ขายของ
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554
With No Remorse Chapter 20
With No Remorse
Chapter 20
ซอกลึกของชั้นสูงสุดในอาคารจอดรถกลางกรุงเทพมหานคร ยามสายนั่นรถยนต์ที่เข้ามาใช้บริการยังไม่มากนัก
ลานกว้างนี้จึงยังว่างเปล่าเงียบเหงา กว่าที่ชั้นล่าง ๆ จะเต็มนั่นก็จะเข้าไปบ่าย ๆ รถเบนซ์สีดำที่จอดซุกอยู่ตรง
มุมอาคารอับแสงนั่นจึงเป็นเพียงไม่กี่คันที่ขึ้นมาจอดในชั้นนี้ ทั้งคนขับและผู้โดยสารในเบนซ์ต่างจับตามองไป
ยังลาดทางขึ้นที่อยู่ห่างออกไป บางครั้งก็สอดส่ายสายตากวาดไปทั่วบริเวณลานจอดอันว่างเปล่า
“ยังไม่มาเลยครับ จวนเวลาแล้วนี่ครับ”
“ไม่เป็นไรน่าชด เดี๋ยวถ้าเลยไปสักสิบห้านาทีไม่มา เราก็ไป เปลี่ยนที่เลยก็ได้” เสี่ยกิมเล้งบอกอดีตจ่าตำรวจที่นั่ง
กุมพวงมาลัย
สายตาของจ่าชดจับจ้องอยู่ที่รถสปอร์ทไรเด้อร์สีดำที่ติดฟีล์มดำมืดที่แล่นขึ้นมาช้า ๆ มือที่กุมพวงมาลัยเลื่อนไปจับ
ด้ามปืนที่พกอยู่ตุงเอว แม้เมื่อสปอร์ทไรเด้อร์เลี้ยวไปอีกทางหนึ่งแล้วถอยเข้าจอดห่างออกไป มือมันก็ยังกุมด้าม
ปืนพกของมันอยู่ จนกระทั่งหญิงสาวสองคนเปิดประตูลงมายืนข้างรถ ดึงกระเป๋าถือใบโตออกมาคล้องไหล่นั่น
มันจึงละมือจากด้ามปืน แต่สายตายังจ้องมองไปยังสองสาวนั่นเขม็ง
“ไม่มีอะไรมั๊งชด” เสี่ยใหญ่บอกเบา ๆ “นุ่งกระโปรงคับติ้วอย่างนั้น อีกคนก็กางเกงสั้นกุดนั่น หรือว่าอยากเอาไป
สังเวยกามล่ะ”
“อ๋อ ครับ เสี่ย” จ่าชดหัวเราะหึ หึ แล้วก็เลื่อนมือลงไปที่ด้ามปืนอีกครั้งเมื่อรถเก๋งอีกคันโผล่ขึ้นมา แต่มันก็เลี้ยว
เข้าไปจอดใกล้ ๆ สปอร์ทไรเด้อร์นั่น สองหนุ่มหน้าตี๋เปิดประตูลงมาแล้วเดินไปยืนข้าง ๆ สองสาวสปอร์ทไรเดอร์
ไม่ถึงอึดใจก็เดินเป็นสองคู่
“เฮ้ย เด็กสมัยนี้มันขนาดนี้เลยเหรอวะ” เสี่ยใหญ่ที่นั่งมองอยู่อุทาน เมื่อคู่หนึ่งเปิดท้ายสปอร์ทไรเดอร์หายขึ้นไป
อีกคู่หนึ่งเดินคลอเคลียกันมาที่รถเก๋งแล้วก็ขึ้นรถไปเช่นกัน ไม่ถึงอึดใจ รถทั้งสองคนก็ขย่มไหวยวบยาบ
จ่าตำรวจระบายลม ยกมือขึ้นวางบนพวงมาลัยอีกคำรบ
จ่าตำรวจเพิ่งจะลดข้อมือที่ยกขึ้นดูนาฬิกาลงเมื่อแคมรี่สีดำเลี้ยวขึ้นมาหยุดตรงลาดทางขึ้น แล้วเลี้ยวปราดมาถอย
เข้าจอดข้างเบนซ์คนขับลดกระจกลง จ่าชัยลองตรงไปยังชายฉกรรจ์สองคนที่นั่งอยู่ในแคมรี่ ก่อนจะลดกระจก
เบนซ์ลงเช่นกัน คนขับแคมรี่ยื่นโทรศัพท์มือถือของตนส่งข้ามมาให้เสี่ยใหญ่ที่รับมาแนบหู
“อาโหล”
“เสี่ยเหรอ ผมเอง”
“อ้อ ท่านเหรอครับ สวัสดีครับ รถรับของมาถึงแล้วครับ”
“แคมรี สีดำ ทะเบียน.....” เสียงอีกข้างบอกมาอย่างรู้กัน
“ถูกต้องแล้วครับ ขอบพระคุณท่านครับ” เสี่ยใหญ่ตอบแล้วยื่นโทรศัพท์กลับไปให้คนขับแคมรี่ก่อนพยักหน้ากับ
จ่าชด “ถูกต้อง..”
อดีตจ่าตำรวจกดปุ่มเปิดฝากระโปรงท้ายเบนว์แล้วลงจากรถอ้อมไปยังท้ายรถพร้อมกับคนที่นั่งมาในแคมรี่ พอมัน
ไปถึงท้ายรถต่างก็ยกฝากระโปรงขึ้นจนสุด ท้ายเบนซ์นั่นกระเป๋าเป้สองใบที่บรรจุของจนเต็มแน่นวางอยู่เคียงกัน
จ่าชดยกเป้ทั้งสองใบส่งให้คนจากแคมรีที่รับไปวางลงในท้ายรถ ปลดสายรัดเปิดฝากระเป๋าแล้วดึงห่อพลาสติก
ที่พันด้วยเทปกาวสีน้ำตาลออกมาหนึ่งห่อ มันยกเป้อีกสองใบจากท้ายแคมรีส่งให้จ่าตำรวจที่รับไปวางในเบนซ์
แล้วเปิดฝาเป้ออกดูเช่นกัน จ่าชดล้วงเอาม้วนธนบัตรออกมาสองปึกกรีดดูคร่าว ๆ แล้วจัดการกับอีกปึกหนึ่ง
ในขณะที่อีกฝ่ายก็ดึงมีดคัตเตอร์ออกมากรีดห่อของแงะออกจนยาเม็ดหลากสีหล่นลงในท้ายแคมรี่สี่ห้าเม็ด มันหยิบ
เม็ดยาเม็ดหนึ่งขึ้นดมแล้วแตะลิ้น ก่อนหันมาพยักหน้ากับจ่าชดที่พยักหน้ารับ ต่างคนต่างปิดฝากระโปรงท้ายรถ
แล้วเดินกลับไปขึ้นรถตนเอง
“เรียบร้อยครับเสี่ย” จ่าชดบอกเสี่ยใหญ่พร้อมกับติดเครื่องยนต์ สายตามองกวาดลานจอดรถเห็นสาวสปอร์ทไรเด้อร์
ที่ขึ้นไปบนเก๋งออกมายืนเสยผมยุ่ง ๆ ก่อนเดินกลับไปที่รถขณะที่หนุ่มรถเก๋งก็ลงจากท้ายสปอร์ทไรเด้อร์ รูดซิป
กางเกงเข้าที่ แล้วเดินกลับไปที่รถเก๋งตนเอง จ่าชดดึงคันเกียร์แล้วกดคันเร่งพาเบนซ์เคลื่อนออกจากลานจอด
ชั่วโมงถัดมามันก็เลี้ยวเข้าทางสายเอเชีย ป้ายบอกทางอยุธยาตั้งตระหง่านอยู่กลางถนน
.......................
“ไอ้นุช วันนี้ขับไงวะกระตุกชอบกล” สาวน้อยกางเกงขากุดในสปอร์ทไรเดอร์หันไปบ่นเพื่อน ก่อนกลับไปจับตา
มองแคมรีที่อยู่ข้างหน้า
“ก็ขามันสั่นอยู่นี่หว่า หมวดเชษฐ์เล่นเย็ดจริงเลย น้ำแกเต็มเป้าอยู่เนี่ย” สาวกระโปรงสั้นบอกเพื่อนขณะที่สาว
พวงมาลัยพารถเลี้ยวตามเป้าหมาย
“เฮ้ย แป๊บเดียวเนี่ยนะ บอกแล้วไม่เชื่อว่าให้นุ่งกางเกง เป็นไงล่ะแก”
“ไม่ทันตั้งตัวซี พอปิดฝากระบะแกเล่นประกบดูดเลย เผลออีกทีโดนเข้าไปแล้ว”
“เออ ขับไปดี ๆ โว้ย แล้วจะมีแรงไหมเนี่ย” เพื่อนสาวส่ายหัว
“ได้น่า แต่แหม นี่ยังกลวง ๆ เจ็บ ๆ อยู่เลย หมวดเชษฐ์นี่ใหญ่ฉิบ แกเอ๊ย”
“ไอ้บ้า ยังมีหน้ามาบอกอีก เวร เพื่อนชั้น”
สปอร์ทไรเดอร์หักหัวเบนเข้าจอดข้างทางเมื่อแคมรีชะลอเข้าจอดหน้าบ้านหลังย่อม รถเก๋งสองหนุ่มแล่นเลยแคมรี
แล้วจอดอีกฝั่งของถนน สองสาวลงจากรถพร้อมกระเป๋าก้าวเดินตรงไปยังหน้าบ้านที่แคมรีกำลังถอยเข้าจอด
สองหนุ่มลงจากรถเก๋งเดินมายังทางเดียวกัน เบื้องหลังสปอร์ทไรเดอร์นั้น กระบะสองตอนอีกสองคันเข้าจอด
ต่อท้าย ชายในชุดดำลงจากรถพร้อมปืนพกออกโตเมติกในมือกรูกันเดินเลียบแนวรั้วตรงไปยังบ้านที่แคมรีเข้าจอด
“หยุด นี่ ปปส. อย่าขัดขืน” ชายหนุ่มคนหนึ่งจากรถเก๋งปราดเข้าถึงหน้าบ้านที่แคมรีถอยเข้าจอด ปืนในมือเล็งตรง
ไปที่ชายหน้ากร้านที่กำลังจะลากประตูบ้านปิด
ปัง.. ปัง. ปัง..
เสียงปืนดังออกจากตัวบ้าน ชายหนุ่มซวนร่างล้มฟุบ
ปัง ปัง ปัง ปัง..
สองสาวชักมือออกจากกระเป๋าใบเขื่องปล่อยให้มันตกลงสู่พื้นถนนคอนกรีตร้อนผ่าว สะบัดมือยกปืนพกกระบอก
เขื่องขึ้น สาวขาสั้นสาดกระสุนสวนเข้าไปในบ้านที่มองเห็นผ้าม่านสั่นไหว สาวกระโปรงสั้นสาดกระสุดในมือ
เป็นชุดพุ่งเข้าหน้าอกไอ้คนที่กำลังจะปิดประตูเมื่อเห็นมันกระตุกมือดึงปืนออกมาจากด้านหลัง มันหงายท้องลงไป
นอนแผ่พร้อม ๆ กับเพื่อนคนขับรถที่กำลังจะลั่นไกใส่สองสาวเมื่อหนุ่มอีกคนจากรถเก๋งที่ปราดตามมาติด ๆ กระดิก
ไกปืนปล่อยกระสุนเจาะกบาลมันเปิดอ้า
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดในชุดดำที่มาจากกระบะพุ่งเข้าปากทางเข้าบ้านสาดกระสุนสวนเข้าไปในบ้านเมื่อ
ยังเห็นว่าคนในบ้านยังยิงออกมาเป็นชุด ๆ ยามนี้กระสุนปลิวว่อนออกมาจากบ้านหลังนั้น สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่ม
ที่ตามแคมรีออกมาจากที่จอดรถนั่นพุ่งตัวลงกับพื้น สาวกระโปรงสั้นคลานไปที่ร่างของชายหนุ่มคนที่โดนกระสุน
เข้าไป เลือดไหลซึมจากบาดแผลบริเวณหัวไหล่และสีข้าง
“หมวด ๆ พี่เชษฐ์ เป็นไง เฮ้ย ตอบซี” สาวกระโปรงสั้นวางปืนลงกับพื้นจับตัวชายหนุ่มเขย่า น้ำตาไหลเป็นทาง
“ไอ้บ้า เจ็บ อย่าเขย่าซีวะ” เสียงดังลอดออกมาจากปากแทบไม่ได้ยินด้วยเสียงปืนดังระงมทำเอาชาวบ้านแตกตื่น
”อย่าตายนะ ไม่ยอมด้วย” สายตาจ้องมองหน้าชายหนุ่มที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแผล ยกหลังมือเช็ดน้ำตา
“ไม่ตายหรอกโว้ย ไอ้นุช แต่เจ็บ หยุดเขย่าได้แล้ว แล้วไปช่วยพวกนั้นเร็ว” มือข้างหนึ่งจับแขนสาว ปปส. ดัน
ออกจากตัว
“เออ ดี โดนซะมั่ง อย่าไปไหนนะเดี๋ยวมา” เธอบอกแล้วคว้าปืนขึ้นมาถือ
“ก็โดนยิงอยู่นี่ มันจะแถกไปไหนได้วะเฮ้ย” ชายหนุ่มตอบกลั๊วหัวเราะ หญิงสาวจึงหันกลับไปที่วงต่อสู้ หางตาเห็น
หน้าต่างชั้นบนสะบัดวูบ ๆ ก็ยกปืนขึ้นเล็ง วายร้ายคนหนึ่งโผล่ออกมาพร้อมปืนลูกซองกระบอกยาว
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง
ปืนในมือพ่นกระสุนออกไปจนลูกเลื่อนค้างเพราะกระสุนหมด สายตาเธอยังมองเขม็งไปที่บานหน้าต่างที่ไอ้เจ้า
วายร้ายผลุบหายไปด้วยยังไม่อาจนิ่งนอนใจว่ามันจะหมดฤทธิ์หรือยัง มือล้วงลงไปในอกเสื้อดึงเอาซองลูกปืน
เต็มปรี่ออกมาพร้อมกับมือที่ถือปืนกดปุ่มปลดซองกระสุนว่างเปล่าหล่นลงกับพื้น ตบซองกระสุนใหม่เข้าแทนที่
แล้วปลดล๊อกลูกเลื่อนปล่อยให้มันกระแทกกลับเข้าที่ดันกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง
“เพ็ญ ระวังซ้าย” เธอตะโกนลั่นถนนเมื่อเห็นวายร้ายอีกคนโผล่ออกมาจากข้างตัวบ้านในมุมอับที่เพื่อนสาวมอง
ไม่เห็น สาวกางเกงขากุดไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำเมื่อทิ้งร่างหงายกลิ้งม้วนออกมา กระสุนที่ไอ้เจ้าวายร้ายปล่อย
ออกมาจึงหลุดจากเป้าไปโดนแคมรีที่จอดอยู่จนกระจกแตกกระจาย
ปัง ปัง ปัง
นัดแรกที่สาว ปปส. ปล่อยออกไปขึ้นสูงจนกระทบขอบปูนแตก แต่อีกสองนัดเข้าเป้าเหมาะเหม็ง วายร้ายนั่น
ตัวหมุนลงไปกอง ตำรวจ ปปส. ชุดดำสามสี่คนพุ่งออกจากข้างกำแพง โถมใส่ประตูบ้านจนมันเปิดอ้า แล้วพุ่ง
ปราดหายเข้าไปในตัวบ้าน อีกสองคนวิ่งค้อมตัวไปด้านหลังที่มีเสียงปืนดังมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ ปปส.สาวพุ่งตัว
ปราดเข้าไปช้อนไหล่เพื่อนที่กำลังทรงตัวให้ลุกขึ้น แล้วทั้งสองคนก็พุ่งตัวตามเข้าไปในบ้าน
เสียงปืนเงียบลง เสียงสัญญาณฉุกเฉินของรถเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดังระงมขึ้น รถตำรวจหลายคันพุ่งเข้ามาจอด สองสาว
เดินดุ่ม ๆ ออกมาจากบ้านที่มีรอยกระสุนปืนพราว ตำรวจหลายนายเล็งปืนเข้าใส่เมื่อเห็นปืนในมือสองสาว จวบจน
รถอีกคันที่ติดตราสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแล่นเข้ามาพร้อมกับเสียงคนนั่งที่โผล่ออกมาตะโกนบอกนั่นแหละ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นจึงลดปืนลงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังนั้น ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเริ่มออกมา
จับกลุ่มดูเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงอึดใจรถนั่งข่าวก็พุ่งปราดเข้ามาเบรกหยุด
“จ่า ไปกันนักข่าวไว้ อย่าให้เข้ามา ห้ามถ่ายคนของผมด้วย” ชายหนุ่มที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำร้องบอกตำรวจนายหนึ่ง
ที่รับคำแล้วออกวิ่งเรียกเพื่อนตำรวจอีกสองสามคนตามไปยังรถนักข่าว
................
ชาติชาย วรวุฒิ และศรัณย์ นั่งดูข่าวทลายแหล่งซุกซ่อนยาเสพติดทางโทรทัศน์อย่างใจจอดจ่อ การุณย์นั่งเอนตัว
อยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ตรงกลาง
“เรียบร้อยไปอีกหนึ่ง คราวนี้ถึงทีตีงูใหญ่แล้วซิครับ” วรวุฒิหันไปทางการุณย์ที่พยักหน้าช้า ๆ
“เหลืออีกสอง เสี่ยเล้งนี่ เตรียมแล้วไม่ใช่รึ ว่าไง วุฒิ ชาย”
“ครับ พร้อมแล้วครับ” วรวุฒิตอบเรียบ ๆ
“ลงมือได้เมื่อไหร่”
“คืนนี้ครับ” ชาติชายพูดขึ้น
“ไปกันกี่คนล่ะ”
“สามครับ ผมลงมือ รัณย์เก็บคนคุ้มกัน วุฒิ ระวังหลังครับ”
“อืมมม ก็ดี เร็ว ๆ ก็ดี จะได้หมดเรื่องกันไปเรื่องหนึ่ง” การุณย์พูดเรียบ ๆ เหลียวกลับไปมองกานดากับสาวน้อยที่
นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร “น้องเราชื่ออะไรนะวุฒิ”
“ก้อยครับผู้การ ทำไมหรือครับ”
“เฮ่ย ชื่อจริงซิ ผมจำไม่ได้”
“ปานเรขา ครับผม”
“อืมม เพราะนะ ถ้าใช้ภาษาง่าย ๆ ก็ปานวาดซีนะ ดี เวลาไปขอจะได้เรียกชื่อถูกไง”
“อ้อ เหรอครับ” วรวุฒิร้องเบา ๆ “แล้วผู้การจะจัดงานทีเดียวสองคู่เลยหรือเปล่าครับ”
“อ้าว วุฒิจะแต่งพร้อมกันเลยรึ ไม่บอกล่ะ จะให้ไปขอใครล่ะเนี่ย” การุณย์ ชาติชายและศรัณย์หันมามองเป็นตาเดียว
”อ๋อ ไม่ใช่ผมหรอกครับ ก็แต่งเจ้าชายกับยายก้อย พร้อมกับ ผู้การกับอากานดา ไงครับ”
“หนอย ไอ้ทะลึ่ง” การุณย์หัวเราะก๊ากเต็มเสียง พาอีกสามหนุ่มหัวเราะประสานเสียงขึ้นมา
“หนุ่ม ๆ ขำอะไรกันคะ” เสียงกานดาดังมาจากโต๊ะกินข้าว การุณย์ทำคอย่น
“ห้ามบอกนะเว้ย” การุณย์หันมาบอกหนุ่ม ๆ เบา ๆ อย่างติดตลก
“โห อาต้นยังไม่ทันแต่งเลย กลัวแม่แล้วเหรอครับเนี่ย” ชาติชายแซวเรียกเสียงหัวเราะขึ้นมาอีก
“เฮ่ย ของยังงี้ ต้องซ้อมไว้ก่อน” การุณย์หันมาบอก “ว่าแต่ตัวเราเหอะ ชายเอ๊ย ตะกี้เห็นยายหนูเรียกคำเดียว ก็
แทบจะวิ่งไปช่วยรับของแล้วนี่หว่า”
“แฮ่ะ แฮ่ะ ครับ ผมก็คิดเหมือนคุณอาแหละครับ ต้องซ้อมไว้ก่อนน่ะครับ” ชาติชายทำเสียงอ่อย “แล้วพี่ชายเขา
ก็นั่งอยู่นี่ ต้องทำดี ๆ ครับ เดี๋ยวมันไม่ยกให้น่ะครับ”
ชายทั้งสี่คนฮากันครืนใหญ่ประสานเสียงกันครื้นเครง
.......................
ในห้องพักของโรงพยาบาล คนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพันด้วยผ้าไปครึ่งตัวกับไหล่อีกข้างหนึ่ง ไหล่ข้างหนึ่งนั้นก็
มีผ้าก๊อซสีขาวพันไว้จนหนาเตอะ ข้างเตียงนั่นสาวกระโปรงสั้นยืนกุมมือไว้
“ก็พี่เชษฐ์นี่ เล่นอะไรแผลง ๆ จะทำงานยังจะมาเอาอีก” สาวเจ้ากระเง้ากระงอด
“ก็กลัวไม่สมจริงไง” คนป่วยนอนยิ้มกริ่ม
“แล้วไงล่ะ วิ่งไปขาอ่อน โดนยิงกระจุย ดีไม่โดนหำ”
“โดนก็มีคนอดซิ” คนป่วนนอนยักคิ้วอย่างทะเล้น สาวกระโปรงสั้นหยิกหมับ
“เฮ้ย โอ๊ย รังแกคนป่วยเหรอ”
“มันน่าซ้ำให้หำหดน่ะไม่ว่า”
“ไอ้นุช ชักจะลามปามใหญ่ มันไม่หดหรอก มีแต่จะบานใหญ่น่ะไม่ว่า ช่วยไม่ได้ อยากนุ่งกระโปรงสั้น แล้วแทนที่
จะนุ่งข้างในจะได้มิดชิดก็ไม่นุ่งนี่หว่า”
“ไอ้บ้าพี่เชษฐ์ นุ่งไปขากางเกงมันแลบก็แผนแตกซีวะ” สาวนุชค้อนขวับ “ใครจะไปนึกว่าจับคู่กับคนบ้ากามล่ะ”
ประตูห้องพักเปิดออก ชายในชุดสากลเดินก้าวเข้ามาพร้อมกับนายร้อยตำรวจหนุ่มในเครื่องแบบอีกสองคน
“ไงวะเชษฐ์ นึกยังไงวิ่งเอาสีข้างไปรับลูกปืน” คนในชุดสากลทักทายพลางรับไหว้ทั้งสองหนุ่มสาว
“มันใส่มาจากชั้นสองน่ะครับ เลยไม่ทันระวัง ดีที่นุชเขาเห็นเลยเล่นมันทัน ไม่งั้นคงโดนซ้ำอีกแหละครับ”
“อืมม คราวต่อไประวังกันหน่อยซีนะ ดีมากนะนุช ตอนนี้ให้พักสักอาทิตย์นึงนะ แล้วเดี๋ยวให้คนอื่นสรุปรายงาน
ก็ได้ เชษฐ์ก็นอนพักไปก่อน หายแล้วค่อยว่ากันใหม่” ชายในชุดสากลบอก
“คราวนี้ได้เยอะเลยนะครับ ตัดกำลังมันได้พอสมควรเลย” ปปส.หนุ่มบนเตียงกล่าวกับผู้เป็นนาย
“เออว่ะ ข้างบนก็ถล่มโรงงานมันไปแล้ว คราวนี้ไอ้ตัวใหญ่คงดิ้นกันพล่าน ฮ่ะ ฮ่ะ” ชายผู้อาวุโสกว่าหัวเราะเบา ๆ
หันไปมองลูกน้องทั้งสองคน “เออ แล้วนี่จะแต่งกันเมื่อไรเนี่ย”
“คุณพ่อนะ” สาวนุช หรือวีรนุช เจ้าหน้าที่ ปปส. ค้อนขวับ
“เอ่อ..” ชายหนุ่มบนเตียงพูดไม่ออก
“เฮ่ย แต่ง ๆ กันเสียที่เถอะว้า” ผู้อาวุโสบอกพร้อมกับสบตาสองคนสลับกัน “อยู่ด้วยกันมาตั้งปีแล้ว จะได้มีหลานตา
ไว้อุ้มเสียที” สองหนุ่มสาวหน้าแดง
“พ่อนะ นุชยังไม่ได้อะไรสักหน่อย”
“แกไม่ต้องมาโกหกพ่อหรอกน่า ทำอย่างกับพ่ออายุสัก 5 ขวบ” ผู้สูงอายุบอกลูกสาว “ถ้าจะว่า พ่อก็ว่าไปแล้ว ทำไม
จะไม่รู้ล่ะ ไม่ได้ขี่สามล้อซะเมื่อไหร่ แกสองคนคิดจะปิดพ่อได้เหรอไง”
สองหนุ่มสาวกลืนน้ำลาย
“งานเราน่ะมันเสี่ยงตลอดเวลา อย่างวันนี้พอเชษฐ์ยังโดนเข้าไปสอง ถ้าเรามีลูก พ่อจะได้ให้เรามาทำงานสำนักงาน
เสีย แต่ถ้าอยู่อย่างนี้ พ่อคงดึงแกออกจากงานสนามไม่ได้หรอก ยังไงแกก็เป็นเจ้าหน้าที่ฝีมือดีนะ” ผู้สูงวัยบอกตรง ๆ
“อ้อ นี่จะให้หนูขึ้นไปนั่งทำงานสำนักงานหรอกเหรอคะเนี่ย”
“ใช่แล้ว พ่อดึงเชษฐ์ขึ้นไม่ได้หรอก แต่ถ้าแกท้องแล้วมีลูก พ่อก็ดึงได้ อย่างน้อยที่สุดแกสองคนก็ต้องไปเสี่ยงได้
คนหนึ่ง แต่แกสองคนไปเสี่ยงอย่างนี้ พ่อก็ไม่ค่อยสบายใจหรอก แกน่ะลูกพ่อ พ่อต้องห่วงอยู่แล้ว ส่วนเชษฐ์นี่มัน
ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูกเพราะเป็นคนที่ลูกสาวพ่อรัก พ่อก็ต้องห่วงอีกคน อย่าให้พ่อต้องห่วงมันทั้งสองคนเลยว้า”
“แหม พ่อนี่..” สาวน้อยเดินเข้าไปสวมกอดพ่อตนเอง ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อย่างลำบากเพราะไหล่ข้างหนึ่งนั้น
พันผ้าปิดรอยแผลกระสุนปืนไว้
“ขอบพระคุณครับ ผอ ออ.”
“เอาละ ตกลงกันเมื่อไรก็บอกจะจัดงานให้ แล้วเชษฐ์ ถ้าแกยังไม่เลิกเรียกชั้นว่า ผอ ออ ชั้นจะส่งแกไปไกล ๆ เลย”
“ครับ ท่าน” ชายหนุ่มรับคำ แต่พอเจอสายตาชายสูงวัยที่ถลึงใส่ก็รีบพูดต่อ “ครับ คุณพ่อ”
“เออ ค่อยยังชั่ว รื่นหูหน่อย” ชายสูงอายุพูดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เดี๋ยวพ่อจะให้วันเพ็ญขึ้นไปประสานหน่วย
ผู้การการุณย์เขาสักสี่ห้าวัน กลับมาค่อยประชุมวางแผนกันต่อ เอาเป็น อังคารสิ้นเดือนแล้วกัน แล้วนายเชษฐ์ด้วย
ถ้ายังไม่หายดีก็พันผ้าเข้าประชุมแล้วกัน”
“ครับ”.. “ค่ะ” สองหนุ่มสาวรับคำพร้อมกัน
พอผู้สูงวัยเดินลับออกจากห้องไปสองคนนั่นก็หันมามองหน้ากัน
“พ่อรู้ได้ไง พี่เชษฐ์..” วีรนุชถามขึ้น
“โธ่ ผอ ออ นั่นระดับไหนแล้ว แต่ก็ดีนะ รู้แล้วรู้รอดกันไป พี่กลัวแต่จะหัวขาดเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดเบา ๆ
“หนอย กลัวหัวขาด” สาวเจ้าเข่นเขี้ยว “ทำงานอยู่ยังไม่วายเล่นซะเข่าอ่อนนะ กลัวหัวขาด นี่แน่ะ”
“โอ๊ย” ชายหนุ่มร้องสะดุ้งตัวงอเมื่อสาววีรนุชตะปบขยำพวงสวรรค์เต็มมือ
“แหม ขนาดเจ็บตัวยังมีแรงแข็งขันอีกนะพี่เชษฐ์” วีรนุชพูดตอนที่กำจนไอ้เจ้าท่อนเอ็นนั่นแข็งขึ้นมาคามือ “เมื่อเช้า
ก็ทีนึงแล้วยังไม่หมดฤทธิ์อีก”
“ก็แฟนพี่ทั้งสวยทั้งน่าฟัดขนาดนี้ ใครจะอดใจไหวกันเล่า” นายตำรวจ ปปส. นอนยิ้มเมื่อมือที่กำนั่นคลึงจนอวัยวะ
ยืดตัวขึ้นมาเต็มลำ
“อ๋อ เหรอ แล้วพยาบาลก็สวยด้วยซีนะเนี่ย สงสัยต้องมานอนเฝ้าเองแล้วมั๊งเนี่ย” สาวเจ้าแย้มพรายกระเซ้า
“กลัวพยาบาลมาทำแทนเหรอจ๊ะ”
“ไม่กลัวหรอกเจ้าค่ะ กลัวแต่แฟนตัวเองจะออกไปปล้ำพยาบาลเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ” มือเรียวล้วงลงไปในกางเกง
คนป่วยลูบคลำท่อนเอ็นแล้วรูดหนังเปิดหัวถอกเล่น นิ้วมือลูบเบา ๆ วนไล้
“อูยย อย่าลูบซี เดี๋ยวใครเข้ามา” คนป่วยประท้วง ทำเอาสาวเจ้าหยุดชะงักชักมือออกแล้วเดินไปกดล๊อกประตูห้อง
“คราวนี้ไม่มีใครเข้ามาแล้ว” สาวเจ้าก้มถอดกางเกงในสีดำตัวจิ๋วออกโยนไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ แล้วปีนขึ้นเตียงคนไข้
“เอาจริงเหรอน่ะ นุช” คนป่วยหน้าเหรอหราเมื่อเห็นแฟนสาวก้าวขึ้นคร่อม ปลดกางเกงตนเองล้วงเอาท่อนเอ็น
ออกมาให้มันตั้งโด่เด่ ก่อนจะกดเนินกลีบแคมโยนีอวบ ๆ อุดมไปด้วยพงขนทาบลงไป
“ต้องคิดบัญชีก่อน พี่เชษฐ์ แก้แค้นเมื่อเช้า” สาวเจ้าวางแคมทาบกดจนท่อนเอ็นราบลงไปกับหน้าท้องแล้วขยับ
สะโพกไสไปมาช้า ๆ “จะได้ไม่มีแรงไปเที่ยวปล้ำพยาบาล อุ๊ย”
สาวเจ้าอุทานเมื่อชายหนุ่มกระเด้าท่อนเอ็นให้ไหลไปมาอีกแรง
“สู้เหรอ นี่แน่ะ” วีรนุชกดแคมยันไหลไปมาใสท่อนเอ็นอวบจนถ้ำทองหลั่งหยาดน้ำลงไปอาบเอ็นเนื้อชายหนุ่ม
“สู้ซิ ใครจะไปยอมแพ้” ชายหนุ่มเกร็งเอวข่มความเจ็บแผลกระเด้าแล้วหยุดสูดปาก “อูยย เจ็บสีข้าง”
“อ้าว เหรอคะพี่เชษฐ์ งั้นก็อย่ากระเด้าซิ นอนเฉย ๆ นุชทำเอง โอ๊ะ..”
สาววีรนุชอุทานเมื่อหย่งตัวขึ้นนิดหนึ่งด้วยจะก้มลงมองแผลที่สีข้างแฟนหนุ่ม จังหวะนั้นเองพิเชษฐ์นายตำรวจหนุ่ม
ก็ฉวยโอกาสที่แคมเนื้อยกสูงขึ้นจากท่อนเอ็นปล่อยให้มันกระดกขึ้นตั้งจรดปากถ้ำ ยกเอวดันมันมุดจมวาบเข้าใน
รูเนื้อนุ่มมิดเงี่ยง
“อูยยซซ” วีรนุชหยุดนิ่งครางเมื่อหัวเงี่ยงบานหยักมุดเข้ามาเต็มรู ถึงจะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือน ถึงจะเคยกระหน่ำ
เพลงกามากันมาชนิดฟ้าสว่างคาตามาหลายหน แต่ความอวบของท่อนเอ็นของพิเชษฐ์ก็ยังทำให้เธอรู้สึกเต็มแน่น
ได้ทุกครั้งไป ยิ่งยามนี้เธอเป็นฝ่ายอยู่บน ไอ้หัวดอที่ฝังเข้ามามันกดยอดเนินจนเสียววาบต้องขมิบถ้ำยกค้างไว้
”อืมม หยุดทำไมล่ะจ๊ะนุช”
“เดี๋ยวซี มันเสียวนะ” สาวเจ้าค้อนขวับก่อนจะกดสะโพกลงช้า ๆ กลีบแคมแบะอ้ากลืนเอ็นลึงค์อวบเข้าไป มันครูด
ผนังถ้ำดะไปจนเธอรู้สึกได้ตลอดเวลาว่ามันบุกเข้ามาในร่างของเธอถึงไหน เธอกดสะโพกลงพร้อมกับดื่มด่ำไปกับ
ความรู้สึกยามที่ท่อนเอ็นของชายอันเป็นที่รักค่อย ๆ ขยับเขยื้อนเคลื่อนเข้ามาในร่างที่ร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงกาม
“อูย พี่เชษฐ์ขา เสียวจัง”
“อืมม พี่ก็เสียวจะแย่ อูย” ถึงจะเสียว พิเชษฐ์ก็ข่มความเสียวยกก้นดันเอ็นแทงสวนขึ้นไปเป็นจังหวะ หัวถอกบานร่า
ขยับไหวขยอกเข้าออกสั้น ๆ รูเนื้อก็ขมิบรับวาบ ๆ อย่างยินดีปรีดายามที่มันค่อย ๆ เคลื่อนกระดุบกระดิบเข้ามา
“อืยยยยย.. ซซซซซ” สาวนุชครางพลางซบฟุบลงกับร่างของแฟนหนุ่มเบา ๆ เมื่อตนเองกดหน้าเนินลงแนบชิดสนิท
ลงกับโคนเอ็น แก่นกายชายหนุ่มมุดเข้ามาในร่างจนหมดสิ้นเบ่งพองหยุบหยับเป็นจังหวะอยู่ในช่องแน่นหนั่น เธอ
ขยักยักสะโพกเบา ๆ ให้โคนตอเอ็นบดบี้ติ่งเม็ดเนื้อเพิ่มความเสียวกำซาบแล่นไปทั่วร่างจนขนลุกเกรียว ๆ
ชายหนุ่มเองก็หลับตาขบกรามจนขึ้นเป็นสันยามที่ท่อนเอ็นโดนครอบงำด้วยโพรงเนื้อนุ่มกระชับ เมื่อวีรนุชบดส่าย
ทำให้ปลายหัวถอกบานครูดเอาเนื้อในโพรงที่บีบรัดขยับไปมาจนเขาเองก็เสียวมิใช่น้อย เอวแข็งแรงพยายามกระดก
กระเด้าด้วยความปรารถนาให้แก่นเนื้อกายมุดเข้าออกให้สาแก่ใจ แต่ก็ต้องพ่ายแก่ความเจ็บแผลที่สีข้าง ทอดตัวลง
นอนเฉย ๆ ปล่อยให้แฟนสาวเป็นผู้บรรเลงเพลงกามาอย่างเริงร่า
นายตำรวจหนุ่มได้แต่นอนมองแฟนสาวที่ขึ้นนั่งคร่อมร่างของตน หัวเข่ากลมกลึงวางลงข้างสะโพกแข็งแรงของเขา
สะโพกกลมกลึงดันโคกแคมเนื้อบดเบียดกับเอ็นกายเขาเป็นจังหวะแช่มช้า สองมือเท้าลงข้างศีรษะของเขา โน้มลง
มาจูบประจบแน่น จมูกเรียวปล่อยลมหายใจฟืดฟาดเคล้าเสียงที่เปล่งออกจากลำคอระหงด้วยความกำหนัดเสียว
โพรงโยนีเนื้อนั่นกระตุ้นเร่งเร้าอารมณ์เขาได้ไม่สิ้นสุด ด้วยมันบีบรัดกระชับโอบรัดท่อนเอ็นเนื้อพลางบดส่าย
ไหวเคลื่อนไปมา พาเอาหัวถอกบานกวัดไกวไปทั่ว ยามถอนถอนออกจากแก่นกายก็ดังจะดูดเอาเรี่ยวแรงตาม
ออกไป ยามที่บดเบียดเข้ามามันก็บดคลึงวน กระถอก กระตุ้น กระทบ กระแทกเพียงให้รู้สึกว่า ปลายหัวถอกบาน
นั่นมุดเข้าไปจนสุดความลึกแห่งถ้ำทอง กระทบแก่นเนื้อในถ้ำกึกกัก จนแทบจะกลั้นความเสียวไม่ได้ และแล้ว
แฟนสาวของเขาก็หยัดตัวตั้งขึ้น ถอดทึ้งดึงเสื้อตัวนอกและเสื้อในออกเหวี่ยงไปไม่ใยดี ช้อนเต้าอวบข้างหนึ่ง
ส่งปลายจะงอยถันที่ตั้งชันเข้าสู่ปากของเขาที่อ้ารับแล้วดูดดุนปลายหัวนมด้วยความยินดี
“อย่าขบนะ พี่เชษฐ์ บอกว่าอย่าขบ ว๊ายยย ซี๊ดดสสสสสสสสสสสสส”
ในเมื่อนายตำรวจหนุ่มรู้จุดอ่อนของแฟนสาวจึงไม่ลังเลที่จะดูด ขบเม้มหัวนมแฟนสาวด้วยริมฝีปากนุ่มของตน
วีรนุชครางแล้วสูดปากเมื่อความเสียวพุ่งขึ้นมาเมื่อโดนแฟนหนุ่มเม้มเอาหัวนม โพรงเนื้อกระตุกวาบ ๆ รัด
ท่อนลึงค์อวบแน่น สะโพกกลมส่ายควงกระดกกระเด้ากระชั้นกระทั้นถี่เมื่อความเสียวพุ่งปราดขึ้นจนเสียวซ่าน
ไปทั้งตัว ร่างบาง ๆ นั้นแอ่นกายเหยียดสั่นริก ๆ เกร็งแน่น ใบหน้าเรียวงามบูดเบี้ยว ขบฟันกรอด ๆ จนครู่ใหญ่
ร่างบาง ๆ นั้นจึงผ่อนลง เธอลืมตาขึ้นจ้องประสานตากับแฟนหนุ่ม
“บ้า พี่เชษฐ์นี่ บอกแล้วว่าอย่าขบ อย่าขบ ไปเลยเห็นป่าว” ถึงดวงตาคู่นั้นจะค้อนใส่ แต่ก็ไม่มีแววเคืองขุ่น
“อ้าว เห็นส่งหัวนมให้พี่นี่”
“บ้า ก็รู้ว่าขบแล้วมันจะจี๊ดน่ะ อูย หมดแรงเลยเนี่ย พี่เชษฐ์ ขาสั่นเลย” พูดจบเธอก็ยกก้นขึ้นถอดเอาโคกเนื้อนุ่ม
หลุดออกจากแท่งเอ็นที่หลุดออกมาตั้งแกว่งแล้วตกลงแนบหน้าท้อง แท่งเนื้อมันปลาบอาบด้วยน้ำเมือกใสพอง
กระดกอยู่หงึก ๆ หยาดน้ำเมือกที่อาบชุ่มท่อนเอ็นหยดแหมะลงกับหน้าท้องแบนราบ
วีรนุชก้าวลงจากเตียงลงไปยืนหายใจเหนื่อย ๆ ด้านข้างสองแก้มแดงระเรื่อ
“แกล้งดีนักนะพี่เชษฐ์ มานี่” เอก้มลงมือจับประคองท่อนเอ็นเนื้อให้ตั้งขึ้นแล้วครอบปากลงไป อมหัวถอกบาน
ผลุบหายเข้าไปในกระพุ้งแก้ม ออกแรงดูดกับใช้ลิ้นเรียวนุ่มม้วนรัดหัวถอกบานจนพิเชษฐ์เสียววาบ ๆ ตามจังหวะ
ที่เธอเลียลิ้นวนเน้นที่หัวถอกไวความรู้สึก
“อูย ซซ อย่าดูดแรง เสียว” พิเชษฐ์ผงกหัวขึ้นบอกเบา ๆ
“ไม่รู้ล่ะ ตานุชมั่ง จะดูดให้หมดแรงเลย” เธอคายหัวถอกออกจากปาก เงยหน้าขึ้นบอกแล้วก้มลงดูดต่อ
มือช้อนถุงไข่นุ่มนิ่มขึ้นคลึงเบา ๆ ปากอมดูดแล้วก้มยกขึ้นลงกระถอกท่อนเอ็นด้วยกระพุ้งปากนุ่ม กดปากลงจนมัน
กลืนเอาท่อนเอ็นเข้าไปจนชนเพดานปาก คายมันออกมาแล้วลากลิ้นขึ้นลงไปตามลำท่อนเอ็น มือกำแก่นเนื้อกระชับ
กระถอกรูดเป็นจังหวะ กดปลายลิ้นลงแหย่ปากรูปลายหัวแล้วเกลี่ยวนไล่รอบหัวถอกบานร่า
พิเชษฐ์หลับตา ข่มความเสียวที่โดนแฟนดูดอมกำกระถอกท่อนเอ็นเน้นแน่น ความเสียวพุ่งขึ้นเป็นริ้ว ๆ เขาเองก็
ตระหนักดีว่า แฟนสาวมีจุดอ่อนที่หัวนมเม็ดน้อย ยามที่เขาสอดใส่กระแทกเอ็นเข้าโพรงเนื้อเธอแล้ว เมื่อเขาเม้มขบ
หัวนมเธอ วีรนุชจะถึงจุดสุดยอดอย่างฉับพลัน ส่วนตัวเขาเองคือ เมื่อวีรนุชดูดเลียแท่งเอ็นเขาอยู่ เมื่อใดที่เธอเขี่ย
ฝีเย็บตรงรอยต่อใต้ถุงไข่กับรูทวารแล้ว เขาก็จะกลั้นน้ำไว้ไม่ไหว ต้องหลั่งทะลักออกไปจนแห้งเหือดเมื่อนั้น
สาววีรนุชอมดูดจนร่างของแฟนหนุ่มเกร็งเขม็งด้วยความเสียว เธอดูดเม้มหัวถอกด้วยริมฝีปากนุ่ม มือกระถอก
ท่อนเนื้อเป็นจังหวะจนท่อนเอ็นในมือพองเบ่ง แล้วเธอก็รุกฆาต ดันหัวไปข้างหน้าอ้าอมท่อนเอ็นแฟนหนุ่มเข้าไป
จนสุดลำคอ พงขนแข็งของแฟนหนุ่มเขี่ยระปลายจมูกจนจั๊กจี้ไม่ใช่น้อย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ปลายนิ้วที่
กำลังคลึงพวงข่ของแฟนหนุ่มเหยียดลงไปยังเป้าหมายที่เธอรู้ดี แล้วกดปลายเล็บลากแผ่ว ๆ ไปตามรอยฝีเย็บ
พร้อมกับทำเสียฮึมอยู่ในลำคอ
“โอ๊ะ อ๊าซซซซซซ”
พิเชษฐ์เกร็งร่างแน่นเมื่อโดนโจมตีเข้าจุดอ่าน ปลายเล็บที่ลากไปตามฝีเย็บทำเอาเอวเขากระตุกยึก ๆ ด้วยความเสียว
มันพุ่งขึ้นจากโดนตอเอ็นแผ่วาบซ่านไปทั้งตัว แล้วแฟนสาวก็ส่งเสียงคราง ลำคอนุ่มสั่นไหวระรัวยามที่เธอเปล่ง
เสียงทำเอาหัวถอกบาน ๆ ที่แนบอยู่กับเพดานคอนั่นเสียวจนสุดระงับยับยั้ง ร่างแข็งแรงแอ่นหยัดกระดกเอวขึ้น
แก่นเนื้อที่เสียวจี๊ดนั้นเบ่งพองขึ้นอีก แล้วสายธารกามาอุ่นคาวก็ทะลักพรวดออกไปจากท่อนลึงค์ดังกระสุนปืน
พุ่งออกไปเข้าสู่กระพุ่งปากของแฟนสาวที่ขยับถอยออกไปนิดหนึ่งอย่างรู้จังหวะ
ถึงเธอจะรอจังหวะนั้นอยู่แล้ว แต่น้ำกามขาวขุ่นระลอกแรกที่พุ่งออกมาจากลำเอ็นของพิเชษฐ์ มันแรงจนพุ่งลงสู่
ลำคอของเธอแล้วเอ่อท้นเข้ามาเต็มกระพุ่งแก้ม มือเธอกำท่อนเอ็นที่กระตกวาบ ๆ กระถอกลงจนสุดแล้วบีบรูดดัง
จะรีดเอาน้ำกามทั้งหมดเข้าสู่ปาก ดังคนที่กระกายอย่างมาก เธอดูดกลืนเอาน้ำกามขาวขุ่นคาวของพิเชษฐ์ผ่าน
ลำคอเข้าไปอย่างไม่ละลด อุ้งมือที่ประคองถุงไข่กดคลึงเบา ๆ ปลายนิ้วลากเล็บลงที่ฝีเย็บจุดอ่อน ปลายลิ้นกดเลีย
รับหยาดน้ำที่ฉีดพุ่งออกมาจากปลายหัวบาน แล้วออกแรงดูดเลียวนลิ้นไปรอบ ๆ หัวถอก
พิเชษฐ์ขยุ้มผมของวีรนุชมือสั่นระริก ร่างแข็งแรงเกร็งหยัดแน่น ยามที่กำลังหลั่งน้ำอยู่นั่น ปลายหัวถอกบานยิ่งไว
ต่อความรู้สึกมากขึ้นเป็นทวีคูณ ความรู้สึกบอกตนเองว่า ท่อนเอ็นฉีดพ่นน้ำกามเข้าสู่ปากคอแฟนสาวเป็นระลอก
แล้วก็ต้องเกร็งกระตกเฮือก ๆ เมื่อแฟนสาวเลียไล้อมดูดหัวถอกจนเสียจี๊ดไปทั้งลำเอ็นทั้งท้องน้อย
“โอย โอย โอย..” พิเชษฐ์ครางเมื่อหัวถอกโดนดูดซ้ำย้ำแน่นกระชับด้วยกระพุ่งปากและปลายลิ้น น้ำกามของเขา
ฉีดพ่นออกไปจนเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันหมดยุ้งเก็บหรือไม่ ด้วยความเสียวที่โดนกระตุ้นไม่หยุด ร่างเขาสั่นอย่างระงับ
ไม่ได้เมื่อปลายหัวถอกยังโดนดูดโดนเลียอยู่อย่างนั้น จนรู้สึกว่าปากนุ่มนั่นดูดเอากำลังวังชาของเขาออกไปจน
แห้งเหือด ปล่อยให้เขานอนหายใจระรวย เป่าลมจนปากแห้งผาก
“เป็นไงล่ะ” ใบหน้าสวยแฉล้มก้มลงมาจ้องตา ปากเรียวยิ้มละไม
“โหยย หมดแรงแล้ว” พิเชษฐ์บอกเมื่อปลายนิ้วเรียวยังวนไล้รอบปากรูหัวเอ็น
“ดีแล้วค่ะ งั้นนุชกลับก่อนนะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวเย็น ๆ มานะคะ” สองมือดึงชายกางเกงของพิเชษฐ์
ขึ้นปิดท่อนเอ็นที่หดตัวลงพังพาบกับหน้าท้อง
“จ๊ะ..”
“อยากกินอะไรไหมพี่เชษฐ์ จะได้หิ้วมาฝาก” วีรนุชบอกขณะที่สวมเสื้อ แล้วล้างแปรงออกมาสางผม
“อยากกิน.. พยาบาล” พิเชษฐ์กระเซ้า วีรนุชหันขวับมาจ้อง ทำเข่นเขี้ยว
“ดี งั้นเดี๋ยวดึก ๆ จะดูดให้แห้งตายเลย”
“จ้า รีบไปรีบมานะนุช” พิเชษฐ์พูดอย่างอ่อนแรง
“ค่า พ่อสามีคนเก่ง” วีรนุชบอก คว้ากระเป๋าถือขึ้นสบายไหล่หันเดินออกไปจากห้อง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น