ขายของ

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผมชื่อ เมฆ

ครับ อายุ 15 ปีแล้ว เรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่บ้านของผมมีอยู่ด้วยกัน 2 คนคือผมกับแม่เท่านั้น.....ส่วนพ่อของผมได้เลิกรากับแม่ของผมไปแล้วตั้งแต่ ตอนที่ผมยังอยู่ในท้อง แม่ของผมชื่อ “ปุ๋ม” ครับ...แม่ปุ๋มเพิ่งจะอายุได้ 32 ปีเอง เพราะว่าท่านมีผมตั้งแต่อายุเพียง 17 ปีเท่านั้น (ตั้งแต่ยังเรียนมัธยมอยู่เลย) พ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมัธยมครับ เนื่องจากความไร้เดียงสาในครั้งเยาว์วัยแม่ของผมจึงพลาดพลั้งและมีผมขึ้นมา พอพ่อรู้เข้าก็ไม่รับผิดชอบเด็กในท้องแถมยังย้ายหนีไปไม่เคยส่งข่าวมาหาแม่ ผมอีกเลย ตากับยาย(ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่)โกรธแม่ของผมมาก....แต่ท่านก็ให้อภัยใน ที่สุดและเลี้ยงดูผมจนเติบใหญ่.... ส่วนแม่ของผมก็กลับไปตั้งใจเรียนจนจบมหาวิทยาลัยในที่สุด....แม้ผมจะไม่มีพ่อเหมือนใครๆแต่ผมก็มีความสุขครับ ที่ได้รับความรักความอบอุ่นจากแม่ปุ๋มคนนี้เสมอมา....หากว่าผมจะทำอะไรให้แม่ของผมมีความสุขได้... ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนผมก็ยินดีครับ แม่ปุ๋มของผมเป็นคนสวยครับ...หน้าตาคมเข้ม....ผิวขาวสะอาดสะอ้าน...และที่สำคัญแม่ปุ๋มยังหุ่นดีมากเลยครับ ....ถึงจะเห็นตัวผอมๆเอวคอดๆแบบนี้(เธอสูงประมาณ 165 ซ.ม.) แต่หน้าอกหน้าใจกับสะโพกของเธอที่สิครับ....ทรมานใจหนุ่มๆในหมู่บ้านของผม เสียจริงๆ จนมีคนเคยพูดกับผมว่า....ถ้าผมเกิดมาเป็นผู้หญิงก็คงจะสวยไม่แพ้กัน ...555...(ผมหน้าเหมือนพ่อครับ...แม่เคยบอก) ไม่ใช่แค่หนุ่มๆในหมู่บ้านนะครับที่มอง....ผมเองก็แอบมองหน้าอกที่อวบอิ่ม กับก้นที่งามงอนของแม่ปุ๋มอยู่บ่อยๆ.... แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยเพราะท่านเป็นแม่ของผมและผมก็รักท่านมากที่สุด แม่ปุ๋มทำงานอยู่ที่สำนักงานบัญชีแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนัก...ทุกๆ วันแม่ปุ๋มจะแต่งชุดทำงานแบบเป็นแบบเสื้อเชิ้ตแขนยาวรัดรูปและกระโปรงสีเข้ม สั้นๆ.... ยิ่งเน้นให้เห็นส่วนสัดของเธอเข้าไปใหญ่เลยครับ...แม่ปุ๋มดูดีมากในชุดทำงาน จนเพื่อนบ้านใกล้ๆแทบจะชมเธอทุกครั้งที่เห็นเวลาที่เธอออกไปทำงาน... ผมก็รู้สึกภูมิใจไปด้วยครับ....ที่มีคุณแม่ยังสาวยังสวยขนาดนี้....หลายปี ที่ผ่านมาตั้งแต่ผมจำความได้มีผู้ชายเข้ามาจีบแม่ปุ๋มเยอะมากครับ... แต่เธอก็ไม่สนใจเลยสักราย(อาจเป็นเพราะยังฝังใจเรื่องพ่อของผม)...จึงทำให้ เธอยังครองตัวเป็นโสดเสมอมา....แต่ผมก็รู้ครับ...ว่าแม่ปุ๋มต้องเหงา แน่ๆ.... ถ้าหากจะมีใครสักคนมาดูแลให้ความสุขกับเธอโดยมารับหน้าที่เป็นพ่อของผม....ผมก็ยินดีครับ...ถ้าหากทำให้เธอมีความสุขได้ ทุกวันผมจะออกไปโรงเรียนก่อนที่แม่ปุ๋มจะไปทำงานครับ โดยไอ้ “ต้น” เพื่อนรักของผมที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจะเข้ามานั่งรอผมในบ้านเพื่อรอไป โรงเรียนพร้อมกันเป็นประจำ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อนุบาลแล้วครับ...พ่อแม่ของไอ้ต้นประสบอุบัติเหตุเสีย ชีวิตไปแล้วทั้งคู่ตั้งแต่ ป.1 เหลือแค่ปู่กับย่าคอยดูแล (คล้ายๆกับผมเลย...แต่ผมยังมีแม่) ไอ้ต้นเลยกลายเป็นเหมือนลูกชายของแม่ผมอีกคนจึงทำให้เราสนิทกันไว วันนี้มันก็มาทานข้าวเช้าที่บ้านผมเช่นเคย (เนื่องจากปู่กับย่าแก่แล้ว...แม่ผมจึงอาสาทำอาหารเช้าให้ไอ้ต้นทานทุกวัน) เด๋วนี้ไอ้ต้นมันสนิทกับแม่ปุ๋มมากครับ.....บางครั้งก็มีเข้าไปกอด...เข้าไป ห้อมแก้มบ้าง....แต่ก็เหมือนกับคนในครอบครัวมากกว่า ผมเคยขอโทษแม่ปุ๋มแทนไอ้ต้นแต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร....เพราะเธอก็ถือว่าไอ้ ต้นเป็นเหมือนลูกชายเธอเหมือนกัน...ผมเข้าใจความรู้สึกไอ้ต้นดีครับ... ถึงผมจะไม่มีพ่อแต่ผมก็ยังมีแม่....แต่ไอ้ต้นกลับไม่เหลือใครเลย...ผมจึงอด สงสารมันไม่ได้ทุกที.....ได้แต่เลยตามเลยถือว่ามันเป็นน้องชายผมก็แล้ว กัน..... วันนี้ก็เหมือนกับทุกวันครับ....ไอ้ต้นมาที่บ้านแต่เช้า....เดินมาทักทายผม ที่โต๊ะกินข้าวแล้วเดินเข้าไปหอมแก้มแม่ผมที่อยู่ในครัว(เหมือนคนในบ้าน เลย).... แล้วช่วยยกสำรับมาตั้งบนโต๊ะ...จากนั้นเราจึงทานข้าวกัน...พอทานเสร็จผม รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำจึงบอกให้ไอ้ต้นไปรอที่โซฟาก่อน พอผมออกจากห้องน้ำมาก็เห็นไอ้ต้นนั่งคุยกับแม่ของผมที่โซฟาอย่างสนุกสนาน โดยแม่ของผมนั่งอยู่บนโซฟา...ส่วนไอ้ต้นนั่งจัดกระเป๋าอยู่ที่พื้นหน้าโซฟา นั้นเอง....พอผมเดินเข้าไปเห็นสายตาไอ้ต้นดูเลิกลั่กยังไงไม่รู้....ปากก็ คุยกับแม่ของผม..... แต่ตาของมันนี่สิคอยเหลือบมองช่วงลำตัวของแม่ผมอยู่ตลอด.....ผมจึงเดินเข้า ไปนั่งข้างๆไอ้ต้น....ผมจึงแทบร้องอ๋อขึ้นมาทันที.....ตอนนั้นแม่ปุ๋มอยู่ใน ชุดทำงาน.... ปกติกระโปรงของเธอนั้นก็สั้นอยู่แล้ว...แต่พอเธอนั่งที่โซฟาแล้วมันยิ่งร่น เข้าไปให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน....ไอ้ต้นมันแอบมองหวอแม่ของผมนี่เองครับ.... แม่ปุ๋มนั่งโดยที่ไม่ได้ระวังเลย....(คงเป็นพราะเห็นว่าไอ้ต้นเป็นคนกันเอง ละมั้งเธอเลยไม่ได้ระวัง...ผมก็แอบเห็นเธอหวอออกบ่อยๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร) ตอนนี้ไอ้ต้นมองไปที่หว่างขาของแม่ผมโดยไม่กระพริบตาโดยไม่ได้มีความเกรงใจ อีกต่อไป เพราะตอนนี้แม่ปุ๋มได้อ้าขาออกเล็กน้อย...จนเราทั้งสองเห็นทะลุปลุโปร่งเข้า ไปในกระโปรง เห็นซอกขาขาวเนียนของเธอไล่ไปจนถึงต้นขา ผมมองทะลุเข้าไปจนเห็นกางเกงในลูกไม้สีขาวของเธอชัดเจนมากครับเนื่องจากเรา ทั้งคู่นั่งอยู่ในมุมที่ต่ำกว่าในระดับเดียวกับหว่างขาของเธอพอดี.... เรียกได้ว่าเต็มเป้าเต็มตาเลยทีเดียว....ใจผมก็อย่างจะบอกเธอเหมือนกันว่ารถ หวอของเธอมันร้องดังลั่นบ้านแล้ว....แต่ใจนึงก็กัวว่าเธอจะอับอาย....ก็เลย ได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย ปล่อยให้ไอ้ต้นมันใช้สายตาแทะโลมเธออย่างสบายใจเพราะมันคงไม่ได้คิดอะไรกับ แม่ผมเหมือนกัน...ส่วนผมเองก็แอบมองเจ้ากางเกงในลูกไม้ของเธอด้วยเพราะมอง จากมุมนี้ก็ได้อารมณ์ดีเหมือนกัน.... สักพักไอ้หนูของผมก็เริ่มพองขึ้นมาจนผมกลัวว่ามันจะเลยเถิด...ก็เลยเอามือไป ตีหน้าขาไอ้ต้นบอกให้ออกไปโรงเรียนกันได้แล้ว....บังเอิญผมไปตีโดนไอ้หนูของ มันครับ..... โอ้โห....มันแข็งโด่เต็มกางเกงเลยเชียว....ผมนึกอยู่แล้วว่าไอ้ต้นมันทนได้ ยังไง...ขนาดผมเป็นลูกแท้ๆยังเป้าตุงเลย ผมรีบคว้าแขนไอ้ต้นให้ลุกขึ้น...บอกลาแม่ผมแล้วดึงมันออกมาจากบ้าน....ไอ้ ต้นทำหน้าเซ็งๆ มันคงติดใจมุมใต้กระโปรงของแม่ผมแน่ๆ.....ผมจึงแอบแซวมันว่า...เฮ้ย...กูรู้ นะว่ามึงนั่งจ้องอะไรแม่ปุ๋ม....เด๋วเหอะมึง.....ไอ้ต้นก็ได้แต่หัวเราะแล้ว มันก็บอกว่า... กูก็เคารพแม่ปุ๋มเหมือนแม่เหมือนกันกูจะคิดอกุศลแบบนั้นได้ไง.....วันนั้นที่โรงเรียนผมแอบเห็นไอ้ต้นหายไปเป็นพักๆ.... ผมว่ามันต้องแอบไปจินตนาการถึงกางเกงในสีขาวของแม่ผมแล้วแอบสำเร็จความใคร่ ช่วยตัวเองอยู่แน่ๆเลย.....เฮ้อ....คราวหลังต้องคอยเตือนแม่ปุ๋มให้นั่ง ระวังหน่อยละ

ไม่มีความคิดเห็น: