ขายของ

วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

มาใหม่

เรื่อง นี้เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนนั้นผมอยู่กับแฟนเก่าจะเรียกว่าเป็นเมียก็ได้ เธอเป็นคนที่สวยทั้งหุ่นและหน้าตา โดยเฉพาะหน้าอกนี่ซิไม่ใช่เล่น ผมรักเธอมาก เธอก็รักผมเช่นกันเราอยู่ด้วยกันสมัยผมเรียนปี 4 มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ส่วนเธอตอนนั้นเรียน ปี 2 พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้เรื่องเราสองคน แฟนผมเธอไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไรเพราะเธอไม่ค่อยชอบสมาคมกับใครวัน ๆ ก็อยู่กับผมเท่านั้น เพื่อน ๆ ผมถ้าใครอยากจะมาพบเจอกับผมต้องไปหาผมที่บ้านเองเธอไม่ค่อยชอบให้ผมออกจาก บ้านเท่าไร เธอบอกว่าเหงา ครั้นผมจะชวนเธอออกไปข้างนอกบ้างก็ไม่ยอมไปบางครั้งก็ทำให้ผมอึดอัดใจเหมือน กัน เมื่อเราสองคนเรียนจบแล้วผมก็ทำงานส่วนเธอไม่ทำเพราะแม่ของเธอส่งเสียให้ กลัวเธอจะลำบากบวกกับนิสัยส่วนตัวของเธอด้วยที่ไม่เอาใครพูดง่าย ๆ ว่าหยิ่งเพราะบ้านของเธอมีเงินไม่ทำงานก็มีเงินใช้ ยิ่งผมทำงานเวลาส่วนตัวที่จะมีให้เธอก็ยิ่งน้อยลงวัน ๆ เธอตั้งหน้าตั้งตารอผมกลับจากที่ทำงาน ในกลุ่มเพื่อนผมจะมีเพื่อน 1-2 คนที่จะแวะเวียนมาหาผมเป็นประจำ ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันเบื่อกับพฤติกรรมแฟนผมกันไปหมด บางครั้งผมติดธุระที่ทำงานก็จะได้เพื่อนที่มาหาผมนี่แหละคอยเป็นธุระให้ แฟนผมเธอทำกับข้าวไม่เป็นผมต้องซื้อให้ก่อนที่จะถึงบ้าน เหนื่อยน่าดูเหมือนกันแต่ก็ทนเพราะผมรักเธอมากไม่กล้าที่จะพูดอะไรให้เสีย น้ำใจเธอ แฟนผมเธอให้ความเป็นกันเองกับเพื่อนที่มาหาผมคนหนึ่ง เพราะพูดจาถูกคอกัน ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนผมคนนี้มันเป็นคนชอบเรื่องอย่างว่าเป็นชีวิตจิตใจ ในใจมันต้องคอยสังเกตสำรวจแฟนผมด้วยสายตาอย่างแน่นอน ผมรู้จักนิสัยมันดี ในช่วงนั้นเองผมเกิดมีความคิดเรื่องของสวิงแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร บ้างรู้ข้อมูลเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมต้องลองใจแฟนของตัวเองและเพื่อน วันหนึ่งเพื่อนมาหาผมที่บ้านและเรานั่งกินเหล้าตามปกติเพื่อนหายไป 2 อาทิตย์ คืนนั้นผมชวนเพื่อนค้างคืนที่บ้าน โดยที่ผมบอกกับเพื่อนไปว่าให้นอนที่ห้องผมเพราะห้องนอนของเราใหญ่มีที่นอน สำรองให้เพราะห้องรับแขกไม่มีแอร์มันร้อน ผมกำชับบอกกับแฟนผมว่าให้ใส่ชุดนอนที่มิดชิดหน่อย จะได้ไม่น่าเกลียดแฟนก็ทำตามด้วยดีแต่ก็บ่นหน่อย ๆ ว่า นอนไม่ค่อยสะดวกเลยทำไมไม่ให้เพื่อนนอนที่ห้องรับแขกพัดลมก็มีมันคงไม่ร้อน มากหรอก ผมบอกว่ายุงมันเยอะน่าเกลียด แล้วห้องนอนของเราก็ใหญ่มากคงไม่อึดอัดอะไรหรอก ผมนั่งกินเหล้าต่อกับเพื่อนส่วนแฟนผมเธอขอตัวไปนอนก่อน ระหว่างที่เรานั่งกินผมจะแกล้งทำเป็นว่าผมเมามากและรู้สึกง่วงมากไม่ไหวแล้ว เพื่อนก็เลยเก็บจานชามเข้าห้องครัวเลิกกินระหว่างที่เพื่อนเก็บจานชามนั้นผม ขอตัวเข้ามานอนก่อน ผมเข้าห้องนอนแฟนผมเธอยังหลับไม่สนิทผมเลยบอกกับเธอว่าผมเมาไม่ไหวง่วงมาก เลยให้เพื่อนเก็บจานชามคนเดียว พูดเสร็จผมก็แกล้งเมาหลับเลยเธอเอาผ้ามาห่มให้ผมและนอนข้าง ๆ ผม สักพักผมได้ยินเสียงเพื่อนเปิดประตูเข้ามาในห้องและมานอนที่นอนที่ผมเตรียม ไว้ให้อีกมุมหนึ่ง แฟนผมเธอได้ยินเสียงเพื่อนเธอเลยบอกกับเพื่อนผมไปว่าให้ปิดไฟให้ด้วยตรง ประตู ไฟปิดลงในห้องมืดสนิทแต่สักพักเริ่มปรับสายตาได้เพราะไฟด้านนอกตรงหน้าต่าง เปิดอยู่ในห้องจึงสลัวเหมือนคืนเดือนหงาย ตอนนั้นผมบอกตามตรงว่าผมไม่ได้หลับเลยแถมยังแกล้งหายใจดัง ๆ เพื่อนยืนยันว่าผมหลับจริง เผ้าสังเกตนานมากง่วงก็ง่วง ก็ยังงงว่าไม่รู้ว่าตนเองจะพิสูจน์อะไรคิดมากไปหรือเปล่าเรา สักพักหนึ่งผมเห็นเพื่อนค่อย ๆ ลงขึ้นจากที่นอนของตัวเองแล้วค่อย ๆ เดินย่องมาทางแฟนผม ผมพยามหรี่ตามองดูตลอดแฟนผมเธอนอนหลังหลังให้ผมพอดีเลยสะดวก เพื่อนมานั่งข้างเตียงด้านล่างเห็นเพื่อนค่อย ๆ สอดมือเข้าไปในผ้าห่มบริเวณที่เธอนอนอยู่แฟนผมเธอยังนอนท่าเดิมไม่มี ปฏิกิริยาใด ๆ เพื่อนต้องล้วงมือเข้าไปจับอะไรของเธอแน่ ๆ ชุดนอนถึงแม้ว่าจะมิดชิดแต่ก็เป็นชุนนอนเสื้อกางเกงยางยืด เพื่อนยังไม่หยุดเท่านี้ผมเห็นเพื่อนเอาหน้าซุกเข้าไปในผ้าห่มบริเวณอกของ เธอถึงตอนนี้ ผมทำอะไรไม่ถูกเลยสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าแฟนผมเธอจะรู้หรือเปล่า สักพักเธอก็เอามือมาจับบริเวณชายเสื้อผม ผมแกล้งทำเป็นหลับสนิทแต่ผมก็ไม่ได้ยินเสียงเธอ ถึงตอนนี้เพื่อนขึ้นมาบนเตียงทั้งตัวแล้วโดยมีผ้าห่มปิดอยู่ แฟนผมเหมือนเธอจะเกร็งเธอจับชายเสื้อผมไว้แน่เลย เสียงเหมือนสายยกทรงดีดหลังเธอ พร้อมกับเสียงลมหายใจของเธอดังขึ้นกว่าปกติ ผมมองไปตอนนั้นเห็นแค่ผ้าห่มเพราะเพื่อนคลุมโปรงตัวเธออยู่ด้วย มือที่เธอจับชายเสื้อผมเธอก็มาจับผ้าปูที่นอนไว้แทน ผมเฝ้าดูอยู่ด้วยอาการตื่นเต้น อย่างสับสน บอกไม่ถูก ทันใดนั้นผมเหลือบไปเห็นบริเวณปลายเท้าของเพื่อนและเธอ สิ่งที่ผมเห็นก็คือ กางเกงนอน และกางเกงในของแฟนผมถูกเพื่อนใช้เท้าถีบออกมาจนหลุดจากข้อเท้าของเธอ นี่ก็แสดงว่าตอนนี้แฟนผมช่วงล่างของเธอไม่มีสิ่งปกปิดเหลืออยู่แล้ว เมื่อเพื่อนถอดของเธอออกหมดแล้วเพื่อนจึงรีบถอดของตัวเองออกตามทันที ถึงแม้ผมจะไม่เห็นก็ตามแต่มันก็อยู่ข้าง ๆ ผม รู้ดีว่าเพื่อนอยู่ข้างบนและกำลังจะมีอะไรกับเธอ เสียงแฟนผมร้องออกมาเบา ๆ เตียงเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ถึงตอนนี้แสดงว่าเพื่อนสอดใส่เข้าไปข้างในของเธอแล้ว แต่เพื่อนก็ไม่กล้าที่จะกระแทกอะไรแรง ๆ เพราะคงจะกลัวผมตื่น สักพักเสียงทุกอย่างก็หยุดลง เพื่อนรีบลงมาจากเตียงและรีบใส่กางเกงไปนอนที่เดิม แฟนผมเธอนอนนิ่งอยู่ สักพักเธอก็ลงเข้าห้องน้ำและกลับมานอนที่เดิม เช้ามาผมทำปฏิกิริยาตามปกติทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ เพื่อนตื่นก่อนผมและกลับไปแล้ว ส่วนแฟนผมเธอนั่งอยู่ห้องรับแขกอยู่คนเดียว ดูหน้าตาเธอวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ในที่สุดเราก็เปิดอกคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จนได้ความว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมติดธุระเพื่อนต้องมาทำธุระให้ผม วันนั้นเธอไม่ได้ยินเสียงเพื่อนเธอนึกว่าเป็นผมและในตอนนั้นเธอกำลังทา ครีมอยู่ในห้องเพิ่งอาบน้ำเสร็จพูดง่าย ๆเธอแก้ผ้าอยู่ เธอจึงตอบกลับไปว่าเปิดประตูเข้ามาเลยไม่ได้ล็อคห้อง ส่วนเพื่อนก็นึกว่าเธอรู้แล้วว่าเป็นเพื่อนผม ต่างคนก็ต่างเข้าใจผิด เพื่อนเปิดประตูเข้าไปตอนนั้นเธอก็ยังไม่ได้มองดูยังคงนั่งทาครีบอยู่ หักมาอีทีเพื่อนผมยืนตาค้างอยู่ในห้อง แฟนผมเธอตกใจมากรีบหาผ้ามาปิดร่างกาย แต่ก็ช้าไปแล้วเพื่อนเข้าประชิดตัวเธอและกอดปล้ำเธอจนร่างกายของเธอถูก เพื่อนสัมผัสทุกอย่างจะห้ามจะร้องอย่างไรเพื่อนผมก็หน้ามือเสียแล้ว แต่ในตอนนั้นเพื่อนคงคิดได้ถึงไม่ได้มีอะไรกับเธอเพียงแต่ได้แค่ภายนอกเท่า นั้น เรื่องนี้เธอไม่กล้าเล่าให้ผมฟังไม่รู้จะพูดกับผมอย่างไรดี กลัวจะเป็นเรื่องใหญ่โต หลังจากนั้นมาเพื่อนถ้ามีโอกาสก็จะมาแวะหาเธอตอนที่ผมติดธุระที่ทำงาน เพื่อนก็จะเข้ามากอดเธอและมีอะไรกับเธอแต่แค่ภายนอก บางครั้งเธอเองก็เกือบจะได้เสียกับเพื่อนแต่ก็ระงับความรู้สึกเอาไว้ แต่เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับเพื่อน จากเหตุการณ์ครั้งแรกผ่านไป ผมรู้สึกสงสารแฟนผมมากแต่ก็ได้แต่ปลอบใจเธอว่าผมเองยังมั่นคงกับเธอเสมอไม่ มีเปลี่ยนแปลงไป ส่วนตัวเธอเองก็มั่นใจในตัวผม ผมคิดว่าจะพูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนอย่างไรดี หรือจะทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ คิดแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หนึ่งอาทิตย์ผ่านมาเพื่อนมาหาผมที่บ้านอีกผมยังทำกิริยาปกติทุกอย่างไม่ให้ ผิดสังเกต ผมเองก็ยังไม่รู้ใจแฟนผมและเพื่อนว่าคิดอย่างไรกันอยู่ ผมตัดสินใจบอกกับเพื่อนในระหว่างที่ผมและเพื่อนนั่งกินเหล้ากัน โดยที่แฟนผมนอนดูทีวีอยู่ในห้องไปว่า เดี๋ยวผมขอตัวไปทำธุระนอกบ้านอย่าเพิ่งรีบกลับสักพักใหญ่ ๆ ผมจะมา ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่าแต่ก็อยากจะรู้อะไรบางอย่าง ผมคว้ากุญแจรถและขับรถออกจากบ้านไปจอดไว้อีกที่หนึ่งใกล้ ๆ บ้าน ช่วงนั้นมืดแล้วจึงสะดวกมากขึ้น ผมเดินกลับย้อนไปที่บ้านโดยไม่ให้ใครรู้เดินย่องมาทางสวนข้างบ้านผมมองลอด หน้าต่างไปเห็นเพื่อนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แฟนผมเธอจะรู้หรือเปล่าว่าผมออกไปข้างนอกบ้าน สักพักผมเห็นเพื่อนเดินเข้าไปในห้องน้ำประมาณสัก 2 นาทีเพื่อนก็เปิดประตูออกมาเดินมาหยุดตรงหน้าห้องนอนผมแล้วเคาะประตูแฟนผม เปิดประตูออกมา เห็นเพื่อนพูดกับแฟนผมที่หน้าห้องสี่ห้าคำแล้วเพื่อนก็เดินเข้าไปในห้องแล้ว ปิดประตู ผมรีบเดินไปอีกมุมหนึ่งซึ่งหน้าต่างห้องนอนอยู่ติดกับสวนหลังบ้านถึง หน้าต่างจะปิดแต่ก็มีช่องระหว่างผ้าม่านที่กั้นไม่สนิทอยู่ โชคดีทีวียังเปิดอยู่แต่ไฟในห้องปิด ผมทาบสายตาลงไปก็เห็น เพื่อนยืนคุยกับแฟนผมอยู่หน้าตู้กระจก ผมไม่ได้ยินเสียงการพูดคุยของทั้งสองคนหรอก ก็ได้แต่เห็นท่าทางของการคุยก็เท่านั้น แฟนผมเธอยืนก้มหน้าอยู่ เห็นเพื่อนจับคางเธอค่อย ๆยกขึ้นแล้วก้มลงจูบปากเธอ ทั้งคู่ยืนจูบปากกันสักพักแล้วเพื่อนก็จูงมือเธอมากระทำต่อที่เตียง เสื้อผ้าของทั้งสองคนค่อย ๆ ถูกออกทีละชิ้นจนเปลือยกายด้วยกันทั้งคู่ ผมไม่เห็นปฏิกิริยาต่อต้านจากแฟนผมเลยเธอนอนให้เพื่อนผมเชยชมร่างกาย ทุกอย่าง ดูจากอาการของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอจะคล้อยตามอารมณ์ของเพื่อนไปด้วย เพื่อนใช้ลิ้นกับเธอ เธอก็จับหัวเพื่อนผมไว้แน่น ผมดูบางครั้งผมก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกันตอนที่เธอยอมใช้ปากดูดอาวุธให้เพื่อน ผม เมื่อทุกอย่างเต็มที่พร้อมแล้ว เพื่อนเริ่มจัดท่าทางที่จะสอดใสอาวุธลงไปแฟนผมเธอก็ตอบสนองเพื่อนด้วยดี ร่างกายของเธอสั่นไปหมดจากแรงกระแทกของเพื่อนมือเธอโอบจับหลังเพื่อนผมไว้ แน่น ปฏิกิริยาของทั้งสองคนไม่เห็นเหมือนตอนที่มีอะไรกันครั้งแรกที่ผมอยู่ด้วย สักพักทั้งคู่ก็เงียบลง ผมรีบเดินกลับออกไปทิ้งเวลาไว้ประมาณ 10 นาทีถึงกลับเข้ามาในบ้าน เห็นเพื่อนอยู่ในห้องน้ำส่วนแฟนผมยังอยู่ในห้อง ผมเปิดประตูเข้าไปเห็นเธอนุ่งผ้าขนหนูอยู่ ที่นอนเธอก็ใช้ผ้าห่มปิดเตียงไว้ คงจะมีร่องรอยตกค้างไว้อยู่ คงไม่อยากให้ผมรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ผมจะไม่เป็นฝ่ายถามเธอจะรอจนกว่าที่เธอจะพร้อม ยอมเล่าให้ผมฟังเอง ช่วงหลังผมรู้ว่าเพื่อนจะมาหาแฟนผมและมีอะไรกันบ่อยมากในช่วงที่ผมยังไม่ กลับบ้าน เรื่องนี้ผ่านไปได้ 1 เดือนแฟนผมเธอคงจะอัดอั้นจะเล่าทุกอย่างให้ผมฟังหมด ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า ทั้งคู่มีอะไรกันทุกวันในช่วงตอนกลางวันที่ผมไม่อยู่ เธอกล้าเล่าให้ผมฟังและยังพูดให้ผมคิดอีกว่า เธอไม่ได้รักเพื่อนผม แต่คิดแค่เพียงเรื่องอย่างว่าเท่านั้น เมื่อถึงขั้นนี้ผมจึงตัดสินใจเรียกเพื่อนมาคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ผลสรุปออกมาผมก็ต้องยอมรับไปโดยปริยายคือต้องยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น และต้องปล่อยวางเลยตามเลย ข้อเสนอนี้เพื่อนและแฟนผมไม่ได้เสนอความคิดแต่ผมเป็นคนเสนอเองก็เห็นทั้งคู่ เงียบเพียงอย่างเดียว ก็แสดงว่าทั้งคู่ยอมรับหรืออาจจะยินดีกับข้อเสนอนี้ด้วยซ้ำ ดูไปแล้วมันก็เหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอก เจ้าพระคุณตั้งแต่นั้นมาเชื่อหรือไม่ว่าเพื่อนมาค้างบ้านผมทุกวัน บางครั้งเพื่อนก็เหมือนจะโชว์ผมมีอะไรกับแฟนผมแบบถึงพริกถึงขิง แฟนผมเธอก็จะอาย ๆ ผมเหมือนกันแต่ทำอย่างไรได้หละก็เพื่อนผมมันขี้เอาถึงขนาดนี้ นับวัน ๆ ความสัมพันธ์ของผมและแฟนเริ่มห่างหายไป บางครั้งผมมีความรู้สึกอยากที่จะมีอะไรกับแฟนผมบ้าง บอกตามตรงว่าเห็นเพื่อนมีอะไรกับแฟนเราเองก็อยากที่จะมีบ้าง เพื่อนเสร็จภารกิจกับการมีอะไรกับเธอผมขอเธอ เธอก็ไม่ว่าอะไรแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอนี่ซิ ไม่เห็นเหมือนตอนที่เธอมีอะไรกับเพื่อนผมเลย มันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ในส่วนลึก ๆ น้อยใจเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่อยากที่จะพูดให้เสียน้ำใจเธอ บางครั้งถึงขั้นเป็นเอามาก ผมมีอะไรกับเธอตอนที่เพื่อนยังไม่มาที่บ้านแต่รู้ว่าคืนนี้เพื่อนจะมานอนที่ บ้านผมแน่ ตอนที่ผมมีอะไรกับเธอ เธอถึงขั้นอั้นเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ยอมให้ถึงสวรรค์ก่อน คงจะรอเก็บไว้ปล่อยกับเพื่อนผม ไม่น่าเชื่อเลยว่าจากผู้หญิงที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เลยผมเป็นคนแรก ของเธอส่วนเพื่อนเป็นคนที่สองที่ได้ตัวเธอกลับทำให้เธอมีความต้องการเรื่อง นี้กับเพื่อนมาก เพื่อนเองก็เหมือนกันทั้งคู่ต่างติดใจรสกามรมณ์กันและกัน อกขนาด 36 สวยงามของเธอที่ผมถนอมมาแต่เดี๋ยวนี้ถูกเพื่อนใช้สนองกามรมณ์อย่างเมามันส์ ในส่วนตัวผมผมกังวลอยู่เรื่องเดียวก็คือความลับ ผมพูดบอกกับทั้งสองคนอยู่เป็นประจำว่าเรื่องนี้อย่าให้ใครรู้ทำอะไรก็ให้ ระมัดระวังดูหน้าดูหลังให้ดีคนเขาจะนินทากันได้ทั้งคู่ก็รับปากผมทุกครั้ง สิ่งที่ผมกังวลนักกังวลหนามันก็เกิดขึ้นจนได้ วันนั้นผมยังไม่กลับบ้านติดงานอยู่ เพื่อนผมมาหาเธอที่บ้านตอนหัวค่ำและมีอะไรกันในห้องนอน ประตูหน้าบ้านก็ไม่ได้ปิดโดยปกติแล้วทั้งคู่เวลามีอะไรกันจะเต็มที่ทุก ๆ อย่าง ( หมายถึงเสียงร้องครางของทั้งสองคน ) เมื่อเสร็จภารกิจแล้วเพื่อนและแฟนผมก็นุ่งผ้าขนหนูออกมาชำระล้างที่ห้องน้ำ เปิดประตูห้องนอนออกมาแทบใจหาย เพราะมีเพื่อนผมอีกคนหนึ่งซึ่งนาน ๆ จะมาหาผมสักทีมานั่งรอที่ห้องรับแขก เพื่อนคนที่นั่งรอเห็นแฟนผมออกมาจาก้องนอนพร้อมเพื่อนก็ตกใจแต่ก็ไม่พูดอะไร ทำหน้างง ๆ เพื่อนคนที่นั่งรอคงคิดว่าผมอยู่ในห้องกับเธอจะเรียกก็ไม่กล้ารอให้ออกมาจาก ห้องดีกว่าก็คงรู้ว่ากำลังมีอะไรกันอยู่ก็เสียงมันน่าจะดังออกมาข้างนอก แฟนผมและเพื่อนทำอะไรไม่ถูกเพื่อนไม่เข้าห้องน้ำแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องใส่ เสื้อผ้าแล้วกลับเลย ส่วนแฟนผมเธอทำอะไรไม่ถูก เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาจากห้องแล้วมาพูดกับเพื่อนคนที่นั่งรอว่าอย่าเพิ่ง กลับนะมีเรื่องที่จะพูดด้วย พูดเสร็จเธอก็เข้าไปในห้องน้ำ เธอนั่งกลุ้มอยู่ในห้องน้ำกังวลกับสิ่งที่ผมเคยบอกกับเธอไว้เกี่ยวกับเรื่อง นี้เธอรวบรวมสติได้จึงออกจากห้องน้ำแล้วหาน้ำมาให้เพื่อนที่รออยู่ห้องรับ แขก เธอทำท่าจะพูดกับเพื่อน เพื่อนรีบพูดตัดบทก่อนว่าไม่ต้องพูดหรืออธิบายเรื่องนี้หรอกเขาไม่ยุ่ง เรื่องของชาวบ้านชีวิตใครชีวิตมัน แฟนผมเธอขอบคุณกับเพื่อนแต่เธอไม่ได้บอกกับเพื่อนว่าผมรับรู้เรื่องนี้ เพื่อนถามเธอว่าผมไม่เห็นกลับมาสักทีนั่งรออยู่นานแล้ว ถ้าอีกนานไว้วันหน้าค่อยมาใหม่ดีกว่าไม่รบกวนแล้วเธอจะได้พักผ่อน ก่อนกลับเพื่อนขอเข้าห้องน้ำก่อนเพราะปวดท้องฉี่มานานแล้ว ระหว่างที่เพื่อนอยู่ในห้องน้ำแฟนผมเธอคิดอะไรขึ้นมาไม่รู้คงจะกังวลกับ เรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอจึงเดินไปหาเพื่อนและพูดกับเพื่อนว่า ขอขอบคุณอีกครั้งที่เพื่อนรับปากจะไม่พูดเรื่องนี้เธอเองก็ไม่สบายใจเมื่อมา ถึงขั้นนี้แล้วเธอขอตอบแทนกับเพื่อน พูดเสร็จเธอก็ดึงผ้าขนหนูที่เธอนุ่งอยู่ร่างกายที่ไม่มีสิ่งปกปิดอยู่เบื้อง หน้าเพื่อนผมห่างไม่ถึง 1 เมตร เพื่อนผมตกใจแต่ก็รู้ถึงความหมายของเธอ เมื่อเธอเสนอมาแบบนี้ใครเล่าจะไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ เพื่อนรวบตัวเธอมากอดจูบ แล้วทั้งคู่ก็มาต่อกันที่ห้องนอนจนเสร็จไป 2 รอบ เพื่อนกลับไปตอน 4 ทุ่ม ผมกลับถึงบ้านตอน 5 ทุ่มเห็นเธอหลับสนิทจึงไม่ได้กวนเธอ เรื่องนี้แฟนผมเล่าให้ผมฟังหลังเกิดเหตุได้ 1 เดือน ปัจจุบันผมและแฟนเราเลิกกันแล้วแต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเธอกลับไปอยู่ บ้านที่ต่างจังหวัดช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจของครอบครัวจนร่ำรวยปัจจุบันเธอก็มี สามีแล้วแต่อายุมากไปหน่อย นาน ๆ เธอจะมาเที่ยวเยื่ยมผมที่บ้าน มาครั้งใดเธอต้องให้ผมโทรบอกเพื่อนผมทุกที

ไม่มีความคิดเห็น: