ขายของ

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

BUSAYA Side Story 1 "ยังไม่ถึงเวลา?"

15 กันยายน 2548 “เรารักคนอื่น...ง่ายกว่าให้คนอื่นมารักเรา...” ...ประโยคนี้ใครพูดนะ?...ทว่า...มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย...“บุศยา” ตั้งใจเป็นอย่างแรก...ขอเลือกจะเป็นฝ่ายรักมากกว่าถูกรักแม้ผลลัพธ์อาจไม่ เป็นดังหวัง...อ๊ะ!!...สาวน้อยในชุดเนื้อผ้าลื่นบางเบาสุดเซ็กส์ซี่สีครีม เข้ากับเรือนผิวแต่ปราศจากยกทรงกับกางเกงใน...ยอดอกแหลมเต่งในท่อนบนและขน หมอยหยิกตรงส่วนลับท่อนล่างรางๆ...เนื่องเพราะยังสะลึมสะลือเลยพาลคิดว่า เป็นคนอื่นแต่สักพักจึงยิ้มออก... “...ตัวฉันในกระจก...นึกว่านางอัปสรที่ไหนที่แท้ก็นางอัปสรบุศยา...คิกๆ...” ...ใครจะค่อนขอดนินทาว่าหลงในรูปตัวเองก็ช่าง...มีสักกี่คนจะกล้าปฎิเสธได้ ว่าฉันไม่ใช่หญิงสวย?...ชายใดเห็นแล้วเลยผ่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จง รู้เถิดว่าเขาคนนั้นต้องมีอะไรบกพร่องไม่ทางร่างกายก็จิตใจแน่ๆ...ดูสิ ...เรือนร่างของฉันงามผุดผ่องเปล่งปลั่งทุกส่วนและจะยิ่งงดงามขึ้นๆ...เมื่อ บวกความถึงพร้อมด้วยสินทรัพย์แลฐานะอันสูงส่งมีชื่อเสียงโด่งดังกระฉ่อนใน แวดวงสังคมไฮโซของจังหวัด...ชายหนุ่มมากมายจึงล้วนต่างหมายตาปรารถนาจะครอบ ครองฉัน...แต่...หัวใจทุกห้องมันหาได้ว่างไม่และฉันมอบให้กับคนๆหนึ่งไปจน หมดสิ้นแล้ว... “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนูใหญ่...” “อรุณสวัสดิ์จ๊ะทุกคน...คุณหนูรองไปโรงเรียนแล้วเหรอ?...” “พ่อบ้านขับรถไปส่งแล้วค่ะ” “อึ๊บ!!...อือ~~...เมื่อคืนนั่งทำรายงานดึกเช้านี้เลยตื่นสาย...ไม่เป็นไร...มีเรียน 10 โมงเช้า...” “เตรียมน้ำอุ่นเรียบร้อยแล้ว...เชิญคุณหนูค่ะ...” “ขอบใจ...” ...แปรงฟันล้างหน้าเสร็จปลดเสื้อคลุมส่งให้สาวใช้...คนอีกมากมายยังไม่ทราบ ...ทุกๆวันฉันจะอาบน้ำต่อหน้าสาวใช้หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “เมด” ค่ะ...อายหรือ?...ไม่เห็นจะต้องอายตรงไหน...ผู้หญิงทั้งนั้นเลย... “...อ้า~~~...ได้แช่น้ำอุ่นตอนอากาศเย็นๆแบบนี้ล่ะเยี่ยมหาใดทาบ...” ...ประโยคที่เผลอพูดออกมาเมื่อกี้มันสามารถบ่งบอกความจริงในตัวฉันได้...การ เสาะแสวงหาจนกว่าจะพบสิ่งที่ต้องการและได้ครอบครองมันเป็นความสุขทางใจสูง สุด...เทียบกับอยู่เฉยรอให้สิ่งต่างๆเข้ามาหาตัว...บอกตรงๆว่าไม่ได้เรื่อง ได้ราว...ตั้งแต่เล็กฉันมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองต้องการเพราะถูกพ่อแม่ เลี้ยงดูมาแบบตามใจ... “พ่อกับแม่ยังไม่กลับสักที...สงสัยสิ้นปีล่ะมั้ง?...น้องก็คิดถึงจะตายอยู่แล้ว” ...ห้องน้ำอันโอ่โถงกว้างขวางสไตล์ยุโรปเพียบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่าง...อ่างอาบน้ำสีไข่มุกรูปวงรีตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่เกือบเท่า ประตูห้องๆหนึ่ง...กระแสน้ำอุ่นเป็นฟองเล็กๆนับไม่ถ้วนไหลวนกระทบกายและ อบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่น...อีกฝั่งเป็น 2 ผ้าม่านผืนใหญ่สีชมพูพอปิดกั้นบางๆที่สั่นไหวเมื่อยามต้องแรงลม...เพลงคลา สสิคของบีโธเฟ่นแนวที่ฉันโปรดปรานดังคลอเบาๆช่วยขับกล่อมจิตวิญญาณให้สงบ เยือกเย็น...ณ.ที่นี้คือโลกส่วนตัว...ในรอบ 1 วันฉันมักเสียเวลาไปกับการชำระร่างกายนานนับหลายชั่วโมง...พี่เค้กหัวหน้าเม ดเปิดทีวีติดผนังให้รับชมข่าวสารประจำวัน...ไม่ว่ามีข่าวอะไรน่าสนใจหรือไม่ ก็เป็นกิจวัตรของฉันที่ยากจะละเว้นนอกเสียจากรีบจริงๆ... “เฮอะ!!...สุดท้ายไอ้ดาราคู่นี้มันก็ไปไม่รอด...หย่ากันจนได้เนอะพี่...หือ?...” (~~~~~~~~~!!!!) “...ฉันเอง...อ๋อ!!...ว่ายังไงคะ?...” “..............................................” “ได้!!...กำลังรออยู่...คุณเอาข้อมูลมาเลย...จะน้อยหรือมากก็ไม่เป็นไร...” ...เอกคเชนทร์...ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้หัวใจของบุศยาผู้นี้สั่น คลอนไหวหวั่น...ดังนั้น...ฉันถึงต้องการรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ เขาและก็ได้ทราบอะไรๆแล้วพอสมควร...แต่ยังไม่พอ...ต้องการรู้อีกมาก...มัน ต้องมากยิ่งกว่าจำนวนหยดน้ำน้อยใหญ่ที่เกาะตามร่างเปลือยของฉัน... “หน้าอกคุณบุศโตขึ้นนะคะ...” “ฮะๆ...ก็ได้ผู้ชายมาบีบคลึงให้ไงล่ะพี่...” “คุณบุศอย่าพูดล้อเล่นสิคะ...ถ้าคุณท่านกับคุณหญิงมาได้ยินเข้า...” “...โอ้ย!!...พ่อกับแม่เขาตัดหางปล่อยบุศนานแล้ว...ป่านนี้ถึงเที่ยวเมือง นอกเพลิน...บ้านช่องไม่ยอมกลับ...นี่!!...ไว้วันหลังจะพาหนุ่มหล่อๆมาให้ดู ...พี่เค้กน่ะแระ!!...เมื่อไหร่จะมีหนุ่มควงบ้างเล่า?...ปีนี้ 30 แล้วนา...” “...พี่ก็ปลงนานแล้วค่ะ... 30 คงไม่มีใครมาขอแล้วขึ้นคานไปตามระเบียบ” “อะไรกั๊น!!...เพิ่งจะ 30 ก็บ่นเหมือนคนแก่ซะได้...เอางี้...ฉันให้พี่ยืมแฟน 1 วัน...สนมั้ยจ๊ะ?...” “ว้าย!!!...คุณบุศพูดอะไรก็ไม่รู้...ของแบบนี้เขาให้ยืมกันได้หรือคะ?” “...แน่ะๆๆ...แน่!!...พี่คิดไปถึงไหนกันน่ะ?...ฉันจะให้พี่ยืมไปควงเที่ยว เล่นกันต่างหาก...นี่คงคิดทะลึ่งๆแหงเลย...ฮิๆๆ...แต่พี่น่าจะทิ้งความสาว ให้คนที่แอบปิ๊งได้แล้ว” “พอ...พอแล้วค่ะคุณบุศ...พี่ไม่คุยด้วยแล้ว~~...” “ฮะๆๆ...ฉันจะขึ้นล่ะ...ไม่ไหวๆ...พี่อายจนหูแดงหมดแล้วนั่น...” “แหม~~...นี่ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมค่ะคุณหนู...เช้านี้ขึ้นเร็วกว่าเคยนะคะ” “อื้อ!!...เดี๋ยวจะมีแขกมาหาฉัน...เขามาถึงเมื่อไหร่พี่ก็ช่วยรับรองอย่างดีอย่าให้ขาดตกบกพร่องนะ...ฉันจะแต่งตัวแป๊ปหนึ่งจ๊ะ...” ...ความจริงสวมเพียงเสื้อคลุมปิดบังเรือนร่างออกไปพบผู้ที่กำลังจะมาหาก็ได้ ...ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงทําไปแล้ว...แต่เลือกที่จะไม่ดีกว่าเพราะเขาไม่ใช่ ยอดชายนายเอกคเชนทร์...รักนวลสงวนตัวในเวลากับโอกาสที่เหมาะสมและเปิดเผยต่อ คนที่คู่ควรเป็นสิ่งที่หญิงสาวพึงปฎิบัติ... .............................................................................................................................................. ...บุคคลที่จะมาหาในวันนี้คือผู้ที่ฉันว่าจ้างให้คอยติดตามคนๆหนึ่ง...พูดง่ายๆก็คือนักสืบ...ส่วนเป้าหมาย...ไม่มีใครอื่นอีกหรอก... “...สมเป็นมืออาชีพ...ถ่ายรูปมาได้ชัดมาก...” ...เอกคเชนทร์...ชายผู้น่าหลงใหล...นับวันฉันก็ยิ่งตกหลุมรักเขาชนิด “หัวปักหัวปำ” เลยก็ว่าได้...ทุกอริยาบถทุกการเคลื่อนไหวในรูปภาพทั้งหมดจะถูกเก็บใน อัลบั้มลับส่วนตัวเป็นอย่างดีทีเดียว...สาเหตุที่ฉันหลงรักเขามากมายขนาดนี้ น่ะเหรอ?...จริงสิ...ยังไม่เคยบอกหรือเล่าให้ใครฟังแม้กับเพื่อนในกลุ่ม ...ขนาดน้องสาวก็ยังไม่เคยบอกนี่นะ...เอาเป็น...ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังที หลังนะคะ... “ส่วนนี่เป็นข้อมูลทั้งหมด...จากที่ผมเฝ้าสังเกต...เขามีการติดต่อกับผู้คนมากมายเชียวล่ะครับ...ในคณะก็ดูเป็นจุดสนใจอยู่ไม่น้อย” “ผู้ชายหรือผู้หญิง?...” “ทั้งชายและหญิงครับ...นอกจากนี้...ตลอดเวลาช่วง 1 สัปดาห์ทั้งก่อนและหลังทำงานพิเศษเขาไปพบ...” ...กำลังยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบก็ต้องชะงักค้างกลางคันเมื่อเห็นรูป...นักสืบ สะดุ้งโหยงเพราะฉันเกิดอาการหึงเผลอวางถ้วยกระแทกโต๊ะปึงจนกาแฟบูลเมาเทนส์ ชั้นยอดหกกระฉอก...ร้อนถึงเมดต้องรีบเอาผ้ามาเช็ดและเติมให้ใหม่... “ผู้หญิงคนนี้รึ!!...ผิดตัวหรือเปล่าเนี่ย?...” “ไม่ผิดครับ...นั่นคือรูปถ่ายยืนยัน...” ...ปัทโธ่เว้ย!!...ภาพถ่ายในยามวิกาลถึงจะมัวแต่ฉันก็ทราบดี...หนุ่มสุดสวาท ควงคู่ออกไปกับหญิงอื่น...เจ็บใจ~~...ขนาดหมอนวดก็ยังสามารถฟันเป็นการส่วน ตัวได้โดยไม่เสียเงินเที่ยว...เอกคเชนทร์นะเอกคเชนทร์...หน้าออกซื่อๆแต่ ร้ายล้ำลึกหาตัวจับยาก...ฉันมัวยุ่งเรื่องนั้นเรื่องนี้เดี๋ยวเดียวก็แอบสอย หญิงขายบริการไปกกกอดสบายอุรา...ยิ่งคิดมันยิ่งน่าโมโหนัก!!!... “ผู้หญิงคนนี้ชื่อภรณ์...อายุ 28 ปีมีลูกชาย 1 คน...ปัจจุบันทำงานอาบอบนวดที่โรงแรม...ล่าสุดคุณเอกคเชนทร์ไปพบเธอเมื่อวาน ก่อนครับ...” “ใฝ่ต่ำ!!...หน้าตารูปร่างไม่ว่าจะดูยังไงไม่เห็นมีส่วนไหนจะเทียบฉันได้เลย สักนิด...ดำก็ดำ...เตี้ยก็เตี้ย...เป็นแม่หม้ายลูกติดอีกต่างหาก...” “คงอยากลองของแปลกมั้งครับ?...” “ใครพูดกับคุณ!!!...” “หวา!!...ขะ...ขอโทษครับ” “เก๋...สาว...พวกเธอก็ใช่ย่อย...อุตส่าห์หนีไปเรียนที่ใหม่ก็ยังลืมไม่ลงหวน กลับมาหาผู้ชายของฉัน...สายสัมพันธ์ช่างเหนียวแน่นตัดไม่ยอมขาดดีมาก...แต่ ฉันก็ชอบพวกเธอน่ะนะ...อ๊ะ!!...ไม่มีอะไร...” “...เหมือนว่า...คุณเอกคเชนทร์จะมีคนรักอยู่แล้วน่ะครับ... 2 คนซะด้วย...ถ้ายังไงส่งรูปนี้ไปให้ฝ่ายนั้น...รับรองว่าต้องทะเลาะเบาะแว้ง จนเลิกรากันแน่ครับ...” “เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วล่ะ...ไม่ๆ...มันง่ายไป...ฉันไม่ทำ...อีกอย่างมันเป็นวิธีที่นางอิจฉาในละครน้ำเน่าเขาชอบทำกัน...ไร้สาระ...” “ครับ...แต่ยังมีบางอย่างที่ผมสงสัย...” “อะไร?...” “คุณบุศลองดูรูปนี้สิครับ...” ...นักสืบหนุ่มควักรูปในกระเป๋าเสื้อส่งให้เป็นรูปถ่ายหน้าโรงเรียนที่น้อง สาวเรียนอยู่...หนุ่มบอลกับเด็กหญิงมัธยมต้นผิวสีแทน...หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้ม เพรา...โดยรวมก็จัดว่าพอใช้ได้...หืม?... “เด็กคนนี้ฉันเคยเห็น...ไม่สิ!!...เคยมาที่นี่ด้วย...อ๋อ~~...จำได้แล้ว...ทำไมหรือคุณนักสืบ?...” “ผมก็...แค่ติดใจเท่านั้น...บางทีอาจไม่เป็นอย่างคิดก็ได้ครับ...” “...เธอชื่ออ้อย...น้องสาวของบอลแต่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆเพราะจากข้อมูลคราว ก่อนของคุณ...บอลเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อเอกภพกับคุณแม่รัญภรณ์ที่เสียไป แล้ว...” “ถ้างั้น 2 คนนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกันมากกว่าที่เราคิดก็ได้...อุ๊บ!!...ขอโทษครับ...” “ไม่เป็นไร...สงสัยไว้ก่อนเป็นสิ่งดี...” ...ถึงจะไม่ชอบแต่มันต้องคิดเผื่อเอาไว้...กินรวบทั้งพี่ทั้งน้อง...อดีต เพื่อนร่วมห้องอีก 2 คน...พ่วงหมอนวดแม่หม้ายลูกติด...ถ้าจะมีอะไรเกินเลยกับญาติผู้น้องก็คงไม่ ใช่เรื่องน่าแปลกใจอีกแล้ว...กระนั้น...ฉันก็ไม่รื่นรมย์อยู่ดี (มารความรักเพิ่มขึ้น) ...ต้องหาทางคาดคั้นจากบอลให้จงได้ว่ายังมีผู้หญิงที่ไหนแอบซ่อนอยู่อีก ?...หวังว่าคงจะไม่ได้มากกว่าจำนวนคนรับใช้ของบ้านนี้นะ...ไม่งั้น...ฉัน ประสาทแดกตายแน่... ......................................................................................................................................... “คิดอะไรเหรอบุศ?...ท่าทางเครียดๆ” “ไม่มี...” “ฮะ...ฮ้า~~...อย่ามาโกหกๆ...กำลังคิดถึงหนุ่มในดวงใจใช่มั้ยเอ่ย?...” “เธออย่าเดามั่ว...” “เร๊อะ!!...งั้นถ้าฉันจะจีบหนุ่มบอล...เธอก็คง...ไม่ว่าอะไรสิ?...” “หยุดนะ!!...เธอห้ามแตะต้องเข้าใกล้บอลเด็ดขาด...เขาเป็นของฉัน!!!...” “โหย~~...จี้ถูกจุดไม่ได้...ตาขวางเสียงแข็งเชียะ...ฉันล้อเธอเล่น...” “...........................................” “จริงจ้า~~...” “...อย่าริอ่านทำตัวซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศกับฉัน...ไม่งั้นความเป็นเพื่อนของเราสิ้นสุด...” “จ้าๆๆๆ...ตัวเองรักเขาก็ไปบอกให้เขารู้เลยซี่...ขืนมัวช้าถูกแย่งไปไม่รู้ด้วยนา...” “ใครมันจะกล้ามาแย่ง!!!...” ...นอกจากยัยศกุนตลา...ยัยสาวิตรี...ยัยเก๋...ยัยสาว...แม่หมอนวดชื่อภรณ์ อะไรนั่น...(และที่ยังไม่รู้) ล้วนเป็นขวากหนามอันบาดตาทิ่มแทงใจแค่นึกก็ไม่สบอารมณ์อย่างหนัก...บอลนะ ...คดีที่เธอเที่ยวไปก่อไว้ที่นั่นที่นี่...บุศไม่ชอบจริงๆนะคะ...อุตส่าห์ ทุ่มเทใจให้ไม่ยอมเหลียวมองชายใดอีกก็เพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น... “จำใส่ใจไว้...บอลเขาไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่...นิสัยก็ใช้ได้แถมออกหล่อ ด้วยซ้ำไป...ทำเป็นนิ่งนอนใจแบบนี้ระวังไว้ให้ดีเถอะหล่อน...คู่แข่งที่ พร้อมจะรอเสียบอาจหลบซ่อนอยู่ตรงไหนก็ได้...” ...ฉันไม่ได้นิ่งนอนใจอย่างเธอพูด...เชอะ!!...หวังว่าคงไม่ได้เป็น 1 ในนั้นนะโสรยา...ไม่รู้ชาติก่อนตานั่นทำบุญด้วยสัตว์ 2 เท้าครั้งยิ่งใหญ่หรือไง?...ชาตินี้ถึงได้มีแต่ผู้หญิงมาติดพันไม่มีขาดสาย ...พยายามคิดจำกัดตีวงให้แคบลง...คู่แข่งของฉันมีพี่น้อง 2 สาวที่บังอาจใช้นามสกุลเดียวกับบอล... 2 คู่หูผู้หลบลี้หนีแค่ตัวแต่ใจยังผูกร้อยกับบอล...สาวแม่หม้ายหน้าตาขี้เหร่ แต่ไม่รู้ทำคุณไสยหรือเปล่า?...บอลถึงได้ติดใจแอบไปหาตั้งหลายครั้ง... “นี่บุศ...เอ๊าะเขาบอกฉันว่าเคนกำลังจีบสาวอยู่แน่ะ...” “...เคนน่ะเหรอ?...” “อื้อ!!...จริงๆนะ” ...ว้าว~~...น้องรหัสฉันก้าวหน้าไปขนาดนี้เชียว?...ในที่สุดก็มีความคิดชอบ ผู้หญิงจนได้...ทีเมื่อก่อนฉันจะแนะนำเพื่อนให้รู้จักหลายครั้งก็อายบอก ไม่ๆๆ...เรายังนึกสงสัยว่าจะเป็นเกย์หรือเปล่า?... “...ท่าทางเธอจะไม่รู้นิ...บ้านอยู่ใกล้กันไม่ใช่เหรอ?...” “หมู่นี้ไม่ค่อยเจอกันเลย...โสรู้มั้ยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครมาจากไหน?...” “เอ่อ...ชื่อบรีน...เพิ่งมาเช่าอยู่หอของเคนน่ะจ๊ะ...รายละเอียดอื่นๆยังไม่รู้” “ฮิๆๆ...เรียกว่าสมภารริจะกินไก่วัดได้หรือเปล่านะ?...แบบนี้ต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนสักหน่อย” ...ข่าวน่ายินดี...ไม่พบหน้ากันเท่าไหร่จีบผู้หญิงปร๋อซะแล้ว...น้องเคนของ พี่ก้าวหน้าไม่ใช่น้อย...ในฐานะพี่รหัสและคนสนิทที่นับถือเป็นพี่น้องซึ่ง รู้จักคุ้นเคยกันมานาน...ขอให้สมหวังนะจ๊ะพี่เอาใจช่วยเต็มที่... (ทั้งที่เรื่องของตัวเองยังลูกผีลูกคนแท้ๆ) ......................................................................................................................................................... ...บ่าย 2 กว่าๆฉันพยายามโทรติดต่อบอลแต่คุยกันไม่กี่คำโทรศัพท์ก็ตัด...โทรใหม่ก็ตัด อีก...วนเวียนแบบนี้จนรำคาญคิดจะไปตามหาตัวถึงคณะอยู่แล้ว... “บุศอยากพบบอล...ออกมาหากันบ้างไม่ได้เหรอคะ?...จะมีธุระอะไรกันตอนนี้~~...” “...........................................” “ป้าจ๋า~~...ทาเนยเยอะๆน๊าหนูขอ...อ๊ะ!!...ส่วนนี่ใส่น้ำแข้งน้อยๆน้ำเชื่อมเยอะๆจ้าหนูชอบ...” “...ทีคนอื่นไปพบไปหาได้แต่บุศจะพบเธอไม่ได้หรือไง?...ไม่ยอมนะ!!” “...เย~~...เย๊!!...เย~~...เย้!!...” “ให้คำตอบมาเดี๋ยวนี้นะคะ...ไม่งั้นบุศตามถึงห้อง...” “.........................................” “...กรี๊ด!!...เยอะแยะ...ฮะๆๆๆๆๆ...จ๋าจ๊ะ...จ๋าจ๊ะ...พี่...ตรงนั้นๆ” ...หนวกหูโว้ย!!!...จะอ้อน “ผัว” ให้ใจอ่อนสักหน่อยดันมาส่งเสียงโหวกเหวกไร้มารยาทหาสวรรค์วิมานอะไรแถวนี้ กัน?...กะจะหันดูว่าเป็นใครแต่พอดีบอลเขาให้คำตอบที่น่าพอใจแก่ฉันซะก่อน... “ค่ะ!!...ดีใจจัง...ก็ได้...คืนนี้บุศจะไปที่ร้าน...ตกลงค่ะ...” ...ต่อจากร้านก็จะจบลงอย่างหวานชื่นที่ห้องของเขา...ฟังเสียงจบก็หยิบรูป ขึ้นมาเชยชมพลางถอนหายใจ...รูปหนุ่มบอลกำลังยิ้มขณะคุยกับเพื่อนๆเพราะเป็น การแอบถ่ายภาพจึงไม่ค่อยชัดเจนนักแต่มันให้ความเป็นธรรมชาติ...รูปชัดๆที่ เคยขอเขาก็มีแต่ฉันชอบรูปนี้มากกว่า...ต่อไปนี้จนถึงเวลากลางคืนฉันตั้งใจ ไม่ทำอะไรอีกนอกจากเฝ้านับเวลาเป็นวินาทีรอให้ความสุขมาถึงเร็วๆแต่ความคิด นี้ผิดถนัด... “...นั่งด้วยคนนะค๊ะ!!...” ...คนร้องเอะอะโวยวายเมื่อกี้ที่แท้คือยัยม้าดีดกะโหลก 1 ใน 2 “ลูกพี่ลูกน้อง” ของบอลน่ะเอง...ที่ผ่านๆมาอุตส่าห์ไม่เอาแม่พวกนี้มาใส่ใจแล้วเชียว ...วินาทีแรกที่รู้ว่าเป็นญาติของบอลก็เกิดความกังวลใจอย่างหนัก...ปัจจุบัน ก็ยังเป็นกังวลลึกๆอยู่...เรื่องความสวยฉันมั่นใจว่าไม่แพ้ 2 คนพี่น้องแต่พวกเขาอาศัยอยู่บ้านเดียวกันและบอลไม่ใช่รูปปั้นไร้ความรู้สึก ...น้ำมันกับไฟอยู่ใกล้ชิดกันมันมีแต่จะลุกโชติช่วงชัชวาลย์...อารามคิดมาก จึงเกิดอาการฉุนเผลอพูดห้วนๆออกไปอย่างไม่น่ากระทำ... “คงไม่รังเกียจนะถ้าเราจะขอนั่งด้วย” “ยังมีโต๊ะว่างออกเยอะแยะนี่คะ...” “หงึ!!...ก็อยากจะนั่งกับพี่นิ...คงจะไม่ใจจืดกันเกินไปหรอกเนอะ...สาวสวยๆอย่างพี่มักใจดีอยู่แล้ว...” ...ไอ้ที่ชมนี่ไม่ดีใจหรอกนะ...แค่ฟังน้ำเสียงก็รู้ว่าไม่จริงใจแต่เพราะมี จุดหมายบางอย่างถึงเข้ามาตีสนิทด้วย...คนพี่ก็มา...ถือว่าเป็นที่นิยมของ หนุ่มๆและจะมาอวดตัวทำผยองกับบุศยาคนนี้รึ?...หยาดฝน!...สุรีย์พรรณ!!...แต่ ...ถ้าปฏิเสธไม่ให้นั่งด้วยก็ถือว่ามีอคติอย่างเปิดเผยและจิตใจออกจะคับแคบ ไปหน่อย...น่าสนุก...อยากรู้เหมือนกันว่าจะสักขนาดไหน?...จะสมกับที่ได้รับ การกล่าวขานหรือเป็นแค่ราคาคุย...น้องสาวนั่งคู่ฉันส่วนพี่สาวนั่งฝั่งตรง ข้าม...ไม่เลวๆ...เริ่มมาก็สร้างบรรยากาศให้ฉันเหมือนผู้ร้ายกำลังถูกสอบ สวน... “นั่นน่ะสิคะ...ไม่มีเหตุผลแม้แต่ข้อเดียวที่จะรังเกียจเลย...เชิญค่ะ...” “งั้นมะเกรงใจล่ะ...” ...หึย!!...อะไรของหล่อนเนี่ยแม่หยาดฝน?...ขนมหวานใส่น้ำแข็งราดนมข้น ...ไอศกรีมนมสดถั่วแดง...ขนมปังปิ้งทาเนย...ของกินแต่ละอย่าง...นี่เธอไม่ กลัวอ้วนบ้างเลยหรือไง?... “กินสิจ๊ะพี่...มะต้องเกรงใจ...” “ตามสบายเถอะค่ะ...พี่ไม่หิว...” ...ฉันไม่มีแก่ใจทานของหวานพาหะโรคอ้วนพวกนี้หรอกย่ะ...นี่ก็อยู่ในช่วงไดเอ็ทด้วย...ยัยหนูตาโตสุดเฮ้วคิดอะไรกันแน่น่ะ?... “วางใจได้ๆ...ไม่ใส่ยาพิษหรอกเคอะ...ฮิๆๆ...ไม่ต้องกลัวน่าพี่บุศ...” ...เป็นรุ่นน้องแถมอยู่ต่างคณะอีกทั้งยังไม่เคยคุยกันกลับมาพูดจาล้อเล่น เหมือนคนสนิท...ไม่ตลก...ฮึ!!...รู้ชื่อฉันด้วย...นึกว่าจะมีแต่ฉันที่ รู้จักพวกเธอแค่ฝ่ายเดียวซะอีกนะ... “รูปนั่น...แฟนเธอหรือ?...” “แล้วรุ่นพี่คิดยังไงล่ะคะ?...แต่ถ้าคิดว่าใช่ฉันก็ไม่อยากบอกปัด...” “คงไม่ละลาบละล้วงขนาดขอดูรูป...แต่พี่มั่นใจว่าเขาคือลูกพี่ลูกน้องของพี่ที่มีแฟนอยู่แล้ว...” “หึๆ...ไหนว่าไม่ละลาบละล้วงแต่ทำไมรู้ล่ะคะรุ่นพี่?...ไม่นึกไม่ฝันว่าสาว งามคนดังแห่งคณะวิทย์ – เทคจะสายตาไวและสนใจเรื่องส่วนตัวของชาวบ้านด้วย...มีรูปของเพื่อนไม่ใช่ อะไรที่น่าแปลกค่ะ” “..............................................” ...นิ่งมาก...ฉันพูดในเชิงกระทบกระเทียบแต่ไม่แสดงอาการไม่พอใจซ้ำยังตอบอย่างใจเย็นกลับมา... “บางครั้ง...การรับรู้สิ่งต่างๆได้เร็วมันย่อมเป็นการดีกว่าแกล้งทำเฉื่อยชา จนถูกคนอื่นปาดหน้าช่วงชิงความได้เปรียบไป...อีกอย่างผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่คน อื่นไกลที่ไหน...เป็นคนรักของพี่สาวและน้องสาว” “หม่ำๆๆ...นี่ๆๆๆ...พี่ทั้ง 2 กินสิคะ...มีตั้งเยอะแยะ” ...คาดว่าเราทั้ง 2 กำลังหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน...ยัยหยาดฝนจอมทะเล้นยังมีแก่ใจนั่งหน้าเป็นซด ขนมหวานแต่ในที่สุดหางก็โผล่จนได้...ฝ่ายนี้ก็ไม่เบา...คิดจะรุมขนาบฉันทั้ง 2 ทางเชียวรึ?...ได้!!...มาลองกันสักตั้งดูเป็นไร... “เออ!!...ใช่ๆ...ไม่เพียงแต่พี่แคทที่สนใจนะ...ฝนก็อยากรู้ล่ะ...พี่มีความสัมพันธ์ยังไงกับพี่บอล?...” “ถามกันตรงๆก็จะบอกตรงๆ...บอลเป็นคนที่วางตัวได้อย่างน่านับถือ...อัธยาศัย ดีเข้ากับทุกคนได้...พี่กับเขามีความสัมพันธ์ที่ดีและรู้ใจกัน...ส่วนใน อนาคตถ้าเขาจะคิดกับพี่มากไปกว่าเพื่อนก็คงไม่อาจจะปฏิเสธ...ไม่ใช่เฉพาะพี่ หรอก...ผู้หญิงคนอื่นที่ได้รู้จักเขาก็ต้องคิดในทำนองนี้แหละ...” “.........................................” “โอ้!!...หมายความว่าพี่ปลื้มลูกพี่ลูกน้องฝน...เป็นเพื่อนต่างคณะแต่ปลื้ม พี่ชายฝนมาก...พี่แคทจ๋า~~...มีอะไรน่าปลื้มตรงไหนนะตาบ๊องนั่น?...โฮ่ ~...พี่เห็นว่าบอลเขาเป็นคนดีขนาดนี้เชียว?...” “ถูกต้อง!!...เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน...อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆไม่รู้เลยหรือไงจ๊ะ?...” “แหะ!!...เรา 2 คนเอาแต่แกล้งกันเป็นประจำ...ไม่รู้หรอกค่ะ...ว่าแต่เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆน่ะ?...” ...กะแล้ว...ยัยเด็กไม่ปะสีปะสาเอ๋ย~~...อย่างหล่อนจะรู้อะไรได้นอกจาก เรื่องกิน...เที่ยว...หาเรื่องกวนประสาทชาวบ้าน...โปรยเสน่ห์ให้ผู้ชาย เหมือนพี่ของเธอ...ทำตาลุกโตอย่างกับไข่ไก่...ดูหล่อนทำเข้าสิ... “จริงเหรอพี่?...จริงเหรอเจ้าคะ?...” “...เรา 2 คนเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันดีแม้จะเรียนอยู่ต่างคณะ...” “หึฮื่อ~~...เป็นฉะนี้เอง...ถ้าแค่เพื่อนกันก็ไม่มีอะไรให้คิดมากดอกหนา...โอเกๆ...ดังนั้นถ้าสนิทกันพี่ต้องรู้ดีสิว่าพี่บอลมีแฟน...” “...??...” “…และพี่น่าจะรู้แล้วว่าฝนมีศักดิ์เป็นน้องสาวคนหนึ่งของบอล...สาซึ่งเป็นคนรักของพี่ชายก็คือพี่สะใภ้...ถูกป่ะคะ?...” “...อื้อ...” ...ยัยสาวสารพัดเล่ห์นี่จะมาไม้ไหนกับเรา?...ส่วนสุรีย์พรรณหญิงผมยาวตาคม ตักทานไอศกรีม...บางทีก็เหม่อลอยมองไปไหนไม่รู้ปล่อยให้น้องสาวรุกเพียงผู้ เดียว...นิ่งๆเซื่องๆแต่คงกำลังคิดอะไรอยู่แน่... “ฝนชอบพี่สามากๆ...ดังนั้น...จึงขออุทิศตัวคอยเป็นหูเป็นตาให้พี่สะใภ้ ...ระแวดระวังป้องกันไม่ให้สาวอื่นมายุ่มย่ามเกาะแกะบอล...ใครไม่เชื่อมี หวังเจ็บปวดรวดร้าวกายใจมิใช่น้อย...” ...ฟังการพูดจาอาจจะดูเหมือนล้อกันเล่นแต่ท่าทางเอาจริง...นึกหรือว่าฉันจะกลัว...เฮ่ย!!...อะไร?...จ้องหน้ากันทำไม?... “เฮะๆ...ไม่ว่าจะมองยังไงๆ...ดูๆแล้วพี่ก็เป็นคนฉลาดดังนั้นคงอยู่นอกเกณฑ์ไม่รักคนที่มีเจ้าของแล้วอย่างพี่ชายหนูแน่ๆ...ตัดออกไปได้” ...อี~~...เด็กบ้า!!...มาไม้นี้น่ะเอง...คิดไล่ต้อนฉันไปสู่มุมอับ ...ฮึ!!...แต่ฉันยังอยู่ในที่ลับ...ศัตรูในความมืดมันน่ากลัวกว่าที่คิดมาก มายเกินคาดเดา...แค่พูดน่ะมันง่ายเพียงลมปากนะแม่หนูน้อย... “ก็บอกแล้วไงจ๊ะ...ถ้าวันใดบอลเกิดคิดกับพี่มากกว่าเพื่อนพี่ก็คงจะไม่ปฏิเสธความรู้สึกนั้น...” “สรุป...คุณบุศต้องการบอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับบอลและขณะนี้เธอไม่ได้คิดกับเขามากไปกว่าเพื่อน...” ...สะดุ้งเล็กน้อย...ฟังเสียงแจ๋นใสๆของหยาดฝนมาซะนานจู่ๆเสียงนิ่งเรียบๆ ของสุรีย์พรรณกลับดังแทรกขึ้น...ถ้าเค้าหน้าไม่คล้ายฉันคงไม่เชื่อว่าเป็น พี่น้องแท้ๆเพราะต่างคนต่างไปกันคนละขั้ว... “หึๆๆ...แล้วทำไมรุ่นพี่กับรุ่นน้องทั้ง 2 คนถึงสนใจเรื่องของบอลนักคะ?...” “ก็บอลเป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกเรา...” “ไม่ได้คิดกับเขามากไปกว่าฐานะญาติพี่น้อง?...” “คิกๆๆๆ...มุกตลก...” “...มันไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะคำตอบพี่บอกเธอไปแล้ว...บอลเป็นลูกชายของคุณ ลุงพี่ชายแม่ของเราและเป็นคนรักของพี่ศกุนตลากับสาวิตรี...ฉันกับน้องจึงไม่ เคยมีความคิดชั่วร้ายในสมองที่จะรักเขาหรือแย่งชิงเขามาเป็นของตัว...” “อืม...” ...กำลังโดนหลอกด่าหรือเปล่านะ?...ถ้าจริงก็ไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอก... “ใช่แล้วค่า~~...การแอบรักคนมีเจ้าของแล้วเนี่ย...มัน...ไม่...น่า...ส่ง ...เสริม...เอา...ใจ...ช่วย...เลย...รุ่นพี่บุศคิดอย่างนี้หรือเปล่าคะ?...” ...ยัยคนน้องพูดชิ่งกระทบฉันกลายๆ...พวกเธอน่าจะเริ่มระแคะระคายแล้วว่าฉัน คิดอย่างไรกับบอล...พี่น้องคู่นี้ไม่ใช่คู่มือที่จะรับมือได้ง่ายจริงๆแต่ อีกใจหนึ่งก็ยินดีอยู่ลึกๆที่มีคู่ต่อกรอันสมน้ำสมเนื้อไม่ว่ารูปร่างหน้าตา ...สติปัญญาความคิด...อุปนิสัยการกระทำ... “แอบรักคนอื่น...มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนี่คะ...ความรักอันบริสุทธิ์และจริงใจคู่ควรแก่การกล่าวคำยกย่องซะมากกว่า” “...แต่ฝนคิดอีกแบบน่ะ...แอบรักคนมีเจ้าของ...นอกจากตัวเองจะเจ็บปวดแล้วยังทำให้คนคู่นั้นลำบากใจด้วยล่ะค่ะ...” “...ไม่เข้าใจ...พูดแบบนี้ได้แสดงว่าเธอยังไม่เคยมีความรัก...ไม่เคยแอบชอบใคร...” “...เอ่อ...ก็...ไม่เคยมีเลยน่ะซิ...” “เธอจึงไม่รู้ว่าความรักนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน...ลองได้พบมันแล้วก็ยากที่จะถอน ตัวขึ้นเหมือนคนที่ไม่เคยเห็นไม่เคยไปสถานที่ที่หนึ่งแล้วจะมาบรรยายหรือ บอกว่ามีอะไรดีตรงไหนเด่นได้ยังไง...ใช่มั้ยล่ะ?...” “......................................” “เมื่อไม่เคยมีความรัก...เธอจึงไม่รู้ถึงความรู้สึกของเขาเหล่านั้นแล้วจะเข้าใจได้อย่างไร?” “งืมๆๆ...จริง...ค่ะ” ...ชนะ...ในที่สุดเจ้าจอมแก่นก็อึ้งจนด้วยคำพูด...คนที่ไม่เคยมีความรัก อย่างหล่อนจะมาเข้าใจอะไรหึ?...ยังเหลือสุรีย์พรรณอีกคน...เงียบนิ่งอีก ครั้ง...หล่อนต้องร้ายและมีประสบการณ์ดีกว่าน้องสาวแน่...เอ้า!!...จะปล่อย ทีเด็ดอะไรอีกก็มาได้เลย...ฉันรอสวนกลับแบบเจ็บๆอยู่นะคะรุ่นพี่... “ฝนยังเด็กไม่เข้าใจและพี่ไม่อยากให้เธอมีความรักในวัยเรียน...ดังนั้นที่เราทำได้คือดูแลกับปกป้อง...” “ดูแล...ปกป้อง??...” “...พี่กุนกำชับให้พี่คอยดูแลบอลแทนและช่วยปกป้องคนรักของเธอไม่ให้ถูกแมว ขโมยที่ไหนแย่งชิงไปได้...คำสั่งของผู้มีพระคุณคือปะกาศิตที่พี่ต้องทำตาม โดยไม่มีเงื่อนไข...” ...อึ๊!!...หนอย~~...หลอกด่าฉันเป็นนังแมวขโมย...บังอาจมาก~~...ตั้งแต่เกิด มาไม่เคยมีใครกล้าพูดกับฉันถึงขนาดนี้!!...ยังกับถูกตบหน้า...ใจ...ใจเย็นๆ ...ขืนน๊อตหลุดให้เห็นก็เท่ากับเข้าทางเผยพิรุธให้อีกฝ่ายรู้... “โอ้!!...ใช่ๆ...บอลคือปลาย่างเนื้ออร่อย..ถ้าจะมีแมวตัวเมียหน้าไม่อายคอย จ้องตะครุบไปกินจึงไม่ใช่เรื่องแปลก...ฝนก็ได้รับการขอร้องจากสาเหมือนกัน ว่าถ้ามีนังแมวยั่วสวาทมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆแฟนเธอก็จงไล่เตะให้คอขาดสะบั้นได้ เลย...” ...มัน~~...มัน~~...นังบ้า!!!...นี่หน้ายังมึนชาไม่หายก็โดนซ้ำเข้าไปอีกดอก เล่นเอาจุกราวถูกต่อย...ฮึ่ม!!...พวกหล่อน 2 คนคิดตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉัน!!!!...ดี...ดีมาก~~...ฉันรู้ว่าในใจพวกเธอจะ ต้องมองฉันเป็น 1 ในแมวขโมย...ทำพูดอ้อมค้อมแต่ “ส่งสัญญาณเตือน” กันล่วงหน้าเรียบร้อย...แม้โกรธแค้นแน่นอกแต่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า แต่ก่อน...ฉันเติบโตขึ้นทั้งกายใจอย่างน่าชื่นชม... “อ่ะ!!...ไหนๆก็ไหนๆ...พวกเราอยากถามให้แน่ใจอีกครั้งว่าเธอเกี่ยวข้องกับบอลเพียงแค่เพื่อน...ใช่มั้ย?...” “...เพื่อนรู้ใจที่ไม่ได้พบกันทุกวันค่ะ...” “ตกลง...พี่เชื่อ...วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก...” “ดีใจที่ได้รู้จักพี่บุศยา...ฝนหวังจริงๆว่าพวกเราจะมีมิตรภาพที่ดีต่อๆไปในอนาคตเหมือนกับวันนี้ค่ะ” ...หยาดฝนยิ้มอย่างมีความหมายแฝงลึกก่อนยื่นมือซ้ายมาตรงหน้าทำนองว่าต้อง การจับมือ...สุรีย์พรรณสีหน้านิ่งสงบไม่มีรอยยิ้มแต่ก็ค่อยๆยื่นมือขวามาให้ ฉันเช่นกัน...พวกเธอพี่น้องกำลังสื่อความหมายให้รู้...เกิดวันใดที่ทราบว่า ฉันยุ่งเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเกินเลยไปกว่า “เพื่อน” ...วันนั้นมิตรภาพที่มีก็จะเปลี่ยนแปลงไปไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีก ...การปกป้องคนรักของผู้มีพระคุณคือหน้าที่สำคัญของพวกเธอ...การได้ครองคู่ กับคนที่ตัวเองรักหมดใจคือเป้าหมายสูงสุดของฉัน...แล้วจะได้รู้กันว่าฝ่าย ไหนจะเป็นฝ่ายชนะ?... “...ยินดีเช่นกันค่ะ...น้องหยาดฝน...พี่สุรีย์พรรณ...” ...ซ้ายสัมผัสซ้าย...ขวาสัมผัสขวา...พอมือของคนทั้ง 2 สัมผัสมือฉันก็รู้สึกได้เต็มที่...พวกเธอมีทั้งความแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม หลบซ่อนอยู่...ไม่ต้องเจรจาให้มากความ...ถ้าฉันต้องการสานต่อรักกับบอลไป เรื่อยๆ...สักวันก็จะได้เผชิญหน้ากับพวกเธอโดยมิอาจหลีกเลี่ยง...ยัง !!...นี่เป็นเพียงบทเริ่มต้นเท่านั้น...มันไม่ถึงเวลาที่ฉันจะประกาศตัวเป็น คู่ต่อสู้อย่างเปิดเผย...รอให้เวลานั้นมาถึงก่อนเถอะและบทสรุปในท้ายสุด ...ชัยชนะอันงดงามเด็ดขาดจะต้องตกเป็นของหญิงสาวที่เพียบพร้อมและคู่ควรนาม “บุศยา” ผู้นี้!!...ไม่ต้องอื่นไกลมองไปถึงอนาคตเบื้องหน้า...แค่อดีตที่ผ่านมาทั้ง หมดเธอ 2 คนพี่น้องก็พ่ายฉันหมดรูปแพ้ไม่เป็นท่าซะแล้ว...แต่!!...จะรู้สึกตัวกันหรือ เปล่านะ?...หึๆๆๆ...ฮะๆๆๆ... ................................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น: