ขายของ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ช้างเผือกแห่งฉะเชิงเทรา2

หลังจากวันนั้น ผมก็โทรคุยกับนุ่นอีกวันละหลายหน จนวันเสาร์ถัดมา ผมจึงบึ่งรถไปฉะเชิงเทราอีกครั้ง คราวนี้ได้เจอเจ้าของที่สมใจ เมื่อดูที่ทางเสร็จ ผมก็โทรไปหานุ่นทันที เนื่องจากเรานัดกันไว้คร่าวๆแล้วว่าวันนี้ผมจะมาดูที่เสร็จช่วงบ่ายๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านเธอไม่ค่อยมีลูกค้าแล้ว เธอจะได้ขอแม่ออกมาทำรายงานกับเพื่อนสักสองชั่วโมงได้ เธอมาในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีฟ้าสดใสกับกระโปรงสีขาวยาว ดูน่ารักสมวัย ดูนุ่นจะดีใจมากที่ได้พบผมอีกครั้ง ผมเองก็ดีใจเช่นกัน ผมกลับมาหาเธอไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ของเธอ แต่เป็นเพราะผมสงสาร และผมก็รักเธอจริงๆด้วย แม้อายุเราจะห่างกันถึงสิบกว่าปีก็ตาม ตอนเธอบอกอายุแม่ของเธอ ผมยังตกใจอยู่เลย ถึงแม่ของนุ่นจะยังสวย อยู่ แต่อาจจะเป็นเพราะการตรากตรำทำงาน กับเป็นคนต่างจังหวัด จึงทำให้แม่ของนุ่นเหมือนจะอายุมากกว่าผม แต่จริงๆแล้วผมกับแม่ของนุ่นเกิดปีเดียวกัน แถมผมยังแก่เดือนกว่าเสียด้วยซ้ำ ถ้าเกิดผมกับนุ่นแต่งงานกันขึ้นมา คงเรียงญาติกันงงน่าดูเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรเรื่องนั้นค่อยเอาไว้คิดกัน ตอนนี้ ผมขอจัดการเรื่องเฉพาะหน้านี่ก่อนละกัน เรื่องของช้างเผือกที่มายืนทำหน้าสวย อยู่เบื้องหน้าผมนี่เอง ผมพานุ่นขึ้นรถ แล้วพาขับไปแถวที่ที่ผมไปดูมา เนื่องจากดูลาดเลาเอาไว้แล้วว่าแถวนั้นเงียบสงบดี โดยบอกนุ่นว่าจะพาไปดูที่ที่ผมจะมาซื้อ แม้เธอจะมองผมแบบรู้ทันแต่เธอก็ยอมขึ้นรถมากับผมโดยดี เมื่อขับถึงที่ที่ผมหมายตาเอาไว้ ผมก็เลี้ยวรถเข้าไปในดงไม้ข้างทาง เมื่อจอดรถได้ผมก็หันไปรวบร่างอวบของสาวน้อยเข้ามากอดอย่างกระหาย “อุ๊ย...พี่ไหนว่าจะพานุ่นมาดูที่ไงคะ” “ที่ของพี่น่ะ เดี๋ยวค่อยดูก็ได้ ตอนนี้พี่ขอดูที่นาผืนน้อยของนุ่นก่อนก็แล้วกันนะ” เธอยิ้มอายๆ ตีแขนผมดังเพี๊ยะ “บ้า พี่น่ะ ที่มานี่เพราะจะมารังแกนุ่นอีกใช่ไหม” “โธ่ รังแกที่ไหนกัน เขาต้องเรียกว่าต่างคนต่างรังแกกันต่างหาก พี่ไม่ได้ห้ามนุ่นไม่ให้รังแกพี่สักหน่อย” ว่าแล้วผมก็ระดมจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอ ปากอิ่มๆของเธอ “บ้าๆ ใครเค้าจะไปอยากรังแกตัวเอง อย่างนี้ถ้านุ่นไม่รังแกพี่ พี่ก็จะไม่รังแกนุ่นใช่ไหมคะ” “ง่า...ไม่เป็นไรหรอก พี่ยอมขาดทุนรังแกนุ่นฝ่ายเดียวก็ได้นะ เห็นไหมว่าพี่เสียสละแค่ไหน” ว่าแล้วผมก็ลูบไล้เรือนร่างอวบอัดของเธอไปทั่ว กอดจูบ ลูบล้วง จนรู้สึกว่าร่างของสาวน้อยอ่อนระทวยแล้ว ผมจึงปรับเบาะของเธอให้เอนลง ผมทาบตัวลงไปจูบปากรูปกระจับของเธอ มือก็บีบเคล้นเต้าอวบในเสื้อสายเดี่ยวไปด้วย มันช่างกลมกลึงหยุ่นๆน่าจับต้อง แล้วผมก็เลื่อนมือลูบลงไปตามหน้าท้องแบนราบแล้วล้วงลงต่ำขยำเข้าไปตรงกลาง หว่างขา นุ่นเอามือมาจับแขนผมเอาไว้ “อย่าเพิ่งค่ะ คุยกันก่อน” ผมจูบเฟ้นฟอนไปเรื่อย “มาคุยอะไรกันตอนนี้ล่ะคะคนดี ขอพี่ชื่นใจให้หายคิดถึงก่อนนะ ไม่เจอกันตั้ง7วัน พี่คิดถึงนุ่นมากรู้ไหม” นุ่นเห็นผมไม่หยุดการรุกราน ก็ดันหน้าผมออก ถอยตัวไปพิงประตูรถ “ไม่ทราบหรอกค่ะ นุ่นไม่รู้ว่าพี่คิดถึงตัวนุ่นอย่างเดียวหรือเปล่า นุ่นไม่อยากเป็นคนไม่ดี นุ่นไม่อยากเป็นคนไม่มีค่า ถ้าพี่รักนุ่นจริงๆ เราก็น่าจะแต่งงานกันก่อนนะคะ” อยู่ๆ สาวน้อยสดใสก็ทำท่าจะร้องไห้ ผมรีบละล่ำละลักพูด “โธ่...นุ่นจ๋า พี่รับรองว่าพี่เห็นค่าของนุ่นแน่ๆ ไม่งั้นพี่จะกลับมาอีกทำไม พี่สัญญา อะไรเอาไว้ พี่ไม่ลืมหรอก แต่ตอนนี้นุ่นเพิ่งอายุ 17 เองนะ เอาไว้นุ่นเรียนจบก่อนดีไหมแล้วพี่จะรีบให้พ่อพี่มาจัดการสู่ขอนุ่นทันที เลย” เธอก้มหน้าต่ำพูดเสียงเครือๆ “กว่านุ่นจะจบก็อีก 4-5ปี ถึงตอนนั้นนุ่นอาจจะกลายเป็นคนไม่ดี ไปแล้วก็ได้นะคะ” ผมจับน้ำเสียงสะอื้นของเธอได้ จึงเชยคางเธอขึ้นมา เห็นหยาดน้ำใสๆในตาเธอ ผมงงจนต้องขมวดคิ้ว หรือว่าเธอมีปัญหาอะไรที่ไม่ได้บอกผม “พูดอะไรอย่างนั้น นุ่นจะเป็นคนไม่ดีไปได้ยังไง พี่ว่าพี่ดูคนไม่ผิดหรอก นุ่นเป็นเด็กดี เป็นคนดี หรือว่านุ่นมีเรื่องอะไรไม่สบายใจอยู่ เล่าให้พี่ฟังได้นะคะ” นุ่นไม่ยอมสบตาผม ผมจึงจับใบหน้าเธอให้หันมา “นุ่นไม่ไว้ใจพี่หรือ ทำไมมีอะไรไม่เล่าให้พี่ฟัง” คราวนี้สาวน้อยร้องไห้หนักกว่าเดิม เธอปล่อยโฮออกมาเลย จากแค่สะอื้นเมื่อกี้ ผมแปลกใจและตกใจระคนกัน “นุ่น เป็นอะไรคะ อย่าร้องไห้สิ พี่ใจคอไม่ดีเลย มีอะไรก็บอกพี่มาเถอะ พี่จะช่วยนุ่นแก้ไขปัญหาทุกอย่างเองนะ คนดี” ดูเธอจะสบายใจขึ้นแม้จะยังส่งเสียงสะอื้นอยู่ “จริงๆนะคะ” “จริงสิ พี่ไม่เคยหลอกนุ่น และก็จะไม่หลอกตลอดไป” เธอมองผมด้วยสายตาซาบซึ้ง แต่เธอก็ยังทำท่าลังเลที่จะเล่าอยู่ดี สายตาผมเหลือบไปเห็นเสื้อสายเดี่ยวของเธอที่โดนผมขยำเมื่อครู่ทำให้เชือก หลุดไปด้านนึงทำให้เต้าข้างนึงของเธอแทบจะทะลักล้นออกมา จากเสื้อ ความกำหนัดเกิดขึ้นจนต้องรีบพูดกับเธอ “พี่ว่านุ่นผูกสายเสื้อก่อนดีกว่านะ เพราะไม่งั้นพี่จะไม่ทันฟังเรื่องของนุ่นจบ” เธอทำหน้างงๆ แบบใสซื่อ แต่ก็ผูกสายเสื้ออย่างว่าง่าย “ทำไมละคะ” “ก็เพราะพี่จะอดใจไม่ไหวปล้ำเราซะก่อนฟังเรื่องจบน่ะสิ โธ่ นมจะหกออกมาทั้งเต้าอยู่แล้ว” เธอทำหน้าเอียงอาย แต่ก็หัวเราะออกมาคิกใหญ่ ถ้าผู้ชายคนไหนเห็นหน้าแบบนี้ของเธอแล้วไม่นึกรักและเอ็นดู ผู้ชายคนนั้นต้องไม่ปกติแน่นอน มันทั้งดูใสซื่อ บริสุทธิ์ น่ารักน่าใคร่ น่าเอ็นดูไปหมด ผมต้องพยายามข่มใจอย่างหนักเพื่อที่จะไม่ดึงเธอมาจูบอีก ก่อนที่จะฟังเรื่องของเธอให้จบก่อน “เอาล่ะค่ะ เล่าเรื่องของนุ่นมาได้แล้ว มีอะไรหรือ” พ่อของนุ่นเสียเมื่อสองปีก่อน แล้วอาชัยซึ่งเป็นน้องของพ่อนุ่น ก็มาได้กับแม่ของนุ่นน่ะค่ะ” “อืม...ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ อาของนุ่นจะได้ดูแลนุ่นกับแม่ของนุ่นแทนพ่อของนุ่นไง” “เรื่องมันไม่แค่นั้นน่ะสิคะ....คือว่า...” ผมไม่พูดขัดเพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็จะเล่าต่อ นุ่นถอนหายใจลึกๆทีหนึ่งก่อนจะหลุดปากออกมาว่า “อาชัยเขาคิดจะปล้ำนุ่นน่ะค่ะ” ผมกระเด้งตัวขึ้นมาทันที “เฮ้ย งั้นก็ไม่เข้าทีละอย่างนี้” ผมเชื่อนุ่นโดยไม่สงสัยเลย เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาของนุ่น ผู้ชายคนไหนเห็นก็ต้องนึกชอบ และยิ่งหน้าอกกลมกลึงกับสะโพกผายกว้าง ก้นงอนงาม ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเครื่องยั่วกิเลสผู้ชายดีนัก ผมเองก็เพราะเห็นอกเธอนี่แหละ ถึงได้รู้จักกับเธอ ทั้งๆที่เห็นแค่เพียงผ่านๆ ยังรีบจอดรถมาดูให้เห็นชัดๆเลย แล้วอาเธออยู่บ้านเดียวกับเธอทุกวัน ทำไมจะไม่เคยเห็นอะไรบ้างเลย มันก็น่ายั่วกิเลสอยู่หรอก “พี่คะ...พี่” ผมสะดุ้ง มัวแต่คิดจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของสาวน้อย “คิดอะไรอยู่หรือคะ” “ก็คิดว่าจะทำยังไงดีไงล่ะคะ อืม...ว่าแต่ที่นุ่นบอกว่าอาเขาคิดจะปล้ำนุ่นนี่น่ะ แล้วเขาเคยปล้ำหรือยัง” เธอนิ่งไปพักนึง ก่อนจะพยักหน้า ใจผมหายวูบ รีบถาม “เอ่อ...แล้ว อ่า..นุ่น..” เธอคงเดาสิ่งที่ผมอยากจะถามได้ เธอรีบบอก “ยังค่ะ นุ่นเอาตัวรอดมาได้ครั้งนึง และอีกครั้งก็อาทิตย์ที่แล้ววันที่เราเจอกัน ตอนเช้าอาชัยก็บุกมาปล้ำนุ่นตอนนุ่นอาบน้ำเสร็จ เป็น ตอนที่แม่ออกไปซื้อของ แล้วอาชัยที่ปกติต้องไปเป็นเพื่อนแม่ แต่วันนั้นบอกแม่ว่าปวดท้อง แต่ที่ไหนได้แอบมาปล้ำนุ่น จนเกือบเสียท่า โชคดีที่แม่กลับมาเพราะลืมกระเป๋าตังค์ แม่เลยมาเห็นตอนอาชัยกำลังปล้ำถอดเสื้อผ้านุ่นอยู่เลย แม่โกรธมากหยิบอีโต้จะฟันหัวอาชัย อาชัยเลยวิ่งหนีเตลิดไปเลย ไม่งั้นปกติวันนั้นพี่ก็ต้องเจออาชัยแหละค่ะ ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อน” “เอ...อาชัยหนีไปแล้วก็ดีแล้วนี่ ปัญหาก็น่าจะหมดไปสิ” “มันไม่หมดน่ะสิคะ เพราะก่อนไปอาชัยพูดอาคาตเอาไว้ว่า คอยดูเถอะเขาจะปล้ำนุ่นทำเมียให้ได้ นุ่นกลัวค่ะ เวลาไปกลับโรงเรียนเลยต้องหาเพื่อนไปกลับตลอด” “เอ...ถ้าเป็นแบบนี้จะทำยังไงละ อาวุธลับยากป้องกันเสียด้วย” “นั่นแหละค่ะ นุ่นถึงกลัว วันนั้น พอเจอพี่ แล้วเห็นพี่มองนุ่นบ่อยๆ นุ่นก็เลย...” “อ๋อ...นี่นุ่นตั้งใจอ่อยพี่ใช่ไหมเนี่ย โธ่...กำของเราจริงๆ โดนเด็กหลอก” ผมพูดเล่นๆ แต่เธอไม่ยักขำ ทำหน้าง้ำ “บ้าน่ะสิ อ่อยยังไง นุ่นอ่อยไม่เป็นหรอก ตัวเองมาปล้ำเค้าเองแล้วยังมาโทษว่าเค้าอ่อยอีก” “แหะๆ พี่ล้อเล่นน่ะ ตกลงแล้วนุ่นทำอะไรล่ะ” “ทีแรกนุ่นคิดจะให้พี่ช่วยน่ะค่ะ เห็นพี่ท่าทางเป็นคนดีและก็ดูมีฐานะ ดูจากรถของพี่กับที่พี่ดูแลคุณพ่อพี่อย่างดี” “จะให้พี่ช่วยยังไงหรือ” “นุ่นก็ไม่ทราบหรอกค่ะ แต่รู้แต่ว่านุ่นรู้สึกถูกชะตา เลยคิดว่าพี่อาจจะช่วยนุ่นได้ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร พี่ก็...ก็..” “ปล้ำนุ่นซะก่อน” ผมพูดแล้วก็หัวเราะ แต่เธออายแล้วหยิกผม “โธ่ ก็พี่ไม่รู้นี่ เห็นเรามองๆ คิดว่าชอบพี่ พี่ก็เลยสนอง ฮ่าๆ” “บ้าน่ะสิ เจอกันยังไม่ทันจะรู้จักกันเลย ใครจะไปชอบได้” “อ้าว ทีพี่ยังชอบนุ่นได้เลย แค่เห็นเราทำนมหกใส่เท่านั้นแหละ รีบเบรครถแทบไม่ทัน” เธอหน้าง้ำ “ลามก ลามกที่สุดเลย มาเห็นของเค้าตอนไหน” “อ้าว ก็ตอนเราก้มลงเก็บจานนั่นแหละ ให้พี่เห็นไม่เป็นไรหรอก วันหลังระวังตัวหน่อยนะ เสื้อตัวไหนคอหมดอายุแล้วก็ทิ้งๆไปเถอะ เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่เอง ใส่ตัวเดิมๆ เดี๋ยวก็เที่ยวไปทำหกใส่คนอื่น พี่หวงนะ” เธออายหน้าแดง ทุบผมสามสี่ที ผมรวบแขนเธอเอาไว้ดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ “อะทำร้ายร่างกายกันเหรอ อย่างนี้ต้องตอบโต้” แล้วผมก็จูบปากอิ่มของเธอ ทีแรกนุ่นดิ้นแต่แปบเดียวก็จูบผมตอบ เราแลกจูบกันเนิ่นนาน จนนุ่นผละตัวออก ยกมือเช็ดปาก คงเพราะน้ำลายเราสองคน ส่วนผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “มัวแต่รังแกนุ่น ยังไม่ช่วยนุ่นคิดเลย ว่านุ่นจะทำยังไงดี” “ก็ไปแจ้งความเลยสิ ตำรวจจะได้จับเข้าคุกไปซะ” “แม่บอกว่าไม่ให้แจ้งค่ะ เพราะแม่ไม่อยากให้ใครรู้ แม่บอกว่านุ่นยังไม่ได้โดนทำอะไร ไม่มีหลักฐานแจ้งความไปก็มีแต่จะเสียหาย อายเค้าน่ะค่ะ” “อืม...งั้นก็มีทางเดียวแหละ คือนุ่นต้องระวังตัว อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อ้อ แล้วประตูบ้านก็เปลี่ยนแม่กุญแจซะด้วย แล้วแม่ของนุ่นไม่มีญาติคนอื่นอีกแล้วเหรอ” “มีค่ะ แต่อยู่เมืองจีนกันหมด แม่เล่าให้ฟังว่าแม่โดนพ่อของแม่ตัดขาดหลังจากมาได้กับพ่อ เพราะที่บ้านของแม่รังเกียจพ่อ ที่พ่อจน แล้วพวกคุณตาก็หนีไปอยู่เมืองจีนกันหมด” “อืม...แล้วจะมีใครมาอยู่เป็นเพื่อน นุ่นกับแม่ได้บ้างละนี่” นุ่นทำสีหน้าครุ่นคิด สักพักก็เหมือนคิดอะไรออก “ป้าวิไลค่ะ ป้าวิไลสนิทกับแม่มาก แกขายของอยู่ในตลาด ตอนพ่อยังไม่เสีย ป้าวิไลก็เคยมานอนค้าง นอนในห้องนุ่นแหละค่ะ แกมากับวิว ลูกสาวแก อายุน้อยกว่านุ่นสองปี” “อืม ลองให้แม่ชวนป้าวิไลมานอนเป็นเพื่อนสักระยะสิ เอาไว้พี่เคลียร์เรื่องที่ทางให้เรียบร้อย แล้วพี่จะมาคุยกับแม่ของนุ่น เรื่องของเราแล้วจะพานุ่นกับแม่ไปอยู่กรุงเทพด้วยกัน” เธอมองผมด้วยสายตาเป็นประกาย แล้วก็โผมากอดคอผมแน่น “จริงๆนะคะ พี่จะพานุ่นไปให้พ้นจากที่นี่จริงๆนะคะ” ผมรีบกอดตอบ “จริงสิ บอกแล้วไงว่าพี่ไม่เคยหลอกนุ่น แต่พี่ต้องขอเวลาเคลียร์ธุระต่างๆก่อน” “พี่ใจดีที่สุดเลย ขอบคุณมากๆนะคะ” ผมยิ้มกริ่ม มองหน้าเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ดีอย่างนี้ ต้องมีรางวัลให้สิ” เธอทำหน้าระแวง “พี่จะเอาอะไรละคะ นุ่นไม่มีของมีค่าอะไรหรอกนะคะ” “อะ มีสิ เป็นของมีค่ามากที่สุดเลย” นุ่นทำหน้างง “อะไรหรือคะ” ผมรวบตัวเธอเข้ามากอด มือไม้เริ่มลวนลามไปทั่ว “ก็ตัวของนุ่นไง พี่ขอตัวนุ่นเป็นรางวัลนะ” แล้วผมก็จูบซุกไซร้ไปทั่ว “นี่ ใจคอพี่จะรังแกนุ่นอย่างเดียวเลยหรือคะ” “โธ่ ก็นุ่นทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ขนาดนี้ ใครจะไปอดใจไหว” มือผมเกาะกุมหน้าอกอวบของเธอ ปากก็ระดมจูบไปทั่วปาก แก้ม ซอกคอ ติ่งหู มือไม้ลูบล้วงเข้าไปใต้กระโปรงยาว ลูบขาอ่อนให้กระโปรงเปิดเลิกขึ้นไปตามมือ จนเห็นขาอ่อนขาวผ่องของเธอ แล้วคว้าหมับเข้ากลางหว่างขา สัมผัสกับความโหนกนูนเต็มกำมือ ผมกรีดนิ้วลงไปเหมือนเกากีตาร์ ใส่ร่องหลืบใต้กางเกงในสีขาว สาวน้อยดิ้นทุรนทุราย “ยะ...อย่าค่ะ อี๊ยยยย...จั๊กกะจี้ ค่ะ อุ๊ยยยย...” ผมเลยเปลี่ยนจากกรีดนิ้วเป็นล้วงเข้าไปข้างในกางเกงในสัมผัสกับเนื้อแท้ แล้วถูนิ้วกลางเข้ากับร่องหลืบของเธอ กลีบแคมสองข้างตอดรัดนิ้วผมเอาไว้ ผมถูนิ้วเข้าใส่ไปมา แล้วตวัดปลายนิ้วกลางเขี่ยติ่งแตดเธอ นุ่นแอ่นกายแดะ แหงนหน้ากัดปากแน่น หลับตาปี๋ ผมยิ้มเมื่อเห็นเธอเสียวจนตัวเกร็ง น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มออกมา ผมเลยสอดนิ้วกลางเข้าไปในร่องหลืบ ช่องคลอดเธอตอดขมิบนิ้วของผมไปมา ผมชักนิ้วเข้าออกจนน้ำหล่อลื่นยิ่งไหลนอง แจ่ะๆๆๆ เสียงนิ้วทะลวงผ่านร่องคับแคบที่มีน้ำเจิ่งนอง นุ่นยิ่งแอ่นตัวมากขึ้น แล้วเสียงครางก็เริ่มลอดออกมาจากปากอิ่มของเธอ “อาว์....ซี๊ดดดด....อูยยยยยย....โอว์...” เมื่อเธอแอ่นตัวมามาก อกอวบก็พุ่งขึ้นมาตามไปด้วย เมื่อเธอบังอาจเอานมมาชี้หน้าผมในระยะเผาขนขนาดนี้ ลูกผู้ชายอย่างผมจึงยอมไม่ได้ ต้องตบเธอที่นมของเธอด้วยปากของผม ความอวบหยุ่นน่าฟอนเฟ้น แม้ยังมีเสื้อสายเดี่ยวตัวน้อยบดบังอยู่ แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของมัน ผมใช้เพียงปลายนิ้วก็สะกิดปมเชือกทั้งสองข้างจนหลุดลุ่ย เสื้อตกลงไปกองอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของเธอ สองเต้าซ่อนอยู่ใต้บราถอดสายที่คับติ้วรัดจนเต้าสองก้อนบวมล้นออกมา ผมสอดมือเข้าไปถอดตะขอบราออก เท่านั้นสองเต้าอวบก็เด้งออกมาท้าทายสายตา วันก่อนบนชั้นลอยในร้านของเธอ มันออกจะมืดๆ แต่วันนี้อกของเธอโดนแสงแดดส่องจนเห็นชัดเจนถึงความอวบใหญ่ปลายถันนั้นเล่า ก็เป็นวงป้านสวยงามน่าดูดเลียยิ่งนัก ผมไม่รอช้าก้มลงไปดูดเลียอย่างกระหาย มือก็ยังแหย่แยงร่องหลืบต่อไป เมื่อนุ่นโดนโจมตีทั้งบนและล่าง เธอจึงได้แต่บิดกายไปมา พร้อมกับส่งเสียงครวญครางที่ไม่น่าสงสารสักนิดเดียว หากแต่น่าทำร้ายซ้ำเติม เพื่อให้เธอต้องครวญครางมากขึ้นเท่านั้น “อาว์....อูยยยยย....โอยยยย...พี่....โอยยยย...ซี๊ดดดด...” เสียงครางไม่เป็นส่ำของนุ่น ช่างยั่วอารมณ์ผมให้กระเจิดกระเจิงยิ่งนัก ผมเพิ่มนิ้วสอดเข้าไปในร่องของเธออีกนิ้วนึง เพื่อช่วยให้เธอได้ครางหนักกว่าเดิม “โอว์ๆๆๆๆ...อาว์ๆๆๆ....ซี๊ดดดด....อึ๋ยยยย....” แก่นกายของผมมันบวมเป่งอัดแน่นอยู่ในเป้ากางเกงจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว ผมเร่งซอยนิ้วเข้าใส่ร่องหลืบของเธอ นุ่นยิ่งครางผมยิ่งเร่ง เมื่อเห็นท่าเธอว่าจวนจะถึงฝั่งผมก็ยิ่งเร่งซอยนิ้วถี่ยิบ นิ้วชี้กับนิ้วกลางที่ทะลวงแทงเข้าไปปานจะอยากให้เนินโหนกของเธอพังไปกับมือ ทำงานอย่างกับลูกสูบชักออกดันเข้าๆๆ และแล้วนุ่นก็ตอบโต้ด้วยการขมิบตอดนิ้วทั้งสองอย่างแรงพร้อมๆกับพ่นน้ำข่น เหนียวเข้าใส่สองนิ้วของผม จนมันเปียกชุ่มโชก ผมคานิ้วเอาไว้ ปากก็ดูดหัวนมเธอ เฟ้นฟอนสองเต้าสลับไปมา เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มหายใจเป็นปกติ ผมก็จับให้นุ่นเบี่ยงกายหลบแล้วผมเลื่อนตัวไปนอนลงบนเบาะฝั่งเธอแทน แล้วจับนุ่นให้ขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวผม ถอดกางเกงในเธอออกจากขาข้างนึง กดตัวเธอให้ลงไปนั่งคุดคู้อยู่ข้างล่าง ดีที่ตัวเธอเล็ก จับหน้าเธอให้ก้มลงหาเป้ากางเกงแล้วผมก็งัดอาวุธออกมาจ่อกับปากของเธอ “ยังจำได้ใช่ไหมว่าอมยังไงน่ะ ช่วยพี่หน่อยนะ” แม้จะอิดออดเล็กน้อย แต่นุ่นก็ยอมก้มหน้าลงอมแก่นกายของผมให้แต่โดยดี วันนี้เธอเก่งกว่าวันนั้น ท่าทางติดๆขัดๆไม่มีให้เห็น แม้จะยังไม่เชี่ยวชาญแต่ก็ทำให้ผมเสียวหัวล่างเป็นอย่างมาก จ๊วป...จ้าบบบบ...แผล่บๆๆ....เสียงดูดเลียไอติมรสเห็ดดังประสานกับเสียงครางของผม “อาว์...ดีจริงๆเลยนุ่นจ๋า...อูว์....อูยยยย...ซี๊ดดดด...อย่างนั้นแหละนุ่นจ๋า...อูยยยยย” แล้วผมก็จับนุ่นให้เลื่อนตัวขึ้นมาให้เธอนั่งคล่อมลงบนตักผมจับแก่นกายตั้ง รอท่าจับตัวเธอให้เอาร่องมาจ่อตรงกันแล้วกดตัวเธอลงมาให้ร่องหลืบของเธอกลืน แก่นกายของผมเข้าไป มันค่อยๆหายเข้าไปหายเข้าไปจนมิดลำ เรากอดกันไว้แล้วผมก็เด้งเอวขึ้นไป แรกๆนุ่นได้แต่ตั้งรับให้ผมอัดกระแทกสวนขึ้นไป จนสักพักเธอก็เด้งตัวช่วยผม แล้วผมก็หยุดเด้งสวนตั้งลำรับอย่างเดียวให้เธอขย่มโขยกตอของผม แต่ผมไม่ยอมเสียเปรียบจึงผงกหัวขึ้นไปดูดนมเธอ นมอวบใหญ่ของเธอที่ห้อยโตงเตงเพราะต้องก้มตัวลงมาเนื่องจากศรีษะชนกับเพดาน รถ มันยิ่งทำให้ดูใหญ่กว่าปกติเสียอีก มันเด้งแกว่งไกวล่อตาล่อใจผมดีนัก ผมเลยอ้าปากงับ แต่ด้วยความใหญ่ของมันผมจึงงับได้แค่ไม่ถึงครึ่งเต้า ผมตวัดลิ้นเลียใส่จงอยกลางป้านใหญ่ ทั้งดูดทั้งเลีย หลังจากนุ่นทั้งดูดช่วยทั้งขย่มตอผมจนมันเริ่มเต็มที่แล้ว ผมจึงจับให้เธอคว่ำหน้าลงกับเบาะบ้างแล้วผมอ้อมตัวไปประกบด้านหลังจับก้นของ เธอที่มีขนาดใหญ่เหลือเกินให้อยู่ในระยะทำการ แล้วผมก็สอดอาวุธเข้าไปทางด้านหลังของเธอ เมื่อมันทะลวงผ่านเข้าไปทั้งลำผมก็เริ่มทะลวงแทงสาวเข้าสาวออก อย่างเมามัน นุ่นเกาะผนักเบาะเอาไว้แน่นส่งเสียงครางระงม “อูว์....ซี๊ดดดดด....อูยยยย....” ผมกระเด้าเอวเข้าใส่อย่างไม่บันยะบันยัง มือทั้งสองข้างก็เอื้อมไปคว้าสองเต้าของเธอไว้แล้วบีบเคล้นอย่างเมามัน “อูยยยย...นุ่นจ๋ารู้ตัวไหมว่านมนุ่นนี่น่าจับน่าบีบมากๆเลย ทั้งใหญ่ทั้งหยุ่นสู้มือดีจริงๆ” แต่จริงๆแล้วส่วนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่นม แต่ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไรไม่ให้นุ่นรู้สึกว่าน่าเกลียด ความโหนกใหญ่กว้างขวางของจิ๋มเธอ ความตอดรัด คับแคบของมัน ไม่ใช่ของที่จะเจอกันง่ายๆ ผมเร่งกระเด้าเอวเข้าใส่ร่องหลืบของนุ่น เมื่อรู้สึกตัวว่าจะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว พั่บๆๆๆๆ ป้าบๆๆๆๆๆๆๆ และแล้วเสียงกระทบกันของแก่นกายกับเนินเนื้อก็เงียบลงพร้อมๆกับที่น้ำรักของ เราทั้งสองฉีดพุ่งเข้าใส่กัน นุ่นหมดแรงนอนซบลงไปกับเบาะรถ ผมเองก็นอนทาบลงไปแต่ยังแช่แก่นกายเอาไว้ข้างในตัวเธอ เหมือนจะรอให้มันสะเด็ดน้ำเสียก่อน “นุ่นจ๋า พี่รักนุ่นจัง พี่จะทำทุกทาง ไม่ให้เราต้องจากกันอีกนะ แต่วันนี้เดี๋ยวพี่ต้องพานุ่นไปส่งล่ะ เดี๋ยวแม่ของนุ่นจะดุเอา” แล้วเราก็แต่งตัวให้เรียบร้อย ผมขับรถออกมาพาเธอไปส่งโดยจอดรถไว้ก่อนที่จะถึงทางเลี้ยวไปบ้านนุ่น เราจากกันด้วยความอาลัยอาวรณ์อีกครั้ง นุ่นทำสายตาเศร้าอีกครั้ง เป็นสายตาที่ทำให้ผมไม่อยากกลับกรุงเทพเลย เราจูบลากันอ้อยอิ่ง แล้วผมก็ตัดใจขับรถออกมา เมื่อมองไปยังกระจกหลังผมยังเห็นนุ่นยืนมองตามรถมา ด้วยสายตาเศร้าคู่นั้น ผมได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดีกับเรื่องของเรา.

ไม่มีความคิดเห็น: