ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ผมไม่เคยคิด

มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา ผมชื่อเดช อายุ 18 อยู่กับแม่ 2 คน พ่อจากไปด้วยอุบัติเหตุ (ตามท้องเรื่องที่น้ำเน่า) แม่พาผมเข้ากรุงเทพฯ เช่าบ้านอญู่แล้วหางานทำ ส่งผมเรียนหนังสือ จนได้เข้ามหาวิทยาลัย รายได้ของบ้านเราเรียกว่าเดือนชนเดือน แต่อยู่ได้แบบพอเพียง มีเงินเก็บบ้างพอสมควร แม่ผมจัดว่าสวยที่เดียว ผิวเข้ม สูง 160 รูปร่างสมส่วน หน้าอกไม่ใหญ่แต่ได้รูปและกระชับ ด้านหลังแม่สวยมาก แม่ชอบทาเล็บสีแดงรับกับสีลิบสติกที่แม่ชอบ เคยเรียบๆ เคียงๆ ถามแม่อยู่เหมือนกัน แม่มักจะตอบว่า “บางทีนะ บางที แต่ตอนนี้ ลูกแม่ต้องมาก่อน” หน้าร้อนปีที่แล้ว ญาติๆ ทางแม่มาชวนเราไปเที่ยวกัน แม่เห็นว่านานแล้วที่ไม่ได้สังสรรค์กัน และเงินเก็บเราก็พอมีอยู่บ้าง พักผ่อนบ้างจะเป็นไร งานนี้รวมญาติและเพื่อนๆแล้วได้ 1 รถบัสทีเดียว ตกลงจะไปทะเลกัน เดินทางวันเสาร์ ค้าง 1 คืนเย็นวันอาทิตย์ค่อยกลับ ผมเป็นหนุ่ม 18 ไปเที่ยวทะเล สายตาหนุ่มกลัดมันย่อมไม่พ้นมองสาวๆ วิ่งขึ้นวิ่งลงทะเลเล่นน้ำ ส่งเสียงวีดว้ายกระตู้วู้ลั่นไปหมด ผมอยู่ในทะเลตลอดทั้งวัน ก็ใครจะกล้าขึ้น เจ้าน้องน้อยของผมมันคึกคักอยู่ตลอดเวลา คิดจะปลดปล่อยอยู่เหมือนกัน ไม่ใช้ไม่กล้า แต่ถ้าปล่อยอยู่อย่างนี้ทั้งวันมันมันส์สะใจกว่า สำหรับแม่ผมไม่ได้ลงเล่นน้ำด้วย เอาแต่นั้งคุยกับลุงๆ ป้าๆ อาจจะหันมามองเด็กๆ ที่เล่นกันอยู่เป็นระยะๆ คืนนั้นผมถามแม่ว่าทำไมมาเที่ยวทะเลแล้วไม่ลงเล่นน้ำ แม่ตอบว่าไม่อยากเป็นเป้าสายตาใครบางคน เห็นมองคนนั้นที่ คนโน้นที่ เล่นเอาผมอึ่งเลย “เอานะ แล้วพรุ่งนี้จะลงไปเล่นด้วย” ให้ตายสิถ้าแม่ไม่พูดผมก็ไม่คิด ผมไม่เคยคิดนอกลู่นอกทางกับแม่มาก่อนเลย จนแม่พูดออกมาแบบนี้ เมื่อคิดย้อนดูก็พบว่ามีแม่เพียงคนเดียวในบรรดาญาติพี่น้องสาวๆ ที่ยังไม่ลงทะเล มันกระตุ้นความสนใจผมขึ้นมาทีเดียว มีแต่แม่นี้ละที่ผมยังไม่เห็น เมื่อวันอาทิตย์มาถึง วันนั้นแม่ใส่ BIKINI สีแดง คลุมทับด้วย T-shirt สีเหลืองผูกที่เอว เห็นสะดือรำไร อยู่กับแม่มา 18 ปี เพิ่งจะเห็นจะจะ ก็วันนี้ บอกได้เลย ไม่ว่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ สายตาโฟกัส(แฟนฉัน) มาที่แม่ผมกันทั้งนั้น ผมอดภูมิใจไม่ได้ถึงแม้ลึกๆ แล้วก็เกิดอาการหวงขึ้นมาตะหงิดๆ ตกบ่ายใกล้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ พวกเราขึ้นจากทะเลกลับที่พักเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวกลับกัน ที่ห้องของเราแม่เข้าไปอาบน้ำก่อน แล้วจึงถึงคิวผม ตอนแม่ออกมามีเพียงผ้าเช็ดตัวเท่านั้นที่หุ้มห่อร่างสวย มันก็เป็นปกติของเราแม่ลูก แต่วันนี้ความรู้สึกมันปั่นป่วนไปหมด ตาค้างเลย จนแม่ต้องเอ่ย “เอา...มองอยู่ได้ ยังกับไม่เคยเห็น ไป...ไป อาบน้ำแล้วเอาชุดที่เปียกใส่ถุงรวมกันนะ เอาไปซักที่กรุงเทพฯ ก็แล้วกันเดียวไม่ทัน” “ครับ” ผมตอบด้วยอาการตกใจ จะทำอะไรมัน งกๆ เงิ่นๆ ไปหมด หยิบชุดเข้าไปจะเปลี่ยนในห้องน้ำก็ดันลืมหยิบ กางเกงในเข้าไปด้วย ในห้องน้ำ ผมก็ถอดชุดที่เปียกโยกไปกองรวมกับชุดของแม่ ขณะอาบฝักบัวใจก็พะวงถึงแม่ นึกถึงแม่ขณะใส่ BIKINI คิดถึงแม่ตอนนุ่งกระโจมอกผ้าขนหนู แก่นกายเริ่มผงาด และแล้วก็นึกขึ้นได้ BIKINI สายตาและร่างกายก็ผันไปที่กองผ้าเปียกนั้น BIKINI สีแดงของแม่ ผมเอื่อมมือไปหยิบขึ้นมา ด้วยอาการมือสั้นเทา กางเกงว่ายน้ำที่ปกปิดเนินนูนเวลามันเปียกน้ำแล้วเจ้าของยังสวมใส่อยู่ มันแนบเน้นเนินเนื้ออวบอูม ตกเป็นเป้าสายตาลูกชายคนเดียวของแม่ พลิกกลับข้างในออกมา หวังเห็นคราบไคลแต่เปล่าวไม่มี มันไม่เหมือนชั้นในชายหรือหญิง ที่แห้งและใส่ทั้งวันที่ย่อมจะมีคราบไคลเปื่อนติดอยู่ ไม่มากก็น้อยโดนเฉพาะชั้นในสีขาว แต่สิ่งที่ผมพบกลับเป็น เส้นหยิกหยอยหมอยของแม่ ยาวนิ้วกว่าๆ 2 เส้น อยากจะเก็บไว้เชยชมทำอย่างไรดี แล้วเรื่องแบบนี้ก็คิดได้ แปรงสีฟัน เก็บที่อื่นอาจหาย ถ้าเอาไว้ในซอกแปรงก็ไม่หายแน่ ซ้ำยังมีกล่องปิดหัวแปรงอีก(ซกมกๆ) เก็บเสร็จก็กลับมาที่ BIKINI บรรจงเอามาห่อแก่นกายที่แข็งขัน แล้วเริ่มสาว หลับตากัดฟันนึกถึงแม่...แม่จ้า...แม่.... ยังไม่ทันไรก็... “อาบเสร็จยังลูก? เร็วๆ นะลุงๆ ป้าๆ รอ” “ครับแม่” ค้างครับ อารมณ์ ต้องรีบอาบต้องรีบเช็ดทั้งที่มันยังแข็งอยู่ “เดช..ทำอะไรอยู่ลูก?” “แต่งตัวอยู่แม่” “เร็วๆ นะแม่ลืมกระเป๋าเครื่องสำอางไว้ข้างใน เดียวแม่แต่งตัวไม่ทัน” “เดช” ผมรีบคว้ากางเกงขาสั้นมาสวมใส่ “รอเดียวแ...” แล้วความเจ็บปวดอย่างหาที่สุดมิได้ก็เกิดขึ้น ขณะรูดซิบขึ้นอย่างรีบเร่งไม่ทันระวัง “โอ๊ย!.....” ด้วยความรีบร้อน กางเกงในไม่ได้หยิบมา แต่ยังโชคดีซิบไม่ได้กัดกินเนื้ออ่อนๆ ของผม มันผ่านไปได้ แต่ซิบมันรูดติดพุ่มพงของผมกระจุกใหญ่ เจ็บปวดซะ “เดช....เดชเป็นอะไรลูก” “โอ...ไม...ไม่ครับ..อ..อุยยย” “เดช...เป็นอะไรบอกแม่ซิ” “น...นิดหน่อยครับ...แม่” ผมครางด้วยความเจ็บปวด “ให้แม่ช่วยไหม?” “ค...ครับ” ผมอยากจะขยับไปเปิดประตูให้แม่แต่ว่ามันเจ็บไปหมดขยับไม่ไหว แล้วประตูก็เปิดแง้มเข้ามาได้(ลืมล็อก) แม่ค่อยๆเปิดประตูแล้วยื่นหน้าเข้ามาดู จากสภาพที่เห็น แม่ก็เข้าใจ “ด...เดช..ขขของลูก.” แม่เริ่ม “ไม่ครับ ไม่เป็นไร เดชลืมกกน. คิดว่าคงไม่เป็นไร...ววววีด...แต่ว่....ออูยยย” ซิบมันไม่ขยับเอาเลยจะดึงขึ้นดึงลง จะขยับแต่ละครั้งมันเจ็บ “ห..ให้แม่ช่วยไหม่?” “เดช..เดชไม่แน่ใจ” “แล้วลูกคิดว่าจะออกไปแบบนี้ได้ไหมละ?” “ไม่แน่ใจครับ มมมันเจ็บ “เอาละเดช...นั้งลง” แม่สั่ง ตอนนั้นผมหมดสภาพ ทำตามอย่างว่าง่ายนั้งลงบนฝาชักโครก ขณะที่แม่หันไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางค์แล้วจึงขยับเข้ามานั้งหน้าผม ลงมือควานหาอะไรบางอย่าง “ได้แล้ว...” แม่ชูกรรไกรขึ้นมาแล้วทำท่าฉับๆ สยองซะ “ที่นี้... ใครจะทำ?” ทั้งอับอายแต่จะทำเองแรงมันก็ไม่มีแล้ว ได้แต่ก้มหน้ามุบมิม “แม่ท..ทำให้เดชหน่อยนะครับ” “ได้...นั้งนิ่งๆ ละ” แม่คุกเข่าอยู่หน้าผม ยื่นมือซ้ายจับขอบกางเกง ค่อยๆ ถอดลงอย่างช้าๆ ระวัง รั้งให้ต่ำเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มองเห็นได้สะดวก มือขวาจับกรรไกร ค่อยๆขลิบเล็มตัดเส้นขนหยาบหงิกของผม ด้วยลักษณะท่าท่างแบบนี้ หลังมือแม่ต้องสำผัสและพักนิ่งอยู่ตรงหัวบานของผม กำลังเจ็บอยู่แท้ๆ ยังออกอาการคึกคักขึ้นมาได้ แม่จะรู้ตัวหรือเปล่าวผมไม่ทราบ แม่ยังคงเล็มขลิบให้ผมต่อไป เป่าเบาๆ บางที่ก็ใช้เล็บแดงไล่ปัดเศษขนที่ตัดออกให้พ้นทาง ผมรู้สึกถึงหน้าอกใต้ผ้าขนหนูของแม่ที่สำผัสถูกต้นขาผมขณะที่ผมเกรงหัวเข่าแน่น มันยิ่งทำให้แท่งรักผมโตขึ้นทุกทีๆ เมื่อแม่ขยับตัว อย่างช้าๆ และแผ่วเบา เมื่อฟางเส้นสุดท้ายถูกตัดออก แม่ก็ถอยหลังออกมา กางเกงผมก็หลุดลงมากองกับพื้น “OK” แม่ยิ้ม ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไหน..ดูหน่อยสิ แม่ไม่ได้ตัดอะไรเข้านะ?” ผมยังคงนั้งอยู่กับที่ ด้วยความประหลาดใจไม่ทันตั้งตัว แม่ใช้นิ้วกลางและหัวแม่มือซ้ายหนีบจับเจ้าตัวร้ายผมโยกสำรวจอย่างระมัดระวัง พร้อมๆ กับใช้นิ้วขวาปัดสำรวจบริเวณที่ถูกถาง ในที่สุดแม่ก็เงยหน้าขึ้นมองผมแล้วยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรแล้ว” แต่ว่าตอนนี้แท่งผมมันแข็งเต็มที่และยังคงอยู่ในอุ้งมือแม่ เหมือนใจไม่อยู่กับตัวแม่จ้องมองมาที่ๆ แม่กำมันอยู่ ไม่มีท่าที่ลังเลใจแต่อย่างไร ปลายหัวยอดแท่งรักก็ถูกแม่จูบ.....................ผมไม่อยากเชื่อ เห็นได้ชัดแม่ผมเปลี่ยนไป ดูมีความสุข คล้ายๆ จะหลุดพ้นจากความเครียดที่มีมาเกือบตลอดชีวิต แม่หันไปประตูห้องน้ำ เหมือนห่วงว่าจะมีใครมาเห็น ทั้งๆ ที่นี้เป็นห้องของเรา ไม่มีใครเข้ามาแน่ เมื่อแม่หันกลับมา มันเหมือนภาพสโลโมชั่นในความทรงจำ แม่ค่อยๆ หลับตาลงพร้อมๆ กับเผยอปากส่งแท่งรักผมเข้าไป โยกขึ้น โยกลงในทีแรก แล้วค่อยเริ่มดูดผม ริมฝีปากแดงๆแม้มกดป่ายปัดลิ้นไปทั้วลำลึงค์ แม่ไม่พูดอะไรมีแต่เสียงครางออกมาจากลำคอเบาๆ ผมได้ยินและสำผัสถึงลมหายใจของแม่ที่ระบายออกมาถูกหน้าท้องผม ซ้ำยังเห็นมือขวาแม่เริ่มขยับจับอยู่แถวๆ หน้าอกตัวเอง จวบจนวันนี้ 18 ปีแล้ว ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์ท่างเพศ เคยแต่ช่วยตัวเองเป็นครั้งคราว จินตนาการอย่างที่กำลังเป็นนี้ แต่ไม่ใช้กับแม่ผม แม่ของตัวเอง จนบัดนี้ผมยังไม่อยากเชื่อ แม่ไม่มีผู้ชายมากว่า 15 ปี แล้ว แต่แม่ยังชิวหาพาเพลินได้ขนาดนี้ ผมอยกอยู่แบบนี้นานๆ แต่ความอดทนมันก็ถึงที่สุด “ม..แม่...จ..จะออกแล้ว;;;;…” แทบจะทันทีทันใด แม่ถอนริมฝีปากออกมา วางพาดแท่งรักกับหน้าท้องของผมแล้วใช้เล็บยาวแดงกดครูดเบาๆ ไปตามแนวยาวใต้ท้องแท่งรักผม ขึ้นลงๆ ไม่กี่ที ผมก็ปลดปล่อยน้ำเชื้อที่เก็บมาตลอดทั้งวันฉีดพุ่งออกมา แม่ยังคงเล่นเล็บยาวกับแท่งรักผมจนหยาดหยดน้ำรักหยุดไหล แม่ค่อยๆ ถอยหลังออกมาช้าๆ เช็ดหลังมือกับริมฝีปากแดง แล้วลุกขึ้น โซเซเล็กน้อยด้วยอาการเหน็บชา แต่สายตาแม่ไม่ได้ถอดถอนไปจากแท่งรักผมเลย “เราต้องรีบไปแล้ว” แม่กล่าวเบาๆ แล้วเดินออกไปแต่งตัว ผมนั้งงงอยู่ 2-3 นาที มันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดขึ้นจริงๆ ? มันเกิดขึ้นจริงๆ หยาดน้ำรักเป็นพยานหลักฐานมัดตัวแน่น (ถ้าปฎิเสธ ท่านเปาเรียกเครื่องประหารหัว*แน่) ผมรีบแต่งตัว เก็บข้าวของในห้องน้ำ เมื่อออกมาก็พบว่าแม่รออยู่ ยืนกอดอกสะพายกระเป๋าอยู่บนบ่า แม่ผมดูสวยจริงๆ “แม่คร....” แม่ห้ามผมซะก่อน “ไม่..ไปขึ้นรถก่อนเถอะ ป้าๆ เขารอเราอยู่” ในรถเราแม่ลูกมีเรื่องพูดกันมากมาย เท่าที่ผมจำได้ มันคล้ายๆแบบนี้ครับ “เดช...แม่รักลูก ตั้งแต่ลูกเกิดมาแล้ว แม่ทุ่มทั้งชีวิตให้ลูกในสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้ แม่รู้..สิ่งที่เกิดขึ้นมันผิด แต่ถึงยังไงแม่ก็จะทำ ลูกรู้ แม่ทำทุกสิ่งได้เพื่อลูก แม่ทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกของแม่เจ็บปวด แน่นอนแม่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เสียใจที่ได้ทำลงไป สัญญานะลูก จะไม่บอกใคร.......” คุณคิดว่าผมตอบว่าอะไร... แล้วสิ่งที่อยู่ในแปรงสีฟัน มันไม่สำคัญแล้วครับ ผมได้มากกว่านั้นเยอะเลย

ไม่มีความคิดเห็น: