ขายของ
วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557
จิตต่างกาย: พ่อกับลูก ตอนที่ 03
..มาทานข้าวกันได้แล้วจ้า....
ทุกคนตื่นเช้ากันอยู่แล้ว และที่นี่ไม่ใช่ กทม. จึงไม่ต้องเร่งรีบที่จะออกจากบ้านกัน
ทั้งสามคนนั่งทานข้าวพร้อมกัน ระหว่างที่ทานข้าวกันก็คุยกันไปด้วย
...ที่รักคะ นาเตรียมชุดทำงานให้ไว้ตรงนั้นแล้วนะคะ....ชุดนักเรียนของลูกแขวนไว้ตรงนั้นนะจ๊ะ...
รจนาบอกสามี และลูก ซึ่งได้รีดเอาไว้แล้วหลังจากทำอาหารเสร็จ
...ห๋า...เออจริงสิ...
พ่อ ลูกมองหน้ากัน ลืมไปเลยว่า ต้องออกไปข้างนอก พนาต้องไปทำงาน แพนต้องไปโรงเรียน แล้วนี่ต้องทำอย่างไร เมื่อสลับร่างกันอยู่อย่างนี้
....เอาละสิ...แล้วอย่างนี้จะทำยังไงดีล่ะ...
แพนดูเป็นกังวลถามความเห็นจากพ่อ
...เป็นอะไรไปหรือคุณ..
รจนาสงสัยสามีที่มีท่าทางแปลกๆ
...เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ...
..........................................................................................
หลังทานอาหารเสร็จ พ่อลูกปรึกษากัน
...ซวยล่ะสิครับพ่อ คราวนี้จะทำยังไงดีล่ะ...แพนไปเรียนสภาพแบบนี้ไม่ได้ด้วย...แพนว่า แพนหยุดเรียนดีกว่า ส่วนพ่อก็หยุดไปทำงาน...
แพนพูดเสนอ พนาเองก็คิดหาทางออกเช่นกัน
...ทำ อย่างนั้นไม่ได้หรอกลูก ถ้าวันนี้เราหยุด พรุ่งนี้เราก็ต้องหยุด มะรืนนี้เราก็ต้องหยุดอีก ก็ต้องหยุดมันเรื่อยๆ ปัญหาก็ไม่จบนะลูก...
แพนเห็นด้วยกับที่พ่อพูด
...แล้วเราสองคนจะทำยังไงดีล่ะครับพ่อ...
พนานิ่งใช้ความคิดสักพัก
...อืมม...เอาอย่างนี้แล้วกันนะลูก ...ลูกก็ไปทำงานแทนพ่อ ส่วนพ่อไปโรงเรียนแทนลูก...
พนาบอก
..ทำอย่างนั้นได้ไงครับพ่อ...แพนทำงานอย่างที่พ่อทำไม่เป็นนะ..
อือน่ะ...ตอนนี้วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ยังไงไว้ค่อยหาทางออกอย่างอื่นทีหลังหน่ะ...
...นี่คุยอะไรกันอยู่ แต่งตัวกันได้แล้ว...
รจนาเข้ามาเมื่อเห็นทั้งสองยังไม่แต่งตัว
...เอาเป็นว่าตามนี้นะลูก..
พนาบอกลูกเบาๆ เพื่อกันรจนาได้ยิน แพนผงกหน้ารับ
..ครับพ่อ เอาไงเอากัน....
....................................................................................................
โชคดีทั้งพ่อทั้งลูกนะ ... ลูกตั้งใจเรียนด้วยล่ะ...
ก่อนจะไปตามธรรมเนียมปกติ รจนาหอมแก้มลาทั้งสามีและลูก
...อ้าววว...นี่เดินผิดทางกันรึเปล่า...
รจนาเห็น สามีเดินมานั่งเบาะข้างคนขับรถ แพนเดินมาทางเบาะคนขับ รจนาเลย งง
...เอ้อ...จริงด้วย แหะๆ...
ทั้งสองนึกขึ้นได้ รีบกลับสลับกัน เปิดไปประตูด้านตรงข้าม พ่อลูกมองหน้ากันเหมือนอยากจะคุยอะไรกัน
...พ่อครับ...แพนขับไม่เป็นนะ...
เมื่อเข้ามาในรถแล้วทั้งสองก็กระซิบกระซาบกัน
...เออๆ..รอแป๊บนึง...
พนาบอก
...เออ...แม่ครับ...ไม่ต้องรอส่งก็ได้ครับเข้าบ้านไปก่อนเลย...เดี๋ยวแพนมีเรื่องจะคุยกับพ่อก่อนนิดหน่อย...
พนาบอกรจนาเพื่อให้ รจนาที่ยืนรอส่ง ให้ไปจากตรงนั้นเสีย เพื่อที่เขาจะได้สลับมาขับรถแทน
....อ้าว..อยากคุยอะไรกันก็คุยไปสิ...ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกันเลย....ไปก็ได้...
รจนาพูด แล้วก็เดินเข้าบ้านไป พ่อลูกเลยรีบสลับมานั่งที่ตรงข้ามกัน พนารีบขับรถออกไปกลัวรจนาจะกลับมาเห็นเข้าว่าไหงให้ลูกมาขับได้
.........................................................
...เออ...ซวยเลย...ลืมไปเลย...ถ้าเจอด่านตรวจล่ะแย่....
พนาส่ายหัว
..ทำไมเหรอพ่อ..
...ลูกไม่มีใบขับขี่ ขับอยู่อย่างนี้พ่อก็โดนจับซิ ...ขออย่าเจอตำรวจเล้ยยย สาธุ...
พนาคิดได้เลยต้องอ้อมไปหลายทางเพื่อกันเจอตำรวจ
...............................................................
ถึงหน้าออฟฟิศที่ทำงานของพนา
...อะ...ลูกรู้ที่นั่งที่ทำงานของพ่อแล้วใช่ไหม อย่างที่เราคุยกัน ถ้ามีงานลูกเก็บเอาไว้ก่อน เเล้วเอามาให้พ่อทำที่บ้านนะ...
..ครับพ่อ...สวัสดีครับพ่อ...
แพน ยกมือไหว้พนา นี่ถ้าคนอื่นเห็นคง งงน่าดูที่ เห็นผู้ใหญ่ไหว้เด็กแถมขับรถอีกต่างหาก คงเกาหัวกันยิกๆเลยล่ะ โชคดีที่คนผ่านไปผ่านมาไม่มีใครสนใจ
พอแพนลงรถไป แล้วเดินเข้าออฟฟิศไปอย่างเก้ๆกังๆ
...ลูกกูจะไปรอดไหมว้า เฮ้อออ...
พนาเองก็อดห่วงไม่ได้
...เฮ้ยย..ต้องรีบแล้วโว้ย...
พนามองดูที่นาฬิกาข้อมือตนเอง รีบบึ่งรถไปโรงเรียนทันที เขาเองต้องรีบไปโรงเรียนเพื่อไปเรียนแทนลูกเช่นกัน
...............................................................................................
..............................................................................................
เพ นเดินเข้ามาในบริษัทที่พ่อทำงาน อย่าง งง เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง โชคดีที่แพนเคยมาที่นี่กับพ่อหลายครั้งแล้วก็เลยพอรู้ว่าอะไรตรงไหน เป็นตรงไหนบ้าง
...เฮ้ย...หวัดดีพนา...
แพนหันไปยังเสียงที่ทักทาย พอจำได้ว่าชื่อ เอกเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อ
...สวัส....อ้า..หวัดดี....
แพนเกือบเผลอยกมือไหว้ ชะดีรู้สึกตัวซะก่อนเลยทักทายแบบธรรมดา
...หวัดดี...พนา... เอก...
แพน หันไปอีกทางนั่นก็เพื่อนร่วมงานของพ่อชื่อว่า กอล์ฟ แพนนั้นจำได้ แพนคิดว่าไม่รู้ว่าจะมีใครมาทักทายเขาอย่างนี้อีกหรือเปล่า เพราะที่รู้จักก็มีแค่ เอกกับอล์ฟเท่านั้น
ที่นี่ไม่ต้องตอกบัตรทำ งาน เพราะทำงานระบบเป็นทีมเป็นกลุ่ม แพนจึงเดินมาที่โต๊ะทำงานของพ่อได้เลย ....บล็อกที่นั่งของพ่อจะมีโต๊ะทำงาน ประมาณ8-9โต๊ะ แพนพอรับรู้จากที่ พนาได้บอกคร่าวๆไว้ตอนที่ขับรถมาส่งที่นี่
แพนนั่งที่โต๊ะทำงานของพ่อ ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เลยหยิบนั่นหยิบนี่ที่อยู่บนโต๊ะมาดูเรื่อยเปื่อย
....พี่พนาข๋า...สวัสดีตอนเช้าค่า....
แพน เห็นสาวสวยแต่งตัวแบบฉบับสาวออฟฟิศ แต่เอ็กซ์สุดๆ เข้ามาทักทาย และนั่งลงบนโต๊ะทำงานของเขา ทำให้กระโปรงที่สั้นรัดจุ๊ดขยับขึ้น เผยให้เห็นขาอ่อนงาม ๆ
..อุ้ยย...
แพนไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อนใจก็ เต้นตูมตามเหมือนกัน อดที่จะมองน่องงามๆไม่ได้ แพนไม่รู้ว่าสาวเจ้าคนนี้เป็นใคร สวยและแต่งตัวได้เปรี้ยวจริงๆ
เอก และกอล์ฟจอมทะลึ่ง สะกิดกันและกันมองมายังสัดส่วนของหญิงสาวสวย โดยเฉพาะน่องขาวๆที่ถัดลงมาจากกระโปรงสั้น ในใจนึกว่าอยากจะเอามือล้วงเข้าไปในกระโปรงนั้นเสียเหลือเกิน
...แม่งเอ้ย...น้องแอนนี่น่าเย็ดจริงๆ พับผ่าสิ...
ทั้งสองกระซิบคุยกัน เป็นเรื่องปกติของคนทั้งสองอยู่แล้ว ที่จะสอดส่ายสายตาแห่งความเงี่ยนอย่างนี้
...มีอะไรรึคะ ..แอนนี่สวยเหรอ...
แพนเงยหน้ามามองแอนนี่อยู่ ..สวยนั่นก็คือเหตุผลหนึ่ง แต่อีกเหตุผลหนึ่ง แพนไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน
....อูยยย...อะไรวะ....
แพนนึกในใจ เพราะอยู่ดีๆควยมันเริ่มตุงขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจากที่มองแอนนี่ได้สักพัก ซึ่งเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
...ก็อกแก๊อก.. ก๊อกแก๊ก....สวัสดีทุกๆคน...
ก่อน ที่แพนจะทำอะไรไม่ถูก ก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา พูดทักทายทุกคน แพนหันมองหญิงสาว และหญิงสาวนั้นมองตอบยิ้มให้แพน แพนรู้จักผู้หญิงนี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของพ่อนั่นเอง แพนจำได้ เคยมาที่บ้านอยู่หลายครั้ง แพนรู้ว่าเป็นหัวหน้างานของพ่อด้วย ชื่อ อนงค์ แต่เห็นพ่อเรียกชื่อสั้นๆว่า นงค์
อนงค์นั่งที่โต๊ะทำงาน แอนนี่จึงลุกไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนเช่นกัน แพนเผลอแอบไปมองก้นงามๆที่เดินส่ายไปมาของแอนนี่เข้า ถึงกับอึ้ง และเกิดอารมณ์ ควยได้เริ่มตุงขึ้นมาอีกครั้ง
....ทำไมมันเป็นอย่างนี้อีกแล้ววะ...
แพนพรึมพรัมกับตนเองเบาๆ เอามือกดที่เป้าไว้ไม่ให้มันตุง ตอนนี้แพนเข้าใจแล้วว่า ทำไม พ่อจึง มองก้นของป้าบัว
....มาครบกันแล้วนะคะ....อ้า....วันนี้เรามีโปรเจคมาใหม่ให้ทุกคนศึกษากัน..................................
อนงค์ พูดเกี่ยวกับงานไปเรื่อย แพนนั้นไม่เข้าใจสิ่งที่อนงค์พูดเลย ได้แต่ฟังไปอย่างนั้น ขนาดว่าเขาเองเป็นคนตั้งใจและเรียนเก่งแต่ทำไมถึงไม่เข้าใจ
นั่นเพราะว่า มันเป็นเรื่องของวุฒิภาวะนั่นเอง แพนเป็นเด็กนักเรียนจึงเข้าใจแต่ในตำราเรียนเท่านั้น ส่วนเรื่องโลกภายนอกและความรู้เฉพาะทาง แพนยังอ่อนหัดอยู่
แพนได้ แต่นั่งฟังเรื่อยเปื่อย มองนั่นมองนี่ไปพลาง มองดูรอบที่ทำงานของพ่อ ในพื้นที่บล็อกของพ่อนั้นมีทั้งหมดเก้าคน เก้าโต๊ะพอดี นี่เป็นทีมของพนานั่นเองที่ต้องทำงานร่วมกัน มีผู้ชายสามคน นั่นคือ พนา กอล์ฟ เอก มีผู้หญิง 6คน แอนนี่และ อนงค์ที่เป็นหัวหน้า เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
...อะ...เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีใครจะเสนอ หรือสอบถามอะไรไหม...
ทุกคนนั่งเงียบ
...อะ..งั้นเป็นว่า ทุกคนโอเค งั้นเริ่มงานกันได้...
แพน งงๆ ว่าเขาทำอะไรกันวะ ไม่เห็นเข้าใจเลย
..พนา...
แพนที่ยังงงๆไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป อนงค์ก็เรียกชื่อขึ้น
...คะ...คะ...ครับผม....
...เดี๋ยวออกไปข้างกับดิฉัน เตรียมตัวด้วยนะ....
นั่น จะให้เขาไปไหนอีก ...เอาไงเอากันวะ... แพนนึกในใจ
..ครับ...
แล้วแพนก็ตอบรับ
...ทุกๆงานเห็นแต่ชวนพนาไป...เฮ้อ... ได้เป็นกิ๊กกับหัวหน้า อิจฉาโว้ย...
กอล์ฟที่นั่งติดพนาแซวขึ้น แพนคิดในใจ พอเข้าใจคำว่ากิ๊กอยู่ว่าคืออะไร นี่อนงค์เป็นกิ๊กกับพ่อเหรอ
...เชอะ...
เสียงประชดประชันจากแอนนี่ ที่หมั่นใส้อนงค์นักหนา
ความ จริงพนาไม่ได้เป็นกิ๊กกับอนงค์ แต่ทุกคนเห็นสนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เลยเข้าใจว่ากุ๊กกิ๊กกัน โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาทั้งสองเป็นเพื่อนกันตอนเรียน อุดมฯ
.............................................................................................
.............................................................................................
ทาง ด้านพนามาถึงโรงเรียนแล้ว พนาจอดรถและออกมาจากรถยนต์ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมองมายังพนา ที่เห็นขับรถยนต์ ซึ่งในโรงเรียนนี้ไม่ค่อยมีนักเรียนคนไหนขับรถยนต์มาจะมีก็เป็นนักเรียน ม.ปลายมากกว่า พนางงนิดๆแต่ก็เข้าใจในตอนหลัง
....เฮ้ยยย...แพน....เอารถยนต์มาเลยรึวะ....
ชะเอมนั่นเองเข้ามาทักทาย
..อ้า...หวัดดี...พอดีพ่อให้เอามา...
พนา แก้ตัว รู้ว่าชะเอมเป็นเพื่อนสนิทของแพน เพราะมาบ้านเขาเป็นประจำ มารับแพนที่โรงเรียนก็เห็นชะเอมอยู่กับแพนบ่อยครั้ง จนเคยคิดว่า ชะเอมนั้นเป็นแฟนกับลูก
....เท่ห์ไม่หยอกเลยนะเนี่ย....
ทั้งสองเดินคุยกันเพื่อไปยังห้องเรียน
...เฮ้ยยย..วันนี้ไอ้แพนมันเท่ห์จริงโว้ยยยยย....
นั่น คือเสียงกลุ่มเด็กแว้นที่ชอบหาเรื่องแกล้ง แพนเป็นประจำนั่นเอง ม.3 เหมือนกันแต่อยู่คนละห้อง สดๆร้อนตอนที่มาแกล้งแพนหน้าโรงเรียนตอนเย็นวันศุกร์ที่แล้ว
...เฮ้ยยย...พวกมึงจะมาหาเรื่องอะไรพวกกูอีกวะ....
ชะเอมพูดกวนกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
...อีนี่ปากดี...ไม่เกี่ยวกับมึงเลย กูคุยกับอีแพนนี่โว้ย...
พนานิ่งเฉย มองพวกนี้อย่างไม่เกรงกลัว เพราอดีตสมัยเรียนเขาเองก็เคยเก๋ามาก่อน เห็นเรื่องแค่นี้จึงเป็นเรื่องขี้ผง
...ไปกันเถอะ....
พนาชวนชะเอมเดินต่อไปอย่างไม่สนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก ผู้ใหญ่อย่างเขาเลยไม่อยากไปมีเรื่องด้วย
...พวกมันน่าจะฟันหักซักสองสามซี่นะปากดีอย่างนี้...
เมื่อเดินผ่านมาแล้ว ชะเอมก็พูดขึ้น
...ชะเอม.....ไม่กลัวพวกมันเหรอ...
พนาถาม
...ไม่เห็นกลัวเลย เข้ามาใกล้จะถีบให้....
พนา มองชะเอมที่พูดและแสดงท่าทางด้วย พนาคิด และมองชะเอม ที่การพูดการจา ท่าทางกระโดกกระเดก ต่างจากรูปร่างหน้าตาที่สวยน่ารัก เพรียว ใสยังกับเด็กสาวญี่ปุ่นอย่างลิบลับ
...หือ...มีอะไรรึแพน...
เจ้าตัวรู้สึกตัวที่ถูกพนามองซะนานเลยถามขึ้น
..ปะ..เปล่าไม่มีอะไร....
พนา เดินมาเรื่อย เขามองนักเรียน สถานที่โดยรอบแล้วทำให้เขานึกถึงสมัยที่เขาเรียนมัธยม ที่เฮ้ว และเพลบอย เรียนก็ไม่ค่อยตั้งใจ ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นมาไม่คิดว่าตนเองจะหาเลี้ยงครอบครัวได้ พนานึกๆบรรยากาศเก่าๆแล้วทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
....ว่าไงเพื่อน รอนานกันรึเปล่า....
พนาเข้ามาในห้องเรียน เห็นเด็กสาวหลายคนที่อยู่ในห้องทักทายเขาและชะเอม มันทำให้เขารู้สึกกระชุมกระชวยดีจริงๆ
พนายืนนิ่ง เพราะตอนนี้เข้าไม่รู้ว่าโต๊ะนั่งของแพนอยู่ที่ไหน
...เอ่อ...ชะเอม....โต๊ะแพนอยู่ตรงไหนเหรอ...
พนาถามออกมาดื้อๆ
...แกล้งความจำเสื่อมรึเปล่านี่...มานี่...
ชะเอมดึงแขนแพนไปยังโต๊ะคู่หนึ่ง ชะเอมวางกระเป๋าเรียนลง
...นี่ไง...
ชะเอม ชี้โต๊ะข้างๆที่ ชะเอมวางกระเป๋า พนาอึ้งไม่คิดว่าเขาจะนั่งคู่กับผู้หญิงรึนี่ สมัยตนเองเรียน อยากนั่งคู่กับนักเรียนหญิงแบบนี้เหมือน แต่ไม่มีโอกาสสักครั้ง พนาย้ำถามชะเอมอีกทีเพื่อมั่นใจ ชะเอมก็รู้สึกว่า แพนกวนจริงๆ
................................................................................................
เข้า แถวเคารพธงชาติเสร็จ เข้ามาห้องเรียนเพื่อเรียนเหมือนเดิม พนารู้สึกตื่นตากับบรรยากาศเดิมๆที่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ก่อนที่ครูประจำวิชาจะเข้ามาสอนมีเสียงโหวกเหวก เซ็งแซ่กันทั่วห้องอย่างนี้ แถมได้นั่งคู่กับหญิงสาวด้วย แถมน่ารักอย่างชะเอมต่างหากชั่งดีจริงๆ
สิ่งที่ต่างจากที่เค้าเรียน ตรงที่สมัยเขาเรียน จะมีหนังสือ ชอล์ก กับกับกระดานดำอย่างเดียว สมัยนี้ที่เขาเห็น ไม่ว่าโทรทัศน์สอนทางไกล วีดีโอ โปรเจคเตอร์ สไลด์ คอมพิวเตอร์ เพื่ออำนวยในการสอนและเรียนรู้มีมากมายเหลือเกิน และอีกอย่าง ตอนเรียนห้องของเขาจะมีนักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิง ตั้งแต่เรียนประถมจนจบม.6 แต่นี่ นักเรียนชายในห้อง มีแค่ 10 คนเอง นอกนั้นนักเรียนหญิง 40 กว่าคน... โอ้วว ช่างเหมือนสวรรค์จริงๆ
...แพนเนี่ยแปลกๆนะ....
...ไม่มีอะไร ...ตื่นเต้นที่จะได้เรียนหน่ะ...
พนาบอกและคิดในใจ ว่าโชคดีเหมือนกัน ที่ได้สลับกับร่างของลูกแบบนี้
...แอ้มๆ....เงียบๆหน่อยจ้านักเรียน.....
เห็นสาวสวยคนหนึ่งเข้ามา พนารู้ว่าเป็นครูแน่นอนเลย หัวหน้าห้องนำกล่าวทำความเคารพ เสร็จก็ทักทายกันต่อ
....เป็นไงจ๊ะนักเรียน...เสาร์-อาทิตย์ไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้างจ๊ะ...
ดู ครูคนนี้ยังรุ่นๆอยู่เลยเป็นกันเองกับนักเรียน พนามองรูปร่าง ...โห...สมัยนี้ ครูแต่งเอ็กซ์ขนาดนี้เลยเหรอ กระโปรงนี่โชว์ขาอ่อนชัดๆเลย ยิ่งนักเรียนชาย พูดเล่นแซวหยอกล้อกับครูอย่างสนุก แหม..ทำให้ตนเองคึกคักดี...พนาอิจฉาลูกตนเองที่ได้เรียนในสมัยนี้
...สวัสดีจ๊ะแพนพนา ...
ครูทักทายพนา นั่นคือชื่อจริงของแพน เอาชื่อ แพนมารวมกับพนา ชื่อของพ่อ จนเป็น แพนพนา
...สวัสดีครับ....
พอพนาได้ยินเสียงหวานๆแถมสายตาอันหยาดเยิ้ม ก็ขานตอบทันที
พนา พยามเรียนรู้สิ่งต่างๆจากคนรอบห้อง และรู้ว่าครูคนนี้ชื้อเจนสุดา นักเรียนเรียกสั้นๆว่าครูเจน เป็นครูประจำชั้นที่ห้องนี้ หรือที่เรียกกันว่า อาจารย์ที่ปรึกษา
...นี่จะได้เวลาเรียนคาบแรกแล้วนะ ครูเจนทำไมเขายังไม่ออกไปล่ะ..
พนาถามชะเอมด้วยความสงสัย
...อ้าว....เดี๋ยวเขาจะสอนต่อหน่ะสิ แพนลืมไปแล้วเหรอว่า เป็นคาบของครูเจน....
...อ้า...ใช่ๆ...จริงสิ.....ลืมไป....นึกว่าคนละวันกัน...
พนาพูดแก้ต่างไปเรื่อย
...เอ้า...ได้เวลาเรียนกันแล้ว หยิบเอาหนังสือขึ้นมากันได้แล้วค่า....
นักเรียนหยิบหนังสือ คณิตศาสตร์ขึ้นมา ซึ่งครูเจนเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์
ครู เจนสอนได้ซักระยะ ก็เดินมาที่หน้ากระดานดำ เขียนยิกๆบนกระดานดำ ทำให้พนาเห็น ก้นงอนงามที่ครูเจนหันหลังมา ชั่งอวบงอนได้สมส่วน เวลาเขียน ตัวจะสั่นไหว เห็นส่ายริกๆ กระตุ้นอารมณ์พนาได้เป็นอย่างดี
ไม่ใช่เพียงพนาเท่านั้นที่มองก้นไหวๆของครูสาว แต่บรรดานักเรียนชายอีก9คน ก็มองเช่นกัน แอบซุบซิ๊บกันอย่างสนุก
...ไอ้พวกลามก...
ชะเอม พูดเบาๆ ชม้ายสายตาไปทางกลุ่มนักเรียนชายที่นั่งเป็นกลุ่มกัน ทำให้กระทบเขาด้วย เขาเลยต้องลดละการมองก้น มองกระดานดูที่ครูเขียนแทน
มี สิ่งหนึ่งที่เขาแปลกใจว่าทำไมเขามานั่งตรงนี้ได้ ทั้งๆที่ผู้ชายทั้งหลาย นั่งรวมกลุ่มทางด้านนั้น ส่วนเขานั่งโดยห้อมล้อมจากผู้หญิงทั้งนั้น แต่สำหรับเขารู้สึกดีเสียมากกว่า แต่ก็แปลกใจอยู่
...เอ้า...โจทย์ข้อนี้ใครจะเป็นคนทำค้า...
เมื่อครูเจนเขียนเสร็จก็หันมาทางนักเรียน ....แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
...เอ้า...ไม่มีใครเสนอตัวเลยเหรอ ง่ายนะข้อนี้...
..ผมครับ...
พนายกมือขึ้น เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเสนอตัว พนาเลยตัดสินใจลุกขึ้น
....อ้า...ดีมากเลยจ๊ะ...แพนพนา...
พนา ลุกเดินไปยังหน้ากระดานดำ เขามั่นใจอยู่แล้วว่าต้องทำได้ เพราะที่ทำงานก็ทำงานเกี่ยวกับตัวเลขมากมายอยู่แล้ว แถมสลับซับซ้อนกว่านี้ ด้วยซ้ำ ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เค้าเรียนคงไม่กล้าเสนอตัวเองอย่างนี้แน่ เพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียน เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอโตขึ้นและทำงานกลับมีความตั้งใจมากขึ้น
พนาเดินเข้าไปใกล้ครู เจน ได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ ยิ่งเข้าใกล้มันทำให้เขารู้สึกดีจริงๆ ครูเจนเดินมายังอีกด้านทางด้านพนา เพื่อให้พนาเขียนกระดานได้อย่างถนัด
...อุ้ย...
..โอะ...
สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ดีๆครูเจนก็ถลาเซมาทางพนา พนารีบเข้ารับครูเจนทันที ทำให้พนาสัมผัสกับกายครูเจนเต็มๆ
...อุ้ย...ครูขอโทษ สะดุดขาตนเองค่ะ...
..มะ..มะ..ไม่เป็นไรครับ...
พนาก็ชอบน่ะสิที่ได้ถูกกายของครูเจน นมครูเจนถูกหน้าอกของเขาด้วย มันทำให้พนาสยิวไม่น้อย ทำให้เคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
...แม่ง...เสียวโว้ยยย...
พนาสบถอยู่ในใจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น