ขายของ

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Forbidden Love – IV ตลอดกาล

ทิวากรส่องแสงลอดผ่านผ้าม่าน วัชรียังคงซุกกายภายใต้ผ้าห่มอุ่น เธอยังอ่อนเพลียจากเหตุการณ์เมื่อคืน หญิงสาวไม่วี่แววว่าจะลืมตาขึ้นแม้แต่น้อยเพราะหลังจากกลับเข้าห้องมา เธอยังต้องเก็บกวาดสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชือก เทียนไข และแม้กระทั้งอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อขจัดคราบน้ำรักที่ลูกชายฝากเอาไว้ในตัวเธอ เวลาล่วงเลยไปถึง 10.30 น. สัมผัสอุ่น ๆ บริเวณแก้มก็ทำให้วัชรีลืมตาขึ้น “กลับมาแล้วหรือค่ะ” วัชรีเอ่ยถามเมื่อพบสามีอันเป็นที่รักนั่งอยู่ด้านข้างพลางลูบไล้พวงแก้มเธอด้วยความเอ็นดู “จ้า ผมคิดถึงคุณจัง” ไกรศักดิ์ก้มลงหอมแก้มภรรยาเบา ๆ เค้าสอดมือเข้าภายใต้ผ้าห่มอุ่น ในไม่ช้า เต้าอวบก็ถูกประคองเคล้นเบา ๆ เค้าอดใจไว้ก่อนที่จะไปสัมมนาจนกระทั่ง 2 วันผ่านไป ความต้องการจึงยิ่งมากเป็นเท่าทวี เมื่อได้เห็นภรรยาสุดที่รักหลับใหลดูไร้เดียงสาก็ยิ่งต้องการมากขึ้น ไกรศักดิ์ค่อย ๆ พรมจูบเลื่อนไปยังริมฝีปากอิ่ม มันช่างนุ่มนวลและหอมหวาน “ศักดิ์ค่ะ กี่โมงแล้ว” วัชรีเบือนหน้าหนี อันที่จริงเธอก็มีความต้องการแต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้ว เธอกลับกังวล ความรู้สึกผิดพาให้คิดไปต่าง ๆ นานา กลัวว่าร่วมรักกับสามีแล้วเค้าจะจับได้ กลัวว่ากลิ่นของลูกชายจะติดตัวของเธอ “จะ 11 โมงแล้วจ้ะ ทำไมเหรอ” “คุณทานข้าวรึยัง เดี๋ยวชั้นจะลงไปทำให้” “ยังเลย แต่ผมอยากกินคุณมากกว่า” ไกรศักดิ์พูดหวานกระเซ้าพร้อมก้มหน้าลงหมายจะจูบวัชรี “อย่างเพิ่ง ไปอาบน้ำก่อน” วัชรีพยายามบ่ายเบี่ยงและดันตัวสามีเธอเบา ๆ “งั้นก็ได้” “ค่ะ ชั้นจะลงไปทำอะไรให้ทาน” หญิงสาวยันตัวขึ้นหอมแก้มสามี ก่อนจะผละจากเตียงนุ่ม ๆ < -------- > “ไม่มีอะไรเหลือเลยเหรอเนี่ย” เสียงบ่นกับตัวเองเมื่อเปิดตู้เย็นแล้วเห็นเพียงว่างเปล่า วัชรีเหลียวมองนาฬิกา “11 โมงกว่า... อื่ม” วัชรีจัดแจงขึ้นห้องแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงผ้าขาสั้นคือชุดที่เธอเลือกใส่ “ศักดิ์ค่ะ! ชั้นไปคาร์ฟูเดี๋ยวนะ” หญิงสาวกลับลงมาพร้อมกุญแจรถ เธอตะโกนบอกสามีซึ่งยังอยู่ในห้องน้ำแล้วเดินออกจากบ้านโดยไม่รอฟังคำตอบ “จ้า!” < -------- > “สดชื่น” ชายหนุ่มเดินออกจากห้องน้ำ ด้วยสภาพผ้าขนหนูผืนเดียว เค้าเดินไปพลางใช้ผ้าผืนเล็กอีกผืนขยี้เช็ดผมไปพลาง ไกรศักดิ์ยังคงสะกดเก็บความต้องการไว้ การอาบน้ำในครั้งนี้จึงไม่รวมถึงการสำเร็จความใคร่แต่อย่างใด “อ้าว! วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ ทำไมรองเท้ายังอยู่ล่ะ” ไกรศิกดิ์ทำสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นรองเท้าของลูกสาว เค้าเดินเช็ดศีรษะขึ้นบันได แล้วหยุดลงตรงหน้าห้องไพริน “ริน... ริน” ไกรศักดิ์ร้องเรียกพร้อม ๆ กับบิดประตูเข้าไป ถึงในห้องจะไม่ได้เปิดแอร์แต่ไอเย็นจากเมื่อคืนยังคงสะสมให้รู้สึกสบาย และก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ เบื้องหน้าคือเด็กสาวนอนตะแคงซ้ายหันหลังให้ ไพรินยังคงนอนอยู่บนเตียง ทั้งร่างมีอาภรณ์ปกปิดอยู่เพียงชิ้นเดียวคือผ้าขนหนู ส่วนท่อนเอวลงไปมีผ้าห่มปิดอยู่ “กลับมาแล้วเหรอค่ะพ่อ” เสียงเอื่อยทักทาย ใบหน้าที่เหลียวมาดูซีดเซียวแต่ไม่มากนัก ทำให้ไกรศิกดิ์รู้ทันทีว่าลูกสาวไม่สบาย เค้าเดินไปนั่งข้าง ๆ ด้านขวาของเธอพร้อมเอื้อมเอาหลังมือแตะบริเวณหน้าผาก “โห... ตัวร้อนจี๋เลย” ไกรศักดิ์ชักมือออก เค้าไม่รู้หรอกว่าอันที่จริงแล้วมันไม่ได้ร้อนขนาดนั้น แต่ที่เค้ารู้สึกเช่นนั้นก็เพราะความเย็นจากตัวเค้าหลังอาบน้ำนั่นเอง “แล้วทานยารึยัง” ไพรินส่ายหน้าแทนคำตอบ ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งลงห้องครัว นม 1 กล่องกับยาแก้ไข้ 2 เม็ดถูกนำเข้ามายังห้องอย่างรวดเร็ว ไกรศักดิ์ใช้มือซ้ายสอดประคองร่างลูกสาวลุกขึ้นนั่งโดยใช้แผ่นอกกำยำของเค้าเป็นเสมือนที่อิงรับน้ำหนัก “ดื่มนมหน่อยนะลูก” ริมฝีปากเรียวสีชมพูดูดนมจากหลอดด้วยแรงอันน้อยนิด “พอแล้วค่ะพ่อ” ไพรินพูดพร้อมส่ายหน้าช้า ๆ ทั้ง ๆ ที่ดื่มไปได้นิดเดียว “งั้นกินยาแล้วนอนพักผ่อนนะ” ไกรศักดิ์ยื่นยาให้ลูกสาว ดีที่ไพรินเป็นคนทานยาง่าย เธอรับมันใส่ปากแล้วดื่มน้ำตาม ผู้เป็นพ่อค่อย ๆ ประคองลูกสาวให้นอนลงช้า ๆ แต่ไกรศักดิ์ยังคงเป็นห่วงลูกสาว ความรู้สึกถึงความร้อนขนาดนี้อาจทำให้ช็อคได้ เค้ารีบจัดแจงเดินออกจากห้องลงไปยังครัวอีกครั้ง แล้วกลับเข้ามาพร้อมผ้าสะอาดกับน้ำ 1 ถังเล็ก ๆ “พ่อว่าลูกเช็ดตัวระบายความร้อนหน่อยดีกว่า” ยังไม่ทันได้รับคำตอบใด ๆ ด้วยความเป็นห่วง ไกรศักดิ์รีบหยิบผ้าชุบน้ำบิดจนเกือบแห้งซับเบา ๆ บริเวณใบหน้า ซึ่งบัดนี้เธอกลับไปนอนท่าตะแคงคุดคู้เช่นเดิมแล้ว “ไหน... นอนดี ๆ ซิลูก” ไพรินค่อย ๆ ขยับร่างนอนหงายอย่างคนไร้เรี่ยวแรง เธอยังคงหลับตาด้วยสภาพเหนื่อยอ่อน ไกรศักดิ์ชุบน้ำบิดผ้าอีกครั้ง เค้าจับข้อมือขวาเธอยกขึ้นซับผ้านุ่ม ๆ กับนิ้วมือ ผ่ามือและเลื่อนลงไปยังต้นแขน แต่ทั้งเค้าและเธอไม่รู้เลยว่าเมื่อไกรศักดิ์ยกแขนลูกสาวขึ้นกอบกับการเอี้ยวตัวเมื่อครู่ทำให้ปมผ้าขนหนูคลายออก เค้าโน้มตัวเอื้อมคว้าข้อมือซ้ายของลูกสาวมาพาดหน้าอกอิ่มเพื่อให้สามารถเช็ดได้ง่าย เมื่อเช็ดเสร็จไกรศักดิ์ก็ดันแขนให้กลับเข้าที่ แต่การทำเช่นนั้นมันทำให้ต้นแขนของเธอครูดกับปมผ้าขนหนู ส่งให้ปลายพับแบะออก เมื่อไกรศักดิ์ได้เห็นก็หายใจติดขัดทันที จากที่ไม่เคยคิดเรื่องลามกกับลูกสาว แต่ภาพเบื้องหน้าส่งให้รู้สึกวูบวาบ แก่นกายภายใต้ผ้าขนหนูค่อย ๆ พองช้า ๆ เค้ามองหน้าลูกสาว ไพรินยังคงหลับใหล เธอคงรู้สึกสบายตัวที่ได้ระบายความร้อนออกจากร่าง ไกรศักดิ์กวาดสายตาลงมายังหน้าอกอิ่มอีกครั้ง เต้าอวบเป็นลูก มันกระเพื่อมขึ้นลงช้า ๆ เป็นจังหวะ ความขาวเนียนบริเวณเนินนั้นงดงามหาที่ติไม่ได้ เค้ายกมือซึ่งจับผ้าเช็ดตัววางลงบนเนินอกด้วยความประหม่า ร่างของเค้าสั่นเทามือเท้าเย็น แต่ภายในร้อนรุ่มวูบวาบ ความที่ไม่ได้ปลดปล่อยน้ำกามมาหลายวัน สิ่งที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้ท่อนเนื้อแข็งจนปวด ภาพในสมองครั้งเมื่อได้ร่วมรักกับเด็กสาวตรงหน้าผุดเข้ามา ความโอบรัดลำลึงค์และอบอุ่นภายในร่องหลืบนั้นยากจะลืมเลือน ไกรศักดิ์คิดไปพลางมือค่อย ๆ เช็ดไปพลางอย่างแผ่วเบา และเหมือนมนต์สะกดใบหน้าอ่อนหวานงดงามหลับใหลราวเจ้าหญิงนิททรา พาให้ไกรศักดิ์ปล่อยผืนผ้าตกลงบนเตียง แต่ทว่ากลับใช้นิ้วมือลูบไล้แทน มันช่างนุ่มเนียนไร้สิ่งสะดุด เค้าแซะปลายนิ้วเข้าใต้ขอบผ้าขนหนูช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เลื่อนฝ่ามือลงไป มันเดินทางผ่านร่องอกลงไปช้า ๆ ไกรศักดิ์นั้นหัวใจแทบหยุดเต้นด้วยความระทึก แต่เด็กสาวกลับสงบนิ่งจังหวะการหายใจยังคงที่เหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “ฮู่...” ไกรศักดิ์ถอนหายใจยาวเมื่อบัดนี้ฝ่ามือเค้าได้กุมเอาเต้าอวบไว้เต็มอุ้ง ยอดถันแข็งเต่งเป็นเม็ดเบียดเข้ากับฝ่ามือสร้างความรู้สึกดีอย่างยิ่งยวด ไกรศักดิ์เริ่มออกแรงเคล้นมันเบา ๆ ด้วยอาการหายใจไม่ทั่วท้อง เต้าอวบช่างสมบูรณ์เหลือเกิน มันแข็งเป็นไตแต่ทว่านุ่มมือ เค้ามองหน้าลูกสาวอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับ ในยามนี้คงไม่ต้องคิดสิ่งใดมาก ความเงี่ยนที่สะสมและเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น ณ บ้านอุ่นรัก ไกรศักดิ์ถอนผ่ามือออก เค้าจับผ้าขนหนูแย้มออกทั้ง 2 ข้างอย่างช้า ๆ และแผ่วเบา “งามมาก” เสียงพูดราวกระซิบ เมื่อได้ประจักษ์ต่อสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ผ้าขนหนูเปิดออกเผยให้เห็นเต้าเต่งสวยสมเป็นเด็กสาวแรกรุ่น ขนาดกำลังพอเหมาะ มันตั้งแม้ยามนอนก็ไม่แบะออกด้านข้างให้ดูเสียทรง ปานสีชมพูอ่อนดั่งกลีบกุหลาบ ปลายยอดเป็นเม็ดเท่าปลายก้อยเต่งท้าให้โลมเลีย ลำควยใต้ผ้าขนหนูชี้เด่ผ่านร่องผ้าขนหนูออกมาทักทายลูกสาวราวกับคุ้นเคยกันดี ไกรศักดิ์ประกบฝ่ามือเข้ากับเต้าอวบแล้วบีบมันเบา ๆ เต้าอวบในมือนั้นก็พลันยุบตามแรง ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก เค้าคลึงมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างทะนุถนอม กระทั่งเริ่มได้ยินบางอย่าง “อือ...” สายตาไกรศักดิ์กวาดมองไปยังต้นกำเนิดของเสียง ไพรินลูกสาวของเค้านั่นเอง เธอครางอย่างลืมตัว “พ่อ...” และแล้วไพรินก็รู้สึกตัว ตาของเธอเหมือนจะลืมแต่ก็แค่ปรือ ๆ ซึ่งอาจเป็นอาการไข้และฤทธิ์ยาที่ทำให้เธอง่วงซึม “พ่อทำอะไร” เสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินเอยถาม “รินลูกพ่อ นอนนิ่ง ๆ นะ” ไกรศักดิ์พูดเพียงเท่านั้น แล้วบรรจงเคล้นเต้าอวบในอุ้งมือเบา ๆ “อืออ...” ไพรินเริ่มเบี่ยงตัวด้วยความเสียว ถึงแม้จะตกอยู่ในภวังค์แห่งไข้ แต่สัมผัสเสียวจากผู้เป็นพ่อพาให้เธอคิดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอได้เสพสมรับเอาความสุขจากพ่อบังเกิดเกล้าของตนเอง ซึ่งมันก็เป็นความสุขสุดยอดกับผู้ชายครั้งแรกของเธอ ตาซึ่งลืมขึ้นไม่มาก แต่ในระดับนั้นสามารถเห็นดุ้นเนื้อแข็งเด่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลำตัวของผู้เป็นพ่อได้ มันเคยแทรกผ่านในร่องเสียวที่เธอหวงแหน และสร้างความสุขเกินบรรยายมาแล้วหนึ่งครั้ง ยิ่งคิดก็ยิ่งเตลิด มือน้อย ๆ ของเธอค่อย ๆ ยกขึ้นวางบนตักของไกรศักดิ์ ถึงอยากจะสัมผัสมันเพียงใด แต่ความเป็นผู้หญิงก็ทำให้ไม่อาจแสดงออกได้ ไกรศักดิ์เมื่อรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของลูกน้อยก็หันไปมองหน้า สายตาอบอุ่นมองไปยังลูกสาวสุดที่รัก เค้าถอนมือออกมากุมมือไพรินไว้ ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ไกรศักดิ์ประคองมือน้อย ๆ ให้โอบเข้ากับดุ้นเนื้อของตน ซึ่งเธอกับไม่ขัดขืน ไพรินกำมันหลวม ๆ อย่างอาย ๆ แต่ก็กำไว้เพียงเท่านั้น ไกรศักดิ์จึงจับมือลูกสาวให้รูดมันช้า ๆ “ซี๊ดดดส์...” ความอุ่นของอุ้งมือและความนุ่มนวลในการรูดหนังควยทำเอาไกรศักดิ์ซู๊ดปากครางเบา ๆ เค้าค่อย ๆ ก้มตัวลงพาเอาใบหน้าเข้าใกล้ลูกสาว ริมฝีปากค่อย ๆ ประกบจูบประทับลงบนเรียวปากนุ่ม ๆ เพื่อถอนพิษไข้ เค้าบดดูดริมฝีปากเธอแต่ยังไม่สอดลิ้นเข้าไป มันช่างนุ่มนวลหวานหอมราววุ้นใส “อือ...” ลมหายใจอุ่น ๆ ของไพรินพ่นกระทบไกรศักดิ์พร้อมด้วยมือที่ถอดลำควยช้า ๆ แต่ทว่ารูดจนสุด “ซี๊ดดดส์... ลูกพ่อ” มันยากเกินจะจนไหวกับการกลั้นเสียงครางแห่งความเสียว ไกรศักดิ์เบือนหน้ากระซิบเรียกลูกสาวเสียงกระเส่าข้างใบหู มือขวาซึ่งใช่ยันตัวเปลี่ยนเป็นลูบไล้หัวไหล่เนียน เหลือไว้เพียงแขนซ้ายไว้รับน้ำหนัก เค้าไม่อยากโถมทับร่างลูกน้อยซึ่งยังมีอาการไม่สบาย ปลายนิ้วถูกไล้ลงประคองเต้าอวบอีกครั้ง แต่ครานี้มันกลับไม่ได้เคล้นคลึงอย่างเคย แต่เปลี่ยนเป็นใช้ ปลายนิ้วโป้งและนิ้วชี้บี้เบา ๆ ตรงยอดถัน “ซี๊ดดส์... พ่อขา” ความเสียวทำเอามือกระตุกชักลำเนื้อไม่เป็นจังหวะ อาการบิดเบียดต้นขาเข้าหากันทำให้ไกรศักดิ์รู้ทันทีว่าลูกสาวเสียวเพียงใด ซึ่งก็ไม่ผิดเลย ภายในร่องหลืบ ณ ตอนนี้ เธอรู้สึกได้ถึงน้ำที่กำลังซึมผ่าน ความร้อนจากอาการไข้ยิ่งทำให้รู้ถึงการไหลของน้ำเหนียวนั้นว่ามันเยิ้มมาถึงง่ามก้น ปากรูนั้นคันยิบจนต้องเบียดถูต้นขาเข้าหากัน ไกรศักดิ์ค่อย ๆ ลดมือลงผ่านหน้าท้องแบบราบสอดเข้าใต้ผ้าห่ม สัมผัสแรกเมื่อเจอเนินนูนคือเส้นไหมบาง ๆ นุ่มคล้ายผมเด็กทารก มันไม่กระด้างเลยแม่แต่น้อย เรื่อยลงไปจนกระทั้งปลายนิ้วกลางแตะเข้ากับรอยแยก เค้ากดนิ้วเบา ๆ แล้วเลื่อนลงช้า ๆ จนสัมผัสกับความฉ่ำเยิ้ม “ซี๊ดดดส์... พ่อ... อื่มมม” ไกรศักดิ์ไม่สนใจเสียงนั้น เค้าค่อย ๆ เลื่อนปลายนิ้วลงไปต่อจนกระทั้งนิ้วกลางจมอยู่ในพูเนื้ออันอวบอูมฉ่ำเยิ้ม มันถูกคลึงเบา ๆ ให้ถูไถกับเม็ดละมุน “อ้า... ซี๊ดดส์” ถึงมีอาการไข้ ร่างกายปวดเมื่อยเพียงใด แต่ด้วยความเสียว ไพรินจึงบิดสะโพกรับนิ้ว คลึงเบา ๆ เพียงไม่กี่ครั้งน้ำซึ่งคั่งอยู่ภายในก็ไหลบ่าชโลมนิ้วจนเปียกชุ่ม มือนุ่ม ๆ ของไพรินเริ่มชักดุ้นควยของพ่อเร็วขึ้น ยิ่งไกรศักดิ์ถูไถเม็ดละมุนเร็วเธอก็ยิ่งชักเร็วตามราวกับลืมความเจ็บป่วยของตนไปชั่วขณะ หรืออาจเกิดจากสารเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาก็เป็นได้ ที่ทำให้เธอกลับสดชื่นขึ้นอีกครั้ง ตาที่เคยปรือลืมไม่ขึ้น ณ บัดนี้ยังคงปรืออยู่แต่ว่าเกิดจากความเสียวซ่าน ริมฝีปากเม้มบ้างกัดบ้างอันเกิดจากความสยิว “อ้า.. พ่อ... ซี๊ดส์... พ่อขา...” ไกรศักดิ์ถอยตัวลงพรมจูบไล่จากซอกคอลงมายังเนินอกอวบ ท่อนเนื้อซึ่งต้องเขยิบตามหลุดออกจากอุ้งมือสาวน้อย ปากของเค้าประกบเข้ากับปลายยอดถันช้า ๆ พาเอาลมปากอุ่นพ่นกระทบก่อนเรียวลิ้นจะตวัดกับปลายเต่ง ถึงแม้เค้าและเธอจะเคยมีสัมพันธ์สวาทกันแล้วก็ตาม แต่ในครั้งนั้นไกรศักดิ์มิได้ลิ้มรสยอดถันนี้เลยแม้แต่น้อย ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ปากและเรียวลิ้นยลความหวานของมัน เค้ากระดกลิ้นดูดเลียอย่างหืนกระหาย เต้าอวบดันใบหน้าปลายยอดสู้ลิ้นยิ่งนัก ฟันถูกขบเบา ๆ เข้ากับปลายยอดเต่ง “ซี๊ดดดส์... พ่อ” การทำงานพร้อม ๆ กันของนิ้ว และปาก ทำเอาเด็กสาวแอ่นอกบิดเอวด้วยความสยิวซ่าน 2 มือเธอยกขึ้นประคองศีรษะผู้เป็นพ่อไว้ < -------- > “อ้าว! หายไปไหนแล้ว” วัชรีซึ่งกลับถึงบ้านแต่ไม่พบใคร “สงสัยหลับไปแล้ว ตกลงจะทานข้าวรึป่าว” เธอวางข้าวของบ่นกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินขึ้นห้องเพื่อดูสามี เธอก้าวขึ้นบันใดโดยไม่รู้ว่ามีสิ่งใดรอเธออยู่ เมื่อสายตามองได้ระดับกับพื้น “วี...” ยังไม่ทันจะได้ถามสิ่งใด วีรพงษ์ก็หันมาใช้นิ้วชี้ปิดปากเป็นสัญญาณว่าอย่างส่งเสียง วัชรีสงสัยเล็กน้อยที่เห็นวีรพงษ์ลูกชายคุกเข่าแอบดูบางอย่างในห้องไพริน แต่เธอก็ไม่ขัดอะไร มันคงเป็นความรีบร้อนของไกรศักดิ์ที่ห่วงลูกสาวจึงงับประตูไม่สนิท เธอนั่งลงตามที่ลูกชายกวักมือเรียกด้วยสายตาฉงน เธอค่อย ๆ คลานเข้าไปยังจุดที่วีรพงษ์อยู่ “แม่ดูสิ” วีรพงษ์กระซิบข้างหูวัชรีเบาที่สุดก่อนจะยันตัวขึ้นยืนด้วยเข่า คำเชื้อเชิญให้มองเข้าไปยังห้องลูกสาวซึ่งประตูแง้มอยู่ยิ่งทำเอาวัชรีงุนงง เพราะเธอคิดว่าลูกสาวไปเรียน “อุ้ย..” วีรพงษ์รีบเอื้อมมือขวาลงปิดปากผู้เป็นแม่ทันที ก่อนที่เธอจะอุทานอะไรออกมามากไปกว่านี้ เค้าส่ายหน้าทำตาขึงขังเหมือนบอกว่าให้ดูไปเงียบ ๆ วัชรีพยักหน้ารับ เค้าจึงค่อย ๆ ถอนมือออก เธอตกใจมากกับสิ่งที่เห็น นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เธอต้องมารับรู้ในสิ่งนี้ สมองเธอหวนคิดไปถึงบ้านอุ่นรักทันที หรือว่าอานนท์สิงเค้าอยู่ วัชรีตัวเย็นวาบเมื่อนึกถึงใบหน้าขาวซีดนั้น วีรพงษ์ยังคงสอดสายตามองไปยังทั้งคู่ซึ่งบรรเลงเพลงรักกันโดยไม่สนใจความคิดของแม่ “ซี๊ดดดส์... พ่อ... อ้า” ไกรศักดิ์ดูดเน้นเม็ดเต่งก่อนจะใช้ลิ้นตวัดทำเอาไพรินคราง เรียวลิ้นนี้ที่เคยโลมเลียร่องสร้างความสยิวทรวงให้เธอมาแล้ว ไม่เพียงแต่คิดมือซึ่งประคองศีรษะพ่อเธออยู่กลับค่อย ๆ ออกแรงดันลงเบื้องล่างเบา ๆ ไกรศักดิ์นั้นรู้ถึงความประสงค์ของเด็กสาว เค้าถอนมืออกจากโคกนูนขึ้นประคองสีข้าง พลางขยับตัวขึ้นคร่อมร่างลูกสาว เค้าพรมจูบจากยอดเต้าลงมาช้า ๆ ไม่รีบร้อน ผ่านหน้าท้องซึ่งแขม่วรับริมฝีปากด้วยความเสียว มือซึ่งประคองศีรษะอยู่สั่นระริก อีกไม่นานเนินนูนก็จะถูกโลมเลียด้วยลิ้นฉ่ำของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง มือทั้ง 2 ของเค้าไล้ลงจากสีข้างลงมาแตะขอบผ้าห่ม มันถูกเลื่อนลงไปอย่างนุ่มนวลพร้อมด้วยสัมผัสของริมฝีปากเข้ามาแทนที่ ปอยไหมบาง ๆ เริ่มเผยออกมาไกรศักดิ์ดอมดมมันอย่างไม่รังเกียจ และแล้ว ผ้าห่มก็ร่นเลยหน้าขาขาวลงไป ต้นขาซึ่งยังแนบชิดติดกันส่งให้เนินโหนกดูโหนกนูนยิ่ง “หอมเหลือเกิน” กลิ่นหอมและความเนียนทำเอาไกรศักดิ์เพ้อ เค้าแนบแก้มและเบี่ยงหน้าไปมาถูไถกับพูเนื้ออย่างหลงใหล จมูกโด่งถูกฝังลงปลายลิ้นแลบเลียกระดกแทรกเข้าในรอยแยกสะกิดเม็ดละมุนทำเอาไพรินผวา “ซี๊ดดส์.. พ่อขา.. พ่อ... อูยยย... รินเสียว” ขาขาว ๆ เริ่มแยกออกโดยอัตโนมัติเพื่อรับสัมผัสเสียว สิ่งที่ประจักษ์ตรงหน้า อีกทั้งเสียงคราง ทำเอาลำควยวีรพงษ์ซึ่งแอบดูอยู่แข็งชี้ เค้าหันซ้ายขวาเหมือนระแวงใครจะเห็นทั้ง ๆ ที่กว่าน้องชายซึ่งเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่อยู่บ้านจะกลับก็เป็นช่วงเย็น แต่สิ่งที่ทำลงไปนั้นก็คือสัญชาติญาณของมนุษย์ และด้วยเหตุนี้เองดุ้นเนื้อภายใต้กางเกงบอลไร้ซึ่งชั้นในก็ชนเข้ากับศีรษะของวัชรีอย่างไม่ตั้งใจ เค้าก้มลงมองหน้าแม่ซึ่งโก้งโค้งดูอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแหย ๆ พร้อมยกมือขึ้นตะเบ๊ะเหมือนขอโทษแล้วหันกลับไปดูต่อ “ซู๊ดดส์.. อ้า” เมื่อสวรรค์เปิดทางให้ ไกรศักดิ์จึงแทรกลิ้นตวัดสลับประกบดูดเม็ดเบา ๆ ได้อย่างง่ายดาย มือทั้ง 2 ที่เคยประคองศีรษะผู้เป็นพ่อบัดนี้เปลี่ยนเป็นขยุ้มปอยผมแสดงออกถึงความเสียวซ่าน ขาซึ่งแยกออกบัดนี้ค่อย ๆ ดึงเข้าหาตัวแล้วแยกชันเข่าให้เรียวลิ้นทำงานได้สะดวกขึ้น “โอ้วว์... ซี๊ดดดส์... พ่อ... ริน..” ไพรินผวายกตัวก่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียงช้า ๆ เมื่อไกรศักดิ์สอดนิ้วเข้าในรูหีช้า ๆ ถึงน้ำหล่อลื่นจะพร่างพรูก็ตาม แต่มันยังทั้งคับทั้งแน่น เค้าหมุนนิ้วซ้ายขวาช้า ๆ จนเข้าได้สุดโคนนิ้วชี้ “ซี๊ดดส์... พ่อ... รินเสียว... อู้ยยยว์” เสียงครางดังขึ้นพร้อม ๆ กับนิ้วมือที่เลื่อนออกช้า ๆ ไพรินเผลอขมิบนิ้วด้วยความเสียว “โอ้ววว์... ซี๊ดดส์” ไม่มีสิ่งใดนอกจากเสียงครวญครางแห่งความสยิว ไกรศักดิ์เริ่มแยงนิ้วเข้าออกในร่องหีช้า ๆ พร้อม ๆ กับตวัดเลียเม็ดละมุนไม่ขาด เนินนูนของเด็กสาวเริ่มกระดกรับเป็นจังหวะ มือทั้ง 2 เกร็งจับศีรษะผู้เป็นพ่อแน่น “พ่อคะ... ซี๊ดดส์” ไพรินพยายามดึงรั้งศีรษะไกรศักดิ์ขึ้น สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ คือ ดุ้นควยของเค้า เธออยากให้มันแทรกเข้าไปลึก ๆ ลึกกว่านิ้วที่กำลังสร้างความกระสันให้เธอในตอนนี้ ไกรศักดิ์ถอนนิ้วมือออกช้า ๆ น้ำเงี่ยนใสยืดตามดูให้เกิดอารมณ์ เค้ายันตัวขึ้นคุกเข่า สายตามมองร่างเปลือยของลูกสาว ช่างเหมือนนางฟ้าเสียนี่กระไร นางฟ้าตัวน้อย ๆ เค้าดึงข้อมือลูกสาวเบา ๆ เธอยกตัวขึ้นอย่างว่าง่าย อาการไข้เมื่อครู่ดูเหมือนจะหายไปเสียสิ้น ไกรศักดิ์ยืนขึ้นพร้อมประคองให้ลูกสาวนุ่งคุกเข่า บัดนี้ตรงหน้าของเธอคือดุ้นเนื้อภายใต้ผ้าขนหนู มันชี้เด่ประกาศศักดาท้าทาย ไพรินเงยหน้ามองพ่อ เธอรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร มือน้อย ๆ ยกขึ้นอย่างประหม่าแตะเข้ากับปมผ้าขนหนู เธอค่อย ๆ แกะมัน ทันทีที่ปมหลุดผ้าขนหนูอาภรณ์ชิ้นเดียวของเค้าก็กองลงกับเตียงเหลือแต่เพียงดุ้นเนื้อเขื่องชี้เชิด แต่เมื่อคิดไปว่ามันกำลังจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอในไม่ช้า กลับทำให้เสียวสยิวจนน้ำเงี่ยนในร่องหีไหลเยิ้มลงมายังต้นขาด้านใน ไพรินประคองมันด้วยมือที่ปลดผ้า เธอยื่นหน้าเข้าหามันช้า ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้ มืออีกข้างยกขึ้นจับสะโพกไกรศักดิ์เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ซี๊ดดดส์... อูวว์... ซี๊ดดดส์” ไกรศักดิ์เกร็งมือแหงนหน้าหลับตาปี๋ มันเสียวซ่านจนเกินบรรยาย ปากอันสวยงามอบอุ่นค่อย ๆ ครอบเข้ากับดุ้นควยเค้าช้า ๆ ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่ไพรินไม่ใช่เด็ก เธอเคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาบ้างแล้วในหมู่เพื่อนฝูง เธอถอนปากออกแล้วยื่นหน้าเข้าไปใหม่ โดยที่พยายามให้ปากกระชับกับลำควย เธอนึกถึงตอนที่ลำควยครูดเข้าออกในรูหี ไพรินพยายามทำให้ปากของเธอเป็นรูหีที่โอบกระชับและนุ่มนวล เรียวลิ้นในปากเริ่มตวัดกับหัวถอกเพื่อเพิ่มความสยิว เธอไม่รู้เลยว่าครั้งแรกของเธอกับการใช้ปากทำรักนี้สร้างความสุขให้กับผู้เป็นพ่อมากเพียงใด ผู้หญิงบางคนที่ผ่านชายมามากมายอาจทำได้ไม่ดีเธอในครั้งแรกนี้ หรืออาจเป็นพรสวรรค์ที่พระเจ้ามอบให้ก็เป็นได้ ด้านนอกห้องนั้น จากที่วัชรีรู้สึกรังเกียจกับการที่พ่อร่วมประเวณีกับลูกสาวตัวเอง แต่เมื่อดูไปนานเข้ากลับเกิดอารมณ์ร่วม ความเย็นเยือกในกายเมื่อครู่ปรับเปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่ม ยิ่งนึกไปว่าเธอกำลังเป็นผู้แอบดูก็ยิ่งพาให้ตื่นเต้นใบหน้าเธอร้อนผ่าวแขนซึ่งยันพื้นเริ่มสั่นคล้ายจะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว วัชรีหันซ้ายเล็กน้อยก็พบกับแทงเนื้อชี้เด่ภายใต้กางเกง เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกชายซึ่งยังคงสอดส่องแอบมองอย่างไม่ละสายตา เค้าไม่รู้เลยว่าขณะที่ดูอยู่นั้นบางครั้งลำเนื้อของเค้าจะกระตุกตามจังหวะชีพจร วัชรีกลืนน้ำลายเบา ๆ เธอเม้มปากคล้ายอดกลั้นอะไรบางอย่าง แล้วหันกลับไปมองยังห้องลูกสาวต่อ “ลูกพ่อ... ซี๊ดดส์... ลูกพ่อเก่งจัง...” ไกรศักดิ์ยกมือขึ้นจับศีรษะลูกสาวเป็นหลักแล้วค่อย ๆ โยกเอวกระเด้าเย็ดปากน้อย ๆ ภาพที่เห็นทำเอา 2 แม่ลูกเกิดอารมณ์เงี่ยนอย่างสุด ๆ วีรพงษ์ก้มลงมองแม่ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอหันมองเค้า สายตาเว้าวอนของลูกชายส่งเป็นสัญญาณให้เธอตีความได้ไม่ยาก วัชรีชั่งใจเล็กน้อย แต่ความเงี่ยนที่ส่งผ่านไปยังร่องหีให้ขมิบน้ำรักออกมาเหมือนเป็นคำตอบ เธอจับขอบกางเกงบอลของลูกชายดึงลง ลำควยเขื่องไม่ต่างกับของไกรศักดิ์ดีดผึงทันที วีรพงษ์มองทุกอิริยาบถแม่บังเกิดเกล้า เค้ากลั้นใจเตรียมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น “อื่มมม...” เสียงครางเบาที่สุดที่จะกลั้นไว้ได้ เมื่อปากอุ่น ๆ ของวัชรีอมเอาหัวถอกของเค้าไว้ มันช่างเป็นความสุขที่เหนือความคาดหมาย เค้าไม่คิดเลยว่าจะได้เย็ดปากแม่ของตัวเอง และยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเช่นนี้ยิ่งส่งให้มันเสียวไปทั้งตัว แต่ความสุขนี้กลับแฝงไปด้วยความอัดอั้น ความเสียวหัวถอกจนถึงไขสันหลัง ความซาบซ่านจนอยากกระโกนออกมาดัง ๆ แต่กลับทำได้เพียงสะกดมันไว้แล้วเสพความเสียวเข้าไปโดยไม่มีทางระบายออก ฝ่ายวัชรีก็โยกตัวดูดควยลูกชายอย่างชำนาญ ยิ่งมันพองกระตุกทุกครั้งที่ปลายลิ้นตวัดรูตรงปลายยิ่งทำให้เธอเงี่ยน ถ้าเป็นไปได้เธออยากให้ดุ้นเนื้อซึ่งแข็งเป็นแท่งเข้าไปครูดกระตุกในรูหีเธอในตอนนี้ ยิ่งคิดน้ำเงี่ยนก็ยิ่งไหลบ่าออกมา อาการคันยิบมันแกล้งเธอให้ทรมาน “ซี๊ดส์.. อ้า.. ซี๊ดดส์.. อ้า... โอ้ววว.. พอแล้วลูก... ซี๊ดดส์... พอแล้ว” ไกรศักดิ์เกร็งมือให้ไพรินหยุด เพราะเค้ารู้ดีว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นานน้ำเงี่ยนที่เค้าสะสมไว้จะกระฉูดออกมา ไพรินถอนปากออก น้ำลายยังเยิ้มเป็นสายลำควยที่เธอเห็นในครั้งนี้ยิ่งดูน่ากลัว มันแข็งเชิด หัวแดงก่ำ เยิ้มไปด้วยน้ำลายของเธอ ไกรศักดิ์ทรุดตังลงนั่ง เค้าโถมร่างกำยำเข้าหาลูกสาวช้า ๆ เธอก็ค่อย ๆ ประคองตัวจนนอนหงายในที่สุด บัดนี้มันถึงเวลาแล้วเวลาที่ 2 พ่อลูกจะเสพสมกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ต้องมีสิ่งใดมาดลใจหรือสิงสู่ ครั้งนี้เกิดจากความสมัครใจของเค้าและเธอ ไกรศักดิ์คร่อมร่างลูกสาวไว้โดยตัวเองแทรกอยู่หว่างขาเธอ เค้าก้มลงประจบจูบเธอ 2 มือของสาวน้อยลูบไล้ขึ้นโอบกอดแผ่นหลังเค้า หัวถอกซึ่งอยู่ห่างจากรูหีไม่ถึงคืบกำลังกระตุกงึก ๆ มันรู้ดีว่าอีกไม่ช้ามันจะได้แทรกตัวเข้าไปฝังอยู่ในโพรงอันอบอุ่น ลิ้นของเค้าและเธอตวัดสัมผัสกันช้า ๆ แต่ทว่าหนักหน่วง มือน้อย ๆ ซึ่งลูบไล้แผ่นหลังอยู่ค่อย ๆ เลื่อนไล้ผ่านลงมายังสีข้างแล้วสอดผ่านลำตัวของเค้า “อื่มมม” เสียงครางทั้งยังจูบกันอย่างดูดดื่มนั้นแสดงให้เห็นว่าเค้าเสียวเพียงใด มือนุ่มที่สอดผ่านลงไปเมื่อครู่กำลังถอกควยเขื่องของเค้าเป็นการเชิญชวน ไกรศักดิ์เองก็เงี่ยนมาแล้วจึงค่อย ๆ หย่อนเอวลง มือซึ่งประคองชักหนังควยอยู่นั้นเหมือนเป็นตัวช่วยนำทางให้มันตรงไปสู่เป้าหมาย เมื่อหัวถอกสัมผัสกับร่องหีอุ่น ๆ ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรักก็ทำให้ทั้งคู่ซาบซ่านดั่งมันแทรกเข้าไปแล้วก็ไม่ปาน “อ้า... ซี๊ดดดส์” ไพรินเบี่ยงหน้าครวญครางแอ่นอกอิ่มขึ้น เมื่อผู้เป็นพ่อออกแรกกดหัวบานให้ชำแรกผ่านลงไปในพูเนื้อ “ซี๊ดดส์... ลูกพ่อ” ไกรศักดิ์ครางกระเส่าแล้วค่อย ๆ กดมันลงไปอีกครั้งจนมิด “อูววววววว์” เสียง 2 พ่อลูกครางระงม ไกรศักดิ์รู้สึกเหมือนถูกเนื้อนุ่ม ๆ โอบรับลำควยทั้งดุ้น ภายในร้อนวูบวาบกว่าที่เคย ซึ่งอาจเป็นเพราะอาการไข้ของเธอ ด้านไพรินเองก็คับแน่นตึงรูหีไปหมด ท่อนควยที่แทรกตัวอยู่ภายในก็กระตุกเป็นระยะทำเอาเธอเสียวสยิวขมิบรับมันตลอดเวลา อีกด้านหนึ่ง 2 แม่ลูกเมื่อได้ยินเสียงครางก็หันมอง ทั้ง 2 หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อได้รับรู้ว่าบัดนี้ พ่อบังเกิดเกล้าได้ส่งลำเนื้อกลางตัวแทรงลงไปยังร่องสวรรค์ของลูกสาวแล้ว ไกรศักดิ์เริ่มโยกขยับเอวช้า ๆ “อื้อออ... พ่อขา... ซี๊ดดดส์” ลำควยครูดออกไปพร้อม ๆ กับความแน่นที่ลดลงแต่กลับแทรกเข้ามาอีก ด้านบนของท่อนเนื้อถูไถกับเม็ดติ่งพาให้เสียวรูหี ไม่มีสิ่งใดที่ไพรินสามารถทำได้นอกจากเกร็งมือเท้าและระบายออกทางเสียงคราง วีรพงษ์เมื่อได้ยินก็ยิ่งเงี่ยน เค้าไม่สนใจถึงสถานการณ์อีกต่อไป 2 มือจับหน้าของแม่ซึ่งยังทำรักให้เค้าออก พร้อมพยายามบิดตัวเหมือนบอกให้วัชรีหันหลัง วัชรีรู้ทันทีว่าลูกชายเงี่ยนอยากเย็ดเธอเต็มที ซึ่งเธอก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ก้นงอน ๆ ถูกหันมาอยู่เบื้องหน้าเค้า วัชรีหมอบแก้มลงติดพื้นส่งก้นโด่งรอรับความเสียวในไม่ช้า วีรพงษ์ลูบไล้มัน แม้เป็นภายนอกผ้ายังนุ่มมือเช่นนี้ สะโพกผายกลมกลึงนี้ชวนให้กระแทกเย็ดเหลือเกิน ไม่มีสิ่งใดให้คิดอีกต่อไป 2 มือเค้ารั้งขอบยางยืดลงพร้อม ๆ กับชั้นใน เผยให้เห็นพูเนื้อฉ่ำน้ำรักปลิ้นออกมาด้านหลัง ภาพพูหีขมิบเหมือนเชิญชวนทำเอาควยเค้ากระตุกรับ วีรพงษ์ขยับตัวเข้าหาจับปลายถอกเขี่ยปากรูเบา ๆ ให้น้ำเงี่ยนชโลม การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้วัชรีเสียวแทบคลั่ง เธอถึงกับส่ายก้นรับท่อนเนื้อนั้น และแล้วเธอก็ต้องเม้มปากกลั้นใจ 2 มือกำแน่น เมื่อลำควยเขื่องของลูกชายแทรกผ่านเข้าไปช้า ๆ จนสุด วีรพงษ์รั้งสะโพกแม่เข้าหาตัวพร้อมบดเบียดให้ท่อนเนื้อแทงเข้าไปให้ลึกเท่าที่จะลึกได้ ร่องหีแม่รัดลำควยเค้าจนน้ำแทบแตก ถ้าแช่เกร็งไว้เช่นนี้คงกระฉูดทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กระเด้าเป็นแน่ วีรพงษ์ถอยควยออกช้า ๆ แล้วดันเข้าไปใหม่อย่างนุ่มนวล ทั้งนี้เพราะกลัวเสียงที่เกิดจากการกระทบกันของเนื้อจะส่งให้พ่อได้ยิน ยิ่งคิดว่ากำลังเป็นกับแม่แล้วต้องแอบพ่อซึ่งอยู่ห่างแค่ประตูกลั้นยิ่งทำให้เค้าตื่นเต้นแทบกลั้นน้ำไว้ไม่อยู่ เค้ากระเด้าเย็ดเป็นจังหวะเร็วขึ้น ๆ เร็วขึ้น แต่ไม่รุนแรง “ซี๊ดดดส์... พ่อขา... พ่อซี๊ดดส์... ริน... ริน... เร็วค่ะพ่อ... ซี๊ดดส์” ไพรินเริ่มกระดกยกสะโพกสู้การกระแทกเย็ดของไกรศักดิ์ เธอเสียวหีจนแทบขึ้นสวรรค์ แขนทั้ง 2 โอบรัดผู้เป็นพ่อแน่น และแล้ว “ซี๊ดส์... อู้ยยยยยยยยยยว์” เสียงครางดังลั่นเล็บจิกลงบนแผ่นหลังเอวยกแอ่นรับการกระแทกพร้อมเกร็งกระตุกรุนแรง น้ำรักภายในพุ่งแตกกระเซ็นเป็นเม็ดเมื่อถูกกระแทกย้ำด้วยหนอกของพ่อบังเกิดเกล้า ด้วยแรงขมิบตอดภายในนี้เองทำเอาไกรศักดิ์กลั้นไว้ไม่อยู่เช่นกัน “โอ้ววว... ลูกพ่อ.. โอ้ว.. โอ้ว.. โอ้วววว” ไกรศักดิ์ร้องครวญคราง มันเป็นอาการเกือบถึงจุดสุดยอดที่เสียวกระสันอย่างไม่เคยมาก่อน น้ำกามที่สะสมไว้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวผ่านท่อบริเวณโคนด้านล่างของพวงสวรรค์จนรู้สึกได้ ด้านวีรพงษ์ก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ทั้งภาพและเสียงที่ได้ยินทั้งสัมผัสของร่องเนื้อที่กำลังเย็ดนั้นมันผสมผสานให้เข้าใกล้จุดสุดยอด แล้วก็สุดทนไหว ในใจอยากร้องครางให้ดังสุดเสียงแต่ทำไม่ได้ และในขณะนั้นเองมือข้างหนึ่งซึ่งต้องการระบายความเสียวแทนเสียงครางกลับดันไปยังประตูที่แย้มอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ มันเปิดออกเผยให้ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพฤติกรรมของกันและกัน วีรพงษ์ตกในแทบช็อค เค้าผละจากร่างของแม่ยืนขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่น้ำกามกำลังเคลื่อนตัว มันพุ่งกระฉูดเป็นสายกลางอากาศ ด้านวัชรีเมื่อควยงัดเม็ดเสียวก่อนจะหลุดออกจากร่องหีเธอ ก็ทำเอาสะท้านถึงจุดสุดยอดอย่างไม่น่าเชื่อตามลูกชายเช่นกัน “โอ้วววววววววววววว์” ด้านไกรศักดิ์นั้นไม่ต้องพูดถึงน้ำซึ่งเก็บไว้นานทะลักพุ่งฉีดเข้าในโพรงหีลูกสาวอย่างแรงจนไพรินผวา เค้ายังคงกระตุกตามด้วยน้ำที่ 2 น้ำที่ 3 พุ่งเข้าไปไม่ขาดสาย ด้วยความแรงจนกระทบปากมดลูกความอุ่นและจังหวะกระตุกของท่อนเนื้อส่งให้เด็กสาวถึงจุดสุดยอดไปอีกครั้ง เมื่อความเงี่ยนจางหายความเงียบก็แทรกเข้ามาแทนที่ไม่มีใครพูดสิ่งใด ทุกคนนิ่งเหมือนปฏิมากรรมแกะสลัก < -------- > ณ โต๊ะอาหาร หลังจากทุกคนแยกย้ายชำระล้างคราบเหงื่อไคลและสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ แล้ว นับจากเวลานั้นยังไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากทั้ง 4 คน ทั้งหมดนั่งเงียบอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง “เอ่อ... คือ” 2 เสียงพูดขึ้นพร้อมกันโดยบังเอิญ “คุณพูดก่อน” วัชรีส่งให้ไกรศักดิ์พูด “คุณพูดก่อนสิ” ไกรศักดิ์เองก็รู้สึกผิดแต่ไม่รู้จะพูดอะไร คำที่คิดจะเอ่ยเมื่อครู่กลับลืมไปเสียสนิท วัชรีนั่งเงียบไม่ตอบโต้เพราะเธอเองก็รู้สึกผิดเช่นกัน “ผมขอโทษ” ไกรศักดิ์พูดเสียงอ่อย “ชั้นก็ขอโทษ” เสียงวัชรีนั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ส่วนลูกทั้ง 2 นั้นยังคงนั่งนิ่งเงียบไม่ปริปากแม้แต่น้อย “ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว ถ้าผมทำอีกขอให้...” “อย่าค่ะศักดิ์ ชั้นเองก็ผิด” วัชรียกมือขึ้นปิดปากสามีไม่ให้สาบาน “คุณตามชั้นมานี่สิ ลูก ๆ ด้วย” เมื่อการเสวนาเริ่มขึ้นแล้ว วัชรีจึงลุกขึ้นเดินไปยังชั้นบน “วีเปิดคอมดูไฟล์ที่เซฟไว้หน่อย” “ไฟล์ไหนครับแม่” วีรพงษ์ยังคงตระหนกกลัวผู้เป็นพ่อจะเอาเรื่อง สมองของเค้ายังสับสน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากไพริน “อานนท์ไง” ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ ทั้งไกรศักดิ์ และ ไพรินก็ขนลุกเย็นวาบไปทั้งตัว เมื่อเปิดได้ ทุกคนก็ร่วมกันอ่าน ไพรินถึงกับซึมเมื่ออ่านจบ ซึ่งอีก 3 คนก็มีอาการไม่แตกต่าง ทุกคนต่างนึกถึงซะตากรรมของครอบครัวของตน และแน่นอน พวกเค้าไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นเดียวกับที่อ่านเกิดขึ้นกับครอบครัวเป็นแน่ “เหตุเกิดมา 5 ปีแล้วแต่วิญญาณเค้ายังคงอยู่ ศักดิ์คะ ชั้นว่าอานนท์คงต้องการให้พวกเรารู้ถึงหัวอกของเค้า รู้ถึงความรู้สึกของพวกเค้า” “ใช่ งั้นพรุ่งนี้เราไปทำบุญให้เค้าดีมั๊ย ผมจะลางาน 1 วัน” “ดีค่ะ” < -------- > รถเคลื่อนตัวกลับเข้าจอดยังที่ประจำอีกครั้ง ไกรศักดิ์เปิดประตูบ้านเดินรี่มานั่งพักเหนื่อยยังโซฟาหน้าทีวีหลังจากไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้อานนท์ “น้ำค่ะ” “ขอบใจจ้า” ไกรศักดิ์รับแก้วจากวัชรี เธอเดินไปนั่งข้าง ๆ เค้าพร้อมกวักมือเรียกลูกสาวให้นั่งเคียงข้าง “พ่อครับ... ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มยืนตรงหน้าผู้เป็นพ่อเอ่ยคำขอโทษ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน นี่เป็นคำแรกที่เปล่งออกจากปากเพื่อเสวนากับพ่อบังเกิดเกล้า “มานี่ลูก” ไกรศักดิ์ส่งแก้วคืนวัชรีพร้อมตบเบาะให้ลูกชายนั่งข้าง ๆ “แม่เค้าเล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว พ่อไม่โกรธลูกหรอก แต่อย่าลืมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนนะ” “ขอบคุณครับพ่อ” วีรพงษ์ได้ยินก็ยิ้มออกเข้าสวมกอดพ่อด้วยความดีใจ แต่อีกข้างของโซฟานั้นยังมีเด็กสาวอีกคนที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา “ริน แม่ก็ไม่โกรธลูกหรอกจ้า” “แม่” ไพรินสวมกอดผู้เป็นแม่ด้วยน้ำตานองหน้า แต่มันก็เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ “แล้วน้ำทิพย์จะเป็นยังไงบ้างนะ” วัชรีเอ่ยขึ้นด้วยความสงสาร พลางยกแขนขึ้นโอบสามีผู้เป็นที่รัก ทั้ง 4 คนเข้าใจกันดี ต่างคนต่างสวมกอดซึ่งกันและกันอย่างกลมเกรียว หันไปยังโซฟาเดี่ยวด้านข้าง นัทพงษ์น้องคนสุดท้องซึ่งหยุดเรียนเพื่อไปทำบุญด้วยนั่งมองตาแป๋ว แล้วหันไปกดรีโหมดทีวี เค้ายังคงเป็นผู้เดียวที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้ครอบครัวนี้จะเป็นอย่างไร พวกเค้ายังจะมีสัมพันธ์สวาทกันอีกหรือไม่ คงมีเพียงพวกเค้าเท่านั้นที่รู้ < -------- > ภายในห้องสีขาว หญิงสาวท่าทางอิดโรยใบหน้ายังคงอาบไปด้วยน้ำตา เธอนอนตะแคงคุดคู้อยู่บนเตียงเล็ก ๆ ดวงตาเหม่อมองผนังซึ่งตอนนี้เห็นเป็นแต่เพียงภาพลาง ๆ สายตาพล่ามัวอันเกิดจากน้ำตาที่รินไหลออกมาเนิ่นนาน 5 ปีแล้ว 5 ปี ที่เธอทนทุกข์อยู่ในโรงพยาบาลจิตประสาทแห่งนี้ เธอเหนื่อย เหนื่อยกับการไขว่คว้า มันไม่ใช่อิสรภาพ หากแต่เป็นความรัก ความรักที่ใคร ๆ ต่างประณามหยามเหยียด ทุกคนต่างคิดว่าเธอบ้า เปลือกตาเธอค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ ความมืดเข้ามาแทนที่ ลมหายใจเธอแผ่วโรยระริน ในความมืดนั้นพลันก็เกิดความสว่างเป็นจุดเล็ก ๆ และค่อย ๆ ขยายขึ้น แสงอาทิตย์ สายลมพัดผ่านแก้ม ทะเล... ใช่ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง ช่างเป็นสัมผัสที่คุ้นเคย “น้ำ” เสียงแว่วมาจาด้านหลัง เสียงที่เธอไม่เคยลืมเลือน เธอหันหลังกลับโดยพลัน “พ่อ!” เธอวิ่งเข้าสวมกอดผู้เป็นพ่อ ทั้ง 2 อยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอีกครั้งภายใต้ชายคาบ้านอุ่นรัก มันยังคงสวยงาม “กลับมาแล้วเหรอลูก” “ค่ะ น้ำกลับมาหาพ่อค่ะแล้ว น้ำจะไม่ไปไหนอีกแล้ว” น้ำทิพย์พูดเสียงสะอื้นน้ำตานองหน้า อานนท์ผู้เป็นพ่อจับไหล่ มองหน้าลูกสาว “น้ำ ร้องไห้ทำไมล่ะลูก” น้ำเสียงอันอ่อนโยนนุ่มนวลและอบอุ่น น้ำทิพย์ตื้นตันที่ได้พบหน้าพ่อผู้เป็นที่รักอีกครั้ง เธอพูดอะไรไม่ออกได้แต่สะอื้น “จำได้รึเปล่า ตอนเด็ก ๆ น้ำเคยบอกกับพ่อว่าอะไร” น้ำทิพย์เงยหน้าขึ้นมอง เธอพยักหน้ารับเบา ๆ “อย่าร้องไห้ เด็กดีต้องไม่ร้องไห้” อานนท์ใช้หลังนิ้วปาดน้ำตาให้ลูกสาว “พ่อ!” สุดจะกลั้น น้ำทิพย์ซบใบหน้านองน้ำตากับแผงอกอานนท์ เค้ากอดเธอตอบพลางลูบผมเธออย่างเอ็นดู 5 ปีที่เธอเฝ้ารอคอยในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เธอจะได้อยู่ในอ้อมกอดคนที่เธอรักอีกครั้ง อานนท์พ่อผู้เป็นที่รัก < -------- > มือน้อย ๆ อันอ่อนแรงห้อยลงกับพื้น ลมหายใจอันแผ่วเบาบัดนี้เลือนหาย หัวใจอันปวดร้าวที่ทนเต้นอย่างทุกข์ทรมานมาตลอดเวลา มันคงถึงคราที่จะได้พักเสียที สังคมอันแสนสิวิลัยนี้อาจไม่ใช่ที่ ๆ เธอและเค้าจะครองคู่กัน แต่ในดินแดนอันห่างไกลออกไปนั้น พวกเราจะมองเห็นพวกเค้า ยามที่เราแหงนหน้ามองท้องฟ้าในยามราตรี พวกเค้าอาจเป็นดวงดาวที่ทอแสงระยับเคียงคู่กัน ยามที่เราเห็นผีเสื้อบินคลอเคลียอาจเป็นน้ำทิพย์กับอานนท์ก็เป็นได้ ไม่มีสิ่งใดสามารถพรากรักแท้ของเค้าทั้ง 2 ได้แม้แต่ความตาย เธอและเค้าจะรักกันตราบชั่วนิรันดร... ตลอดกาล The End

ไม่มีความคิดเห็น: