ขายของ

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

With No Remorse Chapter 19

With No Remorse Chapter 19 ในห้องรับแขกนั้น ชาติชาย วรวุฒิ ศรัณย์ กับชายหนุ่มอีกสองคน นั่งล้อมโต๊ะตัวเล็กก้มหน้าคุยกันง่วน เสียงโทรศัพท์ วรวุฒิดังขึ้นเจ้าตัวจึงปลีกตัวไปรับโทรศัพท์ ครู่ใหญ่ ๆ ก็เดินกลับมา “เฮ้ย งานเข้า” เสียงดังตั้งแต่ตัวยังเดินมาไม่ถึง “ผู้การเรียก ไอ้ชายกับรัณย์ไม่ต้องเว้ย ไม่ใช่เรื่องนี้ เรื่องต่างด้าว เดี๋ยว พวกข้าไปรับงานก่อน” “งั้นผมติดรถกลับไปบ้านด้วยครับพี่” ศรัณย์ร้องบอกพร้อมกับเก็บของ “ดี กูกลับด้วย” ชาติชายบอกเรียบ ๆ ลุกขึ้นช่วยเก็บของ ขณะที่กำลังช่วยกันปิดบ้านนั่น โทรศัพท์ของวรวุฒิก็ดังขึ้นอีก “ว่าไง ยายก้อย... อ้าว.. แล้วไงล่ะ.. เดี๋ยวพี่จะออกไปทำงานก่อนแหละ.. เหรอ ได้ ๆ เดี๋ยวให้ไอ้ชายมันรอแล้วกัน แค่นี้” วรวุฒิปิดโทรศัพท์ขณะที่ชาติชายหันมามองเลิกคิ้ว “ชาย ไอ้ก้อยมันกำลังกลับบ้าน มันลืมกุญแจบ้านน่ะ เอ็งช่วยรอ ยายก้อยหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวมาแล้วค่อยกลับ” “ได้ แล้วเอ็งกลับมากี่โมง” ชาติชายบอกเรียบ ๆ “ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวไปแล้วจะโทรมาบอก ยังไงฝากดูด้วยแล้วกัน” วรวุฒิบอกพลางหยิบของ ชาติชายยักไหล่ “นี่ข้ามาเป็นขี้ข้าเอ็งแต่เมื่อไรวะ” ชาติชายบ่นพึมพำ วรวุฒิเดินโฉบเข้ามาใกล้ ๆ พูดกันให้ได้ยินกันแค่สองคน “หัดไว้ ไอ้ชาย ไอ้น้องเขย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พูดจบก็ออกเดินตัวปลิวออกจากบ้านไป ชาติชายกลับมานั่งที่โต๊ะเปิดโทรทัศน์ นั่งดูฆ่าเวลาระหว่างที่ไม่รู้จะทำอะไร “สวัสดีค่า พี่ชาย” เสียงใส ๆ ของสาวน้อยดังขึ้น ชาติชายหันไปดูเห็นสาวน้อยในชุดนิสิตกำลังถอดรองเท้า “สวัสดีจ๊ะ ร้อนไหม วันนี้ทำไมเลิกเร็วล่ะ บ่ายไม่มีเรียนเหรอ แล้วยังไงถึงได้ลืมกุญแจบ้าน” ชาติชายถาม สาวน้อย ยืนเบิกตาเลิกคิ้ว “พี่ชายยยย” เสียงถามแหลมสูงจนชาติชายเลิกคิ้วบ้าง “ทำไมเหรอ” “ก็โห ถามซ้า... ยังกะเป็นผู้ปกครองงั้นน่ะ” ตอบพร้อมกับเม้มปาก “ค่า ก้อยเลิกเร็วเพราะวันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวันเจ้าค่ะ บ่ายไม่มีเรียนเจ้าค่ะ แล้วเมื่อเช้าก็ตื่นสายไปหน่อย เตรียมกับข้าวกับปลาให้พี่แก้วอยู่ เลยลืมหยิบกุญแจบ้าน เจ้าค่า....” “โห แค่นี้ มีประชด” ชาติชายลุกเดินไปรินน้ำเย็น ๆ มายื่นส่งให้ “อ่ะ กินน้ำก่อนนะ” “พี่ชาย นี่บ้านก้อยนะ” “อ้าว จริงดิ งั้นไม่ต้องกินแล้วกัน” ชาติชายทำท่าจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม สาวน้อยพุ่งเข้าแย่งแก้วน้ำจากมือ ตอนที่มือ กระทบกันทำเอาน้ำกระฉอกรดทั้งสองคนจนเปียกไปด้วยกัน สาวน้อยยืนหน้าบึ้งขณะที่ชาติชายหัวเราะ เช็ดน้ำ ออกจากใบหน้าตัวเอง “ดูเด่ะ เปียกหมดเลย” คำพูดกระเง้ากระงอดทำให้ชาติชายยิ้มมากขึ้น “ยังจะมายิ้มอีก เดี๋ยวเหอะ” “เอาน่า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะไป๊” สาวน้อยสะบัดหน้า คว้าหนังสือเดินตึง ๆ ขึ้นชั้นบน ครู่ใหญ่สาวน้อยก็เดินลงมาโดยเปลี่ยนจากชุดนิสิตมาเป็นเสื้อยืดแขนกุดคอกว้างอวดเนินอกผุดผ่องกับกางเกงขาสั้น อวดเรียวขาระหง “พี่ชายกินอะไรดีคะ มื้อเย็นน่ะ” สาวน้อยชะโงกหน้าถามมาจากประตูห้องครัว “ไม่ละ เดี๋ยวพี่กลับแล้ว” “อ้าว เหรอคะ” เสียงสลดไปนิดหนึ่ง “พี่แก้วกลับมากินข้าวป่าวคะ” “ไม่รู้มัน มันบอกว่าเดี๋ยวจะโทรมาบอก” “แหม พูดไม่เพราะเลย ผู้ชายเนี่ย” “อ้าว...” “ก็จริงนี่คะ หรือจะเถียง” “ก็นิด ๆ หน่อย ๆ เองแหละน่า พี่ก็พูดกับเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง” “นั่นแหละ เดี๋ยวจะโทรไปฟ้องคุณป้า” “อ้าว...” “แน้..พี่ชายนี่ พูดเป็นแต่อ้าว อ้าว เหรอคะเนี่ย” “อ้าว... ไหงงั้นล่ะ จะให้พูดอะไรล่ะ” “ไม่รู้แล้ว โกรธแล้ว” พูดจบสาวน้อยก็สะบัดหน้าเดินหายลับขึ้นไปข้างบนปล่อยให้ชาติชายนั่งงงอยู่คนเดียว เขานั่ง ส่ายหัวเบา ๆ แล้วหันไปดูโทรทัศน์ต่อได้ครู่ใหญ่ ๆ สาวน้อยก็เดินตุ๊บ ๆ มายืนข้างหลัง “พี่ชายคะ จะกลับบ้านจริงเหรอ” “อ้าว เดี๋ยวพี่ก็ต้องกลับบ้านซีครับ เดี๋ยววุฒิก็คงกลับแล้วมั๊ง” “ไม่หรอกค่ะ พี่แก้วบอกว่าไม่กลับจะออกไปทำงานเลย คงอีกสักสามสี่วัน” “อ้าว เหรอ มันโทรมาแล้วเหรอ” “ค่ะ โทรมาเมื่อกี้ พี่ชายอยู่เป็นเพื่อนก้อยได้ไหมคะ” “ก็ได้จ๊ะ ค่ำ ๆ ค่อยกลับก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก วุฒิออกไปทำงานนี่พี่คงว่าง ๆ อยู่หรอก” “ไม่ใช่ค่ะ อยู่กลางคืนน่ะ” น้ำเสียงเริ่มกระเง้ากระงอด “อืมม จะดีเหรอ” ชาติชายครุ่นคิด แหงนหน้าขึ้นมองสาวน้อยที่ก้มลงมาจ้องตา “นะคะ นะคะ ก้อยอยู่คนเดียว เหงาด้วย เบื่อด้วย ทุกครั้งเลย” “แล้วให้พี่มาอยู่เป็นตัวตลกเหรอ พี่เล่นตลกไม่เป็นด้วยนา” “มาอยู่เป็นเพื่อนก้อยไงคะ แบบคุยกันน่ะ เผื่อก้อยถามการบ้านมั่ง” “งั้น.. พี่จะรู้เรื่องเหรอนั่น เรียนมาคนละเรื่องเลยน่ะนะ” “แหม ก้อยก็ถามที่พี่ชายรู้เรื่องซีคะ เหอะ ไม่อยากก็ไม่ต้องก็ได้” สาวน้อยเดินหายลับขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง สาวน้อยหายไปอีกพักใหญ่ก็เดินกลับลงมา “พี่ชายคะ พี่ชายจะไม่แต่งงานกับก้อยตามที่คุณป้าบอกใช่ไหมคะ” “หา อะไรนะ” ชาจิชายสะดุ้งลุกขึ้นนั่งตัวตรง “พี่ชายจะไม่แต่งกับก้อยตามที่คุณป้าบอกใช่ไหมคะ” “ใครบอกล่ะ” “ก็เนี่ย ก้อยบอกอะไรก็ไม่เห็นจะทำสักอย่าง” “อ้าว...” “ก็จริงนิ ก้อยขอให้มาอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่มา ใหิ้อยู่กินข้าวก็ไม่อยู่” “อ้าว...” “แล้วยังจะมากวนโทโสก้อยอีก ฮือ..” คราวนี้สาวน้อยยืนร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทางลงมาอาบแก้ม “เฮ้ย..อ้าว ร้องไห้เรื่องอะไร” ชาติชายลุกขึ้นเดินไปโอบไหล่สาวน้อยเข้ามากอดเบา ๆ “ขี้แยซะ..” “ไม่ต้องมาว่าก้อยเลย โกรธแล้ว” “โกรธอะไรเล่า พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แล้วก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่แต่งงานสักนิด แค่บอกว่าพี่อยู่ค้างคืนมันจะไม่ดี เท่านั้นเอง” ชาติชายกอดพลางลูบไหล่มน ๆ เบา ๆ กลิ่นกายสาวโชยเข้าจมูกรวยรื่น “แหม ก้อยโตแล้วนะคะ” “ก็นั่นแหละ อย่างที่แม่ว่านั่นแหละ ใครเขาจะมองไม่ดีไง” “ช่างเขาดิ” “แต่ก้อยจะเสียหายนะ” “เรื่องของก้อย คนอื่นไม่ได้มาเป็นอะไรกับก้อยนี่” “อ้าว...” “งั้นพี่ชายกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับนะคะ นะคะ นะ น้า...” ใบหน้าสวย ๆ อ่อนเยาว์นั้นเงยขึ้นออดอ้อน “อืมม ตกลง เดี๋ยวพี่โทรบอกศรัณย์ก่อน เขาจะได้รู้ว่าพี่ไม่กลับไปกินข้าวน่ะ” “ได้ค่า... งั้นก้อยไปทำกับข้าวแล้วนะคะ” ................... “เดี๋ยวคืนนี้มีของมาส่ง จ่าชดช่วยไปรับของหน่อย หลังขนส่งน่ะ” เสี่ยใหญ่บอกลูกน้องคนใหม่อดีต ตชด.นอกแถว “ครับ กี่โมงครับเสี่ย แล้วจะให้เอาไปไหนครับ” “สัก สี่ทุ่มน่ะ เอาไปเก็บไว้ที่บ้านที่บ่อสร้างก่อน ระวังด้วยล่ะ” “ได้ครับ แล้วเสี่ยล่ะครับ” “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอั๊วกลับบ้านเลย” เสี่ยใหญ่บอกแล้วลุกขึ้น “จ่าไปส่งที่บ้านแล้วก็ตามสะดวกแล้วกัน เสร็จแล้ว โทรบอกหน่อย แค่นั้นก็พอ เดี๋ยวอีกสักสามวันค่อยไปส่งของกัน” “ครับเสี่ย” เสี่ยใหญ่เดินนำหน้าจ่าตำรวจออกจากห้องทำงาน พอขึ้นนั่งก็หยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมากดหมายเลข ................... “ตกลงตามนั้นเลย เสี่ย ผมจะให้คนไปรับของ แต่ช่วงนี้คงต้องระวังตัวหน่อยแล้วนะเสี่ย ดูเหมือนมันจะใกล้ตัวเสี่ย เข้าไปทุกทีแล้วมั๊ง” ผู้ช่วยรัฐมนตรีหนุ่มใหญ่นอนเอกเขนกอยู่บนที่นอน “ครับ ผมมีคนคุ้มกันใหม่แล้วครับ ท่านไม่ต้องห่วงนะครับ” “อือมมม เสียดายลูกชายเสี่ยนะ ยังหนุ่มยังแน่น” “ท่านพอจะระแคะระคายว่าฝีมือใครไหมครับ” “ยังเลยนะ ทางนี้เงียบ ๆ อยู่ ผบ.ตร. ก็ไม่ได้ว่าอะไร” ผู้ช่วยรัฐมนตรีหันไปมองประตูห้องที่เปิดแง้มออก “แล้วคราวหน้า จะให้ใครมาส่งของล่ะ” “เดี๋ยวผมมาเองครับ ขับรถล่องมาเลยกับลูกน้องอีกคน คนเก่าโดนเก็บไปหมด ต้องค่อย ๆ หาคนมาแทนครับ” “ก็ดีนะ จะได้มาคุยกันบ้าง พาคุณพัชราภามาด้วยซี จะได้มาพักสมอง” ปากก็พูดอย่างหนึ่งแต่ในหัวนึกภาพเมีย สาวใหญ่ของเสี่ยกิมเล้ง ยามที่เปลือยกายให้เขาเอาท่อนเนื้อทะลวงรูฉ่ำน้ำเมื่อคราวที่แล้ว “เดี๋ยวคราวหลัง ผมพามาพักผ่อนครับ คราวนี้ส่งของเดี๋ยวจะเอิกเกริก” “พามาก็ช่วยปกปิดด้วยไง ก็โอเคนะเสี่ย งั้นแค่นี้นะ” ผุ้ช่วยรัฐมนตรีบอกตัดบทสนทนา “ครับท่าน สวัสดีครับ” ................... ชาติชายส่งจานที่ล้างจนสะอาดไปให้สาวน้อยที่รับไปเช็ดจนแห้งหมาดแล้วคว่ำวางลงกับตะแกรงสำหรับวางจาน “พี่ชายอยู่เป็นเพื่อนก้อยไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ” เสียงถามอ่อย ๆ “มันไม่ดีไงล่ะจ๊ะ” ชาติชายตอบเรียบ ๆ หันไปยิ้มให้สาวน้อยที่ยืนหน้าง้ำอยู่ข้าง ๆ ปิดน้ำที่ล้างจานอยู่แล้วเอาฟองน้ำ เช็ดอ่างล้างจานจนหมาด “ใครรู้เข้าเขาจะเอาไปพูด สาวน้อยก็เสียหายไง เกิดไปเข้าหูแม่เข้า มีหวังโดนเทศนากันอีก” คราวนี้สาวน้อยไม่ได้ออดอ้อนออกฤทธิ์แต่เดินขึ้นชั้นบนไปเงียบ ๆ ชาติชายถอนหายใจเบา ๆ จัดการปิดประตูหลังบ้าน แล้วไล่ปิดหน้าต่างครัวลงกลอน ปิดไฟแสงสว่างจนเรียบร้อย แล้วไล่ปิดมาถึงห้องนั่งเล่น จัดการปิดหน้าต่าง ปิดไฟ ในห้องเปิดไฟหน้าประตูบ้าน เงยหน้าขึ้นมองชั้นบนที่สาวน้อยหายเงียบขึ้นไปครู่ใหญ่แล้ว เขาชั่งใจก่อนจะปิด ประตูบ้านลงกลอนไว้ก่อน แล้วพาร่างเดินขึ้นชั้นบนตรงไปยังประตูห้องสาวน้อยที่ปิดเงียบ ยกมือเคาะประตูเบา ๆ พอไม่มีเสียงตอบก็ค่อย ๆ แง้มประตูมองเข้าไปในห้อง เตียงนอนว่างเปล่าพาให้เขาฉงนใจว่าสาวน้อยหายไปอยู่ที่ไหน แต่พอหันกลับมาร่างขาว ๆ ก็โดดเข้าใส่กอดคอแน่น อกอวบตันในเสื้อยืดบดอัดกับหน้าอก สองขาเรียวนวลรัด รอบเอวเขาไว้ ชาติชายโอบแขนรัดรับร่างประเปรียวนั้นไว้แน่นด้วยกลัวเธอจะหล่น “นี่แน่ พี่ชาย” ใบหน้างามจิ้มลิ้มยิ้มกริ่ม “อืมม อยู่นี่เอง เห็นเงียบ พี่เลยขึ้นมาดู จะกลับแล้ว” “ไม่ให้กลับ” สาวน้อยบอกแล้วแนบร่างเข้ากอดซุกหน้าลงกับซอกคอแน่น “ขี้โกงแล้วนะ” “ไม่รู้ล่ะ ก้อยไม่ให้กลับ” พูดแล้วกอดแน่นขยับตัวที่เลื่อนไหลทำเอาเป้ากางเกงไถเอากับเป้ากางเกงชาติชาย ปลุก ท่อนเนื้อขึ้นมาช้า ๆ ชาติชายใจหายเมื่อรู้สึกว่าท่อนเอ็นเนื้อโดนกระตุ้นอย่างที่สาวน้อยก็ไม่ได้ตั้งใจ “นี่สาวน้อย อย่าโกงซีครับ ปล่อยเถอะ” “ไม่ปล่อย ไม่ปล่อย” สาวน้อยขยับตัวรัดแน่นขึ้นแล้วก็ตื่นตะลึงตัวแข็งหน้าแดง เมื่อเป้ากางเกงที่แนบแน่นรู้สึกถึง ท่อนลำเนื้อของชาติชายที่แข็งขึ้นมาเป็นลำ พองตัวส่งความแข็งผ่านเนื้อผ้าขึ้นมากดโคกเนินตัวเอง “อุ้ย..” “หือ..เป็นอะไร” “ไม่รุ๊..” ใบหน้าแดงซ่านซุกเข้ากับซอกคอ แต่ก้นกลมกลึงขยับไปมาเบา ๆ “ก้อย หยุดนะ พี่ชายไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ” ชาติชายหน้าตาตื่นเมื่อรู้สึกว่าสะโพกกลมกลึงนั่นขยับจนเป้าโหนก ขยับไถท่อนเนื้อเขาอยู่เบา ๆ “น้องก้อย..” “ขา..” เสียงขานรับมาจากซอกคอดังสั่นกระเส่า เรียวแขนรัดร่างชาติชายจนรู้สึกถึงกระเปาะเต้าบดอัดเข้ามากับอกเขา “พอเหอะ นะจ๊ะ” “ไม่..” ใบหน้าที่เงยขึ้นสบตานั้นแดงซ่าน “อย่าดื้อซิครับ” “จะดื้อ..” ชาติชายรัดร่างนั้นแน่นขึ้นเพราะตัวสาวน้อยทำท่าจะไถลลง “สาวน้อย เดี๋ยวเลยเถิดนะครับ” “อืมม.. ช่างมัน” สาวน้อยตอบแผ่วหวิว พยายามรัดร่างตนเองไว้กับร่างชาติชาย “พี่ชายรักก้อยหน่อยซีคะ” “พี่ชายก็รักสาวน้อยอยู่แล้วนี่” ชาติชายขยับตัวเข้าไปในห้อง พยายามขยับตัวเดินไปเพื่อจะวางร่างสาวน้อยลงบนเตียง แต่นั่นก็เท่ากับว่าตัวเขาเองขย่มร่างสาวน้อยจนโหนกเนื้อที่เบียดอยู่กับท่อนเอ็นถูไถกันมากขึ้น “ไม่เอานี่ ก้อยอยากให้พี่ชายรักก้อย เหมือนรักพี่รจนะ” ชาติชายขยับเดินมาจนถึงที่นอนแล้วแต่วางไม่ลงเพราะแขน สาวน้อยรัดคอเขาแน่น จึงทำได้เพียงทรุดตัวลงนั่งกับขอบเตียง สาวน้อยก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเพียงคลายวงแขนยันร่าง อวบออกห่างพอจะจ้องดวงตาสุกใสตรงมาที่ดวงตาของเขา “พี่ชายรักก้อยได้ไหมคะ” “ได้จ๊ะ แต่พี่ว่ามันยังไม่ถึงเวลานะสาวน้อย” “ก้อยไม่อยากรอนี่คะ” ยามนั้นสาวน้อยรู้สึกถึงท่อนเนื้อแก่นกายแข็งเขม็งที่ตนเองนั่งทับอยู่ส่งผ่านความร้อนผะผ่าว แผ่ขึ้นจากหน้าเนินโหนกในกางเกงขาสั้นแผ่ขึ้นมาจนร้อนไปทั้งตัว ธรรมชาติทำให้เธอขยับดันโคกนูนในกางเกงแผ่ว ๆ ทำให้หน้าเนินโคกไถไปมา “เอาไว้ สาวน้อยเรียนจบก่อนดีกว่านะ” ชาติชายพยายามข่มกลั้นอารมณ์ทั้ง ๆ ที่โคกเนินสาวถูไถจนท่อนเอ็นเขาพอง แข็งจนอึดอัดคับแน่นอยู่ในกางเกง “ไม่เอา..” สาวน้อยจ้องหน้าชาติชายเขม็ง ดวงตาสุกใสเริ่มมีน้ำรื้นขึ้นมาเอ่อขอบตา ชาติชายก้มลงหอมแก้มนวลนั้นเบา ๆ สาวน้อยพริ้มตาหลับขับหยาดน้ำใส ๆ ไหลร่วงลงมาตามพวงแก้ม “ร้องไห้ทำไม สาวน้อย” ชาติชายจับศีรษะแนบลงกับหน้าอกกว้าง “ก็ พี่ชายไม่รักก้อย” “ใครว่าพี่ชายไม่รักก้อยล่ะ” “ก็พี่ชายเอาแต่จะกลับบ้าน แล้วก็ไม่ยอม.. ทำ..” ชาติชายดันไหล่น้อย ๆ นั้นผละออก นิ้วมือช้อนคางเรียวยกขึ้น ดวงตาสุกไสอาบด้วยหยาดน้ำตา เขามองจ้องลงไปใน ดวงตาคู่นั้นอึดใจใหญ่ ๆ จึงค่อย ๆ ก้มลงไป สัมผัสนุ่มนวลที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มจากเรียวปากที่แข็งแกร่งทำเอาสาวน้อยวาบไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนมีกระแสความร้อน พุ่งออกจากบริเวณที่ริมฝีปากประกบลงมานั้นแล่นวาบไปทั่วตัว เรี่ยวแรงดูจะเหือดหายไปจนหมดสิ้น กายสาวสั่นเทิ้ม ด้วยฤทธิ์คลื่นกระแสอันอบอุ่น แผ่นหลังรับความรู้สึกของสองมืออันแข็งแกร่งโอบกอดแนบรั้งตัวให้แน่นกระชับ พลางลูบไล้แผ่นหลังจนเธอรู้สึกอุ่นวาบ ดวงตาคู่งามหลับพริ้มลงแม้เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มจะถอนออกไปแล้ว ใบหน้าคมสันโลมไล้ลงมาตามลำคอ ลมหายใจอบอุ่นเป่าปัดลำคอผ่องจนสาวน้อยขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ความร้อนรุ่ม ก่อกำเนิดขึ้นบริเวณท้องน้อยแล้วค่อย ๆ แผ่กระจายออกจนวาบหวามซาบซ่าน อุ้งมือแข็งแกร่งช้อนขึ้นมาตามสีข้าง เลื้อยไต่ขึ้นมาตามตัวเสื้อเขี่ยปัดปลายนิ้วลงกับข้างเต้าอวบแล้วยื่นไหลเลื่อนเข้ามาประกบเต้าตูมเต่ง “ฮือ...” สาวน้อยส่งเสียงลอดจมูกเมื่ออุ้งมือร้อนผะผ่าวประกบลงกับยอดเต้า เม็ดติ่งจะงอยเนื้อลุกชันจนเสียวสูบเมื่อ อุ้งมือแข็งกระด้างของชาติชายบดลงคลึงวน เรียวปากของเขาจูบลงกับซอกคอไล่เล็มไปที่ลาดไหล่ สองมือนั่นลดลง เกี่ยวเกาะชายเสื้อแล้วยกขึ้นอย่างนุ่มนวลจนสาวน้อยต้องยกแขนเรียวขึ้นให้เขายกเสื้อยืดออกไปทางศีรษะ ปลดปล่อย เต้าตูมเต่งตึงนวลเนียนออกมาสู่อิสระกลางแสงไฟ สองมือของชายหนุ่มช้อนกอบเต้าตูมยกขึ้นจนสาวน้อยต้องยกอกแอ่นขึ้นรับใบหน้าคมสันที่ก้มลงสู่ปทุมเต่งตึง ยามที่สายลมอุ่นเป่ารดลงมาบนเนินเต้าส่งความเสียวกระสันแผ่ขยายไปทั้งหน้าอก แล้วเมื่อจมูกของเขากดลงสู่เนื้อนวล สาวน้อยก็ถึงสะดุ้งเมื่อเขากดมันลงมากับติ่งปลายถัน “ฮูยยย..” สองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบศีรษะชาติชายเข้ากับเต้านวลของตน “อูวววว..” ปากจิ้มลิ้มห่อตัวจนกลมเป่าลมพรั่งพรูเมื่อติ่งจะงอยหัวนมผลุบเข้าไปสู่ปากอันอบอุ่น ปลายลิ้นนุ่มนวล ไล่โลมวนเขี่ยปลายจะงอยถันอยู่ไปมา สาวน้อยหยัดกายขึ้นสูง แอ่นหลังยกเต้าอวบเข้าสู่ปากชาติชาย หน้าท้องบดอัด เข้ากับเรือนร่างบึกบึน เต้าถันทั้งสองข้างโดนชาติชายวนสลับไล่โลมเลียแผ่วพลิ้วจนติ่งเนื้อรัดตัวแข็งชูชัน สายตาลืมขึ้น มองศีรษะชายหนุ่มที่ซุกลงตรงอกอวบสลับกับพริ้มหลับเมื่อความเสียวซ่านแผ่พุ่งเป็นริ้วระลอก ชาติชายขยับตัวยกร่างอวบบางของสาวน้อยพลิกลงนอนกับที่นอนหนานุ่ม ร่างบาง ๆ นอนหงายอวดปทุมเต้าเต่งตั้งตูม แยงยอดถันสีชมพูสดชี้ชัน เอวคอดกิ่วเรียวผายออกเมื่อถึงต้นขาหนั่นแน่น หน้าท้องแบนราบแขม่วยุบเป็นจังหวะตาม แรงหายใจด้วยอารมณ์ที่ตื่นเพริศด้วยแรงปรารถนา กางเกงขาสั้นกุดแนบลงกับเนินเนื้อนูนที่มันปกปิดอยู่ บัดนี้ตรง เป้ากางเกงเปียกชื้นเป็นดวง สะโพกกลมกลึงขยับเขยื้อนเบี่ยงหลบด้วยเอียงอายเมื่อเจ้าของมองเห็นสายตาของชายหนุ่ม ไล่โลมไปทั่วร่าง สองมือของชาติชายประกบเข้าที่เอวเนียนกดรูดขอบกางเกงม้วนลง สาวน้อยหลับตาลงเมื่อรู้สึกว่าขอบกางเกงม้วนพ้น เนินเนื้อลงไปถึงหน้าขา ก้นกลมขยับยกให้ชาติชายม้วนมันดันลงไปแล้วดึงออกไปทางปลายเท้า นูนเนินผุดขึ้นมาแก่ สายตาของชาติชายกลางแสงนวลของดวงไฟ เนินเนื้อนวลนั้นแผ่กว้างเต็มหน้าขา ไรขนหยิกสลวยดำขลับแผ่กระจาย ปกคลุมเนินเนื้อที่ดันตัวขึ้นหน่อยหนึ่งก่อนจะลาดลงเลี้ยวเข้าสู่หน้าขา ไรขนเปียกน้ำใส ๆ เป็นทาง รอยประกบ กลีบแคมปากถ้ำสีชมพูสดประกบกันเบียดชิดไร้ช่องว่างประดับด้วยหยาดใสเคลือบจนแวววาว เรียวขาอวบหนั่นแน่น ด้วยเนื้อสาวเรียวลงสู่ปลีน่องแล้วข้อเท้า “ฮึ อือ..” สาวน้อยส่งเสียงเบา ๆ เมื่อสายลมอุ่นเป่าลงกับหน้าท้องก่อนที่จมูกของชาติชายจะกดลงกลางหน้าท้องที่สะดุ้ง แขม่วตัวด้วยความเสียว “ฮู...ยยย” อุ้งมือแข็งวางประกบปลายถันคลึงวน ขยี้จะงอยหัวนมด้วยอุ้งมือหยาบกร้านจนเสียววาบลงไปถึงท้องน้อย “อี๊..” สาวน้อยส่งเสียงสั้น ๆ เมื่อจมูกของชาติชายไต่ไล่ลงไปถึงยอดโคกเนิน สองมือเรียวยกขึ้นกุมศีรษะชาติชายเบา ๆ เมื่อเขาลากปลายลิ้นลงกับรอยแยกของกลีบแคม สองขาเรียวขยับเขยื้อนเผยอออกจากกันเมื่อใบหน้านั้นเกลี่ยคางที่มีแต่ ตอเคราสั้นลงกับต้นขา “อาฮาวววว..” กลีบแคมที่โดนรุกด้วยปลายลิ้นเป็นครั้งแรกส่งความเสียวซ่านไปทั่วตัว สะโพกกลมกระตุกแขม่วท้อง เมื่อปลายลิ้นของชาติชายลากไปตามความยาวของกลีบแคมที่ประกบกันสนิท สาวน้อยรู้สึกถึงถ้ำของสงวนขมิบรัดตัว วูบวาบ เธอร้อนผะผ่าวไปทั่วทั้งเนินโคกและอกตูมที่โดนลิ้นและมือของชาติชายเคล้าคลึง “ฮ๊ายยยยย..” เสียงครางของสาวน้อยแหลมสูงเมื่อปลายลิ้นของชาติชายแหย่ลงแทรกกลีบแคมอวบลงไปปะทะยอด ติ่งเนื้อไวความรู้สึก สะโพกกลมกลึงยกขึ้นพร้องกับแผ่นหลังที่แอ่นหยัดจนโคกเนื้อลอยเด่น ปลายลิ้นของชาติชาย สะบัดลงกับติ่งเนื้อระรัวแผ่ว สาวน้อยเหมือนโดนไฟฟ้าช๊อตไปทั่วร่าง คลื่นความสุขเสียวแผ่กระจายดุจว่าจะพุ่งพล่าน ไปทั้งตัวตามสายโลหิตในร่างบาง ประหนึ่งเกลียวคลื่นที่กราดเกรี้ยวโหมโถมตัวเข้าปะทะโขดหินชายฝั่ง แล้ว แตกกระจายฟองพุ่งขึ้นสู่อากาศหอบตัวเธอลอยสูงขึ้นไปกับยอดคลื่นแล้วหล่นวูบลงสู่ท้องทะเลเย็นเฉียบอีกครั้ง แล้วเกลียวคลื่นยอดถัดมาก็หอบตัวเธอโยนลอยขึ้นไปอีกคำรบก่อนหล่นลงมาสู่พื้นน้ำเป็นระลอก ๆ “อา..ย.ย.ย...” ร่างอวบบางหล่นลงนอนราบกับที่นอนนุ่ม สองมือปล่อยศีรษะของชาติชายที่เธอขยุ้มกำแน่นอย่าง ลืมตัว แล้วตกผล็อยลงข้างตัว ร่างอวบขยับจนตัวโยนตามแรงหายใจเหมือนเพิ่งจะวิ่งแข่งมาใหม่ ๆ สาวน้อยนอน แน่นิ่ง ร่างกายเหมือนจะเบาหวิวจนเธอรู้สึกว่าร่างกายแทบจะลอยขึ้นไปตามสายลมเอื่อย ๆ ที่พัดผ่านตัว เนินเนื้อ เต้นตุบ ๆ ขยับรัดตัวคลายตัวอยู่แผ่ว ๆ จนเธอรู้สึกซ่านเนื้อส่วนสงวนนั้นอยู่ครามครัน ลมที่พัดเอื่อยโลมไล้ตัวนั้น ทำให้เธอรู้ว่าร่างแข็งแรงอันแสนจะอบอุ่นนั้นผละออกไปแล้ว สาวน้อยจึงลืมตาขึ้นพบกับร่างนั้นยืนอยู่ข้างเตียง สองมือดึงเสื้อยืดออกไปทางศีรษะ อกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อพ้นออกมาจากชายเสื้อ กล้ามอกขึ้นเป็นลูกรับลาดลง ไปที่หน้าท้องราบแข็งแรง เขาโยนเสื้อไปด้านข้างก่อนจะจัดการกับกางเกงที่สวมอยู่ ปลดเข็มขัดและตะขอกางเกง ดันซิปลงจนสุดแล้วดันมันลงไปที่ข้อเท้า พอเขายืดตัวขึ้นยกสองมือจับสองมือดันขอบกางเกงในขาวสะอาดลงไป แล้วหยัดกายขึ้นยืนอีกครั้งนั้น สาวน้อยใจหล่นวูบเมื่อองคาพยพแห่งเพศชายของชาติชายปรากฏขึ้นแก่สายตา ท่อนเนื้อเกร็งแข็งตั้งชันจากหน้าขาที่ปกคลุมด้วยพงขนหนา ลำท่อนเอ็นอวบตั้งงอนช้อนขึ้นเล็กน้อยส่งส่วนปลาย ยกหัวเด่นขึ้นในอากาศ ลำเนื้อตันพาดพันด้วยเส้นเลือดที่พองจนเหมือนเส้นเชือกเล็ก ๆ สีดำที่พันรอบไขว้ไปมา อย่างไม่เป็นระเบียบ ส่วยปลายเบ่งบานอยู่ในหนังบาง ๆ ที่หุ้มมันอยู่จนมองไม่เห็นทั้งหัว แต่หนังบาง ๆ นั้นก็ ไม่พอที่จะห่อหุ้มจนหมด ปลายมนทู่ของมันจึงโผล่ผิวเรียบมันปลายแดงก่ำออกมาแก่สายตา ต่ำลงไปอัณฑะที่ หลบซ่อนในถุงหนังเหี่ยวย่นห้อยตัวอยู่ มันขยับยกตัวเป็นจังหวะยามที่ลึงค์ใหญ่ผงกตัว ต่ำลงไปเป็นท่อนขาที่ อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อตัน ๆ เรียวลงสู่ปลีน่องหนา สาวน้อยพริ้มตาลงเมื่อร่างบึกบึนนั่นลดลงทาบทับ ความอบอุ่นแผ่ซ่านขึ้นมาอีกคำรบเมื่ออ้อมแขนแข้งแรงตระกอง กอดเธออย่างแผ่วเบา ท่อนเอ็นลึงค์นั่นทาบลงมากับหน้าท้องและเนินโคกของเธอจนร้อนวาบ แต่ยังไม่เท่ากับที่ ปาdร้อน ๆ ของชาติชายที่ประกบลงมากับเรียวปากจิ้มลิ้มของเธอ ในเปลือกตาที่หลับพริ้มเหมือนเห็นประสาย แสงแปลบปลาบพร้อมกับความรู้สึกร้อนผ่าวที่แผ่ออกจากริมฝีปากแล่นไปจนทั่วตัวแล้วมาหยุดรวมอยู่ที่โคกเนิน ที่โดนท่อนเอ็นกดแนบอยู่นั้น ร่างแข็งแรงค่อย ๆ เบียดแซะจนเรียวขาขาวผ่องย้ายแยกเปิดให้ชาติชายหย่อนร่างลงแทรกเขามากลางขาเรียว เอ็นลึงค์ แนบทาบลงมากับแคมโคกเนื้อจนเสียวซ่าน แล้วมันก็ขยับ มันขยับตัวเลื่อนไปมา มันขยับตัวไปตามความยาวของร่องกลีบที่มันทาบลง มันขยับตัวจนกลีบแคมแบะออกให้ลำเอ็นขรุขระนั้นแทรกลงมาบดกับเนื้ออ่อนภายใน มันขยับเขยื้อนถูไถทั้งเนื้ออ่อน ติ่งเนื้อ และปากถ้ำจนสาวน้อยเสียววูบวาบไปทั้งหน้าขาและท้องน้อย มันขยับปลายหัวบาน ๆ นั่นถูไถปากถ้ำของเธอ บางครั้งเหมือนมันจะมุดเข้ามาข้างในจนเธอต้องกลั้นใจ แต่มันก็ไถเลยไปดันติ่งเนื้อจนเสียววาบ ๆ สะโพกกลมกลึงขยับส่ายอย่างไร้การควบคุม ถ้ำน้อยหลั่งรินสายน้ำออกมาชโลมกลีบเนื้อจนชุ่มไปทั้งหน้าเนิน อาบไล้ท่อนเอ็นลึงค์จนมันลื่น “พี่..ชาย.. ขา..” “จ๊ะ สาวน้อย..” แก้มนวลโดนจมูกเขากดสูดลม แล้วไล่ไปเล็มซอกคอ “พี่.ชาย. ก้อย.. เสียวววว” สาวน้อยส่งเสียงแหบโหยเพราะเป่าลมจนปากแห้งผาก “อูย..” “ไม่เป็นไรหรอก พี่ชายอยู่กับก้อยนี่แล้วไง” กระซิบริมหูแล้วเม้มติ่งหู “ก้อย. พี่ชายขา” สาวน้อยเสียงขาดกระท่อนกระแท่น เมื่อรู้สึกว่าท่อนเอ็นแก่นกายของชายหนุ่มจรดปลายลงกับ ปากถ้ำของตนพร้อมกับแรงดันเบา ๆ ปากทางคับแน่นแหวกตัวออก “อื๊มมมมซซ” “เจ็บหรือก้อย” “ไม่..เจ็บค่ะ ..แต่ มัน แน่น..” สาวน้อยกอดรัดร่างชายหนุ่ม “มันจะเจ็บเหรอคะ” “จ๊ะ มันจะเจ็บตอนแรก ๆ สักพักหนึ่ง” ชาติชายตอบแล้วจูบปากจิ้มลิ้ม “เจ็บนานไหมคะ” สาวน้อยจูบตอบ ดวงตาสุกใสจ้องตาชาติชายอย่างหวาดหวั่น “เจ็บมากไหมคะ” “เจ็บไม่นานหรอก แล้วก็เจ็บมากอยู่เหมือนกันกระมัง” ชาติชายจูบปากนั้นอีกครั้ง “พี่จะค่อย ๆ พาไปนะจ๊ะ สาวน้อย” “ค่ะ” สายน้อยเม้มปากพยักหน้าเบา ๆ สาวน้อยพยายามแบขออกกว้างขึ้นยามที่ปลายในของท่อนเอ็นเริ่มเบียดแทรกมุดเข้ามาในร่างจนตึงแน่น มันค่อย ๆ มุดผลุบ ๆ เข้ามาทีละนิด ปากถ้ำแคบคับค่อย ๆ เบิกออกมากขึ้นดังยอบศิโรราบแก่ท่อนเอ็นแก่นเนื้อตันอวบที่ค่อย ๆ ดันตัวผ่านเข้ามาทีละนิด หน้าขาเธอยามนี้ตั้งตึงทั้งแน่นคับรูโยนี เรียวขาแบะอกอย่างพยายามจะให้รูถ้ำเปิดออกให้ ลึงค์ชายหนุ่มบุกเข้าโดยสะดวก ความคับเริ่มกลายเป็นความเจ็บแปลบเมื่อมันรุกล้ำเข้ามาอีกทีละน้อย หัวบาน ๆ นั่น ทั้งบุก ทั้งถอย สลับกันช้า ๆ ทั้งส่ายแซะแบะกลีบ ควงงัดจนปากรูเธอค่อย ๆ เบิกกว้าง แต่มันก็ยังบีบรัดแนบเหมือน จะยังไม่ยอมแพ้ “พี่ชาย ขา ก้อยเจ็บ.” ปลายมนบานนั้นหยุดลงนิ่ง พร้อมกับปากที่ก้มลงมาครอบปลายจะลอยหัวนมเลียพลิ้วจนเสียวยอกหัวนมวาบ ๆ ไม่ถึงอึดใจ ท่อนลึงค์นั่นก็เริ่มขยับให้รูเธอกระดืบอมมันเข้ามาอีกนิด และอีกนิด มันแซะซ้าย แซะขวาเข้ามาช้า มันตึงแน่นจนเจ็บแปลบปลาบระคนความเสียว สาวน้อยพริ้มตาข่มความเจ็บ ขบฟันลงกับริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง ยามที่มันมุดผ่านเข้ามาท่อนแก่นเนื้อขยับยึก “โอ๊ะ..” ดวงตาเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงความกว้างใหญ่ที่เบียดเข้ามาในร่างนิ่ง โพรงถ้าเนื้อบีบรัดเหมือนดังไม่ยอมแก่ ผู้บุกรุกที่บัดนี้ปลายหัวบาน ๆ มุดจมเข้ามาในร่างจนหมด ทั้งเจ็บ ทั้งแน่น แม้ว่ามันจะปักคานิ่งอยู่ อึดใจต่อมาความเสียวจากยอดอกที่โดนคลึงโดนลิ้นชาติชายก็เริ่มแผ่ขึ้นมาบดบังความตึงแน่น ถ้ำเนื้อเริ่มเคยชิน กับขนาดของท่อนเอ็นผู้บุกรุก แล้วเริ่มขมิบเม้มมันวาบ ๆ สองเต้าอวบโดนมือชาติชายคลึงนวดอยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งนั้นติ่งหัวนมตกอยู่ในปากอันอุ่นร้อนที่ตวัดลิ้นดันดุนมันไม่หยุด “อุ๊ย..ซซ” สะโพกกลมขยับถอยนิดหนึ่งเมื่อชาติชายดันกระเด้าส่งท่อนเอ็นรุกเข้ามาทีละน้อย ท่อนลึงค์มุดถ้ำเข้ามาอีกนิด แล้วก็อีกนิดตามจังหวะที่เขากระเด้าสะโพกเบา ๆ กลีบแคมเนื้ออ้าอมท่อนเอ็นเข้าไป จนคับแน่นบวมตุ่ย พร้อมกับหลั่งหยาดน้ำออกมาชโลมเพิ่มความลื่นมากขึ้น ชาติชายกระเด้าเอวทีละนิดให้มัน มุดเข้าไปอีกจนเข้าได้กว่าครึ่งของเนื้อเอ็น เขางัดท่อนเนื้อขึ้นลงให้ท่อนเอ็นงัดโพรงดันเนื้อกดติ่งเนื้อจนสาวน้อย เริ่มสูดปาก แล้วเขาก็หยุดกระเด้า สาวน้อยลืมตาขึ้นสบตาชาติชาย ยื่นหน้าขึ้นจูบ ชาติชายจูบตอบ ประคองรัดร่างนั้นแล้วดึงก้น ถอยถอนเอ็นเนื้ออกมานิดหนึ่งก่อนจะกดมันลงเนิบนาบส่ายควงเอวให้ท่อนเอ็นควงแซะมุดลงไปในโพรงเนื้อสาวน้อย จนสุดความยาวแล้วกดนิ่ง “อี๊ยยยยยยซซซ” สาวน้อยผวากอดรัดร่างสั่นด้วยความเจ็บปนเสียวเมื่อท่อนเนื้อตัน ๆ มุดปราดจมหายเข้ามาในร่าง จนมิดกั่น โพรงเนื้อบีบรัดท่อนเอ็นนั่นแน่น ส่ายสะโพกกลมเหมือนจะหลบแต่ก็ไม่พ้นจากอ้อมกอดอันแข็งแรง ท่อนเนื้ออวบเข้ามาในร่างจนหมดสิ้น พงขนหยาบบดเบียดอัดส่ายไปมากลับกลีบเนินจนรู้สึกยุบยิบที่กลีบแคมและ เม็ดแตด มันเจ็บแปลบวาบขึ้นมายามที่มันมุดดะเข้ามากดแช่แน่นิ่ง มันยังพองวาบ ๆ อยู่ในตัวเธอเหมือนจะเบ่งตัว สู้กับแรงบีบของเธอ หยาดน้ำใส ๆ ไหลรินออกจากหางตา “โอ๊ะ... ฮี๊ยยยยยซซ” สาวน้อยอุทานสั้น ๆ เมื่อเขาถอนแก่นกายถอยออก มันครูดเนื้อนวลอ่อนออกไปจนแคมเนื้อ ปลิ้นตาม กวาดลากน้ำใส ๆ ตามออกไป เสียวจนต้องผวาร่างกอดรัดแล้วก็ครางไม่เป็นส่ำเมื่อมันบุกเนิบเข้ามา เต็มแน่นอีกคำรบ “ยังเจ็บอยู่ไหม สาวน้อยจ๋า” “ไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ พี่ชาย แต่เสียว โอย พี่ชายขา” เสียงตอบสั่นไหวเมื่อท่อนเอ็นครูดเข้าออกสร้างความเสียวกระสัน แล่นไปทั่วตัว “อึ๊บ..” อุทานสั้น ๆ เมื่อชาติชายกดกระชับเอ็นเนื้อสุดลำแล้วควงเอว “อูยยยยย.” กลีบแคมและเม็ดเนื้อโดนขนหยาบบดขยี้ยามที่ชาติชายบดโคนลึงค์ส่ายไปมา รูเนื้อขมิบวาบด้วยความเสียว ชาติชาย เริ่มกระเด้าชักเอ็นอวบเข้าออกช้า ๆ เนิบ ๆ สาวน้อยก็ยกสะโพกไล่ตามแท่งเอ็นด้วยความเสียว แรก ๆ จังหวะก็ขัดเขินเคอะคะ สาวน้อยแรกเริงรักขยับย้ายส่ายร่างควงสะโพกด้วยอารมณ์อันตื่นเพริศไปกับรสกามา ที่ชาติชายค่อย ๆ บรรจงสอดใส่ จังหวะรับรุกจึงยังขัดกันอยู่กึก ๆ กัก ๆ แขนเรียวกอดรัดร่างชาติชายพร้อมกับเรียวขา ที่เหยียดเกร็งด้วยความเจ็บแสบก็เริ่มขยับยกขึ้นเกี่ยวเกาะท่อนขาแข็งแรง เอวบางเริ่มขยับพยายามตามจังหวะที่ชาติชาย สอดแท่งเอ็นใส่เนิบนาบ แล้วพยายามรักษาจังหวะนำทาง เปรียบเสมือนคู่เต้นรำใหม่ ๆ ที่พอเริ่มหัดก็ขัดจังหวะกันบ้าง เผลอพลั้ง ก้าวพลาดไปบ้างจนเสียจังหวะไม่ลื่นไหล ต้องตั้งต้นจังหวะเต้นกันใหม่ แต่ฝ่ายนำก็ไม่ได้ย่อท้อ ชักนำฝ่ายตามให้ค่อย ๆ คลำจังหวะตามดนตรีแห่งกามนั้น ไปช้า ๆ จวบจนครู่ต่อมา ทั้งคู่ก็เริ่มประสานจังหวะกันได้ลงตัว “ฮือ ฮือ ซซซ” สาวน้อยครางด้วยความเสียวจนเต็มตื้นเมื่อท่อนเอ็นอวบกระหน่ำโพรงเนื้อนวลด้วยจังหวะหนักแน่น ยามที่มันถอนถอยก็ครูดระไปตลอดทางจนเสียววาบไปกระทั่งปลายบานผลุบเหลือแค่ยอดแหย่แยงอยู่ในช่องเนื้อ ยามที่มันมุดผ่านเข้ามาก็เบิกดุนกลีบเนื้อจนเสียวเต็มตื้นไปทั้งร่องช่องทาง แล้วบดเข้ามาอัดแน่นแนบโคกเอ็นที่ รุงรังด้วยขนหนาเข้ามาตึงเนินโคกนวล แท่งเอ็นอวบเบิกทางเข้ามาเบ่งพองอยู่ข้างใน สุดก้นบึ้งของโพรงถ้ำนั้นก็ โดนยอดทวนเนื้อกดเขี่ยจนเสียววาบไหว เกินกว่าที่เธอจะกลั้นอารมณ์สุขที่พุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง ยิ่งชายหนุ่ม ระรัวเอวกระเด้าถี่ยิบ สาวน้อยพลันรู้สึกเหมือนท่อนเนื้อที่ฝังเข้ามานั้นเบ่งพองขยายขึ้น พร้อมกับความสุขสบายที่แผ่ซ่านขึ้นมาจากหน้าขา เนินเนื้อ ความรู้สึกเสียววาบนั้นพุ่งปราดวนไปจนทั่วร่าง สาวน้อยรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอจะร้อนรุ่มจนเบ่งพอง ออกแล้วแตกกระจายออกไปในอากาศ “โอ๊ยยยยยย...” ร่างสาวน้อยแอ่นหยัดบดเข้ากับร่างกำยำนั้น สะโพกกลมส่ายยกบดคลึงอย่างไร้การควบคุม สองแขน ยกกอดร่างแข็งแรงที่กำลังกระหน่ำแก่นเอ็นอย่างหนักแน่น โพรงเนื้อบีบกระตุกรัดท่อนเนื้อชายหนุ่มเป็นจังหวะ ภาพที่ร่างสาวน้อยหยัดตัวขึ้นอัดเต้ากลมพร้อมกับกอดรัดนั้นเป็นที่รู้ได้ว่า สาวน้อยบรรลุจุดสุดยอดไปแล้ว พร้อมกับ ถ้ำเนื้อที่บีบรัดท่อนเอ็นเขาประหนึ่งจะเค้นให้บี้แบนด้วยอาจหาญรุกเข้ามานั้น ส่งความเสียวพล่านไปทั้งตัว หยาดน้ำ พุ่งทะยานออกจากที่กักเก็บ สาดสายกระหน่ำเข้าสู่โพรงถ้ำของสาวน้อยที่กำลังขมิบวาบวับ “ว๊ายซซซซซ” สาวน้อยสะดุ้งเป็นคำรบสองเมื่อลำน้ำอุ่นร้อนฉีดพ่นเข้ามาในร่าง อาบชโลมปากมดลูกข้างใน ส่ง ความเสียวพุ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน ร่างบางผวาด้วยแรงที่เหลือประกบกอดรัดร่างของชายชายแน่นเปรี๊ยะปานจะกอด ให้เลือดเนื้อของทั้งสองคนกลืนประสานเข้าด้วยกัน หวีดเสียงดังออกจากลำคอก่อนที่จะงับปากจิ้มลิ้มลงกับซอกไหล่ ของชาติชายเต็มปาก ออกแรงงับอย่างไม่อาจควบคุมไว้ได้ด้วยความเสียวซ่านที่ทะยานขึ้นเป็นระลอกตามที่ชาติชาย หลั่งน้ำรักขาวขุ่นฉาด ๆ เข้าสู่ตัวเธอ ร่างงามสั่นสะท้านระริกพร้อมกับร่างบึกบึนที่เหยียดเกร็งกดสะโพกส่ายคลึง บดเบียดร่างอวบบางนั้นแนบแน่นปากจิ้มลิ้มของสาวน้อยลิ้มรสเค็มปะแล่ม ๆ ยามที่สติเริ่มหวนกลับเข้าสู่การควบคุม แต่ในเปลือกตาที่พริ้มแน่นด้วยความสุขสมนั้นยังคงเห็นแต่แสงสีแวบวาบปลาบแปลบอีกครู่ จวบจนกระทั่งเธอ ลืมตาขึ้นมองใบหน้าคมสันที่ก้มจ้องมาด้วยความรักอย่าสุดซึ้ง สาวน้อยรับจุมพิตดื่มด่ำนั้นด้วยเต็มใจ ความรู้สึก เหมือนกับจะภูมิใจที่ได้เป็นสาวเต็มตัว ทั้งอิ่มเอมกับรสกามาที่ชาติชายปรนเปรอเป็นครั้งแรกแห่งวัยสาว สายตา ปาดผ่านไปทั่วใบหน้าของชาติชายแล้วยื่นหน้าขึ้นจูบปากคู่นั้นเบา ๆ ก่อนทอดกายนอน ให้ชายหนุ่มตระกองกอด เบื้องล่างนั้นเธอยังรู้สึกถึงแก่นกายของชาติชายที่ยังฝังจมมิดเบ่งพองในร่างเธอเป็นจังหวะและหนอกโคนเอ็นที่ กระดกเน้นเบา ๆ “พี่ชายคะ” “อะไรจ๊ะ” ดวงตาคมเข้มจ้องลงมาที่เธออย่างรักใคร่สุดซึ้ง “เจ็บไหมคะ” สาวน้อยถามยกนิ้วลูบรอยฟันที่หัวไหล่บึกบึน เกลี่ยนิ้วช้า ๆ ระวังไม่ให้โดยรอยแผลที่เป็นวงสองวง เลือดสดแดง ๆ รินออกมาจากรอยฟัน “ไม่หรอก นิดหน่อยเอง” “ทำแผลใส่ยาไหมคะ เดี๋ยวก้อยไปเอายาก่อน” เธอขยับจะลุกขึ้นแต่ร่างบึกบึนนั้นไม่ได้ขยับไหว “ลุกซีคะพี่ชาย ไม่งั้น ก้อยจะไปเอายามาใส่แผลได้ไง” “เอาไว้ก่อนก็ได้จ๊ะ” ชาติชายก้มลงหอมแก้ม “ไม่ล่ะค่ะ เดี๋ยวต้องใส่ยาก่อน” “เอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวใส่ทีเดียวทุกแผลเลยดีกว่า” ชาติชายบอกยิ้มกริ่ม กระตุกเอวเบา ๆ ท่อนเนื้อที่ยังแข็งอยู่นั้น ขยับตัวไหวเคลื่อน “ไม่ ค อึ๊ยยยย” เสียงสาวน้อยกลายเป็นครางเมื่อท่อนเอ็นเริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ

ไม่มีความคิดเห็น: