ขายของ

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

With No Remorse Chapter 17

With No Remorse Chapter 17 เสี่ยจอมค้ายานรกกับเมียสาวใหญ่นั่งจ้องมองจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ในหัวของทั้งคู่ว่างเปล่าเหมือนชายฝั่งทะเล ที่เพิ่งจะโดนพายุโหมกระหน่ำกวาดแนวชายหาดจนเกลี้ยงเกลา ร่างกายเหมือนถูกมือยักษ์บีบจับจนแข็งทื่อ “...สภาพศพถูกมัดอย่างแน่นหนาโยงคอ ข้อมือ และข้อเท้าเข้าด้วยกัน คาดว่าเสียชีวิตเนื่องจากถูกเชือกที่โยงอยู่นั้น รัดคอจนหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ารวบรวมหลักฐานในห้องเกิดเหตุ......” เสี่ยใหญ่หันไปมองหน้าภรรยาที่น้ำตาหลั่งรินลงอาบแก้ม “...สภาพภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบยาบ้าอีกประมาณสองหมื่นเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป้นฝีมือของขบวนการค้ายาเสพติดที่อาจเกิดการหักหลังกันเอง หรือ อาจจะเป็นแก๊งยาเสพติดข้ามชาติเนื่องจากการลงมือนั้นเหมือนกับที่แก็งยากูซ่าชอบใช้....” เสี่ยใหญ่ลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนปล่อยให้เมียสาวใหญ่นั่งดูข่าวต่อไปคนเดียว หัวสมองยามนี้ปั่นป่วนไปด้วยความคิด สารพัดสารพัน แน่นอนเลยว่าการต่ยของลูกชายของมันนั้นไม่ใช่ฝีมือของยากูซ่าแน่นอน จะต้องเป็นพวกไอ้นายพันนั่น แน่นอน ไอ้ชัยที่หายไปหนึ่งคนแล้วนั่นคงไม่แคล้วโดนไอ้พวกนี้เก็บไปเสียแล้ว คราวนี้เป็นลูกชายมัน เรื่องชักจะใกล้ตัว เข้าเรื่อย ๆ เห็นทีจะต้องให้ไอ้จ่าชดมันมาอยู่ใกล้ ๆ เรื่องอื่น ๆ ไว้ปรึกษาท่านก่อน ตอนนี้ตัวเองจะต้องระมัดระวังให้มาก หาไม่มันเองอาจจะเป็นศพต่อไปก็ได้ เสี่ยเล้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขปลายทางที่จำจนขึ้นใจ ................. “ทำอะไรกันอย่างงี้นะ ทั้งสองคนเลย น้องนุ่งยังเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เอาน้องไปสุ่มไปเสี่ยงไม่เข้าเรื่องเข้าราว นี่ถ้าเกิดเราพลัดกันไปเข้าไปช่วยน้องไม่ทันแล้วจะทำยังไง ทั้งตาชายทั้งตาวุฒินั่นแหละ สองคนเลย นี่ถ้าเป็นเด็ก ๆ กันอยู่ แม่จะไม่ว่าไม่กล่าวถึงปานนี้หรอก นี่อะไรรึ โต ๆ กันจนขนาดไหนแล้ว ยังทำเหมือนคนไร้ความคิด ดูซิขนาดหนูรจ ยังเป็นได้ขนาดนั้น นี่ถ้าพวกนั้นมันรู้ว่าเป็นน้องแล้วมันพลิกไปอย่างอื่น พวกเราจะเข้าไปช่วยน้องได้ทันการณ์รึไง” กานดาพูดยาวเหยียดหน้าเคร่งเครียด “คุณต้นก็พอคุณต้นนะ จะบอกว่าไม่ทราบไม่กระไรก็ดูจะแปลก ๆ ไปละ นี่ ยิ่งเป็นผู้ใหญ่กว่าด้วย แหมนะ สามคนนี่ถ้าเป็นเด็กเล็ก ๆ จะตีให้...” สามหนุ่มคือทั้งการุณย์ ชาติชาย และวรวุฒินั่งนิ่ง โดยเฉพาะชาติชายและวรวุฒินั่งก้มหน้าแทบไม่กล้าสู้สายตาวาว ๆ ของกานดาที่นั่งพูดอยู่ตรงหน้า แขนข้างหนึ่งของกานดาโอบไหล่สาวน้อย วีรนุช เอาไว้เหมือนจะปลอบ “แม่ครับ ชายวางแผนแน่นอนไม่พลาดไปได้หรอกครับแม่” “ยังจะมาเถียงแม่อีก คนเราน่ะ จะระวังระไวอย่างไรก็ตามมันก็พลาดก็พลั้งกันไปได้ แม่ไม่ได้ว่าเราวางแผนกัน ไม่รอบคอบ แต่เราคิดกันบ้างไหมว่าถ้ามันพลาดกันขึ้นมาแล้วน้องจะเป็นยังไง ดู ดู๊ ยังเด็ก ยังเรียนไม่จบเลย ไอ้พี่ชาย สองคนนี่พาไปเสี่ยงเอาเสียแล้ว นี่นะตาชัย ตาวุฒิ แม่ยังเสียใจเรื่องหนูรจนาอยู่ยังไม่ทันจะจาง นี่ถ้าหนูก้อยนี่เกิด พลาดไปอีกคน แม่คงจะอกแตกตาย ไม่พักจะต้องว่าถึงพ่อถึงแม่เราหรอกนะตาวุฒิ นี่ถ้ารู้เรื่องเข้าเขาจะมาถอนหงอกแม่ ถอนหงอกคุณต้นกันแน่ละ คิดกันมั่งหรือเปล่า” กานดาพูดจบแล้วหายใจหนัก ๆ อย่างโกรธขึ้ง “หนูก้อยก็ไม่เป็นไรแล้วนี่ครับคุณดา” การุณย์พูดขึ้น “คราวต่อไปก็คิดให้รอบคอบกันมากหน่อย แล้วบอกกันก่อน ไม่ใช่ทำกันแล้วให้อามาโดนด้วย” ประโยคสุดท้ายหันไปหาสองหนุ่ม “แต่ก็สำเร็จเรียบร้อยดีนี่ครับ” ชาติชายตอบ “ยังจะมาเถียงอีก” กานดาหันขวับมาหาลูกชาย “ที่น้องโดนวางยามาเนี่ย ไม่เป็นไรมาก็บุญแล้ว ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้ว จะทำยังไง น้องเป็นผู้หญิงนะ เราจะสนิทกันยังไงแม่ไม่รับรู้ด้วยหรอกนะ แต่เรื่องนี้แม่ไม่ยอมให้น้องเสียหายหรอก” “คุณป้าคะ ก้อยไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ชายไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ นะคะคุณป้า” สาวน้อยหันไปพูดกับกานดา “ก็ยังดี ถ้าไม่งั้นแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” กานดาลูบผมสาวน้อย “แต่แม่ไม่ยอมให้ผ่านไปเฉย ๆ หรอก ตาชาย” “อ้าว แล้วแม่จะให้ผมทำอย่างไรล่ะครับ” ชาติชายถามงง ๆ “น้องจบมาแม่จะไปขอให้แต่งงานกับเรา” กานดาพูดหนักแน่นทำเอาชาติชายตาค้าง “แม่ แล้ว ก้อย..” ชาติชายร้องมาไม่ทันจะขาดเสียง “ถ้าหนูก้อยเกลียดขี้หน้าลูกป้า ป้าจะให้ตาชายเอาพานดอกไม้ไปขอขมาคุณพ่อคุณแม่หนู” กานดาหันไปบอกสาวน้อย ที่นั่งเอนร่างแนบชิดกับตน “อ้าว แม่ ไหงงั้นล่ะ” ชาติชายต่อว่า “ไม่ต้องมาอะไรเลย เราน่ะ ผิดสองต่อ ทั้งคู่เลย” กานดาหันไปค้อนใส่ลูกชายกับเพื่อน “คุณป้าคะ ก้อยไม่ได้โกรธพี่แก้วกับพี่ชายหรอกค่ะ แล้ว ก้อยก็ตกลงใจเองด้วย” สาวน้อยพยายามแก้ตัวให้พี่ชาย “นั่นแหละ หนูไม่ต้องไปแก้ตัวให้สองคนนั่นหรอก” กานดาหันมาพูดกับสาวน้อยพลางลูบเรือนผมดำขลับอย่างเอ็นดู “ว่าไงตาชาย” “ไม่ว่าครับ” ชาติชายตอบหงอย ๆ “ดี ทีนี้จะทำอะไรจะได้รู้จักใช้ความคิดกันบ้าง ทีนี้จะไปไหนกันต่อล่ะ” “เดี๋ยวผมก็กลับบ้านแล้วครับ” วรวุฒิตอบ “ผมลาเลยครับ สวัสดีครับคุณป้า สวัสดีครับผู้การ” “จ๊ะ ไปเถอะ ตาชายล่ะ” “ไปด้วยครับ ผมไปนะครับ สวัสดีครับแม่ สวัสดีครับอาต้น” กานดานั่งมองสองหนุ่มพาสาวน้อยเดินออกจากบ้านไป กานดาลุกตามไปปิดประตูหน้าต่างบ้าน “ดุเหมือนกันนะนี่ นึกว่าจะใจดี” การุณย์พูดขึ้นมาลอย ๆ “อ๋อ แน่ล่ะค่ะ น้องทั้งคนพาไปเสี่ยงได้ไง พิเรนทร์จริง ๆ” กานดาหันมาพูดเรียบ ๆ “คุณต้นก็ด้วย ไม่รู้จักห้ามกันบ้าง” “อ้าว ผมไม่ทราบเลยนะครับว่าสองคนนั่นวางแผนยังงั้นน่ะ” การุณย์หน้าเหรอ “แต่ที่จะจับเจ้าชายแต่งกับหนูก้อยนั่น ไม่หนักไปหน่อยเหรอครับ” “ไม่หรอกค่ะ พาน้องไปเสี่ยงขนาดนั้น โดนวางยามาแล้วยังมานอนกอดหนูก้อยทั้งคืน ใครรู้เข้าเขาจะเชื่อไหมคะ ว่าไม่มีอะไรกัน อีกอย่างหนูก้อยก็เป็นสาวเป็นแส้แล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะไปปลอบไปกล่อมกันอย่างนั้น ใครรู้เข้า ผู้หญิงก็เสียอยู่ดี ถึงคนอื่นไม่รู้ก็ตัวเองก็รู้ จะทำเป็นไม่เกิดอะไรไม่ได้หรอกค่ะ คุณต้นก็เถอะยังจะมาพูดให้ท้ายเด็ก ๆ อีก” “อ้าว ไหงงั้นล่ะ” การุณย์ร้อง “ไม่รู้ล่ะ ยังจะมาแก้ตัวให้กันอีก” กานดาเดินเข้ามาช่วยประคองแขนการุณย์ให้ค่อย ๆ ลุกขึ้น “มาค่ะ ขึ้นนอนได้แล้ว” การุณย์ลุกตามอย่างว่าง่าย กานดาประคองการุณย์ให้เอนลงนอนจนเรียบร้อยดี ก็ผละออกไปชั่วครู่ก็กลับมาพร้อมกับอ่างน้ำควันกรุ่น “เช็ดตัวค่ะ” พูดจบก็วางอ่างน้ำลง จัดการถอดเสื้อการุณย์ออก แล้วลงมือเช็ดใบหน้าเรื่อยไปจนถึงหน้าท้อง “ถอดกางเกงค่ะ” พูดจบก็จัดการกับกางเกงแล้วหันไปพับเสื้อผ้าของการุณย์ที่กองอยู่มาพับซ้อนกันวางไว้ก่อน พอ หันกลับมาสายตาก็เจอกับท่อนลำเขื่องกลางลำตัวของการุณย์ตั้งโงนเงน ปลายมนทู่โผล่พ้นหนังบาง ๆ ออกมา “แน่ะ มีฤทธิ์” กานดาพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ขณะที่หยิบผ้าขนหนูขึ้นเช็ดทำความสะอาดท่อนเนื้อของการุณย์ การุณย์หน้าเหยตอนที่เธอบรรจงรูดหนังให้ปลายท่อนเนื้อโผล่ออกมาเต็มดอกแล้วบรรจงเช็ดทำความสะอาด พอเสร็จ เรียบร้อยก็ปล่อยให้หัวบาน ๆ พองเล่นแสงไปเห็นอยู่มันปลาบ “เจ็บเหรอคะ” เธอถามเมื่อเห็นหน้าเบี้ยว ๆ “ไม่เจ็บครับ แต่มันเสียยวว” การุณย์บอกยิ้ม ๆ แล้วสูดปากเบา ๆ เมื่อกานดาไล้นิ้วไปตามปลายท่อนเนื้อ “อืมม เสียวเหรอ” เธอไล้นิ้วไปมาจนหยาดน้ำใส ๆ ไหลปริ่มออกมาจากช่องเล็ก ๆ เธอจึงเอานิ้วเกลี่ยมันไล่วนคลึง พลางยิ้มให้การุณย์ด้วยนัยน์ตาขี้เล่น “อย่างนี้เสียวไหมคะ” “อูยย คุณดาอย่าแกล้งเลยครับ” การุณย์บอกเสียงกระเส่า ทั้งร่างกายที่ยังไม่หายสนิท ทั้งเฝือกอ่อนที่รัดตัวรัดแขน ทั้ง ผ้าพันแผลที่ยังพันอยู่รอบหน้าอกทำให้เขาขยับตัวไม่ได้มากนัก ยามที่ปลายหัวท่อนเอ็นโดนนิ้วมือสาวใหญ่ที่รักเล่นนิ้ว คลึงวน ส่งความเสียววาบ ๆ จนต้องขยับสะโพกอยู่ไปมา ท่อนเอ็นเนื้อแข็งเขม็งอัดแน่นไปด้วยเลือดจนลุกโชนอยู่ ในมือนุ่มนิ่ม จากนั้นมือนุ่มนิ่มนั้นก็กำกุมท่อนเอ็นไว้แล้วค่อย ๆ รูดท่อนเนื้อขึ้นลงเนิบ ๆ การุณย์ยกหน้าขึ้นมองเห็น กานดานั่งอยู่ที่ขอบเตียง ใบหน้านวลงามนั้นทอประกายแดงระเรื่อ ดวงตาสุกใสจับจ้องที่ท่อนเนื้อของเขาที่แล่น ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในมือ “อูย.. คุณดาครับ” “ขา.. อะไรหรือครับ” “จะแกล้งไปถึงไหนครับ เสียวจะแย่” “ใครว่าแกล้งคะ นี่ดากำลังทำโทษ ฐานที่คุณต้นเข้าข้างหลานสองคนนั้น ต่างหาก” กานดาหันมาสบสายตาการุณย์ด้วย ดวงตาฉายแสงระยิบระยับ พอการุณย์จะอ้าปาก เธอก็ก้มลง ครอบปากนุ่มลงกับดอกเห็ดเนื้อของการุณย์ “อุ๊บ..” การุณย์ร้องสั้น ๆ เมื่อเรียวปากแผ่ความอุ่นซ่านให้กับแก่นเนื้อแข็งของเขา ในความนุ่มนั้นเองลิ้นนุ่มฉ่ำก็กวาด ไล่เลียเล็มรอบกลีบเนื้อไวความรู้สึกจนเขาต้องเกร็งเอวแขม่วท้อง สะโพกกระดกไหวเบา ๆ มือสองข้างของกานดากด โคนท่อนเนื้อเอาไว้ ทำให้หนังร่นลงมาที่โคนเอ็น ปล่อยเปิดปลายท่อนเอ็นให้เธอโจมตีด้วยเรียวลิ้นอย่างเมามัน “โอย..” การุณย์ครางแผ่วผิวด้วยความเสียว มือยกขึ้นประคอแก้มนวลที่ยามนี้ตุ่ยไปด้วยชิ้นท่อนเนื้อที่เธอกล้ำกลืนอยู่ ศีรษะของเธอเริ่มผงกยกลดลงช้า ๆ พร้อมกับเรียวปากกระชับรัดรอบลำเอ็นและออกแรงดูดเบา ๆ เท่านั้นคลื่นเสียวก็ไล่ ไต่ตามท่อนเอ็นเขาจนขนลุกเกรียว จากนั้นมือข้างหนึ่งก็ยกขึ้นกำรวบท่อนเนื้อประชิดริมฝีปากตนเอนพร้อมกับเลื่อนขึ้นลง กระถอกเอ็นเนื้อเขาไปพร้อมกับริมฝีปาก “โอย..” แล้วเอ็นเนื้อของการุณย์ก็ยอมพ่ายแก่เรียวปากอิ่มที่อมรูดดูดเลียอย่างสุดจะทานได้ เมือกขาวขุ่นข้นระเบิด ทะลักพรวดเข้าสู่เรียกปากอุ่นเต็มแรง ระลอกแรก พุ่งออกไปด้วยพละกำลังและความอัดอั้น จนเต็มอุ้งปากกระพุ้งแก้ม แม้กานดาจะพอรู้แล้วว่าการุณย์จะระเบิด หยาดรักให้เธอ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะรุนแรงและมากมาย หยาดรักระลอกแรกจึงพุ่งท่วมลงไปในลำคอจนธอสำลักขลุกขลัก ต้องพยายามขย้อนกลืนหยาดน้ำอุ่นร้อนคาวลงคอไปอย่างรวดเร็ว กระนั้นก็ยังแทบไม่ทันเมื่อระลอกสองพุ่งตามติดเข้ามา อย่างแรงแทบไม่ย่อหย่อนกว่ากัน ระลอกสองพุ่งเข้าซ้ำระลอกแรกที่กานดายังกลืนลงคอไม่หมด มันเติมเข้ามาจนเต็มกระพุ้งแก้มแล้วทะลักล้นออกไป ตามริมฝีปากไหลย้อยลงตามลำเอ็นและคางเรียวของเธอ กานดาถอยหน้าออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ในกระพุ้งแก้ม ขณะที่ น้ำเมือกอุ่นฉีดพุ่งเข้ามา หมุนคอกลืนหยาดรักของการุณย์เข้าไปอย่างรวดเร็ว มือกำบีบท่อนน้ำกามด้านล่างเพื่อชะลอ ยั้งน้ำรักระลอกต่อไป หยาดเมือกขุ่นข้นพ่นหลั่งมาอีกสามสี่ระลอกก่อนจะหมดลง กานดากำกุมท่อนเอ็นกระถอกรูด ปากที่ออกแรงดูดเบา ๆ รีดเอาหยาดน้ำออกจากท่อนเนื้อเข้าสูปากพร้อมกับปลายลิ้นที่เลียวนปลายเนื้อจนการุณย์เกร็งตัวแอ่นเหยียดกัดฟันกรอด ยามที่เพิ่งหลั่งน้ำออกไปนั่น ปลายหัวเนื้อบานยิ่งไวความรู้สึกเป็นเท่าทวี ปลายลิ้นนุ่มที่โลมเลียลงไปจึงส่งกระแสดังไฟฟ้า แล่น ส่งร่างของการุณย์กระตุกเฮือก ๆ จนอึดใจกานดาจึงคายท่อนเอ็นที่ยังน่วม ๆ ออกจากปาก ยามนั้นเธอดูดเลียมันจนปราศจากคราบเมือก แต่ลำตัวมัน ยังคงเปียกลื่นเป็นมันวาว การุณย์ค่อย ๆ ยกศีรษะลืมตาขึ้นมองใบหน้าแดงซ่านของกานดา “จะกล้าหือกับดาอีกไหมคะนี่” “โอย.. ถ้าลงโทษอย่างนี้ ผมไม่กลัวหรอกครับ อุ๊ย” การุณย์กระตุกเอวเมื่อกานดาก้มหน้าวาบลงไปอมปลายหัวดูดเบา ๆ สองสามครั้ง “ไม่กลัวแน่นะคะ” นัยตาคู่งามฉายแววซุกซนวาบวับ “ผมรักคุณดาแล้วไม่กลัวหรอกครับ” การุณย์ยิ้มให้แล้วดวงตาเขาก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อกานดาลุกขึ้นยืนเต็มตัว ดึงคอเสื้อ กว้าง ๆ หลุดจากไหล่มนแล้วปล่อยให้เสื้อตัวหลวมไหลหล่นไปกองที่พื้น เต้าอวบหยุ่นโผล่ออกมาล้อแสงไฟนวลเนียน กระจ่างตา ต่ำลงไปเป็นลาดหน้าท้องนวลเนื้อผ่องเนียน แต่สิ่งที่ทำให้ท่อนเอ็นเนื้อที่น่วมนิ่มของการุณย์เด้งผงาดขึ้นมา อีกครั้งนั้นคือ โคกเนินเนื้อนูนอวบง้ำของกานดายามนี้เนียนผ่องเกลี้ยงเกลาปราศจากไรขนมาปิดบัง โหนกโคกพุ่งขึ้น แล้วหลุบลงตรงปลายยอดที่เป็นแนวเนื้อประกบเบียดกันอยู่ พูเนื้ออวบดันยอดแคมเข้าหากันเห็นเป็นสีเข้ม ทีรอยประกบ ของกลีบเนื้อนั้นเห็นหยาดน้ำใส ๆ ปริ่มแคมเนื้อวาบวับอยู่กับแสงไฟ กานดาจรดเข่าข้างหนึ่งลงข้างสะโพกของเขาแล้วยกขาอีกข้างไขว้ข้ามลำตัวที่นอนราบหงายอยู่ไปวางเข่าลงกับอีก ด้านหนึ่ง ขยับตัวขึ้นลงแล้วลดเนินโคกลงวางกลีบเนื้อนวลทาบกับท่อนเนื้อแล้วกระดกสะโพกให้กลีบแคมดันท่อนเอ็น พับลงราบกับหน้าท้อง หย่อนกลีบเนื้อลงทาบทับแก่นเอ็นแนบสนิท “กลัวไหมคะเนี่ย” กานดาโน้มตัวลงวางมือทั้งสองข้างลงข้างหัวไหล่ของการุณย์ เต้าอวบหย่อนตัวลงส่งปลายจะงอยถัน ลงมาเรี่ยริมฝีปากการุณย์ “ไม่กลัวหรอกครับ มีแต่จะรักมากขึ้นจนไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไร นอกจาก..” คำพูดท้ายทิ้งหายไปก่อนที่ปาก ของการุณย์จะไล่อมจะงอยถันชิ้นเล็กเข้าไปดูดดุนด้วยปลายลิ้นจนมันแข็งชันชูยอดขึ้น “ไม่กลัวหรือคะ งั้นต้องทำโทษ อย่างนี้” กานดากระดกสะโพกดันกลีบเนื้อให้ใสท่อนเอ็นการุณย์อยู่วาบไหว กลีบแคมอวบ แยกกันโอบท่อนเอ็นเอาไว้กระชับด้วยน้ำหนักตัวที่หย่อนลงมาทาบ น้ำเมือกไสลื่นหลั่งย้อยออกมาจากถ้ำลงชโลม ท่อนเอ็นเป็นสาย เมื่อเธอกระดกสะโพกไสไปมามันก็ช่วยชโลมหยาดเมือกลื่นไปจนทั่วลำเอ็น “คุณดาทำโทษผม ผมก็ยิ่งจะรักคุณดามากขึ้น” การุณย์ปล่อยคายปลายถันอวบตอบถ้อยแล้วไล่งับดุนต่อ มือข้างที่ยัง ยกไหวยกขึ้นทาบอุ้มมือหยาบลงกับปลายถันอีกข้างกดนวดคลึงแผ่วเบา กานดาทอดถอนใจเบา ๆ ลดร่างลง การุณย์ ปล่อยจะงอยถันออกจากปากตามแรงดึงแล้วอ้าปากรับเรียวปากอิ่มที่กดแนบลงมาอย่างแสนรักใคร่ เบื้องล่างนั้นกานดายกสะโพกหย่งขึ้นปล่อยท่อนเนื้ออกจากการกดทับให้มันผงาดตั้งขึ้นแล้วกดกลีบแคมจรดปากถ้ำลง กับปลายท่อนเนื้อ ขยับไปมาให้มันแทรกปลายมนผ่านปากทางเข้าไปช้า ๆ กลีบถ้ำนุ่มเบิกทางเปิดออกยอมให้ท่อนเอ็น ค่อย ๆ เคลื่อนมุดผ่านทางแคบคับแค่พอตัวเข้าไปสู่ความอบอุ่นด้านใน ปลายหัวเอ็นบานร่าบดเบียดนวลเนื้อนุ่มย่นยู่หลุบ ตามลำหัวบานเข้าไปช้า ๆ สะโพกอวบผายค่อย ๆ หมุนแซะส่ายเพียงให้ท่อนเอ็นแซะทางเบิกร่องผ่านช่องแน่นหนั่นเข้าไป จนผลุบหายจมเข้าไปในโพรงถ้ำอุ่น กานดายกหน้าถอกปากจากจูบอันดูดดื่ม ร่างอวบที่ประกบแนบกับร่างของการุณย์หยุดเขม็งตัว ขาที่งอเข่าคู่อยู่เหมือน จะเกร็งสั่นเบา ๆ มือที่ยันพื้นเหมือนจะหมดแรงยันจนทรุดยวบกดเต้าถันอวบลงกับแผ่นอกหนา ใบหน้าแหงนเงยริมฝีปาก อ้าเผยอด้วยความเสียว เปลือกตาหลับพริ้มดื่มด่ำกับความรู้สึกามที่แก่นกายของชายอันเป็นที่รักเบิกทางเปิดมุดเข้าใป จนแน่นคับอยู่ในร่าง ลำคอปล่อยเสียงครางแผ่วด้วยความพึงพอใจ ร่างเนียนเหมือจะสะท้านสั่นด้วยความร้อนรุ่มแห่ง ไฟราคะที่ท่อนลึงค์ของการุณย์เพิ่งจะแทรกเบียดเข้ามาเพื่อเติมเต็ม ความวิตกกังวลอันเกินจากทุรชนที่จ้องทำร้ายเลือนหายไปจากจิตใจของทั้งสองชายหญิงเมื่อสะโพกกานดาเริ่มขยับเขยื้อน กลืนท่อนเอ็นเข้าไปช้า ๆ สองชายหญิงพริ้มตาลงดื่มด่ำกับความรู้สึกอันวาบหวิว ท่อนเอ็นอวบค่อย ๆ มุดซ้ายป่ายขวาผ่าน ความกระชับรัดรึงของช่องทางนุ่มนวลเข้าไปช้า ๆ ด้วยแรงขยับของช่องถ้ำนั้น ผังเนื้อถ้ำกระชับตัววูบวาบยามที่ลำตัว ขรุขระค่อย ๆ เคลื่อนผ่านลึกเข้าไปจนกระทั่ง โคนเอ็นที่ปกคลุมด้วยเส้นขนหยาบบดอัดเข้ากับกลีบเนื้อเกลี้ยงเกลาแน่น “อืมมมมซซ” กานดาคราง ก้มลงประทับเรียวปากกับการุณย์ดูดดื่ม สะโพกเริ่มขยับไหวเมื่อเธอลืมตาขึ้นประสานกับ สายตาของการุณย์ที่จับจ้องอย่างหลงใหล “กลัวไหมคะ” เรียวปากฉะอ้อนถามแล้วก้มลงจูบที่มุมปากหนุ่มใหญ่ “กลัวครับ..” นัยน์ตาการุณย์เต้นระยิบ “กลัวว่าผมจะไปก่อน ไม่ทันให้คุณดามีความสุข” “แหม..” ตาคู่งามค้อนขวับ ก้มลงจูบเบา ๆ “ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ดา ถึงไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อกี้” “หา..” การุณย์เบิกตากว้าง “ตอนไหนครับ ผมไม่ทราบเลย” “ก็ แหม จะถามทำไม” เสียงตวัดปนแต่ใบหน้าระบายด้วยยิ้มแช่มชื่น “ก็ตั้งแต่ตอนที่ .. หยุด เมื่อกี้น่ะค่ะ” “เหรอครับ ถึงว่าหยุดไปนิดนึง” “แต่คราวนี้ไม่หยุดแล้วนะคะ” สะโพกนวลเริ่มขยับเคลื่อนกระชับท่อนเอ็นเนื้อที่แล่นเข้าออก ถ้ำเนื้อบีบรัดกระชับท่อนเอ็นเหมือนดั่งพยัคฆ์ร้ายที่กางเล็บตะปบสมันไว้มั่นแล้ว เจ้าพยัคฆ์พยายามขย้ำกลืนสมันด้วย ความโหยหิว แต่สมันก็หาได้ยอมพ่ายแพ้แก่พยัคฆ์โดยง่าย มันดิ้นรนตัวร่างอันแข็งแรงต่อสู้ด้วยพละกำลังประดามี ถึงจะโดนพยัคฆ์กดลงกับพื้น มันก็เผ่นโผนโจนขึ้นใส่อย่างสามารถ พยัคฆ์นั่นก็พยายามขบขย้ำทั้งขวาทั้งซ้าย เจ้าสมันเอง ก็หลบเลี่ยงแล้วโจนสวนทางอย่างไม่ละลด น้ำลายเจ้าพยัคฆ์ไหลออกมากลบปากแล้วย้อยสาดกระเซ็นลงรดตัวสมันจน ลื่นไปทั้งร่าง ปากพยัคฆ์ฉกตะปบพยายามขย้ำขยอกกลืนสมันเข้าไป แต่เจ้าสมันก็ดิ้นรนพุ่งพล่านจนมันต้องยอมให้ เจ้าสมันถอยหลุดออกจากปากก่อนจะเผ่นโผนโจนเข้างับหัวสมันไว้มั่น ต่างฝ่ายต่างกระโจนโผนใส่ต่อสู้กันนัวเนียจน พื้นสะเทือนไหว ทั้งพยัคฆ์ทั้งสมันต่างหลั่งหยาดเหงื่อออกมาโซมร่าง แต่ต่างยังไม่ยอมแพ้แก่กัน ยังคงต่อสู้กัน สุดสามารถ แล้วเจ้าพยัคฆ์รวบรวมพละกำลังครั้งสุดท้ายโจนใส่สมันกลืนกินมันเข้าปจนหมดตัว เจ้าสมันเองก็รู้ว่าวาระ แห่งมันได้ย่างกรายมาถึงแล้วก็โผนกายขึ้น พุ่งใส่เจ้าพยัคฆ์นั้นเต็มแรง “อ๊า ซซซซซซ” ร่างอวบผ่องกอดรัดร่างของการุณย์อย่างลืมตัว ร่องเนื้อโพรงถ้ำบีบตัวเขม็งรัดเอ็นเนื้อวาบ ๆ “อื๊มมมมมซซ” การุณย์เองก็หยัดตัวเกร็งสะโพกจนกล้ามเนื้อเกร็งแข็งเป็นลูก ๆ ยามที่แก่นเนื้อของเขาเบ่งพอขยายเต็มลำ ด้วยความเสียว น้ำกามเคลื่อนออกจากที่กักเก็บแล่นทะยานผ่านท่อไปตามลำเอ็นก่อนจะฉีดพุ่งฉาดเข้าสู่โพรงเนื้อโยนี อันอบอุ่นบีบรัดตัวเป็นจังหวะ “อี๊ยยยยซซซ” กานดาสะดุ้งสั่นไปทั้งร่าง ร่างอวบงอเกร็งสะท้านเมื่อความอบอุ่นจากการุณย์ทะลักเข้ามาในตัวเองจน วาบซ่านไปทั้งตัว โพรงโยนีบีบกระชับแก่นเนื้อที่ฝังจมเข้ามายันโคนดังจะบดบี้มันให้หมดฤทธิ์ สะโพกอวบเบียดส่ายบดบี้ แคมเนื้อลงกับโคนเอ็นไปมา ขนหยาบเบียดกลีบเนื้ออุ่นและติ่งเม็ดเนื้อปลายกลีบเนื้อที่บรรจบกัน จนทั้งคันยิบยับและ เสียววาบซ่านไปจนถึงศีรษะ หยาดน้ำอุ่นร้อนที่พุ่งเข้ามาในตัวสร้างความอบอุ่นซาบซึ้งจนเธอต้องกระชับกอดร่างบึกบึน ของการุณย์ไว้ เบียดบดอกอวบเข้ากับความแข็งแกร่งของแผงอกหนุ่มใหญ่ เบื้องล่างในส่วนลึกของร่างกายของเธอ ยังสัมผัสความเต็มตื้นแห่งชายที่ฝังความกำยำเข้ามาในร่าง กระตุกวาบ ๆ สร้างความเสียวเป็นริ้ว ๆ กานดาค่อย ๆ ขยับตัวลงนอนเคียงข้างหนุ่มใหญ่ ลำลึงค์ที่หลุดออกจากโพรงโยนีออกมาตั้งชันเปรอะไปด้วยคราบ แห่งความรักเป็นก้อน มันยังกระดกผงกหัวอยู่หงึก ๆ เมื่อมือเรียวนุ่มของกานดาจับกำมันคลึงเบามือใบหน้างามแฉล้ม เอียงไปจูบแก้มสาก ๆ ด้วยไรหนวดเครา เจ้าของแก้มหันมาส่งริมฝีปากเข้าประกบอย่างดูดดื่มลึกซึ้ง ก่อนผละออก สายตาสองคู่ประสานกัน “มีความสุขไหมครับ” การุณย์เอ่ยถามเบา ๆ “ค่ะ มากเลย” ร่างอวบหันเข้าหา ยกแขนโอบอกกว้างของการุณย์ อกอวบนุ่มแนบทาบกับท่อนแขนแข็งแรงจนเจ้าของแขน รู้สึกอบอุ่นและสัมผัสถึงจะงอยถันที่บดเบียดต้นแขน “คุณล่ะคะ” “คิดถึงคุณดาครับ” “อยู่อย่างนี้ยังคิดถึงอีกหรือคะ” “ครับ” การุณย์ยื่นหน้าไปหอมแก้ม “คิดถึง เป็นห่วง กลัวคุณดาจะไม่มีความสุข” “เหรอคะ” กานดาถามล้อเลียน ก้มลงมองมือตนเองที่กำกุมท่อนลึงค์ที่แม้จะไม่แข็งขันแต่ก็ยังชูตัวโงนเงน “ดาก็คิดถึง และเป็นห่วงคุณนะคะ” “ขอบคุณครับ ที่คุณดากรุณา” น้ำเสียงนุ่มเจือด้วยแววแห่งความขอบคุณอย่างลึกซึ้ง “ถ้าคุณดาไม่กรุณาผมคง..” พูดไม่ทันจบประโยค ปากจิ้มลิ้มก็ยื่นเข้ามาจูบ ก่อนจะถอนออก จ้องตาเขานิ่ง “ถ้าอยากขอบคุณดา” นัยน์ตาคู่งามฉายแวววาบวับ “ต้องอดทนหน่อยนะคะ” “อดทนอะไรหรือครับ” “ก็ อดทนอย่างนี้ไงคะ” จบคำร่างอวบก็พลิกขึ้นคร่อมการุณย์อีกคำรบ ขยับตัวให้กลีบเนื้อครอบท่อนลึงค์ก่อนขยับเอวกระเด้าพรวด ท่อนลึงค์อวบ ก็มุดเข้าไปสุดโคน... “อึ๊มมมม” กานดาพริ้มตาหลับด้วยความเสียวก่อนเปิดเปลือกตาขึ้นจ้องตาการุณย์ “จนกว่าดาจะหายคิดถึงคุณต้น นะคะ”

ไม่มีความคิดเห็น: