ขายของ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก ตอนที่6

เสียงก็อกแก๊กของกลอนประตูห้องน้ำห้องข้าง ๆ ดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงปลดทุกข์เบาดังซ่า ๆ ของผู้หญิงในห้องนั้น ทำให้น้องเงย หน้ามาอมยิ้ม พร้อมทำหน้าทำตาล้อหลอกกับผม ผมกอดร่างน้องเข้ามาแนบอกรอจนปากรูหีของเธอค่อย ๆ คลายตัวจากการบีบ รัดท่อนลำของผม แรงขมิบค่อย ๆ น้อยลงจนหยุดนิ่ง เราสองคนแลกจูบกันเบา ๆ ด้วยความสเน่หา ขณะกำลังจูบกันเพลิน ๆ ก็มี เสียงลูกบิดประตูห้องน้ำที่ผมกับน้องใช้เป็นสังเวียนสวาทกันเบา ๆ พร้อมเสียงเคาะป๊อก ๆ อย่างร้อนรน ผมกับน้องนั่งกอดกันอยู่ เงียบ ๆ เหงื่อไครไหลหยดลงมาจากแผงอกของผมจนชุ่มโชก น้องก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผม ใบหน้าของเธอพราวไปด้วยเม็ดเหงือ เรือนผมยาวสลวยที่ถูกรวบไว้ด้วยโบร์สีขาว เปียกชื้นไปด้วยเหงือ ผมดึงหน้าน้องมาจูบเบา ๆ ที่พวงแก้มใส ๆ น้องมีอาการสั่น น้อย ๆ แววตามีกังวล เมื่อเสียงเคาะประตูทั้งสองห้องแรงขึ้นสลับกันไปมา "โอ๊ย.....ใครอยู่น่ะ...เร็วหน่อยสิ...ปวดท้องจะแย่แล้ว" เสียงผู้หญิงท่าทางจะสูงอายุพอสมควรดังอย่างร้อนรน แต่ก่อนที่สถานการณ์จะวิกฤติมากไปกว่านี้ เสียงถอดกลอนของห้องข้าง ๆ ก็ดังขึ้น แล้วเสียงคุณป้าที่ท่าทางจะปวดท้องอย่างแรง ก็แทรกตัวเข้าไป เสียงปิดประตูดังปัง ก่อนเสียงปลดทุกข์หนักดังป๊าด ๆ พร้อมกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง โชยเข้ามายังห้องที่ผมกับ น้องอยู่ เราสองคนอมยิ้มขัน ๆ พร้อมลุกขึ้นแต่งตัวกันเงียบ ๆ ผมเงี่ยหัวฟังรอจนเสียงภายนอกห้องน้ำสงบ แต่เสียงของคุณป้าที่ ปลดทุกข์หนักอยู่ในห้องข้าง ๆ ยังดังสนั่น นึก ๆ ก็น่าสงสารที่เธอไม่ขี้แตกหน้าห้องน้ำ ผมให้น้องออกไปจากห้องน้ำก่อน เพื่อดูลาดเลาเมื่อเธอส่งสัญญาณว่าปลอดโปร่ง ผมจึงรีบตามออกมา เราสองคนเดินจูงมือกัน ออกมาจากปั๊มน้ำมันเงียบ ๆ แต่ท่าเดินของน้องนี่สิ ดูเหมือนว่าเธอเดินขากาง ๆ พิกล ผมเดินไปส่งน้องที่หน้าโรงเรียน แต่ก่อน ที่จะไปถึง ผมได้แวะซื้อยาคุมฉุกเฉินพร้อมยาแก้อักเสบให้น้องเธอทานก่อน พร้อมกำชับว่าให้เธอทานยาทันทีหลังทานมื้อเช้า หลังจากส่งน้องเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว ผมจึงนั่งรถย้อนกลับมายังที่ทำงานของตัวเอง ด้วยจิตใจที่ล่องลอย ทั้งวันทำงานด้วย ความคิดที่สับสนปนเปไปมา มีทั้งสุขที่ได้รับจากรสสวาทของสาวน้อย และทุกข์ที่ได้รับทราบว่าเมียรักแม่ของลูกเจ๋งสวมเขาคบชู้ สู่ชาย แม้ผมจะเชื่อคำพูดที่น้องบอก แต่ก็อยากจะพิสูจน์ให้เห็นกับตาของตัวเอง ณ.เวลานั้น ผมคิดไม่ตกว่าถ้าผมเห็นหวานกำลังนอนอยู่กับชายอื่น ผมจะทำเช่นไรดี จะเข้าไปอาระวาดชกต่อยชายชู้ แล้วหย่าขาด จากเธอ ไล่ให้คนทั้งคู่ไปอยู่ด้วยกัน หรือว่าจะอยู่เงียบ ๆ เฉย ๆ เพราะอย่างน้อยผมก็มีน้อง สาววัยละอ่อนที่พร้อมจะเป็นคู่สวาท ของผมอยู่แล้ว ผมทำงานด้วยความคิดสับสนเช่นนี้จนจรดเย็น พอถึงเวลางานเลิก ผมจึงค่อยนั่งรถไปยังอู่แท็กซี่ ที่ผมเช่าเพื่อมา ขับหารายได้พิเศษ แต่ทว่ารถคันที่ผมขับประจำยังคงซ่อมไม่เสร็จ และรถสำรองก็หมดไปเสียแล้ว เป็นอันว่าคืนนี้ผมได้พักอีก หนึ่งวัน "พล.....พล...." เสียงร้องเรียกของเจ๊ลี่เมียน้อยเสี่ยเจ้าของอู่แท็กซี่ ที่วิ่งพรวดพราดออกมาจากออฟฟิส ขณะที่ผมกำลังจะเดิน ออกจากอู่ ดังก้องอยู่เบื้องหลัง "ครับเจ๊...." ผมรีบเดินเร็ว ๆ กลับมายืนประจันหน้ากับเจ๊ลี่ สาวหุ่นอวบขาวจั๊วไปทั้งร่าง ที่ยืนรออยู่หน้าออฟฟิส "เจ๊...มีไรให้ผมรับใช้หรอ..." ผมยืนตรงเอามือกุมหว่างขานอบน้อม แบบเดียวกับที่ผู้น้อยยืนรอคอยคำสั่งจากผู้ใหญ่กว่า "คืนนี้พลไม่มีรถขับใช่มั๊ย....." "ครับเจ๊...." ผมยืนเพ่งมองหน้าเจ๊ลี่ สาวใหญ่วัย30ต้น ๆ เมี่ยน้อยเสี่ยเจ้าของอู่ อย่างตะลึง ปรกติทุกวันเจ๊แกจะทำบัญชีรายรับ รายจ่าย อยู่แต่เพียงในออฟฟิส ไม่ค่อยออกมาเสวนาสนทนากับผู้เช่าแท็กซี่มากนัก แต่คราวใดที่เธอเยื้องกายออกมา ก็เล่นเอา พวกคนขับแท็กซี่อย่างพวกผมแอบนินทากันอยู่ประจำ ด้วยว่าแม้เจ๊ลี่จะอายุ30กว่าแล้ว แต่รูปร่างหน้าตาของแกยังกับสาววัยยี่สิบ ต้น ๆ ยามที่แกเดินเคียงข้างน้องเฟย ลูกสาววัย15 ของแก เหมือนดังพี่สาวน้องสาวยังไงยังงั้น เพราะผู้เป็นแม่ก็ดันหน้าตาอ่อน กว่าอายุมากมาย ข้างฝ่ายลูกสาว แม้วัยเพียง15 แต่ร่างกายก็อวบอัดนมโต้มขึ้นเป็นลูกกลม ๆ อวบ ๆ เกินตัวเกินอายุ เป็นเหตุให้ พวกผมเหล่าคนขับแท็กซี่บางคนแอบนินทาลับหลังสองแม่ลูกคู่นี้ว่า ....ได้เย็ดสักที....แลกกับขับรถให้ฟรี ๆ ทั้งเดือนยังเอา... "คือว่า...เจ๊จะไปธุระแถวเยาวราช....แต่ไม่อยากขับรถไปเองมันหาที่จอดรถลำบาก...เจ๊ีอยากให้พลช่วยขับรถไปส่ง แล้วรอรับ ตอนกลับได้มั๊ย...." ใครปฎิเสธก็โง่ละครับ การได้รับใช้เจ๊ลี่เมียน้อยเจ้็าของอู่เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ ถือว่ามีผลประโยชน์โดยตรง กับตัวผม เวลาที่ผลัดผ่อนการจ่ายค่าเช่ารถเพราะหมุนเงินไม่ทัน เจ๊แกจะได้ไม่เขี้ยวนัก "ได้ครับเจ๊....." "พล...ไม่ติดธุระแน่นะ...เจ๊เกรงใจ..." เสียงเจ๊ลี่ดังอ่อย ๆ เต็มไปด้วยจริต หน้าตาแพรวพราว "ผมว่างครับเจ๊.....ว่าแต่เจ๊จะไปกี่โมงล่ะ..." "สักสองทุ่ม....เข้ามารอเจ๊ในออฟฟิสก่อนสิ...." เจ๊ลี่พูดจบก็เปิดประตูออฟฟิสกว้างขึ้น เบี่ยงตัวเองออกจากการยืนขวางประตูอยู่ เหลือเพียงช่องว่างแคบ ๆ ให้ผมต้องเบี่ยงตัวเดินผ่านเข้าไป ผมทำท่าลังเล เพราะขืนเดินแทรกตัวผ่านเข้าไปเช่นนี้ คงได้เสียดสี กับเนื้อตัวอวบ ๆ ขาว ๆ ของเจ๊ลี่เป็นแน่ "เข้ามาสิ....ไม่ต้องเกรงใจ..." เจ๊ลี่เร่งเมื่อเห็นผมลังเลอยู่ คงคิดว่าผมเกรงใจที่จะต้องเข้าไปรอในออฟฟิสเย็นฉ่ำ แต่ที่ผมลังเล นะเป็นเพราะกลัวอย่างอื่นมากกว่า เจ๊ลี่เร่งให้ผมรีบเข้าไปรอในออฟฟิสอีกครั้ง คราวนี้ผมเลยไม่เกรงใจแล้ว พยายามเดินตัวลีบ ๆ ผ่านร่างอวบ ๆ ขาว ๆ ของเจ๊ลี่เข้า ไปในออฟฟิตแล้วก็ตามที แต่ทรวงอกขนาดไม่ต่ำกว่า38 ที่ตั้งตระหง่านของเธอ ก็แทบจะเสียดสีกับท่อนแขนของผม กลิ่นน้ำหอม อย่างดีโชยออกมาจากร่างอวบขาว ที่มองมายังผมด้วยสายตาแพรวพราว "แหมมมม...พลนี่ขี้เกรงใจจริงนะ ดูเดินเข้า...." ผมเดินตัวงอ ๆ ไปนั่งรอที่โซฟาตัวเล็ก ๆ เสียงเจ๊ลี่หัวเราะคิก ๆ คงนึกว่าผมเกรง กลัวบารมีและเกรงใจเธอเป็นแน่ จึงต้องเดินตัวงอ ๆ เช่นนี้ แต่เธอหารู้ไม่ว่าที่ผมต้องเดินตัวงอ ๆ เช่นนี้ เพราะท่อนลำในกางเกง ของผมมันกำลังลุกแข็งตัวขึ้นมาต่างหาก ใครไม่มาเป็นผมคงนึกว่าเวอร์ แต่ถ้าลองมาเห็นการแต่งตัวเจ๊ลี่เข้าละก็ จะต้องเข้าใจและ เป็นเช่นผมแน่นอน หุ่นอวบอัดนมเป็นก้อนพุ่งตระหง่านออกมาจากเสื้อยืดคอกว้าง ที่คว้านลึกจนมองเห็นฐานนมขาว ๆ เต็ม ๆ ตา แม้นมทั้งก้อนมันจะซ่อนอยู่ในบราก็ตามที แต่มันคงเป็นบราแบบดันทรงเป็นแน่ นมเนื้อของเจ๊ลี่ถึงอวบล้นพ้นขอบบราขึ้นมาขนาดนี้ ยิ่งช่วงล่างยิ่งแล้วไปใหญ่ ลำขาอวบ ๆ ขาว ๆ ได้รูป ที่โผล่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นสีขาวตัวเล็ก ๆ มีไรขนอ่อน ๆ ปกคลุมไปทั่ว ทำให้นึกจินตนาการภาพไปได้ว่าเจ๊ลี่จะมีขนในที่ลับดกแบบลำขาเธอหรือไม่ แม้ผมจะพยายามไม่มองไปที่กลางหว่างขาขอเจ๊ลี่ตรงๆ แต่การที่แกมายืนอยู่เบื้องหน้าในขณะที่ผมทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาเช่นนี้ เนินเนื้ออวบอูมกลางหว่างขาของเธอก็อยู่ในระดับเดียวกับ สายตาของผมเลยทีเดียว จนผมอดที่จะแอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอถี่ ๆ ท่อนลำแข็งโปนในกางเกงยีนส์มันก็เลยยิ่งแข็งผงาด มากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ "พลรอเจ๊ที่นี่นะ...ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว...." พูดสร็จเจ๊ลี่ก็หันกายเดินออกประตูด้านหลัง อันเป็นทางเข้าบ้านพักของเธอ ยามเยื้องย่างสะโพกอวบกลมผึ่งผายที่อยู่ในกางเกงสีขาวตัวเล็ก ๆ ฟิต ๆ ถูกรัดจนเป็นก้อนกลม ๆ ไหวระริก ๆ เป็นจังหวะที่ย่างก้าว ผมมองตามกลืนน้ำลายเหนียว ๆ คงคอก้อนใหญ่ ๆ พร้อมกับใช้มือกดท่อนลำในกางเกงของผมวุ่นวายไปหมด ไม่งั้นมันคงตั้งเป็น เสากระโดงเรือเป็นแน่ เจ๊ลี่หายเข้าไปนานมากร่วมชั่วโมงก็ยังไม่ออกมา ผมเลยหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านรอไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู ด้าน ที่เจ๊ลี่แกหายเข้าไป แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมอง สาวที่เปิดประตูเข้ามากลับเป็นน้องเฟย เด็กสาวท่าทางหยิ่ง ๆ ปรายตามองผมอย่าง เหยียด ๆ แม่ลูกคู่นี้ ถ้าพูดถึงรูปร่างหน้าตาแล้ว ไม่ห่างกันนัก สวย หมวย หุ่นสบึม พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ด้านอุปนิสัยใจคอกลับ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เจ๊ลี่นั้นพราวสเน่ห์ พูดจาอ่อนหวานแม้กับคนขับแท็กซี่อย่างพวกผม สายตาที่แกมองมายังพวกผมนั้น ไม่ เคยมีแววรังเกียจเดียจฉัน ว่าพวกผมต่ำชั้นกว่าตัวแก แต่น้องเฟยผู้เป็นลูกสาวนี่สิ กลับมองพวกผมด้วยสายตาหยิ่งยะโส คงเห็นว่า พวกผมเป็นเพียงผู้เช่ารถแท็กซี่ของพ่อเธอมาหากิน ต่ำชั้นกว่าเศรษฐีแบบครอบครัวเธอ น้องเฟยเดินลงเท้าตึง ๆ เข้ามานั่งที่โซฟาตัวยาวตรงข้ามกับผม ยามเธอนั่งลงก็ไม่ได้มีคุณสมบัติของกุลสตรีเสียเลย กระโปรงนัก เรียนลายสก็อตตัวสั้น ๆ อันเป็นเครื่องแบบของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ จะถลกเลิกขึ้นมาจนถึงกึ่งกลางขาอ่อนขาวเนียนแค่ ไหนเธอก็ไม่สน พอนั่งปุ๊กลงมาก็คว้านิตยสารวัยรุ่นที่กองอยู่บนโต๊ะกลางขึ้นมาอ่าน ทำเสมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ในห้อง เมื่อเธอไม่สนไม่ทักทาย ผมก็่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ของผมไปเงียบ ๆ แต่ก็อดที่จะลอบส่งสายตาไปมองลำขาวอวบ ๆ ขาว ๆ ของ น้องเฟยไม่ได้อยู่ดี น้องเฟยเธอยังคงนั่งอ่านนิตยสารของเธอไปอย่างเพลิดเพลิน มีบางครั้งหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ คงชอบใจกับเรื่อง ราวที่พิมพ์อยู่ในนั้น ท่านั่งของน้องเฟยยิ่งไม่ระวังตัวมากขึ้น เธอสั่นขาอ้า ๆ หุบ ๆ จนบางคราวเธออ้าขาออกกว้างและค้างไว้เช่นนั้น นับว่าเป็นบุญตาของผมที่สามารถมองลึกเข้าไปในช่องว่างหว่างขาของเธอจนเห็นปลายชั้นในเป็นรูปสามเหลี่ยมรำไร ๆ ผมทำทีเป็นนั่งสนใจอ่านหนังสือพิมพ์ที่กางขึ้นปิดหน้า แต่ก็ลอบชำเลืองมองหว่างขาน้องเฟยหลาย ๆ ครั้ง จนมั่นใจว่าน้องเฟยไม่ สนใจผมแน่แล้ว เธอยังคงสนุกสนานกับการอ่านของเธอโดยไม่เคยเงยหน้าขึ้นมองมาทางผม คราวนี้ผมเลยจ้องมองจ้องลุ้นภาพ กางเกงในของน้องเฟยที่ปรากฎวับ ๆ แว๊บ ๆ ตามขาที่เธอกาง ๆ หุบ ๆ อย่างเพลิดเพลิน ท่อนลำอวบ ๆ ของผมเริ่มแข็งตัวขึ้นมาหน่อย ๆ หลังจากที่สงบไปได้พักใหญ่ การแอบมองแอบลุ้นเช่นนี้ช่างสร้างอารมณ์ได้ดียิ่ง กว่าการได้เห็นแบบจะ ๆ เสียอีก เพียงไม่นานท่อนลำในกางเกงของผมก็แข็งโปนขึ้นมาจนต้องแอบเอามือไปกดให้มันสงบบ่อย ๆ ผมไม่ทราบหรอกว่าเนื้อความในนิตยสารวัยรุ่นเล่มที่น้องเฟยกำลังอ่าน จะมีบทรักบทพิสวาทอยู่หรือไม่ แต่บ่อยครั้งที่ผมสังเกต เห็นว่ามือเล็ก ๆ ของน้องเฟยเอื้อมลงไปกดคลึงเบา ๆ ที่เนินเหนือหว่างขา บางคราวก็ซุกมือคาไว้พร้อมขยับขาหนีบเข้ามานิ่ง ๆ ท่านั่งตัวตรงยกหนังสืออ่านบังหน้าของน้องเฟยก็เปลี่ยนเป็นเอนหลังพิงพนักโซฟาสบาย ๆ ยกหนังสือขึ้นอ่าน จนผมสามารถมอง ลอดเข้าไปเห็นทรวงอกอวบ ๆ กลม ๆ ที่ดันสาบเสื้อนักเรียนจนมันแยกออก กระเพื่อมสะท้านขึ้นลงเบา ๆ นองเฟยยังคงอ่านหนังสือวัยรุ่นของเธอไปเรื่อย ๆ ไม่ได้สนใจผมที่นั่งอยู่โซฟาตรงข้าม เสมือนว่าผมนั้นไม่มีตัวตนในออฟฟิส ของแม่เธอยังงั้น ขาของเธอยังคงอ้า ๆ หุบ ๆ อยู่เช่นเคย จนครั้งหลัวสุดเธอหุบขาของเธอเข้ามาจนสนิท พร้อมยกขาอีกข้างขึ้น ไขว่ทับกันไว้นิ่ง ๆ นาน ๆ จนผมได้ยินเสียงถอนหายใจของน้องเฟยดังเฮือก ๆ ก่อนที่เธอจะปิดหนังสือลง พร้อมกับจ้องดวงตา กลมโตของเธอมองผมเขม็ง สายตาของเราทั้งคู่สบกันตรง ๆ น้องเฟยเธอคงรู้แน่ว่าผมนั้นจ้องมองเธออยู่ด้วย ผมตกใจจนทำ หนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือร่วงหลุดเสียงน้องเฟยหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ ชอบใจ แต่เธอก็ไม่พูดต่อว่าอะไรผม ซึ่งมันก็ทำให้ผมประหลาด ใจเช่นกัน เพราะคาดว่าเธอคงด่าต่อว่าผมแน่ ที่เห็นผมแอบมองเธอเช่นนี้ เสียงโทรศัพท์ของน้องเฟยดังขึ้น คงเป็นเพื่อนชายของเธอโทรมาหาแน่ เพราะผมได้ยินเสียงเธอแอบแอ๊บแบ๊วคุยกับเพื่อนชาย ของเธออย่างอ่อนหวาน เสียงเรียกชื่อพี่เวียร์ ๆ อย่างสนิทสนม ผมไม่ค่อยสนใจฟังนัก กลัวจะโดนน้องเฟยต่อว่าเรื่องเสียมารยาท แต่น้องเฟยเธอก็ไม่ลุกขึ้นไปคุยที่อื่นเช่นกัน ยังคงเอนตัวพิงพนักโซฟาตามสบาย มันคงสบายมากจนกระทั่งเธอเผลอกางขาออก มาจนกว้าง อีกทั้งชายกระโปรงลายสก็อตของเธอมันก็เลิกสูงขึ้นไปจนคลุมอยู่แค่ปลายเนินหีเท่านั้น

3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากอ่านต่อเร็วๆจังครับ

family journey กล่าวว่า...

เจ้าของเรื่องนี่เขียนได้เท่านี้ก็เสียชีวิตไปแล้วครับ