ขายของ

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คืนหนึ่ง ตอน จบ

เมื่อเรากลับกรุงเทพฯ...อ้อต้องผมคนเดียวซินะ...แต่สีดาได้ลาออกจากบริษัท ก่อนหน้าผมต้องเดินทางประมาณ หนึ่งอาทิตย์เพื่อเตรียมตัวเดินทางพร้อมกับผม...โดยในระหว่างที่เธอเตรียม ตัวเข้ากรุงเทพฯพร้อมผม เราก็พักอยู่ด้วยกันซึ่งแน่นอนคนในบริษัทไม่มีใคร ระแคะระคายเรื่องของเราสองคน...เพราะผมวางตัวดีมาตลอดและก็ไม่มีใครคาดคิด.. เนื่องจากมีสาวๆในบริษัทหลายคนที่เปิดโอกาสให้ผมฟัน..เพื่อไต่เต้าแต่ผมไม่ ทำ..เนื่องจากมันจะเสียการปกครอง.....ในสายตาของพนักงานบริษัทผมจึงเหมือน ผู้ใหญ่ที่น่าเคารพยำเกรง.....แต่ถ้าไปถามสีดาในตอนนี้..ก็อาจได้คำตอบเรท เอ๊กซแน่นอนเช่น....คนแก่ขี้เอา...หนุ่มวัยดึกตกมัน..เป็นต้น........ผมได้ ฝากฝังพนักงานของบริษัทให้กับผู้จัดการคนใหม่คือเจ้าธีระชัยเพื่อนเก่าสมัย นักเรียนฯ.......ซึ่งเจ้าคนนี้ค่อนข้างเจ้าชู้..ที่ออกจากบริษัทเดิมมาก็ เพราะไปเจ้าชู้กับเมียน้อย บอสใหญ่เข้า....จะไปโทษมันก็ไม่ถูกเพราะฝ่ายหญิงเล่นเปิดประเด็นก่อนและมัน ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอนุคนหนึ่งของบอสที่กำลังมาแรง.....แต่ก็ถือว่าคุ้มเพราะ นอกจากจะได้ฟันแล้วยังได้เงินปิดปากมาก้อนหนึ่งเพื่อไม่ให้ข่าวมันใหญ่โตจน เสียชื่อเสียงของบริษัทและที่สำคัญเจ้าของบริษัทตัวจริงจะได้ไม่รู้นั่นคือ เมียของบอส เอง......และยังได้มีจดหมายฝากฝังให้มาทำงานในบริษัทที่ผมทำอยู่ซึ่งใหญ่ กว่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้มีความสามารถควรมีตำแหน่งงานที่ก้าวหน้ากว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่ยากเนื่องจากบริษัททั้งสองเปรียบเสมือนบริษัทพี่บริษัท น้องเพราะผู้ถือหุ้นก็เป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงเครือญาติกันทั้งนั้น....วันแรก ที่เข้ามาถึงบริษัท ธีระชัยแอบกระซิบผมว่า....คนไหน เด็กใครบ้างผมเลยตอบไปว่า...ที่นี่ไม่มีเด็กใครหรอก...ยกเว้นลูกเมียเขา.. เพื่อนของผมเซ้าซี้อีกว่ามีใครมีผัวแล้วบ้างจะได้ไม่ยุ่ง...ผมเลยแซวมัน เล่นๆว่าเดี๋ยวจะประกาศที่ห้องประชุมให้ว่าใครยังไม่มีผัวและยากได้คุณธีระ ชัยไว้ทำพันธุ์บ้างให้กรอกใบสมัครไว้........เล่นเอามันตาขวาง......ว่าแต่ มึงเถอะอยู่ห่างเมียมาที่นี่เป็นปี.....สอยไปกี่คนแล้ว......ไอ้ชัยเอ้ยเหี้ -....มึงทำตัวให้มันเป็นเจ้านายหน่อยซิวะ..เรื่องบนเตียงมันเสียการปกครองนะ เว้ย....เดี๋ยวแม่พวกพนักงานสาวๆ...ก็ตบตีกันด้วยเรื่องหึงหวงหรอก.....เออ น่ากูมีวิธีของกูก็แล้วกัน...มันไม่วายเถียงผม..ซึ่งอันนี้ก็จริงอยู่เพราะ เท่าที่ได้ยินได้ฟังมาไอ้เพื่อนผมคนนี้มันบริหารจัดการเก่งเรื่องสาวๆ..จะ พลาดก็เรื่องเดียวคือสาวต้นเหตุที่ทำให้มันต้องย้ายบริษัทนี่แหละ ผมกับสีดากลับมาถึงกรุงเทพฯ.....เย็นมากแล้วจึงเข้าพักที่คอนโดเก่าของผม... ผมจัดการเปลี่ยนกุญแจใหม่ทั้งหมดโดยบอกกับอ้อแฟนของผมในภายหลังว่าได้ให้ ญาติของเพื่อนที่ลำพูนเช่า.......ซึ่งอ้อก็ไม่ได้ว่าอะไรมากนักเพียงแต่บ่น ว่าเสียดายที่ผมเคยบอกไว้ว่าจะเก็บไว้เป็นรังรักของเราสองคนยามอยากเปลี่ยน บรรยากาศ......และเธอก็ยังถามผมต่ออีกว่าข้าวของที่เหลือจะทำยังไง..ผมได้หา ทางหนีทีไล่ไว้แล้วโดยไม่ต้องให้เธอมาขนของเอง........... จึงบอกเธอไปว่าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวได้ขนกลับมาแล้วส่วนของตกแต่งก็ทิ้ง ไว้ยังงั้นแหละให้เขาดูให้จะขนมาทั้งหมดก็น่าเกลียด..อีกอย่างหนึ่งคนเช่าก็ เป็นคนรู้จักกันดีคงไม่ทำให้อะไรเสียหาย..หากเขาติดใจก็อาจจะซื้อต่อจากเรา ก็เป็นได้ผมตัดการสนทนาโดยการให้ของขวัญเธอเป็นสร้อยข้อมือที่ซื้อจากต่าง จังหวัดที่เธอยากได้มานานแล้วเพื่อไม่ให้เธอซักมากนั่นเอง........ชีวิตใน กรุงเทพฯอย่างที่รู้กันทั้งส่วนตัวและธุรกิจมันเร่งรีบไปหมด...งานการต่างๆ ก็เข้าที่เข้าทางดีแล้ว...ผมตัดสินใจว่าจะคุยเรื่องผู้ชายของอ้อว่าผมทราบ เรื่องหมดแล้ว...จะได้ให้เธอเป็นฝ่ายตัดสินใจ.....ซึ่งจริงๆผมก็กลัวว่าเธอ จะเลือกคนใหม่.......ค่ำนี้ผมได้พาอ้อออกมาทานอาหารแถวพัทยาและเปิดโรงแรม นอน......ระหว่างที่ผมกำลังโลมเร้าเรือนร่างของอ้อที่กำลังมีอารมณ์อย่าง เต็มที่แล้ว..ผมแกล้งพูดออกไปว่า....อ้อจ๋า..อ๋อเซ็กส์อย่างนี้เองถึงได้มี คนหลงใหล อ้อมาก..อยากฟันอ้อแทบทุกคนก็ว่าได้.......พี่เนี่ยพูดอะไรก็ไม่รู้..ชอบยัดเยียดเมียให้คนอื่นเรื่อยเลย..... หรือว่าเบื่ออ้อแล้ว....พี่ไม่เบื่ออ้อหรอกเพียงแต่ว่า.....พี่สงสัยว่าตัว เองบกพร่องตรงไหนหรือว่าเก่งเรื่องบนเตียงน้อยลงอ้อถึงได้มีคนอื่นระหว่าง ที่พี่ไม่อยู่......อ้อมองหน้าผมอย่างตกใจและเมื่อแน่ใจว่าผมได้ล่วงรู้ความ ลับของเธอแล้ว...เธอก็ร้องไห้และสารภาพออกมาว่าในระหว่างที่ผมไปต่างประเทศ นั้นทางบริษัทของเธอได้ติดต่อลูกค้ารายใหญ่จากต่างประเทศโดยให้เธอเป็นเอส คอร์ส...ซึ่งความจริงลูกค้านั้นก็เป็นคนไทยแต่ว่าได้โอนสัญชาติเป็นอังกฤษไป นานแล้วทางบริษัทก็เข้าใจว่าเขาใช้แต่ภาษาอังกฤษจึงให้เธอเป็นล่ามให้..... แต่ด้วยความที่อ้อเป็นมีเสน่ห์ทำให้บริษัทให้อ้อทำหน้าที่เป็นเอสคอร์สต่อไป เนื่องจากลูกค้ารายนี้เจาะจงว่าต้องการผู้ที่ประสานงานโดยใกล้ชิด.....เมื่อ ทำงานใกล้ชิดกันมากจึงสนิทสนมกัน.....โดยปกติแล้วอ้อเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ ดีอยู่แล้ว...ด้วยความสนิทสนมและไว้ใจกัน จึงทำให้เกิดโอกาสในเรื่องดังกล่าวขึ้น...อ้อเล่าต่อไปว่าคุณดำเกิง...... จัดงานฉลองความสำเร็จในการร่วมธุรกิจของบริษัทขึ้นและอ้อซึ่งเป็นคล้ายกับ เลขาของทั้งสองบริษัทมีส่วนสำคัญมากในงานชิ้นนี้ และที่งานนี้เองที่ทำให้อ้อต้องพลาดท่าให้เขา.....งานเลิกค่อนข้างดึกและอ้อ ต้องอยู่ช่วยเขาจนแขกเหรื่อกลับกันหมด....ทั้งอ้อและคุณดำเกิง...ดื่มฉลอง ความสำเร็จกันจนรู้สึกมึนๆ..นิดนิด.......เขาพูดเล่นๆว่า...แขกเหรื่อก็กลับ หมดแล้ว....เหลือแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้นนะเรา......อ้อตอบกลับไปด้วย ความมึนนิดๆ ว่า…..นั่นนะซิ..เหงาแย่เลย..ง่วงด้วย.....จะเป็นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือ ความปรารถนา ใต้จิตสำนึกก็ไม่ทราบ..คุณดำเกิงเดินเข้ามาใกล้ๆ.....แล้วบอกอ้อว่า......เดี๋ยวผมจะทำให้หายเหงาเอง เขาโอบเอวอ้อ...ออกไปเต้นรำ........เพลงเบาๆที่ยังคงเปิดไว้ที่ออฟฟิส... กลิ่นเหล้าจางๆ..เคล้ากับกลิ่นเหงื่อที่ปนมากับกลิ่นน้ำหอม....มือกุมมือ .....มือโอบเอวและไหล่..ขาแขนเสียดสีกันเมื่อเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง.... อ้อบอกกับตัวเองว่ารู้สึกซาบซ่านไปหมดและคิดเอาว่าคงไม่มีอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวก็คงกลับ....อ้อบอกอย่างนั้น...แต่เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ..โดยไม่รู้ ตัว..แต่ก็นั่นแหละเมื่ออ้อมกอดกระชับขึ้นยามเขาพูดเบาๆอยู่ข้างหู..ลมร้อน จากปากมันเผาลึกเข้าไปในทรวง...อุ๊ย...อ้ออ้าปากห้ามเมื่อเขาโน้มปากเข้าจูบ แต่ก็สายเสียแล้วเธอบอกอารมณ์มันถูกกระตุ้นด้วยจูบที่เร่าร้อนเธอบอกว่า เมื่อรู้ตัวอีกครั้งหนึ่งยามที่เขาสอดใส่ความเป็นชายเข้ามา.....เมื่อความ เหงาโหยหาจากสามีไม่มีมาเป็นเดือนๆ เมือกแห่งความเงี่ยนเอ่อล้นออกมาอย่างช่วยไม่ได้..อ้อรับว่าการกระทำนั้นผิด อ้อไม่ได้โทษใครนอกจากตัวเอง....โดยพยายามบ่ายเบี่ยงการพบปะกับเขาสองต่อสอง แต่ก็ไม่วาย..ถูกลูกตื้อจากเขาโดย นัดพบเธอในที่สาธารณะเช่น ร้านอาหาร...คาราโอเกะ...โดยบอกเธอว่าเขาหลงเธอเสียแล้วขอให้ได้พบก็เป็นพอ ....โดยไม่ต่อสานต่อความสัมพันธ์..แต่จนแล้วจนรอดโอกาสก็เป็นของเขาอีกหลาย ครั้ง จนอ้อเองยอมรับว่าหลงรสกามจากเขาเช่นกัน..อีกอย่างเขาก็ให้เกียรติอ้อมาก .......เมื่อพี่รู้อย่างนี้แล้วทำไมพี่จึงต้องแกล้งดีกับอ้ออีก......อ้อถาม ผมทั้งน้ำตา.....ผมอดสงสารเธอไมได้จึงบอกเธอไปว่าพี่ยังรักและมีความรู้สึก ที่ดีต่ออ้อตลอดเวลา..เรื่องที่ผ่านไปแล้วให้ถือเสียว่าเป็นช่วงหนึ่งของ ชีวิตก็แล้วกันพี่เองก็ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่ออ้อ....ผมจึงเล่าเรื่องสีดาให้ฟัง ..และบอกเธอไปว่าคนเรานั้นไม่มีความสมบูรณ์ พร้อม.....ทุกคนมีโอกาสผิดพลาดได้...หากเราพร้อมให้อภัยซึ่งกันและกัน...พวก เราตัดสินใจลืมความหลังและแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้....ทุกวันนี้ผมมีความสุข กับทั้งอ้อและสีดา....คงจะมีบ้างที่อ้อกับคุณดำเกิงจะนัดกันไปหาความสุขเวลา ที่เขากลับมาเมืองไทยปีละครั้ง...ก็คงมีแต่สีดานี่แหละที่มีผมคนเดียว...... ส่วนการบันทึกภาพร่วมรักกันของอ้อและคุณดำเกิงที่ผมบันทึกไว้ในคอมนั้น..ผม ยังไม่ดูเลย เพราะช่วงที่ขนของนั้น....คอมได้หายไป...ไม่รู้ว่าป่านนี้มีใครเอาไปโพสใน เน็ตที่ไหนบ้าง..ผมก็คอยเปิดดูอยู่ยังไม่เจอเลย.....หากใครเจอช่วยบอกผมด้วย นะครับ...จบ **************************************

ไม่มีความคิดเห็น: