ขายของ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

ศึกสองนางพญา ตอนที่ 2 ลอบสังหารล้มเหลว



พลันบังเกิดเสียงฝีเท้าดังสับสน ดรุณีรับใช้นางหนึ่งร้องเรียกว่า
นายน้อย..”จั่วหวินหลิงผวาลุกขึ้นจากเตียงเหลียวขวับไปตามเสียง

อุ๊ย”
ดรุณีรับใช้อุทานหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นร่างเปล่าเปลือยของผู้เป็นนาย เจ้ามังกรร้ายผงกหัวบานร่าอย่างน่ากลัว
เรื่องอะไร” จั่วหวินหลิงตวาดถาม
ดรุณีน้อยรีบระงับจิตใจกล่าวอย่างร้อนรน
ท่านหัวหน้าองครักษ์จินเปียว แจ้งว่ามีคนร้ายบุกรุกคฤหาสน์กลางวิกาลคิดทำร้ายเฉากงกง...”
บิดาเป็นไรหรือไม่”
เฉากงกงไม่เป็นไร ท่านผู้เฒ่าต้องการพบท่าน”
จั่วหวินหลิงไม่รอฟังจบ รีบสวมเสื้อผ้าโลดแล่นกลับไปโดยมีสุนัขเจินจูวิ่งตามหลัง

...................................................................................
เฉาฮั่วฉุนออกจากห้องนอน รอรับฟังคำรายงานขององครักษ์
เรียนเฉากงกง พวกเราตรวจค้นพื้นที่รัศมีห้าลี้โดยละเอียด แต่ไม่พบร่องรอยคนร้ายแม้แต่เงา”
เอ่ยถึงตอนนี้ จั่วหวินหลิงเร่งรุดมาถึง สาวเท้าถึงเบื้องหน้าเฉาฮั่วฉุน กล่าวอย่างร้อนรุ่ม
บิดา ผู้บุตรมาสายก้าวหนึ่ง เป็นเหตุให้ท่านผู้เฒ่าได้รับความตระหนก”
เอ่ยถึงตอนนี้ เหลียวหน้าไปถามว่า
สือฉี จับกุมคนร้ายได้หรือไม่”
สือฉีลังเลเล็กน้อยไม่ทันตอบคำ พลันบังเกิดเสียงสุนัขเห่ากระชั้นเร่งร้อน
เป็นสุนัขเจินจูของจั่วหวินหลิงเอง มันสูดได้กลิ่นผิดปกติ ดังนั้นเงยหัวเห่ากรรโชกเป็นการใหญ่
จั่วหวินหลิงเงยหน้าตาม ก็เห็นคนชุดดำร่างอ้อนแอ้นแนบร่างอยู่บนเพดานห้องดุจจิ้งจกมหึมา
...
ที่แท้คนร้ายไม่ได้หลบหนีออกจากตึก หากแต่ซ่อนตัวอยู่บนเพดานห้องเอง!
องครักษ์พิทักษ์ตึกสองคนตวัดทวนคู่มือขึ้น จั่วหวินหลิงพลันช่วงชิงทวนสะบัดซัดใส่คนชุดดำนั้นดุจประกายไฟ คนชุดดำใช้กระบี่สั้นปัดป่ายทวนพลิกตัวหลบทวนอีกเล่มหนึ่ง จั่วหวินหลิงตะปบคว้าทวนจากมือองครักษ์ข้างเคียงอีกเล่มหนึ่งซัดตามติดโดยกระชั้นชิด
ประกายทวนพุ่งวาบ ซัดถูกท้องของคนชุดดำได้ยินเสียงครางหนักๆ ทั้งคนทั้งทวนตกวูบลงมาโดยพร้อมเพรียง ร่างอ้อนแอ้นร่วงฟาดลงกับพื้นฟุบแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว
สือฉีสืบเท้าไป ใช้ทวนเขี่ยร่างของคนชุดดำพลิกกลับมา ยื่นมือดึงผ้าคลุมหน้าของอีกผ่ายออก สายตายามกวาดตามองต้องงงงันวูบ
หลังผ้าคลุมหน้าเป็นวงหน้าผุดผาด ขนคิ้วที่เรียวยาว ดวงตาทั้งคู่พริ้มสนิท ที่แท้เป็นสตรีนางหนึ่ง
สือฉีร้องโพล่งว่า
เป็นสตรีนางหนึ่ง...”ไม่ทันขาดคำ สตรีงามชุดดำพลันลืมตาขึ้น สือฉีเอากระบี่สั้นจี้ที่ลำคอนางบังคับให้ลุกขึ้นยืน
จั่วหวินหลิงกระชากเสียงถาม
ใครใช้เจ้ามาลอบสังหาร”
ดรุณีชุดดำหลับตาขบกรามแน่น
จั่วหวินหลิงบันดาลโทสะ ตวัดมือตบฉาดจนนางหน้าหัน
บัดซบ นางแพศยา ดูซิว่าเจ้าจะปิดปากได้นานแค่ไหน”
พูดจบหันไปกล่าวกับองครักษ์
สือฉี เตรียมเครื่องทรมานเท้าลา!”
เสียงฮือฮาดังลั่นห้อง ดรุณีชุดดำสีหน้าซีดเผือด แม้แต่สาวรับใช้สองนางที่อยู่ในห้องก็มีใบหน้าแดงซ่าน แสดงให้เห็นว่าฑัณฑ์ทรมานชนิดนี้คงโหดร้ายเหลือคณา
ชั่วครู่สือฉีก็คุมทหารคงรักษ์สองคนลาก แท่นไม้ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายม้านั่งออกมา หากตรงกลางที่นั่งมีรูกลมๆขนาดเท่าข้อมือเจาะอยู่อย่างประหลาด
เสียงหัวเราะฮิฮะดังลั่นห้อง จั่วหวินหลิงก็แย้มยิ้มกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม
สือฉี ทดลองเปิดกลไกให้นางชมดู”
องครักษ์สือฉีรับคำ เอื้อมมือไปกดกลไก ทันใดก็มีเสียงครืนครั่ง พร้อมกับมีท่อนไม้รูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ทะลวงขึ้นลงออกมาจากรูนั้น สตรีชุดดำที่กวาดตามองถึงกับตัวสั่นระริก นางรู้แล้วว่า จั่วหวินหลิงคงจะจับนางเปลือยกายนั่งลงบนม้า ปล่อยให้ท่อนไม้ทะลวงถ้ำหยกของนางนั่นเอง...

พอแล้ว” จั่วหวินหลังสั่ง แล้วหันมามองหน้าสตรีชุดดำ “ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า จะบอกหรือไม่?”
สตรีชุดดำเบิ่งตามองจั่วหวินหลิงด้วยความอาฆาต แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง
จั่วหวินหลิงหัวเราะเสียงเหี้ยม
ดีล่ะ เราคงจะได้ดูของสนุกกันคราวนี้ สือฉีถอดเสื้อผ้านางออก”
สือฉีก้าวเท้าเข้ามา ตะปบมือฉีกอกเสื้อนางของนางเสียงดังคว้ากกก

อาาาาาา....”
เสียงฮือฮาดังขึ้นลั่นห้อง เมื่อปทุมถันอวบใหญ่ขาวผ่องหลุดผึงออกมาเต้นสั่นระริกอยู่ต่อหน้าคนทั้งหลาย ยอดปทุมถันมีสีชมพูระเรื่อ ปลายยอดนั้นเป็นเม็ดเล็กๆยังไม่ทันเบ่งบาน แสดงว่าสตรีชุดดำนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่
สตรีชุดดำเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่ง พอถูกเหยียดหยามก็อดไม่ได้ที่จะต้องตวาดด่าด้วยความโกรธ
คนเลวทราม เป็นถึงองครักษ์แต่พฤติกรรมไม่ผิดกับสัตว์ป่า”
จั่วหวินหลิงหาได้มีโทสะไม่ แต่สั่งต่อไปอย่างยิ้มแย้ม
ถอดกางเกงนางออกด้วย! สือฉี! ถอดให้หมด!”
สือฉีรับคำ มือฉกปราดอย่างคล่องแคล่ว เสียงเสื้อผ้าขาดวิ่นอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดร่างของสตรีชุดดำก็เปลือยเปล่าอวดโฉมอยู่ต่อหน้าคนทั้งหมด
เรือนร่างของสตรีชุดดำงดงามสมบูรณ์ ปทุมถันของนางอวบอูมตูมตั้งกระเพื่อมไปมาอย่างเย้ายวนด้วยความกดดันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เอวคอดกิ่ว ผิวขาวผ่อง ช่วงขาเรียวงามแฝงแรงดีดสะท้อนที่ทรงพลัง น่าเสียดายที่นางเอามือปิดอวัยวะสำคัญไว้ทำให้มองเห็นไม่ถนัด แต่ถึงกระนั้นพงขนก็ยังโผล่ให้เห็นรำไรจากฝ่ามือน้อยๆที่ปิดไว้ไม่มิด แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของสตรีนางนี้
เม้แต่ดรุณีรับใช้สองนางถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของสตรีชุดดำปรากฏอยู่ตรงหน้า!

เอาตัวนางขึ้นนั่งได้” จั่วหวินหลิงร้องสั่งอย่างเหี้ยมเกรียม
องครักษ์สองคนก้าวเข้ามาจับที่แขนนาง
ทันใดนั้น สตรีชุดดำพลันลืมตาขึ้น ขบฟันในปากคราหนึ่ง บัดเกิดเสียงดังกร๊อบ ร่างอ้อนแอ้นของนางสะท้านเฮือกหนึ่ง มุมปากกรากฏโลหิตไหลซึมออกมา
สือฉีฉุกคิดว่าผิดท่า ยื่นมือรออยู่ที่ริมจมูกของนาง พบว่าไม่มีลมหายใจอีก จึงกล่าว
นางขบยาพิษในปาก ชิงฆ่าตัวตายแล้ว”
พลางตรวจค้นเสื้อผ้านาง พบป้ายหยกอันหนึ่งซุกอยู่ จึงส่งมอบต่อจั่วหวินหลิง
จั่วหวินหลิงรับป้ายหยกไป ส่งมอบต่อเฉาฮั่วฉุน กล่าวว่า
บิดา ท่านดู”
เฉาฮั่วฉุนพลิกดูป้ายหยกเที่ยวหนึ่ง กล่าวเสียงเครียดว่า
นี่เป็นป้ายผ่านทางในวังหลวง คำนวณจากวิทยายุทธของคนร้ายนางนี้ คงต้องเป็นนางกำนัลที่มีวิทยายุทธติดตัวในวังหลวง”
บิดา ในความคิดของท่าน คนร้ายผู้นี้เป็นผู้ใดส่งมา”
เฉาฮั่วฉุนกล่าวอย่างครุ่นคิด
ในความคิดของเรา สมควรเป็นองค์หญิงเจาเหยิน”

...
เจาเหยินกงจู้ (องค์หญิงเจาเหยิน) เป็นราชธิดาองค์รองของฉุงเจินฮ่องเต้

ไม่มีความคิดเห็น: