ขายของ

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 4 - ดูนางให้ดูแม่

"ฮือออ ฮือออ" ในภาพจาง ๆ ของความฝัน เด็กสาวตัวเล็กหน้าตาผ่องใสกำลังยืนร้องไห้ อยู่ริมรั้วไม้ อายุของเธอราว ๆ 7-8 ขวบ "ร้องไห้ทำไมล่ะ ยายขี้แย แค่ย้ายบ้านแค่นี้เอง" เสียงของเด็กชายอายุเยอะกว่าที่ยืนอยู่อีกฝั่งของรั้วไม้ที่กั้นกลางทั้งคู่ดังขึ้น "ก็ ... ฮึก ... หนูจะไม่ได้เล่นกับพี่ต้นอีกแล้วนี่นา จะไม่ได้เจอกับพี่ต้นด้วย ฮืออออ" เด็กสาวขยี้ตาร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อ "งั้นก็บอกพ่อกับแม่ ว่าอย่าย้ายบ้านซิ ไม่เห็นจะยาก" เด็กชายพูดตอบเด็กสาวแก้มป่องขี้แย "แต่คุณพ่อต้องย้ายงานนี่นา ถ้าเราไม่ย้าย คุณพ่อ ก็ต้องลำบากเดินทางไกลทุกวัน" เด็กสาวพูดเสียงสะอื้น "...... อืมม งั้นเอาแบบนี้ซินะ " เด็กชายมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะก้มลงไปหยิบเอาใบหญ้าแห้งขึ้นมา เขาจับมันม้วนสานเป็นวงอย่าง ปราณีตและบรรจง ขณะที่เด็กสาวขี้แยตาโตแอบชำเลืองมองผ่านมือที่ใช้ปาดน้ำตาด้วยความสงสัย "ยายขี้แย ยื่นมือมาซิ ... เอ๊ะ มือไหนล่ะ ซ้ายหรือขวา ...ไม่ใช่มือซ้ายนี่ ... ถ้าจะหมั้นต้องเอามือขวาเนอะ" เด็กชายขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กสาว พร้อมกับช้อนจับมือเล็ก ๆ ของเธอขึ้นมา "เอาล่ะ ถ้าอย่างงั้น พี่ขอสัญญา ว่าไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนนะยายขี้แย พี่ก็จะตามไปหาให้พบ แล้วเราจะแต่งงานกันตอนโต แล้วนี่ก็แหวนหมั้น" เด็กชายบรรจงสวมใส่แหวนที่ทำจากใบหญ้าแห้งบนนิ้วนางของเด็กสาว แทนแหวนเพชรราคาแพง "พี่ต้น สัญญา จริง ๆ นะ" เด็กสาวยิ้มแป้น แก้มแทบปริ แหวนหญ้าแห้งไร้ราคา แทบจะเป็นเสมือนแหวนเพชรล้ำค่าราคาแพงสำหรับเด็กน้อย ดวงตากลมโตกลับมาดูสดใสอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ยังมีคราบน้ำตา และน้ำมูกอยู่บนใบหน้า "อืมม พี่สัญญา" เด็กหนุ่มยกมือเด็กสาวมาเกี่ยวก้อยเป็นสัญญลักษณ์แทนคำมั่นสัญญา ท่ามกลางกลุ่มแมกไม้ใบหญ้าที่อยู่เป็นสักขีพยาน เด็กสาวมองแหวนตัวเองอย่างพึงใจก่อนที่จะโน้มใบหน้าข้ามช่องว่างของรั้วเข้ามาหอมแก้มของเด็กหนุ่มซะฟอดใหญ่ .................................................................. "เฮ้ย ไอ้ลูกหมา ตื่นได้แล้ว" เสียงเอ็ดตะโรคุ้นหูดังแว่วมาจากภายนอก เด็กสาวเพื่อนบ้านวัยเด็กและภาพเหตการณ์ในอดีตของผมจาง หายไปพร้อม ๆ กับแรงเขย่าที่ตัว ผมยังงง ๆ อยู่ว่าทำไมถึงฝันเรื่องนี้ เพราะผมไม่เคยฝันอะไรแบบนี้มาก่อนเลย "... อ้าว พ่อ ... วันนี้กลับบ้านได้ไงเนี่ย" ผมสะลึมสะลือร้องทัก เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วเห็นพ่อผมยืนเขย่าแขนผมอยู่ที่ขอบเตียง "เอ้า กูเป็นพ่อก็ต้องคิดถึงลุกชายบ้างซิวะ แล้วนี่ก็บ้านกู ทำไมกูจะกลับบ้านไม่ได้วะ" พ่อของผมปากบอกคิดถึงลูกชาย แต่สายตาพ่อกลับ ไม่ได้จ้องผมเลยแม้แต่น้อยนิด สายตาคมกริบของพ่อกวาดมองไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าของดาว ที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้างตัวผมอย่าง ไม่วางสายตา ซึ่งมันก็สมควรอยู่หรอก เพราะพ่อผมน่ะมักจะได้แอ้มแต่พวกสาวใหญ่ทั้งนั้น พอมาเจอนักศึกษาสาวสวยเต่งตึงเนื้อแน่นน่าฟัด นอนเปลือยกายล่อนจ้อนสลบไสลอยู่แบบนี้ก็คงยากที่จะอดใจไหว แถมเธอคนนี้ไม่ใช่นักศึกษาสาวธรรมดา แต่เธอเป็นถึงสาวสวยที่ได้รับ ฉายาว่าดาวยั่วตัวแม่ของมหาลัยอีกต่างหาก "พ่อ เวลาพูดน่ะ มองหน้าลูกชายบ้าง ..." ผมแอบอมยิ้มพูดขำ ๆ ใส่พ่อ พลางใช้มือลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียนของดาวที่นอนตะแคงข้างกอด แขนของผมอยู่ โดยเจตนาบอกว่าผู้หญิงคนนี้ของผมห้ามยุ่ง ตอนนี้ดาวนอนสลบไสลอยู่บนเตียงกับผมโดยที่ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อยว่า เรือนร่างสวยสดของเธอกำลังตกอยู่ในสายตาของชายหื่นวัยกลางคนอยู่ด้วย โดยตอนนี้เธอมีเพียงผ้าห่มสีขาวผืนบางที่ปิดปกคลุมร่างกายท่อน ล่างไว้ ส่วนร่างกายท่อนบนนั้นเปลือยเปล่า เต้านมขาวผ่องอวบอัดขนาดเต็มไม้เต็มมือกำลังเด้งชูชันสะท้อนไปมาตามจังหวะการหายใจ หัวนม สีชมพูอ่อนเด้งไปมาท้าทายให้สัมผัส แม้นว่าตอนนี้ผมเผ้าของเธอจะดูยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ แต่เสน่ห์ของเรือนกายและใบหน้าสุดเอ็กซ์ของเธอก็ ยังคงมากล้นเพียงพอที่จะทำให้เป้ากางเกงของพ่อตุงโด่ขึ้นมาได้ "ลูกสาวใครวะ ขาวสวย เอ็กซ์ น่าเอาเป็นบ้า" พ่อยังคงจ้องมองดาวตาแทบไม่กระพริบ ผมว่าตอนนี้พ่อคงจะคลั่งจัดจนแทบอยากจะกระโจนลง มาฟัดเด็กสาววัยรุ่นคนนี้อยู่แล้ว เพราะผมเห็นท่อนเอ็นอันใหญ่ของพ่อมันผงกหัวหงึก ๆ ดันเป้ากางเกงออกมาเป็นลำอย่างเห็นได้ชัด แค่มอง ด้วยตาเปล่าก็พอรู้แล้วว่าฉายาพ่อม้าของพ่อผมน่ะไม่ได้มาแบบโม้ ๆ "แล้วนี่ พ่อหายไปไหนมาล่ะ หายไปเกือบเดือน" ผมพูดเปลี่ยนเรื่องพลางลากเอาผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยของดาวไว้ด้วยความรู้สึกหวง ก็เรื่อง อะไรจะไม่หวงล่ะ ลองถ้าโดนดุ้นของพ่อเข้าไปล่ะก็สงสัยของดาวมีหวังกลวงโบ๋แหง ๆ "ไปเที่ยวพม่า กับคุณนายไฮโซ เหมือนเดิมล่ะวะ กินฟรี อยู่ฟรี ปี้ฟรี สบายจนไม่อยากกลับ เสียอย่างเดียว มีแต่สาวใหญ่ไม่มีสาวรุ่นแบบนี้บ้าง" พ่อยักคิ้วทำหน้าขัดใจที่ผมยกผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างของดาว แต่ก็ยังคงพยายามมองเรือนร่างของดาวจากด้านนอกผ้าห่มผืนบางอยู่ดี "พ่อ เอาแต่ไปหลอกเขา ระวังเหอะ กรรมจะตามทัน" ผมจับแขนดาวที่เกาะเอวผมออกไปแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "หลอกตรงไหนวะ เค้าก็มีความสุข เรามีความสุข ... อย่าเอาแต่ว่าคนอื่นเลยไอ้ลูกหมา มึงเอายาแฝดไปใช้แบบนี้ไม่กลัวกรรมตามทันบ้างเรอะ" พ่อพูดพลางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายชี้นิ้วไปที่ดาวแล้วส่งเสียงหัวเราะดังหึ ๆ เหมือนรู้ทัน "เอ่อ ... พ่อรู้ได้ไง ..." ผมสะดุ้งตกใจ ไม่นึกว่าพ่อจะรู้ได้ ว่าดาวโดนฤทธิ์ของยาแฝดมหาเสน่ห์เข้าไป จนหลายวันมานี้เธอก็เอาแต่มาขลุกอยู่กับ ผมทุกวันหลังกลับจากมหาลัย โดยเธอโกหกที่บ้านไปว่า ต้องไปค้างบ้านเพื่อน เพื่อเข้าแคมป์สอนน้อง ๆ เชียร์ลีดชุดใหม่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วเธอน่ะ มาติววิชารักอยู่กับผมทุกคืนต่างหาก พวกเราแลกเปลี่ยนรสเสียวครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนับไม่ถ้วนจนเหมือนกับคู่แต่งงานใหม่ "ทำไมกูจะไม่รู้วะ ก็ยานี่ ก็ทำเองกับมือ แค่มองหน้าหนูดาว กูก็รู้แล้วว่าโดนยาเสน่ห์อยู่ แล้วก็ไม่น่าจะใช่ยาเสน่ห์ของใคร นอกจากของมึง" พ่อเอามือไปเกาคางเบา ๆ พลางทำหน้าเหมือนรู้ไปซะทุกเรื่อง ".... เอ่อ .... คือ ... " ผมรู้สึกตกใจเหมือนเด็กน้อยที่กำลังจะโดนลงโทษเวลาทำผิด "จะอึกอักไปทำไมวะ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย แต่ใช้ยาไปแล้ว ก็ดูแลผู้หญิงดี ๆ ล่ะ เค้ารักใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากมึงไอ้ลูกหมา" พ่อหัวเราะหึ ๆ ใส่ผมที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ พลางพูดเสียงนุ่มเหมือนพยายามสั่งสอนและไม่ได้คิดโกรธแม้แต่น้อยนิด "...." ผมพูดอะไรไม่ออก "ไอ้ลูกหมาทำเป็นซึม ... หรือถ้าอยากจะให้ลงโทษล่ะก็ ... พ่อขอเอาหนูดาวซักครั้งล่ะกัน " พ่อพูดพร้อมกับเดินตรงไปทางดาว "เฮ้ย !!! หยุดเลยพ่อ หยุด ๆ เด็กผม พ่อห้ามยุ่ง แล้วก็เลิกเรียกผมเป็นลูกหมาได้แล้ว ถ้าผมเป็นลุกหมา แล้วพ่อผมเป็นอะไรล่ะ" ผมขยับตัวไปขวางพ่อเอาไว้ เพราะท่าทางพ่อไม่ได้พูดเล่น ๆ เฉย ๆ แน่ "แค่นี้ทำเป็นหวงเว้ยไอ้ลูกเทวดา ... เออ ๆ ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง ... เดี๋ยวกูจะไปนอนพักซักหน่อย เล่นกับอีคุณนายจนเหนื่อยแล้ว" พ่อหยุดทำหน้ายิ้ม ๆ "อ้อ ... แล้วเดี๋ยวอีกซักพักจะมีแขกมาหากู มึงปลอมตัวเป็นหมอผีไปหาเค้าด้วยล่ะ" พ่อพูดขณะเดินออกไปทางประตูห้อง "เฮ้ย ... อะไรพ่อ แล้วทำไมต้องให้ผมปลอมตัวเป็นหมอผีสีเหียบอะไรนั่นด้วย พ่อก็อยู่ ก็ไปเองดิ ... เอ ... หรือว่า คิดจะ ..." ผมตกใจที่อยู่ ๆ พ่อก็โยนงานมาซะเฉย ๆ ผมไม่เคยทำแบบนี้ซักหน่อย ... แต่ก็ยกเว้นตอนที่หลอกพวกไอ้ชัยครั้งนึงล่ะนะ ผมเหลือบมองไปทางร่างดาวที่นอน หลับอยู่หรือว่าพ่อคิดจะให้ผมไม่อยู่ห้อง จะได้มาทำอะไรกับดาวได้สะดวก "แล้วแต่ แต่ถ้ามึงไม่ไป แล้วให้กูไปแทน อะไรจะเกิดขึ้นกับคุณหนูหน้าสวยคนนั้นก็ไม่รู้ด้วยนะเว้ย" พ่อพูดพร้อมกับชี้มือไปทางรูปน้องแพรที่ผม ติดไว้ที่โต๊ะทำงาน "เฮ้ย แล้วเกี่ยวอะไรกับน้องแพร ... พ่อไปรู้จักอะไรกับเค้าด้วย" ผมลุกขึ้นยืนพรวดด้วยความตกใจ หากเป็นคนอื่นพูดทักผมคงไม่คิดอะไร แต่นี่ เป็นพ่อที่มักจะเป็นคนที่มีลางสังหรณ์อะไรหลายอย่าง และทุกอย่างนั้นถูกต้องเสมอ "เออ น่ะ เอาเป็นว่าวันนี้ มึงต้องไปทำหน้าที่แทนกู เรื่องของมึงเองกับเนื้อคู่ของมึงเอง ก็จัดการเอาเอง ไม่งั้นมึงจะเสียใจ ไอ้ลูกหมา" พ่อชำเลือง มองไปทา-งดาวแว้บนึงประมาณว่าเล็งเหยื่อไว้รอล่าทีหลัง แล้วเปิดประตูเดินออกไป โดยไม่หันหลังกลับมามองผมด้วยซ้ำ "เนื้อคู่ ?? พ่อว่าเนื้อคู่เหรอเมื่อกี้ ?? แล้ว แพร นี่นะ จะมาหาหมอผี หมอเสน่ห์อย่างพ่อ บ้าไปแล้ว ใครจะไปเชื่อ ..." ผมพยายามเรียบเรียงความ คิดในหัวสมอง ภาพน้องแพรนางฟ้าในจินตนาการของผมนั้นไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความคิด ว่าคุณหนูที่สวยสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างแบบเธอจะ มีอะไรที่ต้องทำให้หันมาพึ่งพาหมอผีกำมะลออย่างพ่อผม จะมีก็แต่คนอื่นน่ะซิ ที่อยากจะสมหวังกับเธอ "อ้อ ลืมไป มีอะไรจะบอกอีกอย่าง ........... " พ่อที่เดินออกน้องห้องไปแล้วเดินย้อนกลับมาหาผมอีกรอบ พร้อมกับโน้มตัวลงมากระซิบอะไรบาง อย่างที่ข้างหูผม ก่อนที่จะขยิบตา แล้วเดินกลับออกไปอีกครั้ง ปล่อยให้ผมยิ่งงงหนักซ้ำเข้าไปอีก ว่าสิ่งที่พ่อพูดนั้นจะเป็นเรื่องจริง หรือมั่วนิ่ม กันแน่ ... แล้วถ้าหากผมทำตามที่พ่อบอกมา มันจะดีจริงๆ น่ะเหรอ ..... ??? ................................................................... เวลาผ่านล่วงเลยไปจนเกือบบ่าย บรรยากาศรอบข้างช่างแสนเงียบสงบ มีเพียงควันธูปสีขาวลอยตลบอบอวลไปมาในอากาศอย่างเอื่อยเฉื่อย แต่ผมกลับต้องมานั่งลุ้นระทึกอยู่ที่สำนักทรงด้านล่างในชุดนุ่งขาวห่มขาวตามที่พ่อใส่ทุกครั้งที่ทำพิธี หัวใจของผมเต้นระรัวจนแทบจะระเบิดออก มาจากอกอยู่แล้ว คำพูดที่พ่อกระซิบบอกยังคงดังสะท้านก้องไปมาอยู่ในหู ผมไม่อยากที่จะเชื่อ และไม่แน่ใจว่าควรจะทำตามที่พ่อบอกหรือไม่ แต่กระนั้นเบื้องลึกของจิตใจก็บอกให้รู้ว่า พ่อมักจะพูดถูกเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะดูแปลกพิลึกขนาดไหน อยากรู้ก็อยากรู้ว่าเหตการณ์มันจะ เป็นอย่างที่พ่อผมพูดจริงหรือเปล่า หรือว่าพ่อผมแค่หาเรื่องกันผมออกไป จะได้เคลมสวาทดาวที่สลบไสลอยู่ในห้องนอน แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะว่าก่อนออกมาผมก็ล็อคกุญแจประตูแถมใส่ตัวยูเข้าไปอีกชั้น อย่างน้อยถ้าพ่อคิดจะทำอะไรก็คงไม่ง่ายแน่ ๆ แถมดาวก็คงจะร้องขอความ ช่วยเหลือจากผมได้อยู่ดี ตอนนี้ผมจึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ และได้แต่นั่งรอ และรอให้ถึงเวลา ... ผมนั่งสมาธิทั้ง ๆ ที่ไม่มีสมาธิเลยอยู่ได้ไม่ นานก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังไกล ๆ มาจากทางหน้าบ้าน ผมจึงรีบหยิบเอาหน้ากากไม้รูปศิวลึงค์ขึ้นมาใส่ปิดบังใบหน้าแล้วแกล้งนั่งทำสมาธิต่อไป เหมือนไม่สนใจเหตการณ์รอบข้าง "พ่อหมออยู่หรือเปล่า " ชายวัยกลางคนแต่งตัวเรียบร้อย เดินผ่านประตูเข้ามาท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรนัก เอาล่ะซิพ่อผมทายถูกไปหนึ่งแล้ว พ่อบอกว่าจะมีหญิง 1 ชาย 1 มาหา ชายคนนั้นมองมาทางผมและมองไปรอบ ๆ ห้องราวกับกำลังประเมินสถานการณ์ "คุณนาย เชิญครับ พ่อหมอ นั่งอยู่พอดี" ชายคนเดิมหันไปด้านหลังแล้วโค้งคำนับเปิดทางให้คนด้านหลังเดินออกมา "สวัสดีค่ะพ่อหมอ ..." ผู้หญิงอายุราว ๆ 30 กว่า ๆ เดินตามออกมพร้อมกับยกมือไหว้ ลักษณะการแต่งตัวบ่งบอกว่าเธอเป็นคุณนายไฮโซมีชาติ ตระกูล เครื่องประดับประดาแต่ละชิ้นท่าทางจะแพงไม่น้อยทีเดียว ท่วงท่าของเธอดูสวย สง่า และฉลาดไม่น้อย ไม่ซิต้องบอกว่า เธอเป็นคนสวย และมีเสน่ห์มากล้นเลยทีเดียว และผมก็คุ้นหน้าของเธอมากด้วย เพราะเธอคนนี้นี่แหละที่คอยไปรับไปส่งน้องแพรที่มหาลัยเป็นครั้งคราว ผู้หญิง ที่สวยดุจดังพญาหงส์คนนี้ก็คือแม่ของน้องแพรนั่นเอง หากให้ผมเปรียบน้องแพรนางฟ้าของผมให้เหมือนกับดอกไม้แรกแย้มน่าค้นหาแล้วล่ะก็ แม่ของเธอก็คงจะเสมือนดอกไม้งามที่แย้มบานอย่างเต็มที่ ผิวพรรณที่ขาวเนียนสะอาดตา ใบหน้าสวยหวาน และทรวดทรงองค์เอวที่สวยได้รูป เรียวขาขาวโผล่แว้บออกมาจากรอยผ่าด้านข้างของกระโปรง ความงามของเรือนร่างช่างยั่วยวนให้ผมอดคิดอกุศลกับคุณนายพลอย หรือแม่ยาย ของผมในอนาคตไม่ได้ "..... กูจะหลับจะนอน พวกมึงมายุ่งอะไรกับกู ..." ผมรอให้แม่ของน้องแพร และชายวัยกลางคนนั่งลง ก่อนที่จะทำเสียงพูดเสียงแหบแห้ง ผมแอบเผลอชำเลืองมองท่อนขาขาวเรียวงามของเธอไม่ได้ ขณะที่เธอขยับตัวลงนั่งพับเพียบ และโน้มตัวลงยกมือไหว้อีกครั้ง "เอ่อ คือ ... นี่ พ่อหมอสีเหียบ ใช่มั้ยจ๊ะ ชั้นชื่อพลอย แล้วนี่ก็นายศักดิ์คนขับรถ คุณนายกมลเป็นคนแนะนำให้มาหาพ่อหมอน่ะจ้ะ" แม่ของแพร พูดน้ำเสียงตะกุกตะกักออกแนวประหม่าเล็กน้อย ดูเธอจะไม่คุ้นชินนักกับการโดนพูดคำหยาบใส่ซักเท่าไหร่ "เออ ไม่ต้องแนะนำตัว กูรู้ มีอะไรก็พูดออกมา" ผมทำเสียงดุเหมือนไม่พอใจใส่ "พูดเพราะ ๆ หน่อยก็ได้หมอ ให้เกียรติคุณนายหน่อย" ชายวัยกลางคนพูดแย้งขึ้นท่าทางเหมือนจะเอาเรื่อง หมอนี่ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้า เจ้าของของคุณนายงั้นแหละ สงสัยจะเป็นพวกแอบหลงรักเจ้านายตัวเองแน่ ๆ "ไอ้บ่าวไม่รู้จักเจียม คิดเด็กดอกฟ้า ถ้ามึงไม่พอใจ ก็กลับไปเสีย กูจะได้พักผ่อนต่อ" ผมทำเสียงกร้าวใส่ตามลักษณะของพ่อที่ทำเป็นประจำ ตามที่พ่อบอกมาไอ้หมอนี่แอบหลงรักเจ้านายของมันอยู่ ผมเลยถือโอกาสแขวะซักหน่อย โทษฐานที่มันจ้องหน้าหาเรื่องผม "แฮ่ม ... นายศักดิ์ ... นั่งลงเดี๋ยวนี้ ..." คุณพลอยแม่ของน้องแพร กระแอมออกเสียงดุห้ามคนขับรถที่ทำท่าจะลุกขึ้นเดินมาหาผม ท่าทางของ เธอเหมือนกับว่าพอจะรู้ความในใจของคนขับรถอยู่บ้าง "แต่ว่า คุณนาย ไอ้นี่มันพูดเรื่องไร้สาระ ... ผมไม่เคยคิด" นายศักดิ์คนขับรถทำท่าจะเถียง แต่พอเห็นคุณนายตัวเองทำหน้าดุใส่ก็ก้มหน้าลงไป นั่งแบบจ๋อย ๆ "ขอโทษด้วยจ้ะพ่อหมอ พ่อหมอพูดตามปกติ เถอะจ้ะ ... คือว่าชั้นมีเรื่องรบกวนให้พ่อหมอช่วยสักเรื่องสองเรื่อง" คุณนายหันมาพูดกับผมด้วยน้ำ เสียงไพเราะน่าฟัง กิริยาท่าทางผู้ดีของเธอ นั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนใจว่าพูดแรงไปหรือเปล่า "... ก็คงไม่พ้นปรึกษาปัญหาเรื่อง ผัว กับ ลูกล่ะมั้ง ใช่มั้ย" ผมพูดไปตามข้อมูลที่ได้รับมาจากพ่ออย่างไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเท่าที่ผมรู้ ครอบครัว ของน้องแพรนั้นอยู่กันอย่างมีความสุข และเป็นครอบครัวที่ดีมากในสายตาคนนอก พ่อตำแหน่งใหญ่โตรักครอบครัว แม่ก็ดูแลครอบครัวดี ส่วน ลูกสาวก็สวยน่ารักซะจนมีแต่คนอยากสมัครเป็นลูกเขย แล้วพวกเค้าจะมีปัญหาบ้าอะไรให้หนักใจ ? "เอ่อ ... พ่อหมอ รู้ด้วยเหรอจ๊ะ ว่าชั้นจะมาปรึกษาเรื่องอะไร" คุณนายทำท่าทางตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินที่ผมพูดออกไป "กูก็รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่เท่าที่รู้ คงไม่ใช่เรื่องที่คนนอกควรจะรู้ใช่มั้ย" ผมมองไปทางด้านคนขับรถที่จ้องมองผมอย่างไม่วางตา "... เอ๋อ ... นายศักดิ์ ขับรถไปที่อื่นก่อน ไว้ชั้นโทรตามแล้วค่อยกลับมารับ" คุณนายอ้ำอึ้งอยู่สักครู่ ก็หันไปออกคำสั่งให้คนขับรถไปที่อื่นก่อน เรื่องราวต่อจากนี้ คงไม่ใช่เรื่องที่เธออยากจะให้คนอื่นรับรู้ "แต่ว่าหมอพวกนี้มันเชื่อไม่ได้นะครับคุณนาย ... ดะ ได้ครับคุณนาย ..." นายศักดื์มองมาทางผม ท่าทางจะไม่ยอมปฎิบัติตาม แต่เมื่อเขาหันหน้า กลับไปมองเห็นหน้าของคุณพลอยที่ขมวดคิ้วใส่ ก็ก้มหน้าลุกขึ้นยืนเดินแล้วเดินออกไปด้านนอกอย่างเสียมิได้ พวกเรานั่งเงียบกันซักพัก ก็ได้ยิน เสียงรถยนต์แล่นออกไปจากตัวบ้าน ... ก้างขวางคอของผมไปแล้ว "เอาล่ะ คราวนี้ก็ ว่ามาทีละเรื่อง ข้าจะได้กลับไปนอน" ผมลดระดับความหยาบของคำพูดลงอย่างไม่รู้ตัว อย่างน้อยผมก็รู้สึกเคารพเธอคนนี้ "คือว่า เรื่องแรก เกี่ยวกับลูกสาวน่ะค่ะ ... ช่วงหลังนี้ไม่รู้ทำไม แกดื้อไม่ค่อยเชื่อฟังเลย" คุณนายเริ่มพูดเข้าเรื่อง "ดื้อยังไงล่ะ" แค่เรื่องแรกผมก็หูผึ่งแล้ว ลูกสาวของคุณพลอย ก็มีแต่น้องแพร คนเดียวนี่แหละ แต่แพรเนี่ยนะจะดื้อ ดูเป็นเด็กดีจะตาย "มีลูกชายของเพื่อนพ่อเค้ามาสู่ขอหมั้นหมายยายแพร ทางเราก็เห็นดีด้วย แต่ว่าลุกสาวแกไม่ยอมท่าเดียว ไม่รู้จะทำยังไง" คุณพลอยพูด พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ผมนี่ซิใจหายวูบเลย นางฟ้าของผมจะมีคนจับจองหมั้นหมายแล้วเหรอเนี่ย แถมพ่อแม่ยังจะเห็นดีเห็น งามซะด้วย งานนี้ผมเชียร์น้องแพรสุดใจ ดื้อไปเลย ห้ามยอมเด็ดขาด "เด็กคนนี้ก็ฐานะเท่าเทียมกัน ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันทุกอย่าง แต่ลูกเค้าไม่สนใจเลย พอคาดคั้นหน่อยก็บอกว่ามีคู่หมั้นแล้ว เลยไม่ยอมรับหมั้น" คุณนายพูดไปส่ายหน้าไป แถมประโยคที่สองนี่ซิ ยิ่งทำให้ผมเหมือนดิ่งตกเหวเข้าไปอีก น้องแพรแอบไปมีคู่หมั้นคู่หมายตอนไหนกันแน่ ผมไม่ เห็นรู้เลย มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เธอคงแค่พูดแอบอ้างเพื่อยกมาปฎิเสธการหมั้นหมายมากกว่า "ตอนนี้ก็เลยคิดว่า ยังไงก็ตาม จะจับลูกเค้าเข้าพิธีหมั้นให้ได้ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะดีจริงหรือเปล่า... อ้าว พ่อหมอเป็นอะไรหรือเปล่า นิ่งไปเลย" "เอ้อ .... ผมไม่ เอ้ย ข้าไม่เป็นอะไร " ผมหัวเบลอไปหมด จนใช้คำถูกคำผิด นี่เธอจะโดนบังคับให้ต้องหมั้นกับใครก็ไม่รู้โดยพ่อแม่ของเธอ เหรอนี่ และไอ้คนที่มาสู่ขอ ผมพอจะนึกออก ว่ามันคือใคร มันจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากไอ้ชัย คู่แค้นตลอดกาลของผมนี่เอง มันเคยแย่ง ดาวไปจากอ้อมอกของผมแล้ว แล้วคราวนี้มันจะยังคิดมาแย่งน้องแพรกับผมอีกเหรอนี่ แถมแม่ของแพรยังเห็นดีเห็นงามไปด้วย ความรู้สึกโกรธ และไม่พอใจพวยพุ่งออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ "นางพลอย มึงฟังกู ... " ด้วยอารมณ์รู้สึกที่เดือดขึ้นมาอย่างกระทันหัน ผมเริ่มกลับมาใช้คำหยาบกับคุณนายคนนี้อีกครั้ง แถมพูดด้วยเสียงดังขึ้น อีกหน่อยด้วย ผมจะเล่นไปตามแผนที่พ่อบอกผมมาและจะถือโอกาสสั่งสอนแม่ของน้องแพรด้วย ผมจะทำทุกวิถีทางให้คุณนายเปลี่ยนใจให้ได้ "คะ ..." คุณพลอยสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ที่อยู่ ๆ ผมก็เปลี่ยนโทนเสียงเหมือนกำลังโกรธ "ตอนมึงเป็นสาว มึงเชื่อฟังพ่อแม่ทุกอย่าง เป็นกุลสตรี อยู่ในกฎในระเบียบ ใช่มั้ย" ผมพูดต่อ "ใช่ค่ะ" คุณพลอยพยักหน้า แววตาของเธอเหมือนจะออกแนวทึ่งที่ผมทายถูก แถมยังออกแนวภูมิใจในตัวเองด้วย "ตอนนั้นมึงเจอผู้ชายที่ถูกใจ ผู้ชายที่มึงรัก และเค้าก็รักมึงใช่มั้ย" ผมไปต่อ แต่ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าข้อมูลที่พ่อให้มาจริงหรือเปล่า "อะ ... เอ่อ ... " คุณพลอยดูท่าทางตกใจ เธออึกอักไม่ยอมตอบ แววตาเธอมองมายังผมเหมือนจะถามว่ารู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง "กูถามว่าใช่มั้ย ตอบมา" ผมทำเสียงกร้าว พอเห็นอาการของเธอแล้ว ผมยิ่งเริ่มมั่นใจว่าข้อมูลที่พ่อให้มานั้นถูกต้อง ก็แน่ล่ะอาการแบบนี้ กิริยา แบบนี้ ไม่ต้องพูดก็บ่งบอกให้เห็นชัด ๆ เลยว่ามันเป็นเรื่องจริง เรื่องที่อาจจะทำให้คนระดับเธอมัวหมองได้ "ชะ ใช่ค่ะ" คุณพลอยก้มหน้าตอบเสียงอ่อย ๆ "แต่ พ่อแม่ของมึง ก็ยัดเยียดให้ต้องแต่งงานกับคนอื่น ที่รวย มีฐานะทางสังคม เพื่อความสุขความสบาย ใช่มั้ย" ผมรุกไล่ต่อ "ใช่ค่ะ ... " คุณนายตอบเสียงสั่น "แล้วยังไงล่ะ อยู่กับผู้ชายที่ร่ำรวยมาเกือบ 20 ปี มีความสบายดี แล้วมีความสุขมั้ย ทิ้งความรัก ไปนอนอยู่บนกองเงินน่ะ" ผมพูด รู้สึกสะใจ อย่างบอกไม่ถูกที่ทำให้คุณนายท่าทางถือตัวอย่างเธอต้องตัวสั่นเป็นลูกนกแบบนี้ได้ "....... " คุณนายตัวสั่น ก้มหน้าลงมองพื้น เหมือนกับกำลังจะร้องไห้ออกมา เธอคงไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่นักกับชีวิตคู่ "รู้แล้ว ยังจะให้ลูกสาวตัวเอง ต้องเป็นแบบตัวเองอีกงั้นเรอะ?" ผมรุกต่อ ท่าทางงานนี้จะได้เรื่อง ข้อมูลพ่อผมแน่นจริง ๆ "............." คุณพลอยหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าถือราคาแพงออกมาเช็ดน้ำตาที่ซึม ๆ ออกไป แย่ล่ะพอเห็นน้ำตาก็ทำเอาผมแทบทำ ตัวไม่ถูก ผมเงียบปล่อยให้เธอพรั่งพรูพูดความรู้สึกเจ็บแค้นที่กักเก็บไว้มานานออกมา ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ครอบครัวที่ดูดีมีความสุข กลับซุกซ่อนไปด้วยความทุกข์ขนาดนี้ เธอบอกว่าภูมิใจที่มีหน้ามีตามีฐานะในสังคมชั้นสูง แต่กระนั้นเธอกลับรู้สึกอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวอย่าง บอกไม่ถูก ยังดีอยู่บ้างที่เธอมีลูกสาวสุดแสนน่ารักมาให้คลายความเหงาใจได้ เธอพูดระบายอารมณ์ออกมาครู่ใหญ่ก็หยุดแล้วนั่งเงียบ "... ขอบคุณค่ะ พ่อหมอ ชั้นรู้แล้วว่าควรจะทำยังไง ... ปล่อยให้ลูกแกเลือกคนรักของเธอเองดีกว่า" คุณพลอยวางผ้าเช็ดหน้าลงบนตัก ก่อนที่ จะเงยหน้ากลับขึ้นมาใหม่ คำตอบของเธอทำเอาผมแทบจะเผลอกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจอยู่แล้ว "ดื่มน้ำก่อนครับคุณนาย" พ่อในชุดลำลองธรรมดาทำตัวเหมือนเป็นคนรับใช้เดินถือแก้วน้ำออกมาให้คุณนาย ผมเห็นพ่อแอบมองเรือนร่างของ คุณนายแบบไม่วางตา แถมยังแอบขยิบตาให้ผมหนึ่งครั้งสื่อความหมายประมาณว่าสวยแบบนี้ถ้าไม่เอากูเอาเอง และหากผมคาดไม่ผิดล่ะก็ใน น้ำดื่มแก้วนั้น มันจะต้องมีส่วนผสมของสมุนไพรบางอย่างที่พ่อมักจะใช้เคลมสวาทเหยื่อสาวทุกคนที่ผ่านมา สมุนไพรนี้มันเป็นส่วนผสมหนึ่งของ ยาแฝดที่พ่อทำให้ผมใช้ เพียงแต่มันจะออกฤทธิ์ได้ไม่นานเท่านั้นเองไม่เหมือนยาแฝดที่มีผลตลอดไป เพราะถูกกำกับด้วยเวทย์มนต์คาถาอีก ชั้น ผมนั่งมองคุณนายที่หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยใจระทึก ดูเธอไม่ทันที่จะนึกสงสัยซะด้วยซ้ำว่าจะมีอะไรอยู่ในน้ำหรือเปล่า ผมลอบมองต่ำลง ไปที่ทรวงอกอวบใหญ่ที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของคุณพลอยขณะที่เธอกำลังดื่มน้ำอย่างกระหาย ภาพที่เห็นเล่นเอาผมรู้สึกคอ แห้งกระหายอยากดื่มนมขึ้นมาทันที จากตอนแรกที่ไม่แน่ใจว่าจะทำตามแผนของพ่อดีหรือเปล่า กลายเป็นว่าตอนนี้ถ้ามาบอกให้ผมหยุด ผมก็คงจะไม่หยุดแล้ว ผมอยากทำตามแผนแบบเต็มที่เลยทีเดียว ยังไงซะเพราะหากผมไม่ทำ พ่อของผมก็ต้องทำอยู่ดี ดังนั้นให้ผมทำเอง เสียยังจะดีกว่า "ส่วนอีกเรื่อง ก็คงเป็นเรื่องผัวใช่มั้ย ... ผัวไม่สนใจล่ะซิ ... ไม่ได้ทำอะไรกันเลยมากี่ปีแล้วล่ะ" ผมรุกเรื่องที่สองต่อทันทีเมื่อเธอดื่มน้ำผสม ยาสมุนไพรเข้าไปจนหมดแก้ว ท่าทางเธอคงหิวน้ำมาก พ่อบอกว่าคุณนายไม่ได้มีอะไรกับสามีของเขามาเป็นสิบปีแล้ว ผมแทบไม่อยากเชื่อ เธอยังดูสาว สวย และมีเสน่ห์ขนาดนี้ หากเป็นผมล่ะก็ คงมีอะไรกันแทบทุกวันเลย ".... คือ ... ตั้งแต่ยายหนูเกิด ... เขาก็เอาแต่ทำงานบ้าง ไปต่างประเทศบ้าง เราเลยไม่ค่อยได้ ..." คุณนายพูดหน้าแดงทำท่าอาย ๆ "อืม มีเมียสวยขนาดนี้แต่ไม่ทำอะไรกับเมีย ดันแอบไปมีเมียน้อยนี่นะ ใช้ไม่ได้" ผมเล่นไปตามบทต่อ พ่อบอกว่าแฟนคุณนายไม่ได้แอบไปมี เมียน้อยหรอก เพียงแต่ว่าของเค้าไม่สู้ เลยไม่ได้ทำอะไรกับเมียมานานแล้ว แถมก่อนหน้านี้พ่อยังบอกว่าคุณนายแกไม่เคยมีเซ็กส์จนเสร็จสม เลยแม้แต่ครั้งเดียวเพราะสามีของเธอล่มปากอ่าวแทบจะตลอด ผมไม่รู้หรอกว่าพ่อรู้มาได้ยังไง แต่พ่อบอกให้ผมบอกว่าสามีของเธอมีเมียน้อย เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณนายให้เดินไปตามแผนที่พ่อและผมวางไว้ "ค่ะ พ่อหมอ ... เค้าแอบมีเมียน้อยจริง ๆ ใช่มั้ยคะ ... " คุณนายตอบรับเสียงสะอื้น ดูเหมือนเธอจะแอบคิดไปแล้วว่าสามีแอบไปมีเมียน้อย พอมีคนอื่นมาช่วยยืนยันอีกครั้งเธอจึงเริ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอก้มลงไปหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาใหม่อีกครั้ง ผมล่ะสงสารเธอ เหลือเกิน เธอยังแลดูสาวและสวยอีกทั้งแสนดีขนาดนี้ แต่กลับต้องอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ ไม่ได้สัมผัสรสรัก ... แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะอีกเดี๋ยวผม จะได้มีโอกาสช่วยคลายทุกข์ให้ว่าที่แม่ยายคนสวยคนนี้ซักหน่อย "แล้วอยากให้กูช่วยยังไงล่ะ ..." ผมถามทั้งที่คิดว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว ถ้ามาหาพ่อผมล่ะก็เกือบทั้งหมดคือเรื่องการทำเสน่ห์ให้ผัวให้เมียหลงกันทั้ง นั้นและหากใช่มันก็เข้าทางเกมผมพอดี "พ่อหมอ ช่วยทำเสน่ห์ให้ชั้นด้วยนะคะ ให้พ่อตัวดีเขากลับมารักมาหลงชั้นเหมือนเดิม" คุณนายตอบ ท่าทางเธออาย ๆ ".. ทำน่ะ ทำได้ แต่แน่ใจแล้วหรือ ... การทำเสน่ห์เป็นวิชาต่ำ ต้องทำแบบต่ำ ๆ ต้องแก้ผ้าต่อหน้ากู ให้กูลงรักปักทองให้ทั้งตัว" ผมถามให้เธอ ยืนยันความประสงค์ เพราะการทำเสน่ห์ของพ่อผมน่ะ ก็คือการเขียนยันต์อะไรบางอย่างไปทั่วทั้งตัว โดยจะต้องทำทั้งที่เปลือยกาย และเกือบ จะร้อยทั้งร้อย พอลงรักเสร็จแล้ว สาวไฮโซทั้งหลาย ก็มักจะโดนพ่อผมจับลงเสาเข็มจนดิ้นพราด ๆ ต่อทันที "... พอจะรู้รายละเอียดมาจากคุณนายกมลบ้างแล้วค่ะ แล้วก็เอ่อ ... คิดว่าพ่อหมอ น่าจะวางใจได้" เธอหน้าแดงซ่านแม้นท่าทางภายนอกจะดูเป็น ผู้ใหญ่กร้านโลก แต่ท่าทางขัดเขินของเธอต่อเรื่องแบบนี้ช่างดูเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาน่าลิ้มลอง ไม่รู้ว่าคุณนายกมลอะไรนั่น บอกอะไรกับเธอ ไปบ้างถึงทำให้คนที่ดูไฮโซอย่างเธอมาเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ แต่ก็นั่นล่ะ ผมเล่นเดาทุกเรื่องออกหมดโดยที่เธอไม่ต้องบอก เธอก็คงจะต้องเผลอเชื่อ ไปบ้างอยู่แล้วเป็นธรรมดา "งั้นก็เข้าไปในห้องด้านข้างนี้ อาบน้ำให้สะอาดแล้วก็นอนเปลือยบนเตียง อีกสักพักกูจะเดิมตามเข้าไป" ผมชี้มือไปทางห้องพิธีด้านข้าง แล้วหัน หลังให้คุณนาย ทำทีเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ความจริงในใจของผมนี่มันกำลังเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด เดี๋ยวยาปลุกเซ็กส์ก็จะ ทำงานและผมก็จะได้ทำความรู้จักกับแม่ยายในอนาคตได้ตามใจ วันนี้ผมขอถือคติที่ว่า ดูนางให้ดูแม่ ซักวันล่ะกัน แต่ถ้าจะให้แน่ ๆ ผมอยากจะ ขอลองทั้งแม่ แล้วก็ลองทั้งนางไปด้วยเลย ................................................................... ผมแอบวิ่งขึ้นไปดูที่ชั้นสองประตูห้องนอนผมยังคงล๊อคเรียบร้อยดีแสดงว่าดาวยังคงปลอดภัยดีอยู่ ผมจึงลงมานั่งรออยู่ด้านล่างอย่างกระวน กระวายใจ สักพักผมก็หยิบเอาขันน้ำมนต์ และพู่กัน อันเป็นอุปกรณ์หลักที่จะใช้ทำพิธีลงรักเดินตามเข้าไปในห้องด้านข้าง ผมแกล้งเดินเปิด ประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบที่สุด แล้วรีบปิดประตูห้องและใส่กลอนให้เรียบร้อยทันทีเพราะกลัวว่าพ่อจะแอบมาขอส่วนแบ่งด้วย ห้องนี้เป็น ห้องปิดมิดชิดจึงค่อนข้างมืด มีเพียงแสงอ่อน ๆ จากเปลวเทียนเพียงดวงเดียวที่ให้ความสว่างสลัว ๆ อยู่ตรงกลางห้อง และแล้วภาพที่เห็นก็ ทำให้ผมมั่นใจว่ายาปลุกอารมณ์ของพ่อผมนั้นกำลังทำงานอย่างเต็มที่ "อืออ ... อาาาาา ... ซี้ดดดสสสส" เสียงครวญครางจากคุณนายคนสวยดังแว่วอย่างแผ่วเบา ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงไม้ที่วางอยู่กลางห้อง ร่างกายของเธอโดนผ้าห่มผืนบางปกคลุมไว้อยู่ ผมเห็นเสื้อผ้าของเธอโดนพับจัดวางไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ เตียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็พอจะ รู้แล้วว่าตอนนี้คุณนายคนสวยกำลังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนน้อยนั้น ดวงตาของเธอหลับพริ้มเหมือนจะไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเดิน เข้ามาอยู่ในห้องแล้ว ภายใต้ผ้าห่มนั้นผมเห็นมือข้างนึงของเธอล้วงลงไปยุกยิกที่ตรงหน้าขา ส่วนอีกมือก็วนเวียนอยู่ที่หน้าอกอวบใหญ่ ตอนนี้เธอกำลังช่วยตัวเองอยู่แน่ ๆ ท่อนควยของผมลุกชี้โด่ดันกางกางผ้าสีขาวบาง ๆ ออกมาทันที แบบนี้คงไม่ต้องทำพิธีแล้วมั้ง ผมขอ จัดการไปเลยได้หรือเปล่าเนี่ยครับคุณแม่ยายสุดที่รัก "อาาา ... อุ๊ยยย ตายแล้ว พ่อหมอ ...." คุณนายบิดตัวไหวไปมาด้วยความเสียวจนกระทั่งเธอเผยอเปลือกตามามองเห็นผมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงตกใจ และรีบหยุดการช่วยตัวเองไว้ ดูท่าทางเธอจะขัดเขินมากที่ต้องมาช่วยตัวเองให้คนอื่นดูแบบนี้ "เอาล่ะ เอาผ้าห่มออก จะเริ่มพิธีแล้ว" ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจ ผมมองเห็นเธอตัวสั่นกำผ้าห่มไว้จนแน่น แววตาดุจนางพญาของเธออ่อนลงไป จนเหมือนนางแมวสาวยั่วสวาท ดวงตาของเธอนั้นกำลังฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยแรงปราถนาเพราะยาปลุกอารมณ์ที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่ ผมจะไม่ แปลกใจแม้แต่น้อยหากในช่วงที่ผมยังไม่ได้เข้ามาเธอจะทนไม่ไหวจนต้องเกี่ยวเบ็ดช่วยตัวเองจนเสร็จไปแล้วซักครั้งสองครั้ง ผมกึ่งหยิบกึ่งกระ ชากเอาผ้าห่มที่ปกคลุมร่างกายของเธอออก เพราะเธอยังคงกำมันเอาไว้ซะจนแน่นแต่สุดท้ายแล้ว ผ้าห่มผืนบาง ปราการด่านสุดท้ายของเธอก็ ร่วงหล่นลงไปกองที่ข้างเตียงนอนจนได้ ทันทีที่เห็นร่างเปลือยของเธอ ก็ทำเอาผมแทบอยากจะกระโจนเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงในทันที แม้นว่าเจ้าของร่างจะอายุ 30 กว่า แถมยังมี ลูกไปแล้ว 1 คน แต่เรือนร่างอรชรที่นอนสั่นน้อย ๆ อยู่ท่ามกลางแสงเทียนสลัวนั้นช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เรือนร่างของเธอ ช่างเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลน่าฟอนเฟ้นไปทั่วทั้งตัว สองเต้าใหญ่อวบอูมกว่าที่เห็นจากด้านนอก มันยังคงดูแน่นไม่หย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา แน่ล่ะ มันคงไม่เด้งดึ๋งตึงแน่นเหมือนสาววัยมหาลัยอย่างดาว แต่แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผมรู้สึกคอแห้งอยากจะกินนมของคุณแม่ยายขึ้นมา ดื้อ ๆ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงโชยไปมาในห้องปิดทึบ ผนวกกับผิวกายขาวสะอาดเนียนไปทั่วทั้งตัว หน้าท้องของเธอไม่มีไขมันส่วนเกินมาให้ ขัดหูขัดตาแม้แต่น้อย เธอดูแลร่างกายของตัวเองมาดีจริง ๆ ตอนนี้ยังเหลือเพียงส่วนบริเวณกลีบแคมเท่านั้นที่ยังมองไม่เห็น เพราะว่าคุณพลอย เธอเอามือปิดไว้จนสนิท "เอาล่ะ เริ่มกันเลย" ผมพยายามแสร้งทำเป็นไม่สนใจเต็มที่ แต่ก็ยังคงไม่สามารถบังคับความยินดีที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าได้ หากคุณนายเธอ สามารถมองลอดหน้ากากศิวลึงค์ที่ผมสวมใส่อยู่ได้ล่ะก็ เธอคงจะรู้ทันทีว่าไอ้หมอเสน่ห์คนนี้มันกำลังหื่นจัดขนาดไหน แถมที่สำคัญตอนนี้เป้า กางเกงของผมกำลังโดนท่อนเอ็นที่กระตุกตุบ ๆ ดันออกมาจนเป็นลำ ผมหยิบเอาพู่กันมาถือไว้พร้อมทั้งพนมมือ และบ่นพึมพำภาษาแปลก ๆ ออกมา โดยสมมติว่ามันคือคาถาในการทำเสน่ห์ ผมแสร้งท่องคาถาบ้าบอไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3 นาที ก็หยุดและเอาพู่กันจุ่มลงไปในขันน้ำมนต์ที่ วางอยู่ข้าง ๆ ร่างเปลือยของคุณนายสุดสวย เธอจ้องมองผมด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป "อุ๊ย เย็นจัง ...." คุณนายตัวกระตุกเบา ๆ เมื่อผมจุ่มพู่กันลงไปขีด ๆ เขียน ๆ ที่บริเวณหน้าผากของเธอ ส่วนที่ว่าจะเขียนเป็นตัวอักษรอะไรน่ะ ผมไม่รู้เลย ผมได้แต่ตวัดพู่กันไป ๆ มา ๆ อย่างงั้นแหละ เพราะตอนนี้สายตาของผมนั้นจรดจ้องอยู่กับร่างเปลือยของคุณนายคนนี้ซะมากกว่า ผมลากพู่กันผ่านหว่างคิ้ว ไปตามจมูกโด่ง ๆ ของเธอ แล้วไปหยุดที่ริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มอย่างจงใจ เค้าหน้าของเธอนั้นแทบจะเป็นพิมพ์เดียว กันกับน้องแพรนางฟ้าของผมเลยทีเดียว ผมระบายปลายพู่กันไปทั่วขอบปากของเธอ และอีกเดี๋ยวเถอะผมจะดูดปากบาง ๆ นี้ให้หายอยากเลย "อืมมมมม .... อาาาา " คุณนายร้องครางเบา ๆ เมื่อผมเริ่มลากพู่กันผ่านลำคอขาวผ่องของเธอ มาหยุดที่บริเวณเหนือทรวงอก ผมแกล้งขีด ๆ เขียน ๆ ต่ออีกเล็กน้อย ทั้ง ๆ ที่ใจจริงแล้วอยากจะไปขั้นต่อไปใจจะขาด "เอามือออกไปด้วยคุณนาย" ผมออกคำสั่ง เพราะตอนนี้เธอใช้มือปิดหน้าอวบใหญ่ทั้งสองลูกของเธออยู่ "ค่ะ " เธอยกมือที่ปิดหน้าอกตัวเองออกไปช้า ๆ ปล่อ่ยให้ผมลุ้นระทึกแทบตาย และแล้วในที่สุด หน้าอกอวบอูมของคุณนายไฮโซคนนี้ก็โผล่หรา ออกมาท้าทายสายตาผมแบบเต็ม ๆ อีกครั้ง หน้าอกอวบใหญ่เด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะการหายใจของเธอ หัวนมของเธอแม้จะไม่ได้เป็นสีชมพู สวยเหมือนของดาว มันออกแนวเป็นสีน้ำตาลอ่อนมากกว่า แต่กระนั้นมันก็ยังแข็งเป็นเม็ดชูชันท้าทายให้ผมบีบบี้เล่นอยู่ดี แต่ยังก่อน ... รอเวลา อีกหน่อย อีกเพียงอึดใจเดียว ผมก็จะได้ฟอนเฟ้นสองเต้านี้เล่นจนสมใจแล้ว " ... อ๊ะ อุ๊ยยยยยย อืมมมมมม ..... ซี้ดสสสส" คุณนายคนสวยดีดตัวสะดุ้งเบา ๆ ด้วยความเสียว เมื่อผมบรรจงใช้ปลายพู่กันลากมาหยุดที่ยอด ภูเขาไฟอย่างทะนุถนอม แล้วแสร้งขีด ๆ เขียน ๆ ไปมาเหมือนกำลังลงยันต์อักขระ ผมเห็นหัวนมที่แข็งปั๋งอยู่แล้วนั้นยิ่งแข็งตัวมากขึ้นกว่าเดิม ผมลากไล้ปลายพู่กันสลับไปมาสลับมาทั้งสองเต้า ยิ่งเวลาผ่านไปเธอก็ยิ่งหายใจถี่และแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอหลับตาพริ้ม สองมือของเธอจิกกำผ้าปู เตียงไว้จนแน่น ท่อนขาขาวของเธอทั้งสองข้างยกสลับไปสลับมาหนีบขาบ้างอ้าออกบ้าง เหมือนจะให้มันช่วยเบียดคลายความเสียวที่ตรงหว่างขา เธอคงจะกำลังเงี่ยนมากแล้ว "อืมมมม ... อูยยยย ... พ่อหมอ ... ซี้ดดสสสส" คุณนายพยายามเม้มปากแน่นเพื่อเก็บเสียง แต่ก็ไม่วายต้องส่งเสียงครางหลุดออกมาจนได้ ผม เริ่มกดปลายพู่กันแรงขึ้นด้วยความมันส์ในอารมณ์ ภาพหน้าอกอวบใหญ่ยุบและเด้งไปตามแรงกดมันช่างเร้าใจผมดีจริง ๆ เชียว ตอนนี้มือของ เธอเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว เธอขยับมือขึ้นมาลูบไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองวนไปวนมาไม่หยุด บางครั้งมือของเธอก็เลื่อนต่ำลงไปที่บริเวณหน้า ขา แต่เธอก็ลากผ่านเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวแล้วก็ดึงกลับออกมา คุณนายคนนี้ยังคงพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่อย่่างเต็มที่ เอาล่ะมาดูกัน ว่าผมหรือคุณนายกันแน่ที่จะอดใจไม่ไหวก่อนกัน "เอามือออกด้วยคุณนาย" ผมทำเสียงเข้มบอกคุณนายเมื่อลากปลายพู่กันฉวัดเฉวียนผ่านหน้าท้องลงมาหยุดที่ท้องน้อยอันเรียบเนียน เป้าหมาย ต่อไปของผมกำลังโดนฝ่ามือน้อย ๆ ของเธอปิดเอาไว้ "..... " เธอนอนนิ่งไม่ตอบ อีกทั้งยังไม่ยอมเอามือที่ปิดเนินนูนอยู่ออกไปด้วย แต่สองขาของเธอยังคงขยับไปมาด้วยความกระสับกระส่าย เธอคง อยากจะได้อะไรบางอย่างดับความอยากของเธอจะแย่อยู่แล้ว สายตาฉ่ำเยิ้มของเธอเหลือบมองลงไปที่เป้ากางเกงของผมซึ่งตอนนี้กำลังโดนท่อน ควยดันจนตุงเด่ออกมา แล้วผมจะเอาไงดี ปล้ำเลยดีมั้ย เพราะว่าตอนนี้ก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว "..... เอาไง หรือจะเลิก แล้วปล่อยให้ผัวหนีไปอยู่กับเมียน้อย" ผมแกล้งพูดขู่เธอ เธอนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลับตาปี๋แล้วเอามือที่ปิดโคกสวาท ออกไป ปราการด่านสุดท้ายของเธอหายไปแล้ว ตอนนี้ร่องสวาทของเธอเปิดตัวโชว์หราต่อหน้าผมอย่างเต็มที่ กลีบร่องที่เต็มไปด้วยน้ำรักแบะ อ้าออกเล็กน้อย แต่เนื้อในยังคงมีสีแดงสดเหมือนกับไม่ได้ผ่านการใช้งานมามากเท่าไหร่ เสน่ห์ของเรือนร่างคุณนายคนนี้ทำเอาผมเริ่มหน้ามืด ทนไม่ไหวแล้ว ผมจับที่ข้อพับขาของเธอ ก่อนที่จะจับดึงแยกออกจากกัน แล้วเอามือไปจับหมับเข้าที่โคกเนื้อโหนกนูนเบื้องหน้า "ซี้ดดสสสส อาาาา พ ... พ่อหมอ ทำอะไรน่ะ.... อูยยย" คุณนายตัวสะดุ้งเฮือกร้องครางออกมาเสียงดังอย่างลืมอาย เธอจับที่ข้อมือของผมแน่น แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกแรงขัดขืนใด ๆ แถมยิ่งผมออกแรงบดบี้ปลายนิ้วไปที่โหนกเนื้อแรงเท่าไหร่ สองขาของเธอก็ยิ่งถ่างอ้าออกมากขึ้น "พิธีเกือบเสร็จแล้ว คราวนี้จำข้อควรปฎิบัติไว้ เมียดีนอกบ้านต้องเป็นกุลสตรี แต่เป็นกะหรี่ร่านบนเตียงนอน จำไว้รับรองผัวรักผัวหลง" ผมพูด ขณะบรรจงแหย่ปลายนิ้วเบียดเข้าไปในรูเสียวแล้วชักเข้าชักออกเบา ๆ "อะ อาาาา ... พ่อหมอออ .... อูยยยยย แล้วเป็นกะหรี่ต้องทำยังไงล่ะ อะ ... ซี้ดสสสสสส ..." คุณนายร้องครวญคราง พลางแหงนหน้าเชิด ร่างขาว โพลนเปลือยเปล่านั้นแอ่นกระตุกเร่า ๆ ไปมาด้วยความเสียวกระสัน สองขาขาวเรียวของเธอถ่างอ้าออกจนสุดเหยียด สะโพกดินระเบิดส่ายร่อน ไปมารับสัมผัสของปลายนิ้วที่แหย่ทะลวงกลีบเสียวไม่หยุด สองมือของเธอขยับขึ้นไปเคล้นคลึงสองเต้าของตัวเองด้วยความเสียว ดูท่าสติของ เธอได้ขาดผึงลงไปเรียบร้อยแล้ว "ปล่อยตัวปล่อยใจปล่อยไปตามอารมณ์ ถ้าเสียวก็ร้องออกมาดัง ๆ รู้สึกยังไงก็บอกอย่างงั้นไม่ต้องเก็บไว้ในใจ" ผมพูดพร่ำไปเรื่อย จำได้ว่านี่ เป็นคำพูดประจำของพ่อที่ใช้บอกกับเหยื่อสวาททุกคนตอนที่ผมมาคอยแอบดูผ่านรูไม้เล็ก ๆ บนชั้นสองของบ้าน "อืมมมม .... ซี้ดดสสสสส .... พ พ่อหมอ ... ระ แรง ..." เธอส่ายร่อนเอวไปมา ขณะที่สองมือนั้นกำลังบีบเคล้นสองเต้าอวบอย่างไม่ลดละ เสียง กระซิบของเธอดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจนผมฟังไม่ออก "ว่าอะไรนะ ..." ผมร้องถามขณะใช้อีกมือที่ว่างอยู่ลูบไล้ไปทั่วท่อนขาขาวกลมกลึงของคุณนายอย่างหื่นกระหาย ".... ช่วย ... แรงอีกหน่อย ... " เธอพูดด้วยเสียงเบาเหมือนเดิม แต่ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าเธอต้องการอะไร "ว่าอะไร พูดให้ชัด ๆ ดัง ๆ หน่อย" ผมหยุดมือที่กำลังชักเข้าชักออกแบบดื้อ ๆ จนคุณนายคนสวยถึงกับต้องส่ายเอวร่อนไปมาแรงขึ้่นด้วย ความขัดใจในอารมณ์ "ช่วยทำพลอยแรง ๆ อย่าหยุด พลอยเสียว พลอยจะไม่ไหวแล้ว" คูณนายร้องขอออกมาเสียงดังลั่น แถมยังเผลอเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองด้วย นี่เธอคงกำลังจะคลั่งได้ที่แล้วกระมัง "ได้เลย ต้องร่านแบบนี้แหละดี" ผมดันปลายนิ้วเสียบพรวดเข้าไปในร่องเสียวใหม่ แล้วชักเข้าชักออกแรง ๆ จนได้ยินเสียงดังเจ๊าะแจ๊ะ ๆ ดัง ไปทั่วห้องหับเล็ก ๆ นี้ "ซี้ดดสสสส ... อืมมม พ่อหมอ ... อาาาา โอยยย เสียววว" คุณนายกลับมาร้องครวญครางด้วยความกระสันต่อ เนื้อตัวของเธอเริ่มผุดเม็ดเหงื่อ ออกมาสะท้อนกับแสงเทียนจนเป็นประกายพราวพร่างไปทั้งตัว เรือนร่างของคุณนายไฮโซเด้งสะท้อนไปมาในความมืดสลัวด้วยความกระสัน ราวกับกะหรี่ร่านสวาทตามท้องถนน เอวของเธอยิ่งร่อนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเร็วของนิ้วที่วิ่งทะลวงรูเสียวของเธอ และไม่นานนักอารมณ์ กระสันของเธอก็พุ่งทะยานจนเกินจุดที่เธอจะทานทนได้ ร่างอวบอัดกระตุกเกร็งส่ายร่อนไปมา สองมือของเธอขยับมาจับที่ข้อมือของผมจนแน่ พลางร้องครางออกมาเสียงดังลั่นอย่างสุดกลั้น "อ๊าาาา อาาา ซี้ดสสสสสส พ่อหมอ พ่อหมอ ... โอยยยย อะ อาาาาา ...." คุณนายคนสวยตัวกระตุกเกร็งไปมาสักพักใหญ่ ก่อนที่จะนอนสงบนิ่ง หายใจหอบหนักด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่สุขสม ร่องสวาทคัดหลั่งเอาน้ำแห่งความสุขออกมาจนเลอะเต็มพื้นเตียง มันตอดรัดนิ้วผมตุบ ๆ เหมือน กับเริงร่ากับอารมณ์เสียวที่เจ้าของร่างไม่ได้รับสัมผัสมานานแสนนาน ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอมีความสุขไปแล้ว คราวนี้ก็ต้องขอให้ผม มีความสุขเหมือนเธอบ้าง ผมรีบถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงสวมใส่หน้ากากไม้เอาไว้ แล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งที่หว่างขาของเธอ จนท่อนเนื้ออันใหญ่ไปสะกิดสัมผัสกับโคกสวรรค์ที่เปียกชุ่มของคุณนายไฮโซว่าที่แม่ยายของผมในอนาคต ท่อนเอ็นกระตุกหงึก ๆ อย่างร้อน ใจในอารมณ์ พร้อมที่จะปรนเปรอรสชาติแห่งความเสียวให้กับเธอคนนี้จนกว่าจะหมดเรี่ยวแรงไปข้าง ............................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น: