ขายของ
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554
With No Remorse Chapter 12
With No Remorse
Chapter 12
การุณย์เปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกถึงแสงแดดที่ส่องเข้ามาจนแสบเคือง ภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือเพดานสีอ่อน
ขาวสะอาด รอบกายอากาศเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ รอบข้างมีแต่ความเงียบสงัด ภาพที่เห็นทำเอาเขามึนงงไป
ชั่วขณะ สมองที่ยังมึนงงด้วยฤทธิ์ของยาหรืออะไรก็ตาม การุณย์เหลือบมองร่างกายที่พันด้วยผ้าซับเลือดผืนหนาพร้อมกับ
ความเจ็บหนึบ ๆ ที่ไหล่ขวาและท่อนสะโพก สายตากวาดมองไล่ไปตามเพดานและผนังห้องจนตระหนักได้ว่าตนเองนอน
อยู่บนเตียงคนไข้ พร้อมกับที่ความทรงจำครั้งสุดท้ายวาบขึ้นมา เขาบังคับรถเก๋งแล่นราบเรียบไปตามทางสายเปลี่ยวที่
มืดมิด แสงไฟจากรถคันที่ตามมายามสาดไฟสูงขอทางแล้วแซงขึ้น เสียงดังข้างตัว เสียงโลหะกระทบตัวรถและเศษกระจก
ที่ปลิวกระจาย ปฏิกิริยาของตนที่ทำงานอัตโนมัติโดยหักหัวรถหลบ ห้ามล้ออย่างมั่นคงขณะที่ตัวรถเซลงข้างทาง เสียง
กรีดระงมด้วยความตกใจของผู้หญิงสองคนที่กล่าวได้ว่ามีความสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาในปัจจุบัน การุณย์พลิกศีรษะ
มองซ้ายขวาไปทั่วห้องกะทัดรัดแล้วพบว่าตนเองนอนอยู่เพียงเดียวดาย ความตระหนักรู้ด้วยสติมั่นคงบอกตนเองว่า
เกิดอะไรขึ้น เขาเหลือบสายตาไปจนพบสิ่งที่ต้องการ ความเจ็บร้าวไปทั้งร่างเสียดแทงขึ้นมายามที่เขาพยายามยืดแขน
ขึ้นไปที่ปุ่มกดเรียกพยาบาล อึดใจถัดมาประตูห้องก็เปิดผางเข้ามาพร้อมกับพยาบาลสองคนกรูเข้ามาตามติดด้วยบุรุษ
ในเครื่องแบบอีกคนหนึ่งที่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหูพลางกรอกเสียงลงไป
อึดใจถัดมาการุณย์นอนนิ่งมองไปมองมาพร้อมกับตอบคำถามในขณะที่พยาบาลทั้งสองสาละวนตรวจอาการทั่วไป
นายแพทย์ในชุดเสื้อคลุมสีขาวเดินพรวด ๆ เข้ามาแล้วทำงานของตน ความสับสนในห้องทำเอาสมองที่มึนงงของเขา
หมุนติ้วจนต้องปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง เสียงการทำงานของหมอและพยาบาลยังคงดังเข้ามากระทบโสตขณะที่บางคน
เดินเข้าออกห้องเป็นระยะ มือข้างหนึ่งวางลงบนท่อนแขนขวาพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำ
“ไอ้ต้น เป็นไงบ้างวะเพื่อน” การุณย์เปิดเปลือกตารับภาพของเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่อยู่ในเครื่องแบบแห่งกองทัพบกยืนอยู่
ข้างเตียง “กระดูกแข็งนะมึง แดกลูกอาก้าเข้าไปสองเม็ด เอามึงไม่อยู่จริง ๆ”
“คุณดากับยายรจ เป็นไงบ้าง” เสียงของตนเองแหบแห้งจนเขาเองก็ตกใจ
“มึงแหละหนักสุด คุณดาแต่ขาเดาะ โดนเฉี่ยว ๆ ไป เย็บแค่สี่ห้าเข็ม ก็พายายรจกลับบ้านไปตั้งแต่วันนั้น ตัวยายรจไม่โดน
อะไรมากกว่าเศษกระจกนิดหน่อยกับข้อมือซ้น เบาสุดแหละ กูโทรบอกแล้วให้พลขับมึงไปรับแล้ว เดี๋ยวคงมากันแหละ”
การุณย์พยักหน้ารับ
“แล้วงานกูล่ะ”
“มึงไม่ต้องห่วง ตอนนี้กูดูแทนมึงอยู่ นอนให้เพลิน ๆ ไปก่อน กว่าจะกลับมาทำต่อคงสักเดือนมั๊ง ตอนนี้รวบรวมข่าวหาตัว
สั่งถล่มมึงอยู่ ส่วนไอ้โรงปั๊มยานั่น ไอ้วุฒิกับชาติชายมันถล่มราบคาบเผาทิ้งเกลี้ยงไปแล้ว”
“ผู้การพักผ่อนมา ๆ นะครับ ผม แล้วเย็น ๆ ผมจะแวะมาดูอีกครั้งนะครับ” นายแพทย์ชะโงกหน้ามาบอกก่อนจะเดิน
ออกไปจากห้องพร้อมกับพยาบาล ปล่อยให้การุณย์อยู่กับเพื่อนสองคน
“ขอบคุณครับ หมอ” การุณย์และเพื่อนมองตามหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องไป “กูหลับไปกี่วัน”
“ห้า สองวันแรกมึงเจียนอยู่เจียนไปเหมือนกันแหละ คุณดากับยายรจมานั่งเฝ้าทุกวัน นี่เดี๋ยวคงมาแล้ว”
“แล้วงานไปถึงไหนแล้ววะเนี่ย”
“ไอ้ต้นเอ๊ย มึงพักเถอะ กูจะคอยมาบอกมึงเอง” เพื่อนบอกการุณย์ แต่พอมองสบสายตาแน่วแน่ของการุณย์ก็ถอนหายใจ
“ตอนนี้กำลังหาข่าวเพิ่ม ตอนนี้กำลังยืนยันว่าเป็นฝีมือไอ้เสี่ยกิมเล้งหรือเปล่า”
“อืมม แล้วเด็ก ๆ เป็นไง”
“กูปล่อยพักอยู่ วันนี้จะสรุปข่าวตอนทุ่มครึ่ง แล้วพรุ่งนี้กูจะมาเพ็ดทูลมึงเอง แต่มึงต้องพักเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ กูขี้เกียจ
ทำงานมึงอยู่หรอก”
“ขอบใจเว้ยเพื่อน ยังไงมึงก็จัดการไปเลย” การุณย์บอกเพื่อนที่พยักหน้ารับ พอดีกับที่ประตูห้องเปิดอ้าออก กานดาจูงมือ
รจนาเดินเข้ามาประชิดเตียง ชาติชายกับวรวุฒิเดินตามเข้ามาทีหลัง
“เป็นไงคะ เจ็บไหม หิวน้ำไหมคะ ปากแห้งเชียว” กานดามองหน้าเข้ม ๆ ด้วยความห่วงใยอย่างสุดซึ้ง มือนุ่มเรียวปะป่าย
ไปตามร่างกายบึกบึนที่นอนอยู่บนเตียง
“คุณอาเป็นไงบ้างคะ” เสียงรจนาดังประสานไปกับกานดา มือหยิบแผ่นชาร์ตจากช่องปลายเตียงขึ้นดู “ปกติแล้วนี่คะ
แต่เม็ดเลือดน้อยไปหน่อย”
“แหม คุณดากับหนูรจจะให้ไอ้ต้นมันตอบใครก่อนดีล่ะครับเนี่ย” เพื่อนของการุณย์ส่งเสียงกระเซ้า ทำเอาสองสาวต่างวัย
หน้าเหรอแล้วแก้มก็ขับเลือดซ่านขึ้นมาจาง ๆ การุณย์นอนยิ้มกริ่ม มองกานดาสลับกับรจนาด้วยความตื้นตัน
“อีกสองสามวันคงกลับได้แล้วครับ” การุณย์พูดเรื่อย ๆ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“ตาย นี่ไม่ได้เป็นไข้นะคะ จะกลับได้ไง แล้วหมอที่ไหน...” กานดารัวคำพูดก่อนจะหยุดเมื่อเห็นการุณย์นอนยิ้มกริ่ม
“แหม ยังจะมาหยอกอีก นี่ถ้าไม่ได้เจ็บแบบอยู่อย่างนี้จะตีให้”
“เฮ้ย พวกเรา” เพื่อนของการุณย์หันไปมองสองหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหลัง “ออกไปให้เขาตีกันก่อยเว้ยเฮ้ย หนูรจด้วย
ไปกับอาดีกว่า เดี๋ยวสักพักค่อยขึ้นมาดูไอ้ต้นมัน”
“แต่คุณอาคะ” รจนาส่งเสียงประท้วง
“เออน่า มาเหอะ วุฒิ ชาย ไป ลงไปกินกาแฟกันสักครึ่งชั่วโมง ไป” นายพันเอกเดินนำหน้าหนุ่มสาวทั้งสามออกไป
จากห้อง พลันที่เสียงประตูลั่นปิดสนิทลงการุณย์ก็ดึงมือกานดาขึ้นมาจูบเบา ๆ
“ผมเป็นห่วงคุณดามาก เจ็บมากไหมครับ”
“ไม่หรอกคะ ดาโดนแค่เฉี่ยว ๆ อีกสองวันจะมาตัดไหมแล้ว” เธอพูดพลางดึงไหล่เสื้อตัวหลวมให้เขาเห็นผ้าก๊อซที่ปิดแผล
ตรงต้นแขน “คุณแหละที่โดนหนักกว่าเพื่อน”
“คุณดากับยายรจไม่เป็นไร ผมก็ดีใจแล้วครับ”
กานดาขยับประชิดเตียงแล้วก้มลงประทับเรียวปากอ่อนนุ่มลงกับริมฝีปากของการุณย์ ความอบอุ่นแผ่ซ่านขึ้นมาพร้อมกับ
ความโล่งใจของทั้งสองคนที่บุคคลอันเป็นที่รักปลอดภัย เมื่อเธอถอนริมฝีปากออกไปการุณย์จึงเห็นหยาดน้ำหล่อรื้นดวงตา
คู่งามนั้น
...........................
“คืนนี้ดิฉันเข้าเวรพอดี จะได้เฝ้าคุณอาด้วย ให้คุณอากานดาพักก็ได้” รจนาพูดพลางวางกระเป๋าถือลงบนโต๊ะแล้วเปิดตู้เย็น
รินน้ำใส่แก้วยื่นส่งให้ชาติชาย
“ก็แม่เขาอยากเฝ้าด้วย ก็ตามใจเขาเถอะครับ คุณรจจะได้ไม่ต้องห่วงด้วย” ชาติชายรับแก้วน้ำมาดื่ม
“งั้นเดี๋ยวดิฉันอาบน้ำก่อน จะได้เตรียมตัวไปเข้าเวร” เธอพูดแล้วขยับหันตัวแต่ชะงักเมื่อมือแข็งแรงเอื้อมมาแตะแขนเบา ๆ
“คุณรจยังไม่ให้คำตอบผมเลย”
“เรื่องอะไรคะ” คิ้วเรียวโก่งยกขึ้น
“เรื่องที่ผมขอความกรุณาให้คุณรจมาเป็นภรรยาผมไงล่ะครับ” คำพูดตรง ๆ ขับแก้มนวลแดงระเรื่อ
“.....” ริมฝีปากเม้มจนเหลือเพียงเส้นบาง ๆ
“ผมล่วงเกินคุณรจไปแล้ว ผมต้องขอโทษ แต่มันไม่ไช่เรื่องที่ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“งั้นคุณก็ ตั้งใจรังแกรจ”
“ตั้งใจครับ แต่ไม่ได้รังแก ผมนึกถึงน้องผมเปียมาตลอด”
“งั้น ก็ไปหาคนผมเปียซีคะ” เธอตอบแล้วหันตัวเดินตรงไปที่บันได ชาติชายเดินตามไปติด ๆ แต่พอถึงเชิงบันได้รจนา
ก็หยุดกึกหันขวับกลับมา ชาติชายจึงชนเข้าไปเต็มที่ ชาติชายยกแขนขึ้นรวบร่างเล็ก ๆ บาง ๆ นั้นไว้ยามที่เสียหลักเซไป
“ว้าย..” รจนาร้องเมื่อโดนร่างบึกบึนปะทะเข้าเต็มที่จนเสียหลัก พอทรงตัวได้ก็หยิกหมับเข้าที่แขน “นี่จะรังแกกันอีกละ”
“เปล่านี่ครับ ผมแค่ชนเท่านั้นเอง”
“แล้วกอดทำไม” สายตาคมวาวจ้องเขม็ง
“ก็คุณรจจะล้ม ผมก็กอดจะได้ไม่ล้ม” ชาติชายขยับแขนจะคลายกอด
“แล้วจะไม่กอดแล้ว” หางเสียงยกสูงเป็นคำถาม
“ผมอยากกอดคุณรจไปจนแก่ตายแหละครับ” จบคำจมูกเล็ก ๆ นวล ๆ นั้นก็ย่นขึ้นมา
“งั้นอย่าปล่อยนะ กอดไป” แขนเรียว ๆ นั้นยกขึ้นโอบรอบเอวพร้อมกับเสียงทอดหายใจ
ชาติชายกระชับอ้อมแขนรัดร่างเล็ก ๆ นั้นเข้าเต็มอ้อมกอดก้มลงจรดจมูกลงกับไรผมที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาสูดความหอม
ของเส้นผมและกลิ่นกาย เมื่อใบหน้าคมงามเงยขึ้นรับริมฝีปากของเขาจึงลดลงประทับลงกับเรียวปากอิ่มอวบอย่างบรรจง
รจนาถอนหายใจแผ่วยาวอุ่นซ่านไปทั่วร่างเบียดตัวเข้ากับอกอุ่นพร้อมกับกระชับแขนเรียวโอบกอด ริมฝีปากอิ่มบดรับ
ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างตั้งใจ ยามเมื่อปลายลิ้นของเขาสอดผ่านเข้ามากระทบปลายลิ้นของเธอนั้นความรู้สึกที่พุ่งขึ้น
เหมือนดังโดนกระแสไฟช๊อตเอาจนหวามสั่นไปทั่วร่าง ปลายลิ้นนั้นดั่งจะสูบเอาเรี่ยวแรงประดามีออกไปจากตัวเธอจน
ขาเปลี้ยอ่อนยวบ อกหนาแน่นแข็งแรงเบียดเอาเต้านวลของเธอจนแนบแน่นเจือความอบอุ่นแห่งร่างบุรุษที่เธอรู้ดีว่าจะ
พึ่งพิงได้ทุกเมื่อ
“ว้าย..” รจนาหวีดสั้น ๆ เมื่อร่างบางอวบโดนชาติชายช้อนอุ้มปลิวขึ้นติดอ้อมแขนแล้วพาเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้อง
ของเธอ บานประตูเปิดออกแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปวางลงบนเตียงอย่างทนุถนอม “จะรังแกกันอีกล่ะ”
ริมฝีปากโดนปิดด้วยปากชาติชายอีกคำรบจนเธอหวิวกายสั่น
“ไม่รังแกหรอก เดี๋ยวไม่มีแรงเข้าเวร” ร่างแข็งแรงผละออก แต่มือเรียวนุ่มของเธอก็คว้าข้อมือเขาไว้
“จะไปหรือคะ” ใบหน้าคมสันหันกลับมามอง
“ก็เดี๋ยวจะว่าผมรังแกอีกนะ หนูเปีย” ชาติชายเอ่ยเรียกด้วยนามที่เคยเรียกยามเป็นเด็ก สายตาคมกริบคู่นั้นส่งแวว
กระเง้ากระงอดปนกับอ้อนวอน
“ก็ อย่ารังแกซิ นะคะ” เสียงใสปนแววอ้อนจนชาติชายหันกลับมาลดตัวลงคู้เข่าที่ข้างเตียง ก้มลงประทับจูบ
“ได้ครับ ไม่รังแกหรอก” ปลายลิ้นชอนเข้ามาพันกับลิ้นเธออีกคำรบ รจนายกแขนขึ้นโอบรอบคอดึงเข้าหาตัวจูบตอบ
ยามนั้นกระดุมเสื้อเชิ้ตขยับไหว ไม่ถึงอึดใจมือแข็งแรงอุ่นผะผ่าวก็เลื่อนไหลผ่านอกเสื้อที่แบะอ้าเข้ามาประทับลงบน
เนินอกอวบ อุ้มมือแข็งแรงกดแนบลงบนยอดอกความอุ่นแทรกผ่านเสื้อชั้นในเข้ามาจนเธอร้อนซ่านไปทั้งอก แล้วมือ
แข็งแรงนั้นก็ค่อยประคองร่างเธอขึ้น แขนเรียวขยับยกให้เขาดึงเสื้อออกไปจากตัว อากาศอบอุ่นผ่านมากระทบร่าง
ก่อนที่เสื้อชั้นในขาวสะอาดจะหลุดออกไป ปลดปล่อยเต้าถันอวบครัดเคร่งออกมาจากเครื่องกำบัง ร่างบอบบางค่อย ๆ
เอนลงนอนแล้วอุ้งมือหนาก็กดลงมาบนยอดจะงอยถันจนมันลุกชันชู รจนาหลับตาลงเมื่อลมร้อนจากชาติชายเป่าลง
กับยอดเต้าอีกข้าง
“อึมมมมม” เธอครางยาวในลำคอเมื่อความร้อนสายหนึ่งพุ่งจากปลายลิ้นและริมฝีปากกระทบเข้ากับยอดจะงอยถัน
ร่างบอบบางของเธอยกขึ้นแอ่นอกส่งยอดเต้าเข้าสูริมฝีปากของชาติชายที่พลิกปลายลิ้นตวัดแผ่วจนเม็ดเนื้อตั้งชัน
ความอบอุ่น เสียวซ่านแล่นปราดมาจากยอดอกแผ่ไปจนทั่วลำตัวยามที่เขาดูดเม้มติ่งจะงอยถัน ยามที่ลิ้นนุ่มพลิกหัวนมเธอ
พลิ้วนั่นส่งความรู้สึกซ่านเสียวพุ่งปราดลงไปจนซ่านทั่วทั้งเนินเนื้อเบื้องล่าง อึดใจถัดมาชาติชายก็วนสลับอมเม้มจะงอยถัน
ทั้งสองเต้าสลับไปมาอย่างประนีตแผ่วเบา แวบหนึ่งของความคิดนั้นรจนานึกฉงนขึ้นมาว่าเหตุใดกระดุมกางเกงยีนส์ที่เธอ
สวมใส่จึงได้พ่ายแพ้แก่นิ้วแข็งแรงของชาติชายได้ง่ายนัก แต่สะโพกอวบกลมกลึงก็ยกขึ้นยามที่ชาติชายขยับดึง
เจ้ากางเกงตัวนั้นออกไปทางปลายขา อุ้งมือแข็งแรงวางประกบลงบนเนื้อโคกนูนตรงกลางหน้าขาเธอจนเธอเสียววาบวับ
แลตระหนักในบัดดลนั้นเองว่า ช่องหลืบถ้ำสวรรค์ของเธอบีบรัดขมิบตัวด้วยความร้อนผะผ่าวระคนเสียวซ่านจนขับหลั่ง
น้ำใสลื่นออกมาจนเปียกชุ่ม เรียวปากของเขานั้นไต่วนผละออกจากถันอวบลงไปตรงหน้าท้องแบนราบด้วยผิวผ่อง
นิ้วมือแข็งแรงแทงผ่านขอบกางเกงชั้นในตัวบางลงไปวนนิ้วไต่ระอยู่ที่ร่องประกบของกลีบเนิน ไสตัวแผ่วเบาไปมา
เกลี่ยหยาดน้ำเมือกใสลื่นไปตลอดร่องกลีบที่ประกบกัน รจนาบิดตัวด้วยความเสียวซ่านไปทั้งร่าง ริมฝีปากอิ่มห่อตัว
เป่าลมพรั่งพรูเมื่อมือแข็งแรงข้างนั้นดันขอบกางเกงตัวน้อยลงไปเบื้องล่าง มันจะหลุดลงไปอยู่ที่ใดนั้นเธอไม่ได้สนใจ
มันอีกเมื่อท้องน้อยสัมผัสลมหายใจร้อน ๆ ของชาติชายที่ลดใบหน้าลงหามัน ท่อนขาเรียวแข็งขืนขัดขวางมือแข็งแรงคู่นั้น
อยู่เพียงไม่ถึงอึดใจก่อนที่จะพ่ายแพ้แก่แรงที่ดันมันแยกออกจากกัน แล้วเรียวปากนั้นก็ประกบลงมากับเนินเนื้อ
ปลายลิ้นนุ่มแยงแหย่เข้ามาตามรอยแยกจนปะทะติ่งเม็ดโขดเนื้อที่ตั้งชันร้อนผ่าว
“อื๋ยยยยยย..ซซซซ” ริมฝีปากนวลอิ่มคางไม่เป็นส่ำ ยามที่ติ่งเม็ดกระสันโดนรุกด้วยปลายลิ้น เธอบิดตัวไปมายกมือขึ้น
กุมศีรษะของชาติชายกึ่งดึงกึ่งดันสะเปะสะปะ สะโพกอวบกลมขยับยกยักย้ายไปมาด้วยอารมณ์ที่ตื่นเพริด อึดใจถัดมาเธอ
ก็ปรือตาขึ้นมองยามที่ร่างแข็งแรงนั้นผละออก
ร่างแข็งแรงยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง สองมือดึงเสื้อยืดออกพ้นศีรษะเผยอกกว้างแข็งแรงออกสู่สายตา แล้วก็ขยับ
ยันกางเกงลงไหลลื่นไปกองที่ปลายเท้าก่อนขยับยกเท้าให้มันหลุดเลื่อนออกไป พลันที่สองมือดันขอบขากางเกงชั้นใน
ขาวสะออดพ้นแนวสะโพกลงล่าง ท่อนเอ็นเนื้อลำลึงค์ขนาดกำลังงามก็เด้งผึงออกมาจากผ้าที่เก็บงำมัน ลำเนื้อแข็งเขม็ง
ตั้งผงาดง้ำขึนกลางดงขนหนาทึบ ลำเอ็นพาดพันด้วยเกลียวเส้นเลือดสีคล้ำจนน่าสยดสยอง ลำเอ็นยาวไปจนบานออก
ที่ปลายเงี่ยงสีแดงเข้มเรียบมันวาวแผ่ออกแล้วหลุบลงไปที่ปลายหัว หยาดน้ำใสเม็ดน้อยปริ่มอยู่ที่ปากร่องรูปลายลึงค์
รจนาเสียววาบเมื่อร่างนั้นลดลงก้มหัวลงมาที่หน้าเนินขาที่อ้าออกรับลมหายใจอุ่นที่เป่าลงปะทะกลีบแคมจนอุ่นซ่าน
ร่างแข็งแรงบึกบึนพลิกขึ้นแทรกตัวลงกลางท่อนขาเรียวนุ่มที่แบะอ้าเปิดทางให้ สองแขนแข็งแรงช้อนท่อนขาเรียวนุ่ม
ยกขึ้นดันจนมันยกเข่านวลมาจรดลำตัว ความรู้สึกบอกตนเองว่าบัดนี้โคกเนินคูหาสวรรค์เปิดอ้าออกท้าทายสายตาของ
ชายหนุ่มที่ค่อย ๆ ลดใบหน้าลงจรดกลีบเนื้อที่ฉ่ำชุ่มไปด้วยหยาดน้ำเมือกใส
“อ๊ะ อืยยซซ” รจนาเปล่งเสียงสะดุดเมื่อโขดเม็ดเนื้อเสียวโดนปลายลิ้นนุ่มกดบี้ลงจนความเสียวพลุ่งวาบ สองมือเรียว
นุ่มนวลเอื้อมลงไปแตะที่ไหล่หนาแน่นก่อนจะขยำกำเกร็งเมื่อปลายลิ้นของชายหนุ่มลากกลาดลงไปยังปากถ้ำแล้ว
แหย่แยงกระดกแผ่วที่ปากรถ้ำส่งความเสียวซ่านพุ่งขึ้นจนเสียวไปจรดหนังศีรษะ สะโพกกลม ๆ ยกยักยันกลีบแคมบด
เข้ากับริมฝีปาก ลมร้อนอุ่นจากจมูกเป่าลงบนติ่งเนื้อจนซ่านวาบ ๆ มือแข็งแรงข้างหนึ่งก็ยืดขึ้นมากำกุมเต้าถันนวลเนียน
กดคลึงปลายจะงอยถันด้วยอุ้งมือหยาบ อกแน่นหนั่นยกขึ้นยันถันบดเข้ากับอุ้มมือพร้อมกับที่มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้น
ประกบลงกดมันแนบกับถันที่ตั้งรับ
“อื๊อยยยซซซซซซซ” รจนาครางด้วยเสียงสูงจนขาดหายเมื่อปลายลิ้นกวาดไปทั่วปากถ้ำเนื้อนุ่มแล้วกวาดวนไปรอบ ๆ
จนเธอรู้สึกเหมือนเนินเนื้อจะเบ่งพองจนแทบระเบิด มันเลียแผ่วพลิ้ววนเวียนอยู่ที่ปากถ้ำ และเล็มกลีบแคมเนื้อชิ้นน้อย
ที่เหมือนปีกเล็ก ๆ สองข้างดูดดึงด้วยริมฝีปากพร้อมกับขยับเลียแผ่ว มันขยับขึ้นมีที่ติ่งเม็ดเนื้อไวความเสียวดูดดุน
ด้วยปลายลิ้นส่งความเสียวจนเธอต้องกระดกสะโพกดันเนินโคกเนื้อเป็นจังหวะอย่างไม่อาจจะควบคุมมันได้ ปากถ้ำเนื้อ
ร้อนผ่าวด้วยเพลิงราคะ แฉะฉ่ำด้วยน้ำเมือกปนน้ำลายของชายหนุ่ม ที่ใช้ปลายลิ้นแซะแคะปากถ้ำแล้วลากขึ้นลงไป
ตามแนวกลีบเนื้อ และแล้วเธอก็ถึงกับดิ้นพราด ๆ ด้วยความเสียวจนสุดตัวเมื่อปลายลิ้นนั้นลากลงไปจนผ่านปากถ้ำ
แตะลงที่หนังรอยต่อระหว่างถ้ำเนื้อกับช่องทางด้านหลังแล้วกระดกแตะปากร่องช่องทางที่ไม่เคยมีใครโดนมาก่อน
ยามนั้นเหมือนความเสียวมันระเบิดพล่านไปจนทั่วตัว ร่างบาง ๆ กระเด้งกระดกสะโพกดันขึ้นลงถี่ยิบ สองมือเรียมขยุ้ม
ศีรษะของชายหนุ่มกดขยี้ลงกับเนินเนื้อที่ส่ายวนไปมาอย่างสุดกลั้น ร่างบางแอ่นหยัดเกร็งเหยียดจนสั่นระริกอยู่ชั่วอึดใจ
ความรับรู้ดับวูบไปจนมืดสนิท
ความรู้สึกค่อย ๆ กลับคืนมานั้นบ่งบอกว่าชาติชายขึ้นมานอนกอดเธอเอาไว้แนบชิด ร่างแข็งแรงเบียดร่างของเธอจนอบอุ่น
อย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจของตนเองยังหอบกระเส่า หยาดเหงื่อที่ผุดพราวขึ้นมาทั่วตัวทำให้เย็นระรื่นยามที่ลมโชยมาเป่า
ความรู้สึกในยามนี้เหมือนเพิ่งจะวิ่งมาอย่างสุดฝีเท้าจนเหนื่อยหอบ แต่รจนาก็รู้ดีกว่านั้นด้วยเนินโคกโยนีเนื้อยังคงผะผ่าว
ด้วยความเสียวที่โดนลิ้นของชาติชายเลียเร้าจนระเบิดความสุขไปครั้งหนึ่งแล้ว ใบหน้าคมสันเคล้าเคลียอยู่ข้างแก้มจน
เธอคันยุกยิกด้วยตอหนวดแข็ง ๆ เต้าข้างหนึ่งยังมีมือหยาบ ๆ นวดเคล้นคลึงแผ่วเบา สะโพกอุ่นด้วยท่อนเนื้อลำลึงค์แข็ง
ที่กดแนบอยู่จนรู้สึกถึงอาการที่มันเต้นอยู่ตุบ ๆ เธอส่งสายตาหยาดเยิ้มไปประสานกับสายตาที่มองจ้องอย่างลุ่มหลง
“รังแกกันจัง” เธอพ้อเสียงหอบเหนื่อย
“รักต่างหากครับ” เขากระซิบแผ่วเล็มติ่งหูเบา ๆ
“ไม่อยากจะเชื่อ” มือเล็กเรียวลดลงมาจับกำกุมท่อนลึงค์จนอุ่นไปทั้งมือ
“แล้วยังไงถึงจะเชื่อล่ะครับ” เขาขยับตัวให้มือเรียวนั้นกำเอ็นเนื้อรูดแผ่ว ๆ ได้ถนัดมือ
“นอนหงาย ซีคะ” นัยน์ตาคมคู่นั้นฉายแววออดอ้อนจนชาติชายพลิกตัวลงนอนหงาย ท่อนลึงค์ตั้งชันด้วยมือเล็ก ๆ ที่
เกาะกุมเต็มกำขยับมือขยำสลับรูดเบา ๆ ปลายหัวเบ่งบานผลุบโผล่เป็นจังหวะ
ร่างบาง ๆ นั้นพลิกขึ้นครึ่งนั่งจนเต้าอวบส่ายเคลื่อนไปมา แล้วหันหน้าเข้าหาร่างชายหนุ่ม เรือนหน้าสวยคมก้มลงจรด
ริมฝีปากลงกับปลายเอ็นแดงก่ำ ปลายลิ้นนุ่มแหย่ลงกดกับปากร่องเปิดปลายเอ็นส่งความเสียววาบไปทั่วลำลึงค์ ชาติชาย
ส่งเสียงครางในลำคอเมื่อริมฝีปากเรียวบางอ้าอมปลายท่อนเอ็นบาน ๆ เข้าไปอยู่ในความอุ่นชื้นแล้วลิ้นนุ่มก็กวาดวน
รอบปลายหัวพร้อมกับเรียวปากที่ออกแรงดูดแผ่ว ๆ เป็นจังหวะ มือที่กำกุมท่อนลึงค์ขยับเขยื้อนขึ้นลงตลอดความยาว
ของลำเอ็นเร่งส่งความเสียวซ่านไปทั้งแก่นเนื้อ มือเล็กนุ่มอีกข้างหนึ่งช้อนพวงถุงหนังไข่คู่ขยับขยำแผ่วคลึงเคล้นไตแข็ง
ทั้งคู่อย่างอ่อนละมุน ความเสียวพุ่งปลาบแปลบไปทั่วทั้งลำลึงค์ หน้าขา แผ่ซ่านไปจนทั่วตัว เมื่อเรียวปากขยอกกลืน
ท่อนเอ็นลงไปจนสุดลำคอแล้วถอนถอยพร้อมกับเม้มดูดให้ริมฝีปากลากลึงค์ตลอดลำยาว ลึงค์อวบเบ่งพองกระตุกวาบ ๆ
เมื่อโดนปลายลิ้นระรัวรัดเลียวนรอบขอบเงี่ยงไวความรู้สึกจนชาติชายต้องขยับเอว มือแข็งแรงจับประคองเส้นผมเบาสลวย
ไล้นิ้วไปตามพวงแก้มแล้วก็ต้องสูดปากกระตุกสะโพกเป็นจังหวะเมื่อเรียวปากขั้นเน้นดูดปลายหัวถอกจนเสียววาบวับ
ปลายลิ้นนุ่มเลียวนไปรอบ ๆ เงี่ยงลึงค์พร้อมกับศีรษะที่ก้ม ๆ เงย ๆ ส่งท่อนลึงค์เข้าออกปากจิ้มลิ้มเป็นจังหวะ ดวงตาสวย
คมช้อนขึ้นมองมายังสายตาของชาติชายที่ก้มลงมองพลางสูดปากด้วยความเสียว ภาพเรียวปากจิ้มลิ้มที่อ้าอมท่อนลึงค์
ของเขาจนคับแน่น ดวงตาคู่งามที่ช้อนขึ้นสบสายตาเขาเต็มด้วยความรักความหลง กระพุ้งแก้มที่โดนปลายหัวบานดัน
จนโป่งนูนเป็นจังหวะยามที่รจนากดปากลง เพิ่มความเสียวจนชาติชายรู้สึกเหมือนพร้อมจะระเบิดหยาดน้ำรักได้ทุกวินาที
บัดดลนั้น ทั้งกระพุ้งแกมที่ดูดดุนท่อนลึงค์กระชั้น ปลายลิ้นนุ่มที่โลมเลียปลายหัวบานเบ่งเน้นวน มือนุ่มที่กำคลึงหมุน
กระถอกกระชับและอีกมือหนึ่งที่เคล้นพวงแก่นไตในถุงหนังก็เร้าเร่งจนชาติชายร่างเกร็งแอ่น หยาดน้ำกามขาวขุ่นข้น
ถูกปลดปล่อยออกจากที่กักเก็บแล่นปราดผ่านท่อนลำลึงค์ที่เบ่งพองขึ้นจนสุดที่ ผ่านปลายหัวลึงค์พุ่งเข้าสูความอบอุ่น
ของกระพุ้งแก้มที่โอบรัดไปปะทะกับลำคอจนรจนาสะดุ้งเฮือก สำลักหยาดน้ำรักที่ท่วมถั่งท้นเข้ามาในปากอึกอักแต่ก็
กล้ำกลืนมันผ่านลงคอเรียวไป พร้อมกับมือกำกระถอกกุมรีดท่อนลึงค์เค้นเอาหยาดน้ำที่พุ่งอกตามมาเป็นระลอก ๆ เข้า
สู่ปากที่ขมิบดูดกลืนมันลงไปเป็นจังหวะ ชาติชายยกก้นดันท่อนเอ็นลึงค์ตั้งตระหง่านเสียบเข้าเรียวปากนุ่มขณะที่มัน
ฉีดพ่นหยาดรักเป็นจังหวะจนหายเข้าไปหมดสิ้น มือที่กำหกระถอกท่อนเอ็นและปลายลิ้นที่กวาดวนรอบปลายเอ็นเร่งเร้า
จนเสียวสะท้านแทบเหมือนท่อนลึงค์จะหลุดหายตามแรงดูดไปด้วย
ชาติชายนอนหอบหายใจเป่าปากพรู ๆ ขณะที่ร่างอวบอัดค่อย ๆ ขยับเคลื่อนขึ้นทาบทับ ใบหน้างามขยับขึ้นมาจนตรงกัน
สายตาคมที่จ้องเขม็งเข้ามานั้นทั้งหยาดเยิ้มทั้งอิ่มเอมทั้งเจือด้วยความซุกซน ท่อนเอ็นที่รจนาปลดปล่อยไว้นั้นเอนราบ
ทาบลงมากับหน้าท้องและโดนเนินโคกเนื้อพูนไรขนอ่อนทาบทับจนอุ่นซ่าน สะโพกกลมกลึงที่กดนาบอยู่นั้นขยับยก
กดคลึงท่อนลึงค์แผ่ว ๆ ถันอวบงามทั้งคู่แนบทาบลงกับอกกว้างของเขาแนบสนิท
“โดนแกล้งมั่ง เป็นไงคะ” ยามที่เธอเอ่ยปากนั้น ลมหายใจหอมกรุ่นของรจนาเจือด้วยกลิ่นคาวข้นของหยาดน้ำรักที่เธอ
อมกลืนเข้าไปหยก ๆ
“อยากแกล้งทุกวันเลยครับ” ชาติชายยกศีรษะขึ้นจูบเรียวปากนั้น รจนาจูบตอบแล้วส่งลิ้นเข้ามาพันตู
“งั้น จะแกล้งทุกวันให้ไม่มีแรงทำงานเลย จะดีมั๊ยเนี่ย” สะโพกกลมคลึงเอ็นเนื้อจนมันลุกแข็งขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง รจนา
ขยับขาจนมันสอดผ่านง่ามขาขึ้นมาพาดกลีบแคม เธอขยับขาขึ้นกางคร่อม พริ้มเปลือกตาหลับลงขณะที่ขยับตัวให้ท่อนเอ็น
แก่นกายของชาติชายขยับเข้าจรดปากถ้ำสวรรค์ สะโพกกลมกลึงกดลงช้า ๆ ให้กลีบเนื้อนวลแบะอ้าออกแล้วค่อย ๆ
กลืนท่อนเอ็นเข้าไปสู่ถ้ำอบอุ่น “อูยยยยย”
“อืมมมม” ชาติชายเองก็อดจะครางไม่ได้เมื่อท่อนเอ็นผ่านความคับแน่นเข้าไปสู่ช่องทางอันอบอุ่นช้า ๆ สองแขนยกขึ้น
กอดรัดร่างบาง ๆ ให้แนบกับตัวเองกระดกสะโพกดันท่อนเอ็นสวนทางแล่นสอดผ่านช่องทางคับแคบเข้าไปพร้อมกับที่
รจนากดสะโพกกลมลงมาดันโคกแคมเนื้ออ้าอมแก่นเอ็นเข้าไปจนสุดลำจนยันกึกกับไตเนื้อด้านใน
“อูยซซ เสียวววจังค่ะ” รจนากอดรัดร่างแข็งแรงแนบแน่นพลางขยับส่ายเอว
“ดีจังครับ อูยคับจัง” ชาติชายยกก้นดันกระเด้า
“อุ๊ย ๆ เสียวค่ะ คุณ.. อุย” ปากก็ร้องแต่สะโพกก็ขยับยักย้าย ท่อนลึงค์แข็งขมันขยับผ่านเข้าออกอาบด้วยหยาดเมือก
จนมันปลาบลื่นพราด ลำเอ็นขรุขระครูดผ่านผนังอ่อนนุ่มจนรจนาเสียววาบ ๆ หัวปลายเบ่งบานจนแน่นควงกวาดไปทั่ว ยาม
ที่มันแล่นเข้ามาจนสุดลำนั้นก็กระทบกับติ่งเนื้อภายในกึกกัก ส่งความเสียงพุ่งโพล่งขึ้นมาจนทั่วตัว เอ็นแข็งครูดเม็ดติ่ง
เนื้อแตดจนมันทั้งเสียวทั้งสบายจนเหลือจะบรรยาย รจนาเท้ามือลงกับพื้นเตียงดันร่างขึ้นนั่งคร่อมทับร่างแข็งแรง จ้องลงไป
ในดวงตาของชายหนุ่มพลางขยับสะโพกกระเด้าวนควงส่ายอย่างเมามัน ทั้งเสียวทั้งคันระยิบระยับ ชาติชายลดมือข้างหนึ่ง
ลงไปกำประคองสะโพกนวลลูบคลึงอีกมือหนึ่งโอบหลังเนียนยกตัวขึ้นยื่นปากขึ้นไปอ้าอมดูดเม้มจะงอยถันที่แกว่งไกวอยู่
เบื้องหน้า ปล่อยปลายลิ้นเลียตวัดพลิ้วจนรจนาสูดปากลั่น
“อูย ซี๊ดดดด เสียวจังค่ะ อุ๊ยยยย” ร่างบาง ๆ กระเด้งขึ้นลงตามแรงกระเด้าของชาติชายจนเหมือนกับเธอเองเป็นคนขย่ม
สะโพกลงกับแท่งเอ็นผลุบผลับ ถ้ำนุ่มหลั่งหยาดเมือกออกมาชโลมท่อนเอ็นจนท่วมท้นไหลย้อยออกมาตามลำเอ็น
“ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว อี๊ซซซซ” ร่างบางเกร็งจนตัวงอ บดกลีบเนินลงกับโคกโคนลึงค์แนบแน่นบดส่ายไปมา
ถ้ำสวรรค์บีบเคล้นตอดกระตุกวาบ ๆ จนชาติชายเสียวหัวถอก มือที่ประคองสะโพกดึงรั้งสะโพกกลมกลึงเข้ามาแนบแน่น
ขณะที่กระเด้าท่อนเอ็นที่จมมิดกั่นเข้าไปกระชั้นพลางส่ายควง มืออีกข้างประคองเต้าเนื้ออวบส่งจะงอยหัวนมหวานฉ่ำ
เข้าปากดูดเม้มพร้อมกับเคล้นคลึงอย่างดาลใจ รจนาเกร็งสะท้านไปทั้งร่างเมื่อความสุขพุ่งขึ้นจนสุดจะกลั้นก่อนจะทรุดตัว
ลงทาบทับชาติชายอย่างหมดแรง
“โอย รจมีความสุขจังค่ะ” ปากจิ้มลิ้มครางแผ่วโหยหอบกระเส่า
ชาติชายโอบร่างอวบนั้นแล้วพลิกขึ้นทาบทับ ท่อนเอ็นลึงค์ยังเสียบคาอยู่อย่างนั้น เข้าขยับตัวจนมั่นแล้วดันต้นขาดันปลี
ขาเรียวขึ้นจนยกลอย ขยับสะโพกถอนลึงค์ถอยครูดผนังถ้ำออกมายาว ๆ แล้วค่อย ๆ ดันมันสอดกลับเข้าไปจนมิดกั่น
เนื้อหนอกโคนลึงดันประชิดกับโหนกโคกกลีบจนแน่น เขาดันมันกระทุ้งสองสามทีแล้วสาวออกยาว ๆ จนปลายหลุดพ้น
ออกมากระดกหงึก ๆ แล้วกดมันไหลปราดมุดถ้ำทองไปจนมิดอีกครั้ง
“อูยยยเสียว ค่ะ เสียว” ปากจิ้มลิ้มครางไปพร้อมกับจังหวะที่ชาติชายขยับกระเด้าเนิบนาบ
“ดีไหมครับ”
“ดีค่ะ เสียวจัง ใจจะขาด..อูยยย ว้าย”
พั่บ..... หนอกเนื้อกระทบกันเต็มแรงเมื่อชาติชายเกร้งสะโพกดันท่อนเอ็นมุดพรวดเข้าไปจนร่างบางสะเทือน เต้าอวบ
สั่นไหวกระเพื่อม
พั่บ..... ชาติชายกระทั้นลำลึงค์มุดเข้าจนแน่นกระชับแล้วดันยึก ๆ ดันร่างอวบสะท้านไหว รจนาสะท้านกายส่ายสะโพก
สูดปากด้วยความมันร่องรูที่โดนลำเอ็นชำแรก
พั่บ..... คราวนี้ชาติชายจับพับในดันขึ้นจนแคมยกชูขึ้นรับท่อนเอ็นที่กระหน่ำเต็มลำ รจนากรีดเบา ๆ
พั่บ.. พั่บ... พั่บ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ชาติชายกระเด้ากระชั้นดันเอ็นเนื้อมุดพรวดพราดเต็มความยาวพลางขยับส่ายสะโพกไล่ตามสะโพกกลมกลึงที่บิดส่าย
ไปมาเหมือนจะยั่วให้เขาไล่ตาม ชาติชายเสียวจนกัดฟันสูดปากประสานกับเสียงหวาน ๆ ของรจนาที่สูดปากแข่งระงม
ไม่แพ้กัน
“อื๋ยยยยยยย” รจนาครางแล้วตัวเกร็ง ถ้ำเนื้อบีบรัดกระตุกวาบ ๆ สะโพกขยับยกส่ายร่อนเกร็งสะท้าน
“โอยคุณ พี่ชาย ขา ใจรจจะขาด เสียวอะไรอย่างนี้ อูย ๆ ๆ ๆ ๆ” รจนาร้องครางตามจังหวะที่ท่อนเอ็นกระทั้นกระเด้า
กระแทกเข้าใส่ ความสุขท่วมท้นจนถึงจุดสุดยอดไปอีกครั้ง ถ้ำสวรรค์หลั่งน้ำขมิบหลั่งออกมานองหน้าเนินเนื้อด้วย
ความกระสันเมื่อโดนเอ็นอวบบุกทะลวงเร่งเร้า
“อูย ผมก็เสียวจัง คุณรจแน่นดีจริง ๆ ผมแกล้งได้ทั้งวันทั้งคืนเลย อูย” ชาติชายกระซิบตอบพลางเกร็งเอวกระเด้าสวบ ๆ
“อย่าแกล้งรจเลย อูย .. ไม่ไหวแล้วค่ะ รจเสียว ว้าย” ร่างบางกอดกระชับเข้ามาอีกครั้งเมื่อความเสียวพุ่งขึ้นจนสุดจะกลั้น
ชาติชายกระชับอ้อมกอดรัดร่างสั่นระริกพร้อมกับดันเอวส่งท่อนลึงค์อวบบุกทะลวงโพรงถ้ำแน่นไม่ยั้งมือ หยาดเหงื่อผุดขึ้น
จนทั่วร่างทั้งสองคน พลันนั้นความกระสันของชาติชายก็พุ่งขึ้นจนสุดระงับ เอวกระเด้ากระหน่ำถี่ยิบจนเสียงหน่อเนื้อกระทบ
โคกแคมนูนดังทั่วห้อง ท่อนเอ็นเนื้อยามนั้นเบ่งบานจนพองคับสุดที่แล้วเอ็นแข็งท่อนนั้นก็ฉีดกระหน่ำหยาดน้ำรักอุ่นร้อน
พุ่งทะยานผ่านเข้าไปในช่องทางคับแน่นที่บีบรัดลึงค์อวบจนแทบขยับไม่ไหว สองหนุ่มสาวตระกองรัดกอดจนเนื้อตัว
แทบจะหลอมรวมกันยามเมื่อน้ำอุ่นร้อนฉีดพ่นเป็นสาย ๆ พุ่งเข้าถ้ำทองของสาวสวย
“อาซซซซซซ” ชาติชายครางยาวเมื่อท่อนเอ็นฉีดน้ำเป็นระลอก ๆ เอวดันลึงค์อวบกดแน่นเข้าไปจนสุดลำฉีดน้ำรักขาว
อาบชโลมปากมดลูกจนรจนาร้อนวาบ ๆ เสียวซ่านจนสุดระงับ
“อี๊ยยยยยยซซซซซซซ” ปากจิ้มลิ้มยามนี้กัดกรอดครางไม่เป็นภาษา ใบหน้าบูดเบี้ยวคิ้วเรียวขมวดย่นด้วยความเสียว
เรียกปากควานหาปากชายหนุ่มแล้วประกบจูบตะกละตะกรามดังคนกระหายน้ำที่เพิ่งจะพานพบแอ่งน้ำที่เย็นชื่น
สะโพกกลมกระดกดันสู้กับสะโพกแข็งแรงที่กดกระทุ้งดันเข้าเป็นจังหวะ ๆ จนค่อย ๆ คลายลง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น