ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Tarantura แม่ม่ายดำ ตอนที่2

- แต่แล้วสวรรค์ก็ถล่มลงมาต่อหน้าต่อตา เมื่อมีเสียงเคาะประตูห้องเทรนนิ่งก็อก ๆ แพรไหมสะดุ้งรีบผละตัวถอยหาง พร้อมดึงกางเกง ขึ้นมาสวมพรวดอย่างรวดเร็ว "ใคร....." ผมตวาดออกไปด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง ใครกันนะที่เข้ามาขัดจังหวะของผม "อุ้มค่ะ...หัวหน้า..." มีเสียงเล็ก ๆ แทรกเข้ามา "มีอะไรอุ้ม...." ผมยังคงไม่หายฉุน เมื่อโดนเลขาคู่สวาทเข้ามาขัดจังหวะ "GM.. เรียกพบค่ะ..." อุ้มค่อย ๆ เปิดประตูเยี่ยมหน้าเข้ามาบอก เธอคงรู้ว่าการเข้ามารายงานในครั้งนี้ เป็นการขัดจังหวะการเชือด เหยื่อของผม เพราะครั้งแรกของเธอก็เสียสาวให้ผมในห้องเทรนนิ่งแห่งนี้เช่นเดียวกัน ผมหันไปสั่งเลขาคู่สวาทให้จัดการเอกสารการรับ แพรไหมเข้ามาทำงาน อย่างเร่งรีบ พร้อมกำชับให้เธอรอผมอยู่ในออฟฟิส ก่อนที่ จะรีบขึ้นไปพบนายใหญ่ของผม ผมเสียเวลาอยู่ในห้องของเจ้านาย จนเกือบเที่ยง และเมื่อลงมาก็พบว่า แพรไหมกลับไปบ้านเสียแล้ว ความเงี่ยนความอยากผมยังไม่ลดถอย เมื่อมาโดนขัดจังหวะเช่นนี้ ยัยอุ้มเลขาคู่สวาทก็เลยต้องรับเป็นหน้าที่แทน ผมเรียกตัวยัยอุ้มเข้ามาในออฟฟิตช่วงพักเที่ยง สั่งให้คลานเข้ามาหาพร้อมควักท่อนลำที่อวบ ๆ หยุ่น ๆ ฉ่ำเปียกไปด้วยน้ำเงี่ยน ที่หลั่ง ออกมาตอนลูบไล้เนินหีของแพรไหม "อมซะ....เสือกมาขัดจังหวะกู..." ผมหยาบกระด้างแบบนี้เสมอ เมื่อโมโหหรือโดนใครขัดใจ ยัยอุ้มทาสสวาทของผม รู้ดีว่าไม่ควรขัดใจกับผมในเวลานี้ เธอค่อย ๆ คลานเข้ามาซบหน้าลงที่ตักของผม ใช้ปากคาบท่อนลำอวบ ๆ ของผมเข้ามาดูดเลียอย่างรวดเร็ว ลีลาการใช้ปากของยัยอุ้ม ยังเยี่ยมเสมอ เพียงแค่พริบตา ท่อนลำอ่อน ๆ อวบ ๆ ของผม ก็เริ่มแข็ง โปนเต็มปากเต็มคำของยัยอุ้มอีกครั้ง ลิ้นเธอตวัดเลียไปรอบ ๆ เงี่ยงบานหยักใหญ่ เกร็งปลายลิ้นชอนไชไปที่รอยผ่าของส่วนหัว ผม เสียวแปร๊บจนต้องกระดกแอ่นเอวขึ้นมา ท่อนลำแข็งโปนแทงวูบเข้าไปในปากน้อย ๆ ของยัยอุ้ม จนเธอสำลักไอแค๊ก ๆ ออกมา ผมหัวเราะฮา ๆ อย่างสะใจ ยัยอุ้มค้อนควัก แต่ก็ยังคงก้มหน้าก้มตาจัดการกับท่อนควยยาวใหญ่ของผมต่อไปจนกว่ามันจะสิ้นฤทธิ์คาย น้ำสวาทออกมา ผมใช้มือจิกผมยัยอุ้มพร้อมกับดึงเข้ามา ในขณะที่แอ่นเอวเสือกท่อนควยผลุบ ๆ เข้าไปในช่องปากบาง ๆ ของเธอ ยัยอุ้มผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาเลอะเทอะไปด้วยน้ำเงี่ยนของผม และน้ำลายของตัวเอง เพียงไม่นาน ควยยาวใหญ่ของผมก็สิ้นฤทธิ์ แม้ จะไม่สมใจอยาก แต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้ค้างคาไปทั้งวัน ผมหงุดหงิดสุด ๆ เมื่อทราบว่ายัยอุ้มเลขาของผม นัดให้แพรไหมมาเริ่มงานตอนต้นเดือน เหลืออีกตั้ง10กว่าวัน กว่าที่ผมจะได้เห็น หน้าเธอ ผมไปรื้อใบสมัครงานของแพรไหมออกมาดู เมื่อเจอกับเบอร์โทรศััพท์ื ผมรีบกดไปหาทันที "แพรค่ะ...." เสียงสัญญาณเรียกดังสี่ห้าครั้ง เสียงใส ๆ ของแพรไหมก็แทรกขึ้น "ผมยิ่งยอดครับ..." ผมรีบพูดด้วยความดีใจ "สวัสดีค่ะท่าน....มีไรให้แพรรับใช้คะ..." " เย็นนี้..นู๋แพรว่างมั๊ย....ผมอยากคุยธุระ..." ผมกล่าวเสียงเรียบ ๆ แต่เน้นหนัก เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า ผมคงมีธุระจำเป็นจริง ๆ จึงโทรนัด "ค่ะ ๆ แพรว่างค่ะ....ท่านมาหาแพรหน้าห้างที่แพรสอนเต้นได้เลยค่ะ...." ผมนัดหมายเวลากับแพรไหมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อารมณ์ที่ขุ่นมัวก็เริ่มบรรเทาเบาบางลง เย็นนี้แล้วสินะ ผมจะได้เจอกับแมงมุมทารัน โทร่า ตัวเป็น ๆ อีกครั้ง คราวนี้ต้องไม่พลาดแน่ สมยึดถือสุภาษิตว่า จะตีเหล็ก ต้องตีในขณะที่มันยังร้อน ไฟแดง ๆ ผมจุดไฟสวาทให้ สาวน้อยจนลุกโพรง เย็นนี้ถึงเวลาที่ผมจะไปดับมันด้วยตัวเอง ผมสะสางงานที่คั่งค้างไปเรื่อย ๆ จวบจนเย็น ผมรีบโทรเข้าบ้านไปบอกดุจดาว ภรรยาของผมก่อนล่วงหน้าว่า คืนนี้ผมติดงานเลี้ยง อาจ กลับบ้านดึก ไม่มีปัญหาสำหรับเธอ ภรรยาของผมไม่เคยระแวงสงสัยเพราะการที่ผมกลับบ้านดึกนั้นเป็นกิจวัตรเสมอมา ผมนั่งมองเข็มวินาที ทีมันค่อย ๆ กระดิก ไปทะละนิด ๆ อย่างเชื่องช้า ใจผมร้อนรุ่มถวิลหาถึงแพรไหม เนื้อแน่น ๆ เนียนมือยามลูบไล้ ยังคงตรึงอยู่ในความรู้สึก พอถึงเวลา5โมงเย็นตรงเป๊ะ ผมรีบรวบรวมเอกสารเข้ากระเป๋า พร้อมเดินออกจากออฟฟิสก่อนลูกน้องทุกคน ยัยอุ้มกระหืดกระหอบวิ่งตามมา เรียกผมไว้ "หัวหน้ารีบกลับหรือคะ...." "ใช่..ผมมีธุระ" ผมตอบสั้น ๆ เพื่ออยากจะรีบออกไปหาแพรไหมใจแทบขาด "อุ้ม..ขอติดรถไปด้วยได้มั๊ยค่ะ...." เสียงยัยเลขาคู่สวาทของผมร้องถามเบา ๆ อย่างเกรงใจ ซึ่งถ้าเป็นเวลาปรกติ ผมไม่เคยปฎิเสธที่ จะให้เธอติดรถกลับบ้าน เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว แต่มิใช่วันนี้แน่ "วันนี้ไม่ได้......" ผมยังคงตอบสั้น ๆ พร้อมรีบผละเดินจากไปยังที่จอดรถ ทิ้งให้ยัยอุ้มยืนงวยงงอยู่คนเดียว ผมเสียเวลาขับรถไม่นานนักก็มาถึงยังจุดหมายปลายทางที่นัดกับเด็กแพรไหมไว้ แม้ผมจะมาก่อนเวลาที่นัดหมาย แต่ทันทีที่ผมเลี้ยว รถเข้าไปจอดหน้าห้าง ผมก็แลเห็นแพรไหมยืนเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางผู้คนที่กำลังยืนเพื่อรอเวลาเต้นแอร์โรบิคกัน ผมสาวเท้าก้าวยาว ๆ เข้าไปหาแพรไหม ยังไม่ทันถึงตัวเธอ แพรไหมก็หันมาเห็นผมเสียก่อน รอยยิ้มแสนหวานผุดขึ้นที่ใบหน้าของเธอ เป็นการทักทาย "ท่านมาเร็ว........" เสียงใสๆ หวาน ๆ กังวาลเพราะ มีน้ำเสียงปนขบขัน จนทำให้ผมเก้อเขินได้อย่างประหลาด เสือเฒ่าผู้ผ่านสังเวียนสวาทมาอย่างโชกโชนเช่นผม กลับแบไต๋หงายไพ่ให้สาวน้อยที่ยืนอยู่เบื้องหน้าจับพิรุทได้ว่า ผมรีบร้อนอยากมา พบเธอมากแค่ไหน ผมถือวิสาสะคว้าข้อมือของแพรไหมจุงออกมาจากกลุ่มแม่บ้านหุ่นหนาเตอะ ที่กำลังเริ่มขยับแข้งขาให้เข้ากับเสียง เพลงแอร์โรบิค "ไปไหนคะ..." แพรไหมเดินตามสักพักก็ร้องถามขึ้น "ไปเอ่อ...ไปก่อนละกัน...ขึ้นรถ ๆ ..." ผมเปิดประตูรถพร้อมดันหลังสาวน้อยขึ้นรถอย่างเร่งรีบ ถิ่นแถวนี้ไม่ไกลจากบ้านของผมนัก เผื่อ เคราะห์็หามยามซวย คนแถวบ้านมาพบผมเข้า แล้วไปรายงานให้ดุจดาวทราบ ผมไม่อยากแต่งเรื่องขึ้นมาแก้ตัวอีก ผมขับรถไปตามถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าไปทางบางกระปิเงียบ ๆ ใจนึกหาหนทางว่าจะพาแพรไหมไปที่ไหนดี ผมมัวแต่ระแวงว่าอาจมีใคร มาพบเห็นผม จนทำให้ลืมสังเกตว่า สาวน้อยที่ผมลากขึ้นรถมาด้วยนั้น เธอแต่งตัวต่างไปจากเมื่อเช้า เสื้อสายเดี่ยวเน้นเนินอกและลำคอ ขาวผ่องของแพรไหม ที่เธอสวมใส่อยู่ ทำให้แลดูทรวงอกของเธอขยายใหญ่ขึ้นอย่างประหลาด ส่วนกระโปรงยีนส์สีมอ ๆ ซีด ๆ ที่ยาว คลุมโค้งสะโพกอวบกลมของแพรไหมมาเพียงคืบกว่า ๆ ยามเมื่อเธอขึ้นมานั่งในรถ ชายกระโปรงก็ร่นสูงขึ้น จนพ้นเนินนูนสามเหลี่ยม ของเธอไม่ถึง2นิ้ว ผมพิจารณาพร้อมกับกลืนน้ำลานเหนียว ๆ ลงคอถี่ ๆ "ท่านอ่ะ..มองจนแพรเขินแล้วน๊า....." เสียงสาวน้อยทำลายความเงียบขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นจากภวัีงค์ "ชุดนู๋แพรสวยจัง....ดูสิ ๆ มันสั้นจนปิดจะไม่มิดแล้ว เดี๋ยวแมงมุมก็ออกมาชักใยในรถผมหรอก 5555" ผมสัพยอกหยอกล้อเธอเล่น ขำ ๆ แต่ทำให้แพรไหมอายหน้าแดงได้ เธอนั่งขยุกขยิกตัวพยายามจะดึงชายกระโปรง ที่มันร่นขึ้นไปให้ลงมา แต่ก็ไร้ผล "ท่านก็อย่ามองสิคะ....แพรเขิน..." "เขินอะไรล่ะนู๋แพร....เมื่อเช้าผมยังลูบแมงมุมนู๋แพรเล่นเลยมิใช่รึ...." "ท่านอ่ะ.........ไม่พูดด้วยแล้ว" สาวน้อยค้อนควักผมด้วยดวงตาหวานเชื่อม พร้อมกับหันหน้าออกไปมองนอกรถ เธอนั่งเอนตัวอย่าง สบายบนเบาะหนานุ่มของรถยุโรปคันโปรดของผม ซึ่งตกแต่งไว้อย่างดีเลิศ พร้อมฟิล์มฉาบปรอทหนาทึบ ที่คนภายนอกไม่มีทางมอง เข้ามาเห็นภายใน ผมขับรถด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว มือซ้ายข้างที่ว่างจึงวางแหมะลงไปที่ขาอวบขาวคู่นั้น แพรไหมร้องอุ๊ยเบา ๆ ด้วยความตกใจ ที่ถูกผม จู่โจม โดยมิรู้เนื้อตัว "ท่านอ่ะ...จะรังแกแพรอีกแล้ว....." เธอพูดกระซิบเบา ๆ แต่ดวงตาที่ประสานกับผมนั้นหวานฉ่ำ มีแววเชิญชวน มีหรือที่เสือเฒ่าผู้ ชำนาญเกมสวาทจะอ่านไม่ออก ผมลูบไล้ฝ่ามือไปที่ขาอวบขาวกลมกลึงของแพรไหม เริ่มจากหัวเข่ากลม ๆ จนสูงขึ้นไปทีละนิด ๆ แพรไหมหันมาสบตา สลับกับก้ม มองฝ่ามือของผมที่กำลังไต่ขึ้นไป ๆ จนเกือบจะถึงเนินสามเหลี่ยมหว่างขาเธออยู่แล้ว ไม่มีเสียงห้ามปรามท้วงติงจากสาวน้อยหน้าหวาน แต่ขาคู่งามที่นั่งแนบชิดกลับค่อย ๆ เผยออกกว้างทีละนิด ๆ จนฝ่ามือของผมสามารถล้วงเข้าไปลูบไล้ขาอ่อนด้่นในของเธอได้สดวก "ท่านขา....รังแกแพรอีกแล้ว....." เสียงกระซิบแผ่ว ๆ พร้อมทรวงอกที่กระเพื่อมไหวตามแรงลมหายใจและอารมณ์พิศวาทที่กระพือขึ้น ผมลูบต่อไปเรื่อย ๆ จนบัดนี้ฝ่ามือของผมกุมเกาะอยู่กับโคกเนื้อเนินนูน ที่ถูกผู้เป็นเจ้าของแอ่นยกขึ้นมา เสียงครางอืม ๆ อ่า ๆ ดัง เบา ๆ ออกมาจากปากแพรไหม พร้อมกับตาที่หลับพริ้ม มีเพียงสะโพกน้อย ๆ ที่แอ่นยกส่ายไปมายามผมบดคลึงปลายนิ้วลงไปสัมผัส กับกลีบแคมที่เบียดชิดกันของเธอ ละอองหยาดน้ำไหลออกมาจากซอกหลืบภายใน จนผมรู้สึกถึงความอับชื้นได้ยามสัมผัสไปที่ร่องแคม ของสาวน้อย เสียงซู๊ดปากครางเบา ๆ เมื่อผมกรีดปลายนิ้วไปตามรอยแนวยาวจนสุดที่เม็ดติ่งเหนือเนินโหนก "ท่านขาาาา.....อย่ารังแกแพร" เสียงสาวน้อยเพ้อขึ้นมาด้วยความซ่านเสียว ปากบอกห้ามมิให้ผมรังแก แต่เบื้องล่างกลับส่ายยกแอ่น เนินนูนขึ้นมาประทะสู้กับปลายนิ้วของผม "นู๋จ๋าาาาา...ผมอยากเห็นแมงมุมอีกครั้ง..ได้มั๊ย...." แพรไหมหันหน้าขึ้นมองสบตากับผม แววตาเธอหยาดเยิ้ม รอยยิ้มเอียงอาย แต่เธอกำลังขยับมือเลิกชายกระโปรงของเธอขึ้นไปกอง ค้างอยู่ที่เอว ยกก้นขึ้นน้อย ๆ ก่อนรูดจีสตริงสีแดงลายลูกไม้ออกมาค้างอยู่ที่เข่า เธอยกขาขึ้นพร้อมก้มลงถอดมันออกมาซุกไว้ที่หลัง เบาะรถผม บัดนี้แมงมุม แม่ม่ายดำตัวน้อย ๆ พร้อมใยที่ชักถักทอเป็นตารางข่ายคลุมสยายปกคลุมเนินโหนกที่ขาวเกลี้ยงของแพรไหม ก้อวดตัวนูนเด่นขึ้นมาให้ผมเห็น แม้ยามนี้แสงสว่างจากภายนอกจะหมดสิ้นไปแล้ว แต่จากแสงไฟข้างทาง มันก็สว่างเพียงพอให้ผมได้ แลเห็นถึงสัณฐานเนินเนื้อนี้ ว่ามันมหึมาน่าอัศจรรย์เพียงใด มือซ้ายของผมทำงานไปอย่างอัตโนมัติ ทั้งลูบ ทั้งล้วง ทั้งบีบคลึง ที่เนินโหนกเต็มหน้าขาของแพรไหม ไม่ยอมปล่อย มือขวาผมก็คอย บังคับให้รถเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปตามที่ใจต้องการ สายตาเหลือบมองป้ายต่าง ๆ ข้างทางไม่ลดละ ใช่ครับผมกำลังสอดส่ายสายตามอง หาป้ายโรงแรมม่านรูดนั่นแหละ แม้ผมจะเป็นนักล่าสวาท แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ใช้บริการจากโรงแรมม่านรูดมากนัก เคยเห็นป้ายแว๊บ ๆ ว่า อยู่ริมถนนใกล้ ๆ สี่แยกลำสาลี ไม่นานนักผมก็แลเห็นป้ายไฟนีออนขนาดใหญ่ วิมานฉิมพลี ที่ผมจะเชือดเหยื่อตัวน้อย ๆ คนนี้เสียที เสียงครางของแพรไหมกระเส่าเบา ๆ มันเร้าใจผมยิ่งนัก เด็กเอ๋ยเด็กน้อย อีกไม่นาน เธอจะต้องร้องครางดังกว่านี้แน่ ผมนึกกระหยิ่มใจ วาดหวังว่าผมจะบรรเลงเพลงกามให้สาวน้อยผู้นี้ หลงไหลจนยอมตัวถวายเป็นทาสกามผู้ซื่อสัตย์ เช่นเดียวกับที่ยัยอุ้มเป็นอยู่ ผมเลี้ยวรถ เข้าไปที่ซองจอดที่พนักงานรอเปิดผ้าม่านไว้ แพรไหมยังคงหลับตาพริ้ม ส่ายโยกไหวสะโพกรับกับปลายนิ้วผมที่กดคลึงอยู่ปุ่มกระสันต์ จนรถผมจอดสนิท นั่นแหละ สาวน้อยแพรไหมจึงค่อย ๆ ลืมตาที่ปรือหยาดเยิ้มขึ้นมามองรอบ ๆ ตัว แต่ก็คงเห็นเพียงแค่บานประตูของ ผมเดินอ้อมไปประคองร่างที่อ่อนปวกเปียกของแพรไหมลงมาจากรถ พาเข้าไปข้างในห้องที่จัดแต่งไว้อย่างหรูหรา เตียงกลางห้องกว้าง ใหญ่ พร้อมโซฟาหนานุ่ม มีเก้าอี้นายพรานวางอยู่มุมห้องด้านใน ใกล้ ๆ ห้องน้ำ แสงไฟสลัว ๆ ดูนวลตา ผมวางร่างแพรไหมลงบนเตียง ก่อนลุกออกมาเปิดประตู ให้พนักงานที่มาเคาะเรียก ผมรีบยัดเงินให้บ๊อย พร้อมรีบไล่มันออกไปจากห้อง จากนั้นก็เดินกลับไปยืนมอง ร่างของสาวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียงนอน ห้องพัก ที่ปิดสนิทอยู่ ชายกระโปรงยีนส์เลิกสูงขึ้นจนเห็นส่วนปลายของเนินเนื้อ มันขาวผ่องปราศจากเส้นขน มีเพียงรอยสักเป็นตารางข่ายใยแมงมุมครอบ คลุมอยู่ กลีบแคมอวบหนาสองข้างปิดสนิท คงไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้ามาอย่างแน่นอน รอยผ่ากลีบยาวหายลงไปลงที่หว่างขา ส่วนตรง ปลายหัวบุ๋มยุบตัวลงเล็กน้อย ผมเดินเข้าไปนั่งเคียงข้าง กางมือวางลงไป แม้มือของผมจะใหญ่อวบ แต่มันก็แทบจะปิดเนินโหนกที่ ลอยเด่นนั้นไม่มิด ผมขยับขาแพรไหมกางออกเล็กน้อย กลีบแคมอวบหนาสีชมพูเข้มค่อย ๆ แยกตัวออก แต่ก็ยังมองไม่เห็นปากร่องรูเสียว โอ๊ววว...ช่าง บริสุทธิ์ ผุดผ่องนัก ผมคำรามในใจอย่างลิงโลด ที่เหยื่อสาวของผมคนนี้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ผมใช้ปลายนิ้วลูบไล้แผ่ว ๆ ไปตามความยาวของกลีบเสียว ก่อนบดคลึงเบา ๆ ที่โคนติ่งเสียว แพรไหมแอ่นกระดกยกก้นร่อนส่ายไปมา ครางเสียงดังลั่นห้อง "อูยยยยย....ท่านขา...แพรเสียวววว...ซี๊ดดดดดด...." ผมก้มหน้าเข้าไปหา จูบดมที่เนินเนื้อของแพรไหมฟอดใหญ่ ๆ ด้วยความอยาก หลิ่นเนื้อของสาวบริสุทธิ์มันช่างหอมรัญจวนใจยิ่งนัก ปลายลิ้นผมตวัดแลบเลียไปตามกลีบสวย มันเรียกน้ำเงี่ยนของแพรไหมออกมาได้ทันที ผมใช้นิ้วแหวกกลีบแคมให้ถ่างอ้า ปากรูเสียว ขนาดเท่าปลายนิ้วชี้ก็อ้าออก ผมเกร็งปลายลิ้นลงไปดุนดัน แทรกเข้าไปให้ลึก ๆ พร้อมตวัดพลิกพริ้วไปมา แพรไหมครางเสียงดังลั่น ยกสองมือขึ้นมาจับหัวของผมกดลงบดขยี้กับเนินเสียว พร้อมแอ่นกระดกเอวร่อนส่ายไปมา ครางออกมาดังลั่นปริ่มว่าจะขาดใจ "อูยยยยย...ซี๊ดดดดด..ท่านขา....เสียววววว.....ทำไมแพรเสียวหีอย่างนี้....." ผมตวัดปลายลิ้นระรัวที่เม็ดเสียว ที่มันพองขยายตัวโตเท่าเม็ดถั่วเหลือง ยอดติ่งไหวลู่เอนไปตามแรงลิ้นที่ตวัดผ่าน แต่มันก็เต้นกระดิก ดุ๊กดิ๊กไปมาเหมือนไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อปลายลิ้นผม แพรไหมเกร็งมือจิกขยุ้มที่ผ้าปูเตียง จนมันแทบขาดติดมือออกมา ยกเอวแอ่นเนิน โหนกส่ายร่อนให้ผมใช้ปลายลิ้นได้ถนัดถนี่ "อูยยยยยยซี๊ดดดดด...ท่านขา....แพรไม่ไหวแล้วววววว เย็ดแพรนะคะท่าน........" สาวน้อยสารภาพเรียกร้องออกมาอย่างสิ้นอาย แรง กระสันต์ซ่านเสียว ที่โดนผมปลุกเร้า มีหรือที่เธอจะทานทนได้ ผมลุกขึ้นสลัดเสื้อผ้าเหวี่ยงออกจากตัวอย่างเร่งรีบ ก่อนก้มลงกระชากกระโปรงยินส์คับแน่นออกมาทางปลายขา เสื้อสายเดียวพร้อม บราสีสวย ถูกปลดดึงออกมาพร้อมกันทั้งสองตัว ร่างแพรไหมเปลือยกายนอนบิดตัวอย่างยวนยั่ว หน้าสวยหวานของเด็กสาวดูไร้เดียงสา แต่กริยาท่าทางยกมือไขว่คว้าพร่ำเพ้อเรียกหาผมนั้นกลับเหมือนผู้ชำนาญเกมสวาท "ท่านขา....เร็ว ๆ ...แพรไม่ไหวแล้วววววววว...อ่าาาาาา....เย็ดแพรสิคะ.ท่าขา......" ผมจับร่างของแพรไหมขยับออกมาที่ขอบเตียง ยกเข่าของเธอทั้งคู่ขึ้นแนบอกอวบ ก่อนแบะกางมันออก สะโพกของแพรไหมกระดกขึ้น ทำให้เนินโคกมหึมาของเธอแอ่นอวดขึ้นมาเป็นกลีบพู โอ๊ววววว...มันเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก "ท่านขา....ทำสิคะ......แพรอยาก.....เย็ดแพรสิคะท่าน........." เสียงละเมอเพ้อคร่ำครวญของสาวน้อย พร้อมมือที่ไคว่คว้าหาตัวผม กิริยาเช่นนี้ มันแว๊บเข้ามาในโสตสำนึก เสมือนหนึ่งว่าผมเคยเห็นสาวคนใดทำมาก่อน ผมแทรกตัวเข้าไปกลางหว่างขา พร้อมย่อตัวลง มือจับประคองแก่นกายที่ยาวใหญ่แข็งโปน เขี่ยปลายบานหยักละเลงไปทั่วแคมเสียว จนน้ำเมือกของแพรไหมอาบท่อนลำของผมมันเยิ้ม ก่อนจรดปลายบานหยักเข้าไปกดคลึงที่ปากรูเสียว เกร็งเอวกดลงช้า ๆ ปากรูเสียว ก็้ค่อย ๆ อ้าขยายให้ปลายบานหยักจมตัวลง มันคับแน่นเหลือเกิน แม้ปากรูเสียวของแพรไหมจะขยับตัวยวบยาบ เพื่อคาบปลายลำของผม แต่มันก็จมลงไปเพียงแค่ครึ่งหัว ผมโน้มตัวลงไปอ้าปากหมายจะดูดเม็ดบัวสีชมพูเข้มที่กลางทรวงอก ในสมองผมปวดแปล๊บเหมือนถูกไฟซ็อต ใบหน้าแพรไหมแสนสวย กลับกลายเป็นหน้าจืด ๆ ของสาวคนหนึ่ง แววตาซื่อ ๆ ไร้เดียงสา นั้น ผมเคยเห็นมาอย่างแน่นอน ผมสบัดสลัดหัวด้วยความมึนงง เพ่งตามองอีกครั้ง สาวน้อยร่างอวบขาวสะพรั่ง ที่นอนลืมตาจ้องผมอยู่ ก็คือ แพรไหมนั่นเอง รอยยิ้มของเธอดูเยือกเย็น ต่างกับกิริยาที่เธอกระทำอยู่ "ท่านขา....เย็ดควยลงมาสิคะ รออะไร..." เสียงแพรไหมแม้ไม่ถึงกระด้าง แต่ก็แปลกแตกต่างไปจากเมื่อครู่ ผมอ้าปากคว้าหัวนมเม็ดแข็งของแพรไหมเข้าปากดูด พร้อมเกร็งเอวกดลงต่ำช้า ๆ ทีละนิด ใบหน้าแพรไหมเริ่มบูดเบี้ยวเสมือนได้รับ ความเจ็บปวด เธอกัดฟันจนกรามเป็นสันนูน ก่อนค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาพรั่งพรู เมื่อท่อนลำอันใหญ่ของผมจมดิ่งลงไปฝังตัวใน พรงสวาทของเธอเกินครึ่ง "ท่านขา....ช้า ๆ ก่อน...แพรเจ็บ... ของท่านใหญ่เหลือเกิน" "อดทนนิดนะนู๋....เกือบหมดแล้ว" ผมพรมจูบไปทั่วใบหน้า กระซิบปลอบใจเธอเบา ๆ ท่อนล่างก็เริ่มขยับบด ๆ คลึง ๆ ลงไปทีละนิด ๆ จนแพรไหมเผลอตัวผมก็ชักแก่นกายออกมาจนเกือบหลุด เงี่ยงบานหยักของผมครูดลากผนังกลีบแคมของสาวน้อยปลิ้นตามออกมา ก้น ของเธอเผลอกระดกยกตามติด ผมก็กระแทกกลับเข้าไปใหม่อีก เสียงแพรไหมร้องโอ๊.ย.ยย..โหยหวน ท่อนลำยาวใหญ่กว่า7นิ้วของผม ก็อัดแน่นเข้าไปในรูฟิตคับของสาวน้อยมิดสุดโคน "โอ๊ยยยย..อูยยยยยซี๊ดดดดด..ท่านขา....หีแพรฉีกแล้วววววว ทำไมทำกะแพรแรง ๆ แบบนี้" สาวน้อยตัดพ้อเบา ๆ น้ำตาไหลลงมาทาง หางตาเป็นสาย ผมก้มลงพรมจูบดูดซับเพื่อปลอบประโลม จนโพรงสวาทของแพรไหมรับสภาพกับท่อนลำอวบอ้วนที่สอดแทรกคาอยู่ ได้แล้ว ผมก้ค่อย ๆ ขยับกดบดคลึงช้า ๆ ท่อนลำใหญ่โตของผมหมุนควงคว้านร่องหลืบลึก ๆ ภายในของแพรไหม จนเจ้าตัวเกร็งสะท้าน "อื์ยยยยย...ท่าขา...แพรเสียว ๆ " เนินโหนกของสาวแอ่นยกค้างขึ้นบดเบียด แรงบดคลึงของผมอย่างไม่ถอย จนผมเสียววูบวาบ ๆ ที่ ปลายบานหยัก ไหนจะคับแน่น ไหนจะแรงดูดตอดตุ๊บ ๆ ที่ภายใน ผมลากสาวท่อนเอ็นออกมาจนเกือบหลุด ก่อนกระเด้าฉับ ๆ เข้าไปสุดลำโคน เสียงเนินโหนกของผมกระทบกับเนินเนื้อไร้ขนของแพร ไหมดังปั๊ก ๆ ๆ อย่างต่อเนื่อง "ซี๊ดดดดดดดท่านขา...เร็ว ๆ แรง ๆ ค่ะ...ไม่ต้องกลัวแพรเจ็บหี" เสียงสาวน้อยท่าทางไร้เดียงสา พร่ำร้องกระตุ้นเตือนบอกดั่งผู้ชำนาญ เกมสวาท ผมก็ทุ่มเทแรงทั้งหมดที่มีในร่าง กระแทกกระเด้าเข้าไปไม่ต้องนับ เสียงร้องครางโอดโอยด้วยความเสียว ของเราทั้งคู่ ดัง ประสาน กึกก้องไปทั่วในห้องแคบ ๆ "นู๋จ๋าาาาาา...เย็ดอร่อยควยเหลือเกิน" ลีลากระดกแอ่นเนินขึ้นส่ายรับ สอดคล้องกับจังหวะการกดกระแทกของผมอย่างสอดคล้อง เหมือนใครกันนะ ผมนึกถึงสาวที่มีใบหน้าใสซื่อที่ต่อหน้าผู้อื่นเหมือนสาวขี้อาย แต่ยามอยู่บนเตียงสวาทกับผม เธอก็ทำเช่นนี้ ภาพมัน ผุดขึ้นมาแบบไม่ตั้งใจคิด ลีลาการรุกการรับ สำเนียงเสียงพูด เสียงร้องครางด้วยความซ่านเสียว ช่างเหมือนกันนัก "ท่านขา......ซี๊ดดดดดดเสียว..ไม่ไหวแล้ววววววววเก่งเหลือเกิน.. แพรไม่ไหวแล้ววววอ๊ายยยยยยยยยอ่าาาาาา" เสียวสาวน้อยที่นอน กระดกแอ่นเอวรับการกระเด้าเย็ดจากผม ร้องครวญครางก่อนจิกทึ้งดึงผ้าปูเตียงจนขาดลุ่ย แอ่นกระดกเอวเกร็งยกค้างไว้ ให้ผมกดทิ่ม ควยจนลึกสุดโคน เนื้อหลืบลึกในโพรงสวาท ขมิบตัวยวบยาบ ๆ ดูดตอดตุ๊บ ๆ รัดแน่นที่ปลายบานหยัก จนผมรู้สึกเสียววูบวาบ ก่อนที่ ทำนบน้ำจะแตกฉีดพรวด ๆ เข้าไปในโพรงลึก ซึ่งมันก็ดูดซับเข้าไปขังในมดลูกอย่างรวดเร็ว ร่างผมเกร็งสั่นกระตุก ใจเต้นถี่ ๆ รัว ๆ ใบ หน้าสาวน้อยที่นอนอยู่ใต้อก บัดเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นใบหน้าใสซื่อ รอยยิ้มอ่อนหวาน บัดเดี๋ยวก็กลายเป็นสาวน้อยแพรไหมคนเดิม

ไม่มีความคิดเห็น: