ขายของ

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

เพราะผมรักคุณ

................................ วันนั้นผมนั่งรถมากับพ่อของผม ออกจากกรุงเทพฯก็หกโมงเช้า คนขับรถคือพี่ปานขับช้าครับเพราะรู้ว่าพ่อของผมไม่ชอบคนขับรถเร็ว รถวิ่งออกถนนพระราม ๒.แล้ววิ่งตรงมาตลอด ผมมองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยโรงงานและร้านค้า ถนนดีมากครับรถวิ่งสบาย ผมมองออกนอกหน้าต่างรถมองทิวทัศน์ มองวัดวาอารามที่มีอยู่สองฟากฝั่ง พ่อผมดูเงียบมาก ไม่ค่อยพูดเลยแม้กับผมเอง พ่อคงอยู่ในอารมณ์เศร้าที่ธุรกิจของพ่อกำลังเปลี่ยนมือ พ่อกำลังขายโรงงานและบริษัทฯทั้งหมดให้กับเพื่อนคนหนึ่ง พ่อผมทำธุรกิจนี้มาด้วยตัวเอง แต่วันนี้ พ่อผมหมดกำลัง หมดแรงสู้ ผมได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้น ผมไม่เก่งเหมือนพ่อ ไม่ฉลาดเหมือนพ่อ ผมเป็นคุณหนูเพราะพ่อบอกว่าแม่ผมสอนผมมาอย่างนั้น ไม่ครับ..ผมไม่เคยโทษว่าแม่ผมสอนผมแบบนี้ ผมเองต่างหากที่ไม่เก่ง รถวิ่งเข้าเขตสมุทรสาคร รถเริ่มมากขึ้นพี่ปานขับระวังมากขึ้นอีกเพราะรถเทรนเรอร์เยอะจริงๆ ผมเห็นสองฝั่งทางไม่เหมือนที่ผ่านมา แถวนี้มีแต่นาเกลือ เกลือเม็ดขาวๆถูกวางกองมากมาย ผมมองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยเกลือ เห็นชาวนาเกลือกำลังถากไถ และ บางคนก้มเงยเก็บผลผลิตที่กองไว้ ผมมองอย่างสนใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแบบนี้ เคยได้ยินแต่คุณครูสอน เคยดูแต่ในสารคดี นี่คือภาพจริงที่ผมเห็น รถวิ่งเลยมาไม่นานก็เลี้ยวเข้าและขึ้นสะพานสูง สะพานทอดยาวข้ามถนนพระราม๒.ที่ผมมา ผมกำลังเข้าเมืองสมุทรสงคราม เมืองน้ำเค็มที่ชื่อแม่กลอง เมืองที่มีอดีตรักยืนยงของคนเมืองน้ำทะเล เขาบอกว่าสาวแม่กลองนั้นสวยนัก สาวแม่กลองนั้นหวานปานนางในเทพนิยาย รูปร่างนางสวย เรือนร่างนางสมส่วน หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาหลงไหลในสาวแม่กลองมานักต่อนัก พี่ปานขับรถผ่านทางรถไฟสายโบราณ ทางรถไฟที่อยู่คู่กับเมืองแห่งนี้ สองข้างทางรถไฟมีแม่ค้าค้าขาย มีร่มกางกันแดดฝนขึ้นเป็นแพกว้าง ร้านรวงมีมากมายนัก ร้านค้ามีมากเกินที่เรานึกคิด ชีวิตชาวบ้านแบบนี้หาไม่ได้ในเมืองหลวงที่ผมอยู่ รถวิ่งเลยผ่านและเลี้ยวอีกครั้ง เลี้ยวมาที่ถนนยางดำ ถนนดูดีดูเรียบ พี่ปานชี้บอกพ่อผมว่าเดี๋ยวข้ามสะพานข้างหน้าก็จะเข้าเขตอัมพวา อัมพวาเมืองมะพร้าวหอม เมืองน้ำตาลปีบหวานอร่อย สองข้างทางมีแต่เตาตาลที่ต้มตาลหวาน ผมเห็นต้นมะพร้าวสูงงามขึ้นเต็มทั่ว ต้นนั้น ต้นนี้ โอยย..ช่างมากมาย เห็นผู้ชายสะพายแขวนกระบอกตาล ที่เอวมีมีดพร้าเล่มใหญ่น่ากลัว เขาบอกว่านั่นเรียกว่ามีดปาดตาล เอาไว้ฝานก้านตาลเอาน้ำหวาน ผมเห็นชายคนนั้นดูแข็งแรง ดูเขาเก่งกล้า เขาแบกกระบอกตาลหลายสิบกระบอก เขาแบกหามทั้งสองข้างจนไม้คานแอ่น เขาเดินเร่ง เขาเดินรีบ เขาดูเข้มแข็งจริงๆ ผมมองเขาอย่างสนใจ พี่ปานบอกพ่อผมใกล้ถึงแล้ว...อีกไม่กี่กิโลก็ถึงเมืองน้ำอีกแห่ง เมืองน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งชาวไทยและชาวเทศ เมืองแห่งตลาดน้ำอันลือชื่อ ตลาดน้ำชาวบ้านที่ล่องเรือมาแลกเปลี่ยนสินค้า ล่องเรือมาค้าขายของ เมืองนี้ถูกเรียกว่า "ดำเนินสะดวก" ดำเนินสะดวกมีตำนาน มีเรื่องเล่าอดีตกาลมากมายนัก พระเจ้าแผ่นดินเคยเสด็จผ่านแวะพบพสกนิกร พระองค์เสด็จทางชลมาศด้วยเรือหลวง พ่อผมบอกว่า ดำเนินสะดวกก็ด้วยชื่อที่บอกว่าเดินทางสบายสะดวกสบายด้วยเรือต่างๆ ลำคลองน้อยใหญ่มีมากมายนัก ก็มีมากจนแทบจำไม่ได้ว่าตรงนั้นชื่อคลองอะไร ตรงนี้เรียกว่าคลอง ๑ ๒ ๓ ๔หรือไม่ เพราะมากมายจริงๆ ..........................พี่ปานขับรถข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตลาดน้ำ โอว..รถมาก รถนักท่องเที่ยว รถชาวบ้านร้านค้า สองฝั่งทางมีแต่ต้นไม้เลือกสวน นั่นต้นฝรั่งปลูกเรียงรายเป็นคันสวน ต้นมะม่วงก็มากมาย นั่นต้นละมุด ต้นพุดทรา แล้วเอ๊ะนั่นต้นอะไร อ้อต้นชมพู่เพชรที่หวานลือชื่อ รถวิ่งเข้ามากว่ากิโลจึงเลี้ยวเข้าจอกที่ลานจอดกว้างๆ ฝรั่งเยอะทีเดียว นักท่องเที่ยวมากมายจริงๆ ร้านค้าขายของที่ละลึก ร้านขายของผลผลิตพื้นบ้าน ฝั่งนี้มีร้านขายพืชไร่พืชสวน ฝั่งนั้นมีขายจักสานตามแบบพื้นเมืองแห่งนี้ พี่ปานจอดรถให้ผมกับพ่อลงเดินชมตลาดและร้านค้า พ่อผมเดินชี้ให้ผมดูสินค้ามากมาย ดูผลไม้สดจากสวน องุ่นลูกสวย มะม่วงลูกโต ละมุดก็งาม น้ำตาลปีบเป็นห่อใหญ่วางเลือกซื้อ ผมมองแม่ค้าสาวๆ แม่ค้าสวยๆที่มีอยู่เต็มไปหมด พ่อผมเดินเลยเข้าไปด้านใน พ่อบอกจะพาผมไปหาเพื่อนของพ่อที่ทำค้าขาย ผมเดินตามพ่อและมองผู้คน น่าสนใจจริงๆ น่าสนุกกับคนที่นี่ อากาศก็ดี คนก็มาก ร้านรวงดูไม่เหงา ผมเห็นฝรั่งยืนซื้อของ ต่อรองราคาเก่งกาจ แม่ค้าคนสวยก็เก่ง พูดฝรั่งบ้างไทยบ้างผสมกันไป มือไม้ยกขึ้นลง ปากพูดบอกเร็วๆ ผมยิ้มให้กับเธอแม่ค้าคนสวยคนนี้ที่กำลังบอกกับฝรั่งตัวสูงใหญ่ มือและแขนเธอสะพายผ้าสวยลายงาม ปากบอกถึงความงามและวิธีการผลิต ผมรีบเดินตามพ่อผมเข้าไปด้านใน ผมเหลียวมองลงไปที่คลอง อืมมมมม.... แม่ค้าทั้งสาวทั้งแก่พายเรือลำเล็กๆและมีของมากมายวางขายในลำเรือ ผลไม้ก็มีทั้งองุ่นส้มโอแตงโมใบใหญ่ เรือลำนั้นแม่ค้าสาว ในเรือเธอมีหมวกหวายวางขายเป็นร้อยเป็นพันใบ ป้าคนนั้นขายทุเรียน ยายคนนั้นแก่มากๆแต่ยายยังพายเรือขายไหวอยู่ ยายขายผักพืชอาหาร ผักบุ้งก็มี ผักกาดก็มี ผักชีก็มาก ผักกะหล่ำลูกโตวางกองแน่น ดูลุงคนนั้นพายเรือให้ฝรั่งนั่งเที่ยว ฝรั่งนั่งถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก เรือมากมายจนแทบชนกัน บางลำก็เอียงจนน่ากลัว เสียงแม่ค้าร้องเรียกขาย เสียงผู้คนต่อรองราคา เสียงหัวเราะ เสียงต่อกระซิกกันของคนจำนวนมาก ผมฟังก็ยิ้มเพราะสำเนียงเหน่อน่ารัก แม่ค้าคนสวยคนนั้นเสียงเธอจับใจ เสียงเธอเหน่อได้อารมณ์สนุก ใบหน้าเธอหวาน ปากเธอแดง คิ้วเธอดกงาม เธอยิ้มสวย เธอมีเสน่ห์ เธอช่างงามเหลือเกินถึงแม้ผมจะไม่เห็นเรือนร่างเธอทั้งหมด เสื้อที่เธอสวมใส่ก็แขนยาวคุมจนถึงมือ ผ้าถุงที่เธอสวมก็ยาวถึงข้อเท้า หมวกจีนใบใหญ่ที่เกือบจะปิดหน้า ผมก้มมองเธอด้วยความสนใจ ในเรือเธอเต็มไปด้วยส้มเขียวหวาน ส้มผลสุขผสมส้มสีเขียวเข้ม ส้มบางมดแต่มาอยู่ที่ดำเนิน เออ..ก็แปลกดี ............................ผมรีบก้าวเดินตามพ่อผมขึ้นไปที่ร้านค้าร้าน หนึ่ง ร้านนี้ขายของมากมาย ขายเสื้อผ้า ของฝาก ผลไม้ งานพื้นบ้าน งานศิลปะและอีกมากมาย พนักงานขายก็มาก ลูกค้าก็เยอะ เสียงผู้คนที่เดินชม เสียงพนักงานขายเสียงเหน่อก็ส่งเสียงเรียกแข่งขัน พ่อผมพาผมเดินเข้าไปด้านใน เพื่อนของพ่อเป็นเจ้าของร้าน "สวัสดีครับแปะ" ผมเรียกตามที่พ่อผมบอก แปะตี๋เป็นเพื่อนพ่อ เป็นเพื่อนรักกันมากสมัยเรียนหนังสือ "นั่งสิไอ้หนู" แปะเรียกผมเหมือนเด็กๆ แปะคงลืมไปว่าผมอายุยี่สิบห้าแล้วนะครับ ผมนั่งฟังพ่อผมคุยกับแปะ คุยเรื่องเก่าๆ เรื่องความหลัง ผมฟังรู้บ้างไม่รู้บ้างแต่ก็สนุกดี แปะบอกผมให้อยู่สักหลายวัน อยู่เที่ยวตลาดน้ำ ผมก็ชอบนะ และสนใจทีเดียว "ปิง...ลูกจะอยู่เที่ยวก็ได้นะ..อยู่กับแปะตี๋ที่นี่สักสองสามวัน...จะได้ เรียนรู้ที่นี่...เวลาพ่อกับพวกเรามาอยู่ทางนี้ได้รู้จักคนรู้จักทาง" ผมรับรู้ว่าพ่อต้องการบอกผมว่าครอบครัวของเราจะมาอยู่ทางนี้ จะมาใช้ชีวิตที่นี่เปลี่ยนแปลงอดีตที่เคยผ่าน ชีวิตบ้านนอก ชีวิตบ้านสวน แต่ที่จริงมันดูดีดูสบายกว่ากรุงเทพฯมากมายนัก ผมขอออกไปเดินเที่ยวข้างนอก เดินดูร้านของแปะ ดูการขายของ ขายเสื้อขายของฝาก ผมเดินไปรอบๆ มองไปทั่วๆ ผมรู้สึกสนุกและตื่นเต้น ชอบชีวิตที่มีคนมากมายแบบนี้ "เสื้อตัวเท่าไรครับ" ผมถามพนักงานสาวสวยคนหนึ่งของร้านแปะ เธอบอกสองร้อยบาท โอววแพงเอาเรื่องเลย ผมยิ้มให้เธอ "ถามแล้วต้องซื้อนะค๊ะ..ไม่งั้นบอกชื่อพิกุลหน่อยสิ" โอ๊ะ...เธอชื่อพิกุล สวยมากครับเธอคนนี้ รูปร่างดี ผิวสวย น่ารัก ผมยาว ใบหน้าดูดีมีความน่าสนใจทีเดียว ผมเข้าไปยืนเคียงเธอ โอววเธอสูงทีเดียว ผมแอบสูดดมกลิ่นหอมจากตัวเธอ กลิ่นหอมเย็นๆแปลกทีเดียว อยากจะถามเธอจังว่าใช้อะไรชโลมผิว ใช้อะไรทาเรือนร่างถึงหอมแบบนี้ อยากรู้จักเธอ อยากสนิดกับเธอเหลือเกิน ผมตกลงจะซื้อเสื้อเธอถึงแม้จะแพง "ไม่อยากบอกชื่อหรือค๊ะ" ผมยิ้มให้เธอ "ซื้อเสื้อแล้วก็บอกชื่อได้ครับคุณพิกุล" เธอยิ้มใหญ่เลยที่ผมเรียกชื่อเธอ "มาเที่ยวหรือค๊ะ.." ผมพยักหน้ากับเธอแล้วเดิินเลือกสีเสื้อ "พิกุลเลือกเสื้อให้ผมหน่อยนะครับ..ผมเลือกไม่ถูกจริงๆ" เธอยิ้มน่ารักทีเดียวก่อนจะหยิบตัวนั้นให้ผม "น่ารักคะตัวนี้..เหมือนที่พิกุลมีเลย" ผมมองเธอแล้วตกลงเอาเสื้อตัวนี้ "ถ้าผมจะมาอยู่ที่ดำเนิน...พิกุลจะมาเป็นเพื่อนผมได้หรือเปล่าครับ" เธอเหลียวมองผมแล้วยิ้มหวานเจี๊ยบ "ได้คะ...คุณจะมาอยู่ที่ดำเนินจริงเหรอ..." ผมบอกจริงและยืนคุยกับเธอจนพ่อให้คนมาเรียกผมเข้าไป ...........................พ่อบอกผมว่าแปะจะขายบ้านให้หลังหนึ่งแถวถนนที่ ไปบางนกแขวกเลยจากตลาดน้ำนี้ ไม่มาก พ่อบอกเวลามาทำงานจะได้สะดวก คือพ่อบอกว่าพ่อจะลงทุนเปิดร้านขายของที่ระลึกเหมือนกับแปะ แปะแนะนำว่าให้เปิดด้านฝั่งนั้นซึ่งยังไม่มีร้านแบบนี้ ฝรั่งก็มีมากเวลาลงจากรถเดินเที่ยวตลาด พ่อผมก็เห็นดีด้วยและก็อยากลงทุน พ่อบอกว่าเวลาครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่จะได้มีธุรกิจทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆหรือลงทุนทำสวนอย่างคนดำเนินสะดวกทำกัน พ่อบอกพี่สาวผมที่แต่งงานแล้วก็ได้ลงมาช่วย พี่สาวผมพึ่งแต่งงานกับทหารคนหนึ่งไม่นานนี้ พี่สาวก็กำลังมองหางานใหม่ทำเช่นกันเพราะเมื่อพ่อผมขายธุรกิจที่กรุงเทพฯ แล้วก็ต้องตกงาน "ปิงลูกจะได้ช่วยพี่เจน..พี่น้องช่วยกันค้าขาย" ผมเข้าใจในความคิดของพ่อ และก็ไม่โต้แย้งอะไร ผมก็ชอบนะที่มีร้านค้าของตัวเอง "ไอ้หนู...มีอะไรแปะช่วยได้แปะยินดี..ไม่ต้องห่วงถ้ามาอยู่ดำเนินฯ" แปะยิ้มบอกผมด้วยความดีใจ คือแปะรักครอบครัวเราอย่างที่พ่อผมบอก พ่อให้ผมอยู่พักกับแปะสักสองสามวัน และพ่อบอกวันนี้พ่อจะกลับและจะไปพาแม่ผมกับพี่สาวผมมาเที่ยวดำเนินสะดวกด้วย ตอนมารับผม แปะบอกมีห้องนอนเยอะแยะที่บ้าน ให้ผมอยู่ได้ตามสบาย .........................หลังจากพ่อผมกลับกรุงเทพฯแปะให้คนมาพาผมไปที่บ้าน ของแปะที่อยู่ถนนบางนก แขวก อยู่ใกล้กับบ้านหลังที่แปะจะขายให้ บ้านหลังใหญ่มาก ที่บ้านแปะมีคนอยู่หลายคน คือแปะมีลูกหลานมากและมีญาติที่มาช่วยทำงาน ผมได้ห้องนอนอยู่ด้านริมคลอง สวยมากครับกับวิวข้างห้อง ได้ยินเสียงเรือ เสียงน้ำไหลเลื่อนอย่างธรรมชาติ ผมยืนมองที่หน้าต่าง ผมมองต้นไม้นานาพันธุ์ที่ขึ้นปกคุมแถวนั้น ผมได้ยินเสียงนกดูเหว่า นกกาเหว่า นกเขาก็มาก นั่นนกแซงแซวที่นี่ยังมีให้เห็น โอวว..ที่นี่ช่างเป็นธรรมชาติที่จับต้องได้จริงๆ ผมเห็นต้นละมุดสวนข้างๆที่ปลูกเอาไว้ ดานหลังออกไปผมเห็นสวนองุ่นงาม สวนองุ่นที่ขั้นเป็นร่องสวย ต้นขึ้นปกคุมกับแคร่ไม้ที่มีลวดเหล็กเป็นตัวยึดต้นองุ่นไว้ ผมเห็นสาวชาวสวนองุ่นกำลังก้มๆตัดแต่งก้าน บางคนก้มดึงหญ้าที่ขึ้นรก ผมมองรอบๆมันช่างได้อารมณ์สุนทรีย์จริงๆ ผมบอกที่บ้านแปะกับผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนดูแลบ้านและอาจเป็นญาติหรือ อะไรสักอย่างของแปะเพราะ เธอดูแลและสั่งงานคนในบ้านได้ทุกคน เธอกำลังสั่งแม่บ้านปรุงอาหาร แน่นอนเธอบอกผมว่าเย็นนี้ทานข้าวด้วยกัน ผมขอบคุณเธอก่อนจะขอตัวไปเดินเที่ยวแถวนั้น นี่ก็บ่ายแล้วเสียงคุ้นหูที่ผมได้ยิน เสียงพิกุลเดินมาหาผม "อยู่เที่ยวที่นี่กี่วันค๊ะคุณปิง" พิกุลเดินยิ้มเข้ามาทักทายผม ผมยืนมองเธอ มองเรือนร่างเธอที่ผมชอบ พิกุลเป็นผู้หญิงสวย รูปร่างเธอดีมาก ผมยาวของเธอช่วยให้ใบหน้าเธอดูเด็ก ใบหน้าคมเข้ม ตาสวย ปากบางงามน่ารัก แก้มแดงนวล อกเธอก็อวบอิ่ม สะโพกเธอก็ผายกลมกลืนเรือนร่าง ผิวเธอขาวครับ ขาวจนชมพูทีเดียว กลิ่นอายเธอหอมแบบสาวชาวบ้านจริงๆ "เลิกงานแล้วหรือบ่ายเองนะครับ" พิกุลยิ้มกว้างแล้วดูนาฬิกาที่ข้อมือเธอ นาฬิกาเรือนเล็กๆน่ารัก "คะเลิกงานแล้ว..ที่นี่จะเลิกงานบ่ายโมงหรือถ้าเป็นวันเสาร์ก็บ่ายครึ่งเท่า นั้น..นักท่องเที่ยวจะหมดเร็ว..ตลาดน้ำจะวายเร็วเพราะแม่ค้าจะต้องพายเรือไป ค้าขายต่อตามหมู่บ้านต่างๆ..ที่นี่เป็นธรรมชาติจริงๆ...เป็นชีวิตคนค้าขาย ตลาดน้ำโดยแท้..ไม่ได้ปรุงแต่งเพื่อให้นักท่องเที่ยวชม..ไม่ได้เอาผู้หญิงมา พายเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวดู...นี่เป็นคนค้าขายจริงๆ..เขามาซื้อสินค้า เอาไปขาย..ซื้อของเอาไปใช้...เรือที่เห็นเป็นคนพื้นที่ที่เขาใช้ชีวิตกับน้ำ กับ คลองดำเนินฯมานานชั่วหลายอายุคน" พิกุลบอกความเป็นมาของที่นี่ ..........................พิกุลกำลังจะกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เธอเดินมาเอารถที่ฝากไว้ที่นี่ พิกุลใช้รถจักรยานแบบผู้หญิงน่ารัก เธอขี่มาทำงานทุกวัน ผมมองรถจักรยานเธอ "จะนั่งรถพิกุลเที่ยวไหมคุณปิง" เธอหัวเราะบอกผม ผมบอกขอไปด้วย เธอตกใจแล้วบอกว่าเธอขี่ไม่แข็งพ่วงคนไม่ได้ ผมบอกผมขี่ได้ ผมจึงขี่ให้เธอซ้อนท้าย พิกุลพาผมไปตามทางที่เธอคอยบอก เธอชวนผมไปเที่ยวตามสวน "ไปเที่ยวสวนองุ่นนะค๊ะคุณปิง...สวนพี่สาวพิกุลเอง" ผมขี่ไปตามทางที่เธอบอก ทางเล็กๆแต่สบาย รถแทบไม่มีวิ่งสวนทาง ผมขี่พ่วงเธอแล้วได้คุยกับเธออย่างสนุก ได้เห็นชีวิตหลากหลาย ได้เห็นธรรมชาติมากมายที่ผมไม่เคยสัมผัส "คนงานผู้หญิงที่กำลังตัดแต่งต้นองุ่นนั้นเรียกว่าแขก...เขาเรียกว่าแขก เพราะเอามาจากคำที่ว่าลงแขกช่วยกัน อย่างที่เราเรียกว่าลงแขกเกี่ยวข้าว นี่ก็ลงแขกตัดองุ่น หรือเก็บองุ่น" เธอบอกที่มาของคนงานผู้หญิงพวกนั้น พิกุลบอกเธอเองก็เคยทำแบบนี้ เคยมาเป็นแขกแบบนั้น ได้เงินไม่มากและก็ตัวเปื้อนมากเธอเลยเปลี่ยนมาขายของ พิกุลบอกให้ผมขี่รถจักรยานไปทางวัด เธอบอกเส้นทางนี้ไปอีกไกลเหมือนกันก็จะถึงประตูน้ำบางนกแขวก ที่นั่นมีตลาดน้ำเหมือนกันมีนักท่องเที่ยวเช่นกันแต่เป็นคนไทยส่วนใหญ่ ไม่เหมือนตลาดน้ำดำเนินฯที่มีชาวต่างชาติ พิกุลบอกว่าที่นั่นยังมีปลาหน้าวัดไว้ให้นักท่องเที่ยวเอาอาหารมาเลี้ยงปลา มากมาย เธอบอกไว้มาอยู่ที่นี่เธอจะพาผมไปเที่ยว ผมขี่รถเธอไปเรื่อยๆ เหนื่อยเหมือนกันเพราะไม่ได้ทำแบบนี้มานาน รถวกไปมาจนพิกุลต้องเอามือมาจับเอวผม เอามือเกาะเอวผมแน่น ผมรู้สึกดีมากเลยแบบนี้ รู้สึกผมสนิดกับเธอมากขึ้น คือผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกที่ถูกมือเธอกอดเอว พิกุลบอกผมแวะร้านนั้น เป็นร้านขายน้ำหลากหลาย น้ำดื่มอัดลม น้ำหวาน กาแฟโบราณ ชา ขนม อืมมม..มีของขายมากมาย ผมนั่งกินน้ำกับเธอ นั่งคุยกัน เธอเล่าเรื่องราวของที่นี่ เล่าเรื่องของแปะผม "พิกุลครับ...ถ้าผมมาเปิดร้านขายของอย่างที่ผมบอก...พิกุลจะมาช่วยผมหรือ เปล่าครับ" ผมมองเธอและรอคำตอบ พิกุลยิ้ม "ดูก่อนคะว่าเจ้าของร้านจะมาให้ช่วยทำอะไร.." ผมยิ้มให้เธอ ดูเธอน่ารักมากๆ ผมรู้สึกดีกับพิกุล รู้สึกชอบเธอขึ้นมาแบบนั้น ผมแอบจ้องแววตาเธอ มองใบหน้าหวานๆของเธอ จนพิกุลเอามือมาตีแขนผมเบาๆ .............................ผมบอกพิกุลว่าอยากไปเที่ยวดูเตาตาล ดูวิธีการทำน้ำตาลจากมะพร้าว ดูน้ำตาลปีบที่เขาเรียก พิกุลตกลงบอกว่าวันพุธเธอหยุด เป็นวันหยุดของเธอจะพาผมไปเที่ยว แน่นอนว่าผมตื่นเต้น ดีใจที่ได้พิกุลนำพา แต่วันนี้ผมบอกนานๆขี่จักรยานทีเหนื่อยเหมือนกัน เธอหัวเราะแล้วชวนผมไปเที่ยวดูอะไรต่ออะไรต่อจนเย็น ผมกลับมาที่บ้านแปะ ได้คุยกับแปะ ได้รู้เรื่องค้าขาย ได้นั่งกินข้าวด้วยกัน ผมรู้สึกดีมากๆกับที่นี่ แปะสอนผมหลายอย่างที่ผมไม่รู้ บอกผมเกี่ยวกับการค้าขาย บอกถึงสินค้ามากมาย ผมเคารพในความรักที่แปะมีต่อครอบครัวผม คืนนี้ผมต้องนอนที่นี่ที่ผมไม่คุ้นเคย แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่แปะมอบให้ ความรู้สึกดีๆที่ได้รับ ทำให้ผมสบายกับความรู้สึก ผมนอนหลับสบายจริงๆคืนนี้ เช้าผมตื่นแต่เช้า แปะก็เช่นกัน แปะเรียกผมกินกาแฟด้วยกัน ผมไปที่ร้านพร้อมแปะ ไปช่วยแปะที่นั่น "แปะครับ..ให้ผมทำอะไรได้บ้างครับผมอยากทำครับ" แปะบอกได้เลย แปะให้ผมไปเช็คสินค้ากับพนักงานสาวของแก ไปดูสินค้าที่วางขายหลังเลิกเวลาร้านปิด และตอนเช้าๆแบบนี้ก็ให้ผมไปรับนักท่องเที่ยวที่ทางเข้า ภาษาอังกฤษต้องใช้ผมพอพูดได้ ผมถามสินค้าต่างๆจากพนักงานแปะเพื่อเป็นข้อมูล พิกุลเห็นผมเธอจึงเดินมาหา "สวัสดีคะคุณปิง" ผมยิ้มให้เธอก่อนทักทายกับเธอมากมาย ผมบอกผมกำลังทำอะไรอยู่และก็บอกเธอว่าเย็นนี้ไปเที่ยวกัน วันนี้ผมสนุกมากกับงานที่แปะมอบ ได้เห็น ได้รู้ ได้คุยกับนักท่องเที่ยว ได้เข้าใจระบบค้าขาย แปะให้คนมาเรียกผมไปกินข้าว "ไอ้หนู..เออ..แปะลืมไป..ชื่อปิงนะ..แปะชอบเผลอเรียกปิงเหมือนลูกแปะ" แปะเรียกลูกแปะว่าไอ้หนู ผมหัวเราะและกินข้าวกับแปะ แปะชมผมว่าเก่งเรียนรู้เร็ว ขยันดีและเข้าใจงานค้าขาย แปะสอนผมอีกมากมายบนโต๊ะอาหาร ............................อย่างที่บอกกับพิกุล ผมชวนเธอไปเที่ยว พิกุลก็มาตามนัด วันนี้เธอบอกต้องเอารถมอร์เตอร์ไซด์ไปเพราะเตาตาลอยู่ไกลจากนี่ ผมกับพิกุลออกมาจากร้านแปะก็บ่ายกว่าๆแล้ว พิกุลบอกเส้นทางไปบางนกแขวก เธอจะพาผมไปเที่ยวตลาดน้ำที่นั่น และพาไปดูเตาตาลแถวนั้น ผมให้พิกุลซ้อนท้าย รถวิ่งช้าๆอย่างที่ผมชอบ ผมติดนิสัยขับหรือขี่รถไม่เร็วจากพ่อผม พิกุลกอดเอวผม เธอรัดเอวผมรู้สึกอบอุ่น ผมขี่ไปคุยไปจนมาถึงตลาดน้ำบางนกแขวก คนไม่มาก นักท่องเที่ยววายไปกันแล้ว คือนักท่องเที่ยวเริ่มกลับกันแบบนั้น ผมไปดูปลาหน้าวัดตามที่พิกุลบอก เอาขนมปังโยนให้กับฝูงปลาน้อยใหญ่ โอยย..ปลาเยอะมากๆ พิกุลบอกต้องรีบไปที่เตาตาลเดี๋ยวเตาตาลเคี้ยวเสร็จอดดู ผมไปตามที่พิกุลบอก อากาศดีมากถึงแม้จะบ่ายๆแล้ว สองข้างทางมีแต่ต้นไม้ ต้นมะพร้าวสูง ต้นส้มโออัมพวาก็มีปลูก ต้นระกำที่ขึ้นปกดินด้านนั้น นั่นต้นลิ้นจี่ที่ชาวสวนเริ่มปลูกกันมาก พิกุลบอกลิ้นจี่อัมพวาอร่อยไม่แพ้เชียงราย ผมพยักหน้ารับรู้ พิกุลชี้ไปที่บ้านหลังนั้น บ้านเรือนไม้ยกพื้นสูง ด้านหลังเป็นคันสวน ด้านข้างก็เป็นคันสวน พิกุลบอกนั่นเป็นเตาตาลอยู่ในบ้านด้านล่าง เราสองคนเดินเข้าไปชม "สวัสดีคะป้านิ่ม...พิกุลพาคุณเขามาดูเตาตาลคะ" ป้านิ่มหันมายิ้มหวานเชียวพร้อมฟันหน้าไม่มีหลายซี่ ป้านิ่มบอกตามสบายจะซื้อน้ำตาลก็เอาป้าขายไม่แพง ผมเห็นเตาฟืนเตาใหญ่ กะทะใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลเคี้ยว น้ำสีขุ่นออกไปทางสีน้ำตาลอ่อน ป้าเอามือโยกไม้พายเคี้ยวไปมา กลิ่นหอมชวนลิ้มลอง กลิ่นหอมหวานเรียกน้ำลายสอ ผมเข้าไปดูใกล้ ป้ายิ้มบอกผมว่าลองทำดูไหม ผมตกลง ผมลองเคี้ยวตาล ลองโยกไม้พาย ผมได้รสชาดของแรงงาน ได้อารมณ์ของวิถีชาวบ้าน ผมมองน้ำตาลในกะทะ มองน้ำที่ถูกเคี้ยวแล้วเคี้ยวเล่า กลิ่นหอมหวาน พิกุลยิ้มให้ผม เธอเข้ามาช่วยผมโยกไม้พายเพราะเห็นผมโยกช้า ผมได้ใกล้เธอมากอีก ได้แนบกายกับตัวเธอ ผมได้กลิ่นอายเธอ ผมแอบหอมเส้นผมเธอ แอบดมดอมใกล้ๆ ผมหลับตาแล้วนึกฝัน อืมม...ผมชอบเธอมากนะพิกุล ผมขอซื้อน้ำตาลปีบของป้านิ่ม ซื้อไปฝากแปะที่บ้าน

ไม่มีความคิดเห็น: