ขายของ

วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

พิศวาสมังกรหยก (ฉบับเต็ม) ตอน กำเนิดคัมภีร์มารนพเก้า 2

หลังจากที่หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งได้เดินทางกลับมายังตงง้วนแล้ว ก็คงมุ่งมั่นที่จะแปลพระไตรปิฎกเพื่อออกเผยแพร่ โดยมีโป๋ยก๋ายกับเฮ้งซุนหงอเป็นผู้ช่วย ต่อมาเป็นโป๊ยก๋ายได้เข้ามาเอาของในย่ามของหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋ง พบคัมภีร์อยู่ 2 เล่ม โป๊ยก๋ายกลับสนใจในคัมภีร์กามาสูตร ที่มีรูปท่วงท่าการร่วมเพศ จึงแอบหยิบออกมาแล้วนำไปฝึก โดยระหว่างที่ช่วยหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งแปลพระไตรปิฏกได้สอบถามความหมายของคำใน ภาษาบาลี หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งทีแรกก็แปลกใจเพราะแต่เดิม โป๋ยก๋ายเป็นคนนิสัยไม่เอาไหน แถมฝักใฝ่แต่ในเรื่องโลกีย์ แต่กลับมาสนใจช่วยแปลพระไตรปิฎก เลยคิดว่าเป็นเพราะผลบุญเลยทำให้ลูกศิษย์ของท่านกลับตัวฝักใฝ่ธรรมะได้ ส่วนคัมภีร์ล้ำค่าอีกเล่ม คือ คัมภีร์พิสดารเก้าประการ โป๊ยก๋ายเห็นว่าตีความฝึกฝนยากเลยไม่ได้สนใจ ฝ่ายองค์ชายเจอรูดัลกับนางรัศมีเทวี ตามหาหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งและพวกอยู่ปีเศษยังไม่พบ จนทั้งสองสามารถพูดภาษาของตงง้วนได้ จนวันหนึ่งโป๊ยก๋ายออกมาเที่ยวหอนางโลม ได้พบเห็นนางรัศมีเทวีอยู่ในโรงเตี้ยมข้างๆ โดยบังเอิญ จึงมีความคิดต้องการในตัวนางขึ้นมา ในคืนนั้นโป๊ยก๋ายจึงลอบเข้าไปที่โรงเตี้ยมที่ทั้งสองพัก แล้วไปแอบดูที่ห้องนอน พบเห็นทั้งคู่กำลังร่วมรักกันอยู่ โป๊ยก๋ายทีแรกประหลาดใจเพราะรับทราบมาว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกันไฉนมาสมสู่ กันได้ พอแอบดูไปเห็นทั้งคู่ร่วมรักกันแบบถึงพริกถึงขิง จึงคิดว่าทั้งคู่ต่างมักมากในกามคุณเหมือนกันตน โป๊ยก๋ายรอทั้งคู่ร่วมพิศวาสกันจนเหนื่อยอ่อนหลับไป จึงลอบเข้ามาในห้องแล้วสวมรอยเป็นองค์ชายเจอรูดัลทำเอากับนางรัศมีเทวีต่อ ทั้งที่องค์ชายเจอรูดัลยังหลับอยู่ข้างๆ นางรัศมีเทวีไม่รู้คิดว่าเป็นสามีนางจึงปล่อยให้โป๊ยก๋ายร่วมรักกับนางต่อไป จนเสร็จ “นับว่า เจ้าโป๊ยก๋ายนี่ ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า กล้าร่วมรักกับเมียคนอื่น บนเตียงที่สามีหลับอยู่ข้างๆ ได้” ก๊วยเจ๋งโพล่งออกมาอย่างลืมตัว อึ้งย้งเล่าต่อ พอเวลาผ่านไปนางรัศมีเทวี ลืมตาขึ้นมาพบว่า มีชายอื่นขึ้นมานอนร่วมรักกับตนไม่ใช่สามี จึงร้องเอะอะขึ้น จนองค์ชายเจอรูดัลตื่นขึ้นมา โป๊ยก๋ายรีบหนีออกมานอกห้อง ทั้งสองไล่ล่าออกมาต่อสู้กันกลางโรงเตี้ยมจนผู้คนในโรงเตี้ยมตื่นขึ้นมาจน หมด ทั้งสองจำโป๊ยก๋ายได้ว่าคือลูกศิษย์ของหลวงจีนเล่าซ่าเจ็งที่พวกตนตามหาจึงคลั่งแค้นยิ่งขึ้น ขณะนั้นเจ้าสำนักดาบทองซึ่งนับถือหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งได้มาพักที่โรงเตี้ยม แห่งนี้ พร้อมกับบุตรและธิดา โป๊ยก๋ายเห็นสู้ไม่ได้ จึงร้องให้เจ้าสำนักดาบทองช่วย เจ้าสำนักงานดาบทองเห็นแก่หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งจึงยื่นมือมาไกล่เกลี่ย องค์ชายเจอรูดัลจึงว่าโป๊ยก๋ายเข้ามาลักหลับภรรยาตนรวมถึงเรื่องที่หลวงจีน เล่าซ่าเจ๋งและพวกฆ่าอาจารย์ของตนและขโมยคัมภีร์กลับมาที่ตงง้วนด้วย เจ้าสำนักดาบทองได้ฟังเรื่องที่โป๊ยก๋ายเข้าไปลักหลับภรรยาผู้อื่นพอจะเชื่อ ได้ แต่เรื่องหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งฆ่าผู้อื่นขโมยคัมภีร์ยากจะเชื่อ เพราะหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งสมณะเพศที่เคร่งครัดวินัยยิ่ง โป๊ยก๋ายรีบโต้เถียงว่า ตนไม่ได้ทำอย่างนั้นเป็นทั้งคู่เชิญชวนให้เข้ามาร่วมสนุกด้วยต่างหาก เพราะทั้งคู่ต่างมักมากในกามเช่นเดียวกับมัน และทั้งคู่ต่างเป็นพี่น้องกันยังลักลอบสมสู่กันได้ องค์ชายเจอรูดัลไม่ได้รู้ขนบธรรมเนียมของตงง้วนเรา เลยตกหลุมพรางโป๊ยก๋ายว่า ใช่ ถึงแม้ว่าจะเป็นพี่น้องกันแต่ก็เป็นคู่หมั้นกัน บัดนี้เราตกลงเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ถึงตรงนี้ผู้คนที่รับฟังต่างวิพากย์วิจารณ์กันอื้ออึง บังเอิญโป๊ยก๋ายทำคัมภีร์ตกลงพื้น องค์ชายเจอรูดัลเห็นจำได้จึงบอกว่านั่นเป็นคัมภีร์ของอาจารย์เราที่หลวงจีน เล่าซ่าเจ๋งขโมยมา โป๊ยก๋ายหยิบขึ้นมากลางออกดู ผู้คนที่นั้นจึงเห็นเป็นท่าร่วมเพศของชายหญิงอยู่มากมาย จึงยิ่งฮือฮากันใหญ่ ทั้งกระดากทั้งดูแคลนทั้งสองมากขึ้น ร้องถามว่านี่เป็นคัมภีร์ของอาจารย์เจ้าที่ทั้งสองตามหางั้นหรือ องค์ชายเจอรูดัลตอบถูกต้องแล้ว แต่ยังมีคัมภีร์ฝีมืออีกเล่มคือคัมภีร์พิสดารเก้าประการ ถึงตรงนี้ผู้คนต่างหัวเราะเยาะทั้งสองเป็นการใหญ่ ให้ทั้งสองรีบนำคัมภีร์กลับไปส่วนอีกเล่มที่ว่าก็คงจะลามกไม่แพ้เล่มนี้เช่น กัน ไหนเลยหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งจะขโมยของพวกนี้มา ตอนนี้ผู้คนต่างดูถูกทั้งคู่และซุบซิบนินทาเรื่องพี่น้องไร้ยางอายสมสู่กัน เอง ผิดธรรมเนียมร้ายแรง ทั้งคู่ฟังทีแรกไม่เข้าใจ แต่พอยิ่งรับฟังนานเข้าทุกผู้คนต่างว่าพวกตนเสียหายอย่างหนัก ทั้งที่พวกตนถูกทำร้ายแต่กลับเป็นฝ่ายถูกก่นด่า จึงโกรธจัดลงมือจัดการสั่งสอนทุกผู้คนในโรงเตี้ยมเป็นการตอบแทน เหล่าชาวยุทธในโรงเตี้ยมต่างไม่สามารถสู้กับฝีมือพิสดารของทั้งคู่ได้ถูกสยบ จนหมดสิ้น ส่วนโป๊ยก๋ายตัวแสบเลยถือโอกาสหลบหนีไปได้ ทั้งคู่ยังโมโหไม่หายเรื่องพวกตนทำผิดธรรมเนียมยังไง เพราะบ้านเมืองตนพี่น้องต่างก็แต่งงานกันได้ ชาวยุทธต่างชี้แจงว่าที่ตงง้วนเราไม่มีประเพณีอย่างนั้น องค์ชายเจอรูดัลจึงว่าดีละงั้นเราจะเปลี่ยนธรรมเนียมที่นี้ใหม่ ต่อจากนั้นองค์ชายเจอรูดัลจึงจัดการให้ชาวยุทธในโรงเตี้ยมนั้นใครเป็นพ่อลูก พี่น้องกันก็ให้ร่วมรักกันเอง เจ้าสำนักดาบทองตอนนั้นถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส องค์ชายเจอรูดัลเลยบังคับให้บุตรและธิดาของเจ้าสำนักดาบทองสังวาสกันเอง รวมถึงเถ้าแก่โรงเตี้ยมกับลูกสาว หากใครไม่ได้พาพี่น้อง ลูกชายลูกสาวมา ก็จะซักถามบันทึกรายชื่อไว้ว่าอยู่แห่งหนใด จะไปคิดบัญชีภายหลัง “เหลวไหลจริง ทำไมถึงได้ก่อเรื่องบัดซบอย่างนี้ได้” ก๊วยเจ๋งร้องแทรกขึ้นมาอีกครั้ง จากเหตุการณ์ในวันนั้น ทั้งคู่จึงบุกสำนักต่างๆ จัดการให้เฮียม่วยบุคคลในครอบครัวร่วมรักกันเอง มีหลายครอบครัวต้องฆ่าตัวตาย เพราะอับอาย ส่วนอีกมากก็เก็บเงียบไม่กล้าให้ใครล่วงรู้ว่าโดนทั้งคู่บุกมา กลายเป็นภัยยุทธภพชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้คนต่างขนานนามทั้งคู่ว่า ยอดยุทธพิศวาส ทีแรกเรียกทั้งคู่เป็นมาร แต่กลัวว่าทั้งคู่ได้ยินแล้วไม่พอใจจะมีภัยถึงตัว จึงเรียกทั้งคู่ว่าเช่นนั้น เพราะทั้งคู่ต่างมีวิชาพิสดารสูงส่งไม่มีใครต่อกรได้ จนความรู้ถึงอาจารย์ของเราคือ เทพยดาขอทาน อั้งชิกกง จึงยื่นเข้ามาประลองกับทั้งคู่แต่ปรากฎว่าท่านก็เสียทีเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ แก่ทั้งคู่ “อะไรกัน แม้แต่ท่านผู้เฒ่าก็แพ้แก่ทั้งคู่งั้นหรือ” ก๊วยเจ๋งถาม “อืม...” อึ้งย้งผงกหัวรับ ข่าวเทพยดาขอทานซึ่งตอนนั้นถูกจัดเป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือแห่งยุคพ่ายแพ้แพร่ กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งขยายถึงเรื่องสองประการคือ หนึ่งฝีมืออันล้ำเลิศของยอดยุทธพิศวาสทำให้ชื่อเสียงความน่ากลัวของทั้งคู่ เพิ่มมากขึ้น สองคือที่มาของฝีมือของทั้งคู่ที่มาจากคัมภีร์วิชาพิสดารเก้าประการที่ทั้ง คู่กล่าวถึง ถึงตอนนี้ชาวยุทธเรียกคัมภีร์นั้นว่าคัมภีร์มารนพเก้า(เก้าอิ๋มจินเก็ง) ทำให้ชาวยุทธทุกผู้คนต่างกระหายอยากได้คัมภีร์เล่มนี้กันอย่างมากเพราะ ประจักษ์ถึงความพิสดารที่ยอดยุทธพิศวาสใช้ออกมา ความเรื่องนี้ระบาดไปทั่วแผ่นดิน ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเพราะรู้ว่าคัมภีร์เล่มนี้ ตอนนี้อยู่ที่หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋ง รวมถึงยอดฝีมือที่เหลือ คือ เจ้าทักษิณต้วนอ๋อง อาวเอี้ยงฮง และบิดาข้าอึ้งเอี๊ยะซือ “แล้ว ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยง ละ” “ข้ากำลังจะพูดถึงอยู่พอดี” ฝ่ายหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งได้แปลพระไตรปิฎกสำเร็จ ตั้งใจจะเดินทางเข้าวังเพื่อมอบพระไตรปิฎกให้กับทางราชสำนักตามที่ได้รับมอบ หมาย จึงออกเดินทางไปกับลูกศิษย์ทั้งสองแต่ระหว่างทางโป๊ยก๋ายได้หนีไปเที่ยวจน เกิดเรื่องขึ้น รุ่งขึ้นท่านจึงออกเดินทางต่อไปกับเฮ้งซุนหงอ โดยคิดว่าโป๊ยก๋ายจะติดตามไปภายหลัง เพราะโป๊ยก๋ายมักมีนิสัยเช่นนี้เป็นประจำ ระหว่างเดินทางได้มีชาวยุทธคิดจะมาช่วงชิงคัมภีร์มารนพเก้าจากท่าน แต่อาศัยว่าเฮ้งซุนหงอเป็นผู้มีวิทยายุทธสูงช่วยเหลือไว้ จึงได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เฮ้งซุนหงอเห็นท่าไม่ดี จึงปรึกษากับหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งว่า ควรแวะไปหาท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงซึ่งเป็นพี่ชายที่เขาจงน้ำที่กำลังจะผ่านไปดี กว่า เพื่อให้ช่วยคุ้มครองและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ด้วย “อ๋อ ที่แท้ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงเป็นพี่ชายของเฮ้งซุนหงอนี้หรอกหรือ” ก๊วยเจ๋งพูดขึ้นเบาๆ ฝ่ายท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงตอนนั้นยังไม่ได้ออกบวชแต่เลื่อมใสในลัทธิเต๋าอยู่ และเป็นผู้นำชาวยุทธในการต่อต้านกองทัพไต้กิมก๊ก หลังจากได้ทราบเรื่องของยอดยทธพิศวาสก็นึกเป็นห่วงน้องชายอยู่พอดี เฮ้งซุนหงอพาหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งมาหาจึงดีใจ เพราะตอนนี้เรื่องยอดยุทธพิศวาสที่กำลังอาละวาดและตามหาหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋ง กับพวก รวมถึงจอมยุทธต่างๆ ก็หมายจะช่วงชิงคัมภีร์ยุทธพิศดารต่างโจษจันไปทั้งแผ่นดิน ยิ่งตอนนี้ข่าวยาจกอุดรพ่ายแก่ยอดยุทธพิศวาสยิ่งทำให้น่าวิตก ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงจึงมีความคิดว่า เรื่องแรกที่ต้องดำเนินการคือหาทางกำจัดยอดยุทธพิศวาสให้ได้เสียก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยหาทางแก้ไขต่อไป จึงได้ออกเทียบเชิญสุดยอดฝีมืออีกสี่คน คือ ยาจกอุดร พิษปัจฉิม ภูตบูรพา และอ๋องแห่งทักษิณ มาร่วมมือกันกำจัดยอดยุทธพิศวาส ต่อจากนั้นเป็นอย่างไรคิดว่าพี่ก๊วยเจ๋งคงจะเดาได้ “อืม..ข้าคาดว่ายอดฝีมือทั้งห้า คงร่วมมือกันกำจัดยอดยุทธพิศวาสสำเร็จ เพราะต่างก็มีจุดประสงค์อยากได้คัมภีร์มารนพเก้าจึงร่วมมือกันขจัดภัยใน ครั้งนี้” “เป็นอย่างที่ท่านคาดเดา” “รายละเอียดการต่อสู้เป็นอย่างไรบ้างละ” “เออ..อันนี้ข้าไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกัน เพราะในบันทึกท่านพ่อไม่ได้กล่าวถึง” “เสียดายยิ่งนัก….แล้วหลังจากนั้นละ” “ก็เป็นอย่างที่ท่านพี่และข้าทราบ” ภายหลังจากที่กำจัดยอดยุทธพิศวาสได้แล้ว คัมภีร์มารนพเก้าก็เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องการจะแย่งชิง เพื่อยุติการเข่นฆ่ากันจึงกำหนดการประลองยุทธขึ้นทั่วแผ่นดินหากใครชนะจะได้ คัมภีร์ไปครอบครองห้ามแก่งแย่งกันอีก แต่ในตอนนั้นนอกจากสุดยอดฝีมือทั้งห้าแล้วก็ไม่มีใครมีวรยุทธเทียบได้ จึงคงมีแต่ยอดฝีมือทั้งห้าท่านเข้าร่วมประลองกันบนเขาหัวซาน โดยขอให้หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งช่วยแปลคัมภีร์นั้นออกมา เพราะไม่มีใครชำนาญภาษาบาลีสันสกฤตได้ดีเท่าท่านอีกแล้ว กำหนดวันประลองอีก 2 เดือนข้างหน้าหากใครชนะจัดเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดินได้คัมภีร์มาร นพเก้าไปครอบครองแต่ผู้เดียว “สุดท้ายท่าเฮ้งเต็งเอี้ยงก็เป็นผู้ชนะได้คัมภีร์ไปครอบครอง” ก๊วยเจ๋งกล่าวเสริม “เป็นไปตามที่ท่านทราบดี…เพียงแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ข่าเล่าข้ามไปบ้าง” “อะไรบ้างหรือ” ก๊วยเจ๋งขมวดคิ้วถามต่อ “เช่นเรื่องที่ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงชนะเป็นผู้มีวรยุทธอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ก็ถูกกล่าวหาว่าตอนที่หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งกับเฮ้งซุนหงอมาพักอยู่ เฮ้งซุนหงอก็ลอบแปลเนื้อหาในคัมภีร์นพเก้ามาบอกพี่ชายให้ฝึกก่อนอยู่แล้ว จึงมีวรยุทธรุดหน้ากว่าคนอื่น” “ฮ้า..เป็นเช่นนั้นหรือ” “อันนี้ไม่แน่นอนเป็นแต่คำร่ำลือกล่าวหา ตอนนั้นต่างคิดกันว่าเรื่องยอดยุทธพิศวาสเป็นเรื่องเกียรติภูมิของแผ่นดิน จะแพ้ไม่ได้ เพราะจะทำให้ต้องยอมรับเรื่องหลวงจีนเล่าซ่าเจ็งฆ่าโยคีแล้วขโมยคัมภีร์หนี มา และจะต้องเปลี่ยนประเพณีตามที่ยอดยุทธพิศวาสกำหนด เพื่อให้ได้ชัยชนะท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงจึงได้เรียนรู้วิชาในคัมภีร์เพื่อรับ มือกับศัตรูในครั้งนี้ ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงก็สมเป็นอัจฉริยะบู๊ลิ้มในขณะนั้นสามารถฝึกลมปราณเปลี่ยน เส้นเอ็นได้ในเวลารวดเร็ว แม้ยังไม่บรรลุขั้นสูงสุดแต่ก็ปรับปรุงจนมีฝีมือรุดหน้าได้” อีกเรื่องคือ โป๊ยก๋ายตัวแสบได้ถูกเหล่าชาวยุทธที่โดนยอดยุทธพิศวาสทำร้ายบังคับให้ร่วม รักในครอบครัวกันเองโกรธแค้นตามเข่นฆ่าในฐานะตัวการ แต่กลับหนีมาเจอพิษปัจฉิมเข้า อาศัยความเจ้าเล่ห์ให้พิษปัจฉิมช่วยเหลือ โดยวางแผนว่าจะแอบไปขโมยคัมภีร์มาให้ และมันจะเป็นผู้แปลให้เองเพราะมันก็รู้ภาษาบาลีสันสกฤตเหมือนกัน มันจึงกลับไปหาอาจารย์(หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋ง) ขอให้ยกโทษให้ แต่กลับลอบวางยาอาจารย์กับศิษย์ผู้พี่เพื่อขโมยคัมภีร์ โดยไม่รู้ว่ายาที่ปัจฉิมให้มามีพิษร้ายแรง ทำให้เฮ้งซุนหงอต้องเสียชีวิต ส่วนหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงใช้กำลังภายในขับพิษออกทัน แต่ทำให้หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งต้องอาพาธ(ป่วย) ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงโกรธจัดไปชิงคัมภีร์กลับมาได้และสังหารโป๊ยก๋ายตายไป” “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ” ภายหลังที่สามารถขับไล่ยอดยุทธพิศวาสออกไปจากตงง้วน หลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งถึงแม้จะป่วยอยู่ก็สู้อุตสาห์แปลคัมภีร์นพเก้าจนเสร็จ แต่มีเนื้อหาบางตอนที่ท่านไม่สามารถแปลได้ เพราะมหาโยคีบาบาตูตู้ใช้ภาษาบาลีโบราณที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ไม่สามารถเข้าใจความหมายได้จึงเขียนทับศัพท์ไว้ เมื่อแปลจบท่านก็มรณะภาพ ก่อนตายท่านได้ฝากเรื่องคัมภีร์และพระไตรปิฏกของท่านไว้ และสังเสียว่า “เสียใจที่อาตมานำเพศภัยมาสู่ตงง้วนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หวังว่าคัมภีร์ยุทธที่ท่านแปลให้ ชาวยุทธที่ได้ครอบครองจงนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เสียดายที่ท่านกลับมาหวังจะเผยแพร่พระไตรปิฏกให้เป็นที่เลื่องลือ สู้อุตสาห์ดั้นด้นไปนำมาจากชมพูทวีป มาแปลความเพื่อเผยแพร่ศาสนาแต่ไม่มีผู้คนสนใจ กลับสนใจในคัมภีร์ยุทธมากกว่า หากผู้ใดเผยแพร่พระไตรปิฏกที่อาตมานำมานี้จะประเสริฐยิ่งนัก” “ท่านเฮ้งเต็งเอี้ยงจึงสัญญาว่าหากได้ครอบครองคัมภีร์จะนำไปใช้ให้เกิด ประโยชน์แก่แผ่นดิน และจะนำพระไตรปิฏกไปให้กับทางราชสำนัก หาผู้สืบทอดศาสนาต่อไป” “ภายหลังท่านเฮ้งเตี้ยงได้ออกบวช แต่ถือศีลตามลัทธิเต๋าที่ท่านนับถือ ก่อตั้งสำนักช้วนจิ้นก้าฝึกลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหลายคน แต่สาเหตุว่ากันว่าเป็นเพราะท่านต้องการฝึกยอดฝีมือในคัมภีร์ให้ถึงจุดสุด ยอด เพราะจริงๆ แล้วผู้ที่เข้าถึงสภาวะธรรมขั้นสูงเท่านั้นจึงจะสามารถฝึกสุดยอดวิชาลมปราณ ในคัมภีร์นั้นได้ ต่อจากนั้นเรื่องเป็นอย่างไรเป็นอย่างที่เรารู้กัน” ( หาอ่านเอาจากนวนิยายมังกรหยกของแท้) (***** ต่อมาเจตนารมย์ของหลวงจีนเล่าซ่าเจ๋งก็มาสมปรารถนาดังใจได้ เมื่อกาลต่อมา ปรากฎมีนักบวชอินเดียรูปหนึ่ง ได้เดินทางอัญเชิญสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเข้ามาในเมืองจีน นักบวชท่านนี้ได้ครอบครองคัมภีร์นพเก้าในเวลาต่อมา และได้ปรับปรุงตัดทอนเนื้อหาในคัมภีร์มารนพเก้าเสียใหม่ คงเหลือแต่วิชาลมปราณ จึงได้เปลี่ยนชื่อคัมภีร์ใหม่ เป็น คัมภีร์ฝึกลมปราณเปลี่ยนเส้นเอ็น และท่านก็เป็นคนแรกที่สามารถฝึกวิชาในคัมภีร์นี้ได้ถึงขั้นสูงสุดคือ ขั้นสีขาว ภายหลังได้ก่อตั้งวัดขึ้นมาแห่งหนึ่ง เพื่อเผยแพร่ศาสนาและฝึกวิทยายุทธให้กับพระในวัด ภายหลังจึงมีฆราวาสสนใจมาฝึกวิทยายุทธที่วัดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียง เป็นผู้นำชาวยุทธมาหลายยุคสมัย จนถึงสมัยแมนจูขึ้นปกครองแผ่นดินจีน กลัววัดแห่งนี้เป็นที่ซ่องสุมกำลังโค่นล้มราชวงศ์ จึงเกณฑ์กองกำลังทหารมาเผาวัดแห่งนี้แล้วเอาพระบรมสารีริกธาตุไป ส่วนคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นกลับหายสาบสูญไป ปัจจุบันวัดนี้ได้ถูกบรูณะสังขรขึ้นมาใหม่ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ชื่อของนักบวชอินเดียท่านนั้นเรารู้จักกันดีนามว่า ปรจารย์ตั๊กม้อ วัดที่ท่านก่อตั้งขึ้นจนลือชื่อถึงปัจจุบันก็คือ วัดเส้าหลินนั่นเอง****) “ตามที่เจ้าเล่ามานั้นน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว แต่ข้ายังสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง” “ท่านพี่คงหมายถึง เหตุใดยอดยุทธพิศวาสจึงกลับเข้ามาในตงง้วนอีก ในเมื่อหายไปถึง สามสิบปีแล้ว” “ถูกแล้ว” “ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน เพราะมีจุดที่เราไม่ทราบคือ พวกเราเอาชนะยอดยุทธพิศวาสได้อย่างไร ไฉนจึงยอมออกจากตงง้วน” “อืม…แล้วทำไมถึงยอมทิ้งคัมภีร์ฝีมือไว้ แล้วเรื่องยอดยุทธพิศวาสนี่ทำไมกลับไม่มีใครพูดถึง คงมีแต่ในบันทึกของพ่อเจ้า” “ข้าคาดว่า ฝ่ายเราคงเจรจากับยอดยุทธพิศวาสเรื่องคัมภีร์ทางนั้นก็ว่าเราขโมยมา ส่วนเราก็ว่าได้มาโดยชอบธรรม หากจะทวงคืนฝ่ายเราคงไม่ยอมเพราะกลัวว่าหากฝ่านนั้นได้ไปฝึกวิชาจนสำเร็จ จะไม่มีใครรับมือได้แล้ว เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องจึงต้องประลองกัน โดยมีเงื่อนไขว่าหากแพ้ต้องถือคัมภีร์เป็นของฝ่ายเราและต้องออกไปจากตงง้วน” “ก็น่าจะเป็นอย่างที่เจ้าว่า หากฝ่ายเราแพ้ยอดยุทธพิศวาสคงจะควบคุมยุทธจักรของเรา และคงเรื่องสมสู่กันระหว่างในครอบครัวอีก” “ก็คงเป็นเรื่องนี้ ที่ประเพณีชาวตงง้วนเราไม่ยอมรับ ฝ่ายเราคงรู้สึกเรื่องที่เกิดเป็นสิ่งที่น่าอายจึงไม่มีใครอยากจะเอ่ยถึง เรื่องที่ผ่านมาก็ได้กระมั่ง” "อืม ประเพณีใครประเพณีมัน การจะมาบังคับให้เปลี่ยนประเพณีกันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง" ก๊วยเจ๋งหยุดคิดนิดหนึ่งจึงถามต่อ "ตอนนี้เราควรจะรับมือฝ่ายตรงข้ามอย่างไรดี" "ข้าก็คิดอยู่เหมือนกัน หากท่านพ่อข้าอยู่คงจะดี คงจะได้ทราบข้อมูลอะไรเพิ่มบ้าง ที่เรายังวางใจได้ก็คือ ค่ายกลเกาะดอกท้อเรา ไม่มีใครบุกเข้ามาได้ง่ายๆ หากโชคดียอดยุทธพิศวาส ถลำเข้ามาในค่ายกลชั้นในไม่รู้วิธีแก้จะถูกกักขังจนตาย ขนาดเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง ยังเคยถูกค่ายกลเกาะดอกท้อเรากักอยู่ตั้งหลายปีจนท่านพี่มาพบนั่นแหละ" "ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีทีเดียว นี่ดึกมากแล้ว เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ" " ไม่ข้าจะขอลงไปดูที่ห้องใต้ดินหน่อย เพื่อข้าจะคิดแนวทางอะไรได้บ้าง" ก๊วยเจ๋งดึงร่างอึ้งย้งเข้ามาประคองกอดไว้ อึ้งย้งเอียงศรีษะซบแนบอกผายของก๊วยเจ๋ง "อย่าหักโหมนักนะ วันนี้เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว" "ขอบคุณท่านที่ห่วงใย" "แล้วลูกฮู้ละ" "ข้าจี้จุดให้นางหลับพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำแล้ว วันนี้ลูกเราก็เจอเรื่องหนักๆมามาก" อึ้งย้งพูดพร้อมกับถอนใจเบาๆ แต่กระนั้นก๊วยเจ๋งก็จับความรู้สึกผู้เป็นภรรยาได้ "เจ้าหนักใจเรื่องลูกฮู้หรือ" "อืม..ฮือ ..ข้าเพิ่งรู้ว่าลูกเราเป็นสาวก็วันนี้เอง รวมทั้งเจ้าตงยู้และซิ่วบุ้นสองพี่น้องนั่นด้วย" "ดูว่ามันทั้งสองชอบลูกเราด้วยกันทั้งคู่" "นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง แล้วค่อยคิดกันเถอะ" อึ้งย้งผละจากร่างก๊วยเจ๋ง "เอาละท่านพี่ ไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าค่อยไป" "ตามใจเจ้า งั้นข้าไปนอนก่อนละ" ก๊วยเจ๋งว่าแล้วก็เดินจากไป ตอน ความลับของอึ้งย้ง ส่วนอึ้งย้งเดินไปที่เสากลางห้องโถง เอามือกดเข้าไปในเสา ปรากฎพื้นห้องแยกออกกลายเป็นบันไดศิลาลงไปยังเบื้องล่าง บนเพดานทางเดินประดับด้วยมุกราตรีส่องสว่างดุจโคมไฟ นางเดินเลี้ยวไปอีกสองทอดถึงห้องกว้างห้องหนึ่ง เอาหินขัดไฟขึ้นจุดพลางวาดท่าร่างกรีดดรรชนีดีดประกายไฟที่จุดติดพุ่งเข้าหา โคมเทียนที่อยู่รอบห้องสว่างไสวขึ้นมาทันที อึ้งย้งดีดดรรชนีต่อที่เปลวเทียนที่พึ่งสว่างขึ้นต่อไปยังเทียนไขที่เหลือ อีกสองสามครั้ง เทียนไขกว่าร้อยเล่มก็ส่วางขึ้นดุจกลางวัน นางแย้มยิ้มอย่างพอใจที่สามารถใช้นิ้วสุริยันของท่านอิดเต็งไต้ซือได้อย่าง สัมฤทธิ์ผล ภายในห้องลับใต้ดิน อากาศกลับถ่ายเทสดวกทั้งที่อยู่ใต้พื้น ฟากหนึ่งของห้องมีชั้นหนังสือมากมาย ส่วนอีกด้านมีเครื่องดนตรีแขวนอยู่ ห้องลับแห่งนี้จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่ท่านเจ้าเกาะดอกท้ออึ้งเอี๊ยะซือภูมิใจ ยิ่งนัก อีกด้านหนึ่งของห้องกลับมีเตียงนอนกว้างพร้อมเครื่องนอนสะอาดตา อึ้งเอี้ยะซือมักใช้ห้องนี้เป็นสถานที่คิดค้นวิชาฝีมือใหม่ๆขึ้นมาเสมอ จึงกินนอนในห้องนี้เสร็จ อึ้งย้งค่อยเสื้อผ้าตัวเองออกทีละชิ้น จนกระทั่งเอี้ยมตัวสุดท้ายได้หลุดออกจากกาย ยามนี้ร่างของนางเปลือยเปล่าขาวหมดจด แม้ทรวงอกจะหย่อนคล้อยไปบ้างแต่ยังกระชับเต่งตึงดูอวบอูมสมบูรณ์ยิ่งกว่ายาม แรกรุ่นเสียอีก เอวคอดรับกับสะโพกที่ผายใหญ่ หน้าท้องแม้จะมีไขมันเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ดูงดงามรับกับเนื้อนูนโหนกตรงหว่าง ที่มีเส้นหมอยดกดำราวกำมะหยี่ ขึ้นบนโคก แต่ก็ไม่ได้บดบังรูสวาทยาวรีแต่อย่างใด อึ้งย้งยืนสำรวจตัวเองตรงแผ่นกระจกอย่างพอใจ ก่อนก้าวขึ้นนอนบนเตียง นางคำนึงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ภาพยอดยุทธพิศวาสปรากฏขึ้นในมโนภาพ ถ้อยคำหยาบคายที่องค์ชายเจอรูดัลพูดจาบจ้วงอยากร่วมรักกับนาง อึ้งย้งเอามือนึงลูบคลำหน้าอกบีบคลึงไปมา ส่วนอีกมือเริ่มลูบต่ำขยี้แถวหว่างขา พลันในใจกลับคิดถึงตอนที่เจ้าสองลูกศิษย์ที่เกือยรุมเย็ดนางในถ้ำ ภาพท่อนควยของ มันล่องลอยมาให้เห็น อึ้งย้งยิ่งเร่งมือขยี้เนินถี่ขึ้นบิดตัวไปมาอย่างเสียวกระสันต์ โอ้...นี่อึ้งย้งนางถึงเกิดกำหนัดลอบเข้ามาสำเร็จความใคร่ในห้องลับแห่งนี้กระนั้นหรือ .................................................................. อีกด้านหนึ่งปรากฏร่างองค์ชายเจอรูดัล ยืนอยู่ใต้คบไฟ ตอนนี้ตลอดร่างของมันกลับเปลือยเปล่า แผงอกมีขนขึ้นรกรุงรัง องคชาติแข็งเป็นลำยาวราวๆ สี่เชี้ยะเศษ (เก้านิ้ว) แถมมีขนหมอยหยาบหนาขึ้นดกดำ มิหนำซ้ำขนหมอยยังดกขึ้นมารกถึงกลางลำควยยุบยับไปหมด อวดหัวบานทะโร่ด้วยอัดน้ำเงี่ยนอยู่ในนั้นจนเต็มที่ เป็นสีเขียวคล้ำเพราะผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน มันจ้องมองดูอึ้งย้งที่กำลังช่วยตัวเองให้ดูอย่างกระสันต์ อึ้งย้งกำลังช่วยตัวเองปรือตาขึ้นมองเห็น บุรุษลึกลับที่เจอเมื่อกลางวันซึ่งบัดนี้รู้แล้วว่าคือองค์ชายเจอรูดัล หนึ่งในยอดยุทธพิศวาสกลับส่งสายตายั่วยวนมาอย่างไม่สะทกสะท้าน เอามือแหวกเนินโคกอวดเนื้อในที่วาวด้วยน้ำกระสัน องค์ชายเจอรูดัลเดินตรงเข้ามาจับขาขาวสวยของอึ้งย้งแหวกออกก้มลงเอาหน้าซุก เข้ากลางหว่างขา ฉกลิ้นเข้าเลียตรงจงอยแตดปานงูฉก "โอว....ข้าเสียวยิ่ง อูยส์..สสสส" อะไรกันองค์ชายเจอรูดัลหนึ่งในยอดยุทธพิศวาสออกจากค่ายกลเกาะดอกท้อได้ตั้งแต่เมื่อใด เหตุไฉนจึงเข้ามาโลมเลียหีอึ้งย้งได้เช่นนี้ อึ้งย้งให้ก๊วยเจ๋งเข้านอนไปก่อน ส่วนตัวนางเองลอบลงมายังห้องลับ เพื่อนัดพบเล่นชู้กับยอดยุทธพิศวาสสวมเขาให้กับก๊วยเจ๋งผู้เป็นสามีอย่าง นั้นหรือ หรืออึ้งย้งต้องมนต์มายาใดกันแน่ ขอแทรกตอนนี้เข้ามาก่อน ตอนต่อไปกลัวจะยาวจะคอยกันนาน ขืนไม่เฉลยตอนนี้ก่อนโดนด่าแน่เลย ..................... เกาะดอกท้อ หากเอ่ยถึงชื่อเกาะดอกท้อแล้วในยุทธภพเวลานี้ไม่มีชาวยุทธคนใดที่ไม่รู้จัก หนึ่งนั้นเกาะดอกท้อเป็นสถานที่พักของยอดฝีมือที่เข้าขั้นปรมจารย์ ผู้บัญญัติกระบวนท่าฝีมือตั้งมากมาย รวมทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ ไม่ว่าจะเป็นด้านพิณ ภาพ กาพย์ กลอน ล้วนรู้แจ้งทั้งสิ้น อีกทั้งอุปนิสัยใจคอของเจ้าของเกาะออกแปลกประหลาด เป็นที่น่าเกรงขามและหวาดหวั่นของชาวยุทธทั่วไป จนตั้งฉายานามท่านว่า ภูตบูรพา อึ้งเอี้ยะซือ ทั่วทั้งแผ่นดินยากมีใครกล้าต่อกร สองคือ ค่ายกลของเกาะดอกท้อ ถูกยกย่องให้เป็นค่ายกลอันหนึ่งของแผ่นดินในเวลานี้ ค่ายกลของเกาะดอกท้อ เป็นลักษณะค่ายกลซ้อนค่ายกล ค่ายกลชั้นนอกก่อตามหลักหยินหยาง รวมเอกภพเป็นหนึ่งเดียวเปลี่ยนแปรไม่รู้จบ เรียกค่ายกลอิคุยติ๋ม(ค่ายกลพยุหะเอกธาตุ) สามารถผันแปรพลิกพลิ้วไร้เงื่อนปม คล้ายจำลองจากความเป็นเอกภาพของจักรวาล ที่แม้ดูเป็นหนึ่ง แต่ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวอื่นๆ มากมาย ค่ายกลชั้นในกลับก่อตั้งตามหลักยันต์แปดทิศ เรียก ค่ายกลพยุหะโปยก่วย หรือค่ายกลพยุหะอัฏฐทิศประกอบด้วย ประตูเป็น ประตูตาย ประตูออก ประตูไข ประตูลวง ประตูซุ่ม ประตูตกใจ ประตูหมดหวัง ดัดแปลงจากค่ายกลของท่านจูกัดเหลียง(ขงเบ้ง) ในอดีตท่านขงเบ้งเคยใช้ค่ายกลนี้กักนายทหารนามลกซุน ทหารเอกของกังตั๋งที่พาทหารเรือนหมื่นตามตีพระเจ้าเล่าปี่ แต่ค่ายกลของเกาะดอกท้อกลับเปล่งอานุภาพมากกว่าเนื่องจากเกาะดอกท้อตั้งอยู่ ในชัยภูมิที่เหมาะสมรับลมได้ถึงสามสิบสองทิศทำให้ค่ายกลมีชีวิตชีวาสำแดง อานุภาพทั้งจริงและมายา พลิกพลิ้วผันแปรไร้จุดเริ่มต้นและสิ้นสุด ไร้ทั้งเงื่อนปมและรอยต่อ ประดุจดังท้องคลื่นที่ถาโถมโจนทยานในท้องสมุทรที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่ ประดุจธารน้ำตกที่ไหลหลากจากภูผาชันเสียดฟ้า ทุ่มตัวครืนครั่นสเทือนไปทั่วท้องนภา อานุภาพมากกว่าทหารเรือนแสนเมื่อคราวขงเบ้งใช้กักทหารของกองทัพลกซุนมากมาย นัก แม้แต่นกที่บินตกลงมายังยากจะออกจากค่ายกลนี้ไปได้ (ที่มา สามก๊ก ฉบับ คนขายชาติ) ตอนนี้เกาะดอกท้อแห่งนี้ กลับมีคนหาญกล้าเข้ามาท้าทาย มิหนำซ้ำยังจะปั่นป่วนให้วุ่นวายได้ ขณะนี้แม่นางอึ้งย้งกำลังถูกชายผู้หาญกล้าเข้ามายังเกาะดอกท้อโดยมิเกรงกลัว กำลังเอาท่อนลึงค์ยาวใหญ่ รกขนหมอยหยาบหนา เคลียเคล้าคลึงกับโคกหีขาวสะอาดของนางลากขึ้นลากลงตรงรอยแยกอย่างอหังการ อึ้งย้งรู้สึกเสียวสะท้านเพลิน ต้องสดุ้งเฮือกเมื่อบุรุษผู้นั้นดันท่อนกระดอทิ่มพรวดเข้ารูหีนางอย่างจัง อึ้งย้งร้อง "เอื้อก..." ราวกับอะไรมาจุกคอได้คำเดียว ก็ถูกปากเข้าประกบกับปากนาง พร้อมบดขยี้ริมฝีปากนางอย่างหื่นกระหาย พร้อมกับเบื้องล่างก็ขยับท่อนกระดอเข้าใส่รูหีนางอย่างเอาเป็นเอาตาย พออึ้งย้งหลุดจากการจูบได้ต้องส่งเสียงร้องลั่น "เบาๆ ก่อนท่านพี่ขา...เดี๋ยวของข้าฉีกหมด......." องค์ชายเจอรูดัลยังจูบฟัดแก้มนวลของนางอย่างมันเขี้ยว กระเด้าเย็ดเอา เย็ดเอาไม่ยอมหยุด จนนางต้องร้องซ้ำ "โอย....ซี้ด...ท่านพี่ อย่าเพิ่งรุนแรง" "โอ้..ข้าลืมตัวไป รูหีเจ้าเย็ดมันส์จริงๆ " "คิก ๆ วันนี้ของท่านพี่ก็แข็งกว่าทุกวัน หากอึ้งย้งตัวจริงโดนมีหวังตายแน่" "อย่าเพิ่งพูดอะไร ข้ากำลังเงี่ยนสุดทน เจ้าแสดงต่อไปก่อนเถอะนะ" ว่าแล้วทั้งคู่ก็ร่วมกันบรรเลงเพลงสวาทกันต่อ พลิกพลิ้วเปลี่ยนท่าทางพิศวาสกันอีกสองสามท่าก่อนองค์ชายเจอรูดัลจะกระฉูด น้ำกามเข้าถ้ำทองของนางมากมาย จนลำควยอ่อนตัวหลุดออกจากรูหีอึ้งย้งไป "คิกๆ วันนี้ท่านพี่เสร็จเร็วยิ่ง น้องเพิ่งเสร็จไปทีเดียวเอง มาช่วยน้องเสร็จอีกทีหนึ่งก่อน" องค์ชายเจอรูดัลหอบหายใจหนักๆ ก้มลงดูลำควยที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย อึ้งย้งมองดูตามพลางพูดขึ้น "เดี๋ยวข้าจะช่วยท่าน คราวนี้ท่านลองเย็ดก๊วยฮู้ ลูกสาวอึ้งย้งดูบ้างเป็นไร" ว่าแล้วอึ้งย้งก็หันกลายกลับ ยกมือขึ้นลูบที่ใบหน้าตัวเอง ราวกับเล่นกลชั่วขณะใบหน้าของอึ้งย้งกลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าของก๊วยฮู้ขึ้นมา ทันที เจอดรูดัลมองเห็นวงหน้าใส ของดรุณีน้อย จิ้มลิ้มสะสวยไม่น้อย แฝงแววถือดี ปากนิดจมูกหน่อย จัดว่างามสะคราญตา แม้จะดูด้อยเสน่ห์กว่าอึ้งย้งก็ตาม แต่มีแววประพิมพ์ประพายคล้ายอึ้งย้งอยู่หลายส่วน พลันกระดอขององค์ชายเจอรูดัลก็กลับแข็งขันขึ้นมาใหม่ "ลูกสาวอึ้งย้ง เป็นยังไงบ้าง" "อืม ก็ไม่เลว เจ้าช่างรู้ใจข้านัก..น้องรัศมีเทวี" ว่าแล้วองค์ชายเจอรูดัลก็ตรงเข้าสวมกอดอึ้งย้งซึ่งบัดนี้กลายเป็นก๊วยฮู้ไป แล้ว แสดงบทรักต่อทันที ที่แท้ก็คือ นางรัศมีเทวีนั้นเอง ซึ่งใช้วิชาเปลี่ยนกระดูกแปลงโฉมร่วมรักกับสามีนางภายในถ้ำที่จับตัวก๊วยฮู้ มาเมื่อกลางวันนี่เอง ตอนนี้นางกลับขึ้นไปขย่มบนแทงทวนอย่างคล่องแคล่ว ส่วนองค์ชายเจอรูดัลก็แอ่นเอวขึ้นเสยเป็นระยะๆเมื่อนางกระแทกลงมา ที่สุดองค์ชายเจอรูดัลกลับทนไม่ไหวลุกขึ้นจับนางรัศมีเทวีในรูปโฉมของก๊วย ฮู้โยกใส่บ้าง ต่างคนต่างนั่งโยกใส่กันอย่างสนุก ก่อนพลิกเปลี่ยนเป็นยืนขึ้นขาก๊วยฮู้ตวัดรอบเอวมือโอบคอฝ่ายชายเดินกระเด้า เย็ดกันรอบบริเวณถ้ำที่พักกันจนที่สุด องค์ชายเจอรูดัลเดินพาก๊วยฮู้กลับมานอนราบลงบนพื้นที่นอนอีกครั้ง "โอว...ท่านพี่ ดียิ่ง ข้า จะ จวน ....แล้ว" "ข้าก็จะเสร็จ เช่นกัน อ้า....เจ้าช่วยแปลงเป็นอึ้งย้งอีกเถอะ " "คิกๆ ข้าก็คิดแล้วว่า ท่านต้องชอบอึ้งย้งมากกว่าลูกสาวนาง" นางรัศมีเทวียกมือขึ้นประสานเหนือศรีษะ แล้วเลื่อนลงมาที่ใบหน้า ปากนางคล้ายบ่นพึมพำมนต์อันใด เพียงชั่วครู่ใบหน้าของก๊วยฮู้ ก็กลับเปลี่ยนเป็นอึ้งย้งอีกคราว องค์ชายเจอรูดัลดวงตาคล้ายส่งประกายวาว แท่งกระดอคล้ายขยายขึ้นแน่นรูกว่าเดิม ยอดยุทธเจอรูดัลจับขานางรัศมีเทวีในรูปโฉมของอึ้งย้ง ดันโย้ไปข้างหน้าจนเข่านางอยู่กลางศรีษะ พร้อมกับซอยกระเด้าเย็ดถี่ยิบ จนในที่สุดทั้งคู่ต่างส่งเสียงร้องออกมา ต่างปล่อยน้ำรักออกโต้ตอบกันจนเนืองหนองออกมาจนล้นทลักรูหญิงสาว ก่อนนอนกอดกันอย่างสุขสม ..................................................... ส่วนในห้องลับใต้ดิน ตอนนี้อึ้งย้งตัวจริงกำลังเร่งขยี้นิ้วบี้ติ่งแตดตัวเองถี่ยิบ ลมหายใจกระเส่า ปากร้องครวญราวกับจะขาดใจ สักพักแลเห็นร่างนางกระตุกถี่ๆ ขมิบรูหีตอดนิ้วตัวเองแน่น ตอนนี้มองเห็นเปลวเทียนทุกเล่ม ต่างเอียงวูบเข้ามาหานาง ยิ่งนางเร่งมือเปลวเทียนกลับยิ่งกระพือ มีเปลวเทียนบ้างเล่มตอนนี้ คล้ายวิ่งออกจากแท่งเทียนตรงไปที่รูสวาทนาง อึ้งย้งคล้ายขมิบโยนีดูดเปลวเทียนเข้าไปข้างในจนสิ้น จนในที่สุด นางส่งเสียงร้องลั่น เปลวเทียนทุกเล่มคล้ายถูกดูดเข้าไปในโยนีนางจนหมด ตอนนี้ภายในห้องกลับมืดมิด คงมีแสงส่องสว่างอยู่เฉพาะบริเวณโยนีของอึ้งย้ง อีกชั่วขณะอึ้งย้งส่งเสียงร้องอีกครา คล้ายแสงไฟตรงบริเวณโยนีนางกระเด็นออกจากร่างกลับไปติดยังแท่งเทียนทุกเล่ม ดังเดิม แถมเทียนบางเล่มปรากฏมีเส้นขนกำลังไหม้ไฟหงิกงอปรากฏอยู่บนนั้นด้วย อึ้งย้งร้องอ้ายส์........อ้าปากผ่อนลมหายใจอย่างสุขสม "สำเร็จแล้ว....ในที่สุดข้าก็สำเร็จ" อึ้งย้งคล้ายรำพึงเอามือลูบตรงเนินโคกนาง รูหีเจิ่งนองด้วยน้ำสวาทเยิ้มไปหมด ที่แตกต่างก็คือ ตอนนี้เนินโคกนางกลับราบเรียบเกลี้ยงเกลาปราศจากเส้นหมอยที่ดกดำแม้แต่เส้น เดียว ราวกับว่านางไม่เคยมีเส้นขนหมอยใดอยู่บนเนินโคกอร่ามของนางมาแต่ก่อนเลย อึ้งย้งพักสักครู่ก้มลงมองดูโคกหีเกลี้ยงเกลาของตัวเองอย่างพอใจ นี่เป็นวิชาอะไรหรือที่อึ้งย้งลอบลงมายังห้องลับแห่งนี้ หรือเป็นวิธีกำจัดขนหมอยของนาง ……………………………………….

ไม่มีความคิดเห็น: