ขายของ

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

สุดที่รัก

..........................ไม่ได้พูดได้บ่อยๆนะกับคำคำนี้ สุดที่รักมันกินใจเหลือเกิน สุดที่รักมันเหมาะสำหรับคนที่เรามอบใจมอบกายให้เขาหมดใจ ในช่วงชีวิตหนึ่งเราคงพูดคำคำนี้ไม่เกินหนึ่งครั้งแน่นอนนอกจากเราเป็นคน หลายใจแบบนั้น สุดที่รักของฉัน สุดที่รักของผม คงมีเพียงเท่านี้นะสำหรับชายหรือหญิงที่พูดบอก ใครคนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น เขาคนนั้นต้องน่าเทิดทูลอย่างยิ่ง เขาคนนั้นต้องทำให้เรารักเขามากขนาดนั้น เขาคนนั้นอาจเป็นผู้นำที่ดี เธอคนนั้นอาจเป็นผู้ให้กำลังใจเราที่ดี เขาคนนั้นอาจเป็นคนที่ดูแลเราปกป้องเรา เธอคนนั้นอาจเป็นคนที่มอบชีวิตเธอให้กับเรา ทั้งหมดคือความรักที่คนสองคนมอบให้แก่กัน มันต้องเป็นความรักที่มากล้น เป็นความรักที่ล้นปรี่ เป็นความรักที่ต่างตอบแทนให้กัน รักที่เข้าใจกัน รักที่ยึดมั้นในตัวตนของกันและกัน สุดที่รักมันจึงบอกกับใครไม่ได้ง่ายๆถ้าเขาหรือเธอคนนั้นไม่คู่ควรกับคำว่า" สุดที่รัก" ................การบอกรักพร่ำเพื่อก็คงไม่มีความหมายถ้าคนที่บอกนั้นไม่ จริงใจ คำว่ารักนั้นแม้พูดง่ายแต่การแสดงออกนั้นยากยิ่งนักถ้าเราเสแสร้ง คนที่รักกันใช่แค่เพียงคำพูด คนที่รักกันใช่เพียงมองตา คนที่รักกันมีหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ การแสดงออกด้วยท่าที การแสดงออกด้วยคำพูด การแสดงออกด้วยความห่วงใยหรือการแสดงออกด้วยอารมณ์ ทุกอย่างนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบของคำว่า"รัก"เท่านั้น มีคนหลายคนอยากบอกความรักกับคนที่เขารักแต่ไม่กล้า คนบางคนกลัวเหลือเกิน กลัวที่จะบอกรักกับใครสักคน แต่คนคนนั้นได้แต่เพียงแสดงออกด้วยท่าทาง แล้วเมื่อไหร่คนที่เรารักเขาจะรู้ล่ะ อย่างคนสองคนที่ผมจะเขียนถึงนี้นะครับ.......... ................ต่อพงษ์อาจจะเป็นน้องใหม่ของที่นี่ เป็นน้องใหม่ของพี่ๆที่ทำงานแต่ต่อพงษ์มีอะไรหลายอย่างที่เรียกร้องสายตาของ เพื่อนๆและพี่ๆที่นี่ ต่อพงษ์เรียนจบปริญญาโทฯทางด้านเศรษฐศาสตร์สาขาการวิเคราะห์ฯเศรษฐกิจ ต่อพงษ์มาอยู่ที่นี่ มาทำงานที่นี่ก็เพราะความรู้เพรียวๆ เขามาสมัครทำงานที่นี่เอง สอบเองโดยไม่อาศัยบารมีของคุณพ่อเขาเลย ถึงแม้คุณพ่อต่อพงษ์จะมีฐานะทางการเมืองและการเงินของประเทศ ต่อพงษ์เดินเข้ามาที่แบ็งค์ชาติอย่างสง่าผ่าเผย เขาเดินมาเขียนใบสมัครเองทุกอย่าง ถือกระเป๋าเอกสารเองและก็จัดเอกสารเอง ถึงแม้ต่อพงษ์เคยถูกเลี้ยงดูอย่างคุณหนูของบ่าว แต่ต่อพงษ์ไม่เคยชอบแบบนั้น การที่เขาเรียนจบจากต่างประเทศ และอุปนิสัยของเขาเองที่เงียบขรึม เป็นตัวของตัวเอง มีมาดเท่ย์ มีใบหน้าหล่อไปทางคุณแม่ที่มีเชื่อสายสเปญนิส ต่อพงษ์มีรูปร่างที่สูงสง่าแต่งตัวดูภูมิฐานและเรียบร้อย แน่นอนเมื่อเขามาเป็นน้องใหม่ที่นี่ ต่อพงษ์ตกเป็นเป้าสายตาของหญิงสาวสวยของที่นี่ สาวมากสาวน้อยเป็นต้องแอบมองเขาทุกครั้งเมื่อพบเจอกัน หรือแม้แต่ผู้ชายนะยะก็ไม่วายที่จะลุ่มหลงต่อพงษ์จนมีผู้ชายนะยะหลายคนต้อง ขัดใจกัน สาวงามที่เคยเก็บตัวเงียบในที่ทำงานก็เริ่มเปิดเผยตัว สาวงามที่เคยเฉยชากับหนุ่มแบ็งค์ก็เริ่มเปลี่ยนมุมมองใหม่ หยิงสาวหลายคนเริ่มดูแลตัวเอง แต่งตัวดูเป็นที่สนใจมากขึ้น ห้องที่ต่อพงษ์นั่งทำงานมีสาวสวยเดินผ่านวันละไม่รู้กี่คน กลิ่นน้ำหอมหลากหลายยี่ห้อโชยกลิ่นสัมผัส เลือกสูดดมกันไม่ถูกเลยจริงๆ ทุกวันที่ต่อพงษ์มาทำงานเขาจะดูมาดเท่ย์ มีเสน่ห์ที่ความขรึมและเฉยนิ่ง เขาจะไม่พูดมากแต่สนใจกับงานมากว่า สาวๆที่ชอบผู้ชายแบบนี้แทบคลั่งในตัวต่อพงษ์ .................หลิวสาวสวยแผนกเดียวกันกับต่อพงษ์ก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ ให้ความสนใจกับต่อพงษ์ มากเช่นกัน หลิวชอบผู้ชายแบบนี้ ผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ แน่นอนว่าที่ทำงานแห่งนี้ก็มีหญิงสาวอีกหลายคนที่ชอบอย่างหลิว หลิวเธอเป็นสาวสวยสาวจากรั๊วจามจุรีสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย หลิวเธอสวยไม่แพ้ชมพู้อาริยา หลิวเธอสวยมากกว่าพลอยเฌอมาหลายเท่า ใบหน้าหวานๆของหลิวมีผู้ชายอีกหลายคนให้ความสนใจ ผู้ชายที่พร้อมเป็นคนปกป้องเธอ แต่หลิวไม่ชอบผู้ชายพวกนั้น ผู้ชายที่แสดงความเจ้าชู้ด้วยแววตา แสดงความเจ้าเล่ด้วยคำพูด หลิวชอบผู้ชายที่ดูขรึมในมาด เท่ในท่วงท่า ต่อพงษ์คือผู้ชายในอุดมคติของหลิว เมื่อฟ้ายังไม่เป็นใจ หลิวกับต่อพงษ์ก็เพียงแต่ได้คุยกันในสายงานเท่านั้น หลิวมีแววตาประกายทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้ต่อพงษ์ หลิวจะดูประหม่าจนออกเขินอายเมื่อต่อพงษ์เข้ามาชิดใกล้ หลิวไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง แต่กับต่อพงษ์...หลิวเธอแพ้ทางเขา...แพ้สายตา...แพ้มาดขรึม..และแพ้ความใน ที่ยากต่อการบอก ต่อพงษ์ชอบคุยกับหลิวเรื่องวิเคราะห์ตลาด เขายิงคำถามตรงๆหลายครั้งจนหลิวตอบไม่ได้ ไม่ใช่เธอไม่รู้แต่เธอประหม่ากับสายตาของเขาคู่นั้น เมื่อคนสองคนต้องทำงานร่วมกันบ่อยขึ้น และท่าทางที่ผูกมิตรไมตรีของหลิวก็แสดงออก ต่อพงษ์จึงมีใจผูกมิตรมากกว่าเก่า เขายิ้มส่งให้แทงใจหลิวหลายครั้ง รอยยิ้มที่แสนเท่ มาดที่แสนขรึมบวกกับความหล่อของเขา ต่อพงษ์แทบจะทำลายธรรมนพกั้นกลางใจหลิว หลิวแอบคิดถึงเขายามที่อยู่ลำพัง หลิวแอบมองเขายามที่เขาไม่รู้ตัว หลิวแอบซื้อขนมมาฝากเขา ขนมที่เธอก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าต่อพงษ์จะชอบทานหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้กับการซื้อขนมฝากก็คือคำขอบคุณ..... ................หลิวเธอขับรถมาทำงานเองจากบ้านแถวตลิ่งชัน ส่วนต่อพงษ์เขาอยู่ถึงงามวงศ์วาน ทั้งสองต่างคนต่างมีรถมาทำงานบ่อยครั้งที่ทั้งสองมาจอดรถเคียงคู่กัน รถสองสไตล์ หนึ่งแจ๊สหวานแหวว อีกหนึ่งคัมรีคันโต ทั้งสองมีคนละแบบในสไตล์ตัวเอง แต่หนึ่งเดียวที่คล้ายกันคือความเข้าใจในตัวตน หลิวยิ้มทักเมื่อเห็นต่อพงษ์จอดรถข้างเธอ เขายิ้มให้ด้วยมาดสุขุม เขาเอ่ยช่วยหลิวยกกระเป๋าเอกสารใบนั้น หลิวเกรงใจแต่ก็ส่งให้ด้วยความอารีย์ที่เธอมีอยู่ ทั้งสองเดินคุยกันอย่างสนิด แต่ทุกครั้งที่เดินผ่านเพื่อนๆและพี่ๆ สายตาความอิจฉา สายตาโต้แย้งความรู้สึกก็มีอยู่ตามทางเดิน สายตาหลายคู่เป็นแบบนั้น สายตาหลายคู่ก็ดูเข้าใจคนสองคนที่น่ารัก หวานเพื่อนสนิดของหลิวก็เป็นสาวคนหนึ่งในหลายคนที่ไม่พอใจในความสนิดสนมของ หลิวกับต่อพงษ์ หวานไม่ชอบเลยที่จะเห็นหลิวเดินมากับต่อพงษ์ หวานจะไม่รู้สึกดีเลยเมื่อเห็นต่อพงษ์ช่วยหลิวถือกระเป๋า อาการเผาใหม่ในดวงตาก็เริ่มสาดแสง อาการหงุดหงิดในสายเลือดก็บรรเจิดจนหน้าหวานแดงก่ำ ปากของหวานก็ทักทายอย่างน่ารักและจริงใจ แต่ใจเธอนั้นอย่างกับไฟสุมทรวง หวานหาทางให้คนสองคนต้องกินใจกัน เธอพยายามหาทุกวิถีทางของการใส่ร้ายหลิวเพื่อนรัก ความอิจฉาและความมักมากในอารมณ์มันแผดเผาหวานจนไม่เหลือความเป็นเพื่อน สำหรับเธอ หวานทำเหมือนกับหลิว หวานจะซื้อของและขนมมาฝากต่อพงษ์ หวานจะขับรถไปจอดข้างๆรถต่อพงษ์ หวานจะรอจนกว่าต่อพงษ์จะลงมาที่รถ หวานแอบทิ้งเบอร์ส่วนตัวไว้ที่นามบัตรที่เธอพึ่งทำหมายส่งให้ต่อพงษ์ในยาม ที่เขามีธุระ หวานบอกเธอมีธุรกิจที่บ้านอย่างนั้น เธอคงมีโอกาสที่จะได้รับใช้ต่อพงษ์บ้างในอนาคต หวานทำตัวหวานแหวว ทำตัวน่ารักเหมือนเด็กคิขุ แต่ที่จริงหวานเป็นผู้หญิงที่สวย เป็นสาวที่มีมาดไม่น้อย แต่เธอจมกับความโกหก จมกับความอิจฉาจนลืมตัวตนของตนเอง หวานมีอะไรหลายอย่างที่หญิงสาวหลายๆคนไม่มี ฐานะทางบ้าน รถที่เธอใช้ บ้านที่เธออยู่หรือหน้าที่การงานของเธอ หวานจบจากรั๊วโดม รั๊วของนักกฏหมายเก่งกาจ แต่หวานไม่ฉลาดที่จะเรียนทางรัด เรียนรักทางข่มเพื่อน หวานจะเหยียบเพื่อนขึ้นสู่ที่หมาย... ...............ต่อพงษ์ยังมีพี่ๆอีกหลายคนที่ให้ความรักในฐานะน้องชายผู้น่า รัก น้องชายที่มีเสน่ห์เรียกความรู้สึกเหลือหลาย พี่มาย...พี่สาวผู้สูงศักดิ์ พี่สาวที่มาจากตระกูลคหบดี พี่มายจบจากต่างประเทศเช่นกัน พี่มายมีเรือนร่างเป็นอาวุธร้าย พี่มายมีใบหน้าเหมือนมีดโกนบาดใจลึกของหนุ่มๆ พี่มายมีทุกอย่างนอกจากคู่ครอง พี่มายอาจเก่งในสายตาหนุ่มๆจนพวกหนุ่มๆเหล่านั้นไม่กล้าเข้ามาจีบ พี่มายมีฐานะสูงกว่าใครหลายคนในที่นี้รวมถึงเจ้านายในสายงานด้วย พี่มายจึงเป็นที่เกรงใจของเพื่อนๆและน้องๆ พี่มายมีเสน่ห์ที่เสียง มีเสน่ห์ที่เรือนร่าง ใบหน้าที่แสนคมจนผู้ชายหลายคนต้องสยบกับเธอ แต่เธอไม่เลือกผู้ชายแบบนั้น ผู้ชายที่ดูอ่อนแอในยามที่เข้ามาใกล้ผู้หญิงสาว ผู้ชายที่ทำตัวอ่อนน้อมเหมือนเสแสร้งในยามที่อยู่ใกล้กับเธอ พี่มายไม่ชอบเลยแบบนั้น แต่กับน้องต่อพงษ์...พี่มายดูเป็นรองในความรู้สึก พี่มายดูอ่อนล้าในความคิด พี่มายอยากให้มีผู้ชายสักคนอย่างน้องต่อพงษ์มาคอยชี้นำ แน่นอนว่าพี่มายแอบชอบน้องชายคนนี้เข้าแล้ว และเมื่อความรักที่ยังไม่จริงจังความรักที่ยังไม่แน่นอน แต่ความรักแบบนั้นกลับฟุ้งกระจายอยู่เต็มที่ทำงานแบบนั้น ความสงบก็ต้องจางหาย ความอิจฉาก็ผุดเกิดเป็นเงาตามตัว ...............หวานเดินเกมส์รักด้วยการตัดกำลังทางจิตวิทยากับหลิว หวานชอบพูดบอกต่อพงษ์ว่าหลิวมีผู้ชายมาจีบเยอะ หลิวเป็นที่ถูกใจของหนุ่มๆจนหลิวเริ่มหลงตัวเอง ต่อพงษ์รับคำบอกนั้นจากหวานแต่เขาก็เฉยไม่ได้ใส่ใจนัก หวานแอบจอดรถเคียงข้างรถต่อพงษ์บ่อยครั้ง หวานจะมาเช้ากว่าทุกที หวานพยายามหยิบยื่นความสวยให้ต่อพงษ์เห็น และมีหวานจะแอบอวดโชว์เรียวขาให้ต่อพงษ์เห็นหลายครั้ง บางครั้งหวานลงทุนปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนเพื่ออวดโชว์ร่องอกขาว หลิวนั้นรู้ว่าเพื่อนรักกำลังคิดอย่างไร รู้ว่าเพื่อนคนนี้แอบทำในสิ่งที่ไม่น่าจะทำกับเธอ หลิวเฉยกับการกระทำของหวาน เธอนิ่งและเก็บอารมณ์ หลิวรู้ว่าถ้าผู้ชายที่เธอรักเป็นเช่นนั้น เป็นคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เห็น เชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกเล่า หลิวยอมทิ้งผู้ชายคนนั้นเสียดีกว่า ชีวิตยังอีกยาวไกล........หวานแอบยิ้มเมื่อเธอเห็นสายตาของต่อพงษ์แอบมองเธอ ตอนที่เธอโชว์ร่องอก หวานปล่อยเสน่ห์มายาหญิงร้อยเล่มเกวียนให้กับต่อพงษ์ หวานอ้อนด้วยคำพูด อ้อนด้วยแววตา เธอเอ่ยชวนต่อพงษ์ไปทานข้าวเย็นของวันนี้....."ต่อค๊ะ...หวานมีบัตรดินเนอร์ สองที่นะค๊ะ...ที่เลอมังค์ใต้ถุนโรงแรมปาร์คฯ...ต่อไปกับหวานนะค๊ะคืนนี้" หวานพูดพร้อมส่งแววตาอ้อนจับใจ ท่วงท่าเธอก็ช่างเรียกอารมณ์เพศเหลือหลาย วันนี้เธอยิ่งสวมใส่ชุดทำงานสั้นขนาดนั้น ร่องอกเสื้อก็อวดโชว์จนแทบทะลักล้น "นะค๊ะต่อ....ไปกับหวานคืนนี้" หวานพูดเพื่อให้หลิวได้ยิน หวานจงใจให้หลิวอิจฉา หวานยิ้มให้หลิว "หลิว...คืนนี้ไปกับแฟนสิน๊ะ...คืนวันศุกร์แบบนี้คงสวีทกันน่าดู" หวานพูดแกล้งหลิวเพื่อให้ต่อพงษ์ได้ยิน หลิวยิ้มและเพียงบอกว่าเธอกลับบ้านคืนนี้ เธอมีธุระกับครอบครัว หลิวไม่อยากตอแยกับหวาน เธอกลับบ้านทันทีเมื่องานเลิก ต่อพงษ์เข้าใจและก็ไม่อยากปฏิเสธหวานเพราะเธอเอ่ยแบบนั้นต่อหน้าเพื่อนๆ คืนนี้ทั้งสองคงจะหวานแน่นอนในมุมมองของเพื่อนๆที่ที่ทำงาน แต่ต่อพงษ์ไม่คิดเช่นนั้น ต่อพงษ์ให้เกียรติหวานกับอาหารค่ำมื้อนี้ ต่างคนต่างขับรถไปถึงแม้หวานจะบอกว่าเธอจะจอดรถที่นี่เพื่อนั่งรถไปกับต่อ พงษ์ ................บนโต๊ะอาหารมื้อนี้ดูช่างโรแมนติคสำหรับหวาน ไวน์ขาวกับเนื้อแกะจานโปรด คัวซองขนาดกำลังทานรสนุ่มและร้อนกำลังดี หวานทานอย่างอร่อยกับผู้ชายที่เธอฝันใฝ่ หวานพูดคุยอย่างมีเกรด หวานใช้คำพูดนุ่มนวล หวานมีท่าและมาดดีจนต่อพงษ์ก็แอบชื่นชม หวานดื่มไวน์สามสี่แก้วจนเธอรู้สึกอบอุ่น รสชาดอาหารยิ่งดีขึ้นอีกเมื่อไวน์ขวดนั้นเหลือเพียงครึ่งขวด ต่อพงษ์เล่าเรื่องสนุกๆให้หวานฟัง เล่าเรื่องบางเรื่องที่เขาพบเจอที่ต่างประเทศ หวานชอบถามต่อพงษ์เกี่ยวกับทางบ้าน หวานถามถึงคุณพ่อคุณแม่ต่อพงษ์ หวานถามหลายเรื่องจนต่อพงษ์แทบตอบไม่ทัน ดึกแล้วค่ำคืนนี้ ต่อพงษ์ดื่มไวน์แก้วนี้แล้วก็ชวนหวานกลับ แน่นอนที่หวานไม่ขัด แต่หวานเอ่ยชวนต่อพงษ์ลงไปเต้นรำที่ผับด้านข้าง หวานบอกอยากสนุกมากๆในคืนวันศุกร์แบบนี้ หวานดึงมือต่อพงษ์ไปที่นั่นถึงแม้ต่อพงษ์จะไม่ชอบนัก ทั้งสองยืนครอเครียที่ฟลอร์ ยืนกอดกันหลวมๆจากมือของหวาน ต่อพงษ์แน่นอนว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ล่วงเกินผู้หญิงที่อยู่เคียงใกล้ เขาเต้นรำสบายๆตามแบบที่เขาชอบ เขาก้มมองใบหน้าหวานๆของหญิงสาวที่ดูพร้อมจะรับอารมณ์จากเขา ต่อพงษ์ซบหน้าที่หน้าผากเธอ ต่อพงษ์ยิ้มหวานและขอบคุณในค่ำคืนนี้ ต่อพงษ์กระซิบเบาๆ "กลับนะครับหวาน...ดึกมาแล้ว." หวานยิ้มให้เขาและก็พยักหน้ารับ ทั้งสองเดินออกมาที่ลานจอดรถ หวานเดินเซเล็กน้อยและบอกกับต่อพงษ์ว่า "สงสัยหวานดื่มไวน์มากไปหน่อย....เดี๋ยวคงจะดีขึ้น...แต่เดี๋ยวขอให้ต่อพงษ์ ไปส่งที่บ้านเธอ" แต่เมื่อต่อพงษ์ขึ้นรถของเธอ หวานกลับขอขับเอง ต่อพงษ์ห้ามแต่เธอไม่ฟัง หวานขับรถดูเชื่องช้า เธอไม่ได้เมาอะไรเลย นี่เป็นแผนเสียมากกว่า หวานขับรถคุยกันสนุกกับต่อพงษ์เพียงครู่หวานก็แกล้งเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแถว ใกล้ๆ หวานยิ้มให้ต่อพงษ์แล้วบอกว่า หวานไม่อยากกลับบ้านคืนนี้ อยากสบายๆในคืนวันศุกร์ กู๊ดฟรายเดย์ ต่อพงษ์เขาตกใจนิดหน่อยแต่เขาก็เก่งพอที่จะเดาอะไรได้ง่ายๆ "หวานลองล้างน้ำด้วยน้ำเย็นสักหน่อยสิครับอาจดีขึ้น...ผมนั่งรอเมื่อความ รู้สึกดีขึ้นค่อยกลับบ้าน" หวานยิ้มและก็ดึงมือต่อพงษ์ลงจากรถ "ไปเถอะ..ไปข้างในด้วยกัน" โรงแรมชั้นสองแถวนี้ก็ดูคล้ายม่านรูด รถจอดเด็กก็วิ่งมารับ ต่อพงษ์มองหวาน มองแววตาเธอที่ช่างกล้าหาญเหลือเกิน ต่อพงษ์ผ่านเรื่องแบบนี้มามาก ที่ต่างประเทศเขาก็มีเซ็กซ์กับผู้หญิงที่พร้อมใจ ไม่มีพันธะและข้อผูกพัน ต่อพงษ์มองหวาน มองเหมือนหาคำตอบจากเธอ หวานส่งเงินค่าที่พักให้กับเด็กก่อนที่ต่อพงษ์จะหยิบยื่น เธอดึงมือต่อพงษ์เดินตามเข้าไปข้างในห้องนั้น ห้องที่มีแสงไฟช่างละเมียดละมุน กลิ่นหอมจากโคโลญสัมผัสจมูก ภาพเตียงนอนขนาดใหญ่กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หวานดึงมือเขามานั่งเคียงใกล้ หวานก้มลงมาหาต่อพงษ์ที่นั่งเงยมอง หวานก้มลงอีกนิด ริมฝีปากเธอกำลังสัมผัสริมฝีปากเขาอย่างเชื่องช้า หวานจูบต่อพงษ์เบาๆ "คืนนี้หวานมีความสุขจังเลยคะต่อ...ต่อค๊ะ...ต่อรู้สึกอย่างไรกับหวานค๊ะ" ต่อพงษ์ยิ้มให้เธอ ต่อพงษ์บอกดีครับ "หวานดีแบบไหนค๊ะ..บอกหวานสิ" ต่อพงษ์เขยิบถอยตัวออกอีกนิด "หวานครับ...คืนนี้เรากลับบ้านไม่ดีกว่าหรือ..." หวานงงกับสีหน้าต่อพงษ์ "ทำไมค๊ะต่อ...ต่อรู้สึก....ต่อไม่ชอบหวานหรือค๊ะ" ต่อพงษ์จนคำตอบแต่เขาก็แสดงสีหน้ากังวล ต่อพงษ์ไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเก็บความรู้สึกที่เขาเองก็อยากบอกเธอแต่ต่อพงษ์ยังไม่พร้อมที่จะพูดเท่า นั้น ต่อพงษ์ลุกจากเตียงแล้วชวนเธอกลับ ต่อพงษ์เดินไปที่ประตูห้องแล้วเหลียวมองหวานอีกครั้ง "กลับเถอะครับหวาน...ผมมีอะไรต้องทำอีกที่บ้าน" หวานมองต่อพงษ์ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะปฏิเสธเธอ เธอรู้ว่าเธอสวยขนาดไหน เธอมีเสน่ห์ขนาดไหนในสายตาผู้ชายทั่วไป เธอไม่เข้าใจต่อพงษ์จริงๆ หวานล้มตัวลงนอนที่เตียง เธอมองเขาอีกครั้ง "ถ้าต่ออยากจะกลับแล้วทิ้งหวานไว้ที่นี่...ต่อก็กลับก่อนเถอะคะ...หวานขับรถ ไม่ไหวอยากจะนอนแล้ว" ต่อกังวลกับคำพูดนั้นแต่เขาก็ช่างใจ ต่อพงษ์หันกลับไปที่ประตูแล้วเขาก็ก้าวเดินออกไป ไม่เหลียวมองกลับมาแม้แต่น้อย หวานโกรธเขามาก โกรธที่ต่อพงษ์ไม่ให้เกียรติเธอแต่หวานก็ช่างอารมณ์ เธอรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา หวานชอบเขามากมายจนต้องยอมเก็บอารมณ์โกรธนั้นไว้ หวานนอนมองเพดานห้อง มองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ ช่างเถอะหวานคิดแบบนั้นก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้อง "กลับหรือครับคุณ...ไม่ใช้ห้องแล้วหรือครับคูณครับ" เด็กคนนั้นเดินเข้ามาถามหวานที่กำลังก้าวเดิน หวานยิ้มให้เด็กคนนั้นก่อนส่งเงินทิปให้เขาไป เด็กน้อยเดินมาเปิดประตูรถให้เธอพร้อมไฟฉายส่องสว่าง หวานก้าวขึ้นพร้อมเอ่ยขอบใจเด้กคนนั้น ไฟฉายสาดส่องที่ประตูและที่เท้าเธอ ไฟฉายสาดแสงไปที่สวิทย์กุญแจเมื่อเธอนั่งพร้อม แสงไฟสาดส่องเห็นเรียวขาของหวานที่สวยเนียน กระโปรงสั้นเลิกสูงจนเห็นท่อนขานั้น ไฟฉายยังคงจับโฟกัสที่ท่อนขาจนหวานต้องมอง หวานหันกลับไปดูเด็กคนนั้นที่ฉายไฟส่อง โอยย...แววตาเด็กน้อยจับจ้องที่เรียวขา...แววตาเด็กคนนั้นดูชื่นชอบ...แววตา ดูประกายความรู้สึก...หวานเอามือขึ้นปิดพร้อมบอกให้เขาปิดประตูรถ เด็กน้อยยิ้มและตกใจที่หวานรู้ว่าสายตาเขาจ้องมองอะไรอย่างนั้น เด็กยังยืนงงและจ้องดูท่อนขาอย่างไม่ละ ดูจนหวานต้องเอามือปิดอีกครั้ง "มองอะไรจ๊ะ...ไม่เคยเห็นหรือไง" เด็กยิ้มให้เธอ "ครับ..คุณสวยมากและน่ารักมาก...ทำไมไอ้ผู้ชายคนนั้นมันถึงโง่อย่างนั้น" หวานตกใจที่เด็กน้อยรู้ "เธอรู้เรื่องหรือที่พูดแบบนี้" หวานถามพร้อมแววตาฉงน เด็กมองหวาน มองเรียวขานั้นอีก "ครับคุณ ผมได้ยินคุณสองคนพูดกัน" ...............หวานรู้สึกไม่ดีเลยกับเด็กคนนี้ที่เข้ามาแอบฟัง และนี่ถ้าเธอกับต่อพงษ์มีเซ็กซ์กันเด็กคนนี้คงต้องแอบดูแน่ๆ หวานปิดประตูรถและรีบขับรถออกไปจากที่นั่น หวานผิดหวังและอายในความรู้สึกที่ต่อพงษ์ปฏิเสธตัวเธอ หวานนิ่งและเก็บอารมณ์นั้นกลับมานอนคิด เธอไม่แน่ใจแล้วว่าเธอจะเอาชนะหลิวเพื่อนสาวได้ แต่คนอย่างหวานนั้นไม่ยอมอะไรง่ายๆ เธอพูดคุยกับเพื่อนๆที่ทำงานว่าเธอกับต่อพงษ์เป็นแฟนกัน เธอบอกว่าเราสองคนรักกันมากจนพี่มายไม่ชอบสิ่งที่ได้ยินนัก พี่มายรู้ว่าต่อพงษ์ไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น พี่มายเชื่อว่าหวานต้องโกหก หลิวรับรู้ในสิ่งที่หวานพูด เธอนิ่งเฉยถึงแม้ใจนั้นจะสับสนแต่เธอก็เชื่อว่าต่อพงษ์คงไม่รวดเร็วแบบนั้น หลิวยังรอเวลาพิสูจน์รักแท้ของเธอ ต่อพงษ์ไม่ใช่ผู้ชายซื่อบื่อที่มองหญิงสาวไม่ออก แต่ต่อพงษ์เป็นสุภาพบุรุษมากกว่าที่ใครๆคิด ต่อพงษ์พยายามห่างจากหวาน เขาใช้การแสดงออกเป็นเครื่องพิสูจน์ การพูดนั้นมันจะเป็นการเปลืองเวลาเปลืองสถานะตัวเอง ต่อพงษ์ใช้การวางตัวเข่นฆ่าความโกหกของหวานจนเธอเริ่มไม่แน่ใจจริงๆว่าเธอจะ เอาชนะต่อพงษ์ได้.... ...............พี่มายนั้นเห็นและเข้าใจกับสิ่งที่เธอคาดเดา พี่มายยิ้มว่าเธอเข้าใจต่อพงษ์ถูกต้อง พี่มายยิ้มเยาะหวานที่ทำตัวโกหก พี่มายเริ่มทำความสนิดกับต่อพงษ์มากขึ้น พี่มายเริ่มให้ต่อพงษ์มาช่วยงานเธอหลายครั้ง พี่มายจัดงานวันเกิดที่บ้านหรูของเธอแถวพัฒนาการ พี่มายเชิญทุกคนที่ทำงานด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มายจัดงานใหญ่แบบนี้ พี่มายต้องการโชว์ศักยภาพของเธอ โชว์สถานนะทางบ้านเธอ คุณพ่อคุณแม่ของเธอร่วมเป็นเจ้าของงานด้วย สถานที่ดูโอ่อ่ามากๆ บ้านหลังโตเหมือนคฤหาส สนามหน้าบ้านและเรือนรับรองถูกจัดเตรียม งานนี้เพื่อต่อพงษ์ก็ว่าได้ เมื่อเค็กวันเกิดถูกเป่าเทียนพร้อมตัดแจก พี่มายก็เริ่มวางเกมส์รักหวานสำหรับต่อพงษ์ พี่มายพาต่อพงษ์ไปรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ พี่มายแสดงความรู้สึกดีๆกับต่อพงษ์ต่อหน้าท่านทั้งสอง ต่อพงษ์มีมาดเข้มพอที่จะวางตัวสมกับที่เขาร่ำเรียนหนังสือ ต่อพงษ์ยิ้มรับทุกอย่าง ต่อพงษ์ไม่ปฏิเสธความหวังดี แต่ต่อพงษ์ใช้การวางตัวเฉยและไม่แสดงออกใดๆจนอีกฝ่ายหรือคนที่มุ่งหวังต้อง หยุดพฤติกรรมไปเอง หลังวันนั้นพี่มายก็เริ่มเดินเกมส์แรงขึ้น พี่มายเรียกหลิวเข้าไปพบ พี่มายบอกความรู้สึกของเธอให้หลิวฟัง พี่มายขอให้หลิวหยุดคบหากับต่อพงษ์ หลิวอึ้งไปชั่วขณะเพราะไม่นึกว่าพี่ที่เธอเคารพจะพูดและทำแบบนั้น ผู้ชายคนเดียวทำให้คำว่าพี่และเพื่อนต้องแบ่งแยก หลิวอดนึกไปถึงการเมืองที่คนกลุ่มเดียวแบ่งแยกคนในแผ่นดินได้นับอะไรกับพี่ มายที่แบ่งและแยกเธออย่างนั้น ความกำหนัดและความเห็นแก่ตัวมีอยู่ในอณูขุมขนของมนุษย์ ไม่ว่าเรื่องไหน การเมืองหรือความรัก หลิวรับปากพี่มายว่าเธอจะไม่เกี่ยวข้อง แต่เธอไม่รับปากว่าเธอจะห้ามต่อพงษ์ได้หรือเปล่าเท่านั้น พี่มายมองแววตาหลิว นึกคำพูดที่หลิวพูด ทำไมหลิวกล้าพูดแบบนั้น มีอะไรหรือที่หลิวเชื่อในตัวเองขนาดนี้..... ................พี่มายไม่สนใจกับหวานเหมือนหลิว พี่มายไม่พูดแบบนี้กับหวาน เพราะเธอเชื่อว่าหวานไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัว พี่มายกลัวหลิวมากกว่า ต่อพงษ์กลายเป็นผู้ชายเนื้อหอม กลายเป็นผู้ชายที่ถูกแย่งโดยผู้หญิงอย่างน้อยสามคน นี่ไม่รวมถึงสาวๆที่มองอยู่ห่างๆ สาวๆที่แอบชอบแอบรักแต่ไม่กล้าแสดงออก ต่อพงษ์ยังเป็นต่อพงษ์คนเดิม เขารู้และมองตาคนออก แต่ต่อพงษ์ใช้ความเงียบสยบความเคลื่อนไหว ต่อพงษ์ทำงานและก็กลับบ้าน ต่อพงษ์ไม่ปล่อยเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ แต่ต่อพงษ์กลับพลาดอย่างไม่น่าเชื่อที่เขารับคำเชิญจากพี่มายไปงานเลี้ยงของ เพื่อนพี่มายที่โรงแรมหรู ต่อพงษ์ไปเป็นแขกที่พี่มายเจาะจงให้เพื่อนเธอชวน ต่อพงษ์ดูสนุกมากเพราะเพื่อนของพี่มายเป็นนักเรียนนอกเสียส่วนใหญ่ ทุกคนมาจากตระกูลดังๆ งานเป็นแบบปาร์ตี้กันเองฝรั่งเรียกว่างานเลี้ยงแบบฮาร์ทคอร์กันเลย ไม่มีพิธีการทุกอย่างเกิดขึ้นตรงนั้น เครื่องดื่ม อาหาร และยาเสพติด โคเคนมีบริการมากมายจากเพื่อนกลุ่มนี้ ต่อพงษ์เคยเสพสมัยเรียนที่ต่างประเทศ เมื่องานพิเศษแบบนั้น คนที่ไปร่วมก็เต็มที่กับทุกสิ่ง และต่อพงษ์ก็เมาจนแทบลืมตัวเอง ต่อพงษ์ถูกพี่มายพาไปนอนบนห้องพักของคฤหาสหลังนี้ พี่มายปล่อยเพื่อนๆสนุกกันโดยที่เธอวางแผนไว้แล้ว พี่มายตั้งกล้องสี่ตัวรอบๆด้าน เธอจับต่อพงษ์เปลือยเปล่าบนเตียงนั้น เธอเริ่มกับตัวเอง พี่มายอวดเรือนร่างที่แสนวาบหวิว สาววัยขนาดเธอก็ยังมีเสน่ห์เหลือเกิน พี่มายพึ่งผ่านหนาวมาเพียงสามสิบต้นๆ เรือนร่างเธอก็ยังเฟิร์มไปหมด นมเธอถึงแม้จะเคยสัมผัสมือมาบ้างแต่ก็เพียงครั้งสองครั้งสมัยวัยรุ่น แต่ทุกวันนี้เธออยู่เป็นโสด เรื่องผู้ชายไม่ได้เคยสัมผัสมานานมากแล้ว พี่มายอวดเรือนร่างท่ามกลางกล้องที่จับภาพเคลื่อนไหว พี่มายนอนกอดร่างที่ดูเหมือนไม่ได้สติของต่อพงษ์ พี่มายลูบไล้สัดส่วนต่อพงษ์ จับตรงนั้นและตรงนี้ จับลูคลำอย่างที่ใจอยาก พี่มายโลมเลียเรือนร่างชายหนุ่ม เธอเอาตัวและทรวงอกนวดคลึงร่างชายคนรัก เธอจูบเขา กอดเขา ลูบไล้ทั่ว มือเธอสัมผัสความเป็นชายของต่อพงษ์ เธอจ้องมันอย่างโหยหา พี่มายเงยมองกล้องอีกครั้งก่อนที่เธอจะอ้าปากรับสิ่งนั้นของต่อพงษ์เข้าไป เธออมแล้วดูดให้เขา ดูดอย่างถนอม มือเธอรูดอย่างละมุนนุ่ม ปลายลิ้นเธอโลมเลีย เธอกดริมฝีปากจูบสิ่งนั้น เธอดูดที่ละนิดก่อนที่จะอ้าปากอมมันจนแทบมิด เธอรูดมันเข้าออกในปาก ดูดมันจนแทบสลาย พี่มายรั๊งมือโถทกอด เธอนอนคว่ำเกือกกั่วร่างกับชายคนที่เธอรัก พี่มายหันตัวเองหามุมกล้อง เธออวดร่างเปลือยอย่างร้อนแรง มือเธอลูบไล้ตัวเอง ปลุกเร้าตัวเอง มือบีบคลึงนมอกเนิน บีบเคล้านมทั้งสองอย่างถนอม เธอร้องครางเมื่ออารม์กำหนัดมันเจิดจำรัส เธอกดร่างเบียดแนบกับชายที่เธอรัก พี่มายกดเนินสวาสถูไถกับร่างเขา เธอกดเนินเบียดแนบตั้งแต่บนลงล่าง พี่มายอ้าขาแยกแล้วกดลงกับใบหน้าต่อพงษ์ เนินสวาสที่หยาดเยิ้ม น้ำเมือกที่ไหลริน พี่มายกดถูกับเขา ปากกลีบที่อ้าสวยถูกกดถูอย่างแยบยล เธอร้องสั่นสะท้านเมื่อแคมเนื้อถูไถ เธอเกร็งกระตุกเมื่อกลีบงามเธอถูกเบียดแบบนั้น พี่มายคร่ำครวญปราถนา คร่ำครวญความเสียวซ๋านจนแทบหมดแรงอดทน พี่มายเลื่อนตัวลงด้านล่าง เธอจับท่อนเนื้อท่อนนั้นสอดใส่เธอช้าๆ ร่างเธอกดลง อ่ายยย.....ซีดดด.... ................เธอกดร่างโยกคลึงกับความสุขที่เธอกระทำ เธอกดสะโพกย้ำกับความเป็นชายของคนรัก พี่มายโยกย้ายสะโพกอย่างเชื่องช้า เธอกดเน๊นและส่ายกดอย่างถนอม ความละมุนนุ่มของลีลารักเธอชื่นชอบ เธอค่อยๆกดคลึง กดโยกเบาๆ แคมกลีบถูกกดแยกจากท่อนเนื้อที่กำลังพอเหมาะ แคมเนื้อถูกกดเข้าอย่างละมุนนุ่ม เธอร้องครวญกับอารมณ์เสียว เธอคร่ำครวญกับอารมณ์กำหนัด พี่มายมองกล้องตัวนั้นก่อนที่เธอจะยกก้นลอยขึ้น มือเธอกดท้าวกับตัวคนรักแล้วเธอก็เป็นคนควบคุมเกมศ์สวาส ร่างเธอโยกขึ้นลง ใบหน้าเธอบ่งบอกความสุข เธอร้องคร่ำครวญทุกครั้งที่เธอกดลงแบบนั้น เธอเสียวสะท้านทุกครั้งที่เธอกดลงแนบเนื้อ เธอขมิบถี่ๆเมื่อท่อนเนื้อคนรักกระทุ้งเบาๆข้างใน พี่มายร้องโหยหา พี่มายกดคลึงมือกับตัวเอง เธอคลึงมือกับนมสวยคู่นั้น ปลายนิ้วเขี่ยยอดอกเบาๆ บี้เบาๆอย่างเข้าใจความรู้สึก เธอร้องเชิดหน้าเมื่อเธอใกล้ไคลแม็คซ์ เธอดีดร่างสั่นไหวกับอาการวาบหวิว เธอโยกเอวแรงขึ้นอีกนิด โยกเอวส่ายอีกหลายครั้ง เธอก้มมองกลีบเนื้อที่บดเบียด เธอก้มดูร่องกลีบที่วาบหวิว พี่มายร้องครวญพร้อมมือที่บีบนมคู่นั้น ฌะอกดโยกเร็วขึ้น กดแรงขึ้นอีกนิด อ่ายย...เธอทนไม่ไหวกับความกำหนัดอย่างรุนแรง เธอกดร่างเหวี่ยงกับสิ่งนั้น เธอกดโยกอย่างเร่าร้อน เอวเธอเหมือนงูร้ายที่ฉกกัด เนินเธอกดเคล้าคลึงจนแทบสลายสิ้น ร่างเธอแอ่นเร่าๆ ปากเธอร้องโหยหา มือเธอบีบคลึงนมอย่างรุนแรง อืยยยย...ซีดดด...เธอร้องกระตุกร่าง ปากห่อสูดอากาศเข้าปอดแรงๆ เธอเสร็จกับความสุข เธอเสียวสุดยอดอย่างมากมาย เธอหรั่งน้ำรักล้นไหล น้ำกามแตกฟูฟ่อง โอวว...ความสุขช่างแสนหวานเหลือเกิน....... ...............แผ่นซีดีแผ่นนี้คงเป็นเครื่องหมายความเป็นเจ้าของของเธอต่อ ผู้ชายคนนี้ ต่อพงษ์คงต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่มายยิ้มกับเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของคนรัก พี่มายยิ้มกับอารมณ์ที่สุขสม เธอคงได้สมหวังกับผู้ชายที่เธอหลงรักเขาจริงเสียที และเมื่อหวานรับรู้ถึงเรื่องนี้ รับรู้ถึงซีดีที่เป็นหลักฐาน ในที่ทำงานต่างพูดกันถึงเรื่องนี้ หวานแทบจะรับไม่ได้ เธอโกรธและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอแค้นใจที่เธอต้องพ่ายแพ้ แพ้กับความรักที่เธอหวัง แพ้กับพี่มายที่เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นคู่แข่ง หวานอยากจะเข้าไปพูดคุยกับต่อพงษ์แต่เธอก็ตระหนักถึงสิ่งที่ตามมา หวานยังจมปลักกับสิ่งที่ผิดหวัง เธอหมดแรงหมดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หวานออกเที่ยวยามค่ำ เธออยากชดเชยความรู้สึก หวานดื่มและเที่ยวเกือบทุกคืน เธอปล่อยอารมณ์กับความผิดหวัง คืนนี้เธอขับรถผ่านที่นั้น ผ่านโรงแรมที่ครั้งหนึ่งเธอมากับต่อพงษ์ หวานหยุดรถมอง มองกับสถานที่เธอผิดหวัง หวานฟุบหน้ากับพวงมาลัยรถ เธออยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ "พี่ครับ...พี่ครับ..."เสียงเคาะกระจกรถเรียกเธอจนหวานสะดุ้ง เด็กหนุ่มคนนั้นจริงๆ หวานจำเขาได้ "พี่นั่นเอง...พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" หวานมองหน้าเด็กหนุ่มก่อนจะลดกระจกลง "ไม่เป็นไรจะ...สบายดีนะเธอ" หวานทักเด็กคนนั้นอย่างรู้จักก่อนที่เธอจ้องมองเขาอีกครั้ง "นี่...เธอว่าพี่สวยรึเปล่า....สวยพอที่จะให้ผู้ชายคนหนึ่งปฏิเสธหรือเปล่า จ๊ะ" เด็กหนุ่มคนนั้นยิ้มและบอกเธอว่า"พี่ครับ...พี่สวยมากครับ...ผมว่าพี่สวย เกินกว่าที่ผู้ชายคนนั้นจะปฏิเสธพี่...แต่ถ้าเขาปฏิเสธ...ผมว่าเขาโง่มากๆ" หวานยิ้มพยักหน้าเหมือนรู้ว่าเด็กหนุ่มปลอบประโลมเธอ หวานเลี้ยวรถไปที่โรงแรมโดยเด็กหนุ่มรีบเปิดรับ "พี่จะนอนพักหรือครับ...ดีครับหายเมาค่อยกลับ" หวานยิ้มให้เขาก่อนที่เธอจะก้าวลง หวานปิดประตูห้องพักแล้วนอนอยู่อย่างนั้น เธอเหมือนอยากหลับฝันกับความรู้สึก เด็กหนุ่มเคาะแล้วเปิดประตูห้องเข้ามา "พี่ครับ..จะเอาเครื่องดื่มเพิ่มรึเปล่าครับ....แล้วพี่จะจ่ายค่าห้องเลย หรือเปล่าครับ" หวานนอนมองเด็กคนนั้นที่ยืนใกล้ประตูห้อง หวานนอนปล่อยอารมณ์จนลืมเรือนร่างที่อวดเห็น กระโปรงเลิกสูงจนเห็นเรียวขาท่อนบน เห็นความขาวเนียนของเรียวขาทั้งสองข้างนั้น เด็กหนุ่มถึงกับแอบจ้อง จ้องมองความสวยของเธอ หวานมองแววตาเด็กคนนั้น มองสายตาที่จับจ้องเธอ "มองพี่หรือ...ชอบหรือแบบนี้...สวยรึเปล่าล่ะขาของพี่...สวยมั๊ย" หวานถามจนเด็กนั้นตกใจแต่เด็กก็ยิ้มให้เธอ "ครับ...พี่สวยมากครับ...ขาพี่สวยจริงๆ" หวานมองตาเด็กคนนั้นอีกครั้ง มองแววตา มองท่าทางที่เด็กคนนั้นจ้องมองเธอ หวานนิ่งกับเขา จ้องเขา แววตาเธอจ้องจนเด็กคนนั้นจน.....ใช่เด็กคนนั้นกล้าที่จะเดินมาหาหวาน เด็กพบเจอกับเรื่องแบบนี้มามากมาย เด็กรู้ว่าอารมณ์แห่งความกำหนัดนั้นต้องทำอย่างไร เด็กคนนั้นปิดประตูห้องแล้วก้าวเดินมาหาหวานที่เตียง.........

ไม่มีความคิดเห็น: