ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ขายประกัน 8

ปากลิ้นดิฉันเยิ้มหยาดไปด้วยน้ำลายที่คอยไล้เลียรอบลำใหญ่ของหนุ่มรุ่นน้อง อารมณ์ตัณหาลืมสิ้นทุกสิ่งซึ่งเค้าก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ดิฉันได้ปฏิเสธอีกต่อไป เมื่อเค้าค่อยๆ ลุกดึงแท่งลำใหญ่ออกจากปากดิฉันพร้อมเงยหน้าขึ้นจากโหนกนูนที่เยิ้มแฉะฉ่ำไปด้วยเมือกเสียวและน้ำลายของเค้าทั่วกลีบพูและขนดกของดิฉันไปหมดนั้น เค้าแอบเงยหน้าขึ้นแล้วรีบขยับกายพลิกมาแทรกกลางหว่างขาประจำที่อีกครั้งของวันนั้น ซึ่งดิฉันพอเห็นเค้าแอบแทรกกายกลางหว่างขาตนเองก็ได้สติ แต่ก็เหมือนจะรั้งสิ่งที่จะเกิดไปไม่ได้สักนิด เพราะไม่ทันที่จะเอยปากร้องห้ามปรามเค้า ปลายหัวบานที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของดิฉันตอนไล้เลียนั้นก็จดจ่อและสอดเสียบเข้ามาในร่องสวาทที่เยิ้มช่ำทั่วรอบร่องเสียวนั้นอย่างรวดเร็ว จนดิฉันสะดุ้งแทนที่จะพูดห้าม เสียงที่จะร้องปรามก็ต้องร้องเป็นเสียงสะดุ้งตกใจกับการรุกล้ำที่รวดเร็วและไม่ทันตั้งตัวของหนุ่มรุ่นน้องครั้งนี้ แท่งลำใหญ่ที่เมื่อกี่พึงดูดอมให้เค้านั้นมันได้สอดเสียบเข้ามาเต็มร่องสวาทดิฉันอีกครั้งเข้าแล้วค่ะ อารมณ์จะหยุดยั้งก็ต้องสิ้นสุดลงไปตามเพราะแรงที่เค้าออกแรงซอยเข้าออกๆ อย่างต่อเนื่องไม่ให้ดิฉันทันพูดปรามนั้น ยิ่งสร้างความปั่นป่วนในจิตใจดิฉันมากเป็นทวีคูณ เพราะความตึงแน่น รอบร่องสวาทนั้นทำเอาดิฉันเสียวแปล๊บและมีอารมณ์ร่วมไปกับเค้าไม่ได้นะสิค่ะ ถึงตอนนั้นจะรู้ว่าผิดแต่อารมณ์แห่งความต้องการและความอยากนั้นกลับฉุดรั้งให้ร่องสวาทของดิฉันตอดขมิบรัดโอบลำใหญ่ของหนุ่มรุ่นน้องอย่างเผลอตัว ยิ่งเค้าเร่งซอยกระแทกเข้าออกต่อเนื่องๆ อารมณ์สวาทของดิฉันก็ยิ่งพุ่งพล่านตามไปอย่างไม่รู้ตัว จนเผลอดโอดครวญออกมาด้วยน้ำเสียงแห่งความสุขมากกว่าการร้องด้วยความเจ็บปวด เมือกสวาทก็ยิ่งหลั่งไหลออกมาอย่างเนืองนองซึ่งก็ยิ่งเพิ่มความคล่องตัวให้ลำใหญ่ของเข้าทำงานได้สะดวกขึ้น ถึงตอนนี้ดิฉันได้แต่แอ้นโคกอูมร่อนส่ายรับการกระแทกของหนุ่มรุ่นน้องอย่างช่วยไม่ได้จริงๆค่ะ
เสียงรำพันที่เค้าบรรยายชื่นชมในรสชาติของร่องสวาทดิฉันนั้นดังแว่วมาเป็นระยะ สลับกับการกระแทกที่หนักหน่วงและดุดัน จนมีหลายๆครั้งที่ดิฉันเผลอเอามือไปกอดรั้งร่างเปลื่อยของเค้าอย่างลืมตัว เสียงครางดิฉันดังออกมาอย่างสุดกั้นโดยไม่รู้ตัว เผลอกายกอดกายร่างเค้าอย่างไม่ยอมปล่อยเมื่อวาระแห่งความสุขได้มาเยือนอีกครั้งดิฉันแทบไม่อยากจะเชื่อ เพียงชั่วเวลาไม่ถึงสิบนาทีนั้น ดิฉันได้เสร็จสมกับเค้าให้แล้วหนึ่งครั้ง ทั้งที่เป็นเวลาไม่นานเลย เค้าก็ได้พาดิฉันท่องแดนสวรรค์ที่ต้องการมาช้านานอีกคราเข้าให้แล้ว ซึ่งสิ่งที่ดิฉันแสดงออกนั้นกลับทำให้เค้ามีความพอใจเป็นอย่างมาก เค้าก้มมาซุกไซร้ซอกคอและไล้เลียพร้อมพูดให้ดิฉันออกกับเค้าอีกหลายๆครั้ง พร้อมเร่งกระแทกเข้าออกหนักขึ้น และพยามไล้เลียริมฝีปากของเค้ามาที่ปลายคางและเลยขึ้นมาจนแนบประกบกับปากดิฉันซึ่งดิฉันเองก็ยินยอมให้เค้าประกบปากจูบด้วย ถึงตอนนั้นแล้วดิฉันสารภาพความจริงเลยค่ะ แม้วัยจะล่วงเลยมาสี่สิบกว่าแล้วก็ตาม แต่พึงจะเคยพบความสุขสมในกามาณ์อย่างเต็มอิ่มก็ครั้งนี้เองละค่ะ ช่วงเวลาที่มาสัมมนาต่างจังหวัดไม่กี่วันนี้ดิฉันยอมรับค่ะว่า อารมณ์ที่เคยเก็บกดมาช้านานหลายสิบปีได้ปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มอิ่มจริงๆ ไม่เคยคิดว่ารสชาติของความสุขในการร่วมรักจะกลับมาอีกเลย เพียงแค่ไม่กี่วันที่พลาดท่าเสียตัวให้หนุ่มรุ่นน้องได้เชยชมนั้น ดิฉันสุขสมจากการร่วมประเวณีกับเค้าเป็นอย่างมาก แม้จะรู้ว่าสิ่งที่กำลังตอบรับนั้นเป็นการกระทำที่ขึ้นชื่อว่าเป็นการสวมเขาให้สามีก็ตามหรือเรียกแบบชาวบ้านก็คือการเล่น “ ชู้ ” นั้น ดิฉันก็ขอยอมรับละค่ะว่า ณ ตอนนั้นดิฉันยินยอมให้เค้าเชยชมร่างกายอย่างเต็มใจจริงๆ ค่ะ
หนุ่มรุ่นน้องดูจะเจนเชิงและดูจะรู้ว่าดิฉันได้ถึงจุดหมายแล้ว เค้าก็เอยพูดกับดิฉันเหมือนเช่นเดิม พร้อมกับแช่คาท่อนลำใหญ่ของเค้าให้ร่องสวาทของดิฉันได้ตอดรัดอย่างเต็มที พร้อมกับสายตาของเค้าที่จ้องมองใบหน้าดิฉันที่กำลังแสดงสีหน้าแบบเสียวเกร็ง อย่างมีความสุข เมื่อดิฉันเผลอมองไปเห็นสายตาของเค้า ดิฉันก็ยิ่งอายและเขินอย่างมากที่แสดงใบหน้าเสียวซ่านให้เค้าได้เห็น แม้สายตาที่มองมานั้นจะส่อความหมายอะไรนั้นดิฉันก็รู้ดี แต่เค้าก็ไม่ใช่สามีที่แท้จริงที่เคยร่วมชีวิตคู่กันมา มันจึงทำให้ดิฉันทั้งอายและเขินเป็นอย่างมากที่เค้าได้มาเห็นใบหน้าที่บูดเบียวและแหย่เกแบบสุขสมของตัวเองแบบนี้ ความรู้สึกแม้จะยากจะปฏิเสธแต่ก็เกิดขึ้นจริง จนเมื่อเค้าเห็นอาการเขินอายของดิฉันเข้าแล้ว เค้าก็ก้มหน้ามาหอมและผ่อนแรงกระแทกกระทั้นลงจนเหมือนกับเป็นการกกกอดแทนนั้น แล้วเค้าก็หอมแก้มดิฉันไปมา และเริ่มพูดให้ดิฉันรับรู้ว่าเค้ามีความสุขเพียงใดที่ได้มีความสัมพันธ์แบบนี้กับดิฉัน พร้อมทั้งเอยชมรสสวาทที่ได้รับจากดิฉัน รวมไปถึงการเยินยอเครื่องเคราของดิฉันที่แม้จะผ่านการแต่งงานมาหลายสิบปีจนมีลูกโตหมดแล้วนั้น ยังมีสภาพสมบูรณ์กว่าสาวๆ หลายๆ คนที่เค้าเคยมีความสัมพันธ์ด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ดิฉันรู้สึกผ่อนคลายลงได้ในระดับนึง เค้าแสดงสีหน้าและพยามทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนสมัยก่อนตอนแต่งงานกับสามีใหม่ๆ ยังไงยังงันเลย ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดิฉันรู้สึกดีจริงๆ แม้จะรู้สถานะที่เราทำกันนั้นเป็นสิ่งผิด แต่หนุ่มรุ่นน้องก็ทำให้ดิฉันได้กลับมามีความรู้สึกแบบสาวๆอีกครั้งจริงๆค่ะ
เมื่ออารมณ์ใคร่ค่อยๆ ลดลงหนุ่มรุ่นน้องก็คอยคลอเคลียดิฉันไม่ยอมห่าง ปากก็ค่อยจูบไล้ไปทั่วซอกคอและใบหน้าพร้อมกับค่อยขยับแก่นกายเนิบนาบไปมา เพื่อปลุกอารมณ์ดิฉันอีกครั้ง ดิฉันแม้จะถึงจุดหมายแล้วก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกว่าเราน่าจะหยุดความสัมพันธ์ชู้สาวนี้เพียงแค่ระยะที่มาต่างจังหวัดนี้เท่านั้น ใจคิดจะเอยบอกกับเค้าตรงๆ แต่แล้วเหมือนเค้าจะอ่านความคิดดิฉันออก เค้าจึงพูดเอยบอกกับดิฉันก่อนในขณะที่คลอเคลียกกกอดดิฉัน คือให้ดิฉันปลดปล่อยอารมณ์สวาทออกมาให้เต็มทีกับเค้า เค้ารู้ว่าดิฉันเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศสูงไม่น้อย เค้าขอช่วยดิฉัน และเค้าจะไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ของเค้ากับดิฉันให้ใครรู้แน่นอน พร้อมทั้งยังขอเปลี่ยนสถานะผู้ร่วมงานและความเป็นพี่เป็นน้องแต่ก่อนนั้น เป็นความสัมพันธ์เชิงผัวเมีย พร้อมทั้งยังพูดขอให้ดิฉันมีความสุขกับเค้าหลังจากกลับไปอาทิตย์ละครั้ง และสิ่งสุดท้ายที่เค้าเอยปากกำฉับกับดิฉันก็คือ หากดิฉันไม่ยอมเค้าอย่างที่เค้าเสนอ เค้าจะเปิดเผยความลับนี้ให้กับครอบครัวดิฉันได้รับรู้ ซึ่งมันเป็นคำขู่ที่จี้ใจดิฉันอย่างมาก เพราะแม้จะเป็นการพลาดท่าเสียทีกับเค้าแต่มันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและดิฉันเสียเองที่ยอมรับสิ่งที่เค้ามอบให้อย่างเต็มใจ แม้ครั้งแรกจะเป็นการขืนใจแต่หลังจากนั้นเป็นการตอบรับของดิฉันเองด้วย ทั้งที่จริงๆ หากดิฉันพลาดท่าไปแล้วและไม่อยากให้มันบานปลายก็น่าจะขอย้ายไปพักกันคนละที่ แต่ดิฉันก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น กลับยังพักร่วมกับเค้าอย่างเต็มใจ ซึ่งมันก็เป็นเหมือนการยินยอมของดิฉันเองด้วย คำพูดที่ทำเอาดิฉันเสียววาบนั้น แม้จะรู้สึกเสียใจก็ตามแต่มันก็ยากจะเกินแก้อีกต่อไปแล้ว ดิฉันจึงเปิดใจพูดกับเค้าไปบ้างว่า “ นนท์...พี่..พะ..พี่...ยอมเป็นของนน์ก็ได้...แต่..ตะ..แต่เธอต้องสัญญากับพี่น่ะว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แล้วเมื่อกลับกรุงเทพฯแล้ว เธอจะไม่ทำตัวลุ่มลามกับพี่จนใครเห็นได้ สัญญากับพี่ได้ไหมละห๊ะ”
คำพูดที่ออกจากปากดิฉันเหมือนจะเป็นการยินยอมของดิฉันแล้ว เพราะตอนนั้นดิฉันคิดได้แค่นั้น หวังเพียงไม่ให้ความลับของดิฉันกับเค้าหลุดไปถึงครอบครัว ทำให้ดิฉันตัดสินใจยินยอมรับเงื่อนไขที่เค้าเสนออย่างง่ายดายค่ะซึ่งหลังจากตกลงกันเสร็จสรรพ เค้าก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ดิฉันยินยอมรับเงื่อนไขที่เค้าเสนอ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นเกมส์กามาณ์ที่สุดแสนจะไม่สามารถบรรยายได้อีกแล้วละค่ะ เพราะเมื่อดิฉันเอยปากตกลงกับเค้าแล้วดิฉันก็ยินยอมให้เค้าฟ้อนเฟ้นหาความสุขตามใจที่เค้าปารถนาอย่างเต็มที่เลยค่ะ ซึ่งตัวดิฉันเองก็ทำใจและปล่อยกายปล่อยใจรับสิ่งที่เค้ามอบให้อย่างสุขสม ช่วงเวลาในการไปบรรยายที่ต่างจังหวัดนั้น ดิฉันแทบไม่ได้ออกไปบรรยายเลย เพราะหนุ่มรุ่นน้องคนนี้เค้ารับหน้าที่ทุกอย่างแทนดิฉันจนหมด ดิฉันมีหน้าที่พักผ่อนอยู่ที่ห้องรอเค้ากลับมาเพื่อหาความสุขกันบนเตียง อย่างเต็มที่ ซึ่งแรกๆ ความปวดร้าวในครั้งที่เค้าปลุกปล้ำก็เริ่มหายสนิทในช่วง 2 วันต่อจากนั้น ซึ่งหลังจากหายสนิท มันก็มีแต่ความเสียวกับความสุขเท่านั้นแหละค่ะ กิจวัตรประจำวันช่วงเช้าก่อนเค้าไปทำงานก็จะทำรักกับดิฉันก่อน 1 ยก แล้วค่อยอาบน้ำแต่งตัวลงไปทำงาน ส่วนดิฉันหลังจากเสร็จสุขกับเค้าแล้วก็พักผ่อนร่างกายหลับจนเต็มอิ่มแล้วก็ค่อยลงมาหาอะไรทานเพิ่มกำลัง และรอเวลาให้แม่บ้านมาทำความสะอาดจนเสร็จ ซึ่งดิฉันไม่เคยขึ้นไปก่อนเพราะความอายกับคราบรักที่เต็มเตียงเต็มผ้าปูที่นอนทุกวัน ซึ่งเกิดจากการร่วมรักในช่วงค่ำถึงดึกระหว่างหนุ่มรุ่นน้องกับดิฉันที่เป็นแบบนี้ทุกวัน หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็รอเวลาขึ้นไปพักผ่อนร่างกายอีกรอบหรือไม่ก็ดูหนังดูทีวีในห้องจนตกเย็นช่วงงานเลิก ดิฉันก็รอเปิดประตูรับเค้าซึ่งเมื่อกลับมาหลังเลิกงานที่ไร หนุ่มรุ่นน้องของดิฉันนั้นเป็นต้องปรี่เข้ามาหาดิฉันพร้อมเล้าโลมและเปิดเกมส์สวาทกับดิฉันสัก 1 – 2 ยก แล้วก็พักผ่อน จนได้เวลาเกือบทุ่มเค้ากับดิฉันก็ลงไปหาอะไรกินกัน พร้อมท่องราตรีในตัวจังหวัดนั้น หลังจากเที่ยวกันจนพอสนุกก็เดินทางกลับเข้าที่พักที่โรงแรม แล้วลงท้ายก็จบกันที่เตียงนอนจนดึกจนดื่นเป็นประจำทุกวัน ซึ่งช่วงเวลาค่ำจนดึกดื่นนั้น ร่องเสียวของดิฉันแทบไม่ได้พักเพราะเค้าจับพลิกบนพลิกล่าง ตะแครงซ้ายทีขวาที่สลับไปมาตลอดค่ำคืน เรียกว่าแทบไม่พักซึ่งตกดึกแต่ละคืนนั้นไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งเป็นอย่างน้อยที่เค้าต้องสาดน้ำรักเข้าร่องเสียวของดิฉันทุกค่ำคืน เฉลี่ยแล้ววันนึงดิฉันรับน้ำรักจากหนุ่มน้องไม่ต่ำกว่า 6 – 7 ครั้งต่อวัน ซึ่งดีที่ดิฉันบอกให้เค้าหายาคุมให้ดิฉันด้วย ไม่งันมีหวังดิฉันอาจท้องกับเค้าก็ได้เพราะช่วงที่เราไปทำงานกันนั้นเป็นช่วงตกไข่ของดิฉันด้วย ซึ่งเค้าก็ขจัดความกังวลใจดิฉันเรื่องนี้ด้วยการซื้อยาคุมแบบกินเป็นเดือนมาให้ โดยเค้าบอกว่ามันเลยช่วงมาแล้วเพราะช่วงวันสองวันแรกที่ดิฉันนอนร่วมรักกับเค้านั้น ดิฉันกับเค้าไม่ได้ป้องกัน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวดิฉันค่อนข้างมันใจว่าไม่น่าจะท้อง ทำให้ความกังวลดังกล่าวหายไปจนหมดช่วงเวลาที่เรามาทำงานกันนั้น มันช่างเป็นความสุขในเพศรสที่ดิฉันโหยหามาหลายสิบปีจริงๆค่ะ ยอมรับอย่างหน้าด้านๆเลยว่า ดิฉันมีความสุขกว่าการอยู่กับสามีที่บ้านเสียอีก แม้จะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมของคนมีครอบครัวก็ตามแต่ ทว่าสิ่งที่สามีไม่สามารถหาให้ได้นั้น หนุ่มรุ่นน้องกับมอบให้อย่างเต็มอิ่มทุกค่ำคืน ซึ่งโดยส่วนตัวดิฉันแล้วไม่เคยนับความเสียวสุขกับการร่วมรักกับเค้าเลยสักวัน เพราะมันมากจนเกินจะนับได้ แต่ละค่ำคืนนั้นดิฉันถึงแล้วถึงอีกเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งคืน สาววัยสี่สิบกว่าอย่างดิฉันคงมีน้อยคนนักที่จะมีความสุขในเพศรสเท่ากับดิฉัน เพื่อนสนิทดิฉันก็ประสบปัญหาเดียวกันแบบนี้จนดิฉันไม่คิดว่าสาววัยอย่างดิฉันคนใดจะมีความสุขแบบนี้อีกแล้ว
ก่อนวันเดินทางกลับเราสองคนก็ตักตวงความสุขเสียวกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ซึ่งดิฉันแทบจะหัวใจวายตาคาเตียงเลย เพราะเค้าประเคนความเสียวความสุขกับดิฉันอย่างเร้าร้อนและรุนแรงต่อเนื่องตลอดทั้งค่ำคืน ช่วงเช้าก่อนจะเช็คเอาท์ เค้ายังมอบความสุขให้กับดิฉันอีก 2 รอบก่อนลงมาที่เคาว์เตอร์โรงแรม เล่นเอาตอนเดินออกมาจากโรงแรมแข้งขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงเลย เราเดินทางกลับกันอย่างอิ่มเอมในรสสวาทเหมือนคู่ผัวตัวเมียใหม่ๆยังไงยังงันความละอายความเขินอายที่แรกเคยคิดและรู้สึกผิดนั้นมันหายไปหมดสิ้นแล้วละค่ะ ช่วงเวลาแค่เพียงไม่กี่วันสำนึกชั่วดีของดิฉันมันเหมือนจะไม่มีความยับยั้งอีกแล้ว ดิฉันยินยอมทอดกายให้เค้าเชยชมทุกสัดส่วนของเรือนร่างตลอดที่มาทำงานอาทิตย์นึง มันช่างเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยคาดคิดเลยแม้แต่น้อยว่าชีวิตสาวใหญ่สี่สิบกว่าอย่างดิฉันจะมาเผชิญได้ใครเล่าจะคิดว่าสาวใหญ่ลูกสองแถมโตเป็นสาวจนทำงานเลี้ยงตนได้แล้วอย่างดิฉันจะถล่ำตัวเข้าสู่เส้นทางแห่งความผิดศีลธรรมได้แบบนี้ ดิฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าการมาทำงานอย่างที่เคยผ่านมาช้านานครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจนไม่มีทางหวนคืนได้อีกแต่ไปแล้ว เพราะถึงตอนนี้แล้วดิฉันก็ได้ชื่อว่าเล่นชู้อย่างเต็มตัวแล้ว ตลอดเวลาที่มาทำงานนั้นดิฉันไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าที่ดีเลยสักนิด แทบไม่เคยมาช่วยงานของบริษัทเลย กลับมาทำในสิ่งที่ผิดสิ่งที่ไม่ดีอย่างเต็มใจ ยินยอมมอบกายให้ชายอื่นที่ไม่ใช่สามีเชยชมอย่างเต็มอิ่มทุกค่ำคืน ทุกเวลาที่ชายชู้ต้องการ ดิฉันยอมรับจริงๆค่ะ ว่าดิฉันติดใจรสสวาทของหนุ่มรุ่นน้องมอบให้ซะแล้วล่ะค่ะ ช่วงเวลาที่เดินทางกลับนั้นเค้ากุมมือและพูดคุยกับดิฉันอย่างไม่อยากให้ดิฉันกลับบ้านตัวเองเลย คำออดอ้อนคำชมต่างๆที่เค้าใช้กับดิฉันทำเอาสาวใหญ่อย่างดิฉันรู้สึกเคลิบเคลิ้มอยู่ในใจตลอด ซึ่งสิ่งที่เค้าพูดแม้จะทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่นแต่มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะยังไงดิฉันก็ยังมีสามีและลูกรออยู่ที่บ้าน ทำให้ดิฉันได้แต่ยิ้มรับในความปารถนาของเค้าเท่านั้น ซึ่งก่อนจะเข้าพื้นที่บ้านพักของดิฉันนั้น เค้าขอร้องให้ดิฉันมีความสุขกับเค้าอีกครั้งที่โรงแรมม่านรูดข้างทาง ซึ่งแทนที่ดิฉันจะปฏิเสธเค้าเพราะมันใกล้พื้นที่ระแวกบ้านตัวเองแล้ว แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดดิฉันจึงพยักหน้ายอมรับขอเสนอเค้าอย่างไม่ละอายหรือเกรงกลัวใครมาเห็นเรื่องบัดสีของตัวเองเลยสักนิด
ซึ่งทันทีที่ได้รับการยินยอมของดิฉันเค้าก็เลี่ยวจอดเข้าซองรูดม่าน เค้าก็รีบมาจูงมือดิฉันเข้าห้องไปหาความสุขกันอีก 2 ครั้ง อย่างมีความสุขด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งมันช่างเป็นวันที่ดิฉันเหนื่อยเหลือเกิน เพราะตั้งแต่เมื่อคืนวานเค้าก็ป้อนความสุขให้ดิฉันแทบจะทั้งคืน มาช่วงเช้าอีก และนี่ยังก่อนจะเข้าบ้านอีก มันช่างเป็นวันที่แสนเหนื่อยล้าแต่กลับเป็นวันที่แสนอิ่มเอมในรสสวาทเสียนี้กระไร หลังจากเสร็จกิจกามของเราแล้ว เค้าก็ขับรถมาส่งดิฉันที่บ้านพร้อมเข้ามาทักทายสามีดิฉันที่รออยู่อย่างคนไม่เคยทำความผิด เค้าทำเหมือนเดิม แสดงความเคารพสามีดิฉันอย่างสนิทสนิม พร้อมทักทายลูกทั้ง 2 ที่อยู่ในบ้านอย่างเป็นกันเอง สิ่งที่เราทั้งคู่ทำผิดมาตลอดห้วงเวลาที่ไปทำงานต่าง จังหวัดนั้น แทบไม่มีใครรับรู้เลยสักนิด ซึ่งมันก็ช่วยให้ดิฉันผ่อนคลายความกังวลใจลงได้อย่างมาก ซึ่งหลังจากเค้ากลับไป สามีก็ถามไถดิฉันว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ดิฉันก็ต้องโกหกไปต่างๆนาๆ ซึ่งเค้าก็ไม่ระแวงสงสัยในตัวดิฉันเลยสักนิด และในคืนนั้นสิ่งที่ดิฉันกังวลและกลัวเป็นอย่างมากหากสามีเค้าเกิดอยากร่วมรักกับดิฉันขึ้นมา เค้าคงรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่องสวาทของดิฉันได้เป็นอย่างดีแน่แท้ แต่แล้วค่ำคืนนั้นก็ผ่านไปอย่างไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะมันก็เป็นดังเช่นทุกค่ำคืนที่เราสองสามีภรรยาไม่เคยทำรักกันเฉกเช่นวันเก่า ๆ ซึ่งมันทำให้ดิฉันเบาใจไม่น้อยเพราะสามีไม่ยุ่งกับดิฉันเช่นเคย เวลาแห่งความกังวลผ่านไปอย่างรวดเร็วเพราะสามีดิฉันก็ยังไม่ร่วมรักดิฉันเช่นเดิม ทำให้ดิฉันคลายความกลัวได้ลงอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันกังวลกลับเป็นการเจอหน้าหนุ่มรุ่นน้องที่ทำงาน เพราะทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเค้ามองดิฉันด้วยสายตาหนุ่มมองสาว ไม่ใช่เช่นสายตาลูกน้องมองหัวหน้าแบบเดิมอีกแล้ว ทำเอาดิฉันหวาดหวั่นเป็นประจำเมื่อเห็นสายตาที่ส่อความหมายของเค้า และเมื่อไรที่ต้องออกจากสำนักงานไปงานข้างนอกกับเค้า ซึ่งแต่เดิมก็เป็นไปอย่างสบายๆ ก็กลับเปลี่ยนเป็นอาการเกร็งประจำเมื่อต้องไปไหนกันสองต่อสองเพราะเค้าเป็นต้องแอบลูบไล้สะโพกและแก้มก้นดิฉันตอนเดินไปขึ้นรถเป็นประจำ ทำเอาดิฉันอดหวาดหวั่นไม่ได้หากคนที่ทำงานเห็นความผิดปกติของเราสองคน ซึ่งทำให้ดิฉันกลัวใครจับได้จริงๆ จนดิฉันต้องส่งสายตาดุเค้าประจำ พร้อมพูดปรามสิ่งที่เค้าชอบแอบทำแบบนี้ ซึ่งเมื่อขึ้นรถเค้าเป็นต้องพยามออดอ้อนขอร่วมรักกับดิฉันเป็นประจำ แต่ลงท้ายดิฉันก็ต้องปฏิเสธและพยามทำใจแข็ง พร้อมบอกข้อตกลงของเราทั้งคู่ที่เราตกลงกันแล้วว่าจะให้เค้าทำแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น เค้าจึงต้องผิดหวังไปเป็นแบบนี้ประจำ ทั้งที่ลึกในใจดิฉันมันกลับร่ำร้องอยากให้เค้าทำรักแบบที่อยู่ต่างจังหวัดกันอีกอย่างลุ่มร้อน แต่เพื่อไม่ให้มันเกินงามและกั้นความผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อชื่อเสียงหน้าที่การงานและครอบครัวทำให้ดิฉันต้องหักห้ามใจไม่ยินยอมตามคำอ้อนวอนของเค้า

ไม่มีความคิดเห็น: