ขายของ

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ให้เมียเสียวกับช่างสี

มหาอุทกภัยที่ผ่านมานี่ น้ำท่วมบ้านกันไหมครับ ของผมนี่บ้านอยู่บางบัวทองครับ บ้านเดี่ยวสองชั้นอยู่ในโครงการณ์หรูเหลือแค่ชั้นเดียวเพราะน้ำมิดชั้นล่างเลย ช่วงน้ำท่วม ผมกับเหมียว (ภรรยาผม) เลยต้องอพยพไปอยู่บ้านแม่ใน กทม. พอน้ำลดเลยทยอยเอาช่างมาซ่อมแซม ตั้งแต่มาทำบิ้วอินห้องครัว ห้องนั่งเล่น ทำระบบไฟ และสุดท้ายก็ทาสี ช่างชุดอื่นๆ ก็มาทำแบบเช้ามาเย็นกลับครับและงานก็เสร็จหมดแล้ว เหลืองานทาสีนี่ล่ะที่เยอะหน่อย เพราะไม่เพียงแค่ทาชั้นล่างชั้นเดียว เพราะผมกลัวสีมันจะไม่เข้ากัน เลยให้ทาภายนอกซะทั้งหลังไปด้วยเลย ช่างทาสีสองคนที่มารับเหมางานเป็นพี่น้องกันชื่อ นายช่วง กับ นายชิต ทั้งคู่อายุประมาณสี่สิบต้นๆ และด้วยความที่ผมไม่ถือตัวและคิดว่าอายุน้อยกว่าเขาตั้งสิบกว่าปี ก็เลยเรียกเขาว่าพี่ช่วงกับพี่ชิต แต่เหมียวเมียผมกลับเรียกเขาทั้งคู่ว่าน้า ธอบอกว่าสองคนนี่อายุรุ่นเดียวกับน้าชายเธอ ช่างสองคนนี่เพื่อนผมเขาแนะนำมาว่าดีและไว้ใจได้ ไม่หยิบฉวยข้าวของแน่นอน และก็จริงอย่าที่เพื่อนรับรองครับ ทั้งคู่เป็นคนอัธยาศัยดี พูดน้อย ทาสีก็สวย เก็บงานได้ละเอียดดี แรกๆ ก็ไปเช้าเย็นกลับ แต่ผมเห็นแล้วก็สงสารเพราะต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์มาจากดอนเมือง และผมเห็นว่าสองคนนี่ไว้ใจได้ แล้วเขาก็ทำงานมาเป็นเกือบสิบวันแล้ว มีความคุ้นเคยกันแล้ว ผมก็เลยเสนอให้พวกเขานอนห้องนอนข้างล่าง ซึ่งอยู่ด้านหลังครัว ซึ่งห้องนั้นเตรียมไว้เป็นห้องคนใช้ที่จะรับเข้ามาอยู่ตอนทาสีเสร็จ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ ไม่ได้ห่วงเลยว่าสองคนนี่จะเป็นอาชญากรไหม มาก่อเหตุมิดีมิร้ายไหม ผมแค่รู้สึกสงสารและเห็นใจพวกเขาเพียงอย่างเดียว และเมียสาวคนสวยของผมนั้น นอกจากจะไม่ได้ท้วงติงอะไรแล้วยังเห็นดีเห็นงามเห็นใจพี่ช่างสีสองคนไปด้วย มันก็เลยเป็นไปตามนั้น ลืมบอกไปว่า ผมทำงานราชการครับอยู่กระทรวงใหญ่ย่านสนามบินน้ำ ส่วนเหมียวเขาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักๆ อยู่ที่ปากซอยหมู่บ้าน มีลูกมือเป็นสาวไทยวัยรุ่นหนึ่งคนกับแรงงานสาวกระเหรี่ยงอีกหนึ่งคน ชีวิตครอบครัว โดยรวมมีความสุขดีครับ รักกันบ้างทะเลาะกันบ้าง ลิ้นกับฟัน ผมน่พหน้าตาธรรมดาๆ ไม่ค่อยหล่อหรอก แต่เพื่อนๆ อิจฉาที่มีเมียสวย ไม่ได้จะอวดนะครับ เหมียวเมียผมน่ะหน้าตาประมาณน้องหยาดทิพย์ ราชปาล เลยล่ะ เพราะสาบทางแม่ของเธอมีเชื้อแขกทางมาเลย์ รู้จักกันก็เพราะเธอมาติดต่องานที่กระทรวงที่ผมทำงาน ผมช่วยงานเธอผ่านง่ายๆ ก็เลยได้ใจกัน ผมลองหยอดขนมจีบดู ปรากฏว่าติดแฮะ...คบกันปีกว่าๆ ผมก็ขอเธอแต่งงาน หลังจากแต่งงานได้สองปี ผมก็แยกจากบ้านมาซื้อบ้านหลังนี้ อยู่ได้ปีเดียวเจอน้ำท่วมซะจุกเลย ที่วางแผนจะมีลูกกันก็เลยชลอไปก่อน เพราะค่าใช้จ่ายซ่อมบ้านมันหลายอยู่ เรื่องทำลูกรออีกปีคงไม่สายครับ เพราะผมก็เพิ่งอายุแค่ 33 ส่วนเหมียวเมียผมก็เพิ่งจะ 27 ตอนนี้เลยให้เหมียวคุมด้วยยาคุมกำเนิดไปก่อน เพราะผมไม่ชอบจะใส่ถุงยางเท่าไหร่ เรื่องชีวิตครอบครัคงต้องเอ่ยถึงเรื่องบนเตียงซักหน่อยครับ เมื่อก่อนมีความสุขกันดีครับ ช่วงแต่งงานใหม่ๆ ก็มีอะไรกันแทบทุกวัน แต่พอช่วงน้ำท่วมเครียดมากทั้งเรื่องงาน เรื่องบ้านครับ ก็ลดมาเหลืออาทิตย์ละหนเท่านั้นเอง แถมบางทีมีอาทิตย์เว้นอาทิตย์อีก พอน้ำลดก็ยังมีอาฟเตอร์ช๊อคตามมาอีก ทั้งความเครียดสะสมและงานที่กระทรวงที่เพิ่มมากขึ้นเพราะต้องไปทำโครงการณ์ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัย ทำเอาผมแทบไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย ต่อครับ ส่วนเหมียว เธอมีความต้องการค่อนข้างสูงครับ สะกิดผมแทบทุกคืน 5hkแต่ก่อนน่ะสะกิดปุ๊บผมก็ติดปั๊บ แต่ตอนนี้สิโงหัวไม่ขึ้นเลย บางทีทำท่าจะดี เจ้ามังกรน้อยมันแข็งขันดีแต่พอจะสอดใส่ก็น่วมนิ่มไปซะเฉยๆ เมียผมดูเธอจะงอนๆ ผมอยู่ นอกจากจะหาว่าผมรักเธอน้อยลงแล้ว ยังโดนข้อหาว่าสงสัยจะมีกิ๊กอีกด้วย เธอบอกว่าผมคงไปปลดปล่อยกับสาวอื่นมาแล้ว กลับบ้านมาถึงได้แต่หลับอย่างเดียว ผมก็ได้แต่พยายามทั้งไปหาหมอ รวมทั้งพยายามสร้างความโรแมนติค สร้างบรรยากาศเพื่อกระตุ้นอารมณ์รักกับเธอให้ได้บ่อยๆ แล้วก็มีเหตุการณ์ที่มาสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชีวิตของเราครับ วันนั้นเป็นวันศุกร์ ผมขับรถออกจากที่ทำงานมาทำธุระ พอดีเห็นว่าใกล้เลิกงานอยู่แล้ว เลยโทรไปบอกหัวหน้าว่าขออนุญาตไม่เข้าที่ทำงานแล้ว หัวหน้าใจดีอนุญาต ผมเลยตั้งใจจะพาเหมียวไปกินข้าวเย็นร้านอาหารดีๆ จิบไวน์เย็นๆ แล้วก็กะจะร่วมรักกับเธอให้สมใจเธอต้องการ ผมเลยขับรถกลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้โทรหาเธอก่อน พอแวะหาที่ร้านเด็กบอกว่าเข้าไปที่บ้าน พอถึงที่บ้าน เห็นรถของเหมียวจอดอยู่หน้าบ้าน ผมก็จอดรถของผมเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน เจอพี่ชิตกำลังล้างแปรงทาสีอยู่ เพราะหมดชั่วโมงการทำงานของวัน ผมถามถึงพี่ช่วง พี่ชิตบอกอาบน้ำอยู่หลังบ้าน ผมถามทำไมไปอาบตรงนั้น แกบอกว่าก็แก้ผ้าอาบกันตรงนั้นทุกทีเพราะไม่อยากทำห้องน้ำบ้านผมเลอะสี ผมได้ฟังก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะมองภาพว่าตรงลานซักล้างนั่นมีกำแพงสูง ถึงจะแก้ผ้าอาบน้ำ บ้านข้างๆ คงมองอะไรไม่เห็น แต่ผมก็เดินไปดูซะหน่อย เดินไปพี่ช่วงอาบน้ำนั่นล่ะครับ ผู้ชายด้วยกันไม่คิดอะไรหรอก แค่จะไปดูว่ามันเป็นจริงอย่างผมคิดไหม พี่เขาปิดประตูครัวเอาไว้ ผมจึงแค่มองผ่านหน้าต่างห้องครัว ก็เห็นร่างเปลือยล่อนจ้อนของพี่ช่วง ซึ่งแกกำลังฟอกสบู่ถูตัวจนฟองฟอดไปทั่วทั้งร่างที่ถึงแกจะผอมแต่ก็มีกล้ามชัดเจน เห็นรูปร่างพี่แกแล้วอดอิจฉาไม่ได้ ...อะไรวะเราเข้ายิมสัปดาห์ละสามสี่วันหุ่นยังไม่เฟิร์มเท่าแกเลย พี่แกฟอกสบู่อยู่สักครู่... มือแกก็เริ่มวนเวียนที่อวัยวะสำคัญ ...สักครู่เจ้าปลาชะโดของแกก็กระดกหัวขึ้นมา...ผมต้องอุทานในใจ...อือฮือ...ก็ควยของพี่ช่วงแกนอกจากจะดำปึ๊ดและหัวแดงแจ๋แล้วมันยังทั้งใหญ่ทั้งยาว พอมันผงาดเต็มที่ พี่แกเริ่มรูดหนังหุ้ม ซอยมือจากช้าๆ กระทั่งเร่งจังหวะยิกๆ.. .ๆ ..ๆ... ๆ จนเกิดฟองฟอดเคลือบแท่งควยของแก ในขณะที่ใบหน้าของแกหงายมองขึ้นข้างบน ซูดปากอย่างเมามัน ..ลีลาสาวว่าวของแก...ขนาดผม... ผู้ชายด้วยกันยังต้องกลืนน้ำลายเอื๊อก แต่ผมก็ไม่ได้ทนดูจนจบ เพราะไม่ได้เบี่ยงเบนทางเพศ ผมเดินผละออกจากครัว เดินผ่านพี่ชิต แล้วหัวเราะบอกแก...พี่ชายพี่นี่สุดๆ จริงๆ ชักว่าวกลางแจ้งเลย พี่ชิตหัวเราะ ตามหลัง “ฮ่ะๆๆ.ๆ..ไอ้ช่วงมันชอบชักว่าวครับ....ยิ่งถ้ามีคนดูด้วยมันยิ่งชอบโชว์..” ผมเดินขึ้นไปข้างบน ถึงห้องนอน ประตูห้องมันแง้มอยู่ พอมองไปก็เห็นเมียผมยืนอยู่ตรงที่หน้าต่าง เธออยู่ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกสีชมพู เหมือนจะไปอาบน้ำ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะส่งเสียงเรียกเธอออกไป ผมก็ชะงัก เพราะภาพที่เห็นนั้น เมียผมเธอกำลังใช้มือล้วงไปลูบไล้ของสงวนของตัวเอง ร่างของเธอบิดโยกเบาๆ พร้อมกับ สะโพกผายนั้นส่ายไปมา แสดงให้เห็นว่ากำลังอยู่ในอารมณ์เสียวกระสันต์อันเกิดจากปลายนิ้วของตัวเอง ในขณะที่สายตาของเธอ จับจ้องอะไรบางอย่าง ผ่านทางช่องหน้าต่างลงไปข้างล่าง ...ใช่แน่นอนครับ...ที่เธอมองลงไปนั่นคือลานซักล้าง..ที่พี่ช่วงกำลังยืนชักว่าวเย้ยฟ้าอยู่นั่นเอง ผมแอบดูเธอตรงประตูอยู่อีกเพียงอึดใจ ผมก็ได้ยินเสียง...ซี๊ด...ซ๊าด...ของเหมียวแว่วออกมา เสียงนั้นเหมือนกับเธอกำลังกินพริกเผ็ดๆ เข้าไป และในจังหวะนั้น ร่างงามกระทัดรัดของเธอก็เกร็ง..แอ่น.. ปลายเท้าจิกเขย่ง แสดงให้เห็นว่าเธอถึงจุดสุดยอดไปแล้ว...และผมเดาว่าข้างล่างนั่น พี่ช่วงคงยิงกระสุนออกมาเป็นชุดๆ แล้วเหมือนกัน ผมรีบแว้บลงบันไดไปข้างล่าง....ด้วยอาการมึนงง..เหมือนโดนค้อนปอนด์ทุกท้ายทอย...นี่เมียผม...แอบดูช่างทาสีชักว่าวแล้วตกเบ็ดไปด้วยหรือนี่ ! ทำไมผมต้องตกใจ...ก็อีแค่เมียแอบดูควยคนอื่น....คุณอาจคิดอย่างนั้นใช่ไหม....ผมคิดลึกไปกว่านั้นครับ....ลองคิดดู...ตอนคุณดูผู้หญิงแก้ผ้าอาบน้ำ...หรือดูรูปผู้หญิงแก้ผ้าแล้วชักว่าวไปด้วย....คุณจินตนาการอะไร....มันก็ต้องจินตนาการว่ากำลังได้เย็ดผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม.... แล้วนทางกลับกันล่ะครับ...ผู้หญิงที่แอบดูผู้ชายชักว่าวแล้วเธอตกเบ็ดตามไปด้วยนั้น...เธอจะจินตนาการเป็นอื่นไปได้อย่างไร..นอกจาก....เธอกำลังจินตนาการว่าโดนผู้ชายคนนั้น...เย็ด !!! โอว....แล้วถ้าเมียผมโดนพี่ช่วงเย็ดเข้าไปจะเป็นยังไง...ควยอวบขนาดข้อมือ หัวโตเป็นกำปั้นเด็กแถมลำยาวเป็นคืบกว่าอย่างนั้น .....ผมนึกภาพตาม....หัวควยบานๆ ค่อยแหวกร่องกลีบของเหมียว...อือ...อ....อ....เมียผมคงดิ้นพราดแน่ ๆ ตอนมันชำแรกเข้าไป...ปีกเงี่ยงของมันคงทำเอากลีบแคมเธอแทบฉีก...และสุดท้ายหัวมันคงมุดไปกระแทกปากมดลูก.....แกกระเด้าแต่ละทีนี่คงสะเทือนไปถึงไส้ติ่ง....เออ...อ.....คิดตามแล้ว...เอ..ทำไมควยผมมันแข็ง..แข็งได้ขนาดนี้วะเนี่ย..! ผมลงมาถึงชั้นล่างก็เจอกับพี่ชิตเก็บของเสร็จและกำลังเดินออกจากบ้านผมพอดี ส่วนพี่ช่วงก็เดินตามออกมาจากหลังครัวใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ผมแกล้งถามแกว่าชักว่าวล่อฟ้าไปด้วยไม่กลัวฟ้าผ่ารึ แกทำหน้าตกใจเล็กน้อย “คุณออฟ..หะ...เห็น...เหรอครับ” แกถามเสียงตะกุกตะกัก ผมบอกแกว่า เต็มเหนี่ยวซะขนาดนั้น ...ไม่กลัวข้างบ้านเอาดูรึไง...เอ...ตั้งใจโชว์ใครรึเปล่า...ผมพูดดักคอไป เพราะสงสัยอยู่ว่า พี่ช่วงน่าจะรู้ว่าเมียผมแอบดูอยู่ ... และที่ผมกำลังคิดสงสัยอยู่ก็คือ...เมียผม..เธอมาแอบดูพี่ช่วงชักว่าวแบบนี้สักกี่ครั้งกี่หนกันแล้ว ตอนเดินออกจากบ้านผม สองพี่น้องซุบซิบกัน ผมมองตามหลังไปก็รู้ว่าคงไปกินข้าวและกินเหล้าร้านอาหารอีสานเจ้าประจำ อยู่เลยบ้านผมไปร้อยกว่าเมตร พอสองคนนั่นออกจากบ้านไปแค่ไม่นานนัก เหมียวก็เดินลงมา แต่งตัวเรียบร้อย แสดงว่าอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอทำหน้าตกใจที่เห็นผม ถามว่ามานานแล้วเหรอ ผมบอกเธอว่าเพิ่งมาถึงสักพัก คุยกับพี่ชิตอยู่ เลยไม่ได้ขึ้นไป ผมบอกเธอว่าวันนี้ขอกลับเร็วสักวัน อยากพาไปกินข้าว ผมเดินเข้าไปกอด หมอที่ซฮกคอขาวๆ บอกเธอว่าตัวหอมเชียว ขอชื่นใจก่อนไปกินข้าวได้ไหม เมียผมอมยิ้มบอกว่าไม่เอาเพิ่งอาบน้ำมา ไว้คืนนี้ดีกว่า ผมก็โอเค... ตามนั้น ไปกินข้าวกัน ผมก็ได้แต่คิดเรื่องที่เมียผมแอบดูพี่ช่วงอาบน้ำชักว่าว จนเธอถามว่าผมเหม่ออะไร ผมก็บอกว่าคิดเรื่องงาน เหมียวก็ตัดพ้อว่าเบื่อจัง มากันสองคนแบบนี้แล้วยังเอาเรื่องงานมาคิดอีก หรือคิดถึงผู้หญิงอื่น ผมก็ปลอบใจเธอ ยืนยันว่าผมไม่มีคนอื่นจริงๆ มีแค่เธอคนเดียวในดวงใจเท่านั้น ผมสั่งดื่มไวน์มาดื่ม หมดไปสองขวดพอได้ที่ ก็กะว่าคืนนี้กลับบ้านไปจะจัดเต็ม ถึงบ้าน ขึ้นเตียง นัวเนียเล้าโลมกันไปได้สวย แต่ระหว่างนั้นผมรู้แล้วล่ะว่าคงแย่แน่ เพราะเจ้ามังกรของผมมันกลับไม่แข็งขันซะอย่างนั้น พอเหมียวบอกให้ทำเถอะ ผมก็พยายามปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง จนเธอทำหน้าเซ็ง แต่ก็ยังพูดให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร ผมเลยขอช่วยเธอด้วยลิ้น ตอนแรกเธอไม่ยอม เพราะงอน แต่ผมก็คะยั้นคะยอจนเธอยอมและเสร็จสมอารมณ์หมาย ผมถามว่าเธอชอบไหม เสียวไหม เธอบอกว่าเสียวดี แต่ถ้าเป็นเจ้าตัวนี้ (เธอจับเจ้ามังกรที่นอนหลับของผม) คงจะเสียวกว่า เธอบอก เพราะอย่างนี้นี่เองครับ...ที่ทำให้เธอต้องเล่นเสียวกับตัวเองโดยใช้จินตนาการจากภาพควยของชายคนอื่น..เป็นความผิดของผมคนเดียวแท้ๆ ผมจะทำอย่างไรดี...ผมคิดด้วยความกลุ้มใจ วันรุ่งขึ้น ผมก็ตั้งใจจะพิสูจน์สมติฐานที่ตั้งไว้ ว่าเมียผมน่าจะมาแอบดูพี่ช่วงทุกวัน บ่ายแก่ๆ วันนั้น ผมเลยขอหัวหน้ากลับบ้านเร็ว แล้วไปจอดรถซุ่มดูเหมียว ห่างจากร้านของเธอไปสัก 50 เมตร แล้วพอถึงเวลาประมาณสี่โมงกว่า เหมียวก็ขับรถของเธอออกจากร้าน เลี้ยวเข้าซอยบ้าน ผมทิ้งระยะสักอึดใจ ก็ขับตามไป ผมขับรถผ่านซอยบ้าน ด้วยใจระทึก รถเมียผมจอดอยู่หน้าบ้านจริงๆ แสดงว่าเธอจะเข้ามาบ้านเวลานี้ เวลาที่ช่างทาสีเสร็จแล้วอาบน้ำล้างตัว คราวนี้ผมไม่ได้เข้าไปในบ้าน เห็นแค่นี้ก็พอจะเข้าใจอะไรทะลุปรุโปร่งไปหมด แต่สิ่งที่ผมชักจะกลัวคือ ช่างทาสีทั้งสองจะทำอะไรเมียผมผมไหม จะข่มขืนเธอไหม ผมห่วงความปลอดภัยของเธอมาก สี่โมงกว่าวันรุ่งขึ้น ผมโทรเข้าไปที่ร้านกาแฟ เด็กที่ร้านรับสาย บอกว่าเมียผมเข้าไปดูแลความเรียบร้อยที่บ้าน เพราะมีช่างทาสีอยู่ ผมแกล้งเรียบๆเคียงๆ ถามก็ได้ความว่า เธอเข้าไปเวลานี้ทุกวัน ทำเอาผมชักหวั่นใจว่า ที่ผ่านๆ มา เธอแค่ไปแอบดูจริงๆ หรือ หรือว่าเธอไปแอบมีสัมพันธ์สวาทกับพวกเขากันแล้ว ผมคงรับไม่ได้ถ้าเธอไปทำอะไรลับตาผมแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจคุยกับช่างสีหนุ่มใหญ่ทั้งสองตรงๆ เย็นวันนั้น ผมบอกเหมียวว่ากลับดึก เพราะมีงานเลี้ยง แต่จริงๆ ผมนัดช่างสีทั้งสองคนไว้ว่าจะพาไปเลี้ยงเหล้าร้านอยู่ไกลบ้านหน่อย และกำชับว่าห้ามบอกเหมียวเด็ดขาด แล้วผมก็ไปรับพวกเขา กินเหล้ากันได้ที่ ผมถามพวกเขาตรงๆ เลยว่า พวกเขาคิดยังไงกับเมียผม ทั้งพี่ช่วงพี่ชิต ทำหน้างง ถามว่ามีอะไรเหรอ ผมบอกว่าไม่สบายใจ เพราะรู้ว่าเหมียวชอบเข้ามาที่บ้านตอนเย็นๆ สังเกตุดูสองคนหน้าเจื่อนๆ ผมก็ชักใจไม่ดี “มีอะไรที่ผมไม่รู้หรือเปล่า” ผมถามเสียงเครียด พี่สองคนบอกว่าไม่มีแน่นอน ผมบอกตรงๆ กับพี่ช่วงว่า ผมรู้นะที่แกชักว่าวตรงหลังบ้านน่ะ ตั้งใจทำให้เมียผมดู ผู้ช่วงหน้าเสีย แล้วแกก็รับสารภาพกับผมว่าทำจริง แต่ทำเพาะรู้ว่าเมียผมน่ะชอบดู ผมถามว่ายังไ รู้ได้ยังไง แกบอกว่ารู้สิ ก็เมียผมแอบดูทุกวัน แกเลยชักว่าวโชว์ซะเลย ผมถามว่าบ่อยไหม แกบอกว่าแกน่ะชักว่าวบ่อย อาบน้ำทีไรต้องหนึ่งที ผมบอกว่าไม่ใช่ หมายถึงเมียผมมาแอบดูบ่อยไหม แกร้องอ๋อ แล้วบอกว่าน่าจะสักสัปดาห์นึงนะ แกบอกว่าครั้งแรกน่ะ เมียผมคงไม่ได้ตั้งใจหรอก ผมถามว่ายังไง พี่ช่วงบอกว่าวันนั้นกำลัง ชักๆ อยู่ ก็ได้ยินเสียงหน้าต่างห้องนอนผมเปิด เงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เจอะเมียผมเปิดหน้าต่างพอดี ได้ยินเสียงเธอร้องว้าย แล้วรีบปิดหน้าต่างเลย หลังจากนั้นอีกสักสองวัน ตอนอาบน้ำ ผมแอบเหลือบตาขึ้นไปมอง ก็เห็นเมียผมแอบมองอยู่ตรงช่องหน้าต่าง แกก็แอ่นโชว์เลย พี่ช่วงบอกว่า...พูดตามตรงเลยว่า แกกับพี่ชิตยังเคยคุยกันเลยว่า เมียผมคงเงี่ยนมากที่มาแอบดูพวกแกชักว่าวแบบนี้ ...จับเย็ดซะเลยดีไหม ...มั่นใจว่าเมียผมยอมให้เย็ดแน่ๆ แต่ก็แค่คุยกันคิดกัน ไม่กล้าทำจริงๆ เพราะติดที่เกรงใจผมที่ดีกับพวกแก ไม่อยากเป็นพวกกินบนเรือนขี้บนหลังคา ผมเลยคุยกับแกสองคนตรงๆ เลยว่าถ้าผมกับเมีย มีปัญหาเรื่องบนเตียง ตอนนี้สงสารเธอมาก อยากให้เธอมีความสุข พี่ชิตบอกว่า ผู้หญิงที่ยังสาวและสวย อย่างเมียผมเนี่ย เคยโดนควยทุกวัน พอห่างไป ไม่โดนเป็นอาทิตย์แบบนี้ เงี่ยนตายห่าเลยนะ ปัญหานี่ต้องรีบแก้ไข ไม่นานต้องมีชู้ เตียงหักแน่ๆ แกสองคนบอกยินดีช่วย ผมถามว่าช่วยยังไง พี่ช่วงบอกว่า ก็ต้องให้เมียผมมีโอกาสทำอะไรตื่นเต้นบ้าง เช่นได้ลองเล่นควยคนอื่นบ้าง ผมฟังแล้วเครียดเลย ก็ผมรักเธอจะตาย จะให้ไปมีอะไรกับคนอื่นได้ไง พี่ช่วงบอกว่า ก็ยังไม่ต้องให้ถึงกับมีอะไรกันหรอก แค่ลูบๆ คลำๆ จับๆ อะไรแบบนี้ สวิงกิ้งแบบไม่แลกคู่น่ะ เคยได้ยินไหม ผมพยักหน้า แกก็อธิบายต่อเสียยืดยาว บอกสรรพคุณเสร็จสรรพ ว่าพวกแกเป็นชายเดี่ยว ที่ออกไปช่วยคู่ที่มีปัญหาแบบผม สำเร็จมาแล้วหลายคู่ ผมฟังแล้วก็ชักสนใจ พี่ชิตถามผมว่า ถ้าสนใจพวกแกจะช่วย แต่ผมต้องทำใจให้ได้ ผมบอกว่า ถ้าเพื่อความสุขที่ผมทำให้เธอไม่ได้แบบนี้ ผมก็ต้องยอมและทำใจให้ได้ พี่ช่วงบอกว่า ต้องให้เมียผมได้ลองทำอะไรที่ตื่นเต้นกว่าแอบดูแกชักว่าว แกบรรยายแผนการมา ผมฟังแล้วก็โอเค แต่กำชับแกว่าห้ามล่วงเกินเมียผมเกินกว่าที่ตกลงเด็ดขาด .ผมบอกว่าเอาแค่นี้ก่อน อย่างอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากัน ให้เป็นไปตามแผน ห้ามแหวกแนวเด็ดขาด พี่ช่วงกับพี่ชิตตกลงแข็งขัน แล้วเราสามคนก็ยกแก้วเหล้าชนกัน ถึงวันที่พวกเราวางงานให้เมียผมตกหลุม วันนั้น ประมาณสักสองทุ่มครึ่ง หลังทานข้างเย็น ผมกับเหมียวก็นั่งดูหนังอยู่ในห้องนั่งเล่น เหมียวใส่เสื้อยืดบางๆ และกางเกงขาสั้น แน่นอนว่าเธอไม่ได้ใส่ยกทรง และกางเกงชั้นใน เพราะเตรียมจะเข้านอนเลยหลังดูหนังจบ ระหว่างดูหนังอยู่ผมเอ่ยให้เหมียวได้ยินว่า พี่ช่วงไม่สบายไม่รู้เป็นไร นอนอยู่ในห้องคนเดียว เหมียวถามถึงพี่ชิต ผมบอกว่าไม่อยู่ไปธุระที่บ้านเพื่อน เหมียวถามผมขึ้นว่า “น้าช่วงเขากินยาหรือยัง ”ผมบอกว่าไม่รู้สิ "ไปดูแกหน่อยละกันนะ" ผมบอก สักพักเหมียวก็ลุกไป ผมมองตามเธอไปด้วยใจระทึก เพราะรู้ว่าเธอกำลังจะไปเจอกับอะไร แผนที่เราวางไว้คือ ให้พี่ช่วงนอนแก้ผ้า แต่ให้มีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ปิดของสงวนไว้ ประตูไม่ต้องล๊อค แล้วที่ไม่ให้พี่ชิตอยู่ด้วยก็จะได้เป็นข้ออ้างไงว่า พี่ช่วงไม่มีคนดูแล แต่จริงๆ พี่ชิตก็แอบดูอยู่ตรงช่องลมด้านหลังห้องนั่นล่ะ แน่นอนว่าเหมียวต้องเห็นความระทึกใจแน่ๆ ผมทิ้งเวลาประมาณห้านาที ผมรออย่างกระวนกระวายมาก แล้วจึงค่อยๆเดินตามไป ไปถึงหน้าห้อง เห็นประตูห้องปิด เลยเดินอ้อมไปแอบดูกับพี่ชิต ในห้อง เห็นเหมียวนั่งข้างๆ ร่างเกือบเปลือยของพี่ช่วง เธอใช้มืออังหน้าผาก เธอถามเขาว่า “ตัวก็ไม่ร้อน...น้า...น้าช่วง...อาการเป็นไงคะ...กินยารึยังคะ” พี่ช่วงแกล้งทำเป็นนอนเงียบ ส่งเสียงอืออาเบาๆ ทำเป็นเพ้อ เมื่อเห็นยังไม่คืบหน้าอะไร ผมเลยเปิดประตูเข้าไป ยืนข้างๆ เหมียวหันมามองผม บอกว่า ตัวก็ไม่ร้อนเท่าไหร่นะ สงสัยจะเริ่มเป็นหวัด "แต่ทำไมเพ้อก็ไม่รู้" เหมียวทำหน้ากังวล แล้วบอกให้ผมไปเอายามาให้ ผมออกไปสักพัก ไม่ได้ไปดูยาอะไรหรอก แล้วก็กลับมาบอกไปว่าดูแล้ว ไม่มีเลย เดี๋ยวคงต้องออกไปซื้อปากซอย พี่ช่วงยังเล่นละครต่อ หลับตา แต่ทำเป็นพูดเพ้อเหมือนละเมอ “สงสัยจะยังไม่ได้อาบน้ำด้วยนะเนี่ย” ผมบอก แล้วบอกให้เมียผมไปเอาผ้าขนหนูกับน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัว เหมียวเดินออกไป ผมกระซิบกับพี่ช่วงว่า ตามแผนนะให้เหมียวเช็ดตัวให้แก พี่ช่วงต้องไม่รุกรานเด็ดขาด ให้นอนนิ่งทำเป็นไม่รู้สึกตัวอย่างเดียว แต่เช็ดเท่าไหนก็เท่านั้นนะ แล้วถ้ามีเสียวก็ต้องทน ไม่งั้นเสียแผน แกก็โอเค พักหนึ่ง เหมียวก็กลับมาด้วยอ่างใบเล็กมีน้ำและผ้าขนหนู มานั่งตรงข้างเตียง ผมบอกเหมียวว่าจะออกไปหาซื้อยาแก้ไข้ เธอพยักหน้า แล้วผมก็เดินออกไป แล้วขับรถออกไปอีกซอยจอดแล้วค่อยๆ ย่องกลับเข้ามาที่บ้าน โดยไม่ลืมเอายาแก้ไข้ที่เก็บไปซ่อนไว้ใส่กระเป๋ามาด้วย ผมค่อยๆ ย่องไปตามทางเดินด้านหลังบ้าน แล้วไปซ่อนอยู่ด้านหลังห้องคนงาน ที่ๆ พี่ชิตแอบอยู่ก่อนแล้ว แล้วเราทั้งสองก็แอบมองสถานการณ์ในห้องผ่านช่องลมเล็กๆ นั่น ผมดูด้วยใจระทึกว่าเมียผมจะทำอะไรต่อไป เธอจะแค่เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พี่ช่วง คนที่ชักว่าวโชว์เธอมาเป็นอาทิตย์แค่นั้นเหรอ เพราะจากที่เราสุมหัววางแผนกันนั้น เราค่อนข้างมั่นใจว่า...เมียผมต้องทำอะไรสักอย่างกับควยของพี่ช่วงแน่ๆ... “ก็แอบดูควยใหญ่ๆ ของผมมาเป็นอาทิตย์...จะไม่อยากจับอยากรูดเองกับมือเลยเหรอ.” ..พี่ช่วงพูดด้วยความมั่นใจ หลังจากวางแผนแรกเสร็จ ผมพยายามผ่อนลมหายใจช้าๆ ขณะแอบดูด้วยใจระทึก เมียผมบิดผ้าขนหนูแล้วค่อยๆ ซับเช็ดที่ใบหน้าและซอกคอของพี่ช่วง สักครู่ก็เช็ดที่แผงอก ซอกรักแร้ทั้งสองข้าง ผมสังเกตุเห็นแล้วว่าตรงส่วนกลางลำตัวของพี่ช่วงที่มีผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมอยู่ มันเริ่มโป่งนูนขึ้นมา เมียผมชุบผ้าลงในอ่างน้ำที่วางอยู่ด้านข้างตัวของพี่ช่วง ขณะบิดผ้า สายตาของเธอจ้องที่ความโป่งนูนกลางลำตัวของช่างสีหนุ่มใหญ่นั่น แล้วเธอก็ใช้มือซ้ายซับผ้าที่แผงอกซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะไล่เช็ดลงมาตามหน้าท้อง กระทั่งสะดือ พี่ช่วงส่งเสียงอืออาเหมือนละเมอ เมียผมมองหน้าพี่เขาระหว่างที่เช็ดตัวให้ เหมือนจะดูอาการว่าพี่ช่วงรู้สึกตัวตื่นขึ้นไหม แล้วผมก็กระเดือกน้ำลายลงคอ เมื่อเมียผมค่อยๆ วางมือข้างขวาของเธอลงบนความโป่งนูนนั่น พี่ชิตสะกิดสีข้างผม กระซิบเบาๆ " จับแล้ว จับแล้ว "

ไม่มีความคิดเห็น: