ขายของ
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Forbidden Love – II ก่อนกาล
ถ้าจะให้กล่าวย้อนกลับไปมันดูจะนานแสนนาน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาลงจากแท็กซี่ เค้าลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินไปตามทาง กลิ่นที่คุ้นเคย ทิวทัศน์อันคุ้นตา เค้าหยุดอยู่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง ความตื่นเต้นที่จะได้พบหน้าภรรยาสาวอันเป็นที่รัก เธอจะเตรียมสิ่งใดไว้ต้อนรับการกลับมาบ้างนะ มือบิดเปิดประตูบ้านหวังเพียงรอยยิ้มและการโอบกอดแสดงความรักจากภรรยาหลังจากที่ต้องห่างบ้านห่างเมืองไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทยังประเทศอังกฤษเป็นเวลา 2 ปีเต็ม ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าได้โทรบอกเธอก่อนแล้วถึงกำหนดการกลับประเทศ แต่ภาพเบื้องหน้าเมื่อประตูเปิดกลับไม่เป็นอย่างที่คิดแม้แต่น้อย ภรรยาเค้าจูงมือลูกน้อยวัย 2 ขวบครึ่ง ข้างตัวมีกระเป๋าใบใหญ่ไม่แพ้ของเค้าที่อยู่ในมือ
“นนท์ค่ะ แอมขอโทษ ตลอด 2 ปี ที่ผ่านมาทำให้แอมรู้ว่าแอมต้องการอะไร” เธอพูดพลางเดินเข้ามาหา จับมือเค้ายกขึ้น แหวนแต่งงานถูกหย่อนวางลงบนอุ้งมือเบาๆ เค้ารู้สึกงุนงงเป็นอย่างยิ่ง เธอเอื้อมจับมืออีกข้างของเค้ากุมมือลูกน้อย แล้วเดินจากไป เหมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะ เค้ายืนตัวแข็งทื่อ อานนท์หนุ่มนักเรียนนอกอนาคตไกลวัยเพียง 25 ปี ยืนก้มหน้าคุ่นคิด น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินเป็นทางอาบแก้มหยดลงพื้น เค้าผิดด้วยหรือที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เค้าผิดด้วยหรือที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก พลันอานนท์ก็รู้สึกที่มือ เด็กน้อยเขย่าแขนเค้าเงยหน้ามองตาแป๋ว
“แม่ไปไหน” เสียงใส ๆ ถามอย่างไร้เดียงสา เด็กน้อยไม่รู้เลยว่าหญิงสาวที่เธอถามถึงกำลังทอดทิ้งเธอไปอย่างไม่มีวันกลับมา น้ำเสียงแหลมเล็กทำให้รู้ว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิง อานนท์คุกเข่าลงมองใบหน้าลูกน้อย
“ชื่ออะไรค่ะ” อานนท์ถามเสียงสั่นเครือทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว
“หนูชื่อน้ำทิพย์ค่ะ... คุณแม่ไปไหนค่ะ”
“คุณแม่ไปทำธุระค่ะ” อานนท์พูดเสียงสะอื้น เค้ายังคงทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำตาเค้ายังคงไหล
“อย่าร้องไห้สิคะ แม่บอกว่าเด็กดีต้องไม่ร้องไห้” น้ำทิพย์ใช้มือน้อย ๆ ปาดน้ำตาผู้เป็นพ่อ อานนท์รั้งร่างเธอเข้าสวมกอดน้ำตาไหลพราก เค้ารู้ทันทีว่าต่อไปนี้พ่อและลูกน้อยต้องดำเนินชีวิตโดยปราศจากแม่ผู้เป็นที่รัก แต่เค้าก็มุ่งมั่นที่จะชุบเลี้ยงเธอให้เติบใหญ่ต่อไป
< -------- >
“พ่อค่ะ... หนูสอบติดค่ะพ่อ” พอกลับถึงบ้าน น้ำทิพย์เด็กสาววัยย่างเข้า 18 ปี วิ่งเขาสวมกอดพ่อด้วยความดีใจ เมื่อเธอรู้ว่าเธอสอบติดมหาวิทยาลัยในจังหวัดหนึ่งซึ่งติดทะเล นี่เป็นความตั้งใจของเธอเพราะอยากหลีกหนีมลภาวะในเมืองหลวง อานนท์ได้แต่ยิ้มตื้นตันแสดงความดีใจกับลูกสาว ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยไปแต่เค้ายังไม่ทิ้งเค้าโครงความหล่อเหลาบนใบหน้า ทั้ง ๆ ที่สามารถหาผู้หญิงได้เป็นร้อยจากหน้าตาและฐานะที่สร้างขึ้นจากหยาดเหงื่อและ 2 มือ แต่เค้ากลับไม่สนใจสิ่งใด ในใจรู้แต่เพียงต้องเลี้ยงดูลูกสาวให้ดีที่สุด เค้าถนอมเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน ซึ่งน้ำทิพย์เองก็รู้และไม่ทำให้พ่อเธอผิดหวัง
“พ่อรู้ว่าน้ำต้องทำได้อยู่แล้ว พ่อมีข่าวดีจะบอก”
“อะไรค่ะพ่อ” น้ำทิพย์ทำท่าอยากรู้
“พ่อขอย้ายที่ส่งงาน และชื้อบ้านริมทะเลไว้หลังนึง ก็จังหวัดที่ลูกสอบได้นั่นแหละ”
“จริงนะค่ะคุณพ่อ” น้ำทิพย์โผเข้ากอดอานนท์อีกครั้ง เค้าลูบผมเธอด้วยความอบอุ่นเอ็นดู
< -------- >
เพียงแค่ได้เห็นบ้านไม้ชั้นเดียวริมชายหาดผ่านกระจกใส ๆ หน้ารถ น้ำทิพย์ก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปสัมผัสภายใน เธอเปิดประตูก้าวลงเหยียบพื้น สายลมพัดกระทบใบหน้า เธอมองไปยังหาดทรายขาวละเอียดดั่งแป้งหลับตาสูดกลิ่นทะเลจาง ๆ เข้าเต็มปอดรู้สึกสดชื่น น้ำทิพย์ก้าวเข้าภายในบ้านมองไปรอบ ๆ มันช่างสวยงาม
“ชอบรึเปล่า” อานนท์ถามด้วยเสียงอันนุ่มนวล
“ชอบมากค่ะพ่อ” น้ำทิพย์ตอบพลางเดินสำรวจไปทั่วบ้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกถูกจัดไว้อย่างครบครัน
“น้ำ... ไป... เราไปตลาดกัน”
“ดีค่ะพอ เดี๋ยวน้ำจะทำกับข้าวให้ทาน” อานนท์ขับรถไปยังตลาดซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านเดี่ยวของเค้ามากนัก
< -------- >
ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยผู้ขายและผู้จับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก อาจเพราะเป็นสังคมต่างจังหวัด ทุกคนจึงดูเหมือนจะรู้จักกันดี
“แม่ค้านี่ขายยังไงค่ะ” น้ำทิพย์ชี้ไปที่ผักสดสีเขียว
“ไม่เคยเห็นหน้าเลยหนิหนู เพิ่งมาอยู่ใหม่เหรอ” แม่ค้าถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“ค่ะเพิ่งเข้ามาอยู่วันนี้เอง บ้านเดี่ยวตรงชายหาดน่ะค่ะ นี่พ่อหนู”
“ยินดีต้อนรับนะ วันนี้จะซื้ออะไรลดให้เป็นพิเศษเลย” มันเป็นการต้อนรับอันอบอุ่น 2 พ่อลูกรู้สึกดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เอื้ออาทรเช่นนี้
< -------- >
เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน 2 พ่อลูกใช้ชีวิตในบ้านริมหาดอย่างมีความสุข จนมาถึงวันที่ทั้งคู่จะต้องจดจำไปชั่วชีวิต ยามเย็นค่อนไปทางค่ำ รถของน้ำทิพย์ซึ่งกลับจากเรียนตามปกติเคลื่อนผ่านรัศมีบริเวณที่สามารถมองเห็นตัวบ้าน เธอลงจากรถยืนมองชื่นชมความงามที่เปลี่ยนไปของบ้าน ผ้าบางเบาสีขาวประดับตามตัวบ้านพลิ้วไหวตามสายลม โคมเทียนวางอยู่โดยรอบส่องแสงสีทองระยับ เธอมองลงไปยังชายหาดจากเดิมที่เห็นเพียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง บัดนี้บังเกิดมีซุ่มดอกไม้ประดับโคมเทียนสว่างไสวสวยงาม น้ำทิพย์ในชุดนักศึกษาย่างก้าวลงไปสายตาเหม่อมองด้วยความชื่นชม ภายใต้ซุ้มดอกไม้มีเตียงผ้าใบ 2 เตียงขั้นด้วยโต๊ะตัวเล็ก ๆ ระหว่างกลาง บนนั้นมีเค็กหน้าตาน่าทานปักด้วยเทียนเล่มหนึ่งซึ่งมีกระดาษแก้วบังลมไว้
“Happy Birthday to You…” ชายหนุ่มที่เธอเห็นเพียงแต่ด้านหลังแต่รู้สึกคุ้นเคยร้องเพลงวันเกิดขึ้น น้ำทิพย์ค่อย ๆ เดินอ้อมไปด้านหน้า อานนท์ยังคงร้องเพลงพลางมองหน้าลูกสาว น้ำทิพย์คุกเข่าลงกับพื้นทรายละเอียด เธอก้มหน้าหลับตา กุมมือประสานไว้กลางทรวงอกอิ่มเพื่ออธิษฐาน เมื่อเพลงจบลงเธอลืมตาช้า ๆ แล้วเป่าเทียน
“ขอบคุณค่ะพ่อ... ขอบคุณ” น้ำทิพย์เข้าสวมกอดพ่อพูดน้ำเสียงตื้นตัน
“พ่อไม่เคยลืมวันเกิดลูกของพ่อ... ไหนอธิฐานอะไร” อานนท์กระซิบถามพลางลูบไล้ไปตามเส้นผมลูกสาว น้ำทิพย์จับมือผู้เป็นพ่อไว้ เธอมองหน้าอานนท์ด้วยแววตาลึกซึ้ง ทั้งโคมเทียนและแสงจันทร์เต็มดวงสาดส่องใบหน้าทั้ง 2 ส่งให้ผิวพรรณงามยิ่งนวลเนียน มันเหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างกระตุ้นเร้าในจิตใจ น้ำทิพย์ค่อย ๆ ยื่นหน้าหลับตาบรรจงจูบปากพ่อเธอเบา ๆ อานนท์หลับตาพริ้มเมื่อได้สัมผัสรสริมฝีปากนุ่ม ๆ การจูบครั้งนี้เป็นครั้งแรกของน้ำทิพย์เลยก็ว่าได้เธอไม่เคยทำตัวเหลวใหลและอยู่ในจารีตตลอดมา ส่วนอานนท์นั้น ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่ภรรยาอันเป็นที่รักทิ้งเค้าไปอย่างไร้เยื่อใย น้ำทิพย์ถอยกลับมามองหน้าเค้าอีกครั้ง อานนท์ลืมตามองพินิจใบหน้าลูกสาวซึ่งเค้าเฝ้าซุปเลี้ยงมาจนโต อาจเป็นพรหมลิขิตหรือสิ่งใดดลใจ เค้าก้มลงจูบปากลูกสาวอย่างแผ่วเบา พลางเลื่อนตัวลงจากเตียงผ้าใบคุกเข่าต่อหน้าเธอ 2 พ่อลูกบดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน ต่างคนเริ่มลูบไล้เรือนกายของกันและกัน แม้จะมีอาภรณ์ห่มอยู่ แต่มันก็ทำให้ทั้งคู่สยิวซาบซ่านไปทั่วร่างเมื่อได้สัมผัสกับเพศตรงข้าม น้ำทิพย์รู้สึกได้จากภายในร่องสวรรค์ของเธอมันร้อนและเสียวยิบ ๆ อานนท์ใช้ปลายลิ้นฉ่ำดุนริมฝีปากอิ่มของลูกสาว เธอเอียงหน้าเผยอปากเปิดรับโดยไม่แข็งขืน เมื่อลิ้นทั้งคู่ได้สัมผัสกัน น้ำทิพย์รู้ทันทีถึงน้ำรักที่กำลังเคลื่อนผ่านร่องหลืบออกมาด้วยความเสียว ทั้ง 2 แลกน้ำลายกันอย่างดูดดื่ม มือของผู้เป็นพ่อซึ่งลูบไล้แผ่นหลังเธอค่อย ๆ เลื่อนมาด้านหน้าผ่านสีข้าง น้ำทิพย์แอ่นกายด้วยความเสียว มือของอานนท์เคล้าคลึงเข้ากับอกอวบของลูกสาว บราเซียที่เธอใส่เป็นแบบไม่มีโครง ทำให้เค้ารู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์ไร้ที่ติของก้อนเนื้อในอุ้งมือ
“อืมมม” คลื่นเสียงครางในลำคอกระทบริมฝีปากอานนท์ ประสบการณ์ทำให้เค้ารู้ทันทีว่าลูกสาวของเค้ากำลังเคลิบเคลิ้มกับการนวดคลึงปทุมถันจากน้ำมือผู้เป็นพ่อ เค้าค่อย ๆ ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ทีละเม็ดอย่างไม่รีบร้อน ไม่นานร่างเกือบเปลือยท่อนบนของหญิงสาวก็ถูกโลมเลียด้วยแสงจันทร์ อานนท์พรมจูบซุกไซร์ลงมาที่ซอกคอกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ซึ่งหลงเหลืออยู่จากตอนเช้ากระตุ้นอารมณ์เค้าให้พุ่งพล่าน เลือดความเป็นชายฉีดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างไม่เว้นแม้แก่นกายกลางลำตัวภายใต้กางเกงแพรบาง ๆ มันค่อย ๆ พองขึ้น ๆ
“อืออออ” น้ำทิพย์ยังคงครางในลำคออย่างเอียงอาย เธอรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง เมื่อผู้เป็นพ่อดูดเบา ๆ ไล่ลงมาจากซอกคอถึงเนินอกอิ่ม เค้าซุกใบหน้าเข้ากับเต้าอวบลิ้นฉ่ำแฉะเลียไปทั่วเนิน มือลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเปลือย อานนท์ค่อย ๆ กดหน้าแซะปลายลิ้นสอดเข้าในบราเซีย
“อูยยยย... พ่อขา” น้ำทิพย์ต้องสะท้านเมื่อปลายลิ้นฉ่ำแซะถูกยอดถันของเธอ น้ำทิพย์จับชายเสื้ออานนท์ยกขึ้น ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับที่ตะขอบราเซียตัวน้อยถูกปลดออก เธอถอดเสื้อเค้าออกทางศีรษะทิ้งมันกองรวมกับเสื้อนักศึกษาของเธอ อานนท์มองหน้าหญิงสาวพร้อมวางมือทั้ง 2 ที่ไหล่บนสายบราของเธอเบา ๆ น้ำทิพย์ก้มหน้าเอียงอาย มือเค้าค่อย ๆ ลูบลงผ่านต้นแขนขาวเนียน บราตัวน้อยสิ่งสุดท้ายที่ปกปิดเต้างามหลุดลงกับพื้นทรายเผยให้เห็นอกอิ่มสมบูรณ์ ปลายยอดเป็นเม็ดเล็กเต่งชูชันสีชมพู เค้าประคองร่างสาวน้อยลงนอนเหยียดยาวข้างกาย แล้วใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบบราบ น้ำทิพย์หลับตาพริ้มแขม่วท้องกระตุกด้วยความเสียว อานนท์ไล้นิ้วผ่านขึ้นไปยังอกอวบ ใช้ปลายนิ้วชี้ถูวนเบา ๆ บนยอดบัว เค้าทนต่อไปไม่ไหวกับใบหน้างดงามซึ่งหลับตาด้วยความสุขสม ร่างเปลือยนวลเนียนไร้ที่ติซึ่งทอดกายอยู่เบื้องหน้า
“โอ้ววว” น้ำทิพย์ครางพร้อมแอ่นอกอวบรับสัมผัสอุ่น บัดนี้ยอดถันได้หายเข้าไปอยู่ในปากอานนท์ผู้เป็นพ่อ เค้ากระดกปลายลิ้นสะกิดปลายยอดสลับดูดเบา ๆ อย่างทะนุถนอม
“อูยยย... ซี๊ดดส์” น้ำทิพย์สยิวกายขับน้ำรักจนชุ่มฉ่ำชั้นใน เธอไม่เคยได้รับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
“โอ้วว... ซี๊ดส์... พ่อขา... ซี๊ดส์” น้ำทิพย์เริ่มปล่อยกายไปตามใจปรารถนา เธอครางอย่างที่ใจอยากคราง แขนทั้ง 2 ข้างยกขึ้นมือขยำศีรษะผู้เป็นพ่อรั้งเข้าหาตัวแอ่นอกอวบรับรสสัมผัสอย่างลืมตัว อานนท์ยิ่งรู้สึกดีที่ได้ทำให้ลูกสาวสุดที่รักมีความสุข เค้ายังโลมเลียพลางใช้มือลูบไล้ไปยังต้นขาบริเวณเหนือเข่าเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา ความเสียวนี้เองส่งให้ยอดถันหดรัดเป็นเม็ดชูชันสู้เรียวลิ้นอานนท์ขึ้นไปอีก ทุกสัมผัสของปลายลิ้นที่ตวัดเสียดสียอดเต่งนั้นช่างสร้างความเสียวจนขนทั่วร่างพร้อมใจกันลุกชัน
“อุ๊ย... ซี๊ดดดส์” น้ำทิพย์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือของพ่อเธอซึ่งลูบไล้ต้นขา บัดนี้เลื่อนสอดเข้าภายในกระโปรงนักศึกษาช้า ๆ น้ำทิพย์รู้สึกตื่นเต้น เมื่อมีมือชายแตะต้องใกล้ของสงวน แต่มันก็ทำให้เธอซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก อานนท์ค่อย ๆ ลูบไล้เนื้อเนียนขึ้นไปช้า ๆ และแล้วปลายนิ้วของเค้าก็ได้มาแตะขอบชั้นในตัวน้อย ความฉ่ำเยิ้มจนรู้สึกได้ ยิ่งทำให้เค้ารู้สึกว่าลูกสาวกำลังมีความสุข
“อูยยยว์... อ้า” น้ำทิพย์ผวาทันที เธอรั้งศีรษะพ่อเธอเข้ากับเนินอกเมื่ออานนท์แทรกปลายนิ้วผ่านขอบชั้นในเข้าสัมผัสกับติ่งเนื้อแห่งความเป็นหญิงของเธอ มันช่างนุ่มนวลเหนือที่จะเอ่ย อีกทั้งยังลื่นไปด้วยเมือกใส ๆ พาให้นิ้วมือลูบไล้ได้อย่างไม่เสียดทาน ยิ่งเค้าลูบคลึงถูกปุ่มเท่าไหร่น้ำในร่องก็ยิ่งพร่างพรูออกมาชโลมนิ้วเท่านั้น
“ซี๊ดดดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดส์” เสียงกระเส่านั้นเร้ากระตุ้นแก่นกายอานนท์ มันเหมือนจุดเริ่มของความซ่านบริเวณกลางตัวแล้วแผ่ขยายไปทั่วร่าง น้ำที่ชโลมนิ้วมือเค้าจนเปียกชุ่ม ความนุ่มปานเนื้อเด็กทารกแรกเกิดส่งให้คิดไปว่าถ้าได้ใช้เรียวลิ้นเข้าตวัดพร้อมลิ้มรสความหวานจะรู้สึกเช่นไร ไวเท่าความคิดอานนท์ล่ะปากจากยอดถันช้า ๆ พร้อมค่อย ๆ ถอนมือออกจากกระโปรง เค้าคุกเข่ามองร่างสาวน้อย น้ำทิพย์สบตาอานนท์แล้วเบือนหน้าหนียกแขนขึ้นพาดปิดเต้าอวบด้วยความเอียงอาย อานนท์ค่อย ๆ วางผ่ามือลงบนหน้าท้องลูกสาวอย่างแผ่วเบา และค่อย ๆ เลื่อนไล้สัมผัสความเนียนลงสู่ขอบกระโปรง ซิปถูกรูดอย่างช้า ๆ เสียงและความรู้สึกว่ามันค่อย ๆ ไหลลงกระทบข้างสะโพกอิ่มช่างเร้าอารมณ์น้ำทิพย์ อีกไม่นานร่างเธอจะเปลือยเปล่า อานนท์จับชายกระโปรงดึงลงช้า ๆ อย่างไม่รีบร้อน ขอบกระโปรงสีดำขับค่อย ๆ ร่นลงเผยให้เห็นชั้นในสีขาวมุกทีละน้อย ทีละน้อย หัวใจเค้าเต้นแรง ดวงตาจับจ้องสิ่งที่กำลังจะปรากฏเบื้องหน้า ไม่นานกระโปรงก็ถูกถอดออกพ้นจากร่างสาวน้อย แสงจันทร์สาดส่องกระทบร่างซึ่งมีเพียงชั้นในแบบเชือกผูกด้านข้างสีขาวมุกเป็นเงาตัวน้อยปิดบังไว้ ขับกับผิวเนียน สะโพกผายกลมกลึงอีกทั้งโหนกยังนูนเบียดเนื้อผ้าเป็นเนิน ณ เวลานี้จะหานางฟ้าองค์ใดงดงามเปรียบดั่งน้ำทิพย์คงไม่มี สวยเหลือเกิน อานนท์รำพันในใจ เค้าก้มหน้าลงหาเนินอกซึ่งถูกปิดบังด้วยท่อนแขนเล็ก ๆ อีกครั้ง ริมฝีปากพรมจูบเบา ๆ บนแขนนั้น อานนท์ค่อย ๆ ไล่จูบช้า ๆ ลงมายังฐานเต้าอวบ แล้วเบียดใบหน้าให้แขนน้อย ๆ เปิดทางเบา ๆ น้ำทิพย์เองมิได้ขัดขืนใด ๆ เค้าจึงพรมจูบขึ้นไปยังยอดถันอีกครั้งได้อย่างไม่ยากเย็น
“อ้า...” น้ำทิพย์ครางพร้อมยกแขนขึ้นโอบศีรษะพ่อเธอไว้อีกครั้ง อานนท์ดูดเลียยอดถันเต่งด้วยลิ้นอันฉ่ำนุ่มพลางเคลื่อนกายเข้าแทรกกลางหว่างขาลูกสาวแบบไม่ให้สะดุดในอารมณ์
“ซี๊ดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดดส์” น้ำทิพย์ร้องครางทุกครั้งที่อานนท์ดูเน้นสลับขบเบา ๆ ที่ปลายยอด
“พ่อ... พ่อขา... อูวววส์... พ่อ” เสียงกระเส่าเร้าอารมณ์ดังไม่ขาดสาย คล้ายกับให้เข้าจังหวะเกรียวคลื่นกระทบฝั่งดั่งดนตรีขับกล่อมพาให้เคลิบเคลิ้ม น้ำทิพย์ทั้งแอ่นอกอิ่มรับลิ้น ในบางคราวของความเสียวก็เผลอกระดกยกเอวส่งเนินโหนกให้เบียดเข้ากับหน้าท้องผู้เป็นพ่อ ธรรมชาติในตัวเธอกำลังเรียกร้องบางสิ่ง เด็กสาวรู้สึกร้อนผ่าวภายในร่องหลืบ น้ำเมือกใส ๆ ไหลบ่าออกมาจนเกินกว่าจะขมิบไว้ได้ ในส่วนลึก ๆ ของจิตใจอยากให้มีสิ่งใดทะลวงลึกเข้าไปในร่องอันคับแน่นเสียเหลือเกิน ยิ่งคิดเอวน้ำทิพย์ก็ยิ่งร่อนเบียดผู้เป็นพ่ออย่างลืมตัว อานนท์มิใช่เด็ก เค้ารู้โดยทันทีว่าการกระทำเช่นนี้หมายถึงสิ่งใด เค้าค่อย ๆ พรมจูบไล้ลงจากยอดถันผ่านมายังหน้าท้องแบนราบ ความนุ่มเนียนนั้นราวกับใช้ปากประทับเข้ากับปุยฝ้าย
“อ้า... ซี๊ดดดส์” น้ำทิพย์จับศีรษะพ่อเธอหลวม ๆ ค่อย ๆ ประคอง ทุกยามที่ริมฝีปากประทับกับเนื้อเนียน หน้าท้องเธอจะกระตุกแขม่ว มันเสียวซ่านเกินกว่าเด็กสาวจะบรรยาย ศีรษะซึ่งค่อย ๆ ลดระดับลงส่งเบื้องล่าง สร้างความระทึกแก่เธอเป็นอย่างยิ่ง อีกไม่นานใบหน้าของพ่อบังเกิดเกล้าจะพบกับสิ่งที่เธอหวงแหนที่สุดในชีวิต
“อูวววว์... อื่มมมมมม” เพียงจูบสัมผัสเบา ๆ กระทบเข้ากับขอบชั้นในตัวน้อย น้ำทิพย์ก็อดที่จะครางพร้อมแอ่นเอวรับไม่ได้ บัดนี้เบื้องหน้าของอานนท์คือเนินหีอันโหนกนูน ซึ่งมีเพียงผ้าบาง ๆ ปิดไว้เท่านั้น เค้าพินิจมันอย่างหลงใหลก่อนจะค่อย ๆ ยื่นหน้าให้เข้าหามันอีกครั้ง อานนท์หลับตาพริ้มสูดกลิ่นดอมดมความหอม เค้าใช้จมูกซุกไซร์เข้ากับร่องเสียวภายนอกชั้นในซึ่งบัดนี้ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความกระสัน ปลายลิ้นค่อย ๆ เกร็งแลบออกสัมผัสลิ้มชิมรสอันหอมหวาน
“อูยยยยว์... พ่อขา” น้ำทิพย์รั้งศีรษะอานนท์พร้อมแอ่นเนินเบียดเข้ากับหน้าของเค้า แต่หาทำให้อานนท์อึดอัดไม่ เพราะเนินเนื้อของน้ำทิพย์ช่างโหนกนูนแม้ใบหน้าจะถูกเบียดอัด แต่เค้ากลับรู้สึกนุ่มละมุน เรียวลิ้นยังคงชอนไช ปลายจมูกโด่งเป็นสันซุกเบียดเนินหีสร้างความเสียวจนน้ำทิพย์แทบหยุดหายใจ
“พ่อขา... น้ำ... ซี๊ดดดดส์” น้ำทิพย์เริ่มหอบหายใจแรงกระดกเอวเร็วขึ้นให้ปุ่มกระสันได้เสียดสีกับจะงอยลิ้นของเค้า แต่อานนท์หาต้องการให้เธอขึ้นสวรรค์โดยเร็วไม่ ครั้งแรกของเด็กสาวควรเป็นความสุขอันล้นปรี่ เค้าค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าออกจากเนินหี ในใจน้ำทิพย์รู้สึกเสียดายแต่มันก็ทำให้เธอได้พักหายใจ อานนท์ไล้เรียวลิ้นไปยังขอบเชือกด้านข้าง ริมฝีปากเม้มเข้ากับปลายเชือกค่อย ๆ ออกแรงดึงเบา ๆ อย่างนุ่มนวล
“พ่อขา” น้ำทิพย์ผงกศีรษะดู เธอรู้ทันทีว่าอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายกำลังจะจากเธอไป แต่เธอก็ไม่ได้มีอาการขัดขืนแต่อย่างใด มีเพียงความตื่นเต้นในใจ จากด้านหนึ่งอานนท์ค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่อีกด้านหนึ่ง ไม่นานชั้นในตัวน้อยก็กลายเป็นเพียงผ้าบาง ๆ ซึ่งวางไว้บนเนินโหนก อานนท์จับขอบชั้นในนั้นอย่างตื่นเต้น เค้าค่อย ๆ ดึงมันลงมา น้ำทิพย์รู้สึกหน้าร้อนผ่าวร่างกายของเธอเหมือนถูกแผดเผาอยู่ภายใน แต่ทว่าเป็นความร้อนรุ่มในกาม ผ้าบาง ๆ ค่อย ๆ ร่นลงช้า ๆ ไรขนอ่อน ๆ เผยให้เห็น มันประดับอยู่บนเนินโหนกขาว ปากร่องปิดสนิทเป็นพูเนื้อสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก
“น้ำ... ลูกพ่อสวยเหลือเกิน” เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เค้าจะยื่นใบหน้าเข้าหาร่องหีงาม ๆ นั้น
“ซี๊ดดดดส์” ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เมื่อมีปลายลิ้นสาก ๆ แต่นุ่มสัมผัสเข้ากับติ่งเนื้อซึ่งหลบอยู่ในกลีบกุหลาบ ความเสียวของเธอแล่นจากจุดกระสันแผ่ไปทั่วทั้งร่าง น้ำภายในร่องถูกขมิบขับตามจังหวะการโลมเลียของผู้เป็นพ่อ อานนท์เองก็ดูดดื่มอย่างไม่รังเกียจ ทั้งยังรู้สึกว่าน้ำของเด็กสาวนั้นหอมหวานดั่งน้ำผึ้งก็ไม่ปาน
“พ่อขา... น้ำเสียว... ซี๊ดดดส์... พ่อ” ไม่มีสิ่งใดที่น้ำทิพย์จะระบายออกได้ในเวลานี้ นอกจากเสียงครางแห่งความสุข ในร่องหีเธอปั่นป่วนมันทั้งขมิบทั้งคัน หน้าท้องกระตุกเป็นบางครั้งอย่างไม่ตั้งใจ อาการเช่นนี้เป็นความเสียวอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน อานนท์ไล้ลิ้นตวัดติ่งที่หลบซ่อนอยู่ในพูเนื้ออย่างชำนาญ มันช่างนุ่มละมุนหาใดเปรียบ ในใจคิดอยากจะห่อลิ้นแยงเข้าในร่อง แต่... อีกใจนึงสิ่งที่ควรจะแทรกเข้าไปเป็นอย่างแรกไม่น่าจะเป็นลิ้น
“พ่อขา... น้ำ... น้ำ” น้ำทิพย์เสียวจนต้องจิกกำเม็ดทรายละเอียด เธอกำลังถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง แต่อานนท์กลับไม่เร่ง หากแต่ค่อย ๆ ลดความเร็วในการสัมผัสติ่งเนื้อลง พลางเลื่อนตัวบรรจงพรมจูบขึ้นถึงใบหน้างาม ๆ ทั้ง 2 จ้องตากันอย่างลึกซึ้งภายใต้แสงจันทร์ บัดนี้แก่นกายของเค้ากำลังเบียดเข้ากับปากร่อนเสียวอันฉ่ำแฉะ
“ลูก... เสียใจรึป่าว” อานนท์ยันข้อศอกมองหน้าลูกสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้ำทิพย์ไม่ตอบแต่ส่ายหน้าเบา ๆ เห็นเช่นนั้นเค้าจึงค่อย ๆ โยกเอวให้ท่อนควยภายใต้กางเกงแพรถูไถกับเนินหีช้า ๆ
“ซี๊ดดดส์... อูววว์” ถึงเป็นเพียงภายนอกแต่สิ่งนี้ที่กำลังดุนเข้ากับร่องหีของเธอก็คือ ท่อนควยของพ่อบังเกิดเกล้า น้ำทิพย์ยกแขนขึ้นโอบหลังอานนท์ เค้าค่อย ๆ โยกขึ้นลงช้า ๆ แต่ให้จังหวะยาวขึ้น ลำควยแข็งซึ่งถูกถูไถ ไปกับร่องหี ค่อย ๆ เสือกตัวผ่านขอบกางเกงแพรทีละน้อย ทีละน้อย
“อุ้ยยยยย... พ่อขา... ซี๊ดดดส์” น้ำทิพย์ผวาครางกระเส่า เมื่อรู้สึกถึงปลายหัวควยอันร้อนผ่าวแตะเข้ากับร่องเสียวของเธอ มันเป็นเนื้อแท้หาใช่ผ้าแพรลื่น ๆ ไม่
“โอ้ววว... ลูกพ่อ... ซี๊ดดดส์” อานนท์เองก็เสียวสยิวกาย เค้ารู้ว่าบัดนี้กางเกงแพรได้ร่นลงเผยให้ลำควยออกมาสัมผัสกับเนินหีนุ่ม ๆ ของลูกสาวแล้ว
“ลูกพ่อ... น้ำ... นุ่มเหลือเกิน” อานนท์อดที่จะเก็บความรู้สึกไว้ในใจได้ เค้าถอยเอวยาวให้ปลายควยจ่อเข้ากับปากรูหี แล้วงัดขึ้นเบา ๆ หวังให้มันจมหายไปในรูหี แต่ด้วยความที่เป็นพูเนื้ออันโหนกนูนหัวควยจึงแทรกเข้าได้ยาก มันกลับไถลครูดติ่งเนื้อน้ำทิพย์ไปตลอดลำ
“ซี๊ดดดส์... อูวววว์” น้ำทิพย์จิกหลังผู้เป็นพ่อเบา ๆ อานนท์ก็เสียวแทบขาดใจนี่เป็นครั้งแรกที่ลำควยได้สัมผัสกับพูหีหลังจากที่เลิกรากับแม่ของน้ำทิพย์เป็นเวลานาน เค้าถอยเอวทำเช่นเดิม น้ำทิพย์หลับตาปี๋บีบหลังพ่อเธอแน่นเมื่อปลายควยจ่อเข้ากับทางเข้าอีกครั้ง อานนท์ดันมันเข้าช้า ๆ จนรู้สึกว่าหัวควยร้อนวาบ มันแทรกเข้าไปในพูเนื้อที่คับแน่น แล้วก็เหมือนติดกับปราการ ด้วยประสบการณ์รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่ขวางอยู่นั้นคือเยื่อพรมจารีอันเป็นสิ่งหวงแหนของหญิงสาวทุกผู้ทุกนาม อานนท์มองหน้าลูกสาวอีกครั้ง น้ำทิพย์ก็หาใช่เด็กไม่ เธอมองพ่อด้วยแววตาลึกซึ้งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เช่นนั้นอานนท์จึงค่อย ๆ ดันดุ้นเนื้อช้า ๆ อีกครั้ง
“..........” ไม่มีเสียงร้องใด ๆ น้ำทิพย์เม้มริมฝีปากแน่น ปลายเล็บถูกจิกลงบนเนื้อของอานนท์ ความรู้สึกของเธอในตอนนี้มันเจ็บเกินกว่าจะบรรยาย
“พ่อขอโทษ... ลูกพ่อ” อานนท์รู้สึกเสียใจขึ้นมาโดยพลัน เมื่อเห็นน้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากหางตา น้ำทิพย์ไม่พูดสิ่งใด เธอยิ้มอย่างเป็นสุขทั้งน้ำตา แล้วค่อย ๆ รั้งตัวพ่อเธอลงมาประกบจูบ ทั้ง 2 ดูดดื่มกันพบพื้นทราย ความเสียวสยิวพาให้ความรู้สึกเจ็บปวดบรรเทาเบาบางลง ท่อนเนื้อค่อย ๆ จมหายลงไปในรูหีช้า ๆ ทีละน้อย จนหนอกเนินทั้งคู่บดเข้าหากัน
“อื่มมมมม” ช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ ภายในนุ่มอบอุ่นโอบรัดพอดีกับลำเนื้อ ในรูหีตอดหัวควยตุ๊บ ๆ ให้เสียวแทบกลั้นน้ำรักไว้ไม่อยู่ น้ำทิพย์เองก็รู้สึกเสียวอย่างประหลาด เหมือนมีสิ่งมีชีวิตแทรกเข้ามาอยู่ในกาย มันเต้นกระตุกในร่องหีเธอ ความคันยิบยับเมื่อครู่จางหายไป แต่ถ้าท่อนควยนี้ขยับเข้าออกคงเพิ่มความสุขให้เธอได้มากว่านี้เป็นแน่ เพียงชั่ววูบแห่งความคิด อานนท์ก็ค่อย ๆ ถอนลำควยออกช้า ๆ ประมาณครึ่งลำแล้วบรรจงกดมันลงไปใหม่
“ซี๊ดดดส์... พ่อ” น้ำทิพย์เบือนหน้าจากการจูบพร้อมร้องเบา ๆ แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาจากความเจ็บแต่กลับเป็นความเสียวอย่างที่เธอคิดไว้
“น้ำไม่เจ็บแล้วค่ะพอ” ด้วยความเสียวนี้ ความกระดากอายไม่มีเหลืออีกแล้ว นี่เป็นคำเชิญให้พ่อบังเกิดเกล้า สาวควยเย็ดหีเธอได้ตามสะดวก อานนท์ถอนควยออกอีกครั้งคราวนี้ยาวเกือบสุดแล้วดันแทรกมันลงไป แต่หาเพียงแต่ลงสุดไม่ เค้ายังบดเบียดให้หนอกเนินประสานกัน ลำควยจึงเข้าลึกในรูหีเป็นอย่างมาก
“อูววว์... น้ำเสียว” ยิ่งได้ยิน ยิ่งเป็นการกระตุ้นตัณหาของอานนท์ เค้าโยกเอวเร็วขึ้นแต่ยังคงจังหวะสาวยาว ทุกครั้งที่ลำควยแทงลงไปจะประเคนความเสียวอย่างสุดขั้วให้ทั้งเค้าและเธอ
“พ่อขา... พ่อ... ซี๊ดดดส์... อูววว์... น้ำเสียว... ซี๊ดดส์” อานนท์เร่งจังหวะเร็วขึ้นส่งให้น้ำทิพย์ผู้ชิมรสรักเป็นครั้งแรกถึงกับครางเสียงหลง มันยิ่งทำให้เค้าได้ใจที่ได้เห็นลูกสาวมีความสุข เค้ายิ่งเร่งขึ้น
“โอ้ววว์... พ่อ.. พะ.. ซี๊ดส์.. น้ำ.. ซี๊ดดส์” น้ำทิพย์ละทิ้งความเจ็บปวด เธอกอดร่างพ่อไว้แน่น พร้อมกระดกเอวยกเนินหีขึ้นสู้กับลำควยที่กระหน่ำเย็ดอย่างไม่อาย ความรู้สึกที่แท่งควยแทรกครูดเข้าออกในหีเธอนั้นมันเสียวสยิวสุด ๆ
“ลูกพ่อ... อ้า... เสียวเหลือเกิน... ลูกพ่อ” ใจจริงอานนท์อยากจะให้เกมส์รักในครั้งนี้ยืดยาวแต่ความเสียวกลับเล่นตลก เค้าไม่สามารถหยุดการกระเด้าเย็ดนี้ได้ รสสัมผัสมันช่างเสียวเกินกว่าจะห้ามใจให้ลดความเร็วลง กลับกันเค้ากลับเร่งซอยเย็ดหนักหน่วงเร็วแรงกว่าเดิม
“พ่อ.. น้ำ.. ไม่ไหวแล้ว... เสียว.. สะ.. เสียว.. น้ำ” คำที่พร่ำบ่นว่าไม่ไหวแต่ท่อนล่างของน้ำทิพย์ยังคงกระดกสู้ไม่ขาดแม้ พ่อเธอจะเย็ดเร็วแรงขึ้นเพียงใด น้ำทิพย์กำลังจะขึ้นสวรรค์ หลังจากเกือบถึงเป็นครั้งที่ 3
“จะ.. จะออกแล้ว... พ่อขา... ซี๊ดส์...อูวววววว์” จุดสุดยอดครั้งแรกกับท่อนเนื้อช่างเป็นความสุขหาใดเปรียบ มันเหมือนตกจากที่สูงแล้วล่องลอยในความมืด เธอเกร็งโอบรัดผู้เป็นพ่อ ร่างกระตุกสะท้าน ร่องหีบีบตัวแน่น
“ลูก... แน่นมากเลย... ซี๊ดส์... พ่อขอนะ... น้ำ... พ่อขอ” น้ำทิพย์ยังไม่รู้ว่าพ่อเธอขออะไรก็ต้องสะดุ้งผวาอีกครั้ง น้ำเงี่ยนอุ่น ๆ พุ่งแรงเข้าในโพรงหีเธอ มันหวิว ๆ อย่างบอกไม่ถูก ดุ้นควยที่อยู่ในร่างเธอนั้นกระตุกเป็นจังหวะ มันฉีดน้ำเข้าในตัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะค่อย ๆ อ่อนตัวลง อานนท์ทิ้งร่างลงซบซอกคอลูกสาว ทั้งคู่หอบหายใจยาวอย่างมีความสุข
< -------- >
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องกระทบผิว เสียงวิหกโผบินหาอาหารร้องเจื้อยแจ้ว น้ำทิพย์ซึ่งตื่นก่อนนำเสื้อมาบดบังร่างเปลือยของอานนท์ไว้จากธรรมชาติแวดล้อม สัมผัสของเนื้อผ้าทำให้อานนท์รู้สึกตัว เค้าลืมตาขึ้นช้า ๆ ใบหน้างาม ๆ ซึ่งได้พบในยามตื่น ช่างเหมือนครั้งเมื่อยังอยู่กับภรรยาในคราก่อน ขาดเพียงแต่รอยจูบที่มีให้กันเมื่อเริ่มวันใหม่เท่านั้น เค้าเหม่อมองใบหน้าลูกสาวอย่างพินิจ หวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน
“เข้าบ้านเถอะค่ะพ่อ” เสียงใส ๆ เหมือนปลุกให้อานนท์ตื่นจากภวังค์ เค้าเม้มริมฝีปากยั้งใจว่านี่คือลูกสาวหาใช่ภรรยาไม่ แต่จากปฏิกิริยานั้น น้ำทิพย์คงรู้
“ถ้าพ่อจับน้ำได้ เดี๋ยวน้ำให้หอมแก้ม” สิ้นเสียงน้ำทิพย์ก็ผละจากตัวพ่อเธอ วิ่งประคองผ้าซึ่งปิดเต้าอวบมุ่งเข้าบ้าน ภาพเด็กสาวเปลือยด้านหลังวิ่งด้วยความสดใสร่าเริงหันมามองเค้าเป็นระยะ ส่งให้อานนท์สลัดผ้าวิ่งตาม ทั้ง 2 ไล่จับกันราวกับเป็นคู่รัก
“เข้าบ้านแล้วถือว่าพ่อแพ้นะคะ” น้ำทิพย์ตะโกนบอก เมื่อเธอใกล้ถึงบ้านเต็มที แต่แล้วเมื่อเธอเอื้อมมือจับลูกบิด
“จับได้แล้ว” อานนท์รวบเอวคอดกิ่วได้ทันควัน ร่างสาวน้อยตกอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น น้ำทิพย์หันกลับมามองหน้าเค้า ยังไม่ทันได้เอ่ย สิ่งใด อานนท์ก้มลงบรรจงจุมพิตริมฝีปากลูกสาวอย่างแผ่วเบา ทั้ง 2 มองแววตากันอีกครั้ง
“พ่อเนี่ย... ขี้โกง น้ำบอกว่าให้หอมแก้ม ไม่ใช่จูบซักหน่อย” น้ำทิพย์เอียงอายพูดด้วยน้ำเสียงขวยเขิน
“ทำไม...” น้ำทิพย์มองหันกลับมามองอานนท์ด้วยความงงในคำถาม
“ทำไม ทำไมอะไรคะ” เธอถามด้วยความฉงน
“เมื่อคืนทำไม... เอ่อ ลูก” น้ำทิพย์รู้ทันทีถึงคำถาม เธอยกมือน้อย ๆ ขึ้นปิดปากผู้เป็นพ่อ
“พ่อไม่ต้องพูด น้ำเลือกเอง” ทั้ง 2 ประสานสายตากันอย่างลึกซึ่ง เหมือนพยายามมองเข้าไปภายในจิตใจของกันและกัน
“พ่ออยากรู้ไม๊ ว่าน้ำขออะไรตอนเป่าเทียน” น้ำทิพย์พูดพร้อมลดมือลงช้า ๆ อานนท์ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ
“น้ำขอให้พ่อมีความสุข น้ำจะทำทุกอย่างให้พ่อมีความสุข ตลอดมาตั้งแต่จำความได้ น้ำไม่เคยเห็นพ่อมีความสุขเลย เห็นแต่ทำงาน น้ำโตแล้ว น้ำเข้าใจว่าผู้ชายต้องปลดปล่อย ถ้าพ่อจะมีแม่ใหม่น้ำเองก็ไม่ว่า แถมจะดีใจด้วยเสียอีก ที่จะได้มีคนมาคอยดูแลพ่อ แต่พ่อกลับ”
“พ่อมีความสุข แค่พ่อได้ดูแลลูกให้เติบโต นี่แหละคือความสุขที่สุดของพ่อ” อานนท์พูดสวนด้วยน้ำเสียงนุมนวล เพียงน้ำทิพย์ได้ยินดวงตาเป็นประกายก็บังเกิดน้ำใส ๆ คลอเป้า ก่อนจะรวมตัวไหลผ่านพวงแก้มสีชมพู
“จำได้ไม๊... อย่าร้องไห้สิคะ แม่บอกว่าเด็กดีต้องไม่ร้องไห้” อานนท์ปาดน้ำตาด้วยนิ้วโป้ง พร้อมเอ่ยประโยคที่ทำให้เค้าประทับใจเมื่อแรกเห็นเธอ เด็กน้อยซึ่งปลอบเค้าให้หายจากความโศกเศร้า
“น้ำรักพ่อค่ะ” น้ำทิพย์ซบหน้าเข้ากับแผงอกกำยำ ในอ้อมกอดช่างอบอุ่นและอบอวนด้วยความรัก ดูเหมือนทั้ง 2 จะค้นพบความสุขแท้จริงในชีวิตที่ตามหามานานแล้ว
< -------- >
เวลาผ่านล่วงเลยจากวันเป็นเดือน บริเวณชานหน้าบ้าน อานนท์กับเสื้อยืดสบาย ๆ และกางเกงแพรนั่งจดจ่อกับงานหน้าโน้ตบุ๊คคู่ใจอย่างเคย ความปลอดโปร่งของธรรมชาติ กอบกับอุ่นไอรักจากลูกสาว ทำให้เค้าคิดงานได้ลื่นไหลกว่าแต่ก่อนมาก
“กาแฟค่ะคุณพ่อ” น้ำทิพย์ในชุดนักศึกษาเสื้อพอดีตัวกระโปรงยาวจีบรอบดูสุภาพเรียบร้อย วางถ้วยกาแฟลงข้าง ๆ โน้ตบุ๊ค
“เรียนกี่โมงลูก” อานนท์เงยหน้าขึ้นถามโดยไม่ละมือจากแป้นพิมพ์
“น้ำบอกว่าอย่าเครียดมากไงคะ” น้ำทิพย์วิสาสะพับปิดโน้ตบุ๊คพร้อมขึ้นคร่อมนั่งตัก 2 มือโอบประสานคล้องคอผู้เป็นพ่อ
“ไว้น้ำเรียนจบ น้ำจะช่วยพ่อหาเงิน พ่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อยอีก”
“จ๊ะลูก” อานนท์โอบเอวลูกสาวเอ่ยคำด้วยสีหน้าอิ่มเอม ในใจรู้สึกภาคภูมิกับลูกสาวคนนี้เป็นอย่างมากที่มีความกตัญญู เค้าขโมยหอมลูกสาวอย่างไม่ให้ตั้งตัวฟอดใหญ่ ดูราวกับคู่รักหยอกล้อก็ไม่ปาน ทำเอาหญิงสาวเอียงอายแก้มแดงเป็นลูกตำลึง
“พ่อเนี่ย น้ำไม่คุยด้วยแล้ว” น้ำทิพย์ทำท่าจะลุกขึ้น แต่อานนท์จับเกร็งแขนไว้ ทั้ง 2 มองหน้ากัน โดยไม่มีคำพูดใด ๆ น้ำทิพย์ค่อย ๆ ก้มลงประกบจูบริมฝีปากผู้เป็นพ่ออย่างแผ่วเบา ก่อนปฏิกิริยาตอบสนองจะส่งให้เค้าและเธอบดปากแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ไม่นานน้ำทิพย์ก็ได้รับรู้ถึงสิ่งหนึ่ง มันค่อย ๆ พองขึ้นเบียดเข้ากับเนินโหนกกลางหว่างขาเธอ เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะหลังจากครั้งแรกที่ชายหาด การร่วมรักระหว่างเธอกับพ่อจะอยู่ภายในบ้านตลอด แต่ครั้งนี้กลับเป็นบริเวณชานบ้าน อีกทั้งยังเป็นกลางวันแสก ๆ เพียงแค่คิดน้ำภายในร่องเสียวก็เริ่มเคลื่อน จนซึมแฉะบริเวณปากถ้ำ เต้าอวบภายใต้บราเซียคัดเต่งยอดถันลุกชูหดรัดเป็นเม็ดจนเธอรู้สึกได้ น้ำทิพย์ไซร์ริมฝีปากเบือนไปตามแก้มผ่านไปยังซอกคอของอานนท์ เธอเองก็เกิดอารมณ์มิใช่น้อยท่อนร่างจึงถูไถเนินโหนกเข้ากับลำควยแข็งช้า ๆ อย่างลืมตัว
“อูววว์... น้ำ... ซี๊ดดส์” อานนท์ถึงกับครางกระเส่าใบหน้าร้อนผ่าว 2 มือบีบคลึงก้นงอนงามภายนอกกระโปรง มันช่างหยุ่นนุ่มรับกับการเคล้าคลึงยิ่งนัก ฝ่ายน้ำทิพย์ด้วยอารมณ์เตลิดเริ่มบดเอวเป็นวงให้เนินหีซึ่งบัดนี้เริ่มชื้นแฉะเล็กน้อยเบียดเข้ากับลำควย ทำเอาอานนท์ต้องรวบชายกระโปรงขึ้น ใช้นิ้วเกี่ยวขอบชั้นในด้านข้างหมายจะให้ท่อนเนื้อได้แทรกเข้าในร่องเสียวจริง ๆ แต่ยังไม่ทันได้ดึงรั้ง
“อย่าคะพ่อ... เดี๋ยวเลอะ น้ำมีเรียน... มา.. เดี๋ยวน้ำทำให้” เสียงกระเส่าห้ามข้างใบหูชะงักเค้าไว้ทัน แต่ประโยคหลังก็ไม่ทำให้เค้าเสียอารมณ์หรือค้างคา น้ำทิพย์ค่อย ๆ เลื่อนไล้กายลงแทรกตัวคุกเข่าตรงหว่างขาผู้เป็นพ่อ เธอยื่นหน้าไปยังส่วนกลางลำตัว ใช้นิ้วมือเรียวเกี่ยวขอบยางยืดกางเกงแพรและชั้นในลงพร้อม ๆ กัน เธอไม่รั้งรอให้มันสัมผัสกับอากาศภายนอก
“ซี๊ดดดส์... อู้วววว” ทันทีที่ลำควยโผล่พ้นกางเกงแพร ปากก็เข้าครอบลำลึงค์ ทั้งไออุ่น และความนุ่มของเรียวลิ้น พาให้อานนท์สยิวจากแก่นกลางลำตัวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง 2 มือเกร็งเงยหน้าซู๊ดปากหลับตาพริ้มด้วยความเสียว แต่การหลับตาของเค้าในครั้งนี้มันก่อให้เกิดสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างมหันต์ แสงบางอย่างตกกระทบไปมายังตัวบ้าน จนกระทั่งหยุดจับอยู่บริเวณร่างของเค้า การกระทำของ 2 พ่อลูกซึ่งคิดว่าอยู่ในหาดส่วนตัว บัดนี้กลับไม่เป็นส่วนตัวอย่างที่คิดเสียแล้ว ชาวประมงท้องถิ่นซึ่งส่องกล้องมองคลื่นลมและฝูงปลาเหมือนทุกวัน กลับส่องมาพบสิ่งอันไม่บังควร
“อื่มมมม” คลื่นเสียงในลำคอแผ่กระทบเข้ากับท่อนเนื้อภายในปาก น้ำทิพย์ซึ่งเป็นฝ่ายหยิบยื่นความสุขให้พ่อ บัดนี้เริ่มครางเบา ๆ เมื่ออานนท์เลื่อนฝ่ามือลงประกบเต้าอวบภายใต้ชุดนักศึกษาที่ขาวสะอาดแล้วบีบเคล้นมันเบา ๆ อย่างนุ่มนวล อีกทั้งลำควยเขื่องในปากนั้นยังกระตุกเป็นจังหวะเมื่อปลายลิ้นของเธอเลียไล้บริเวณปลายท่อ ช่างเร้าอารมณ์ให้เตลิดพาให้คิดถึงเวลามันกระตุกเต้นภายในร่องเสียวของเธอ เพียงแค่คิดกับสัมผัสที่เริ่มเร่าร้อนกับอกอิ่มของเธอ ส่งให้สิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นบังเกิดขึ้นแล้วในขณะนี้ ร่องเสียวขมิบขับน้ำเงี่ยนจนแฉะชั้นในตัวน้อย ภายในร้อนวูบวาบผ่านขึ้นมาถึงใบหู เธอยังคงใช้ปากกับส่วนกลางนั้นแต่อาการหายใจแรง และบิดหน้าขาเข้าหากัน ไม่สามารถรอดพ้นสายตาพ่อเธอไปได้ อานนท์ไร้มือขึ้นจนถึงลำคอแล้วค่อย ๆ สอดมันผ่านลงไปภายในบราเซียโดยไม่มีอาการบัดป้องใด ๆ จากน้ำทิพย์
“อื่มมมมม” เธอครางพร้อมบิดร่างด้วยความเสียวทั้ง ๆ ที่ท่อนเนื้อยังคงอยู่ในปาก ทำให้อานนท์เองก็ซ่านสยิวควยไปด้วยไม่แพ้กัน
“ซี๊ดดดส์... น้ำ... พ่อขอนะ... เดียวเปลี่ยนก็ได้” อานนท์รู้สึกเงี่ยนเต็มที่ แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับมา น้ำทิพย์ยังคงทำหน้าที่ของเธอไปอย่างไม่หยุดหย่อน เธอเริ่มห่อปากกระชับผงกศีรษะรูดขึ้นลงตลอดลำควย
“อูยยย... พ่อรู้ว่าลูกก็อยาก... อูววว์... ดูสิหัวนมน้ำสู้มือพ่อเป็นเม็ดเชียว” อานนท์ไม่พูดเปล่า เค้าใช้ง่ามนิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบยอดถันแล้วคลึงมันเบา ๆ
“อ้า...” น้ำทิพย์ถึงกลับหยุดชะงักอ้าปากครางกระเส่า อานนท์เห็นเช่นนั้นจึงฉวยโอกาสทองถอนมือออก พร้อมช้อนร่างลูกสาวคนงาม และด้วยความรวดเร็วก่อนที่สาวน้อยจะหย่อนก้นนั่งลงกลางลำตัวพ่อ พลันชั้นในอันฉ่ำเยิ้มก็ถูกเกี่ยวรั้งไปกองอีกด้านจากด้านหลัง
“อูยยย์... ซี๊ดดดส์... อ้า” มันช่างประจวบเหมาะเสียนี่กระไร ลำควยเขื่องซึ่งตั้งเด่ถูกร่องหีเข้าครอบงำ ทั้งน้ำหนักที่ทิ้งลงมาและความไม่ตั้งตัว ทำให้ท่อนเนื้อแทรกเข้าไปทีเดียวมิดด้าม
“ซี๊ดดดดส์... อืมมม” ถึงแม้ตลอดเดือนที่ผ่านมาทั้ง 2 จะเล่นรักกันหลายครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่ทำให้ร่องสวาทนี้เกิดความเสียหายเลย มันยังคงคับแน่นปานประหนึ่งครั้งแรกทีเดียว อานนท์เกร็งท่อนเนื้อให้กระตุกภายในร่องหีลูกสาวเป็นการหยั่งเชิง
“อุ๊ย... ซี๊ดดดส์... พ่อขา” น้ำทิพย์ซบเข้ากับซอกคอผู้เป็นพ่อส่งเสียงครางเบา ๆ ข้างใบหูพร้องขมิบรับอย่างลืมตัว
“ค่อย ๆ ลูก” อานนท์กระซิบเสียงนุ่ม พลางช้อนก้นลูกสาวเบา ๆ เหมือนไม่ได้ออกแรง น้ำทิพย์โหย่งตัวขึ้นช้า ๆ ร่องหีเธอค่อย ๆ คายลำควยอันมันเลื่อมทีละน้อยจนเกือบหลุด อานนท์รู้ถึงแรงขมิบจากปากร่องเสียวของลูกสาวโอบรัดบริเวณเกือบถึงคอหยักจึงออกแรงกดตัวเธอลงเบา ๆ ร่างของสาวน้อยค่อย ๆ หย่อนพาเอาร่องหีอุ่นโอบครอบลำควยลงไปอีกครั้งช้า ๆ อย่างว่าง่าย
“ซี๊ดดดส์... อย่างนั้นลูกพ่อ... อื่มมม” เมื่อเนินหนอกของทั้ง 2 ประกบกันเป็นสัญญาณว่าท่อนควยของเค้าหลุดหายไปในร่องหีของเธอทั้งดุ้นแล้ว น้ำทิพย์ส่ายเอวเป็นวงช้า ๆ เธอค่อย ๆ บดคลึงหนอกให้เม็ดกระสันถูไถ
“โอว์... ลูก... น้ำ” ใช่เพียงน้ำทิพย์ที่เสียวร่องจนขับน้ำออกมาอย่างพร่างพรูจนบัดนี้ไหลเยิ้มลงไปถึงพวงสวรรค์ของผู้เป็นพ่อ อานนท์เองก็เสียวเจียนขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าเช่นเดียวกัน เพราะลำควยอันยาวของเค้าทำให้ปลายหัวถูกับปากมดลูก อีกทั้งความโอบแน่นกระชับของรูหีนั้นช่างประกอบกันให้บังเกิดความเสียวสุดยอด
“น้ำ... หยุดก่อน... น้ำ...พ่อ... ซี๊ดดส์” อานนท์รู้ตัวดีว่าคงทนกันการบดคลึงและแรงตอดรัดได้อีกไม่นานจึงเอ่ยปากพร้อมรั้งสะโพกลูกสาวให้หยุดการบดเบียดนั้น แต่น้ำทิพย์หาฟังไม่ เธอเองก็เสียวเกือบถึงจุดเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้ขย่มโยกก็ตาม เธอโอบกอดอานนท์แน่นทั้งยังโยกหน้า โยกหลัง โดยไม่ยกตัวขึ้น
“ซี๊ดดดส์... พ่อขา... ซี๊ดดดส์”
“น้ำ... น้ำ... โอ้ยยว์... พอก่อน...”
“อูววววววว์... ซี๊ดดดดดดส์” เสียงครางพร้อมกัน ปลายเท้าทั้งคู่งอหงิก ร่างเกร็งกระตุก ร่องหีขมิบรัดลำควยอย่างแรง น้ำทิพย์รู้สึกซ่านสบายไปทั่วร่าง
“โอววววว์” หลังจากอานนท์เกร็งเล็กน้อย น้ำทิพย์ถึงกลับครางผวาอีกครั้ง เมื่อน้ำเงี่ยนอุ่น ๆ พุ่งเข้าในตัวเธออย่างแรง เป็นละรอก 3-4 ครั้ง เค้าและเธอหอบเบา ๆ ถึงแม้จะไม่ใช่บทรักที่ขย่มกันแบบถึงพริกถึงขิงแต่มันก็ทำให้ทั้ง 2 เสียวซ่านไม่แพ้ครั้งไหน ๆ
“พ่อเนี่ย น้ำเลอะหมดเลย” น้ำทิพย์มองหน้าพ่อต่อว่าแบบงอน ๆ
“มาว่าแต่พ่อ เมื่อกี๊ใครก็ไม่รู้ โยกใหญ่เลย” อานนท์แซว
“พ่ออ้า” เธอออกอาการเขินอายทันที ส่งให้แก้มสีชมพูเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อเพิ่มความน่ารักมากขึ้นไปอีก
“ไปทำความสะอาดไป เดียวพ่อไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกค่า พ่อทำงานเถอะ”
< -------- >
“กลับมาแล้วค่ะ เอ๋! ทำอะไรคะพ่อ” น้ำทิพย์วางหนังสือลงถามแบบงง ๆ เบื้องหน้าคือเศษไม้ และ กระป๋องสีกับอุปกรณ์ช่างอีกหลายรายการ
“มาน้ำ มาช่วยกัน” อานนท์หันมองลูกสาวโดยในมือยังถือเลื่อยฉลุอยู่
“อะไรคะพ่อ”
“ป้ายน่ะจะ ป้ายชื่อบ้านเรา ”
“อ๋อเหรอคะ ดีค่ะน้ำช่วย แต่เอ... บ้านเราจะชื่ออะไรดีล่ะคะ”
“อึ่ม... นั่นสิ”
“บ้านอุ่นรักดีไม๊คะพ่อ ชื่อมันอบอุ่นดี”
“ดีจ้า อะ ร่างแบบอักษรลงไม้เลย” อานนท์ยื่นดินสอให้น้ำทิพย์ 2 พ่อลูกช่วยกันทำป้ายอย่างสนุกสนาน หยอกล้อกันบ้าง ซับเหงื่อช่วยเหลือกันบ้างดูแล้วอบอุ่นสมกับเป็นบ้านอุ่นรักโดยแท้
< -------- >
“เย้! เสร็จแล้ว” น้ำทิพย์ชูมือประกาศก้องเหมือนเด็ก ๆ ป้ายที่ได้ถึงมันจะไม่สวยเท่ากับสั่งทำ แต่มันมีความรักแฝงอยู่ภายใน เพียงได้มองก็รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
“ฮ่า ๆ ๆ ดูสิ” อานนท์ชี้หน้าลูกสาวพลางหัวเราะ
“พ่อหัวเราะน้ำทำไม” ยิ่งน้ำทิพย์เอามือป้ายหน้าก็ยิ่งเลอะ อานนท์ก็ยิ่งหัวเราะในความตลกของลูกสาว
“อ๋อ นี่แหนะ มาเลย เอาให้เลอะเหมือนกัน” น้ำทิพย์หยิบพู่กันหมายจะวาดหน้าอานนท์บ้าง 2 พ่อลูกเย้ากันราวกับเป็นคู่รักจนเลอะเทอะไปทั้งตัว
“พอแล้ว ๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปตลาดกัน” อานนท์พูดหัวเราะไปพร้อมล็อคมือน้ำทิพย์ไว้เบา ๆ
“ไม่! พ่อต้องให้น้ำวาดหนวดก่อน” น้ำทิพย์เอียงหน้างอน
“อะจะ อะจะ ก็ได้”
< -------- >
ตลาดยังคงคราคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาเฉกเช่นทุกวัน แต่บรรยากาศในวันนี้กลับแตกต่างจากวันวาน ความมึนตึง และอากัปกิริยาซึ่งเปลี่ยนไปทันทีเมื่อ อานนท์และน้ำทิพย์ย่างก้าวเข้าเหยียบในพื้นที่
“นี่ไง...”
“เออ ไอ้พ่อลูกคู่นี้แหละ”
“ทุเรศว่ะ ทำไปได้ไงวะ ไม่กลัวนรกจะกินกบาลเอารึไงก็ไม่รู้”
“ใช่ ๆ มีแต่หมาเท่านั้นล่ะ ชั้นว่านะ” เสียงกระซิบกระซาบกันของพ่อค้าแม่ขายดังระงมไปทั่ว เมื่อเค้าและเธอเดินผ่านหน้าร้าน ก็จะมีดวงตามองจ้องมายัง 2 พ่อลูกอย่างหยามเหยียดเหมือนเป็นตัวประหลาด น้ำทิพย์รู้สึกแปลก ๆ ปนหวาดกลัว ด้วยสัญชาติญาณทำให้เธอยก 2 มือขึ้นกอดแขนผู้เป็นพ่อเพื่อหาความปลอดภัย
“แม่ค้า เอาผักนี่หน่อยสิคะ” น้ำทิพย์ชี้ไปยังผักสีเขียวสดน่ารับประทาน
“ไม่ขาย! ไป ๆ ออกไปจากหน้าร้านชั้น เดี๋ยวเสนียดจะมาติดเอา ไป!” แม่ค้าตะโกนไล่เสียงดัง พร้อมปาเศษผักใส่เธอด้วย
“ใช่! ไปเลย ออกจากที่นี่ไปเลย ไม่มีใครขายของให้แกหรอก ไป! ออกไป!!”
“พวกเราไม่ให้ไอ้พวกวิปริตอยู่ร่วมกับพวกเรา ไป! ออกไป ย้ายออกไป” ทั้งแม่ค้า พ่อค้า ชาวบ้านร้านตลาดซึ่งจับจ่ายซื้อของต่างรุมด่า ทั้งไข่ ทั้งน้ำทิ้ง ถูกขว้าง และสาดเข้าใส่ 2 พ่อลูก ราวกับไล่หมูไล่หมา จนอานนท์ต้องโอบศีรษะลูกสาวไว้ในอ้อมอก โดยเอาตัวเองเป็นโล่กำบังจัดแจงรีบพาเธอออกจากตลาด สิ่งปฏิกูลเหลือทิ้งยังคงประดังเข้าหาร่างเค้า พลันก้อนหินขนาดย่อม ๆ ก็ปลิวกระแทกเข้ากับหางคิ้วซ้ายอย่างจัง เลือดแดงฉานไหลเป็นทาง แต่ความเจ็บปวดหาทำให้เค้าหยุดการเดินฝ่าฝูงชนที่ด่าทอและขว้างปาไม่
“ถ้าไม่ย้ายออกเราจะให้ผู้ใหญ่บ้านขับพวกแกออก” เสียงขับไล่ยังดังไล่หลัง แม้เค้าและเธอจะหลุดออกจากบริเวณตลาดแล้วก็ตาม
< -------- >
ทันทีที่กลับถึงบ้าน น้ำทิพย์จัดแจงหยิบกล่องยาเพื่อทำแผลให้อานนท์ผู้เป็นพ่ออย่างร้อนใจ โดยไม่สนว่าร่างกายของเธอในตอนนี้ก็สกปรกเปียกปอน และบอบช้ำไม่น้อยไปกว่าเค้า น้ำทิพย์ยืนด้วยเข่าตรงหน้าอานนท์ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา มือไม้หยิบลำลีอย่างลนลาน
“พ่อขอโทษ” อานนท์ยกมือขึ้นจับมือลูกสาวที่กำลังใช้สำลีเช็ดแผลบริเวณหางคิ้วพร้อมเอ่ยคำขึ้นทำลายบรรยากาศแห่งความเงียบ เค้ามองประสานสายตาแห่งความเศร้าหมอง
“น้ำต่างหากที่ต้องขอโทษพ่อ น้ำทำให้พ่อต้องอัปยศในสายตาคนอื่น” น้ำทิพย์ตอบเสียงสะอื้น เพียงเสียววินาที น้ำตาก็พลันไหลอาบแก้ม
“ลูกคนดี อย่าร้องไห้”
“เราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันดีไม๊ค่ะพ่อ”
“โลกกว้างใหญ่ แต่ไม่มีที่สำหรับคู่รักที่เป็นพ่อลูกกันหรอก เราต้องยอมรับว่าพวกเราผิด” อานนท์อธิบายอย่างปลงในสิ่งที่ได้กระทำ
“ไม่ค่ะ พ่อไม่ผิด” น้ำทิพย์ร้องสะอื้นโผเข้ากอดอานนท์ เธอร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจ เธอรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรับไม่ได้กับการกีดกันของสังคม ในเบื้องลึกนั้นน้ำทิพย์วาดฝันจะใช้ชีวิตคู่กับอานนท์อย่างมีความสุขแต่หาใช่ในฐานะลูกไม่ เธอปรารถนาถึงการมีเจ้าตัวน้อยและได้ร่วมเลี้ยงดูให้เติบใหญ่กับเค้า ลูกของเธอจะได้รับความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่อย่างที่เธอไม่เคยมีโอกาสได้รับมาก่อน
“ในเมื่อชาตินี้เรารักกันไม่ได้ น้ำขอให้ชาติหน้าและทุกชาติไปได้เกิดเป็นคู่รักกับพ่อ” น้ำทิพย์เงยหน้าขึ้นพูด ประกายของแววตาบ่งบอกถึงแรงอธิฐานอย่างตั้งมั่น อานนท์เมื่อได้ฟังก็มองลูกสายอย่างลึกซึ้ง ทั้ง 2 เหมือนมีจิตประสานกัน รู้ได้ถึงความต้องการของแต่ละฝ่าย ต่างคนต่างพยักหน้าให้กันเบา ๆ
< -------- >
ใต้แสงเทียนบนโต๊ะอาหารตัวเล็ก ๆ กับข้าวซึ่งพอจะหาได้จัดวางไว้อย่างน่าทาน อานนท์และน้ำทิพย์กับมื้อค่ำที่แปลกไปทั้ง 2 แต่งตัวเหมือนไปทานร้านอาหารหรู ๆ อานนท์ในชุดสูทสีเทาดำดูหล่อภูมิฐาน น้ำทิพย์กับชุดราตรียาวเกาะอกสีครีมออกเลื่อม เค้าและเธอรับประทานอาหารภายใต้บรรยายกาศแห่งความสุขราวกับไม่มีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้นเมื่อยามเย็น ช้อนและส้อมถูกวางลงเป็นสัญญาณว่าทั้งคู่อิ่มเอมกับอาหารมื้อนี้แล้ว
“ลูกไม่เสียใจนะ” ไม่มีเสียงตอบใด ๆ มีเพียงการส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข เช่นนั้น อานนท์จึงยืนขึ้นเดินไปข้างน้ำทิพย์แล้วผายมือออก เธอยกมือขึ้นแตะพร้อมลุกขึ้นเป็นสัญญาณว่าเธอเต็มใจและไม่เสียใจในสิ่งที่จะกระทำในอีกชั่วไม่กี่นาที ทั้ง 2 เดินไปยังห้องนั่งเล่นซึ่งมีเทียนประดับส่องแสงระยับตาดูสวยงาม บริเวณกลางห้องอานนท์ประคองมือน้อย ๆ ของลูกสาวขึ้น ค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนแต่งงานซึ่งเป็นวงเดียวกับที่แม่ของน้ำทิพย์ส่งคืนให้เค้า มันช่างดูเหมะสมกับนิ้วเรียวยามของเธอเสียนี่กระไร
“ไม่ว่าชาตินี้” เสียงนุ่มลึกของอานนท์เอ่ยขึ้นเมื่อแหวนถูกสวมจนสุดนิ้วนางข้างซ้าย
“หรือชาติไหน ๆ” น้ำทิพย์ตอบรับด้วยความเต็มใจ
“เราจะรักกันตลอดไป” เสียงประสานเป็นสัญญาให้ตรีโลกได้เป็นพยาน ก่อนอานนท์จะก้มลงบรรจงประทับรอยจูบอย่างนุ่มนวล ทั้ง 2 ก้าวขึ้นบนเก้าอี้ที่ตระเตรียมไว้ ต่างคนต่างจัดแจงจับผ้าซึ่งมัดเป็นบ่วงคล้องเข้ากับลำคอของตน อานนท์และน้ำทิพย์มองตากันอีกครั้ง ไม่มีแม้คำพูดเอ่ยห้าม แต่กลับยื่นมือสอดประสานกันไว้ จากนี้ไปอีกไม่กี่วินาทีจะไม่มีใครพรากเค้าและเธอจากกันได้อีก เก้าอี้สิ่งยึดเหนี่ยวชีวิตชิ้นสุดท้ายถูกถีบออกพร้อม ๆ กัน ถึงจะต้องการตายเพียงใด แต่สัญชาติญาณของการสิ่งมีชีวิตก็ยังแสดงให้เห็น การดิ้นทุรนทุรานเมื่อขาดอากาศหายใจดูน่าเศร้าสะพรึงกลัวยิ่งนัก แต่เหมือนสวรรค์ไม่เห็นด้วยในสิ่งที่พ่อลูกกระทำ พลันผ้าซึ่งผูกคอน้ำทิพย์กลับขาดวิ่น ร่างน้อย ๆ ล่วงลงกระแทกพื้น เธอไอด้วยความแสบในลำคอ สูดลมหายใจเหมือนได้เกิดใหม่ แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ทำเอาเธอซ๊อค ร่างของพ่อบังเกิดเกล้ากระตุกหน้าแดงก่ำลิ้นจุกปาก
“พ่อ!!! พ่อ” เสียงกรีดร้อง พร้อมการกระทำอันไร้ซึ่งการยั้งคิด น้ำทิพย์รีบเข้าไปกอดขาอุ้มพยุงเพื่อให้ลำคอของอานนท์หลุดจากบ่วง ความลนลานตื่นตระหนกส่งให้เธอวิ่งไปยังโทรศัพท์ มีเพียงเบอร์เดียวในสมองคือ 191 เท่านั้นที่จดจำได้ในเวลานี้
“ช่วยด้วยค่ะ!!! ช่วยด้วย!!!” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดั่งคนบ้าเสียสติ เปล่งออกทันทีเมื่อมีผู้รับสาย
“ที่ไหนครับ แจ้งสถานที่ด้วยครับ” ด้วยจิตอันสับสนวุ่นวาย น้ำทิพย์ทิ้งหูโทรศัพท์วิ่งกลับไปยังห้องนั่งเล่นอีกครั้ง และแล้วอาการยืนนิ่งตัวแข็งทื่อตาเหม่อลอยก็เกิดขึ้น เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณห้อยต่องแต่งอยู่กลางห้อง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!” เสียงกรีดร้องลั่นบ้านดังสนั่น
< -------- >
“ไป ๆ ๆ เข้าไป” เสียงแข็งขันออกคำสั่งเมื่องัดประตูบ้านออกได้ ตำรวจซึ่งตรวจสอบหมายเลยต้นทางจึงรู้ว่ามีเหตุเกิดที่ใด ทีมค้น 2-3 คนถึงกับผงะ เมื่อเห็นภาพภายในห้องนั่งเล่น ร่างสาวน้อยผมเผ้ายุ่งเหยิงคุดคู้กอดเข่าสะอื้นอยู่มุมห้อง กับศพชายหนุ่มซึ่งห้อยอยู่ตรงกลาง
“เรียกรถพยาบาลด่วน” ทันทีที่รถพยาบาลมาถึงนางพยาบาลก็รีบเข้าไปประคองร่างสาวน้อยซึ่งอยู่ในอาการซ๊อคน้ำตาอาบแก้ม ส่วนอีกฝั่งก็ตัดผ้านำร่างของอานนท์ลงสู่พื้น น้ำทิพย์เห็นก็ปรี่เข้าโอบกอดร่างไร้วิญญาณของพ่อเธอทันที
“พ่อ... น้ำรักพ่อ เราแต่งงานกันแล้ว... พ่อ... พ่อพาน้ำไปด้วย” เสียงพูดสะอื้นฟังแทบไม่ได้ศัพท์ แต่ก็ทำให้ทั้งพยาบาลและตำรวจอึ้งไปเมื่อได้ยิน
< -------- >
“ปล่อย!!! ปล่อยหนูออกไป หนูไม่ได้บ้า ปล่อยหนู” เสียงตะโกนร้องเรียกหาอิสรภาพของเด็กสาว ซึ่งบัดนี้ถูกจับขังอยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตประสาท น้ำทิพย์ทุบประตูห้องเธอพยายามบอกใครต่อใครว่าเธอไม่ได้บ้า แต่ไม่มีใครฟัง
“อีบ้านี่อาละวาดอีกแล้ว เฮ่อ!”
“น่าเบื่อที่สุด แต่คนบ้ามันก็ต้องบอกว่ามันไม่บ้าแหละ อย่าไปถือมันเลย” พยาบาลผู้คุมพูดคุยกันตามประสา
“ว่าแต่แหวนมันสวยนะ ทำไมถอดไม่ออกก็ไม่รู้”
“ใช่! ถ้าถอดออกชั้นหยิบมาตั้งแต่แรกแล้ว คงขายได้หลายเงิน” ต่างคนต่างกระซิบกระซาบกันอย่างออกรส แต่ฝ่ายถูกกล่าวถึงนั้น ค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน เธอร้องไห้พลางเหม่อมองแหวนซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนสุดท้ายของอานนท์ พ่อผู้เป็นที่รัก
To be continue
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น