เสี่ยกิมกับแหม่มเลขาคนสวยของเขาลงจากรถ
ก็เห็นมุ่ยเลขาหน้าหมวยของลวิตรวิ่งออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ
เสี่ยกิม คุณแหม่มมาด้วยหรือคะ”
“เธอมาธุระแล้วเลยติดรถมาด้วยน่ะ
คุณลวิตรล่ะ”
“รอเสี่ย
อยู่ในห้องแล้วค่ะ คุณเลิศ
คุณพร เสี่ยธง และคนอื่นๆก็อยู่ด้วย”
“วะ
มากันทั้งแก๊งเลยนี่”
“ค่ะ
เชิญเสี่ยเลยค่ะ คุณแหม่มด้วย”
แล้วมุ่ยก็นำเสี่ยกิม
กับแหม่มเข้าไปในห้องขนาดใหญ่...
เห็นเก้าอี้ตั้งอยู่เป็นแถวหันหน้าเข้าหาผนังม่าน
เก้าอี้เกือบทุกตัวมีคนนั่งเกือบเต็มหมด
ล้วนแต่เป็นคนที่เขารู้จักทั้งนั้น
เสี่ยกิมทักทายกับทุกคนแล้วก็หันไปหาลวิตร
“ไง
คุณลวิตร ทำลึกลับจังนะ
นัดพวกเรามาทำไม
หรือจะปรึกษาเรื่องพัชรางค์”
เสี่ยกิมเอ่ยถามลวิตรยิ้มๆ
ลวิตรหันไปมองแหม่มด้วยความสงสัย
“ไม่เป็นไร
เสี่ยพูดได้ทุกเรื่อง
แหม่มไว้ใจได้” เสี่ยกิมรับรอง
เลิศพ่อค้าใหญ่อีกคนก็ถามบ้าง
“หรือจะหารือเรื่องจับตัวพัชรางค์ล่ะเสี่ย”
“อย่าเพิ่งใจร้อนซิ
เชิญเสี่ยกิมกับหนูแหม่ม
นั่งก่อน ผมจะให้ดูอะไรดีๆ”
ลวิตรว่าแล้วพาเสี่ยกิมกับแหม่มไปนั่งยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่จากนั้นก็ไปเดินที่หน้าม่าน
“พาเรามาดูหนังรึไง”
เสี่ยกิมหัวเราะ
“ถ้าแค่พามาดูหนังละก็มีชกกันแน่”
พรชัยพูดล้อเล่น คนอื่นๆหัวเราะกันลั่น
ลวิตรก็หัวเราะ
“ผมไม่ได้เชิญพวกคุณมาหารือเรื่องจับตัวพัชรางค์หรอก”
“งั้นเรียกพวกเรามาทำไม”
เสี่ยกิมพูด
“เพราะผมจับตัวพัชรางค์มาแล้วน่ะซิ”
“ฮ้า”
เสียงอุทานดังกันลั่นห้อง
“ผมได้ข่าวว่าพัชรางค์ไปเมืองนอกไม่ใช่หรือ”
เสี่ยธงพูด
“ผมเป็นคนปล่อยข่าวว่าพัชรางค์ไปเมืองนอกเอง
จริงๆเธออยู่ที่นี่แล้ว”
“งั้นพาเราไปหาเธอด่วนเลย”
“ใจเย็นๆ
ตกลงกันก่อน ผมจ่ายเงินไปเยอะมาก
พวกคุณต้องช่วยผมบ้าง”
“แน่นอน
ถ้าพัชรางค์อยู่ที่นี่
ผมเซ็นเช็คให้เลย”
เสี่ยกิมพูดอย่างตื่นเต้น
คนอื่นๆก็รับปากด้วย
“ถ้างั้นคอยดู”
ลวิตรพูด
เขาเดินไปรูดม่านออก
แลเห็นห้องกระจกขนาดใหญ่ซ่อนอยู่หลังม่าน
กระจกนั้นเป็นกระจกเงาธรรมดา
ทุกคนหันไปมองลวิตรอย่างงงๆ
“พัชรางค์อยู่ในห้องนี้”
ลวิตรพูดขึ้น
พร้อมกับไฟในห้องที่ค่อยๆสว่างขึ้นมา
ผนังกระจกเงาพอโดนแสงก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นกระจกใส
เห็นทะลุเข้าไปในห้องอย่างชัดเจน
...ร่างของหญิงสาวในชุดนอนเก่าคร่ำคร่านอนฟุบอยู่บนพื้น...
ไฟสปอร์ทไลท์ส่องไปที่หน้าของพัชรางค์
ทำให้เธอขยับตัวตื่นขึ้นมา
ทันทีที่รู้สึกตัว
ความหิวก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
พัชรางค์ถูกปล่อยให้อดข้าวมาสองวันแล้ว
“ข้าว
ขอข้าวให้ฉัน ฉันหิว....”
พัชรางค์พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
เสียงผู้ชายดังขึ้น
“ค่ะ”
พัชรางค์ตอบอย่างว่าง่าย
พร้อมกับปลดชุดนอนอย่างรวดเร็ว
เสียงฮือฮาเสียงถอนหายใจดังขึ้น
คนในห้องแต่ละคนต่างก็ผ่านผู้หญิงทุกแบบมาอย่างโชกโชนแล้ว
แต่ทุกคนล้วนยอมรับว่าสิ่งที่ปรากฏแก่สายตานั้นมันแสนจะยียวนเร่งเร้าอารมณ์
เหลือเกิน แม้จะอยู่ในสภาพอ่อนระโหย
แต่พัชรางค์ยังดูงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปากบางที่น่าจูบ
ดวงตากลมโต
ทรวงอกที่ใหญ่แต่เต็มไปด้วยสัดส่วนสวยงามอย่างยากที่จะหาได้จากผู้หญิงคน
อื่นอีกแล้ว สองพุ่มพวงขาวอวบเต่งตึง
ประดับไว้ด้วยทับทิมเม็ดนิดเดียวซึ่งอยู่บนยอดเนินนั้นแดงระเรื่อ
ทำท่าให้รู้สึกว่ามันเต้นไหวเหมือนมีชีวิตชีวาอะไรเช่นนั้น
เอวของเธอคอดกิ่วขณะที่สะโพกผายอย่างได้รูป
โคกสวาทที่หว่างขานั้นปิดสนิทและมีขนขึ้นปกคลุมพองามไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป
“อู้หู
สวยจริงๆ ผิวพรรณดีกว่าที่ผมคิดอีก”
“สวยมากๆ
อูยยย คุณลวิตร คุณนี่สุดยอดจริงๆ”
เสี่ยธงลุกขึ้นเดินไปที่หน้ากระจก
“ลวิตร
คุณมอมยาเธอหรือ”
เสี่ยกิมพูดอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“เปล่า
ทำไมคิดยังงั้นล่ะ”
“แล้วทำไมเธอถึงยอมแก้ผ้าง่ายๆล่ะ”
ลวิตรหัวเราะ
“ความหิวยังไงล่ะ
ตอนนี้อีนี่มันเชื่องกว่าที่เสี่ยคิดซะอีก
เชื่อไหมว่าตอนนี้นังนี่มันยอมทำอะไรได้ทุกอย่างเพียงแค่แลกกับข้าวเพียงจาน
เดียว”
“ผมไม่เชื่อ”
“งั้นคอยดู”
พัชรางค์มองไปทางผนังกระจกตรงกลางเห็นเพียงเงาของตัวเองในกระจกเท่านั้น
แต่หญิงสาวรู้ว่ามีคนอยู่ที่ด้านหลังกระจก
“ฉันถอดเสื้อผ้าแล้ว
ไหนล่ะข้าว”
“ใจเย็นๆ
คนสวย เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันมีเพื่อนๆมากันเต็มเลย”
พัชรางค์ตกใจ
รีบเอามือปิดโคกหีไว้
สองแขนบังนมทั้งสองเต้า
แต่ด้วยความอวบใหญ่ทำให้ยังเห็นเต้าถันทั้งสองข้างอย่างชัดเจน
ท่ากึ่งอายกึ่งปิดนี้กลับยิ่งเย้ายวนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ใคร...
ใคร...อยู่ข้างหลัง
มี...กี่คน”
พัชรางค์ถามตะกุกตะกัก
“เกือบสิบคน
เอามือออกสิที่รัก
ให้เพื่อนๆฉันเห็นเรือนร่างสวยๆของเธอหน่อย”
หญิงสาวยังลังเล
ทำให้เขาสั่งซ้ำ
“เอาออกซิ
ไม่อยากกินข้าวหรือยังไง”
เธอไม่มีทางเลือก
จำเป็นต้องเอามือออก
“เดินมาที่กระจกนี่
แล้วถ่างขาออก”
เธอเดินไปข้างหน้าช้าๆ
จนถึงกระจก แล้วแยกเท้าออก
“อูยยย
ทนไม่ไหวแล้วโว๊ยยย สวยชิบหาย”
เสี่ยธงเดินไปที่กระจก
คนอื่นๆก็ลุกฮือตามกันมา
เหลือเพียงแหม่มที่ยังนั่งหน้าแดงอยู่กับที่
ส่วนมุ่ยก็นั่งยิ้มน้อยๆอยู่ที่มุมห้อง
สายตามองดูเจ้านายและเพื่อนๆ
ที่ยืนมุงกันอยู่ที่หน้ากระจก
“พัชเอ๋ย
นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะมีวันนี้”
เสี่ยธงพึมพำ
เห็นสองกลีบบีบอัดแน่นจนเนื้อข้างดันขึ้นเป็นโคกแสดงให้เห็นว่าร่องรูนั้น
ช่างกระชับแน่นเพียงใด
รอยแยกสีชมพูนั้นเห็นมีเมือกใสซึมออกมาเป็นเป็นมันวาว
สองแคมนอกอวบแน่นนั้นไม่มีร่องรอยให้เห็นว่าเคยมีสิ่งแปลกปลอมใดๆสอดผ่าน
เข้าไปเลย ทุกสายตาจ้องมองอย่างหื่นกระหาย
ต่างอยากจะเป็นคนแรกที่จะได้เปิดบริสุทธิ์สาวเก่งคนนี้
“ให้เธอแหกหีให้ดูหน่อยซิคุณลวิตร”
“ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าเธอจะยอมทำถึงขนาดนี้”
“ขอข้าวให้ฉันได้รึยัง”
พัชรางค์ร้องออกมา
“ทำตามที่ฉันบอกก่อน
คราวนี้แหกหีออกกว้างๆแอ่นมาให้ติดกระจก
ให้เพื่อนๆฉันเห็นหน่อย”
พัชรางค์
ใช้นิ้วแหกกลีบทั้งสองข้างออกแล้วแอ่นไปจนทาบกับกระจก
“อูยยย
เสียว อยากเลียจริงๆว่ะ”
“อีพัชนี่น่าเย็ดจริงๆ”
“คุณว่าเธอบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่า”
“ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะ”
“ไม่ไหวแล้วลวิตร
คุณจะเอาเท่าไหร่บอกมาเลย
แต่ขอผมเข้าไปเย็ดมันได้ไม๊”
“เดี๋ยวซิ
โชว์ยังไม่หมดเลยเสี่ย”
“ผมตายกันพอดี”
คนอื่นหัวเราะกันครืน
พัชรางค์
แม้จะไม่เห็นไม่ได้ยินอะไร
แต่รู้ว่ามีคนนับสิบนั่งอยู่หลังกระจก
เธอแหวกกลีบเนื้อขนาดนี้
คงเห็นทุกส่วนสัดที่เร้นลับของเธอ
เธอจินตนาการด้วยความเสียว
น้ำเงี่ยนซึมออกมาจนเปียกชุ่ม
“เอาละ
พอแล้ว คราวนี้ไปรับดุ้นเทียม
แล้วเย็ดตัวเองให้เพื่อนๆฉันดู
หลังจากนั้นเธอจะได้กินข้าว”
เสียงผู้ชายคนเดิมดังขึ้น
พัชรางค์เดินกลับมาที่ผนัง
รับอวัยวะเทียมจากมือของผู้หญิงคนเดิมที่ยื่นมาจากผนังด้านข้าง
เธอเห็นอวัยวะเทียมอันนี้ผิดกับอันอื่นๆ
เพราะมันใหญ่กว่า ยาวกว่า
แถมที่โคนของมันยังเป็นจุ๊บยางอีกด้วย
“เอาจุ๊บดูดติดกับพื้น
แล้วขึ้นไปขย่มมัน”
พัชรางค์พยักหน้า
หักห้ามความอายพยายามนึกว่าตัวเองอยู่ในห้องแต่เพียงลำพัง
เธอวางอวัยวะเทียม
ให้ส่วนจุ๊บยางดูดติดกับพื้น
เสี่ยกิมกับพวกจ้องมองไปที่ร่างเปลือยเปล่าที่นั่งยองๆลงไปที่ดุ้นเทียมนั้น
เธอจับท่อนเหล็กจ่อไปที่โคกหี
แล้วก็โน้มตัวขยับช้าๆ
ดุ้นเอ็นนั้นก็ค่อยๆไหลเข้าไป
กลีบแคมนอกยุบยู่ตามแรงกดเข้าไปทีละนิดอย่างน่าตื่นเต้น
พัชรางค์หน้าเบี้ยว
เหงื่อซึมมาตามใบหน้านวลใส
ทุกคนนั่งตัวเกร็งแทบจะลืมหายใจ
เมื่อสาวสวยค่อยๆออกแรงควบขี่ไปอย่างช้าๆ
แต่เพียงไม่นานก็เหมือนกับเธอจะมีอารมณ์มากขึ้น
เธอโถมตัวกระแทกเร็วขึ้น
แลเห็นดุ้นเอ็นเสียบใส่เข้าๆออกๆอย่างรวดเร็ว
ทรวงอกอวบใหญ่สั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น
เม็ดสีชมพูขยายตัวปูดโปนด้วยอารมณ์สวาทอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พัชรางค์”
“..หือ”
“ยกสะโพกขึ้นสูงๆ
อย่างนั้นแหละ แรงๆเลย
แรงอีกหน่อย”
สะโพกดอกไม้ไหวของเธอสั่นสะท้านขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าจากการขยับโขยกและการกดกระแทกลงไป
หลายคนในห้องเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย
บางคนลูบคลำเป้ากางเกงของตัวเอง
แม้แต่แหม่มเลขาของเสี่ยกิมยังอดไม่ได้ต้องขยับขาเสียดสีไปมา
รู้สึกโคกหีขมิบปล่อยน้ำเหนียวๆออกมาจนโชกกางเกงใน
เธอนั่งอยู่ด้านหลังเห็นผู้ชายพากันขยำเป้าตัวเอง
ไม่มีใครสนใจ
เลยแอบเอานิ้วเขี่ยร่องหีผ่านกระโปรงตัวเองเบาๆ
สายตาก็จับจ้องรูหีของพัชรางค์เขมือบดุ้นเอ็นขึ้นๆลงอ้าปากร้องครวญคราง
ทำให้เธอยิ่งเสียวซ่าน
อยากจะยัดเจ้าดุ้นนั้นเข้าใส่รูหีน้อยๆ
นิ้วค่อยๆถูแรงขึ้นอย่างลืมตัวทั้งเจ็บทั้งมันกับการกระทำของตัวเอง
"ซี๊ดดด
พี่โอ...อูยยย...
...โอยยย"
พัชรางค์ครวญครางรู้สึกว่า
ช่องหลืบของเธอที่ค่อนข้างคับแคบนั้นถูกท่อนเนื้อที่แข็งราวกับเหล็กเสียบ
ผ่านเข้าไป
เธอยอมรับว่าดุ้นเทียมที่ใหญ่กว่าที่เธอเคยได้รับนั้นทำให้รู้สึกคับแคบ
มากกว่าที่จะกดกระแทกไปได้ในแต่ละครั้ง
มันเต็มไปด้วยความยากลำบากเหลือเกิน
แต่รสชาติของมันนี่สิ
เธอยอมรับว่า อร่อยและอร่อยเหลือเกิน
มันทั้งกระแทกกระทั้นด้วยแรงโยกคลอนของตัวเอง
ในขณะที่มันชำแรกเข้าไปในรูหีเธอสุดกู่ด้วยความรุนแรงยิ่ง
หนึ่งนั้น
ใจของเธอเริ่มสมปรารถนามากขึ้น
แต่การกระแทกกระทั้นนั้น
แม้จะรุนแรงมากมายขนาดไหน
ก็ทำให้เธอยังไม่หายอยากอยู่ดี
ยิ่งรุนแรงยิ่งอยากมากขึ้น
ไม่มีที่สิ้นสุด ระงับไม่ได้
แม้ว่าเธอจะเป็นคนลงมือขย่มด้วยตนเองก็ตาม
“พัชรางค์”
“อูยย
ๆๆ คะ”
“รู้สึกยังไง”
“อูยย
ซี๊ดด วิเศษเลยค่ะ…อูย อูยยย”
“วิเศษยังไง”
“ซี๊ดดด....เสียวหีมากๆเลยค่ะ”
“งั้นก็ขย่มแรงๆเลย”
“ค่ะ
อูยยย อูยย อูยยย”
พัชรางค์ร่ำร้องบดขยี้โคกหีกระหน่ำไม่หยุดยั้ง
เสียงหอบหายใจในห้องดังขรมไปหมด
หญิงสาวลืมความอับอายทั้งหมดเขยื้อนขยับอย่างดุเดือดเร่าร้อน
ตะโพกอวบผายบิดเร่าขึ้นๆลงๆอย่างบ้าคลั่ง
แต่ละครั้งจะอมดุ้นจนเกือบมิดแล้วถอนจนเกือบสุด
แล้วเธอก็หวีดร้องออกมาสุดเสียง
“อูยย
ไม่ ไม่ไหวแล้วค่ะ โอยยย
ฉันไม่ไหวแล้ว โอ๊ยยย”
มันเป็นการออกแรงครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะฟุบลงกับพื้น
กระตุกเฮือกๆทั้งที่ดุ้นเอ็นยังเสียบคาอยู่ในรูหี....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น