ขายของ

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

จิตต่างกาย: พ่อกับลูก ตอนที่ 01

...เฮ้ยยย..ไปกินเบียร์กันว่ะเพื่อน... ..ไม่หล่ะขอตัวกลับบ้านก่อนละกัน ขอบใจมาก... พนาปฏิเสธเพื่อนที่ชวนเขาไปสังสรรค์หลังเลิกงาน ...อย่าไปชวนพนาเค้าเลย เค้าเป็นสามีที่ดี ดูซิต้องกลับบ้านตรงเวลาเสมอ กลัวเมียคิดถึง.. เพื่อน อีกคนเดินเข้ามาพูดแซวขึ้น เพราะทุกครั้งที่ มีคนชวน พนาจะไม่เคยตอบรับใครเลยซักครั้งแต่ เขาก็มีข้ออ้างที่ดีเสมอ จึงไม่เป็นที่รังเกียจของผู้ที่ร่วมงานกัน ..ขอโทษทีว่ะ ...ต้องไปรับลูกที่โรงเรียนอีก ป่านนี้ลูกรอแย่แล้ว.. ..เออๆ...ไม่ไปแล้วจะเสียใจ น้องแอนนี่ก็ไปด้วยนะมึง...เดี๋ยวกูฟาดนะโว้ยยย.. ..เออ..ตามสบายเลย... พนาเดินลงมาชั้นล่างเพื่อไปยังรถของตนเอง ..พี่พนาข๋า... พนาหันไปยังเสียงเรียกของตน ..อ้าวแอนนี่..ไม่ไปสังสรรค์กับพวกเขาด้วยเหรอ... ...ก็แอนนี่ จะมาชวนพี่พนาไปด้วยนี่ไงค๊ะ... แอ นนี่ สาวเปรี้ยวแสนสวย ซึ่งเป็นพนักงานของที่นี่ ด้วยเช่นกัน สาวที่เพื่อนพนาพูดถึงเมื่อกี้นั่นเอง ท่าทางการแสดงออก ที่ดูสนใจพนาเป็นพิเศษ ตั้งเธอเริ่มเข้ามาทำงานที่นี่ มักอ่อยให้ พนาอยู่เสมอ แต่พนาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อภรรยา จึงมิได้สนใจแอนนี่เลย ส่วนแอนนี่ ทั้งๆที่รู้ว่าพนามีภรรยาอยู่แล้วกลับไม่ได้สนใจ ยิ่งพนาไม่สนใจตนเองมากเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้ แอนนี่ ต้องการพนามากเท่านั้น พนาก็ปฏิเสธเหมือนเดิม ..อะไรกัน แอนนี่ชวนทีไร เป็นอย่างนี้ทุกทีเลย ไม่รู้ล่ะครั้งนี้พี่พนาต้องไปกับแอนนี่ด้วย ไม่ให้ปฏิเสธ.. พูดไม่พูดเปล่า ยังโอบแขนของพนาด้วย แขนพนา แนบถูหน้าอกของแอนนี่ ด้วยความตั้งใจของแอนนี่ ด้วย ความเป็นสุภาพบุรุษ พนาอยากจะพูดอะไรหลายอย่างให้แอนนี่ได้รับรู้ แต่ก็เก็บเอาไว้ ถ้าพูดออกไปจะเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงมากเกินไป ในเวลานี้ พนาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ถึงจะเป็นการปฏิเสธที่นุ่มนวล ...ก็พนาจะไปกับชั้นหน่ะสิ... ...หัวหน้า.. สาวเจ้าหน้าตาดีแต่งตัวภูมิฐาน เดินเข้ามาคล้องแขนพนา ..นี่พนาตกลงจะไปทานข้าวกับชั้นแล้วนะห้ามไปกลับคนอื่น.. ...อ้า...เอ้อ..ครับผม... ดูท่าพนาเองก็ยังงงๆ แต่ก็ตอบรับ สาวเจ้าดึงพนาเดินควงลงไป ปล่อยให้แอนนี่ยืนกัดกรามกรอดๆอยู่คนเดียว ..เออ... พี่พนานะ สาวๆกว่าสวยกว่าไม่เอา... อีเวรนี่ ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน.. ...................................................................................... พอเดินพ้นสายตาของแอนนี่ได้สักพัก สาวเจ้า ก็ปล่อยแขนที่ควงพนา ออก ...เป็นไงสมบทบาทไหม... ..ตอนแรกก็งง ซักพักก็เข้าใจ ขอบใจ นงค์มากเลยนะที่ช่วย ไม่งั้นแย่... ..ไม่มีปัญหาเราเพื่อนกัน...หนุ่มเนื้อหอมก็อย่างนี้แหละ.... ที่ แท้สาวเจ้าคนนี้ ก็คือ อนงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพนารู้จักและเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียน มหาวิทยาลัย ได้มาทำงานก่อนพนา ในบริษัทนี้ และต่อมาได้เลื่อนเป็นหัวหน้าฝ่าย ที่ดูแลกลุ่มของพนา ด้วยความสามารถ และความรู้ที่เหนือกว่าพนา ดังนั้น เวลางาน พนาจะเคารพอนงค์ อย่างหัวหน้า แต่พอเลิกงาน จะพูดคุยกันธรรมดาอย่างเป็นเพื่อนสนิทกัน คนในออฟฟิศไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกัน แต่ส่วนใหญ่คนอื่นจะซุบซิบเข้าใจกันว่าสองคนแอบเป็นกิ๊กกัน ...เออ...เห็นทีพนาต้องรีบแล้วล่ะ...ลูกรอที่โรงเรียนนานแล้ว.. ...อืม..โชคดี วันจันทร์เจอกัน... ..ครับ..หัวหน้า... พนาพูดแกมตลกสนุก ก่อนที่จะเดินไปยังรถขับออกไป อนงค์มองพนา แล้วขำส่ายหัว เดินมายังรถตัวเองขับออกไปเช่นกัน ................................................................................................. ................................................................................................... ...เฮ้ยย...ไอ้แพนไปป่าว ไปก็ขึ้นท้ายมาเลย... หน้าโรงเรียน มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดยังหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งกับนักเรียนสาว ...แพนไม่ไปหรอกไปกันเถอะ ..เดี๋ยวพ่อแพนก็มารับแล้ว.. ....แหมโตขนาดนี่ ยังเป็นลูกแหง่ติดพ่อติดแม่อยู่ได้ ไอ้แมงกระจั๊วเอ้ย ... ความ จริงวัยรุ่นพวกนี้ไม่ได้ตั้งใจมาชวนแพนไปเที่ยวด้วย พอดีขี่รถฯผ่านมาเห็นเข้า ก็เลยเข้ามากลั่นแกล้ง ซึ่งแพนโดนกลั่นแกล้งเป็นประจำ ...อ้าวไอ้เหี้ย..ไอ้พวกปากเสีย.... คน ที่ลุกขึ้นมาโวยวายไม่ใช่แพนแต่เป็นเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน แพนต้องลุกมาห้ามเอาไว้ไม่ให้เพื่อนสาวไปมีเรื่องกับเค้า ...พวกมึงดูมันทำสิ หลบหลังผู้หญิง ไอ้ตุ๊ดเอ้ยยย... พวกนั้นมันว่าย้อนอีก ...ผู้หญิงแล้วมันเป็นยังไงวะ..รึพวกมึงอยากโดนตีนกู... เด็กสาวก็ไม่ยอมลดราวาศอกเหมือนกัน ..พอเถอะชะเอม.. แพนห้ามเพื่อนสาว ...ฮ่าๆ ไปกันเหอะพวกเรา.. เมื่อถูกปฏิเสธ และแกล้งแซวจนสะใจ เด็กกลุ่มนั้นก็ขี่ออกตัวอย่างเสียงดังและเร็วออกไป... ..แม้น ๆๆๆๆๆๆๆๆ..แป้นนนนน.... ..ไอ้พวกนี้ มันจะรีบไปตายกันรึไง...ไอ้พวกนิสัยเสีย....ดีแต่หาเรื่องคนอื่น.... เด็กสาวที่นั่งข้างแพนเห็นพฤติกรรม ของเด็กพวกนั้นแล้วพูดออกมา ..พ่อแพนไม่มารับแล้วมั้งเนี่ย.. ..มาสิ พ่อแพนเค้าคงติดธุระ ก็เพิ่งโทรมาเมื่อกี้นี้เองเดี๋ยวก็มาถึงแล้ว...ชะเอมไม่ต้องนั่งเป็นเพื่อนก็ได้ ... ....ไม่เป็นไร ....นั่งได้ทั้งวัน ... ..ดีเนอะบ้านอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียน เดินไปกลับได้เอง... ...แพนชอบก็ย้ายมาอยู่บ้านเอมซิ... ..บ้าเหรอ.. ชะเอม เป็นเด็กสาว เพื่อนของแพนเป็นเพื่อนและเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมแล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ชะเอมเรียนไม่ค่อยเก่ง มักให้แพนช่วยเหลือทางด้านการเรียนอยู่เสมอ แต่ถ้าแพนมีปัญหา โดนรังแก ก็จะเป็นชะเอมที่มาช่วยเหลือแพน ซึ่งชะเอมก็บอกว่า หัดสู้คนบ้าง จะได้ไม่มีใครรังแก แพนก็บอกว่า พ่อสอนว่า คนเราต้องมีความอดทน อะไรที่อภัยได้ก็ให้อภัยกันและกัน ชีวิตจะได้มีความสุข ..บรื้น... ..นั่นไง พ่อของแพนมาแล้ว.... แพน พูด พนารีบขับรถมาเพื่อรับลูกวันนี้เค้ามารับช้ามัวแต่รีบเคลียร์งานให้เสร็จ แล้วยังมาเสียเวลานิดหน่อยกับ เพื่อนร่วมงาน และแอนนี่ด้วย ...สวัสดีค่ะ คุณพ่อ... ...สวัสดีจ๊ะหนูเอม... พนาทัก ชะเอมอย่างคุ้นเคย เพราะรู้จักชะเอมมาตั้งแต่แพนอยุ่ป.1 แล้ว และมักมาเที่ยวที่บ้านเป็นประจำ ...ขอโทษนะลูกที่ให้รอเสียนาน.. ...ไม่เป็นไรครับพ่อ แพนรอได้ แถมมีเอมเป็นเพื่อนคุยด้วย เลยไม่เหงา.. ...ขอบใจนะจ๊ะ.. ก่อนที่จะออกรถ พนาก็ขอบใจชะเอม ..ไม่เป็นไรค่ะ... ชะเอมตอบรับ แล้วรถฯ พนากับแพนก็ขับออกไป ........................................................................................... .............................................................................................. ....บรื้น.... เสียง รถยนต์ที่ขับเข้ามา ทำให้ รจนา หรือ นา เตรียมแก้วน้ำและรินน้ำใส่แก้ว เพื่อนนำออกไปให้สามีและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานนั่นเอง รถคันนั้นก็คือรถของ พนา ซึ่งทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก ...ขอบคุณจ๊ะที่รัก... ทั้ง สองยิ้มให้กัน พนาหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม ดับกระหาย ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำอยู่แล้ว ที่ ภรรยาคนสวยของเขา จะมาเสริฟให้เขาทุกครั้งเมื่อกลับมาบ้าน ซึ่งเขานั้นกลับมาตรงต่อเวลาเสมอ ...แล้วของแพนล่ะครับ.. ..ของแพนอยู่นี่จ๊ะ... แพน ลูกชายสุดที่รักของคนทั้งสอง อายุกำลัง 15 หมาดๆ ลักษณะท่าทางรูปหล่อพิวพรรณดีมากๆทั้งนี้เพราะ ทั้งพนา และรจนา เป็นคนที่ผิวพรรณหน้าตาดีอยู่แล้ว แพนจึงได้รับถ่ายทอดมาจากทั้งสองคน ..วันนี้กลับมาช้าจัง.. ..ก็พ่อสิครับมารับแพนช้า.. ..ก็พ่อต้องนั่งเคลียงานให้เสร็จก่อนหน่ะสิ... พนาพูดบอก ...ทำไมหรือครับหรือแม่คิดถึงพ่อกับแพน... รจนายิ้ม ..ก็คิดถึงหน่ะสิ เป็นคนที่แม่รักทั้งสองคนนี่... ทุกคนยิ้มกัน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ .............................................................................................. พ่อแม่ลูกนั่งรับประทานข้าวกัน ..อร่อยจัง... แพนพูด ..ฝีมือแม่อร่อยอยู่แล้วลูก... ผู้ที่ถูกชม ถึงกับยิ้มไม่หุบกับการที่โดนทั้งสามีและลูกชม ..เออจริงสิพรุ่งนี้วันหยุด นา อยากชวนคุณกับลูกออกไปข้างนอกกัน... ..ไหนว่าวันหยุดเป็นวันครอบครัวไม่ไปไหนไง.. พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ซึ่งวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ถือว่าทุกคนจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสามคนพ่อแม่ลูกโดยทำกันมาอย่างนี้ตลอดมา ..ก็นาอยากชวนคุณกับลูกไปนั่งชมบรรยากาศข้างนอกกันบ้างหน่ะสิ แบบไป ปิกนิคกันทั้งครอบครัวหน่ะ... พนาคิดแวบนึง ..อืม..จริงด้วยเราไม่ได้ออกไปไหนกันมาตั้งนานแล้ว เราไปนั่งชมบรรยากาศรับอากาศเย็นๆกันบ้างก็ดี.. ..ดีจังเลยครับ แพนก็อยากไป แล้วเราจะไปที่ไหนกันดี... เมื่อสามีกับลูกเห็นด้วย รจนายิ้ม มีอยู่ที่นึงค่ะ เห็น พี่บัว (เพื่อนบ้าน) บอกว่าอากาศและบรรยากาศดีมากๆค่ะ... ..จริงเหรอที่ไหน... ..เห็น พี่บัวบอกว่าออกจากตัวเมืองไปอีก 50กม.เห็นจะได้ค่ะ แต่ไม่รู้อยู่ตรงไหน นาก็ไม่ได้ถามรายละเอียด ..ถ้าทุกคนตกลงจะไปกัน เดี๋ยวนาจะถามพี่บัวให้... เป็นอันว่าทุกคนเห็นด้วย หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จ รจนา ได้ไปหาเพื่อนบ้านที่ชื่อ บัว เพื่อถามรายละเอียด ............................................................................................ ..แพนนอนแล้วนะครับ... พนา กับรจนาส่งลูกตนเองเข้านอน ถึงแม้แพนจะอายุ 15 แล้ว แต่ก็ยังทำแบบนี้ อย่างกับเขายังเป็นเด็กเล็กอยู่เช่นเดิม แพนเองก็มิได้ว่าอะไร กลับยิ่งดี และชอบ แพนเองเป็นเด็กที่เรียบร้อย น่ารัก ซึ่งต่างจากเด็กทั่วไปที่เวลานี้เป็นช่วงวัยกำลังเฮ้วกันแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะทำตัวห่างพ่อห่างแม่กันแล้ว และมักจับกลุ่มอยู่กับเพื่อนมากกว่า ........................................................................................... พนากับรจนาเมื่อส่งลูกเข้านอนเสร็จ ได้เข้ามาห้องนอนของตนเอง ..อุ้ยย.. พนาคว้าเอวเมียสุดที่รักเอาไว้ เข้าหอมแก้ม ไซ้ซอกคอ ..อะไรกัน ปุ๊บปั๊บจะเอาเลยเหรอ... ..ก็ พนาทนไม่ไหวแล้วนี่... เป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว พนาบีบขยำนม ที่คุ้นเคยมือมาโดยตลอดอย่างเมามันส์ ..อ้า...คุณคะ...อืม... รจนาเริ่มเคลิ้มตาม แล้วถูกอุ้มมาที่เตียง จัดการเปลือยกายเมีย และตนเองจนเสร็จสรรพ โอ้ววว...หีเมียมันส์ควยจังเลย.... ...ควยผัวก็ถูกใจเมียจ๊ะ.....อูยยย...ซี๊ดดด.... ทั้งสองเย็ดกันมันส์หยด ...พรุ่งนี้เราจะไปกันตอนกี่โมงดี..อืออออ... ..อืม..เอาเป็นว่า ออกรถซัก 9 โมงเช้าแล้วกันค่ะ นาจะได้เตรียมของให้ครบเสร็จสรรพได้พอดี....อืมม...ซี๊ดดด... ทั้งสองพูดไปด้วย เย็ดกระเด้ากันไปด้วย... ............................................................................................. รุ่ง เช้าทุกคนเตรียมตัวจัดข้าวของ เพื่อออกเดินทางไปปิกนิคกัน ซึ่งเป็นที่เพื่อนบ้านนั้นได้แนะนำมา และพวกเขาเองยังไม่เคยไป จึงได้ตกลงไปกัน และได้ถามทางต่างๆเรียบร้อยแล้ว ...ลูกแพน พร้อมออกเดินทางกันรึยัง.. ..พร้อมแล้วครับ.... ........................................................................................ การ เดินทาง เป็นไปด้วยความสะดวก เพราะเป็นทางลาดยางยาวตลอด ไม่นานก็มาถึงเป้าหมายซึ่งอยู่ในอำเภอหนึ่งของจังหวัดนี้ เพียงแค่ได้เข้ามาสัมผัส รู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ดูแล และมีที่จอดรถให้ มองจากภายนอกข้างในดูร่มรื่นเสียจริง ทุกคนเดินเข้าไปข้างใน มีผู้คนมานั่งรับอากาศในนี้ประปราย ...ซื๊ดดดดด... พนาสูดอากาศเข้าปอด ...สบายดีจริงๆ... ทุกคนยืนรับความสดชื่นกัน และเริ่มจัดเตรียมข้าวของอุปกรณ์นั่งกัน ...................................................................................................... สามพ่อแม่ลูกนั่งนอน พูดคุยกันไปเรื่อย แพนเอาทั้งหนังสือเรียน และการ์ตูนมาอ่านเล่นด้วย ...อากาศดีอย่างนี้กลับเย็นๆนะที่รัก .... ..ค่ะ นาก็คิดว่าดีเหมือนกัน..... พอทานข้าวกลางวันเสร็จกันเรียบร้อย พอช่วงบ่ายๆ ก็เริ่มที่จะมีคนมากขึ้น ...แพนขอเดินเล่นนะครับ.. ...อืมดี....เหมือนกัน พ่อขอไปด้วย... สองพ่อลูกเดินชมบรรยากาศไป มีรจนา เฝ้าของอยู่กับที่ ............................................................................. สองพ่อลูก เดินชมนั่นชมนี่ไปรอบ แล้วก็มาถึงบริเวณหนึ่งซึ่งตรงนี้ไม่มีใครเลย ...พ่อว่าแถวนี้น่านั่งดีนะ ไม่มีคนเลย... ..พ่อดูต้นไม้ต้นนี้สิ สวยดี ลำต้นตรงดิ่งเลยครับ... พนา มองมาที่ต้นไม้ที่ลูกบอก เป็นต้นไม้ที่โตพอสมควร กิ่งก้านสามารถบังร่มได้ ลำต้นเกลี้ยงเกลาเรียบ ทั้งสองดูไม่ออกว่ามันคือไม้ยืนต้นอะไร พนาเอามือไปลูบลำต้นดู ..ผิวเรียบลื่นดี.. ..เหรอครับ... แพนเข้าไปลูบต้นไม้ต้นนั้นบ้าง ซึ่งเป็นด้านฝั่งตรงข้ามกับพนา ...เครื้นนน....วิ้งๆๆๆ... ทันไดนั้นอยู่ดีๆ ท้องฟ้าก็มืดลง มีเสียงฟ้าร้องฟ้าคำรามอย่างดัง ..เฮ้ยยย...อะไรกัน อยู่ๆ ฝนจะตกรึไง.... ..จริงด้วยครับพ่อ แพนไม่เห็นว่าเริ่มเค้ามาตอนไหนเลย.. พ่อลูกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ...พ่อว่าเรารีบไปหาแม่กันเถอะ ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง.. ..ครื้นๆ...ทั้งสองรีบวิ่งไปท่ามกลางความครึ้มมืดดำและเสียงฟ้าร้อง ด้วยความเป็นห่วงรจนา เพราะเนื่องจากท้องฟ้าผิดปกติ ....................................................................... ...อ้าว...พ่อ....อยู่ดีๆ ไอ้ที่ครึ้มเมื่อกี้หายไปเสียแล้ว เอะ..มันยังไงกันเนี่ย... ทั้ง สองงงอีกครั้ง ที่ความมืดครึ้มเมื่อกี้หายไปไหนหมด เหมือนเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทั้งสองจึงหยุดวิ่งและพากันเดิน จนมาถึงที่พวกเขาได้นั่งปิกนิคกัน ...อ้าว...นอนสบายเลยนะ...นึกว่าเก็บข้าวของเสียเเล้ววว... สามีพูด รจนาลุกนั่ง ...อ้าวจะกลับแล้วเหรอถึงต้องเก็บ ใหนบอกว่ากลับเย็นๆไง... ....อะไรกันแม่ ฟ้าครึ้มเมื่อกี้ นึกว่าแม่ตกใจเสียอีก แพนกับพ่อล่ะรีบมาเลยนะเนี่ย.... ..คิกๆๆๆ... รจนายิ้มขำ ..มาอำอะไรแม่เล่นเนี่ย ฝืดจัง ทีหลังลูกคิดมุกอำแม่ดีๆหน่อยสิลูก.... ...อำ เอิม อะไรกัน เมื่อกี้ยังมีฟ้าร้องเสียดัง... พนาเสริมแพน รจนายังยิ้มอยู่ คิดว่าสามีตัวเองนั้นช่วยลูกอำด้วย ...ไม่เอาแล้ว พ่อ ลูก อำไม่แนบเนียนเลย ฟ้าใสขนาดนี้ จะตกได้ยังไง ถึงจะตก ก็จะต้องมีเค้าก่อนสิ ฮิๆ... ...ที นี้คนที่งง เข้าไปใหญ่นั่นก็คือ พนากับแพน ทั้งสองได้แต่มองตากันอย่าง งง งวย กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน ใจชักสั่นและเต้นตูมตาม พนาอยากรู้ว่าหูตาตนเองฝาดไปรึเปล่า เพื่อความแน่ใจ จึงได้เดินไปหาคนกลุ่มหนึ่ง และก็เดินไปอีกสองสามกลุ่ม ............................................................................ ...คุณไปคุยอะไรกับพวกเค้าเนี่ย... รจนา ถามพนาด้วยความสงสัย ว่าอยู่ดีๆเดินไปหาคนอื่นเค้าเฉยเลย พนาเดินมาอย่างเงียบขรึม มองหน้าลูกอีกครั้ง พูดกันเบาๆ ...ลูกเห็นและได้ยินอย่างที่พ่อเห็นและได้ยินใช่ไหม.. แพนพยักหน้ารับ ...เมื่อกี้พ่อไปถามคนอื่น ไม่มีใครเขาเห็นหรือได้ยินเลยนะ... ทั้งสองมองดูรอบๆ ซึ่งตอนแรก ดูสดชื่นบรรยากาศสดใส แต่ตอนนี้รู้สึกว่า มันดูเวิ้งว้าง วังเวงพิกล ...แพนว่า เรากลับกันเถอะพ่อ.. ..อืม พ่อก็ว่าอย่างนั้น... ..นี่สองพ่อลูกซุบซิบอะไรกันนัก ชักไม่เข้าใจแล้วนะนี่.. พนากับแพนไม่ตอบ ...เก็บข้าวของกลับบ้านกันเถอะครับ... แพนบอกรจนา ..อะไรกันเกิดอะไรขึ้น... รจนามองดูอาการของสามีและลูกออกว่าเงียบขรึม ผิดปกติ ...เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังบนรถ ตอนนี้รีบเก็บของก่อน.... รจนายังงงๆ แต่ก็รีบเก็บตาม และมายังที่รถยนต์ ออกจากที่นั่นทันที พนากับแพนยังหวั่น นึกในใจว่า จะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลย ................................................................................................. ....คิกๆๆๆ... รจนาขำ เรื่องที่สามีและลูกเล่าให้ฟัง อย่างไม่เชื่อเด็ดขาด ..แม่ขำทำไม.. ...จะไม่ให้ขำได้ยังกันลูก อะไรกัน เรื่องแค่เนี๊ย ทำเป็นตกใจกันไปได้ ตาฝาดหูฝาดละมั้ง คิกๆๆๆๆ.... รจนายังหัวเราะอยู่ ...แต่แพนกับพ่อเห็นด้วนกันทั้งสองคนนะครับ จะตาฝาดได้อย่างไร... รจนายังยิ้มท่าทางไม่เชื่อในสิ่งที่สามีกับลูกพูดเลย พนากับแพนจึงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดต่อ จึงได้แต่นั่งเงียบจนถึงบ้าน ................................................................................................ ................................................................................................... ครั้นตกเย็น สองพ่อลูกดูทีวีกันสองคน ส่วนรจนา เข้านอนแล้ว ทั้งสองคุยกันเรื่อง สถานที่ไปเที่ยวกันครั้งนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้น ...ลูกอย่าไปใส่ใจเลย ไหนๆเราก็มาจากที่นั่นไปแล้ว นึกว่าเป็นฝันร้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงก็แล้วกัน.... พนาบอกลูก กลัวลูกจะขวัญเสีย ส่วนตนเองนั้นมีจิตใจที่หนักแน่นพออยู่แล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรมาก ..ครับพ่อ.. ..................................................................................... พนา ตื่นขึ้นมา นี่เขาหลับอยู่หน้าทีวีรึนี่ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้สึกตัวเลย รู้แค่ว่า กำลังดูรายการฟุตบอลเพลินๆ มารู้ตัวอีกทีตนเองอยู่หน้าทีวีซึ่งปิดเรียบร้อยแล้ว มองหาลูกก็ไม่พบคงเข้านอนในห้องไปแล้ว ...ห้าววววว... พนาหาวอีกครั้ง ก่อนที่จะลุกเข้าไปนอนต่อที่ห้องตัวเองแล้วก็นอนข้างๆกอดเมียหลับไป ................................................................................................................................... .......................................................................................................................... พนา ลุกตื่นขึ้นมาตอนเช้า อาจสายกว่าวันเวลานิดหน่อย มองดูภรรยาไม่เห็น รู้ได้ทันทีว่าลงไปอยู่ที่ครัวทำอาหารเช้าอยู่ พนาเดินมาผ่านมาที่ห้องลูกที่เปิดประตูอ้าไว้ เห็นไม่มีลูกอยู่ คงตื่นและลุกก่อนเขาแล้ว ซึ่งถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ก็ไม่มีใครตื่นสาย แต่อาจจะช้ากว่าวันธรรมดานิดหน่อย ซึ่งฝึกให้ตื่นอย่างนี้เป็นประจำ พนาได้ลงมาชั้นล่าง พบภรรยาพอดี ...แหมพ่อลูกเนี่ย แปลกๆตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะมาวันนี้ยังแปลกอีก คิดยังไงกันสลับกันนอนจ๊ะ.... รจนาพูดเสร็จก็เดินทำงานบ้านของตนไป พนางง กับคำพูดภรรยา ว่าพูดอะไร เขาไม่เข้าใจ แล้วก็เดินไปที่ห้องน้ำ ซึ่งลูกคงเข้าอยู่ ...อ๊ากกกกกก....ว๊ากกกกกก..... ...เฮ้ย....เกิดอะไรขึ้น... พนาตกใจที่ได้ยินเสียงลูกร้องตะโกนออกมาเสียงดังจากห้องน้ำ ...ที่รักมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย... รจนาวิ่งเข้ามา ...ไม่รู้สิ.. พนาตอบ ....ปึงๆ..เกิดอะไรขึ้นที่รัก...ปึงๆ.. รจนา บิดลูกบิดเปิดไม่ออก เพราะข้างในล็อคอยู่ พนางงงวยกับรจนา เอะ..ไม่เคยเห็นภรรยาตนเองเรียกลูกอย่างนี้เลย มีแต่ เรียกเขาเท่านั้นว่าที่รัก เขาคงอยากเปลี่ยนคำพูดใหม่ๆล่ะมั้ง พนาเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก ช่วยเคาะประตูด้วยอีกคน ....ลูก...เป็นอะไร...เปิดประตูเร็ว... รจนาหันมามองหน้าพนา ...เป็นอะไรไปเล่าคุณช่วยกันเรียกสิ .... พนาบอกภรรยา รจนามองหน้าพนาอย่างงง ..กร็อก... ข้างในเปิดให้ รจนาเข้าไปดูลูกก่อนเป็นคนแรก ...คุณเป็นอะไรไปคะ ร้องเสียดัง ... พนาได้ยินที่รจนาพูด เรียกลูกว่าคุณเหรอ เขาเองไม่ได้สนใจมากนัก เพราะตอนนี้เป็นห่วงลูกมากกว่า รีบเข้าไปในห้องน้ำ ดูลูกทันที ...เฮ้ย................................ พนาตกใจมาก ร้องอุทานออกมาเสียงดังเช่นกัน รจนาหันกลับมาที่พนา .. มีอะไรรึลูก…. ...ห่ะ..น่ะ....นี่มันอะไรกัน ... พนางงไปหมด เพราะเขายืนอยู่ตรงนี้ แล้วทำไมไปยืนตรงนั้นอีกคนได้ หันมองไปที่กระจกบานใหญ่ ..อะ..อะ..ไรกัน... สิ่งที่เขาเห็นนั่นคือตนเองไม่ใช่พนาแต่เป็นรูปร่างหน้าลูกชายของเขา เขาเริ่มเข้าใจที่ภรรยาพูดและทักเขา ว่าสลับกันนอน ตอน นี้พนาอยู่ในร่างของแพน ส่วนแพนอยู่ในร่างของเขา มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน พนาระงับตั้งสติเอาไว้และนิ่ง รจนาต่างงงทั้งสามีและลูกว่าเขาสองคนกำลังเล่นอะไรกันรึเปล่า ...เอ่อ...พ่อครับผมมีเรื่องคุยกับพ่อสองคนครับ... พนา ในร่างแพน ต้องทำเป็นแกล้งว่าเป็นแพนไปก่อนเพื่อที่คิดจะหาทางออก ส่วนแพนในร่างของพนา รู้ว่าพ่อต้องการพูดอะไร จึงบอกให้รจนาออกไปข้างนอก ...แม่ครับ....อ้า เอ่อ เธอ ....ออกไปข้างนอกก่อน ผมมีเรื่องคุยกับพ่อ...เอ้ย ลูก... แพนพูด ผิดๆถูกๆด้วยความยังไม่ชิน รจนา ได้แต่สับสนไปหมด แต่ก็ออกไปข้างนอก ...พ่อครับ..นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ... แพนทำท่าขวัญเสียตกใจ และกังวล ...ใจเย็นๆก่อนลูก มันต้องมีทางออก....พ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไร ......พ่อก็เพิ่งรู้นี่แหละ..... ...แล้วพ่อจะเอายังไงดีครับ......แล้วเรื่องที่เราจะกลับคืนร่างเดิมล่ะครับ จะทำยังไง.. ..อืม..พ่อก็ยังคิดไม่ออก ไม่ต้องห่วงพ่อจะพยายามเต็มที่... พนาเห็นลูกที่อยู่ในร่างตนเองดูเครียดจึงได้หาวิธีทำให้ลูกผ่อนคลาย ...การ ที่เราสลับร่างกันก็ดีนะลูก เราจะได้ลองเปลี่ยนรสชาติชีวิต ดูไง คิดว่าเป็นเรื่องโชคดีสิ หนึ่งชีวิตได้มีโอกาส เป็นได้สองรูปแบบ..พ่อเป็นลูก ลูกก็เป็นพ่อ... พนาพูดโน้มน้าวลูกให้คล้อยตาม และก็ได้ผลแพนรู้สึกผ่อนคลายลงมาก ....เวลานี้ช่วงที่พ่อกับลูกหาทางออกในการคืนร่างเดิม เราก็แกล้ง ทำเป็นอย่างนี้ไปก่อน สนุกดีออก ลูกว่ามะ คิดแล้วตื่นเต้น... ..จริงด้วยสิครับ...พ่อนี่เยี่ยมจริงมีอะไรเด็ดสนุกๆก็คิดออก... ดูแพนจะลืมเรื่องที่ตนหนักใจอยู่ ไปขณะหนึ่งได้ ทั้งสองอยู่ในห้องน้ำชำระร่างกาย แพนถอดชุดออก ...อู้หู้..ใหญ่จัง.... แพนมองควยของพ่อในร่างของตน ที่ตอนนี้ห้อยอยู่ ...ขนาดห้อยยังมีขนาดโตเพียงนี้ แล้วแข็งตัวจะใหญ่ขนาดใหนนะเนี่ย... พนามองมายังแพน ยิ้ม ..มันแน่อยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นแม่ของแพนจะติดใจรึ.. ...พรึบ... พนาเองก็แก้ผ้าออก ...โอ้โห...ของลูก ก็ไม่ใช่ย่อยนะเนี่ย... ขนาดของแพนเองก็ไม่ใช่ย่อยขนาดห้อยๆ ยังโตไม่ใช่เล่นแต่ถ้าเทียบกับของเขายังห่างชั้นกันอยู่ ..พ่อจะทำอะไรหน่ะ... พนาเอามือมาจับควย รูดเปิดหัวถอกออก ..อะไรกัน ลูกยังไม่เคยชักว่าวรึไง... ด้วยหนังหุ้มหัวถอกมันรัดแน่นที่หัวควยไม่ยอมเปิด พนารู้ได้ทันทีว่าลูกตนไม่เคยสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ..แพนส่ายหน้า... นั่นจริงๆด้วย พนาเลยแนะนำว่าต้องทำอย่างไร โดยการทำให้ดูว่าทำอย่างไร จนควยแพนค่อยเปิดออก ควยแข็งโตขึ้น ....ใหญ่ไม่เบาควยลูกของพ่อ อย่างนี้รับรองสาวๆติดใจ แต่ลูกดันไม่เอามาใช้เลย... แพน รู้สึกจะสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งถามทั้งตั้งใจฟัง ที่พ่อเล่า บอก และแนะนำ พนาบอกลูกว่า สมัยที่ยังไม่ได้กับแม่ ก็เป็นเพลย์บอยมาก่อน แต่พอมีภรรยาแล้วก็เลิกเจ้าชู้รักเดียวใจเดียวตลอดมา ..ปึงๆ...พ่อลูกเป็นอะไรกันรึเปล่า เห็นเข้าห้องน้ำนานเล้วนะ.. เห็นเข้าห้องน้ำกันนานผิดปกติ รจนาจึงรู้สึกเป็นห่วงรวมทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ..ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง...กำลังอาบน้ำกันอยู่... สองพ่อลูกจึงได้อาบน้ำจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนเปิดประตูออกไป ...อย่าลืมนะลูก พ่อเป็นลูกแพน ส่วนแพนเป็นพ่อพนานะลูก อำแม่เขาซะให้เข็ดฐานที่ชอบว่าพวกเราเล่นมุกอำ ฝืดกันนัก ... ...ดีครับพ่อ..แค่แพนคิดแพนก็สนุกแล้วครับพ่อ...

ไม่มีความคิดเห็น: