ศักดานั่งพิ่งผนังห้องซึมกระทืออยู่กับพื้นภายในห้องพักหรู
ที่บัดนี้บรรยากาศที่เคยรู้สึกอิ่มแอมกับความหรูหราของสถานที่นั้นไม่ได้มี
หลงเหลืออยู่ภายในความคิดการรับรู้ของชายหนุ่มอีกต่อไป
นัยน์ตาอันแดงก่ำตอนนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนหวาดวิตกที่โชนความพรั่น
พรึงออกมาเป็นระยะๆ
เป็นความหวาดหวั่นต่อการที่โชคทองที่เคยคิดว่ายังจะมีโอกาสตักตวงได้อีกนาน
กำลังหลุดลอยไป
จิ้งจอกสวาทนั่งคอตก
ตาเหม่อลอยมองไปบนพื้นที่ปูลาดด้วยพรมหนาอย่างดีนั้น
โดยไม่ได้มีอาการขยับเขยื้อนตัวใดๆ
เลย จนกระทั่งมีเสียงที่กริ่งประตูดังขึ้น
ศักดาสะดุ้งผวาขึ้น
หรือ คันธรสจะหนีไอ้เสี่ยเซี้ยงมาได้...
คุณรส...คุณรส
จิ้งจอกสวาทพร่ำเรียกอยู่ในใจ
ขณะที่ผวาดีดตัวพุ่งขึ้นจากท่านั่งท้อแท้รัดทน
วิ่งไปที่ประตูและเปิดออกโดยพลัน
สาวสวยที่ยืนเอียงคอยิ้มๆ
อยู่ตรงหน้าห้องของศักดานั้น
ในทีแรกปากงามมีรอยแย้มเยื้อนจะขยับทักทายอย่างร่าเริง
แต่สภาพของชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า
ที่มีสภาพต่างจากคนที่เธอควงเที่ยวเมื่อวานแบบลิบลับ
ชายเสื้อหลุดรุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิง
และที่สำคัญดวงตานั้นแดงซ่าน
ทำให้เด็กสาวต้องเบิกตาโตโพล่งออกมาอย่างตกใจ
“พี่ศัก...พี่ศัก..เป็นอะไรไปคะ”
ศักดาแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
ชั่ววูบนั้นชายหนุ่มรู้สึกหน้ามืดจนถึงกับเข่าอ่อนซวนเซ
ฐิติพรรณที่เป็นห่วงว่าชายหนุ่มไม่สบายจะเป็นอะไรไป
รีบถลันร่างงามเข้ามาประคองเอาไว้
“อุ๊ย..พี่ศัก..ระวังค่ะ”
ร่างอุ่นงามที่เบียดชิดอยู่ใกล้ๆ
ความจริงน่าจะสร้างความอิ่มเอิบยินดีให้กับจิ้งจอกสวาท
แต่ตอนนี้ภายใต้สภาวะจิตใจที่กำลังหดหู่ผิดหวังความเสียดายนั้นพลุ่งขึ้นจน
จุกอก
ทำให้ศักดาไม่ได้รับรู้กับความเนียนของผิวกายที่แนบชิดอยู่ใกล้ๆ
นั้นเลยแม้แต่น้อย
ฐิติพรรณประคองร่างของศักดาให้เดินไปนั่งบนเตียง
แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
กล่าวถามว่า
“พี่ศัก..เป็นอะไรไปคะ”
ศักดายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง
กล่าวเสียงแห้งๆ ใบหน้าขรึม
ซึ่งคราวนี้เขาไม่จำเป็นต้องแสร้งแสดงละครตบตา
เพราะรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
“ก็..แค่..นอนไม่หลับน่ะ...ว่าแต่..ไอซ์มีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่า..”
พริตตี้สาวชื่อดังพอเห็นว่าอาการของชายหนุ่มไม่ได้เป็นอะไรมาก
ก็คลายใจ สาวสวยแย้มยิ้มว่า
“อ๋อ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
แค่...ไอซ์แวะมาลาพี่ศัก
จะเช็คเอ๊าท์กลับแล้วค่ะ...”
ศักดามองใบหน้างามตาที่เอียงคอยิ้มอยู่ใกล้ๆ
และตอนนี้ประสาทสัมผัสที่เพิ่งจะกลับมีสติได้รับรู้กลิ่นกายหอมจากเรือนกาย
ของสาวสดที่รวยรินมาแตะจมูก
ทำให้ต้องสูดหายใจลึกๆ
ราวกับจะใช้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงอาการแห้งผากของจิตใจ
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็วาบเข้ามา
ถ้าคันธรสจะมีอันต้องหลุดมือไป
เขาน่าจะเตรียมหาเป้าหมายใหม่แต่เนิ่นๆ
พริตตี้สาวสวยที่นั่งเอียงคอยิ้มๆ
ตรงหน้านั้น
กระตุ้นต่อมเซลล์ความคิดที่แน่นอัดไปด้วยแผนการล่าสวาท
ทำให้ชายหนุ่มปรับสีหน้าที่แห้งแล้งนั้นขึ้นมา
กล่าวเสียงนุ่มนวล
“พี่ขอบใจไอซ์มากจ้ะ
พี่กำลังเผลอหลับไป
กำลังฝันร้ายเลย
ถ้าไม่ได้ไอซ์มาขัดจังหวะ
ถ้าตื่นขึ้นมาคงจะแย่กว่านี้เยอะแน่ๆ”
สาวสวยป่องแก้มเป็นพวงใสของเธอ
กล่าวเสียงงอนๆ ด้วยจริตแห่งสาววัยระเริง
“เอ๊ะ..ไอซ์..น้อยใจพี่ศักแล้วล่ะ..อะไรกันคะ..เมื่อคืนเที่ยวกับไอซ์แต่กลับไปนอนฝันร้าย...”
ศักดารีบหัวเราะกลบเกลื่อน
กล่าวเอาใจ
“โธ่
ไอซ์จ๋า พี่สนุกจะตายไปเมื่อคืน
เลยตาค้างนอนไม่ค่อยหลับ
ที่ฝันร้ายเพราะพี่เป็นห่วงงานมากกว่า...”
ฐิติพรรณหัวเราะคิกๆ
ยกนาฬิกาข้อมือเรือนสวยน่ารักหากแต่หรูเพราะประดับเพชรเม็ดเล็กๆ
รายรอบหน้าปัดรูปหัวใจ
อันเป็นหนึ่งในของขวัญชิ้นงามที่มีคนซื้อให้กับเธอ
แล้วก็ว่า
“หกโมงจะครึ่งแล้ว
ไอซ์ต้องไปแล้วล่ะ...”
ศักดาฉวยข้อมือเล็กบางของพริตตี้สาวสวยที่ลุกขึ้นยืน
ก่อนจะกล่าวเสียงนุ่ม
“พี่จะกลับกรุงเทพพอดี
ไอซ์กลับกับพี่ไหม...”
ฐิติพรรณเอียงคอครุ่นคิด
ความจริงนั่งเครื่องบินกลับมันสะดวกกว่าเยอะ
แต่การได้นั่งรถคันงามหรูใหม่เอี่ยมที่ยังใช้ป้ายแดงอยู่เลยของอีกฝ่ายกลับ
และระหว่างทางอาจจะได้มีอะไรสนุกๆ
ทำก็ไม่ใช่ทางเลือกที่เลวนัก
เด็กสาวแสนสวยมากเสน่ห์ยิ้มหวาน
กล่าวเย้ายั่วเสียงใส
“แน่ใจนะคะ...แต่แหม..ไอซ์กลัว..กลับไปกรุงเทพแล้วอาจจะมีใครเห็น..ถ้า...เผอิญพี่รสเขารู้
...”
คำพูดแม้เป็นอย่างนั้น
แต่อาการแสดงออกของเด็กสาวตรงหน้านั้นทำให้จิ้งจอกสวาทที่ค่อยๆ
หวนคืนกลับมาเป็นตัวของตัวเอง
อ่านทีท่าลึกๆ ภายในของสาวสวยออกได้ชัดเจน
กล่าวเสียงเคล้าหัวเราะ
“โธ่
คุณรสเขาต้องเข้าใจสิ
ก็น้องไอซ์สนิทกับคุณรสเหมือนกับเป็นพี่เป็นน้อง
พี่ศักคนนี้ก็ต้องดูแลน้องไอซ์ให้ดีเหมือนกับเป็นน้องสาวสิจ๊ะ..”
ฐิติพรรณหัวเราะคิกคัก
แล้วก็ผงกศีรษะว่าเสียงหวาน
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ศัก
ไอซ์ก็ยินดีค่ะ”
จิ้งจอกสวาทหน้าชื่น
ผุดลุกขึ้นแล้วว่า
“ถ้างั้นขอเวลาพี่อาบน้ำเก็บของแป๊บนึงนะจ๊ะ
ไม่เกินยี่สิบนาที”
ฐิติพรรณมองตามศักดาที่ผลุนผลันเข้าไปในห้องน้ำ
ใบหน้าสวยเฉียบนั้นมีรอยยิ้มที่มุมปาก
พริตตี้สาวเดินไปริมหน้าต่างมองออกไปยังผืนทะเลที่กำลังทองประกายสวยจับตา
จากแสงอาทิตย์ยามเช้า
เธอรู้จักกับคันธรสมานานแล้ว
เพราะเคยรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับธุรกิจของหญิงสาวรุ่นพี่ซึ่งอีกฝ่ายทำ
หน้าที่เป็นหัวหน้าส่วนงานประชาสัมพันธ์
และรู้สึกทึ่งในความสวยงามและคล่องแคล่วเปี่ยมเสน่ห์ของคันธรส
จนพาตัวเข้าไปทำความสนิทสนมจนถึงกระทั่งขั้นเรียกพี่เรียกน้องกัน
แต่ความสัมพันธ์เรียกพี่น้องนั้น
ก็ไม่ได้อยู่ในความคิดของสาวสวยในอันที่จะเป็นความกริ่งเกรง
ถ้าเธอจะต้องใช้เสน่ห์ที่มากเหลือของตัวเอง
ไต่เต้าให้ขึ้นไปอยู่ในสังคมระดับสูงกว่าด้วยความนิสัยแห่งความทะเยอทะยาน
อย่างไรก็ตามศักดาที่เด็กสาวจงใจเย้ายั่วด้วยอารมณ์ระเริงของสาวสวยที่ไม่
ปฏิเสธโอกาสในการที่จะได้ใช้เสน่ห์ของตัวเองเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรง
ข้ามนั้น หาใช่บุคคลที่เธอคิดจริงจังด้วย
ประการหนึ่งเธอไม่อยากมีปัญหากับคันธรสถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
ความสัมพันธ์ที่ดีกับคันธรสยังช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับเธออีกมาก
ประการที่สองแม้ศักดาจะเป็นชายหนุ่มรูปงามใจสปอร์ต
มีรูปร่างที่สมส่วนน่ามอง
และตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดจะปฏิเสธผู้ชายเจ้าชู้เนื่องจากมั่นใจในเสน่ห์ของ
ตัวเองว่าจะมัดใจคนเจ้าชู้ได้
แต่สัญชาตญาณแห่งการที่มีโอกาสได้สัมผัสเรียนรู้อันเกิดจากการเข้าหาพัวพัน
ของชายต่างวัยหลายหลากรูปแบบนั้น
บอกกับเด็กสาวว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างแปลกๆ
ไม่น่าไว้ใจซ่อนอยู่
ฐิติพรรณยักไหล่ลาดงาม
พลางใช้มือสะบัดผมยาวนุ่มสลวยที่ย้อมด้วยสีน้ำตาลจัดจนเป็นประกายขับให้วง
หน้าของเธอนั้นดูเฉี่ยวและบาดตาเหลือประมาณนั้นให้สยายล้อมกรอบวงหน้าให้ดู
สวยสะดุดตามากขึ้น
ก็แค่สนุกๆ
พริตตี้สาวสวยเหยียดยิ้มที่มุมปาก
ขณะที่หันไปมองกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพอันงามของตนเองด้วยสายตามาดมั่น
ดวงตาสวยนั้นเปล่งประกายวาว
และประการสุดท้ายที่ศักดาไม่เคยอยู่ในสายตาของฐิติพรรณนั้น
เด็กสาวสวยครุ่นคิดพร้อมๆ
กับ....ภาพใบหน้าของชายหนุ่มรูปงาม
ใบหน้าขาวจัดที่มีรอยยิ้มร่าเริงอยู่เสมอลอยเข้ามาสู่ห้วงคำนึงของเธอ
ดวงตาคู่สวยของฐิติพรรณทอประกายฝัน
ใบหน้าสวยนั้นพลันปรากฏสีชมพูระเรื่องามจับตา
............................................
เสี่ยเซี้ยงจัดการกับอาหารเช้าที่กลายเป็นอาหารเที่ยงของตัวเองเวลาประมาณ
บ่ายกว่าๆ
ที่จัดเป็นอาหารชุดใหญ่ที่พ่อค้าเพชรจอมเจ้าเล่ห์กินอย่างหิวโหย
เนื่องจากใช้พลังงานไปอย่างมากเมื่อวันก่อนจนกระทั่งเกือบรุ่งสางของวันนี้
กว่าจะได้พักและหลับเป็นตาย
โดยตอนที่เขาตื่นขึ้นมานั้น
สาวสวยที่นอนหลับเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆ
อย่างไม่มีวี่แววจะฟื้นคืนสติขึ้นมาเลย
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว
เสี่ยเซี้ยงก็นั่งกระดิกเท้าละเลียดกาแฟดำขมที่เป็นของโปรดของตัวเอง
และอ่านหนังสือพิมพ์ด้วยท่าทางสบายๆ
ปลอดโปร่งไปด้วยอารมณ์แห่งความอิ่มเอิบที่ได้ตักตวงได้จากเรือนร่างสุดงาม
ของคันธรสแบบสุดๆ
มาทั้งวันทั้งคืนเต็มๆ
คนสนิทมือขวาที่ยืนคอยรับคำสั่งอยู่ใกล้
ตอนนั้นถามว่า
“นัดที่คลับค่ำนี้...เอ่อ...เสี่ยจะไปหรือเปล่าครับ”
“ถามทำไมวะ”
เสี่ยเซี้ยงถามด้วยน้ำเสียงแสดงถึงอารมณ์ที่ดีอย่างยิ่ง
คนสนิทจึงกล้าแหย่แบบมีนัย
“แห่ะ
แห่ะ
คือผมคิด..ว่า...คิดว่า...เสี่ยอาจจะอยากพักอยู่ที่นี่..กับ...กับ..”
เสี่ยโฉดหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างชอบใจ
ก่อนที่จะว่า
“ไอ้ห่ะ
คืนนี้มีขาหนักๆ มากันเพียบ
จะไม่ไปได้ยังไง”
หยุดไปนิดหนึ่ง
ใบหน้าของเสี่ยโฉดก็แสยะยิ้ม
นึกไปถึงร่างเปลือยของคันธรสที่เขาจับจ้องมองยามที่ตื่นขึ้นก่อนลุกออกจาก
เตียงนั้น เรือนร่างงามแม้ปรากฏรอยจ้ำๆ
เกลื่อนไปทั่วร่าง
โดยเฉพาะเต้าอวบสองก้อนนั้น
ปลายถันงอนงามมีรอยฟันที่ถูกเขาขบกัดจนห้อเลือดแดงเถือก
แต่ทว่าร่องรอยที่ถูกเฟ้นฟอนอย่างรุนแรงป่าเถื่อนบนผิวกายที่ขาวผ่องราวกับ
หยวกนั้นกลับเร้าอารมณ์ให้กับเสี่ยเซี้ยงจนขนลุกด้วยความกระสัน
“อีกอย่างนะ...ตอนนี้มันยังบ่ายๆ
อยู่เลย...กว่าจะถึงนัดยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงว่ะ..ฮ่ะ
ฮ่ะ”
เสี่ยโฉดกล่าวเสียงเคล้าหัวเราะ
มโนภาพในความคิดทำให้อารามณ์กระสันพล่านขึ้นจนลำควยอวบหนาที่ได้พักมาครู่
ใหญ่นั้นเริ่มกระดกตึงขึ้นอีกเป็นลำ
เสี่ยเซี้ยงโยนหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ลงไปโต๊ะอาหาร
ผุดลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่ห้องพัก
โดยมีสายตาของคนสนิทมองตามไปอย่างสุดอิจฉา
ท่ามกลางความรู้สึกเจ็บปวดรวดเร็วที่ระบมไปทั่วร่าง
คันธรสที่เวียนว่ายอยู่ในฝันร้ายนั้นพร่ำร้อง
โอ๊ย
เหนื่อยเหลือเกิน
เจ็บไปหมดแล้ว...ตื่นซะทีสิ...ตื่น..เจ็บ..ไม่ไหวแล้ว..ตื่น..ตื่น..ตื่น
ขณะที่ความรับรู้ค่อยๆ
กลับคืนมา หญิงสาวพยายามสลัดใบหน้าให้ตัวเองมีสติขึ้น
แต่อาการเจ็บแสบหาได้บรรเทาไปแต่อย่างใด
คิ้วเรียวงามขมวดมุ่น
เธอตื่นจากฝันร้ายแล้วนี่นา....ทำไม
ความปวดแสบระบมที่ตรงหว่างขานั้นสุดประมาณได้
จากแรงหนักๆ สายหนึ่งครูดคราดอยู่บนตัวเธอ
จนปากงามต้องร้องคราง อ๊า
อ๊า..ร่ำร้องเสียงสะท้าน
“เจ็บ...เจ็บจัง...แสบเหลือเกิน....อ๊า...อ๊ายยยยยย...อ๊ายยยยยย”
“ตื่นแล้วหรือครับ
คนสวย”
เสียงหื่นกระซุ่นอยู่ข้างหูนั้น
ทำให้คันธรสฟื้นคืนความรู้สึกงัวเงียออกมารับความเป็นจริง
ใบหน้าของเสี่ยเซี้ยงที่ลอยอยู่ข้างหน้า
ทำให้คันธรสใบหน้าซีดเผือด
ตระหนักแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน
แต่เป็นความจริงแท้จากการที่ชายร่างใหญ่ที่นอนทับตัวเธออยู่
กำลังโถมกระแทกเข้ามาในร่างกายของเธอ
ความเจ็บปวดรวดร้าวมันทำให้หญิงสาวต้องอ้าปากร้อง
อ๊ะ อ๊า อ๊ะ
ใบหน้างามนั้นบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแสบโพรงสวาทที่ถูกใช้งานต่อเนื่องมา
อย่างหนัก
“เจ็บ...แสบ...เหลือเกิน...เสี่ยขา..รส..รส..เจ็บ”
คันธรสครางออกมา
พยายามผลักร่างหนากำยำนั้นออกไป
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะกระหยิ่ม
“ทำตัวสบายๆ
อย่างเกร็งสิครับคนสวย
เดี๋ยวก็หายเจ็บเองแหล่ะ....เมื่อวานเรามีความสุขด้วยกันแทบตาย..ลืมแล้วหรือจ๊ะ..ที่รักของผม”
หญิงสาวสวยที่พยายามดิ้นรน
ผลักไสร่างหยาบที่ทาบตัวเธออยู่ออกไป
เพื่อให้ตัวเองพ้นจากสภาพที่เจ็บปวดทรมาน
แต่คำพูดของอีกฝ่ายนั้นกระตุ้นความสำนึกขึ้นได้ว่าเธอตกเป็นเบี้ยล่างของเขา
หมดทุกทาง
ไฟล์วีดีโอเหล่านั้น
คันธรสคิดในใจ
เธอยอมตายดีกว่าถ้าไฟล์ภาพเหล่านั้นจะแพร่ไปในวงสังคม
ความคิดดั่งนั้นหยุดยั้งอาการดิ้นรนของสาวสวยไปโดยสิ้นเชิง
คันธรสพยายามตัดใจ
นอนระทวยอ้าขาเรียวรองรับการโถมทะลวงของเสี่ยเซี้ยง
ริมฝีปากงามนั้นถูกขบฟันจนแน่นเพื่อสะกดอาการเจ็บปวดร้าวระบมที่ปะทุขึ้น
อย่างรุนแรงทุกครั้งที่หนอกควยหยาบนั้นกระแทกลงมาบนโคกอูมของเธอ
เสียง ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก
ผสานไปกับเสียงครางกระเส่าอย่างมีความสุขของเสี่ยโฉด
อูยยยยยย อูยยยยยย....
ไม่นานหลังจากนั้น
หลังจากคันธรสตัดใจยอมปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสสวาทที่ควยอวบนั้น
พล่านกระพืออยู่คับแน่นในโพรงหลืบของเธอ
เพลิงกระสันก็แผ่เข้าปกคลุมความรู้สึกนึกคิดของสาวสวย
จนร่างงามสั่นระริก
เสียงครางดังสะท้านออกมาจากริมฝีปากบาง
ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดดด..ซี๊ดดดดดดดดดด…อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ...ซี๊ดดดด
“อูววววว
ที่รัก หีของคุณมันตอดผมดีจริงๆ
....โอย...อาวววว...ดี..ดี...อูวววววว...สุดยอด...อูวววว..อูววว”
วาจาหยาบคายตามกลมสันดานของเสี่ยโฉดพล่ามออกมาโดยไม่มีความจำเป็นต้องเก็บ
ฝืนเอาไว้อีก
ร่างกำยำนั้นทาบทับเบียดขยี้ไปบนเนื้อตัวขาวผ่องของร่างบางที่นอนระทวยอยู่
ด้านล่างอย่างเมามันสะใจ
ท่ามกลางเสียงสั่นสะท้านหวิวรัญจวนของสาวสวย
ซี๊ดดดดดดด...ซี๊ดดดดดดดด....อ๊ายยยยยย
อ๊ายยยยยยยย...เสี่ยขา....อี้ยยยยยยย...อี้ยยยยยยย..ซี๊ดดดดดด
เสียงครางครวญดังพร่าออกมาจากริมฝีปากงามของคันธรส
ที่ถูกเพลิงกระสันจากควยยักษ์ตะบันไถไปตามโพรงสวาทของเธอ
แผ่พล่านขึ้นไปทั่วร่างต่อเนื่องยาวนานจนกระทั่งร่างบางงามนั้นสั่นกระตุก
วาบๆ ร้องซี๊ดดดดดดดดดดดดด
ซี๊ดดดดดดดดดด อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยย
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
ปั้มก้นหยาบของตัวเองถี่ถี่
ปั่ป ปั่ป ปั่ป ปั่ป
แจกจ่ายน้ำเมือกขุ่นคลั่กลงไปในร่างงามของคันธรสอย่างมันส์อารมณ์
พร้อมๆ
กับการบดปากลงไปตรงปลายถันงอนบนเต้าอวบเต่งนั้นอย่างมูมมาม
อึมมมมมมม อึมมมมมมม อูยยยยย
อูยยยยย ซี๊ดดดดดด
ซี๊ดดดดดดดดด...อูยยยยยววววว
โดยไม่จำเป็นต้องถอนท่อนอวบแข็งที่คาแน่นอัดอยู่ในโพรงสวาทของสาวสวย
เสี่ยเซี้ยงใช้มือสอดรัดไปที่แผ่นหลังของคันธรส
ออกกำลังยกร่างบางงามนั้นขึ้นมาพร้อมๆ
กับเหวี่ยงพลิกกลับลงไปนอนหงายแทน
โดยมีคันธรสนอนทาบอยู่ด้านบนแทนที่
ควยอวบที่ชี้ตรงขึ้นไปชำแรกโพรงสวาทของสาวสวยเริ่มส่ายวนควานไปตามความคับ
แน่น เพราะสะโพกหนาอวบของเสี่ยเซี้ยงนั้นส่ายวนอย่างช้าๆ
และเริ่มแรงขึ้นๆ
คันธรสอ้าปากร้องครางออกมาอย่างเสียวซ่านรัญจวน
ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดดดด...เสี่ย..ขา...ซี๊ดดดดดด
อีกครู่หนึ่ง
เสี่ยเซี้ยงนอนยิ้มกระหยิ่มหงายอยู่บนเตียง
ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขหฤหรรษ์ขณะที่มองตรงขึ้นไปยังร่างบางงามของคันธรส
ที่กำลังนั่งคร่อมท่อนเอ็นยักษ์ของเขาอยู่
และกระตุกสะโพกผายของเธอขึ้นลง
บดเบียดโพรงสวาทของเธอห่อหุ้มโอบอ้ารัดกับความเป็นชายของเขาอย่างเร่าร้อน
ก้อนอวบที่ปลายสีนวลงอนยังมีรอยช้ำนั้นกระเด้งกระดอนไปมาอย่างน่าดู
จนมือของเขาต้องเอื้อมไปขยำขยี้อย่างอร่อยนิ้ว
อูยยยยย..คนสวย...อย่างนั้น...ควบแรงๆ...แรงๆๆ...เลย..เร็วๆๆๆๆ...อูยยยยยซซซซซ....อูยยยซซซซซ...อ๊ายยยยซซซ...อ๊ายยยยซซซซ...ซี๊ดดดดดด
เสียงครางกระเส่าของเสี่ยเซี้ยงดังประสานเสียงครวญครางอย่างรัญจวนใจสุดขีด
ของคันธรสดังสนั่นห้องยาวนานต่อเนื่องร่วมยี่สิบนาทีกว่าที่ร่างบางงามจะ
สะท้านเฮือก เฮือก เฮือก
ใบหน้าสวยนั้นแดงซ่าน
ขณะที่มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงตะครุบไปที่เอวคอดกิ่วเนียนมือเกร็งกำลังฉุด
รั้งลงพร้อมๆ
กระดกควยยักษ์กระแทกสวนขึ้นไปอย่างหนัก
ปั้ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก
อูซซซซซซซซซซซซซซ.....อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย.....
คันธรสตัวสั่นกระตุก
ร่างที่ควบควยยักษ์สะท้านวาบๆ
เปลี้ยแรงจนต้องเอนตัวลงทาบร่างกำยำแข็งแรง
ใช้มือยันไปที่ฟูก
สองเต้าอวบนั้นห้อยกระตุกแกว่งล้อตรงใบหน้าของเสี่ยโฉด
ที่หัวเราะกระเส่าอ้าปากรับดูดไปตรงปลายถันงอนนั้น
ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ อร่อยลิ้นเหลือประมาณ
ขณะที่มือหยาบที่กระชับแน่นตรงเอวคอดนั้นไม่ลดรั้งแรงที่ขย้ำขยุ้มเนื้อสาว
ที่นุ่มมือจนบุ๋มตามนิ้วแข็งนั้นลงไป
กดร่างบางให้สอดรับการกระเด้งท่อนอวบกระแทกสวนขึ้นไปอย่างหนักหน่วงถี่ยิบ
ปั้ป ปั้ป ปั้บปั้ป ปั้บ
อ๊ายยยยยย..อ๊ายยยยย..ซี๊ดดดดดดด...สะ..เสี่ย..ขา....ซี๊ดดดดดด...รส...เสียวววว....ซี๊ดดดดด....อ๊ะ....อ๊ายยยยยย
อูซซซซซซ
ผม..ก็เสียววววว...คนสวย....โอววววว..ขย่มหนักๆ....อย่างนั้น....เร่งอีกๆ
เร่งอีกๆๆ...โอววววว...ดี...ดี...โอวววว..โอวววว....โอววววว....
อ๊ายยยยยยยย..อ๊ายยยยย...อ๊ายยยยยยยซซซซ.....รส...รส........อ๊ายยยยยยซซซซซซซซซซซ
ปั่ก
ปั่ก ปั่ก ปั่กกกกก อู้วววววววววววววว
อู้วววววว อา อา อาวววว อาวววว
ปั่ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก
เสียงเสี่ยโฉดและสาวสวยดั่งกระสันลั่นห้อง
ควยยักษ์กระตุกวาบๆ
กระฉูดน้ำเมือกขุ่นคลั่กพรวดเข้าไปในโพรงสวาทที่โอบตอดอย่างแนบแน่น
ร่างของหนุ่มใหญ่สั่นกระตุกอย่างสะใจในอารมณ์
ขณะที่คันธรสหมดเรี่ยวแรง
แขนบอบบางที่ยันตัวเธอนั้นอ่อนเปลี้ยจนทอดไปด้านขางระทวยกับฟูก
ร่างบางงามล้มฟุบคว่ำลงไปบนตัวของเสี่ยเซี้ยง
ก้อนอวบอัดเบียดชิดไปกับอกหนากำยำขนรุงรังนั้น
ปรี๊ด
ปรี๊ด ปรี๊ด
เสี่ยเซี้ยงกัดฟันอย่างหฤหรรษ์
กระทอกตัวสวนควยขึ้นไปเป็นจังหวะเพื่อรีดเค้นน้ำกามที่ยังคั่งค้างอยู่ในท่อ
เอ็นยักษ์นั้นให้หลั่งไหลเข้าไปรวมกับน้ำเมือกที่เจิ่งนองอยู่ภายในโพรงสวาท
ของสาวสวย
ก่อนที่ร่างใหญ่หนาของเสี่ยโฉดจะพลิกตัวกลับ
มาทับร่างบางของคันธรสโดยที่ควยยักษ์ยังไม่หลุดจากโพรงสวาทของสาวสวยด้วยซ้ำ
สะโพกหนาหยาบของเสี่ยโฉดก็เคลื่อนไหวกระทุ้งขึ้นอีกรอบหนึ่ง
คันธรสนอนขาถ่าง
ไม่มีปัญญาขัดขืนอะไรได้
หนอกควยที่บดเบียดไปบนโคกอูมนั้น
กระทอกเป็นจังหวะสั้นๆ ปั้ก
ปั้ก ปั้ก ปั้ก
ท่ามกลางความเจ็บแสบระบมตรงหว่างขา
แต่ถึงกระนั้นเพลิงกระสันสวาทสายใหม่ก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
แผ่ซ่านไปทั่วโพรงสวาท
ทำให้หญิงสาวครางครวญออกมาอย่างรัญจวนใจ
แล้วโอบแขนขาวบางของเธอไปยังแผ่นหลังหนาของเสี่ยเซี้ยง
“ซี๊ดดดดด
ซี๊ดดดดดด...เสี่ยขา.....ซี๊ดดดดดดดด”
“ครับคนสวยของผม”
เสี่ยโฉดหัวเราะเส่า
ตอบเสียงเคล้าหัวเราะ
บดปากระดมจูบไปบนกลีบปากนุ่มของคันธรสอย่างกระหาย
และเพลงกามบทใหม่ก็ได้เริ่มต้นอีกครั้ง
.............................................
รถยุโรปคันงามหรูพาฐิติพรรณพริตตี้สาวสวยกลับมาถึงกรุงเทพอย่างสวัสดิภาพ
โดยเด็กสาวสวยผู้ทะนงในความงามตัวเองไม่รู้ตัวเลยว่าโชคดีเพียงใดที่โพรง
สวาทสาวสดที่ยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอนั้นสามารถรอดพ้นจากเงื้อมควย
อวบของศักดามาได้
ทั้งๆ
ที่จิ้งจอกสวาท
ชั่งใจและลังเลใจอยู่หลายช่วงหลายขณะ
ที่เขามีโอกาสอันดีในการจัดการเหยื่อชิ้นงามที่อ้อนออเซาะอยู่ข้างกายเขา
ด้วยยาสวาท ความงามบาดตาบาดใจ
ทีท่าเย้ายั่วของพริตตี้สาวคนสวยนั้นก่อกวนให้จิ้งจอกสวาทเต็มไปด้วยความ
กระหายหิว ตัดใจจะลงมือมอมสวาทหลายต่อหลายครั้ง
แต่แล้วในที่สุดก็ไม่ได้ทำอย่างใจอยาก
จนกระทั่งเมื่อศักดาขับรถเข้ามาถึงเขตเมือง
จิ้งจอกสวาทก็ตัดใจปล่อยเหยื่อชิ้นงามให้รอดมือไปอย่างสุดเสียดาย
เหตุผลสำคัญที่ศักดาปล่อยพริตตี้แสนสวยให้รอดพ้นเงื้อมมือของเขาไปนั้น
ก็เพราะจิ้งจอกสวาทยังไม่คิดยอมแพ้เรื่องคันธรสต่อเสี่ยเซี้ยงแต่โดยง่าย
ความหวังของชายหนุ่มก็คือการที่เชื่อว่าตนเองนั้นสามารถสยบสาวสวยให้หลงใหล
ในเพลงกามที่เขามอบให้จนเชื่องแล้วนั่นเอง
ถ้าเขาได้มีโอกาสเข้าถึงตัวของคันธรส
จิ้งจอกสวาทเชื่อว่าจะสามารถหว่านล้อมให้คันธรสกลับมาเป็นของเขาได้ไม่ยาก
ดังนั้นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จึงครุ่นคิดตกลงใจว่าจะไม่ผลีผลามอะไรลงไปในตัวของ
พริตตี้สาวยั่วสวาทนี้
ที่อาจจะเป็นเหตุให้การชิงตัวคันธรสกลับคืนมานั้นล้มเหลว
ศักดาที่เชื่อมันในเพลงสวาทและรูปลักษณ์ของตัวเองที่เป็นต่อเหนือเสี่ยเซี้
ยงมากนัก
ชายหนุ่มมั่นใจว่าผู้หญิงสวยอย่างคันธรสไม่มีทางจะเลือกเสี่ยเซี้ยงและมอง
ข้ามเขาไปอย่างแน่นอน
แต่จิ้งจอกสวาทหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผูกมัดตัวของคันธรสหญิงสาวที่รักชื่อเสียง
หน้าตาของตัวเองในวงสังคมชั้นสูงนั้นก็คือไฟล์วีดีโอสวาทที่เต็มไปด้วยภาพ
เปลือยของเธอต่างหาก
และยิ่งไปกว่านั้น
ทุกๆ
วินาทีที่ล่วงผ่านไปในช่วงเวลาอันยาวนานตามระยะทางที่เขาขับรถพาพริตตี้สาว
สวยกลับกรุงเทพ
เพลิงสวาทยังเร่าร้อนอยู่ในที่ลับอีกมุมหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดหัวหิน
เพลิงกามอันบังเกิดจากควยยักษ์นั้นค่อยๆ
เผาผลาญ
ซึมแทรกเกาะกินเข้าไปในจิตวิญญาณความรู้สึกของสาวสวยที่ถูกศักดานั่นเอง
เป็นคนสอนให้หลงใหลไปกับรสชาติของความรู้สึกกระสันต์สวาทในเพลงกามจนถอนตัว
ไม่ขึ้น
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พริตตี้สาวสวยมาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
นั่นเป็นเพราะหลังจากศักดามีโอกาสได้สนทนาอย่างใกล้ชิดกับเด็กสาวแสนสวยถึง
สองวัน นับจากที่เจอกันที่โรงแรม
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ใช้คารมเหมือนกับถามไถ่ความเป็นอยู่และชีวิตประจำวันของ
ฐิติพรรณแบบไม่เฉพาะเจาะจง
แต่ก็สามารถจับใจความสำคัญๆ
ได้เกือบหมด
จากการประมวลนั้นก็ทำให้จิ้งจอกโหยสวาทตีค่าในตัวของเด็กสาวต่างกับคันธรส
ก็คือฐิติพรรณนั้นไม่ใช่คนที่เขาจะตักตวงเอาเงินทองได้
ตรงกันข้ามกลับเป็นเขาต่างหากที่ต้องปรนเปรอเด็กสาวด้วยของขวัญชิ้นงามราคา
แพงเพื่อเป็นการผูกมัดใจ
ต่างกับคันธรสที่เขาสามารถเคลมได้ทั้งรสสวาทและเงินทอง
ประการหลังนี้จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้จิ้งจอกสวาทที่ชั่งน้ำหนัก
แล้วจึงยอมตัดใจปล่อยเนื้ออ่อนๆ
สุดงามนี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมควยอวบของเขาไป
แม้ศักดาจะตัดใจไปแล้ว
แต่ถึงกระนั้นการที่ชายหนุ่มได้อยู่ใกล้ๆ
การอ้อนออเซาะจากพริตตี้สาวที่สะพรั่งไปด้วยความสวยสดก็สร้างความพึงพอใจให้
กับจิ้งจอกโหยสวาทในส่วนลึก
ดังนั้นพอมาถึงกรุงเทพ
ศักดาก็ยังไม่อยากส่งเด็กสาวกลับที่พัก
แต่ชวนเธอเที่ยวต่อ
ซึ่งฐิติพรรณก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
ดังนั้นศักดาจึงเดินควงเด็กสาวแสนสวยที่โดดเด่นสะดุดตาเดินเที่ยวเล่นในห้าง
หรูใจกลางเมือง
รับรู้การตกเป็นเป้าสายตาแห่งความอิจฉาของผู้ชายมากหลายด้วยความรู้สึกอิ่ม
เอมใจ
ถึงแม้ความอิ่มเอมนั้นจะต้องแลกมาซึ่งการที่เขาต้องรูดบัตรเครดิตของตัวเอง
ไปอีกหลายครั้งก็ตามที
ส่วนฐิติพรรณนั้นเล่า
เด็กสาวสวยไม่พรั่นอยู่แล้วในเรื่องที่จะมีคนพาเที่ยว
พาช็อบปิ้งซื้อของหรูๆ
อย่าว่าแต่การเดินเคียงคู่ไปกับชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างศักดา
ที่คอยเอาใจรูดบัตรเครดิตให้โดยไม่ปริปากถามราคานั้น
เด็กสาวก็รู้ดีว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาแห่งความอิจฉาของเด็กสาวๆ
ที่นิยมเดินเที่ยวในห้างหรูนั้นแค่ไหน
บางทีนะ
ถ้าใครที่รู้จักเธอเห็นแล้วนำไปพูดต่อๆ
ที่คณะ ความเด่นดังของเธอในเรื่องของการมีผู้ชายรวยๆ
หน้าตาดีๆ มาคอยบริการก็คงจะแพร่สะบัดไปมากยิ่งขึ้น
พริตตี้สาวสวยคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
อันเกิดมาจากแรงขับจากภายในตัวเธอที่ต้องการเป็นจุดสนใจ
เป็นจุดเด่นที่คนให้ความสนใจกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ
ในขณะที่เธอกำลังนั่งคอยศักดาอยู่ในร้านไอสครีมชื่อดัง
นั่งละเลียดรสชาติสตอเบอรรี่ที่หวานลิ้นอย่างอเร็ดอร่อย
โดยที่ชายหนุ่มนั้นแยกไปซื้อตั๋วหนังรอบเย็น
ด้วยความที่ชอบให้เรือนร่างสุดงามของตัวเองตกเป็นสายตาของเพศตรงข้าม
ชุดที่พริตตี้สาวเลือกใส่ไม่ว่าจะเป็นชุดนักศึกษาหรือชุดไปเที่ยว
อาภรณ์เหล่านั้นจะต้องรัดรึงและเน้นให้เห็นความสมบูรณ์เปล่งปลั่งไปด้วยความ
สาวสะพรั่งของเธอ
ในตอนนี้ก็เช่นกันกระโปรงผ้าเนื้อนุ่มลายการ์ตูนน่ารักสีฟ้าอ่อนที่เธอใส่
มันเลยเข่าขึ้นมาประมาณสี่นิ้วห้านิ้ว
อวดเรียวขางามเป็นลำเทียนยาวสวยไม่มีที่ติไปจรดปลายเท้าที่ซ่อนอยู่ใน
รองเท้าแตะส้นหนาสีฟ้าเข้าชุดกับกระโปรงบานพลิ้วนั้น
อย่างที่ไม่จำเป็นต้องกวาดตามองไปรอบๆ
ฐิติพรรณที่นั่งตักไอสครีมเข้าปากก็รู้ว่าตอนนี้เธอตกเป็นเป้าสายตาของคน
หลายคน และทำเหมือนกับไม่ตั้งใจ
พริตตี้สาวสวยก็ยกขาขึ้นไขว้ทับกัน
เป็นการจงใจโชว์ท่อนขาอ่อนที่อวบงามนั้นให้ขาวเด่นขึ้นมาท้าทายสายตาของคน
ที่เด็กสาวมั่นใจว่าต้องมีมองมาแน่ๆ
การอวดโชว์ความงามบนเรือนร่างของตัวเองแบบเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ
ยั่วให้มองแต่ระมัดระวังไม่ให้เปิดเผยมากจนเกินไปนั้น
เป็นสิ่งที่พริตตี้สาววัยระเริงรู้สึกสนุกที่จะได้ทำเสมอๆ
ในที่สาธารณะ
และมันก็เป็นอย่างเช่นฐิติพรรณคิดคำนึงในใจของเธอ
เพราะบริเวณหน้าร้านไอสครีมนั้นคนที่เดินผ่านไปโดยเฉพาะผู้ชาย
แทบจะไม่มีใครไม่หันมามองความสวยอันน่าตื่นตาตื่นใจของพริตตี้สาวชื่อดัง
และในท่ามกลางสายตาหลายหลากคู่ที่จ้องไปยังเด็กสาวสวยนั้น
ยังมีรวมไปถึงเด็กวัยรุ่นห้าคนที่นั่งอยู่ในซุ้มเบียร์สด
มองมาแต่ไกลๆ ด้วย
“แม่งขาวชิบหาย
เห็นแล้วกูเงี่ยนว่ะ”
คนพูดคือเด็กหน้าสิวเปรอะ
ที่ดวงตาเหลือกลานเพ่งมองไปยังช่วงขาขาวนั้นแทบถลนออกมา
คำพูดของเด็กหนุ่มเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนในกลุ่มได้ครื้นเครง
ต่างคนต่างมองไปเป้าอาหารตาที่จับมองได้ฟรีๆ
อย่างอิ่มอกอิ่มใจ
สักพักหนึ่ง
ทันใดนั้นเป้าสายตาสุดสวยของเด็กหนุ่มทั้งห้าก็ผุดลุกขึ้น
จากที่เห็นเด็กสาวแสนสวยนั้นเดินออกมาจากร้านไอสครีม
ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู
“เฮ้ยตามไปดีกว่าว่ะ”
คนพูดเป็นวัยรุ่นหน้าเสี้ยมตอบ
ทาครีมที่ผมจนมันปลาบ
ซึ่งพรรคพวกในกลุ่มไม่มีใครปฏิเสธคำชวนนี้
ลุกตามขึ้นไปห่างๆ
สายตาไม่คลาดจากเอวคอด
สะโพกผายกลม และช่วงขาขาวงามนั้น
ซึ่งเวลาที่ร่างงามเดินบิดสะโพกไหวน้อยๆ
นั้นกระโปรงสั้นบานพลิ้วไปมาล้ออยู่บนท่อนขาอ่อนขาวสล้าง
ยั่วยวนให้ดวงตาของทั้งห้านั้นเบิกพล่านอย่างตื่นตะลึงในความงามตรงหน้า
แต่สิ่งที่วัยรุ่นที่เพิ่งแตกพานทั้งหมด
ไม่เห็นจากด้านหลังก็คือใบหน้างามของฐิติพรรณที่ขมวดคิ้วมุ่น
ใบหน้าสวยเด่นสะดุดตานั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจนถึงอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
เสียงของสาวสวยห้วนสั้นเมื่อเอ่ยปากกับคนทางปลายสาย
“ฮื่อ
โอเค ขอบใจแกมาก ที่โทรมาบอก”
“ไอซ์
เรื่องนี้แกน่าจะไปคุยตรงๆ
กับเจ๊แต๋วนะ..ว่าแกมีอะไรที่สู้อีชะนีนุชนั่นไม่ได้..”
ฮึ
จะต้องไปคุยทำไม
ฐิติพรรณอยากจะกรีดเสียงดังร้องตอบเพื่อนดังๆ
เด็กสาวรู้ดีว่าสิ่งเดียวที่เธอสู้อรนุชไม่ได้ก็คือฐานะทางครอบครัวเท่านั้น
แค่ลูกสาวข้าราชการต่างจังหวัดตำแหน่งไม่ได้ใหญ่โตคนหนึ่ง
จะเอาอะไรเปรียบเทียบกับน้องสาวเจ้าของโรงแรมใหญ่ได้ล่ะ
พริตตี้สาวคิดอย่างข่มขื่นในใจ
ในขณะแรกที่เธอได้ยินข่าวว่าตัวแทนที่ทางคณะกรรมการได้คัดเลือกนักศึกษา
สำหรับการไปประกวดมีสยูนิเวอร์ซิตี้นั้นเกิดประสบอุบัติเหตุกระทันหันทำให้
ต้องถอนตัว
หัวใจของเด็กสาวก็เต้นแรงคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับถัดไป
เพราะแม้กระทั่งตัวแทนที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องถอนตัวนั้นฐิติพรรณก็คิดว่า
ตัวเองนั้นเหนือว่ามากนักทั้งรูปโฉมและความดังในหมู่เพื่อนนักศึกษา
เด็กสาวผู้มีความทะยานอยากที่จะถีบให้ตัวเองมีชื่อเสียงในวงสังคมชั้นสูง
แน่ใจว่าการประกวดในเวทีที่ได้รับการยอมรับเหล่านั้นจะเป็นใบเบิกทางให้กับ
อนาคตของเธอได้เป็นอย่างดี
แต่ข่าวที่เพื่อนสนิทโทรมานั้น
กลับแจ้งว่าเจ๊แต๋วซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนที่มีบทบาทมาก
และเสียงใหญ่พอสมควรที่จะชี้นำการตัดสินใจของคณะกรรมได้
กลับจะไปเลือกอรนุชผู้ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นปีและทั้งเพื่อนร่วมคณะ
เดียวกัน แต่ทว่าสำหรับฐิติพรรณนั้น
อรนุชคือคนที่เธอบอกกับตัวเองว่าเกลียดที่สุด
เกลียด
เกลียด เกลียด จริงเชียว
ไม่รู้จะเป็นตัวมารคอยขวางเราไปถึงไหน
ฐิติพรรณร่ำร้องในใจอย่างขุ่นแค้น
ภาพของชายหนุ่มที่ตนเองพึงใจในรูปลักษณ์และรูปสมบัติของอีกฝ่ายลอยเข้ามาในห้วงคำนึง
หลังจากมีโอกาสได้รับงานเป็นพริตตี้ประจำบู๊ตสินค้าเปิดตัวใหม่ของหนึ่งใน
สายธุรกิจที่ธนาบุตรชายคนรองของครอบครัวธุรกิจชื่อดัง
ผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาและนิสัยร่าเริงนั้นเป็นคนดูแล
ฐิติพรรณก็หลงใหลใฝ่ฝันในตัวของชายหนุ่ม
ครุ่นคิดอย่างทะยานใจในการที่จะใช้เสน่ห์ตัวเองในการผูกมัดหัวใจของหนุ่ม
หล่อชื่อดังในวงสังคม
พริตตี้สาวไม่เคยรั้งรอที่จะแสดงออกเป็นนัยๆ
ให้เห็นถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อธนา
แต่ชายหนุ่มที่เธอพึงใจกลับคบหากับเธอแค่เพื่อนร่วมงาน
โดยที่สายตาของเขานั้นมีเพียงเพื่อนร่วมคณะของเธอ
คนที่มีเธอแม้จะบอกกับตัวเองว่าไม่ได้ด้อยกว่าในเรื่องรูปโฉม
แต่ไม่มีทางเปรียบติดในเรื่องของฐานะทางครอบครัวและวงสังคม
อรนุชจึงเป็นศัตรูที่ฐิติพรรณแอบเฝ้าฝังใจปฏิญาณว่า
เธอจะต้องพิสูจน์ตัวเอง
ผลักดันให้ตัวเองประสบความสำเร็จและพิสูจน์ว่าเธอสามารถชนะอรนุชได้โดยไม่จำ
เป็นต้องมีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวยเป็นเครื่องหนุนหลัง
และที่สำคัญที่สุด
พริตตี้สาวสวยตั้งมั่นในใจ
เธอจะต้องแย่งชิงตัวธนานั้นให้มาเป็นของๆ
เธอแต่เพียงผู้เดียวให้จงได้
ไม่ว่าจะอรนุชหรือผู้หญิงอื่นหน้าไหนทั้งนั้น
เธอจะไม่มีวันยอมแพ้
การตั้งใจมั่นในเรื่องสุดท้ายนั้น
นอกเหนือไปจากความต้องการในการเอาชนะอรนุชศัตรูหมายเลขหนึ่งแล้วนั้น
ก็เป็นเพราะพริตตี้สาวสวยนั้นตกหลุมรักในตัวของชายหนุ่มชื่อดังในวงสังคมจน
หมดหัวใจแล้วจริงๆ
แต่ในเวลานี้
ข่าวคราวล่าสุดที่เธอเพิ่งได้รับ
มันเสมือนมีดที่กรีดย้ำลงไปในบาดแผลแห่งความรู้สึกที่ฐิติพรรณคิดว่าไม่มี
เป็นธรรม เพราะเธอไม่ได้มีชาติตระกูลในวงสังคมชั้นสูง
จึงไม่ได้รับโอกาสเท่ากับอรนุช
ภายใต้ความรู้สึกกดดันที่ทับท่วมอยู่ภายในใจ
ทันใดนั้นเองพริตตี้สาวก็ได้ยินเสียงร้องทักมาจากด้านหลัง
“ขาวอย่างกับไข่ปอกเชียวนะพี่สาว
วู้วววว”
เด็กสาวหันขวับกลับไป
ก็พบเห็นเด็กวัยรุ่นห้าคนกำลังเดินจับกลุ่มเข้ามา
กระเซ้าเธอด้วยน้ำเสียงหยาบโลน
ดวงตาเบิกพล่านนั้นกลุ่มนั้นกวาดโลมเลียไปตัวตัวเธออย่างหยาบคาย
บางคนก็แลบลิ้นยิ้มหื่นๆ
อย่างน่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
ความหงุดหงิดที่พล่านอยู่ในใจ
มันก็เร่าร้อนพออยู่แล้ว
ยิ่งมาถูกใช้คำพูดและแววตาอันสุดหยาบจากกลุ่มคนตรงหน้า
ก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของพริตตี้สาวสวยระเบิดออกมา
“ไอ้บ้า...”
ฐิติพรรณตวาดเสียงแหลมเล็ก
ร่างงามนั่นสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่านโกรธเคือง
เธอรู้สึกโกรธไปหมด โกรธทุกคน
โกรธความไม่เป็นธรรม
โกรธนังอรนุช และโกรธไอ้เด็กบ้าพวกนี้ที่สุด...
เด็กวัยรุ่นทั้งห้ามองเห็นริมฝีปากบางจิ้มลิ้มนั้นขยับด่าตอบกลับมาอย่าง
เผ็ดร้อน ใบหน้างามนั้นบึ้งตึง
ดวงตาเรียวสวยนั้นเบิกโพลงอย่างเกรี้ยวกราด
แต่จะอย่างไรก็ความงดงามของเรือนกาย
และวงหน้าที่สวยน่ารักบาดตาบาดใจอย่างยิ่งนั้นก็ยังสร้างความสนุกครึกครื้น
ให้กับเด็กกลุ่มนั้นจนหัวเราะเกรียว
“อ๊ะๆ
ทำไมปากร้ายจัง พี่สาวคนสวย”
คนพูดเป็นเด็กหนุ่มผู้มีร่างอ้วนใหญ่
ท้องนูนกลมไปด้วยไขมันลอยหน้ายียวนถาม
พรรคพวกที่เหลือหัวร่อครื้นเครง
ฮ่า ฮ่า
“ไอซ์มีเรื่องอะไรเหรอ...”
เสียงเพื่อนถามมาจากอีกด้านหนึ่ง
ฐิติพรรณพยายามสะกดอารมณ์ที่เร่าร้อนของตัวเองไม่ให้ระเบิดพล่านออกมามากไป
กว่านี้
ด้วยความคิดว่าคนระดับเธอไม่ควรลดตัวไปยุ่งกับสวะกลุ่มนั้น
ถึงแม้ใจร่ำๆ อยากจะระบายด่าให้สมใจ
แต่ก็ฝืนกล้ำกลืนสะบัดหน้ากลับมา
เร่งฝีเท้าเดินหนี
แต่ก็ยังจงใจกรีดเสียงดังๆ
ให้คนด้านหลังได้ยินว่า
“ไม่มีอะไร
แค่หมามันเห่าน่ะ...”
คราวนี้คำพูดของพริตตี้สาวทำให้เด็กหนุ่มหน้าเสี้ยมที่หวีผมเรียบแปล้ด้วย
ครีมที่กำลังหัวเราะอยู่
ถึงกับต้องหุบยิ้มลง
เด็กหนุ่มเป็นคนที่รักหน้าและใจใหญ่จนทนไม่ได้กับการดูถูกของคนอื่นๆ
อยู่เสมอ ทำให้ตอนนั้นสีหน้าของเขาไปด้วยความโกรธ
คำรามในคอ
“อีห่ะนี่วอนซะแล้ว...”
เด็กหนุ่มหน้าเสี้ยมผมเรียบแสดงออกชัดเจนว่าเป็นผู้นำของกลุ่ม
รีบชวนพรรคพวกเดินตามฐิติพรรณไปทันที
สีหน้านั้นเครียด ดวงตาแข็งกระด้าง
ในความเป็นจริงวันนี้
ฐิติพรรณนั้นถือว่ามีโชคช่วยเป็นอย่างที่สุดแล้วที่ทำให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือ
ของจิ้งจอกสวาทอย่างศักดามาได้
แต่ด้วยอารมณ์ร้ายพร่านหงุดหงิดอันเกิดจากความเร่าร้อนริษยา
บวกกับความถือตัวและปากกล้า
ก็กลับกลายทำให้โชคดีมาแปรเปลี่ยนไปเป็นเคราะห์ร้ายอย่างแสนสาหัส
เป็นเพราะรูปร่างและหน้าตาที่โดดเด่นของฐิติพรรณ
ทำให้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พริตตี้สาวสวยถูกแซวจากวัยรุ่นคึกคะนองปาก
และหลายๆ ครั้งเธอก็เคยสวนกลับไปแรงๆ
ด้วยความโกรธมาแล้ว
แต่คราวนี้เด็กวัยรุ่นทั้งห้าไม่ใช่วัยรุ่นปากเปราะธรรมดาที่เธอเคยพบ
“แกงค์เด็กนรก”
ชิดกับพวกนั้นก็คือกลุ่มหัวโจกนักเรียนช่างกลแถวๆ
ปทุมวัน
ที่อาชีพหลักของพวกเขาคือการรวมตัวกันไปรุมกระทืบทำร้ายนักเรียนโรงเรียนคู่
อริในเวลาที่พวกตนมีกำลังมากกว่า
ส่วนอาชีพรองคือการรวมตัวกันไปเหล่สาวสวยในห้าง
ส่วนเรื่องเรียนไม่เคยอยู่ในหัวของพวกนี้แม้แต่น้อย
ชิด
อ้วน แจ็ค มืด และอ๋อง
คือห้าหัวโจกตัวสำคัญของเด็กนรกกลุ่มนี้
โดยมีชิดเป็นหัวหน้าแก็งค์ใหญ่
ทั้งๆ ที่เด็กหนุ่มเพิ่งเป็นนักเรียนปีหนึ่งแท้ๆ
เนื่องเพราะ “เชิด”
พี่ชายของเขานั่นเองซึ่งเป็นอดีตนักเรียนเก่าที่มีอิทธิพลอย่างมากในกลุ่ม
ของพวกนักเรียนช่างกล
แม้ว่าตอนนี้จะเชิดจบมาหลายปีแล้ว
แต่ก็ยังคงป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ไม่ไกล
ยานรกของชายหนุ่มที่ส่งผ่านไปทางน้องชาย
ทำให้เด็กช่างกลขี้ยาหลายสิบคนกลายเป็นลูกสมุนให้กับชิดไปโดยปริยาย
แจ็คเด็กหนุ่มที่ร่างผอมเกร็ง
ดวงตาโหลลึก ที่ตามหลังฐิติพรรณไป
สายตาไม่คลาดไปจากสะโพกผายละลานตา
และช่วงขาขาวเรียวงามกลมกลึงนั้น
แลบลิ้นอย่างหื่นกระหาย
“แม่งโคตรเงี่ยนเลยว่ะ
ไอ้ห่ะเอ๊ย อยากจับแม่งกระเด้าให้ดิ้นเลย
ขาวเป็นหยวก สวยสุดยอดอีกต่างหาก”
มืดคือเด็กหนุ่มที่หน้าปรุไปด้วยสิว
เสริมอย่างคึกคะนอง
“เออว่ะ
กูเองก็อยากเอาควยกระทุ้งปากฉอดๆ
ของมันเหมือนกัน ปากดีนักเนี่ย”
คำพูดของพรรคพวกทำให้แววตาของชิดเป็นประกาย
ที่จริงพวกเขาทั้งห้าเคยอาศัยยานรกเป็นสื่อ
รุมเย็ดเด็กพาณิชย์ใจแตกที่ติดยาแต่ไม่มีเงินซื้อต้องใช้ตัวเข้าแลกบ่อยๆ
แต่ยังไม่เคยสักครั้งที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองเด็กสาวที่อยู่ในสังคมอีกระดับ
แบบผู้ลากมากดีอย่างคนสวยปากจัดที่เขาพบวันนี้เลย
มันคงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าลิ้มลองและเย้ายวนใจเป็นที่สุดถ้าตนเองจะ
ได้มีโอกาสกระทุ้งควยชำแรกโพรงหีของสาวสวยนี้ให้มันส์สะเด่า
ชิดกับพวกเดินตามพริตตี้สาวสวยไปจนกระทั่งแลเห็นเด็กสาวไปสมทบกับผู้ชายหน้า
ตาดีคนหนึ่ง แม้จะเห็นแต่ไกล
แต่ชิดหัวโจกก็จำได้ดีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
“อีคนสวยปากหมา
มากับแฟนว่ะ”
อ๋องผู้ที่วัยสูงกว่าเพื่อน
เพราะเรียนซ้ำชั้นซ้ำซาก
พูดพึมพำ มองไปยังศักดาด้วยแววตาอิจฉา
ชิดโบกมือให้สัญญาณเพื่อนสงบเสียง
ส่วนตัวเองโทรศัพท์ไปหาพี่ชายและสอบถาม
“พี่เชิด
ขอเบอร์พี่ศักหน่อยดิ…”
เคราะห์ร้ายของพริตตี้สาวสวยที่กระหน่ำเข้ามาแบบติดๆ
กัน
ราวกับบุญเก่าที่ช่วยให้เธอพ้นจากเงื้อมมือของศักดานั้นถูกใช้ไปจนหมด
เชิดเอเยนต์ค้ายานรกพี่ชายของชิดก็คือเพื่อนสนิทผู้ขายยาสวาทให้กับศักดา
นั่นเอง
อีกไม่นานจิ้งจอกสวาทจึงได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาอย่างกระทันหันจากเบอร์ที่
เขาไม่ได้บันทึกเอาไว้
พอได้ยินเสียงทางปลายสาย
ชายหนุ่มก็นิ่งอึ้งฟังไปชั่วครู่
ใบหน้ามีแววครุ่นคิดหนัก
ก่อนจะปิดเครื่องโดยไม่กล่าวอะไร
แต่โดยเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกกับชิดที่โทรมา
และจิ้งจอกสวาทรู้ว่าเด็กหนุ่มแอบมองมาอยู่ห่างๆ
ก่อนจะหันมากล่าวกับพริตตี้สาวสวย
“เอ่อ...ไอซ์จ๋า...พี่เผอิญมีธุระด่วนจ้ะ...ไอซ์เข้าไปในโรงก่อนได้ไหมจ๊ะ
เดี๋ยวพี่ขอพูดธุระอีกหน่อยแล้วจะตามเข้าไป”
ขณะที่ฐิติพรรณผู้ซึ่งกำลังหงุดหงิดในใจอยู่ไม่คลาย
ก็กำลังอยากจะใช้ความคิดเงียบๆ
คนเดียวอยู่เหมือนกัน
ในตอนนั้นจึงรับตั๋วหนังมาแต่โดยดีไม่พูดอะไรสักคำแล้วก็เดินเข้าไปในโรง
หนังก่อน
คล้อยหลังไปไม่ทันไร
ชิดกับพวกก็ทยอยกันเข้ามาหาศักดา
ซึ่งหลังจากซุบซิบอะไรกันสองสามคำ
จิ้งจอกสวาทก็หันซ้ายหันขวา
ก่อนจะชักชวนคนทั้งหมดย้ายเข้าไปในร้านขายกาแฟที่ค่อนข้างมืดๆ
สลัวๆ ร้านหนึ่ง และนั่งคุยกันตรงมุมห้อง
สีหน้าซีเรียส
................................................
คลับชั้นสูงที่เบื้องหน้าเป็นคลับบันเทิงแบบครบวงจร
อาหาร เครื่องดื่ม ฟิตเนส
ซาวน่า และอื่นๆ อีกมากมาย
เป็นแหล่งท่องเที่ยวหาความสำราญของบรรดาแขกกระเป๋าหนัก
เป็นแหล่งที่พบปะเจรจาของคนทำการค้าธุรกิจมากมาย
แต่เบื้องหลังที่สำคัญที่จะมีไม่กี่คนได้รับทราบก็คือสถานที่นี้ยังเป็นคลับ
ลับที่มีโต๊ะพนันที่เป็นการรวมตัวของเซียนพนันที่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม
ชั้นสูง
ซึ่งปราศจากการรบกวนเพราะส่วยให้จัดส่งกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นอย่างดี
คลับหรูที่ตกดึกแขกเหรื่อเริ่มทยอยกันเข้ามาใช้บริการกันหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
บรรยาการศโดยรอบนั้นเต็มไปแสงไฟสว่างไสวประดับประดาอย่างสวยงาม
อาคารที่กินเนื้อที่กว่ายี่สิบไร่
แบ่งเป็นอาคารที่ต่อปีกติดกันเป็นแนวยาว
แบ่งเป็นโซนๆ อย่างมีระเบียบ
ให้บริการแขกชาวไทยและต่างประเทศด้วยการบริการหลายหลากล้วนแล้วแต่อยู่ใน
ระดับห้าดาวทั้งสิ้น
และแน่นอนราคาที่ผู้เข้ามาใช้บริการต้องจ่ายออกไปก็อยู่ในระดับแพงลิบเช่น
กัน
ความจริงมีสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่เข้ามาใช้บริการที่คลับแห่งนี้กันไม่
น้อย
แต่ทันทีที่คู่ของบุรุษและสตรีคู่หนึ่งซึ่งฝ่ายชายอยู่ในชุดสูทเข้มดำและ
ฝ่ายหญิงอยู่ในชุดราตรียาวกรอมเท้าเดินก้าวเข้ามาในคลับก็ตกเป็นเป้าสายตา
ของคนเป็นจำนวนมากทันที
หลายเสียงซุบซิบที่รู้จักหน้าค่าตาของหญิงสาวสวยในชุดราตรีดำดี
ต้องเอ่ยกระซิบกระซาบกันอย่างแปลกใจ
ไม่ยักรู้ว่าคุณรสคบกับเสี่ยเซี้ยงด้วย
ทำไมเราตกข่าว?
นั่นสิ
เห็นข่าวซุบซิบบอกว่าไฮโซสวยควงหนุ่มหล่อพ่อค้านักธุรกิจส่งออกอยู่แหม็บๆ
ไม่ใช่เหรอเธอ
คิดไม่ถึงนะยะ
ว่ารสนิยมของเธอจะเป็นแบบเสี่ย...
…
…
…
แน่นอนบุรุษสตรีคู่นั้นก็คือเสี่ยเซี้ยงและคันธรสนั่นเอง
เมื่อมาถึงคลับหรู
หนุ่มใหญ่ก็ยกมือทักทายกับผู้คนในคลับอย่างต่อเนื่อง
แสดงให้เห็นว่าเป็นคนกว้างขวางในสังคมกลุ่มนี้ไม่น้อย
ขณะที่คันธรสเพิ่งเคยมาสถานที่นี้เป็นครั้งแรก
ในคืนนี้หญิงสาวแต่งหน้าจนเข้มเป็นพิเศษ
ชุดราตรียาวกรอมเท้านี้
บวกกับถุงมือยาวสีขาวเนื้อเนียนเป็นมันระยับที่ยาวเก็บผิวกายของสาวสวยจน
ขึ้นมาถึงเลยต้นแขนอวบ
ก็ช่วยปกปิดเรือนกายของเธอที่ยังไม่สามารถฟื้นคืนจากการถูกเฟ้นฟอนอย่างหนัก
จากมือหยาบของเสี่ยโฉดจนมีรอยช้ำเป็นจุดๆ
เห็นได้ชัดเจนบนผิวกายขาวผ่องของเธอได้เป็นอย่างดี
ความจริงเสี่ยเซี้ยงเองก็ถามความสมัครใจของคันธรสว่าจะพักอยู่ที่บ้าน
หรือจะตามเข้าไปคลับด้วย
โดยเสี่ยโฉดบอกไปตรงๆ
ว่าอาจจะใช้เวลาที่คลับนานพอดู
แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร
“ที่คลับเขามีบริการหลายอย่าง
อบไอน้ำ ซาวน่า นวดตัวนวดเท้าสปา
มีครบหมด ถ้าที่รักไปก็น่าจะหาอะไรทำเพลินๆ
ระหว่างรอผมได้เหมือนกันนะ”
เสี่ยเซี้ยงกล่าวยิ้มๆ
มาถึงตอนนี้สรรพนามที่เขาเรียกคันธรสนั้นมันเต็มปากเต็มคำว่าที่รักโดยไม่
กระดากปากแต่อย่างใด
ขณะที่คันธรสซึ่งอยู่ในสภาพที่อับจนสิ้นปัญญา
ไม่รู้จะหาทางออกให้กับตัวเองอย่างไรก็ตัดสินใจตามไปด้วย
ซึ่งทีท่าอันราวกับยอมปลงกับสภาพที่เป็นอยู่
และปล่อยให้ชีวิตนั้นดำเนินต่อไปตามยถากรรมของคันธรสนี้
เป็นเนื้อแท้ของนิสัยหญิงสาวมาตั้งแต่เด็กที่พอประสบปัญหาอะไรที่ยุ่งยาก
แก้ไขลำบาก พออับจนหาทางเข้า
ทางออกของเธอก็คือหนีปัญหาไป
โดยปล่อยให้คนอื่นมารับภาระแก้ไข
ซึ่งเท่าที่ผ่านมามันพอจะทำได้โดยอาศัยอำนาจเงิน
อำนาจบารมีของผู้เป็นบิดา
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเธอขณะนี้
คันธรสไม่สามารถหลีกหนีมันไปได้
สิ่งที่หญิงสาวเลือกจะทำก็คือการหลอกตัวเองให้ลืมมันไปตรงหน้า
อะไรจะเกิดขึ้นก็ค่อยว่ากันทีหลัง
ดังนั้นหญิงสาวจึงติดตามมากับเสี่ยเซี้ยงที่คลับ
และพอเจอหน้าคนที่เคยคุ้นเคย
หรือรู้จักด้วยก็ก้มศีรษะทักทาย
โดยพยายามเก็บอาการผิดปกติเอาไว้ให้มากที่สุดภายใต้ใบหน้าที่เกลื่อนด้วยรอย
ยิ้ม
ใบหน้างามบาดตาของคันธรสก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์เหมือนกับทุกครั้ง
ที่ผ่านมา หญิงสาวกลายเป็นดาวเด่นของคลับในคืนนี้
ภายใต้สภาวะที่หญิงสาวหลอกตัวเอง
พยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้น
สาวสวยก็ระเริงใจในการตกเป็นเป้าสายตาของคน
แต่ชนักที่ปักกลางหลังนั้นอยู่ก็แผ่กระแสแห่งความวิตกหวาดหวั่น
หวั่นว่าจะมีใครล่วงรู้ความจริง
เป็นความวิตกที่ส่งประกายมาจากก้นบึ้งแห่งจิตใจผ่านแววตาของสาวสวย
ยามที่เธอเผลอใจลอย
แม้กระทั่งเธอเองก็ยังไม่รู้ตัว
บุรุษร่างใหญ่ผู้หนึ่งที่เพิ่งมาถึงทีหลังก็เป็นเหมือนกับอีกหลายๆ
คนที่ถูกความงามของคันธรสดึงดูดสายตาเอาไว้
ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีเหล็กเปล่งประกายแวววาวนั้น
เหลือบแลไปยังวงหน้างามบาดตาของหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่ยืนพูดคุยกับคนรู้จักอยู่ในบริเวณนั้น
ใบหน้าคร้ามเข้มของชายหนุ่มคนนั้นไว้หนวดเคราที่ยาวออกมาเป็นปื้นแข็ง
แสดงออกถึงการขาดความเอาใจใส่ในการตัดโกน
หรือไม่เจ้าของก็รู้ว่าไม่จำเป็นต้องทำนัก
เพราะใบหน้าอันรุงรังนั้นมันฉายประกายบางอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความกร้าน
โลกเป็นผู้ชายที่เปี่ยมด้วยพลังชีวิตที่แข็งแรง
ในบริเวณนั้น
จึงมีสายตาของหญิงสาวหลายคนเหลือบแลไปบ่อยๆ
อย่างติดใจในใบหน้าคร้ามเข้ม
และท่วงท่ายืนสบายๆ
ของร่างกำยำหนาสูงยาวในชุดสูทสีดำสนิท
ในช่วงขณะหนึ่งที่บุรุษนัยต์ตาสีเหล็กจับจ้องกิริยาท่วงท่าของคันธรสจนพอใจ
และขายาวของเขาก็กำลังจะพาเดินตรงเข้าไปหาเพื่อชวนสนทนาอยู่แล้ว
โดยนิสัยแห่งความรู้สึกนึกคิดของเขาผู้หญิงคือความรื่นรมย์บันเทิงที่โลกมอบ
ให้กับผู้ชายเสมอ
แต่ทันใดก็เห็นการแทรกตัวเข้ามาของเสี่ยเซี้ยง
ซึ่งก่อนหน้านี้เลี่ยงไปคุยอยู่กับคนกลุ่มใหญ่อีกด้านหนึ่ง
ก็เดินกลับมาหาคันธรสพอดี
และอาการยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูใสอย่างยิ้มแย้มนั้น
ก็ทำให้บุรุษหนุ่มเปลี่ยนใจ
ชะงักเท้าหันมายืนดูอยู่ห่างๆ
มากับไอ้เซี้ยง...
ชายหนุ่มครุ่นคำนึง
ขณะละเลียดบรั่นดีในมือ
และจ้องมองไปที่ใบหน้างามนั้น
พอดีคันธรสหันมาสบตา
ชายหนุ่มก็ยกแก้วให้
คันธรสจับตามองมาอึดใจหนึ่งก็ยิ้มที่มุมปากตอบให้ก่อนจะเลยแลไปทางอื่น
สวยใช้ได้....แต่..
บุรุษหนุ่มตาสีเหล็กบอกกับตัวเอง
แล้วยักไหล่ หัวเราะหึหึ
ในใจ
ใครหลวมตัวมากับไอ้เซี้ยง
ก็คงมีความสุขหรอกนะ...
ชายหนุ่มหันไปมองใบหน้าของเสี่ยพ่อค้าเพชรคนดังด้วยแววตาของคนที่รู้ไส้รู้
พุงรู้พฤติกรรมของเสี่ยโฉดดี
จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
เดินแว่บเข้าไปด้านใน
จากนั้นก็กลืนไปกับคนที่เข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม
“อ้าว
สิงห์มาแล้วหรือ บ๊ะ
สายจริงนึกว่าจะเบี้ยวแล้ว”
คมศรชายหนุ่มที่มีคนรู้จักใกล้ชิดเรียกชื่อเล่นๆ
ว่าสิงห์หัวเราะ
ยกมือทักทายโบกให้กับหลายๆ
คนที่อยู่ในบริเวณนั้น
แสดงให้เห็นว่าเป็นขาประจำเช่นกัน
จากนั้นคนทั้งหมดจะเดินเข้าไปฆ่าเวลารอคอยเวลา
“นัดพิเศษ” ด้วยการเข้าไปซ้อมคิวกันในห้องพูล
ส่งเสียง เฮฮา แว่วออกมาจากห้องเป็นระยะๆ
………………………….
ศักดาเดินกลับเข้าไปในโรงภาพยนต์
ตอนนั้นที่หน้าจอภาพใหญ่กำลังฉายหนังตัวอย่างอยู่
จิ้งจอกสวาทเดินมาถึงตำแหน่งที่นั่งตามตั๋ว
ก็มองไปยังฐิติพรรณซึ่งหันมายิ้มให้
ตอนนี้อารมณ์ร้อนรุ่มในใจของเธอเริ่มสงบลงบ้างแล้ว
ช่างมัน
ฉันไม่แคร์ เชอะ ไอ้เวทีประกวดกระจอกๆ
อย่างนั้น
พริตตี้สาวพยายามคิดเข้าข้างตัวเองในใจแบบไม่ต่างอะไรกับภาษิตที่ว่าองุ่น
เปรี้ยว
คือของที่พอตัวเองชิงเอามาไม่ได้ก็ปรามาสว่าเป็นของไร้ค่า
จิ้งจอกสวาทยิ้มตอบแล้วทรุดลงนั่งเคียงข้าง
เด็กสาวแสนสวยก็เอ่ยถามเบาๆ
“เสร็จธุระแล้วหรือคะ”
“จ้ะ...เอ่อ..ไอซ์จ๊ะ...”
ศักดาถามกระซิบเสียงหวาน
ฐิติพรรณหันมามอง แสงสว่างเลือนๆ
วาบมาจากผืนผ้าใบใหญ่ตรงหน้าจอนั้นฉาบไล้ไปตามใบหน้าสวยบาดตาของเธอ
จิ้งจอกสวาทมองแล้วครุ่นคำนึง
อย่าโทษพี่ศักเลยนะ
น้องไอซ์คนสวย ปากเธอมันหาเรื่องเอง...
ในใจศักดานั้นคิดอย่างหนึ่ง
แต่ต่อหน้านั้นยิ้มให้แล้วว่า
“ดูหนังเสร็จแล้วไปผับกันต่อไหมจ๊ะ”
ฐิติพรรณนัยน์ตาพราวอย่างเย้ายวน
ยิ้มหวานให้กับจิ้งจอกสวาท
ครุ่นคำนึง
ก็ดี
เธอกำลังเซ็งๆ อยู่เหมือนกัน
ตกลงใจได้แล้ว
ภาพยนต์เรื่องนั้นพริตตี้สาวสวยจึงดูต่อด้วยความสนุก
ขณะที่จิ้งจอกสวาทดูบ้างไม่ดูบ้าง
ในใจอยากจะให้จบไวๆ
ศักดาที่เหลือบมองไปยังใบหน้างามสะคราญของเด็กสาวด้านข้างเป็นระยะๆ
ยักไหล่อย่างไม่สนใจ
ก็ในเมื่อเขาคิดจะปล่อยให้เนื้ออันโอชะชิ้นนี้รอดมือไปแล้ว
ก็ปล่อยให้เข้าไปในปากไอ้ชิดกับพวกไม่ดีกว่าหรือ
ดีกว่าเสียไปเปล่าๆ ไม่ได้อะไรเลย
อย่าว่าแต่นะ...
ในห้วงความคิดนั้นนึกไปถึงข้อตกลงงามๆ
จากน้องชายของเชิดเพื่อนชั่ว
ที่จะไม่เพียงที่จิ้งจอกโหยสวาทนั้นจะได้เงินทองก้อนใหญ่พอที่จะทำให้เงิน
ทั้งหมดที่เขาใช้ออกไปเพื่อซื้อของหรูๆ
ให้กับพริตตี้คนสวยนั้นดูไร้ค่าไปทันที
ที่สำคัญหลังจากที่จิ้งจอกโฉดทำเป็นเล่นตัวอยู่พักหนึ่ง
ข้อเสนอสุดงามที่เขาจะได้ก็คือเปอร์เซ็นต์ของการขายยาในส่วนที่ชิดได้รับการ
แบ่งจากพี่ชายอีกทอดหนึ่ง
ซึ่งเด็กหนุ่มนั้นแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งว่าปรารถนาจะได้เสียบควยกระทุ้งหี
ของพริตตี้สาวสวยเบื้องข้างเขานี้เพียงใดจนยอมทุ่มเททุกอย่าง
เงินทองที่ได้จากการค้ายามันน้อยที่ไหนกัน?
ศักดาครุ่นคิดอย่างอิ่มเอมในอารมณ์
มีร้อยยิ้มที่ริมฝีปากอย่างพึงพอใจอย่างสุดประมาณ
เป็นความพึงพอใจที่เขาได้รับ
หลังจากหงุดหงิดงุ่นง่านในเรื่องของคันธรสมาแทบทั้งวัน
………………………………
เสี่ยเซี้ยงมองดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้ถึงเวลาแล้วก็ไปกระซิบข้างหูขาวของคันธรส
“ผมจะเข้าไปติดต่อธุรกิจข้างใน
อาจจะนานหน่อยนะ...ที่รักก็ใช้บริการของคลับได้ทุกอย่างตามสบายเลย
เพราะผมสั่งเอาไว้แล้ว”
คันธรสผงกศีรษะให้
เสี่ยโฉดจึงเดินเข้าไปด้านในซึ่งเป็นบริเวณเฉพาะที่มีการ์ดร่างกำยำยืนคุมทางเข้าอยู่
ขณะที่เสี่ยเซี้ยงยืนในห้องน้ำทำธุระส่วนตัว
ชายกลางคนร่างอ้วนไว้ผมเถิกก็เดินเข้ามา
แล้วทักทายเสียงเคล้าหัวเราะ
“แหม
เสี่ย..คืนนี้สุดยอดเลยนะ
ควงสาวสวยมาเย้ยกันได้...”
เสี่ยเซี้ยงมองไปยังเสี่ยทองซึ่งเป็นนักธุรกิจด้านโรงแรม
ก็ยิ้มร่า หัวเราะชอบใจ
ขณะที่อีกฝ่ายลดเสียงให้เบาลงถามไถ่ด้วยความกระหายอยากรู้
“ถามจริงเหอะ
เสี่ยทำยังไงถึงคว้าสาวสวยมาควงได้...”
เสี่ยโฉดหัวเราะกั๊กๆ
ตอบว่า
“อีไฮโซพวกนี้ก็ดูวางท่าหัวสูงไปอย่างนั้นแหล่ะ....ก็แค่ตื้อนิด
หน้าด้านอีกหน่อย
ขอให้มีโอกาสลากลงเตียงได้
จากนั้น...ฮ่ะ..ฮ่ะ..ครางเรียกร้องไม่ขาดปากเล๊ยยย.....”
คำพูดหยาบโลนนั้นสร้างความครื้นเครงให้คนฟัง
จนพากันหัวเราะประสานเสียงดังลั่น
แล้วเดินออกไปโดยหารู้ไม่ว่าคำสนทนาทั้งหมดนั้นมีคนที่นั่งอยู่ในห้องน้ำภาย
ในได้ยินจนหมด ดวงตาสีเหล็กมีประกายแวววาว
ภายในเลาน์จหรูหราในคลับที่มีบรรยากาศสลัวๆ
ครึ้มๆ
ในมุมหนึ่งตรงเกือบจะสุดห้อง
คันธรสนั่งเหม่อมองไปด้านข้างซึ่งเป็นผนังกระจกยาวตลอดต่อเนื่อง
มองไปเห็นสวนหย่อมที่สวยงาม
ที่เวลานั้นประดับด้วยแสงไฟพราวสวยระยิบระยับ
บนโต๊ะมีเครื่องดื่มสีแดงแก้วหนึ่ง
ซึ่งหลังจากนั่งจิบไปอึกแรก
ก็ถูกวางทิ้งบนโต๊ะไม่ได้มีการแตะต้องอีก
เพราะเจ้าของโต๊ะสาวสวยนั่งเหม่อลอยมองออกไปในความมืดนิ่งนาน
จนกระทั่งมีเสียงห้าวๆ
ดังขึ้นข้างตัวเธอ
“ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหมครับ”
คันธรสหันมาก็แลเห็นใบหน้าคร้ามเข้ม
ดวงตาสีเหล็กนั้นมีประกายประหลาด
จำได้ว่าอีกฝ่ายคือคนที่ชูแก้วให้เธอ
ถ้าเป็นคันธรสคนเดิมที่เป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ไม่ได้ตกลงไปในบ่วงสวาทของ
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างศักดา
เธออาจจะสนใจในประกายตาสีเหล็กนั้น
แต่ตอนนี้ความอัดอั้นตันใจ
มันเกาะกินความรู้สึกนึกคิดของสาวสวยไปจนหมด
ทำให้คันธรสแค่กล่าวเสียงราบเรียบ
“ฉันมากับเสี่ยเซี้ยง....”
บุรุษร่างใหญ่ถือวิสาสนะทรุดนั่งลงตรงข้าม
ขณะที่คันธรสขยับกายอย่างอึดอัดกวาดมองไปรอบๆ
เกรงว่าเสี่ยเซี้ยงจะมาเห็น
ซึ่งคมศรหรือสิงห์ฉายาที่หมู่เพื่อนเรียกนั้น
กล่าวเสียงเคล้าหัวเราะอย่างอ่านสายตาของสาวสวยตรงหน้าออก
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ
เสี่ยเซี้ยงตอนนี้กำลังเพลินกับพรรคพวกอยู่”
คันธรสผ่านลมหายใจเบาๆ
หันมามองผู้ชายตรงหน้าเต็มตา
กล่าวถามว่า
“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ”
คมศรหัวเราะเบาๆ
จ้องไปยังดวงตาคู่งามของสาวสวยแล้วว่า
“พูดตรงๆ
ไม่อ้อมค้อมแล้วกัน...ผมมาชวนคุณไปกับผม...”
คันธรสอ้าปากค้าง
มองหน้าคนพูดแบบตะลึงงัน
ดูสีหน้าของคนที่พูดที่เรียบเฉย
ราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ
หญิงสาวอ้ำอึ้งๆ
อยู่นานอย่างไม่ทันตั้งตัว
จนกระทั่งใบหน้าสวยนั้นแดงระเรื่อ
ดวงตาวาวเพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดว่าเธอเป็นนางบริการที่คิดจะชวนก็ชวน...
คมศรโบกมือห้ามเมื่อเห็นริมฝีปากบางงามนั้นสั่นระริกกำลังโต้วาจาที่เผ็ด
ร้อนออกมา ยื่นหน้าไปใกล้ใบหน้างามชวนมองนั้น
กล่าวด้วยริมฝีปากที่เหยียดยิ้มเห็นฟันขาว
“ผมแน่ใจว่าคุณคงไม่ได้มากับเสี่ยเซี้ยงแบบเต็มใจ...”
คำพูดของชายหนุ่มราวกับมีดที่แทงลงไปกลางใจ
คันธรสชะงักวาจาที่ขยับจะโต้อย่างรุนแรง
เป็นโพล่งออกมาอย่างหวาดหวั่น
หรือเขาจะรู้อะไร....?
“คุณ..คุณ..หมายถึงอะไร...”
ดวงตาที่ราวกับกวางที่บาดเจ็บจากศรของนายพราน
มันส่งประกายพรั่นพรึงบางอย่างออกมาจนคมศรอ่านได้ชัดเจน
ชายหนุ่มกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“ก็ไม่ได้หมายถึงอะไร
ก็แค่คิดว่าคุณอาจจะจำใจอยู่ด้วยกับเสี่ยเซี้ยงด้วยเหตุบางประการ...”
ชายหนุ่มพูดจบก็ผุดลุกขึ้น
ยื่นมือออกมาส่งให้สาวสวย
กล่าวสำทับ
“ไม่ว่าอะไรที่ซ่อนอยุ่เบื้องหลังที่ทำให้คุณต้องจำใจอยู่กับเสี่ยเซี้ยง
ลองคิดดูดีๆ
ว่ามันคุ้มกับทั้งชีวิตของคุณที่จะต้องจมปลักอยู่กับคนแบบนั้นหรือเปล่า...”
คันธรสใบหน้าแดงและซีดสลับกัน
ก่อนจะร้องออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“บ้า..บ้า..คุณพูดอะไร..ฉัน..ฉันไม่มีอะไรทั้งนั้น...ที่มากับเสี่ยก็เพราะฉันเต็มใจเอง..เราเป็นแค่เพื่อนกัน..”
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ
ยักไหล่ว่า
“ผมคงไม่เสียเวลาพูดอะไรมากกว่านี้
ถ้าคุณตกลงใจไปกับผม
เราจะไปจากที่นี่คืนนี้...เดี๋ยวนี้”
มือใหญ่นั้นยื่นมาตรงหน้าของสาวสวยเป็นทีชักชวน
ซึ่งคันธรสใบหน้าซีดขาว
ผุดลุกขึ้น กล่าวเสียงสะท้าน
“คุณคงเมามาก...ไปให้พ้นนะ
แล้วไม่ต้องมายุ่งอะไรกับฉันอีก..”
หญิงสาวพูดจบก็รีบวิ่งผลุนผลันออกไปจากเลานจ์หรู
ซึ่งคมศรมองตามไปจนสุดร่างงามที่วิ่งหายไป
ก็ผ่อนลมหายใจยาว ยักไหล่
แบมือให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินช้าๆ
ออกไปอีกคน
............................................
หลังจากภาพยนต์เลิก
ศักดาก็ขับรถหรูพาฐิติพรรณไปยังผับแห่งหนึ่ง
พริตตี้คนสวยเป็นสาวสมัยใหม่
ใช้ชีวิตแพรวพราวไปกับการเที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูง
การเที่ยวผับดึกๆ
สำหรับเด็กสาวถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างมาก
โดยที่เรื่องที่สาวสวยอย่างเธอต้องระมัดระวังตัวเองในการเที่ยวกลางคืนนั้น
ฐิติพรรณก็เคยได้ยินมาหลายเรื่อง
และจำเอาไว้ไม่เคยประมาท
เด็กสาวไม่เที่ยวคนเดียวตามลำพัง
จะมากับเพื่อนเป็นก๊วนใหญ่เสมอ
และไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้ามาวอแวในกลุ่มก๊วนของตน
แต่คืนนี้เหตุการณ์ประจวบเหมาะ
อารมณ์ที่กรุ่นๆ
ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
ทำให้พริตตี้สาวสวยตัดสินใจมาเที่ยวต่อตามคำชวนของศักดาตามลำพังสองต่อสอง
อย่างไรก็ตาม
การที่ฐิติพรรณตัดสินใจดั่งนี้
ก็เพราะเด็กสาวมีความมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าคิดไม่ดีกับเธอ
“พี่ศัก..ใจดี๊ใจดี...ถ้าไอซ์เจอพี่รส..รับรองค่ะว่าจะพูดเชียร์ให้สุดใจเลย...”
เด็กสาวสวยกล่าวยิ้มๆ
คำพูดที่เอ่ยออกมาเสียงหวานเหมือนกับล้อๆ
นั้น เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ
แต่ศักดาก็อ่านสัญญาณเตือนแบบมีนัยที่ซ่อนอยู่นั้นออก
นึกในใจอย่างกระหยิ่ม
ไม่ต้องมาขู่ฉันหรอกคนสวย
เพราะฉันไม่แตะเธอแน่
แต่กับคนอื่น...ฉันไม่รับรองนะ..
ฮ่ะ ฮ่ะ
จิ้งจอกสวาทเปิดห้องคาราโอเกะวีไอพีที่มิดชิดเป็นส่วนตัวห้องหนึ่ง
ขณะที่ตัวเองเปิดเหล้า
ก็สั่งพันช์ผลไม้ให้กับพริตตี้คนสวย
ฐิติพรรณยกแก้วน้ำสีสวยขึ้นแตะริมฝีปากงามของตนเองจิบไปคำหนึ่ง
รสชาติน้ำหวานผสมแอลกอฮอล์ซ่านแก้มเป็นพวงใสนั้นจนแดงระเรื่อ
สาวสวยรับรู้ถึงอาการร้อนที่วูบขึ้นมาจับใบหน้า
แล้วใช้นัยน์ตาสวยส่งประกายล้อเลียนยั่วเย้าชายหนุ่ม
“เอ๊ะ...นี่พี่คัก..คงไม่คิดจะมอมพันซ์..ไอซ์..นะคะ...คิกคิก...”
ศักดารีบยกมือขึงขัง
กล่าวเสียงหนักแน่น
“โธ่
น้องไอซ์จ๋า อย่าล้อพี่เล่นอย่างนั้นสิ..”
พริตตี้สาวสวยหัวเราะคิกคิก
กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มๆ
แต่น้ำเสียงหวานมีร่องรอยของการยื่นคำขาด
“พรุ่งนี้ไอซ์ต้องไปเรียนนะคะ...คงดื่มไม่ได้มาก”
จิ้งจอกสวาทหัวเราะกระหยิ่ม
กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“แน่นอนจ้ะ
พี่จะไม่บังคับอะไรที่น้องไอซ์ไม่ต้องการทำแน่นอน..เชื่อพี่สิ..ถ้าน้องไอซ์บอกพอ..พี่ก็พอ
ดีไหมจ๊ะ”
ฐิติพรรณเอียงคอให้ยิ้มหวานอย่างน่ารัก
ยกแก้วน้ำสีสวยนั้นขึ้นจิบไปอีกหนึ่งคำ
กล่าวเสียงใส
“ดีค่ะ...พี่ศักน่ารักที่สุดเลย...”
เครื่องดื่มน้ำหวานรสร้อนแรงนี้ไม่ใช่เธอไม่เคยดื่มมา
พริตตี้สาวสวยรู้ความสามารถในการดื่มของตัวเองดีว่ามีจำกัดอยู่ที่กี่แก้ว
จึงไม่มีความกังวลอะไรนักในการที่จะยกน้ำสีสวยนั้นขึ้นจิบติดๆ
กันจนหมดแก้ว
ศักดาหัวเราะกระเส่า
ส่งสัญญาณออกไป
เครื่องดื่มสีสวยนั้นก็ถูกนำมาเสริฟอีกแก้ว
พริตตี้สาวสวยกรีดนิ้วงามยกแก้วขึ้นจิบ
ดวงตาคู่สวยมีประกายสนุกอย่างยั่วเย้า
ในเวลานั้น
โลหิตสาวสะพรั่งอันสมบูรณ์เปล่งปลั่งซ่านฉาบไปทั่วใบหน้าของฐิติพรรณที่แย้มยิ้มหวานจนงามจับตาจับใจ
………………………..
เวลาที่ผ่านไป
บรรยากาศในห้องกลมที่ปิดสนิทนั้นยิ่งเงียบ
จะมีก็แต่เพียงเสียงระบายลมหายใจออกมาจากการผ่อนคลายความอึดอัดนานๆ
ครั้ง เป็นระยะๆ เท่านั้น
จำนวนชิปที่ค่อยๆ
ถูกปล่อยลงไปกองสุมอยู่ตรงกลางกองเดิมพันนั้น
เพิ่มพูนจำนวนขึ้นจนทำให้คนที่รายล้อมรอบโต๊ะพนันโป๊กเกอร์นั้นรู้หายใจขัดๆ
เพราะจำนวนของเงินในกองนั้นมหาศาลนัก
ตอนนี้ที่โต๊ะกลมที่มีคนรายล้อมอยู่ห้าคนนั้น
มีหลงเหลือเพียงสองคนที่ยังถือไพ่อยู่ในมือ
คนหนึ่งคือเสี่ยเซี้ยงที่กำลังยกมือปาดเหงื่อตัวเองอย่างเคร่งเครียด
ชายหนุ่มที่นั่งด้านตรงกันข้ามคือคมศรที่ยังคงนั่งอย่างเยือกเย็น
แววตาสีเหล็กนั้นเป็นประกายอย่างสนุก
เบื้องหน้าของเสี่ยเซี้ยงตอนนี้วางไฟ่อยู่สี่ใบซึ่งเป็นดอกหัวใจสีเดียวกัน
ทั้งหมด ขณะที่อีกใบหนึ่งในมือนั้นคือคิงหัวใจ
ซึ่งจะทำให้เสี่ยโฉดได้แต้มฟลัช
ขณะที่ไพ่สี่ใบโต๊ะของคมศรแสดงตองห้าและอีกใบคือสี่ดอกจิก
ไพ่ใบสุดท้ายของชายหนุ่มวางคว่ำกับโต๊ะ
โดยที่มีนิ้วแข็งแรงของเขาซึ่งวางมือเคาะเป็นจังหวะๆ
เบาอยู่บนหลังไพ่
สีหน้าสงบดูไม่ออกว่าชายหนุ่มร่างสูงผู้นี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่
ในเวลานี้เสี่ยเซี้ยงต้องตัดสินใจว่าจะสู้หรือไม่
ถ้าจะสู้ขอเปิดไพ่
ก็เท่ากับว่าต้องเทชิปทั้งหมดที่มีอยู่ตรงหน้าตัวเองลงไปในกองเดิมพันเพื่อ
สู้
ซึ่งจำนวนเงินมหาศาลที่อยู่ภายใต้การตัดสินใจเพียงชั่วแล่นนี้สร้างความอึด
อัดให้กับเสี่ยโฉดจนเหงื่อแตกพล่าน
ทั้งๆ ที่ภายในห้องติดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ
มือหยาบหนาของเสี่ยเซี้ยงสั่นระริก
มองไปที่ดวงตาประกายเหล็กนั้น
หนุ่มใหญ่ไม่สามารถจับเค้าอะไรได้เลย
คิ้วหน้าของคมศรเลิกขึ้น
รับกับนัยน์ตาที่เปล่งประกายสนุกนั้น
ราวกับจะยั่วออกมาดังๆ ว่า
จะสู้หรือไม่สู้ ไม่สู้ก็หมอบไป
ไอ้เหี้ยสิงห์มันบลัฟ
มันต้องบลัฟกูแน่นอน...
เสี่ยโฉดคำนึงในใจอย่างงุ่นง่าน
กิตติศัพท์ของชายตรงหน้าในการเก็บอาการและจัดการบลัฟเอาชนะคู่แข่งไพ่เหนือ
มือกว่ามามากต่อมากนั้นเป็นที่เลื่องลือกันทั่ว
เสี่ยเซี้ยงครุ่นคิดหนัก
ลังเลอยู่เนิ่นนาน
ก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้
“เสี่ยครับ...”
เสียงเตือนอย่างเกรงใจจากคนแจกไพ่ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของคลับ
เสี่ยโฉดหันมาทำตาลุกวาวใส่อย่างดุร้าย
ก่อนจะหันมาเขม้นมองหน้าของคมศรอีกครั้ง
และสบถพึมพำในลำคอ
ตัดสินใจผลักมือดันชิปตรงหน้าออกไปจนหมด
ร้องดังๆ
“ขอดูไพ่”
พร้อมกับทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของตัวเองลงไป
เสียงพึมพำดังขึ้นมารอบๆ
ทันทีเพราะมันเป็นแต้มฟลัชที่มีโอกาสกินรวบเดิมพันจำนวนมหาศาลที่กองอยู่
กลางโต๊ะสูงเหลือเกิน
คมศรแย้มยิ้มออกมาจนเห็นฟันขาว
ซึ่งรอยยิ้มของชายหนุ่มนั้นเหี้ยมเกรียมราวกับสัตว์ร้าย
เมื่อพลิกไพ่ใบสุดท้ายที่คว่ำอยู่ตบหงายลงกับโต๊ะเสียง
ฉาด ดังสดใสกังวาน
เสียงฮือฮา
ดังกระหึ่มห้อง เสี่ยเซี้ยงอ้าปากค้าง
มองไพ่สี่โพธิ์ดำที่หงายอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เบิกโพลง
ร่างใหญ่กำยำของเสี่ยโฉดหมดแรงทิ้งตัวไปกับพนักพิงของเก้าอี้
ไหล่หนาคดคู้ราวกับไก่ชนที่สู้แพ้นั้นแสดงออกถึงอารมณ์แห่งความผิดหวังอย่าง
โจ่งแจ้งชัดเจน
“ตองห้า
คู่สี่ ฟูลเฮ้าส์ มือสองชนะ”
หลังจากเสียงเจ้าหน้าที่แจกไพ่ขานแต้มดัง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วห้อง
ผสานไปกับเสียง วู้ววๆ
ของคนบางคนที่สนิทสนมกับคันศรเป็นพิเศษ
ชายหนุ่มหน้าคร้ามคมผุดลุกขึ้น
ผงกศีรษะไปรอบๆ
โดยเฉพาะนิ่งให้กับเสี่ยเซี้ยงครู่หนึ่งราวกับเป็นการบอกขอบคุณเป็นพิเศษ
จากนั้นหยิบชิปเหรียญหนึ่งมูลค่าห้าพันโยนดีดส่งให้กับคนแจกไพ่เป็นค่าทิป
“น้องชายช่วยจัดการกับชิปให้พี่ที”
เจ้าหน้าที่นั้นรับชิปเอามาไว้จนมือสั่น
โค้มตัวลงให้กับคมศรจนศีรษะแทบจรดพื้นอย่างนอบน้อม
เสียงปรบมือยังดังไล่หลังขณะที่คมศรเดินออกไปจากห้องด้วยใบหน้าราบเรียบ
หากแต่มีรอยยิ้มที่มุมปาก
ขณะที่ดวงตานั้นเป็นประกายโชน
ห้องลับที่เมื่อครู่แออัดด้วยคนค่อยสลายๆ
ตัวไปจนเกือบโล่งห้อง
คนรู้จักของเสี่ยเซี้ยงหลายคนเดินมาตบบ่าหนาของเสี่ยโฉดเป็นเชิงปลอบใจ
ก่อนจะพากันเดินออกไป
ทิ้งให้เสี่ยโฉดนั่งระงับอารมณ์อยู่ครู่ใหญ่
ค่อยกัดฟันลุกขึ้น
ฝากไว้ก่อนเหอะ
ไอ้เหี้ยสิงห์
เสี่ยเซี้ยงคำรามในใจ
พอเดินออกมาตามทางได้พักหนึ่งก็สวนกับคันธรสที่เดินมาหา
สีหน้าแววตาของเสี่ยโฉดนั้นถมึงทึง
จนสาวสวยต้องอดถามไม่ได้
“เสี่ยเป็นอะไรไปคะ
หรือว่าตกลงการเจรจาธุรกิจไม่ได้”
มาถึงตอนนี้สาวสาวยยังหลงนึกว่าเสี่ยเซี้ยงมาติดต่อธุรกิจจริงๆ
หลังจากที่เธอผละหนีคมศรไป
คันธรสก็หมดเวลาช่วงใหญ่ไปกับบริการนวดตัวนวดเท้าจนร่างกายที่อิดโรยนั้น
สบายขึ้นมาก ซึ่งเธอกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆ
เพลินๆ อยู่ก็เห็นคนกลุ่มใหญ่ทยอยเดินออกมา
จึงคิดว่าการเจรจาธุรกิจคงเสร็จแล้ว
และเดินสวนกลับไปหา
เสี่ยเซี้ยงที่งุ่นง่านในใจจนแทบกระอัก
มองไปที่ใบหน้าสวยบาดตาของคันธรส
แล้วแสยะยิ้มในหน้า
หัวเราะกระเส่าในใจ
ไม่ว่ากูจะเสียไปแค่ไหน
ก็ไม่เห็นเป็นไร
รีดคืนจากอีไฮโซคนสวยนี้ก็ได้แหล่ะว้า..ฮ่า
ฮ่า
ผิวกายขาวเปล่งปลั่งตรงหน้าสะกิดสันดานดิบของเสี่ยโฉด
ซึ่งแย้มยิ้มอย่างกระหายหิว
ฉวยข้อมือบางของคันธรสเดินแยกไปในอีกทิศทางหนึ่งซึ่งเป็นมุมลับๆ
ของแขกพิเศษ
ที่ผู้มาใช้บริการรู้ดีว่าเป็นที่ไปรเวทของใครบางคนที่ต้องการที่เงียบๆ
เพื่อปลดปล่อยอารมณ์
อีกครู่หนึ่ง
เสียงสวบสาบ
เสียงครางครวญดังแผ่วสะท้านแว่วออกมาจากมุมลับนั้น
“เสี่ยขา.....อี๊ยยยยย์...อย่าค่ะ...เดี๋ยวมีคนมา..เห็น…อุ๊ยยยยย...ซี๊ดดดดด”
“หึ
หึ ไม่ต้องห่วงที่รัก
ไม่มีใครมาหรอก....อูวววววว...ผิวของคนมันช่างเนียนจริงๆ
ขาวสวยไปหมด...ผมหลงคุณไปทั้งตัวรู้ไหมคนสวย....”
“อื้ออออ...ซี๊ดดดด..ยะ..อย่า...ค่ะ...รส..อาย...เรา..อี้ยยยย...กลับไปก่อน..ไม่ดีกว่าหรือคะ...อี้ยยยยย..ซี๊ดดดด”
“อายทำไมที่รัก
ผมบอกแล้ว
ไม่มีใครมาขัดจังหวะสุขของเราหรอกน่า....อึ้มมมมม..ซ๊วบบบบ.หึหึ..ซ๊วบบบ..
อึ้มมมมมม..ดีจัง....นมที่รักมันเต็มมือดีจริง..ผมชอบ....”
เสียงสวบๆ
ติดตามมาด้วย เสียงครางเบาๆ
และเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
อื้อออ อื้อออ อื้ออออ
อื้ออออ...สะ..เสี่ย..ขา..อาวววว...ยะ..อย่า...รส...อี้ยยยยย์
จากนั้นเสียงดัง
พั่บ พั่บ พั่บ
ก็ตามติดมาพร้อมกับเสียงหัวเราะกระเส่าและเสียงครางครวญอย่างเสียวซ่าน
ในตอนนั้น
หน้าบริเวณมุมลับนั้นไม่มีใคร
เนื่องเพราะร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่เมื่อครู่เดินผละออกไปแล้ว
..............................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น