สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณกับผู้ดูแลwebนี้ที่ให้โอกาสกับผู้ที่มีประสพการณ์เล่า
สู่กันฟัง ในเรื่องราวต่างๆ
นั้นทำให้ผู้อ่านมีความรู้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ตัวดิฉันและสามีก็ได้เปิดอ่านเหมือนกันค่ะ
เรามีอายุแล้วดิฉันก็40กว่าๆแล้วส่วนสามีมากกว่าดิฉันสามสี่ปีค่ะ
ดิฉันทำงานในระดับผู้บริหาร
ส่วนสามีเพิ่งออกจากงานเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ
เราอยู่กันสองคนตัวดิฉันเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้แต่เราก็อญุ่กันอย่างมี
ความสุขนะคะ
ถึงแม้นว่าสามีไม่ได้ทำงานเราก็ไม่เดือดร้อนตอนนี้สามีก็อยู่บ้านเฝ้าบ้าน
ทุกวัน เราอยู่กันด้วยความเข้าใจมีอะไรก็พูดคุยกันตลอด
ไม่เคยคิดระแวงซึ่งกันและกันเลย
เวลาวันหยุดเราจะไปทานข้าวนอกบ้านไปเที่ยวฟังเพลงดูหนัง
ดึกก็กลับบ้านก่อนนอนก็มีเซ็กส์กันแทบทุกครั้งไป
ดิฉันชอบให้สามีใช้ลิ้นมากเลยค่ะ
โดยปกติเราอาบน้ำเสร็จพอเช็ดตัวให้แห้งดิฉันกับสามีจะเปลือยกายอยู่แบบนั้น
ค่ะ
ดิฉันจะยืนโดยแยกขาเล็กน้อยแล้วดื่มwineให้น้ำwineล้มออกมาจากริมฝีปากของ
ดิฉัน
น้ำwineมันค่อยๆไหลผ่านหน้าอกไปยังท้องน้อยเข้าสู่เนินของดิฉันที่ปกคลุมไป
ด้วยเส้นขนแต่ไม่มากนัก
ส่วนสามีดิฉันจะนั่งคุกเข่าหน้าของเขาจะตรงกับเนินพอดีเลย
พอน้ำwineไหลลงร่องจะหยดลงพื้นพรม
สามีดิฉันก็ดื่มกินwineที่จะไหลลงพื้นอย่างทันทีทันไดเลย
เค้าใช้ลิ้นตวัดไปมารอบๆแคบจนไม่มีน้ำอะไรเหลือ
แม้นแต่น้ำจากตัวดิฉันเองที่ออกมาเมื่อลิ้นเค้าไปสัมผัสกับเม็ดละมุดก็ตาม
ดิฉันวางแก้วลงแล้วรั้งศรีษะเค้าพร้อมทั้งแอ่นสะโพงของดิฉัน
มันสุดแสนจะเสียวค่ะ
ทั้งจมูกทั้งลิ้นอัดติดกับโคกดิฉันแน่น
ดิฉันก็ส่ายสะโพกทำให้จมูกของเค้าถูไถกับเม็ดละมุดไปมาแล้วลิ้นก็ชอนไชไปใน
ร่องนั้น ทนไม่ไหวจริงๆค่ะไม่นานก็เสร็จ
สามีดิฉันรู้ใจค่ะ
พอดิฉันเสร็จเค้าก็ให้ดิฉันพักสักครู่แล้วเราก็เริ่มใหม่อีกโดยตอนแรกดิฉัน
ก็ดูดให้เค้า แล้วเราก็เอากันกันเลย
เปลี่ยนท่าโน้นท่านี้ไปเรื่อย
จนเสร็จบางทีก็ต่อตอนเช้าก่อนดิฉันไปทำงานอีกรอบนึง
ดิฉันก็มีความสุขดีนะถ้าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน
แต่จริงๆแล้ว
เวลาดิฉันได้พบหรือได้เห็นผู้ชายนิโกรที่ผิวดำๆแล้ว
ดิฉันจะมีความรู้สึกมาก
ซึ่งสามีก็รู้เพราะเวลาวันหยุดเราไปซื้อของที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านดิฉัน
เวลาพบเห็นนิโกรแล้วเกิดรู้สึกทันที
แล้วสามีดิฉันก็สังเกตุดูสีหน้าของดิฉันแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
กลับจากซื้อของมาบ้านเราก็คุยกัน
ดิฉันเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง
เค้าก็ว่าในส่วนลึกของคนเราพึงชอบไม่เหมือนกัน
จะแสดงออกมาให้เห็นก็ต่อเมื่อได้พบหรือสัมผัส
ดิฉันก็ว่าอาจจะจริงสามีก็ขาวตัวดิฉันก็อาหมวยดีๆนี่เอง
พอเจอคนผิวดำก็เลยนึกชอบเป็นได้
ดิฉันก็บอกสามีว่าเวลาดูหนังโป๊ที่ซื้อมา
ถ้าเป็นฝรั่งแสดงดิฉันดูก็เฉย
แต่ถ้าเป็นนิโกรแสดง
ดูแล้วมันในอารมณ์มากจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำแฉะออกมาเลย
สามีดิฉันก็หัวเราะแล้วบอกว่าลองหามาทดสอบดูซี่ว่าซะใจมั้ย
ดิฉันก็หัวเราะตามเค้าไปด้วย
ดิฉันทำงานในตำแหน่งผู้บริหารย่อมมีสังคมที่มากมายหลายแบบ
มีเพื่อนสนิทหลายคน
เวลามีลูกค้าจากต่างประเทศก็จะพาไปหาที่เลี้ยงดูแขกันโดยไปกันเป็นทีมก็สนุก
ดีนะ ส่วนมากก็สูงวัยกันทั้งนั้น
พอดื่มกินกันเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพราะกลุ่มดิฉันก็มีครอบครัวแล้วทั้น
ั้น จนมีครั้งหนึ่งค่ะ
ลูกค้าเป็นผู้หญิงฝรั่งสองคน
ก็ถูกมอบหมายให้ดูแลเราทั้งสามคนหมายถึงดิฉันและเพื่อนก็ต้องเป็นธุระ
เราทั้งสามคนพอเลิกงานก็รีบกลับบ้านกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่พร้อมกับแจ้งให้
สามีทราบกันทุกคน
แล้วดิฉันก็ขับรถตระเวนรับเพื่อนอีกสามคนแล้วก็ไปรับแขกที่รออยู่ในโรงแรม
เราก็พาแขกของเราไปทานอาหารแถวๆสีลมที่มีโชว์รำไทย
และโชว์ประเพณีไทย
ซึ่งเราจะพาแขกมาทุกครั้งที่นี่เพราะบรรยากาศแบบนี้ฝรั่งชอบมากแต่พวกเรา
เฉยๆเพราะมากันบ่อย
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็พาไปฟังเพลงฝรั่งเก่าๆแถวๆโรงแรมถนนพระราม9
ซึ่งพวกเราและแขกเราทั้งสองก็อายุอานาม40กว่ากันทุกคน
ต่างก็สนุกสนานกันเต็มที่จนลืมวัยเลย
wineหมดไปหลายขวดจนคุยกันสนิทสนมกับแขก
ดิฉันนั่งติดกับแขกคนหนึ่งเค้าหันมาถามดิฉันว่า
ที่เมืองไทยมีไนท์คลับสำหรับผู้หญิงมั้ย
ดิฉันก็ตอบว่ามีแต่สำหรับสมาชิกเท่านั้นคนทั่วไปเข้าไม่ได้
แล้วเค้าก็ถามว่าแล้วดิฉันเป็นสมาชิกหรือปล่าว
ดิฉันก็บอกว่าไม่ได้เป็นแล้วไม่เคยไปด้วย
แล้วเค้าก็ถามว่าพวกเรามีใครเป็นสมาชิกบ้าง
ดิฉันจึงถามเพื่อนๆดูปรากฏว่าไม่มีใครเป็นสมาชิกกันสักคน
ดิฉันก็ถามแขกว่าอยากไปเที่ยวเหรอเค้าก็พยักหน้า
ก็พอดีเพื่อนที่ไปด้วยมีเพื่อนที่เป็นสมาชิกอยู่คนหนึ่ง
เราเลยโทรติดต่อไปเธอก็ยินดีพาไปเที่ยวเราเลยนัดเจอกันหน้าสถานแห่งนั้น
ดิฉันขับไปตามทางที่เพื่อนบอก
มมันวกไปวนมาจนจำทางไม่ได้
จึงถึงที่แห่งนั้น
ก็เจอเพื่อนของเพื่อนคอยอยู่เธอก็พาเข้าไปข้างใน
มันก็เป็นคลับแบบสังคมอีกระดับหนึ่ง
คนธรรมดาไม่มีโอกาศเข้ามาได้ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น
ข้างในมืดแต่ก็พอมองเห็นอะไรต่ออะไร
มีฟลอร์เต็นรำเล็กๆอยู่มุมในสุด
มีคนมาเที่ยวก็พอสมควร
พวกเราก็หาที่นั่งได้ใกล้ๆฟลอร์ด้านในสุดซึ่งเป็น
โซฟาชั้นดีนั่งแสนสบาย
เพื่อนของเพื่อนรู้สึกคุ้นเคยกับสถานนี้เป็นอย่างดีก็สั่งwineมาต่อกันอีก
แล้วเพื่อนที่พามาก็หันไปคุยกับแขกฝรั่งสักครู่
เค้าก็พาฝรั่งสองคนที่เราพามา
เดินไปทางเข้าห้องน้ำ
ดิฉันคิดว่าเค้าคงพาไปเข้าห้องน้ำ
สักครู่ทั้งสามก็กลับมา
แล้วพนักงานก็เอาโซฟามาเพิ่มอีก
แล้วดิฉันก็หายสงสัยเพราะได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนเข้ามานั่งคู่กับแหม่ม
ที่เราพามา ช่วยรินwineและเทคแคร์พวกเราทั้งโต๊ะ
เพื่อนที่พามาก็กระซิบเล่าให้ฟังว่าจะต้องเช่าชั่วโมงพนักงานชายมาบริการตาม
โต๊ะเพราะเป็นกฏของที่นี่
แล้วถ้าดิฉันว่าไม่ลองไปดูซักคนเหรอ
ดิฉันยิ้มๆแล้วก็หัวเราะ
แล้วดิฉันก็สังเกตุไปรอบๆ
ในความมืดแต่งพอมองเห็นทุกโต๊ะมีพนักงานชายกันทุกคนที่มาใช้บริการ
ดิฉันลอบสังเกตุฝรั่งที่พามารู้สึกสนุกกับสถานที่นี้
เพราะเห็นจูบกับหนุ่มริการบ่อยๆ
สงสัยคงตึงเต็มที่ส่วนพวกเพื่อนๆก็กำลังสนุกกับwineกันเต็มที่
ดิฉันก็ทำตัวเองสนุกไปด้วยเหมือนกัน
สักครู่ก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ
ทางเข้าไปหน้าห้องน้ำนั้นมีตู้โชวร์เป็นห้องขนาดใหญ่
ซึ่งหันหน้าเข้าด้านใน
พอดิฉันเสร็จจากทำธุระในห้องน้ำแล้ว
ออกมาล้างมือก็พบพนักงานเป็นผู้หญิงมาบริการเอาผ้าอุ่นๆมาให้เพื่อเช็ดมือ
ด้วยความสงสัยในห้องนั้นจึงถามเด็กนั้นไปว่าเป้นห้องอะไร
เด็กก็บอกว่าเป็นห้องพนักงานชายนั่งโต๊ะ
แล้วถามดิฉันว่าเพิ่งมาเที่ยวเหรอ
ดิฉันก็พยักหน้า
แล้วเด็กคนนั้นบอกว่าดี๋ยวจะพาพี่ไปดู
จากนั้นเด็กก็นำหน้าดิฉันเข้าไป
ให้ตู้โชว์นั้นเป็นห้องขนาดใหญ่มีพนักงานชายนั่งอยู่ประมาณซัก50คนเห็นจะได้
มีลูกค้าเข้ามาดูสี่ห้าคน
ดิฉันไม่กล้าไปยืนใกล้ๆหน้าตู้กระจกนั้น
เด็กคนนั้นคงเดาออกก็กระซิบบอกว่าคนข้างในไม่สามารถมองเห็นคนข้างนอกได้ไม่
ต้องกลัว ดิฉันจึงใจกล้าเข้ามาหน่อยเดินเข้ามาดูใกล้
แล้วพิจารณาดูแต่ละคน
หน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย
มีทั้งไทยแท้ลูกครึ่งและฝรั่งแท้ๆก็มี
เด็กก็บอกว่าสามารถเรียกไปนั่งได้ทุกคนเลย
ค่าชั่วโมงละ1000บาทต่อคน
แล้วถ้าพี่จะพาไปข้างนอกก็ต้องจ่ายให้ค่าสถานที่5000บาท
ค่าตัวพนักงานก็ตกลงกันเอง
แล้วเธอก็กระซิบบอกว่าแขกบางคนใช้บริการที่นี่เลย
เพราะว่าชั้นบนเป็นห้องเสริมสวยสตรี
แบ่งเป็นห้องๆเค้าใช้เอากันได้เลย
ไม่ต้องเสียค่าสถานที่จ่ายแค่ค่าชั่วโมงพนักงานแล้วค่าตัวกับอีกค่าห้องไม่
เกิน4000บาทก็จบ
แล้วเด็กก็บอกว่าถ้าพี่สนใจบอกได้เลยหนูรู้จักทุกคน
ดิฉันไม่ได้พูดอะไรก็ดูไปทั่วๆ
ก็สดุดตากับเด็กคนหนึ่งเข้าเป็นเด็กนิโกรนั่งอยู่แถวกลาง
ก็ถ้าเด็กไปว่าแล้วนิโกรคนนั้นเป็นไงบ้าง
เด็กก็มองตามมือที่ดิฉันชี้ให้ดู
เด็กก็บอกว่ารู้จักพูดไทยได้นิดหน่อย
มาอยู่ได้ประมาณสองเดือนมาแล้ว
แล้วกระซิบบอกว่าไอ้นั่นใหญ่น่าดูเลย
ดิฉันก็สงสัยว่ารู้ได้ไงว่าใหญ่
เด็กเค้าก็บอกว่าหนูก็ดูโชว์อยู่ทุกคืน
แล้วบอกว่าอีกสักครู่เค้าจะให้พนักงานนั่งโต๊ะทุกคนนุ่งบิกินี่ไปโชว์บน
ฟลอร์ ถ้าพี่สนใจคนไหนก็คอยดูก่อนนะแล้วมากระซิบบอกหนู
ดิฉันให้เงินเด็กค่าบอกรายละเอียดไป200บาท
แล้วก็กลับไปนั่งโต๊ะ
ทุกคนยังคงสนุกกันอยู่หลินซึ่งเป็นเพื่อนที่พามา
ก็ถามเข้าไปดูในตู้หรือปล่าวล่ะ
ดิฉันก็พยักหน้า
แล้วเธอก็บอกว่าเธอมาที่นี่ประจำจนคุ้นเคยทุกคน
ที่นี่ดีนะสอาดและพนักงานก็เก่งๆทั้งนั้น
ดิฉันเลยเดาไปว่าหลินต้องเคยพาพนักงานที่นี่ไปอึ้บแน่ๆเลย
สักครู่หนึ่งก็มีพนักงานชายหนุ่มเข้ามานั่งใกล้ๆหลิน
พอหลินเห็นหน้าก็ดีใจใหญ่แล้วน่ะนำให้ทุกคนได้รู้จัก
ทั้งสองคุยกันแบบกระซิบได้ยินหลินถามว่าว่างแล้วเหรอไปนั่งโต๊ะไหนมา
ดิฉันรู้ได้ทันทีว่าทั้งสองต้องเป็นคู่ขากันแน่นอนแบบไม่ต้องเดาเลย
แล้วได้ยินหลินถามว่าเลิกงานแล้วไปด้วยกันมั้ย
แต่พนักงานชายคนนั้นบอกว่าไม่ว่างแล้วพูดเบาๆว่าเดี๋ยวไปห้องเสริมสวยชั้นบน
ก็ได้นี่ครับ
ดิฉันเห็นหลินยิ้มแล้วพยักหน้าให้พนักงานชายคนนั้น
ก็พอดีมีรายการโชว์ก็เหมือนเดินแบบนั่นหละแต่ทุกคนนุ่งกางเกงในตัวจิ๋วกัน
ทุกคน พวกเราตื่นตาตื่นใจกันทุกคนโดยเฉพราะตัวดิฉัน
อยากจะเห็นเด็กนิโกรคนนั้น
ทุกคนค่อยๆเดินมาทีละคน
แบบเกือบจะเปลือยเลยก็ว่าได้
เพราะกางเกงในที่นุ่งก็เป็นแบบสายเดี่ยวแถมข้างหน้าก็เป็นผ้าบางๆเท่านั้น
พนักงานคนไหนเล็กคนไหนใหญ่มีขนมากน้อยขนาดไหนเห็นได้แจ่มแจ้งแดงแจ๋
ทำเอาดิฉันซดwineไปหลายแก้วโดยไม่รู้ตัว
จนถึงคนที่ดิฉันตั้งตาคอยดู
ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ถึงแม้นจะดำแต่ก็เห็นชัดเจน
เพราะเค้ามาไม่เหมือนใคร
โดยนุ่งผ้าเตียวผืนเดียวแบบบางเฉียบ
เวลาเดินมันก็แกว่งไปมาเวลาหยุดมันก็แสดงความใหญ่และยาวให้เห็น
ทุกคนในโต๊ะดิฉันจ้องตาไม่กระพริบเลย
ขณะที่โชว์กำลังดำเนินอยู่นั้น
ดิฉันแอบมองพนักงานที่นั่งกับแหม่มทั้งสอง
ปรากฏว่าขาทั้งสองของแหม่มถ่างออกกระโปรงก็ร่นขึ้นมา
เห็นมือของชายทั้งสองอยู่ภายให้กระโปรงของแหม่ม
ตาของแหม่มทั้งสองมองที่ฟลอร์แต่ขาก็ถ่างให้พนักงานใช้นิ้วให้สุดยอดจริงๆ
ส่วนหลินที่นั่งอยู่ข้างๆดิฉันก็ไม่เบา
ตาก็มองโชว์ส่วนมือเธอก็อยู่บนเป้ากางเกงของคู่ขา
พอโชว์จบลงดิฉันเห็นแหม่มทั้งสองก็กระซิบกับหนุ่มทั้งสองที่นั่งข้างๆ
แล้วทั้งสองก็ขอตัวลุกออกไป
ส่วนหลินนั้นเห็นกระซิบบอกคู่ขาแล้วเค้าก็ขอตัวไปเช่นกัน
ส่วนพวกเราไม่รู้เรื่องเลยก็คุยกันอย่างเดียว
มีดิฉันคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เลยนั่งดื่มwineไปเรื่อยๆแบบไม่ให้ใครสงสัย
แล้วสักครู่หลินก็ชะโงกหน้าเข้ามาถามแหม่มทั้งสองว่าไปห้องเสริมสวยมั้ย
เห็นแหม่มทั้งสองพยักหน้า
แล้วทั้งสามก็ลุกไปหลินบอกพวกเราเพียงว่า
จะพาแหม่มสองคนไปสระผม
หน่อยเดี่ยวมา ดิฉันนั่งใจเต้นอยู่บนโซฟา
ตัดสินใจแน่วแน่ก็ลุกไปห้องน้ำ
แอบกระซิบให้เด็กที่เคยคุยด้วยช่วยนำไปห้องเสริมสวยหน่อย
เด็กก็ถามว่ามีเด็กแล้วเหรอ
ดิฉันก็บอกว่ามีแขกที่ต้องดูแลอยู่ข้างบนช่วยพาไปหน่อย
แล้วส่งเงินไปให้500บาทค่าพาไป
เด็กรับเงินแล้วบอกพี่รอเดี๋ยวนะ
ไปดูต้นทางก่อนเข้าตรงๆไม่ได้ทางผู้จัดการเค้าเข็มงวดมาก
เพราะแขกที่มาเที่ยวมีแต่คนมีเงินทั้งนั้น
เด็กหายไปสักครู่ก็บอกให้ดิฉันตามมา
เค้าพาดิฉันออกจากห้องน้ำผ่านห้องที่พนักงานชายนั่ง
แล้วออกไปข้างๆซึ่งเป็นทางขึ้นไปข้างบนทางบันใดหนีไฟ
แล้วเคาะที่ประตูเบาๆ
ก็มีเสียงกลอนประตูเปิดแบบเงียบกริบ
พอประตูเปิดออกดิฉันก็เห็นเด็กผู้หญิงอีกคนรีบบอกให้เข้ามาแล้วเธอก็ปิด
ประตู
รีบพาดิฉันและเด็กที่พามาเข้าไปห้องที่ว่างอยู่แล้วแบบมือ
เด็กคนที่พาดิฉันมาก็กระซิบบอกว่าเอาเงินให้เค้า300บาท
ดิฉันก็หยิบให้
แล้วเด็กคนนั้นก็บอกให้ดิฉันรอเดี๋ยว
ส่วนเด็กที่พามาก็ขอตัวไปก่อน
เดี๋ยวมีคนสงสัยว่าหายไปไหน
แล้วบอกดิฉันว่าพอดูเสร็จก็บอกให้คนที่จะพาไปดูไปส่งก็แล้วกัน
แล้วก็ออกไปจากห้อง
ภายในห้องที่มีแสงไฟสลัวๆดิฉันสังเกตุว่ามันก็เป็นห้องเสริมสวยเล็กๆ
มีอ่างล้างหน้าอยู่มุมห้องแล้วก็มีกระจกบานใหญ่รอบๆ
ตรงกลางห้องมีโต๊ะสำหรับซอยผมหรือสระผมซึ่งสามารถเอียงนอนได้โดยปรับไฟฟ้า
แล้วมีผ้าสะอาดๆอยู่กองหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่กำลังสำรวจรอบๆห้องอยู่นั้น
ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา
เด็กก็เข้ามาถามว่าจะดูห้องไหน
ตอนนี้มีแหม่มอยู่สองคนกับคนจีนอีกคน
ดิฉันรู้ได้เลยว่าคนจีนก็ต้องเป็นหลินแน่นอน
ดิฉันเลยบอกเค้าไปว่าจะแอบดูทั้งหมดเลย
เด็กบอกไม่ได้เดี๋ยวเค้ารู้ก็โดนไล่ออก
ดิฉันเลยหยิบเงินส่งไปให้อีก1000บาท
เด็กก็รับไปแบบงง
แล้วบอกว่าดูเงียบๆก็แล้วกันนะ
แล้วค่อยๆย่องออกไปนอกห้อง
เข้าไปห้องอีกห้องหนึ่งที่ห้องข้างๆเปิดไฟแจ้งอยู่
แล้วเด็กก็เอารูปที่ติดข้างห้องออก
พอรูปถูกถอดออกเท่านั้นก็มองเห็นภายในห้องติดกันได้ชัดเจน
เพราะว่าแต่ละห้องติดกระจกแบบเห็นได้ด้านเดียวทุกห้อง
เด็กบอกแบบนั้นแล้วบอกรีบดูแล้วออกไปเรียกเธอข้างนอกนะแล้วก็ออกไปจากห้อง
ดิฉันก็เข้าไปดูที่กระจกนั้นเห็นแหม่มที่เป็นลูกค้า
นอนแก้ผ้านอนถ่างขาอยู่บนโต๊ะที่ปรับให้นอน
ขาทั้งสองข้างพาดอยู่บนพนักเท้าแขน
ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นก็เปลือยกายเช่นกัน
ใบหน้าไปซุกอยู่ที่หว่างขาของแหม่ม
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้ากำลังซดอะไรอยู่เห็นก้นแหม่มเด่งลอยไม่ติดเบาะเลย
ดิฉันดูไม่นานก็รีบออกไปอีดห้องหนึ่ง
เด็กก็บอกรีบๆหน่อยพี่
ห้องนี้ก็เป็นแหม่มอีกคน
แต่กำลังซอยกันใหญ่เลย
เพราะว่าเด็กหนุ่มคนนั้นนอนราบอยู่บนโต๊ะที่ปรับนอนราบให้ต่ำลง
เห็นแหม่มคนนั้นนั่งยองๆอยู่ข้างบนกระแทกกันจนดิฉันได้ยิน
แล้วก็ออกมาที่ห้องสุดท้าย
พอเห็นเท่านั้นก็รู้ได้เลยว่าหลินทำไมถึงติดเด็นหนุ่มคนนี้
ก็ของเค้าทั้งใหญ่ทั้งยาวนี่
แล้วแบบนี้ใครจะไม่ชอบล่ะ
เห็นหลินโก้งโค้งให้เจ้าหมอนั่นซอยอยู่
เสียงครางลอดออกมาเลย
ดิฉันรีบออกมาจากห้อง
เด็กคนนั้นก็พามาส่งถึงห้องน้ำแล้วบอกว่าห้าพูดนะ
ก็พอดีเจอกับเด็กคนแรกที่พาไปก็เลยคุยถึงเรื่องเด็กหนุ่มนิโกรคนนั้น
เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวหนูจะเรียกออกมาคุยกับพี่นะพี่ก็ตกลงกับเค้าเองก็แล้วกัน
เพราะตอนนี้เค้าไปนั่งโต๊ะกับลูกค้าพี่รออยู่ในนี้ก็แล้วกันนะ
เดี๋ยวเรียกให้แป๊ปเดียว
ดิฉันก็ตกลงแต่ใจก็เต้นแรง
สักครู่เด็กนิโกรก็เข้ามาพร้อมกับเด็กคนนั้น
แล้วเด็กก็แนะนำดิฉันให้กับเค้าแล้วก็ออกไปนอกห้องน้ำ
ทิ้งให้ดิฉันอยู่กันสองต่อสอง
ดิฉันเลยบอกเค้าว่าสนใจในตัวเค้า
อยากติดต่อด้วย เค้าก็ยิ้มแบบน่ารัก
แล้วบอกด้วยความยินดีครับ
แล้วก็ขอกระดาษกับปากกาในกระเป๋าถือดิฉัน
จดเบอร์โทรมือถือให้แล้วเขียนชื่อให้ดิฉัน
ชื่อเอ็ดดี้ ดิฉันก็บอกชื่อดิฉันให้เค้าเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ให้เบอร์โทร
แล้วบอกว่าจะติดต่อไปภายหลัง
เอ็ดดี้ก็บอกลาดิฉันกลับไปนั่งกับลูกค้าโดยจูบแก้มดิฉันเบาๆแล้วบอกว่าจะรอ
นะ ไปนั่งที่โต๊ะเพื่อนๆไม่เห็นสงสัย
ซักพักหลินก็มาพร้อมกับแหม่มทั้งสอง
ดูสีหน้าแล้วสดชื่นกันทั้งสามคน
เรานั่งจนเกือบตีสามจึงกลับกัน
โดยค่าใช้จ่ายดิฉันเบิกได้ตลอด
จึงรูดการ์ดสำรองไปก่อนหนักเอาการน่าดูเลยงานนี้
หมดไปเกือบสี่หมื่นบาทแน่
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดนอนตื่นสายได้ค่ะ
พอถึงบ้านสามีก็รออยู่
กะว่าอาบน้ำเสร็จจะเล่าเรื่องต่างๆให้สามีฟัง
หลับไม่รู้ตัวเลยค่ะ
เป้นประสพการณ์ของดิฉันจริงๆ
ซึ่งสังคมปัจจุบันนี้
ก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ
ดิฉันถึงพูดได้ว่าสามีภรรยาต้องเชื่อใจกันแล้วจะอยู่เป็นสุข
เรื่องดิฉันยังไม่จบนะค่ะ
เขียนไม่ค่อยเป็นเลยยืดยาวหน่อย
ยังไม่ได้เล่าเรื่องเด็กหนุ่มที่ชื่อเอ็ดดี้เลย
สามีสุดที่รักของดิฉันอนุญาติให้ติดต่อได้ค่ะ
จบแค่นี้ก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ
สุนันทา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น