ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

ศึกสองนางพญา ตอนที่ 18 ดักฆ่ารายทาง


เฟยจินเอ๋อออกจากห้องฉางผิงกงจู้ รีบรุดไปรายงานเรื่องราวต่อเจาเหยินกงจู้ที่เก๋งพักร้อนกลางอุทยานหลวง
เจาเหยินกงจู้รับฟังจนถามโพล่งว่า
"
เป็นความจริง"เฟยจินเอ๋อรับคำว่า
"
ถูกแล้ว วันพรุ่งนี้เฉาฮั่วฉุนจะไปไหว้พระวัดอู่เวี้ย"แนเสี่ยวเชี่ยนที่ด้านข้างถามย้ำว่า
"
ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่"เฟยจินเอ๋อย้ำว่า
"
เป็นข้าพเจ้าได้ยินกับหูเอง" จากนั้นจึงกล่าวกับองค์หญิงด้วยความกระตือรือร้น "องค์หญิง"เจาเหยินกงจู้เน้นเสียงว่า
"
เราจะปฎิบัติการด้วยตนเอง"แนเสี่ยวเชี่ยนกล่าวว่า
"
องค์หญิงรอง องค์หญิงใหญ่อาจมีแผนเป็นมั่นเหมาะ ท่านเคลื่อนไหวเช่นนี้ เกรงว่าไม่ดีนัก"เฟยจินเอ๋อชิงกล่าวว่า
"
กลัวอันใด องค์หญิงรอง พวกเราไยต้องปล่อยให้องค์หญิงใหญ่ลงมือก่อน"เจาเหยินกงจู้ผงกศีรษะกล่าวว่า
"
มิผิด พวกเราจะชิงซุ่มสังหารเฉาฮั่วฉุน มิให้มันตั้งตัวได้..."

............................................................. .
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่วัดอู่เวี้ย
วัดอู่เวี้ยกินเนื้อที่กว้างไพศาล ใต้ป้ายประตูวัดอู่เวี้ยแขวนป้ายขวาง จารึกข้อความ "สนองทุกสิ่งสรรพ"ภายในโบสถ์พระประธาน เสียงเคาะไม้บักฮื้อ เสียงสวดมนต์ดังระงม โจวซื่อเสี่ยนครองจีวรชุดเทา ศีรษะสวมหมวกหลวงจีน ยืนปะปนอยู่กับหลวงจีนในวัด
ทุกประการเป็นไปตามแผน ดินระเบิดจำนวนห้าสิบชั่งที่ถูกฝังอยู่ใต้แท่นบูชา ยามนี้โจวซื่อเสี่ยนเพียงสงบจิตใจ

............................................................. .
บนเส้นทางนอกเมือง เอี๋ยนอู๋ซวงเดินนำหน้า องครักษ์ชุดแดงสังกัดคฤหาสน์ตระกูลเฉาหลายสิบคนเดินตามหลัง ถัดมาเป็นหัวหน้าองครักษ์หลายคน คุ้มครองเกี้ยวหรูเลิศคันหนึ่งออกมา
ภายในเกี้ยวคือเฉาฮั่วฉุนเอง
อาทิตย์ลอยสูงขึ้น ขบวนคนและเกี้ยวผ่านหน้าดงไม้แถบหนึ่ง เหตุแปรเปลี่ยนพลันอุบัติ
ได้ยินเสียงชายเสื้อปะทะลมเร่งร้อนดังจากสามทิศทาง เงาร่างอ้อนแอ้นทั้งสามสาย หนึ่งสวมชุดสีชมพู อีกสองนางสวมชุดสีฟ้าสดใส ล้วนคลุมหน้าปกปิดรูปโฉมไว้ แต่ดูจากรูปกายที่อ้อนแอ้น ท่าร่างที่ปราดเปรียวดุจนางแอ่นเหิน แสดงว่าเป็นสตรีทั้งสิ้น
พวกนางมิใช่ใครอื่น คือเจาเหยินกงจู้ซึ่งอยู่ในชุดสีชมพู อีกสองนางเป็นกำนัลคู่ใจ นามแนเสี่ยวเชี่ยนและเฟยจินเอ๋อ
ในจำนวนนี้นับเจาเหยินกงจู้มีท่าร่างเร่งร้อนรวดเร็วที่สุด ร่างพอสาดพุ่งลง ก็ชักกระบี่ออกถือมั่น คุมกระบี่ทะลวงแทงใส่หลังคาเกี้ยวที่เฉาฮั่วฉุนนั่งโดยสาร
ประกายกระบี่อันกราดเกรี้ยว แทงทะลุหลังคาเกี้ยวในคราเดียว แหวกจู่โจมเฉาฮั่วฉุนภายในเกี้ยวดุจสายฟ้า
เฉาฮั่วฉุนหดตัวคราหนึ่ง กระบีจู่โจมสังหารนี้ก็ทิ่มแทงผิดพลาดไป
เจาเหยินกงจู้พลันถอนกระบี พลิกตัวคราหนึ่งทิ้งร่างลงสัมผัสพื้น ไม่ทันพลิกแพลงกระบวนท่าจู่โจมใส่เฉาฮั่วฉุนภายในเกี้ยว ก็ปรากฏทวนยาวหลายเลมแยกย้ายทิ่มแทงมาถึง
เจาเหยินกงจู้ได้แต่ตวัดกระบี่ต้านปะทะ ในเสียงโลหะปะทะ สามารถปัดป่ายทวนยาวรอบข้างเบนเบือน จากนั้นย่อตัวกวาดกระบี่ออก ก็คุกคามหัวหน้าองครักษ์ผู้หนึ่งกลิ้งตัวหลบเลี่ยง
ขณะเดียวกัน แนเสี่ยวเชี่ยนทั้งสองก็เกิดการปะทะกับเหล่าองครักษ์ชุดแดง
พวกนางล้วนมีวิทยายุทธสูงเยี่ยม แม้เผชิญศัตรูพวกมากยังไม่มีท่าทีเพลี่ยงพล้ำ แนเสี่ยวเชี่ยนร่ายรำกระบี่ปานจักรผันปะทะกับดาบทวนของเหล่าองครักษ์ พลันสะบัดประบี่ปิลดชีวิตองครักษ์ชุดแดงผู้หนึ่ง จากนั้นลอยตัวตีลังกาข้ามศีรษะเหล่าองครักษ์ เท้าพอแตะสัมผัสพื้น ก็หยิบยืมสภาวะดีดตัวขึ้นอีกครา หมุนควงร่างกลางอากาศดุจสว่านมหึมา ยื่นกระบี่นำหน้า แทงปราดใส่เกี้ยวหรูอย่างหักโหม
ได้ยินเสียงซ่า ประกายกระบี่แทงทะลุม่านเกี้ยวเข้าไปพุ่งจู่โจมใส่เฉาฮั่วฉุนอย่างว่องไว
เฉาฮั่วฉุนภายในเกี้ยวยกมือขวาปาดวูบ ก็ปัดป่ายปลายกระบี่ของเจาเหยินกงจู้เบนเบือน
แทบเป็นเวลาเดียวกัน เฟยจินเอ๋อเสือกกระบี่แทงจากด้านหน้าทะลุม่านเกี้ยวเข้าไป
เฉาฮั่วฉุนยืดอกขึ้น กลับใช้ทรวยงอกยันปลายกระบี่ไว้ กระบี่ที่คมกล้า ไม่สามารถระคายผิวของมันแม้แต่น้อย
แนเสี่ยวเชี่ยนลงมือประสานเสริม แทงกระบี่จากด้านข้างทะลุม่านเกี้ยวเข้าไป เฉาฮั่วฉุนกลับก้มศีรษะใช้ปลายคางกดกระบี่ไว้
เฉาฮั่วฉุนพลันตวาดก้อง เกร็งลมปราณแกร่งกร้าวบริสุทธิ์ ตวัดสองแขนกระแทกออก พลันบังเกิดเสียงคลืนคลั่น ปัง ปัง ดังกึกก้อง พลังลมปราณอันแกร่งกร้างร้อนรุนแรงราวกับเปลวเพลิงระเบิดออกจากสองแขนของเฉาฮั่วฉุน เห็นเป็นเปลวเพลิงสีฟ้าเป็นหมื่นๆสายพุ่งออกจากเกี้ยว
เจาเหยินกงจู้ทั้งสามล้วนเผชิญการกระแทกอย่างรุนแรง ร่างปลิวลิ่วไปคนละทิศละทาง
ทั้งสามนางกระเด็นลงไปเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้นเสื้อผ้าถูกลมปราณอันร้อนแรงกระแทกจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี!
โดยเฉพาะเฟยจินเอ๋อกับแนเสียวเชี่ยนแทบไม่มีเสือผ้าปกปิด ด้านบนมีเศษเอี๊ยมชิ้นเล็กๆปกปิดปทุมถันบางส่วนไว้เพียงเล็กน้อยเห็นผิวเนื้ออวบอูมสั่นกระเพื่อมรำไร ด้านล่างเป็นเพียงสายรัดเอวกับเศษกางเกงปกปิดส่วนสำคัญ ยามถูกลมพัดผ้าชิ้นน้อยปลิวสะบัดเผยให้เห็นสามเหลี่ยมสีดำตัดกับผิวเนื้อขาวผ่องต้องแสงแดดนวลเนียนดุจดังหยกขาว ทั้งงดงาม ทั้งน่าดู เหล่าทหารต่างพากันส่งเสียงซู๊ดซี๊ดดังลั่น ทั้งสองรีบเอามือไปปิดของสงวนไว้ทันที
ส่วนเจาเหยินกงจู้มีพลังฝีมือสูงสุด แต่กระนั้นเสื้อชั้นนอกของนางก็ถูกพลังลมปราณของเฉาฮั่วฉุนเผาไหม้จนขาดวิ่น เหลือเพียงตัวเอี๊ยมเท่านั้น กางเกงก็ขาดวิ่นจนเห็นผิวเนื้อขาวเนียนเป็นหย่อมๆ
เสียงฮือฮาหอบหายใจแรงของบรรทหารดังกันขรม กงจู้ทั้งสามรีบลุกขึ้นยืน หน้าร้อนวูบด้ายความอาย โดยเฉพาะสองนางกำนัล ร่างแทบจะเปลือยเปล่าเห็นผิวกายขาวผ่องประดุจหยกขาว อวดเรือนร่างที่งดงามสมบูรณ์อยู่ในวงล้อมของเหล่าองครักษ์ที่จ้องมองกันตาค้าง!
หัวหน้าทหารองครักษ์คนหนึ่งกล่าวลวนลามอย่างหื่นกระหาย
"
แม่นางทั้งสามล้วนอวบอัด ผิวพรรณดี มิควรต่อสู้ให้ผิดผองหมองใจกัน มิสู้มาหลับนอนกับพวกเราเถิด "ทหารผิวคล้ำอีกคน จ้องมองไปที่ทรวงอกที่มีผ้าปิดอยู่เล็กน้อย แล้วเลื่อนต่ำลงไปที่มือซึ่งประสานอยู่ที่ของสงวนของเฟยจินเอ๋อ แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหายพร้อมกับพูดจาลวนลามบ้าง
"
หีของแม่นางท่านนี้อวบอูมปิดสนิทดูท่าคงมิเคยผ่านมือชายมาก่อน ขอเพียงลองทวนของเรา รับรองว่าจะสูดปากครวญครางมิยอมหยุด"
เหล่าองครักษ์ต่างหัวเราะชอบใจ กงจู้ทั้งสามบันดาลโทสะ ทะยานเข้าใส่บรรดาองครักษ์หื่น กระบี่ของเจาเหยินกงจู้สะบัดฟันอย่างคล่องแคล่ว ปลิดศีรษะทหารคนหนึ่งกระเด็นอย่างเหี้ยมโหด เสียงแผดร้องดังลั่น
หัวหน้าองครักษ์เห็นนางไล่ฟาดฟันทหารของตนบาดเจ็บล้มตายเป็นใบไม้ร่วงก็รีบโดดเข้ามาขวาง จี้ทวนยาวพุ่งเข้าใส่เป้ากางเกงของเจาเหยินกงจู้อย่างหยาบช้าลามกสร้างความอับอายจนหน้าแดงฉาน
หัวหน้าองครักษ์พูดเยาะเย้ย
"
ฮา ฮา แม่นางไม่ต้องกลัว ส่วนนี้ของแม่นางเราไหนกล้าหักใจทำร้าย ไว้ต่อสู้เสร็จสิ้นเราจะใช้ทวนประจำตัวบุกทะลวงเข้าไปให้นางรับรู้รสชาติของผู้ชาย"เจาเหยินกงจู้ไหนเลยเคยถูกใครลวนลามอย่างนี้มาก่อน พอฟังยิ่งโกรธจนตัวสั่น ร้องเพ้ย กระบี่ทวีความเกรี้ยวกราดมากขึ้น หัวหน้าองครักษ์รับจนมือไม้สั่นแต่ยังกล่าวลวนลามเหยียดหยามนางมิหยุด
เหล่าทหารองครักษ์เห็นหัวหน้าทำท่าจะเพี่ยงพล้ำ ก็ฮือเข้ามา ทวนยาวทิ่มแทงเข้าใส่ นางกำนัลทั้งสองไม่กล้าเสียเวลาปกปิดของสงวนของตัวเอง แม้จะรู้ว่าร่างกายโป๊เปลือย ก็จำต้องรีบสะบิดกระบี่ตอบโต้กับเหล่าองครักษ์ด้วยท่าร่างที่ปราดเปรียว
เจาเหยินกงจู้หงายร่างตีลังกาทอดแล้วทอดเล่าหลบหลีกจากทวนยาวที่โหมทิ่มแทงมา พลันหมุนตัวกวาดกระบี่ เข่นฆ่าสังหารเหล่าองครักษ์ชุดแดงฉกฉวยโอกาสลอยตัวข้ามองครักษ์อีกสองคนจะจู่โจมเข้าใส่เกี้ยวอีกครั้ง
แนเสี่ยวเชี่ยนกับเฟยจินเอ๋อเห็นดังนั้น รีบเร่งกระบี่หวังช่วยเหลือองค์หญิง แต่ถูกหัวหน้าองครักษ์ผู้หนึ่งเสือกแทงทวนเข้าสกัดขวัดขวางไว้ บรรดาทวนของเหล่าทหารล้วนจู่โจมเข้าใส่ตำแหน่งที่หยาบช้าลามก ถ้าไม่ใช่ที่ปทุมถันทั้งสองข้าง ก็เป็นที่หว่างขา
สองนางกำนัลต่างตวาดด่าทอด้วยความโกรธ โลดแล่นอยู่ในวงล้อมหมายฆ่าฟันทหารลามกให้หมดสิ้น จนใจที่ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนจากจั่วเหวินหลิง จู่โจมประสานกันอย่างรัดกุม ในเวลาอันสั้นยากที่จะสังหารหรือฝ่าวงล้อมออกมาได้
องค์หญิงเจาเหยินยังนับว่ามีพลังฝีมือสูงสุด หลังจากจู่โจมหัวหน้าองครักษ์ล่าถอย สังหารองครักษ์อีกหนึ่งคน แล้วเตรียมจะดีดตัวจู่โจมใส่เกี้ยว เฉาฮั่วฉุนพลันยกสองมือขึ้น หนึ่งอยู่ล่างหนึ่งอยู่บนทำท่าคล้ายโอบลูกหนังใบหนึ่ง พลันบังเกิดเสียงครืนครั่น เกี้ยวโดยสารถอยร่นไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เจาเหยินกงจู้ทั้งสามรวมทั้งบรรดาเหล่าหารต่างงงงันวูบ
ที่แท้เฉาฮั่วฉุนอาศัยวิชากำลังภายในอันแกร่งกร้าวบังคับเกี้ยวโดยสารถอยร่นไป
เกี้ยวโดยสารถอยร่นไประยะหนึ่ง เฉาฮั่วฉุนค่อยลดมือลงหันใจกลางฝ่ามือเข้าหากัน ควงฝ่ามือคราหนึ่งเกี้ยวหรูเลิศก็หมุนวนอย่างเร่งร้อน ก่อเกิดเป็นพลังลมทะลักทะลายออกรอบข้าง คุกคามเจาเหยินกงจู้ถอยห่างออกไป ขณะนั้นแนเสี่ยวเชี่ยนกับเฟยจินเอ๋อพลันฝ่าองครักษ์มาสมทบที่ข้างกายของเจาเหยิน ทั้งสามมองดูเกี้ยวหมุนวนด้วยความตระหนก
เกี้ยวหรูเลิศยังคงหมุนวนอยู่หลายรอบค่อยหยุดนิ่งลง เฉาฮั่วฉุนเลิกม่านก้าวออกมาจากเกี้ยว ชี้มือไปยังเจาเหยินกงจู้ทั้งสาม ตวาดสั่งว่า

"
จับกุมพวกนางทั้งเป็น"

ไม่มีความคิดเห็น: