ขายของ
วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556
รักยม ตอนที่ 33 ทางเลือก
--------------------------------------------
ในห้องพักฟื้นคนไข้ ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองหลวง
เก่งหนุ่มบ้านนาขยับร่างกายแข็งแรงกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อขึ้นทาบทับร่างของฝ้ายที่นอนแผ่หราอ้าสองขาออกรับการจู่โจม สีผิว
ดำแดงจากการกรำแดดและฝนของเขา ตัดกันกับเรือนร่างสีขาวโพลนราวหิมะของฝ้ายพยาบาลสาวสวยอย่างไม่น่าเข้ากันได้อย่างที่สุด หากแต่
เวลา นี้สองร่างเปลือยเปล่านั้นกลับประกบชิดกันแนบแน่นราวกับแม่เหล็กขั้วตรงข้าม ที่ส่งแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างรุนแรง เก่งก้มหน้าก้มตาฟอน
เฟ้นซุกไซร้ใบหน้าไปทั่วใบหน้าและซอกคอขาวเนียนของฝ้ายอย่างหลงไหลในมนต์สะกดแห่งเสน่ห์สาว เขาบดจูบลงไปขณะที่ฝ้ายหลับตาปี๋
ไม่กล้ามองหน้าชายที่กำลังตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอ แต่สองแขนที่กอดรัดคอของเก่งจนแน่น ก็บ่งบอกถึงความต้องการของเธอได้
เป็นอย่างดี เก่งขยับเอาปากไปประกบริมฝีปากเรียวสวยนั้นจนแนบแน่น สองคนดูจะแลกสอดลิ้นพัวพันไปมาอย่างดูดดื่ม สองเต้าขาวอวบของ
เธอโดนกล้ามเนื้อหน้าอกของเก่งบดใส่จนบี้แบนเหมือนลูกโป่งที่กำลังจะแตกออก สองมือของเธอปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังกำยำนั้นอย่างเร่าร้อน
ในความเสียวที่ได้รับ
ท่อนควยร้อนผ่าวแข็งทื่อราวท่อนไม้ วางนาบไปตามร่องของโคกโหนกนูนขาวสะอาดอย่างเหมาะเจาะ ลำควยสีดำมะเมื่อมบดเบียดถูไถกับ
กลีบเสียวแบบเนื้อต่อเนื้ออย่างแนบแน่น ทุกครั้งที่เค้าขยับตัวติ่งแตดของเธอก็จะโดนบดบี้เสียดสีจนเธอถึงกับต้องสะดุ้งตัวร้องครวญคราง
ทุกครั้งที่เก่งขยับตัวไปมา
"อืออออ อืออออ" ฝ้ายร้องครวญครางส่งเสียงฟืดฟาดในลำคอ เธอคงกำลังเสียวซ่านอย่างที่สุด กริยาอาการทางร่างกายที่แสดงออกมามันชัดเจน
ยิ่งนัก เรือนกายขาวโพลนส่ายเด้งระริกตามจังหวะเสียว เอวคอดกิ่วส่ายร่อนไหวโยกบดเนินเนื้อกับท่อนควยที่พาดเบียดกลีบเสียวอยู่เต็มร่อง
อย่างกระสันร่าน อาการตอบสนองต่อความเสียวของเธอทำเอาผมที่มองดูอยู่ยิ่งรู้สึกเงี่ยนรุนแรงขึ้นไปอีก
เก่งบดพรมจูบไปมาครู่ใหญ่จนเค้าพอใจ ก็ยันตัวลุกขึ้นมายืน แล้วใช้มือผลักท่อนขาเรียวของฝ้ายให้แยกออกจากกันจนสุด ท่อนควยสีดำเมื่อม
ผงก หัวหงึก ๆ อย่างตื่นเต้น เมื่อเจอกับร่องเสียวขาวสะอาดที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนใส ๆ กลีบเสียวของเธอแทบจะไม่มีร้อยช้ำแม้แต่น้อย
ถึงจะเคยผ่านเกมรักกับผมมาหลายรอบแล้วก็ตามที ฝ้ายก้มหน้าลงไปมองที่เบื้องล่างของตัวเองอย่างประหวั่นพรั่นพรึง ภาพท่อนเอ็นยาวใหญ่
ที่เตรียมตัวอัดกระหน่ำเข้าไปในร่องหลืบของเธอคงทำเอาเธอสับสนไปด้วยความกลัว และความต้องการไปพร้อมกัน
" อื๊ออออ" ฝ้ายสะดุ้งตัวร้องครวญครางเบา ๆ สองมือของเธอจิกกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ เมื่อเก่งจัดวางท่อนควยที่แข็งเกร็งของเขาจิ้มเข้าไปที่ร่องรู
เสียวอัน เปียกเยิ้มฉ่ำของเธอ ปลายหัวบานสีดำคล้ำจิ้มจิ้ก ๆ ไปทั่วร่องหลืบที่ชุ่มฉ่ำจนฝ้ายบิดตัวไหวไปมา เธอกำลังจะโดนท่อนควยท่อนที่สอง
ในชีวิตชำแรกเข้าไปในร่องหลืบของเธอในไม่ช้า โดยมีผมนอนมองตาปริบ ๆ ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย อารมณ์ตอนนี้จะเรียกว่าหวงก็ใช่ แต่ง
อีกใจก็รู้สึกกระสันอยากเห็นพยาบาลสาวสวยคนนี้ร้องครวญครางเวลาโดนคนอื่นกระเด้าอัดท่อนเอ็นใส่อยู่เหมือนกัน ผมอยากรู้ว่าเธอจะเป็นยัง
ไงเวลาต้องตอบสนองกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม
..............
"อูยยย" ผมร้องครางเบา ๆ ความเสียวแปลบที่ลำควยของผมทำเอาผมต้องหันหน้ากลับมามองสาวสวยที่กำลังร่อนกระแทกเนินเสียวใส่ร่างผมอยู่
" อืออออ ผัวจ๋า เมียเสียว ใหญ่สะใจดีจัง" ปูสาวสวยร่างเล็กที่โดนผีสาวหรืออะไรซักอย่างสิงสู่อยู่นั้นช่างมีลีลารัก ที่เจนจัดซะเหลือเกิน ราวกับว่า
เธอนั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น เธอห่อไหล่ร้องครางอย่างกระสันเสียว สะบัดหัวไปมาจนผมสลวยสะบัดไหวราวกับสาวโคโยตี้ที่กำลังเต้นรูดเสา
เธอเร่งโยกสะโพกงอน ๆ เด้งอัดเข้าใส่ผมเร็วแรงและถี่ยิบอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนเตียงนอนคนไข้สั่นกระตุกไหวดังเอี๊ยดอ๊าดราวกับจะพังลงไป
เนื้อหน้าอกขนาดเต็มไม้เต็มมือเด้งสะท้อนไปมาอย่างน่าหวาดเสียวว่ามันจะเด้งหลุดออกมาซะให้ได้ ความจริงแล้วปูสาวสวยคนนี้ก็มีเสน่ห์ไม่
เลวเลยทีเดียว เข้าข่ายขาวสวยเอ็กซ์เซ็กส์จัด แม้จะตัวเล็กตามแบบฉบับสาวไทยแท้ แต่เรือนกายของเธอมันช่างอวบอัดเต่งตึงเกินตัวจริง ๆ
หากเป็นไปได้ผมอยากจะเล่นรักกับตัวเธอจริง ๆ โดยไม่ต้องสยองกับผีสาวตนนี้ได้คงจะดี
"ซี้ดดดดสสสส" ผมเองก็ได้แต่ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านที่ได้รับจากการตอดรัดอันแนบแน่นของเนินเนื้อฟิตคับนี้ มันแนบแน่นราวกับ
เป็นเครื่องดูดแรงสูงที่ต้องการจะดูดทุกอย่างของผมออกไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเงี่ยน ท่อนควย และไม่เว้นแม้แต่จิตวิญญาณ ผมน่ะช่างมัน
เหอะ แต่ผมต้องช่วยฝ้ายก่อน รักยม รักยมล่ะ ช่วยพ่อด้วยผมร้องเสียงดังลั่นในใจเรียกหารักยมลูกรัก ว่าแต่รักยมหายไปไหนล่ะเนี่ย คงไม่ใช่
ว่าแพ้อิทธิฤทธ์ของผีสาวซะแล้วนะ หากเป็นอย่างนี้แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ คงจะไม่พ้นมีสภาพเหมือนไอ้หมอหนุ่มคนนั้นที่โดนสูบพลังไป
ซะจนเหือดแห้งขนาดนั้น ขณะเดียวกันผมก็กำลังลุ้นระทึกมองดูท่อนควยอวบใหญ่สีดำคล้ำของนายเก่งกำลังบดเบียดแนบแน่นอยู่กับร่อง
หลืบขาวสะอาดของฝ้ายพยาบาลสาวสุดสวยอย่างเชื่องช้าด้วยใจระทึก ท่อนควยลำเขื่องขยับตัวโยกไปมาเสียดสีกับติ่งแตดไปตามความยาว
ของมัน น้ำรักของฝ้ายหลั่งออกมาชะโลมใส่ท่อนควยนั้นจนเป็นสีดำที่มันปลาบราวกับแท่งโลหะ
"ซี้ดดดดสสสสส" ฝ้ายร้องละเมอแอ่นสะโพกรับ ความเสียวจากท่อนเอ็นที่กำลังถูไถไปมากับติ่งเสียวของเธอ ดูเธอกำลังอยากจะได้มากกว่านั้น
"อื๊ออออ" ฝ้ายละเมอครวญครางกัดเม้มปากตัวเองแน่น เมื่อท่อนเอ็นดุ้นใหญ่กำลังเริ่มกดอัดตัวฝ่าแรงป้องกันของกลีบเสียวที่ฟิตแน่นเข้าไป
แล้วตามแรงกดเอวของนายเก่ง ตอนนี้ผมเห็นปลายหัวหยักของเก่งมันเริ่มมุดเข้าไปในร่องรูของฝ้ายได้แล้ว เธอตวัดแขนเกี่ยวรัดรอบคอของ
เก่งที่กำลังไล่พรมจูบใส่ซอกคอขาว ๆ อันน่าหลงไหลของเธอไว้จนแนบแน่น สองเต้าขาวอวบที่มีรอยจ้ำสีแดง ๆ เป็นรอยมือและรอยกัดเบา ๆ
ของ ผมเหลืออยู่โดนมือหยาบใหญ่นั้นกำลังบีบเคล้นคลึงอย่างมันส์มือ ยิ่งมองผมก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความอิจฉา หึงหวงและเร้าใจที่แล่นพล่านอยู่ภาย
ในใจอย่างรุนแรง
" ผัวจ๋าาาา สนใจเมียหน่อยซิจ๊ะ อูยยยย ซี้ดดสสส" ผีสาวในร่างของปูโน้มตัวลงมาจูบไซร้ไปทั่วใบหูผม ลิ้นนุ่มชื้น นั้นตวัดเลียแหย่แยงเข้าไปใน
รูหูจนผมเสียวซ่าน โดยที่สะโพกของเธอยังคงส่ายร่อนอัดร่องหลืบใส่ท่อนเอ็นของผมไม่หยุด ผมรู้สึกราวกับว่าโพรงเสียวของเธอยิ่งตอดรัด
ผมแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูท่าเธอเองคงจะใกล้ถึงจุดสุดยอดกับผมแล้ว และผมเองก็ใกล้จะแตกแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เอานะ ผมต้องต่อต้านเธอ
ให้ถึงที่สุด ผมจะไม่ยอมให้ผีสาวตนนี้ได้สิ่งที่เธอต้องการ ผมพยายามกัดฟันทนความเสียวซ่านจากร่องเสียวที่ตอดยิบ ๆ ไม่หยุดจนแทบคลั่ง
ก็ มันทั้งเสียว และตื่นเต้นที่ได้เห็นฝ้ายกำลังจะโดนคนอื่นยัดเยียดความเป็นผัวให้ แถมยังมีอารมณ์หึงหวงที่แล่นพล่านอยู่อีก เรียกว่าทุกอารมณ์
ตีกันมั่วไปหมดจนผมอธิบายไม่ถูกแล้ว ให้ตายซิ
"อูยยย ผัวคนนี้ทนดีจริง ๆ รีบ ๆ แตกใส่เมียได้แล้ว เมียเสียว" ผีสาวร้องครวญครางอย่างร่านสวาท แต่ผมไม่ยอมเธอง่าย ๆ หรอก
" พ่อจ๋าไม่ต้องอั้นนะ ใส่ให้เต็มที่เลย" เสียงรักยมหวีดหวิวเบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน ทำเอาผมรู้สึกงงเล็กน้อยกับสิ่งที่พวกเค้าอยากบอก แล้ว
ทำไมเอาแต่พูดไม่ยอมออกมาช่วยผมล่ะเนี่ย ผมพยายามหาเหตผลแต่ด้วยความเสียวที่มีอยู่มันทำให้หัวไม่แล่นเอาซะเลย จะคิดอะไรให้มาก
มาย นักยังไงผมก็เชื่อใจเด็กน้อยทั้งสองคนนี้อยู่แล้วนี่นา ตามใจเค้าล่ะกัน และอีกอย่างตอนนี้ในหัวผมมีแต่ความเงี่ยนที่จะต้องทำให้ตัวเองเสร็จ
ให้ ได้เท่านั้น จึงลืมให้ความสนใจฝ้ายที่กำลังจะโดนนายเก่งชำแรกสวาทอยู่ข้าง ๆ ไปเลย สองมือของผมเอื้อมขึ้นไปตะปบจับที่เนื้อก้นขาว ๆ
ของเธอจนแน่น แล้วกดดึงเข้าหาตัว พร้อมกับออกแรงแอ่นเอวดันสวนรับแรงกระแทกของปูที่อัดลงเอาร่องหลืบลงมา การทำแบบนี้ทำให้ท่อน
ควยยาว ๆ ของผมยิ่งอัดเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิมซะอีก จนใบหน้าของสาวสวยร่างเล็กบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่านสุด ๆ
" ไม่ไหวแล้ววว ผัวขาาา โอ้ยยยย ซี้ดสสสส" สาวสวยกรีดร้องลั่นหลังจากที่โหมกระหน่ำซอยเอวใส่ผมอยู่พักใหญ่ เล็บมือของเธอจิกเนื้อไหล่ของ
ผมแน่น จนรู้สึกได้ว่ามันกดจิกลงไปในเนื้อจนเป็นแผลสีแดงเล็ก ๆ เธอหยุดร่อนส่ายเอวใส่ผมแล้ว แต่ร่องหีของเธอกลับยิ่งออกแรงตอดรัดลำ
ควยของผมถี่กระชั้นอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนผมสุดจะทานทน ต้องแอ่นเอวกระดกอัดเอาท่อนควยใส่ร่องหลืบเธออีกสี่ห้าครั้ง ก่อนจะแอ่นสวน
สุด แรงเป็นครั้งสุดท้ายเข้าไปจนมิดด้าม น้ำเงี่ยนขาวขุ่นไหลทะลักฉีดเข้าไปเต็มร่องหลืบของเธออย่างไม่มีการอั้นไว้ อีกต่อไป มันเยอะมากจน
ไหลย้อยทะลักออกมาตามขอบรูเสียวเป็นฟองฟอด ให้ตายซิมันเสียวดีจัง เอ้าผมทำตามที่รักยมบอกแล้ว แล้วยังไงต่อล่ะ แต่ราวกับว่าผีสาวตน
นี้ ไม่รู้จักพอแม้แต่นิดเดียว เธอหยุดรับความสุขเพียงชั่วครู่เดียวก็เริ่มโยกสะโพกเบา ๆ ร่อนกระแทกเอวใส่ผมอีกแล้ว นี่กะจะเอาให้ฟ้าเหลือง
เลยหรือไงเนี่ย
"อะ อ๊าาาา" ผมหันไปมองตามเสียงของฝ้ายที่ร้องลั่นด้วยความเสียว ตัวเธอกระตุกเบา ๆ เมื่อปลายหัวบานของนายเก่งตอนนี้แหวกทะลวงกลีบ
เสียว เข้าไปได้แล้ว ท่อนเนื้อสีดำคล้ำสอดแยงเข้าไปในร่องหลืบขาว ๆ ได้เกือบจะครึ่งลำแล้ว เธอหันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลัง
ร้องขอความช่วยเหลือ หยดน้ำตาใส ๆ เอ่อคลอสองตา แม้ร่างกายของเธอจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างร้อนแรง แต่ดูเธอไม่ยินดีนักที่จะต้องโดน
อะไรแบบนี้ เธอเอื้อมมือนุ่มๆ ของเธอมาบีบกำแขนของผมจนแน่น ความร้อนผ่าวของร่างกายและอารมณ์ของเธอถ่ายทอดมาสู่ผมผ่านปลาย
นิ้ว เรียว ๆ นั้น จนผมเริ่มรู้สึกตัวได้ขึ้นมา ผมต้องช่วยเธอเดี๋ยวนี้แล้ว ไม่ใช่มัวแต่อยากดูเธอโดนคนอื่นสมสู่ ตอนนี้เหมือนกับเมฆหมอกสีดำ
มืดที่ปกคลุมมโนสติของผมโดนปัดเป่าหายไปจนหมด สติของผมกลับมาแจ่มใส และรู้สึกเหมือนร่างกายกลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้งหลังจากที่
ควบคุมไม่ได้มาช่วงหนึ่ง สองแขนของผมยกขึ้นจับที่ไหล่ของร่างปูที่กำลังขย่มใส่ท่อนเอ็นผมอย่างเมามันส์ แล้วผลักออกไปเต็มแรง
" ว้ายยย" ผีสาวในร่างน้องปูหวีดร้องลั่น เมื่อโดนผมผลักไหล่อย่างแรงโดยที่ไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ร่องหลืบของเธอที่กำลังตอดรัดท่อนเอ็นอย่างเมา
มันส์หลุดออกจากท่อนควย ที่อัดอยู่แน่นเสียงดัง พล๊อก ร่างบอบบางเล็ก ๆ ที่กำลังเพลิดเพลินกับการขย่มตออย่างเมามันส์นั้นพลันหงายหลังล้ม
กลิ้ง ลงจากเตียงนอนไปตามแรงผลักของผม ผมรีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองไปทางฝ้ายเห็นเธอกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกัดปากตัวเองแน่น เมื่อร่องหลืบ
ขาว ๆ ของเธอโดนท่อนควยของเก่งเบียดเสียดอัดเข้าไปในด้านในจนเกินครึ่งลำแล้ว ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอื้อมมือไปทางเก่ง กะจะออกแรง
ผลักเค้าออกไปจากฝ้ายผู้หญิงของผม แต่ ...
" มึง หลุดจากมนต์สะกดของกูได้ยังไง" ผีสาวในร่างปูลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เธอร้องตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความเคียดแค้นเดือดดาล แววตาของ
เธอเป็น ประกายสีเขียวเจิดจ้าเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด ตัวผมกระตุกอย่างแรงและสะดุดกึกทันทีที่หันไปมองดวงตาสีเขียวเข้มนั้น ร่างกายไร้
ความรู้สึกและไม่สามารถสั่งการใด ๆ ได้อีกครั้ง ให้ตายซิ นี่ผมโดนสะกดอีกแล้วเหรอเนี่ย แล้วผมจะช่วยฝ้ายได้ยังไงกันล่ะ
" ฮิ ฮิ นึกว่าแน่ ยังไงก็แพ้เมียอยู่ดี เรามามีความสุขกันดีกว่านะผัวจ๋า มีความสุขกันจนตายเลย ฮิ ฮิ" เมื่อเธอเห็นผมโดนมนต์สะกดจนตัวแข็งทื่อ
ก็ยิ้มร่าหัวเราะเสียงแหลมอย่างชอบอกชอบใจ เสียงของเธอฟังดูเยือกเย็นสยดสยองซะเหลือเกิน
"หวงอีนังนี่มากนักใช่มั้ย งั้นก็ดูมันโดนผู้ชายคนอื่นเย็ดล่ะกันนะ" เธอพูดพลางเดินเฉิดฉายเอาร่างเปลือยเปล่านั้นมากอดผมอย่างแนบแน่น
แม้ว่าเนื้อตัวเธอจะร้อนผ่าวด้วยอารมณ์ร่าน แต่สำหรับผมแล้วกลับรู้สึกว่าสัมผัสนั้นช่างเย็นเยียบสยดสยองชวนให้ขนลุกซะมากกว่าอารมณ์
กระสัน เธอเยิ้มเยาะพร้อมใช้มือผลักหน้าผมให้หันไปมองทางฝ้ายราวกับต้องการจะเย้ยหยันว่าผมคงได้แต่มองและช่วยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
"ซี้ดดสสสสส อือออออ" ฝ้ายหลับตาปี๋ มันช่างขัดแย้งกันเองซะเหลือเกิน เมื่อหยดน้ำตาใส ๆ ไหลปริ่มออกมาจากขอบตาทั้งสองข้างแสดงออกถึง
ความไม่สมยอม แต่ในขณะเดียวกันเธอก็แหงนหน้าเริ่ดร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านไม่ขาดปากไปพร้อมกัน เมื่อโดนท่อนเอ็นสีดำเมื่อม
ของเก่งกดเสียบเข้าไปจนเกือบมิดด้าม พร้อมกันนั้นสะโพกของเธอแอ่นร่อนขึ้น สองขาขาวเรียวตวัดรัดเอวของเก่งไว้แน่น แม้ว่าหัวใจเธอจะ
ไม่ต้องการ แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอเริ่มจะยอมแพ้ให้กับรสเสียวที่ได้รับซะแล้ว
"โอยยยยย " เก่งเองก็ร้องครางออกมาเสียงหลง เค้าคงกำลังอดกลั้นกับความเสียวจากการตอดรัดอย่างรุนแรงของร่องสวาท สองเต้าของฝ้ายโดน
เค้าบีบบี้อย่างแรงจนบิดเบี้ยวไปมา ราวกับต้องการจะระบายความเสียวซ่านที่ได้รับออกไปบ้าง
"รักยม ไม่ไหวแล้วนะ ออกมาช่วยพ่อเร็วเข้า รักยม" ผมพยายามร้องตะโกนออกมาสุดเสียง แต่กลับไม่มีเสียงออกมาจากลำคอแม้แต่น้อยนิด
ตอนนี้ผมแอบทำใจรับสภาพไว้แล้ว ผมคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้อย่างแน่นอน ที่ทำได้ก็เพียงแต่มองดูเธอคนนี้โดนชายอื่นสมสู่แบบเต็ม ๆ ตา
เท่านั้น .... แต่ .... เหมือนผมยังมีโชคอยู่บ้างเมื่อได้ยินเสียงรักยมดังขึ้นอีกครั้ง
"รักยมจัดให้" เสียงเด็กน้อยสองคนแว่วดังมา คราวนี้เสียงของพวกเค้าชัดเจนกว่าครั้งแรกที่เบาเหมือนเสียงกระซิบจนแทบไม่ได้ยินมากนัก
" อึ๊กก มึง มึงทำอะไรกู ... อึก .. โอย" อยู่ดี ๆ ร่างที่ผีสาวยึดครองก็สั่นกระตุกเฮือก ๆ อย่างแรง แววตาสีเขียวจ้าจนแสบตาเมื่อครู่นี้เริ่มหรี่ดับวูบ
ลงไปเรื่อย ๆ จนเห็นดวงตาสีดำสวยของปูสาวบ้านนาได้อย่างชัดเจน เธอเอาสองแขนกอดอก จิกแขนของตัวเองอย่างแรง ขณะที่เนื้อตัวกำลังสั่น
เทิ้มอย่างหนัก สองขาของเธอสั่นระริก ๆ ราวกับจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป
" อะ ไอ้เด็กสองคนนี้ ... พวกมึงเข้ามาได้ยังไง ออกไป ... อย่านะ พวกมึงอย่ามายุ่งกับกู ... กะ กรี๊ดดดดดด" ผีสาวเบิกตาโพลงราวกับเห็นสิ่งที่
น่าหวาดกลัวบางอย่าง เธอกรีดร้องเสียงแหลมดังลั่นอย่างโหยหวน ก่อนที่จะหลับตาลง และหมดสติ ปล่อยให้ร่างบอบบางของปูหล่นฮวบลงไป
อย่างไร้การควบคุม ผมรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงไปฟาดกับพื้นโดยไม่ต้องคิด
" เอ่อ ... คุณ ๆ " ผมประครองเรือนร่างนุ่มนิ่มเปลือยเปล่าไว้อย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะพยายามเขย่าร่างของเธอเบา ๆ ผมไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่นัก
แต่ดูเหมือนว่ารักยมจะทำอะไรซักอย่าง จนผีสาวนั้นหมดฤทธิ์ไปแล้ว และทำให้เนื้อตัวเธออ่อนปวกเปียกไร้การควบคุม เธอหลับตาพริ้ม หายใจ
แผ่ว เบาสม่ำเสมอเหมือนกำลังหลับลึก ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมความงามของสาวบ้านนาคนนี้อย่างเต็มตา เพราะที่ผ่านก็มัวแต่กลัวผีสาวอยู่ ใบหน้า
สวยหวานของเธอก็น่าหลงไหลใช่ย่อย ริมฝีปากบางเผยออ้าออกเล็กน้อยจนเห็นไรฟันขาว เนื้อตัวนุ่มนิ่มแต่ร้อนผ่าวที่อยู่ในอ้อมกอดของผมก็
เป็นสิ่งกระตุ้นเร้าอารมณ์กำหนัดได้เป็นอย่างดี จนท่อนเอ็นของผมกระดกหงึก ๆ เบา ๆ ดูเธอในตอนนี้ก็เป็นสาวสวยมากคนนึงทีเดียว ด้วยความ
หลงไหลผมก้มหน้าลงไปบดจูบกับริมฝีปากที่ไร้ลิปสติคแต่งแต้มนั้นอย่างรุนแรงและดูดดื่มโดยไม่รู้ตัว รสชาติหอมหวานของเรียวปากบางสวย
นั้นทำเอาผมรู้สึกสะใจเล็ก ๆ จนลืมไปเลยว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหนอยู่
" อือออ คะ คุณเก่ง อย่าค่ะ อูยยย หยุดเถอะนะ" เสียงแหบแห้งของฝ้ายที่อยู่ด้านหลังผมดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้ผมรู้สึกตัว เธอเองก็คงจะหลุด
จากอำนาจควบคุมเหมือกับผม เมื่อผมหันมามองก็เห็นฝ้ายกำลังใช้สองมือผลักหน้าอกของเก่งออกเพื่อให้หยุดการกระทำ หน้าของเธอนิ่วขมวด
ด้วยความเสียวซ่านจากท่อนเอ็นลำอวบใหญ่ ที่ยังคงปักคาอยู่ในร่องหลืบฟิตคับนั้นอย่างน่าเสียวไส้
" คุณฝ้าย ... อุ อูยยย " เก่งร้องครางออกมาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ไม่รู้เหมือนกันว่าชายหนุ่มคนนี้จะรู้สึกดีใจหรือเสียใจที่หลุดพ้นจากการ
โดนควบคุมจากผีสาว เพราะหากเค้าโดนควบคุมต่อไปอีกซักพัก ก็คงจะได้ลิ้มรสสวาทของพยาบาลสาวสุดสวยคนนี้อย่างอิ่มเอมไปแล้ว
แต่ นี่ได้แค่เกือบ ๆ เท่านั้น เค้ายังทำตัวไม่ถูก เมื่อดุ้นเอ็นที่แข็งราวท่อนไม้ยังคงเสียบค้างอยู่อย่างนั้นโดยที่เค้าไม่ ยอมดึงออก แต่ก็คงไม่กล้าดัน
เข้าไปมากกว่านี้เหมือนกัน คิดว่าเค้าคงกำลังซึมซับความเสียวที่ได้รับจากร่องหลืบฟิตแน่นของฝ้ายอยู่
" คุณเก่งคะ อะ หยุดเถอะค่ะ อะ อาาา" สองแขนเล็ก ๆ ที่ไร้เรี่ยวแรง พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะออกแรงผลักดันร่างกำยำของชายหนุ่มไม่ให้โถม
ตัวดันท่อนเอ็นเข้าไปในร่องเสียวมากไปกว่านี้ เธอส่งสายตาอ้อนวอนให้กับเก่ง เหมือนกวางน้อยร้องขอชีวิตจากนายพราน
"ผะ ผม ขอโทษครับ อูยยย" เหมือนว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเก่งจะกลับมาแล้ว เค้าเอามือจับเอวคอดกิ่วของฝ้าย แล้วดันสะโพกออกเบา ๆ
หน้า ตาของเค้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความความเสียว เมื่อท่อนเอ็นกำลังลากครืดออกมาจากร่องหลืบที่กำลังตอดรัดอย่างรุนแรงทีละ เล็กละน้อยอย่าง
น่าลุ้น ท่อนลำสีดำคล้ำเปียกโชกด้วยน้ำรักลากครูดออกมาอย่างน่าเสียวไส้ ความเสียวทำเอาฝ้ายถึงกับเผลอแอ่นสะโพกร่อนตามท่อนเอ็นไป
หน่อยนึง เวลาเพียงชั่วครู่แต่กลับเหมือนยาวนานซะเหลือเกิน ในที่สุดปลายหัวบานก็หลุดพล๊อกออกมาจากกลีบเสียวพร้อมกับน้ำรักใส ๆ ที่ไหล
ย้อยจากปลายหัวบานและร่องหลืบลงไปเป็นทางยาว
"อ๊ะ โอยยย คุณฝ้าย ผมไม่ไหวแล้ว" เก่งร้องโอดโอย ปลายหัวบานของเค้ากระดกหงึก ๆ ไม่หยุดเมื่อหลุดออกมาจากร่องเสียว ราวกับต้องการ
แสดงความไม่พอใจที่หลุดออกมาจากร่องหลืบแห่งสวรรค์ เก่งเอื้อมมือลงไปกำท่อนเอ็นแล้วรูดเข้าออกสองสามครั้ง ท่อนควยนั้นก็ฉีดพ่นเอา
น้ำกามขาวข้นพุ่งปรี๊ดออกมาเป็นเส้นสีขาวยาวยืด หยดน้ำรักของเก่งพุ่งไปปะทะกับเรือนร่างขาว ๆ ของฝ้ายที่นอนแผ่หราอยู่แบบเต็ม ๆ มัน
เปียกเลอะไปทั่วหน้าท้องเนียนเรียบนั้นและที่ร่องหลืบขาวสะอาด เก่งร้องครางหอบหายใจอย่างพอใจ ขณะที่มือยังคงรูดสาวท่อนเอ็นตัวเองไม่
หยุดอยู่ครู่ใหญ่
"ผมขอโทษครับคุณฝ้าย" เก่งเอ่ยปากขอโทษกับสิ่งที่เค้าทำลงไปราวกับจะรู้สึกผิด ผมคงคิดเช่นนั้นหากไม่เห็นดวงตาที่แดงซ่านไปด้วยความ
ปราถนาของเค้าเข้าซะก่อน ใบหน้าของเค้าแดงก่ำ สายตาจับจ้องไปยังผิวกายขาวละเอียดของฝ้ายอย่างไม่วางตา เค้าพยายามสูดพ่นลมหายใจ
แรง ๆ เพื่อตั้งสติ แต่เหมือนว่าไฟราคะที่ลุกไหม้อยู่นั้นไม่มีวี่แววที่จะดับมอดลงไปแม้แต่น้อย นิด เพราะท่อนเอ็นอันเขื่องของเค้าที่เพิ่งฉีดพ่น
นำเชื้อออกมาสุดแรงยังคงชี้โด่ไปทางร่างของฝ้ายอย่างหลงไหลในเสน่หาของเรือนกายสุดงาม
" มะ ไม่เป็นอะไรค่ะ" ฝ้ายตอบกลับเสียงแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรง ร่างเปลือยขาวผ่องงดงามนั้นดูจะตอบสนองกับน้ำรักอุ่น ๆ ที่ราดรดบนร่าง
เป็นอย่างดี เธอนอนหงายหอบหายใจระทดระทวยแก้มขาวผ่องนั้นแดงระเรื่อด้วยแรงสูบฉีดเลือด แววตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความต้องการที่ยังคั่ง
ค้างอยู่ ผมยาวสลวยนั้นกระเซอะกระเซิงพัวพันกันยุ่งเหยิง หากแต่ความสวยงามของเธอก็ยังคงเปล่งประกายเฉิดฉายเจิดจ้าอยู่อย่างไม่คลาย
"คุณเก่งครับ" ผมสะกิดเรียกเก่ง พร้อมส่งมอบร่างเปลือยเปล่าของปูที่หลับไหลอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของผมออกไป
" ปู !! ... ขอบคุณครับคุณเอก" เหมือนเค้าจะตื่นจากภวังค์แห่งความหลงไหลในตัวฝ้าย เมื่อหันมาเห็นร่างคนรักของตัวเอง เค้าเอื้อมมือมารับ
ร่างของปูเข้าไปโอบกอดอย่างรักใคร่ แววตาที่แดงกล่ำเปี่ยมไปด้วยตัณหาราคะในตัวพยาบาลสาวเมื่อกี้นี้ กลับเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความรัก
และห่วงหาอาทรในตัวแฟนสาวอย่างรวดเร็ว เขาโอบกอดร่างแฟนสาวอย่างแนบแน่น ราวกับไม่ได้เจอหน้ากันมานานนับสิบปี ผมปล่อยให้เค้า
ซึมซับความรู้สึกดื่มด่ำกับแฟนสาวของเค้าต่อไป ขณะที่ผมเดินไปทางฝ้ายที่นอนแผ่หราอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
" ไม่เป็นอะไรแล้วนะฝ้าย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว" ผมยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับฝ้ายที่จ้องมองผมตาแป๋ว ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปประคองกอดเรือนกาย
บอบบางของฝ้ายเข้ามากอดแนบอกจนแน่น ผมสัมผัสได้ว่าร่างของเธอกำลังสั่นระริก ๆ ไม่หยุด นี่คงจะเพราะความตระหนกตกใจที่เกือบจะ
พลาดท่าให้กับเก่งเมื่อกี้นี้กระมัง
"พี่เอก" เธอพูดชื่อผมได้คำเดียว ก็ออกแรงกอดรัดเอวผมแน่น ใบหน้าสวยนั้นซุกอยู่ที่แผงหน้าอกของผมอย่างแนบแน่น เธอสะอื้นร้องไห้เบา ๆ
ผม รู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลซึมออกมาสัมผัสกับร่างกายอันแสนร้อนผ่าวของผม ผมปล่อยให้เธอสะอื้นไห้อย่างนั้นอยู่พักใหญ่ พร้อมกับลูบ
ผมยาวสลวยของเธออย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบใจ จนไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่
" เอ่อ ขอโทษนะครับคุณเอก" เก่งสะกิดแขนผมเบา ๆ พอหันไปดูก็เห็นเค้าใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนปูแฟนสาวของเค้านั้นก็มีผ้าเช็ดตัวผืน
ใหญ่ห่อคลุมตัวไว้ แต่เธอก็ยังคงไม่ได้สติเหมือนเดิม เค้ายื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ผมสองผืน
"เอ้อ ขอบคุณครับ" ผมเริ่มเขินขึ้นมาเหมือนกันที่ยืนเปลิอยกายอยู่แบบนี้ เลยรีบเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดตัว แล้วส่งต่อให้ฝ้ายทันที
"ว้าย ... คุณเก่งอย่ามองนะ" ฝ้ายละใบหน้าออกจากอกผม ตอนนี้หน้าสวยของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนเปียกชุ่มเต็มไปหมด เธอรีบรับผ้า
เช็ด ตัวนั้น แล้วรีบเอาไปปิดคลุมร่างกายของตัวเองอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนที่จะลุกจากเตียง ก้มตัวลงไปเก็บชุดพยาบาลที่กองอยู่
บนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
................
" ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ผมคิดว่าผีสาวน่าจะหมดฤูทธิ์แล้ว ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ" เค้าอุ้มร่างไร้สติของปูประคองลงนอนบนเตียงอย่างเบามือ แล้วเอา
ผ้าห่มนั้นปิดทับร่างกายของเธอไว้ทันที เหมือนกับจะไม่ยอมให้ผมได้สำรวจร่างกายของเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว
"ผมขอขอบคุณ คุณเอกมาก แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่าคุณทำได้ยังไง" เค้าหันหน้ามามองทางผมด้วยแววตาปิติ ภาระความทุกข์ที่แบกรับไว้มานาน
โดนโยนทิ้งไป
" เอ่อ ... ก็ ... ผมเพียงแต่เรียนวิชาปราบผีมาจากพ่อนิดหน่อยน่ะครับ แล้วมันก็ได้ผล" ผมยิ้มแหะ ๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นเลยมั่ว
ไปก่อน แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของรักยมที่จัดการกำราบผีสาวนั่นได้ แล้วเด็กสองคนนั่นหายไปไหนอีกแล้วล่ะนี่
"คงไม่ใช่นิดหน่อยหรอกครับ หมอผีเก่ง ๆ แถวบ้านผมยังไม่มีใครทำได้เลย ระดับนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา" เก่งมองผมด้วยแววตาชื่นชม
" คงโชคดีมากกว่าน่ะครับ เมื่อกี้ก็เกือบแย่ซะแล้ว" ผมรู้สึกผิดเล็ก ๆ เพราะผมยังไม่ได้ช่วยอะไรแฟนสาวของเก่งเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังอัด
กระหน่ำซอยเอวใส่แฟนสาวคนสวยของเค้าอย่างสะใจซะอีก ไม่รู้ว่าเค้าจะโกรธผมหรือเปล่าสำหรับเรื่องนี้
" แล้วน้องปูจะฟื้นเมื่อไหร่ล่ะครับ" เก่งถามราวกับคาดหวังว่าผมจะให้คำตอบกับเค้าได้ซะงั้น เค้าล้มตัวลงไปนั่งที่ขอบเตียง มองที่ร่างไร้สติของ
ปูพลางลูบหัวของเธอไปมาอย่างห่วงหาอาทร
" เอ่อ ... ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ" ผมก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าที่พื้นขึ้นมาสวมใส่ รู้สึกอึกอักตอบไม่ถูก ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลย อย่ามาถาม
ได้มั้ยวะเนี่ย ไม่รู้เหมือนกันเว้ย
" รักยมมาแล้วจ้ะ พ่อจ๋าา" เสียงเด็กหวีดหวิวไปมาเบา ๆ ให้ผมได้ยินอีกครั้ง แน่นอนว่าเสียงนี้ผมได้ยินเพียงแค่คนเดียว มาได้จังหวะพอดีเลยนะ
"เกิด อะไรขึ้นบอกพ่อมาเดี๋ยวนี้ เมื่อกี้เรียกไม่ยอมออกมานะ เดี๋ยวไม่ให้กินขนมซะเลย" ผมทำเสียงดุใส่ในความคิด รู้สึกเคือง ๆ เหมือนกัน
"พ่อจ๋า ไม่เอานะ พวกหนูอยากกินขนม พวกหนูไม่ได้หนีไปไหนนะ เมื่อกี้ก็ปราบผีให้พ่อแล้วไง แต่ฤทธิมันเยอะไปหน่อย เลยเสียเวลาน่าดู"
"แล้วปราบอีท่าไหนล่ะเนี่ย ไม่ยอมบอกพ่อบ้าง แกล้งพ่อหรือเปล่าเนี่ย"
"เปล่านะพ่อจ๋า ก็ถ้าพวกเราพูดกับพ่อ ผีสาวตนนั้นก็จะรู้ว่ามีพวกเราอยู่ทันที เพราะผีเห็นผีด้วยกัน เมื่อกี้ก็เลยต้องแอบกระซิบเบา ๆ"
"แล้วยังไงล่ะ ปราบเลยก็ได้ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องรอเวลาขนาดนี้" ผมเอ่ยทักท้วง
" ไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะฤทธิ์ของผีสาวตนนี้แรงมาก แถมยังสิงแน่นอยู่กับร่างของผู้หญิงคนนั้น หากใช้วิธีการรุนแรง ผู้หญิงคนนั้นอาจจะบ้าได้"
"อืม ก็มีเหตผล ถ้าฤทธิ์แรงมาก แล้วพวกลูกปราบมันได้ยังไง" ผมยังไม่รู้สึกไม่สมเหตสมผลอยู่
" ก็เราใช้วิธีแอบเข้าไปภายใน ไปคุ้มครองร่างจิตของผู้หญิงคนนี้ก่อน แล้วค่อยจัดการกับผีตนนี้ยังไงล่ะจ้ะ พวกหนูฉลาดมั้ยล่ะ" รักยมเอ่ยตอบ
เสียงเจื้อยแจ้วด้วยความภูมิใจ ท่าทางพวกเค้าฉลาดเกินเด็ก ชักจะสงสัยแล้วซิว่าพวกเค้าอายุเท่าไหร่กันแน่
"... ก็ฉลาดดีนะ แล้วแอบเข้าไปได้ยังไงกันล่ะ ไม่ให้มันรู้ตัวน่ะ" ผมถามต่อ
"ง่ายนิดเดียว เราแอบเข้าไปในร่างของผู้หญิงคนนี้ผ่านทางน้ำเชื้อของพ่อน่ะแหละจ้ะ ผีสาวไม่รู้ตัวหรอก" รักยมตอบ
"เฮ้ย มุดเข้าไปทางนั้นเนี่ยนะ ... แล้วรู้ได้ไงว่าพ่อกับผีสาวจะมีอะไรกัน" ผมแปลกใจในความคิดทะเล้นของเด็กสองคนนี้ซะเหลือเกิน
"แหม ระดับพ่อแล้ว เจอสาวคนไหน ก็จัดการทั่วไปหมด แล้วพี่สาวคนนี้จะเหลือเหรอจ๊ะ" รักยมตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ลอยมา
" เฮ้ย เดี๋ยวโดน ๆ ลามปาม ๆ" ผมอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะส่งเสียงดุเด็กน้อยทั้งสองคน แต่ก็ใช่ว่าเรื่องที่เด็กสองคนนี่พูดจะไม่จริง นี่ผมคงจะหื่น
มากไปหน่อยแล้วล่ะมั้งเนี่ย แต่เอาเถอะยังไงผีก็โดนปราบไปแล้ว คงจะหมดเรื่องแล้วล่ะมั้ง
"แต่เรื่องยังไม่จบนะพ่อจ๋า พี่สาวคนนี้เธอไม่ยอมฟื้น เอาแต่นั่งร้องไห้ ไม่ยอมฟังพวกหนูเลย" รักยมพูดขัดเมื่อรับรู้ความคิดของผม
"อ้าว ... แล้วจะทำยังไงล่ะ ทำให้ฟื้นไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้หรอกจ้ะ ไม่มีใครบังคับวิญญาณของใครได้ หากเจ้าของดวงวิญญาณนั้นไม่ยินยอม" รักยมพูดเสียงอ่อย ๆ ในความที่ไร้ความสามารถ
"อย่างงี้เค้าก็ไม่ฟื้นน่ะซิ จะทำยังไงได้บ้างล่ะ"
"ก็ได้แต่รอจนกว่าพี่สาวคนนี้จะอยากฟื้นเอง ....... หรือไม่ก็เข้าไปคุยกับดวงจิตของพี่สาวคนนี้เอง ..."
"งั้นส่งพ่อเข้าไปคุยกับเค้าหน่อย" ผมตื่นเต้นดีใจที่ปัญหานี้มีทางออก
"แต่ ... มันอันตรายมากเลยนะจ๊ะ การเข้าไปในจิตใจคนอื่นเนี่ย"
" โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่จิตไม่นิ่ง หากจิตคนที่เข้าไปไม่เข้มแข็งมั่นคงพอ จิตจะแตกและจะเป็นบ้าได้ง่าย ๆ" รักยมตอบ ทำเอาผมรู้สึกกลัวขึ้น
มาทันที จากคำบอกเล่าของเก่งที่บอกว่ามีหมอผีหลายคนที่เป็นบ้าไปเลย เพราะพยายามช่วยน้องปู พวกเค้าคงจะใช้วิธีการเดียวกันนี่เอง
"..." ผมเองก็ตอบไม่ถูก ถามว่าอยากช่วยเธอมั้ย ผมก็อยากช่วยเธออยู่หรอก แต่ถ้าต้องถึงขนาดเอาตัวเองไปเสี่ยงล่ะก็ ผมไม่แน่ใจนัก
ก็ผมไม่ใช่ซูปเปอร์ฮีโร่แบบในการ์ตูนซักหน่อย ที่จะต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยคนอื่นซะขนาดนั้น
"งั้นเรารอไว้ก่อน จนกว่าจะหาคนที่จิตใจเข้มแข็งพอ แล้วมาช่วยเธอล่ะกัน" ผมบอกรักยมน้ำเสียงแหบเบาเพราะความอ่อนด้อยในตัวเอง
"ก็ดีจ้ะ พวกหนูไม่อยากให้พ่อไปเสี่ยง แต่ ... เราก็รอนานไม่ได้ เพราะว่าร่างกายที่ไร้วิญญาณ จะโดนวิญญาณอื่นเข้าสิงได้ง่าย"
"หากมีวิญญาณที่มีฤทธิ์แรงพอ จะสามารถเข้าสิงร่างได้ทันทีที่ผ่านมาพบเจอ และเราก็ต้องไล่มันออกไปอีกครั้ง" รักยมพูดทำเอาผมขนลุก
ปล่อยไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้ จะให้จัดการซะตรงนี้ก็ไม่กล้าพอ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
" พี่เอกคะ พี่เอก เป็นอะไร" ฝ้ายเขย่าตัวเรียกผมเบา ๆ นี่เธอมายืนอยู่หน้าผมเมื่อไหร่กันเนี่ย ไม่ทันรู้ตัวเลย ตอนนี้ฝ้ายอยู่ในชุดพยาบาลสีขาว
สะอาดอันแสนน่าหลงไหลชุดเดิม ต่างกันก็แต่ผมเผ้าของเธอที่ยังดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากเกมรักเมื่อกี้นี้ คงเพราะเธอคงจะไม่มีเวลาพอที่จะจัดผม
ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในตอนนี้
"เอ่อ ไม่เป็นอะไรครับ" ผมตอบเบา ๆ ในหัวยังคงใช้ความคิดอยู่
" เห็นพี่เอกนิ่งไป อย่าทำให้ฝ้ายกลัวซิ" เธอบีบกำมือผมแน่น สีหน้าเธอดูเป็นห่วงผมไม่น้อยเลยทีเดียว แหมน่ารักและน่ารัดจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้
"พอดีคิดอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" ผมยิ้มแห้ง ๆ ตอบเธอ บีบมือนุ่ม ๆ ของเธอแน่น ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะกอดเธอแน่น ๆ จัง
แต่ก็รู้สึกเขินนิดหน่อย ที่จะทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น
" พี่เอกคะ ... ว่าแต่เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ฝ้ายยังงง ๆ อยู่เลย ทำไมปูมีตาสีเขียว แล้วทำไมพวกเราถึง ..." ฝ้ายเอ่ยถามทำหน้าสงสัย แต่มา
สะดุดเอาตรงวรรคสุดท้าย ดูเธออายเกินกว่าที่จะพูดถึงเรื่องที่เธอเกือบจะเสร็จนายเก่งอยู่รอมร่อ
"อืม ถ้าจะให้พูดสั้น ๆ ได้ใจความ ก็คือ น้องปูเค้าโดนผีสิงน่ะครับ และพวกเราก็โดนฤทธิ์สะกดใจจากผีตนนั้น" ผมตอบ
" ผีเหรอ ... แต่ว่า ... ผีไม่มีจริง ..." ฝ้ายตอบแบบอึกอัก ถึงแม้ว่าสาววิทยาศาสตร์สมัยใหม่อย่างเธอจะไม่เชื่อสิ่งลี้ลับที่ไร้การ พิสูจน์แบบนี้ แต่
เมื่อมาเจอเข้ากับตัวเองก็ทำเอาเธอเหวอไปเหมือนกัน เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับกำลังพยายามหาปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นไปได้
มา พูดอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็นั่นล่ะปรากฎการณ์อะไรที่ทำให้ผู้หญิงมีตาสีเขียวจ้า และปรากฎการณ์อะไรที่ทำให้ตัวเธอเองยอมเปลือยกาย
ให้นายเก่งฟอนเฟ้นตักตวงความสุขเอาดื้อ ๆ ราวกับคนเมาไร้สติแบบนั้น
" ฝ้าย ... สิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะ และที่สำคัญเรื่องภูติผีนี่ ผมขอยืนยันว่ามีจริง" ผมเอ่ยบอกฝ้ายหน้าตา
ขึงขังจริงจัง สีหน้าของเธอตอนนี้ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดตรึกตรองใช้สมองอย่างหนัก
"ผมเองก็ขอยืนยันว่าผีมีจริงด้วยครับคุณฝ้าย ผมพอจะรู้วิชาพวกนี้อยู่บ้าง" เก่งยืนขึ้นแล้วเดินมาทางผมและฝ้าย
" อะ เอ่อ ..." ฝ้ายหันไปสบตากับเก่ง แล้วก็รีบเบือนหน้าหนีหันกลับมาทางผม หน้าเธอแดงขึ้นมาน้อย ๆ คงจะเพราะเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
"และผมก็ต้องขอโทษเรื่องเมื่อกี้อีกครั้ง ที่ล่วงเกินคุณฝ้ายไป" เก่งพูดขอโทษกันแบบตรง ๆ ทำเอาฝ้ายทำตัวไม่ถูกไปเลย
"ส่วนคุณเอก ที่ทำอะไรกับแฟนผมไป ผมถือซะว่าเราเจ๊ากันนะครับ เพราะผมก็ล่วงเกินแฟนคุณเอกเหมือนกัน" เก่งพูดต่อสีหน้าจริงจัง
" อะ เอ่อ ครับ งั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไปล่ะกันนะ" ผมยิ้มแหะ ๆ ตอบเก่งไป ก็ดีแล้วที่เราเคลียร์กันตรงนี้ซะก่อน ไม่งั้นคงจะมีปัญหาคาใจซะเปล่า ๆ
"...." ฝ้ายกอดแขนผมแน่น เธอซุกหน้าเข้าที่ลำแขนของผม แอบเผยรอยยิ้มสดใส ดูเธอจะทั้งเขินอาย และดีใจที่มีคนเรียกสถานะของเราสอง
คนว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก เพียงแต่ว่าสำหรับผมแล้ว ฝ้ายยังคงเป็นแค่เบอร์ 2 รองจากน้องหญิงเท่านั้น
"แล้วผีที่สิงในร่างของปูหายไปไหนแล้วล่ะคะ" ฝ้ายเงยหน้าขึ้นมาถามผม ขณะยังคงกอดแขนผมแน่น
" ก็โดนพี่เอกของคุณฝ้ายจัดการไล่ไปเรียบร้อยแล้วน่ะซิครับ เรื่องนี้ผมต้องขอขอบคุณมากจริง ๆ" เก่งเดินเข้ามาจับมือผมแน่น ราวกับจะกล่าว
เอ่ยคำขอบคุณออกมาจากหัวใจอย่างสุดซึ้ง แต่น้ำเสียงจริงจังนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีนัก มันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้น ที่ไม่ยอมเสี่ยงชีวิต
เพื่อช่วยแฟนสาวของเค้าให้เรียบร้อย
"เอ๋ พี่เอกนี่เหรอคะ ไล่ผี !!" ฝ้ายทำท่าทางแปลกใจอย่างหนัก ดูเธอไม่ค่อยจะเชื่อนัก
"ใช่ซิครับ ขนาดผีที่หมอผีเก่ง ๆ ยังไล่ไม่ได้เลยนะ คุณเอกคงจะมีวิชาติดตัวไม่น้อย" เค้ามองผมด้วยสีหน้าและแววตาชื่นชม ทำเอาผมถึงกับ
ต้องเบือนสายตาหนีด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง
"ตอนนี้พวกเราควรจะห่วงคุณปูมากกว่านะครับ" ผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่องพูดมองไปทางปูที่สลบไสลอยู่อย่างสงบเงียบแทน ผมรู้สึกแย่เหลือเกิน
กับสถานการณ์ที่ตัวเองควบคุมไม่ได้แบบนี้
"เดี๋ยวฝ้ายไปตรวจคุณปูก่อนนะคะ" ฝ้ายเดินอ้อมตัวเก่งเว้นระยะซะห่างเลย ดูท่าทางเธอยังรู้สึกหวาด ๆ กับชายหนุ่มคนนี้อยู่หน่อย ๆ
"อุ๊ย คุณหมอ" ฝ้ายอุทานเบา ๆ เมื่อเดินไปเห็นร่างของคุณหมอนอนอยู่ใต้เตียง พวกเราลืมหมอคนนี้ไปซะสนิทเลยนะเนี่ย พอผมเดินไปดูก็พบ
ว่า สีหน้าของหมอคนนี้ดูดีกว่าตอนแรกที่ผมเข้ามาเห็น สภาพราวกับซากศพไร้ชีวิตในตอนแรกนั้น เปลี่ยนเป็นดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แม้ว่าจะยังดู
ซีดเซียวอยู่บ้างก็ตาม ถึงพวกเราจะยังงง ๆ กันอยู่ แต่ผมก็ช่วยลากตัวหมอหนุ่มคนนั้นมานอนที่โซฟาแทน ดูเค้าเหมือนกับแค่หลับไปเท่านั้น
ไม่มีอันตรายอะไรถึงชีวิต แถมยังนอนกรนคร่อก ๆ เสียงดังอย่างสบายอารมณ์ซะอีกแน่ะ
"พวกหนูช่วยหมอคนนี้จนพ้นอันตรายแล้วนะจ๊ะ เหลือแค่ให้เค้าพักเยอะ ๆ" เสียงรักยมดังมาแผ่ว ๆ ทำเอาผมเข้าใจเหตการณ์ได้มากขึ้นหน่อย
"หมอคนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับ แค่โดนดูดพลังชีวิตไปมากหน่อย ยังดีที่พวกเราเข้ามาทันพอดี" ผมบอกฝ้ายที่แสดงท่าทางเป็นห่วงชายหนุ่ม
เพื่อนร่วมอาชีพคนนี้ซะเหลือเกิน
"ดีจังเลย ฝ้ายนึกว่าเค้าจะแย่ซะแล้ว" ฝ้ายยิ้มน้อย ๆ ดูเธอจะสบายใจขึ้นมาหน่อยนึง ผมเริ่มจะหึงแล้วนะเนี่ย
"... แค่เพื่อนร่วมงานนะคะพี่เอก หึงเหรอ ..." เธอแอบอมยิ้ม พูดพร้อมกับบีบมือผมแน่น ยังกับว่าเธอจับความคิดของผมได้งั้นแหละ
"ปะ เปล่าซะหน่อย" ผมยักไหล่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ความจริงก็รู้สึกไม่พอใจหน่อย ๆ อยู่เหมือนกัน
"พี่เอกบ้า ฝ้ายรักพี่เอกคนเดียวนี่ล่ะค่ะ พี่เอกอย่างอนนะ นะ" เธอเอามือมาโอบเอวกอดผมไว้แน่นโดยไม่อายสายตาของนายเก่งที่มองอยู่
ร่างอุ่น ๆ นุ่มนิ่มที่บดเบียดเข้ามาพร้อมกับกลิ่นกายหอมอบอวล ทำเอาผมเองต้องอ้าแขนโอบกอดเธอตอบโดยไม่ต้องคิด ท่อนเนื้อเบื้องล่าง
แข็งเกร็งบดเบียดกับร่างสาวสวยอย่างเสียวซ่าน สาวสวยที่เต็มไปด้วยอารมณ์รัก ก็เหมือนอาหารจานหรูรสเลิศที่เพิ่งออกมาจากเตานี่แหละ
ตอนนี้ฝ้ายคนนี้ก็น่าลิ้มลองรสซะเหลือเกิน ผมคิดจะปล่อยเรื่องที่นี่ไปแบบนี้ดีกว่า แล้วไปดื่มด่ำกับรสสวาทของสาวสวยคนนี้ให้เต็มคราบ
แต่ เมื่อผมกวาดสายตาไปเห็นร่างของน้องปูที่นอนอย่างเฉยเมย ไม่รับรู้สิ่งใด ๆ โดยที่มีเก่งคอยนั่งบีบมือให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง ก็ทำเอาผมรู้สึก
เจ็บจี๊ดขึ้นมาในอก ผมคิดไปว่าหากคนที่นอนบนเตียงนั่นคือน้องหญิงแล้วผมจะทำยังไงนะ หากผมเป็นเก่งและรู้ว่ามีคนที่ช่วยน้องหญิงได้แต่
เค้า ไม่ยอมช่วยผมจะคิดยังไงนะ ... โธ่เว้ย แล้วทำไมผมต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ เพราะผมต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงนะ หากพลาดขึ้นมาผมก็แย่น่ะซิ
สองความคิดโต้แย้งกันเองในหัวราวกับจะทำให้สมองเล็ก ๆ ของผมระเบิดออกเสียให้ได้
"พี่เอก ... คิดอะไรอยู่น่ะ เครียดเชียว" ฝ้ายเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาเป็นห่วง ดูเธอจะจับความรู้สึกของผมได้ตลอดเลย
"กำลังเป็นห่วงปูอยู่น่ะครับ ถ้าเค้าไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ ..." ผมลูบแก้มนวลเนียนของฝ้ายเบา ๆ ขณะที่สายตายังคงมองไปทางปูและเก่ง
"... ก็พูดยากเหมือนกันค่ะ รู้แต่คุณเก่งคงจะน่าสงสารแย่ นี่ถ้าฝ้ายช่วยได้ ฝ้ายคงจะช่วยจนสุดความสามารถ" ฝ้ายมองไปทางปูและเก่ง แววตา
และคำพูดของเธอดูเปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างที่สุด แต่นั่นราวกับเป็นเหล็กแหลมที่ทิ่มแทงทำให้ผมรู้สึกเจ็บใจยิ่งขึ้นไปอีก
" แล้วถ้า ฝ้ายช่วยได้ ... แต่ฝ้ายต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองล่ะ และมันอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ ฝ้ายจะช่วยมั้ย" ผมถามต่อและรอคำตอบของเธอ
เพื่อมาช่วยตัดสินใจปัญหาที่เหมือนจะไร้ทางออก
" พ่อของฝ้ายที่เป็นทหารพูดอยู่เสมอว่า จงทำสิ่งที่ทำให้เราสามารถยืดอกภูมิใจและไม่เสียใจในภายหลัง แค่นั้นก็พอแล้ว" ฝ้ายมองหน้าผมแววตา
เธอดูหนักแน่นเด็ดเดี่ยวจริงจัง เธอคงภูมิใจในตัวพ่อของเธอไม่น้อยเลยทีเดียว
"หากมีโอกาสที่ฝ้ายสามารถช่วยเค้าได้ ฝ้ายก็จะลองคะ เพราะหากไม่ทำ ตัวฝ้ายเองจะเสียใจไปตลอดชีวิต" ฝ้ายพูดต่อ
"................." ผมอึ้งไปชั่วครู่ใหญ่ นั่นซินะ มันอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไรล่ะ คือการมีอายุยาวนานนับร้อยปี
เสวยสุขไป เรื่อย ๆ แต่ต้องรู้สึกทุกข์ใจไปตลอดชีวิตงั้นหรือ หรือว่ายอมทำเรื่องที่ดูโง่ ๆ เพื่อให้ตัวเองสามารถยืดอกภูมิใจได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แล้วหากผมเป็นอะไรไป น้องหญิงจะเป็นยังไง ผมต้องการจะทำอะไร และผมต้องทำอะไรกันแน่
"หญิงรักพี่เอก เพราะพี่เอกเป็นพี่เอกไงคะ แค่พี่เอกเป็นตัวเองก็พอแล้ว" ในห้วงแห่งความสับสนนั้น ใบหน้าของน้องหญิงลอยเด่นขึ้นมาใน
ความคิดพร้อมกับคำพูดของเธอที่ให้ไว้กับผมในค่ำคืนแห่งความสุขสมของผมและเธอ มันช่างชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง ความ
คิดที่สับสนอลหม่านในหัวสมองหายไปหมดสิ้น ความคิดผมกระจ่างชัดนัก คำตอบที่ต้องการนั้นออกมาแล้วว่าผมควรจะทำอะไร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น