ขายของ

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

ศึกสองนางพญา ตอนที่ 1 ขันทีโฉด

 
รัชกาลฉุงเจิงฮ่องเต้ แผ่นดินเกิดทุพภิกขภัย ทางการยังเก็บภาษีเพิ่มประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เหล่าโจรปล้นชิงทรัพย์ ขันทีโฉดครองเมือง กองกำลังแมนจูทางภาคเหนือยังรุกรานเข้ามา สั่นคลอนต่อบัลลังก์มังกรอย่างรุนแรง
ปีที่สิบห้าในรัชกาลฉุงเจิงฮ่องเต้
ณ ตึกผู้บัญชาการค่ายตะวันออก ยามวิกาล แสงโคมสองดวงส่องตรงป้ายขวางคฤหาสน์ตระกูลเฉา
ที่นี่เป็นที่พักของ เฉาฮั่วฉุน ขันทีกังฉินที่มักใหญ่ใฝ่สูงและเกาะกุมขุมกำลังใหญ่ มีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ความเข้มงวดของมาตรการป้องกันตึก หาได้ด้อยกว่าในวังหลวงไม่
ช่วงราตรีที่องครักษ์พิทักษ์ตึกกำลังสับเวรกัน เงาร่างดำอ้อนแอ้นสายหนึ่งโลดลิ่วจากกำแพงตึกทิ้งตัวลงพื้นโดยปราศจากสุ้มเสียงผิดปกติ แล้วลอบเข้าคฤหาสน์ตระกูลเฉาโดยปราศจากผู้พบเห็นใดๆ
บนเตียงกว้างใหญ่ในห้องนอนเฉาฮั่วฉุน นอนไว้ด้วยชายชราผมขาวโพลงดุจไหมเงิน รูปกายอ้วนฉุราวสุกร สวมเสื้อกางเกงสีขาวผู้หนึ่ง เนื่องเพราะหันหลังจึงไม่อาจเห็นโฉมหน้าแท้จริงได้
ที่ข้างเตียงนอน แยกย้ายยืนขึ้นด้วยหญิงรับใช้สองนาง ทั้งคู่เห็นเฉาฮั่วฉุนหลับสนิทแล้ว ก็ปลดม่านมุ้งลงแล้วเดินออกจากห้องแยกย้ายไปพักผ่อน
วิกาลคล้อยดึก ทันใดม่านประตูเลิกวูบ คนชุดดำที่ลอบเข้าคฤหาสน์สืบเสาะมาถึงห้องนอนเฉาฮั่วฉุน เท้าของคนชุดดำไม่สัมผัสพื้นเลย ร่างอ้อนแอ้นไต่ไปตามประตูวงเดือนลอบเข้าห้องไป
เมื่อมองลอดม่านมุ้งเข้าไป เห็นขันทีโฉดพลิกตัวนอนหงาย ปกเสื้อแบะอ้าสยายออก คนชุดดำขยับแขนขา เคลื่อนกายบนเพดาน จากนั้นห้อยหัวลงมา เลิกม่านมุ้งออกชักกระบี่สั้นออกมาเล่มหนึ่ง
ในความมืดคนชุดดำคุมกระบี่แทงปราดเข้าใส่ท้องที่นูนออกมาของเฉาฮั่วฉุนดุจสายฟ้า ปลายกระบี่จมลงในเนื้อท้องวูบหนึ่งจากนั้นดีดกลับออกมา
ท่าสังหารที่แม่นยำ กลับไม่อาจทำร้ายเฉาฮั่วฉุนได้!
ร่างอ้อนแอ้นของคนชุดดำถูกกระแทกกลิ้งไปตามพื้นดินทอดหนึ่ง รีบดีดกายขึ้นทะลวงม่านประตูออกไป
เฉาฮั่วฉุนกระโดดปราดขึ้นจากเตียง ตะโกนว่า
มีคนร้าย”
เสียงร้องพอดัง หัวหน้าองครักษ์ก็พาองครักษ์กรูเข้ามาอย่างเร่งร้อน
เฉากงกง คนร้ายเล่า?”เฉาฮั่วฉุนกระชากเสียงว่า
ยังมิรีบไปค้นหาอีก โจรผู้นี้ยังหนีไปไม่ไกลแน่”
หัวหน้าองครักษ์รีบโบกมือนำองครักษ์พิทักษ์ตึงหลายคน เร่งรุดออกจาห้องอย่างรวดเร็ว
เฉาฮั่วฉุนเหลียวไปยังหัวหน้าองครักษ์อีกผู้หนึ่ง สั่งว่า
จินเปียว ตามตัวผู้พิทักษ์ที่สิบสี่มาพบเราในบัดดล”
หัวหน้าองครักษ์จินเปียวรับคำ

...................................................................................
ผู้พิทักษ์ที่สิบสี่มีนามจั่วหวินหลิง เป็นลูกเลี้ยงของเฉาฮั่วฉุน บุรุษหนุ่มอายุเยาว์ แต่ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย มีวิทยายุทธสูงล้ำ ทั้งมีความคิดอ่านลึกซึ้งชั่วร้าย หาด้อยกว่าบิดาเลี้ยงไม่
ยามนี้จั่วหวินหลิงนั่งดื่มน้ำชาอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง มีคนรับใช้ยืนอยู่ด้านข้าง
สตรีนางหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับย่อกายคำนับ
นายน้อย”
จั่วหวินหลิงเงยหน้ามองก็กระจ่างตาวูบ สตรีนางนี้ช่างงดงามนัก นางน้อมคำนับแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน
จั่วหวินหลิงหันไปทางคนรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
นางเป็นใคร เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
คนรับใช้รีบน้อมกายตอบ
นางมีนามว่า เฉินอี้หลิง เดิมเป็นธิดาของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงพระองค์หนึ่ง แต่สามีนางทำผิดถูกลงโทษขับไล่ออกจากวัง ทรัพย์ถูกยึด กงกงจึงส่งนางมาเป็นคนรับใช้ของนายน้อย”
มิน่า กิริยาท่วงทีจึงผิดจากสาวรับใช้ทั่วไป”
จั่วหวินหลิงรำพึง จากนั้นจึงเผยอยิ้มอย่างชั่วร้าย โบกมือไล่คนรับใช้ออกไป แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน เห็นเฉินอี้หลิงกำลังจัดเตรียมที่นอน เรือนร่างของนางบอบบาง เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกว้าง จั่วหวินหลิงถึงกับใจเต้นระทึกด้วยความเร่าร้อน เสียงฝีเท้ากระตุ้นให้เฉินอี้หลิงรู้สึกตัวเหลียวมามอง
นายท่าน”
เฉินอี้หลิงอุทาน จั่วหวินหลิงตรงเข้าไปสวมกอดร่างของนางไว้
นายท่าน ...อย่า..” เฉินอี้หลิงร้องห้ามด้วยความร้อนรุ่ม นางทราบว่าจั่วหวินหลิงตระเตรียมระบายอารมณ์ใคร่ใส่นาง แต่ครอบครัวนางแตกสลาย บิดาถูกขับไล่ มารดา ตลอดจนพี่น้องที่เป็นสตรีก็ถูกส่งไปเป็นหญิงรับใช้ตามที่ต่างๆ นางย่อมไม่สามารถจะขัดขืนได้ ได้แต่ร่ำร้องวิงวอน
นายท่าน..อย่ารังแกผู้น้อย”
แต่จั่วหวินหลิงหารับฟังไม่ ก้มลงจูบไซร้ไปทั่วใบหน้าของนาง เฉินอี้หลิงแสดงอาการตื่นตกใจอย่างเต็มที่พร้อมกับเบือนหน้าหนี จั่วหวินหลิงจูบไซร้ไปบริเวณซอกคอและติ่งหูมากขึ้น ในขณะที่มือก็บีบเคล้นที่ปทุมถันหยุ่นมือที่ยังไม่ใหญ่นักแ พักเดียวเท่านั้นเฉินอี้หลิงก็เริ่มพ่ายแพ้แก่อารมณ์ที่บุรุษหนุ่มป้อนให้ ถึงกับอ่อนปวกเปียกอยู่ในวงแขน จังหวะนั้นจั่วหวินหลิงจึงอุ้มตัวนางเข้าไปในห้องนอน ก่อนวางนางลงบนที่นอนอย่างแผ่วเบา เฉินอี้หลิงมองอย่างตื่นตระหนก ร้อนรุ่มใจจนน้ำตาหลังไหลออกมา จั่วหวินหลิงเห็นน้ำตานางกลับมีอารมณ์ใคร่พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างประหลาด โน้มหน้าลงจูบริมฝีปากนาง ลิ้มรสเค็มกร่อยของน้ำตาบนใบหน้านาง..จูบไซร้จากบริเวณหน้าลงมาเรื่อย ๆ สองมือที่เกาะกุมอยู่ที่ปทุมถันเต่งตึงของนาง ก็เคล้นคลึงอย่างเมามัน
เฉินอี้หลิงร้อนรุ่มใจแต่ไม่กล้าขัดขืน ได้แต่หลับตาลง ปล่อยให้จั่วหวินหลิงปลดเปลื้องเสื้อของนางออก น้ำตายังไหลพรั่งพรูอาบนวลแก้มไม่ขาดสาย
เฉินอี้หลิงยังเยาว์วัย ทรวงอกอูมทั้งสองคล้ายบัวตูมกลางสระ องค์เอวคอดกิ่ว แผ่นท้องแบนราบ กระโปรงของนางถูกมือของจั่วหวินหลิงถลกขึ้นมาเห็นเป็นช่วงขาที่เรียวงามกลมกลึง
จั่วหวินหลิงสวมกอดนางอย่างรุนแรง สองมือไม่คลาดคลาจากปทุมถันน้อยคู่นั้น ตะโบมโลมเล้าทุกส่วนสัดทั่วเรือนกายของนาง ร่างบริสุทธิ์ของเฉินอี้หลิงไม่เคยต้องมือชายมาก่อน พอถูกตะโบมอย่างรุนแรงก็เจ็บปวดจนกรีดร้องออกมา จั่วหวินหลิงหัวเราะชอบใจ
นายท่าน บ่าวเจ็บ...”
อย่ากลัวไปเลยอี้หลิง ข้าจะสอนให้เจ้ารู้จักความสุข...”พูดจบก็หัวร่อฮาๆ จ้องมองไปที่ทรวงอก เม็ดแดงที่ปลายถันเป็นสีชมพูระเรื่อ จั่วหวินหลิงก้มลงดูดเลียอย่างหื่นกระหาย
นายท่าน..นายท่าน...”
จั่วหวินหลิงฝังศีรษะกับทรวงอกน้อย ขบกัดปลายถันสีแดงสดของนาง กลิ่นหอมกรุ่นของสาวบริสุทธิ์โชยเข้าจมูกสร้างความเร่าร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องเผลอขบฟันงับลงไปอย่างรุนแรง
นายท่าน..บ่าวเจ็บ..”เฉินอี้หลิงคิดผลักไสอีกฝ่ายหนึ่งพ้นจากกาย แต่สองแขนอ่อนล้าไม่สามารถผลักไสได้ นางเจ็บปวดจนน้ำตาไหลรินหลั่ง แต่ได้แต่ขบกรามกล้ำกลืนรับไว้
จั่วหวินหลิงหลังดูดดื่มความหอมหวานจากยอดถันของเฉินอี้หลิงจนพอใจแล้ว ก็หันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง พร้อมกับเริ่มปลดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของนางออกเช่นกัน ทันใดนั้น เรือนร่างอันเปลือยเปล่าของเด็กสาวที่อวบอิ่มและโหนกนูน ก็ปรากฏแก่สายตา
อารมณ์ของจั่วหวินหลิงยิ่งพลุ่งพล่านมากขึ้น เริ่มใช้นิ้วกระตุ้นอารมณ์บริเวณเนินสวรรค์ของนาง ทันทีที่นิ้วสัมผัส เฉินอี้หลิงก็สะดุ้งขึ้นมาทันที
"
ไม่..." เฉินอี้หลิงร่ำร้อง แต่ร่องสวรรค์ของนางตอนนี้มีน้ำทิพย์ฉ่ำเยิ้มออกมามากมาย ในขณะที่ปากของจั่วหวินหลิงก็ไล่ดูดงับบริเวณเนินอกสลับไปมาทั้งสองข้าง หน้าท้องของนางเกร็งตัวด้วยความปั่นป่วน จากการโจมตีทั้งบนและล่าง ริมฝีปากบางก็ร้องครวญครางอย่างลืมตัว
จั่วหวินหลิงขยับตัวนำท่อนเนื้อที่แข็งตัวจนแทบจะระเบิดจับมันจ่อบริเวณร่องสวรรค์ที่ดกดำของนางแล้วเขี่ยขึ้นลงเพื่อให้น้ำหล่อลื่นของเธอที่หลั่งออกมาชโลมท่อนเนื้อให้ทั่ว เพื่อที่จะได้ไม่เจ็บเกินไปนักเวลาสอดเข้าไป ทันทีที่สัมผัส เฉินอี้หลิงก็สะดุ้งทันทีพร้อมกับร้องออกมาอย่างตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างจ้องมองมังกรร้ายอย่างตื่นตระหนก....

ไม่มีความคิดเห็น: