ขายของ

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จำเป็นต้องมีผัวอีกคน

เรื่องก็มีอยู่ว่า ดิฉันแต่งงานมา 24 ปีแล้ว ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ดิฉันยังไม่เคยเจอเลย ความมันในการเสพกามของสามีดิฉัน ว่าเป็นเช่นไร มีแต่ว่าเขามันอยู่ฝ่ายเดียว และก็นอนหงายเก็งจนถึงเช้า เรียกว่านกกระยังไม่ทันกินน้ำ เขาก็เสร็จเสียแล้ว ทุกวันนี้ลูกสาวอายุเกือบ 20 แล้วดิฉันก็ยังไม่เคยเจอะเจอเลย ว่าความมันในการเสพกามมันเป็นอย่างไร ได้แต่ไปแอบฟังพวกเจ้านายเขาคุยกันว่า เอากันท่าโน้น เลียกันท่านี้ กระทกแต่ละที่ผู้หญิงดิ้นไปดิ้นมา เวลาได้ยิ้นเจ้านายคุยกันที่ไร ที่จิ๋มของดิฉันมีน้ำอะไรไม่รู้ไหลออกมาเปียกเต็มกางเกงใน และมีความอยากจะทำอย่างที่พวกเจ้านายเขาพูด โดยฉะเพราะอยากถูกเลีย อยากจริงๆเอามือของตัวเองไปคลำจิ๋มตัวเองรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูก มีน้ำอะไรไม่รู้ใหลออกมาเต็มมือจนต้องมาล้างมือ ดิฉันอยู่ที่บริษัททำหน้าที่เป็นแม่บ้าน คอยชงกาแฟและหาข้าวให้เจ้านายดื่มและทาน ได้ฟังเรื่องนี้อยู่ทุกวัน ฟังมาเป็นปี ดิฉันก็เก็บความรู้สึกมาเป็นปีๆเหมือนกัน แต่มีเจ้านายอยู่คนหนึ่งมีความสนิดสนมกับดิฉันมากถึงขนาดว่าห่วงใยเรื่องอาหารการกินและเดินทางกลับบ้าน รู้ว่าดิฉันชอบทานอะไรทุกเที่ยงวันแกจะซื้อมาฝาก เลิกงานแกก็จะตะโกนบอกว่ากลับบ้านก่อนนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องเสพกาม แกมักจะเริ่มเรื่องก่อนเสมอ และสาระพัดที่แกจะทำให้ หญิงมีความสุขกับแกเวลาแกนอนกับผู้หญิง ดิชอบเเอบฟังแกเล่ามาก เพราะทุกครั้งที่ฟังแกเล่าดิฉันจะมีน้ำอะไรไม่รู้ไหลออกมาเต็มจิ๋มดิฉัน ในความรู้สึกของดิฉันลึกๆ มันจริงหรือเปล่าถ้าจริงเป็นดิฉันก็คงจะดีนะ ฟังมาเป็นปีๆก็ยังครุ่นคิดว่าจริงหรือเปล่าที่เขาคุยกัน มีหรือผู้ชายจะมาเลียจิ๋มผู้หญิง ดิฉันคิดไปต่างๆนานา มีอยู่วันจะเป็นโชคเข้าข้างหรือสวรรค์โปรด ดิฉันต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด บ้านของดิฉันอยู่ภาคเหนือ ดิฉันชวนแกๆ บอกว่าดิฉันจะกลับบ้านสัก 2-3วันจะไปกับดิฉันใหม แกตอบมาว่าแล้วพ่อไอ้ตัวเล็กไม่ไปด้วยหรือ ดิฉันตอบไปว่าเขาติดงานไปไม่ได้ มีดิฉันไปแต่ผู้เดียว แกก็บอกว่าอย่างงั้นก็ไป ได้นัดวันเวลากันเสร็จเรียบร้อยถึงวันก็ออกเดินทาง แกเอารถของแกไปเอง แกขับรถไปแกก็ไม่ได้รวนรามอะไรดิฉันเลย ในใจดิฉันก็คิดว่าแกเป็นคนดีที่ใว้ใจได้ ตลอดการเดินทางแกก็ขับรถของแกไปเลื่อยก็พูดคุยเรื่องของแกและภูมิประเทศข้างทางของแกไปเลื่อย จนดิฉันนึกอยู่ในใจว่า ถ้าเราไม่เป็นฝ่ายลุกหรือเป็นฝ่ายรวนราม แกคงไม่ทำอะไรแน่น รถวิ่งไปได้ 200 กว่ากิโลแก่ก็ยังคงสถาพเรียบร้อยไม่มีเรื่องลามกจกเปรต ออกมาเหมือนอย่างที่แกคุยที่ห้องกาแฟในบริษัทเลย เป็นไงเป็นกันดิฉันนึกอยู่ในใจ จะว่าก็ว่าเถอะ ไม่ใหวแล้ว ที่(กู)กลับนี้ที่จริงแล้ว(กู)ก็อยากจะเจออย่างที่แกพูดจะได้รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า ดิฉันเริ่มเอามือของดิฉันวางที่ตันขาแก จับต้นขาแกไกล้ๆจุดสำคัญของแกๆก็ยังขับรถเฉย ดิฉันเอาของดิฉันไปจับใบหน้าแกหูแก ดูแล้วแกเริ่มมีอาการ ดิฉันจึงยื้นหน้าของดิฉันไปจูบแก คราวนี้เป็นเรื่อง แกจูบตอบ ในใจของดิฉันคิดว่า จะว่าดิฉันหน้าด้านก็ว่าเถอะ ก็อยากคุยให้อยากทำไม รสจูบของแกที่จูบตอบ เป็นรสจูบที่ดิฉันไม่เคยเจอ ไม่เคยเจอจริงๆสามีดิฉัน เวลาเสพกามบนตัวดิฉันก็บอกแล้ว เร็วเหมือนนกกระจอกกินน้ำกระแทกอย่างเดียว ไม่สนใจว่าดิฉันจะเจ็บเพราะรูฉีกขาดและแสบเพราะรูฝืด เหมือนกับว่า เอ็งเป็นอย่างไรกูไม่สนขอให้กูน้ำออกก็แล้วกัน หลังๆดิฉันไม่ให้เขาเสพกามบนตัวดิฉันอีกเพราะความเจ็บที่เขาทิ้งไว้ให้ดิฉันหลังจากที่เขาได้ความสุขไปแล้ว นี่เป็นเพียงรสจูบของเจ้านายดิฉันยังทำให้ดิฉันมีความสุขอย่างประหลาด ใจดิฉันคลุ่นคิดว่าแกต้องมีของดีแน่นๆอย่างที่แกคุยในห้องกาแฟ นี่ขนาดขับรถไป แกจูบไป ลิ้นแกพันลิ้นดิฉันจนดิฉันเหมือนสุนัขบ้า น้ำรายไหลเต็มข้างปาก พอรถมาถึงจุดหมายปลายทาง แกก็ไปเปิดห้องพัก ก่อนที่แกจะไปส่งดิฉันที่บ้าน และเมื่อเข้าห้องดิฉันก็เดินตามแกเข้าไปในห้อง ดิฉันต้องตกใจเป็นอย่างมาก อยู่ๆแกผลักดิฉันนอนลงบนเตียง แกเรียกชื่อดิฉันแล้วแกพูดว่า ขอเลียหน่อยได้ใหมแกอยากเลียมานานแล้วแต่แกไม่กล้าขอ ดิฉันก็ยังมีความอายๆอยู่ อีกใจก็คิดว่านี่เรานอกใจสามีเราหรือเปล่า อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาไม่เคยให้ความสุขเราเลย 20 กว่าปี มีแต่ฟังเขาพูดกันและบัดนี้เหตุการณ์มันมาแล้วเราจะไม่รับหรือ ในเวลานั้นดิฉันจึงตัดสิ้นตอบกับเจ้านายดิฉันว่า ให้เลียอย่างเดียวนะ อย่างอื่นดิฉันยังไม่ให้นะ แกก็บอกว่าไม่เป็นไร ค่อยเป็นค่อยไป เชื่อใหมท่านผู้อ่าน ดิฉันไม่เคยเจอะเจอเลย มันเป็นความสุขที่บอกไม่ถูก รู้สึกว่ามีน้ำไหลออกมาจากจิ๋มเหมือนน้ำเยี่ยว แต่หัวหน้าดิฉันบอกว่าปล่อยให้มันไหลออกมา ผมจะเลียกินมันให้หมด ถูกเลียอยู่พักใหญ่เขาจึงไปส่งดิฉันที่บ้าน รู้ใหมว่าคืนนั้นดิฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอนมันเป็นความสุขที่หาไม่ได้อีกแล้ว ดิฉันอยู่บ้าน3 วัน2คืน คราวนี้รู้แล้วว่าอะไรคืออะไร คืนที่สองดิฉันดอดไปหาเขาที่โรงแรมอีก เพื่อให้เขาเลีย จนวันที่กลับกรุงเทพฯแกก็มาส่งดิฉันที่หน้าบ้านเวลานั้นเป็นเวลา 23.00 น.เห็นจะได้ มองไปในบ้านก็เห็นรถของสามีจอดอยู่ในบ้าน และไฟในบ้านดับหมดแล้ว ดิฉันยังไม่ยอมลงจากรถ บอกกับเจ้านายว่าเลียให้ก่อนอีกครั้งถึงจะเข้าบ้าน และดิฉันก็รีบถอดกางแกงออกแอ่นจิ๋มให้แกเลีย ในรถนั้นแกก็ยังทำให้ดิฉันน้ำแตกน้ำแตนได้อีก จนเวลาประมาณ 24.00 น.เห็นจะได้ ดิฉันจึงกลับเข้าบ้าน หลังจากวันนั้นแล้วก็ยังมานั่งคิดว่า ขนาดแกเลียให้ยังมีความสุขขนาดนี้ ถ้ายอมให้แกใส่อย่างที่แกได้พูดเอาใว้ในห้องกาแฟคงจะสุขมากกว่านี่ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันดิฉันจึงตัดสินใจ เอาวะจะหาว่านอกใจก็นอกใจเถอะ ความมันตอนนี้มันไม่เข้าใครออกใครแล้ว ดิฉันจึงนัดแกให้แกพาไปใหนก็ไปที่ๆให้ความสุขดิฉันได้ ตกลงวันที่นัดแกพาดิฉันไปริมทะเล เข้าใจว่าเป็นเขตทหารเรือเพราะเห็นทหารเรือเดินกันเต็มไปหมด แต่ดิฉันไม่สนใจเรื่องทหารสนใจว่าจะเจอความสุขอย่างไร หลังจากที่เปิดบ้านพักเรียบร้อยแล้ว แกก็ลงมือเลียของดิฉันอีกคราวนี้แกคงปล่อยฤทธิ์ปล่อยเดช ของแกออกมาจนหมด ดิฉันเสียวมากเพราะลิ้นแกทั้งชัยอยู่ในรู(หี) พร้อมทั้งตวัดไปมาที่เม็ดๆตรงปากทางรู(หี) น้ำแตกออกมาจนบอกไม่ถูกว่าเป็นน้ำอะไร เยียวก็กันไม่อยู่ออกมาด้วย จนดิฉันต้องขอพักเพราะหายใจไม่ทัน อีกสักพักแก ลงมือต่อคราวนี้แกเอาของแก(ควย)มาจอมีรู(หี)ของดิฉัน วนๆอยู่หลายรอบ บอกตรงๆเสียวมาก น้ำเมือกเหนียวๆออกมาเปียกที่นอนเต็ม พอได้จังหวะแกกระแทก(ควย)เข้าไปในรู(หี)จำได้ว่าดังปัก และแกซอยถี่ยิบ ดิฉันร้องเสียงหลง จำไม่ได้ร้องอะไรออกมาบาง แต่จำได้ว่าร้องก็แล้วกันเหมือนกับเกิดใหม่ที่มีแต่ความเสียวกระสัน ของแกนึกว่าเล็กที่ใหนได้ ทั้งใหญ่ทั้งเเข็งแถมทนอีกต่างหาก บอกตรงๆวันนั้นไม่อยากกินอะไร ไม่อยากกลับบ้านอยากจะให้แกเอาอย่างเดียว โดนแกเอาตั้งแต่ 10โมงมาจบเอาประมาณบ่าย 3 โมง นี่แหละเป็นสาเหตุที่ต้องมีผัวอีกคน ทั้งเลียทั้งเอาสาระพัดที่แกทำให้ แกเลียซอกนิ้ว ยังมีความสุขได้ ทั้งๆที่สามีดิฉันบอกว่ารักดิฉันรักนักรักหนา 20 กว่าปี ไม่เคยเลยที่จะทำความสุขให้ภรรยาคนนี้สักครั้ง แต่ที่ยังต้องจงรักภักดีกับเขาก็เรื่องเลี้ยงดูและมีลูกด้วยกัน แต่กับเจ้านายเขาก็รับผิดชอบเลี้ยงดูอยู่เหมือนกัน ให้มากกว่าสามีดิฉันเสียอีก แต่ที่ดิฉันต้องปิดบังเพราะไม่อยากทำรายน้ำใจใคร และทุกวันนี้ดิฉันก็หาความสุขกับเจ้านายดิฉันอยู่เป็นนิด เงินแกก็ให้,ทองแกก็ซื้อให้ใส่ไม่น้อยหน้าใคร,ปีใหม่แกก็ให้โบนัสเป็นแสน เรื่องนี้เรื่องจริงที่ดิฉันเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง

ไม่มีความคิดเห็น: