ขายของ

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

สงกรานต์...ปี 51

ใน ทุกๆปีผมเองมีโอกาสได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านนอกเขตชนบท ก่อนเทศกาลสงกรานต์ หลังจากที่ตรากตรำกับงานมาทั้งปี เป็นเวลา2อาทิตย์ ผมเองมีอายุ49 ปี แต่อย่าดูหน้าตาผิวพรรณ หลายคนที่ผมบอกเรื่องอายุ เค้าว่าผมอยากเป็นคนแก่บ้าง อยากให้คนอื่นเรียกพี่บ้างสารพัด ก็เพราะหน้าตาผมเหมือนคนอายุ28ปีผิวพรรณก็ไม่เหี่ยวย่นเหมือนคนอายุเกือบ ครึ่งร้อยโดยทั่วไป ผมเองยังแอบดีใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เมื่อได้ไปพักผ่อนตามชนบท(บ้านพ่อตาแม่ยาย) พ่อตาเสียไปเมื่อ2ปีที่ผ่านมาด้วยโรคที่ฮิตคือมะเร็ง คนชนบทชอบดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ โรคที่คาดไม่ถึงก็มาเยือน อ้อ ผมเองไม่ดื่มไม่สูบไม่เสพทุกอย่างที่ร่างกายไม่ต้องการครับ ตรงนี้เองมั่งที่ทำให้ผมดูไม่แก่ไปตามอายุใครอยากเอาตามก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ครับ คงเหลือแต่แม่ยายวัย70กว่าเลี้ยงหลานสาวกำพร้าพ่อ หลานสาวภรรยาคือเด็กสาวคนนี้อายุ12ขวบร่างกายอวบอั๋นไปตามวัยที่กำลัง เปลี่ยนจากวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่นตอนต้น(พ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเช่นกัน เมื่อปีกลายที่ผ่านมา เพราะเหล้า บุหรี่ ด้วยวัยเพียง40 แม่ก็ไปมีสามีคนใหม่ ทิ้งไว้ให้ย่าซึ่งอายุย่างเข้าวัยไม้ใกล้ฝั่งเลี้ยงดู) ผมหมายตาและจ้องมองเธอและให้ความสนิทสนมกันอย่างแยกไม่ออก เอาใจเธอไม่ว่าเธอจะเอ่ยปากอยากกินอะไร อยากเที่ยวที่ไหน หรือต้องการอะไรที่ผมทำให้ได้ผมจะตามใจเธอทุกอย่าง เพราะเธอขาดทั้งพ่อและแม่ จนเธอให้ความไว้วางใจผม เธอเรียกผมว่า อา ตกเย็นใกล้ค่ำแถวชนบททุกคนก็มานั่งล้อมวงกันที่ชานบ้านกินข้าวและพูดคุยกัน อย่างออกรส มีความเป็นกันเองในชีวิตชนบท ซึ่งผมได้สัมผัสทุกปี ค่ำมืดก็นั่งล้อมวงกันพูดคุยสารทุกข์สุขดิบ โดยเฉพาะเด็กๆฟังนิทานหลายรสหลายแบบ ใครมีนิทานอะไรก็งัดออกมาสาธยายให้เด็กๆฟังกัน ผมเองชอบเล่าเรื่องลี้ลับที่อยู่ในชีวิตชนบท คงไม่พ้นเรื่องผีสางนางไม้ เด็กๆสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลานเมียวัย12ที่ผมหมายปอง เมื่อเล่ากันถึงความเฮี้ยนของผี เด็กๆก็จะมานั่งเบียดเสียดผมเป็นพัลวัน ผมก็ถือโอกาสได้กอดเธอไปโดยตั้งใจ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเมื่อแขนผมไปสัมผัสดอกบัวตูมของเธอที่เพิ่งตูมไม่มาก นัก ผมยิ่งต้องสร้างจิตนาการเรื่องน่ากลัวให้เพิ่มมากขึ้นจนเธอต้องลงมานั่งตัก ผม เจ้าชีวิตของผมก็ต้องตื่นขึ้นมาทันที มันเป็นความสุขที่สุดจะบรรยายทีเดียวเมื่อร่องก้นของเด็กสาวแรกแย้มสัมผัส กับเจ้าจำปีของผม จนเรื่องเล่าเกือบติดขัด เพราะใจไม่อยู่กับจิตนาการของเรื่องที่เล่าให้เด็กฟัง ดึกพอสมควร21.00นของชีวิตชนบท ได้เวลาเข้านอนแต่เธอชอบฟังเรื่องผีมากแต่ก็กลัวมาก เด็กๆเล็กๆก็แยกตัวไปนอน ก็คงเหลือเธอและผม มันจึงได้โอกาสเหมาะเจอะไปหมด ตามที่คิดไว้ เธอคงยังนั่งตักอยู่ ผมก็ต้องงัดเรื่องเฮี้ยนของผีสางนางไม้ที่น่า สะพรึงกลัวมากขึ้นเธอไม่เพียงนั่งเฉยแต่ต้องกอดผมไว้แน่น หันหน้าเข้าหาผมและนั่งคร่อมไว้ เธอคงไม่คิดอะไรมาก อาจเป็นเพราะความไร้เดียงสาของเด็กชนบทครับ แต่ใจผมมันปั่นป่วนจนไม่เป็นอันเล่า เสียงเริ่มสั่นเครือจนคอแห้งผาด เธอถามว่าอาเป็นไรเหรอเล่าต่อสิ ผมก็อยากจะเล่าแต่ใจมันปั่นป่วนไปหมดแล้ว(ก่อนหน้านี้เมื่อตอนเธอ5-7ขวบก็ เคยเล่าให้ฟังอยู่เกือบทุกปีที่มีโอกาสมาและได้มีโอกาสจับต้องของสงวนอยู่ บ้างแต่ตอนนั้นยังเด็กเกินไปมันไม่เหมือนตอนนี้) เลยออกอุบายว่าเอาไว้ต่อคืนหลังนะ คืนนี้อาคอแห้งหมดแล้ว หากอยากฟังต่อก็ต้องไปเล่าที่ห้องนอน เธอยินดีและตามผมเข้าห้องนอน (เมียรำคาญเสียงเล่าของผม เลยแยกไปนอนอีกห้อง) ผมเล่าต่อเธอก็กอดผมและปีนป่ายผมไว้แน่นผมนอนตะแคงให้เธอและกอดเธอไว้ด้วย กางเกงขาสั้นตัวบางๆรึจะกั้นเจ้าจำปีผมได้ ผมใสกางแกงแพรผ้ามัน ผมจึงถือโอกาสเอามันชนกับจิ๋มอวบๆของเธอนอกกางเกงขาสั้นตัวบางๆจนเธอสะดุ้ง และหันมามองหน้าพร้อมกับหยิกที่สีข้างผมเบาๆแล้วยิ้มแบบเอียงอาย ผมคิดว่าเธอคงรู้ว่าผมจะต้องแกล้งเอามาชน ทำให้ของผมมาสัมผัสของเธอแน่ แต่เธอไม่ว่าอะไร ผมก็ยิ่งได้ใจ จึงเอามือเธอมาให้สัมผัสกับเจ้าโลกของผม เธอดึงมือกลับไม่กล้าแตะ ผมบอกว่านอน เถอะนะดึกแล้วเธอก็บอกพรุ่งนี้อาเล่าอีกนะ แล้วผมก็หรี่สวิตซ์ไฟที่หัวเตียง เธอก็นอนหายแต่ นัยน์ตา เธอยังสบตาผมแบบอายๆผมเอาแขนโอบกอดเธอไว้ หัวใจเธอเต้นแรงเพราะความกลัวรึอะไร ผมรอจังหวะสักชั่วโมงกว่า เธอหลับตาไปแล้ว ผมเองนอนไม่หลับ ทุกคนหลับกันหมด ใจผมมันครุ่นคิดไปต่างๆนานา ใจผมเริ่มสั่นไม่เป็นจังหวะมือไม้สั่นไปหมด กลืนน้ำลายแทบจะไม่ค่อยลงคอ ร้อนๆหนาวๆบอกไม่ถูกมือผมสั่นสะท้านครุ่นคิดอยู่สีกระยะหนึ่ง ผมรวบรวมสติอารมณ์ แต่ก็ยังไม่วายที่จะตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมจะทำในอีกไม่กี่นาทีนี้ ใจก็คิดไปว่าหากเธอโวยวายผมคงเสียคนแน่ ผมรวบรวมความกล้า แล้วจึงตัดสินใจเอามือคลำเป้ากางเกงคลำมันนอกกางเกงนี่แหละ เธอไม่รู้สึกตัว ใจคอผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ในที่สุดก็ต้องล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นตัวบางๆมือสัมผัสกับกางเกงในตัวน้อย มันเปียกๆนิดๆตรงร่องจิ๋มของเธอ ใจผมมันปั่นป่วนเหมือนจะเป็นลม ผมไม่เคยตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต มือก็สั่น หัวใจมันหวิวๆอย่างบอกไม่ถูก ผมบรรจงล้วงเข้าไปในกางเกงในจึงรู้ว่าเมือกเหนียวๆระหว่างร่องเด็ก ขนอุยบางๆเหนือร่องผ่ากลางไม่กี่เส้นพอรู้มือ หอยอวบอูมเต็มฝ่ามือผม อูย...หัวใจผมแทบจะหลุดออกมานอกอก แล้วผมก็รูดลงทั้งกางเกงขาสั้นกับกางเกงในออกเบาๆ ผมถ่างขาเธอออกพอประมาณ ผมเอานิ้วที่เปียกเมือกมาดมกลิ่นอับเฉาแบบบอกไม่ถูกแต่ก็ได้อารมณ์ ผมเอาเมือกไปถูที่เม็ดเสียวของเธอเบาๆอย่างทะนุถนอมความตื่นเต้นที่สุดใน ชีวิตผมได้สัมผัสแล้วหรือนี่ มืออีกข้างก็ลูบคลำดอกบัวตูมที่เพิ่งตั้งหัวพอนูนเสื้อ และแล้วจมูกของผมก็ได้สัมผัสจิ๋มของเธอกลิ่นออกเหม็นอับแต่ก็เร้าใจจนบอกไม่ ถูก แต่ด้วยความกระหายของอารมณ์เพศขณะนี้ ผมไม่สะอิดสะเอียนแม้แต่นิดเดียว ลิ้นผมสะกิดปลายเม็ดเสียวของเธอเบาๆ และเลียจากร่องก้นขึ้นมาถึงเม็ดเสียวมันทำให้ผมมีความสุขสุดบรรยายจริงๆ ผมอยากหยุดโลกไว้ตรงนี้สักล้านปีจัง ผมเลียจิ๋มของเธอจนเมือกและกลิ่นถึงกับหายไปเกือบหมด ผมเองแข็งทื่อเกือบทะลักเสียให้ได้แต่ก็ต้องอดทนไว้ ทุกครั้งที่เลียหอยของเธอมาถึงเม็ดเสียว ร่างเธอจะเกร็งและกระตุกที่ปลายเท้า ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้สึกตัวหรือไม่ เมื่ออดทนไว้ไม่ได้แล้ว ผมก็ดึงแขนเธอให้นอนตะแคงกอดผมไว้แล้วเอาขาขวาเธอมาปีนป่ายคร่อมสีข้างตัว ผมๆก็หันหน้าเข้าหาเธอ ผมดึงเอาผ้าห่มมาห่มไว้เพื่อกันสายตาเด็กคนอื่นๆที่อาจตื่นลุกขึ้นฉี่ ในที่สุดจ้าโลกของผมก็ได้สัมผัสกับเป็ดเธอ อูย...มันจะแตกเสียให้ได้ เจ้าโลกผมถูที่ติ่งเสียวและร่องเนินของเธอเมือกผมมันออกมาแฉะจิ๋ม ที่จิ๋มเธอเต็มไปด้วยน้ำเมือกผม ผมตั้งใจจะดันมันเข้าไปเบาๆแต่มันเข้าได้แค่นิดเดียวเองไม่ถึงเซ็น ผมสุดจะอัดอั้นไว้ไม่ไหวแล้วเป็นไงเป็นกัน ผมเสียวสุดๆ อูย..ผมทนมันไม่ได้อีกต่อไปแล้วจึงปล่อยน้ำรักของผมฉีดเข้าเต็มที่ในรูหอย ของเธอทันที อูย...อูย.... ผมถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว สวรรค์ชั้นไหนๆผมไม่สนอีกแล้ว เด็กเอ๋ยอะไรมันจะมาเปรียบปานได้ บุญของเจ้าหนูผมจริงๆผมมีความสุขชนิดหาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว ผมยังคงจ่อเจ้าหนูผมไว้ที่จิ๋มสักครู่ใหญ่ด้วยความเสียวและก็ถูไปมาที่ปลาย เม็ดเสียวไปด้วยสลับกับถูขึ้นลงระหว่างร่องสวาทเธอ สักครู่ ร่างเธอเริ่มเกร็งมือที่กอดผมอยู่เริ่มตึงกับสะเอวผม ขาที่ปีนป่ายสีข้างผมเริ่มมีน้ำหนักขึ้นผมคิดว่าเธอคงตื่นแล้วแน่ผมเริ่มเอา เจ้าโลกผมถูแรงขึ้นๆๆก้นเธอดันเข้าหาตัวผมมากขึ้น ผมเริ่มถูเร็วขึ้นๆสักครู่ผมคิดว่าเธอคงเสียวสุดทนไว้ได้ ร่างเธอเกร็งและกอดรัดผมไว้แน่นแล้วครู่หนึ่งก้นเธอกระตุก หยึก ๆๆๆสองสามครั้ง แล้วผมก็ฉีดน้ำรักเข้าร่องหอยเธออีกรอบ ร่างเธอก็คลายลงพร้อมกับผ่อนเสียงหายใจออกมาเป็นระยะ ผมเข้าใจทันทีว่าเธอคงถึงจุดสุดยอดครั้งแรกกับผมแน่นอน แต่เธอยังคงหลับแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิกเลย ผมจัดการเอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆที่เตรียมตอนออกจากห้องน้ำชุบน้ำไว้หมาดๆเช็ดทำ ความสะอาดจิ๋มเธอจนเกลี้ยงทุกตารางนิ้ว ผมก้มลงเอาจมูกจูบลงไปที่หอยเธอและร่องกลางหอยสูดดมจนเป็นที่พอใจ ขอบใจนะหอยจ๋าแล้วผมก็จัดการใส่กางเกงใน กางเกงขาสั้นตัวนอกให้เรียบร้อย คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับมือข้างขวาก็ยังตะปบหอยที่โหนกนูนเต็มฝ่ามือตะปบ ไว้ทั้งนอกกางเกงขาสั้นตัวบางนี่แหละ ใจก็คิดไปต่างๆนานา หากเธอรู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผมทำกับเธอ หากเธอเอาไปพูดกับย่าของเธอผมคงเสียคนแน่ แต่หากเธอไม่พูดผมก็คิดว่าคืนต่อไปต้องได้อีก ทั้งทุกข์ทั้งสุข ปนอยู่ในสมองผม ดูนาฬิกาตีสามเข้าไปแล้ว ง่วงก็ไม่ง่วง จะเอาอีกรอบก็กลัวบอบช้ำ คิดมากก็คิดมากอยากก็อยาก อุ๊ย...มันสับสนไปหมดนอนก็หลับไม่ลง ผมมาคิดดูมันทุกข์หรือสุขกันนี่ ไม่น่าทำเลยแต่มันก็ผ่านไปแล้วนอนคิดอยู่สักพักใหญ่ เธอก็ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ ผมลุกตามไปด้วยเพื่อสังเกตอาการว่าเป็นอย่างไร พอเธอออกจากห้องน้ำก็ส่งยิ้มแบบง่วงๆให้ผมและเดินเข้าห้องไป ผมเข้าห้องน้ำหลังจากที่เธอออกมา ผมได้กลิ่นฉี่ของเธอมันชั่งยั่วยวนใจผมมากขึ้นผมสูดดมกลิ่นฉี่ที่อบอวนใน ห้องน้ำจนกลิ่นเบาบางลงแล้วผมก็เข้าห้องนอน เห็นเธอนอนคลุมโปงโผล่แต่หน้า ผมแอนตัวลงนอนแล้วหอมแก้มเบาๆพร้อมนึกขอบใจเธอที่ทำให้ผมมีความสุขและรู้สึก รักเธอมากขึ้นทวีคูณจับใจ ผมข่มตาหลับก็หลับไม่ลงจริงๆครุ่นคิดไปสารพัดจน เสียงไก่ขันตามเวลาของมัน นกเริ่มส่งเสียงบินออกจากรัง แม่ยายก็เตรียมหุงหาอาหารเช้า คนบ้านใกล้ก็นำวัว ออกไปกินหญ้าในทุ่ง ส่งเสียงร้อง มอ มอ อยู่ข้างบ้านมันบ่งบอกถึงความเป็นชนบทแบบบ้านนอกคอกนาจริงๆ มันเป็นมนต์เสน่ห์ ของคนลูกทุ่งที่หลายคนอาจได้สัมผัสมาบ้างแล้ว มันทำให้ผมอยากจะมาทุกปีมากขึ้นเสียแล้วครับ ชีวิตชนบท ผมปลุกเด็กๆตื่นเพื่อออกไปสูดอากาศในทุ่งนายามรุ่งอรุณของวันใหม่ หลานคนอื่นๆลุกขึ้นออกจากห้องไปหมดแล้ว สังเกตเธอจะเอียงอายผมแบบไม่ค่อยกล้าสบตาเหมือนตอนกลางวันเลย ผมแกล้งถามว่าฝันเห็นผีไหมเมื่อคืน เธอส่ายหน้าแต่ไม่สบตาไม่พูด ผมจับมือเธอไว้ต้องการทดสอบว่าเธอรู้ตัวไหมเมื่อคืน เธอก็ไม่ดึงกลับแต่ฟุบลงนอนแบบขี้เกียจลุก แล้วผมก็ดึงเธอขึ้นพร้อมกับตีไปที่ก้นเบาๆเธอส่งเสียงเบาๆ...ยังง่วงอยู่ เลยอยากนอนอีก... ผมบอกจะออกไปทุ่งนาไม่ไปเหรอเท่านั้นเองเธอก็ลุกขึ้นนั่ง ผมโอบกอดและหอมแก้มทีนึง เธออายนิดๆแล้วเดินออกจากห้องไปล้างหน้าตา ผมพาเด็กๆออกไปสูดอากาศในทุ่งเธอก็ตามไปด้วย หลานคนอื่นๆก็กระโดดโลดเต้นไปตามประสาเด็กๆ แต่เธอเดินไปมารอบๆทุ่งนาไม่ค่อยกล้ามองหน้าผมเหมือนเมื่อวานเลย ผมครุ่นคิดว่าถ้าเมื่อคืนเธอรู้สึกแล้ว เธอจะกล้านอนอีกไหมคืนต่อไป ผมถามเธอคำเธอก็พูดคำ ตอบแบบไม่สบสายตา ผมเดินเข้าใกล้เธอและจับมือถือแขนเธอก็ไม่ดึงออกหรือไม่แสดงอาการวิตก ผมได้แต่คอยสังเกตอาการเธอแต่เธอก็ไม่มีอะไรที่แสดงออกตามความคิดของผม มีก็เพียงไม่ค่อยสบตาผมก็เท่านั้น จนแสงแดดอ่อนๆค่อยๆเริ่มร้อนขึ้น ผมจึงบอกเด็กๆกลับบ้าน อาบน้ำ และกินอาหารเช้าที่แม่ยายหรือย่าของหลานๆเมียเตรียมจัดไว้แล้ว กินข้าวกันเสร็จ ผมขับรถไปส่งแม่ยายและเมียผมไปวัดห่างจากบ้านสามสี่กิโลเมตร เพื่อทำบุญวันสงกรานต์ เด็กๆก็ตามไปด้วย กลับจากวัดเด็กๆก็เล่นสงกรานต์สาดน้ำกันอย่างสนุก. ค่ำของคืนต่อมา เหตุการณ์ปกติของชีวิตชนบท ยังคงดำเนินไปอย่างทุกวัน หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จทุกคนก็มารวมตัวกันที่ชานบ้าน ผู้ชายที่อายุมากที่สุดไม่มีใครเกินผม วัยรุ่นตอนกลางก็จับเจ่าอยู่กับโทรทัศน์ เด็กๆก็คงไม่พ้นกับการฟังเรื่องเล่า ซึ่งผมเองเป็นนักเล่าเรื่องราวต่างๆให้หลานๆได้ฟังกัน เพราะประสบการณ์ชีวิตค่อนข้างมากกว่าใครๆ(ยกเว้นแม่ยาย) เรื่องราวของนิทานมันย่อมเข้มข้นขึ้นทุกที เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เธอหลานสาววัย12คนเดิม ขยับกายเข้ามาเบียดเสียดกับผมทีละนิดๆ ส่วนหลานคนอื่นๆก็ขยับเข้ามา เมื่อเรื่องเล่ามาถึงตอนที่ผีสำแดงเดช เธอถึงกับลุกมานั่งตักผม ผมทำทีผลักเธอออกแต่เธอยิ่งกอดอกผมไว้แน่น ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แต่เด็กอาจไม่คิดอะไร ผมเล่าเรื่องราวความเฮี้ยนของผีมากขึ้นเท่าไรทุกคนที่ฟังต้องเบียดเสียดแทบ เป็นเนื้อเดียวกัน เธอเป็นเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มที่สนิทสนมกับผมมากที่สุด เธอกอดผมไว้แน่นด้วยความกลัว ขนาดปวดฉี่ก็ไม่กล้าลุกไปฉี่ เธอโยกแขนผมแล้วบอกว่าปวดฉี่ หยุดไว้ก่อนแล้วค่อยเล่าต่อ วานบอกให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ผมยืนรอหน้าห้องน้ำ เธอปิดแค่ประตูแต่ไม่ได้ลงกลอนคงแง้มไว้พอมองเห็นว่าเธอกำลังถลกกางเกงลงถึง เข่าแล้วนั่งฉี่ เสียงฉี่พุ่งถูกคอห่านดัง ซี้ดๆๆๆ ชัดเจน จนเธอเสร็จกิจ ตักน้ำลาดจิ๋มสองสามที เอาริมเสื้อซับจิ๋มแล้วหันมายิ้มกับผมแบบอายๆ เมื่อสายตาเธอหันมาเห็นผมกำลังวาดสายตาผ่านประตูที่แง้มเอาไว้ เด็กเอ๋ยเด็กช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ ไม่รู้จักอายเราบ้างเลย ใส่กลอนเสียหน่อยก็ได้นี่.. ผมโอบไหล่เธอกลับมาที่ชานบ้านเล่าเรื่องผีต่อ แต่เด็กๆคนอื่นๆไปดูโทรทัศน์กันหมด นางทาส ถึงตอนเข้มข้น เธอยังคงอยู่กับผม ให้ผมเล่าเรื่องผีต่อ ผมก็ไม่รอช้า คัดสรรตอนที่ผีมันเฮี้ยนสุดๆกันเลยทีเดียว เธอถึงกับนั่งคร่อมผมแบบหันหน้าเข้าหากัน กอดอกผมไว้แน่น กางเกงผ้าแพรที่ผมนุ่งอยู่กับกางเกงในมันคงจะรั้งน้องชายผมไม่อยู่เสียแล้ว มันตุงออกมาเห็นได้ชัด เธอยิ่งกอดผมแน่นเท่าไรของผมมันยิ่งแข็งขึ้นตามแรงกอด ผมรู้สึกได้ทันทีว่าน้องชายผมได้ชนอยู่กับหอยตังเป่งของเธออย่างจัง เพราะเธอนั่งคร่อมตัวผมไว้ ผมเอนหลังพิงราวรั้วชานบ้านเพื่อให้น้ำหนักตัวเธอกดทับและเพื่อให้หอยอูมๆ ของเธอกดลงที่น้องชายผมไว้แรงๆ ผมตั้งใจให้เธอรู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ และเธอคงรู้ตัวเพราะเธอหันมายิ้มแบบอายๆนิดๆ ผมยิ่งๆได้ใจ ผมยกก้นตัวเองขึ้นสองสามครั้งเพื่อให้แรงกดน้ำหนักตัวเธอที่กดทับลงมา หอยอูมๆชนกับน้องชายผมจนเธอสะดุ้งหนี ผมรั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยออก แล้วขยับก้นซอยเบาๆ เธอรู้ทันทีว่าผมเจตนาให้น้องชายผมชนกับหอยอูมๆของเธอ เธอหันมายิ้มและอายก้มหน้า ผมเกือบทะลักแตกออกมาเลยทีเดียว ผมหยุดเล่าตั้งแต่ตอนที่ผมเอนหลังพิงแล้ว ผมถามว่าอยากฟังต่อไหม เธอส่ายหน้าไม่พูด ผมยังคงรั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยหนี ใจคิดไปว่าหากผมล้วงหอยเธอตอนนี้ เธอคงไม่ว่าอะไรแน่ แต่อย่าใจร้อนดีกว่า...ผมเอ่ยถามเธอที่ข้างหูเบาๆว่าจั๊กจี้ไหม เธอพยักหน้าครั้งหนึ่ง แต่ไม่สบตา ผมหอมหน้าผากเธอเบาๆพร้อมกับกอดรัดเธอไว้แน่นพอควร ผมเอาหูทาบที่อกซ้ายตรงหัวใจเธอ เสียงเต้นแรงกว่าปกติมาก ผมรู้ทันทีว่าหัวใจเธอตอนนี้มันไม่ธรรมดาเสียแล้ว ซึ่งไม่ต่างกับผม ผมเอาหูเธอมาแนบอกผมฟังเสียงหัวใจเต้น เธอก็หันมายิ้ม..แล้วถามผมว่าทำไมหัวใจเต้นแรงจัง ผมก็ตอบไปว่าคงเหมือนเธอนั่นแหละเสียงหัวใจก็เต้นแรงเหมือนกัน.. ง่วงนอนยัง ผมถาม เธอพยักหน้า ผมบอกให้เธอไปนอนได้แล้วในมุ้งอานะ เดี๋ยวอาตามไป เธอเข้ามุ้งไปไม่ถึงนาทีผมก็เข้าไปนอนเช่นกัน ทุกคนที่ไม่นอนกำลังสนุกอยู่กับละคร นางทาส.. ผมดึงเธอมานอนแนบผมแล้วกอดเธอหอมแก้มเธอๆก็กอดผมไว้ ผมยกขาเธอให้คร่อมเอวผมไว้เพื่อให้หอยอูมของเธอมาสัมผัสกับเจ้าหนูของผมไว้ มือผมก็รั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยหนีไปไหน มือขวาผมรัดก้นเธอให้แนบเข้าชิดกับน้องชายผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วผมเองก็ซอยเอวเข้าออกเพื่อให้เจ้าหนูของผมสัมผัสกับหอยอูมๆของเธอนอก กางเกงขาสั้นผ้าบางๆ ทุกครั้งที่ผมรัดก้นเธอและซอยก้นผมเบาๆเธอจะกอดรัดตัวผมไว้เป็นระยะๆ ผมเสียวสุดจะทนแต่ก็ต้องหักห้ามความรู้สึกไว้ไม่ให้แตกเสียก่อน เมื่อเธอรู้ตัวว่าผมเจตนาทำกับเธอแบบนี้ ผมก็ตัดสินใจจับหอยตัวเป่งของเธอนอกกางเกง เธอเอามือเธอผลักมือผมออกเบาๆ แต่ผมก็ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ ผมยิ่งได้ใจล้วงเข้าไปในกางเกงในของเธอเลย มือผมสัมผัสกับหอยอูมๆอย่างเต็มกำ นิ้วกลางผมเริ่มเซอะเข้าหว่างกลางหอยทันที มันเต็มไปด้วยน้ำเมือกของเธอ ผมปาดน้ำเมือกของเธอมาถูกับติ่งเสียวของเธอ เท่านั้นเอง เธอถึงกับกอดรัดผมไว้แน่น ก้นเธอก็กดเข้าหาตัวผมไว้ ผมถลกกางเกงในไปกองอยู่ปลายเท้าเธอ ผมคงไม่รอช้างัดเจ้าหนูของผมออกมาสัมผัสกับหอยอูมๆเธอ และจับเจ้าหนูผมถูกับเม็ดเสียวของเธอขึ้นลงช้าๆ เธอยิ่งกดตัวเข้าหาผมตามจังหวะที่เจ้าหนูผมสัมผัสกับเม็ดเสียวของเธอ ผมคงอดใจไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว..มันจะระเบิดออกมาเสียแล้วครับ....มือซ้าย ผมรั้งก้นเธอไว้ไม่ให้ออกจาก มือขวาจับเจ้าหนูของผมถูไปกับเม็ดเสียวอย่างถี่ขึ้นๆ...จนผม....โอย ...ระเบิด..ฉีดน้ำรักของผมเข้าตรงรูหอยตังเป่งของเธออย่างแรง... เธอถึงกับสั่นเทาทั้งตัว แล้วร่างเธอก็กระตุก ยึกๆๆๆ สี่ห้าครั้ง พร้อมกับเสียงผ่อนลมหายใจออกมาเป็นระลอกๆ ร่างเธอเริ่มอ่อนตัวลง แต่ผมยังคงจ่อเจ้าหนูของผมไว้กับรูหอยของเธออยู่ เธอซุกหน้ากับอกผมไว้ ไม่กล้าสบตา ไม่พูดอะไรทั้งนั้น ผมจับหน้าผากเธอให้เงยหน้าขึ้น แต่เธอยังกดหน้าซกกับอกผมไว้แน่น เธอคงอายมาก ผมจัดการกับน้ำรักที่ออกมามากมาย กับผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำพอหมาดๆที่เตรียมเอาไว้แล้ว ผมผลักเธอให้นอนหงาย ตาเธอยังคงปิดอยู่ไม่กล้าสบตาผม แสงไฟสลัวจากดวงไฟนอกห้องพอมองเห็น และผมจัดการเช็ดเสียจนหมดน้ำเมือก ผมก้มลงบรรจงจูบที่หอยตัวเป่งเธอ เธอถึงกับสะดุ้งตะแคงตัวหนีและนอนคว่ำหน้าไว้ ผมจูบที่ซอกคอเธอ จนเธอหัวเราะคิกๆออกมา พูดว่า อาขาหนูจั๊กกะจี้ค่ะ อย่าทำอย่างนั้นซี ผมปล่อยให้เธอนอนอยู่เฉยๆสักพัก แต่ใจผมอยากเอาอีกรอบ เธอลุกขึ้นใส่กางเกง เพราะคงอายสายตาผม ที่จ้องมองอย่างไม่ละสายตา มือเรารึก็ซุกซนไปตามความหื่นกาม หลานคนอื่นๆยังคงนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ที่ห้องหน้าบ้าน ผมและเธอเราอยู่ในห้องกันสองคน คงไม่มีใครคิดว่าเราทำอะไรกันบ้าง เพราะผมวางตัวแบบสบายๆทั้งต่อหน้าและลับหลัง(หากไม่เห็นเวลาแสดงบทรัก คงไม่มีใครรู้) ผมนอนรอจนเธอหลับไป ใจผมครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ผมนอนกอดเธอและจูบแก้มเธอ กลิ่นของเด็กสาวมันช่างหอมกรุ่นรันจวนใจ ไออุ่นของเด็กเริ่มเป็นสาวมันทำให้คนอย่างผมถึงกับนอนไม่หลับสองคืนแล้ว ผมจี้เธอที่สะเอวเพื่อทดสอบว่าเธอหลับสนิทไหม หรือแกล้งหลับกันแน่ เธอไม่สะดุ้งตัวเลย แสดงว่าหลับสนิทจริงๆ อาจเป็นเพราะความอ่อนเพลียก็เป็นได้ ผมครุ่นคิดถึงคืนที่ผ่านมาไม่แน่ใจว่าเธอจะหลับเหมือนคืนนี้ หรือรู้สึกตัวแต่แกล้งทำเป็นหลับ ผมนอนรอหลานๆคนอื่นๆอยู่สักพักใหญ่ หากผมทำไรลงไป หลานคนใดคนหนึ่งอาจเห็นได้ ความแตกแน่ๆ รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นมีใครเข้ามา ผมจึงเดินออกไปดู ปรากฏว่าทุกคนหลับอยู่หน้าโทรทัศน์ ในที่สุดผมก็ต้องเอามุ้งหลังใหญ่มากางให้หลานๆสามคนนอนอยู่หน้าโทรทัศน์นั่น เอง มันเป็นโอกาสเหมาะสำหรับผมจริงๆ กางมุ้งเสร็จผมเดินไปเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้(เพราะทุกคืนก็เปิดเป็นประจำ อยู่แล้ว เผื่อใครลุกเข้าห้องน้ำ) ผมเข้าห้องนอนปิดประตูล็อกเรียบร้อย กลิ่นเด็กสาวยังตลบอบอวนเย้ายวนใจไปทั้งห้อง ผมดึงเธอให้นอนหงายเปิดพัดลมปลายเท้าเบาๆ ผมถลกกางเกงขาสั้นบางๆกับกางแกงในเธอออกจากร่างไปกองอยู่ปลายเท้า เสื้อยืดตัวน้อยก็ถูกผมถอดออก จนร่างเธอเปลือยเปล่าผมบรรจงหอมแก้มเบาๆลดจมูกต่ำลงมาถึงที่นม ที่เพิ่งเริ่มตั้งหัวนูนขึ้นมานิดนึง ขนาดฝาขนมครก ผมเลียที่หัวนมลากลิ้นวนรอบๆเต้าน้อยๆทั้งสองข้างอย่าทะนุถนอม และลากลิ้นลงมาถึงหน้าท้อง วนรอบสะดือ...ต่ำลงมาถึงเนินสามเหลี่ยมซึ่งเต่งตึงโหนกนูนอวบอูมจนผมสั่น สะท้านทรวง ขนอุยอ่อนๆเหนือร่องผ่ากลางพอรู้สึกได้เมื่อริมฝีปากผมลากผ่านบนเนินสาม เหลี่ยมที่โค้งโหนกรับ ประมาณสักไม่เกินสิบเส้น ผมเม้มปากงับขนอุยดึงขึ้นเบาๆ ยาวไม่มากนัก สักหนึ่งเซ็น มันช่างเร้าอารมณ์ผมมากยิ่งขึ้น ลิ้นผมซอกซอนลงหว่างเนินที่แนบสนิท ดันดุนปลายเม็ดเสียวของเธออย่างเอร็ดอร่อย กลิ่นอับๆและฉุนฉี่แต่ก็ต้องยอมรับเพราะความอยากของเรามันท่วมท้นมิได้คิด รังเกียจแม้แต่น้อย ผมแยกขาเธอออกนิดนึง หอยตัวเป่งอ้าออก ผมก้มลงฝังจมูกลงไปที่หว่างหอย สูดดมกลิ่นอันพีงปรารถนาจนเป็นที่สะใจ มันช่างไร้สิ่งใดมาเปรียบปานได้ในขณะนี้ ลิ้นผมดุนดันขึ้นลงที่เม็ดเสียวเธอจนรู้สึกว่ามีน้ำเมือกไหลออกมาแล้ว ผมตวัดลิ้นเลียที่รูหอยดูดกินน้ำเมือก รสชาติเลี่ยนๆแต่ก็อร่อยเพราะความเงี่ยนของเราเอง...ผมคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว งัดเจ้าหนูของผมออกมาถูที่หว่างหอยที่อวบอูม น้ำเงี่ยนผมกับของเธอปนกันแยกไม่ออก ยิ่งเอาน้องชายถูหอยน้ำเมือกเหนียวมันก็ยิ่งออกมามากจนเปียกหอยอวบอูม ผมเกือบกลั้นใจไม่อยู่กลัวจะแตกเสียก่อน เมื่อร่างเธอเริ่มขยับตัวตอบสนองยกก้นขึ้นรับขณะที่น้องชายผมฝังอยู่หว่า หอย1เซ็น ผมพยามยามดันมันเข้าไปทีละน้อยเท่าที่จะเข้าได้ แต่มันจะระเบิดออกให้ได้ เธอก็ยกก้นขึ้นรับทั้งที่ตาหลับอยู่ ปากเธอสูดลมเข้าเบาๆเป็นระยะที่ผมพยามดันเจ้าหนูผมเข้าไป เธออ้าขาออกโดยอัตโนมัติเหมือนสั่ง ผมคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว...ผม.. ผม.ปล่อยกระสุนฉีดน้ำรักเข้าเต็มรูหอยที่อวบอิ่มและดันเข้าจนลืมตัว เจ้าหนูของผมผลุดเข้าไปครึ่งลำประมาณเกือบ3เซ็นน้ำรักผมก็ฉีดทะลักเข้าเต็ม หอยจนล้นออกมานอกหอยที่อวบอั๋น เธอรึก็ยกก้นลอยขึ้นเหนือพิ้น รับเจ้าหนูของผม คงกลัวว่ามันจะหลุดออกจากหอยไปเสียง่ายๆเสียอย่างนั้น ผมเองก็กดเจ้าหนูลงหว่างหอยที่อวบอูมพยายามดันเข้าให้สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คงได้แค่ครึ่งลำเท่านั้น ภายในหอยเธอตอดรัดเจ้าหนูของผมยวบๆๆๆ เหมือนกำลังรีดน้ำรักของผมออกให้มากที่สุด ความเสียวซ่านที่ผมได้รับมันสุดพรรณา ผมคิดว่าเธอเองก็ไม่น้อยไปกว่าผมเท่าไรนัก สองมือเธอกอดผมไว้แน่น เสียงหายใจเข้าออกของเธอยังกะคนเหนื่อยนัก ผมประกบจูบปากเธอดูดดื่มเพราะความกระหาย หวังให้เธอสนองรับกับความสุขที่ได้รับตอนนี้ เธอปล่อยให้ผมดูดดันลิ้นในปากเธอจนร่างเธอสั่นสะท้านไปทั้งกาย ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้หลับเหมือนเมื่อคืนวาน ผมยังคงฝังเจ้าหนูของผมไว้กับหอยตัวเป่งของเธอ ไม่อยากจะถอนออกจากหอยเธอเลย หากมีสวิตซ์ที่สามารถกดปุ่มให้โลกหยุดหมุนไว้เพียงแค่นี้ ผมก็จะกดมันอย่างไม่ต้องคิดเลย เกิดมาชาตินี้ผมไม่เสียชาติเกิดจริงๆ ความสุขครั้งนี้เป็นจุดสุดยอดอย่างที่ผมมิเคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน ผมดูดลิ้นเธอและน้ำลายสาวน้อยจนเกือบจะแห้งผาด เสียงหายใจเข้าของเธอเป็นระรอกๆยังกะคนจะขาดใจ ผมยิ่งเพิ่มความรักให้เธอมากขึ้นเป็นทวีคูณ ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีผมสงสารเธอมาก จึงตัดใจค่อยๆถอนเจ้าน้องชายของผมออกที่ละนิดๆจากหอยเธอด้วยความเสียดาย แต่ภายในหอยเธอยังคงตอดรัดเจ้าน้องชายผมเป็นระยะๆ เหมือนจะไม่อยากให้ถอนออกไป เสียงดังป็อก...เมื่อเจ้าน้องชายของผมหลุดพ้นจากหอยของเธอ ผมกดสวิตซ์ไฟฉายที่โทรศัพท์ส่องดูที่หอยเธอ น้ำรักของผมผสมกับน้ำเมือกของเธอแดงฉาดไปกับเลือดสาวน้อยที่เสียพรหมจรรย์ ให้กับอาคนนี้ ผมบรรจงซับเลือดผสมน้ำรักด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำไว้หมาดๆ อย่างถนอม มือไม้รึก็สั่นเห็นได้ชัด เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าด้วยแสงไฟฉายติดโทรศัพท์แสงขาวนวลมันทำให้ผมได้เห็น ทุกอณูของเจ้าหอยอวบอูมที่น่ารักที่สุดในขณะนี้ เจ้าหนูของผมก็ยังผงกหัว งกๆ สู้อย่างไม่ยอมแพ้ หากไม่คิดสงสารว่าจะระบมมากกว่านี้ จะสอดใส่มันทั้งคืนอย่างมิต้องหลับนอนกันเลย ดูนาฬิกาที่โทรศัพท์นี่มัน03.30 ไปแล้วรึนี่ ทำไมมันช่างรวดเร็วเช่นนี้ ผมนอนลงแนบร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ แล้วค่อยวางจมูกลงบนแก้มเบาๆ พรางกระซิบข้างหูว่า เป็นไรบ้างหละ เจ็บไหม เธอพยักหน้าทั้งหลับตา แสงไฟฉายพอมองเห็นคราบน้ำตาที่ไหลลงข้างตาทั้งสองข้าง ผมสงสารเธอมาก ผมลุกขึ้นนั่งแล้วจูบลงที่หอยเธออย่างน่าเอ็นดู เธอเอามือมาปิดหอยไว้บอกว่า พอแล้วหนูเจ็บค่ะ เธอพูดเสียงสั่นเครืออย่างน่าสงสาร ผมใส่กางเกงในและกางเกงขาสั้นตัวนอกให้เธอ ใส่เสื้อตัวซับในตัวนิด และเสื้อยืดคอกลมให้เรียบร้อย ผมประคองกอดเธอไว้ เธอก็กอดตอบ ผมถามว่าโกรธอาไหมที่อาทำอย่างนี้ เธอส่ายหน้าไม่พูด แต่ยังสะอื้นในลำคอเป็นครั้งครา อารักหนูมากที่สุดรู้ไหม อยากได้อะไรบอกอานะ อาจะซื้อให้ทุกอย่าง แต่อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด โดยเฉพาะอาหญิงของเธอ พรุ่งนี้ให้ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ อย่าให้ใครสงสัย หากเจ็บจิ๋มมาก ก็อย่าพยายามเดิน อาจะให้กินยาแก้อักเสบ วันสองวันก็หายแล้ว ให้พูดหยอกล้อกันตามปกติ อย่าแสดงอาการกลัวอาเด็ดขาด จำไว้นะ เธอพยักหน้า ผมถามต่อไปว่าแล้วเมื่อคืนวาน ถามจริงหนูรู้สึกตัวไหมอาก็ทำแบบนี้แหละ...เธอมองหน้าผม..ตอบอามาตามตรงนะ รู้สึกตัวไหม...อารักหนูมากนะที่อาทำเพราะอยากให้หนูมีความสุข หนูเริ่มโตเป็นสาวแล้วนะ หนูต้องรู้แล้วหละ บอกอาซิจ๊ะคนดีของอา ไม่ต้องอายหรอก เรารู้กันแค่สองคน แต่อารู้นะว่าหนูต้องรู้สึกตัว ใช่ไหม เธอยังคงมองหน้าผม คงคิดมากจะตอบดีไหม.... ค่ะ... เสียงตอบสั้นๆจากเธอ ผมจูบหน้าผากเธอ อารักหนูมากที่สุดเลยรู้ไหม ให้หนูหายเจ็บเสียก่อน แล้วอาจะทำให้หนูทุกอย่าง อาอยากให้หนูมีความสุขมากๆรู้ไหม เธอเงยหน้าขึ้นสบตาแบบสงสัย แต่ไม่พูดไร ผมเช็ดคราบน้ำตาให้ด้วยความสงสารอย่างสุดซึ้ง...นอนเถอะใกล้สว่างแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องรีบตื่นหรอก ผมกอดเธอไว้ในอ้อมแขน และจูบที่ศรีษะ กลิ่นเด็กสาวยังคงกรุ่นไม่ขาดสาย สักพักเธอก็หลับลงอย่างง่ายดาย...ผมเองนอนตาค้างไม่ยอมหลับตา คิดไปต่างๆนาๆ กลัวรึก็กลัว ว่าเรื่องจะแดง พรุ่งนี้เธอจะเดินตรงทางหรือเปล่า เธอจะแสดงอาการอะไรออกมาไหม เธอจะระบมมากไหม สารพัด มันกลัดกลุ้มขึ้นมาในสมอง ไม่น่าทำเลยเรา ประมาทแท้ๆ พ่ายแพ้อารมณ์และตัณหาของตัวเอง ผมนอนคิดมากจนเสียงไก่ขันเตือน ท้องฟ้าจะสว่างแล้ว ด้วยความหวาดกลัวไปต่างๆนานา ไม่รู้สึกว่า ตัวเองจะง่วงเลยแม้แต่น้อย ผมลุกออกจากห้องมานั่งรับอากาศเย็นสบายยามฟ้าสาง ทิ้งให้เธอนอนอยู่คนเดียวในห้อง เสียงแม่ยายล้างภาชนะเพื่อหุงหาอาหารเช้าดังมาจากในครัวหลังบ้าน หน้าโทรทัศน์ทุกคนยังคงหลับอยู่ในมุ้งหลังใหญ่ .... เรายังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน.... แต่เปิดเทอมนี้เราต้องพาเธอเข้าเรียนต่อ ม1.นี่หน่า และต้องไปอยู่กับเราด้วย ผมอุ่นใจขึ้นหน่อย เมื่อรู้ว่าเปิดเทอมผมต้องมารับเธอไปอยู่ด้วย เมียเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ร้าน คงมีเราและเธอนี่แหละที่ต้องเฝ้ามินิมาร์ท ก่อนเปิดเทอม โอกาสเรายังมีนี่หน่า

ไม่มีความคิดเห็น: