ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

แม่ไอ้โจ้

ผมชื่อเพ้งอายุยี่สิบปีกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมมีเพื่อนสนิทชื่อโจ้ ผมมักแวะไปเที่ยวที่บ้านโจ้ซึ่งเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวย่านบางลำพูอยู่บ่อยๆ เรียกว่าไปขลุกทำโน่นทำนี่อยู่ทุกอาทิตย์ ที่บ้านโจ้อยู่ด้วยกันสามคนคือพ่อ แม่ และยาย นอกนั้นเป็นลูกจ้างในร้านอีกสามคน ผมสนิทสนมกับครอบครัวโจ้เป็นอย่างดีทั้งพ่อ แม่ และยาย รวมถึงลูกจ้างในร้าน บางวันเบื่อที่จะกลับบ้านผมก็นอนค้างบ้านมันอยู่บ่อยๆ ส่วนพ่อแม่โจ้มักจะไปๆกลับๆอยู่ระหว่างบ้านย่านบางเขนกับที่บางลำพู เพราะบางครั้งก็ต้องเจียดเวลาไปทำความสะอาดบ้านที่บางเขนด้วย ส่วนบ้านผมนั้นอยู่แถวๆลาดพร้าว แม่โจ้ชื่อเกียว ลูกค้าที่มากินก๋วยเตี๋ยวมักเรียกแกติดปากว่าเจ๊เกียว ส่วนผมมักจะเรียกแกว่าแม่เฉยๆ แม่โจ้อายุราวๆห้าสิบกว่าๆ รูปร่างท้วมนิดๆ สีผิวธรรมดา ไม่ขาวมากนักถึงแม้จะเป็นคนจีนก็ตาม พ่อโจ้ชื่อบุญมีเคยเป็นทหารได้ยศจ่าก่อนจะลาออกมาค้าขายส่วนตัวชื่อคนแถวนั้นมักเรียกแกว่าจ่ามี พ่อโจ้แก่กว่าแม่นิดหน่อย อายุคงเกือบหกสิบ ผมให้ความเคารพทั้งสองเหมือนพ่อแม่ของตัวเอง
ทั้งโจ้และผมยังเป็นโสดทั้งคู่ มีจีบหญิงบ้างนิดๆหน่อยๆ ประเภทหมาหยอกไก่ แต่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ประสบการณ์ทางเพศจึงเกิดขึ้นจากการไปเที่ยวสถานบริการซะเป็นส่วนใหญ่ จะมีฟลุกๆจับเด็กได้ตอนไปเที่ยวก็นานๆครั้ง เพราะหน้าตาเราทั้งคู่ก็ไม่ถึงกับหล่อเหลาเอาการอะไร แค่พอไปวัดไปวาได้ แม่ของโจ้เองก็มักถามเรื่องแฟนกับผมอยู่บ่อยๆว่าเมื่อไหร่จะมีกะเค้าซะที บางครั้งก็ถึงขนาดล้อเล่นว่า ผมเป็นคู่เกย์กะไอ้โจ้หรือเปล่า ว่าเข้าไปนั่น ผมก็บอกกลับไปเสมอว่าให้แม่ช่วยหาให้หน่อย เพราะผมมันไม่มีน้ำยา
สัมพันธภาพระหว่างผมกับครอบครัวไอ้โจ้เป็นไปแบบปกติ ผมรู้จักกับที่บ้านมันตั้งแต่เริ่มเรียนด้วยกันตอนปีหนึ่งจนกระทั่งถึงตอนที่ผมอยู่ปีสาม วันนั้นเป็นวันเสาร์ หลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย ผมมาบ้านไอ้โจ้เพื่อใช้เครื่องคอมฯที่ห้องมันทำงานต่อจนสามทุ่ม พอเสร็จผมเตรียมตัวจะกลับบ้าน เดินลงจากห้องไอ้โจ้ซึ่งอยู่บนชั้นสองของตึกแถวกลับลงมาเพื่อจะกลับบ้าน เพราะวันรุ่งขึ้น ผมก็ต้องมาปั่นรายงานที่จะต้องส่งอาจารย์ที่บ้านมันแต่เช้าอีก พอลงมาถึงชั้นล่างซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว เจ๊เกียวแม่โจ้เก็บร้านเพิ่งเสร็จกำลังนับเงินเก็บของ และเตรียมตัวจะกลับไปนอนที่บ้านย่านบางเขน "อ้าวจะกลับแล้วเหรอเพ้ง แล้วโจ้ล่ะ" อ๋อ นั่งเล่นคอมฯอยู่ข้างบนครับ แล้วแม่จะไปไหนเนี่ย ผมถาม เพราะเห็นแกเก็บข้าวของลงกระเป๋าถือ "ก็จะไปนอนที่บ้านบางเขน" แล้วไปไงล่ะครับแม่ ผมถามต่อ "คงแท็กซี่จ๊ะ เพราะพ่อวันนี้พ่อโจ้เค้าไปเฝ้าลุงโจ้แกผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท แม่เลยต้องกลับคนเดียว" งั้นเดี๋ยวไปกับผม ผมไปส่ง "อ้าว เสียเวลารึเปล่า เลยบ้านโจ้ไปตั้งไกลนะ" ไม่เป็นไรแม่ผมไม่รีบ มาแม่ ส่งกระเป๋ามา ผมช่วยถือ ผมกุลีกุจอช่วยแม่โจ้ขนสัมภาระไปที่รถซึ่งจอดอยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามกับร้าน
งานนี้เป็นครั้งแรกที่ผมกับแม่โจ้ได้อยู่กับสองต่อสองแบบไม่มีใคร ซึ่งพอขึ้นรถได้แม่โจ้ก็ชวนผมคุยโน่นคุยนี่ ก่อนจะวกกลับมาถามเรื่องแฟนกับผมอีกจนได้ "เป็นไง หาแฟนได้ยังล่ะเรา" ยังเลยแม่ โหมันหากันง่ายๆก็ดีสิครับ "อะไรกัน หน้าตาก็ดี รถก็มี ผู้หญิงที่ไหนเค้าก็ชอบกันทั้งนั้น เรื่องมากรึเปล่า" เปล่าแม่โธ่ ที่มีน่ะผมไม่ชอบ แต่ไอ้ที่ผมชอบน่ะ เค้าก็ไม่ชอบผมน่ะซิแม่ "ก็เอาๆไปก่อนซิ เราเป็นผู้ชาย จะไปกลัวอะไร ไม่ชอบก็ค่อยเลิก" ก็กลัวเค้าติดใจแล้วไม่ยอมเลิกน่ะซิแม่ "แหม เราเก่งขนาดนั้นเชียว รึว่าของใหญ่" ผมอมยิ้มปนขำๆไม่นึกว่าแม่จะย้อนกลับมาแรงๆแบบนี้ เพราะปกติแกก็ไม่ค่อยได้พูดแนวๆนี้กับผมเท่าไหร่ "รึว่าไง ไม่ต้องอายน่า แม่อายุปูนนี้ เห็นมาหมดแล้ว" ก็งั้นๆครับแม่ ผมพยักหน้าแบบเขินๆ "ไอ้งั้นๆน่ะมันยังไง หรือว่าลีลาเด็ด" ผมได้แต่ยิ้มต่อไม่ได้พูดอะไรกลับไป
"ขืนชักช้า เดี๋ยวตอนแก่หมดน้ำยาแล้วจะเสียใจนะ ดูอย่างพ่อโจ้สิ กินแต่เบียร์ หัวถึงหมอนนอนหลับเป็นตาย โจ้มันก็เลยไม่มีน้อง" อะไร จริงเหรอแม่ เห็นพ่อแกยังเหล่สาวๆอยู่ทุกวัน "ก็ได้แต่เหล่ไปงั้นแหละ มีปัญญาทำอะไรซะที่ไหน พูดแล้วหงุดหงิด นี่เชื่อมั้ย แม่กับพ่อนะไม่ได้มีอะไรกันมาเป็นปีๆแล้ว แค่นอนเตียงเดียวกันเฉยๆ ต่างคนต่างหลับ" ผมพยักหน้าฟังแม่ไอ้โจ้เล่าต่อ เพราะไม่นึกมาก่อนว่าแกจะพูดเรื่องแนวๆนี้กับผมซึ่งเป็นคนนอก
อะไรกับ แม่ออกจะยังสวย ผมพยายามแซวแกเล่น "ไม่ต้องมายอแม่หลอกเพ้ง แม่แก่แล้ว" โหยังแจ่มอยู่เลยแม่ ถ้ายังโสดนะผมจีบไปแล้ว "ไม่โสดก็จีบได้ แม่ไม่ถือหรอก ของแบบนี้ เค้าไม่ถือกันแล้ว" โอเค งั้นแม่มาเป็นกิ๊กกับผม ผมหยอดต่อ ในใจก็คิดเอ๊ะ กูลามปามไปรึเปล่าวะเนี่ย "จริงเปล่า อย่าหลอกให้คนแก่ดีใจนะ" เราทั้งสองคุยกันอย่างออกรสอยู่พักใหญ่ รถผมก็เล่นมาถึงปากซอยบ้านไอ้โจ้ที่บางเขน แม่โจ้ต้องคอยบอกทาง เพราะผมเคยมาที่บ้านหลังนี้กับไอ้โจ้แค่สองครั้ง จึงไม่ค่อยแม่นเส้นทาง พอรถแล่นมาจอดหน้าบ้านซึ่งเป็นบ้านสองชั้นขนาดปานกลางซึ่งปิดไฟมืดสนิท ผมดับเครื่องเดินลงจากรถ "เดี๋ยวแม่เปิดประตูให้ เพ้งถอยรถเข้ามาจอดในบ้านดีกว่า ลงมากินน้ำกินอะไรก่อน" ผมจึงสตาร์ทเครื่องอีกครั้งแล้วถอยเข้าไปจอดในบ้าน
ดับเครื่องเรียบร้อยผมก็ช่วยแม่โจ้ขนของลงจากรถ เข้าไปวางไว้บนโซฟาห้องรับแขกในบ้าน "เปิดตู้เย็นหยิบโค้กกินได้เลยลูก หรือจะเอากาแฟเย็นก็มีนะ" ผมเดินดุ่ยๆไปที่ตู้เย็นขณะที่แม่โจ้เดินหิ้วของขึ้นบันไดไปชั้นบน ยืนกินน้ำอยู่พักใหญ่ แม่โจ้ก็เรียกผม บอกให้ขึ้นไปข้างบนหน่อย ผมเดินขึ้นไปช้าๆ เห็นห้องน้ำเปิดไฟอยู่ก็ชะโงกหน้าเข้าไปดู เห็นแม่โจ้กำลังใส่ผ้าเช็ดตัวกระโจมอกคงเตรียมจะอาบน้ำ แต่ท่อนล่างยังคงมีกางเกงสามส่วนสีดำอยู่ "ช่วยแม่จับบานเลื่อนให้เข้าล็อกหน่อยลูก พอดีมันตกราง ว่าจะให้เค้ามาซ่อมก็ไม่ได้ซ่อมซักที น่ารำคาญ ต้องคอยยกให้มันตรงร่อง" ผมรีบเข้าไปช่วยแม่โจ้ยกบานเลื่อนที่กั้นอาบน้ำภายในห้องน้ำที่เป็นกระจกซึ่งหลุดออกมาจากลางเลื่อนให้เข้าที่ ผมจับด้านล่างพยายามยกให้ตรงร่อง ส่วนแม่โจ้ประคองด้านบนเพื่อไม่ให้หลุดออกมา
ในขณะที่กำลังก้มยกบานกระจกให้ตรงร่องอยู่นั้น ผ้าเช็ดตัวสีแดงที่แม่โจ้นุ่งปิดท่อนบนอยู่ก็ร่วงลงมากองอยู่บนพื้นตรงหน้าผม พร้อมๆกับเสียงร้องว้ายดังลั่นของแม่โจ้ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองโดยอัตโนมัติ แม่โจ้อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน เห็นหน้าอกหน้าใจอล่างฉ่าง เต้านมขนาดเหมาะมือ ไม่เล็กไม่ใหญ่ หัวนมสีค่อนข้างคล้ำ พอมองเสร็จผมรีบก้มหน้าหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้แม่โจ้ แกก็รับไปห่มไว้แบบหลวมๆ ก่อนจะช่วยผมจับบานกระจกจนเข้าที่เรียบร้อย

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

cool