ่งลุกโชนโชดช่วงแผดเผาทุกสิ่งอย่าง
"พี่เอก ช่วยด้วยค่ะ หญิงอยากอีกแล้ว ..."
เมื่อริมฝีปากบางถูกปลดปล่อยจากจุมพิตร้อนแรง คุณหนูดาวมหาลัยแสนสวยก็ส่งเสียง
ครางอ้อนวอนร้องขอความเอ็นดูกรุณาจากแฟนหนุ่ม เขาตอบรับแรงปราถนาของเธอด้วย
การฉีกทึ้งดึงกางเกงในของเธอจนขาดหลุดลุ่ย จากนั้นความหฤหรรษ์อันใหญ่ยักษ์คับแน่น
ก็เริ่มแทรกตัวเสือกไสคืบคลานเข้าไปในร่าง
สาวสวยกอดรัดรั้งร่างเขาจนแนบแน่นพลางส่งเสียงร่ำร้องครวญครางออกมาไม่ขาดปาก
หากในห้วงแห่งอารมณ์หฤหรรษ์นั้นกลับปรากฎแสงไฟสว่างเจิดจ้าขึ้นมาอย่างกระทันหัน
มโนสติที่จมจ่อมแหวกว่ายอยู่ในทะเลกามโดนกระชากดึงกลับสู่ความเป็นจริงจนแทบปรับ
เนื้อปรับตัวไม่ทัน
ที่แท้แสงไฟสว่างจ้านั้นก็คือแสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งที่วิ่งมาจอดในช่องว่างถัดออกไป
ภาพรถที่จอดเรียงรายเป็นแถวยาวทำให้สาวสวยค่อยได้รู้ตัวว่าที่นี่คือที่จอดรถในคอนโด
ของพี่เอก แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนั้นเธอกลับนึกไม่ออก เพราะเท่าที่จำความได้ ล่าสุด
เธอเข้าไปในหอพักของฟ้าพร้อมกับฟ้าและเนย จากนั้นความสุขหฤหรรษ์ที่ประดังเข้ามา
ก็ทำให้เธอหัวหมุนงุนงงไม่แน่ใจว่า มันเป็นความจริงหรือความฝัน รู้แต่ว่าสัมผัสของสาย
น้ำเย็นฉ่ำและเสียงร้องของสรรพสัตว์ยังคงตกค้างอยู่ในสัมผัสอย่างมิรู้คลาย
"... อาจารย์ธันวดี !!!"
น้องหญิงส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจ แม้จะมีกระจกรถขวางกั้นอยู่หนึ่งชั้น
แต่เธอก็จดจำได้เป็นอย่างดีว่าผู้หญิงวัยสามสิบต้น ๆ ที่กำลังมองมาด้วยสายตาตื่น
ตะลึงนั้นคืออาจารย์สอนวิชาการเงินที่มหาวิทยาลัย เธอสนิทสนมกับอาจารย์คนนี้ไม่
น้อย เพราะอาจารย์เป็นสาวสวยมาดมั่น ทั้งยังเก่งรอบรู้ไปเสียทุกเรื่องโดยมีดีกรีดอก
เตอร์พ่วงท้ายไว้อีกต่างหาก ส่วนทางด้านอาจารย์เองก็ดูจะรักและเอ็นดูเธอไม่น้อยเช่น
กัน ถึงกับยอมให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวและกำชับว่าโทรมาปรึกษาได้ทุกเรื่องทุกเวลา
ใบหน้าของนักศึกษาสาวถึงกับแดงปลั่งขึ้นมา ทั้งขัดเขินอับอายและเกรงกลัวว่าจะโดน
อาจารย์สาวที่เป็นไอดอลตำหนิติเตียน เพราะโดยปกติแล้วภาพลักษ์ของเธอในสายตา
ของอาจารย์ธันวดีนั้นคือ เด็กสาวใสซื่อเรียบร้อยน่ารัก หากทว่าวันนี้อาจารย์กลับได้เห็น
ภาพอีกด้านที่ซุกซ่อนไว้เสียจนเต็มสองตา อะไรจะสร้างความเสื่อมเสียได้มากกว่าการ
โดนเห็นว่าลูกศิษย์คนโปรดกำลังมั่วเซ็กส์กับผู้ชายในที่จอดรถอีกล่ะ
ด้านเอกนั้นแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะ แต่เมื่อได้ยินเสียงของน้องหญิงก็พอจะรู้
สถานการณ์อยู่บ้าง ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นความผิดของเขาเองนั่นแหละที่ลืมร่ายมนตร์กำบัง
กายเอาไว้เสียก่อน พอโดนขัดจังหวะแบบนี้เข้าก็เลยได้แต่ต้องปรับเปลี่ยนท่วงท่า ถอนดึง
ดุ้นเอ็นที่สอดใส่ค้างคาอยู่ในร่องของน้องหญิงออกมา พร้อมกับใช้มือช้อนประคองสองขา
ที่กระหวัดรัดรอบเอวของเขาอยู่ออก แล้วจับประคองให้เธอยืนหอบกระเส่าพิงอยู่กับประตูรถ
ความรู้สึกขัดใจแปรเปลี่ยนไปเป็นความสนอกสนใจในทันทีที่ชายหนุ่มหันมามองสบตา
กับหญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่ในรถ เธอคนนั้นดูสาวและสวยใช่ย่อย แม้จะใส่แว่นกรอบหนา
เตอะคล้ายเด็กเนิร์ดแต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนสวยสง่าอยู่ดี
ด้านอาจารย์ที่รู้สึกโกรธและผิดหวังในพฤติกรรมเหมือนเด็กใจแตกของลูกศิษย์สาวสุดรัก
ก็ถึงกับพูดอะไรออกมาไม่ออก แรกทีเดียวเธออยากจะลงจากรถไปต่อว่าลูกศิษย์ของเธอ
สักคำสองคำ แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อโดนจ้องมองด้วยสายตาของชายหนุ่มที่เร่าร้อนแหลม
คมเข้าเพียงหน่อยเดียว เธอก็ถึงกับสั่นสะท้าน สายตานั้นของเขาราวกับจะมองผ่านทะลุเสื้อ
ผ้าเข้ามากลืนกินโลมเลียเนื้อตัวของเธอได้จนหมดสิ้นในคราวเดียว
ยิ่งเมื่อได้มองเห็นความเป็นชายที่ใหญ่โตแข็งแกร่งชูคอผงาดอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดอยู่
เบื้องหน้า อาจารย์สาวดีกรีด๊อกเตอร์ที่ไร้ประสบการณ์ทางเพศก็ถึงกับเกิดอารมณ์ร้อนวูบ
วาบจนน้ำลายสอ รู้สึกอยากแตะสัมผัสกลืนกินความเป็นชายของเขาขึ้นมาเสียอย่างงั้น
ร่างของเธอสั่นเทิ้มเล็กน้อย ความรู้สึกสยิวซาบซ่านไม่ทราบผุดเกิดขึ้นมาจากที่ใด รู้แต่
ว่าร่างกายของเธอกำลังเปลี่ยนแปลง ภายในเวลาอันแสนสั้นนั้น ปลายถันของเธอแข็ง
เต่งขึ้น ร่องสวาทของเธอถึงกับขมิบตัวหนุบหนับขับหลั่งเอาหยาดน้ำออกมาจนกางเกง
ในเปียกชุ่ม ดวงตาของเธอได้แต่จ้องมองความเป็นชายของเขาราวกับต้องมนตร์สะกด
เมื่อเขาล้วงเก็บสิ่งนั้นกลับเข้าไปในกางเกง เธอถึงกับทอดถอนหายใจออกมาด้วยความ
รู้สึกผิดหวัง ด้วยอยากมองพิจารณาให้นานกว่านี้ อยากเอื้อมมือไปบีบสัมผัส อยากคว้า
มันมาดูดกลืนกินเพื่อดับอารมณ์หิวกระหายในลำคอที่แห้งผาก
สติของเธอค่อยหวนกลับคืนมาเมื่อมองขึ้นไปเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มที่ประดับ
ด้วยรอยยิ้มเหมือนจะอ่านความคิดของเธอออกจนทะลุปรุโปร่ง อาจารย์สาวสวยจึงรีบสะ
บัดใบหน้าหันมองไปทางอื่นเรียกคืนสติของตัวเองกลับมาให้ครบร้อย ก่อนจะหายใจเฮือก
ใหญ่ บิดกุญแจดับเครื่อง ฉวยกระเป๋าถือใบโปรด แล้วก้าวเดินลงไปจากรถ เธอต้องทำหน้า
ที่อาจารย์แล้ว
"อาจารย์คะ ... คือว่า ... หนู ..."
"สุดคะนึง ... อาจารย์ไม่คิดเลยนะว่าเด็กน่ารักนิสัยดีอย่างเธอจะทำตัวเป็นเด็กใจแตกแบบนี้"
"ขอโทษค่ะ ... คือ ..."
"ไม่ต้องมาขอโทษอาจารย์หรอกจ้ะ เธอควรจะไปขอโทษผู้ปกครองของเธอมากกว่า พวก
ท่านส่งเธอมาเรียนหนังสือหาความรู้ ไม่ใช่ส่งให้มาโดนผู้ชายเกเรนิสัยไม่ดีพวกนี้หลอกเจาะ
ไข่แดงในที่จอดรถแบบนี้ ถ้าท้องขึ้นมาจะทำยังไง"
'ผู้ชายเกเรนิสัยไม่ดี' ที่โดนพาดพิงถึงกับสะดุ้งโหยงขึ้นมา แถมเมื่อหันไปมองทางแฟนสาว
สุดที่รักก็เริ่มจะเห็นตาเธอแดง ๆ น้ำตาปริ่ม ๆ ใกล้จะร้องไห้โฮออกมา ก็เลยเริ่มรู้สึกโกรธอา
จารย์คนสวยขึ้นมาบ้างแล้ว
"น้องหญิงกลับเข้าไปแต่งตัวในรถให้เรียบร้อยก่อนไป เดี๋ยวตรงนี้เคลียร์เอง"
น้องหญิงที่ทำอะไรไม่ถูกพอได้ยินก็พยักหน้าแล้วรีบเข้าไปนั่งในรถ มอบหน้าที่ให้เอกเป็น
คนรับหน้าอาจารย์ธันวดีเพียงคนเดียว
"พี่สาวคนสวยยังซิงใช่มั้ยครับ? น่าเสียดายจัง"
"... ธะ เธอ ใครเป็นพี่สาวของเธอกัน แล้วรู้มั้ยว่าถามอะไรออกมา? ถ้าชั้นยังไม่เคยมีแฟน
แล้วมันน่าเสียดายอะไรตรงไหน"
"แสดงว่ายังซิงจริงด้วย น่าเสียดายที่ว่าสาวสวยเซ็กส์ซี่อย่างอาจารย์ ยังไม่เคยได้รับความ
สุขแบบสุด ๆ เหมือนขึ้นสวรรค์จากผู้ชายน่ะซิครับ ดูซิ ขาว สวย นมใหญ่ ก้นใหญ่ น่ากินจะแย่"
"นะ นี่ เธอคิดจะลามปามชั้นงั้นเหรอ?"
เมื่อโดนมองด้วยสายตาอุกอาจลวนลามอาจารย์ธันวดีก็ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกแปลก
ใจที่ร่างกายเลือดเนื้อที่ยังบริสุทธ์ผุดผ่องของตัวเองเต้นระริกปราถนาอยากโผเข้าไปให้ชาย
หนุ่มอ่อนวัยกว่าคนนี้แตะต้องลูบไล้สัมผัสเนื้อตัวใจจะขาด
เอก ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะยื่นมือออกไปอย่างเชื่องช้า เป้าหมายปลายทางก็คือที่บริเวณทรวง
อกของอาจารย์คนสวยที่โดนมนตร์ปลุกสวาทเข้าไปจนเต็มเปา อาจารย์ธันวดีได้แต่ยืนนิ่งตัว
แข็งทื่อไม่กล้าหลบหลีกฝ่ามือที่เอื้อมเข้ามาหาหน้าอกตัวเองอย่างช้า ๆ เธอหอบใจฟืดฟาด
ออกมาอย่างหนักหน่วงลุ้นระทึกเมื่อปลายนิ้วของเขาอยู่ห่างจากทรวงอกของเธอไม่ถึงนิ้ว
เอกหยุดยั้งมือเอาไว้ตรงนั้นไม่รุกคืบไม่ถอยกลับ แต่จิตนั้นกำลังเร่งเร้าเป้ามนตราปลุกความ
ใคร่ของอาจารย์สาวให้โหมกระหน่ำจนหนักหน่วงรุนแรงแทบถึงขีดสุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเธอ
อดรนทนไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายแอ่นอกอวบเสนอสนองมาโดนปลายนิ้วของเขาเอง
เมื่อเธอเด้งแอ่นหน้าอกเข้าหา ปลายนิ้วของชายหนุ่มก็กดเข้าหาที่บริเวณปลายยอดทรวงอก
อย่างถนัดถนี่จนเนื้อนิ่มยุบบุ๋มลงไป อาจารย์ธันวดีส่งเสียงครางขณะร่างกระตุกเบา ๆ ไม่เข้า
ใจว่าตนเองเผลอใจทำอะไรลงไป รู้แต่ว่ารสสัมผัสที่ได้จากการโดนปลายนิ้วของเขาจิ้มไปที่
ปลายถันนั้นช่างซาบซ่านวาบหวานจนน่าเหลือเชื่อ ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าและยกทรงขวางกั้น
กลางระหว่างเขาและเธอเอาไว้ก็ตามที
เอกยืนยิ้มอย่างพออกพอใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเนื้อตัวของสาวใหญ่วัยมากกว่าเขา สัมผัส
เต่งตึงเด้งสะท้อนของหน้าอกที่ปลายนิ้วสัมผัสกลับมีเสน่ห์เย้ายวนไม่แพ้สาวรุ่นสักเท่าไหร่ และ
นั่นก็ทำให้เอกอดไม่ได้ต้องหมุนปลายนิ้วคลึงวนกดบดบี้ไปรอบปลายถันจนอาจารย์สาวสวยตัว
กระตุกส่งเสียงครางสะท้านออกมา
ชายหนุ่มมองภาพใบหน้าใต้กรอบแว่นหนาเตอะของอาจารย์สาวด้วยความสาแก่ใจ ก่อนจะแกล้ง
สาวใหญ่รุ่นพี่ด้วยการถอนดึงนิ้วออกมาจากอกอวบอย่างกระทันหัน และเหตการณ์ก็เป็นไปอย่าง
ที่เขาคาดเดา ภายใต้มนตราสิเน่หานั้นเธอขยับร่างเดินเข้ามาประชิดพร้อมแอ่นอกอวบเสนอเข้าหา
ปลายนิ้วของเขาที่เอาแต่ถอยออกห่าง
"พี่สาวชื่ออะไรครับ อยู่ห้องไหน ให้ผมไปหาได้มั้ย?"
"... ชื่อจริง ธันวดี ... ชื่อเล่นชื่อแตนจ้ะ ... พะ พี่อยู่ห้อง 647 ..."
เมื่อเห็นกิริยาที่หนุ่มหล่อรุ่นน้องหยอกล้อยั่วเย้า แตนสาวใหญ่วัยสามสิบต้น ๆ ก็ได้แต่ฝืนใจตัวเอง
สุดกำลังเพื่อที่จะไม่โผเข้าไปหาร่างแกร่งกำยำสมส่วนของเขา เธอพยายามหยุดรวบรวมสติ แต่หัว
ใจก็ยังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งคล้ายกลับกลายไปเป็นเด็กสาววัยรุ่นจนทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็เลย
ได้แต่เรียกตัวเองเป็นพี่สาว และปล่อยการกระทำไปตามที่หัวใจเรียกร้อง
"พี่แตนคนสวย ยังไม่ได้บอกเลยว่า จะให้ผมไปหาที่ห้องได้มั้ย?"
หนุ่มหล่อรุ่นน้องพูดพลางถือวิสาสะเอื้อมสองมือมาลูบคลำที่เอวและสะโพกของเธออย่างแผ่วเบา
สาวรุ่นพี่อย่างเธอจึงได้แต่มองค้อนในวาจารุกไล่คาดคั้นของหนุ่มรุ่นน้อง เธอบอกเบอร์ห้องเพราะ
อยากให้เขาไปหาอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังพยายามคาดคั้นให้เธอเป็นฝ่ายออกปากบอกว่าอยากให้เขา
ไปหาอีก
"อยากไปก็ไปซิ พี่ไม่ได้ห้ามซักหน่อย"
"แสดงว่าไม่อยากให้ผมไป งั้นผมไม่ไปก็ได้"
"เดี๋ยว ๆ ... ไปหาพี่นะ พี่อยากให้เธอไปหาพี่ที่ห้อง"
"ต้องแบบนี้ซิครับ พี่สาวคนสวย งั้นถ้ามีเวลาผมจะไปหานะครับ ส่วนตอนนี้ผมขอมัดจำก่อน"
รอยยิ้มแห่งผู้ชนะประดับอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่ม เขากระชากรั้งร่างของสาวรุ่นพี่เข้ามากอดจูบ
อย่างหนักหน่วงจนเธออ่อนปวกเปียกสะท้านเฮือกไปทั้งร่าง จากนั้นเธอก็เดินกลับไปที่ห้องตามที่
เขาสั่ง โดยตลอดเวลานั้นในหัวสมองของเธอมีแต่ภาพของชายหนุ่มที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเต็มไปหมด
ความรู้สึกคล้ายกับรักแรกพบของสาวน้อยวัยรุ่นก็มิปาน
"น้องหญิงไปกันเถอะ เคลียร์เรียบร้อยแล้ว อาจารย์เข้าใจดี รับรองไม่มีปัญหา"
เอกหันมาเปิดประตูแล้วโอบกอดน้องหญิงที่นั่งหน้าตาตื่นอยู่ในรถ ความกังวลจึงค่อยคลายหายไป
จากใบหน้าสวยหวานจนหมดสิ้น ความจริงเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว เมื่อแอบมองเห็นว่าพี่เอกของเธอ
ยืนคุยกับอาจารย์ธันวดีพลางหัวเราะร่วนกันทั้งคู่ และยิ่งได้เห็นอาจารย์ของเธอส่งยิ้มให้พร้อมกับยก
นิ้วทำท่าโอเคไม่มีปัญหาแล้วโบกมือลา เธอก็เลยรีบยกมือไหว้ด้วยความโล่งอก
กระนั้นเธอกลับหารู้ไม่ว่าภาพที่เธอเห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพมายาที่ชายหนุ่มสร้างขึ้นเพื่อซุกซ่อน
ฉากรุกเร้าลวนลามกอดจูบกับอาจารย์ของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด
"ฟ้าตื่นได้แล้วจ้ะ"
เอกขยับไปเปิดประตูหลังแล้วใช้มือลูบขาอ่อนของฟ้าเรียกให้เธอตื่น พอเธอตื่นขึ้นมา ยังไม่ทันหาย
งัวเงียก็โผเข้ากอดกับเขาแล้วบ่นพึมพำออกมาเสียงอ่อนเสียงหวานเพราะยังอยู่ใต้มายามนตร์ จน
น้องหญิงถึงกับต้องหันขวับมามองด้วยความตื่นเต้นสงสัยว่าเกิดอะไรกับเพื่อนสาวจอมห้าวของเธอ
กันแน่
"เจ้านายขา ลงโทษฟ้าอีกนะคะ"
"ฝันอะไรแปลก ๆ อีกล่ะฟ้า ตื่นได้แล้ว"
เอกส่งเสียงปลุกฟ้าพลางหันไปส่งยิ้มกลบเกลื่อนกับน้องหญิง แต่ฟ้าก็ยังไม่ยอมตื่นแถมยังเอาแต่
พร่ำเรียกหาเขาเป็นเจ้านาย แล้วก็ระดูมจูบใส่เขายกใหญ่ ชายหนุ่มที่นึกไม่ถึงว่ามายามนตร์จะคงทน
อยู่นานขนาดนี้จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ช้อนอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของสาวหมวยหมัดหนักขึ้นมา
จากรถ
โดยในใจนั้นก็แอบคิดไปว่าเนยนักศึกษาสาวหุ่นเอ็กซ์ที่เขาปล่อยให้นอนอยู่ที่ห้องของฟ้าจะรู้ตัว
หรือไม่ว่าโดนเขาเปิดซิงไปแล้ว เพราะก่อนออกมาเขาได้ทำความสะอาดทำลายหลักฐานเกือบ
ทุกอย่างแล้ว โดยลงทุนพาสามสาวไปล้างเนื้อล้างตัวสระผมแล้วจัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผมทุกอย่าง
เหมือนเดิมเป๊ะ กลบเกลื่อนขนาดนี้ดีไม่ดีเนยตื่นมาอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเสียสาวไปแล้ว
..............................................................
ในความมืดมิดนั้น เนยกลิ้งพลิกตัวคว้ามือเปะปะไปมาด้วยความหงุดหงิด เสียงเพลง
จากโทรศัพท์มือถือที่กระหน่ำโทรเข้ามาไม่หยุดทำลายอารมณ์วาบหวามสุดหฤหรรษ์
ของเธอเสียจนป่นปี้ ไม่ เธอไม่อยากยอมรับแม้แต่นิดว่าประสบการณ์สุดยอดที่ได้รับ
มานั้นเป็นเพียงความฝัน หรือหากว่านั่นจะเป็นความฝัน เธอก็อยากจะจมจ่อมอยู่กับ
มันไปตลอดกาล
เธอกดไม่รับสายและปิดเครื่องทันทีที่เห็นชื่อของผู้โทรเข้า รุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ก็
หล่อดีอยู่หรอก เขาคงจะมาชวนเธอไปเที่ยวผับตามเคย แต่ตอนนี้เธอไม่สน เธอ
ไม่ได้อยากแดนซ์ เธอแค่อยากจะนอนหลับฝันถึงชายหนุ่มเสน่ห์แรงอีกคนมากกว่า
"อืมมม จารย์เอกสุดหล่อขา มาต่อกันนะคะ ..."
เนยส่งเสียงพึมพำด้วยความรักใคร่ ในความมืดนั้นเธอหยิบคว้าเอาหมอนข้างมากอดจูบ
พลางใช้สองขาหนีบเสียจนแน่น สะโพกสวยแอ่นกระดกบดโคกสวาทเบียดเสียดสีเข้าหา
หมอนข้างราวกับว่านั่นคือชายหนุ่มที่เธอลุ่มหลง พยายามคิดจินตนาการถึงฉากรักวาบ
หวามร้อนแรงสานต่อจากความฝันเมื่อครู่ ... ใช่แล้ว ที่ตรงนั้น ในห้องเรียน เขากำลังขึ้น
คร่อม กระแทกใส่เธอด้วยดุ้นยาวใหญ่ แรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น จนเธอใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว
นักศึกษาสาวสวยขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกหงุดหงิด จินตนาการของเธอกลับสร้างความ
เสียวไม่ได้สักเศษเสี้ยวของความฝันที่เธอเพิ่งประสบพบเจอ เธอเหวี่ยงหมอนข้างทิ้งไป
ก่อนจะพลิกตัวเปลี่ยนเป็นนอนหงาย แล้วล้วงมือลงไปบีบขยำนม พร้อมกับบดคลึงขยี้ติ่ง
แตดจนเริ่มสูดปากส่งเสียงซี้ดซ้าดออกมา ถึงจะยังไม่เท่า แต่ความรู้สึกแบบนี้แหละที่ถึง
ใจใกล้เคียงอยู่บ้าง
สองมือเล็กบอบบางบีบขยำขยี้ไปตามเนื้อตัวรุนแรงยิ่งกว่าคราใด เรือนร่างงามดุจนาง
แบบของเธอเริ่มดิ้นพล่านกระตุกสะท้านแรงขึ้นเรื่อย ๆ เสื้อนักศึกษาที่รัดรั้งกั้นกลางอยู่
บนร่างโดนปลดทึ้งออกไปด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน เธอยกสะโพกเกี่ยวรูดเอากางเกง
ในลงไปด้านล่าง พลางถลกกระชากเอายกทรงออกไป
เมื่อไร้ซึ่งสิ่งขวางกั้น มือข้างหนึ่งก็บีบกำขยำเต้าอวบเสียจนเต็มแรง อีกมือหนึ่งก็งอนิ้ว
เกี่ยวเบ็ดช่วยตัวเองเสียจนสะโพกลอยเด้ง เธอแหงนหน้าเริ่ด เลียลิ้นรอบปากตนเองด้วย
ความหิวโหย ก่อนจะสูดปากร้องครางออกมาสุดเสียง
"จารย์เอกขา จารย์เอกขา อูยสสสส เสียววว ซี้ดดสสส จารย์เอก จารย์เอก ... ซี้ดดสสส"
ปลายนิ้วของเธอแหย่แยงสอดกระหวัดเกี่ยวลึกเข้าไปจนสุดหล้า สองขาเพรียวเริ่มเหยียด
เกร็งสั่นสะท้านระริก ในที่สุดอารมณ์ใคร่ที่ใต่ถึงจุดสุดยอด ก็ได้เปิดผนึกปลดปล่อยความ
สุขเสียวสุดหฤหรรษ์แล่นพล่านทะลุทะลวงไปทั่วร่างของเธออีกครั้ง
เนยนอนหอบหายใจเสียงกระเส่า ในห้วงจินตนาการนั้น เธอกำลังกอดกระหวัดรัดพัวพัน
กับชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งได้พบเจอเพียงครั้งเดียว หากในความฝันนั้นเล่า เธอและเขา
กลับเสพสมร่วมรักกันไปแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร มีความเป็นมายังไง เธอรู้เพียงแค่ว่าเพื่อนของเธอเรียกหาเขา
เป็นอาจารย์ชื่อเอก และเขามีสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับน้องหญิงเพื่อนสนิทของเธอ แน่ล่ะ
เล่นมีเซ็กส์กันในห้องสมุดแบบนั้น คงไม่ธรรมดาแน่นอน แต่การพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว
ชายคนนั้นก็ฉวยโอกาสแทะโลมลวนลามจนเธอเสร็จสมในห้องสมุดไปด้วย ทั้งยังแอบ
ฉกยึดเอายกทรงของเธอไปเสียอีก แต่เพราะเขาทำแบบนั้นนั่นแหละเธอจึงยิ่งหลงไหล
ในเสน่ห์ของเขาเสียจนหัวปักหัวปำยิ่งกว่าชายใดเสียแล้ว
เนยทอดถอนหายใจด้วยความเสียดาย มันเป็นแค่เพียงความฝันจริงหรือ เรื่องราวที่เธอโดน
ลวนลามบนรถเมล์ แล้วโดนเขาจับลากมาเปิดซิงในมหาลัยอย่างสุดเสียว นั่นมันคือความฝัน
แค่นั้นหรอกเหรอ เธอพยายามปฎิเสธไม่เชื่อว่านั่นเป็นแค่ความฝัน แต่กลับไม่อาจอธิบายตัว
เองได้ว่า มันเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะสามารถหอบหิ้วพาเธอไปมีเซ็กส์ได้ทั่วทั้งมหาลัยแบบนั้น
โดยไม่มีใครพบเห็น ไหนจะหน้าเสาธง ในห้องเรียน โรงยิม สนามบอล โรงอาหาร
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ทำให้เธอได้แต่ยอมรับความจริงว่ามันคงเป็นแค่ความฝัน กระนั้นสัมผัสแข็ง
กระด้างโค้งเว้าของยกทรงที่ปลายนิ้วของเธอกำลังสัมผัสกลับจุดประกายความสงสัยของเธอ
ขึ้นมาอย่างฉับพลัน
โคมไฟที่หัวนอนโดนเปิดขึ้นจนทั้งห้องสว่างไสว เนยกระพริบตาสี่ห้าครั้งพยายามปรับสายตา
จากความมืดมาสู่ความสว่างก่อนจะมองสำรวจไปรอบห้อง ทีแรกเธอคิดว่ากำลังนอนหลับอยู่
ในห้องนอนตัวเอง แต่เมื่อมีแสงไฟจึงค่อยได้รู้ว่านี่เป็นห้องนอนของฟ้า จากนั้นความทรงจำ
ก็ค่อยผุดเข้ามาว่า เธอมาในห้องนี้พร้อมกับหญิงและฟ้า แต่ตอนนี้สองสาวเพื่อนสนิทหายไป
ไหนไม่รู้ และหลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
เนยคว้าเอายกทรงที่กองอยู่บนเตียงนอน แล้วเดินฉับ ๆ ไปเปิดไฟดวงใหญ่ในห้อง เธอมอง
ยกทรงสีสวยในมือตัวเองอย่างพินิจพิจารณา นี่คือยกทรงของเธอที่โดนอาจารย์ชื่อเอกคน
นั้นฉกไปในห้องสมุดไม่ผิดแน่นอน คำถามก็คือ ทำไมมันถึงกลับมาสวมใส่อยู่บนร่างของ
เธออีกครั้ง แล้วใครเป็นคนสวมให้เธอ?
นักศึกษาสาวขยับร่างไปยืนเหม่อที่หน้ากระจก เสื้อผ้าที่หลงเหลืออยู่บนเนื้อตัวโดนปลดถอด
ออกจนหลุดลุ่ย เหลือแต่เพียงเนื้อตัวเปลือยเปล่า เธอมองเรือนร่างอวบอัดน่าฟัดของตัวเอง
ที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาพลางครุ่นคิด กลิ่นสบู่อ่อน ๆ โชยออกมาจากร่างคล้ายกับว่าเธอเพิ่ง
จะอาบน้ำมาหมาด ๆ บนร่างของเธอปรากฎรอยจ้ำสีแดงเล็ก ๆ อยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะบริ
เวณทรวงอก และที่สำคัญตรงนั้นของเธอก็เผยออ้าแง้มออกมามากกว่าปกติ
ร่องรอยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เนยเชื่อว่าเธอคงโดนเปิดซิงไปเสียแล้ว แต่ใครกันที่เป็นคน
ทำลายความบริสุทธ์ของเธอ สาวสวยได้แต่แอบคิดภาวนาว่าใครคนนั้นคืออาจารย์เอกสุด
หล่อที่เธอหลงไหล แต่ในขณะเดียวกันก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นคนอื่นเธอจะทำยังไง
เป็นไปได้ที่ว่าเธออาจจะเผลอนอนหลับในห้องของฟ้า แล้วก็โดนเขาคนนั้นมาลักหลับเปิดซิง
แต่หญิงกับฟ้าหายไปไหนกัน เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนจะต้องให้คำตอบได้แน่ เนยที่คิด
เช่นนั้นรีบวิ่งไปเปิดโทรศัพท์ แล้วโทรหาหญิงก่อนเป็นอันดับแรกแต่กลับติดต่อไม่ได้ เธอจึง
เปลี่ยนไปโทรหาฟ้าเป็นอันดับที่สอง แต่ก็ยังคงติดต่อไม่ได้อยู่ดี
เนยเอนหลังลงนอนบนเตียงทั้งที่พยายามโทรออกเป็นรอบที่ห้า แต่แล้วความง่วงงุนก็จู่โจม
เข้ามาอย่างกระทันหัน เธอหลับตาพริ้มผลอยหลับไปทั้งที่โทรศัพท์ยังคงอยู่ในมือ จมจ่อมอยู่
กับฝันหวานของเศษเสี้ยวตะกอนที่หลงเหลืออยู่ของมายามนตร์ และไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยจวบ
จนกระทั่งเกือบพลบค่ำของอีกวัน
..............................................................
"กลับมาแล้วจ้าสาว ๆ"
เอกพูดส่งเสียงดังขณะโอบเอวกอดน้องหญิงและน้องฟ้าสองนักศึกษาสาวสุดสวยที่ยังงัวเงีย
ครึ่งหลับครึ่งตื่นเดินเข้าไปในห้องพักอันโอ่โถงหรูหรา เมื่อสิ้นเสียงก็ปรากฎใบหน้าขาวผ่องของ
สองสาววัยทำงานและสองเด็กสาวอ่อนวัยชะโกงหน้าออกมาดูด้วยแววตาตื่นเต้นคิดถึงเหมือน
กับว่ารอคอยอยู่เนิ่นนานแล้ว
ฝ้ายพยาบาลสาวเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับใช้มือปัดปอยผมขึ้นด้วยท่าทางขัดเขิน เมย์
เด็กสาวมัธยมต้นวัยสิบสี่ขวบก็เดินเคียงคู่กันออกมาโดยทั้งคู่ต่างก็สวมใส่ผ้ากันเปื้อนเอาไว้
สองแม่ครัวต่างวัยต่างสวยน่ารักแลดูอ่อนหวานสดใสจนกินกันไม่ลง
ขณะที่คู่ฝ้ายและเมย์ช่วยกันทำครัวอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งมายด์เด็กสาววัยสิบสองขวบก็กำลังกด
รัวจอยบังคับดวลเกมอยู่กับฝนพริตตี้สาวสุดเซ็กซ์ซี่อยู่ที่หน้าจอทีวีอย่างเมามันส์ แต่พอได้ยิน
เสียงของเขา มายด์ก็โยนจอยเล่นเกมทิ้งลงแล้วโผร่างบอบบางขึ้นมากระโดดโลดเต้นอยู่บน
โซฟาร้องเย้เย้ด้วยอารมณ์รื่นเริงสดใส
ด้านฝนเองก็กระโดดโลดเต้นยินดีเช่นกัน แต่รายนี้ไม่กระโดดเฉย ๆ เพราะเธอนั้นกึ่งวิ่งกึ่งกระ
โดดโผใช้สองมือเข้ามากอดคอ ด้านสองขาก็ตวัดรัดรอบเอวเขาไว้ พร้อมกับบดนมขนาดพอ
ดีมืออัดใส่หน้า แล้วก็ทิ้งตัวให้เขาอุ้มแบบไม่เกรงใจใคร จนน้องหญิงและน้องฟ้าต้องหลบให้
แบบไม่เต็มใจนัก
"คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันหนึ่งคืน"
ฝนที่มีนิสัยเปิดเผยกอดรัดพัวพันใช้หน้าอกบดเบียดกับใบหน้าจนชายหนุ่มแทบหายใจหายคอ
ไม่ออก ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปคงจะล้มหรือเซไปเซมาแล้วเพราะเธอเล่นกระโดดทิ้งน้ำหนักเข้า
หาเขาทั้งหมดแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่เอกนั้นใช่คนธรรมดาซะที่ไหน เขายังคงยืนนิ่งแบบสบาย ๆ
เหมือนกับว่าน้ำหนักเกือบสี่สิบห้ากิโลของฝนนั้นเบาเหมือนปุยนุ่น
ชายหนุ่มปล่อยให้ฝนทำตามใจครู่ใหญ่ ก่อนจะลงมือแกล้งกลับด้วยการร่ายมนตร์ปลุกสวาท
พลางใช้สองมือขยำขยี้สะโพกก้นของเธอ แล้วอ้าปากงับซุกไซร้สูดดมความหอมหวานของ
ร่องอกพริตตี้สาวจนเธอสั่นสะท้านส่งเสียงครางมือไม้อ่อนระทวย
พอสองมือสองขาของเธอเริ่มคลายตัว เอกก็อุ้มขยับเธอต่ำลงมาเล็กน้อย แล้วก็บดจูบบี้ปาก
แลกลิ้นรุกเร้าจนฝนหัวหมุนติ้วตัว ก่อนจะเดินอุ้มประคองร่างอ่อนปวกเปียกของเธอลงไปนั่ง
หอบหายใจกระเส่าบนเก้าอี้โซฟาโดยที่เธอไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจปล่อยเขาไปเท่าไหร่นัก
"ฝ้ายล่ะ คิดถึงป่าว?"
เอกหันไปทักทายพูดคุยกับฝ้ายพยาบาลสาวแสนสวยที่ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่ตรงประตูห้อง
ครัว เขาอ้าสองแขนออกเหมือนจะบอกใบ้ให้ฝ้ายโผเข้ามากอดเขาแบบเดียวกับที่ฝนเพิ่งทำ
ไป ด้านสาวขี้อายอย่างฝ้ายก็ได้แต่หน้าแดงผ่าวก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ใจน่ะคิด
ถึงอยากทำแบบเดียวกับฝนจะแย่ แต่ก็เขิน ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองออกไปแบบนั้น
เอกที่เข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนยังไงก็ไม่ทำให้เธอเป็นฝ่ายลำบากใจมากนัก เขาเดินเข้าไปหาเธอ
เองถึงหน้าประตูห้องครัว จากนั้นก็โอบเธอมากอดจูบแบบนิ่มนวล แรกทีเดียวพยาบาลสาวนั้น
ลังเลเก้ ๆ กัง ๆ ไม่กล้าแสดงอารมณ์ออกมา แต่พอโดนเขาเล้าโลมอีกหน่อย ก็อดใจไม่ไหวต้อง
โอบสองแขนกอดเขาแน่น แล้วจูบแลกลิ้นกับเขาเป็นพัลวัน
ชายหนุ่มฉวยโอกาสกระตุ้นอารมณ์ของฝ้ายด้วยการลากมือลูบไล้ไปทั่วผิวกายที่ขาวผุดผ่อง
เขาร่ายมนตร์กระตุ้นเร้าอารมณ์พลางล้วงมือเข้าไปด้านในเสื้อยืดแล้วบีบขยำนมจนสาวสวยตัว
กระตุกสั่นระริก และเมื่อสังเกตเห็นว่าร่างของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาเพราะอารมณ์ใคร่ เอกก็ลงมือ
กลั่นแกล้งฝ้ายด้วยการอุ้มพาเธอไปปล่อยวางไว้บนโซฟาข้างฝนแบบดื้อ ๆ จนเธอต้องแอบส่ง
สายตามองค้อนเข้าให้
ด้านน้องหญิงและน้องฟ้าที่เพิ่งจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามฝน พอได้เห็นลีลารักของ
แฟนหนุ่มกับสองสาวรุ่นพี่ก็ต่างพากันเบิกตามองด้วยความตื่นเต้นสงสัย ต่างฝ่ายต่างแปลกใจ
ที่ทำไมตัวเองไม่เกิดอารมณ์หึงหวง แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วมไปด้วยเสียอีกต่างหาก
มันคล้ายกับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความเคยชิืนที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตสำนึกไปเสียแล้ว
เอกหันสลับไปมองเมย์กับมายด์สองศรีพี่น้องที่ยืนหน้าจ๋อยด้วยความรู้สึกสงสาร พวกเธอต่างทำ
หน้าสลดเพราะอยากไปกอดพี่ชายสุดที่รักใจจะขาด แต่เนื่องจากเคยสัญญาว่าจะเก็บรักษาความ
สัมพันธ์ฉันท์สวาทระหว่างพี่น้องไว้เป็นความลับไม่ให้ใครรู้ พวกเธอจึงได้แต่พยายามเก็บกดอารมณ์
เอาไว้ไม่กล้าแสดงออกมา
"ก่อนอื่น .. สาว ๆ ฟังนะ ผมมีเรื่องสำคัญจะสารภาพ ..."
ด้วยความสงสารสองน้องสาว เอกหันไปมองน้องหญิง น้องฟ้า ฝ้าย และฝน แล้วตัดสินใจทำสิ่งที่
ควรทำ เขาได้ปรึกษากับพี่แก้วนางตะเคียนเอาไว้แล้ว และเธอก็บอกว่าสารภาพความจริงไปเสีย
แล้วทุกอย่างจะดีเอง ซึ่งสี่สาวต่างก็ทำหน้าฉงนสงสัยว่าชายหนุ่มจะสารภาพเรื่องอะไร
"... น้องเมย์ น้องมายด์ มากอดหน่อยซิ"
เอกหันไปมองสองน้องสาวแล้วผายมือออกบอกให้พวกเธอเข้ามาหา เมย์และมายด์ต่างฝ่ายต่าง
มองหน้ากันด้วยความลังเล จนเมื่อเมย์ผู้เป็นพี่สาวเดินเข้าไปหา มายด์น้องสาวในโอวาทจึงค่อย
กล้าเดินเข้าไปหาพี่เอกของเธอด้วย
พอสองน้องสาวอ่อนวัยเดินเข้ามาใกล้ เอกก็กอดอุ้มสองเด็กสาวขึ้นมาพร้อมกันคนละมือจนพวก
เธอร้องวีดว้ายตกใจ จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปจูบแลกลิ้นกับเมย์ที่โดนอุ้มด้วยแขนขวาก่อน แล้วค่อย
สลับไปจูบปากแลกลิ้นกับน้องมายด์ที่อยู่อีกข้าง พอสองสาวอ่อนระทวยเขาก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
ที่อยู่หัวโต๊ะโดยมีสองน้องสาวตัวน้อยหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดทั้งซ้ายและขวา
"นี่แหละเรื่องที่จะสารภาพ"
เอกพูดพลางกวาดตามองสำรวจอาการของสี่สาวไปรอบโต๊ะ ง่าย ๆ แบบนี้แหละ ที่สื่อความสัมพันธ์
ระหว่างเขาและสองน้องสาวออกไปได้ชัดเจนที่สุด
"สารภาพอะไรเหรอ ก็เมย์ กับมายด์ น่ะเป็นเมียเด็กของพี่เอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?"
ฝนพูดขึ้นมาเป็นคนแรก สีหน้าของเธอเฉยเมยเหมือนเข้าใจว่ามันเป็นอย่างงี้อยู่แล้ว แต่จะว่าไป
ด้วยนิสัยไม่สนใจกรอบระเบียบของเธอ ต่อให้เอกจะมีผู้หญิงสักกี่คนเธอก็ไม่สนใจสักเท่าไหร่อยู่
แล้ว ขอแค่ให้เขามีเวลามีกำลังมอบความสุขให้เธออย่างที่ผ่านมาก็พอแล้ว
ฝ้ายไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ก็หันไปมองสองเด็กสาวด้วยความเป็นห่วงผสมกับกังวลเล็กน้อย
เธอเคยคุยกับฝนหลายครั้งแล้ว ว่าสองน้องสาวก็ไม่น่าจะทานทนเสน่ห์ของพี่เอกไหว เพราะขนาด
เธอเองที่รักนวลสงวนตัวเสียขนาดนั้น ยังเผลอตัวยอมให้เขามีอะไรด้วยทั้งที่ได้คุยกันวันแรกเลย
"น้องเมย์ น้องมายด์ ไม่ได้โดนพี่เอกขืนใจใช่มั้ย ถ้าใช่บอกมาเลยนะ พี่ฟ้าจะกระทืบให้เอง"
ฟ้าสาวหมวยหมัดหนักลุกพรวดขึ้นยืนแล้วพูดโพล่งขึ้นมา แม้จะแอบคิดอยู่บ้างแล้วในเรื่องนี้
แต่ก็อดไม่ได้ให้รู้สึกเคืองและผิดหวังที่ชายสุดที่รักของเธอข่มเหงรังแกน้องสาวร่วมสายเลือด
ตัวน้อยทั้งสอง
"ฟ้า !! ใจเย็นก่อน พี่เอกไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ใช่มั้ยคะ พี่เอก"
น้องหญิงรีบฉุดมือน้องฟ้าให้นั่งลง แล้วหันไปมองเอก ดวงตากลมสวยของเธอนั้นเต็มไปด้วย
ความเชื่อมั่นในตัวชายคนรัก หากแฝงเร้นไปด้วยความรู้สึกสั่นคลอนไม่มั่นใจอยู่เล็กน้อย
"ไม่ใช่นะคะ พี่ฟ้า พี่หญิง ... พี่เอก ไม่ได้รังแก ไม่ได้ใช้กำลังกับเมย์เลย แต่เป็นเมย์ต่างหาก
ที่ยั่วแล้วก็ตื๊อให้พี่เอกมีอะไรด้วย จนพี่เอกทนไม่ไหว ..."
เมย์ที่เห็นท่าไม่ดีรีบลุกขึ้นยืนขวางระหว่างฟ้ากับพี่เอกสุดที่รักของเธอ แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องราวตั้ง
แต่ได้ได้พบเจอพี่เอก แล้วก็ไปเสนอขายตัวให้เขาดูแล แล้วก็ตอนที่เธอตามตื๊อยั่วพี่เอก จนเขา
ทนไม่ไหวออกไปจนหมด
"... แหม เห็นตัวเล็กนิดเดียว ร้ายเหมือนกันนะจ๊ะน้องเมย์ ... สรุปว่าตอนแรกไปเสนอขายตัวแลก
เงินกับพี่เอก แต่พี่เอกหยุดซะก่อนเพราะเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ... จากนั้นพอมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็
เสนอตัวเปลืองผ้าเข้าไปยั่วพี่เอกในห้องอาบน้ำ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ... ก็เลยใช้แผนยั่วให้หึง พาแฟน
หลอก ๆ มาที่บ้าน จนพี่เอกสติแตกใช่มั้ย ... แหม ตัวแค่นี้ แผนลึกซึ้งจริง ๆ นะจ๊ะ"
เมื่อเล่าจบทุกคนก็นั่งฟังกันเงียบกริบ ฝนที่นั่งฟังด้วยความสนุกตื่นเต้นก็ทำการสรุปเรื่องราวให้
น้ำเสียงของเธอคล้ายกับจะชื่นชมในการกระทำของเมย์ซะด้วยซ้ำ
"แล้วมายด์ล่ะจ๊ะ?"
น้องหญิงที่สีหน้าดีขึ้น หันไปถามน้องมายด์
"มายด์เห็นพี่เอกมีอะไรกับพี่เมย์แล้วมายด์อิจฉาน่ะค่ะ อยากโดนพี่เอกรักแบบนั้นบ้าง แต่พี่เอกไม่ได้
รังแกมายด์นะคะ มายด์เต็มใจ"
มายด์พูดพลางกอดแขนของเอกไว้แน่นเหมือนจะบอกว่าเธอพร้อมจะปกป้องพี่ชายสุดที่รักของเธอ
อย่างเต็มที่ ขณะที่น้องหญิง น้องฟ้า และฝ้ายนั้น ต่างก็พากันนั่งเงียบกริบครุ่นคิด
"แหม ๆ พวกหล่อน จะทำหน้าเครียดอะไรกันจ๊ะ สรุปว่าทุกคนก็หลงเสน่ห์พี่เอกของพวกเรา แล้วเป็น
ฝ่ายเข้าหาเหมือนกันหมดใช่มั้ยล่ะ? อย่างชั้นเองแค่เจอหน้าในผับครั้งแรก ก็หลงรัก ยอมให้เขากอด
จูบลูบคลำแล้วพาไปเปิดซิงในโรงแรมแล้ว ... อ๋อ ขนาดยัยฝ้ายที่รักนวลสงวนตัวนักหนาก็เหอะ ได้
คุยกันหน่อยเดียว ก็ยอมเสนอตัวเข้าหา ให้พี่เอกฟันถึงห้องพักในโรงพยาบาลมาแล้ว"
"ยัยฝน ... !!!"
ฝ้ายรีบส่งเสียงประท้วงฝนที่แฉเรื่องราวของเธอออกมาจนหมดเปลือก แล้วก็รีบก้มหน้างุดไม่กล้ามอง
หน้าใคร เพราะถ้าฟังจากคำบอกเล่าของฝนแล้วล่ะก็ จะใช้คำว่าแรดร่านมาบรรยายแทนก็ยังได้ พอเห็น
ฝ้ายเงียบไป ฝนก็เลยหันไปไล่ถามฟ้าสาวหมวยหมัดหนักต่อ
"แหม ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ เรามันคนกันเองทั้งนั้น เธอล่ะยัยฟ้า โดนพี่เอกฟันยังไง สารภาพมาซะดี ๆ"
"ฟ้า ... เอ่อ ... ฟ้า ..."
ฟ้าหันไปมองหน้าหญิงเพื่อนรัก ก่อนจะอ้าปากบรรยายเรื่องราวออกไปจนหมดเปลือก โดยที่ตัวเองก็ไม่
มั่นใจว่าทำไมตัวเองถึงได้กล้าเล่ารายละเอียดยิบขนาดนี้
"ว้าว ๆ เธอก็ไม่เบานะยะยัยหมวย เจอกันวันแรกก็อ่อยเหยื่อให้เขาไปฟันในห้องซะแล้ว สรุปว่าเจอกันวัน
แรก เธอวิ่งไปชนเค้าซินะ แล้วก็ต่อยเค้า ... ที่เด็ดก็คือ หลังจากนั้นก็แอบไปนั่งช่วยตัวเองในห้องเรียนจน
เสร็จเพราะเอาแต่คิดถึงพี่เอกใช่มั้ย ... พอเลิกเรียนก็ไปเจอพี่เอกโดยบังเอิญ แล้วก็ขาแพลง ก็เลยให้พี่
เอกประคองพาไปขึ้นห้องพัก แล้วก็ยั่วให้พี่เอกฟัน?"
"เปล่าน่ะ ไม่ได้ยั่วซะหน่อย"
"ไม่ได้ยั่วที่ไหนจ๊ะ ผู้หญิงทำแบบนั้นน่ะเค้าเรียกว่ายั่วเต็ม ๆ เลยจ้ะ พี่ฝนจะบอกให้ ... เอ้าสรุปว่าเธอก็เป็น
เหมือนน้องเมย์ น้องมายด์ ซินะ หลงเสน่ห์ แล้วก็ยั่วให้พี่เอกฟัน?"
"ไม่ใช่นะ ... ก็ ... เอ่อ ... คือ ..."
ฟ้าโดนฝนรุกไล่จนได้แต่ลงไปนั่งจ๋อยบนโซฟา เพราะจะว่าไปตัวเธอเองก็เป็นฝ่ายยั่วพี่เอกจริง ๆ อย่างที่
อีกฝ่ายกล่าวหา
"แล้ว เธอล่ะจ๊ะ คุณภรรยาหลวง จะบอกได้มั้ยว่าครั้งแรกกับสามีของพวกเราน่ะเป็นยังไง?"
"หญิง ... คือ ..."
น้องหญิงดาวมหาลัยแสนสวยหันไปมองรอบโต๊ะด้วยใบหน้าเขินอาย บรรยากาศตึงเครียดเหมือนจะหมด
สิ้นไปแล้ว เธอเองก็เริ่มไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรกับเรื่องเมย์และมายด์ กลับเริ่มรู้สึกดีเสียอีกที่พี่เอกของเธอ
ยอมสารภาพเล่าความสัมพันธ์ออกมาด้วยตัวเอง เธอก็เลยเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองกับพี่เอกตั้งแต่แรก
พบ (แต่ก็แอบข้ามตอนที่โดนพ่อตัวเองแอบลักหลับจนเกือบเสียสาวไป)
"อื้อหือ เธอเองก็ร้อนแรงใช่เล่นนะจ๊ะยัยคุณหนูไฮโซ ... อ่อยเหยื่อชวนผู้ชายออกไปกินข้าว แล้วก็ตั้งใจ
อ่อยให้เขาพาไปส่งที่บ้านด้วยใช่มั้ยล่ะ แต่ใจร้ายน่าดูนะจ๊ะ ตอนอยู่บนรถเมล์ก็ปล่อยให้พี่เอกเขาล้วงเอา
ล้วงเอาจนเสร็จ แล้วไม่ยอมให้พี่เอกพาไปต่อที่อื่น ... ตอนโดนโจรบุกบ้านจนเกือบโดนข่มขืนนั่นก็ไม่เบา
ดีนะพี่เอกของเรามาช่วยทัน ... แล้วพอพี่เอกออกจากโรงพยาบาลก็เสนอตัวให้เอกเปิดซิงด้วย แต่พอดี
โดนพ่อตัวเองโทรมาห้ามได้ทันเสียก่อน ... แล้วคืนนั้นก็โทรเรียกพี่เอกไปหาถึงที่บ้าน แล้วให้เขาเปิดซิง
ในสระน้ำ ... แหม ถ้าพูดถึงเรื่องยั่วเสนอตัวล่ะก็ เธอนี่แหละเบอร์หนึ่งในกลุ่มเลย"
ฝนพูดสรุปย้อนความอีกทีจนน้องหญิงเขินหน้าแดงก้มหน้างุดไปอีกคน จะเถียงกลับก็เถียงไม่ได้ เพราะ
เมื่อลองนึกย้อนกลับไปดู มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ พี่เอกไม่ได้เป็นฝ่ายรุกเร้าเข้าหารังแกเธอเลย แต่เป็น
เธอเองนี่แหละที่เสนอตัวเข้าหาเขาเองเกือบจะทั้งหมด
"เอาล่ะนะ สรุปว่าพวกเราสาวร้อนรัก เห็นชอบให้น้องเมย์ และน้องมายด์ มีสถานะเป็นเมียของพี่เอกได้
สาว ๆ มีอะไรขัดข้องหรือเปล่าจ๊ะ?"
ฝนถือโอกาสสรุปเรื่องราว แล้วหันไปขยิบตาให้เอก ซึ่งกำลังแอบงุนงงว่าทำไมวันนี้ฝนถึงได้พูดจา
เข้าข้างเขาอย่างมีเหตผลมากผิดปกติ แต่เมื่อหันไปเห็นร่างวิญญาณสีเขียวอ่อนจางที่คอยพูดกระซิบ
อยู่ที่ข้างหูของฝน เอกก็รับรู้ได้ทันทีว่าที่แท้แล้วก็เป็นฝีมือของพี่แก้วนั่นเองที่แอบช่วยสะสางปัญหาให้
"เอาล่ะ ไม่มีใครคัดค้าน งั้นเราก็เริ่ม Party กันเถอะ หิวจะแย่แลว "
ฝนลุกขึ้นเดินนวยนาดด้วยมาดนางแบบไปเปิดเพลงคลาสสิค แล้วเดินมาลากมือฝ้าย น้องฟ้า และ
น้องหญิงไปที่โต๊ะอาหาร ปล่อยให้เมย์กับมายด์ได้นอนอิงแอบกับเอกด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข เพราะ
พวกเธอไม่ต้องปิดบังความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับพี่ชายสุดที่รักอีกต่อไปแล้ว
..............................................................
ปาร์ตี้ยกทรง
เอก นั่งยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขอยู่ที่หัวโต๊ะ สำหรับเขาแล้วเรียกได้ว่ามื้อค่ำคืนนี้เป็นมื้อที่อร่อยและ
มีความสุขมากที่สุดยิ่งกว่ามื้อใด อาหารที่ทำโดยสองแม่ครัวต่างวัย ฝ้าย และ เมย์ แม้จะไม่ได้เป็น
อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก แต่เมื่อได้มานั่งล้อมวงดื่มกินกับสาวสวยระดับดารานางแบบยังอายถึง
หกนางพร้อมกัน มองดูพวกเธอบิดกายพูดคุยสนทนาหัวร่อต่อกระซิกในสภาพสวมใส่เพียงชุดชั้นใน
อวดเนื้อหนังผิวพรรณขาวผ่อง และเรือนร่างอวบอิ่มโค้งเว้าเร้าอารมณ์ พลางอ้าปากงับอาหารเข้า
ไปก็ได้อารมณ์สุขสุนทรีย์ยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นใดจะเทียบเทียมแล้ว
"พี่เอกขา มองกันแบบนี้ อยากจะหม่ำข้าว หรือจะหม่ำนมฝนกันแน่คะ?"
ฝนพริตตี้สาวที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือหัวเราะคิกคักจนหนองโพขนาดพอดีมือสั่นกระเพื่อมอยู่ใน
ชุดชั้นในสีดำสนิท มือหนึ่งของเธอกำลังป้อนข้าวเสนอให้เอก ส่วนอีกมือนั้นกำลังลูบไปตามท่อน
ขากำยำพลางส่งสายตายั่วเย้าหิวกระหายราวกับอยากจะจับเขากินเสียตรงนี้
เอกไม่ตอบคำ เพราะข้าวยังเต็มปากอยู่เลย แต่ก็ยอมอ้าปากงับข้าวในช้อนที่ฝนป้อนให้ ซึ่งไม่ทันไร
ก็ต้องหันหน้าไปทางขวาอ้าปากงับหมูทอดจากฝ้ายพยาบาลสาวเจ้าของเรือนร่างขาวผ่องละลานตา
ที่นั่งอยู่อีกข้าง
ชายหนุ่มอ้าปากเคี้ยวไปพลาง ชำเลืองมองดูฝ้ายที่สวมใส่ยกทรงสีขาวสะอาดไปพลางด้วยสายตา
หิวกระหาย ฝ้ายสั่นสะท้านเอียงอายหลบสายตา หากยังคงเผยอแอ่นทรวงอกไซส์ใหญ่กว่าฝนเล็ก
น้อยขึ้นยั่วเย้าชายหนุ่ม ฝ้ายไม่ได้รุกเร้าเสนอสนองแบบฝน กระนั้นเอกกลับรู้สึกว่าท่าทีเอียงอาย
ขัดเขินของฝ้ายกลับเร้าอารมณ์ของเขาได้มากกว่า
เมื่อมองความขาวของนมและขาของฝ้ายจนอิ่ม ชายหนุ่มก็หันหน้ามองไปยังน้องหญิงและน้องฟ้า
ที่นั่งถัดไปจากฝ้ายและฝน สองนักศึกษาสาวคู่ซี้ในชุดชันในสีสวยสดใสโดนจัดให้นั่งห่างออกไป
เพราะฝนบอกว่าได้ใกล้ชิดกับเขาที่มหาลัยไปแล้ว ส่วนสองน้องสาวอ่อนวัยเมย์และมายด์นั้นก็นั่ง
ถัดออกไปที่ปลายโต๊ะอีก เพราะสาว ๆ คนอื่นแอบเคืองที่พากันไปเที่ยวทะเลโดยไม่บอกไม่กล่าว
เมย์ที่ใส่ชุดชั้นในสีฟ้าลายการ์ตูนหันมาส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะหันกลับไปพูดคุยเล่าเรื่องราวที่เธอไป
เที่ยวทะเลมาให้หญิงและฟ้าฟัง น้องมายด์เด็กสาวที่อ่อนวัยที่สุดในกลุ่มนั้นแต่งตัวแปลกกว่าคนอื่น
เล็กน้อย เพราะเธอยังไม่โตพอที่จะใส่ยกทรง จึงเลือกสวมใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซสีเหลืองสดใสแทน
สาว ๆ หันไปมองทางน้องเมย์ทำท่าลุ้นระทึกจนตัวโก่ง ตอนที่เมย์เล่าให้ฟังว่าเธอเกือบจะโดนชาย
แปลกหน้าข่มขืนในห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ซึ่งเอกเองที่รู้เรื่องอยู่แล้วก็ยังแอบฟังไปตื่นเต้นไปไม่ได้
เพราะว่าน้องเมย์ของเขานั้นดูจะมีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่องชะมัด เล่าซะจนเขาเห็นภาพเลยทีเดียว
แต่พอน้องเมย์เล่าไปถึงตอนที่ว่าเขาพากระแตดาราสาวอกอึ๋มขึ้นเตียงพร้อมกับสองน้องสาว เอก
ก็ถึงกับต้องยิ้มแห้ง ๆ เพราะหญิง ฟ้า และฝ้าย ต่างก็พากันหันหน้ามามองด้วยสายตาที่แปลความ
หมายได้ว่าแอบไปมีผู้หญิงคนอื่นอีกแล้วเหรอเนี่ย ส่วนฝนนั้นก็แค่หัวเราะปรบมือชอบใจ แล้วก็หัน
มาถามว่าไปเจอกับกระแตได้ยังไง
เอกก็เลยเล่าเรื่องไปตามความจริง ว่าไปช่วยกระแตที่โดนนักเลงฉุด แล้วปราบนักเลงไปสี่ห้าคน
แล้วก็ปราบหมอผีที่แปลงร่างเป็นลิงยักษ์ได้อีกหนึ่ง กระแตก็เลยสำนึกบุญคุณแล้วยอมมีอะไรกับ
เขา แต่พอฟังจบสาว ๆ ก็ปรบมือหัวเราะคิกคักบอกว่าเอกแต่งนิทานได้เก่งเสียอย่างงั้น ซึ่งก็แน่
ล่ะเรื่องราวมันออกจะเหลือเชื่อเกินไป ยกเว้นก็แต่น้องหญิง และฝ้าย ที่มองมาด้วยสายตาแปลก ๆ
เหมือนพวกเธอจะไม่คิดว่าเรื่องที่เขาเล่าเป็นเรื่องโกหกพกลม
"พวกเรามาเล่นเกมกันดีกว่านะ ใครชนะมีรางวัล ชื่่อเกมคือ อะไรดีน้า เอานี่ดีกว่า ป้อนข้าวหฤหรรษ์"
ฝน พูดแทรกเสนอขึ้นมาจนทุกคนเงียบหันมามอง และเป็นฟ้าสาวหมวยหมัดหนักที่ดูจะไวกับการ
แข่งขันมากที่สุดที่ถามขึ้นมาก่อน
"ชื่อเกมแปลก ๆ นะ เล่นยังไง?"
"ก็ง่าย ๆ กรรมการคือ พี่เอกสามีสุดที่รักของพวกเรา พวกเราผลัดกันทีละคน ป้อนข้าวให้พี่เอก ด้วย
ลีลายังไงก็ได้ แต่ห้ามใช้เวลาเกิน 1 นาที แล้วสุดท้ายก็ให้พี่เอกตัดสินว่าใครชนะ"
"ถ้าชนะแล้วได้อะไรล่ะ?"
"ก็จะได้สิทธิขึ้นเตียงกับพี่เอกเป็นคนแรกน่ะซิ แถมเวลาให้สวีทหวานกันหนึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นคนอื่น
ห้ามยุ่ง เห็นด้วยกับพี่ฝนมั้ยจ๊ะสาวๆ ?"
นอกจากผู้เสนอไอเดียแล้ว หนึ่งสาววัยทำงาน สองสาววัยรุ่น และสองสาวน้อยอ่อนวัย ต่างพากันหัน
มามองทางชายหนุ่มตาเป็นมัน เมื่อได้ยินว่ารางวัลคืออะไร เพราะสำหรับพวกเธอแล้วคงไม่มีรางวัล
ไหนที่อยากได้มากกว่าเวลาที่จะได้อยู่กับชายคนรักเป็นการส่วนตัว
"งั้นเอาแบบนี้นะ เดี๋ยวจะหมุนตะเกียบก่อน ถ้าปลายตะเกียบชี้ไปทางใคร คนนั้นก็เป็นคนเริ่มก่อน แล้ว
ก็ออกไปยืนรอนอกโต๊ะ พอป้อนครบ พี่เอกก็จะเดินมาเลือกอุ้มใครก็ได้เข้าห้องเพียงรอบเดียว ส่วนคน
ที่เหลือห้ามเข้าไปรบกวนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ... เอาล่ะ หมุนนนนนน"
ห้องทั้งห้องกลายเป็นเงียบกริบในทันที เพราะทุกคนเอาแต่มองดูไปที่ปลายตะเกียบ ว่าจะไปตกที่ใคร
และเมื่อตะเกียบหยุดหมุนทุกคนก็อุทานขึ้นมาพร้อมกันว่า
"น้องมายด์"
มายด์ยิ้มยินดีจนตาหยี เธอกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาเอก โดยมีทุกคนคอยลุ้นว่าเด็กน้อยจะใช้
ลีลาการป้อนอาหารให้ชายหนุ่มอย่างไร
"พี่เอกขา ทานข้าวนะคะ"
มายด์เดินไปหยุดยืนยิ้มอย่างสดใสจนเห็นไรฟัน แล้วก็หยิบช้อนตักข้าวให้เอกอ้าปากงับไป จากนั้นเธอ
ก็เดินไปยืนนอกโต๊ะ ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนว่าจบแล้วเหรอ และเมื่อมายด์พูดทำลายความ
เงียบว่า "เสร็จแล้วค่ะ" ทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมาแล้วบ่นพึมพำว่า "เด็กเอ๋ยเด็กน้อย"
"เด็กหนอเด็ก ชางไร้เดียงสา งั้นอับดับถัดไป ....... ฟ้า ออกมาเลย"
ฝนบ่นพลางส่ายหน้าไปมา เพราะดูเหมือนทุกคนจะลืมไปเสียแล้วว่ามายด์นั้นเพิ่งอายุแค่สิบสองขวบ
เท่านั้น คงจะไม่ได้เข้าใจความนัยที่พูดคุยกันสักเท่าไหร่ ก็เลยป้อนข้าวแบบธรรมดาเรียบร้อยเสีย
อย่างงั้น
ฟ้าสาวหมวยหมัดหนักที่ถูกเรียกชื่อเดินออกมาตัวเกร็ง ๆ ไม่สมกับบุคลิกสาวห้าวที่พร้อมลุยกับคน
ทั้งโลกสักเท่าไหร่ และเมื่อฝนบอกว่าให้เริ่มและจับเวลา ฟ้าก็ยืนคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะขยับสะโพก
ขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะอวดขาอ่อนและเรือนร่างให้เอกมองเห็นเต็มตา จากนั้นก็ขยับตัวด้วยท่าทางเกร็ง
เอาปลายเท้าไปเหยียบคลึงที่ต้นขาใกล้ความเป็นชายของเอกพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบแก้มแล้วตัก
ป้อนน้ำซุปเข้าปากชายหนุ่มไปทีละคำ
เมื่อฝนประกาศออกมาว่าหมดเวลาทุกคนก็หายใจออกมาเฮือกใหญ่ ส่วนฟ้าก็เดินเขิน ๆ ไปยืนรอ
ข้างมายด์ซึ่งตอนนี้เด็กน้อยวัยสิบสองกำลังยืนแก้มป่องทำหน้าบูดอยู่ เพราะดูเหมือนเธอจะเริ่มรู้
แล้วว่าเกมนี้จริง ๆ ควรจะเล่นยังไง
"เอ้า หมุนนนนนนน คนต่อไป ... เย้ ฝนเอง ..."
ทุกคนเงียบเสียงลงอีกครั้ง ต่างลุ้นระทึกสนใจว่าพริตตี้สาวที่มีนิสัยเปิดเผยที่สุดในกลุ่มคนนี้จะใช้
ท่วงท่าลีลาอะไรออกมา
ฝนหยิบกดจับเวลาแล้วยื่นนาฬิกาจับเวลาให้กับฝ้ายที่นั่งอยู่ด้านข้าง เธอเดินโยกย้ายสะโพกด้วย
ท่วงท่าลีลาของนางแบบอ้อมไปด้านหลังของเอกแล้วเอื้อมมือโอบกอดรัดรอบคอพลางแอ่นอก
แอ่นหน้าอกนุ่มนิ่มเบียดกับหลังศรีษะของเขา มือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นไปบนโต๊ะแล้วหยิบฉวยเอาแก้ว
น้ำมาป้อนให้เอกดื่มครู่หนึ่ง
พริตตี้สาวก้มหน้าจูบศรีษะของชายหนุ่มอย่างหลงไหล ก่อนจะหมุนเหวี่ยงเรือนร่างเซ็กส์ซี่ของตัว
เองขึ้นไปนั่งบนตักของเขา โดยตั้งใจให้สะโพกผึ่งผายของเธอเบียดเสียดกับความเป็นชายของเขา
พลางแอ่นหน้าอกแนบทาบเข้ากับร่างแกร่งกำยำ แล้วจ้องมองและส่งยิ้มยั่วเย้า
ฝนยกแก้วน้ำในมือขึ้นมาแนบชิดที่ริมฝีปาก เธอแลบลิ้นออกมาจูบและเลียวนรอบขอบแก้ว แววตา
ของเธอเต้นระริกยั่วเย้าขณะเว้นช่วงจังหวะให้ทุกคนครุ่นคิดสงสัยว่าเธอกำลังจะทำอะไร และเมื่อ
ได้เวลา เธอก็อ้าปากงับกลืนน้ำเข้าในปาก แล้วก็ก้มลงประกบจูบป้อนน้ำให้ชายหนุ่มแบบปากต่อ
ปาก ซึ่งชายหนุ่มเองก็ตอบรับด้วยการกอดรัดร่างของเธอแล้วบดจูบพลางดูดน้ำที่อยู่ในปากของ
ฝนออกมาจนเธอเสียวสะท้าน และลีลานั้นก็เรียกเสียงฮือฮาจากสาว ๆ ที่เหลือได้ไม่น้อย
"หมดเวลา ... หมดเวลาแล้วจ้ะฝน ... ยายฝน"
ฝ้ายส่งเสียงบอกให้หยุดเมื่อครบเวลาหนึ่งนาทีตามที่กำหนดกันไว้ แต่กลายเป็นว่าฝนนั้นยังคงจูบ
ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มไม่ยอมหยุด จนฝ้ายต้องเรียกย้ำอีกสองสามรอบนั่นแหละ ฝนถึงจะยอมถอน
ปากออกมาจากปากของเอกด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยินยอม แล้วก็เดินอ้อยอิ่งไปทำหน้าที่หมุนตะเกียบ
ที่อยู่กลางโต๊ะต่อ
"เอาล่ะนะ เหลืออีกสามคน ยัยฝ้าย น้องเมย์ แล้วก็น้องหญิง หมุนล่ะน้าาา .... เลขที่ออกกกกก ....
น้องเมย์ "
พอได้ยินเสียงเรียก เมย์เด็กสาววัยสิบสี่ก็สูดหายเฮือกด้วยความตื่นเต้นจนสองเต้าที่อวบอัดเกินวัย
เด้งสะท้านไหว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนแล้วหยิบฉวยคว้าเอาแก้วนมเดินพาเรือนร่างเล็กบอบบางไป
หาพี่ชายสุดที่รักของเธอ
"อ๊ะ ๆ น้องเมย์จะทำอะไรจ๊ะ จะป้อนนมเหรอ ห้ามเลียนแบบพี่ฝนนะจ๊ะ"
ฝนแอบส่งเสียงทักท้วงขณะมองเรือนร่างของเด็กสาววัยสิบสี่ด้วยความชื่นชมผสมกับความอิจฉา
เพราะแม้นว่าอีกฝ่ายจะยังอ่อนวัยแต่ร่างกายนั้นกลับเติบโตนำไปไกลลิบเสียแล้ว เรียกได้ว่าแทบ
ไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่ว่าเด็กสาวคนนี้ยังอยู่แค่ชั้นมัธยมต้น
"หนูไม่เลียนแบบหรอกค่ะ"
เมย์หันมาส่ายหน้าแล้วก็ปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักหันหน้าเข้าหาพี่ชาย แล้วก็หันมาสายตาให้ฝ้าย
เริ่มจับเวลา
"พี่เอกกินนมนะคะ"
เมย์พูดจบก็ยันตัวขึ้นเล็กน้อยจนทรวงอกอวบอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของเอก เธอยกแก้วนมในมือ
ขึ้นสูงเหนือทรวงอกเล็กน้อยแล้วเอียงแก้วรินน้ำนมสีขาวสะอาดหยดแหมะลงบนเนื้อนิ่มของสอง
เต้าข้างละเล็กน้อย
เอกที่ทันเกมก็ส่งยิ้มให้แล้วก้มใบหน้าลงไปใช้ลิ้นเลียน้ำนมที่ที่กำลังไหลย้อยเลอะอยู่บนสองเต้า
และร่องอกจนสะอาดเอี่ยม น้องเมย์ที่ตัวสั่นสะท้านเล็กน้อยด้วยความเสียวพยายามข่มกลั้นอารมณ์
ตัวเองแล้วเริ่มขั้นตอนถัดไป
มือข้างที่ว่างอยู่ของเธอเอื้อมขึ้นไปดึงยกทรงลายการ์ตูนลงไปด้านล่างจนสองเต้าเด้งผึงออกมาอวด
เปลือยโชว์รูปร่างอันสวยงามน่าลูบไล้ มือข้างนั้นขยับมาโอบประคองช้อนใต้เต้านมข้างหนึ่งแล้วแอ่น
ตัวป้อนเสนอปลายถันสีชมพูสวยสดใสเข้าปากของชายหนุ่มไป
เอกอ้าปากงับอย่างไม่รอช้าจนเมย์สั่นสะท้านร้องครางออกมา จากนั้นแก้วนมก็เอียงเทน้ำนมไหลริน
ลงไปที่ด้านบนของทรวงอก แล้วย้อยไหลลงไปที่ปลายถันเป็นเส้นสายโค้งเว้าสวยงาม ชายหนุ่มมาก
ประสบการณ์ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของน้องสาวอ่อนวัย แต่ก็ไม่ลืมที่จะเผยออ้า
ปากออกเล็กน้อยแล้วดูดกลืนกินน้ำนมที่ไหลเทลงมา ไปพร้อมกับดูดเลียที่หัวนมของเด็กสาวที่กำลัง
แข็งเต่งเด้งชูชันด้วยความเสียว
เสียงฮือฮาของสาว ๆ ที่เหลือดังขึ้นดังกว่าครั้งใด ขณะที่ชายหนุ่มกำลังดูดนมสดจากเต้าของเด็กสาว
อ่อนวัย ซึ่งแลดูไปก็คล้ายเด็กทารกกำลังดูดนมจากทรวงอกของผู้เป็นแม่ ผิดกันก็แต่เด็กทารกคนนี้ออก
จะตัวโตเกินไปสักหน่อย แล้วก็ลีลาดูดกินก็ออกจะตะกละตะกลามมากเกินไป เพราะเล่นเอาน้องเมย์ที่
รับบทเป็นแม่นั้นถึงกับตัวกระตุกแล้วกระตุกอีกไม่หยุด
เสียงครางของเด็กสาวดังขึ้น มือไม้ของเธออ่อนแรงจนเผลอปลดปล่อยแก้วนมอันว่างเปล่าหล่นตุบลง
ไปบนพื้นพรม หากยังดีที่แก้วใบนั้นมิใช่เนื้อแก้วแท้ แต่เป็นวัสดุสังเคราะห์ก็เลยไม่แตกกระจายเป็นชิ้นเล็ก
ชิ้นน้อย แต่ดูเหมือนว่าสติของเมย์และเอกนั้นได้กระเจิดกระเจิงไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเอกนั้นก็ยังคงก้ม
หน้าก้มตาดูดเลียทรวงอกของเมย์อย่างตายอดตายอยากไม่หยุดทั้งที่น้ำนมหมดไปตั้งนานแล้ว เมย์ก็เลย
เสียวสะท้านจนน้ำลายสอ ตัวกระตุกเฮือก ๆ รู้สึกเหมือนใกล้จะถึงจุดสุดยอดอยู่รอมร่อ
สาว ๆ ทุกคนที่เหลือต่างพากันจ้องมองดูจนตาค้าง ต่างคนต่างเกิดอารมณ์จนต้องหนีบสองขาเข้าหากัน
แน่น ไม่รู้เลยว่าเวลาน่ะผ่านเกินไปแล้วตั้งเกือบห้านาที
"อ๊อยยย พี่เอกขา ไม่ไหวแล้ว อะ พี่เอก พี่เอก อ๊ายยยย พี่เอกขาาาาาาา"
เด็กสาวอ่อนวัยร่ำร้องด้วยสุ้มเสียงที่ขาดห้วง สองมือยึดเหนี่ยวรั้งดึงศรีษะของพี่ชายเข้าหาตนเองสุดแรง
พลางแอ่นตัวบดเบียดหน้าอกอวบอูมเข้าใส่สุดชีวิต แม้จะยังมิได้โดนสอดใส่ แต่ลีลาลิ้นของชายหนุ่มก็
ปลุกเร้าจนอารมณ์ของเด็กสาวแตกกระเจิดกระเจิงไปตั้งนานแล้ว ยิ่งโดนเขาร่ายมนตร์สวาทเข้าใส่ด้วย
อีกอย่าง อารมณ์เด็กสาววัยใสสะพรั่งจึงพุ่งพรวดขึ้นไปถึงจุดสุดยอดได้อย่างง่ายดาย
เธอหวีดร้องออกมาสุดเสียงขณะที่ร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกอย่างรุนแรงจนน่ากลัวว่าจะดิ้นหลุดไปจากอ้อม
กอดของพี่ชายสุดที่รัก แต่อ้อมกอดของชายหนุ่มนั้นแข็งแกร่งและมั่นคงยิ่ง ไม่ว่าร่างของเธอจะดิ้นพล่าน
มากเพียงใด จวบจนกระทั่งเสียงหวีดร้องหยุดลง เด็กสาวก็แนบใบหน้าซบลงบนหัวไหล่ของชายหนุ่ม ตัว
สั่นสะท้านหอบหายใจกระเส่าราวกับลูกนกตัวน้อยอ่อนแรง
ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องครู่ใหญ่ เพราะสาว ๆ ที่เหลือต่างก็นั่งตัวเกร็งเพราะมีอารมณ์กันหมด ก่อนที่
น้องหญิงที่ได้สติก่อนใครเริ่มปรบมือส่งเสียงชมเชยน้องเมย์ จากนั้นสาว ๆ ที่เหลือจึงค่อยได้สติพากันเป่า
ปากปรบมือชมเชยให้กับลีลาและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กสาวตัวน้อยออกมาไม่ขาดปาก จนน้องเมย์
ยิ้มแก้มแทบไม่หุบ
"โห เจ็ดนาทีกว่าแล้ว ..."
ฝ้ายรีบพลิกนาฬิกาจับเวลาขึ้นมาดูแล้วก็แจ้งให้คนอื่นรู้ ซึ่งทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันว่าตัวเองแอบนั่งลุ้น
ตัวโก่งจนลืมเรื่องเวลาไปเลย
"แหม แหม ร้ายจริงนะยะเรา ตัวแค่นี้เอง เอาล่ะงั้นเล่นต่อกันเลยดีกว่านะ เหลือฝ้าย กับ น้องหญิง สองคน"
ฝนเดินเข้ามาขยี้ศรีษะของเมย์ด้วยความรู้สึกทึ่ง เพราะทำเอาเธอทนไม่ไหวต้องบีบนมบีบหอยคลายอารมณ์
ให้ตัวเองไปด้วย จากนั้นก็ขยับตัวเข้าไปหมุนตะเกียบต่อ และคราวนี้ผู้เล่นลำดับถัดไปก็คือฝ้ายพยาบาลสาว
แสนสวยนั่นเอง
"ขอเวลาเตรียมตัวนิดนึงได้มั้ยจ๊ะฝน ... แล้ว ที่อยากทำมันต้องอาศัยเธอช่วยนิดนึงด้วย"
ฝ้ายหันมาพูดกับฝนด้วยน้ำเสียงประหม่าเขินอายสุดชีวิต
"ได้ซิจ๊ะ แต่ห้ามไปแตะต้องตัวพี่เอกล่ะ จะให้ชั้นช่วยอะไรก็ว่าเลย เพื่อนรัก ... หา เอาจริงเหรอ !!!"
เมื่อฝ้ายเดินมากระซิบที่ข้างหู ฝนก็ถึงกับต้องทำตาโตยกมือขึ้นป้องปากตัวเองเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ
แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น แล้วก็หันหน้าไปสั่งการทุกคน
"ทุกคนปิดตาเดี๋ยวนี้ ห้ามเปิดจนกว่าจะบอกนะ พยาบาลสาวสวยแสนขี้อายมีอะไรดี ๆ จะโชว์"
ทุกคนต่างก็ทำหน้าสงสัย แต่ก็อยากร่วมสนุกด้วยก็เลยหลับตานิ่งรอคอยว่าสาวขี้อายที่สุดในกลุ่มจะมี
อะไรออกมาแสดง เมื่อทุกคนหลับตาลงก็ได้ยินเสียงเคลื่อนย้ายจานชามบนโต๊ะกินข้าว หลังจากนั้นก็
เป็นความเงียบอีกเกือบสิบนาที จนแทบจะอดใจรอไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้ยินสัญญาณบอกให้ลืมตาได้ซะ
ก่อน
"โหหหหหหหหหห"
นอกจากฝนและฝ้ายแล้ว ทุกคนต่างก็ต้องส่งเสียงฮือฮาออกมากันหมด โดยเฉพาะเอกนั้นถึงกับตาลุก
โพลง จับจ้องมองสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา
ฝ้ายพยาบาลสาวนอนหงายหลับตาพริ้มเปลือยกายอยู่บนนั้น เธอหอบหายใจกระเส่าด้วยความตื่นเต้น
ยกทรงและกางเกงถูกถอดออกจากร่างวางอยู่ด้านข้างลำตัวแลดูคล้ายเครื่องเคียงของอาหารจานใหญ่
บนร่างขาวผ่องนวลเนียนนั้นมีผักสดหลายชนิดวางแปะปิดจุดสำคัญของร่างกายเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่
น่าลิ้มลอง
ริมฝีปากบางโดนทาเคลือบไว้ด้วยน้ำสลัดสีใสจนมันวาว น้ำสลัดนั้นราดรดเป็นทางไปที่ปลายคาง ผ่าน
ลำคอระหง ไล่ต่ำลงไปตามร่องอก แล้วแต่อ้อนฐานนมเป็นวงโค้งอ้อมขึ้นไปที่ปลายถัน ที่ปลายยอดนั้น
มีแตงกวาชิ้นเล็กจ้อยปิดแปะประดับเอาไว้ข้างละชิ้น จากนั้นเส้นสายของน้ำสลัดก็ลากไล้ต่ำลงไปที่สะดือ
และสิ้นสุดลงที่ตรงกลางหว่างขา ซึ่งที่ตรงนั้นมีใบผักสีเขียวสดวางปิดบังความอวบนูนของเนินเนื้อเอา
ไว้อย่างวับแวม
เอกนั่งมองจนตาค้างไม่นึกว่าฝ้ายที่แสนขี้อายจะกล้าทำถึงขนาดนี้ แต่ก็ยอมรับว่าเธอทำให้เขารู้สึกมี
อารมณ์หื่นได้ยอดเยี่ยมมาก เธอตีโจทย์แปลกแหวกแนวไปจากคนอื่น เพราะคนอื่นนั้นใช้วิธีรุกป้อนเข้า
หา แต่ฝ้ายกลับคิดวิธีที่สมกับเป็นตัวเธอ คือตั้งหลักรอให้เขาเป็นฝ่ายเข้าหาแทน
ชายหนุ่มที่ไม่อยากเสียเวลาให้เปล่าประโยชน์ รีบเป็นฝ่ายขยับตัวก้มหน้าลงไปเลียน้ำสลัดที่รอบริมฝีปาก
ของฝ้ายอย่างแผ่วเบาทะนุถนอม พยาบาลสาวสวยตัวสั่นเล็กน้อย แต่เริ่มหอบหายใจถี่แรงขึ้นจนแผ่นแตง
กวาที่แปะปิดหัวนมเกือบหลุดเพราะแรงกระเพื่อม
เอกบดจูบแลกลิ้นอย่างแผ่วเบาครั้งหนึ่ง ก่อนจะไล่ลิ้นโลมเลียน้ำสลัดที่ราดเป็นทางไปที่ปลายคาง และ
ลำคอขาดสะอาดตา ปลายลิ้นลากตามเส้นทางลงไปที่ฐานหน้าอก ก่อนจะตัดสินใจวนออกไปทางซ้าย
อ้อมไปตามความโค้งของก้อนเนื้อกลมดิก แล้วไต่ขึ้นไปบนยอดเขาอ้าปากงับแตงกวาแผ่นบางเข้าปาก
ไปกัดกินพร้อมกับขบกัดปลายถันอย่างเอร็ดอร่อยจนฝ้ายตัวกระตุกเฮือกร้องครางออกมาเสียงสั่น
ปลายลิ้นไล่ลงไปที่ฐานนมอีกครั้งแล้วขยับอ้อมเป็นวงไต่ขึ้นไปอ้าปากงับแตงกวาอีกแผ่นที่เหลืออยู่ เอก
ขบเม้มดูดดุนปลายถันสีสวยของฝ้ายเล็กน้อยฝากรอยฟันอ่อนจางเอาไว้รอบหัวนม ก่อนจะขยับตัวเอื้อม
สองมือขึ้นไปบีบคลึงขยี้สองเต้าของพยาบาลสาวเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้หนักหน่วงกว่าเดิม
ร่างขาวโพลนส่งเสียงร้องครวญครางพลางกระตุกระริก ขณะที่ปลายลิ้นไล่ต่ำลงไปเลียวนที่สะดือ และต่ำ
ลงไปที่บริเวณหน้าขา สะโพกของเธอเด้งสะท้านเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มใช้จมูกกดผักสีเขียวสดลงไปบดบี้
กับเนินสวาทที่อยู่ด้านล่าง ยิ่งเมื่อเขาอ้าปากงับกลืนกินผักชิ้นเล็กเข้าปากไป แล้วใช้จมูกคลึงวนกับติ่งแตด
สาวสวยก็ถึงกับดิ้นพล่านจนเกือบตกจากโต๊ะกินข้าว แต่ยังดีที่สองมือของชายหนุ่มนั้นจับกดบีบบี้ขยี้หน้า
อกของเธอเอาไว้จนแน่น
"ซี้ดสสสสส พี่เอก ... พี่เอก ... ฝ้ายเสียว ... ซี้ดดสสส พี่เอก ..."
ฝ้ายร้องครางพลางกระตุกเฮือกจนโต๊ะทานข้าวสั่นสะเทือน เสียงช้อนและจานชามกระทบกันส่งเสียงดัง
แกร๊ง ๆ ไม่หยุด เธอถ่างอ้าสองขาออกจนสุดหล้า แอ่นสะโพกยกกลีบสวาทเสนอป้อนเข้าหาชายหนุ่ม
ขณะที่สองมือของเธอก็กดรั้งศรีษะของเขาเข้าหาตัวเองสุดแรง
เอกแหวกลิ้นแทงรัวเข้าไปในร่องรักระริกเร็ว กวาดเขี่ยไล่กระทบติ่งแตดเม็ดเสียวไม่ยั้ง น้ำรักหลั่งไหลออก
มาจากร่องของพยาบาลสาวสวยราวกับสายน้ำตก แต่ก็ถูกชายหนุ่มดูดกลืนเข้าไปจนหมดเกลี้ยง เพียงแต่
ไม่นานนัก ฝ้ายก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมา เธอแอ่นหน้าเริ่ดด้วยใบหน้าที่บ่งบอกความเสียวสุดชีวิต พลาง
แอ่นเอวกระดกเนินเนื้ออวบอูมเด้งเข้าหาใบหน้าของเอกด้วยถึงจุดสุดยอดคาปากของเขาไปแล้วหนึ่งครั้ง
เอกลุกขึ้นมองภาพฝ้ายที่นอนหลับตาพริ้มหอบหายใจกระเส่าด้วยแววตาเปี่ยมรัก ก่อนจะหันมองไปรอบห้อง
มองดูสาวสวยอีกห้านางที่บ้างนั่งบ้างยืนมองจนตาค้าง และที่น่าตื่นเต้นก็คือทุกคนล้วนแล้วแต่กำลังบีบนม
บีบหอยคลายอารมณ์สวาทให้กับตัวเองอย่างถ้วนหน้า
ความเงียบที่มีแต่เสียงหอบหายใจของสาวอารมณ์เปลี่ยวหกนางคงอยู่อีกครู่ใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยเสียง
ปรบมือชื่นชมที่ดังไม่แพ้เมย์ขึ้นมา แต่เมื่อฝ้ายได้ยินเสียงปรบมือกลับรู้สึกตัวแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งแจ้นไปหยิบผ้า
ขนหนูมาพันปิดบังเรือนร่างด้วยความอายจนหน้าแดงแป๊ดเสียอย่างงั้น
ทุกคนต่างก็มองท่าทางเขินอายของฝ้ายด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปมองน้องหญิงที่หลงเหลือเป็นคนสุดท้าย
ของเกมอย่างพร้อมเพรียง ด้วยอยากรู้ว่าผู้หญิงที่สวยมีเสน่ห์มากที่สุดกลุ่มจะมีอะไรดี ๆ มาโชว์
น้องหญิงหันมองทุกคนด้วยรอยยิ้มพราย คล้ายพกพาความมั่นใจมาอย่างเปี่ยมล้น ซึ่งจะว่าไปเพียงแค่เธอ
ยิ้มออกมา รอยยิ้มของนางฟ้าเดินดินก็ทำเอาคนรอบข้างต้องเผลอยิ้มออกมาด้วย เธอลึกขึ้นยืนอวดเรือน
ร่างที่สวยสมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วนครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมากระซิบบอกข้อความเอกด้วยลีลาไม่แพ้
นางแบบระดับโลก
"ห้ามกลืนนะคะ ... ตะขอยกทรงอยู่ด้านหน้า ... แล้วก็กางเกงในเป็นแบบบางกระชากทีเดียวก็ขาดแล้ว ...
แล้วก็ .............................."
เอกรับฟังคำพูดซุบซิบของน้องหญิงด้วยไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเธอจะให้เขาทำอะไร แต่เธอก็ไม่ได้อธิบายเพิ่ม
อะไรนอกจากการส่งรอยยิ้มที่หนุ่มทุกคนต้องใจละลายให้ แล้วก็จูงมือเขาย้ายไปนั่งบนโซฟาที่อยู่กลางห้อง
"ยัยคุณหนู เธอจะป้อนอะไรน่ะ เดินตัวเปล่ามาเชียว"
ฟ้าที่เดินตามมามุงดูด้วยนั้นอดถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วงแทนไม่ได้ เพราะเธอนั้นขึ้นชื่อเรื่องไม่ยอมแพ้
เป็นที่หนึ่ง แต่เมื่อตัวเองน่าจะแพ้ไปแล้ว ก็เลยอยากจะเชียร์ให้เพื่อนรักของตัวเองเอาชนะคนอื่นได้แทน
ตัวเอง
"เมื่อกี้ตอนฝ้ายเตรียมตัว หญิงก็เตรียมตัวรอไว้แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะยัยฟ้า"
น้องหญิงหันไปมองฟ้าส่งความหมายว่าไม่ต้องห่วง จากนั้นก็ยื่นมือออกมาแล้วพลิกแบเผยผลเชอรี่สีแดง
สดวางอยู่ในฝ่ามือขาวผ่องเนียนนิ่มสองลูก นักศึกษาสาวดาวมหาลัยแสนสวยหยุดจังหวะรอครู่หนึ่ง
ก่อนจะค่อย ๆยกประคองผลเชอรี่ที่มีก้านเหลืออยู่เข้าปากอย่างเชื่องช้า ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน
ว่าเธอกำลังจะกินก้านเชอรี่เข้าไปด้วยหรือยังไง
สาวสวยหันมองส่งยิ้มให้ทุกคนครู่หนึ่งก่อนจะอ้าปากแลบลิ้นสีชมพูสวยออกมา ผลเชอรี่สองลูกยังคง
อยู่ในสภาพเดิมที่ตรงกลางลิ้น แต่ที่ตื่นตะลึงก็คือที่ปลายลิ้นนั้นมีก้านของผลเชอรี่ที่ถูกมัดเป็นเงื่อนรูป
หัวใจวางอยู่ ทุกคนจึงต้องพากันมองด้วยความตื่นเต้น เพราะเท่าที่รู้การใช้ลิ้นผูกก้านเชอรี่ในปากเพียง
อย่างเดียวนั้นยากมาก ๆ จนหาคนทำได้น้อยมาก แต่เมื่อได้เห็นกับตาว่าเธอคนนี้ทำได้ทั้งที่มีผลเชอรี่
อยู่ในปากอีกสองลูกด้วยก็ต้องยิ่งรู้สึกทึ่งให้กับลีลาการใช้ลิ้นขั้นเทพของคุณหนูไฮโซแสนสวยคนนี้
น้องหญิงที่ควบคุมผู้คนได้จนอยู่หมัด อมก้านและผลเชอรี่กลับเข้าไปในปาก ก่อนจะเริ่มต้นด้วยการเดิน
เข้าไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของชายหนุ่ม โดยหันหน้าเข้าหาเขา สองมือลูบไล้ไปตามใบหน้าของชาย
หนุ่มด้วยลีลารักร้อนแรงจนเขาเกิดความตื่นเต้นตื่นตัวขึ้นมา
เวลานั้นเธอก้มหน้าลงไปบดปากจูบกับชายหนุ่มอย่างเร่าร้อนรุนแรงทำลายภาพลักษณ์นางฟ้าแสนสวย
บริสุทธ์เสียจนสิ้น คล้ายกับกำลังจะจุติใหม่กลายร่างไปเป็นนางมารร้ายร่านสวาท เธอเสนอเขาสนอง
ต่างกอดรัดพัวพันบดจูบหนักหน่วง มือไม้แปะป่ายลูบไล้ขยำขยี้เนื้อตัวฝ่ายตรงข้ามจนแดงจ้ำ
แต่เพียงชั่วครู่นักศึกษาสาวแสนสวยก็หยุดชะงักทุกอย่าง แล้วถอนปากออกมาจากชายหนุ่มโดยที่เขาไม่
ค่อยจะยินยอมนัก แต่เธอก็ใช้เพียงปลายนิ้วแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาเพื่อหยุดยั้ง
อารมณ์กลัดมันของเขา เอกยอมหยุดโดยไม่ค่อยยินยอมนัก ก่อนจะขยับปากเคี้ยวบางสิ่งในปากไปพลาง
น้องหญิงเผยออ้าปากออกมาอีกครั้ง และคราวนี้ก้านของผลเชอรี่ที่ถูกมัดไว้เป็นเงื่อนรูปหัวใจก็ถูกคลาย
ออกมาเป็นเส้นตรงแล้ว แต่ในปากเห็นผลเชอรี่สีแดงสดเหลืออยู่เพียงลูกเดียว ทุกคนที่กำลังอึ้งอยู่กับลี
ลาลิ้นระดับเทพของเธอจึงค่อยรู้ว่า เชอรี่อีกลูกนั้นได้ป้อนให้เอกเคี้ยวกินเล่นไปแล้ว
น้องหญิงหยิบเอาก้านเชอรี่ที่ถูกคลายปมออกด้วยลิ้นโยนทิ้งไปอย่างแยแส ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเล็กน้อย
จนทรวงอกอวบอิ่มไซส์ใหญ่บึ้มอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่ม เธอใช้มือโอบกอดต้นคอของชายหนุ่มเอาไว้
พลาง เอนตัวไปเบื้องหลังเล็กน้อยราวกับกำลังโหนเล่นกับบาร์ แล้วคายผลเชอรี่สีแดงผลเดียวที่เหลือ
อยู่ ให้มันกลิ้งขลุกขลักลงไปที่ซุกอยู่ตรงกลางร่องอกขาวอวบ พร้อมกับดันตัวไปเบื้องหน้าเสนอสอง
เต้าเข้าหาใบหน้าของเขา
ชายหนุ่มไม่รอช้าซุกหน้าลงไปจูบพรมลากลิ้นเลียที่กลางร่องอกของสาวสวยด้วยกิริยาดุดันราวสัตว์ป่า
ที่กำลังหิวกระหาย ผลเชอรี่สีแดงสดโดนจมูกและปากของเขากดจนจมลึกหายเข้าไปในร่องอกลึกล้ำ
ของสองเต้าอวบกลมใหญ่ทะลักล้นมือ ก้อนเนื้อนิ่มสั่นไหวยวบสะท้านเด้งเมื่อโดนบีบขยำเคล้นคลึง
โดยฝ่ามือทั้งสองของชายหนุ่มอย่างรุนแรง
ขณะที่เธอสั่นสะท้านส่ายศรีษะร้องครางด้วยลีลาของสาวร้อนรักแรดร่านอยู่นั้น ทุกคนก็แอบสงสัยว่า
พี่เอกของพวกเธอจะอ้าปากงับที่บริเวณกึ่งกลางยกทรงทำไม แต่เมื่อยกทรงนั้นหลุดผึงจนนมทะลัก
หลุดออกมาอวดเปลือยจึงค่อยได้รู้ว่าที่แท้คุณหนูไฮโซหน้าหวานคนนี้สวมใส่ยกทรงแบบตะขออยู่
ด้านหน้านั่นเอง
ห้าสาว หนึ่งหนุ่ม ต่างพากันจ้องมองเต้านมขาวสวยกลมกลึงอวบอิ่มเนื้อแน่นของดาวมหาลัยแสนสวย
จนตาลอย ห้าสาวต่างแอบนึกอิจฉาว่าอยากจะมีหน้าอกอวบและสวยเช่นเธอคนนี้บ้าง ส่วนด้านชายหนุ่ม
นั้นไม่ต้องพูดถึง มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ จับกี่ครั้งก็ยังคงตื่นเต้นลุ้นระทึก ยิ่งเมื่อได้เห็นว่าที่ปลายถันของ
เธอทั้งสองข้างนั้นมีแยมรสส้มและรสสตรอเบอรี่ทาอยู่ข้างละสี ชายหนุ่มก็ยิ่งหน้ามืดอดไม่ได้ต้องก้มหน้า
ก้มตาลงไปอ้าปากงับดูดเลียลิ้มรสความหอมหวานอย่างเมามันส์
เสียงดูดเลียปลายถันดังจ๊วบจ๊าบ แว่วผสานผสมไปกับเสียงร้องครางซี้ดซ้าดของสาวสวย พร้อมกันนั้น
สองมือของชายหนุ่มก็บีบขยี้ฟอนเฟ้นและกดบีบสองเต้าเบียดเข้าหากันอย่างแรงจนเนื้อนิ่มบิดเบี้ยวผิด
รูปคล้ายลูกโป่งที่ใกล้แตก
ห้าสาวที่ได้แต่ยืนมองครางฮือฮาออกมาด้วยความลุ้นระทึก เมื่อได้เห็นหนองโพไซส์ใหญ่โดนบีบบี้จน
แทบแหลกเละแล้วปล่อยออกรอบแล้วรอบเล่า แต่บีบขยี้เท่าไหร่สองเต้าของสาวสวยก็ยังคงเด้งดึ๋งกลับ
มาเป็นแบบเดิมได้ในทันที กองเชียร์ยิ่งส่งเสียงออกมามากกว่าเดิมเมื่อเห็นน้ำสีแดงสดของผลเชอรี่ที่
โดนหนีบอยู่ในร่องอกไหลรินลงไปที่หน้าท้องละเลงถึงสะดือ แล้วไหลย้อยลงไปทางกางเกงในสีสวย
ตัวน้อย
ตอนนั้นเองที่น้องหญิงผลักไสศรีษะของชายหนุ่มที่กำลังอิ่มอร่อยเพลิดเพลินอยู่กับทรวงอกอวบเต่ง
ออกไปอย่างไม่ใยดี ก่อนจะดันตัวขึ้นยืนบนโซฟาแทบจะในทันทีที่ชายหนุ่มทำท่าจะก้มหน้าลงมาฟอน
เฟ้นร่างของเธอใหม่
เมื่อสาวสวยอยู่ในท่ายืน และชายหนุ่มอยู่ในท่านั่ง เนินสวาทอวบอูมก็ลอยส่ายไหวอยู่เบื้องหน้าของ
ชายหนุ่ม ก่อนที่น้ำเชอรี่สีแดงสดจะไหลไปถึงกางเกงในนั้น ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปขยำสะโพกผึ่งผาย
แล้วกดรั้งเข้าหา พร้อมซุกใบหน้าลงไปยังเนินสวาทที่ฉ่ำแฉะอย่างรวดเร็ว
"ซี้ดดสสส พี่เอก ..."
เสียงครางดังออกมาจากเรือนร่างเกือบเปลือยของนักศึกษาสาวดาวมหาลัยที่ยืนแอ่นตัวสะท้านระริก
ในอารมณ์เสียว ภาพนั้นกระตุ้นเร้าอารมณ์สาวสวยอีกห้าคนที่ยืนอยู่รายล้อมได้อย่างน่าประหลาด แม้
จะเป็นเพศเดียวกัน แต่พวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าอยากแตะสัมผัสเสพสมกับเรือนร่างของน้องหญิง
บ้าง
จากนั้นเสียงดังปึ้ดเหมือนเสื้อผ้าฉีกขาดก็ดังขึ้นเรียกร้องความสนใจจากทุกผู้คนให้หันมอง พวกเธอ
ค่อยพบว่าพี่เอกของพวกเธอนั้นอ้าปากงับขอบกางเกงในแล้วกระชากออกมาดื้อ ๆ เสียจนขาดวิ่น ยิ่ง
ได้เห็นลีลาดิบเถื่อนของชายสุดที่รักแบบนี้พวกเธอก็ยิ่งรู้สึกร้อนวูบวาบมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
เมื่อกางเกงในหลุดลุ่ยออกจากร่าง ดาวมหาลัยแสนสวยที่ยืนเด่นอยู่บนเวทีขนาดเล็ก ก็ยกขาขวาตวัด
ขึ้นพักพิงอยู่บนหัวไหล่ซ้ายของเขา ก่อนจะใช้สองมือจิกศรีษะของชายหนุ่ม แล้วแหงนหน้าเริ่ด อ้าสอง
ข้าออกให้มากที่สุด เพราะรู้ดีว่าท่วงท่านี้จะเปิดทางให้ชายหนุ่มลากลิ้นได้สะดวกกว่าท่ายืนธรรมดา
เวลาเดียวกันนั้นน้ำเชอรี่ที่เพิ่งถูกบีบคั้นโดยสองเต้าอวบก็ไหลรินลงมาถึงตรงเนินสวาทของเธอพอดี
ชายหนุ่มที่ซุกไซร้ใบหน้าตวัดลิ้นเลียไปที่ร่องเสียวฉ่ำแฉะจึงได้ลิ้มชิมรสหวานฉ่ำของน้ำผลไม้ไป
พร้อมกับน้ำรักของสาวสวย
"พะ พี่เอกกกก อะ อ๊ายยยย ซี้ดดดสสสสสสส อ๊าาาาาาาาาาาาา อืออออออออออออออออออ........"
สาวสวยกรีดร้องครวญครางลั่นอย่างสุดกลั้น เธอหลับตาปี๋กัดฟันแน่น ร่างของเธอเริ่มกระตุกรับความ
กระสันเสียวรุนแรงที่อยู่ด้านในท้องน้อย ร่องเสียวตอดเกร็งรัดตอดตุบเข้าใส่ปลายลิ้นที่ฉกวูบรุกไล่เข้า
ใส่ราวกับงูพิษ เขาเร่งลิ้นตวัดโลมเลียลากขึ้นลงตามร่องเสียว สลับกับตวัดละเลงที่ติ่งเสียว และแหย่
แยงลึกเข้าไปในร่องหลืบจนเธอตัวอ่อนระทวยแทบยืนไม่ไหว แต่ยังดีที่ได้เขาช่วยประคองร่างของเธอ
เอาไว้
"พี่เอก พี่เอก อ๊าายยยย หญิง ไม่...ไหวแล้ว ซี้ดดสสสส อ๊าาาา"
สาวสวยร้องเสียงหลงลั่นห้อง เธอแอ่นเนินเนื้ออัดใส่ใบหน้าชายหนุ่ม จนเขาแทบหายใจหายคอไม่ออก
แต่จะอย่างไรชายหนุ่มมากประสบการณ์ก็ได้เตรียมตัวรับสถานการณ์เอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ก็เลยยังคง
สามารถใช้ลิ้นเลียได้ไม่หยุด สาวสวยที่ถึงจุดสุดยอดก็เลยตัวกระตุกบิดเกร็งสะท้านแล้วสะท้านอีกมิได้
หยุดพัก สะโพกผายกระตุกเร่าเร่า น้ำรักหอมหวานหลั่งทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
เมื่อเสียงหวีดร้องหยุดลง เรือนร่างงามสมบูรณ์แบบที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อก็ไหลพรืดลงมานั่งซบกับชาย
หนุ่มอย่างเชื่องช้า หนุ่มสาวร้อนรักบดจูบแลกลิ้นแสดงความรักกันอีกรอบหนึ่ง ก่อนจะนั่งพักหอบหายใจ
กอดกันตัวกลมบนโซฟาตัวใหญ่
เอกลืมตามองด้วยความสงสัยว่าเหตใดทุกคนจึงได้เงียบกันนัก ค่อยได้พบว่าห้าสาวที่ยืนมองอยู่รายรอบ
บัดนี้บ้างนั่งบ้างยืนมองเขาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ ต่างกำลังล้วงมือบีบขยำนม และหนีบขาใช้นิ้วตกเบ็ด
ให้ตัวเองกันยกใหญ่ ขณะที่กำลังสงสัยว่าทำไมสาวสาวถึงได้กลัดมันกันขนาดนี้นั้น เขาค่อยนึกขึ้นมาได้
ว่าเพราะเขามีพลังมนตร์ดำอยู่ในระดับสูงมาก หากมีเพศตรงข้ามมาอยู่ใกล้จะรักจะลุ่มหลง ยิ่งหากเขา
กำลังมีอารมณ์ทางเพศมากเพียงใด พลังมนตร์ดำนั้นก็จะยิ่งสูงส่งขึ้น ส่งผลให้เพศตรงข้ามที่อยู่ใกล้ยิ่ง
มีอารมณ์หนักขึ้นไปเหมือนกับตอนโดนมนตร์ปลุกสวาทนั่นเอง
หลังจากโดนเอกมองผ่านด้วยรอยยิ้ม สาวทั้งห้านางที่ล้วงควักช่วยตัวเองอยู่นั้นจึงค่อยได้สติกลับคืน
มาบ้าง พวกเธอต่างก้มหน้าหลบสายตาคนอื่นด้วยความขัดเขิน ก่อนช่วยกันปรบมือส่งเสียงร้องชมเชย
ให้กับลีลารักของน้องหญิงที่เพิ่งได้แสดงออกมา
สุดท้ายชายหนุ่มที่กำลังคิดว่าจะเลือกให้ใครเป็นผู้ชนะก็ต้องลอบเหงื่อตก เพราะทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่
จ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาคาดหวัง แม้ว่ามายด์จะไร้เดียงสาเกินไป ฟ้าเกร็งจนทำได้ไม่ดีนัก และ
ฝนก็อาจจะสู้ เมย์ ฝ้าย และน้องหญิงไม่ได้ แต่การจะตัดพวกเธอออกไปดื้อ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้นี่จะ
เป็นเกมที่ตกลงกติกาไว้แล้ว แต่ชายหนุ่มก็เข้าใจนิสัยผู้หญิงดีว่าการเลือกเพียงแค่คนเดียวอาจจะทำ
ให้คนอื่นรู้สึกผิดหวังขัดเคืองใจได้
ถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะเลือกให้ใครได้รางวัล ?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
2 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
ขอบจัยจ้า
แสดงความคิดเห็น