ขายของ

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ ตอน 6



คม ศรพลิกดูเอกสารปึกใหญ่ตรงหน้า ขณะที่โทรศัพท์เจรจาด้วยภาษาอังกฤษระรัวเร็วแสดงถึงความคุ้นเคยกับการติดต่อ กับคู่ค้าต่างชาติเป็นอย่างดี สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้มพราวด้วยเล่ห์เหลี่ยมการค้า ดวงตามีประกายเหล็กกล้านั้นสาดประกายอย่างพึงพอใจกับข้อสรุปที่ได้จากการ ตกลง ก่อนจะตบท้าย


ขอบคุณมากครับ ยินดีที่ได้ร่วมมือกับคุณ ทางเราจะจัดการเรื่องทางด้านกฏหมายให้เร็วที่สุด”


จากนั้นชายหนุ่มก็วางหูโทรศัพท์ลง และใช้ปากเขียนยิกๆ ลงไปในกระดาษ ก่อนจะกดปุ่มเรียกเลขาประจำตัวเขาเข้ามา แล้วยื่นเอกสารปึกใหญ่ทั้งปึก และกระดาษคำสั่งนั้นส่งให้


คุณสา เอาไปดำเนินการต่อตามรายละเอียดที่ผมสั่ง”


เลขาหน้าห้องคู่ใจที่เป็นสตรีวัยประมาณสามสิบกว่าสวมแว่นตาท่าทางคล่องแคล่ว สาลินีนั้นทำงานกับชายหนุ่มมานานแล้ว ตอนนั้นเห็นเธอเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าใส่เอกสารสีดำใบหนี่ง หญิงสาวน้อมตัวเข้ามารับเอกสารปึกใหญ่นั้นไปแล้วเอ่ยว่า


พ่อเลี้ยงคะ มีเอกสารส่งมาถึงพ่อเลี้ยงจากคุณสมศักดิ์ค่ะ”


ชายหนุ่มหน้าคร้ามคมเลิกคิ้วหนา พลางรับกระเป๋าเอกสารสีดำใบนั้นมาจากเลขา ทำมือบอกสัญญาณให้อีกฝ่ายไปได้ พอเลขาส่วนตัวเขาออกจากห้องไปแล้ว คมศรก็เปิดกระเป๋าและหยิบแฟ้มเอกสารมาพลิกๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ และในประกายตาแห่งความพอใจนั้นยังเจือไปด้วยแววตาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอีก ด้วย


ชายหนุ่มอ่านเอกสารในมืออยู่ครู่หนึ่ง ก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาโทรออกไป พักหนึ่งคมศรก็ได้ยินทักทาย


ได้รับรายงานแล้วสินะ ไอ้สิงห์...”


คมศรยิ้มกว้าง ผงกศีรษะรับอย่างพอใจ


อือมม์...ยอดว่ะ ไอ้ศักดิ์...ทำงานได้เร็วดี...”


โธ่เอ๊ย ไอ้สิงห์...งานนี้มันหมูจะตาย...เทียบกับงานก่อนๆ ที่แกเคยไหว้วานให้ฉันทำให้ไม่ติด”


เสียงสมศักดิ์ว่ามาตามสาย คมศรหัวเราะเบาๆ ดวงตามีประกายเหล็กมีแววครุ่นคิด


เออ..ถ้าอย่างนั้น...ฉันมีเรื่องให้แกช่วยสืบอีกเรื่อง...ต่อยอดหน่อย...จากงานนี้แหล่ะ”


อะไรวะ...”


เสียงเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของสำนักงานนักสืบชื่อดังถามมา คมศรกล่าวช้าๆ


ฉันอยากให้แกสืบหน่อยว่า กิจการโรงแรมของคนพี่น่ะกำลังมีแผนจะเข้าเทคโอเวอร์กิจการไหนบ้างหรือเปล่า”


ปลายสายนิ่งเสียงไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า


อือมม์...เรื่องนี้ไม่ง่าย....ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่คนภายในระดับสูง..เรื่อง นี้มักไม่ค่อยกระเด็นออกมา...จนกว่าจะทำการเดินเรื่องเจรจาจนเป็นข่าวนั่นแห ล่ะ...”


ได้ยินอย่างนั้น คมศรก็กล่าวเสริมต่อไปว่า


ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันนะ...แต่แกลองเริ่มจาก...เครือโรงแรมของเสี่ยทอง...ปาล์มบีช ควีนส์พาร์ค”


เสียงสมศักดิ์เขียนปากกาจดชื่อขยุกขยิกอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีเสียงเคล้าหัวเราะดังต่อมา


เออ ถ้ามีลีดอย่างนี้ก็ค่อยง่ายหน่อย ว่าแต่แกสนทำไมวะ ไอ้ทีแรกก็เข้าใจนะ..จะเอาข้อมูลไปใช้เคลมสาวน้อย แต่ไหงมารวมถึงเรื่องโรงแรมของคนพี่ด้วยล่ะ..อย่าบอกนะว่าแกจะรวบทั้งพี่ ทั้งน้อง.....ปีนต้นงิ้วนะ...ไอ้สิงห์..ฮ่ะฮ่ะ..อย่าหาว่าฉันไม่เตือน...”


คมศรหัวเราะอย่างอารมณ์ดี กล่าวว่า


บ๊ะ..ไอ้ศักดิ์.ไม่ต้องเดาส่งเดช...แค่นี้แหล่ะ..ไปสืบให้หน่อยก็แล้วกัน…ได้เรื่องดีๆ แล้วจะมีรางวัลให้”


หัวหน้าสำนักงานนักสืบหัวเราะก๊ากมา ก่อนที่จะตกปากรับคำ และวางหูไป


คมศรหันมาสนใจกับเอกสารตรงหน้าและรูปหลายๆ อิริยาบทของเด็กสาวร่างเล็กบาง ดูไปเรื่อยๆ อย่างพินิจพิจารณา บางรูปชายหนุ่มใช้เวลาครู่ใหญ่ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดของความงามใสตรงหน้า ที่กล้องดิจิตอลกำลังขยายกว่ายี่สิบเท่านั้น จับจนแลเห็นเส้นเลือดฝอยๆ ที่ริ้วๆ อยู่บนพวงแก้มนั้น


พ่อเลี้ยงชื่อกระฉ่อนในวงการพลิกรูปไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ไปหยุดลงที่รูปภาพที่จับไปยังวงหน้าใสกระจ่าง ที่กำลังฉีกยิ้มกว้าง หัวเราะจนตาหยีนั้นอย่างชัดเจน ดวงตาใสแจ๋วนั้นเป็นสีนิลกระจ่าง สวยจับตาเหลือประมาณ


ดวงตาของชายหนุ่มสาดประกายอย่างพึงพอใจ พร้อมๆ กับริมฝีปากภายใต้หนวดเคราดกหนาแย้มยิ้มจนเห็นฟันขาวที่แวววาวราวกับสัตว์ป่า


.................................


อรจ๊ะ...เป็นยังไงบ้าง...ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม?”


ปานเทพส่งเสียงถามภรรยาสุดรักอย่างอ่อนหวาน ชายหนุ่มนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขาในอาคารสูงระฟ้า เบื้องหน้าบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่มีแฟ้มเอกสารเตรียมสำหรับเข้าวาระประชุมของผู้ บริหารระดับสูงของบริษัท


ด้วยความคิดถึงอย่างสุดเสน่หาทำให้ปานเทพโทรศัพท์ไปคุยกับภรรยาของเขาแทบทุก วัน มิไยที่อรชาจะบอกเสียดายค่าโทรศัพท์ แต่ชายหนุ่มก็ยังดื้อดึง สำหรับเขาการได้ยินเสียงภรรยานั้นคุ้มเกินกว่าค่าโทรศัพท์ลิบลับ


เสียงอรชาหัวเราะดังมาอย่างอ่อนหวาน


ก็ดีค่ะ...วันนี้อากาศออกจะร้อนอบอ้าวซักหน่อย แต่อาศัยที่เราส่วนใหญ่อยู่ในอาคารก็สบายๆ ค่ะ”


ดีจ้ะ แล้วอรไม่มีอะไรไม่สบายไปใช่ไหมครับ”


ชายหนุ่มถามอย่างอาทร อรชาหัวเราะเสียงชื่น อิ่มใจในความห่วงใยนั้น แกล้งลากเสียงล้อๆ ซึ่งเป็นอากัปกิริยาแสนน่ารักที่คนภายนอกไม่เคยมีโอกาสได้เห็น เพราะหญิงสาวจะทำกับคนภายในใกล้ชิดเท่านั้น


ค่า..แหม..คุณเทพถามอร..ทุ๊กกก..วัน...”


ก็ผมเป็นห่วงของผมนี่...ถ้าไม่ใช่ช่วงนี้ที่บริษัทมีมีตติ้งสำคัญๆ ตลอด ผมจะบินไปหาอรด้วยจริงๆ..คิดถึงอรแทบตายแล้วรู้ไหม...คนดีของผม”


ปานเทพกล่าวเสียงครวญจากใจจริง อรชาหัวเราะ แล้วว่า


อรคงต้องไปแล้วล่ะค่ะ ทีมเขารออยู่ กำลังไปงานเลี้ยงที่ท่านรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ”


อืมมม์ ผมได้ข่าวมาเหมือนกันว่าท่านรัฐมนตรีเจนภพเขาไปช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย…”


ชายหนุ่มกล่าวอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ มองดูเวลาที่ห้องก็พบว่าจะต้องเข้าประชุมคณะผู้บริหารแล้วเหมือนกัน จึงทำเสียงจุ๊บเบาๆ กับโทรศัพท์


คิดถึงนะ...แล้วผมจะโทรไปใหม่”


ค่ะ...”


เสียงรับคำแผ่วหวานก่อนจะวางหูไป


ปานเทพนั่งยิ้มอย่างชื่นใจ มองภาพใบหน้าอันสวยงามอ่อนหวานราวกับเกิดจากปลายพู่กันของจิตรกรฝีมือเทพที่ ยิ้มให้เขาอย่างงดงามกระจ่างตาในกรอบรูปเล็กที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ผ่อนลมหายใจเบาๆ เอื้อมนิ้วไปไล้แตะที่วงหน้างามในรูป พึมพำเบาๆ


ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน อรจ๋า”


ชายหนุ่มนั่งซึมอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งธนาน้องชายของเขาเดินเข้ามาเคาะประตูห้อง


พี่เทพ..ได้เวลาแล้วครับ”


ปานเทพจึงเพิ่งรู้สึกตัวอีกครั้ง ผงกศีรษะคว้าแฟ้มเอกสารตรงหน้าเดินตามน้องชายออกไปจากห้อง


...............................


ภายในห้องจัดเลี้ยงแบบค๊อกเทลที่ตั้งอยู่โรงแรมใหญ่ สถานที่ซึ่งไม่ไกลจากอาคารจัดแสดงนานาชาติ ที่กำลังมี big event รวบรวมการออก road show ทางด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่โตจากทั่วโลกนั้น ในเวลานี้ภายในห้องที่มีนักธุรกิจทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่มาจาก ประเทศไทยกำลังรวมตัวกันสนทนาพบปะแลกเปลี่ยนหัวข้อทางด้านธุรกิจการเงินและ การจัดการโดยมีรัฐมนตรีเจนภพเสนาบดีเจ้ากระทรวงที่ดูแลงานด้านการท่องเที่ยว เป็นเจ้าภาพ


ในบรรดานักธุรกิจที่มารวมตัวกันนั้นโดยส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุรุษผู้ มากวัยและประสบการณ์ จะหามีผู้หญิงที่จะแทรกตัวเข้ามาในงานได้นั้นน้อยกว่าน้อย และในจำนวนน้อยนั้นหญิงสาวในเดรสสั้นแค่เข่าเนื้อผ้าละเอียดเบาสีขาวนั้นสวย สง่าโดดเด่นราวกับดอกบัวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องที่ขยายกลีบอันงามขึ้นเชิญชวน ให้ทุกผู้คนได้ตื่นตาเชยชม


ไม่ว่าจะเป็นกิริยาการเดิน การยืน การเปิดปากบางงามที่ทาลิปสิตสีอ่อนเบาขึ้นสนทนานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่น่าชมน่าดูอย่างไม่มีเบื่อหน่าย สายตาของบุรุษเพศในงานแทบทุกคนต่างจับจ้องไปยังหญิงสาวในชุดขาวนั้น ราวกับร่างงามบางสง่าเป็นแม่เหล็กที่มีพลังดึงดูดอันมหาศาล


เจนภพรัฐมนตรีเจ้าภาพนั้นซึ่งเป็นชายกลางคนที่สง่าภูมิฐาน ซึ่งเขาได้ทำการจองตัวให้อรชานั้นมายืนประกบกับตัวตนเองในการซักถามและพูด คุยเกี่ยวกับกิจาการงานและขอรับฟังความเห็นของเธอในแนวทางที่เหมาะสมสำหรับ ภาครัฐในการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ ซึ่งอรชายิ้มพลางสนทนาถึงประเด็นต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่วน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะเสนาะหูชวนฟังไม่มีเบื่อ


ใบหน้าของผู้สูงวัยนั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความชื่นชมอย่างไม่มีปิดบัง ขณะยืนสนทนากับหญิงสาวต่อหน้านักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่จับกลุ่ม ด้วยกันอยู่ โดยมีอรชาเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ด้วยท่วงท่าสงบ มีสง่าราศี แต่ทว่าในขณะเดียวกันนั้นดูอ่อนหวานงดงามด้วยลักษณะแห่งกุลสตรีที่ไม่มีความ บกพร่อง ไม่มีอาการแสดงความขัดเขินต่อการเข้าสมาคมของคนในระดับ Executive ชั้นสูงแม้แต่น้อย


สายตาของบุรุษเพศทีรายล้อมหญิงสาวอยู่นั้นต่างล้วนแล้วแต่มีประกายตาชื่นชม ไม่ผิดกัน เสียงชมเชยและหัวเราะเย้าความสามารถของอรชานั้นดังขึ้นเป็นระยะๆ แต่คำพูดเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้หญิงสาวประหม่า เขินอาย หรือจะแสดงอาการชูคอเย่อหยิ่งแต่อย่างใด


สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือใบหน้าหวานสงบ ยิ้มน้อยๆ รับคำชมเชย และมักจะสนองตอบด้วยคำพูดอันนุ่มนวลถ่อมตัวด้วยมารยาทอันดีอยู่เสมอๆ อากัปกิริยานั้นยิ่งสร้างความพึงใจให้กับบุคคลรอบด้านขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว


ด้วยมารยาทที่นุ่มนวล กิริยาที่ถ่อมตัวอ่อนน้อมแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ความเฉลียวฉลาดอันเป็นบุคลิกลักษณะเนื้อแท้ที่ไม่ได้แต่งแต้มเสแสร้งดัดที่ เปล่งประกายออกมาให้เห็นอย่างชัดๆ นั้น ความจริงก็สร้างความพอใจให้กับเหล่าบุรุษที่รายล้อมเธอมากพออยู่แล้ว ยิ่งองค์ประกอบเหล่านั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เชิดชูไปกับความงามล้ำของวงหน้า สวยหวาน ดวงตาที่มีประกายงามราวกับตาหงส์ เวลาแย้มยิ้มหัวเราะน้อยๆ ไรฟันซี่เล็กๆ ที่ขาวสะอาดเป็นประกายนั้นสวยแวววาวดึงดูดสายตาของคนให้ชวนมองยิ่งไปกว่า ไข่มุกเม็ดแท้เนื้อละเอียดที่หญิงสาวสวมใส่ประดับช่วงคอขาวระหงนั้นเสียอีก หลายเท่า บวกกับเรือนกายที่โปร่งงามภายใต้อาภรณ์เนื้อเบาแนบตัวรัดรึงเผยให้เห็นส่วน สัดที่ผู้หญิงทุกคนในโลกถวิลหา และผู้ชายทุกคนในโลกใฝ่ครอบครอง ทั้งหมดนั้นจึงประกอบกันในความรู้สึกของบรรดาชายหนุ่มแทบทุกผู้คนในสถานที่ นั้นที่รู้สึกไปในทำนองเดียวกันว่าหญิงสาวเบื้องหน้าพวกตนนี้ราวกับเป็นของ ขวัญที่ถูกสวรรค์ส่งลงมาบนพื้นโลก เป็นประติมากรรมอันปราณีตจากช่างฝีมือเอกที่ราวกับไม่ใช่ชีวิตที่มีเลือด เนื้อจริงๆ


มีหลายคน หลายคนจริงๆ ในงานเลี้ยงคืนนี้ที่นึกอิจฉาปานเทพนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สามารถคว้าใจ พิชิตกายของอรชากุหลาบงามแสนสวยดอกนี้ไปครองได้


พอการสนทนาอย่างออกรสในกลุ่มเริ่มเปลี่ยนหัวข้อจากเรื่องการค้ามาเป็นเรื่องการเมือง รัฐมนตรีเจนภพก็กล่าวทีเล่นทีจริงกับอรชา


ถ้าคุณอรสนใจเรื่องการเมือง...ผมมั่นใจเหลือเกิน..ว่าการเลือกตั้ง สส.ที่จะถึงนี้อีกไม่กี่เดือน จะต้องได้ผู้แทนหญิงหน้าใหม่เข้าสภาอย่างแน่นอน”


อรชาเบิกตากว้างเล็กน้อย เรื่องการลงเล่นการเมืองไม่เคยอยู่ในความคิดของเธอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว สั่นศีรษะพลางว่าเสียงอ่อนเบา


ดิฉันคงไม่สามารถหรอกค่ะ...”


โธ่ ไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอกครับ ความรู้ความสามารถของคุณนั้นเกินพอ...ผมรับประกัน..ถ้าลงเลือกตั้งในนามพรรค ผม ตำแหน่งสำคัญๆ จะต้องมีการพิจารณาให้เหมาะสมกับความสามารถของคุณอรแน่ๆ..”


รัฐมนตรีผู้เจนสังเวียนการเมือง ได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนติดต่อกันหลายสมัย กล่าวยิ้มๆ ใบหน้านั้นหว่านล้อมเชิญชวนอย่างหนักแน่น อรชาส่ายศีรษะกล่าวเบาๆ ด้วยเสียงนุ่มนวลแต่ร่องรอยนั้นเด็ดขาดอยู่ในที


ดิฉันคงต้องขอประทานโทษต่อการปฏิเสธความหวังดีของท่านค่ะ...ดิฉันคงขอ อนุญาตที่จะขอรับใช้ในด้านอื่นๆ ที่คิดว่าดิฉันคงมีกำลังความสามารถมากกว่านะคะ...”


รัฐมนตรีเจนภพผงกศีรษะ กล่าวยิ้มๆ อย่างไม่ถือสา


ไม่เป็นไรคุณอร...ผมก็ไม่ได้ต้องเร่งรัดเอาคำตอบอะไรกันคืนนี้...อนาคตข้างหน้าก็ยังมีอีกยาว...จริงไหม”


หญิงสาวแสนสวยผงกศีรษะรับอย่างอ่อนน้อม แม้ในใจเธอจะรู้ตัวแน่นอน ไมว่าจะอนาคตเมื่อไร คำตอบของเธอก็คือไม่ แต่อรชานั้นไม่เห็นประโยชน์จะหักด้ามพร้าด้วยเข่าให้เสียบรรยากาศ จึงแค่ยิ้มอ่อนๆ รับคำเบาๆ


ค่ะ..ท่าน”


จากนั้นหัวข้อที่เปลี่ยนเป็นเรื่องการเมืองเข้มๆ ขึ้น อรชาจึงขออนุญาตเลี่ยงออกมาจากกลุ่มอย่างสุภาพนุ่มนวล


หลังจากนั้นไม่นาน อรชาที่ยืนคุยกับนักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวสองสามคนเพลินๆ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทัก


ไง..หนูอร..”


อรชาหันไปก็พบเห็นบุรุษร่างสูง อายุวัยกลางคน ใบหน้านุ่มนวลน่าสนิทสนท ก็เบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น ย่อตัวลงไหว้อย่างอ่อนน้อม


สวัสดีค่ะคุณลุง”


ผู้ที่สนทนาอยู่ก่อนกับอรชา ต่างก็พนมไหว้ผู้มาใหม่อย่างนอบน้อม ซึ่งบุรุษผู้สูงอายุแต่ยังมีบุคลิกลักษณะที่สง่า และร่างกายที่เหยียดตรงกำยำแสดงถึงการรักษาสุขภาพอนามัยเป็นอย่างดีนั้น พนมมือรับไหว้และกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


เป็นอย่างไรบ้าง..การเจรจาธุรกิจ...ไปได้ด้วยดีใช่ไหม”


ค่ะ..ขอบคุณคุณลุงที่เป็นห่วง”


อรชายิ้มรับอย่างอ่อนหวาน ใบหน้าของหญิงสาวที่จำเดิมนั้นแม้นุ่มนวลแต่ก็ดูสงบ มาถึงตอนนี้ค่อยเจือความน่ารักอ่อนหวานลงไป เพราะความสัมพันธ์ที่เธอมีต่อบุคคลผู้มาใหม่นั้นมีมาช้านานตั้งแต่สมัยบิดา และมารดาเธอยังมีชีวิตอยู่


ตอนนั้นคนที่สนทนาอยู่ก่อนกับอรชา เห็นทีท่าว่าจะมีการสนทนากันในหัวข้ออันเป็นการส่วนตัว จึงทำทีเป็นบอกกับหญิงสาวว่าขอตัวไปก่อน และเดินเลี่ยงออกไป


ส่วนบุรุษสูงวัยกว่าห้าสิบปีแต่ดูจากภายนอกยังกระชุ่มกระชวยราวกับกับอายุ ประมาณสี่สิบกว่าก็หันไปพยักหน้าให้ผู้ติดตามซึ่งเป็นชายฉกรรจ์สองคนให้เดิน ไปที่อื่น ก่อนที่จะหันมายังอรชาซึ่งยืนยิ้มอยู่ กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มละไมว่า


ลุงดีใจจริงๆ ที่เห็นหนูอรประสบความสำเร็จเช่นนี้...ไม่น่าเชื่อ...เหมือนกับไม่นานนี้เอง ที่ลุงยังอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ร้องขอซื้อไอติมอยู่เลย”


อรชาใบหน้าแดงระเรื่อ ท่าทีเขินอายนั้นดูสวยงามแตกต่างไปกับอรชาผู้งามสง่าไปในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่งามจับตาไม่แพ้กัน


แหม..คุณลุงขา...”


มนู...บุรุษผู้สูงวัยผู้ซึ่งมากด้วยบารมีที่เพิ่งมาถึงกลายเป็นเป้าสายตาให้ คนสนใจทันที เพราะปัจจุบันหนุ่มใหญ่นั้นดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคการเมืองเสียงข้างใหญ่ใน สภา และเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของรัฐบาล ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี เนื่องจากยังมีกิจการส่วนตัวอันเป็นธุรกิจมูลค่ามหาศาล แต่ตอนนี้กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่ามีแผนจะผ่องถ่ายทรัพย์สินในมือออก ไปให้กับเครือญาติก่อนจะเข้ามาเล่นการเมืองแบบเต็มตัว และมีการจับตาว่าเขาจะต้องได้รับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงสำคัญๆ อย่างแน่นอนในการเลือกตั้งที่จะมีมาถึงไม่ช้านี้


รัฐมนตรีเจนภพที่มองมาไกลๆ โบกมือทักทาย ซึ่งมนูก็โบกมือตอบ และให้สัญญาณว่าเดี๋ยวจะเดินเข้าไปหา ก่อนที่จะหันมากล่าวเสียงสะท้อนกับอรชา


ลุงอยากให้คุณพ่อคุณแม่ของหนูเห็นความสำเร็จของหนูอรในวันนี้เหลือเกิน พวกท่านคงภูมิใจเป็นที่สุด”


ดวงตาคู่งามนั้นหมองประกายลงเมื่อหวนนึกไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับ และเมื่อนึกถึงวันที่เธอยืนข้างเตียงดูใจผู้เป็นบิดาที่กำลังสู่วาระสุดท้าย ของชีวิต และฝากฝังน้องสาวทั้งสองกับกิจการของเขาให้ลูกสาวคนโตดูแล อรชาก็กล่าวด้วยเสียงที่ซึมลงไปเล็กน้อย


ที่อรทำทั้งหมดก็..แค่พยายามดูแลสิ่งที่คุณพ่อก่อร่างเอาไว้ให้อย่างสุดความสามารถ...และดูแลยายนุชกับยายษาให้ดีที่สุดเท่านั้นค่ะ”


บุรุษมากวัยหัวเราะเบาๆ


ซึ่งหนูอรทำได้อย่างดีเยี่ยม จนลุงขอยอมรับว่าคาดไม่ถึงจริงๆ...”


อรชายิ้มอ่อนอย่างอ่อนโยน กล่าวถ่อมตนตามนิสัย


นั่นเพราะอรโชคดีที่มีคนเก่าๆ ที่มีฝีมือจากรุ่นคุณพ่อคอยช่วยเหลือค่ะ..อรเลยตั้งลำได้เร็วหน่อย..กิจการจึงเติบโตได้ดีพอสมควร”


อือม์..พูดถึงเรื่องการขยายการลงทุน...ลุงได้ข่าว..ว่าหนูอรกำลังมีแผนคิดจะควบกิจการของเครือปาร์มบีชหรือ”


บุรุษสูงวัยกล่าวเรื่อยๆ ใบหน้านั้นยังคงสุขุมนุ่มนวล ทีแรกอรชารู้สึกคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยถึงหัวข้อนี้ ถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะกล่าวเสียงนุ่มนวลสม่ำเสมอ


เรื่องการขยายการลงทุนมีจริงค่ะ แต่เราเองก็มีทางเลือกอยู่หลายๆ ทาง เครือปาร์มบีชเป็นเพียงแค่หนึ่งในตัวเลือก ทางคณะกรรมการบริหารยังไม่ได้มีมติออกมาชัดๆ ค่ะ”


มนูผงกศีรษะ กล่าวเหมือนกับเป็นการออกตัวกลายๆ


ลุงยอมรับว่าเสี่ยทองเขามาขอให้ลุงช่วยพูดกับหนูอร...สถานะทางการเงินของ เขาอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ถ้าทางบริษัทของคุณปานเทพสามีของหนูอรที่..ลุงทราบว่ากำลังดูแลการหมุน เวียนของกระแสเงินของทางโรงแรมเครือปาร์มบีชลองช่วยพิจารณา case นี้เป็นพิเศษหน่อย เสี่ยทองเขาเชื่อมั่นว่าน่าจะสามารถฝ่าฟันปัญหาไปได้..”


อรชายิ้มนิดๆ กล่าวเสียงบางเบา


เรื่องของทางบริษัทคุณเทพ อรก็คงเข้าไปก้าวก่ายไม่ได้ และคิดว่าไม่เป็นการสมควรด้วย...ส่วนเรื่องปาร์มบีชเราอาจจะต้องมีการเจรจา อีกหลายครั้ง...”


บุรุษสูงวัยมีประกายตาที่นิ่งสงบอ่านความรู้สึกไม่ออก หญิงสาวไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งโดยเฉพาะหน้า ก็กล่าวกับอีกฝ่ายที่เธอเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน


คุณลุงวางใจเถอะค่ะ ภายใต้การดูแลงานอย่างใกล้ชิดของอร อรจะไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ที่ฝ่าฝืนกฏหมาย และคุณธรรมในการทำธุรกิจเด็ดขาด...และจะพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุก ฝ่ายค่ะ...”


คำพูดที่นอบน้อมถ่อมตัว นุ่มนวลอ่อนหวาน แต่ยังไว้ซึ่งหลักการอันแน่วแน่นั้น ทำให้บุรุษมากวัยไม่เห็นช่องว่างจะเจรจาต่อ จึงยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า


หนูอรเก่งจริงๆ ฉลาดพูด...เอาเถอะ...เรื่องนี้อย่างที่หนูอรว่า...เราอาจจะได้มีโอกาสพูดจาก กันอีก...แล้วค่อยคุยกันใหม่อีกทีก็แล้วกันนะ..”


จากนั้นอีกฝ่ายก็ก้มศีรษะให้เล็กน้อย ขณะที่อรชาย่อตัวพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนที่บุรุษทรงอำนาจจะหันกลายเดินตรงเข้าไปยังกลุ่มคณะของรัฐมนตรี โดยมีการส่งเสียงหัวเราะ ทักทายกันอย่างสนิทสนม


อรชาผ่อนลมหายใจยาวๆ ดวงตาคู่งามที่เบือนไปยังเบื้องหลังอันภูมิฐานของผู้ที่เธอนับถือประดุจญาติ ผู้ใหญ่แล้ว อดที่จะมีวี่แววแห่งความกังวลไม่ได้


...........................................


เสียงปืนที่ดังอยู่ตรงแนวยิงในสนามยิงปืนในวันนี้ยังค่อยข้างประปรายเพราะเนื่องจากเป็นเวลาเช้าอยู่มาก


สนามยิงปืนที่ได้รับความนิยมสูงแห่งนี้ เนื่องจากมีการออกแปลนพื้นที่การยิงที่ได้มาตรฐานสากล พื้นที่ตรงระยะแนวยิงนั้นค่อยข้างโปร่งสบาย อำนวยความสะดวกให้กับผู้ยิงด้วยระบบปรับอากาศดีเยี่ยม ซึ่งเป็นสนามโปรดของเด็กสาวร่างเล็กบางที่กำลังยืนหลังเหยียดตรงประคองปืน สั้นด้ามเล็กแต่ทรงอานุภาพรุ่น S&W M60 ยิงตรงไปยังเป้าที่อยู่ห่างออกไปเป็นระยะประมาณ 25 เมตร


เปรี้ยง... เปรี้ยง....เปรี้ยง


แขนเรียวบางที่จับด้ามปืนเล่มงามนั้นกระตุกน้อยๆ แต่นิ่มนวลในการบังคับทิศทาง ลูกระสุนหัวตัดขนาด .38 มม. พุ่งฉิวเข้าไปในเป้ากระดาษนั้นทะลุเกาะกลุ่มคะแนนประมาณเก้า-สิบอย่างแม่นยำ


สายๆ วันเสาร์นี้อย่างนี้ ยังไม่ค่อยมีใครมาใช้บริการสนามซ้อมซักเท่าไหร่ แต่ที่อรนุชมาซ้อมมือแต่หัววัน ก็เพราะเด็กสาวแสนสวยพรั่นพรึงกับกำหนดการที่พี่แต๋วสาธยายให้ฟังจนยาว เหยียดจนเก็บเอาไปนอนฝันร้าย คิดอยู่ในใจ สงสัยคงจะหาเวลามายิงปืนได้ยากแน่ๆ จึงตกลงใจ ตอนนี้ขอยิงให้ฉ่ำมือก่อนเถอะน่า


อรนุชยิงติดต่อกันจนหมดลูกโม่ แล้วจึงกดปุ่มรอกไฟฟ้า ดึงเป้ากลับมาแล้วยิ้มอย่างพอใจในกลุ่มกระสุนที่รวมตัวกันอย่างสวยงาม


อือม์ ฝีมือดีนี่”


เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นใกล้ๆ อรนุชที่นึกว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียว ถึงกับสะดุ้ง หันขวับไปอย่างตกใจ


ทันใดนั้นร่างเล็กบางก็สะดุ้งเป็นคำรบสองติดกัน อ้าปากค้าง มองใบหน้าที่มีเครารกครึ้มตรงหน้า อย่างแทบไม่เชื่อสายตา อึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ก็พึมพำออกมาราวกับละเมอ


นาย..นายสิงห์...”


คมศรเลิกคิ้วประหนึ่งแปลกใจเสียเต็มประดา ก้มศีรษะน้อยๆ อุทานว่า


ครับ..ผมชื่อสิงห์..รู้สึกเป็นเกียรติ์อย่างยิ่งที่คุณรู้จักชื่อผมด้วย”


ตอนนั้นพลันอรนุชเพิ่งได้สติ ใบหน้าต้องร้อนวูบ รีบสะบัดหน้ากลับไปซ่อนแววตาของตัวเองอีกทางพลางกล่าวเสียงแข็ง


ฉัน..ฉันไม่ได้สนใจ..จะรู้จักชื่ออะไรของนายหรอก...แต่พี่ทินน่ะสิ...เขา พูดถึงเรื่องของนายให้ฉันฟัง....รำค๊าญรำคาญ....พูดอยู่ได้....ไม่เห็นอยาก ฟัง”


ตอนท้ายพอตั้งตัวติด ปากงามบางนั้นก็พูดฉอดๆ ด้วยกิริยาที่คนฟังอยากจะดึงตัวเข้ามาจูบให้เข็ด


แต่คมศรแค่หัวเราะเรื่อยๆ กล่าวนุ่มๆ ตาวาวๆ นั้นจ้องมองไปยังใบหน้าใสราวกับเด็กน้อยนั้นแน่วนิ่ง น่าแปลกอรนุชไม่ได้รู้สึกถึงความหยาบคายจากสายตาที่จ้องมองมา ตรงกันข้าม....


ผมเสียใจครับ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณไม่สบายใจ”


เจอไม้สุภาพตอบกลับมา อรนุชที่ปกติไม่ใช่คนก้าวร้าว แต่เนื้อแท้เป็นคนร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย และไม่มีทางเป็นพิษเป็นภัยกับใครก็ถึงกับไปต่อไม่เป็น ตอนนั้นได้แต่ยืนบิดตัวไปมา รู้สึกร้อนๆ กับแววตาสีเหล็กที่จ้องมองมายังเธออย่างไรพิกล


ฮึ ตาบ้า..จ้องเขาอยู่ได้


เด็กสาวเป็นคนสวยที่รับรู้ในความสวยของเธอดี แม้จะไม่ใช่คนที่ชอบอวดโชว์ความงานเหมือนกับฐิติพรรณ แต่เพราะเคยชินกับการเป็นเป้าสนใจของคนต่างเพศ ปกติการถูกจ้องมองไม่ใช่เรื่องที่อรนุชไม่มีประสบการณ์ และต้องรู้สึกขัดเขินไปกับการที่ต้องเป็นจุดรวมของความสนใจของคนรอบด้าน


แต่แววตาสีเหล็กคู่นี้มันมีอิทธิพลประหลาด ที่จ้องมาแล้วประหนึ่งเป็นหอกอันแหลมที่แทงเข้ามาในใจ ปรากฏความร้อนวูบๆ ขึ้นในอก อาการอย่างนั้นทำให้เด็กสาวที่มั่นใจในตัวเองเสมอมา ถึงกับโมโหตัวเองเป็นการใหญ่ และพาลโทษความผิดนั้นไปยังเจ้าของสายตาแปลกๆ นั้น


คุณมานี่ทำไม”


เสียงใสนั้นห้วนแข็ง ใบหน้างามใสกระจ่างนั้นมีวี่แววเอาเรื่องเต็มที่ คมศรยิ้มกว้าง ขณะที่มายืนอยู่ตรงช่องแนวยิงข้างๆ กล่าวเรื่อยๆ


จะรังเกียจไหมครับ ว่าผมจะขอยิงปืนด้วยคน”


วงหน้าใสบางนั้นเชิดขึ้น กล่าวลอยๆ


ปกติฉันยิงปืนคนเดียว...”


คมศรหัวเราะหึหึ วางกระเป๋าใส่ปืนลงตรงโต๊ะตรงหน้า ไม่ได้สนใจอาการยืนหน้าบูด ยกมือเท้าสะเอวราวกับเด็กซนๆ ข้างตัว และเปิดกระเป๋าใบนั้นออก


ด้วยความเป็นคนรักปืน และการยิงปืน ทำให้อรนุชอดชะโงกหน้ามาดูอาวุธเล่มสีดำมันปลาบที่วางอยู่ในกระเป๋าไม่ได้ ก่อนจะเบิกตากลมโตกว้างอย่างพอใจในความสวยงามของมัน


คมศรยิ้มกว้าง หยิบ colt .45 กระบอกดำปลาบเป็นมันวาวออกมา มองใบหน้าใสๆ ที่มองมาเหมือนกับเด็กมองขนมหวานแล้วต้องยิ้มกว้าง


อยากลองดูไหม...”


อรนุชสะบัดหน้า เช๊อะ ถ้ายอมก็เสียเหลี่ยมหมดน่ะสิ


ทั้งๆ ที่ใจอยากจะหยิบมาเชยชมแทบตาย แต่เด็กสาวแสนสวยก็สะบัดหน้าหนี หันไปบรรจุกระสุนลูกโม่ชุดใหม่เข้าสู่ปืนกระบอกงามของเธอแทนที่


เมื่อสักครู่เห็นผลงานของคุณ...เอ่อ...ลืมไปยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย..”


อรนุชง่วนกับการใส่กระสุนเงียบ นายพูดกับใคร ฉันไม่สน


เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น..ผมเรียกคุณว่าตัวเล็กก็แล้วกัน...เมื่อครู่นี้ผมเห็นคุณตัวเล็ก...”


อรนุชอ้าปากค้าง ตาเบิกโพลง นาย..นายอวดดี..เรียกฉันว่าอะไรนะ


ปากงามหันมาขู่แฟ่ด


ฉันไม่ได้ชื่อตัวเล็ก...”


คมศรหัวเราะเสียงดัง แล้วว่า


แล้วผมจะเรียกคุณว่าอะไรดีล่ะครับ..คุณจะได้ไม่ต้องโมโหผม..”


อรนุชพยายามนับหนึ่งถึงสิบ ก่อนจะตอบห้วนๆ


ฉันชื่ออรนุช…”


คมศรซ่อมยิ้มอยู่ในหน้า ในรายงานนับร้อยหน้าที่สมศักดิ์ส่งให้ ชายหนุ่มรู้ดีเกินพอว่าฝีมือของสาวน้อยตรงหน้านั้นขนาดไหน แต่ทำเป็นพูดหน้าตาย


เมื่อครู่นี้ผมเห็นรอยกระสุนของคุณนุช ที่จริงก็นับว่าดีนะครับ แต่น่าเสียดาย...”


เด็กสาวร่างบางบรรจุกระสุนเสร็จ ถึงแม้ทำทีเป็นหูทวนลมไม่สนใจอะไร แต่พออีกฝ่ายเงียบไปเฉยๆ อรนุชก็อดปรายตามองไปไม่ได้ เห็นคมศรกำลังยกปืนขึ้นเล็งศูนย์กับเป้านิ่งอยู่ เหมือนกับไม่ได้มีความคิดจะพูดอะไรต่อไปอีกเลย ก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมาในใจอีกอย่างอดรนทนไม่ได้ เด็กสาวแสนสวยถึงกับลืมตัวกระทืบเท้าอย่างขัดใจ


เสียดายอะไรก็ไม่พูดมา ตาบ้า..โจรห้าร้อย...โจรหน้าหมี...ฮึ...ขัดใจจริงเชียว..กวนประสาท


ในชีวิตที่เคยชินกับการถูกคนรอบข้างเอาใจ ถึงแม้เด็กสาวจะไม่ได้มีนิสัยเสียอันเนื่องจากถูกตามใจนั้น แต่จะอย่างไรเธอก็ไม่เคยพบคนที่เข้ามาทำท่าทางดูไม่ค่อยยี่หระกับตัวเธอถึง ขนาดนี้มาก่อนเลย


ดังนั้นอรนุชจึงยกมือขึ้นเท้าสะเอวอย่างโมโห หันมาจ้องหน้าคมศรตรงๆ ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างอย่างเอาเรื่อง


เสียดายอะไร...”


น้ำเสียงใสๆ นั้นสั่นระริก ใบหน้างามใสแดงระเรื่ออย่างโมโหจัด คมศรเห็นแล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้


แม่แมวเหมียวตัวน้อยเอ๊ย ทำตาพองอย่างกับจะเข้ามาขย้ำฉันอย่างนั้นแหล่ะ


ชายหนุ่มโบกมือพยายามระงับอารมณ์ขันของตัวเอง ยิ้มกว้างพูดว่า


คือผมกำลังจะบอกว่า รอยกระสุนมันเข้ากลุ่มก็ดีอยู่ แต่ถ้าคุณดูดีๆ มันกระจายไปทางซ้ายมือของคุณ แสดงว่าเวลาคุณเล็งที่ศูนย์หน้า ปลายปืนมันส่ายไปหน่อย ...ถ้าเป็นเพราะจังหวะปืนของคุณเป็นอย่างนั้น น่าจะดูช่องไฟให้ทางขวาของศูนย์หน้านั้นแคบลงหน่อยนึง”


อรชาเบะปาก ร้องเสียงดังในลำคอ ฮึ ทำสีหน้าไม่เชื่อถือคำพูดของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว


คมศรยิ้มพลางสอดแม็กกาซีนกระสุนเข้าตัวปืนแล้วขึ้นลำเอาไว้ ก่อนจะใส่ save เอาไว้และวางปืนลง จากนั้นก็หันมายังสาวน้อยที่ยืนตาโตสีหน้าเอาเรื่อง ยิ้มเล็กน้อยแล้วว่า


ถ้าคุณอรไม่เชื่อผม และมั่นใจในวิธีการยิงของตัวเอง ลองมาแข่งกันดูไหมล่ะครับ คนละห้านัดจนครบกระสุนในลูกโม่ของปืนคุณ”


อรนุชหรี่ตากลมโตของเธอลงเล็กน้อย ประกายตามีแววสนุกแว่บขึ้น แต่ปากงามก็จีบว่า


ฉันแข่งกับนายแล้วจะได้อะไร... เชอะ..ไม่เห็นมีประโยชน์สักนิด”


คมศรหันมาหยิบปืนขึ้นเล็งศูนย์อีกครั้ง กล่าวยิ้มๆ


หนึ่งการแข่งขันก็ไม่มีอะไรมากหนึ่งแข่งกันสนุกๆ ดีกว่ายิงเฉยๆ ตั้งเยอะ สองถ้าคุณชนะ..ผมให้คุณขออะไรก็ได้อย่างหนึ่ง กลับกันถ้าผมชนะ..ผมก็ขอให้คุณทำอะไรให้ผมอย่างนึงเหมือนกัน”


เด็กสาวเชิดหน้า ปรายตามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของอีกฝ่าย แล้วจงใจเน้นเสียงอย่างยั่วๆ


เสียใจฉันไม่ทำสิ่งผิดกฏหมาย...”


คมศรอ่านสายตาของเด็กสาวออกก็หัวเราะออกมาเต็มเสียง โบกมือ


รับรองๆ สิ่งที่ผมขอให้คุณช่วยน่ะไม่มีทางเป็นเรื่องผิดกฏหมาย หรือขัดกับความพอใจของคุณ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน..ถ้าเผื่อผมชนะนะ..แล้วผมขอให้คุณช่วยทำอะไรสักอย่าง แต่ถ้าคุณเกิดไม่อยากทำ หรือไม่เต็มใจจะทำก็ถือว่าเป็นโมฆะไป ตกลงไหม”


ความจริงอรนุชก็รู้ว่านั่นเป็นข้อเสนอที่เธอไม่มีวันเสียเปรียบเลย แต่ด้วยที่ยังวางท่าอยู่จะยอมง่ายๆ ก็กระไร เลยทำเป็นนิ่งคิด คมศรหัวเราะหึหึ เอ่ยว่า


แต่ถ้าคุณกลัวแพ้ก็ไม่เป็นไรนะ..ผมเองก็ไม่อยากบังคับให้คุณหน้าแตก..เพราะทำฟอร์มไว้มาก”


แค่ประโยคนั้นก็ทำให้อรนุชแทบเต้น ร้องเสียงดังลั่น


ใครว่าฉันกลัว...ดี...เรามาแข่งกัน..และขอบอกนะไอ้ข้อตกลงนั่นมันฝ่ายคุณคน เดียว แต่ทางฉันไม่ว่าฉันจะขอให้คุณทำอะไร ห้ามปฏิเสธเข้าใจไหม..”


คมศรยกมือทำท่าปฏิญาณ


ด้วยเกียรติ์ของลูกผู้ชายเป็นประกัน...”


อรนุชค้อนให้ เป็นอาการที่เด็กสาวไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองนั้นไม่เคยทำกับผู้ชายคนไหนมาก่อนแม้แต่คนเดียว ก่อนที่เธอจะหันกลับมายังปืนของตนเองแล้วยกขึ้นส่องศูนย์ตามขั้นตอนการ เตรียมยิง


คมศรเบิกตามองอาการของสาวน้อยตรงหน้าด้วยแววตาประหลาดที่พลุ่งขึ้นมาแว่บ หนึ่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะสลายหายไปกับประกายตายั่วเย้าพราวไปด้วยความสนุกตามเดิม และหันมามีสมาธิกับปืนตรงหน้า


ฝีมือแม่สาวน้อยนี้ไม่เบา ถ้าเขาจะเอาชนะก็ต้องมีสมาธิในการยิง


จากนั้นเอง เสียงเปรี้ยง เปรี้ยง ก็ดังสนั่นจากปลายกระบอกปืนด้ามงามทั้งสองเล่มก็ดังติดต่อกัน


เปรี้ยง....เปรี้ยง....เปรี้ยง...เปรี้ยง


เสียงกึกก้องกัมปนาทนั้นดังต่อเนื่องกัน กลิ่นควันปืนโชยคลุ้งไปทั่วบริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่ตรงแนวยิง ถึงแม้จะมีระบบดูดอากาศที่ติดตั้งไว้อย่างดีแล้วก็ตาม


ในเวลาไม่นานกระสุนทรงอานุภาพทั้งห้านัดของแต่ละกระบอกก็ถูกยิงออกไปจนหมด


อรนุชยิงเสร็จก็วางปืนลง และรีบกดปุ่นชักรอกไฟฟ้า ดึงเป้ากระดาษวิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตมีประกายตาคาดหวังจนร้อนรุ่ม ขณะที่คมศรหัวเราะหึหึ วางปืนของตนที่ใส่ save เอาไว้แล้ว เพราะความจริงยังมีกระสุนเหลืออยู่สองนัดในรังเพลิงหนึ่งนัด เพราะปืนของเขาบรรจุกระสุนได้มากกว่าปืนลูกโม่กระบอกงามของเด็กสาวคนสวยสอง นัด


ชายหนุ่มกดรอกไฟฟ้าดึงเป้ากลับมาอย่างใจเย็น พอดึงเป้ากระดาษหันมา ก็เห็นร่างเล็กบางนั้นยืนมองอยู่ก่อนแล้ว โดยเอามือซ่อนเป้ากระดาษของตัวเธอไว้ดังหลัง ใบหน้างามใสราวกับเด็กนั้นเชิดขึ้นพูดแข็งๆ


เอาคะแนนของคุณมาให้ฉันดูก่อน”


คมศรหัวเราะเบาๆ นึกในใจ สาวน้อย เธอทำอย่างกับว่าใครดูใครก่อนแล้วจะได้คะแนนเพิ่มอย่างนั้นแหล่ะ


แต่ชายหนุ่มก็ส่งเป้ากระดาษให้แต่โดยดี และเสียงหัวเราะเบาๆ นั้นก็กลายเป็นเสียงหัวเราะดังลั่น เมื่อเห็นใบหน้าใสนั้นม่อยลงไปถนัด เป็นคำตอบที่ดีที่สุดโดยที่เขาไม่ต้องไปดูเป้ากระดาษของอีกฝ่ายเลย


อรชาพับเป้ากระดาษของเธอเป็นชิ้นเล็กๆ สอดเอาไปไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ใบหน้างามที่ก้มลงมองพื้นดินนั้นแดงซ่านออกมาเพราะโลหิตไหลเวียนอย่างเร็ว เพราะความรู้สึกหลายๆ อย่างที่ประดังเข้ามา นัยน์ตาสีเหล็กประกายกล้านั้นเบิกกว้างชะงักตื่นมองความงามตรงหน้าไปแว่บ หนึ่งอย่างลืมตัว


แต่เพราะความจัดเจนในเรื่องการรักษาความรู้สึกภายในเป็นอย่างดี คมศรก็เก็บอาการเอาไว้ได้อย่างเร็ว ก่อนที่อรนุชจะเงยหน้าขึ้นมาโดยพยายามทำหน้าเฉย ๆ แต่อย่างไรก็ปิดความรู้สึกภายในไม่มิด เด็กสาวพูดเสียงห้วนๆ สะบัดๆ


คุณชนะ...บอกมาสิ..ว่าฉันต้องทำอะไร”


คมศรหัวเราะหึหึ ไม่ตอบคำถามอะไร กลับง่วนจัดการถอดแม๊กกาซีนปืน และกระสุนที่ค้างอยู่ในลำกล้องออกมาจัดเก็บปืนและเครื่องกระสุนเข้ากล่อง เรียบร้อย ซึ่งตลอดเวลาอรนุชที่แทบเต้นด้วยความขัดใจ ยืนนับหนึ่งถึงสิบจนเกือบร้อย ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างจับจ้องมองทุกอิริยาบทของอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้


จนกระทั่งชายหนุ่มเก็บทุกอย่างเรียบร้อย อรนุชพยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดอย่างสุดความสามารถ กล่าวเสียงราบเรียบ


ตกลงคุณจะบอกหรือยังว่าฉันต้องทำอะไร”


คมศรยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวแววาว ยกกระเป๋าขึ้นสะพาย พูดง่ายๆ


ผมยังคิดไม่ออก แล้วจะบอกคุณทีหลัง..”


นี่..นี่..ไม่ยอมนะ..มีอะไรรีบบอกมาสิ...ฉันจะได้หมดพันธะบ้าๆ นี้ไปซะที”


อรนุชร้องอย่างไม่ยอม รีบเดินไปขวางร่างสูงใหญ่ของคมศรที่คิดจะเดินออกไป สีหน้าแววตาเอาเรื่องสุดๆ


ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกจริงๆ แต่คุณจะกลัวไปทำไมล่ะครับ ผมยังยืนยันข้อตกลงของเรา ถ้าเรื่องที่ผมขอคุณไม่สะดวกใจ ทุกอย่างก็เป็นโมฆะ..”


คมศรพูดยิ้มๆ อรนุชอึกอักๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ชายหนุ่มร่างสูงก็ผงกศีรษะให้เดินดุ่มๆ ออกไป ทิ้งให้เด็กสาวร่างเล็กบางยืนหงุดหงิด ค้อนควักตามหลังหนาบึกบึนนั้นไปอย่างดุดัน นึกในใจอย่างเข่นเขี้ยว


ดี...จำไว้นะนายสิงห์...ไม่ว่านายจะให้ฉันทำอะไร..ฉันจะบอกว่าไม่ทำ..ดูสิ..จะมาทำอะไรกับฉันได้เมื่อถึงตอนนั้น”


จากนั้นเด็กสาวก็หันมาบรรจุกระสุนชุดใหม่เข้าปืนคู่ใจ คราวนี้โดยที่ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เด็กสาวลองเปลี่ยนวิถีการเล็งศูนย์ของเธอไปตามคำบอกของชายหนุ่มที่เดินผละไป และส่งกระสุนอีกห้าชุดเข้าใส่เป้าติดต่อกัน


เปรี้ยง ....เปรี้ยง...เปรี้ยง....เปรี้ยง...เปรี้ยง


อรนุชดึงเป้ากระดาษกลับมาแล้วนิ่งอึ้ง เพราะรอยกระสุนนั้นตกสิบเกือบหมดชุด หลุดเก้าไปหนึ่ง และมีหนึ่ง X ด้วย เด็กสาวใบหน้าแดงวูบ หันค้อนไปทางทิศทางที่คมศรเดินหายไป


อีตาสิงห์บ้า...”


..........................


สายตาของศักดาที่นั่งอยู่ในรถคันงามของเขาเบิกโพลงอย่างตื่นเต้น หลังจากที่เขาทรมานในการอุดอู้และคร่ำเครียดกับการต้องมาซุ่มดูอยู่แบบไร้ ความหวังหลายวันติดต่อกัน ความรู้สึกเร่าร้อนมันเกาะกินใจของชายหนุ่มสุดประมาณ เมื่อรถคุ้นตาคันหนึ่งแล่นเข้ามาภายในบริเวณลานจอดของอาคารพาณิชย์ระฟ้า ความรู้สึกตื่นเต้นยินดีจึงระเบิดพลุ่งพล่านราวกับทำนบกั้นน้ำแตกทลาย


ชายหนุ่มรีบติดเครื่องด้วยมืออันสั่นเทา ปากสั่น ขาสั่นไปหมด และขับออกจากบริเวณที่เขาจอดซุ่มอยู่แล้วขับตามรถคันข้างหน้าวิ่งไล่ไปตาม เส้นทางวนขึ้นไปบริเวณลานจอดรถซึ่งมีอยู่นับสิบชั้น


จนกระทั่งรถคันข้างหน้าเปิดสัญญาณกระพริบและเลี้ยวเข้าไปในซองจอด จากนั้นร่างสูงระหงโปร่งงามของหญิงสาวผู้ขับขี่ก็เปิดประตูออกมา ร่างงามนั้นอยู่ในชุดสีเทาทั้งชุดเสื้อและกางเกงขายาว ขณะที่กำลังจะก้าวเดินตรงไปยังทางเข้าอาคาร จิ้งจอกสวาทก็เคลื่อนรถเข้าไปจอดขวางเอาไว้ทันที แล้วผลุนผลันเปิดประตูลงไปส่งเสียงเรียก


คุณรส..คุณรส..คุณหายไปไหนมาครับ”


น้ำเสียงของจิ้งจอกสวาทร้อนรนพลุ่งพล่าน การปรากฏตัวของเขา ทำให้ใบหน้างามของคันธรสซีดเผือดอย่างตระหนกอย่างเห็นได้ชัด


ใบหน้าของหญิงสาวที่ศักดาไม่ได้พบมาช่วงหนึ่งนั้นยังคงสวยบาดตาบาดใจอยู่ เหมือนเดิมไม่มีผิด ริมฝีปากที่บางงามได้รูปสวยซ่อนอยู่ภายใต้สีแดงสดใส บวกกับผิวหน้าที่ขาวผ่องที่ตบแต่งมาอย่างงดงาม ทำให้ศักดาจับจ้องมองไปด้วยสายตาที่หลงใหลกระหายอาวรณ์


แต่อาการตื่นตระหนกนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น เพราะวินาทีถัดไปใบหน้างามนั้นก็เชิดขึ้น เสียงที่กล่าวกับศักดาไม่หลงเหลือความอ่อนหวานฉอเลาะที่เคยมีเลยแม้แต่น้อย นิด


ฉัน..จะไปไหนมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”


ทำไม..ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะครับ...คุณรส”


จิ้งจอกสวาทพูดเสียงแหบแห้ง มือที่เขาเอื้อมไปจับที่แขนของหญิงสาว ถูกคันธรสสะบัดตัวหนีออกไปอย่างรังเกียจ


คันธรสแผดเสียงหัวเราะออกมาแหลมคม ดวงตางามของเธอสาดประกายแค้น


ฮึ...จะให้ฉันบอกให้หมดไหม...จะได้รู้ว่าคุณมันชั่วขนาดไหนที่มาหลอกฉัน.. เฮอะ..พ่อค้าธุรกิจส่งออก..นักเลงเพชร..หลอกฉันทั้งหมด...เสี่ยเซี้ยงเขาบอก ฉันหมดแล้ว...”


จิ้งจอกสวาทน่าซีดเผือด ใจหายวาบราวกับตกจากเหวสูงชัน ปากพึมพำตะกุกตะกัก


คุณรส..ผม..ผม..รักคุณนะ..”


รักเหรอ...เก็บคำพูดน่าสะอิดสะเอียนนี่ไปให้พ้นฉันนะ แล้วก็ไสหัวไป อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก...ส่วนบ้านกับรถ ถือซะว่าฉันทำทานให้..”


คันธรสกรีดเสียงด้วยใบหน้าบึ้งตึง ศักดาที่เหมือนกับนักมวยที่ถูกหมัดเสยเข้าปลายคางอย่างจัง ตอนนั้นยืนโอนเอนไปมา ไม่รู้จะทำอะไรได้ ปากพึมพำเหมือนละเมอ


คุณรส..ผมผิดไปแล้ว..ยกโทษให้ผม..ผมรักคุณจริงๆ”


นี่ถ้าคุณยังไม่เลิกเซ้าซี้ ฉันจะให้ยามไปตามตำรวจมาลากคอคุณเข้าตะราง...”


หญิงสาวหยุดคำพูดที่เผ็ดร้อนไว้ เหลือบตามองไปยังยามที่เฝ้าหน้าประตูที่กำลังมองมาทางนี้ แล้วว่า


อย่านึกว่าฉันไม่กล้าเรียกนะ..”


ศักดามองตามไปก็เห็นยามที่กำลังเดินมาทางนี้ มือหนึ่งนั้นลดไปจับที่กระบองข้างตัว อีกมือหนึ่งยกวิทยุมือถือและส่งเสียงลงไป สีหน้าของชายฉกรรจ์ชุดยามเคร่งเครียด ตาลุกโพลง


จิ้งจอกสวาทที่ถนัดแต่เรื่องการหลอกผู้หญิงตะบันเย็ด แต่กลัวเกิดเรื่องรุนแรง และการใช้กำลังที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาว ละล้าละลังมองไปที่คันธรสก็แลเห็นเธออ้าปากร้องเรียก


ยาม...ยาม...”


ศักดาเห็นท่าไม่ดี จึงรีบผละออกไปจากหญิงสาวด้วยใบหน้าที่แตกตื่นใจ และเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังอันพลุ่งพล่าน


เขากลับไปที่รถ และมองคันธรสที่ยืนคุยอยู่กับยาม และชี้มือมายังเขาและเธอดูเหมือนจะสั่งอะไรบางอย่าง ทำให้ยามนั้นเดินตรงเข้ามา


ศักดาไม่มีทางเลือก จิ้งจอกสวาทกัดฟันแน่น และขับรถออกไปจากบริเวณนั้นทันที
........................


เสี่ยเซี้ยงหัวเราะกระหยิ่ม ขณะมองดูใบหน้าสวยบาดตาที่กำลังแดงก่ำ ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดของหญิงสาวตรงหน้า ที่ตรงดิ่งมาหาเขาถึงบ้านพัก และเล่าเรื่องที่เธอประสบมาตอนเช้าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด พลางกล่าว
แล้วปลอบใจ


น่าทำใจเย็นๆ..รสที่รักของผม...ไม่ต้องกังวล ไอ้ศักดานั่นมันคงไม่กล้ามาหารสอีกแล้วล่ะ”


คันธรสเชิดหน้างามที่บึ้งตึง กล่าวเสียงแค้น


ความจริงรสน่าจะเรียกตำรวจมาจับมันไปเข้าตะรางเลยนะ...”


ช่างมันเถอะครับ อย่าไปสนใจคนไม่มีค่าพรรค์นั้นให้รกสมองเลย...ว่าแต่..คุณรสกินข้าวเที่ยงมา หรือยังล่ะ...แล้วจะอยู่กับผมบ่ายนี้หรือเปล่าจ๊ะ”


เสี่ยโฉดกระซุ่นพูด รั้งร่างงามของคันธรสเข้าไปกอด ซอนไซร้จมูกไปตามซอกคอขาวอย่างกระหาย สาวสวยตัวอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนกำยำ ใบหน้าแดงตอนนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เพราะความรู้สึกซ่านไปกับการเล้าโลมของเสี่ยเซี้ยง


คันธรสร้อง ฮื้ออออ ฮื้ออออ ออกมาเมื่อ มือของเสี่ยเซี้ยงปลดกระดุมเสื้อของเธอออกไปสองเม็ด และเริ่มลากมือเข้าไปในร่องเสื้อขยำไปตรงอกอวบอิ่มของเธอผ่านบราเซียร์เนื้อ บางเบา มือบางงามของหญิงสาวพยายามผลักมือหยาบใหญ่ของเสี่ยเซี้ยงออกไป


อื้อออออ...เดี๋ยวก่อนค่ะ...รส..รส..มีประชุมบ่ายนี้นะคะ...ขาดไปตั้งหลายวันแล้ว...คงต้องเข้า…ซี๊ดดดดด”


เสี่ยเซี้ยงควานบดริมฝีปากหนาไปตามซอกคอขาว กระซุ่นถาม


ประชุมกี่โมงล่ะที่รัก”


คันธรสหลับพริ้ม หายใจสะท้อนสะท้านไปกับเพลงจูบของอีกฝ่าย ครางกระซิกกระซี้ เมื่อมือนั้นบีบไปตรงปลายถันของเธออย่างชำนาญ ส่งเสียงกระท่อนกระแท่น


บ่าย..บ่าย..สามโมง..อื้อออออยย..เสี่ย...อุ๊ยยย...อย่าค่ะ....รส..บอกแล้วไง..ว่าต้องไป...อี๊ยยยยยยย”


เสี่ยโฉดยิ้มหื่น ตอนนั้นมือหยาบที่ถอนถอดออกมาจากอกอวบงาม ไล่ลงไปบีบไล้ตรงเนินขานูนแน่นผ่านกางเกงขายาวสีเทาที่หญิงสาวสวมใส่ นิ้วที่แข็งแรงขยำลงไป ถึงแม้จะผ่านอาภรณ์ที่ค่อนข้างเนื้อหนา แต่ก็ยังกดเบียดลงไปตรงโคกอูม สร้างความเสียวกระสันให้กับคันธรสจนขนลุกเกรียว


..รส...อี้ยยยยย...เสี่ย...เสี่ย..ขา....โอววว...”


คันธรสพยายามห้าม แต่นิ้วมือของเสี่ยเซี้ยงจัดการปลดตะขอและรูดซิปกางเกงขายาวของเธอออกไปจน สุด และเริ่มสอดมือลอดเข้าไปขยำเนินนูนที่ห่อตัวอยู่ใต้กางเกงในสีขาวนั้นอย่าง ชำนาญ


เสี่ย...เสี่ย...ขา...ยะ...อย่า...รส...ต้องไปจริงๆ...นะคะ”


ยังเหลือเวลาตั้งสองสามชั่วโมงนะที่รัก...”


เสี่ยเซี้ยงรุกหนัก ปากบดเบียดจูบไปบนริมฝีปากงามที่เคลือบสีแดงสด ปลุกปั่นจนร่างงามสั่นสะท้าน คันธรสที่พล่านไปด้วยความเสียว ถึงกับโยกสะโพกผายของตัวเองขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และช่วยให้มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงจัดการครูดกางเกงขายาวของเธอออกไปตามเรียว ขาขาวงามของตนเอง




เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า มือซ้ายที่ควานลงไปขยำเนินสามเหลี่ยมที่นูนแน่นเต็มมือ ส่งผลให้ตอนนั้นร่างงามอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งถูกไฟลนไม่ต่างกับตุ๊กตาที่ ให้เขาจับพลิกตามใจปรารถนา อีกมือหนึ่งที่ยังว่างก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อที่เหลืออยู่ออกไปทีละเม็ด ทีละเม็ด


คันธรสครางกระส่า ร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับเสี่ยเซี้ยงสั่นระริก หลังของเธอแอ่นสะท้านพร้อมกับส่งให้สะโพกผายของเธอกระเด้งขึ้นเสนอโคกอูม สนองมือหยาบของเสี่ยโฉดที่ขยำลงมาอย่างรุนแรงนั้นด้วยความเร่าร้อนรัญจวน ริมฝีปากงามที่เคลือบสีแดงสดห่อคราญคราง ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดด ไม่หยุด


จวบจนกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออก เสื้อแขนยาวสีเทาเนื้อละเอียดเบาสบายนั้นก็ถูกปลดออกไปจากร่างงาม ให้มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงขยำคลึงไปบนสองเต้าอวบอิ่มที่ถูกห่อหุ้มด้วย บราเซียร์สีขาวผ้าลูกไม้หรูหราราคาแพได้อย่างถนัดถนี่มือยิ่งขึ้น


ร่างบางสั่นกระตุกอยู่ภายใต้การเล้าโลม คันธรสใบหน้าแดงซ่าน อ้าปากพร่ำเพ้อรับการระดมบดขยี้จูบลงมาอย่างกระหายหิวของเสี่ยเซี้ยง เสียงซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ ดังต่อเนื่องกัน


เสี่ย...เสี่ยย.....อื้อยยยยยย...เสี่ยย...ขา...”


นิ้วที่ลากลงไปในร่องหลืบผ่านกางเกงในบางเบา สร้างความกระสันซ่านจนคันธรสครางออกมาอย่างเสียวซ่าน ร่างแอ่นกระตุกวาบๆ โพรงหลืบนั้นขมิบถี่ถี่ เสี่ยโฉดรับรู้ถึงรอยชื้นที่เปื้อนไปวงอย่างรวดเร็วตรงเป้ากางเกงในตัวน้อย นั้น กระหยิ่มยิ้ม ใช้นิ้วเกี่ยวไปที่ขอบยาง คราวนี้สาวสวยยกสะโพกรอแต่โดยดีไม่มีอิดเอื้อน ให้เสี่ยเซี้ยงกระตุกครูดกางเกงในของเธอออกไปจากเรียวขางาม จากนั้นหญิงสาวก็นั่งแบะขา สะท้านไหวไปตามแรงกระตุกนิ้วของเสี่ยโฉดอย่างสุดรัญจวน ครางกระเส่าไม่ขาดปาก


ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดด...อื้ออออออ....อื้อออออ...อื้อออออ”


ร่างบางกระตุกพราดๆ เริ่มบ่งบอกอาการใกล้แตกกระสันเต็มทน เสี่ยโฉดไม่ขัดความสุขของสาวสวยก็เร่งนิ้วกระตุกยิกๆๆๆๆๆ เป็นการใหญ่ เสียงเจ๊าะแจ๊ะ เจ๊าะแจ๊ะ เมื่อนิ้วกระตุกไปตามร่องหลืบกระฉอกเข้ามาน้ำใสที่พรั่งพรูออกมาเอ่อล้นกลีบ อูมนั้น


อื้อออออออ...อื้อออออออ...อื้ออออออออ...เสี่ย....ขา...อื้อออออ....อื้อออออออ..อ๊ะ อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ายยยยยยยยยยยย”


ร่างงามกระตุกพร่าน แอ่นโคกอูมขึ้นสู้นิ้วของเสี่ยเซี้ยงอย่างสุดๆ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปบนเบาะโซฟา นั่งกึ่งนอนระทดระทวยหมดเรี่ยวแรง ผิวขาวผ่องนั้นผุดพรายด้วยเหงื่อนเม็ดโป้งๆ จนมันปลาบไปทั้งตัว


เสี่ยเซี้ยงกระหยิ่ม จัดการถอดยกทรงตัวสุดออกไป แล้วก้มลงไปควานจูบ ดูดไปตรงปลายถันสีน้ำตาลอ่อนงาม ใช้มือบีบเคล้นไปที่สองเต้าอวบอิ่ม ดูดซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ อย่างสุดแสนอร่อยลิ้น


ร่างบางที่นอนระทวย เริ่มส่ายสะท้านขึ้นอีกครั้งหนึ่งด้วยความกระสันซ่าน เสี่ยเซี้ยงดูดดื่มหัวนมงอนงามจนพอใจ ก็ยกร่างเบาบางนั้นให้หันขึ้นมานั่งนั่งคร่อมตักของเสี่ยโฉด ซึ่งถดสะโพกตัวเองครูดกางเกงขายาวและกางเกงในของตัวเองออกไปแล้วผงาดควยอวบ บานถอกมหึมารออยู่ก่อนแล้ว


โพรงสวาทที่เริ่มฉ่ำแฉะเนื่องจากน้ำใสที่หลั่งออกมาก็เผยอกลีบอูบบานร่อนรับถอกอวบที่จ่อคอยอยู่อย่างพอดิบพอดี


อี๊ยยยยยยยยยย....เสี่ยย...โอวววววว....โอวววว....เสี่ย...ขา....อี๊ยยยยยยยย”


คันธรสอ้าปากครางครวญอย่างเสียวกระสัน เมื่อถอกมหึมานั้นสวนพรวดย้อนเข้าไปในโพรงสวาทของเธอที่นั่งโหย่งทับเข้าไป กลีบอูมนั้นอ้าแหวกออกโอบรัดท่อนเนื้อมหึมาเข้าไปพร้อมๆ กับการเสียดสีไปตรงติ่งแตด สร้างความเสียวซ่านจนร่างงามนั้นสั่นระริก มือของหญิงสาวกำแน่นไปที่บ่าหนาของอีกฝ่าย


เสี่ยเซี้ยงคำรามกระเส่า ขยุ้มมือไปที่เอวคอดกิ่ว และกระเด้งตัวกระทอกเอ็นอวบนั้นบดทะลวงขึ้นไปในโพรงสวาทที่บัดนี้คุ้นเคยกับ ขนาดอันใหญ่โตของเขาเป็นอย่างดี อ้าโอบรัดเข้ามาอย่างแนบแน่น อาการขมิบตอดรัดถี่ถี่นั้นสร้างความเสียวกระสันให้กับหัวถอกบานเหลือเกิน จนเสี่ยโฉดใบหน้ามันด้วยเหงื่อที่พล่านออกมา สูดปากร้องกระเส่า อูยยยยยยย อูยยยยยยย ที่รัก...ตอดดีจริงๆ....อูยยยยย....รัดแน่นไม่ตกเลย....อาววววววว... ซี๊ดดดดด


คันธรสกัดปากด้วยความเสียวซ่าน ใช้มือจับเกร็งไปที่บ่าหนา และยกตัวของตัวเองขย่มลงไปบนตอยักษ์ที่แข็งพรวดขึ้นมา พยายามเบียดลำเอ็นอวบนั้นให้บี้สัมผัสไปกับติ่งเสียวของเธอให้มากที่สุดใน ทุกทิศทาง ยิ่งเบียดก็ยิ่งเสียว ยิ่งเสียวก็ยิ่งกระสันซ่าน เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นทั่วร่างขาว เสียง ปั้ก ปั้ก ปั้ก ปั้ก ดังถี่ยิบเมื่อแก้มก้นของเธอหย่งขย่มลงไปบนตอยักษ์และกระแทกลงไปถึงหน้าขา ขณะที่หัวถอกมหึมาพรวดเข้าไปกระแทกมดลูกเธอดัง กึก กึก กึก ทุกครั้งเพราะความยาวใหญ่ของมันถูกโพรงสวาทดูดอมเข้าไปมิดด้ามทุกครั้ง


เสี่ยเซี้ยงกัดฟันด้วยความเสียวกระสัน รู้สึกอร่อยจนแหกปากร้องอูวววววว อูวววว อูวววว ทุกครั้งที่ปลายบานร่านั้นพรวดเข้าไปกระแทกผนังมดลูกที่นุ่มแน่นนั้น พร้อมๆ กับโพรงสวาทที่คร่อมโอบตอดรัดขมิบเข้ามาเป็นจังหวะถี่ถี่ ที่ความนุ่มของโพรงนั้นเบียดแนบไปกับลำลึงก์ของตนเองอย่างสุดๆ มันก่อเร้าให้ความตื่นตัวนั้นพรวดพร่านขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนต้องร้อง อูซซซซซซ อูซซซซซ อูซซซซซซซซ กระเส่าดัง


พร้อมๆ กับการครางกระเส่าของเสี่ยโฉด ความเสียวซ่านที่เธอรับรู้ได้จากโพรงสวาทระลอกใหม่ที่พล่านทะลักออกมาราวกับ น้ำป่าไหลหลาก ก็ทำให้คันธรสร้องเสียงดังยิ่งขึ้น อ๊า อ๊า อ๊า อื้ออออ อื้อออออ อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า รับกับเสียงปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ที่ดังถี่ยิบไม่หยุด อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า


เสียงกระเส่าครางจากชายหญิงทั้งคู่แรงขึ้นๆ พร้อมๆ กับเสียงปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก นั้นถี่ยิบยิ่งขึ้น ยาวนานร่วมยี่สิบนาทีก่อนที่ คันธรสจะครางออกมาสุดเสียง


อ๊ะ อ๊ะอ๊ะ...อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยซซซซซซ


เสี่ยเซี้ยงกระซุ่นเสียง อูซซซ อูซซซซ อูซซซซ กระแทกลำควยถี่ยิบ ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ขณะเดียวกันก็อ้าปากงับไปที่หัวนมชูชัน ส่งเสียงกระเส่า อูซซซซซ ที่รัก...ขย่มแรงๆ....แรงๆๆๆ......อูซซซซอูซซซซซซ


คันธรสกัดฟันแน่น จิกเล็กไปที่สองไหล่อวบ โหย่งขย่มโพรงสวาทของเธอลงไปกระทอกควยอวบนั้นอย่างเร่าร้อนเร็วรี่ ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก อูซซซซซ อูซซซซซ อูยยยยยยย.....อ๊าซซซซซ อ๊าซซซซซซ




ร่างกำยำนั้นกระเด้งควยอวบกระฉูดน้ำกามระเบิดพรวดเข้าไปในโพรงสวาที่ตอดรัด นั้นราวกับยิงกระสุนน้ำเมือก ร่างของคันธรสสะท้านวาบๆ ไปพร้อมๆ กับน้ำอุ่นๆ ที่รดเข้ามาในตัวเธอ เสี่ยเซี้ยงกระทอกควยเค้นน้ำกามออกไปจนหมดทุกหยดหยาดก็นั่งหอบอยู่กับที่ ขณะที่คันธรสก็ตัวอ่อนหมดแรงนั่งแปะคาควยยักษ์ที่ยังคาอัดแน่นอยู่ในโพรง หลืบของตัวเอง ซบใบหน้างามของตัวเองไปกับบ่าหนาของเสี่ยเซี้ยง ในเวลานั้นเหงื่อไหลแตกพล่านออกมาจนเครื่องสำอางที่แต่งไว้อย่างงดงาม ตั้งแต่เช้าเลอะเลือนไปเกือบหมด


เสี่ยเซี้ยงผู้ไม่เคยอิ่มกับรสสวาทที่ได้จากร่างงามตรงหน้า หลังจากนั่งพักอยู่ครู่ใหญ่ ก็หัวเราะกระเส่า ร่างกำยำนั้นผุดลุกขึ้น โดยร่างบางงามของคันธรสสั่นกระตุก ปากงามห่อครางอู้ววววววววว เพราะควยอวบนั้นยังคาอยู่ในโพรงสวาทของเธอเอง ขณะทีถูกเสี่ยเซี้ยงยกร่างของเธอเดินเข้าไปในห้องพักด้านใน


..............................


ตลอดทั้งวันที่ศักดาแทบจะเหมือนกับตกอยู่ในกองเพลิงแห่งโทสะที่เผาผลาญ ตกเย็นเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยเซี้ยง


เสี่ย...เสี่ย..ทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง”


ศักดาตะคอกใส่ ทางฝ่ายเสี่ยเซี้ยงหัวเราะเอิ้กอ้าก


ก็แกมันโง่เอง..ช่วยไม่ได้...ฮ่ะฮ่ะ”


แก..แก..คิดว่าฉันจะยอมแค่นี้เรอะ”


เสี่ยเซี้ยงหัวเราะดังมาปลายสาย ก่อนจะกล่าวเสียงเนิบๆ แต่มีริ้วรอยของความเหี้ยมเกรียมแฝงอยู่ชัด


ขอเตือนว่าอย่ามายุ่งกับเมียของฉันอีกนะ อย่าว่าแต่ตอนนี้เมียฉันมองแกไม่ต่างอะไรกับกิ้งกือไส้เดือน เลิกคิดเลิกฝันเหอะ และอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ แล้วกัน แล้วจะหาว่าเสี่ยเซี้ยงคนนี้ไม่เตือน...”


พ่อค้าโฉดนั้นวางหูไป ศักดาเย็นสันหลังวาบ ตระหนักดีว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อค้าตลาดมืดผู้มีอิทธิพล เขาตัวคนเดียวถ้าไปปะทะด้วยก็มีแต่ต้องตายเหมือนหมาข้างถนนเท่านั้น


เมื่อรับรู้ว่าตัวเองเท่ากับพ่ายแพ้ไปโดยสิ้นเชิง มันทำให้จิ้งจอกสวาทนั้นถึงกับร้องร่ำคร่ำครวญ ระบายโทสะไปกับการทุ่มเหวี่ยงข้าวของในบ้านที่คันธรสซื้อให้เขาด้วยอาการ เหมือนคนบ้า


ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสายของเสี่ยเซี้ยงดังติดต่อมาอีกครั้ง พอชายหนุ่มรับ ทว่าไม่มีเสียงของเสี่ยเซี้ยงดังขึ้นมา แต่กลับกลายเป็นเสียงครวญครางที่คุ้นหูเขามาแทนที่


เสี่ย...โอวววว...เสี่ยขา.....ซี๊ดดดดดดด....ซี๊ดดดดดด...รส....เสียววววว ...โอวววว..ดีดี..ดี...โอววววว...เสี่ย....โอวววว โอวววว...โอวววว...อ๊ายยยยยยย...อ๊ายยยยยย......”


ได้ยินไม่ทันสิ้นเสียงครางกระเส่าแสดงอาการบรรลุจุดสุดยอดของคันธรส ศักดาก็กดปุ่มปิดเครื่อง ขว้างทิ้งไปสุดแรง ยกมือทึ้งไปที่ศีรษะ นั่งทุบมือไปกับพื้นที่เขานั่งคอตกอยู่ราวกับคนบ้าคลั่ง


..............................


ฐิติพรรณที่กำลังเดินออกมาตึกเรียนที่คณะ เด็กสาวในชุดนักศึกษานั้นดูจากภายนอกก็ยังคงงดงามสดใสเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อัน น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่มีวี่แววหรือการบ่งบอกให้ใครสงสัยใจที่จะคาดคิดว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา นี้ราวอาทิตย์กว่านั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับตัวเธอบ้าง


ดวงตาเรียวสวยของเด็กสาวเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นยินดีเมื่อเธอเห็นร่างสูงของ ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินสวนเข้ามา ร่างงามของเธอผละออกจากกลุ่มเพื่อนเดินแกมวิ่งเข้าไปทักทายอย่างดีใจ


พี่ธนาคะ...แหม...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน...”


ธนาหันมาตามเสียงก็ยิ้มกว้าง รีบทักทายสาวน้อยตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


จริงสิ..ไอซ์..พี่เองก็อยากเจอไอซ์อยู่พอดีเลย”


พริตตี้สาวหัวใจเอิบซ่านอย่างยินดี ยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน


พี่ธนาอยากเจอไอซ์ทำไมคะ”


คือเพื่อนของพี่เขาอยากให้ไอซ์ไปเป็นพริตตี้งานแสดงมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะ จัดอยู่น่ะ เขาติดต่อมาถามพี่ พี่ก็คิดว่าไอซ์น่ะเหมาะมากเลยแนะนำเขาไป..ซึ่งเพื่อนพี่เขาก็เลยอยากพบไอ ซ์หน่อย”


ฐิติพรรณยิ้มกว้าง ใบหน้างามนั้นอิ่มเอิบ


ยินดีค่ะ...ไม่ว่าพี่ธนาขอให้ไอซ์ช่วยอะไร..ไอซ์ยินดีช่วยที่สุด”


พี่ดีใจจังได้ยินอย่างนั้น...ว่าแต่เรื่องนี้แล้วเราค่อยคุยกันนะ...พี่จะแจ้งข่าวดีนี้ให้เพื่อนพี่อีกทีก่อนค่อยนัดไอซ์”


ธนาพูดแล้วโบกมือให้กับเด็กสาวทำท่าจะผละเดินเข้าตึกเรียนไป ฐิติพรรณรีบท้วง


เอ่อ..แล้วพี่ธนา..กำลังจะไปไหนหรือคะ”


ใบหน้าหล่อเหลาขาวสะอาดของชายหนุ่มหัวเราะเก้อๆ ธนายกมือเกาหูอย่างขัดเขินนิดหน่อยเมื่อว่า


พี่..เอ่อ..พี่มาดูนุชเขาซ้อมฝึกเดินน่ะ...ไปล่ะนะ”


ชายหนุ่มพูดแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน ซึ่งจะเป็นทางเดินตรงไปยังห้องประชุมเล็กที่เขาทราบมาว่าถูกใช้เป็นสถานที่ ฝึกของอรนุช โดยมีแววตาของฐิติพรรณที่มองตามไปนั้นเต็มไปด้วยประกายพลุ่งพล่าน


ตัวมาร...ฉันเกลียดแก...นังอรนุช


พริตตี้สาวร้องร่ำในใจอย่างเร่าเร้อน


เพื่อนๆ ที่ขยับมาร่วมกลุ่ม ศจีที่ทราบความในใจของเพื่อนสนิทดีตบบ่างามของฐิติพรรณ


เฮ้ย นังไอซ์อย่าไปคิดมากเลยว่ะ คืนนี้ไปเที่ยวกันดีกว่า”


ฐิติพรรณที่พยายามสงบอารมณ์ มองไปยังด้านหลังไกลๆ ของธนาอีกครั้ง ด้วยแววตาที่เสียใจ น้อยใจ ที่อีกฝ่ายไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตา


เธอก็แค่รวยน้อยกว่าอรนุชเท่านั้น ทำไมนะ...ทำไมพี่ธนาถึงไม่หันมามองเธอบ้าง


ด้วยความเบื่อหน่ายที่พลุ่งขึ้นในใจ ทำให้พริตตี้สาวเห็นดีด้วยกับคำชักชวนของเพื่อนสนิท จึงผงกศีรษะ จากนั้นกลุ่มของนักศึกษาสาวก็พากันเดินออกไปจากตึกเรียน


....................................


ตอนนั้นอรนุชทำหน้าเซ็งๆ ความจริงที่เธอต้องมาทำเป็นเดินนวยนาดอยู่บนเวทีท่ามกลางการกำกับของเจ๊แต๋ว และครูฝึกก็น่าเบื่อพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีธนาที่มายืนดูอยู่ด้วย ชายหนุ่มไม่ดูเฉยๆ แต่มีคำวิจาร์ณตลอดว่าไม่เหมาะอย่างนั้นไม่สวยอย่างนี้ ยิ่งทำให้เธอเซ็งหนัก


ที่เด็กสาวเซ็งไม่ใช่เพราะถูกวิจาร์ณ แต่เพราะคำวิจาร์ณของธนามักลงเอยด้วยการที่เธอต้องเริ่มซ้อมใหม่ตั้งแต่ต้น


น่าเบื่อจะตาย เฮ้อ...พี่ธนา..นะ...พี่ธนา...อย่างนี้เมื่อไรนุชจะเดินเสร็จล่ะ...ว้า...เอาอีกแล้ว


ตอนนั้นชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าตึงๆ กับครู่ฝึก


เดี๋ยวๆ...ครับ..ครูฝึก...นี่..นุช..เขาไม่ใช่พวกนางยั่วนะครับ ทำให้สอนให้ส่ายสะโพกมากๆ ผมไม่ชอบ”


เจ๊แต๋วกรองกนกเองก็กลุ้มใจไม่แพ้เด็กสาวที่กำลังยืนนิ่วหน้าอยู่บนเวที เป็นเพราะเธอรู้ฐานะของอีกฝ่ายดี จึงได้แต่พยายามทำใจให้สงบ ถ้าเป็นคนอื่นกรองกนกคงไล่ตะเพิดไปแล้ว แต่ตอนนี้ได้แต่พูดเรียบๆ อย่างอ่อนใจ


โธ่ คุณธนาคะ..เรื่องอย่างนี้ให้ครูฝึกเขาจัดตามความเหมาะสมเถอะค่ะ..”


คุณครูฝึกเองก็ต้องระงับอารมณ์หงุดหงิดเหมือนกัน เพราะถูกวิจาร์ณการทำงานของตนเองก็ไม่ค่อยชอบใจ ก่อนจะหันมาพยายามยิ้มให้สาวน้อยที่ยืนอยู่บนเวที... ยังดีอยู่บ้างที่นักเรียนคนนี้ของเธอน่ารัก... แล้วตบมือร้อง


เริ่มใหม่อีกครั้งนะคะ น้องนุช..โอเคค่ะ ..เหยียดเท้า step หนึ่ง เดินซ้าย ขวา ซ้าย ขวา..หันตัวกลับ..ค่ะ.อย่างนั่นแหล่ะ..สวยมากค่ะ..หลังอย่าแข็งนักค่ะ ปล่อยตามสบาย...”


ธนามองไปบนเวที จับตาไปยังเด็กสาวที่เขาเฝ้าติดตามอย่างหลงใหลในความงามและความสดใสด้วยแวว ตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง พอธนารู้ว่าอรนุชได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย ในใจนั้นชายหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี และแสดงตัวสนับสนุนการประกวดครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ประกาศตัวขอเป็นสปอน์เซอร์ให้กับมหาวิทยาลัยทุกอย่างในการตั้งงบค่าใช้จ่าย ในเรื่องการเตรียมการประกวดให้กับอรนุช


แรกๆ พี่แต๋วหรือกรองกนกก็รับเอาไว้อย่างยินดี แต่มาเอาเข้าจริงๆ การเข้ามายุ่มย่ามก้าวก่ายในหลายๆ เรื่องของชายหนุ่มก็ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก


อรอุษาที่นั่งดูอยู่ด้วย เพราะช่วงนี้เด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้กับแคมป์ภาคฤดูร้อน ที่มหาวิยาลัยของพี่สาวคนรองจัด ดังนั้นเธอจึงติดรถอรนุชมาที่มหาวิยทยาลัยทุกวัน ตอนนั้นน้องสาวคนเล็กของเด็กสาวที่กำลังเดินหน้าเหนื่อยอยู่บนเวที เดินมาข้างๆ ธนาแล้วกระซิบเบาๆ เสียงอ่อนอย่างเกรงใจ


พี่ธนามานั่งดูเฉยๆ ดีกว่าค่ะ อย่าไปรบกวนสมาธิของพี่นุชเลย”


ธนาหัวเราะเก้อๆ ใบหน้าหล่อเหลาแดงด้วยความขัดเขิน ก่อนจะเชื่อฟังวาจาของเด็กสาวผู้อ่อนวัยกว่า เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ และยืดคอมองอรนุชแบบตาไม่กระพริบ ท่าทางอย่างนั้นทำให้อรอุษาต้องยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ


ตลกพี่ธนาจัง...เฮ้อ...น่าสงสารด้วย...พี่นุช..น้า..พี่นุช...พี่ธนาเขาออกดี...ทำไมหนอ...ถึงไม่เห็นใจบ้าง


กว่าที่อรนุชจะซ้อมเดินเสร็จก็เย็นมาก เด็กสาวร่างเล็กบางเดินมานั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ น้องสาว ร้องเฮ้ออออ ใช้มือทุบไปที่ต้นขาตัวเองไปมา บ่นพึมพำ


โอ้ย...เมื่อยจะตาย...”


อรอุษาหัวเราะคิกๆ รีบส่งน้ำเย็นให้กับพี่สาว ส่วนธนาเดินเข้ามาอย่างอาทร


นุชเมื่อยมากไหมจ๊ะ”


อรนุชร่ำๆ อยากจะพูดออกไปว่า ที่เมื่อยหนักก็เพราะพี่ธนานั่นแหล่ะ


แต่ด้วยมารยาทที่ยังถูกอบรมมาอย่างดีจากการดูแลอย่างเข้มงวดของพี่สาว ทำให้เธอได้แต่ฝืนยิ้มว่า


ไม่เป็นไรค่ะ..เอ่อ..แต่นุชเกรงใจพี่ธนา...ไม่น่าจะต้องมาเฝ้านุชเลย”


วันนี้พี่ว่าง...สำหรับนุชน่ะ..พี่หาเวลาให้ได้เสมอ”


ธนารีบพูดอย่างเอาใจ ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อีกด้านหนึ่ง ยื่นกระดาษซับหน้าให้ สายตาที่มองไปยังใบหน้าบางใสนั้นส่องประกายราวกับว่าอยากจะกลืนกินอีกฝ่าย เข้าไปในอก


เช็ดเหงื่อหน่อยนะ ดูสิ ซึมออกมาตรงจมูกใหญ่เลย”


อรนุชรับกระดาษมาซับหน้าตัวเอง ตอนนั้นพี่แต๋วกรองกนก เดินยิ้มๆ เข้ามาตบมือเปาะ


น้องนุช..เก๊งเก่ง..คุณครูเขาชมเปาะเลยว่านุชน่ะหัวไว...อย่าลืมนะจ๊ะ เย็นพรุ่งนี้เราเจอกันที่นี่สี่โมง...”


เด็กสาวร่างบางยิ้มแห้งแล้ง ได้แต่ผงกศีรษะรับคำเบาๆ ส่งกรอกกนกที่เดินยิ้มแป้นกลับไป แต่ตัวเองนั้นแอบบ่นในใจอย่างสุดเบื่อหน่าย


โอ๊ยยยยย..เมื่อไหร่จะประกวดเสร็จๆ ไปซะทีนะ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว


.................................


ภายในผับสลัว ๆ ที่ฐิติพรรณกับพวกเข้ามาเที่ยวกัน ความก๋ากั่นของกลุ่มของพริตตี้สาวบางครั้งก็มากถึงกับเข้ามาเที่ยวทั้งๆ อยู่ในเครื่องแบบนักศึกษา แต่โดยที่ทั้งหมดมั่นใจว่าพวกตนนั้นไม่ถึงกับกินเหล้าจนเมาเอะอะโวยวาย เลยกล้าทำกันเป็นปกติ


พรรคพวกในกลุ่มเมื่อสั่งดริกค์มันละเลียด ฟังเพลงเพลินๆ นั่งมองไปรอบๆ ดูความเคลื่อนไหวของโต๊ะข้างๆ ตามความเคยชิน ขณะที่ฐิติพรรณกำลังมีความในใจนั่งจิบพันซ์เฉยๆ ไม่ค่อยเฮฮาไปกับเพื่อนฝูงเหมือนก่อนๆ


สมาชิกคนหนึ่งกระซิบว่า


ไอซ์ดูโต๊ะโน้นสิ ผู้ชายหล่อดี ว่าแต่หน้าออกจะคุ้นๆ นะ เฮ้ย แอ๋ว..นั่นใครน่ะ ฉันว่าคุ้นๆ นะ”


ทีแรกนั้นฐิติพรรณไม่ค่อยสนใจ นั่งมองไปที่แก้วตัวเองตาลอยเฉยๆ ขณะที่ศจีหันมองตามไปก็คุ้นๆ หน้าเหมือนกันแต่นึกไม่ออก ใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนสนิท


ไอซ์จำได้รึเปล่า ฉันก็ว่างั้นแหล่ะคุ้นๆ”


ดังนั้นฐิติพรรณจึงหันไปมอง แล้วดวงตาเรียวงามของเธอก็ต้องเบิกกว้างอย่างแปลกใจ


พี่ศัก...”


พริตตี้สาวร้องในใจ ทีท่าของเธอทำให้เพื่อนสนิทซัก


แกจำได้หรือ..ไอซ์”


ฮื่อ..ก็คนที่มากับพี่รสไงที่เราเคยเจอน่ะ”


อ๋อ...จริงด้วย ฉันนึกออกแล้ว ชื่ออะไรน้า...ศักดาใช่ไหม”


ฐิติพรรณผงกศีรษะ ตอนนั้นมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งดื่มเหล้าจนหน้าแดงก่ำ ด้านข้างมีผู้หญิงแต่งกายล่อแหลมโชว์เรือนร่างที่อวบอัดนั่งกระแซะอยู่คอย รินเหล้าเติมโซดาให้กับศักดาไม่หยุด ส่งเสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ตลอด


กลุ่มนักศึกษามองชายหนุ่มดูเหมือนกำลังเมาได้ที่ หัวเราะเอิ้กอ้าก หันหน้าไปซอนไซร้ซอกคอของสตรีที่น่าข้างๆ สร้างเสียงหัวเราะกิ๊กกั๊กให้ดังขึ้นจากปานของเจ้าหล่อน


ทุเรสว่ะ ผู้ชายไหนๆ แม่งเป็นอย่างนี้หมดหรือเปล่าวะ วันนั้นก็เห็นอี๋อ๋อกับพี่รสออกอย่างนั้น ดูสิวะ...”


ศจีจีบปากพูด ถึงแม้เด็กสาวจะไม่ใช่เด็กดีในอุดมคติ แถมยังใจกล้ามีความสันพันธ์กับผู้ชายมาแล้วหลายคน แต่ก็ยังคงคิดว่าการคบหาเข้าคู่กันเป็นครั้งๆ นั้นรับได้ ถ้าไม่พอใจกันก็เลิกกัน และหาคู่ใหม่ แต่ไม่ใช่มั่วไปหมดไม่เลือกเวลา


ฐิติพรรณตาลุกวาว พยายามโทรศัพท์ไปหาคันธรส แต่เสียงสัญญาณบอกว่าติดต่อไม่ได้ ซึ่งเบอร์ที่เด็กสาวบันทึกเอาไว้นั้นเป็นเบอร์เดิมที่บัดนี้ถูกเสี่ยเซี้ยง จัดการโยนซิมทิ้งไปแล้ว


ตอนนั้นพริตตี้สาวรู้สึกแปลกใจอยู่ครามครัน เพราะจากประสบการณ์ของตัวเองนั้น ค่อนข้างจะแน่ใจว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าเธอนั้นแคร์ในตัวของคันธรสไม่น้อย เพราะแม้กระทั่งเธอที่พยายามยั่วเขาตั้งหลายโอกาส แต่ศักดาก็สะกดใจไม่ลุกล้ำกร้ากรายอะไรเธอ ทั้งๆ ที่เธอมองออกว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้


แต่ตอนนี้ทำไมศักดามานั่งดื่มเหล้าเคล้าผู้หญิงอย่างเปิดเผยอย่างนี้ มันต้องมีอะไรสักอย่าง


ทว่าไม่มีเวลาให้พริตตี้สาวได้ครุ่นคิดอะไรมากไปกว่านั้น เพราะทันใดนั้นมือถือของฐิติพรรณก็ดังขึ้น


..........................


เสี่ยเซี้ยงแสยะยิ้มหื่นมองดูร่างงามที่นอนคว่ำาเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง คันธรสนอนระทดระทวยปวกเปียก สองขาเรียวงามถ่างขาอ้าไปสองข้าง แลเห็นโพรงสวาทในตอนนั้นมีน้ำเมือกเยิ้มย้อยออกมาเกรอะกรัง แต่ใบหน้างามของหญิงสาวซ่านไปด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในรสสวาทที่ถูกควยยักษ์ ป้อนให้


เสี่ยโฉดตามลงไปประกบจูบไปตามแผ่นหลังขาวนวลเนียน ในใจนั้นซ่านไปด้วยความหฤหรรษ์ที่สามารถสยบสาวงามตรงหน้านี่ได้แล้วทั้งกายและใจ


เพราะหลังจากที่เขาเปิดเผยเรื่องราวอันเป็นเบื้องหลังที่แท้จริงของศักดาและ การร่วมมือระหว่างเขากับศักดาในการหลอกลวงเอาเงินทองของคันธรส ขณะแรกหญิงสาวแทบคลั่งด้วยความรู้สึกโกรธแค้น แต่เสี่ยโฉดที่ไม่กลัวในการเปิดเผยความจริง เตือนให้หญิงสาวระลึกถึงเทปเหล่านั้นที่บันทึกภาพเปลือยของเธออยู่อย่าง ชัดเจนจนทุกส่วนสัด


คันธรสไม่ปัญญาปฏิเสธความต้องการของเสี่ยเซี้ยง ถึงแม้เธอจะทราบความจริง เขาก็ยังบังคับให้เธอร่วมหลับนอนอย่างเร่าร้อน และเสี่ยโฉดค่อยๆ กรอกหูหญิงสาวว่าไม่ใช่ความผิดของเธอที่เสียรู้ศักดา และพร่ำบอกเธอว่าความจริงเขาไม่ยอมร่วมมือกับศักดา แต่อีกฝ่ายขู่เข็ญเขาจะเอาเรื่องที่เขาค้าเพชรปลอมไปฟ้องตำรวจ ทำให้เขาต้องจำใจร่วมมือ และอย่างช้าๆ โดยในที่สุดก็สมปรารถนาตามความคิดของเขา เมื่อคันธรสผลักความผิดทั้งหมดไปให้ศักดา และหลังจากป้อนควยยักษ์ตะบันโพรงสวาทของสาวสวยรวยเสน่ห์ติดต่อกันเป็นระยะ เวลาร่วมอาทิตย์แทบทั้งวันและคืน คันธรสก็ตกเป็นสมบัติชิ้นงามของเขาทั้งตัวและหัวใจที่พล่านเพลินไปกับเพลิง ตัณหา


เสี่ยเซี้ยงสอดมือเข้าไปใต้ร่างงาม ขยำเต้าอวบอิ่มที่ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้กับเขา กระซิบกระซาบ


รสจ๋า ผมน่ะรักรสไปหมดทั้งตัวรู้ไหมจ๊ะ”


คันธรสหน้าแดงซ่าน พลิกตัวเป็นนอนตะแคง หันหน้าของเธอไปประกบจูบปากหนาของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน กระซิบตอบ


รสก็รักเสี่ยค่ะ...เสี่ยมอบความสุขให้รสเหลือเกิน”


เสี่ยเซี้ยงหัวเราะกระเส่า กระดกลิ้นเข้ากระตุกพันลิ้นนุ่มของคันธรสอย่างอร่อย เสียงซ๊วบ ซ๊วบ มือคว้านไปมาตรง
สองเต้าอวบนั้นลามเลียไปตามหน้าท้องเรียบ และไปหยุดตรงเนินนูนที่ฉ่ำแฉะ นิ้วหยาบของเขากระตุกไปที่ร่องหลืบที่เปิดอ้า เสียงครางซี๊ดดดดดดดด ซี๊ดดดดดดดดดด คันธรสนอนตัวสั่นระริก แอ่นโคกอูมของเธอให้เขาป่ายสัมผัสอย่างร้อนร่าน


ดี...ค่ะ...ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดดด...อี๊ยยยยย...อี๊ยยยยยยย..ซี๊ดดดดด..รสเสียว..เหลือเกิน....เสี่ยขา”


เสี่ยเซี้ยงกระหวัดรัดก่ายขาไปทาบทับร่างนุ่มนิ่ม เบียดชิดร่างเปลือยเปล่าด้วยใจทะยาน กระซิบกระซาบที่ข้างหูใส


ผมทนที่จะคิดถึงรสอยู่สภาพนี้ไม่ไหวแล้วนะ ผมอยากแต่งงานกับรสให้เร็วที่สุด”


คันธรสใบหน้าอิ่มเอมไปกับรสเสียว คราง ฮื้อออออ ฮื้ออออออ แอ่นอกอวบให้อีกฝ่ายดูดเลีย ร่างบางครางสั่นกระสัน เสี่ยโฉดโอบดูดไปที่หัวนมงามงอน ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ นิ้วก็คลึงไปตามร่องหลืบ ปั่นอารมณ์ของคันธรสที่เพิ่งถึงจุดสุดยอดไปไม่นานให้พลุ่งพล่านขึ้นมาอีก


นะครับที่รัก...แต่งงานกับผม”


เสียงที่กระซิบกระซาบราวกับมนต์ดำ คันธรสคราง ฮื้ออออออ ฮื้อออออ ก่อนที่จะอ้าปากงามครางกระเส่า


ค่ะ...ค่ะ...รสจะแต่งงานกับเสี่ย”


เสี่ยเซี้ยงหัวเราะหื่น บดปากให้รางวัลกับปากงามของหญิงสาว ก่อนที่จะเบียดตัวลงไป หัวถอกบานอ้านั้นหาตำแหน่งโพรงสวาทของสาวสวย และกดทะลวงเข้าไปอย่างสนุกอารมณ์


คันธรสสะท้านเฮือก อย่างเสียวกระสัน ร่างแอ่นสะท้านนั้นโอบกอดไปยังร่างกำยำที่ทาบเข้ามา พร้อมๆ กับเพลงกามบทใหม่ที่ดำเนินไปอย่างร้อนร่าน


...............................


ณ อีกมุมหนึ่งภายในห้องพักของฐิติพรรณ


เด็กสาวเจ้าของห้องที่ต้องแยกจากกลุ่มเพื่อนทันทีที่ได้รับสายโทรศัพท์นั้น กำลังตกอยู่ภายใต้การกอดรัดของร่างอวบอ้วนของเด็กช่างกลหน้าอูม ใบหน้างามของเธอแดงก่ำอยู่ภายใต้ริมฝีปากหนาที่บดเบียดเข้ามาอย่างกระหาย


ไม่ได้เจอทั้งวัน คิดทึ้งคิดถึง”


ชุดนักศึกษาที่ถูกปลดกระดุมออกไปจนหมดถูกเปลื้องออกไปจากร่างบางงามของฐิติ พรรณ และมือหยาบๆ ของช่างกลวัยรุ่นที่รายล้อมอยู่ต่างยื้อแย่งเข้าไปขยำขยี้อกเต่งตึงสองเต้า ที่ซ่อนทรงอยู่ภายในบราเซียร์สีเหลืองอ่อนอย่างตะกรามไม่เคยอิ่ม เสียงครางดัง ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดดด ฮื้อออออ ฮือออออ ดังจากปากเรียวงามที่ถูกปากของอ้วนบดอยู่ไม่ห่าง


อ๋องครางกระเส่า มือหยาบๆ นั้นคลายเข็มขัดที่รัดอยู่ตรงสะโพกผาย และจัดการปลดกระโปรงสีดำของพริตตี้สาวร่วงไปกองตรงพื้น มือของเด็กหนุ่มพล่านคลึงไปตรงเนินนูนของพริตตี้สาวผ่านกางเกงในสีเดียวกับ ยกทรงของเธออย่างเมามันกระหายหื่น


อื้ออออออ อื้อออออ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ...”


ปากบางงามเริ่มครางครวญหนักขึ้น เมื่อนิ้วของอ๋องลากสอดไปตามร่องหลืบของเธออย่างอร่อยนิ้ว เด็กโค่งทรุดตัวลงคุกเข่าข้างๆ ร่างงามที่ยืนบิดไหวส่ายกระสันอยู่ภายใต้การเฟ้นฟอนของแกงค์เด็กนรก และใช้ปากลากลิ้นโลมเลียไปตรงเนินนูนนั้น เสียงดัง แผล็บ แผล็บ


หอมจริง...พี่ไอซ์...สาบๆ..แบบนี้อ๋องชอบ”


เด็กโค่งร้องกระเส่า ขณะที่ฐิติพรรณตัวสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่พล่านอยู่ในร่างกาย แกงค์เด็กนรกที่รู้ดีว่าจะต้องกระตุ้นต่อมสวาทตรงส่วนไหนของสตรีเพศต่างทำ หน้าที่ของตนเองอย่างหื่นกระหาย แม้ว่าในใจนั้นฐิติพรรณจะอัดแน่นด้วยความรู้สึกคับข้องใจ แต่ความเสียวซ่านที่ถูกเด็กวัยรุ่นทั้งห้ากระตุ้นปั่น ก็ทำให้ร่างงามของเธอบิดกระตุกไหวซ่านไปตามจังหวะเฟ้นฟอนนั้น


ชิดกับมืดกระตุกยกทรงตัวน้อยออกไป แทบเป็นเวลาเดียวกับที่อ๋องครูดกางเกงในของพริตตี้สาวออกไปจากเรียวขางาม ก่อนที่ร่างเปลือยของพริตตี้สาวจะถูกลากไปบนเตียงนอน


อ๋องชิงสิทธิ์ในการทะลวงท่อนเนื้อของตัวเองเข้าไปในโพรงสวาทของเด็กสาวที่ ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำใสๆ ที่พรั่งพรูออกมาจากความเสียวซ่าน เสียงปั้บปั้บ ปั้บปั้บ เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มกระตุกเอวกระเด้าเย็ดร่างงามที่คลานอยู่บนเตียง


ชิดยื่นเอ็นอวบเข้ามาตรงหน้า ไม่ต้องพูดสักคำ ฐิติพรรณก็อ้าปากโอบท่อนเนื้อนั้นเข้าไปในปากเธอ เสียง อื้อออมมม อื้ออออม ดังครางออกมา เมื่อจังหวะกระแทกที่ด้านหลังเริ่มแรงขึ้นๆ เสียงซู๊ดดดดด ซู๊ดดดดด ดังจากปากของอ๋องกระเส่าสนุก


มืดกับอ้วนไม่ขออยู่นิ่ง ขนาบเข้ามาข้างๆ และจับมือเรียวงามของพริตตี้ให้กระทอกลำเอ็นของพวกตน ซึ่งฐิติพรรณกระทำตามอย่างว่าง่าย มืองามที่รูดไปบนท่อนเนื้อสร้างความเสียวให้กับสองวัยรุ่นจนยืนตัวสั่น ร้อง อู้ววว อู้วววว อู้ววววว


แจ็กอีกหนึ่งหัวโจก ยังไม่มีช่องจะเข้าหา ก็ทรุดนั่งลงข้างๆ ร่างงามที่กำลังแอ่นสะท้านไปกับแรง ปั้ก ปั้ก ปั้ก ที่อ๋องอัดหน้าขาใส่แก้มก้นขาวของเธอ ก่อนจะใช้มือหยาบๆ นั้นขยำไปตรงก้อนเนื้อเต่งตึงที่กระดิกไหวไปตามแรงแกว่งแห่งร่างงามนั้น อย่างมันมือ


สี่หัวโจกแกงค์นรกที่กำลังได้รับการบำเรอกามจากพริตตี้สาว ต่างคนต่างแย่งกันร้องเสียงดังกระเส่าดังกลบห้อง ขณะที่เสียงครางของฐิติพรรณเองก็ไม่ใช่เบา เพราะแรงกระแทกที่อ๋องประเคนเข้ามาในร่างของเธอนั้นมันรุนแรงขึ้นๆ จนเสียงเพียะ เพียะ เพียะ นั้นดังถี่ยิบ แก้มก้นขาวผ่องแดงปื้นเป็นผื่น อื้ออออออออ อื้อออออออ อื้อออออออ
เสียงครางที่ดังมาจากควยที่คับปากดังกระชั้นขึ้นไปตามจังหวะเร่งเร้าของควยอวบ


อูยยยยยยย...สุดยอดๆๆๆ....อูวววววว...พี่ไอซ์...ดูดแรงๆ หน่อย...โอววววว ผมจะถึงแล้ววววว”


ชิดแยกเขี้ยวครางกระเส่า ในบรรดาหัวโจกทั้งห้าของแกงค์เด็กนรกนี้ เขามักเป็นคนที่ถึงจุดสุดยอดง่ายกว่าเพื่อน


ปากงามที่โอบอมท่อนเนื้อ ก็เร่งหงกศีรษะ รูดปากไปตามลำยาวของแท่งเนื้อ พร้อมๆ กับควานลิ้นของเธอกวาดไปรอบหัวถอกที่บานอ้าอยู่ในโพรงปาก น้ำลายของหญิงสาวที่เอ่อออกมาจนเยิ้มผ่านลำควยนั้นไหลออกมาจากมุมปากไหลไป เป็นทางตามปลายคางของเธอ ขณะที่การเร่งเร้าการโอบอมนั้นสร้างความเสียวกระสันให้แก่หัวโจกใหญ่จนส่าย สะโพก คราง อู้ววววว อู้ววววว กระตุกวาบๆๆๆๆ ดูท่าใกล้ถึงที่เต็มแก่


มือของชิดขยุ้มไปที่ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มนั้น ส่งแรงดันให้ศีรษะที่สวยได้รูปนั้นพรวดเข้ามาหาหนอกควยที่กระทุ้งอัดกลับไป เป็นจังหวะเร่งร้อนถี่ยิบ เสียง อ๊ออกก อ๊ออออก อ๊ออออก น้ำตาของฐิติพรรณไหลออกมา พร้อมๆ กับอาการขย้อนไอเพราะหัวถอกนั้นกระทุ้งลึกไปถึงลำคอเธอ




อูวววววว อูวววววว....อูววววว....โอยยยยย...ถึงแล้วววว..ถึงแล้วววววว...อ๊าซซซ อ๊าวซซซซ”


พร้อมๆ กับอาการที่ควยกระตุกถี่ถี่ ชิดแผดร้องราวกับวัวถูกเชือด ความเสียวกระสันที่พลุ่งขึ้นจู่จุดเดือดก็เร่งเร้าปฏิกริยาให้น้ำเชื้อขาว ข้นพุ่งพลั่กออกไปจากหัวถอกที่บานคับปาก น้ำอุ่นๆ คาวจัดราดรดเข้าใส่ลำคอของพริตตี้สาวจนต้องสำลักไอออก แค็ก แค็ก แค็ก น้ำตาไหลพราก


ชิดครางอู้ ถอดควยออกไปจากปากงาม บ๊อบ เสียงดัง


อึ้กกกกก อึ้กกกก อึ้กกกกก แอ็กกกก อึ้ออออ แอ็กกก แอ็กกก อื้ออออ อื้ออออก


ฐิติพรรณอ้าปากหอบหายใจถี่ถี่ เสียงครางแค๊กๆ ๆ ดังติดต่อกันเพราะสำลักน้ำกามจนน้ำตาไหล


เสียงครางของเด็กสาวเริ่มอู้อี้ๆ อีกครั้งเพราะแจ็กเปลี่ยนที่ไปยึดตำแหน่งของหัวโจกและส่งท่อนเนื้อเข้าไปใน ปากงามของเธออีกครั้ง อึ้มมมมมม อึ้มมมมมม อึ้มมมมมม


อ๋องสูดปากกระเส่าลั่น ควยอวบที่ควงพล่านอยู่ในโพรงสวาท ถูกโพรงหลับที่ยังคงตอดแน่นนั้นรัดบีบเข้ามาอย่างรุนแรง จังหวะที่เด็กหนุ่มกระทอกควยนั้นรับกับจังหวะที่เด็กสาวโย้สะโพกผาย ร่อนกระแทกกลับ เสียง ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ดังต่อเนื่องยาวนาน


อูววววว อูววววว อูวววววว สุดยอดๆๆๆ...อูววววว พี่ไอซ์....อูวววววว สุดยอดจริงๆ”


อ๋องครางกระเส่าอย่างอร่อยควย ใบหน้านั้นบิดเบี้ยว มือหนักที่ขยำไปตรงเอวคอด กระตุกร่างบางงามที่คลานอยู่บนเตียงอย่างแรง เร่งเร้าจังหวะให้เด็กสาวกระแทกสะโพกรับควยของตนเองให้เร็วขึ้น แรงขึ้น


ปั๊ก ปั๊กปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก อาววววว อาวววว อาวววว อาวววววว....อูววววว...อาวววว...ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก


จังหวะเร่งถี่ยิบทำให้ร่างงามกระตุกวาบๆ เนื้อขาวๆ เต้นระริกๆ จนเห็นได้ชัดเจน อ้วนกับมืดที่ยืนแอ่นควยให้เด็กสาวรูดมือกระทอกควยก็เห็นเต็มตาต่างคนก็ต่าง ร้องกระเส่าอย่างสะใจสะอารมณ์ กระตุกสะโพกอย่างกระสันซ่าน ใช้มือกำทับไปกับมือบางของเด็กสาวเร่งให้เธอขยับกระทอกให้ไวขึ้นๆ ปากร้อง ซู่ววววว ซู่ววววว ไม่หยุด


เสียงครางกระเส่าดังต่อเนื่องยาวนาน จนกระทั่งอ๋องกัดฟันกรอดๆ ใบหน้าบิดเบี้ยว เอนร่างนาบไปตามแผ่นหลังของฐิติพรรณกระตุกเอวกระแทก ป้าป ป้าบ ป้าบ ป้าบ ป้าบ เสียงดังถี่ยิบ ศีรษะได้รูปของพริตตี้โคลงไหวไปกระแทกหนอกควยที่อัดอยู่เต็มหน้า จมูกโด่งของเด็กสาวบดไปกับขนดำเหม็นสาบของแจ็ก จนเธอแทบหายใจไม่ออก ใบหน้าแดงก่ำ ควยอวบที่เบียดอยู่ในโพรงสวาทที่กระตุกเร็วถี่ยิบ ก็ปั่นกระตุกจนอารมณ์ของพริตตี้พล่านไต่ระดับไปจนถึงจุดสุดยอด ร่างงามนั้นสั่นกระตุกวาบๆ ราวกับถูกไฟนาบ เสียงครางครวญที่ดังออกมาจากปากที่คับควยเสียง อื้อออออออออมมมม อื้อออออออออมมมมม ยาวนาน ขณะที่มือบางที่กำรอบเอ็นอวบใหญ่ก็กระทอกถี่ถี่ นิ้วเรียวงามนั้นเต็มไปด้วยน้ำเมือกขาวๆ ที่ซึมออกมาจากหัวถอกนั้นจนเยิ้มไปหมด


เสียงครางกระเส่าดังลั่นจากอ๋องที่แลเห็นพริตตี้สาวสวยถึงที่ไปก่อน ร่างแข็งเกร็งของเขาบดกระแทกลำเอ็นพรวดพราดไปมาในโพรงสวาทที่อ้าโอบนั้นจน ฟองฟ๊อดขาวกระจาย เสียงจั๊ก จั๊ก จั๊ก จั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊กก อูซซซซซ อ๊าซซซซซ อ๊าซซซซซซ


เด็กโค่งแหงนหน้าเพริด ร้องลั่นห้อง อ๊าซซซซซ พร้อมๆ กับพรวดน้ำเมือกขาวขุ่นเข้าไปในร่างกายของพริตตี้สาวอย่างรุนแรง กระแทก ปั้ป ปั้ป ปั้ป เบียดหัวถอกไปกับโพรงหลืบที่นุ่มแน่นนั้นพยายามรีดเค้นน้ำกามออกไปจนหมดทุก หยด แล้วถอดควยออกมาดังบ๊วบ เซตึงๆ ถอยออกไป ใบหน้านั้นบิดเบี้ยวกระเส่า ร้อง อู้ววว อู้ววว ไม่ขาดปาก ขณะที่อ้วนที่กำลังได้ที่ รีบผละไปเอาหัวถอกบานร่านั้นกระทอกเข้าไปในโพรงสวาทที่น้ำกามเอ่อเกรอะกรัง นั้นอย่างรุนเรง ป้าบ ใหญ่ ฐิติพรรณที่คลานอยู่บนเตียงสะท้านเฮือก คราง อึ้มมมมมมม อี้มมมมมม


ขณะที่มืดร้องกระเส่าตามมาติดๆ มือของเด็กหนุ่มกระตุกควยตัวเองถี่ถี่ บิดสะโพกกระฉูดน้ำกามขาวข้นราดลงไปบนบนแผ่นหลังขาวเปลือยของพริตตี้สาว ถูไถถอกบานคล้ำนั้นไปตามเนื้อเนียนที่กลางหลัง บีบรีดน้ำกาม ปรี๊ด ปรี๊ด ไปจนหมด แล้วโผเผ ถอยห่างไปนั่งแปะอย่างเหนื่อยอ่อน


อ้วนอ้าปากหอบหายใจถี่ถี่ ใบหน้าอวบอูมเป็นมันเยิ้ม เด็กหนุ่มร่างอ้วนแหงนหน้าขึ้นเพดาน ร้องซู่ววววว ซู่ววววว มือหนาบดไปที่เอวคอดกระตุกให้พริตตี้สาวกระแทกสะโพกสวนรับกลับมา เสียง ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ ดังถี่ยิบ จนกระทั่งเด็กหนุ่มกระตุกควยเป็นจังหวะราวกับลูกสูบและหลั่งน้ำเชื้อระลอก ใหม่ราดรดโพรงสวาทของเด็กสาว อูวววววววววว อูวววววววว ...โอยยยยย...สุดยอด...สุดยอดดด....อูวววว


ร่างอ้วนถอยห่างไป แจ็กที่พิสวาทโพรงสวาทมากกว่าโพรงปากของสาวสวย ก็รีบถอดควยที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของฐิติพรรณออกมา แล้ววิ่งเข้าไปเสยลำเอ็นของตัวเองกระแทกเข้าไปในโพรงหลืบของเด็กสาวอย่างเมา มัน เสียง ป๊าป ป๊าบ ป๊าบ ดังต่อเนื่อง พร้อมๆ กับเสียงครางของฐิติพรรณที่คราวนี้ดังฟังชัดเพราะไม่มีท่อนเนื้อบังอยู่ใน ปาก อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ...อ๊ายยยย อ๊ายยยย อ๊ายยย...อ๊ะ อ๊ะ


จังหวะกระเด้ารุนแรงต่อเนื่องนั้นยาวนานกว่าสิบนาทีนั้นทำให้ฐิติพรรณอ่อน เปียกฟุบไปกับพื้นเตียง ท่อนอวบแข็งของแจ็กส่งเธอถึงจุดสุดยอดไปอีกครั้ง จนแขนอ่อนเปลี้ยจนพยุงตัวไม่อยู่อีก ร่างบางนั้นฟุบหอบ แต่ขณะที่สะโพกนั้นถูกจับให้เด้งรับการกระเด้าสวาทเสียง ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ไม่มีหยุดนิ่ง จนกระทั่งแจ็กแผดร้องราวกับวัวถูกเชือด ระเบิดน้ำกามเข้าไปในอีกระลอก อ๊าซซซซซซซ อ๊าววววววว.....


แจ็กถอยไปอย่างหมดแรง ร่างงามของฐิติพรรณก็ทรุดคว่ำเหยียดไปกับเตียงอย่างอ่อนระโหย โพรงสวาทที่ขมิบถี่ถี่ เป็นจังหวะ ขับน้ำกามที่ผนังโพรงของเธอไม่สามารถรับไว้ได้หมด ไหลเยิ้มย้อยออกมาเป็นทาง เด็กสาวครางออกมาอย่างอ่อนล้า ร่างบางพยายามดิ้นรน เมื่อรับรู้ว่าใครบางคนทาบมาที่กลางหลัง และจ่อควยมาที่โพรงหลืบของเธออีกครั้ง


พี่..พี่เหนื่อย...พอ..ก่อน..เถอะ...”


พริตตี้สาวครางออกมาเสียบกระท่อนกระแท่น แต่เสียงที่ได้รับมาก็คือเสียงหัวเราะกระเส่า และแรงเบียดกระแทกที่ทะลวงเข้ามาในร่างกายของเธออย่างกระหายหิว


ฐิติพรรณครางออกมาอย่างเสียวซ่านระคนเจ็บปวดระบมตรงโพรงสวาทที่ถูกทะลวง อย่างต่อเนื่อง ร่างที่ป้อแป้เต็มที่ถูกจับมาอยู่ในท่าคลานอีกครั้ง พร้อมๆ กับท่อนเนื้อของใครบางคนที่ยัดเข้ามาในปากงามของเธออีก


เกมกามบทใหม่ก็เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงกระเส่าครางและเสียงหัวเราะหื่นดังผสานกันอีกคำรบ


นาฬิกาที่ห้องบอกตีสี่แล้ว


ฐิติพรรณยกมือปาดน้ำตาที่ซึมออกมาจากหางตา ขณะที่เธอนอนเปลือยอยู่บนเตียง โดยที่ชิดที่เพิ่งพรวดน้ำกามเข้าใส่ร่างของเธอ ทิ้งตัวนอนคว่ำ ทาบตัวไปร่างงามที่นอนหงายอยู่บนเตียง มือหยาบๆ ขยำไปที่ทรวงอกเต่งตึงงามงอนอย่างสะใจ ก่อนที่อาการเค้นคลึงนั้นค่อยๆ ช้าลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็นิ่งไป พร้อมๆ กลับเสียงกรนครืดคราด ม่อยหลับไปบนร่างของพริตตี้สาวอย่างสบายอารมณ์ เสียงสนั่นร่วมไปกับพรรคพวกอีกสี่คนที่หมดแรงหลับไปก่อนหน้าแล้ว


พริตตี้สาวผลักร่างผอมเกร็งของชิดออกไปจากตัวอย่างสะอิดสะเอียน ก่อนจะผุดลุกขึ้นเดินโผเผเข้าไปห้องน้ำ อาบน้ำชำระคราบน้ำกามที่เปรอะอยู่ทั่วตัว


หวนนึกไปถึงพี่ธนาที่เธอหลงใหล ชายหนุ่มที่ไม่เคยหันมามองเธอ เด็กสาวก็สะอื้นออกมาอย่างเจ็บช้ำ


ผู้ชายอย่างธนาต่างหากที่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเธอ ไม่ใช่สวะห้าตัวนั้นที่เวียนเข้ามาระบายอารมณ์ใคร่กับตัวของเธอไม่ขาด


ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคั่งแค้น นึกถึงเมื่อเธอกลับมาถึงที่พักหลังจากแยกย้ายกับเพื่อนตอนสี่ทุ่ม ก็พบชิดกับพวกรออยู่ที่ชั้นล่างของคอนโดแล้ว


ใบหน้าของฐิติพรรณขาวซีด พยายามไม่มองหน้าของยามที่เฝ้าอยู่ข้างล่างที่มองดูเธอนำวัยรุ่นห้าคนขึ้นไปบนห้องพักด้วยสายตาแปลกๆ


จากเวลานั้นจนถึงตอนนี้กว่าที่พวกนั้นจะหลับใหลไปอย่างสบายอารมณ์ เรือนร่างของเธอถูกพวกมันเฟ้นฟอนตักตวงจนปวดระบมไปหมด


ขณะที่เด็กสาวอาบน้ำ พยายามใช้สบู่ขัดถูไปทั่วตัวเพื่อล้างคราบคาวอันน่าขยะแขยง ภาพใบหน้าของอรนุชปรากฏขึ้นมาในห้วงคำนึง


นังอรนุช...แก..เป็นเพราะแกคนเดียว


สมองของเด็กสาวที่ลั่นไปด้วยความริษยาเร่าร้อน และเกรี้ยวกราดขบจนเกิดประกายวาบขึ้นมา ดวงตาสวยคู่นั้นที่ยังมีน้ำตาไหลรินปนกับสายน้ำที่ราดรดมาจากฝักบัวนั้น เปล่งประกายสาดส่องเงาทมึนอันแดงก่ำที่วูบขึ้นมาจนแลดูน่าสะพรึงกลัว


--

ไม่มีความคิดเห็น: