เชิด
ยิ้มกริ่มขณะนั่งนับเงินฟ่อนใหญ่ในมือ
ปากก็ถามน้องชายที่นำเงินมาส่งให้กับตนเอง
ในสถานที่ที่เอเยนต์ค้าย้านรกกำลังมาซุ่มซ่อนอยู่
เพราหลบหนีจากการไล่ล่าของตำรวจ
“ช่วงนี้เป็นไงบ้างวะ...ไอ้ชิด..
ถูกกวนบ่อยไหม…ที่นี่ก็ชักไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่
กูอาจจะต้องย้ายที่กบดานอีกครั้ง...พวกชาวบ้านมันชักจะเริ่มมองแปลกๆ
แล้ว”
เด็กหนุ่มหัวโจกแกงค์เด็กนรกหัวเราะ
ฮิ ฮิ กล่าวอย่างอวดโอ่
“ก็มีบ้าง
แต่มืออย่างไอ้ชิดแล้ว
สบายมากน่า...”
“เออ
อย่าทำกระเร่อกะร่าให้ได้พวกตำรวจมาตามกลิ่นได้แล้วกัน...”
เอเยนต์ค้ายานรกนับเงินเสร็จ
ก็ยัดเข้าไปใส่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน
ก่อนจะถามว่า
“ของใกล้หมดแล้วหรือยังวะ?”
“ก็พออยู่ได้อีกเดือนมั้ง…พี่”
เชิดผงกศีรษะ
กล่าวว่า
“เออ
แล้วจะให้คนเอาของไปให้”
ชิดหมดธุระกับพี่ชายก็ผุดลุกขึ้น
เอเยนต์ค้ายานรกนึกอะไรขึ้นได้รีบเรียก
“เฮ้ย...เดี๋ยว...ไอ้ชิด...วันก่อนกูเจอไอ้มืด...มันเล่าว่าพวกมึงกำลังคั่วเด็กนักศึกษาคนหนึ่งอยู่หรือ?”
ชิดหัวเราะฮิฮิ
แลบลิ้นแผล็บๆ
เอเยนต์ค้ายานรกตอนนั้นมีสีหน้าเคร่งขึ้น
ยกนิ้วชี้หน้า
“ไอ้เหี้ยไม่ต้องทำหน้าหื่น...มึงจะเย็ดใครกูไม่สนใจ...แต่คนนี้กูได้ยินไม่
ใช่เป็นแบบอีกระหรี่เด็กพาณิชย์ใจแตกที่มั่วยาจนต้องแบหีให้มึงเย็ด..ทำอะไร
ระวังหน่อยนะโว้ย...กูขอเตือน...อย่ากระสันให้มากจนเจอตอ...ดูดีๆ
เชียวนะมึง...อย่าสักแต่ว่าเอาแค่อร่อยควย..แต่ทำให้เดือดร้อน...พอเรื่อง
มันบานปลายกูต้องลำบากเชียวนะ”
“น่าพี่เชิด...ผมรู้น่า”
ชิดรับคำอย่างขอไปที
แต่ในใจนั้นกระสันซ่านไปกับแผนการณ์ที่ถูกวางเอาไว้ให้สำหรับของเล่นชิ้น
ใหม่ที่กำลังคอยให้ตนเองกับพวกได้จัดการเป็นอาหารควย....
ใบหน้าเสี้ยมตอบที่หันเดินออกไปจากสถานที่นั้นแย้มยิ้มอย่างกระหายหื่น
เมื่อหวนนึกไปถึงรูปของนักศึกษาที่ฐิติพรรณโชว์ให้ดู
ใบหน้าสวยใสนั้นราวกับนางฟ้า
ตัวเล็กๆ บางๆ ในชุดนักศึกษา
…..
น้องชายของเอเยนต์ค้ายานรกจินตนาการนึกถึงภาพเวลาที่ตนเองกับพวกได้เคล้น
คลึงไปทั่วร่างเล็กๆ
ได้กระทุ้งควยเข้าไปในโพรงหีที่คงจะตีบๆ
เล็กๆ รับกับร่างกายบางๆ
นั้น อย่างกระสันซ่าน ยิ่งคิด
ยิ่งจิตนาการ
แล้วก็ยิ่งขนลุกด้วยความกระหายหื่น
ท่อนกายของหัวโจกแกงค์นรกในเวลานั้นเต่งตึงตัวขึ้นจนนูนคับเป้า
ส่วนเอเยนต์ค้ายานรก
พอน้องชายคล้อยหลังไปไม่ทันไรก็ยกมือถือขึ้นต่อสาย
พักหนึ่งพอได้ยินเสียงรับ
เชิดก็กรอกเสียงลงไปอย่างนอบน้อม
“พ่อเลี้ยงหรือครับ...เราคงต้องขนสินค้ากันอีกรอบแล้วครับ”
.................
อารมณ์ของฐิติพรรณนั้นกรุ่นด้วยความหงุดหงิดเจ็บแค้นมากพออยู่แล้ว
ที่สายตาของเธอมองเห็นเงาหลังไกลๆ
ของชายหนุ่มที่เธอหลงใหล
กำลังเดินอยู่ข้างๆ
เด็กสาวร่างเล็กบาง
ที่อาการแสดงออกของชายหนุ่มนั้นไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่มีต่อสตรีข้างกาย
เลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าความรู้สึกเร่าร้อนนั้นยิ่งปะทุสูงขึ้นราวกับถูกราดด้วยน้ำมันเข้าไป
ในกองไฟที่ผลาญอยู่ในใจของเธอ
เมื่อนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านสวนไปนั้นเปรยเสียงเยาะๆ
มา
“คู่นั้นเขาสมกันดีนะ….”
พริตตี้สาวหันไปมองตาขุ่น
ก็พบเห็นรุจิราที่ยืนยิ้มเชิดหน้ามองมาอยู่แล้ว
ตอนนี้เด็กสาวไม่ต้องอาศัยไม้ช่วยเดินแล้วแต่ก็ยังเดินขัดๆ
อยู่ไม่เป็นปกติดี
ในเวลานั้นใบหน้าสวยขาวผ่องนั้นมีร่องรอยแห่งความสะใจ
ขณะที่หันไปทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับเพื่อนในกลุ่ม
“รุก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ...พี่ธนาเขารู้ว่าอะไรคือเพชรแท้และอะไรคือพลอยเทียม
ที่อาศัยแค่แต่งตัวยั่วๆ
คอยจับผู้ชายรวยๆ”
พรรคพวกร่วมกลุ่มหัวเราะครืน
ขณะที่ศจีที่เดินมาข้างๆ
เพื่อนสาว ฉุนกึก ฮึ่มๆ ในลำคอ
“ตบซะดีไม๊
นังลูกเจ๊กขาเป๋นี่...”
ประกายตาของฐิติพรรณนั้นพลุ่งพล่านระริกขณะจ้องมองไปยังรุจิรา
ความจริงเธอไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ
อยู่แล้ว แต่ในบริเวณนั้นมีคนพลุกพล่าน
ทั้งนักศึกษารวมไปถึงคณาจารย์
ถ้าทะเลาะเบาะแว้งกันไปจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ
เรื่องจะไปกันใหญ่ จึงได้แต่ข่มใจ
ดึงมือเพื่อนเอาไว้
“อย่าเลย
แอ๋ว...ช่างเถอะ...”
ศจีขบเคี้ยวฟันอย่างโมโห
ขณะที่เดินผละมากับฐิติพรรณ
โดยมีเสียงหัวเราะแหลมๆ
ของรุจิรากับพวกไล่หลังมา
“นี่ไอซ์...แกจะเฉยอยู่อย่างนี้เหรอ..ฉันน่ะ..หมั่นไส้นังลูกเจ๊กหน้าจืดจนอยากจะเข้าไปตบให้คว่ำ...”
“แล้วแกไปตบมันจะได้อะไรล่ะ...ก็แค่สะใจเท่านั้นเหรอ..”
ฐิติพรรณกล่าวเสียงเรียบๆ
เพื่อนได้ฟังแล้วจึงหันมามองอย่างแปลกใจ
“ฉันรู้สึกว่า...กลับจากหัวหินคราวนี้
แกใจเย็นขึ้นเยอะนะ นังไอซ์”
พริตตี้สาวเหยียดยิ้มมุมปากอย่างขมขื่น...ใครเล่าจะรู้....ถ้าจะนำไปเปรียบ
เทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอนั้น
คำพูดเสียดสีของรุจิรามันคงไม่ต่างอะไรกับสายลมที่พัดมากระทบตัวอย่างเบาบาง
...หาความสลักสำคัญอะไรไม่ได้เลย
ตอนนั้นศจีหันไปยังทิศทางที่ธนาเดินอยู่ลิบๆ
กับอรนุช แล้วเน้นเสียงกล่าวอย่างแค้นแทนเพื่อน
“อย่าบอกฉันว่าแกจะยอมเป็นเบี้ยล่างให้ยัยชะนีนุชนั่นไปตลอดนะ...นังไอซ์”
พริตตี้สาวกล่าวเสียงเย็นชา
“วางใจเถอะ..แอ๋ว..ถึงทีฉันเอาคืนบ้าง...ใครที่ทำให้ฉันเจ็บ...ฉันจะเอาคืน
ด้วยวิธีที่แสบสันต์...แสบกว่าตบหน้าเป็นร้อยเป็นพันเท่า...”
ดวงตาของเด็กสาวสวยนั้นเป็นประกายวูบหนึ่ง
วูบนั้นที่เพื่อนสาวมองเห็นแล้วอดที่จะขนลุกไม่ได้
.................
อาคารประชุมนานาชาติที่ใหญ่นั้นแคบไปถนัดตา
เมื่อมีการตั้ง Booth
แสดงเกี่ยวกับงานด้านท่องเที่ยวจนเต็มพื้นที่
และมีผู้คนทั้งคนทั่วไปและนักธุรกิจหลั่งไหลเข้ามาชมงานกันอย่างเนืองแน่น
ในบริเวณงานอันใหญ่โตนั้นยังแบ่งพื้นที่ซอยย่อยเป็นส่วนสัดสำหรับการเจรจา
ธุรกิจการค้า
ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานทุกรายจะได้รับพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นล็อกๆ
ไม่ปะปนกัน
ภายในห้องหนึ่ง
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับจัดสรรของ
Booth ในเครือคัทลียา
โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
ซึ่งเป็นเครือโรงแรมชั้นนำอันดับต้นๆ
ของประเทศไทยที่ได้รับการจับตามองอย่างสูงจากความสำเร็จ
ภายใต้การนำของประธานกรรมการบริหารผู้เป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงเลื่องลือใน
ความโดดเด่นเป็นเอกทั้งในรูปสมบัติและคุณสมบัติอย่างหาตัวจับยากในบรรดานัก
ธุรกิจเพศแม่ด้วยกัน
ในเวลานั้นอรชายิ้มพลางยื่นมือเรียวงามของเธอให้คู่ค้านักธุรกิจด้านการจัด
ทัวร์ท่องเที่ยวของประเทศออสเตรียจับ
กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงหวานนุ่มภายใต้สำเนียงภาษาอันไพเราะ
“ขอบคุณเป็นอย่างมากค่ะ...ที่ให้ท่านเกียรติเราได้มีโอการบริการ”
ซึ่งอีกฝ่ายก็กล่าวชมเชยเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอีกหลายคำก่อนจะพากันกลับไป
หญิงสาวผ่อนลมหายใจเบาๆ
เอนตัวลงพิงพนักอย่างผ่อนคลายนิดหนึ่ง
หลังจากเธอนั่งหลังตรงเป็นสง่าสนทนาความด้านความร่วมมือในการจัดรายการท่อง
เที่ยวกับคู่ค้าที่เพิ่งจากไปนั้นนานกว่าชั่วโมง
ขณะที่ชายกลางคนที่นั่งข้างๆ
อรนุชผู้ซึ่งทำงานกับบิดาของเธอมานาน
มองมายังหญิงสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ
ด้วยสายตาชื่นชม แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า
“ได้ยอดนักท่องเที่ยวจากกรุ๊ปนี้
โรงแรมของเราที่หัวหินและเชียงใหม่คงทำยอดได้ตามเป้าแน่นอน”
อรชาหันมายิ้มบางๆ
กล่าวว่า
“ค่ะ
อาชัย...เรื่องเป้านักท่องเที่ยวอรคิดว่าเรามาคราวนี้ได้ผลตามคาด...หรือดีกว่าคาดด้วยซ้ำ
แต่นอกจากนั้นนะคะ...”
หญิงสาวหยุดไปเล็กน้อย
ยกแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนจะว่าต่อ
“มาคราวนี้หลังจากอรได้มีโอกาสคุยกับหลายๆ
คน...ดูความต้องการของตลาด...อรคิดว่าบางทีเราน่าจะพยายามเปิดตลาดของเราใน
ภาคของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้มากขึ้นกว่านี้...กลุ่มเป้าหมายมีเยอะพอ
สมควร…”
ชัยชาญผงกศีรษะเห็นพ้องด้วย
อรชากล่าวเสริมต่อไปว่า
“กลับไปคราวนี้
อรจะเซ็ททีมขึ้นสักทีมหนึ่งไปสำรวจ
location เหมาะๆ
ที่มีความสมบูรณ์ในทางธรรมชาติ...และเหมาะสำหรับก่อสร้างทำโรงแรม…”
ผู้สูงวัยกว่าหัวเราะเบาๆ
น้ำเสียงชื่นชมนั้นเปิดเผย
“อาเชื่อฝีมือและสายตาของหนูอร...ทุกอย่างต้องสำเร็จได้ด้วยดี”
หญิงสาวยิ้มอ่อนบาง
หันมากล่าวเสียงนุ่มนวล
“ทุกคนช่วยกันต่างหากล่ะคะ..ที่ทำให้งานสำเร็จ..ไม่ใช่เพราะอรคนเดียว”
จากนั้นอรชาก็ลดเสียงให้เบาลงนิดหนึ่ง
ซักถามผู้ร่วมงานที่เธอไว้วางใจ
“ที่เราให้คนไปสืบ..เครือปาร์มบีชเป็นยังไงบ้างคะ”
ชัยชาญยิ้มนิดหนึ่ง
กล่าวว่า
“ทางนั้นสายป่านไม่ดี...เจอข้อต่อรองแบบจองระยะยาวก็รับไม่ไหว...เท่าที่รู้ๆ
ลูกค้าเก่าของเขาเบนเข็มมาใช้บริการของเราเกือบครึ่ง”
หยุดไปเล็กน้อย
ผู้สูงวัยกว่าก็กระแอมเบาๆ
“ทุกอย่างเข้าทางของเรา...เป็นผลดีต่อการเจรจาดำเนินการเรื่องควบกิจการ..”
อรชาผงกศีรษะ
ดวงตาที่สวยหวานแต่มีประกายเข้มแข็งของนักธุรกิจนั้นมีร่องรอยครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง
………………...
เสียงหัวเราะต่อกระซิกเจี๊ยวจ๊าวที่ดังจอๆแจๆ
กันในห้องประชุมเล็กนั้นกำลังถกกันอยู่ในหัวข้อของการตระเตรียมตัดชุดเพื่อ
ขึ้นประกวดของอรนุช
โดยที่ช่างเสื้อชายชื่อดังผู้มีความเป็นหญิงมากกว่าชายในตัวกับพี่แต๋วยืน
ปวดหัวกับเสียงกิ๊วก๊าวของเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มของเด็กสาวที่ยืนเป็นหุ่นหน้า
เมื่อยอยู่ หลังๆ
นี้เพื่อนร่วมก๊วนของอรนุชผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาเชียร์เพื่อนรักของ
ตัวเองกันเป็นการใหญ่สุดแล้วแต่ใครจะว่างในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน
ในเวลานั้นช่างเสื้อหน้าขาวกระตุ้งกระติ้งกำกับให้อรนุชหันซ้ายหันขวาเพื่อดูรูปร่างส่วนสัด
ปากว่าฉอดๆ
“แหม...น้องนุชนี่ซ่อนรูปนะ
เห็นทีแรกนึกว่าบางๆ เรียบๆ
..แต่ที่ไหนได้...ว้าว..มาดูดีๆ
ใกล้ๆ
แล้ว...พี่ม้าบอกได้คำเดียวเลยว่า..อื๋มจ๊ะ...เริ่ดมาก...อย่างนี้ต้องแต่ง
เน้นๆ เว้าๆ หน่อยจะได้ดูเซ็กซี่ขึ้น”
เสียงเพื่อนๆ
ของอรนุชในบริเวณนั้นร้อง
ฮิ้ววววววววว กันอย่างพอใจ
พร้อมส่งเสียงหัวเราะคิกคักๆ
ขณะที่เจ้าของเรือนร่างที่ถูกวิจาร์ณหน้าแดงระเรื่อ
บ่นพึมพำอุบอิบ
และชายหนุ่มหน้าขาวสะอาดที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ
ไม่สนุกด้วย
ธนาทำหน้าตึง
กล่าวเสียงแข็งกระด้าง
“คุณม้าครับ....ในฐานะผมเป็นผู้สนับสนุนการประกวด
เสื้อผ้าที่คุณม้าออกแบบ
จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผมก่อนนะครับ...แต่ขอบอกเลย...ถ้าโป๊ไปผมไม่
อนุญาต”
อรนุชที่ยืนหน้ายู่ยี่อยู่คราวนี้เห็นดีด้วยกับการเข้ามายุ่งย่ามของชาย
หนุ่มเป็นครั้งแรก
จึงมองมายังน้องชายของพี่เขยอย่างพอใจ
ขณะที่ช่างเสื้อคนดังหันมาค้อนปะหลับปะเหลือก
เบ้ปากกล่าว
“นี่มันงานประกวดความงามนะค๊า...ไม่ใช่งานประกวดนางงามในวรรณคดี...คุณธนาขา
...อีกอย่าง..คนอย่างม้า...ตีสดีไซน์คนนี้...ไม่ใช่พวกไม่มีศิลปะ...จะได้
แต่งตัวน้องนุชแบบจะเอาไปล่อเสือล่อตะเข้หรอกค่า...วางใจเหอะ”
พรรคพวกของอรนุชหัวเราะคิกๆ
คักๆ อย่างสนุก
รวมไปถึงอรอุษาด้วยที่ยืนปิดปากยิ้มแย้มอยู่ข้างๆ
โดยน้องสาวคนเล็กของอรนุชผู้ซึ่งอ่อนอวุโสที่สุดของบรรดาคนที่ยืนอยู่
ณ ที่นั้น ตกเป็นเป้าให้บรรดาเพื่อนๆ
ของพี่สาวรุมเข้ามาชมราวกับเป็นตุ๊กตาแสนสวยอยู่พักใหญ่
สร้างความเขินอายให้กับเด็กสาวจนหน้าแดง
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ซาลงไปอย่างฉับพลัน
เมื่อสาวๆ ทั้งกลุ่มมองเห็นผู้ที่กำลังก้าวเข้ามาใหม่
ธนาเห็นเด็กสาวๆ
ทั้งกลุ่มนั้นหันไปยังที่ประตู
ก็เลยหันไปบ้าง
แต่เนื่องจากชายหนุ่มไม่ได้อยู่ร่วมกับเด็กสาวทั้งหมดอย่างใกล้ชิดพอที่จะ
รู้ถึงบรรยากาศมึนตึงที่เกิดขึ้น
จึงทักทายไปอย่างปกติด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
“อ้าว...น้องไอซ์เองเหรอ...”
ฐิติพรรณเดินยิ้มเข้ามาเหมือนไม่มีอะไรเกิดชึ้นระหว่างตัวเธอกับอรนุช
เธอหันไปยิ้มหวานให้กับธนาก่อน
แล้วก็เดินไปหาเด็กสาวร่างบางที่ยืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม
“ไอซ์ยังไม่ได้มาแสดงความยินดีกับนุชเลย..เพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดไม่นาน
..มัวแต่ยุ่งๆ
อยู่...วันนี้เลยถือโอกาสมาขอแสดงความยินดี...และบอกจากใจจริงเลยนะว่านุช
น่ะเหมาะมาก”
พริตตี้สาวตอบเสียงหวาน
มือหนึ่งเอื้อมไปกุมมือของอรนุชเอาไว้
อย่างสนิทสนมรักใคร่ ซึ่งเพื่อนๆ
ของอรนุชได้มองตากันอย่างงงๆ
ขณะที่ธนาไม่รู้เรื่องอะไร
เป็นคนเดียวที่หัวเราะออกมาได้
ยิ้มแย้มกว้างขวางอย่างเห็นด้วย
“เอ่ออ...นุช...นุช..ทีแรกนึกว่าไอซ์จะ..จะ..”
อรนุชกล่าวอึกๆ
อักๆ ฐิติพรรณหัวเราะคิก
กล่าวเสียงหวาน
“โธ่
ไอซ์รู้ดีน่ะว่า...นุชนั้นเหมาะสมกว่าไอซ์มาก...ใช่ไหมคะ...พี่แต๋ว”
ตอนหลังเธอหันมาถามกรองกนกด้วยใบหน้ายิ้มๆ
ซึ่งพี่แต๋วก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรกับความขัดแย้งของพวกเด็กสาวก็ยิ้มรับ
กล่าวยิ้มๆ
“ใช่...ความจริงพี่น่ะชวนน้องนุชตั้งแต่เริ่มแรกแล้วล่ะ
แต่น้องนุชน่ะ...ดื๊อออ...ดื้อออ...พี่ก็เลยได้แต่ถอดใจ...ตอนนั้นพอดีน้อง
รุแกยอมประกวด...แต่ไปๆมาๆ
ก็เกิดเรื่องอุบัติเหตุ...เหมือนโชคชะตาเข้าข้างพี่เลยนะ...ในที่สุดก็ได้
น้องนุชมาเป็นตัวแทนจนได้...”
พริตตี้สาวหันมายังอรนุชแล้วยิ้มให้อย่างน่ารัก
“ไอซ์ขอเป็นกำลังใจอีกเสียงนะ...จะเชียร์นุชสุดใจเลย...”
อรนุชเด็กสาวผู้ไม่มีมารยา
แม้เมื่อก่อนเธอไม่ค่อยสนิทกับฐิติพรรณนัก
แต่โดยเนื้อแท้เด็กสาวร่างเล็กไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับฐิติพรรณเลย
เป็นเพราะอีกฝ่ายดูเหมือนจะทำตัวห่างเหินไปเองต่างหาก
ซึ่งอรนุชเองก็หวั่นๆ
อยู่ในใจอยู่ว่าตัวเองไปทำอะไรให้เพื่อนไม่พอใจหรือเปล่า
ดังนั้นตอนนี้เมื่อเห็นการแสดงออกของฐิติพรรณ
เธอจึงยิ้มให้อย่างอ่อนหวานระคนโล่งใจที่ตัวเธอไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการหัก
หาญน้ำใจของเพื่อนร่วมคณะ
“ขอบใจจ้ะ..ไอซ์..”
เด็กสาวร่างบางยิ้มให้
ซึ่งพริตตี้สาวก็ยิ้มตอบ
จากนั้นก็หันไปยังธนา
ที่ยืนมองมาอยู่แล้วด้วยสายตาที่แสดงความพออกพอใจในการแสดงออกของฐิติพรรณ
“เรื่องงานที่พี่ธนาพูดถึง...ตกลงยังไงคะ”
ธนากล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานเอาใจพริตตี้สาวเป็นพิเศษกว่าเคย
“พี่โทรไปบอกเพื่อนแล้ว
มันดีใจมากบอกว่าขอนัดให้น้องไอซ์ไปคุยรายละเอียดด้วย”
ฐิติพรรณยิ้มหวาน
กล่าวเบาๆ
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ธนาจนเกินไป
พี่ธนาไปเป็นเพื่อนไอซ์ด้วยได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา
ทางหนึ่งกำลังพึงพอใจในการกระทำของพริตตี้สาวตรงหน้า
อีกทางหนึ่งต้องการแสดงให้เด็กสาวที่เขาพึงตาต้องใจเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ที่
สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้
จึงรีบรับปากอย่างดี
“แน่นอน..แน่นอนจ้ะ..ไม่เป็นการรบกวนอะไรพี่เลย”
พริตตี้สาวยิ้มหวานให้ชายหนุ่มอีกรอบ
ก่อนจะหันไปทางอรนุช
“ไอซ์มีธุระ
ขอตัวไปก่อนนะ แล้วจะขอมาแวะดูนุชใหม่บ่อยๆ
ทีหลังนะจ๊ะ...”
เด็กสาวสวยพูดจบก็หันกายเดินจากไป
ท่ามกลางเสียงซุบซิบเบาๆ
จากกลุ่มเพื่อนของอรนุชที่อยู่ในที่นั้น
โดยที่ทั้งหมดไม่มีโอกาสแลเห็น
รวมทั้งอรนุชที่มองตามมาเบื้องหลังของพริตตี้สาว
ดวงตาของฐิติพรรณนั้นกำลังเปล่งประกายวาวโรจน์
...................
คมศรนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องอาหารบริเวณงานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่
ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับประเด็นโอกาสในการทำธุรกิจการค้าในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ในปัจจุบัน
ซึ่งผู้ที่เข้าสัมมนามีบรรดานักธุรกิจชั้นนำในหลากหลายสาขา
นัยน์ตาประกายเหล็กของชายหนุ่มตอนนั้นมองไปที่โต๊ะตรงมุมหนึ่ง
ขณะนั้นมีชายสามคนกำลังนั่งอยู่ร่วมโต๊ะกัน
สองในสามเป็นชายหนุ่มอีกคนเป็นชายกลางคน
บรรยากาศในโต๊ะตัวนั้นดูแต่ไกลก็มองเห็นว่าไม่สู้ดี
ชายหนุ่มแลเห็นอาการโกรธที่เกิดขึ้นในตัวของชายกลางคนร่างอ้วนซึ่งเขาคุ้น
หน้าดีอยู่
ชายหนุ่มร่วมโต๊ะทั้งสองนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนหน้าตาดี
มีโครงหน้าที่คล้ายคลึงกันพอมองออกว่าเป็นพี่น้อง
ซึ่งคนที่ดูมีอายุมากกว่ากำลังพยายามอธิบายอย่างใจเย็น
ขณะที่คนน้องดูเหมือนจะมีอารมณ์วู่วามกว่าคนพี่
มีใบหน้าฉุนๆ
เวลาทุกคนที่นั่งตรงข้ามนั้นชักสีหน้าหงุดหงิดใส่
และเสียงพูดคุยหรือจะเรียกว่าเถียงทะเลาะนั้นมากกว่าดังขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งคมศรที่นั่งอยู่ห่างไปประมาณห้าหกโต๊ะยังได้ยินแว่วๆ
“ผมเสียใจ...เสี่ย...เราเสียเวลาเรื่องนี้มามากพอแล้ว...ผมยืนยันคำเดิม..กฏก็เป็นกฏ”
ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าเป็นคนกล่าวคำพูดนั้น
ชายกลางคนร่างอ้วนใบหน้าฉุไปด้วยไขมันนั้น
เบิกตาพอง กล่าวเสียงเครียด
ตวาดลั่นโดยไม่เกรงว่าใครจะได้ยิน
“เราจะได้เห็นกัน...อย่านึกนะว่ากูจะยอมแค่นี้...”
กล่าวจบร่างอ้วนฉุก็ผลุนผลันลุกขึ้น
เดินสวบๆ ผ่านมาทางคมศร
ที่ยกแก้วกาแฟชูขึ้นจิบพลางหลิ่วตาให้อีกฝ่าย
กล่าวยิ้มๆ
“มีอะไรหรือเสี่ยทอง...ทำไมดูหงุดหงิดจังครับ”
ท่าทางสบายๆ
แต่ร่างใหญ่ที่นั่งอยู่นั้นก็มีบุคลิกภาพบางอย่างที่น่าเกรงขาม
ทำให้เสี่ยอ้วนที่แม้กำลังเต็มไปด้วยโทสะ
ยังต้องพยายามฝืนยิ้มทัก
“อ้อ...คุณสิงห์...มาด้วยหรือครับ”
คมศรหัวเราะระรื่น
ลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือไปแตะไหล่เป็นเชิงทักทาย
แล้วว่า
“ไม่ลองนั่งคุยกันหน่อยหรือครับ
มีอะไรไม่สบายใจ ผมอาจจะช่วยได้นา...”
เสี่ยอ้วนลังเลใจ
ตอนนั้นชายหนุ่มสองพี่น้องที่เดินตามหลังมาติดๆ
แซงผ่านเลยไป โดยมีเสี่ยร่างอ้วนมองตาม
และทำท่าถุยน้ำลายไล่หลังให้
ก่อนจะทรุดตัวลงตรงกันข้ามกับคมศร
ชาหนุ่มใบหน้าคร้ามคมกระดิกนิ้วเรียกบริกรมา
และสั่งบรั่นดีให้กับเสี่ยทอง
“ดื่มสักหน่อยให้ใจเย็นๆ
ครับ...”
เสี่ยร่างอ้วนมีแววตาแสดงความลังเลใจ
ว่าจะยอมพูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาหรือไม่
อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง
พอบริการนำเครื่องดื่มมาวางบนโต๊ะ
เสี่ยทองก็ยกขึ้นซดทีเดียวหมดแก้ว
ใบหน้าอูมแดงขึ้นมาทันที
คมศรยิ้มให้สัญญาณบริกรนำเครื่องดื่มมาเติมให้
“ใจเย็นๆ
ก็ได้ครับ ค่อยๆ ดื่ม
ทำใจสบายๆ...มีอะไรก็เล่าให้ผมฟังได้...ผมเองก็ไม่ใช่อยากอวดนะครับ
แต่ก็พอรู้จักคบหาคนอยู่บ้าง...ถึงจะช่วยเสี่ยโดยตรงไม่ได้...ก็อาจจะช่วย
แนะนำได้”
เสี่ยทองยกเหล้าขึ้นดื่มไปอีกกรึ้บหนึ่งก็ตัดสินใจเอ่ยปากพูด
พอหลุดปากไปแล้วก็เล่าพรั่งพรูออกไปราวกับน้ำป่าไหลด้วยความอัดอั้นตันใจ
คมศรนั่งฟังด้วยใบหน้ายิ้มๆ
ราวกับผู้ใหญ่ให้กำลังใจผู้น้อย
จนกระทั่งเสี่ยทองเล่าจบ
และการปะติดปะต่อเรื่องราวในหัวสมองของชายหนุ่มกระทำผ่านไปอย่างว่องไว
จนดวงตาเหล็กกล้านั้นทอประกายเรือง
ชายหนุ่มในเวลานั้นหยิบมือถือขึ้นมากดไล่เบอร์
ปากกล่าวเรื่อยๆ
“อือม์
ผมอาจจะพอมีคนรู้จักช่วยเสี่ยได้นะครับ...”
เสี่ยทองตาลุกวาว
ใบหน้าที่อูมไปด้วยไขมัน
มีรอยยิ้มกะลิ้มกะเลี่ยขึ้นมาทันที
“จริงหรือครับ
คุณสิงห์...ถ้าช่วยได้รับรองว่าผมจะไม่ลืมพระคุณเลย”
คมศรหยิบปากกาขึ้นมาจดหมายเลขโทรศัพท์
และเขียนลงไปบนกระดาษทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะส่งให้เสี่ยอ้วน
กล่าวยิ้มๆ นัยน์ตาแพรวพราว
“คนรู้จักของผมเขาทำงานด้านหลักทรัพย์อยู่
เสี่ยลองไปคุยกับเขาดู...เรื่องรีไฟแนนซ์..ซึ่งแน่นอน...เสี่ยอาจจะต้องมี
ภาระด้านดอกเบี้ยเพิ่มบ้าง
แต่ก็ได้ทุนไปสู้อีกยก..มันก็น่าสนใจไม่ใช่หรือครับ”
เสี่ยทองรับไปอย่างพิจารณา
ในสมองของเสี่ยร่างอ้วน...ยังนึกถึงทางที่จะได้ผลลัพธ์จากการฝากฝังให้กับคน
ผู้มากบารมีที่จะช่วยสนับสนุน...ซึ่งถ้าทำได้ก็ไม่ต้องมีภาระอะไรเพิ่ม...
แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ...ทางนี้ก็เป็นทางเลือกสำรองอีกทางหนึ่ง
คิดได้ดังนั้นแล้วเสี่ยทองก็หัวเราะขึ้นอย่างพอใจ
และยื่นมือให้กับคมศรจับ
“ผมขอบคุณคุณสิงห์มาก...ถ้าผมจะมีอะไรช่วยได้เพื่อเป็นการตอบแทน...ขอให้บอกนะครับ
ผมจะทำเต็มที่”
ชายหนุ่มโบกมือ
แล้วเขย่ามือกับเจ้าของโรงแรมในเครือปาร์มบีชที่กำลังประสบภาวะเงินทุนขาดมืออย่างหนัก
แล้วว่า
“ไม่เป็นไรครับ
คนกันเอง...”
เสี่ยทองยิ้มแล้วว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ
พอดีมีนัด”
คมศรยิ้มและลุกขึ้นยืนส่งเสี่ยร่างอ้วนเดินตัวเบาออกไป
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นพราวไปด้วยเล่ห์กล
ทันใดนั้นเองมือถือในมือของเขาก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มเปิดสายขึ้นรับ
ใบหน้าที่มีรอยยิ้มๆ ค่อยๆ
จางลงไป กลายเป็นสีหน้าที่ราบเรียบแต่เครียดขึ้ง
ดวงตาเป็นประกายวูบวาบ
เมื่อได้ยินข่าวคราวจากอีกทางหนึ่ง
“คนของเราบาดเจ็บไปสามครับ...พ่อเลี้ยง”
คมศรผงกศีรษะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แต่แลเห็นเค้าความเครียดที่แฝงอยู่ได้ชัด
“ดูแลคนเจ็บให้ดีที่สุด...เพิ่มกำลังของยามขึ้นเป็นสามกะ
มีเรื่องอะไรให้รีบโทรมาแจ้งก็แล้วกัน...ฉันมีธุระที่กรุงเทพอีกนิดหน่อย
คงจะขึ้นไปเร็วๆ นี้”
กล่าวจบชายหนุ่มก็วางโทรศัพท์ลง
ดวงตามีประกายเหี้ยมเกรียม
ดีดนิ้วเรียกบริกรให้เดินมา
คราวนี้ต้องสั่งบรั่นดีมาให้กับตัวเองแก้วหนึ่ง
ขณะที่ละเลียดน้ำอมฤตรสนุ่มลิ้น
ดวงตาประกายเหล็กนั้นวูบวาบไปด้วยความครุ่นคิดประเด็นต่างๆ
ชายหนุ่มนั่งอยู่ในลักษณะนั้นได้สักพักหนึ่งกำลังคิดจะผุดลุกออกไปอยู่แล้ว
คมศรก็ได้ยินเสียงเบาๆ
ดังมาจากโต๊ะด้านหลังที่พนักติดกัน
“ทำไมคุณเดชดูหน้าแปลกๆ
เหมือนกับมีเรื่องไม่สบายใจ”
“คงเป็นเรื่องลูกสาวมั้ง...ผมได้ยินมา..เหมือนกับว่าไม่ค่อยแฮปปี้กับว่าที่ลูกเขยเท่าไหร่”
“อ๋อ...ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมก็ได้ยินเหมือนกัน...ลูกสาวผมเขาเป็นเพื่อนกับ
ลูกสาวคุณเดช
เคยมาเล่าให้ฟังว่า...หนูคันธรส..ลูกสาวคุณเดชน่ะกำลังจะแต่งงานกับเสี่ยพ่อ
ค้าเพชรคนหนึ่ง”
“อ้าว...ก็เหมาะดีแล้วไม่ใช่หรือ
ทำไมคุณเดชถึงไม่แฮปปี้ล่ะ”
“อันนี้ผมก็ไม่รู้แฮะ
อาจจะเป็นเพราะว่าที่ลูกเขยคนนั้นอายุมากแล้วละมัง
นัยว่าสี่สิบปีกว่าแล้วนะ...ชื่ออะไรน้า...เซี้ย..เซี้ย..อะไรนี่แหล่ะ...ผม
ก็จำที่ลูกสาวเล่าให้ฟังไม่ได้แล้ว...”
“แต่ผมว่าอายุมากสิดี...ไม่เจ้าชู้เหมือนพวกหนุ่มๆ..คนแก่แต่งงานกับคนสาว..
ส่วนใหญ่ทั้งรักทั้งหลงทั้งนั้นแหล่ะ...คิดอย่างนี้คุณเดชน่าจะดีใจว่าลูก
สาวจะได้มีความสุขนะ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเบาๆ
จากคู่สนทนา
ดวงตาของคมศรนั้นเปล่งประกายวาบขึ้นทันที
นึกไปถึงใบหน้างามบาดตาของผู้หญิงที่เขาพบที่หัวหิน...เสียงเรียกขาน...คุณ
รส...ที่ตอนนั้นเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่อเต็มว่าอะไร
หึหึ...แต่งงานกับไอ้เซี้ยง...จะมีความสุขหรือ...นรกมากกว่ามั้ง
ดวงตาประกายเหล็กมีวี่แววแห่งความเสียดายความสวยและความสาวของผู้หญิงคนนั้น
ช่างเหอะ..ไม่เกี่ยวอะไรกับเขานี่..อุตส่าห์หยิบยื่นโอกาสให้แล้ว...แต่เลือกที่จะอยู่กับไอ้เซี้ยงเอง...ช่วยไม่ได้
คมศรยักไหล่
ความจริงเขาไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจ
ในเมี่อเธอเลือกทางของเธอเอง
แต่...ก็นะ...ถ้าจะทำอะไรเพื่อขัดขวางไอ้เซี้ยงเล่นๆ
มันก็น่าทำอยู่ไม่ใช่หรือ...หึหึ
คิดได้ดั่งนั้น
ดวงตาของคมศรก็เป็นประกายพราวอย่างรื่นรมย์
..................
วันนี้เป็นหนึ่งในน้อยวันนักที่ธนาไม่ได้มาเฝ้าการซ้อมของอรนุชเพราะติดประชุมสำคัญที่ต่อเนื่องมาจากงานสัมมนาช่วงเช้า
ดวงตาของฐิติพรรณที่จ้องมองไปยังเด็กสาวร่างบางที่เดินอยู่บนเวทีนั้นอดส่งประกายพลุ่งพล่านออกมาไม่ได้
ช่างเสื้อชื่อดังตัดเย็บชุดมาให้อรนุชใส่เดินหลายชุดหลายแบบ
ตอนฝึกเดินก็ใส่ไปด้วยเพื่อดูความเหมาะสม
ในวันนี้ร่างบางของอรนุชอยู่ในชุดผ้าฝ้ายสีชมพูอ่อนหวาน
เสื้อนั้นตัดไว้พอดีตัว
เนื้อผ้านุ่มเบานั้นห่อร่างงามนั้นอย่างใกล้ชิดรัดรึงกว่าชุดนักศีกษาที่เธอ
ปกติใส่หลวมๆ
ทำให้แลเห็นว่าร่างเล็กบางนั้นมีส่วนสัดที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ร่างโปร่ง
งามที่สูงกว่าของฐิติพรรณเลย
ทรวงอกที่นูนขึ้นมาไม่ใหญ่ไม่โต
แต่ทว่ารูปร่างของทรงคัพ
A ปลายๆ
นั้นอูมอิ่มสวยรับกับร่างบางเล็กจนมองเห็นเป็นลอนสวยจับตาโค้งกลมรับไปกับ
ช่วงที่คอดเข้าหาหน้าท้องที่แบนราบตึงเอวกิ่วแค่หยิบมือเดียวก่อนจะขยายออก
ไปยังสะโพกผายกลมที่ถูกเน้นให้เห็นความโค้งอันน่าตื่นใจของแก้มก้นที่งอนงาม
ด้วยกางเกงขาสั้นที่กระชับตัว
ปลายพับขึ้นยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อย
เผยให้เห็นช่วงเข่าและแนวขาที่เรียวเป็นลำงามไปจรดปลายเท้าที่ซ่อนอยู่ใน
รองเท้าส้นสูงประมาณสามนิ้วสีขาวสะอาด
เนื่องจากเพื่อนฝูงไม่เคยเห็นอรนุชในชุดทำนองนี้จึงพากันเป่าปากเปี๊ยววววว
ตบมือชมเสียงดังกราวใหญ่
ทำเอาช่างตัดเสื้อยิ้มกว้างไม่มีหุบ
ขณะที่อรนุชบ่นอู้ พึมพำหน้ายู่ยี่
“เสื้อมันฟิตไปหน่อยไหมคะ
พี่ม้า”
“ฟิต..เฟิต..อะไรค้า..น้องนุช...กำลังดีเลย
ไม่รัด..ไม่ล้น...สวยจริงๆ...เซ็กซี่พองาม...ใช่ไหมค้า..สาวๆ”
ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ค่อยมีความเป็นชายนักพูดจบก็หันมาหาเสียงสนับสนุน
ซึ่งเสียงตอบรับนั้นดัง
ฮิ้วววววววว ฮิ้วววววว
คิกคิกคักคัก
ช่างเสื้อเฝ้ามองการเดิน
การหมุนตัว การบิดสะโพกน้อยๆ
ของอรนุชพลางจดปากกาเขียนยิกๆ
ถึงข้อสังเกตุเพื่อนำไปปรับปรุงลงในสมุดพก
ก่อนจะกลับนั้น
เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะเอาตัวใหม่มาลองบ้าง
พร้อมๆ กับพูดลอยๆ
“วันนี้โชคดีจริง
ไม่เสียงหอยเสียงปูมาเซ้าซี้น่ารำคาญ...เป็นอย่างนี้ได้ทุกวันก็ดีนะฮ้า”
ใครๆ
ในที่นี้ก็รู้ว่าช่างเสื้อนั้นหมายถึงใครที่หายไป
ต่างพากันอมยิ้มกันไปตามๆ
กัน
แต่ประกายตาที่เผลอบอกความในใจเหล่านั้นของฐิติพรรณก็สลายไปพร้อมๆ
กับรอยยิ้มหวานทักทายเด็กสาวผู้อ่อนวัยกว่าที่เดินยิ้มเข้ามาหาพร้อมขวดน้ำ
เย็น
“พี่ไอซ์คะ..น้ำเย็นค่ะ”
“ขอบคุณค่ะน้องษา...ไม่น่าต้องลำบากเลย”
พริตตี้สาวรับมาพร้อมรอยยิ้ม
อรอุษาหัวเราะน้อยๆ
มองใบหน้าสวยของอีกฝ่ายอย่างชื่นชม
แล้วยิ้มอย่างน่ารักกล่าวว่า
“ไม่เห็นลำบากเลย
ษาออกไปซื้อมาให้พี่นุชอยู่แล้วค่ะ...อีกอย่างที่ร้านเขาหิ้วน้ำมาให้ค่ะ...
ษาแค่ลำบากเดินไปสั่งเท่านั้น...พี่ไอซ์อุตส่าห์มาให้กำลังใจพี่นุชแทบทุก
วัน...ษาตอบแทนให้แค่นี้เอง..เล็กน้อยจะตายไปค่ะ”
เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ว่า
จากนั้นก็เดินแจกจ่ายน้ำเย็นที่เธอซื้อให้กับบรรดาเพื่อนฝูงของอรนุชที่มาดู
เพื่อนรักซ้อมประกวดกันกลุ่มใหญ่
ท่ามกลางเสียงขอบคุณหวานๆ
จากกลุ่มเพื่อนของพี่สาวเธอ
“น้องษา..น่าร๊ากก...อย่างนี้ใครๆ
ได้ไปเป็นแฟนมีหวังรักตาย”
อรอุษาหน้าแดงก่ำ
อุบอิบว่า
“แหม...พวกพี่ๆ
อย่าล้อษา...สิคะ”
เพื่อนๆ
หัวเราะเกรียว
บางคนเห็นแก้มพวงใสแดงอิ่บเอิบน่ารัก
อดใจไม่ไหวยกนิ้วเข้ามาบีบแก้มนั้นอย่างยั่วเย้า
อรอุษาเลยยิ่งอายเข้าไปใหญ่
พริตตี้สาวปรายตามองมา
ในใจคิดอย่างเยาะๆ
ติ๋มๆ
อย่างนี้ ใครได้เป็นแฟนก็โง่จะตายไปต่างหาก…ไร้รสชาติ
จากนั้นหันไปทางเวทีอีกครั้ง
ตอนนั้นอรนุชเดินผิดจังหวะไปหน่อย
รองเท้าส้นสูงที่เด็กสาวร่างบางไม่ค่อยคุ้นเคยพลิกจนเธอล้มลงก้นจ้ำเบ้า
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
และเจ้าตัวที่คลำก้นป้อยๆ
แต่แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงใส
ขณะที่พี่แต๋วไม่ตลกด้วย
ตอนนั้นวิ่งเข้ามาใบหน้าตื่น
เข้ามาดูอาการของอรนุชอย่างใกล้ชิด
พูดว่า
“โธ่ๆ...ระวังหน่อยน้องนุชจ๋า...ถ้านุชเดี้ยงไปอีกคน
พี่แต๋วคงอกแตกตายแน่ๆ”
ดวงตาสวยบนใบหน้าใสของอรนุชมีประกายสนุกแบบเด็กซนๆ
ขึ้นมาแว่บหนึ่ง กล่าวทีเล่นทีจริง
“อุ๊ย...นุชลืมไปเลย..ถ้านุชเกิดหกล้มขาแพลงไปเหมือนรุ..นุชก็ถอนตัวได้น่ะสิคะ”
กรองกนกอ้าปากค้าง
เบิกตาโต ร้องลั่นห้อง
“ว้ายๆ....ตายแล้ว...นี่อย่าบอกพี่นะ...ว่าน้องนุชน่ะจะจงใจ...เพื่อเลี่ยงการประกวด”
“คิกคิก...ใครจะรู้คะ..อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นกันได้”
พี่แต๋วทำท่าอย่างกับจะเป็นลม
หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะตกลงใจหันไปยังครูฝีกเดินที่ยืนยิ้มอยู่
“รีบๆ
สอนดีกว่าค่ะ ฝึกหนักๆ ไปเลย
ให้น้องนุชเป็นไวๆ
จะได้จบคอสเดินนี้เสียที”
อรนุชหน้าเสีย
อ้าว ทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะ
รีบร้องเสียงหลงว่า
“ว้า..พี่แต๋ว...ทุกวันนี้นุชก็เมื่อยจะตายอยู่แล้วนะคะ..”
“ไม่ได้ๆ...พี่กลัวน้องนุชขี้โกง...ไม่เอาล่ะ...พี่ไม่เสี่ยง...ครูฝึกคะ...เพิ่มชั่วโมงสอนพิเศษไปเลยค่ะ
เบิกค่าล่วงเวลาได้”
พอเห็นพี่แต๋วเอาจริง
คนที่คิดจะแค่ล้อเล่นก็เลยโอดคราวญ
“โธ่
พี่แต๋วขา..นุชล้อเล่นหรอกค่ะ..มีเหรอที่นุชจะซาดิสซ์ทำร้ายตัวเองน่ะ”
กรองกนกส่ายศีรษะ
หญิงผู้สูงวัยกว่ามองหน้าใสๆ
ของอรนุช แล้วความกลัวในใจทำให้เธอคิดไปเองว่า
เด็กสาวร่างบางตรงหน้ากำลังทำเจ้าเล่ห์เพื่อถอนตัวจากการประกวดจริงๆ
ก็สำทับ
“ไม่ได้ค่ะ...นุชต้องทำตามพี่แต๋วกำหนด...ห้ามบิดพลิ้ว...”
อรนุชหน้าเบ้
พอหันไปเจออรอุษาน้องสาวที่นั่งยิ้มอยู่
ก็เลยชี้ไปพร้อมพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ
อย่างมีชัย
“แต่นุชต้องไปส่งษาค่ะ
กลับบ้านเย็นไม่ได้ หมอสั่ง...”
เจอไม้นี้เข้าไป
กรองกนกก็เลยงงๆ จะขวางก็ใช่ที่
เลยอ้ำๆ อึ้งๆ
ทันใดนั้นเสียงอ่อนๆ
ของฐิติพรรณก็ดังขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ
ให้ไอซ์ไปส่งน้องษาเองก็ได้
บ้านของนุชเขาอยู่ในเส้นทางกลับของไอซ์อยู่แล้ว”
คำพูดของฐิติพรรณทำให้พี่แต๋วฉีกยิ้มทันที
นึกรักเด็กสาวที่ตนเองไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่แรกขึ้นเป็นกอง
ยิ้มหวานให้กับอีกฝ่าย
“แหม
พี่แต๋ว ขอบใจน้องไอซ์มากเลย
น้องไอซ์นี่น่ารักจริ๊ง...สปีริตเยี่ยม..”
อรนุชที่ยิ้มๆ
อยู่เลยอ้าปากค้างไปเลย
ขณะที่ฐิติพรรณหัวเราะหวาน
“ไม่เป็นไรค่ะ...ไอซ์บอกแล้วจะพยายามสนับสนุนทุกทางที่จะช่วยให้นุชเขาชนะการประกวดครั้งนี้”
เพื่อนๆ
ของอรนุชที่ทีแรกยังไม่ค่อยไว้ใจฐิติพรรณเท่าไหร
ตอนนี้มองมายังเพื่อนร่วมคณะด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากขึ้น
อรนุชเกาศีรษะอย่างขัดใจ
พยายามพูดว่า
“อย่าเลย..นุชเกรงใจไอซ์”
“โธ่
เกรงใจทำไมจ๊ะ...ก็ไอซ์บอกแล้วไงว่าทางผ่านอยู่แล้ว
ไม่เห็นลำบากซักนิด”
อรอุษาที่เชียร์ให้พี่สาวคนรองชนะการประกวดเหมือนกันก็ยิ้มแฉ่ง
กล่าวว่า
“ษากลับกับพี่ไอซ์ก็ได้ค่ะ...พี่นุชขยันซ้อมนะคะ”
พี่สาวคนกลางร้องโอยยยย
ยกมือกุมศีรษะ ษา..นะ..ษา...ไม่รู้ใจพี่เลย
แต่ท่าทางของอรนุชไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกสงสารเลย
ต่างคนต่างยิ้มหัวเราะขันอาการของเพื่อนรัก
เห็นพ้องต้องกันว่าถ้าวิธีใดที่จะทำให้อรนุชมีโอกาสชนะการประกวดได้
วิธีนั้นก็เป็นวิธีทางที่ถูกต้องแล้ว
จากนั้นไม่นาน
อรอุษาก็เดินตามฐิติพรรณออกไป
พร้อมกับโบกมือให้กับพี่สาวคนรองที่จ้องมองมาด้วยใบหน้าบูดๆ
อย่างร่าเริง ยิ้มอ่อนหวาน
“สู้..สู้ค่ะ..พี่นุช..คิกคิก”
ตอนสุดท้ายเด็กสาวอดหัวเราะไม่ได้เมื่อมองเห็นหน้าของพี่สาวที่หงิกงอสุดๆ
ทำหน้าเหมือนกับจะแบกโลกทั้งโลกเอาไว้
.................
วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันในวงจรชีวิตของคันธรสหญิงสาวสวยรวยเสน่ห์ที่เมื่อ
เลิกงานตอนเย็นเธอไม่เคยขับรถตรงกลับบ้านทันที
แต่กลับมุ่งหน้าไปยังบ้านพักหลังใหญ่ของเสี่ยเซี้ยง
ซึ่งตลอดเวลาเท่าที่ผ่านมากว่าที่เธอจะขับรถออกไปจากบ้านหลังนั้นเพื่อกลับ
ไปนอนที่บ้านของเธอนั้นก็เป็นเวลาล่วงเข้าวันใหม่ไปแล้ว
หญิงสาวสวยในชุดเสื้อแขนยาวผ้าโปร่งสีขาวและกระโปรงยาวสีเดียวกันเมื่อเดินเข้าไปในบ้าน
ก็ตรงไปยังห้องทำงานของเสี่ยเซี้ยงทันที
พอเสี่ยโฉดแลเห็นคันธรสก็ยื่นนิ้วไปปิดจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
ก่อนจะรับขวัญร่างงามที่ปราดเข้ามานั่งที่ตักตัวเองอย่างฉอเลาะ
ด้วยการบดปากประกับไปกับริมฝีปากบางที่อ้ารอรับอย่างดูดดื่ม
เสียงลิ้นพันกันดังซ๊วบ
ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ ต่อเนื่อง
สาวสวยใบหน้าแดงซ่านขณะโอบมือไปรอบคอหนา
หลับตาพริ้ม
ล่องลอยไปกับความเสียวที่อุ่นซ่านไปทั่วโพรงปาก
หนุ่มใหญ่ที่บดจูบไป
มือนั้นก็ไม่ห่างจากก้อนหยุ่นที่อูมแน่นอยู่ตรงทรวงอกงามนั้น
เสียงคันธรสคราง อื้อออออ
อื้อออออออ
บิดส่ายไปมาอย่างเสียวซ่านบนตักหนาของอีกฝ่าย
“ผมคิดถึงคุณรสเหลือเกิน...ที่รักทำไมกลับเย็นจัง”
เสี่ยเซี้ยงกระซิบถามหลังจากบดขยี้จูบไปบนปากงามนั้นอย่างพอใจ
คันธรสยิ้มหวานมือยังโอบไปที่คอหนา
ยิ้มหวานว่า
“รสมีประชุมค่ะ...นี่ก็ขอตัวกลับมาก่อนนะคะ...คิดถึงเสี่ยเหมือนกันค่ะ”
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
ควานจูบไปตามซอกคอขาว
คันธรสหัวเราะคิกคัก
มือหยาของเสี่ยเซี้ยงปลดกระดุมเสื้อของสาวสวยไปสองเม็ด
ปกเสื้อแบะออกจนแลเห็นเนินอกขาวนวลยั่วยวนใจที่แทบล้นออกมาจากบราเซียร์ผ้า
ลูกไม้ราคาแพงลิบนั้น
เสี่ยโฉดเบิกตาโพลงอย่างกระหายก้มปากหนาลงไปซุกไซร้ไปตามร่องอกขาวนั้น
คันธรส แอ่นอกขึ้นรับการโลมเลียนั้นอย่างเร่าร้อน
ปากงามห่อครางครวญ ซี๊ดดดด
ซี๊ดดดดด
“เนื้อหวานจังครับ..คนสวยของผม”
คันธรสหัวเราะคิกๆ
ความเสียวซ่านรัญจวนใจที่เธอหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้นพล่านพลุ่งไปทั่วร่างจนขนอ่อนๆ
ลุกชัน
เสี่ยโฉดระดมไซร้จากเนินอกขาว
ไต่กลับมาตามซอกคอที่หอมหวาน
และกลับไปจบตรงริมฝีปากงามที่เผยอรับอย่างช่ำใจ
เสียงซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ
ดังผสานไปกับริมฝีปากที่บดเบียด
และลิ้นที่กระหวัดรัดพันกันอย่างเร่าร้อน
เสี่ยเซี้ยงจูบจนหนำใจก่อนจะกระซิบเสียงนุ่มนวลไปที่ข้างหูใสของคันธรส
“เรื่องของเรา...รส...พูดกับที่บ้านรู้เรื่องแล้วใช่ไหมจ๊ะ”
คันธรสเงยหน้าขึ้นเอ่ยปากอย่างฉอเลาะ
“พูดแล้วค่ะ...คุณแม่ท่านรักรส...รสขออะไรท่านก็ตามใจค่ะ...แต่ตอนนี้คุณพ่อ
อาจจะยังไม่ค่อยพอใจ..เพราะเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน...แต่รสรู้ค่ะ...ว่าถ้า
รสยืนยันว่ารสรักเสี่ย...ในที่สุดท่านต้องเห็นด้วย...”
เสี่ยเซี้ยงยิ้มกระหยิ่ม
บดจูบลงไปบนปากงามนั้นอย่างกระหาย
พึมพำอู้อี้
“ผม..ผมคงไม่มีความสุขอีกต่อไป
ถ้าไม่แต่งงานกับรส”
คันธรสหน้าแดง
ปากคราง ฮื้อออออ ฮื้อออออ
ยื่นแขนบางงามขึ้นไปโอบกอดคอหนานั้นเอาไว้
แลกลิ้นพัวพันกับเสี่ยเซี้ยงอย่างดูดดื่ม
พึมพำอย่างฟุ้งซ่านรัญจวน
“เสี่ย..ขา...รส..ก็เหมือนกันค่ะ...”
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
นึกถึงถ้าสาวสวยในอ้อมแขน
ไฮโซสาว...ลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจพันล้าน...เงินทั้งหมดที่จะต้องได้รับ
มรดกตกทอด....และแน่นอนเงินทั้งหมดนั้นจะต้องถูกถ่ายเทมาเข้ากระเป๋าของเขา
ความสำเร็จที่เรืองรองตรงหน้าอันเกิดจากการวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เขาเห็นคันธ
รสครั้งแรกเมื่อศักดาพาเธอเข้ามาหากำลังสำฤทธิ์ผลในเร็ววันนี้แล้ว
ไอ้ศักดาหน้าโง่...มันช่างโง่บัดซบจริงๆ....ฮ่าฮ่าฮ่า
ความคิดนั้นมันกระตุ้นให้อารมณ์ของเสี่ยโฉดพลุ่งพล่านไปด้วยความยินดีปรีดาจนแทบจะลุกขึ้นแหกปากร้องออกมาอย่างสะใจ
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
กระซิบที่ข้างหูขาวใส
“ที่รัก...ผมจะให้รางวัลอะไรกับคุณดีนะ...”
คันธรสหน้าแดงซ่าน
หัวเราะคิกคิก
“วันนี้รสสบายใจจัง...เราออกไปหาอะไรอร่อยๆ
ทาน แล้วไปต่อที่ผับนั่งฟังเพลงเต้นรำกันดีไหมคะ”
เสี่ยโฉดยิ้มกริ่ม
มือขยำไปที่สองเต้าอวบอิ่มอย่างกระหาย
“ได้สิจ๊ะ
ที่รักของผม”
สาวสวยพยายามลุกขึ้นจากตักของเสี่ยเซี้ยง
พลางว่าเสียงหวาน
“ถ้าอย่างนั้น
ให้รสไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะ”
“ผมจะช่วย...”
เสี่ยเซี้ยงกล่าวเสียงหื่น
มือหยาบนั้นค่อยๆ
ปลดกระดุมเสื้อของคันธรสออกไป
พร้อมๆ กับบดหน้าลงไปบนเนินอกขาวอีกครั้ง
ลิ้นที่ลากไปตามผิวเนียน
สร้างความเสียวกระสันให้เกิดแก่คันธรสจนตัวสั่นระริก
ครางครวญออกมาอย่างรัญจวนใจ
ซี๊ดดดด ซี๊ดดดดด....อา....เสี่ยขา....ซี๊ดดดดด
มือหยาบกระตุกไปที่เข็มขัดของหญิงสาว
และตามติดๆ
ด้วยการปลดขอบตะขอเกี่ยวที่กระโปรงตัวสวย
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่ากระซิบที่ข้างหูขาวใส
“ก่อนออกไปกินข้าว
ผมขอกินคุณก่อนนะครับที่รัก...”
คันธรสใบหน้าแดงก่ำ
ดวงตาหรี่ปรืออย่างเย้ายวน
หัวเราะคิกๆ
ร่างงามที่อ่อนระทวยอยู่บนตักในพริบตานั้นก็ขาวสล้างเกือบเปลือยเหลือเพียง
ชุดชั้นในบางเบา
ปล่อยให้วงแขนกำยำโอบอุ้มร่างเธอเดินตรงออกไปยังห้องนอน
จากนั้นไม่นานในห้องนอนของเสี่ยเซี้ยงก็บังเกิดเสียงหัวเราะกระเส่า
และเสียงครางครวญกระสันรัญจวนดังขึ้นมาอย่างเร่าร้อนประสานกับเพลงกามที่ควย
ยักษ์บรรเลงอย่างหื่นกระหายไปบนโพรงหลืบที่ขมิบรัดตอดแน่น
ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดดด...เสี่ยขา...อื้ยยยย
อี้ยยยยย....อูซซซซ
อูซซซซ...โอววว...ที่รัก....อูวววว....อูววววว....ปั้บ....ปั้บ....ปั้บ....
ปั๊บ
…………………….
เด็กช่างกลร่างอ้วนที่เหงาควยอยู่หลายวันแล้ว
กระซุ่นถามหัวโจกของตนเองขณะที่นั่งสุมหัวกับพรรคพวกแกงค์เด็กนรกกันตรงลาน
เบียร์ ส่วนตาเหลือกโปนนั้นกวาดมองไปรอบๆ
หาเป้าสายตาสวยๆ
ซึ่งแน่นอนเป็นผู้หญิงสาวต่างวัยที่เดินเที่ยวอยู่ในห้างชื่อดังตรงหน้า
“นังไอซ์มันจะแกล้งหลอกพวกเราหรือเปล่าวะไอ้ชิด...แม่งตั้งหลายวันแล้วนะ”
ชิดหัวโจกคิดอยู่ครู่หนึ่งก็สั่นศีรษะ
“มันคงไม่กล้าหรอก...เย็นนี้กูก็เพิ่งโทรไป...นังไอซ์บอกว่ายังไม่ได้จังหวะ
เพราะต้องส่งน้องสาวของนังคนสวยนั่นกลับบ้านทุกวัน”
มืดนั่งกระสับกระส่าย
สายตาที่มองไปยังสะโพกกลมๆ
ของนักศึกษาสาวหลายคนที่เดินผ่านไปมานั้นยั่วให้นึกถึงสะโพกผายของพริตตี้
สาวที่ตนเองตะโบมได้อย่างมันส์มือ
“แม่ง...แล้วจะให้รอไปถึงไหนวะ...กูเงี่ยนเต็มทนแล้วนะ…เฉาควยมาหลายวันแล้ว”
อ๋องหัวเราะ
จิบเบียร์เย็นๆ ด้วยท่าทางสบายๆ
ตอนนี้หลังจากเด็กโค่งได้อัดควยทะลวงโพรงหีของสาวสวยที่เคยดูถูกตนเองไปจน
ฉ่ำควยไปแล้ว ความปราถนาที่ร้อนแรงในตอนต้นๆ
ก็เริ่มซาลงไป และเมื่อข้อเสนองามๆ
ของฐิติพรรณที่จะเสนอเนื้อชิ้นใหม่ให้นั้น
ทันทีที่ได้เห็นนักศึกษาในรูปเด็กหนุ่มกระโจนรับข้อเสนอทันที
และใจเย็นพอที่จะอดกลั้น
เมื่อนึกถึงรางวัลที่จะได้รับ
“ไอ้เหี้ย...ของดี...รอหน่อยเป็นไรวะ...ไม่นานก็ต้องได้ช่องเว้ย..นังไอซ์น่ะของตาย..กระเด้าแม่งจนพรุนแล้ว...รอแค่นี้...คุ้มว่ะ”
“เชี่ย...โดนพรุน...ยังไงกูก็ว่านังไอซ์นี่แม่งโคตรเซ็กส์ว่ะ...จับแม่งเย็ด
ท่าหมา กระเด้าควยไปดูตูดงอนๆ
ขาวๆ
ของมันส่ายดิ้นไปดิ้นมา...กูไม่เบื่อเลย...ห่าเอ๊ย...ยิ่งคิดยิ่งเงี่ยน”
มืดยังครวญคราง
แจ็กเห็นด้วยกับอ๋อง
ตอนนั้นหัวเราะพลางตบบ่ามืด
“ไอ้เหี้ยมืด...ใจเย็นหน่อยสิ...กูเห็นด้วยกับไอ้อ๋องนะ...นังนุชคนสวยนั่น
...ไอ้เหี้ยเอ๊ย..กูเคยแอบไปดูแล้ว...แม่ง..สวยกว่าในรูปอีก...นางฟ้าชัดๆ
...ขาวจั๊วะไม่แพ้อีไอซ์...ตัวเล็กๆ..พอดีกับตัวกูเลย
ฮ่ะ ฮ่ะ...แค่คิดๆ
ว่าได้กระทุ้งควยใส่หีนังนั่น...เย็ดไป
ดูดปากสวยๆ ของมันไป...แค่คิด..กูก็น้ำแทบแตกแล้ว”
พรรคพวกหัวเราะครื้นเครง
ต่างคนต่างชูเบียร์ยกขึ้นดื่มเป็นการเร้าอารมณ์
จินตนาการนึกถึงโอกาสที่จะต้องมาถึงด้วยควยที่ตุงคับเป้ากันโดยทั่วถ้วน
………………………
ฐิติพรรณส่งอรอุษาลงที่หน้าประตูใหญ่
เช่นเดียวกับหลายๆ
วันที่ผ่านมาซึ่งเธอเป็นคนขับรถมาส่งอรอุษาถึงบ้าน
และโบกมือร่ำลาเด็กสาวผู้อ่อนวัยกว่าที่ประนมมือไหว้เธออย่างอ่อนหวานนั้น
ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แล้วพบกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ...น้องษา”
อรอุษายิ้มหวาน
ส่ายศีรษะ กล่าวยิ้มๆ
“พรุ่งนี้ษาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยค่ะ...ไม่มีตารางสอน”
ดวงตาสวยของฐิติพรรณวาวโรจน์ขึ้นแว่บหนึ่ง
แต่ดีที่สาวน้อยตรงหน้าเป็นเด็กสาวผู้เยาว์ประสบการณ์และไร้เดียงสาเกินกว่า
จะอ่ายสายตานั้นออก
“เหรอจ๊ะ...โอเคจ้ะ...ษาเข้าบ้านไปเถอะ..”
“ค่ะ...ขอบคุณพี่ไอซ์มากค่ะ”
อรอุษาโบกมือพร้อมกับยิ้มให้อย่างน่ารักอีกครั้งก่อนจะหันเดินเข้าไปในบ้าน
ส่วนฐิติพรรณในเวลานั้นใบหน้าสวยบาดตามีรอยยิ้มอย่างอิ่มเอิบ
เมื่อนึกถึงนัดที่เธอกำลังจะเดินทางไปสมทบเย็นวันนี้
ซึ่งอีกพักหนึ่งนั้น
ฐิติพรรณก็มานั่งอยู่ในภัตตาคารอาหารจีน
ณ โรงแรมหรูย่านกลางเมือง
เบื้องตรงกันข้ามของเธอนั่งไว้ด้วยชายหนุ่มสองคน
หนึ่งคือธนาผู้ที่เธอเฝ้านิยมหลงใหลจนสุดใจ
อีกคนคือชายหนุ่มใส่แว่นหน้าตาธรรมดาชื่อภาคภูมิ
ซึ่งเป็นคนที่กำลังว่าจ้างให้เธอเป็นพริตตี้พรีเซ็นเตอร์รถยนต์ค่ายที่เขา
เป็นตัวแทนจำหน่าย
ซึ่งกำลังจะมีสินค้าไปแสดงในงานมอเตอร์โชว์ที่ใกล้จะถึงนี้
ภาคภูมิขยับแว่นตา
กล่าวด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
สายตาจ้องไปยังใบหน้าที่สวยคมบาดตาของฐิติพรรณแบบตาไม่กระพริบ
“พี่ได้ยินชื่อของน้องไอซ์มานาน
พึ่งได้เจอวันนี้เอง...ดีใจจริงๆ
ที่น้องไอซ์ยินดีช่วย”
พริตตี้สาวหัวเราะคิกๆ
ชะม้ายตามองด้วยจริตสาวที่ปั่นหัวผู้ชายมานักต่อนัก
ภาคภูมิก็ดูเหมือนจะอยู่ในข่ายนั้น
เบิกตาค้างจ้องมองอย่างตะลึงลาน
จนธนาที่นั่งข้างๆ
ใช้ศอกกระทุ้งสีข้างเพื่อนเป็นเชิงเตือน
“ฮะแอ่ม.ๆๆ....เอ่อ...น้องไอซ์ลองปลานึ่งซีอิ๊วนี้หน่อยนะครับ
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่เลย”
ภาคภูมิทำเป็นไก๋กระแอมไอ
และแก้เก้อโดยการตักปลานึ่งให้กับเด็กสาวแสนสวย
ซึ่งรับมายิ้มหวานขอบคุณ
“แหม
พี่ภาคภูมิใจดีจังเลยค่ะ...อย่างนี้ไอซ์ค่อยสบายใจหน่อยที่ได้ร่วมงานด้วย…
ต้องขอขอบคุณพี่ธนาด้วยนะคะที่ช่วยแนะนำเจ้านายที่น่ารักอย่างพี่ภาคภูมิให้
ไอซ์...”
ตอนท้ายฐิติพรรณหันมากล่าวกับธนาด้วยใบหน้าหวานปานจะหยดออกมา
ซึ่งธนาเองที่นั่งอยู่ตรงข้ามพริตตี้สาว
ก็ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
จะมีผู้ชายคนไหนในโลกไม่พอใจ
ถ้ามีเด็กสาวที่สวยขนาดนี้มาพูดจาฉอเลาะ
ชมเชยอยู่ใกล้ๆ ?
วูบหนึ่งชายหนุ่มอดรู้สึกน้อยใจเด็กสาวร่างเล็กบางที่เขาพึงใจไม่ได้
อรนุชไม่เคยทำกิริยาท่าทางอ่อนหวานเอาอกเอาใจอย่างนี้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
...ตรงข้ามบ่อยๆ
ครั้งชายหนุ่มรู้สึกเธอพยายามทำตัวหนีห่างเขาด้วย
ธนาคิดเข้าข้างตัวเอง...อรนุชนั้นไม่มีใคร...เธอคงเป็นเด็กที่รักอิสระไม่
อยากมีอะไรผูกมัด...ทำให้เขาปลอบใจตัวเองว่า...รอให้อรนุชโตขึ้นอีกนิด...
การเพียรพยายามของเขาคงชนะใจเธอได้
ในตอนนั้นชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้
นี่ถ้าไม่มีอรนุชเป็นตัวเปรียบเทียบ
เขาคงจะเลือกเด็กสาวตรงหน้าเป็นเป้าหมายของเขาอย่างแน่นอน
ฐิติพรรณสวยบาดตา
ร้อนแรง ช่างเอาใจ
กิริยาอ่อนหวานถูกใจเขาทุกอย่าง
แต่อรนุชผู้มีความงาม
และบุคลิกอีกแบบหนึ่ง สดใส
ร่าเริง
มีลักษณะบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวเธอทำให้ใครอยู่ใกล้ๆ
แล้วต้องรู้สึกสบายใจไปด้วย
แต่ที่สำคัญที่สุด
ลักษณะอ้นงามของฝ่ายหลังถูกหนุนเสริมด้วยชาติตระกูลที่ชายหนุ่มคิดว่าสมน้ำ
สมเนื้อกับตัวเขามากกว่าพริตตี้สาวสวยตรงหน้า
ทำให้ธนามุ่งเป้าไปยังอรนุช
แต่ถึงแม้จะมีเป้าหมายที่อยู่ในใจแล้ว
แต่ธนาเองก็เป็นเฉกเช่นกับชายหนุ่มทั่วไป
ที่รู้สึกสบายใจ
และครึกครื้นอารมณ์ไปกับความงามที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า
และด้วยบรรยากาศที่เป็นใจ
และรื่นไหลไปกับการสนทนาในหัวข้อต่างๆ
ซึ่งโดยมากจะวนเวียนอยู่ในเรื่องของงานที่ฐิติพรรณรับจ๊อบพิเศษเป็นพริตตี้
ก็ทำให้ธนารู้สึกเพลินไปกับเสียงหวานๆ
ช่างเจรจาของสาวน้อยตรงหน้า
……………………..
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
กระซิบที่ข้างหูขาวใสของคันธรสที่นอนคว่ำระทวยอยู่บนเตียง
“เหนื่อยหรือยัง...ที่รัก”
ใบหน้างามของคันธรสหรี่ปรือด้วยความสุขอิ่มเอมที่ควยยักษ์ป้อนให้กับเธอ
...หัวเราะคิกคัก
พาตัวให้ลุกขึ้นจากกันโอบกอดของร่างกำยำ
และเดินตัวขาวเปลือยเข้าไปในห้องน้ำ
โดยมีนัยต์ตาแวววาวของเสี่ยเซี้ยงมองตามไปอย่างไม่วางตา
ใบหน้ามันไปด้วยเหงื่อนั้นยิ้มแย้มออกมาอย่างสะอารมณ์ใคร่กระหาย
ครู่หนึ่งหญิงสาวก็พร้อมออกไปเที่ยวในชุดสีแดงสดแบบแซ็กเนื้อผ้างามเป็นมัน
ลื่นระยับที่สุดแสนจะเซ็กซี่ยั่วยวนสายตาชายด้วยเสื้อผ้าตอนบนคอคว้านลึกอวด
เนินอกขาวอิ่ม
และกระโปรงที่ยาวประมาณครึ่งขาอ่อนโชว์เรียวขาขาวเป็นลำงาม
และสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงเข้าชุดกัน
บวกกับใบหน้างามที่ตกแต่งอย่างเข้มข้น
ตาเปลือกตาสีน้ำเงินวาว
มัสคาร่าสีเข้ม รูจที่แก้มแดง
และริมฝีปากงามเป็นสีชมพูเอิบวาว
ซึ่งเสี่ยโฉดเห็นภาพของคันธรสเบื้องหน้าแล้วควยยักษ์ก็ขยายจนตุงเป้า
อยากจะจับร่างงามนั้นทิ้งไปบนเตียงและกระเด้าเย็ดให้สาแก่ใจอีกรอบ
แต่ก็พยายามอดใจเอาไว้
...รอก่อนก็ได้วะ...คืนนี้ยังมีเวลาตั้งมาก...ฮ่ะ
ฮ่ะ
หลังจากไปกินอาหารเย็นที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งแล้ว
สถานที่ที่เสี่ยเซี้ยงพาคันธรสไปฉลองต่อคือผับหรูหราในในโรงแรมที่ตกแต่ง
อย่างอู้ฟู่ด้วยวัสดุราคาแพง
บรรยากาศสลัวๆ
เป็นใจให้เหล่าบรรดาคนมีระดับต้องการบรรยากาศสะดวกสบายแบบมีสไตล์ส่วนตัว
ซึ่งเจ้าของทุ่มทุนแบบไม่อั้นในการก่อสร้างเพื่อหวังดึงให้มีลูกค้ามาเข้า
เพื่อกอบกู้ฐานะที่ยอบแยบเต็มที
เสี่ยทองเจ้าของโรงแรงหรู
ตาลุกโพลง
มองหญิงสาวสวยบาดตาบาดใจในชุดสีแดงเพลิงนั้นราวกับลืมหายใจ
จนริมฝีปากบางามสีชมพูสดวาวนั้นหัวเราะคิกๆ
แย้มเยื้อนจนเห็นฟันขาวสะอาด
เสี่ยอ้วนเจ้าของโรงแรมจึงเพิ่งรู้สึกตัว
“โอวว...คุณรส...นั่นเอง...เราเคยพบกันที่หัวหินจำได้ไหมครับ”
ความจริงเสี่ยอ้วนหัวเถิกตรงหน้าไม่ได้อยู่ในความทรงจำของคันธรสเลยแม้แต่
นิดเดียว
แต่ความคล่องแคล่วในการเข้าสังคมและการรู้จักพูด
ก็ทำให้หญิงสาวเอียงคอกล่าวเสียงหวาน
“แน่นอนค่ะ..มีหรือที่รสจะจำเสี่ยไม่ได้”
เสี่ยทองหัวเราะร่วน
รีบผายมือ
“มา..มาครับ
ผมได้จัดเตรียมห้องพิเศษเอาไว้ต้อนรับเสี่ยกับคุณรสแล้ว”
ในห้องฟังเพลงเต้นรำแบบ
VIP นั้น
ยังมีเสี่ยกระเป๋าหนักเข้ามาสบทบอีกสองสามคน
ซึ่งทุกคนนั้นต่างก็ตะลึงมองไปยังสาวสวยที่คืนนี้งดงามบาดตาบาดใจเป็นพิเศษ
ทำเอาคันธรสระเริงร่าราวกับนางพญาภายใต้การเอาอกเอาใจของเสี่ยอ้วนเจ้าของ
โรงแรม
รวมไปถึงนักธุรกิจวัยกลางคนที่ใบหน้าอวบอูมอีกหลายคนนั้น
ที่ต่างคนต่างใช้ดวงตากลมโปนมองไปยังคันธรสกันแบบราวจะกลืนสาวสวยเข้าไปกิน
ในอกของตน โดยเฉพาะเนินอกขาวอวบนั้น
นัยน์ตาที่หื่นกระหายกวาดโลมเลียไปอย่างไม่มีปิดบังความต้องการ
ซึ่งการแสดงออกเหล่านั้นที่เกิดจากชายวัยกลางคนที่มีอายุแก่กว่าหญิงสาวถึง
เกือบยี่สิบปี
ถ้าเป็นเมื่อก่อนคันธรสก็คงจะมีปฏิริยาตอบสนองแบบรังเกียจสะอิดสะเอียนจนทน
ไม่ได้ที่จะนั่งร่วมโต๊ะกัน
แต่ตอนนี้หลังจากที่เธอหลงไปกับเพลิงกาม
และเสี่ยเซี้ยงผู้ไม่ได้มีความหล่อเหลาแต่อย่างใดแต่กลับทำให้เธอหลงใหลไป
กับรสชาติที่ควยอวบมหึมานั้นปรนเปรอให้จนถอนตัวไม่ขึ้น
ดังนั้นตอนนี้คันธรสสาวสวยที่รวยเสน่ห์ก็ร่ายมนต์เสน่ห์ของตนเองอย่างเต็ม
ที่ ปากงามฉอเลาะเจรจาด้วยน้ำเสียงหวานเชื่อม
นัยต์ตาหลิ่วเย้ายวน
ไม่สะทกสะท้านกับสายตาของคนรอบด้าน
กลับรู้สึกสนุกตื่นเต้นจนประกายตานั้นพราวระริก
ปากงามของคันธรสแย้มยิ้มหัวเราะเจื้อยแจ้ว
ลิปสติกสีชมพูมันวาวที่ฉาบอยู่ตรงปากไม่เคยเหือดแห้งไปจากรสชาติของน้ำพันช์
รสร้อนแรงที่ถูกสั่งให้บริการอย่างไม่อั้น
ใบหน้างามที่สวยบาดตาแดงก่ำ
ย้อมเย้าอารมณ์ของชายวัยดึกที่มีรสนิยมมัวเมาในการเสพกามราคะจนคันในหัวใจ
กันแทบทุกคน
เป้ากางเกงในความมืดสลัวที่มีไฟวับแวมมาเป็นคราวๆ
นั้นโป่งตึงตัวกันหมด
ซึ่งตลอดเวลานั้นเสี่ยเซี้ยงนั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างพออกพอใจ
มองบรรดาเสี่ยทองกับพวกด้วยแววตาเย้ยๆ
เพราะรู้แน่แก่ใจว่าบรรดาเพื่อนฝูงที่มีรสนิยมคล้ายกันเหล่านั้นที่มีบ้าน
เล็กบ้านน้อยเลี้ยงเด็กสาวๆ
เอาไว้เยอะแยะ
ต่างแสดงแววตาแห่งความอิจฉาตาร้อนออกมาอย่างชัดเจน
แสดงให้เห็นว่าหามีใครในที่นี้ที่จะมีผู้หญิงที่สวยสดบาดตาบาดใจเหมือนคันธ
รสเอาไว้ในครอบครองเช่นตัวเขา
สะใจโว้ย...ดูหน้าไอ้คิ้ม...คราวก่อน..ไอ้ห่า...แค่ตกเด็กนักศึกษาหน้าขาวๆ
หมวยๆ
มาได้...ก็หนีบมาเย้ยกู...เป็นไงล่ะ...เจออีนังไฮโซคนสวยเข้าไป...นั่งควย
เด่เลย...ฮ่ะ
ฮ่ะ.
เสี่ยคิ้มที่เสี่ยเซี้ยงครุ่นคิดในใจนั้นคือชายกลางคนหน้าเหลี่ยม
ไว้เครากระจุกคางแพะ
ที่เป็นเสี่ยใหญ่คนหนึ่งที่มีฐานะพอวัดได้พอๆ
กับตัวของเสี่ยโฉด
ขณะคุยกันเรื่องสัพเพเหระไม่มีแก่นสาร
ซึ่งโดยมากจะวนเวียนอยู่ในหัวข้อชมเชยความงามของคันธรส
หญิงสาวที่กำลังสนุกระเริงไปกับการสนทนา
ก็ยิ้มหวานให้กับบรรดานักธุรกิจที่นั่งรายล้อมชูเชิดเธอราวกับเป็นนางพญา
นั้น ก่อนจะผุดลุกขึ้น ขาขาวๆ
ที่ลอยอยู่ตรงหน้าทำให้ชายทุกคนต้องขยับตัวกันอย่างกระสันเมื่ออาวุธประจำ
กายพยายามดีดตัวออกมาทะลุเป้ากางเกง
“รสขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะคะ”
ร่างงามบาดตานั้นเดินนวยนาด
บิดสะโพกงามออกไปจากห้อง
จนคล้อยหลังไม่เท่าไหร่
เสี่ยทองกับพวกก็หันมาชูนิ้วให้กับเสี่ยเซี้ยง
“ยอดจริงๆ
เสี่ย...ผมยอมแพ้เลย...เด็กของเสี่ยกินขาดเด็กของผมทุกคน”
เสี่ยคิ้มกล่าวด้วยใบหน้าละเหี่ย
ขณะที่เสี่ยทองกล่าวเสียงสั่นอย่างกระหายหื่น
“ผมเคยเห็นคุณรสที่หัวหิน
ตอนนั้นยังไม่สวยบาดตาเท่าวันนี้เลย”
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะก๊าก
กระซุ่นคิดในใจ
มันจะเหมือนกันได้ยังไงวะ
ไอ้ทอง...ที่หัวหินตอนนั้น
อีไฮโซหน้าโง่เพิ่งถูกกูปล้นสวาทไปหยกๆ
มันต่างก็ตอนนี้เว้ย....ที่แม่งร่านควยของกูจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว...ฮ่ะ...ฮ่ะ
พรรคพวกชูแก้วเหล้าให้เป็นทีซูฮก
ซึ่งเสี่ยโฉดก็ชนแก้วด้วยความครื้นเครงใจ
ก่อนจะกระซิบกระซาบ
“ผมเห็นแก่พวกคุณที่เป็นเพื่อนผมนะ....เสี่ยทอง...ผมรู้นะว่าคุณมีห้องพิเศษ...”
จากนั้นก็ลดเสียงลงเบาๆ
นักธุรกิจตัณหากลับทั้งหลายที่นั่งสุมหัวรวมกันควยตุงเด่ออกมาทันที
……………..
ฐิติพรรณยิ้มแย้มหวานหยดย้อยให้กับสองหนุ่มที่แยกตัวไป
ใบหน้างามนั้นอิ่มเอิบไปด้วยความรู้สึกยินดีกับข่าวดีที่ได้งานชิ้นงามค่า
ตอบแทนสูงลิ่ว ขณะที่ครุ่นคิดอย่างตื่นอารมณ์
ใช่....วันนี้มันน่ายินดีจริงๆ...มีแต่ข่าวดีทั้งนั้น
มือเรียวงามหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดเบอร์ลงไป
พอได้ยินทางปลายสายรับ
เด็กสาวก็กรอกเสียงลงไปว่า
“พรุ่งนี้...เตรียมตัวได้ตามแผน”
เสียงหัวเราะก๊ากๆ
ดังมาจากปลายทาง
“ได้เล๊ย...ผมรอข่าวดีนี้มานานแล้วล่ะครับ...พี่ไอซ์คนสวยของผม”
ฐิติพรรณยิ้มมุมปากอย่างหมิ่นแคลนคนที่อยู่ปลายสาย
แต่วันนี้เธออารมณ์ดีจนเกินกว่าจะใส่ใจกับคำพูดที่แสลงใจเหล่านั้น
“แค่นี้นะ...”
กล่าวจบก็ตัดสายวางหูไป
ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปยังลานจอดรถโรงแรมหรูนั้น
สายตาของพริตตี้สาวก็ปรายไปปะทะกับเงาหลังของคนที่คุ้นๆ
พอหันไปเพ่งตาดูดีๆ
ก็พลันมีใบหน้าตื่นเต้น
คันธรสเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่อิ่บเอิบ
ประกายตางามนั้นพราวไปด้วยความสนุกสนานที่ได้รับจากการพะนอเอาใจของชายเหล่านั้น
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทักข้างหลัง
“พี่รสคะ...”
สาวสวยหันไปก็ยิ้มกว้างออกมา
ทักทายว่า
“อ้าว...ไอซ์เองเหรอ...ไม่ได้เจอกันนานนะ”
ฐิติพรรณพนมมือไหว้หญิงสาวสูงวัยกว่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนหวาน
“แหม
พี่รส..เปลี่ยนเบอร์มือถือแล้วหรือคะ...ไอซ์โทรไปตั้งหลายครั้งก็ติดต่อไม่ได้”
นัยต์ตาของคันธรสเปลี่ยนประกายไปแว่บหนึ่ง
เพราะคำถามของหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่านั้นมันตรงเข้าไปสะกิดแผลในใจของเธอที่
เสียรู้ให้กับศักดา
จนทำให้อารมร์ดีๆ
พลุ่งพล่านขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
ก่อนจะยักไหล่กล่าวว่า
“ใช่..พี่เปลี่ยนเบอร์แล้ว”
พริตตี้รีบขอเบอร์ใหม่ของคันธรสและบันทึกลงในมือถือตนเอง
ก่อนจะถามยิ้มๆ เหมือนไม่ตั้งใจว่า
“พี่รสกับพี่ศักเป็นยังไงบ้างคะ...”
คันธรสหน้าบึ้งทันที
ตวัดเสียงสูง
“นี่ไอซ์...ถ้ารักจะคบกับพี่...อย่าเอ่ยชื่อนี้ให้พี่ได้ยินอีกเป็นอันขาด”
ทีแรกพริตตี้คิดในใจ
จากภาพที่เธอเคยเห็นศักดาเมาแอ๋ในผับคืนนั้น
เด็กสาวก็คิดในใจอยู่แล้วว่ามันต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างหนึ่ง
ความจริงเธอแค่จะแหย่ๆ
พอให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างศักดากับคันธรส
แต่พอเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวสูงวัยกว่าตรงหน้าเป็นเดือดเป็นแค้นขึ้นมาถึง
ขนาดนี้ ทำให้ฐิติพรรณเกิดความสงสัยใคร่รู้จริงๆ
ว่ามีเบื้องหลังอะไรอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันนี้
ดังนั้นเด็กสาวสวยจึงย่อตัวพนมมือไหว้ขอโทษอย่างอ่อนหวาน
กล่าวด้วยใบหน้าสลด
“ขอโทษค่ะ...ไอซ์ไม่รู้ว่าพี่รส..กับพี่ศักมีเรื่องบาดหมางกันถึงขนาดนี้”
คันธรสไม่อยากพูดอะไรมาก
แค่สรุปสั้นๆ
“ก็แค่พี่รู้ฐาตุแท้ของนายศักดานั่น
ที่จริงมันไม่ใช่คนดีอะไรเลย
เป็นแค่ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมียที่คอยหลอกลวงผู้หญิงเท่านั้น...เอ่อ...พี่ไม่
ได้หมายความว่าพี่ถูกมันหลอกนะ...พอดีพี่รู้ตัวก่อนน่ะ”
หญิงสาวพูดไปแล้วเพิ่งนึกขึ้นได้เลยรีบแก้ต่างให้ตัวเอง
ซึ่งเด็กสาวที่ฉลาดอย่างฐิติพรรณมีหรือจะไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร
เลยทำสีหน้าเชื่อสนิท
กล่าวเสียงหวานว่า
“พี่รสโชคดีจังเลย...แต่พอจะบอกไอซ์ได้ไหมคะว่า..นายศักดานั่นมันเป็นยังไง
...เผื่อ..เผื่อ...ไอซ์จะได้เตือนๆ
พวกเพื่อนๆ ให้ระวังไว้ไงคะ”
“ไอ้นั่นมันทำตัวเป็นคนชั้นสูง
มีฐานะ มีธุรกิจ
แต่ความจริงข้างในกลวงโบ๋ไม่มีอะไรเลย
ใช้หน้าตาหลอกเอาเงินผู้หญิงไปวันๆ
ก็พวกแมงดานั่นแหล่ะ..น้องไอซ์...จำไว้เลยนะ...เจอมันที่ไหนอย่าให้ไอ้ตัว
เสนียดอย่างนั้นมาเข้าใกล้...”
คันธรสกล่าวด้วยสีหน้าที่เปล่งประกายแค้นออกมา
ซึ่งพริตตี้สาวฟังแล้วก็นึกในใจ
พี่รสคงถูกพี่ศักหลอกไปเยอะล่ะสิ...เลยแค้นขนาดนี้
แต่ต่อหน้านั้นเด็กสาวทำหน้าสนับสนุนและเห็นอกเห็นใจคันธรส
และกล่าวเสียงอ่อนหวานปลอบใจ
“ดีแล้วค่ะ...ที่พี่รสจับไต๋ไอ้แมงดานั่นได้...โชคดีรอดตัวไป...ไม่ต้องเสียรู้มัน”
คันธรสผงกศีรษะ
ทำเป็นยอมรับคำพูดของหญิงสาวรุ่นน้อง
ก่อนจะตัดบทเพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปอีก
“พี่ไปล่ะเพื่อนๆ
รออยู่...ว่างๆ
ก็แวะไปที่บริษัทนะ...พี่มีงานแสดงสินค้าหลายตัวให้ช่วย”
พริตตี้สาวยิ้มหวาน
พนมมือไหว้คันธรสอย่างขอบคุณ
คันธรสยิ้มให้นิดหนึ่ง
ก็สลัดความคิดที่หงุดหงิดเกี่ยวกับศักดาออกไป
ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว...กำลังจะเริ่มต้นใหม่กับเสี่ยเซี้ยง...อดีตช่างมันเถอะ
หญิงสาวสวยเฝ้าบอกกับตัวเอง
ในตอนนั้นฐิติพรรณที่เดินแยกออกไปทานลานจอดรถ
นัยต์ตาคู่งามนั้นทอแววครุ่นคิด
.............................
คันธรสกลับไปในห้อง
VIP
ก็พบว่าเหลือเพียงเสี่ยเซี้ยงที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว
หญิงสาวทรุดนั่งลงบนโซฟาหนังเนื้อนุ่มนั้น
กระแซเข้าไปใกล้ๆ ร่างกำยำ
กล่าวเสียงหวาน
“อ้าว...แล้วเสี่ยทองกับพวกล่ะคะ”
เสี่ยโฉดหัวเราะ
กล่าวยิ้มๆ
“พวกนั้นมันติดธุระขอตัวกลับไปก่อน”
“แหม...อย่างน้อยก็น่าจะรอให้รสกลับมาก่อน...เลยไม่ได้ลาเลย”
คันธรสบ่น
แต่ไม่ค่อยจริงจังนัก
เสี่ยเซี้ยงที่ได้กลิ่นกายสาวหอมรวยรินมาแตะจมูก
ร่างอุ่นๆ ที่กระแซะมาใกล้ๆ
ก็ทำให้ควยยักษ์เริ่มกระดิกตัว
มือหยาบของเสี่ยโฉดเอื้อมไปโปะบนหน้าตักของสาวสวย
จากนั้นเนื้ออ่อนๆ
ของคันธรสก็ถูกเสี่ยเซี้ยงคลำคลึงอย่างละลานใจ
ผิวเนียนๆ
นั้นกระตุ้นให้ต่อมตัณหาของเสี่ยโฉดพล่านไปด้วยความกระหาย
ส่วนคันธรสนั้นเล่า
มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงที่ลากอยู่ตรงขาอ่อน
ขยำเลยขึ้นมาเรื่อยๆ ทีละนิด
ทีละนิด จนถึงโคนขาอ่อน
นิ้วแข็งนั้นสะกิดไปตามเนินนูนที่ซ่อนอยู่ในกางเกงในผ้าเบาบางอย่างชำนาญ
ทำให้ร่างบางงามของหญิงสาวอ่อนระทวยไปกับพนักพิง
แหงนหน้าสวยเพริด ปากคราง
ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดด ซี๊ดดดดด
“เสี่ย...เสี่ย.....อี้ยยยยย...ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดด...เสี่ยขา.....อี้ยยยย”
คันธรสพยายามผลักมือของเสี่ยเซี้ยงออกไป
แต่มือขาวเรียวงามของตัวเองมันอ่อนแรงยิ่งนัก
เพราะความเสียวซ่านรัญจวนที่พลุ่งพล่านมาจากเนินนูนมันราวกับไฟฟ้าที่ช๊อต
เข้ามาจนทำให้ร่างของเธอเปลี้ยไปหมด
ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนเมื่อเสี่ยเซี้ยงจับขางามข้างซ้ายของเธอข้างหนึ่งขึ้น
พาดตักเขา และถลกกระโปรงสีแดงสดนั้นขึ้นไปจนสุดโคนขา
จนทำให้โคกอูมของเธอแบะออกมาร่อนรับมือหยาบๆ
ของเสี่ยเซี้ยงที่ขยำลงไปอย่างมันมือ
“เสี่ย...เสี่ย..ขา...อุ๊ยยยยย...เดี๋ยว...มีคนมา...นะคะ...อี๊ยยยยย....อย่าค่ะ...ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดด...”
มือหยาบที่ขยำเต็มๆ
ไปตรงเนินสามเหลี่ยมที่นูนแน่น
ทำให้เสี่ยโฉดครางกระเส่าอย่างกระหาย
ใช้นิ้วแข็งของตัวเองสอดไปตามเนื้อผ้าบางเบา
ลากไล้บดเบียดร่องหลืบของสาวสวยลงไปสะกิดเม็ดละมุนที่เสี่ยเซี้ยงรับรู้ได้
ว่ากำลังระริกร่านรับการเล้าโลมของเขาอย่างเร่าร้อน
เสี่ยโฉดเขม้นมองไปยังร่างบางงามที่นั่งระทวยข้างๆ
กำลังสั่นไหว
บิดส่ายอย่างสุดรัญจวนนั้นด้วยแววตาที่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน
“อูยยยย...เต็มมือจริงๆ
ที่รักของผม...คืนนี้คุณสวยสุดยอดไปเลย...รู้ไหมจ๊ะ”
เพลิงสวาทที่กำลังลุกโชนในร่าง
ทำให้คันธรสครางออกมา
พึมพำราวกับละเมอ
“เสี่ย...เสี่ย...ซี๊ดดดด...ซี๊ดดดดด...เรา...เรากลับบ้าน...กันเถอะค่ะ...ซี๊ดดดด...อี้ยยยย”
เสี่ยเซี้ยงยิ้ม
กระซิบไปที่ข้างหูของสาวสวย
“คุณรส..อยาก...ใช่ไหมจ๊ะ...คนสวย”
คันธรสใบหน้าแดงก่ำ
ดวงตาหรี่ปรือ แย้มยิ้มออกมา
“ค่ะ...รส...รส...อยาก...ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดด...เรารีบกลับ...กันนะคะ...เสี่ยขา...”
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
ฉุดมือของคันธรสขึ้นมา
ซึ่งสาวสวยที่คิดว่าอีกฝ่ายจะพาเธอกลับก็หัวเราะคิกคิกๆ
ลุกขึ้นเดินตามออกไปแต่โดยดี
เสี่ยเซี้ยงเดินโอบร่างงามของคันธรสเข้าไปในลิฟต์หรู
พลิกร่างงามให้หันกลับมาปะทะกับร่างเขา
โดยที่หญิงสาวไม่ทันเห็นการกดปุ่มของเสี่ยเซี้ยง
ซึ่งแทนที่เสี่ยโฉดจะกดลงไปยังชั้นจอดรถ
แต่เขากลับกดไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม
คันธรสหัวเราะคิกคิกๆ
โอบไปรอบคอหนา
อ้าปากงามที่เคลือบลิปสติกสีชมพูวาว
รับการบดขยี้จูบจากปากหนาของเสี่ยเซี้ยง
เพลิงสวาทที่กระสันพล่านระริกทำให้หญิงสาวสวยไม่ได้รับรู้ว่าลิฟต์ตัวนั้น
กำลังพุ่งขึ้นไปชั้นบน
ไม่ใช่ตรงดิ่งลงไปชั้นล่าง
สิ่งเดียวที่เธอรับรู้คือความเสียวซ่านที่เอ่อพล่านอยู่เต็มโพรงปากจากลิ้น
หนาที่กระหวัดเข้ามา ซ๊วบบ
ซ๊วบบบ อิ้ออออ อื้ออออ
สาวสวยครางครวญอย่างเสียวสนุก
แม้กระทั่งเสี่ยโฉดพาร่างงามในลักษณะแบบโอบเอวคอดประคองแนบชิดอกเดินออกไป
จากลิฟต์
คันธรสก็ไม่ได้สังเกตว่าชั้นที่เธอออกมานั้นเป็นชั้นบนสุดของโรงแรม
เสียงหัวเราะกระซิกกระซี้ของหญิงสาวหยุดชะงักลง
เมื่อเธอรับรู้ในที่สุดว่าเสี่ยเซี้ยงกำลังพาเธอเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง
ด้วยความที่ยังงงๆ
ว่าอีกฝ่ายทำอะไร
ร่างบางของเธอก็ถูกรุนเข้าไปในห้องแล้ว
และร่างกำยำของเสี่ยโฉดก็เดินตามเข้ามา
และปิดประตูลงกลอน
“เสี่ย...เสี่ย..”
คันธรสงง
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะกระเส่า
รวบร่างงามเข้าไปซอนไซ้ไปตามซอกคอขาว
“ผมทนขับรถกลับไปไม่ได้หรอก...เรามาสนุกกันที่นี่เถอะ”
สาวสวยเองก็เสียวซ่านจากการถูกปั่นอารมณ์จนขนอ่อนๆ
ลุกชัน แต่ยังลังเลใจ
“เสี่ย..เสี่ย..ขา..แล้วเสี่ยทอง..เขาก็รู้สิคะ...ว่าเราขึ้นมาที่นี่...”
ในเวลานั้นถึงแม้เธอจะตกลงปลงใจกับเสี่ยเซี้ยงแล้ว
แต่ด้วยฐานะหน้าตาในสังคม
เธอก็ยังไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเธอมีอะไรถึงขั้นไหนกับผู้ชายทั้งๆ
ที่ยังไม่ได้แต่งงาน
“ไม่ต้องห่วงหรอก..ที่รัก...เสี่ยทองเขากลับไปแล้ว”
เสี่ยเซี้ยงกระซุ่นตอบ
และบดขยี้จูบไปที่ปากงาม
ซึ่งอย่างช้าๆ
เจ้าของปากงามคนสวยก็หมดความคิดดิ้นรน
โอบแขนเรียวบางไปรอบคอหนา
และแหงนหน้าขึ้นรับการบดขยี้อย่างรัญจวนใจ
ซี้ดดดดด ซี๊ดดดดด
...เสี่ย..ขา...ซี๊ดดดดดดด
คันธรสที่เชื่อสนิทว่าเสี่ยทองนั้นไม่อยู่แล้ว
จึงยอมให้เพลิงสวาทที่โหมกระหน่ำเข้ามามีชัยชนะเหนือความกลัวว่าจะมีคนรู้
แต่หญิงสาวสวยหารู้ไม่ว่าที่ผนังด้านหนึ่งของห้องหรูนั้นที่เป็นผนังกระจก
เงาบานใหญ่ที่สะท้อนภาพของเธอกำลังยืนระทวยแลกลิ้นจูบอย่างดูดดื่มกับเสี่ย
เซี้ยงนั้น
เป็นผนังพิเศษที่เสี่ยอ้วนตัณหากลับแอบทำอย่างจงใจเอาไว้
และในห้องลับที่อยู่อีกด้านของผนังกระจกนั้น
เสี่ยอ้วนกับพวกยืนกำลังยืนควยตุง
มองเสี่ยเซี้ยงที่กำลังป่ายมือไปตามสะโพกผายกลม
ถลกกระโปรงสีแดงเพลิงนั้นขึ้นไปเรื่อยๆ
จนค่อยๆ แลเห็นแนวขางามขาวสล้างเรียวงามไต่ไปอย่างช้าๆ
จนเมื่อกระโปรงของคันธรสไปตลบตรงเอว
ชายตัณหากลับทั้งหมดก็เบิกตาแทบถลน
มองไปยังมือหยาบๆ
ของเสี่ยเซี้ยงที่กำลังขยำไปตรงแก้มก้นขาวผ่องเป็นลอนงามนั้น
“โอยยยย...อูยยยยย...มันช่างขาวอะไรอย่างนั้น...คุณรส...คนสวยยย”
เสี่ยทองครางครวญออกมาอย่างกระสันซ่าน
เช่นเดียวกับพรรคพวกซึ่งมีเสี่ยคิ้มรวมอยู่ด้วยสามสี่คนที่หอบหายใจออกมาแรงๆ
อย่างหื่นกระหาย
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะกระเส่า
จงใจผลักให้คันธรสถอยอย่างช้าๆ
ไปยืนอยู่หน้าผนังกระจกนั้น
โดยโอบหญิงสาวอยู่จากทางด้านหลัง
ปากหนานั้นจูบไปที่ต้นคอขาว
กระซุ่นว่า
“คุณรสดูที่กระจกสิครับ
คุณรู้ไหมว่าตัวเองสวยแค่ไหน”
คันธรสปรือตาที่กำลังพล่านไปด้วยเพลิงกระสัน
มองภาพสะท้อนที่แสดงร่างของตัวเองกำลังยืนระทวยอยู่ในอ้อมแขนกำยำของเสี่ย
เซี้ยงที่ประกบด้านหลัง
แล้วยิ้มออกมาใส่กระจกอย่างหวานหยาดเยิ้ม
ขางามแบะถ่างออกไปอย่างรัญจวน
แอ่นโคกอูมที่ซ่อนอยู่ในกางเกงตัวน้อยเนื้อผ้าบางเบาร่อนรับมือหยาบของเสี่ย
เซี้ยงที่ขยำลงมา ปากครางครวญ
ซี๊ดดดด ซี๊ดดดด
ซี๊ดดดดด…เสี่ยขา...ซี๊ดดดด...อื้อออออ
ภาพที่กระจ่างตรงหน้ากระตุ้นให้ใบหน้าอูมของเสี่ยทองที่เบียดเข้าไปแนบ
ชิดกระจกนั้นหอบหายใจออกมาหนักๆ
จนไอจากจมูกรดหอบๆ ไปกับผนัง
ใบหน้าของเสี่ยอ้วนบิดเบี้ยวอย่างกระสันซ่าน
ร้องกระเส่าเสียงดังโดยไม่ต้องกลัวว่าอีกด้านจะได้ยิน
“โอววววว.....โอววววว...โอยยยย...ขอโอกาสให้...ได้ขยำหน่อยเถอะ....แม่คุณ
...แม่ทูนหัว..ของเสี่ยทอง....ทำไมมันโหนก..มันนูนอย่างนั้นนนนน...”
เสี่ยคิ้มกับพวกที่ถลึงตามองอยู่ก็มีอาการไม่ต่างกับเสี่ยทอง
บางคนถึงกับทนไม่ไหว
ถอดซิปกางเกง
ควักมือล้วงอาวุธของตัวเองมากระตุกถอกอย่างสุดเสียว
และจากนั้น
ตาที่เบิกถลนของเสี่ยทองกับพวกนั้นยิ่งแทบทะลุออกไปจากเบ้า
เมื่อสองมือของเสี่ยเซี้ยงค่อยๆ
รูดซิปเสื้อที่กลางหลังของคันธรส
และอย่างช้าๆ
อาภรณ์สีแดงเพลิงก็ร่วงไปกองที่ปลายรองเท้าส้นสูงของหญิงสาว
ชายกลางคนหน้าอูมที่กำลังถอกควยตัวเอง
ใบหน้านั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความกระสันเมื่อภาพของร่างขาวๆ
ที่อยู่ในชุดชั้นในบางเบากำลังยืนส่ายอยู่ตรงหน้า
โคกอูมๆที่ปริแน่นอยู่ในสลิปสีแดง
กำลังลอยเด่นล้อตาอยู่ไม่ห่างเกินกว่าห้าเมตรนั้นยั่วความรู้สึกของนัก
ธุรกิจตัณหากลับจนสุดจะทนทานแล้ว
“อ๊าซซซซซซซ
อ๊าวซซซซซซซซ....”
มือที่กุมท่อนควย
ถอกไปยังลำลึงก์ตัวเองถี่ถี่
ร่างอ้วนหนากระตุกวาบ
กระตุกพรวดน้ำกามขาวๆ
พุ่งปรี๊ดอออกไปอย่างรุนแรง
“โอยยยยย..โอยยยย...โอยยยย....ไม่ไหว...แล้ว...ผมทนไม่ไหวววว”
ปากหนาๆ
นั้นบ่นพร่ำเพร้อออกมา
ใบหน้าแบะด้วยความสุข
เมื่อจินตนาการว่าควยของตัวเองนั้นกำลังเบียดคลึงอยู่ตรงโคกอูมนั้น
เสี่ยเซี้ยงที่รู้ดีว่าพรรคพวกที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกระจกนั้นกำลังเบิ่ง
จ้องมาแบบตาไม่กระพริบ
ก็หัวเราะกระเส่าอย่างสนุกอารมณ์
มือหยาบๆ ที่ลากไล้ตรงหน้าท้องขาวนั้นค่อยๆ
เลื่อนลากลงไปควานเนินสามเหลี่ยมที่ร่อนท้าสายตาของเสี่ยอ้วนกับพวกอยู่อีก
ด้านอย่างเมามัน
ท่ามกลางอาการบิดส่ายของร่างขาวผ่องที่สุดงามนั้น
ถึงตอนนี้เสี่ยทองกับพวกที่เหลือก็ไม่มีใครสามารถสะกดใจได้อีกต่อไป
ทุกคนต่างล้วงมือเข้าไปถอกควยที่พุ่งทะลุเป้ากางเกงออกมาจนทั่วถ้วนทุกตัวคน
ดวงตาแดงก่ำเบิกจ้องไปยังมือหนาของเสี่ยเซี้ยงที่กำลังขยำไปตรงเนินสาม
เหลี่ยมนั้นด้วยดวงตาที่แทบถลนออกมาจากเบ้า
“ซี๊ดดดดด
ซี๊ดดดดดด
เสี่ยขา....เสี่ย....ขา...รส..รส...เสียวววว...อี้ยยยยยยย”
ถึงแม้ว่าเสียงจากด้านในบริเวณที่เสี่ยตัณหาชุมนุมอยู่จะไม่มีทางลอดไปอีก
ฝั่ง
แต่เสียงจากอีกฝั่งนั้นสามารถได้ยินกลับเข้ามาได้อย่างถนัดชัดเจน
ตอนนั้นเสียงกระสันซ่านของคันธรสจึงได้ยินเต็มสองหูของเสี่ยอ้วนกับพวก
“อูยยยยยย...อูยยยยยย..ไม่ใช่แค่คนสวย..ที่เสียวววว...อูยยยย...เสี่ย..
เสี่ย..ก็เสียววว....อูยยยย..อูยยยย...โอววว...โอววว...อย่างนั้นคนสวย
แอ่นโคกอีก
แอ่นอีก...อูยยย...แบะขาอีกหน่อย....ดีดี...อย่างนั้น...แบะอีกๆ...โอววว...
อูยยยย...โอววว”
นั่นคือเสียงเสี่ยอีกคนหนึ่งที่ตัวขาวตาเล็กตี่เหมือนตาหมูร้องคร่ำครวญ
พลางถอกท่อนเนื้อที่อวบอ้วนของตนเองอย่างรุนแรง
มือกระตุกถี่ถี่
ปากแบะพูดน้ำลายไหลฟ่อดออกมาตามมุมปาก
ในเวลานั้นนิ้วสากๆ
ของเสี่ยเซี้ยงเริ่มสอดผ่านขอบยางของสลิปสีแดงลงไป
ท่ามกลางอาการสั่นสยิวของร่างงาม
คันธรสตัวอ่อนระทวยพิงไปกับร่างกำยำของเสี่ยเซี้ยง
แบะโคนขา
ส่ายสะโพกไหวไปตามจังหวะที่มือหยาบนั้นคลานผ่านใต้ร่มผ้าของตัวเธอเข้าไปขยำ
เนินสวาทที่ตอนนั้นฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำเงี่ยนที่พรั่งพรูออกมา
ปากงามของหญิงสาวครางครวญ
“อี๊ยยยยยย...อี๊ยยยยย...ซี๊ดดดดด.....ซี๊ดดดดด...เสี่ย....เสี่ยขา...ซี๊ดดดด..”
เสี่ยเซี้ยงกระหยิ่ม
อาการขมิบตอดนิ้วแบบถี่ถี่ของโพรงหลืบและน้ำที่พรั่งพรูออกมา
ทำให้เสี่ยโฉดรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของสาวสวยและยั่วให้ไอ้ทองกับพวกคลั่งกัน
อยู่ในห้องนั้น มือหยาบจึงกระตุกยิกๆ
อยู่ภายใต้กางเกงในแนบเนื้อสีแดงสดนั้น
เสียงแจ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังถี่ยิบ
พร้อมๆ กับอาการบิดไหวส่ายร่านระริกจากร่างงามของคันธรส
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แจ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงผสานกันระหว่างมือหยาบที่กระตุกร่องหลืบที่ฉ่ำแฉะกับเสียงครางจากปาก
งามที่เคลือบสีชมพูสดแวววาวนั้นดังลั่นชัดเจนสองหูของเสี่ยทองตัณหากลับกับ
พวกที่ยืนบิดเอว กระทอกควยของตัวเอง
อูยยยยย
อูยยยยย อูยยยยยย อูยยยยยยย
โอวววว โอวววว
ต่างคนต่างแผดร้องออกมาอย่างเสียวซ่าน
ยิ่งแลเห็นคันธรสกำลังกระตุกส่ายสุดๆ
ใบหน้าเหยเกนั้นอ้าร้อง
อ๊ายย อ๊ายยๆๆๆๆๆ อ๊ะ อ๊ะ
อ๊ะ ก็ยิ่งสร้างความเสียว
ต่างคนต่างจินตนาการว่าปากงามสีชมพูสวยแวววาวที่กำลังอ้าออกนั้นกำลังโอบอม
ท่อนเอ็นของแต่ละคนอยู่
อัซซซ
อัซซซ อัซซซซๆๆๆๆ....อูยยยย
อูยยยย
เสียงเสี่ยตัณหากลับทั้งหลายกระซุ่นร้องออกมาปากแบะ
น้ำลายไหลฟูมปากไปตามๆ กัน
ตาเบิกถลนไปตามมือหยาบของเสี่ยเซี้ยงที่กระหวัดยิกๆๆๆๆๆๆ
อยู่ตรงเนินนูนของโคกสาวสวย
ทันใดนั้นภาพที่เสี่ยตัณหากลับมองเห็นเป็นตาเดียวกันก็คือ
ร่างงามในอ้อมแขนกำยำของเสี่ยเซี้ยงกระตุกตัวพร่านๆ
แอ่นโคกอูมของตัวเองแบบสุดๆ
เนื้อขาวๆ เต้นถี่ยิบ
ร้องสุดเสียง อ๊ายยยยยยยยย
อ๊ายยยยยยยย
แสดงอาการน้ำกระสันต์ทะลักจุดแตกไปคามือหยาบที่กระตุกโพรงหลืบของเธออยู่
แทบจะเป็นเวลาไล่เรี่ยพร้อมๆ
กัน
เสี่ยทองกับพวกที่ยืนถอกควยตัวเองก็แผดร้องออกมาราวกับวัวถูกเชือดลั่นห้อง
อ๊าซซซซ
อ๊าวซซซซ อ้าวววว อูยยยยย
อ๊าซซซซซซ อ๊าซซซซซ
ต่างคนต่างบิดตัวกระฉูดน้ำกามกันออกมาแบบไม่มีรั้งออม
ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ดดด
กลิ่นคาวของน้ำเมือกคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น
แต่ยังไม่ทันที่เสี่ยตัณหากลับทั้งหมดจะได้พัก
เพราะทันใดนั้นเองควยที่เพิ่งกระฉูดน้ำกามของแต่ละคนไปหยกๆ
ต่างกระเด้งหวือขึ้นมาส่ายหัวถอกหงึกหงัก
ทันทีที่สายตาของทั้งหมดที่เบิกถลนมองไปยังเสี่ยเซี่ยง
แลเห็นเพื่อนผู้โชคดีทำการครูดพรวดๆ
สลิปสีแดงที่รัดรึงเนินสวาทอยู่ก็หลุดไปคาอยูที่ข้อเท้าขวาของคันธรส
และโคกอูมอันมีขนละเอียดดำปกคลุมนั้นแบะออกมาล่อสายตา
“โอยยยยย...แม่คุณเอ๋ย...ทำไมมันอูมสวยอย่างนั้น”
เสี่ยคิ้มถึงกับร้องกระเส่า
ในบรรดาบ้านเล็กที่มีอยู่นับสิบ
หามีใครที่มีโคกหีที่โหนกอูมอย่างที่เขาเห็นเบื้องหน้านี้เลย
น้ำลายของเสี่ยตัณหากลับไหลยืดออกมาทางมุมปากอย่างน่าทุเรส
ดวงตาของทั้งหมดเบิ่งกว้างจนสายเลือดวิ่งเป็นริ้วๆ
เมื่อแลเห็นตะบองยักษ์ของเสี่ยเซี้ยงพรวดพราดออกมาจากร่างกำยำที่ประกบอยู่
ข้างหลังถนัดตา ต่างคนต่างซู๊ดดดดดด
ปากดังลั่นมือกระตุกไปขยำควยตัวเองกันเป็นแถว
ในเวลานั้นเสี่ยเซี้ยงนั่งหมิ่นๆ
อยู่ตรงข้างเตียงนอนที่หันหน้าเข้าหากระจก
และใช้มือหนาขยุ้มไปตรงเอวคอดของคันธรสดึงให้หญิงสาวถอยกลับมานั่งที่ตัก
ก่อนจะใช้มือแบะโคนขาอ่อนทั้งสองข้างให้คร่อมไปกับลำขาแข็งแรงของเขา
ในสภาพนั้นโพรงหลืบที่ฉ่ำแฉะด้วยน้ำใสก็เผยอกลีบอูมแบะออกจนเห็นเนื้อชมพู
สวยข้างในออกมาล้อตาของเสี่ยทองกับพวก
“อูยยยยยย..ขนาดโดน...เสี่ยเซี้ยงกระทุ้งไปแล้วนะเนี่ย
โอยๆๆๆๆ..ทำไมช่างสวยอย่างนี่...หีอูมจริงๆๆๆ...อูยยยย...อูยยยย...แตดดิ้น
ระริก...น่าเลียชิบหาย.....”
เสี่ยทองครางกระสัน
มือกระทอกควยอย่างแรงๆ
เพื่อระบายอารมณ์กระหายหื่น
ใบหน้าอูมด้วยไขมันนั้นมันเยิ้มด้วยเหงื่อกาฬที่พรั่งพรูออกมา
คันธรสกัดริมฝีปากแน่นอย่างเสียวกระสัน
แหงนหน้าเพริด
ร่างบางที่พิงเอนไปกับหน้าอกของเสี่ยเซี่ยงนั้นกระตุกวาบๆ
ปลายเท้าที่ยังใส่ส้นสูงสั่นระริกๆ
เมื่อหัวบานนั้นบดเบียดโพรงหลืบของเธอขึ้นมา
กลีบอูมนั้นแบะถ้าถ่างออกเพื่อเปิดทางโอบรัดท่อนควยยักษ์นั้นเข้าไปในโพรง
สวาทของเธอ ท่ามกลางอาการสยิวซ่านนั้น
โพรงหลืบของคันธรสก็ขับน้ำใสๆ
ไหลพรั่งพรูทะลักออกมาอาบลำเอ็นดำจนเป็นมันปลาบ
เสี่ยคิ้มกับพวกที่เหลือเองก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับเสี่ยทอง
มือกำท่อนควยที่ต่างคนต่างกระฉูดน้ำกามกันไปคนละครั้งแล้ว
กระทอกเอ็นอวบของตนเอง
ยืนบิดสะโพกปากคราง อู้วววว
อู้วววว เบิกตาแทบถลน
มองกลีบอูมเต่งนั้นขยายออกกลืนท่อนควยยักษ์เข้าไปจนกระทั่งกระโปกพวงไข่ของ
เสี่ยเซี้ยงเบียดชิดไปกับก้นขาวๆ
ของสาวสวย
อู้วววววว
โอวววววว โอววววว โอววววว
เสี่ยตัณหากลับทั้งหลายส่งเสียงครางกระเส่า
มือกระทอกควยแรงขึ้นๆ
ใบหน้าเบี้ยวไปตามๆ
กันด้วยความกระสัน
เมื่อต่างคนต่างเห็นสาวสวยเริ่มขย่มตัวของเธอเองลงไปบนตอยักษ์นั้นอย่างช้าๆ
และเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าสวยบาดตาอ้าปากเหยเก
ร้องครางครวญ
ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดดด...ซี๊ดดดดดด....อ๊ายยย...อ๊ายยย...อ๊ายยยย.
เสี่ยโฉดเองก็กัดฟันแน่นอย่างกระสันถอกบานที่แผ่ร่าคาคับโพรงหลืบที่บีบเข้า
มสุดๆ มือหยาบขยำไปที่เอวคอด
ส่งแรงขยับให้สาวสวยเร่งกระดกก้นขาวขย่มควยตัวเอง
พร้อมๆ กับกระแทกสะโพกอัดท่อนเอ็นสวนกลับไป
เสียง ปั่บ ปั่บ ปั่บ ปั่บ
ปั่บ ปั่บ ดังเป็นจังหวะผสานกับเสียง
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ
ที่ดังจากปานงามของคันธรส
โอวววว
โอววว ที่รัก...ขย่มผมแรงๆ...แรงๆ...เร็วๆๆๆ...โอวววว
โอววว..อย่างนั้นๆ...ดี...โอววว..อูยยยย..สุดยอดดด...โอววววว
เสียงครางกระเส่าของเสี่ยเซี้ยง
ผสานกับเสียงปั่บ ปั่บ ปั่บ
ปั่บ
ดังถี่ยิบเร่งเร้าให้อารมณ์ของเสี่ยตัณหากลับที่อยู่อีกด้าน
กระทอกควยตัวเองถี่ขึ้นๆ
มองใบหน้าสวยบาดตาที่บิดเบี้ยวเหยเกด้วยความกระสัน
นมเต่งเต้าที่แม้ซ่อนอยู่ในบราเซียร์สีแดงสดตัวสุดท้ายที่รัดรึงอยู่บนเรือง
ร่างงาม
แต่แรงขย่มตัวกระตุกร่างและแรงอัดสวนมาจากควยยักษ์ก็ยังทำให้ก้อนหยุ่นเต็ม
มือนั้นกระเด้งกระเพื่อมๆ
ยั่วตายั่วอารมณ์ของเสี่ยตัณหากลับทั้งหลายจนอ้าปากหวอ
น้ำลายไหลยืดออกมาแทบทุกคน
มือที่กระทอกควยกระตุกถี่ยิบ
ต่างคนต่างร้อง อูซซซซ อูซซซซ
อูซซซซซ อูซซซซซ
ใบหน้ามันเยิ้มไปด้วยเหงื่อกาฬที่แตกพลั่ก
ปั่บ
ปั่บ ปั่บ ปั่บ ปั่บ อ๊ซซซซ
อัซซซซซ อัซซซซ อ๊ะ อ๊ อ๊ะ
อ๊ะ อ๊ะๆๆๆๆๆ ปั่บๆๆๆๆๆๆ
เสียงโพรงหลืบที่ขย่มรัดไปบนตอยักษ์ดังลั่นผสานกับเสียงกระโปกควยที่กระแทก
ไปตรงแก้มก้นขาวผ่องทุกครั้งที่กลีบอูมนั้นรูดลงมากลืนท่อนเอ็นเข้าไปทั้ง
ดุ้น
และหัวถอกที่ทะลวงลึงขึ้นไปจนกระแทกผนังมดลูกก็ผลิตเสียงครางครวญจากปากงาม
พร้อมๆ เสียงดังกระเส่าจากเสี่ยเซี้ยง
เสียงเหล่านั้นดังประสานกันระงมอยู่ในห้องสวีทพิเศษสุดยอดของเสี่ยทองตัณหา
กลับ
ในอีกด้านหนึ่งของผนังกระจกเล่า
เสียงแผดร้องคำรามกระเส่าของเสี่ยตัณหากลับทั้งหลายก็ดังลั่นไม่แพ้กัน
มือของทุกคนที่กระทอกควยตัวเองอยู่นั้นเยิ้มย้อยไปด้วยน้ำเงี่ยนที่ขุ่น
คลั่กจากหัวถอกที่พุ่งปรี๊ดๆ
ลามลงมาตามลำควยแข็งกันทุกคน
เสียง อูซซซซซ อูซซซซซซ
ดังต่อเนื่องอย่างไม่มีเสียงขาดตอน
ดวงตาเบิกโพลงหลายคู่นั้นไม่มีคลายคลาดไปจากกลีบอูมที่ปลิ้นไปปลิ้นมาบนลำ
ควยยักษ์ที่บดทะลวงโพรงหลืบราวกับลูกสูบ
ซึ่งโพรงสวาทของสาวสดแลเห็นได้จากอีกด้านอย่างชัดเจนว่ากำลังพรั่งพรูน้ำ
เมือกใสๆ
หลั่งไหลราดออกมาจนลำเอ็นดำยักษ์นั้นมันปลาบไปทั้งดุ้น
เสียงพั่บ พั่บ พั่บ พั่บ
นั้นยิ่งดังสดใสขึ้นไปอีกเมื่อได้รับน้ำหล่อเลี้ยงจากโพรงสวาท
จังหวะกระแทกก็ยิ่งดังขึ้นถี่ขึ้นราวกับเสียงประทัด
ปั่บ ปั่บ ปั่บ ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปากงามก็ยิ่งครางครวญไปตามแรงกระเด้านั้น
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ
โพรงหลืบที่ขมิบตอดสุดๆ
ไปบนลำเอ็นอวบ พร้อมๆ
กับอาการที่ร่างงามนั้นเกร็งขย่มอย่างเร่าร้อน
ความเสียวกระสันที่เสี่ยเซี้ยงได้รับก็เริ่มไต่ระดับไปอย่างรวดเร็ว
ปากหนาของเสี่ยเซี้ยงแผดร้องกระเส่า
อูซซซซว อูซซซซซซ โอวววววว
มือหยาบนั้นเร่งกดไปที่เอวคอดเพื่อบ่งบอกเป็นสัญญาณให้หญิงสาวรู้ว่าตัวเขา
นั้นใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
สัญญาณจากมืออวบที่ขยุ้มจิกไปตรงเอวคอดของเธอนั้น
คันธรสรับทราบได้อย่างรู้ใจแล้วหลังจากถูกควยยักษ์ตะบันใส่โพรงสวาทในท่านี้
มานับครั้งไม่ถ้วน
ดังนั้นสาวสวยจึงเกร็งขาจิกปลายเท้าที่สวมส้นสูงสีแดงเพลิง
เร่งจังหวะกระแทกก้นขาวดูดกลืนท่อนควยอวบที่กระทอกสวนขึ้นอย่างมาอย่างเร่า
ร้อน เสียง ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดังถี่ยิบ พร้อมๆ
กับเสียงครางกระเส่าจากปากงามและปากหนาของเสี่ยเซี้ยงผสานกัน
อูซซซๆๆๆๆๆ
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใบหน้าของเสี่ยเซี้ยงเริ่มบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ
นัยต์ตาเริ่มขวาง ปากแบะห้อย
ร้องอูซซซซซซ อูซซซซซ
เหงื่อกาฬไหลมาแตกพลั่กจนหน้าเยิ้มไปหมด
ส่วนคันธรสก็ไม่มีสภาพที่ดีไปกว่าร่างขาวของเธอเป็นประกายล้อแสงไฟเพราะ
เหงื่อเม็ดเล็กๆ
ผุดพราดขึ้นมาทั่วทุกขุมขน
ผมเผ้ารุงรังปรกไปตามวงหน้างามยุ่งเหยิง
หลับตาพริ้ม แหงนหน้าเริ่ดครางดัง
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงดังลอดไปยังบริเวณตรงข้ามอย่างชัดเจนก้องหูของทุกคนในด้านนั้น
โอวววว...ที่รัก...อูววววว...ผมจะถึงแล้ว....เร็วๆๆๆๆ...แรงๆๆๆๆๆ...อูยยยยยๆๆๆๆ
เสียงครางกระเส่าจากปากหนาดูมนต์ดำที่สั่งได้ดั่งใจ
ร่างบางงามของคันธรสเกร็งขย่มกดก้นขาวขย่มกลืนท่อนอวบที่สวนพรวดพราดอยู่คับ
โพรงหลืบอย่างเร็วร่าน
นมเต่งเต้าที่ห่อตัวอยู่ในบราเซียร์สีแดงเด้งดึ๋งดึ๋งๆๆๆๆ
ปั่บๆๆๆๆๆๆ อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ
อูซซซซววๆๆๆ
“ไม่ไหวแล้วโว้ย...โอยยยยยย....อ๊าซซซซซซซซซซ”
ขณะที่เสี่ยโฉดกำลังไต่ระดับความกระสัน
แต่คนกลุ่มใหญ่ในอีกด้านหนึ่งของผนังกระจกกลับแซงโค้งถึงที่ไปก่อน
เสี่ยทองเป็นคนแรกที่ร้องออกมา
ปากแบะออกแหกปากลั่น
มือกระทอกควยตัวเองถี่ยิบ
กระฉูดน้ำเมือกออกมาเป็นครั้งที่สองในค่ำคืน
อ๊ซซซซ อ๊ซซซซซ อ๊ซซซซ
พอเสี่ยทองพรวดน้ำกาม
บรรดานักธุรกิจตัณหากลับที่อยู่ข้างๆ
พลอยพร้อมใจกันปลดปล่อยอารมณ์หื่นออกมาแทบจะพร้อมๆ
กัน เสียงแหกปากดังลั่นห้อง
“อูยยยยย...อูยยยยย...โอวววว....โอวววววว….อ๊าซซซซซซ
อ๊าวซซซซ”
น้ำเมือกหลายสายแข่งกันพุ่ง
ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด
กระฉูดออกมาจากหัวถอกราดรดไปทั่วบริเวณนั้น
กลิ่นคาวคลุ้งไปหมด
ที่ตามมาติดๆ
ก็คือเสี่ยเซี้ยงที่ร้องอู้วววววว
อู้ววววว อู้ววววว
มือขยำไปตรงเอวคอดนั้นกดร่างของคันธรสลงมาแน่น
กระทอกควยอัดสวน ป้าบๆๆๆๆๆ
พรวดน้ำกามระลอกใหญ่เข้าไปในโพรงสวาทของสาวสวยที่ขยอกกลืนดูดรัดราวกับจะรีด
เค้นน้ำกามให้ออกมาจากหัวถอกบานร่าที่คับโพรงนั้นให้หมดทุกหยดหยาด
“อูววววว
อูวววววว อูวววววววว....สุดยอด....ที่รัก...ของผม”
เสี่ยเซี้ยงกระทอกควยไปเบาๆ
ขณะที่ร่างของคันธรสที่นั่งแหกขาถ่างคร่อมควยยักษ์ถึงแม้เมื่อครู่จะไม่ใช่
จังหวะถึงจุดสุดยอด
แต่แข้งขาที่เกร็งยกลำตัวขย่มอย่างต่อเนื่องก็ทำให้ร่างโปร่งบางนั้นเหนื่อย
แทบขาดใจ ทิ้งตัวลงไปพิงกับอกหนาที่นั่งอยู่ด้านหลัง
คราง ฮื้อออ ฮื้ออออ เบาๆ
ไปกับมือหยาบที่สอดเข้ามาขยุ้มสองเต้าอิ่มขยำโชว์ต่อหน้าเสี่ยตัณหากลับที่
เบิกตาแทบถลนมองดูอยู่อีกด้าน
ปากหนาเคลียคลออยู่ที่ติ่งหูใสของคันธรส
เสี่ยเซี้ยงกระซุ่นถาม
“เหนื่อยหรือยังจ๊ะ..ที่รัก”
คันธรสหัวเราะคิกๆ
นัยน์ตาปรือหยาดเยิ้ม
พลิกใบหน้าสวยหันไปจูบปากกับปากหนา
บดเบียดเล่นลิ้นกันอย่างดูดดื่ม
เสียง ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ
อาการยั่วเย้านั้นเป็นคำตอบที่ดี
เสี่ยเซี้ยงผู้ซึ่งมีความทรหดเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ก็หัวเราะกระเส่า
ยกตัวขึ้นร่างงามที่คร่อมควยอยู่ก็เลยลุกขึ้นตาม
ถูกเสี่ยเซี้ยงดังไปจนหญิงสาวเซไปจนถึงผนังกระจก
และใช้มือยันเอาไว้
เสี่ยเซี้ยงจับไปที่เอวคอดกิ่ว
ดึงให้สะโพกผายเป็นลอนนั้นลดระดับต่ำลงมาให้ได้ตำแหน่งเหมาะเจาะรับกับควย
อวบที่ยังแข็งคาคับโพรงสวาท
ก่อนที่จะหัวเราะเสียงกระเส่ายักคิ้วให้กับกระจก
รู้ดีว่าพรรคพวกจ้องมาอยู่
มือหยาบของเสี่ยเซี้ยงป่ายไปตามแผ่นหลังขาวเนียน
และกระตุกตะขอบราเซียร์สีแดงนั้นออก
โดยที่คันธรสที่ยืนโก้งโค้งร่อนสะโพกอยู่ให้ความร่วมมือ
ขยับแขนขยับไหล่สลัดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายให้หลุดไปจากเรือนร่างงามของเธอ
และปล่อยให้สองเต้าอวบนั้นกระเด้งออกมาอวดเต็มตาเสี่ยตัณหากลับทั้งหมดที่
แทบจะยื่นหน้าทะลุผนังออกมาอีกด้าน
แล้วบีบคลึงเต้าอวบขาวที่ห้อยกระเด้งดึ๋งดึ๋งตรงหน้าให้สะใจ
นมสองเต้าที่เริ่มกระเด้งยั่วตาเสี่ยทองกับพวกเป็นเพราะในเวลานั้น
เสี่ยเซี้ยงร้องกระซุ่น
อูซซซซ อูซซซซซ อูซซซซซ
เริ่มกระเด้าควยยักษ์ราวลูกสูบกระแทกไปตรงสะโพกผ่ายที่แอ่นร่อนอยู่ตรงหน้า
อย่างเมามัน เสียง ป้าบ ป้าบ
ป้าบ ป้าบ ป้าบ ป้าบ ดังถี่ยิบ
คันธรสที่ยืนโก้งโค้งใช้มือยันกำแพงกระจกอยู่
อ้าปากหวอ ใบหน้าบิดเหยเก
ครางซี๊ดดดด ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดดด
อ๊ายยย อ๊ายยย อ๊ายยยย
เสียวกระสันจนร่างงามของเธอเกร็งกระตุกไปทั่ว
เนื้อขาวเนียนนั้นเต้นระริกๆ
เสี่ยทองกับพวกอ้าปากค้าง
น้ำลายไหลออกมาตามมุมปาก
กับภาพที่คันธรสกำลังผงะมาจนใบหน้าสวยบาดตานั้นแนบชิดกระจก
และยืนแอ่นสะโพก
นมกระเพื่อมไหวอยู่ตรงหน้า
ต่างคงต่างฮือกันเข้าไปชิดผนัง
แต่ทว่าตอนนั้นเสี่ยตัณหากลับทั้งหลายที่กระทอกควยจนน้ำแตกติดกันไปถึงสอง
ครั้ง บางคนก็ฝ่อตัวไปจนเหี่ยว
บางคนที่เจ็บควยเพราะกระทอกแรงจนเกินไป
จนต่างคนต่างได้แต่ยืนควยลีบยืนดูเสี่ยเซี้ยงตะบันควยยักษ์กระแทกสาวสวยตรง
หน้า
แต่ควยของเสี่ยทองกับเสี่ยคิ้มนั้นยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ
เมื่อสองเต้าอวบเริ่มส่ายกระเพื่อมยั่วตาแบบติดๆ
ก็ทำให้ทั้งเสี่ยทั้งสองร้องกระซุ่น
กำมือรอบควยอวบตนเองสาวกระทอกต่อเนื่อง
“อูยยยยย..อูยยยย...นมก็สวย...เต้าอวบน่าขยำจริง...โอยยย..เสี่ยเซี้ยงมันทำบุญด้วยอะไรกัน...โอยยยย..สุดยอด...สุดยอด”
เสี่ยคิ้มครางกระเส่า
นัยต์ตาเหลือกลาน
มองดูสองเต้าอวบที่เด้งดึ๋งๆ
ตรงหน้าอย่างกระหาย
ใคร่อยากจะพังผนังกระจกเข้าไปเค้นคลึงด้วยมือตัวเองให้สาแก่ใจ
เสียงหน้าขาของเสี่ยโฉดกระแทกแก้มก้นขาวดัง
ปั่บ ปั่บ ปั่บ ปั่บ ปั่บๆๆๆๆ
แรงขึ้นเร็วขึ้น พร้อมๆ
กับเสียงครางของคันธรสที่แรงขึ้นเร็วขึ้นเช่นกัน
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะๆๆๆๆๆ
ร่างบางที่แอ่นโค้ง
เหยียดขาถ่างเริ่มกระแทกก้นขยอกท่อนเอ็นที่ทะลวงเข้ามาเป็นแรงบวก
เสียงหน้าขาปะทะกับแก้มก้นจึงดังแรงขึ้นกว่าเดิมเป็นเสียง
ป้าบ ป้าบ ป้าบๆๆๆๆๆๆ
อกอวบสองเต้ากระเพื่อมไหวหนักขึ้นๆ
ปลายงอนนั้นเด้งดึ๋งดั๋งๆ
ยั่วตาของเสี่ยทองกับเสี่ยคิ้มที่กระทอกควยตัวเองเป็นคำรบสามในคืนนี้ติดๆ
กัน ต่างคนต่างมีใบหน้าที่แสยะเบี้ยวไปด้วยความกระสันซ่าน
ครางกระซุ่น อู้ววววว อู้ววววว
อู้วววว ไม่ขาดปาก
เสี่ยเซี้ยงเองก็แหกปากลั่นไม่แพ้พรรคพวกที่อยู่ในห้อง
มือหยาบๆ
นั้นแบะปรีก้นงามงอนที่ร่อนอยู่ตรงหน้าจนแลเห็นร่องก้นขาวผ่อง
และรูก้นที่แดงสด
เบิกตามองลงไปดูกลีบอูมที่ขมิบรัดท่อนเอ็นของตัวเองที่กำลังถูกครูดไถเสียด
สีจนปลิ้นไปปลิ้นมาอย่างสะใจสะอารมณ์ที่ดิบเถื่อน
ป้าบบๆๆๆๆๆๆ
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ อูซวซซซวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ท่อนเอ็นดำที่บดทะลวงชักเข้าชักออกได้อย่างค่อนข้างลื่นไหลเนื่องจากน้ำ
เมือกขาวข้นที่เจิ่งนองอยู่ภายในเป็นน้ำหล่อลื่นอย่างดี
กลีบอูมๆ ที่แบะปลิ้นไปมานั้นแฉะฉ่ำไปด้วยเมือกข้น
มีบางส่วนก็ล้นทะลักปริ่มไหลออกมาตามโพรงหลืบเป็นทางไปตามลำขาอ่อนที่ยืนแหก
ถ่างอยู่เป็นแนว
ซึ่งจากตำแหน่งที่คันธรสถูกอัดกระเด้าอยู่
ทำให้เสี่ยทองกับเสี่ยคิ้มแลเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน
เนื้อขาวๆ เต้นระริก ขนอ่อนๆ
บนเนื้อตัวที่กำลัง
ลุกชัน
ทั้งหมดนั้นประกอบเป็นภาพที่ยั่วยวนและกระตุ้นพล่านเพลิงกระสันของสองเสี่ย
จนมือที่กระทอกควยตัวเองบีบแน่นไปตามลำอวบ
แอ่นสะโพกแหกปากกันออกมา
อูซซซ อูซซซซ
อูซซซซ....ไม่ไหว...ออกอีกแล้วววว...
สองเสี่ยแหงนหน้าร่อนปาก
กระทอกควยตัวเองถี่ยิบ
ปลายถอกจ่อพรวดไปยังใบหน้าสวยสดที่อ้าปากหวออยู่ตรงกันข้ามของผนัง
และกระฉูดน้ำกามขุ่นๆ
พรวดเข้าไปแบบชนิดที่ว่าถ้าไม่มีผนังกั้น
น้ำกามสองสายนั้นต้องราดรดเข้าไปตรงใบหน้าของคันธรสอย่างแน่นอน
อูววววววว
อูซซซซซซ
อูซซซซซซ...โอยยยยย...เหนื่อย.เหลือเกิน...โอยยย..ไม่ไหว
เสี่ยทองหอบหายใจออกมาราวกับวัวเหนื่อย
ร่างอ้วนที่เต็มไปด้วยไขมัน
ขาอ่อนยวบจนต้องเซไปทิ้งตัวแผละกับพื้นห้อง
ก่อนจะค่อยๆ
ยัดควยที่บัดนั้นหมดสภาพไปแล้วกลับเข้าไปในเป้ากางเกง
เสี่ยคิ้มเองก็เช่นกัน
แต่ไม่ถึงกับหมดสภาพเหมือนเสี่ยทอง
แต่ก็หมดแรงข้าวต้มไปโดยสิ้นเชิง
ยืนตัวงอยัดควยลีบกลับเข้าไป
ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความกระสันที่ได้รับการปลดปล่อยมันเยิ้มไปด้วยเหงื่อ
กาฬ
เคราแพะที่กระจุกอยู่ตรงคางสั่นพลิ้วไปเพราะอาการหอบหายใจหนักๆ
ถี่ถี่
สองเสี่ยหมดสภาพไปแล้ว
แต่เสี่ยโฉดที่ตะบันควยยักษ์ยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ
เร่งเครื่องกระเด้าใส่โพรงสวาทที่ฉ่ำแฉะเสียง
ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังถี่ยิบ
ร่างงามของคันธรสแอ่นระริกๆ
ไปกับแรงกระแทก หัวโคลงไปมา
ผมเผ้ายุ่งสยาย ไปพร้อมๆ
กับอาการครางอย่างรัญจวนจิต
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สองเต้ากระเพื่อมไปมาไม่หยุด
เนื้อขาวๆ ที่เต้นระริกๆ
ไปทุกตารางนิ้วนั้นแสดงให้เห็นว่าความพลุ่งพล่านนั้นใกล้จะระเบิดเต็มที
เสี่ย...เสี่ยขา....รส..รส..จะถึงแล้ววว...เร็วๆๆๆๆ..ค่ะ...แรงๆๆๆอีก...อ๊ะๆๆๆๆๆๆ
ปากงามครางครวญ
ไปพร้อมๆ กับอาการส่ายก้นกระแทกตอบรับ
อาการขมิบตอดขยอกกลืนท่อนอวบของโพรงสวาท
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะเสียงดังกระเส่า
ขยำไปที่ปรีก้นขาวขยี้มือไปอย่างรุนแรง
กระแทกลำเอ็นดำเข้าใส่อย่างไม่คิดชีวิต
ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใบหน้างามแหงนเพริ่ด
อ้าปาก ร้อง
อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.....อ๊ายยยยย...อ๊ายยยยยย
ท่ามกลางเสียงร้องสุดๆ
ร่างขาวก็ดิ้นพร่านๆ
ขาเพรียวที่ถ่างออกเกร็งจนเนื้อเต้นระริกเห็นได้ชิด
โพรงสวาทขมิบรัดสุดๆ ไปบนท่อนอวบ
สร้างความเสียวให้แก่เสี่ยโฉดจนกัดฟันแน่น
ร้อง อูซซซซซ อูซซซซซ
สุดยอด....ที่รัก....โอยยยยย...ตอดดีจริง.....อูววววว
คันธรสที่น้ำแตกทะลักจุดเดือดไปแล้วแทบเข่าอ่อนล้มคว่ำไปทันที
แต่มือหยาบที่ยึดไปที่เอวนั้นไม่ยอม
จับให้เธออยู่ในตำแหน่งยืนถ่างขาโก้งโค้งต่อ
สาวสวยกัดฟันแน่น
พยายามทรงกายให้อยู่ด้วยการยันมือไปบนผนังกระจกตรงหน้า
เสี่ยโฉดหัวเราะกระเส่า
“ที่รัก...ผมยังไม่ถึงครึ่งทางเลย...แอ่นก้นสวยๆ
ของที่รัก...กระแทกแรงๆ..หน่อยสิ”
คันธรสใบหน้าแดงก่ำ
ตอนนั้นรวบรวมแรงเท่าที่มีจากร่างอันอ่อนเปลี้ยไปรวมกันตรงสะโพกผาย
และแอ่นสะโพกกระแทกก้นงอนของตัวเองรับแรงกระเด้าจากควยยักษ์ที่อัดเข้ามาถี่
ยิบอย่างว่าง่าย
ปั่ก
ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก อูวววววว
อูวววววว
อย่างนั้น...ที่รัก....อูววววว....สุดยอด...อูวววว
อย่างที่เสี่ยโฉดพูดลูกสูบยักษ์ที่ยังเดินทางไม่ถึงครึ่ง
ทะลวงโพรงหลืบนั้นอีกนานเนิ่น
กว่าครึ่งค่อนชั่วโมงก่อนที่เสียง
ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก
ที่ดังต่อเนื่องกันนั้นจะผสานไปด้วยเสียงร้องกระเส่าดังของเสี่ยเซี้ยงที่
แหกปากออกมาดัง อูซซซซซ
อูซซซซซซ อูซซซซ
และกระสุนน้ำเมือกชุดใหญ่ก็ถูกส่งเข้าไปในโพรงสวาทที่บีบรัดนั้นอย่างมันส์
ในอารมณ์ของเจ้าของควยยักษ์
เมื่อควยยักษ์หลุดผลัวะออกไปจากโพรงหลืบ
ร่างงามของคันธรสที่ไร้แรงยึดเหนี่ยวก็ล้มครืนลงไปบนพื้น
หอบหายใจรวยรินอยู่ตรงหน้าผนังกระจก
เสี่ยตัณหากลับทั้งหลาดเหลือกตาแทบถลน
ฮือหน้ากันเข้าไปจ้องไปยังเนื้อขาวๆ
ที่เต็มไปด้วยเหงื่อผุดพรายเป็นมันปลาบทั่วตัวนั้นอย่างกระหายหิว
โดยเฉพาะเต้าอวบที่สะท้อนขึ้นๆลงๆ
ตามจังหวะการหายใจของเจ้าของสาวสวย
และร่องหลืบที่ตอนนั้นทะลักเมือกขาวไหลออกมาเจิ่งนอง
เพลิงสวาทที่เร่าร้อนนั้นไม่จบสิ้นง่ายๆ
เสี่ยเซี้ยงที่ตั้งใจโชว์ให้พรรคพวกอิจฉาจนกระอักเลือด
ก็ฉุดร่างที่ป้อแป้เต็มทีของคันธรสขึ้นมาใหม่
จากนั้นไม่นาน
เสียงหัวเราะกระเส่าและเสียงครางครวญกระสันซ่านที่สงบไปได้ไม่นานก็เริ่มดัง
ขึ้นอีก เมื่อเพลงกามบทใหม่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งและยาวนาน
และทุกครั้งโดยที่คันธรสไม่มีทางเข้าใจว่าทำไมคืนนี้
เสี่ยเซี้ยงต้องระดมเพลงควยเข้าใส่เธอแบบทุกท่วงท่าอยู่ตรงหน้าผนังกระจกนั้น
เสี่ยตัณหาที่อยู่อีกด้าน
มองไปกระทอกควยตัวเองไป
หลังจากกระฉูดน้ำกามกันไปอีกคนละครั้งสองครั้ง
ทุกคนก็หมดแรง
ไม่มีความสามารถหลั่งน้ำเชื้อใดๆ
ออกมาอีกแล้วแม้แต่หยดเดียว
แต่เสียงหนอกควยกระแทกโคกอูม
และเสียงครางกระเส่าผสานเสียงครางครวญยังคงดังต่อเนื่องไปอีกหลายยก
จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงวันใหม่
ทุกอย่างจึงสงบนิ่ง...
...................
“อ้าว
ษายังไม่อาบน้ำอีกเหรอ...พี่ต้องออกแล้วนะ”
อรนุชถามอย่างแปลกใจ
ขณะที่เธอแต่งตัวพร้อมจะออกจากบ้าน
แต่ว่าน้องสาวยังอยู่ในชุดนอนตัวยาวสีขาวบริสุทธิ์
อรอุษาหัวเราะว่า
“สงสัยพี่นุชคงซ้อมจนเหนื่อย
เลยลืมไปว่าษาบอกพี่นุชแล้วว่าวันนี้ไม่มีตารางสอน”
เด็กสาวร่างบางทำหน้าเหรอหรา
ก่อนจะยกมือเคาะศีรษะตัวเองเบาๆ
“จริงอ้ะ...ว้า...พี่ลืมสนิทเลย...สงสัยจะจริงอย่างที่ษาพูด...พี่แต๋วน่ะใช้งานพี่จนบักโกรกเลย..ษารู้ไหม”
อรนุชบ่นพึมพำ
เพราะถึงแม้จะจบคอสเดินไปแล้ว
แต่กรองกนกก็ฉวยโอกาสทำเป็นบอกว่าเด็กสาวนั้นเข้ามาเสียบแทนรุจิราที่ถอนตัว
ไป ทำให้เวลาซ้อมเหลือน้อย
ต้องเร่งซ้อมในเรื่องอื่นๆ
อีก ดังนั้นแทบทุกวันกว่าจะเลิกซ้อมก็ตั้งทุ่มหรือทุ่มครึ่ง
ทำให้ช่วงที่ผ่านมาอรอุษาต้องกลับบ้านกับฐิติพรรณทุกวัน
อรอุษาหัวเราะคิกๆ
ขำศัพท์ของพี่สาวคนกลาง
“อะไรคะ..บักโกรก”
อรนุชเองก็ฉิวพี่แต๋วจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้เหมือนกัน
ก่อนจะชวนว่า
“ว่าแต่ษาไม่ไปมหาวิทยาลัยกับพี่เหรอ...อยู่บ้านอุดอู้จะตาย...ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดก็ได้นี่นา”
เด็กสาวผู้อ่อนวัยกว่ายิ้มน่ารัก
สั่นศีรษะ
“ใครว่าคะ...ษานัดเพื่อนวันนี้จะไปกินข้าวเที่ยงและดูหนังกัน”
อรนุชผงกศีรษะร้อง
ฮื่อ แล้วกำชับกำชา
“ให้ลุงมากขับไปรับส่งนะ...พี่ขอยื่นคำขาด...คราวที่แล้วแอบหนีขึ้นรถเมล์ไปเอง...พี่งี้หัวใจจะวายให้ได้พอป้าเอียดโทรไปบอก”
ป้าเอียดคือแม่บ้านที่อยู่กับพวกเธอมานาน
เลี้ยงอรชามาตั้งแต่แบเบาะ
รักพี่น้องทั้งสามคนราวกับลูกในไส้ของเธอเอง
อรอุษาหน้าม่อย
บ่นอุบอิบ
“ษาอายเพื่อนๆ
จะตาย โตป่านนี้ทางบ้านยังไม่ยอมให้ไปไหนมาไหนเอง..”
“แหม..ก็เราน่ะขึ้นรถเมล์มากี่ครั้งกันจ๊ะ
สาวน้อย…จะให้ขึ้นแท๊กซี่รึ...เดี๋ยวนี้แท๊กซี่ก็ไว้ใจได้ที่ไหนกัน...เอา
ไว้เราโตกว่านี้...เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
พี่จะสอนขับรถให้...ถึงตอนนั้นก็ตามใจจะปร๋อไปไหนมาไหนก็ได้...”
พี่สาวพูดพลางกางมือโบกไปโบกมาเหมือนนกบิน
อรอุษาเห็นแล้วก็หัวเราะคิกคิกอย่างตลกกับท่าทางของพี่สาว
อรนุชหัวเราะไปด้วย
ก่อนจะเดินออกไป
จากนั้นอรอุษาได้เสียงแจ๋วๆ
ของพี่สาวดังแว่วๆ
กับลุงมากคนขับรถของเธอดังว่า
“ลุงมาก..เฝ้ายายษาให้ดีนะ...อย่าให้หนีไปเอง...แล้วอย่าใจอ่อนนะคะ...ให้เที่ยวได้ถึงสี่โมงเย็นต้องกลับบ้าน”
น้องเล็กคนสุดท้องย่นจมูกให้พี่สาว
แต่ใบหน้านั้นพราวไปด้วยรอยยิ้ม
ตื้นต้นไปกับความรักและความห่วงใยที่พี่สาวทั้งสองมอบให้กับเธอ
......................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น