ขายของ

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

สำรวจห้องลูกชาย จบ

หลังจากเข้าไปสำรวจห้องลูกชายและโดนลูกชายสำรวจคืนแล้ว ฉันกลับมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง ฉันเลยถามว่าลูกคิดยังไงกับเรื่องนี้ เพราะเรามัวแต่เอากันไม่ได้คุยกันเลย ลูกชายบอกว่าจริงๆอยากให้มีระยะห่างเหมือนแม่ลูกซักหน่อย ทำติดต่อกันกลัวจะเบื่อซะก่อน แต่ฉันก็ไม่เห็นเขาจะเบื่อเลย เราเลยตกลงว่าจะอยู่ห้องใครห้องมัน และเก็บอารมณ์นั้นไว้ให้ถึงที่สุด ฉันก็ห่วงด้วยว่าลูกจะมัวแต่หมกมุ่นเรื่องนี้จนเสียการเรียน ส่วนฉันก็กลายเป็นผู้หญิงร่านตัณหาไป เราตกลงกันแล้ว ฉันก็จะมีเวลาดูละคร หรือหางานอดิเรกทำบ้าง หรือไม่ก็ออกไปช็อปปิ้งคนเดียว ส่วนลูกก็ใช้เวลากับแฟน การเรียน กับเพื่อนๆ หรืองานอดิเรกของเขา เราจึงดูเป็นครอบครัวที่คนในบ้านออกจะแปลกๆไปซักหน่อยตรงที่ มีไฟฟ้าช็อตเกิดขึ้นเมื่อมองเห็นอีกฝ่าย หรืออยู่ใกล้ๆกัน และส่วนมากมักจะลงเอยที่เปลือยเปล่ากันทั้งคู่ เย็นวันหนึ่งลูกชายมาหาฉันที่ร้าน ฉันพอจะเห็นเค้าลางๆแล้วล่ะว่าจะต้องเกิดอะไรขึ้น ข้างล่างก็เริ่มแฉะทันที ฉันจึงให้เขาช่วยปิดร้านเสียเลย "เมื่อกี๊ผมเพิ่งกลับบ้านไปครับแม่ " " อ้าว แล้วลูกกลับไปทำไมล่ะ " " ผมไปเอาของมาครับ " พูดจบแล้วลูกชายก็เปิดกระเป๋าออก แล้วเอาชุดเซ็กซี่ที่ฉันเพิ่งไปซื้อมาหลายวันก่อนหกเจ็ดชุดออกมา เราไม่ได้มีอะไรกันมาหลายวันแล้ว มิน่าล่ะฉันถึงได้รู้สึกเนื้อเต้นนัก " อยากให้แม่ใส่ให้ดูเหรอ " เขาพยักหน้า แล้วบอกว่าอยากให้ลองเดินเป็นนางแบบให้ดูด้วย ฉันเลยค้อนเขาไปทีหนึ่ง " แต่แม่ไม่ใช่สาวๆนะ แล้วก็ไม่ใช่นางแบบด้วย " เขาจึงยกชุดซีทรูทั้งตัวที่มีลูกไม้ระบายอยู่รอบกระโปรงและบนหน้าอกขึ้นมา เมื่อมองหน้าลูกชายที่แดงเรื่อๆ และแววตาซุกซน ฉันก็ดึงชุดนั้นมา หันหลังแก้ผ้าออก แล้วสวมชุดนั้นเข้าไป " ทีนี้แม่ลองเดินไปทางโน้นแล้วเดินกลับมานะครับ ให้เหมือนกับนางแบบช่องแฟชั่นที่แม่ชอบดูด้วยนะ " ร้านฉันกว้างพอที่จะเดินได้กว่าสิบก้าว เดินกลับมายังพอมีเวลาถมเถให้เขาสำรวจร่างกายฉันอีกรอบ ก่อนที่ฉันจะเริ่มเดิน เขาดึงรองเท้าส้นสูง ออกมาจากถุงอีกใบ แถมยังสำทับว่าจะได้เหมือนนางแบบเข้าไปอีก แต่นั่นก็ยังไม่หมด เขาเดินไปที่เครื่องเล่นซีดีใกล้ๆแล้วใส่แผ่นซีดีเข้าไป เพลงแด๊นซ์จังหวะคึกคักก็ดังขึ้น แล้วฉันก็คิดได้ว่า จะเดินไปเฉยๆนี่มันก็ยังไงอยู่ ฉันเลยเดินไปหยุดไปตามมุมต่างๆของร้าน ยั่วยวนเชิญชวนด้วยท่าเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกและกระดิกนิ้วเรียกเขามา เขาส่ายหน้าให้ฉันทำต่อไป เขามองท่าทางฉันด้วยแววตาของสัตว์ป่าทีเดียวล่ะ ฉันรู้สึกสนุกมากที่ได้ยั่วลูกชายตัวดี ถึงจะเห็นเขายืนนิ่งๆแต่ฉันรู้เขากำลังจะอกแตกตาย ใบหน้าของเขาแดงกล่ำ โลมเลียฉันด้วยสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า และนั่นก็ทำให้เสียวด้วยเช่นกัน ฉันกลับมาเปลี่ยนชุด ตัวแล้วตัวเล่า และเดินไปเบียดกับลูกชายก่อนที่จะออกไปยั่วยวนเขาอีกครั้ง แล้วจู่ๆ เขาก็ปิดเครื่องเล่นซีดี แล้วเอาโทรศัพท์ร้านโทรไปหาใครคนหนึ่ง บนกระดานช่วยเตือนความจำมีกระดาษอยู่แผ่นหนึ่ง ฉันจดไว้ว่าจะสั่งของในวันรุ่งขึ้น และมีรายการของหลายอย่าง ลูกชายฉันคงเห็นเข้าและคิดทะลึ่งๆอีกแน่ " แม่มานี่สิครับ มาพูดกับคุณเอนกหน่อย สั่งของให้เสร็จเสียวันนี้เลยนะครับ " ฉันตื่นเต้นมาก ขาสั่นเลย พอรับโทรศัพท์จากลูกชาย เขาก็ถอดกางเกงออกทันที แล้วกระซิบไม่ให้ฉันวางสายเร็วนัก " คุณเอนกคะ คือฉันอยากสั่งของหน่อยค่ะ " ฉันอยากรีบพูดให้เสร็จไวจะได้รีบวางหูเสียที ลูกชายเอามือฉันไปกำรอบควยซึ่งทั้งร้อนทั้งแข็งและเต้นตุ้บๆ ส่วนเขาก็ลูบหอยตัวงามของฉันเสียจนน้ำไหลออกมา ยังแทงนิ้วเข้าไปทำเสียงดังแจ๊ะๆอีก ฉันกำโทรศัพท์ไว้แน่น และเม้มปากสนิท หลับตาปี๋ ส่วนอีกมือก็กระถอกควยให้ลูกไปด้วย " ช่วย..ช่วยบอกทีได้มั๊ยว่ามีสินค้าใหม่ๆอะไรบ้างค๊าา.." จังหวะนี้ลูกชายควานนิ้วไปโดนจุดตายพอดี ฉันเลยแก้เผ็ดด้วยการใช้นิ้วโป้งถูบริเวณส่วนหัวควยบานๆ จนเขาแอ่นตัวและกระเด้ามือฉัน ระหว่างที่คุณเอนกกำลังสาธยายถึงสินค้าใหม่ๆ ลูกฉันก็ปลดมือฉันออก เขาอุ้มฉันไปนั่งบนขอบโต๊ะ แยกขาฉัน แล้วเอาควยมาถูร่องหี แต่ไม่ยอมยัดเข้าไปซักที เสียวจนต้องปิดปากไว้ กลัวเสียงจะลอดออกมา คุณเอนกคงกำลังสงสัยอยู่ว่า ฉันกำลังฟังอยู่รึเปล่า จึงถามกลับมา " ค่ะๆฉันฟังอยู่ " พูดจบแล้วต้องปิดปากไว้เหมือนเดิม ที่จริงไม่ได้ฟังเลยว่าเขาพูดอะไรบ้าง เนื่องจากของฉันมันเปียกเต็มที่แล้ว ลูกชายจึงยัดของเขาเข้าไป แล้วเริ่มซอยอย่างแรง จนฉันแทบจะหลุดเสียงออกมา ฉันจึงดันอกห้ามลูกชายไว้ และทำตาดุเขา เขากลับยิ้ม และเริ่มซอยช้าๆ กำลังดีเลย ไม่เสียวเกินไป ฉันคงพอพูดใส่หูโทรศัพท์ได้บ้าง " คือฉันว่าจะสั่ง..ซักครึ่งโหลนะคะ ส่วน...เอามาแค่สามชิ้นก็พอ และ...." ยังไม่ทันได้พูดต่อ ลูกชายดึงเสื้อลงและดูดนมฉันดังจ๊วบๆ แม้จะทำเสียงไม่ดังนัก แต่ฉันก็เสียวน่าดู ทำให้หัวหมุนคว้าง ไม่รู้ว่าพูดถึงไหนแล้ว คุณเอนกถามต่อว่าสินค้านั้นจะเอาซักเท่าไหร่ นั่นสิ เอาเท่าไหร่ดี " ขออ...สามโหลเลยแล้วกันค่าาา..." คราวนี้ฉันต้องปิดปากไว้อีก ลูกชายตัวดีเริ่มเร่งเครื่องอีกแล้ว " แค่นี้นะคะหวัดดีค่ะ " ฉันรีบกรอกคำพูดลงไปและกดตัดโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าคุณเอนกจะคิดยังไง ช่างเขาเถอะ ลูกชายฉันกระแทกแรงขึ้น จนโต๊ะชนกับกำแพงดังตึงๆ เขาจึงปีนขึ้นมากดฉันลงกับโต๊ะแล้วเย็ดอย่างเมามัน จนฉันน้ำแตกไปหลายรอบ ขากลับเขาอาสาขับรถเอง เพราะรู้ว่าฉันคงขับไม่ไหวแน่ พอถึงบ้านฉันก็โดนอีกสองรอบ สลบเลยค่ะ เขาบอกว่าไม่ค่อยชินที่จะเรียกฉันว่าเมีย ชอบเรียกแม่มากกว่า มีแต่ฉันนี่แหละเวลาโดนเย็ดทีไรชอบเรียกเขาว่าผัวทุกที ไม่รู้ว่าเขาจะคิดอะไรแผลงๆอีก แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: