ขายของ

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

Oh! My Angel ตอนที่9 เพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ

รองเท้า แตะที่เบิร์ดให้นางฟ้า เบลยืมใส่นั้นใหญ่กว่าขนาดเท้าของเธอทำให้เดิน ลำบากมากทีเดียว แต่กระนั้นก็ไม่อาจดึงความสนใจของนางฟ้าเบลไปจากสภาพภายนอกบ้านยามเย็นที่ เธอกำลังพิจารณาอยู่ได้เลย ตึกแถวสี่ชั้นเรียงเป็นแนวไปจนสุดปลายถนน แม้เป็นซอยยาวแต่ก็เป็นซอยตัน ทำให้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาบ่อยครั้งนัก เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับเธอออกมาจับกลุ่มเล่นหน้าบ้านทั้งๆที่ยังอยู่ในชุด นักเรียน เสียงเจี้ยวจ้าวของพวกเขาชวนให้นางฟ้าตัวน้อยมองอย่างสนใจ เพื่อนบ้านที่คอยตอบรับการทักทายของเบิร์ด ร้านค้าต่างๆที่มีคนมาจับจ่ายซื้อของ ลูกสุนัขที่วิ่งไล่กัน ฝูงนกที่กำลังบินกลับรังตัดกับท้องฟ้ายามเย็น ภาพต่างๆที่นางฟ้าเบลไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำเอาเธอมองด้วยความตื่นตะลึงจนลืม ที่จะหารองเท้าคู่โปรดของเธอ "น้องเบลยังไม่เคยมาที่โลกนี่เลยเหรอครับ?" เบิร์ดสังเกตอาการของเธอออก "ค่ะ...พี่ๆบอกว่าเบลยังไม่พร้อมที่จะมาที่โลก มันอันตราย" นางฟ้าเบลตอบโดยไม่ยอมละสายตาไปจากทิวทัศน์ที่เธอกำลังมองอยู่เลย เบิร์ดมองเห็นแววตาของนางฟ้าเบลที่มองสิ่งรอบข้างแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ "นั่นอะไรคะ? / นี่อะไรคะ? / โน้นอะไรคะ?" นางฟ้าเบลถามเบิร์ดด้วยประโยคซ้ำๆ แต่เบิร์ดกลับไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะตอบเธอเลยซักนิด จนกระทั่งเดินไปจนสุดท้ายซอยแล้วก็ไม่เห็นมีวี่แววรองเท้าข้างที่หายไปเลย ระหว่างทางที่ทั้งคู่เดินย้อนกลับมานางฟ้าเบลไม่วายถามคำถามซ้ำๆกับของ บางอย่างที่เธอจำชื่อไม่ได้ เบิร์ดรู้สึกเหมือนพาชาวต่างชาติมาเยี่ยมเมืองไทยแต่ต่างกันตรงที่เขาไม่ ต้องอายที่จะพูดกับเธอ แถมยังรู้สึกเต็มใจและดีใจเสียอีกที่ได้เดินเคียงคู่กันและได้อวดใครๆว่ามี น้องสาวที่น่ารักเช่นนี้ ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าทั้งคู่ก็กลับมาถึงหน้าบ้านของเบิร์ด น้ำฝนกำลังสอนน้องขี่จักรยานอยู่พอดี เธอและน้องชายเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดอยู่กับบ้าน เบิร์ดแทบจะลืมมือนุ่มๆของนางฟ้าเบลที่ตัวเองจับเอาไว้เลย เมื่อเห็นเพื่อนบ้านสุดน่ารักในชุดอยู่บ้านแบบนี้ มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวพื้นขาวมีลายรูปหัวใจสีชมพูอันเล็กๆรอบตัว กับกางเกงขาสั้นสุดๆสีเดียวกับหัวใจบนเสื้อของเธอ แสงแดดอ่อนๆยามเย็นที่สาดมากระทบกับน้ำฝน ส่งผลให้ผิวขาวๆแบบคนจีนของเธอเปล่งประกาย จนเบิร์ดอดคิดไม่ได้ว่าน้ำฝนอาจเป็นนางฟ้าอีกคนที่พลัดตกลงมาจากสวรรค์ก็ เป็นได้ "พี่เบิร์ด...ดูซี่ นี่เฟลมขี่จักรยานได้แล้ว..." สิ้นเสียงเจ้าหนูป.2 ที่พยายามขี่จักรยานมาหาเบิร์ดที่กำลังเหม่อลอยอยู่ก็ชนกับเบิร์ดทันที "ตายแล้วเฟลม..พี่บอกแล้วไงว่าให้ดูทางน่ะ" น้ำฝนบ่นเสียงดังพลางวิ่งเข้าไปดูอาการทั้งน้องชายทั้งเพื่อนบ้าน นางฟ้าเบลก็เข้าไปดูเช่นเดียวกัน "เป็นอะไรมากรึเปล่าเฟลม? เป็นอะไรมั๊ยคะพี่เบิร์ด?" เฟลมได้แต่ร้องโอดครวญเพราะเจ็บแผล ส่วนเบิร์ดได้แต่ยังตะลึงกับความงามของน้ำฝนที่พุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่สนใจ แผลถลอกบนตัวของเขาเลย กลิ่นกายหอมๆในตัวของน้ำฝนลอยมากระทบจมูกของเบิร์ด แทบจะทำให้เขาลืมความเจ็บปวดทั้งหมดได้ในทันที "เดี๋ยวเบลจัดการเองค่ะ...{ ...ข้าแต่เทพแห่งสายชล เบลินเดลข้ารับ...อุ๊บ!}" เบิร์ดตกใจตื่นจากภวังค์ปิดปากน้องสาวตัวดีแทบไม่ทัน คราวนี้เขาพยายามเลือกวิธีที่ไม่ทำร้ายจิตใจนางฟ้าตัวน้อย เบิร์ดพานางฟ้าเบลออกมาห่างจากน้ำฝนและเฟลม "น้องเบลจ๊ะ พี่คิดว่าน้องเบลไม่ควรใช้คาถาอะไรนั่นพร่ำเพรื่อนะ โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้น่ะ" เบิร์ดพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ทำไมล่ะคะ? ก็พี่เบิร์ดถูกชนหกล้มเลือดออกขนาดนี้ หนูก็ต้องช่วยสิคะ" นางฟ้าตัวน้อยให้เหตุผล "เอ่อ...มันก็จริงอ่ะนะ แต่พี่ว่าถ้าใครเห็นว่าน้องเบลใช้เวทย์มนต์คาถาได้ล่ะก็..." เบิร์ดพูดทิ้งช่วงเพื่อหาคำอธิบายที่หนักแน่นพอให้นางฟ้าตัวน้อยเชื่อฟังเขา "ถ้าใครรู้เข้า น้องเบลอาจจะไม่ได้อยู่กับพี่อีกเลยนะ" เบิร์ดเลือกคำขู่ได้โดนใจนางฟ้าเบลยิ่งนัก เด็กสาวออกอาการร้อนรนทันที "ทำไมล่ะคะพี่เบิร์ด ทำไมเบลจะอยู่กับพี่เบิร์ดไม่ได้อีกล่ะ?" สีหน้านางฟ้าตัวน้อยดูเป็นกังวลมากทีเดียว "ก็เพราะที่โลกมนุษย์เค้าไม่มีเวทมนต์ใช้น่ะสิครับ ใครใช้ล่ะก็...จะถูกจับเข้าคุก ไม่ได้ออกมาพบใครๆอีกเลยนะ" คำขู่เบิร์ดใช้ขู่เด็กในละแวกบ้านที่ดื้อไม่ยอมเชื่อฟังได้ชะงัดนัก "อืม...ก็ได้ค่ะ เบลจะไม่ใช้เวทมนต์อีกก็ได้...แต่พี่เบิร์ดต้องอยู่กับเบลนะคะ" นางฟ้าเบลกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบิร์ดก็หันไปช่วยน้ำฝนพยุงเฟลมกลับเข้าบ้านของน้ำฝนไปทำแผล บ้านของน้ำฝนเป็นร้านขายข้าวแกง ช่วงเวลาเย็นๆอย่างนี้มีลูกค้าพอสมควร เมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังยุ่งอยู่กับร้าน น้ำฝนจึงได้โอกาสพาทั้ง 3 คนขึ้นชั้นสองไป ด้วยไม่อยากให้คุณแม่ต้องเป็นกังวลใจ ลักษณะของบ้านน้ำฝนไม่ต่างจากบ้านของเบิร์ดมากนักเนื่องจากเป็นตึกชุด เดียว กัน แต่ห้องนอนของน้ำฝนและเฟลมอยู่ชั้นที่ 2 ส่วนพ่อกับแม่ของเธอนอนที่ชั้น 3 เบิร์ดเองก็เพิ่งเคยขึ้นมาถึงชั้น 2 นี้เป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็เพียงได้ดักเจอเธอที่หน้าบ้านหรือชวนเฟลมเล่นด้วยกันเฉยๆ ในใจเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้มีโอกาสเช่นนี้ ประตูห้องนอนเปิดออก เบิร์ดอุ้มเฟลมที่ตอนนี้เลิกร้องไห้แล้วเข้าไปนั่งบนขอบเตียง "เดี๋ยวหนูไปเอายามาให้นะคะ" น้ำฝนพูดพลางรีบวิ่งแจ้นไปหายา ทิ้งให้ทั้งสามคนนั่งรออยู่ในห้องนอนของเธอ เบิร์ดได้โอกาสเหมาะ เขามองสำรวจไปรอบๆห้องนอนของเด็กสาวที่เขาแอบชอบ เตียงเดี่ยวขนาดพอๆกับเตียงของเบิร์ดตั้งอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ปลายเตียงชี้ไปทางหน้าต่างบานเกล็ดแบบเดียวกับห้องนอนของเบิร์ด ผนังด้านขวาที่ติดกับขอบเตียงนอกจากปฏิทินและภาพครอบครัวของน้ำฝนแล้วก็ไม่ มีอะไรอื่นประดับอีก ส่วนด้านซ้ายนั้นตู้เสื้อผ้า 2 ตู้วางชิดติดกัน ถัดจากนั้นมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสลับกับสีชมพูขนาดพอเหมาะกับน้ำฝน อุปกรณ์เสริมความน่ารักของเด็กสาววางตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบแบบครบชุด ทำให้เบิร์ดจินตนาการได้ถึงภาพของน้ำฝนที่กำลังหวีผมอยู่ที่หน้ากระจกหลัง จากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ผมดำสนิทยาวสลวยเกือบถึงกลางหลังตัดกับสีผิวขาวๆของเธอในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หยดน้ำบางส่วนที่เด็กสาวเช็ดไม่หมดค่อยๆไหลจากซอกคอเธอลงไปจนถึงเนินอกขนาด ย่อมๆ แล้วก็ซึมหายไปกับผ้าเช็ดตัวที่พาดขวางทางเอาไว้ เพียงช่วงเวลาสั้นๆนั้นก็ทำให้เบิร์ดรู้สึกอิจฉาเจ้าหยดน้ำเหล่านั้นแล้ว ที่ได้มีโอกาสโลดแล่นอยู่บนเรื่อนร่างของเด็กสาวที่เขาหมายปอง แต่แล้วเบิร์ดก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่องที่คิดเพราะเขาเหลือบไปเห็นตระกร้า ผ้าที่วางตั้งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเอง ชุดนักเรียนที่น้ำฝนใช้ใส่ไปเรียนในวันนี้ อันได้แก่เสื้อนักเรียนสีขาวกับกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินถูกซุกรวมกันอยู่ภาย ในตระกร้าใบนั้น และแล้วภาพแห่งจินตนาการอันใหม่ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเบิร์ด น้ำฝนที่เพิ่งกลับถึงบ้านตรงเข้ามาในห้องแล้วบรรจงถอดเสื้อนักเรียนของเธอ ออก เผยให้เห็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวลายหัวใจที่เขาเห็นในวันนี้ จากนั้นกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินก็ถูกเพื่อนบ้านเจ้าเสน่ห์ปลดให้หล่นลงมาเป็น อันดับต่อไป กางเกงชั้นในที่เบิร์ดจินตนาการให้มันเป็นสีขาวก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา น้ำฝนในชุดชั้นในไม่รีบร้อนที่จะแต่งตัวให้เสร็จ เธอกลับยืนมองรูปร่างตัวเองอยู่หน้ากระจกชื่นชมความงามแบบเด็กๆของตน "เอ...เราแต่งตัวแบบนี้แล้วพี่เบิร์ดจะชอบมั๊ยน้าาา" น้ำฝนในจินตนาการของเบิร์ดรำพึงถึงเขาออกมาเสียงดัง แม้เป็นเพียงความฝันลึกๆของเขา แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้เบิร์ดมีความสุขแล้ว "พี่เบิร์ด!" เสียงนางฟ้าเบลเตือนสติเขาเหมือนจะรู้ความคิดของเบิร์ด "หา! เอ่อ...มีอะไรเหรอน้องเบล?" เบิร์ดเกือบถลำลึกจินตนาการจนเกินขอบเขตซะแล้ว "หนูเรียกพี่เบิร์ดตั้งนานก็ไม่ยอมตอบ" นางฟ้าเบลบ่นน้อยใจนิดๆที่ไม่ได้รับความสนใจจากเบิร์ดเหมือนอย่างที่เคย "อ๋อ...พอดีพี่คิดอะไรเพลินอยู่น่ะ" นางฟ้าเบลหมดโอกาสได้ซักไซ้ต่อ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา น้ำฝนถือกระเป๋าอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาครบชุด กับขันน้ำและผ้าขนหนูผืนหนึ่ง "มานี่เร็วเฟลม...เดี๋ยวพี่ล้างแผลให้" น้ำฝนออกคำสั่งกับน้องชายจอมซน เบิร์ดกับนางฟ้าเบลได้โอกาสมองเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจทำแผลให้น้องชายอย่าง คล่องแคล่ว ราวกับว่ามีอุบัติเหตุแบบนี้ให้เธอต้องช่วยเหลือเป็นประจำ จนในไม่ช้าน้ำฝนก็จัดการทุกแผลบนตัวของเฟลมจนเรียบร้อย "เอ้า!เสร็จแล้ว วันนี้ไม่ต้องไปซ้อมขี่จักรยานแล้วนะ เข้าใจมั๊ย!" น้ำเสียงดุแบบมีน้ำใจของน้ำฝนชวนให้เบิร์ดยิ้มเพราะไม่รู้จะมีซักกี่คนที่จะ กลัวเสียงดุแบบนี้ของเธอ "มาค่ะพี่เบิร์ด เดี๋ยวหนูทำแผลให้" เสียงน้ำฝนเตือนให้เบิร์ดระลึกขึ้นได้ว่าเขากำลังจะถูกน้ำฝนทำแบบเดียวกับ น้องชายของเธอ "เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ...น้ำฝน แผลแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย น้ำฝนไม่ต้องลำบากหรอก" เบิร์ดเกิดรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อเด็กสาวที่เขาแอบรักเข้ามาใกล้ชิดเขาถึง เพียงนี้ เบิร์ดตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลด้วยเกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม "ไม่ลำบากหรอกค่ะพี่เบิร์ด น้องเฟลมขี่จักรยานชนพี่เบิร์ด หนูก็ต้องรับผิดชอบสิคะ" น้ำฝนอธิบายฉะฉานเสียงดังฟังชัด จากนั้นก็ไม่รอให้เบิร์ดได้ตอบโต้อะไรอีก ผ้าขนหนูชุบน้ำจากขันบรรจงเช็ดแผลที่หัวเข่าของเบิร์ด ความเย็นของผ้าชุบน้ำส่งกระแสความเสียวแสบเล็กๆไปทั่วร่างของเบิร์ด แต่เขาไม่ทันได้สนใจเพราะทันทีที่น้ำฝนก้มลงเช็ดแผลให้เขา < โอ้โห...เย็ดแม่! > เด็กสาวข้างบ้านก็เผลอโชว์ซาลาเปาในเสื้อสายเดี่ยวของเธอแถมให้เบิร์ดดู อย่างไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นเนินอกที่ยังไม่ได้โตเต็มที่แต่ก็เป็นของเด็กที่เบิร์ดหลงไหล สันดานดิบในตัวของเบิร์ดเริ่มออกอาการอีกครั้ง <6> เบิร์ดเริ่มคิดอกุศลกับเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ สายตาของเขาจ้องมองทุกท่วงท่าอิริยาบถของน้ำฝนอย่างสนอกสนใจ "เสร็จแล้วค่ะ พี่เบิร์ดเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่าคะ?" บาดแผลภายนอกที่น้ำฝนเห็นถูกจัดการหมดในเวลาอันสั้น เบิร์ดรู้สึกเสียดายยิ่งนัก หากทำแผลเสร็จเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกแต่เบิร์ดยังไม่อยากจาก น้ำฝนไปไหนเลย "เอ่อ...รู้สึกเจ็บๆแถวๆนี้แฮะ" เบิร์ดบ่นๆพลางเอามือลูบเอวของเขา เมื่อยกชายเสื้อขึ้นมาก็พบรอยช้ำขนาดใหญ่ซึ่งน่าจะเกิดจากจักรยานล้มลงมาทับ "ตายแล้ว!...เดี๋ยวนะคะพี่เบิร์ด แผลช้ำอย่างนี้ต้องทายาหม่อง" น้ำฝนหันไปหยิบกระเป๋ายาคว้าเอายาหม่องออกมาอย่างชำนาญ "ยกเสื้อขึ้นซิคะ...พี่เบิร์ด" น้ำฝนออกคำสั่งหวังเพียงจะทายาให้กับเบิร์ด เธอไม่ทันได้นึกเลยว่าที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือหนุ่มข้างบ้านที่แอบชอบเธออยู่ เบิร์ดถกเสื้อขึ้นสูงให้น้ำฝนได้เห็นกล้ามเนื้อท้องอันกำยำจากการออกกำลัง กายของเขา เลือดในกายเบิร์ดฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยความตื่นเต้น เมื่อน้ำฝนป้ายยาหม่องติดนิ้วของเธอมาสัมผัสที่บั้นเอวเขา จากนั้นสาวน้อยน้ำใจงามก็บรรจงถูบริเวณรอยช้ำหมุนวนเป็นวงกลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า นิ้วมือที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นให้สัมผัสที่ชวนเคลิ้บเคลิ้ม ความมีน้ำใจของน้ำฝนทำให้เบิร์ดรู้สึกหลงรักเด็กสาวข้างบ้านคนนี้ยิ่งขึ้น ทุกทีที่เขาเห็นเธอ "น้ำฝนนี่ทำแผลเก่งจัง ใครได้น้ำฝนเป็นแฟนคงโชคดีน่าดูนะเนี่ยะ" เบิร์ดอดไม่ได้ที่จะพูด เขาใช้โอกาสนี้แหย่คำถามดูปฏิกิริยาน้ำฝน "พี่เบิร์ดอ่ะ...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันซะหน่อย" น้ำฝนยิ้มแบบเขินๆที่จู่ๆก็ถูกชม เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาทายาใส่รอยพกช้ำของเบิร์ดอย่างใจเย็น "อ้าว...ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ขนาดพี่...น้ำฝนยังเป็นห่วงขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนน้ำฝนคงจะดูแลดียิ่งกว่านี้อีก" รอยยิ้มแบบเขินๆของเด็กสาวทำให้เบิร์ดเริ่มกล้าที่จะแซวเธอต่อ "ว่าแต่น้ำฝนมีแฟนรึยังเนี่ยะ?" เบิร์ดได้โอกาสเหมาะยิงคำถามสำคัญ คำถามนี้น้ำฝนถึงกับต้องเหลือบตาขึ้นมามองหน้าเบิร์ดดูความตั้งใจของเขา "หนูเพิ่งจะป.6 เองนะคะ จะไปมีได้ยังไงเล่า?" น้ำฝนตอบเสียงสั่นๆยังไม่ทิ้งสำเนียงอายๆ พลางเก็บยาหม่องที่เพิ่งใช้เสร็จลงกระเป๋าไป "แหะๆๆ นั่นสิเนอะ" เบิร์ดหัวเราะตอบรับคำตอบเด็กสาวลดความอึดอัดใจให้เธอ "แฟนคืออะไรเหรอคะพี่เบิร์ด?" นางฟ้าเบลเกิดความสงสัยหลายเรื่อง แต่เธอนึกอยากจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน คำถามของเธอเรียกสติเบิร์ดให้ระลึกได้ว่าน้องสาวสุดที่รักของเขาก็อยู่ที่ นั่นด้วย "เอ่อ...คือ แบบว่าคนสองคนรักกันน่ะน้องเบล เค้าเรียกว่าเป็นแฟนกัน" เบิร์ดตอบคำถามไปตามปกติ "คือน้องเบลเค้าอยู่ต่างประเทศนาน คำศัพท์ภาษาไทยบางคำยังไม่รู้น่ะน้ำฝน" เบิร์ดรู้ดีว่านางฟ้าเบลจะต้องถามแน่ๆ เขาเตรียมวิธีแก้ตัวได้อย่างสมเหตุสมผลทีเดียว "อ๋อ...งั้นหนูกับพี่เบิร์ดก็เป็นแฟนกันน่ะสิคะ?" นางฟ้าเบลสรุปคำพูดของเบิร์ดออกมาเสียงดังฟังชัด น้ำฝนได้ยินเข้าถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ แต่เบิร์ดกลับเขินจนทำอะไรไม่ถูก ความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอนั้นเหนือกว่าความคิดของเบิร์ดหลายเท่าตัวนัก "ไม่ใช่หรอกครับ เราเป็นพี่น้องกัน เป็นแฟนกันไม่ได้หรอก" เบิร์ดรีบอธิบายแบบสั้นๆก่อนที่นางฟ้าตัวน้อยจะเผลอหลุดปากถามอะไรออกมาอีก "เออ...จริงสิ พรุ่งนี้น้ำฝนว่างมั๊ยครับ?" เบิร์ดนึกเรื่องที่จะพูดขึ้นมาได้ เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที "เอ๋?...มีอะไรเหรอคะ?" น้ำฝนถามกลับด้วยความสนใจ ทั้งๆที่ยังคาใจกับคำถามของนางฟ้าเบลไม่หาย "คือ...น้องเบลเค้าเพิ่งมาถึงบ้านพี่ แต่ยังไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่เลยน่ะ พี่ว่าจะพาน้องเบลเค้าไปซื้อชุดสวยๆใส่ซะหน่อย" น้ำฝนพยักหน้าตามจังหวะพูดของเบิร์ด "แบบว่า...ถ้าน้ำฝนไป จะได้ช่วยเบลเลือกชุดได้ด้วยไง คือพี่เป็นผู้ชายใช่ม้า...ก็อาจจะไม่สะดวกซักเท่าไหร่น่ะ" เบิร์ดยกข้ออ้างได้ดีทีเดียว ด้วยเหตุผลนี้เขาจะได้มีโอกาสออกไปเที่ยวพร้อมกับน้ำฝนและนางฟ้าเบลในคราว เดียว คงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าเขาจะได้เดินห้างโดยมีเด็กสาวน่ารักๆถึงสองคนเดิน เคียงคู่ด้วย "ว่าไงน้ำฝน...ว่างมั๊ยครับ พี่รบกวนเกินไปรึเปล่า?" เบิร์ดถามด้วยใจร้อนรน "เอ่อ...อ๋อ ตายจริง!คือ...หนูมีนัดกับคุณครูที่โรงเรียนน่ะค่ะ ต้องไปช่วยงานตั้งแแต่แปดโมงเช้าเลยอ่ะ" น้ำฝนตอบปฏิเสธ สีหน้าของเธอก็บ่งบอกอาการเสียดายอยู่ไม่น้อย "แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ล่ะก็ว่างนะคะ" น้ำฝนรีบเสนอทางเลือกให้เบิร์ดตัดสินใจ การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่น้ำฝนปรารถนาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว "อืม...งั้นวันอาทิตย์ก็ได้ครับ 10โมงนะ โอเคมั๊ย?" เบิร์ดทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่ในใจของเขาพองโตไปด้วยความตื่นเต้น "ได้ค่ะ" น้ำฝนตอบรับคำเชิญชวนของเบิร์ดอย่างเต็มใจ หลังจากนั้นทั้งสามคนก็คุยเล่นกันอีกเล็กน้อยก่อนที่เบิร์ดจะขอตัวพานางฟ้า เบลกลับบ้าน...

ไม่มีความคิดเห็น: