ศีรษะ
ที่พับหงายไปด้านหลังของอรอุษา
ทำให้ช่วงคอขาวนั้นยิ่งดูเรียวระหงสะท้านขึ้นมายั่วสายตาของเสี่ยคิ้ม
ความขาวละออนั้นถูกขับเน้นด้วยแสงไฟจ้าจากหน้ารถของศักดาที่จอดอยู่ด้านหลัง
จนเสี่ยนักค้าทองตัวกระตุกสั่นไปด้วยความกระสันซ่าน
ซุกไซร้ใบหน้าแลบลิ้นโลมเลียลากไล้ไต่ไปตามลำคอของเด็กสาวอย่างหื่นกระหาย
หิว...
เสียงซ๊วบ
ซ๊วบ
ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อริมฝีปากหนานั้นประกบห่อดูดไปตามผิวเนื้อที่
ขาวเนียนละมุนอย่างเร่าร้อนรุนแรง...เสี่ยคิ้มครางกระเส่าออกมาไม่ขาดปาก
...เมื่อความหวานที่เสพสมได้จากผิวเนื้อของสาวแรกรุ่นนั้นเต็มไปด้วยความหอม
หวนอเร็ดอร่อยในความรู้สึกจนเหลือประมาณ...ปากของเสี่ยค้าทองปาดดูดต่อ
เนื่องไปตามช่วงคอที่ขาวระหงอย่างมันเมาในอารมณ์...ท่ามกลางสายตาของตี๋กับ
ชดที่เบิกตาถลนมองมา...สมุนทั้งสองนั้นกระเดือกน้ำลายเหนียวๆ
ลงคออย่างยากลำบาก...ความขาวผ่องของผิวพรรณที่กำลังถูกตะโบมจูบควานลากลิ้น
เลียไปมาของเสี่ยเจ้านายนั้นเร้าอารมณ์ของชายฉกรรจ์ทั้งสองจนตัวสั่นระริก
ตรงเป้ากางเกงนั้นตุงเด่ออกมาทั้งคู่
และถ้าอรอุษาจะยังมีสติรับรู้ความเป็นไปรอบด้าน...เธอก็คงแทบช๊อก...เพราะ
สายตาอีกคู่นั้นที่จับจ้องมองมายังการกระทำของเสี่ยค้าทองเขม็งก็คือสายตา
ของศักดาที่ยืนอยู่ด้านหลังสองสมุนของเสี่ยคิ้ม...
จิ้งจอกสวาทนั้นค่อยๆ
กล้าปรากฏตัวตามมาหลังจากมองเห็นว่าเด็กสาวนั้นเป็นลมแน่นิ่งไปแล้ว...
ในช่วงเวลานั้นแววตาของจิ้งจอกราคะที่จ้องมองเสี่ยคิ้มตักตวงความหอมหวานจาก
เรือนกายที่ควรจะเป็นของเขาแต่ผู้เดียวนั้นมันเต็มไปด้วยประกายแห่งความเจ็บ
ปวดใจ...ดวงตาของศักดาถมึงทึง...ขุ่นแค้น...อาฆาต...เต็มเปี่ยมไปด้วยเพลิง
แห่งโทสะอันกราดเกรี้ยว...ร่างกายของชายหนุ่มสั่นเทิ้มด้วยความรู้สึกที่อัด
อั้นตันใจ...ความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นสมัยที่ตนเองเสียรู้เสี่ยเซี้ยงนั้น
หวนกลับมาอีกครั้ง...และคราวนี้ยิ่งจะดูเจ็บปวด...สาหัสในจิตใจยิ่งกว่า
ครั้งก่อนอีกหลายเท่า...
เนื้ออันงามที่บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชาย...สมควรจะถูกเขาเป็นคนเด็ดดมเป็นคนแรก...ไม่ใช่ไอ้เสี่ยคิ้ม....
ศักดาร่ำร้องในใจอย่างโหยหวน
ดวงตาแดงซ่าน....ขบริมฝีปากแน่น
มือทั่งสองกำสั่นระริก...
ในเวลานั้นเสี่ยคิ้มแทบคลั่งใจตายด้วยความหฤหรรษ์
มือซ้ายอ้อมไปตวัดรัดช้อนตรงกลางหลังของร่างบางที่สลบไสลไม่ได้สตินั้นไม่
ให้ระทวยล้มลงไปกับพื้นอย่างง่ายดายเพราะความเบาหวิวของเรือนร่างนั้น
ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นลากขยำขยี้ไปตรงก้อนเนื้อบนทรวงอกของอรอุษา
ที่ถึงแม้ไม่ชูชันใหญ่โต
แต่ความนุ่มนิ่มที่เสี่ยตัณหากลับรับรู้ได้แม้ว่าจะต้องผ่านเนื้อผ้าของ
เสื้อที่เด็กสาวสวมใส่และชุดชั้นในที่ห่อหุ้มอยู่อีกชั้นหนึ่ง
ก็ทำให้ขนทั่วตัวของเสี่ยนักค้าทองลุกชัน
ริมฝีปากที่ไม่ห่างไปจากช่วงคอขาวผ่องนั้นครางออกมาเสียงกระเส่า
“โอยย....นุ่มนิ่มไปหมดเลย...ไอ้ตี๋ไอ้ชด....พวกมึงเอ๋ย...เด็ด
สุดๆ....หอม...นุ่ม....โอยยยยยย...
หนูจ๋า....นม...นิ๊มนิ่ม...อูยยยย...ซี๊ดดดด.....”
เสี่ยคิ้มพล่ามไป
น้ำลายที่ฟูมปากออกมานั้นก็ไหลเยิ้มย้อยออกมาเป็นทางอย่างน่าทุเรสเป็นที่
สุด
จนต้องสูดปากดูดกลืนกลับไปเสียดัง...ซี๊ดดดดด...มือหยาบตะปบคลึงไปอย่างเมา
มันบนปทุมถันที่แม้ว่าจะซ่อนรูปอยู่ภายในอาภรณ์อันมิดชิด
แต่ทว่าก็ยังแลเห็นได้ชัดเจนว่าสวยได้รูปราวกับดอกบัวตูม...ดอกบัวตูมที่
บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน...
ศักดามองดูด้วยสายตาที่เจ็บปวด...ตัวสั่นะริก....ความคั่งแค้นใจที่ท่วมท้น
ในใจนั้นเหลือประมาณนัก...ชายหนุ่มหายใจหอบถี่...กำหมัดแน่น...ริมฝีปากที่
ถูกฟันตนเองขบกัดนั้นมีเลือดไหลซึมออกมา...แต่จิ้งจอกสวาทหารับรู้ความเจ็บ
ปวดนั้นไม่...เพราะความเจ็บที่ใจนั้นมันรุนแรงจนกลบความรู้สึกอื่นไปจนหมด
ตี๋กับชดที่เบิกตาโพลงก็หอบหายใจออกมาถี่หนักเช่นเดียวกันกับศักดา...แต่
ต่างกันตรงที่ว่าลมหายใจอันร้อนแรงที่ทั้งคู่แสดงออกมาพร้อมกับอาการกระหาย
หื่นอย่างชัดเจน
เมื่อสายตาอันเหลือกลานนั้นมองมือหยาบของเจ้านายละออกจากฐานบัวตูมคู่งาม
นั้นแล้วเริ่มเลื่อนลงมาตามลำตัวที่บอบบางโปร่งระรวย
นิ้วที่อวบอ้วนเคลื่อนขยำไปตามลำกายที่นุ่นนิ่มผ่านช่วงเอวที่คอดกิ่ว
และสะโพกผายกลมละลานตา
ก่อนมือข้างนั้นจะควานเคล้นสอดหายเข้าไปใต้ชายเสื้อตัวสวยที่อรอุษาสวมใส่
ตี๋กับชดมองเห็นอาการขยุกขยิกที่อยู่ภายใต้ร่มผ้าเนื้อนุ่มนั้น...โดยที่ไม่
ต้องจินตนาการให้ลำบากก็แน่ใจได้ว่ามือของเจ้านายนั้นกำลังลากไล้สัมผัสไป
ตามหน้าท้องแบนราบนั้นอย่างเต็มๆ
เสี่ยคิ้มอ้าปากครางเสียงกระเส่า
“โอยยย...ผิวนุ่มชิบหาย...นิ่มมือไปหมด...อูยยย...หนูจ๋า...ทำไมมันนุ่มอย่างนี้...ซี๊ดดดด...”
เสี่ยค้าทองปัดป่ายมือละเลียดไปกับผิวกายบริเวณหน้าท้องและช่วงเอวคอดนั้น
อย่างละลานใจ
มือโฉดนั้นขยำเฟ้นไปตามผิวกายที่เต่งตึงนุ่มนิ่มราวกับผิวทารก
นิ้วอวบสั้นทั้งห้ากางออกราวกับใบตาล
เค้นนิ้วตนเองไปบนผิวกายของอรอุษาเพื่อรีดเน้น..เสพสมดื่มด่ำกับความนุ่ม
เนียนนั้นให้เต็มไม้เต็มมืออย่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้...ปากหนาก็หัวเราะ
กระเส่าไปพร้อมๆ
กับลากลิ้นโลมเลียไปตามซอกคอขาวผ่องหอมกรุ่นนั้นบังเกิดเสียงดัง...แผล็บ
..แผล็บ..ไม่หยุดจังหวะแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว
เมื่อลูบสัมผัสดื่มด่ำความเนียนนุ่มตรงหน้าท้องเรียบสวยของอรอุษาจนอิ่มใจ
เสี่ยคิ้มก็ค่อยๆ
ลากมือสากของตนเองไล้ไต่ไปตามช่วงตัวอันบอบบางนั้นขึ้นมาเรื่อยๆ
การขยับนั้นก็ทำให้ชายเสื้อตัวสวยนั้นเลิกตามขึ้นมา
เปิดเผยผิวกายอันขาวละมุนผุดผาดของเด็กสาวขึ้นมาให้ผู้ชายทุกคนในบริเวณนั้น
ได้แลเห็นความงามอันไร้ที่ติตั้งแต่หน้าท้องที่แบนราบไร้ไขมันส่วนเกินแม้
แต่น้อยนิด
และช่วงลำตัวที่เพรียวบางที่กำลังระทวยพักอยู่กับแขนของเสี่ยค้าท้อง...ลม
หายใจของคนทั้งหมดแทบขาดห้วงไปกับภาพตรงหน้า...ไม่เว้นแม้แต่ศักดาที่กำลัง
ขุ่นแค้นในใจสุดระงับ...ดวงตาของชายหนุ่มเบิกโพลง...เส้นเลือดวิ่งขึ้นเป็น
ริ้วๆ จนทำให้นัยน์ตาของเขาแดงฉาน...
ความขาวงามของผิวพรรณราวกับหยกเนื้อดีที่ชายหนุ่มมองเห็น...ความงามนั้น
....ความงามที่ควรจะต้องตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว....แต่ตอนนี้ผิวกาย
ที่ขาวราวกับหยกที่ตัดกับมือดำหยาบของเสี่ยค้าทองที่กำลังขยำขยี้อยู่อย่าง
ชัดเจนเป็นภาพที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้ร่างกายที่สั่นเทิ้มของจิ้งจอกสวาทแทบ
จะแตกระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นที่พล่านพลุ่งอยู่ในอก
เสี่ยคิ้มลากมือขึ้นไปตามความเนียนนุ่มของช่วงตัวอันบอบบางนั้นเรื่อยๆ
พร้อมๆ
กับเลิกชายเสื้อเนื้อนุ่มของอรอุษาตามไปจนในที่สุดสมุนทั้งสองของเสี่ยค้า
ทองก็แลเห็นเนื้อผ้าสีชมพูอ่อนบางเบาของชุดนั้นในที่กำลังห่อหุ้มปทุมถันคู่
งามตูมสวยนั้น
ความขาวกระจ่างที่สว่างวาบขึ้นตรงหน้าทำให้ตี๋กับชดส่งเสียงครางออกมาไม่
เป็นภาษาคน..น้ำลายไหลยืดออกมาตามมุมปากเป็นย้อยไปเป็นทางยาวอย่างน่าทุ
เรส...
“สวยเหลือเกิน....ขาวอย่างกับหยวก...อูยยยยย....เสี่ย.....สุดยอดดด....นมกลมดิ๊กเลย....ซี๊ดดดดด”
ตี๋เบิกตาแทบถลนร้องครางออกมาเสียงกระเส่า...ตอนนั้นความกระสันซ่านทำให้เขา
ทนไม่ได้อีกต่อไป...ต้องรูดซิปเป้ากางเกงของตัวเองลงจนสุด
แล้วกระชากท่อนลำที่กำลังขยายตัวเต็มที่ออกมากระทอกเป็นการใหญ่...ปาก
ห่อครางบิดเบี้ยว
ร่ำร้องเสียง...ซู๊ดดดด..ซู๊ดดดด..
นายชดคู่หูอีกคนที่มีสภาพไม่ต่างกัน...เบิกตากว้างจนแทบถลนออกมาจากเบ้า
...มองมือของเจ้านายที่กำลังขยำสองเต้าตูมนั้นผ่านชุดชั้นในสีชมพูอ่อนงาม
เนื้อบางเบา...เนื้อขาวๆ
ตรงบริเวณร่องอกที่กำลังถูกใบหน้าของเสี่ยคิ้มซุกไซร้ลงไปใช้ลิ้นลากดูด
เสียงซ๊วบ
ซ๊วบ....เสียงครางกระเส่าของเจ้านายดังประสานกับเสียงที่ปากหนาดูดไปตามผิว
เนื้อขาวๆ ดังชัดเจน...ซ๊วบ
ซ๊วบ
ซ๊วบ...อูยยยย....อร่อยชิบหาย....โอยยย....หวานไปหมด....อูยยยย
...ซี๊ดดดดด.....
ภาพที่เห็นทำให้นายชดดวงตาก็เบิกถลน...มือที่กระตุกลำควยตัวเองไม่ต่างอะไร
กับเพื่อนคู่หูเร่งกระชั้น
หอบหายใจออกมา
ปากพล่าม...ซี๊ดด...ซ๊าดดด...ไม่หยุด...เบิ่งมองไปก็นึกจินตนาการไปว่าเป็น
ตนเองที่กำลังเฟ้นฟอนขยำคลึงจูบละเลงไปบนร่องอกที่สุดขาวสล้างนั้น...นิ้ว
มือที่รูดไปตามท่อนเนื้อของตนเองนั้นเหนียวเหนอะไปด้วยน้ำขาวๆ
ที่กระปริดกระปรอยออกมาจากหัวถอกบาน
ศักดาจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแทบคลั่ง....ความรู้สึกอย่างหนึ่งพล
วยพลุ่งขึ้นมาจนจับใจของชายหนุ่ม....ความรู้สึกที่จิ้งจอกสวาทเองก็ไม่รู้
เหมือนกันว่าเกิดมาจากอะไร...แต่ความรู้สึกนั้นมันเร่าร้อนแผดเผาในใจของเขา
จนรู้สึกราวกับร่างกายตนเองกำลังจะมอดไหม้....ความรุนแรงเร่าร้อนในจิตใจ
นั้น...แม้กระทั่งวันที่เขาสำนึกว่าเสียรู้เสี่ยเซี้ยง....ชายหนุ่มก็ยังไม่
รู้สึกถึงขนาดนี้....
ขณะที่ปากหนาของเสี่ยคิ้มไม่หยุดยั้งการโลมเลียไปตามร่องอกขาวผ่องปานเย้ย
หิมะให้อายนั้น
มือของเสี่ยนักค้าทองก็เปะปะย้อนกลับมาตามลำตัวเพรียวบาง
และหน้าท้องขาวผ่องของเด็กสาว
มือหยบาบนั้นขยำขยี้ไปตามเนื้อเนียนละเอียดนั้นอย่างเมามัน
นิ้วทั้งห้ากางแผ่ออกขยายจนสุดรีดไปตามผิวกายที่เต่งตึงราวกับจะต้องการ
ละเลียดความอ่อนนุ่นนั้นเข้าไปตามร่องมือให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
เสียงหัวเราะหยาบช้ากระเส่าดังไม่หยุด
เสียงที่ราวกับภูตนรกที่คร่ำครวญนั้นดังลอดออกมาจากปากหนาที่กำลังดูดประกบ
ไปตามร่องอกที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นอย่างเมามัน
มือหยาบของเสี่ยคิ้มหลังจากละเลงไปตรงหน้าท้องขาวนั้นจนอิ่มเอมสุดอารมณ์
ก็เคลื่อนต่ำลงไปอีกคราวนี้ตะโบมขยำไปตรงช่วงบริเวณหว่างขาเพรียวงามที่ระทด
ระทวยไร้เรี่ยวแรง
เสี่ยราคะตัวสั่นสะท้านอย่างหฤหรรษ์เมื่อรับรู้สึกถึงความนูนแน่นแห่งเนิน
สวรรค์นั้นถนัดถนี่ถึงแม้ว่าจะกางกั้นด้วยกางเกงยีนส์สีขาวเนื้อหนาเข้ารูป
ที่อรอุษาสวมใส่อยู่
เสียงหอบหายใจของเสี่ยคิ้มดังกระเส่า...ฮัซซ
ฮัซซซ...ในเวลานั้นเสี่ยตัณหากลับรู้สึกถึงความกระหายอยากในตัวนั้นพล่าน
ขึ้นมาจนเจ็บปวดไปหมด
เพราะท่อนกายของตนเองนั้นขยายตึงตัวบานหัวออกมาเต็มเป้ากางเกง
อารมณ์พล่านในกายของเสี่ยค้าทองขับให้นิ้วมือชั่วร้ายทั้งห้านั้นจะช่วยกัน
ทำงานอย่างพร้อมเพรียง
ระดมลงไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ที่อรอุษาใส่
และปาดรูดซิปตรงเป้าลงไปจนสุด....จากนั้น....เนื้อผ้านุ่มเนียนเบาบางสีชมพู
อ่อนเข้าชุดเช่นเดียวกับยกทรงที่ห่อหุ้มปทุมถันคู่งามปรากฏออกมาท้าทายสายตา
ของทุกผู้คนในบริเวณนั้นทันที
เสียงคราง...ฮืออ...ดังมาจากปากของตี๋กับชดสองสมุนของเสี่ยคิ้ม
ชายฉกรรจ์ทั้งคู่เบิกตาแทบถลน
ปากอ้าหวอนั้นแหกกว้าง
พ่นลมหายใจกระเส่าออกมาพร้อมๆ
กับฟองน้ำลายที่ไหลยืด...มือที่กระตุกท่อนลำตัวเองกระชากถี่ยิบ...น้ำเมือก
ไหลเยิ้มออกมาจากปลายหัวหยักนั้นส่งกลิ่นคาวฉุนตลบ...
และเมื่อทั้งสองแลเห็นเสี่ยผู้เป็นหัวหน้าแบะมือสอดมือลงไปในเป้ากางเกงที่
ถูกรูดซิปเปิดกว้าง
และควานคลึงไปบนบริเวณใต้ร่มผ้าของกางเกงเนื้อหนาสีขาวสะอาดที่แบะออกอย่าง
ไร้ทางปกป้องนั้น
ดวงตาเหลือกลานทั้งสี่ข้างนั้นเพ่งมองไปที่ข้อมือหนาที่กระตุกสั่นเทิ้ม
...แค่นึกจินตนาการว่านิ้วมือขอเจ้านายทั้งห้ากำลังเสพสุขอยู่กับอะไรที่
ซ่อนอยู่ภายในก็ทำให้อารมณ์ดิบ...อารมณ์กระสันของทั้งคู่ลุกกระพือ....ร่าง
บิดส่ายกระตุกไปมา....ร้องโอว...โอววว...มือกระทอกควยต่อเนื่องอย่างมันส์ใน
อารมณ์....พยายามทำใจให้นึกเอาว่า...พวกตนเองเป็นเจ้าของมือที่กำลังสั่น
กระตุกเทิ้ม
ลากเขย่าเนินสวรรค์ตรงหน้า...พร้อมเพรียงกันแหกปาก...ซี๊ดดดด...ซ๊าสดดดด...
ความมันส์ในการจินตนาการของนายตี๋กับนายชดนั้นเทียบเทียมไม่ได้
กับความรู้สึกของเสี่ยคิ้มที่กำลังละเลงมือขยำไปบนเนินนูนที่ซ่อนความนุ่ม
แน่นอยู่ภายในเนื้อผ้าบางเบานั้นเลยแม้แต่หนึ่งในพัน
ตอนนั้นแทบทุกอณูแห่งความรู้สึกเสี่ยนักค้าทองนั้นพล่านไปด้วยเพลิงตัณหาที่
กำลังได้รับการบำบัดเสพสม
ร่างของเสี่ยค้าทองสั่นกระตุกวาบๆ
หัวถอกที่บานกระทุ้งเป้ากางเกงนั้นกระตุกหงึกหงักจนปวดแสบไปหมด
ปากหนาร้องครางกระเส่า
ร่างสั่นกระตุกไปด้วยความกระหาย
ความพลุ่งพล่านที่ได้รับรู้จากมือของตนเองนั้น
แผ่ลามความรู้สึกที่ร้อนราวกับไฟเผาเลียไปทั่วร่างกาย
เหงื่อกาฬแตกโทรมออกมาทั้งตัว....อารมณ์ที่ถูกเร้าขึ้นเมื่อนิ้วมือทั้งห้า
ลากกระตุกไปตามเนื้อผ้านุ่มเนียนนั้นรับรู้ถึงกลีบเกสรที่อ่อนนุ่มโรยตัว
อยู่ข้างใน....ปากหนาระบายความอัดอั้นที่พล่านอารมณ์แทบระเบิดนั้นโดยการตะ
โปมลากดูดไปตามผิวเต่งของสองก้อนเนื้อขาวงามที่เบียดแนบชิดกันอยู่ภายใต้
ยกทรงเนื้อเนียน...
เสียงดังซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดดด....ซี๊ดดดด...เร่าร้อน...ต่อเนื่อง...ไม่ขาด
ระยะ....
ขณะเดียวกันนั้นสมุนทั้งสองคนที่กำลังกระทอกเอ็นดำของตัวเองก็อ้าปากหวอ
...สูดน้ำลายไหลที่ยืดออกมาไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว...ดวงตาที่เบิก
โพลงมองอยู่นั้น
แทบทะลุออกมาจากเบ้า....ปากร้องกระเส่า
ซู๊ดดดดดด ซู๊ดดดดดดด
มือหนากระตุกถี่ยิบ...ร่างของทั้งสองบิดไปบิดมา....อารมณ์หื่นที่พลุ่งพล่าน
ไต่ระดับขึ้นไปสู่จุดหมายของความปลดปล่อย....
ศักดาเห็นภาพเบื้องหน้าแล้วชายหนุ่มต้องกัดริมฝีปากแน่น
ขบฟันลงไปอย่างแรงเพื่อเป็นการข่มเพลิงแค้นที่ระอุอยู่ภายในใจ...เลือดซิบๆ
ไหลซึมออกมาจากแรงกดนั้น...ดวงตาที่แดงฉานซ่านไปด้วยเส้นเลือดที่วิ่งขึ้น
เป็นริ้วๆ
เบิ่งมองชายสามคนตรงหน้าแน่วนิ่ง...ภาพตรงหน้า...คนหนึ่งกำลังย่ำยีความงาม
ล้ำของเรือนกายที่ควรจะต้องเป็นของเขาแต่ผู้เดียว...อีกสองคนกำลังถอกควยตัว
เอง...กำลังพล่านไปด้วยอารมณ์ดิบ...สนุกหื่นกับตัวเองท่ามกลางความเจ็บปวด
ของตัวเขา....
และเมื่อสายตาของศักดามองเห็นสองสมุนของเสี่ยคิ้มที่กำลังยืนแอ่นสะโพก
กระทอกควยตัวเองอยู่นั้น
ตัวสั่นเทิ้ม...ระริกๆ...ที่กำลังจะใกล้ถึงจุดสุดยอดเต็มที...ดวงตาของ
จิ้งจอกสวาทก็เบิกโพลง...ความแค้นที่พลุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด...ทำให้ชายหนุ่ม
เกิดโทสะอันแรงกล้า....ขยับเข้าไปหมายจะระบายอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดอย่างไม่
คำนึงว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกต่อไป....
แต่ทว่าทันใดนั้นเอง
ร่างของศักดาก็ชะงัก
เมื่อเขาเห็นด้ามปืนที่พ้นซองปืนที่สวมอยู่ตรงหว่างเอวของนายตี๋นั้นลอยออก
มา...ความคิดบางอย่างวาบขึ้นมา.....
ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นเต้น...ตึงเครียด...ใจเต้นระส่ำไม่แพ้
กับร่างที่กำลังกระตุกเทิ้ม....ความกลัวอันเป็นเนื้อแท้ตามกมลสันดานนั้นทำ
ให้ร่างกายไม่กล้าขยับ....แต่ทว่าท่ามกลางความรู้สึกที่พล่านไปด้วยความ
คลั่งแค้น....พลังบางอย่างที่ถูกขับมาจากความรู้สึกส่วนลึก...พลังที่ตัวของ
จิ้งจอกราคะไม่เคยรู้สึกมาก่อนพลุ่งขึ้นราวกับภูเขาไฟระเบิด.....พลังที่มี
อำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตามระยะเวลาที่ของมองเห็นภาพที่บาดตาตรงหน้า...จนในที่สุด....ภายใต้ดวงตา
ที่เบิกโพลง...ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าไปช้าๆ...
ตี๋ที่กำลังยืนกระทอกควยตัวเองสูดปากลั่น...ตัวร่านระริก...มือกระตุกถี่ยิบ
....ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลังก็ร้องกระเส่าเคล้าหัวเราะอย่างย่ามใจ
“อูยยยย....ไอ้ศักดา...เด็กมึงนี่โคตรสวย...อูยยยย...หีแม่งคงอูม
เต็มมือเสี่ยเขาเลย...ผิวขาวอย่างกับหยวกกล้วย...สุดยอดดดดด....ซี๊ดดดด
....อูยยยย...อูยยยย....นี่ขนาดกูแค่มองนะ....ถ้าเป็นตัวเสี่ยเอง...จะมันส์
มือขนาดไหน...อูยยยย...อูยยย...แค่คิด...กูจะถึงแล้ววววว....ซี๊ดดดดด
....แล้ว...นี่กูจะได้วาสนาต่อจากเสี่ยเขาไหมวะ..ถ้าได้นะ...กูจะกระเด้าให้
อร่อยควยทั้งคืนไม่หยุดเลย...ฮ่ะ..ฮ่ะ”
ดวงตาของศักดาแทบมีเพลิงพลวยพลุ่งออกมา
มองไปยังเสี่ยคิ้มที่ตอนนั้นกำลังสาละวนบดปากไปตามร่องอกของอรอุษา
มือหยาบนั้นลากกลับมาจากการควานเนินสวรรค์สร้างของเด็กสาว
ขยำไปตรงช่วงเอวขาวคอดอย่างเมามัน
นิ้วมือจิกไปตามผิวกายนุ่มละเอียดนั้นจนเป็นรอยบุ๋มไปตามแรงกด
ในเวลานั้นกางเกงยีนส์ที่อรอุษาใส่นั้นแบะค้าง
เผยให้เห็นหน้าท้องขาวผ่องแบนราบ
ช่วงท้องน้อยสุดงามตระการตาที่ซ่อนตัวอยู่ในเนื้อผ้าสีชมพูอ่อน
และเนินนูนที่เห็นได้รำไรผ่านเป้ากางเกงที่ถูกรูดซิปออกไปจนสุด....
เสี่ยตัณหากลับพยายามแกะรั้งยกทรงเนื้อผ้าบางเบาตัวน้อยนั้นให้เลิกขึ้นไป
เพื่อตนเองจะได้โอบอมปลายถันที่ตูมเต่งนั้นถนัดๆ
ปาก เสียงลมหายใจของเสี่ยค้าทองดังครืดคราด
ขณะที่สองสมุนก็เบิกตาแทบถลนจ้องมองการกระทำของเจ้านาย
พร้อมๆ
กับถอกควยตัวเองไป...กำลังถึงจุดสุดยอดในทุกขณะ....ไม่มีใครสนใจการเคลื่อน
ไหวของเขา....
จิ้งจอกสวาทไม่เคยเป็นคนที่คิดสู้ใคร...สิ่งเดียวที่เขาทำคือการหลอกลวง
...และพร่าสวาทเหยื่อสตรีเพศที่อ่อนแอของเขา....แต่ตอนนี้ความรู้สึกเดือดาล
...โทสะ...ความแค้นที่คลั่งพลุ่งพล่านขึ้นจากภาพที่เห็นเสี่ยคิ้มกำลังตะโบม
ไปตามเรือนร่างของอรอุษาทำให้ศักดาเกิดความคิดอย่างที่ไม่เคยแม้จะฝันว่าตัว
เองจะกล้าทำ....
ในเวลานั้นนายตี๋ตัวกระตุกถี่ถี่...ปากร้องโอ้กกก....เหงื่อกาฬแตกพรั่งพรู
....ใบหน้านั้นบิดเบี้ยว...ตาเหลือกพล่าน....มือที่กระตุกถอกลำอวบของตนเอง
นั้นเคลื่อนไหวถี่ยิบ....ร้อง...อ๊าซซซ
อ๊าซซซซ....ความเสียวซ่านที่ถูกมือตัวเองชักนำนั้นกำลังไต่ขึ้นไปสู่จุดสุด
ยอด......
จังหวะนั้นเองที่ร่างของศักดาสะอึกเข้าไปกระชากปืนลูกโม่ดำมะเมื่อมของนาย
ตี๋ออกมาจากซอง...สมุนของเสี่ยคิ้มใจหายวาบ
ร่างหันขวับมาเบิกตาโพลง
อ้าปากค้าง...สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความแตกตื่นใจจนถึงขีดสุด....
ใบหน้าของศักดาเหี้ยมเกรียม...กระดิกนิ้วกระหน่ำไกปืนไปพลัน!!!
....เปรี้ยง!!!....เสียงดังกึกก้องกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าผ่า...พร้อมๆ
กับหยาดเลือดซ่านกระเซ็น...กลิ่นคาวเลือดโชยคลุ้งตลบอบอวล....และตามมาด้วย
เสียงแผดร้องโหยหวน....
ร่างผอมเกร็งของนายตี๋กระเด็นวาบออกไปทันที
ที่ทรวงอกมีหย่อมเลือดที่ทะลักออกมาราวกับท่อน้ำรั่ว...ร่างที่นอนหงายกับ
พื้นนั้นลำอวบของตัวเขายังแข็งเด่.....ปลายถอกนั้นพุ่ง...ปรี๊ดน้ำกามขาว
ขุ่นไหลเยิ้มออกมา...แต่เจ้าของนั้นหามีความรู้สึกใดๆ
กับการรับรู้แล้ว....ดวงตาเหลือกลานนั้นเบิกโพลงค้างไม่ต่างอะไรกับปลา
ตาย....
เสียงปืน
ทำให้เสี่ยคิ้มกับนายชดใจหายวาบ
ร่างกำยำของนายชด
หันกลับมาพร้อมๆ
กับเอื้อมมือไปที่ด้ามปืนของตนเอง
สมุนของเสี่ยคิ้มนั้นเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธมากกว่าศักดาจนเปรียบกันไม่ได้
...แต่อารมณ์หื่นที่กำลังคุกโชนนั้นกลบปฏิกิริยาที่เขาเคยมี...อารมณ์นั้น
ปรับตัวไม่ทันจนทำให้มือไม้นั้นลุกลี้ลุกรน...ยังไม่ทันกระชากปืนออกจากเอว
...ในเวลานั้นจิ้งจอกราคะก็เบนปากกระบอกปืนเข้าหาตัวเขาแล้ว
...เปรี้ยง...!!!
ร่างเตี้ยกำยำของนายชดสะท้านเฮือกไปตามเสียงกึกก้องกัมปนาทครั้งที่สองนั้นทันที
...ถึงแม้ศักดาจะไม่เคยยิงปืน...แต่ปืนรุ่น
S&W
ที่นายตี๋ใช้นั้นเป็นปืนที่ควบคุมกระสุนได้ง่าย...แม้กระทั่งอรนุชที่เป็น
ผู้หญิงมือเล็กก็ยังชอบใช้เป็นปืนโปรดประจำตัว...และระยะที่ทั้งสองยืนอยู่
กันนั้นห่างกันแค่ไม่ถึงสองสามก้าวดี...เมื่อชายหนุ่มเหนี่ยวไกปืนด้ามสีดำ
มะเมื่อมนั้นระบบทำงานแบบ
double action ก็ส่งกระสุนปืนขนาด
.38 มม.
พุ่งทะลุอกของชายร่างกำยำไปโดยทันที
ร่างของนายชดพลิกคว่ำ...ที่กลางหลังปรากฏวงของรอยเลือดขยายตัวออกจนแดงฉาน
...กลิ่นคาวโชยคลุ้งขึ้นมาทันที...ร่างกำยำหนานั้นกระตุกครืดคราดอยู่ครู่
หนึ่งก็ชะงักค้างแน่นิ่งไปตลอดกาล....
ศักดาหันไปยังเสี่ยคิ้ม
ขณะเดียวกันกับเสี่ยค้าทองที่กำลังเบิกตาโพลงด้วยความแตกตื่นใจมือเท้าอ่อน
ปล่อยให้ร่างบางของอรอุษาที่ไร้สตินั้นระทวยทรุดล้มลงไปกับพื้น
ศักดาเดินใบหน้าถมึงทึงเข้ามา
จ้องปืนในมือเข้าหาเสี่ยนักค้าทองที่ปากคอสั่น
ยกไม้ยกมือห้ามอย่างหวาดกลัว
“...ยะ...อย่า...ยิงฉัน...ขอ...ร้อง”
จิ้งจอกสวาทแสยะยิ้มออกมา
สะใจกับภาพแสดงอาการหวาดหวั่นกลัวตายของเสี่ยคิ้มตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง
เดินสืบเท้าเข้ามา
ปืนลูกโม่ในมือราวกับมัจจุราชสีดำที่กระตุกขวัญจนเสี่ยค้าทองกระเจิงไปด้วย
ความพรั่นพรึง
เข่าอ่อนจนต้องทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น
ยกมือไหว้ศักดาอย่างหมดสิ้นศักดิ์ศรี
“อย่า...ฉันไหว้ล่ะ...อย่ายิงฉัน...ฉันยอมทุกอย่าง...อย่า...อย่า....”
ปากหนาของเสี่ยตัณหากลับสั่นระริกระรัวเร็ว
เมื่อปากกระบอกปืนนั้นถูกจ่อจี้มายังศีรษะของตนเอง
นัยน์ตาเหลือกลานแดงฉานมีน้ำตาไหลพรากออกมาเป็นทาง
เหงื่อกาฬแตกพลั่กๆ
ศักดาแค่นหัวเราะ
ดวงตาวาวโรจน์อย่างเหี้ยมเกรียม
ทันใดนั้นเอง
เสียงโทรศัพท์ของเสี่ยนักค้าทองก็ดังกังวานขึ้น....
พร้อมๆ
กับเสียงเรียกเข้าของมือถือ...ร่างของเสี่ยคิ้มที่กำลังพรั่นพรึงจนถึงขีด
สุดนั้นสะท้านเฮือกขึ้นมาสุดตัว
แผดร้องลั่น....ความรู้สึกที่บีบคั้นจับหัวใจนั้นส่งผลทำให้เสี่ยค้าทองแตก
ตื่นจนปัสสวะไหลออกมาเต็มเป้ากางเกงส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง
จิ้งจอกสวาทหัวเราะอย่างเหยียดหยาม
“กลัวจนฉี่แตกเลยเหรอ...เสี่ยคิ้ม...ฮะฮะ...”
ใบหน้าของเสี่ยค้าทองซีดขาวอย่างอับอาย
ดวงตาเหลือกลานเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น
หวาดกลัว พรั่นพรึง ทั้งเสียหน้า
เสียศักดิศรี
แต่ก็ไม่มีกำลังขวัญพอจะแสดงออกมาต่อหน้าคนที่กำลังใช้ปืนจ่อขมับตัวเองอยู่
ได้แต่คุกเข่า ก้มหน้า
ยกมือพนมไหว้สั่นระริกเท่านั้น
เสียงเรียกมือถือนั้นดังต่อเนื่อง
ศักดาแค่นหัวเราะ กล่าวว่า
“เสี่ยจะไม่รับโทรศัพท์หน่อยหรือ...”
เสี่ยค้าทองกล่าวเสียงแหบแห้ง
“มะ..ไม่เป็นไร...เดี๋ยวก็...ก็หยุดเอง...”
เสียงเรียกสัญญาณเรียกเข้านั้นหยุดไปอย่างที่เสี่ยคิ้มพูด...ทว่า...แค่ไม่ถึงอึดใจหนึ่ง....เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาใหม่
คราวนี้ศักดาชักรำคาญ
ตวาดว่า
“หยิบมือถือออกมา...ช้าๆ
นะ...อย่าลวดลาย...ไม่งั้นผมระเบิดสมองเสี่ยแน่”
เสี่ยนักค้าทองเอื้อมมือสั่นๆ
ไปหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เสียงเรียกเข้าดังต่อเนื่อง
ศักดาแบมือออก
เสี่ยคิ้มก็ส่งมือถือของตัวเองให้ชายหนุ่มแต่โดยดี
ทีแรกศักดาตั้งใจจะแค่ปิดโทรศัพท์มือถือ
แต่ทันใดที่เขาเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์ขึ้นมาดวงตาของชายหนุ่มก็เบิกโพลง
และยิ่งไปกว่านั้นชื่อที่เสี่ยคิ้มบันทึกเอาไว้นั้นมันชัดเจนเสียยิ่งกว่า
อะไร...
นังไอซ์....!!!!
ศักดาร่ำร้องในใจ....พลันบังเกิดความสงสัย...นังไอซ์มันมีความสัมพันธ์กับไอ้คิ้มด้วยหรือ....แล้วทำไมมันต้องโทรมาตอนนี้...
สมองที่เชี่ยวชาญในการวางแผนการอันยอกย้อน
ทำให้สมองของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์สว่างวาบขึ้นมา
ดวงตาสาดประกายถมึงทึงเกรี้ยวกราด....
หรือว่านี่เป็นแผนการของนังไอซ์ร่วมมือกับไอ้คิ้มเล่นงานเขา....?
ศักดายื่นส่งมือถือให้กับเสี่ยคิ้ม
กล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม
“ไม่ยักรู้ว่าเสี่ยรู้จักน้องไอซ์ด้วย...เปิดเสียงดัง...แล้วรับสาย...”
เสี่ยคิ้มที่แตกตื่นจนไม่มีความคิดจะขัดขืนความต้องการใดๆ
จากอีกฝ่าย รับโทรศัพท์มามือไม้สั่น
เปิดออกรับพร้อมกับส่งเสียงแหบๆ
“น้องไอซ์.....”
เสียงหัวเราะของฐิติพรรณดังออกมาใสกังวาน
“เป็นไงคะ..เสี่ยคิ้ม...เรียบร้อยไหม”
เสี่ยตัณหากลับเหงื่อแตกโทรมหน้า
ปากคอสั่นระริก
“เอ่อ...ครับ...น้อง..น้องไอซ์...โทรมาใหม่...ทีหลังได้ไหม...ผม..ผมกำลังยุ่ง...”
พริตตี้สาวตีความไปอีกอย่าง
เสียงหัวเราะจึงดังมาอย่างระเริงรื่น
“เสี่ยก็เบาๆ
หน่อยแล้วกันนะคะ...อย่าหักโหมรุนแรงให้มากนัก...น้องษาเขาไม่เคยค่ะ....คิก
คิก...ถ้าอย่างนั้นแค่นี้แล้วกัน...ไอซ์ไม่รบกวนเวลาหาความสุขของเสี่ยล่ะคะ
...แต่อย่าลืมนะคะ...จัดการไอ้ศักดาอย่างที่เราตกลงกัน...ทำลายหน้าให้มัน
เสียโฉม...ทำให้มันเจ็บสุดๆ...จากนั้นเสี่ยจะจัดการมันยังไงก็แล้วแต่
...ไอซ์แนะนำนิดเดียวว่าจัดการให้เรียบร้อยไม่ต้องให้มีห่วงพะวงจะดีที่สุด
...”
เสียงหัวเราะกังวานใสนั้นดังไล่มาเป็นคำสุดท้ายก่อนที่ฐิติพรรณจะวางสายไป
ท่ามกลางความแตกตื่นของเสี่ยคิ้ม
เมื่อแลเห็นใบหน้าถมึงทึงเหี้ยมเกรียมของศักดา
พลันตกลงใจโยนบาปภาระทั้งหมดให้กับฐิติพรรณ
ปากร่ำร้องวิงวอน
“ไม่..ไม่เกี่ยวกับฉันนะ...ทั้ง..ทั้งหมด..เป็นความคิดของน้องไอ
ซ์...เขาวางแผน...ทั้งหมด...ไม่..ไม่อย่างนั้น...ฉันจะตามนายมาถูกได้ยังไง
...เชื่อฉันนะ...”
ศักดาคำรามในใจอย่างเกรี้ยวกราด
นังไอซ์...นังงูเห่า....แว้งกัดกูเรอะ....
ในเวลานั้นชายหนุ่มมองเห็นดวงตาเหลือกลานของเสี่ยคิ้มนั้นกลิ้งกลอกไปมา
...ชะ...ไอ้คิ้ม...กูดูตามึงก็รู้...มึงวางแผนกับนังไอซ์เล่นงานกู...ไอ้
คิ้ม...
ความเดือดาลที่พล่านอยู่ในใจ...ทำให้ดวงตาของศักดานั้นราวกับมีเปลวไฟพลุ่ง
ขึ้นมา ความเหี้ยมโหดนั้นสาดประกายออกมา
จนเสี่ยคิ้มที่คุกเข่าอยู่รับรู้ได้จนตัวสั่นสะท้าน
แผดร้องคร่ำครวญออกมาอย่างหวาดหวั่นขวัญเสีย
ยกไม้ยกมือไหว้ท่วมหัว
“อย่า...ฉันกลัว...กลัวแล้ว...ขอร้อง...อย่า....อย่า....ยะ....ย.....อย่า...ได้โปรด....แกจะเอาอะไร...ฉันยอมหมด”
เสี่ยค้าทองน้ำตาไหล
ใบหน้านั้นบิดเบี้ยว
ดวงตาเหลือกลาน
ขณะที่จิ้งจอกสวาทแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น
สายตาของเขาปรายมองไปยังเสี่ยคิ้ม....อ่านทะลุใจของอีกฝ่าย...ตอนนี้เขา
เหมือนกับขี่หลังเสือ....ฆ่าคนตายไปสองคนแล้ว....อีกคนจะต่างกันแค่ไหน?...
...อย่าว่าแต่...ไอ้คิ้ม...ถ้าผ่านคืนนี้ไป...มีหรือมันจะไม่ตามเก็บเขาให้สมแค้น....
ความคิดของจิ้งจอกสวาทมาถึงตอนนี้
ดวงตาของชายหนุ่มก็สาดประกายอันโหดเหี้ยม....นิ้วที่กระชับโกร่งไกนั้นกระดิกวาบ!!!
.......................
เมื่อริมฝีปากที่ร้อนแรงของคมศรแตะลงไปอย่างแผ่วเบาบนกลีบกุหลาบนุ่มที่
กำลังสั่นระริก
สัมผัสที่อรนุชรับรู้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอนั้นก็ส่งผ่านคลื่นความ
รู้สึกที่รุนแรงและเสียวสะท้านไปจับขั้วหัวใจ
ความรู้สึกที่พล่านขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้นทำให้ร่างเล็กบางสะท้านไหว
กระตุกเกร็ง สองมือกำแน่น
อาการนั้นบังเกิดขึ้นพร้อมๆ
กับเสียงครางดังอย่างแผ่วเบาในลำคองามระหง
พ่อเลี้ยงปางห้วยสักวางมือของเขาลงไปบนสองบ่างามนั้น
นิ้วอันแข็งแรงทั้งสิบบีบไปอย่างเบาๆ
บดมือของเขาช้าๆ ค่อยๆ
เคลื่อนการนวดเฟ้นหัวไหล่ไปจนถึงต้นแขนบางอย่างเนิบนาบ
การกระทำของชายหนุ่มนั้นผ่อนคลายการรัดรึงของอารมณ์ที่บีบคั้นในใจของอรนุช
ลงไป ทำให้ร่างเกร็งของเด็กสาวค่อยๆ
สงบลง พร้อมๆ
กับอาการที่ใบหน้างามนั้นแหงนขึ้นเล็กน้อย
ปากบางอ้าออกสั่นระริก
คมศรเคลื่อนใบหน้าประกบปากเม้มไปยังกลีบกุหลาบงามที่เผยอออกมารอรับนั้นด้วย
อารมณ์ปรารถนาที่คุกกรุ่นในใจ
ความนุ่มเนียนที่สัมผัสได้เร่งปฏิกิริยาทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มไหลเวียน
อย่างรวดเร็ว ลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้น
คราวนี้เสียงครางดังแผ่วมาจากช่วงคอแข็งแรงของพ่อเลี้ยงหนุ่มบ้าง
ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านขับให้เขาใช้ลิ้นลากไล้สัมผัสไปบนกลีบงามบอบบางที่
ถูกดูดเข้ามาในปากตัวเอง
รสชาติของความหวานสั่นสะเทือนเข้าไปถึงขั้วหัวใจของคมศร
ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดความเสียวสะท้านที่แลบแปลบปลาบซ่านจากเรียวปากงาม
นั้นแผ่ลามไปทั่วร่างของเด็กสาว
เสียงครางของอรนุชสะท้านขึ้นประสานกับเสียงของคมศร.....สำเนียงแห่งความ
รู้สึกที่แผ่ออกมาราวกับสื่อไร้สภาพที่เคลื่อนเข้าจับใจของคนทั้งคู่....ทำ
ให้ต่างฝ่ายต่างรับทราบถึงความรู้สึกของกันและกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง....
ปากงามที่เผยอออกครางครวญ
เปิดโอกาสให้คมศรประกบริมฝีปากของตัวเองเข้าไปอย่างแนบแน่น
เนื้อแนบเนื้อจนแทบเป็นหนึ่งเดียวพร้อมๆ
กับลากลิ้นของตนเองไล้ไปตามกลีบปากนุ่ม
รสสัมผัสนั้นกระเพื่อมความรัญจวนใจให้แผ่ลามเกาะกินไปทั่วอณูความรู้สึกของ
เด็กสาว
ขับเร้าการตอบสนองของอรนุชให้เป็นไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว
เด็กสาวขยับเรียวปากของตัวเองเปิดรับการจุมพิตที่แสนหวานนั้นอย่างเต็มใจ
และเปิดทางให้ลิ้นอุ่นๆ
ของเขาเข้ามากระหวัดพันกับลิ้นนุ่มชุ่มชื้นของตน...
สองลิ้นเกี่ยวพันโลมรัดกันอย่างสุดเสน่หาเร้าความเสียวซ่านรัญจวนให้พล่าน
ขึ้นเต็มโพรงปากนั้น
ทำให้ร่างบางของอรนุชสั่นกระตุกไปทั้งตัว
เสียงครางดังขึ้น...แรงขึ้น....
ทรวงอกตูมตั้งนั้นสะท้อนถี่
มือที่จำเดิมกำแน่น
คลายออกตะปบไปที่แขนกำยำของคนที่ทอดตัวตะแคงข้างๆ
ตัวเธอ
นิ้วเรียวราวกับลำเทียนปักเล็บจิกไปในผิวกายอันแข็งแกร่งสมชายของคมศร
ส่งผ่านความรู้สึกภายในของเธอถ่ายทอดกลับไปสู่ตัวของชายหนุ่มที่รับทราบผ่าน
ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายเล็บนั้นกดเข้ามากับผิวเนื้อตนเอง
เสียงครางของเขาผสานกับเสียงของเธอเป็นจังหวะจะโคนที่แทรกซึมเข้าสู่โสต
ประสาทของทั้งสองนั้นราวกับเป็นมนต์สวาทพาให้ทั้งคู่ล่องลอยไปกับภวังค์เสน
ห่าแห่งวิมานกลางไพร
ความรัญจวนใจเร่งเร้าให้ริมฝีปากที่ประกบแน่นกันแน่นนั้นบดเบียดอย่างเร่า
ร้อน ลมหายใจแรงกระชั้นสั้น
และเสียงครางที่ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียว
ท่ามกลางความอ่อนหวานของบทเพลงแห่งการจุมพิตนั้น
คมศรพาอรนุชลีลาสดื่มด่ำกับความรู้สึกที่เต็มอิ่มและพร่าพรายจนเพริดแพร้ว
จนเมื่อความหวานนั้นลดตัวกลับไป
ปลายลิ้นเรียวของเธอก็เป็นฝ่ายเคลื่อนตามติดไปแทนที่
คมศรครางหนักๆ ในลำคอบ้าง
เมื่อความชุ่มชื้นของอรนุชนั้นแผ่ซ่านเข้ามาในปากของเขากลับกัน...
ท่ามกลางเพลิงแห่งความรัญจวนที่พลุ่งพล่านร้อนแรงในใจของทั้งสอง
ริมฝีปากของชายหนุ่มและเด็กสาวสอดประสานบดเบียดกันจนแทบเป็นเนื้อเดียวก่อน
จะคลายออก
และรวมตัวกลับเข้ามาหากันอย่างโหยหาเป็นจังหวะต่อเนื่อง
อย่างช้าๆ ทว่าเร่าร้อนเหลือประมาณ
หลอมละลายวิญญาณของคนทั้งคู่เข้าหากันเป็นหนึ่งเดียว
ในห้วงความรู้สึกที่ตัวเองเหมือนกับจะล่องลอยไปในภวังค์ที่ไร้ที่สิ้นสุด
อรนุชที่แหงนหน้าน้อยๆ
รับการจุมพิตสัมผัสอันอ่อนโยนของริมฝีปากอุ่นของคมศรที่บรรจงประกบไปตามวง
หน้างามล้ำนั้นอย่างละลานใจ
พ่อเลี้ยงหนุ่มสูดลมหายใจหนักๆ
ขณะที่จรดจมูกโด่งของตัวเองนิ่งนานไปบนผิวแก้มบางใส
รับเสพกลิ่นกายที่หอมเย็นเข้าไปเต็มปอด...ความเต็มอิ่มที่ท่วมท้นเข้ามาทำ
ให้เสียงครางของเขาดังขึ้นในลำคออย่างไม่ข่มกลั้น...ริมฝีปากของชายหนุ่ม
เคลื่อนไปจุมพิตอย่างบางเบาบนเปลือกตาคู่งาม
ขณะที่ขนตางอนยาวที่หลับพริ้มอยู่สั่นไหวกระพือราวกับปีกผีเสื้อ
คมศรจูบไล่ไปตามพวงแก้มอิ่ม
ปากอุ่นของเขาไต่ไปตรงติ่งหูขาวใส
ขบเบาๆ และกระซิบเสียงแผ่ว
“คุณเป็น...คนพิเศษสำหรับผม
อรนุช พิเศษจริงๆ”
โสตประสาทที่ได้รับรู้เสียงที่ผ่านเข้ามาราวกับล่องลอยอยู่ไกลเหลือเกิน
ความวาบหวามที่หลั่งล้นออกมาจนท่วมท้นความรู้สึก
ทำให้ปากงามของอรนุชเผยอขึ้นครางครวญ
ขณะที่มือหนักแน่นของคมศรที่กระชับอยู่ตรงต้นแขนงามคู่นั้น
เอื้อมสอดเข้าไปภายในปกเสื้อแจ๊กเก๊ตตัวหนาที่เขาให้เธอใส่เพื่อกันหนาว
และดันให้คลายออกไปจากหัวไหล่บาง
ความรุ่มร้อนที่บังเกิดขึ้นกลางอก
ทำให้ร่างเล็กบางนั้นแอ่นสะท้าน
ปล่อยให้เจ้าของเสื้อแจ๊กเก๊ตตัวนั้นทวงเสื้อคืนกลับไป...
ความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านเข้ามากระทบผิวกายอันบางใสนั้นวูบหนึ่ง
แต่ความรู้สึกสั่นสะท้านนั้นเกิดเพียงแค่ช่วงลัดนิ้วเดียว
เพราะมืออุ่นของคมศรนั้นลากไปตามลำแขนของเธออย่างช้าๆ
ความร้อนที่เกิดขึ้นไปตามแนวระนาบโลมไล้ของชายหนุ่มกลับทวีความร้อนแรงขึ้น
จนกลบความรู้สึกหนาวสั่นของเด็กสาวไปจนสิ้น
มือของชายหนุ่มที่ร้อนผะผ่าวค่อยๆ
เลื่อนไปกระชับตรงลำตัวบางงาม
และไต่ขึ้นไปโอบอุ้มฐานปทุมอันงดงามคู่นั้น
อรนุชส่งเสียงร้องครางออกมา
ปากงามเผยออ้า เสียงสั่นสะท้านนั้นพร่าพราย
ร่างกลับเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อรับรู้การสัมผัสที่กระชับเข้ามาตรงบริเวณทรวงอก
มือของเด็กสาวกระตุกไปคว้าข้อมือหนาของคมศรเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ลมหายใจกระชั้นถี่ ใบหน้าซีด
นิ้วเล็กเรียวนั้นกำข้อมือของอีกฝ่ายแน่น
แรงต้านบางอย่างในส่วนลึกขับดันให้เธอพยายามผลักมือนั้นออกไป
แต่มันช่างอ่อนแรงเสียเหลือเกิน
และเมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มประกบจูบต่อเนื่อง
ริมฝีปากประทับตรงกลับไปที่กลีบปากงามที่กำลังเผยอขึ้นครวญคราง
ลิ้นของชายหนุ่มที่ลากโลมเข้าไป
ก็ค่อยๆ
ทำให้มือขาวบางที่กำลังกุมข้อมือแข็งแรงของเขานั้นอ่อนเปลี้ยจนหลุดทิ้งลงไป
จิกนิ้วขยำกองใบไม้ที่ปูรองอยู่บนพื้นอย่างเสียวซ่าน
ร่างบิดเร่าๆ เมื่อมือของคมศรขยับได้สะดวกขึ้น
และใช้นิ้วทั้งห้านั้นป่ายคลึงวนไปตามฐานปทุมอันนุ่มนิ่มได้รูปนั้น
ก่อนจะเคลื่อนเข้าไปหยอกเย้าปลายอันตูมตั้ง
นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ที่แข็งแรงของชายหนุ่มที่กดเน้นบีบคลึงลงไปรับทราบ
ถึงปลายเม็ดเล็กๆ
ที่ประดับอยู่บนยอดปทุมนั้นขยายตัวขึ้นสู้นิ้วของเขาถึงแม้ว่าจะผ่านเสื้อ
ผ้าและยกทรงที่ห่อหุ้มอยู่ถึงสองชั้น
ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านทำให้ชายหนุ่มต้องอดที่จะส่งเสียงในลำคอออกมาไม่ได้
ใบหน้าของเขาไล้ต่ำลงมาจากวงหน้างาม
ประกบไซร้ไปตามซอกคอขาวที่กำลังแหงนเพริดนั้นอย่างละลานใจ
ความรู้สึกที่ร้อนกระเส่าพล่านไปทั่วร่างเล็กบางจนเด็กสาวต้องบิดกายอย่าง
สุดระงับ แรงกระชับที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
ตรงทรวงอก ทำให้เธออ้าปากหอบหายใจหนักๆ
ครางออกมาเสียงดังขึ้นไปตามความแรงของการประกบของอุ้งมือหนาหนักนั้น
ซึ่งพ่อเลี้ยงคมศรที่กำลังไล้จูบไปตามซอกคอขาวผ่องเองก็รู้สึกวาบหวามรัญจวน
ในอารมณ์ไม่แพ้กัน
เสียงลมหายใจของชายหนุ่มหนักหน่วงขึ้นเฉกเช่นเดียวกับของอรนุช
คมปากที่ปกคลุมไปด้วยหนวดเคราเริ่มบดกระชับกรีดไปตามผิวเนื้อบางใสนั้นอย่าง
เร่งร้อนมากขึ้น
มือของชายหนุ่มที่เริ่มสั่นระริกอันเนื่องจากถูกอารมณ์ภายในขับนั้นลาก
เลื่อนต่ำไปตามลำตัวบางงาม
ก่อนที่นิ้วอันเร่าร้อนนั้นจะสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดโปโลสีขาวที่อรนุชสวมใส่
ความร้อนที่แนบเข้ามาตามลำตัว
ทำให้เด็กสาวร่างบางครางออกมาเสียงดัง
ร่างสั่นระริก กระตุกวาบๆ
ทรวงอกที่แอ่นสะท้านขึ้นมานั้นล้อสายตาจนคมศรต้องซุกไซร้ใบหน้าลงไปสัมผัส
ความนุ่มนิ่มนั้นอย่างอิ่มใจ
เสียงหายใจของทั้งสองคนกระชั้นถี่
ความเร่าร้อนที่ปะทุขึ้นภายในร่างกายของชายหนุ่มและเด็กสาวหาได้มีความร้อน
แรงน้อยไปกว่ากองไฟที่อยู่ข้างกาย
มิหนำซ้ำ ยังจะยิ่งรุนแรงมากกว่า
ในความรู้สึกของอรนุชนั้นตัวเธอแทบจะหลอมละลายไปกับรสสัมผัสนั้น
คมศรเองก็เฉกเช่นกัน
ความร้อนที่ระอุอกทำให้ลมหายใจของเขาเร่งร้อน
ร่างกำยำนั้นถึงกับสั่นกระตุกไปตามประสาทสัมผัสที่ซึบซับ
กลิ่นกาย ความเนียนนุ่ม
และปฏิกิริยาที่ตอบสนองทั้งหมดจากเรือนร่างที่สุดงามนั้น...
ความหอมหวานที่แผ่คลุมไปทั่วจิตใจเร้าอารมณ์ปราถรนาของชายหนุ่มจนคุโชน
มือของเขารั้งชายเสื้อยืดที่อรนุชสวมใส่นั้นกระตุกเลิกขึ้นไปจนเปิดเผยให้
เห็นผิวกายที่ขาวผ่องปานหยกเนื้อดี
โดยเฉพาะเมื่อปทุมถันที่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อชั้นในสีขาวสะอาดนั้นเผยความ
งามออกมา
ความสมบูรณ์ของรูปสัณฐานที่ราวกับเป็นผลผลิตจากช่างปั้นฝีมือเทพนั้นปรากฏ
แก่ดวงตาสีเหล็กที่กำลังเบิกโพลงของเขาอย่างเต็มตา....
ความปราถนาที่รุมเร้าทำให้ใบหน้าคร้ามคมนั้นก้มลงไปไซร้ฟอนร่องอกที่อิ่มงาม
ได้รูป
จมูกโด่งของเขาฝังเข้าไประหว่างกลางก้อนเนื้อนุ่มนิ่มที่สร้างความรู้สึก
กระเส่าร้อนพล่านพลุ่งขึ้นจนเต็มขั้นหัวใจ
ปรากฏเสียงครางหนักๆ
จากลำคออวบแข็งแรงนั้น
ส่วนอรนุชนั้นเล่าการสัมผัสนั้นราวกับเตารีดร้อนๆ
ที่นาบเข้ามาบนผิวกายที่อ่อนบางของเธอ
จนร่างบิดเร่าๆ เกร็งสะท้านไปจนทั่วตัว
เสียงครางครวญดังขึ้นไม่ขาดปาก
ความเสียวซ่านรัญจวนฟุ้งกระเจิงครอบคลุมไปทั่วทุกอณูความรู้สึก
และเมื่อแรงจากมือหนานั้นขยับกองเสื้อที่ทบอยู่ตรงหน้าอกเป็นสัญญาณที่เขา
ต้องการกระตุกมันออกไป
ร่างงามของเด็กสาวก็ขยับอย่างสอดคล้อง
แอ่นตัวเหยียดแขนปล่อยให้เสื้อโปโลสีขาวนั้นถูกถอดออกไปจากร่างของเธออย่าง
รวดเร็ว
คราวนี้ริมฝีปากที่ร้อนแรงสามารถเฟ้นฟอนไปตามร่องเนื้อที่บีบอัดอยู่ภายใต้
ชุดชั้นในเนื้อเนียนนั้นได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
รสสัมผัสที่ราวกับเป็นมนต์สะกด
ทำให้ร่างของอรนุชอ่อนเปลี้ยระทดระทวย
ยิ่งถูกซ้ำเติมไปด้วยมือหนาหนักที่ปัดป่ายไปตามช่วงตัวที่เพรียวบางและหน้า
ท้องที่ขาวเรียบ
ก็ยิ่งทำให้เพลิงความรู้สึกที่เร่าร้อนรัญจวนใจนั้นฟุ้งกระเพื่อมไปทั่ว
เรือนร่างเล็กบางนั้นจนตัวบิดเกร็งและส่ายกระตุกวาบๆ
มือของเด็กสาวนั้นบัดเดี๋ยวกำจิกแน่น
บัดเดี๋ยวก็เอื้อมไปเกาะเกี่ยวเนื้อกายของคนที่กำลังเบียดแนบชิดอยู่เคียง
ข้างจิกนิ้วลงไปอย่างสุดแรงเพื่อบรรเทาความรู้สึกที่เร่าร้อนพลุ่งพล่านที่
ราวกับทะเลยามฟ้าฝนคุ้มคลั่งนั้น
ส่วนพ่อเลี้ยงปางห้วยสักเองนั้นเล่า
สัมผัสที่เขาได้รับรู้นั้นมันได้สร้างความรู้สึกที่กระหายใคร่อยากให้เกิด
ขึ้นในใจของเขาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ความเจนศึกสวาทมาจนนับครั้งไม่ถ้วน
หาได้มีครั้งใดที่ความเร่าร้อนพลุ่งพล่านจะบังเกิดขึ้นในร่างกายเหมือนครั้ง
นี้ ยามที่เขาฝังหน้าลงไปบนก้อนเนื้อที่อบอุ่นเนียนงาม
ยามที่มือของเขาลากไล้คลึงไปตามผิวกายที่ละเอียดนุ่มราวกับไร้กระดูก
ร่างที่สั่นระริกและแอ่นสะท้านตอบสนอง
มันประกอบเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและแทรกซึมเข้าไปในจิตวิญญาณรับรู้ของเขาอย่าง
รุนแรงและแหลมคมราวกับลูกศรสวาทจากนายพรานสาวที่ปล่อยออกมาล่าสิงห์ร้ายเช่น
เขาอย่างถนัดถนี่แม่นยำ
ใช่....เรือนร่างที่ตกอยู่ภายใต้การประคองกอดโลมไล้ของเขานี้
สามารถบอกได้เต็มปากว่าเป็นเรือนกายที่สวยสะพรั่งงามไปจนทุกส่วนสัด
แต่ชีวิตที่ผ่านประสบการณ์และศึกสวาทมาอย่างโชกโชน
เขาไม่มีทางอ่อนไหวจนถึงขนาดนี้...ไม่ใช่สิ่งนี้แน่นอนที่ทำให้เลือดในกาย
ของเขานั้นไหลเวียนอย่างรวดเร็วเร่าร้อน
ประดุจเด็กหนุ่มเพิ่งแตกพานและรับรู้รสชาติความหฤหรรษ์แห่งเพศตรงข้าม
อะไรคือความพิเศษที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน?
คมศรลากใบหน้าลงไปตามหน้าท้องที่แบนราบที่กำลังสะท้านสะเทือนไปกับการถูกเขา
โลมไล้
อาการหอบหายใจกระชั้นถี่ของเจ้าของร่างงามนั้นทำให้หน้าท้องที่ขาวผ่องนั้น
เคลื่อนไหวขึ้นลงเป็นคลื่นลอน
วงกลมเล็กงามได้รูปที่กึ่งกลางหน้าท้องนั้นส่ายไหวสะเทือนไปตามแรงลิ้นที่ฉก
ลงไปอย่างดูดดื่ม
ลิ้นของคมศรลากกวาดไต่ไปรอบๆ
วงสวยของสะดือนั้น
ผสมผสานกับจังหวะประกบปากจูบลงไปดูดผิวกายที่เต่งตึงเนียนนุ่มนั้น
การรุกเร้าอันจัดเจนกระตุ้นความรู้สึกที่เสียวซ่านให้เกิดแก่อรนุชจนร่างบาง
นั้นบิดไปบิดมา
เสียวสะท้านจนต้องส่งเสียงครางครวญอยู่ในลำคอไม่ขาดระยะ
ท่ามกลางความรู้สึกที่พล่านอยู่จนจับใจนั้นเด็กสาวเลื่อนมือเข้าไปประคองตรง
ท้ายทอยของศีรษะที่กำลังก้มอยู่ตรงกลางลำตัวของเธอ
และกดใบหน้าของเขาให้ผสานไปกับจังหวะที่ตนเองแอ่นร่างขึ้นเสนอสนองการโลมไล้
นั้นอย่างสุดรัญจวนจิต
คมศรที่รับทราบถึงแรงกดที่มีเข้ามาตรงท้ายทอย
และกำลังอิ่มเอมกับผิวกายที่หอมหวานเต่งตึงที่ใบหน้าของเขาฝังอยู่อย่างเต็ม
ที่ ทันใดนั้นสมองส่วนหลังที่ถูกมือเล็กบางลูบไล้อยู่ก็สว่างวาบ
ใช่แล้ว...ความบริสุทธิ์...ที่ถูกปกปักรักษาอย่างหวงแหน..ซึ่งถ้าเป็นช่วง
เวลาอันเป็นปกติอย่าได้หมายว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น...นี่เอง...คือคำ
ตอบ
เขาที่ผ่านสตรีมาหลากหลาย
ทุกคนที่เขาสามารถใช้บุคลิกและความสามารถในการเข้าถึงอย่างเจนจัด
และสำเร็จดั่งความปราถนาไปจนได้เชยชมความหอมหวานจากพวกเธอเหล่านั้น
แต่ด้วยอุปนิสัย ทัศนิคติ
และความคิดของอรนุชนั้น
คมศรแน่ใจ
ถ้าเหตุการณ์ทุกอย่างไม่ได้ประจวบรวมกันเข้ามาอย่างเหมาะเจาะราวกับเทพ
บันดาล เขาไม่มีทางรุกล้ำมาจนถึงขั้นนี้อย่างแน่นอน
นั่นเอง...รางวัลที่เขาได้รับ...มันช่างหอมหวาน...และเร้าอารมณ์ปราถนาของ
เขาจนคุโชนเช่นนี้....เมื่อตระหนักเช่นนั้น...ลมหายใจของคมศรหนักหน่วง
กระชั้นถี่ขึ้นมาทันที...
ความต้องการที่ถูกขับอย่างรุนแรงจากภายใน
ทำให้มือของคมศรเคลื่อนวาบเข้าไปปลดกระดุมกางเกงขายาวที่อรนุชสวมใส่ก่อนจะ
รูดซิปออกไปจนสุด
เมื่อยามที่สะโพกผายของเด็กสาวยกส่ายไหวไปตามแรงขับของอารมณ์รัญจวนที่ถูก
ปลุกปั่นจากลิ้นของเขาที่ไม่เหินห่างไปจากการโลมเลียตรงหน้าท้องขาว
มือแข็งแรงของชายหนุ่มก็กระตุกหมายกระชากกางเกงลงไปตามเพรียวขางามนั้น...
อรนุชที่กำลังสะท้านไหวอย่างรัญจวนใจนั้นรู้สึกเหมือนกับมีไฟฟ้าช๊อตขึ้น
มากลางใจ
ความรู้สึกบางอย่างที่มีความรุนแรงดันพุ่งวาบแทรกความรู้สึกแห่งดำฤษณาที่
กำลังปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่นในอารมณ์แห่งรัก
ความรู้สึกนั้นกระตุ้นให้ร่างบางทิ้งตัวลงกดตัวแนบกับพื้น
พร้อมๆ กับมือน้อยๆ
ทั้งสองเอื้อมกลับมายุดยั้งการกระทำของคมศรเอาไว้
ใบหน้างามที่กำลังแสดงความรู้สึกเสียวซ่านรัญจวนซีดขาว
อกอูมนั้นสะท้อนไหวขึ้นลงอย่างหอบถี่
แม้สมองที่ควบคุมการรับรู้จะตัดใจ
และยอมรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นอย่างเต็มหัวใจ
แต่สัญชตญาณก้นบึ้งของชีวิตที่ถูกอบรมสั่งสอนมาให้หวงแหนและปกปักของที่มี
ค่าที่สุดของชีวิตลูกผู้หญินั้นกำลังดิ้นรนเต็มที่
เป็นพลังต่อต้านขุมสุดท้ายที่พยายามยื้อแย่ง...ปกป้อง...สิ่งที่ถูกเฝ้า
รักษาอย่างหวงแหนตลอดมา
แต่ทว่า...แรงต้านอันเป็นปราการด่านสุดท้ายก็สั่นสะเทือนลั่นร้าวไปกับ
แรงกระแทกของอารมณ์อันเกิดจากใบหน้าที่มีเครารกครึ้มนั้นลากไล้โลมลิ้นไต่
จากท้องน้อยเธอขึ้นไปจนไปฝังหน้ากับร่องอกที่เครียดครัดรัดรึงด้วยชุดชั้นใน
บางเบานั้นอีกครั้ง
รอยร้าวของกำแพงต่อต้านทวีความแตกแยกไปมากขึ้น
ตามจังหวะที่ลิ้นหนาของชายหนุ่มตวัดไล้ไปตามร่องเนื้อที่อิ่มงามนั้น
อย่างช้าๆ อาการแข็งขืนก็เริ่มอ่อนแรงไปตามลำดับ
เสียงครางครวญจากปากงามสั่นพร่า.....
มือของคมศรที่เฟ้นไปตามลำตัวเพรียวงาม
เคลื่อนไปตามแผ่นหลังที่กำลังแอ่นระริกนั้นอย่างช้าๆ
ปั่นป่วนอารมณ์ของอรนุชจนสั่นสะท้านไปทั่งตัว
และนิ้วมือแข็งแรงที่เจนจัดก็เลื่อนวาบเข้าไปปลดตะขอชุดชั้นในตัวน้อยให้
หลุดจากการรัดรึงอย่างว่องไว
รวดเร็วจนเกินกว่าที่เจ้าของจะล่วงรู้และป้องกันได้ทัน...
การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มนั้นประดุจค้อนไร้สภาพอันมหึมาที่กระทุ้งเข้ามา
อย่างรุนแรง
ส่งผลให้ปราการต่อต้านนั้นกระเจิงทลาย
เมื่อชุดชั้นในบางเบาตัวน้อยถูกกระตุกวาบออกไป
เสียงครางของอรนุชดังออกมาสุดๆ
ใบหน้างามแหงนเพริด
ดวงตาที่หลับพริ้มสั่นกระตุก
คิ้วเรียวงามขมวดมุ่น...อาการนั้นบังเกิดเมื่อใบหน้าของคมศรนั้นก้มลงไปเฟ้น
ฟอนสองก้อนเนื้อที่อุ่นละเอียดของเธออย่างรวดเร็ว
ปากอันร้อนแรงที่โอบอมไปตรงปลายถันที่งอนงาม
ลิ้นหนาของเขาเคลื่อนไปตามฐานที่ชูชันปลายยอดสีชมพูอ่อนเป็นวงกลม
ไล้ดูดเม้มขมิบอย่างต่อเนื่องจนสติของอรนุชกระเจิดกระเจิง
ร่างของเธอกระตุกซ่านระริกๆ
สะโพกผายแอ่นไหวไปมาอย่างรัญจวนใจสุดขีด
ปากพร่ำร้องออกมาไม่เป็นภาษา
แต่มือบางนั้นกลับเลื่อนไปประคองท้ายทอยของเขาให้โลมไล้จมแน่นเข้ามายังตัว
เธอในแนบสนิทมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
พริบตานั้น...มือของชายหนุ่มก็เลื่อนกลับไปยังเป้าหมายเดิม
พร้อมๆ
กันนั้นกางเกงขายาวสีดำก็ถูกครูดออกไปตามเรียวขางามอย่างรวดเร็ว
คราวนี้ปราศจากแนวต้านขัดขืนใดๆ
อีกเลยแม้แต่น้อยนิด
ดวงตาสีเหล็กเบิกวาบเมื่อสุดยอดของความงามตรงเนินสวาทนั้นลอยเด่นอยู่ตรง
หน้า ชายหนุ่มครางออกมาอย่างแหบโหยกระสันอารมณ์
มือของเขาลากไปประทับบนเนินนูนนั้นอย่างละลานใจ
นิ้วที่คลึงลงไปรับทราบถึงความแน่นที่แสนนุ่มนิ่มนั้นอย่างถนัดถนี่
ร่างเล็กบางของอรนุชกระตุกพล่าน
สะโพกผายแอ่นระริกอย่างเสียวรัญจวน
ความรู้สึกที่วาบขึ้นมาจนจับจิต
นั้นทำให้เด็กสาวอ้าปากร้องครางออกมาเสียงกระชั้นถี่...
นิ้วมือแข็งแรงของคมศรที่ลากไปมา
สะกิดผ่านกลีบเกสรที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเนื้อผ้าบางเบา
สัมผัสกระทบไปกับติ่งงามที่กำลังสั่นระริก
นิ้วที่ไล้โลมไปด้วยชั้นเชิงสิงห์สวาทนั้นเคลื่อนวาบไปอย่างนุ่มนวลทว่าหนัก
แน่น ปั่นอารมณ์ของอรนุชจนกระเจิดกระเจิง
ร่างเล็กบางสะท้านกระตุกวาบ
ครางครวญในลำคออย่างสุดรัญจวนใจ
สะโพกผายนั้นสะท้อนไหว
ท่ามกลางความรู้สึกที่เสียวซ่านที่พล่านไปทั่วร่างของอรนุช
เพียงไม่กี่อึดใจตรงบริเวณเป้ากางเกงในตัวน้อยสีขาวสะอาดปรากฏวงน้ำเปียก
ชุ่มออกมาอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มสัมผัสได้
นิ้วมือที่เจนจัดนั้นเพิ่มกำลังกดเบียดไปบนร่องหลืบสวรรค์บรรจงสร้างมานั้น
อย่างเน้นจังหวะ
ปลายนิ้วที่ตัดเล็บไว้เรียบร้อยกดผ่านเนื้อผ้าบางเบาลงไปจนเห็นรูปร่าง
ของกลีบเกสรที่สุดงาม
คมศรสะกิดนิ้วไปอย่างปราณีตวนกรีดกรายหยอกล้อไปบนจุดศูนย์กลางแห่งความสาว
นั้น กระตุ้นจนร่างงามสั่นระริกๆ
ความเสียววาบรัญจวนนั้นสะท้านลามไปจับขั้วหัวใจ
ความกดดันที่ทบเข้ามาอย่างหนาแน่นราวกับน้ำบ่าที่ทะลักออกจากทำนบที่แตกทำ
ให้อรนุชแทบขาดใจ
เสียงครางผสานกับอาการหอบกระชั้นต่อเนื่อง
นิ้วทั้งสิบที่สวยราวกับลำเทียนของเด็กสาวปะป่ายไปตามหน้าอกอันกำยำของคมศร
ขยำมือไปบนสาบเสื้อที่ชายหนุ่มสวมใส่
นิ้วเกร็งกำแน่นราวกับเธอนั้นกำลังจมดิ่งไปในห้วงแห่งอารมณ์รัญจวนที่หลาก
เข้ามาในความรู้สึกจนต้องไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวเอาไว้
มือขาวบางที่ปัดป่ายไปตามสาบเสื้อน้นถูกแรงขับกระตุ้นบางอย่างที่เร่าร้อน
อยู่ภายในทำให้นิ้วมืองามนั้นสั่นระริก
ท่ามกลางเสียงครางครวญและร่างของเธอบิดเร่าๆ
ไปกับการจู่โจมของเขาที่พุ่งเข้าหาความเป็นหญิงของเธออย่างต่อเนื่องและเจน
จัด
ความต้องการถ่ายเทและระบายความกดดันที่เกิดขึ้นจากการเล้าโลมนั้นทำให้มือ
เล็กของอรนุชสั่นระริก
เมื่อพยายามแกะกระดุมเสื้อของอีกฝ่ายออกบ้าง
คมศรไม่ปฏิเสธการเคลื่อนไหวนั้นของอรนุช
มิหนำซ้ำยังช่วยมือเล็กบางที่สั่นสะท้านไปตามแนวสาบเสื้อของเขาอีกแรงหนึ่ง
พริบตาเดียวเสื้อแขนยาวที่เขาสวมใส่ก็ถูกถอดกระดุมออกไปจนหมด
เผยให้เห็นแผงหน้าอกสีทองแดงกำยำบึกบึน
ซึ่งมือของอรนุชที่กำลังสั่นระริกไปด้วยความความรู้สึกพล่านจากภายในซอกซอน
เข้าไปปัดป่ายสัมผัสกับความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนั้นอย่างรัญจวนใจ...ใบ
หน้างามนั้นแหงนเพริดริมฝีปากสั่นระริก..
ขณะที่คมศรเองก็ขบกรามแน่น
ความละเอียดของนิ้วมือที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าอกนั้น
ทั้งปาดทั้งจิกขูดกรีดไปตามเนื้อตัวเขาอย่างรุนแรง
แต่ชายหนุ่มหาได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด
ตรงกันข้ามเมื่อนิ้วเล็กๆ
นั้นจิกเข้ามาบนผิวหนัง
มันยิ่งเร้าอารมณ์แห่งไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้นมาอีกเป็นเท่าทวี
เสียงครางของเขาดังผสานกับเสียงของเด็กสาวอย่างต่อเนื่อง
ความเสียวซ่านที่พล่านในใจทำให้คมศรเร่งมือและนิ้วที่ชำนาญที่กำลังไต่ไปตาม
กลีบเกสรแห่งความเป็นหญิงของอรนุชอย่างเร่าร้อน
กระตุ้นร่างเล็กบางของเด็กสาวจนสั่นกระตุก
สะโพกงามส่ายไหวสะท้อนล้อรับไปกับอุ้งมือที่แข็งแรงนั้น
เสียงครางยิ่งดังขึ้นอีกอย่างไม่อาจข่มกลั้นได้
ร่างบิดแอ่นกระตุก
ส่งจังหวะให้ทรวงอกที่สะท้อนขึ้นลงของเธอเป็นคลื่นงามยั่วเย้าให้พ่อเลี้ยง
หนุ่มต้องฟอนหน้าลงไปกับสองเต้าขาวที่อุ่นละมุน
ขบเม้มไปที่ปลายงามสีชมพูทั้งสองข้างสลับวนไปมา
ดูดดื่มความหอมหวานอย่างสุดเร้าใจ
สร้างความเสียวซ่านให้บังเกิดแก่อรนุชจนต้องยกตัวลอยตามไปทุกครั้งที่ใบหน้า
ของชายหนุ่มกระตุกเม้มปลายปทุมถันของเธอติดปากขึ้นมา
...ทั้งสองส่วน...บนและล่างที่ไวต่อการสัมผัสนั้นถูกจู่โจมอย่างต่อเนื่อง
จากมือและและเพลงปากที่ชำนาญการสวาท...เร่งเร้าความรู้สึกของเด็กสาวที่
เก่งกล้าแก่นแก้วเกินเพื่อนฝูงพี่น้อง...แต่ทว่าอ่อนเยาว์ไร้เดียงสากับเกม
สวาทเหลือเกินนั้นจนแทบขาดใจ
เสียงครางครวญนั้นเร่งร้อนและกระชั้นถี่ถี่
ร่างงามเกร็งกระตุกเฮือก...เฮือก....ความรู้สึกที่อรนุชเพิ่งถูกสอนให้
รู้จักกำลังไต่ระดับความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
ท่ามกลางเสียงครางครวญของเธอที่ดังขึ้นไปเป็นเงาตามตัว
แต่ภายใต้ท่าทีที่กำลังเพริดไปกับเพลิงสวาทที่เขาสอนให้เธอรู้จัก
คมศรก็ยังรับรู้และจับกระแสแรงต้านลึกๆ
ในร่างเล็กบางนี้ได้...แรงต้านที่ไม่ใช่มาจากสมองและจิตใจ
ทว่าพรั่งพรูขึ้นมาจากจิตวิญญาณเนื้อแท้ของเธอที่ซ่อนอยู่ภายใต้
จิตสำนึก....
พ่อเลี้ยงปางห้วยสักที่เพลิงปรารถนาคุกโชกบอกกับตัวเอง...เขาต้องการอรนุช
...ต้องการฟอนอารมณ์ปรารถนากับความงามแห่งเรือนกายที่อยู่ตรงหน้า...
เขาจะไม่ยอมที่ให้มีอะไรมาขวางทางของเขาเป็นอันขาด...ไม่ว่าใคร...ไม่แม้แต่กระทั่งตัวของอรนุชเอง...
คมศรไม่ยอมปล่อยให้เงื่อนไขสุดท้ายที่อรนุชจะใช้เพื่อปกป้องตัวของเธอจาก
ความปรารถนาของเขา...นั่นก็คือคำปฏิเสธที่ชายหนุ่มลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะไม่
มีวันหักหาญถ้าเธอไม่ยอม...
คำปฏิเสธนั้น...พ่อเลี้ยงหนุ่มตกลงใจเป็นแม่นมั่น...จะไม่ยอมให้ผ่านพ้นริมฝีปากของอรนุชออกมาเป็นอันขาด...
สิงห์สวาทที่เจนศึกจับจังหวะที่เร่าร้อนไปกับเพลิงกระสันต์ของร่างบางนั้น
การกระตุกถี่ยิบ...เสียงครางครวญกระเส่าพร่ากระชั้น...ปลายถันที่แข็งชัน
เต่งตึงชูสะท้อนส่งความเครียดครัดเข้ามาสนองกับการโอบอ้อมของปากเขา...และ
สะโพกผายงามที่กระตุกยกวาบไหวแอ่นสะท้อนไปกับจังหวะนิ้วอันแข็งแรงของตน
เอง...
ทุกสัญญาณนั้นที่ราวกับเป็นเครื่องชี้วัดอารมณ์แห่งความรู้สึกที่กำลังพาให้
อรนุชเพริดแพร้วไปฝั่งฝันดินแดนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน...
ก่อนที่นิ้วมืออันร้ายกาจนั้นจะละออกจากเนินสวรรค์สร้างนั้นเสียแต่กลางคัน
...ในเวลาห้วงขณะที่อรนุชกำลังเดินทางไปถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้ายแห่ง
อารมณ์กระสันต์...
การสูญเสียแรงขับแห่งอารมณ์สวาทไปอย่างกระทันหัน
ทำให้ร่างบางของอรนุชที่กำลังบิดไหวเร่าๆ
นั้นถึงกับสะบัดหน้าไปมา
ส่งเสียงคราง....ยาวนาน...สะโพกผายบิดไหวเร่าร้อน
...อีกนิดเดียวเท่านั้น...นิดเดียวจริงๆ...
ด้วยความเหี้ยมและใจที่เกรียมของพ่อเลี้ยงหนุ่มที่ถูกอัดแน่นด้วยเพลิง
ปรารถนาแห่งอารมณ์สวาท....คมศรเหนี่ยวขอบยางของกางเกงในบางเบาตัวน้อยที่
เด็กสาวสวมใส่...ความเร่าร้อนที่ค้างคา...ความปรารถนาการเติมเต็มในส่วนที่
ขาดหายไป....ทำให้อรนุชหมดปัญญาขัดขืน
แอ่นสะโพกผายงามขึ้นจากพื้นเปิดทางให้อีกฝ่ายกระตุกอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่ปก
ป้องเรือนร่างให้หลุดออกไปโดยทันที
ในเวลากระชั้นตามกัน
โดยที่คมศรไม่ต้องการให้จิตวิญญาณของอรนุชได้ตั้งตัวติด
พ่อเลี้ยงหนุ่มถอดเข็มขัดตัวเอง
และไถลตัวออกมาจากกางเกงผ้าเนื้อหนานั้นทั้งชุดชั้นใน....ความเป็นชายของเขา
กำลังแข็งตัวขึ้นเต็มที่....
ร่างกำยำของคมศรพลิกขึ้นไปทาบทับร่างขาวเปลือยที่แบบบาง
อรนุชถ่างขางามของเธออ้าโอบร่างกำยำของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณที่ไม่มี
ใครจำเป็นต้องสอน
แต่ถูกขับจากเพลิงปรานถนาที่คุกโชนในใจ
ดวงตาสีเหล็กเบิกโพลง
สองตาเบิ่งจ้องไปยังความงดงามที่กำลังฉ่ำเยิ้มไปด้วยสายน้ำแห่งสวรรค์ที่
อาบออกมา
กลีบเกสรที่บอบบางชุ่มชื่นและระริกร่ายบ่งบอกถึงความปราถนาที่ต้องการได้รับ
การปลดปล่อย
คมศรจับไปที่โคนขางามที่ถ่างอยู่นั้นให้ขยับจนได้ตำแหน่งที่เหมาะสม
ก่อนที่ปลายแห่งความเป็นชายนั้นจะจ่อประชิดเข้าไป
รสสัมผัสที่อวัยวะแห่งความเป็นชายและหญิงกระทบกันทำให้ทั้งคมศรและอรนุช
สะท้านวาบออกมาทั้งคู่
กระแสแห่งความรู้สึกร้อนแรงแสบสะท้านนั้นแลกเปลี่ยนไหลเวียนถ่ายเท
ผ่านอวัยวะที่ไวต่อความรู้สึกของทั้งสองที่กระทบเข้าหากัน
กดดันกระตุ้นจนทำให้เสียงครางของชายหนุ่มและเด็กสาวดังประสานกันอย่างไม่อาจ
ข่มกลั้น
คมศรขบกราม
กดร่างของเขาลงไปช้าๆ
รับรู้แรงต้านจากร่างงามซึ่งไม่ใช่แรงต้านของอารมณ์ขัดขืน
ทว่าเป็นแรงต้านแห่งสรีระที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง...ช่องทางแห่งสรวงสวรรค์ที่
แม้จะกำลังระริกรอคอยการปลดปล่อย
แต่ความคับแน่นนั้นเป็นแนวต่อต้านตามธรรมชาติที่ทำให้ชายหนุ่มข่มฟันแนบแน่น
...เจ็บแสบ...สองมือของเขาจับหัวไหล่บางนั้นกดไว้กับพื้น
เมื่อรับรู้ว่าร่างงามนั้นกำลังจะไถลตัวหนี
ก่อนจะเกร็งสะโพกหนาส่งกำลังบดเบียดความเป็นชายของเขาชำแรกเข้าไปในความเป็น
หญิงของอรนุชอย่างละลานใจ
ส่วนปลายที่ไวต่อความรู้สึกนั้นกระทบเข้ากับปราการด่านสุดท้ายที่กางกั้น
อยู่
เมื่อคมศรส่งกำลังเข้าไปเพียงนิดเดียว...แนวต้านที่บางเบาก็ขาดกระจุย
...พร้อมๆ
กันนั้นขณะที่เสียงครางหนักๆ
ของคมศรดังขึ้นอย่างสุขสม...ขณะที่เสียงครวญจากปากบางของอรนชนั้น...เจ็บปวด
เหลือประมาณ...
ใบหน้างามนั้นแหงนเพริด...บิดเบี้ยว....พร้อมๆ
กับอาการนั้นหยาดน้ำตาใสไหลรินซึมออกมาจากหางตาเป็นทางยาว....
หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวด...และหยาดน้ำตาแห่งการรับรู้ความสูญเสีย....ความ
สูญเสียที่อรนุชรู้แน่แก่ใจว่าเธอไม่มีทางเรียกร้องทวงคืนกลับมาอีกตลอด
ชีวิต...
เสียงสะอื้นดังขึ้นมาแผ่วเบาจากลำคองามระหง
พร้อมๆ
กับความรู้สึกที่คมศรรับรู้ถึงความอุ่นที่อาบซึมไปทั่วลำกายของตนเอง
ร่างกำยำของเขาชะงักหยุดยั้งการเคลื่อนไหวรุกรานนั้น...เปลี่ยนเป็นการทาบ
ตัวลงไปประกบจูบลงบนกลีบปากงาม
บรรจงบดไปตามกลีบปากที่เต่งผิวนั้นอย่างช้าๆ....เนิบเนียน...
ความเร่าร้อนระอุจากปากของชายหนุ่ม
ค่อยๆ เกลื่อนอารมณ์ของอรนุชให้ละเลยจากความรู้สึกตรงหน้า
และปล่อยตัวล่องลอยเพริดแพร้วไปกับการชักนำของเขา
วงแขนบอบบางโอบรัดไปตามแผ่นหลังกำยำที่ทาบทับตัวเธออยู่
ก่อนที่เด็กสาวจะแหงนหน้าคราง
เมื่อรับรู้ความแน่นที่สอดลึกเข้ามาอีก...
เธอพยายามแยกขาให้กว้างที่สุด
แต่ความแน่นที่แหวกเข้ามานั้นก็ยังสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวจนต้องครางออกมา
อย่างไม่อาจข่มกลั้น...นิ้วงามราวกับลำเทียนทั้งสิบปักไปบนกลางแผ่นหลังของ
ร่างใหญ่...จิกแน่น...
แต่ทว่าความเจ็บนั้นบรรเทาลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อร่างแข็งแรงไม่ได้รุกล้ำ
เข้ามาเพิ่มเติม
แต่กลับนาบริมฝีปากเข้ามาโอบปลายปทุมถันที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ
ความชุ่มชื้นจากที่โลมเลียลงมานั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า...นุ่มนวล...ทว่า
ความร้อนแรงที่แฝงเข้ามากับปลายลิ้นนั้นแผ่ซ่านความเสียวซ่านรัญจวนให้ขยาย
วงกว้างออกไปราวกับก้อนหินที่ตกกระทบผิวน้ำ
คลื่นแห่งความรู้สึกลามไปจนทั่วเรือนร่าง
อรนุชครางออกมาเสียงดังหอบ
ร่างบางแอ่นสะท้าน
อกตูมงามเบ่งบานขึ้นรับสนองต่อสัมผัสอ่อนโยนนุ่มนวลนั้น
มือขาวเลื่อนจากแผ่นหลังไปประกบที่ท้ายทอยของชายหนุ่ม
ลูบไล้ไปมาด้วยความรัญจวนใจ
ก่อนที่ช่องทางสู่สรวงสวรรค์นั้นจะแสดงความพร้อมต่อสิ่งแปลกปลอมที่เดินทาง
เข้ามานั้นโดยการหลั่งสายธารแห่งความรักออกมาอย่างต่อเนื่อง....
คมศรที่บดสะโพกกำยำไปด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแรงรับรู้อาการตอบสนองนั้นได้
ความอ่อนหยุ่นที่โชลมแก่นลำของตัวเขาที่กำลังคับแน่นอยู่ภายใน
เปิดโอกาสให้เขารุดหน้าลึกล้ำเข้าไปได้อีก...พร้อมๆ
กับอาการที่ทั้งตัวเขาและอรนุชส่งเสียงครางออกมาพร้อมๆ
กัน....ลมหายใจหนักหน่วง....เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายมาจากสองร่างซึมออกมาหลอม
ละลายรวมกันเป็นหนึ่งเดียว...
การเคลื่อนไหวของของคมศรชะงักลงเมื่อเจอแนวต้านด่านถัดไปที่บีบรัดเข้ามาอีก
ครั้ง ความปวดแสบที่เกิดขึ้นทำให้ต้องขบฟันจนเป็นสันนูน
แทบทุกนิ้วทุกคืบที่ความเป็นชายของเขาต้องช่วงชิงพื้นที่เคลื่อนหน้าเข้าไป
นั้นมันเต็มไปด้วยแรงต่อต้านจากเจ้าของพื้นที่ที่หวงแหนความบริสุทธิ์
ผุดผ่องเอาไว้จนขาดใจ...
ไม่เพียงแต่เขาที่เจ็บ
วงหน้างามที่ตั้งแต่เริ่มต้นก็หลับตาพริ้ม
ไม่เคยลืมตาขึ้นอีกเลยนั้น
ก็บ่งบอกถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในออกมาอย่างชัดเจน
ผ่านริมฝีปากที่ถูกกัดแน่น
คิ้วเรียวที่ขมวดมุ่น
และเสียงครางออกมาเป็นระยะอย่างต่อเนื่องนั้น
พ่อเลี้ยงปางห้วยสักต้องค่อยๆ
ขยับแก่นกายลำแข็งของตนเป็นจังหวะช้าๆ
ค่อยๆ
ให้เวลากับความเป็นหญิงของอรนุชและความเป็นชายของตนเองนั้นได้ทำความคุ้นเคย
กันให้มากขึ้น
ส่วนริมฝีปากของชายหนุ่มนั้นไม่ห่างไปจากการโลมไล้ไปตรงติ่งงามประดับปลาย
ยอดปทุมคู่นั้น...ซ้าย...ขวา...ซ้าย...ขวา...วนสลับกันไปมา...ต่อเนื่อง...
ร่างงามบิดไหว
ความรัญจวนใจที่พล่านพลุ่งทำให้มือน้อยสองข้างนั้นถึงกับเกร็งแน่น
ถอนถอดจากท้ายทอยของเขา
ไปจิกแน่นกับใบกล้วยที่ปูรองอยู่ใต้ร่าง
มือหนาของคมศรเลื่อนตามไปกุมมือน้อยทั้งสองข้างนั้นเอาไว้
จากนั้นนิ้วมือทั้งสิบของทั้งคู่สอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
ชายหนุ่มรับรู้ถึงแรงที่บีบกำเข้ามาอย่างแนบแน่น
เขาค่อยๆ
ดึงมือของตัวเองเคลื่อนขึ้นไปบนศีรษะได้รูปสวยของอรนุช
เมื่อแขนบอบบางทั้งสองของเด็กสาวเลื่อนตามขึ้นไป
ช่วงแขนขาวผ่องนวลเนียนก็ปรากฏขึ้นมาท้าทายสายตาโดยทันที
ริมฝีปากร้อนระอุของชายหนุ่มก็ประกบเข้าไปอย่างไม่อาจสะกดกลั้นความปรารถนา
ปลายลิ้นของคมศรที่สะกดจี้ไปตรงจุดบอบบางของวงแขนงาม
ทำให้ร่างเล็กนั้นสะท้านเฮือก
กระตุกวาบ ครางครวญออกมาเสียงดัง
ลิ้นของชายหนุ่มที่ลากไล้ลงไปอย่างนุ่มนวลนั้น
ปั่นอารมณ์เสียวซ่านให้เกิดขึ้นแก่เจ้าของวงแขนงามนั้นอย่างสุดประมาณ
ร่างสะท้านไหวไปตามการเล้าโลมนั้นอย่างสุดรัญจวน
เมื่อเขารุกมาทางซ้าย
ร่างเล็กบางก็บิดซ่านไปทางขวา
พอเขาย้ายกลับไปอีกด้าน
ร่างงามก็ต้องหันส่ายกลับมาทางซ้าย...สลับไปมาอย่างต่อเนื่อง
จนทำให้อรนุชที่ครางไม่หยุด
บิดส่ายไหวระริกไปมา
รู้สึกเสียวสะท้านแทบขาดใจ
ส่วนคมศรนั้นพอรับรู้การบีบรัดจากช่องทางแห่งความรักนั้นค่อยๆ
ผ่อนคลายไปอย่างช้าๆ
ตามอาการที่ร่างเล็กบางกำลังส่ายไหว...เขาก็รุกล้ำเข้าไปอีก...
ทุกจังหวะการเดินทางแห่งความเป็นชายเข้าไปค้นหาความอ่อนหวาน
อบอุ่น
ภายในความเป็นหญิงของร่างงามนั้นเต็มไปด้วยความนุ่มนวล..ปราณีต
คมศรใช้เวลาอย่างใจเย็น
เคลื่อนรุกเข้าไปสลับกับการละเลียดอารมณ์ของเด็กสาวให้คลายความเจ็บปวด
อย่างช้าๆ
ในที่สุดชายหนุ่มก็แทรกตัวตนของเขาก็เข้าไปผสานเป็นหนึ่งเดียวกับอรนุชโดย
สมบูรณ์….
อรนุชกัดฟันแน่น
ใบหน้างามแหงนเพริ่ดเมื่อรับรู้ว่าส่วนหนึ่งของเขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
ของเธอจนแนบแน่น ท่ามกลางความเจ็บปวด
มันยังเจือไปด้วยเชื้อแห่งความเร่าร้อนที่กำลังรอการปลดปล่อย
เมื่อสะโพกหนาของคมศรเริ่มขยับ
ร่างของเด็กสาวก็ขยับตามช้าๆ
สะโพกผายงามนั้นเคลื่อนประสานไปกับจังหวะของชายหนุ่ม
ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่แผ่ซ่านเข้ามาจากผิวกายที่แนบชิด...เนื้อต่อเนื้อ
...ทุกส่วนสัด
ความเนียนนุ่มขาวสะอาดนั้นบิดรัดพันไปกับความแข็งแกร่งสีทองแดงนั้นราวกับ
เป็นเนื้อเดียวกัน
สองแขนบอบบางเคลื่อนรัดไปยังแผ่นหลังกำยำนั้นโอบไปอย่างแนบแน่น...สะโพกผายที่เริ่มส่ายไหว
คมศรที่ทราบความต้องการจากการเคลื่อนไหวนั้นก็ขยับตัวให้สอดคล้องกับร่าง
เล็กบาง
สะโพกหนาของชายหนุ่มเคลื่อนเป็นจังหวะสวรรค์ที่สอดคล้องกับการเผยอแอ่น
สะท้านขึ้นรองรับของสะโพกผายงามของอรนุช
เสียงครางของทั้งคู่หนักหน่วง
เร่าร้อน
และเต็มไปด้วยความอารมณ์ความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างโลดแล่นไปอย่างพร้อม
เพรียงกัน
ผ่านจังหวะเคลื่อนไหวที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว
สองวิญญาณอิสระเพลิดแพร้วล่องลอยไปกับบทเพลงที่เต็มไปด้วยความบรรเจิดพิสดาร
...อิ่มเอม...ตื้นตันในความรู้สึก
กองไฟที่มอดซาลงไป
เพราะเชื้อถูกเผาผลาญมอดไหม้ไร้การเติมเต็มมาชั่วระยะหนึ่ง
แต่เพลิงในกายของชายหนุ่มกับเด็กสาวกลับคุกโชน...ร้อนเร่า...พล่านขึ้นใน
อารมณ์อย่างราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
ความร้อนที่บังเกิดขึ้นนั้นราวกับเป็นผนังไร้สภาพที่สะกดความยะเยือกที่ราย
ล้อมห่อหุ้มสองร่างนั้นเอาไว้จนไม่สามารถแทรกผ่านความรับรู้ของจิตวิญญาณอัน
เป็นอิสระทั้งสองเข้าไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว
อรนุชครางครวญ
ร่างงามของเธอนั้นตกอยู่ภายใต้การชี้นำของบุรุษเจนสังเวียนอย่างคมศร
ชายหนุ่มที่กำลังดื่มด่ำไปกับอารมณ์ที่โอบรัดเข้ามาจนลืมสิ้นทุกสิ่ง
ทุกอย่าง
สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดคำนึงของเขาก็คือการนำพาเด็กสาวที่แนบชิดสนิทเป็น
เนื้อเดียวกับเขาโลดแล่นตะบึงไปบนหนทางสายสวาทที่กำลังคุกกรุ่นอบอวลไปด้วย
การรมเร้าแห่งเพลิงกาม
ร่างบางที่หงายเพริดแอ่นกระตุก
สอดส่ายสะโพกผายขึ้นลงไปตามจังหวะนำแห่งเชิงชายที่กำลังเร่งเร้าขีดขั้นของ
ความรู้สึก
เสียงครางของเด็กสาวเสียงหอบหายใจของเขาประสานดังไปกับเสียงแห่งการเสียดสี
สัมผัสอันคับแน่นตึงตัวเต็มที่
คมศรผลักดันอารมณ์สะท้านของอรนุชให้ไต่ระดับทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
อย่างไม่มีการหยุดยั้งจังหวะแม้แต่น้อย
ความเป็นชายของเขาเคลื่อนไหวราวกับอาชาศึกที่ควบตะบึงเข้าสู่สมรภูมิรบอัน
เร่าร้อน
พลังแห่งความบึกบึนที่โลดแล่นสุดตัวนั้นราวกับคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่ความ
รู้สึกของเด็กสาว
เมื่อร่างงามที่รัดแน่นแสดงอาการสั่นกระตุกเร่าๆ
ปลายเล็บที่จิกกดเข้ามา
เสียงครางกระเส่าที่ดังขึ้น...ดังขึ้น...จังหวะที่คมศรทราบดีว่าอรนุชกำลัง
จะเดินไปสู่ประตูสวรรค์นั้น...
คราวนี้ไม่มีการจงใจหักห้ามจากชายหนุ่มอีก
ตรงกันข้ามความเป็นชายที่ตอนนั้นอาบโชลมไปด้วยสายธารแห่งรักนั้นขยับเคลื่อน
อย่างเร่งร้อน
บดเบียดเข้าผสานเข้าไปกับจังหวะตอดรัดของความนุ่มนวลของเด็กสาว
เสียงครางของคมศรดังขึ้นผสานเข้าไปกับเสียงร้องของอรนุช
จังหวะแห่งรัก...ส่วนผสมอันงดงามที่ลงตัว...ในที่สุดก็ผลักดันเด็กสาวแสนสวย
ให้ทะลุสู่ความรู้สึกแห่งห้วงอารมณ์สวาทที่ห่อรัดรึงเข้ามาจับใจ...ใบหน้า
งามแหงนเพริด ครางออกมาดังสุดเสียง
พร้อมๆ กันนั้นคมศรเองก็ปลดปล่อยตัวเองจากความกดดันทั้งมวล
ร่างหนากำยำที่ทาบทับร่างงามอยู่กระตุกวาบ
ปลดปล่อยอารมณ์ของตนเองเนืองนองเข้าไปในร่างงามที่ดูดซับความรู้สึกผ่านโพรง
ผนังที่บอบบางอ่อนนุ่ม....
..............................
เสียงเพลงที่ดังแสบหูในห้องคาราโอเกะทึบๆ
เร้าอารมณ์ให้ความเร่าร้อนในห้องเล็กๆ
นั้นทวีความมันส์ในใจของแกงค์เด็กนรกทั้งห้าคนจนเนื้อเต้นใบหน้าที่เต็มไป
ด้วยความกระหายหิวในรสสวาทนั้นมันเยิ้ม
เพราะความเหน็ดเหนื่อยที่ตลอดช่วงบ่ายพวกตนพารุจิราเข้ามาในห้องร้องเพลง
แห่งนี้
เด็กสาวที่นับตั้งแต่เข้ามาไม่ได้ร้องเพลงแม้แต่เพลงเดียว
แต่ทว่าเสียงครางครวญที่ดังจากปากของเธอนั้นดังต่อเนื่องมาตลอด
จนกระทั่งในเวลานี้ไม่เหลือแรงแม้แต่จะร้อง
ร่างเกือบเปลือยเปล่าเพราะชุดเกาะอกสีขาวที่เธอใส่ถลกมากองอยู่ตรงหว่างเอว
ร่างกายที่ขาวผ่องเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่มโชก
นั่งหันหน้าเข้าหาแจ๊กที่กำลังผงาดควยกระทุ้งกระทอกใส่โพรงหลืบของเธอที่กำ
ลังขโยกรัดอยู่อย่างเร่าร้อนเมามัน
“ซี๊ดดดด...ซี๊ดดดด...โอวววว...พี่หมวย...ขย่มแรงๆ
หน่อยสิ....ผมจะออกแล้ววว...”
แจ๊กครางกระเส่าไป
ปากก็เม้มไปยังปลายถันที่กระตุกกระเพื่อมอยู่ตรงหน้าอย่างอร่อยลิ้น
สองมือขยับไปกุมเอวคอดของรุจิราที่นั่งคร่อมอยู่บนตัก
ซึ่งเด็กสาวที่แทบสลบอยู่แล้วเพราะผ่านเกมสวาทมาทั้งวัน
กัดฟัดแน่นใช้กำลังจากช่วงขาที่คุกเข่ายันเบาะอยู่และมือที่กดไปที่บ่าของ
แจ๊กโหย่งตัวขย่มโพรงสวาทตนเองครูดไปกับแท่งเนื้อที่อัดเข้ามานั้น
เสียงคราง
ฮือ...ฮือ...ฮือ...เมื่อท่อนเนื้อนั้นครูดไปตามผนังโพรงของเธอกระตุกความ
เสียวซ่านที่บัดนี้เด็กสาวหลงใหลไปกับรสชาติของมันจนถอนตัวไม่ขึ้น....
แกงค์เด็กนรกแสยะยิ้ม
ดูรุจิราที่ไม่กี่วันก่อนยังเป็นคุณหนูที่ไม่มีทางเห็นพวกตนอยู่ในสายตา
มาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาชิ้นงามที่พวกตนเองจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้
วันนี้นับจากเกมกามที่ต่อเนื่องเมามันในอารมณ์ในห้องน้ำของห้างดัง
ชิดกับพวกก็ควงรุจิราเดินเที่ยในห้างหรูแห่งนี้
ต่างคนต่างเดินชูคออย่างย่ามใจ
เพราะรุจิราในชุดเกาะอกกระโปรงสั้นสีขาวนั้นเตะสายตาของคนที่เดินเที่ยวอยู่
ในห้างไม่น้อยเลย
ถึงแม้จะอิ่มเอมสวาทกันเต็มคราบในห้องน้ำกันทั่วถ้วนทุกตัวคน...แต่ชิดหัว
โจกก็ยังคงกระหายในร่างกายของรุจิราไม่คลาย
แต่ถึงกระนั้นตัวเองที่หมดแรงไปเยอะในห้องน้ำ
ก็จำใจต้องพักเครื่องก่อน...หัวโจกซุบซิบกับพรรคพวกไปพลางมองขาขาวๆ
ของรุจิราไปพลาง
รู้สึกว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปเปล่าๆ
โดยไม่มีประโยชน์
ดังนั้นทั้งห้าจึงพาเด็กสาวเข้าไปในโรงหนังในโปรแกรมที่ใกล้จะออก...แถวนั่ง
ตอนหลังที่ร้างจนไม่มีใครอยู่ใกล้...มือของสมาชิกแกงค์เด็กนรกก็ล้วงควักไป
ตามร่องสวาทของรุจิรา...ส่งให้ตลอดเวลฉายหนังเด็กสาวนั้นกระตุกซ่านทะลักจุด
แตกแห่งความกระสันไปไม่รู้กี่รอบ....โดยที่รุจิรานั้นต้องพยายามขบปากกลั้น
เสียงเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
แต่กระนั้นเสียงครางของเด็กสาวก็ยังดังลอดออกมาบ่อยๆ
ดีที่ในโรงหนังแทบไม่มีคน
และที่นั่งของเธอนั้นก็อยู่หลังสุดจึงไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิด
ขึ้น
จบจากรอบหนังที่รุจิราดูไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย
เพราะมัวแต่เพลิดไปกับรสสวาทที่ได้รับการป้อนจากมือหยาบของชิดกับพวกตลอด
เวลาตั้งแต่เริ่มจนจบ
แกงค์เด็กนรก็พาเหยื่อชิ้นงามเดินเที่ยวกันในห้างอีกพักใหญ่
กินอาหารจนอิ่ม พอได้กำลัง
ความต้องการเริ่มกรุ่นได้ที่
ทั้งห้าคนก็พารุจิราเข้าไปในห้องคาราโอเกะในชั้นใต้ดินที่ค่อนข้างมิดชิด
และที่สำคัญผนังกระจกนั้นเป็นฝ้าทึบไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเห็นจากข้างนอก
แต่เพื่อความปลอดภัย
ชิดก็ตบหัวคนดูแลด้วยเงิน
ภายใต้การรู้เห็นเป็นใจนั้น
ในห้องที่ค่อนข้างมิดชิดที่เปิดเพลงดังก้องก็เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ของ
แกงค์เด็กนรกตลอดช่วงบ่าย....จนมาถึงตอนนี้
เสียงครางกระเส่าของแจ๊กดัง
ซู๊ดดด...ซู๊ดดดด...เมื่อควยแข็งปั๋งของตนเองนั้นถึงจุดขีดสุดของความกระสัน
กระฉูดน้ำเมือกซึ่งไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนี้เข้าไปในโพลงหลืบที่
ฉ่ำแฉะของรุจิราอย่างสุดมันส์
โดยมีพรรคพวกตบมือกระทืบเท้าหัวเราะชอบอกชอบใจ
ส่วนรุจิรานั้นถูกแจ๊กที่สมอารมณ์หมายไปเรียบร้อยแล้ว
ผลักพลิกตัวของเธอให้ออกไปจากตักของตนเอง
ร่างงามที่ขาวผ่องของเด็กสาวก็นั่งระทวยกับโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
โคนขาอ่อนที่แบะกว้างนั้นเผยให้เห็นโพรงสวาทที่บัดนั้นกลวงอ้ามีคราบน้ำ
เมือกสีขาวขุ่นจับอยู่เกรอะกรังเป็นฟองเหนียวไปหมด
ชิดกับอ้วนแย่งกันเข้าไปนั่งขนาบข้างเด็กสาวที่นั่งหอบหายใจรวยริน
ปากของชิดกระซิบไปที่ข้างหูของรุจิรา
“เป็นไงครับ...พี่หมวยคนสวยของผม”
รุจิราครางออกมาในลำคอกล่าวพึมพำ
“ไม่ไหวแล้ว...พี่..เหนื่อยจะขาดใจอยู่แล้ว....”
อ้วนหัวเราะกระหยิ่มตะปบมือลงไปบนเนินสวาทที่เกรอะไปด้วยน้ำเมือกของเด็กสาว
ใช้นิ้วกระตุกไปตรงโพรงหลืบเฉอะแฉะนั้นเกิดเป็นเสียงแจ๊ะๆ...ความเสียวที่
พล่านขึ้นมาทำให้รุจิราโย้สะโพกขึ้นลงอย่างรัญจวนใจ...
ชิดหัวเราะพลิกหน้าของรุจิรามาบดขยี้จูบไปอย่างกระหาย
เด็กสาวครางเสียงอู้ๆ อี้ๆ
เพราะปากตนเองถูกชิดประกบเบียดจูบจนแน่น
“ไม่...ไม่...ไหว...พอเถอะ...จะตายอยู่แล้ว...อื้อออ..อื้ออออ...”
ชิดควานจูบไปก็พูดไปอย่างย่ามใจ
“พี่หมวยบอกไม่ไหว...แต่ทำไมผมเห็นเด้งสู้มือไอ้อ้วนอย่างนั้นล่ะครับ...”
ใบหน้าขาวของรุจิราแดงขึ้นฉับพลัน
เพราะเป็นจริงอย่างที่ชิดพูด
ถึงแม้จะเหนื่อยแทบขาดใจ
แต่ความเสียวที่พล่านเข้ามาก็กระตุ้นให้ต้องยกสะโพกแอ่นโคกสาวสะพรั่งของเธอ
ล้อกับนิ้วของอ้วนอย่างสุดเสียวซ่าน...ความรู้สึกที่พรั่งพรูมาตามโพรงสวาท
นั้นแล่นพล่านไปทั่วตัวทำให้เกิดความรู้สึกปรารถนาต้องการปลดปล่อยอย่างหยุด
ไม่อยู่...
แกงค์เด็กนรกหัวเราะพลาง
เบิ่งตามองดูรุจิราที่หมดสิ้นความอาย
นั่งเด้งสะโพกให้อ้วนกระตุกเสียวอย่างร้อนร่าน
เสียงรุจิราคราง
ฮือ...ฮือ...อื้อออ..อื้ออ....แรงขึ้น...ดังขึ้น...ตามจังหวะที่เริ่มเสียวสะท้านขึ้นไปทุกขณะ
ขณะเดียวกันปากอิ่มงามก็เผยอออกรับการบดขยี้จูบอย่างร้อนแรงของชิดหัวโจก
มือของแกงค์เด็กนรกที่เหลือก็ทยอยกันเข้าไปช่วยกันเค้นคลึงเต้าอวบงามที่
เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของที่กำลังเสียวระริก
แอ่นอกเสนอให้บีบคลึงอย่างสุดรัญจวนใจ....
โอววว..ซี๊ดดดด..ซี๊ดดดด...เสียววว..โอยยย...ซี๊ดดดด..เร็วๆๆๆ...พี่จะถึงแล้ว....
รุจิราครางเพ้อ
ปักปลายเท้าจิกกับพื้นเด้งสะโพกผายขึ้นร่อนรับมือหยาบที่ละเลงตะโบมอยู่ตรง
เนินสวาทของตนเอง
พยายามยกตัวบดเบียวโคกอูมของสาวสดให้เม็ดแตดนั้นเบียดเข้าไปกับมือของช่างกล
ร่างอ้วนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นการเร่งเร้าอารมณ์สวาที่กำลังเตลิด
สู่จู่หมายปลายทาง...
อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ.......อ๊ายยยยยย....ซ๊ดดดด.....อ๊ายยยยย....
เสียงครางของรุจิราดังกระเส่าต่อเนื่อง...ท่ามกลางอาการตัวสั่นกระตุกวาบๆ
ไม่นานจากนั้น
เด็กสาวก็แหงนหน้าเพริดร้องออกมาดังลั่น
ขนทั่วร่างลุกชัน...ในที่สุด...ร่างขาวผ่องราวกับหยวกกล้วยก็บิดไหวเร่าๆ
น้ำแตกไปคามือของช่างกลร่างอ้วนที่หัวเราะร่า
รุจิราที่หมดแรง...ร่างขาวผ่องตกผลอยจมกลับไปบนโซฟา
หลังจากที่เร่งเร้ากำลังขาเด้งสะโพกขึ้นร่อนรับมืออ้วนที่ส่งเธอขึ้นสู่จุด
สุดยอดไปอีกคำรบหนึ่ง...
แกงค์เด็กนรกหัวเราะหื่น
ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของรุจิราแดงก่ำดูไปแล้วน่ากัดน่ากินราวกับผล
แอปเปิ้ลสุก
ทำให้ทั้งห้าคนทยอยกันเข้าระดมจูบไซร้ไปตามใบหน้าและซอกคอขาวของเด็ก
สาวอย่างเมามัน..เสียงครางกระเส่า...เสียงปากที่บดไปตามผิวขาวเต่งดังจ๊วบ
จ๊าบไม่หยุด...
รุจิรานั่งหอบหายใจระทวย
ใบหน้าซีดขาวดวงตานั้นเบลอๆ
แทบหลับ
ชิดกับพวกเห็นดังนั้นก็ตกลงกันว่าสำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้
อย่าว่าแต่พวกตนเองนั้นรีดน้ำกามออกมาจนตัวเหลืองกันไปหมดแล้ว
กระตุกลำเอ็นของตนเองอย่างไรก็ขันไม่แข็งขึ้นอีกต่อไป
ดังนั้นแกงค์เด็กนรกจึงช่วยกันหยิบเสื้อยกทรง
กางเกงในที่หล่นอยู่กับพื้นสวมเข้ากลับให้รุจิรา
แล้วจัดแจงเสื้อกระโปรงของเด็กสาวให้เข้าที่เข้าทางสำรวจดูความเรียบร้อยใช้
กระดาษเช็ดคราบน้ำกามที่เปื้อนเป็นทางตามลำขาขาวนั้นอย่างลวกๆ
จนแน่ใจว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรที่ผิดสังเกตจากภายนอกแล้วก็พากันประคอง
ร่างอ่อนระทวยที่แทบเดินไม่ไหวของรุจิราออกไปจากห้องคาราโอเกะหลังนั้น
แกงค์เด็กนรกยักคิ้วให้กับคนดูแลที่รับเงินมาดูต้นทางให้
แล้วผิวปากอย่างสบายอารมณ์เดินตัวลอยกันออกไป
ซึ่งทั้งหมดพากันเดินมาด้านนอกห้างใหญ่
และส่งรุจิราที่ป้อแป้เต็มทนขึ้นรถแทกซี่กลับบ้านไป
เมื่อส่งเหยื่อสวาทที่พวกตนเคลมความหวานกันจนอิ่มทั้งวันไปแล้ว
แกงค์เด็กนรกก็เดินหัวเราะกระเซ้าเย้าแหย่กันไปตามทางเดินอย่างสบายอกสบายใจ
ฉับพลันนั้น...เสียงเอะอะ...เสียงตวาดที่ดังขึ้นไม่ห่าง
เสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาหาก็ทำให้ทั้งห้าสะดุ้งกันไปตามๆ
กัน ยังไม่ทันตั้งตัวอะไร
หมัดเท้าของใครหลายๆ
คนก็ประเคนเข้ามาใส่สมาชิกแกงค์เด็กนรกทั้งห้าอย่างดุเดือด
“เฮ้ย...อะไรวะ...”
ชิดร้องลั่น
ยังไม่ทันจะพูดจบ
หมัดของใครคนหนึ่งก็กระแทกไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูกอย่างจัง...หัวโจกแกงค์
เด็กนรกร้อง....โอ๊กกกก...อย่างเจ็บปวด
ร่างเซตึงๆ ล้มลงก้นกระแทกพื้นดังโครมใหญ่
ดวงตาพร่าไปหมด...
พรรคพวกของชิดก็มีสภาพที่ไม่ดีไปกว่ากัน
อ้วนกับมืดถูกของมีคมบางอย่างหวดเข้าใส่ตรงหน้าเป็นแผลเว่อ
เลือดสาด แจ๊กกับอ๋องก็ถูกหมัดและเท้ากันเข้าไปหลายดอก
พอเห็นถนัดชัดตาว่าคนที่รุมเข้ามาทำร้ายคือช่างกลคู่อริร่วมแดง
ชิดกับพวกก็แผดร้องด้วยโทสะอันดาลเดือด
ตะลุมบอนเข้าสู้กับเด็กช่างกลกลุ่มนั้นอย่างดุเดือดท่ามกลางสายตาของคนใน
บริเวณนั้นที่ฮือกันออกไปห่างๆ
เพราะกลัวถูกลูกหลง
เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้นมาจากกลุ่มของคนที่รายล้อมอยู่ในบริเวณนั้น
พร้อมๆ
กับเสียงตวาดด่าชกต่อยของวัยรุ่นคู่แค้นทั้งสองกลุ่มกระตุ้นให้ตำรวจที่โบก
รถอยู่แถวนั้นวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์
เสียงเป่านกหวีดดังลั่นทำให้กลุ่มผู้จู่โจมแกงค์เด็กนรกทั้งห้านั้นชะงักลง
อย่างชั่งใจ ถึงแม้ว่าพวกตัวเองกำลังเป็นต่อ
แต่ก็กลัวถูกจับเหมือนกัน
ชิดจึงพอมีเวลาตั้งสติมองเห็นเด็กวัยรุ่นที่ตนเองจำได้ว่าเป็นช่างกลคู่อริ
ร่วมแดนเหล่านั้น
ซึ่งทั้งหมดมีใบหน้ากระเหี้ยนกระหือรือ
ขณะที่พวกตนเองตอนนี้เดินแทบไม่ไหวเพราะทั้งวันกระเด้าเย็ดรุจิราจนหมดแรง
ทำให้หัวโจกแกงค์เด็กนรกเริ่มรู้สึกขลาดเขลา
ก่อนที่จะฉวยโอกาสนั้นที่ตำรวจกำลังวิ่งเข้ามา
รีบหันหลังโกยแน่บออกไปทันทีโดยไม่รอเพื่อนร่วมก๊วน
แหกปากดังลั่น
“หนีก่อนโว้ย...”
เมื่อเห็นหัวหน้าของตนวิ่งหนีอย่างนั้น
สมาชิกแกงค์เด็กนรกที่เหลือก็หมดใจสู้
พากันใส่ลนลานวิ่งตามลูกพี่ไป
ซึ่งช่างกลคู่อริของแกงค์เด็กนรกมองตากันเห็นตำรวจร้องโหวกเหวกวิ่งเข้ามา
และคนที่ฮือออกไปเพราะกลัวถูกลูกหลงนั้นจ้องมาเป็นตาเดียว
ทำให้ไม่กล้าลงมือต่อพากันวิ่งหลบไปอีกด้านหนึ่ง
ท่ามกลางการใจหายใจคว่ำของคนในบริเวณนั้น
..............................
ถึงแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยตั้งตัวมา
ก่อน และก็ไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้าตัดสินใจเช่นนี้
แต่เมื่อผ่านพ้นมาจนถึงขั้นนี้ที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ด้วยพื้นฐานแห่งความเป็นคนเจ้าความคิดในการเอาตัวรอด
ทำให้ศักดาพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน...ใจที่เต้นระส่ำจนมือไม้สั่น
ระริก...
ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างว่องไวขณะที่สายตามองไปร่างไร้ชีวิตของเสี่ยคิ้มที่
นอนคว่ำกับพื้น...เศษเนื้อและส่วนหนึ่งของมันสมองกระจายอยู่กับพื้น
....กลิ่นของลิ่มเลือดและไขสมองขาวเว่อนั้นเหม็นตลบคาวคลุ้งไปทั่ว
พื้นที่...
...ถึงแม้ว่าตรงนี้จะเป็นที่เปลี่ยว
แต่เสียงปืนก็คงดังไปไกลไม่น้อย...อาจจะไปสะกิดความสนใจของใคร...ก่อนอื่นต้องรีบไปจากที่นี่....
เท้าไว้เท่าความคิด...จิ้งจอกสวาทหันไปยังอรอุษาที่ยังคงสลบไม่ได้สติ
รีบเข้าไปหาและโอบร่างงามที่เบาหวิวนั้นอุ้มกลับเข้าไปในรถของตนเอง
พลางครุ่นคิดอย่างหนักหน่วง...ใบหน้าเครียด...ดวงตาส่ายไปมา
...ถ้าตำรวจมา...มันจะอาศัยอะไรสาวมาถึงเราบ้างวะ...
คิดไปคิดมาตาก็ลุกโพลน...ปืนไง...มันคงมีลายนิ้วมือของเราเต็มไปหมด
จิ้งจอกสวาทรีบวิ่งกลับมาตรงบริเวณร่างไร้ชีวิตของเสี่ยคิ้มที่ตัวเองโยนปืน
ทิ้งไว้ รีบคว้าขึ้นมาและหันไปซ้ายขวา
กวาดมองไปรอบบริเวณ....ซากศพสามซาก...รถจอดอยู่คันหนึ่ง...ครุ่นคิดไวๆ
ไม่น่ามีอะไรอีก....
ต่อให้มันจะมีอะไรเหลืออยู่...แต่ถ้ากูเอาปืนไปซ่อนไว้พวกตำรวจก็คงไม่มีหลักฐานอะไรมัดกูได้ว่าเป็นคนฆ่าไอ้คิ้มกับพวกมัน...
อีกอย่างไม่น่ามีคนรู้ว่ากูอยู่กับไอ้คิ้มก่อนที่มันจะตาย....มันไม่น่าบอกใคร....
เมื่อคิดได้ดังนั้นศักดาก็รีบกลับไปที่รถคันงามของตัวเอง
เหยียบคันเร่งพารถวิ่งย้อนกลับทางไปอย่างรวดเร็ว...
ทันใดนั้นเองนั้น...เมื่อคิดถึงอะไรบางอย่าง...ดวงตาของชายหนุ่มก็วาบขึ้นอย่างร้อนแรงและถมึงทึง
นังไอซ์..!!!.....ใช่..ถ้าข่าวแพร่ออกไป...นังงูเห่านั่นต้องรู้แน่ว่าเป็นฝีมือกู....ทำไงดีวะ...
แต่เมื่อคิดไปคิดมา
จิ้งจอกสวาทก็มีสีหน้าเบาใจขึ้น
พึมพำออกมากับตัวเอง
“แต่ไม่น่านะ....เรื่องอย่างนี้นังงูเห่านั่นคงไม่กล้าปูดไปหรอก
...เรื่องมันจะฉาวมาถึงตัวเองเปล่าๆ...กูว่ามันคงไม่กล้าแน่...เพราะถ้าสาว
ไปลึกๆ...มันเองก็วัวสันหลังหวะเหมือนกัน...ใช่...กูว่าอย่างนั้นแหล่ะ...คง
ไม่น่าห่วงนัก”
อย่างไรก็ตามคำพูดที่ตนเองได้ยินจากมือถือของเสี่ยคิ้ม
ที่ฐิติพรรณถึงแม้จะไม่บอกออกมาตรงๆ
แต่ตีความหมายที่ซ่อนอยู่เป็นนัยนั้นไม่ลำบากเลย....เด็กสาวพูดเป็นเชิงบอก
ให้เสี่ยคิ้มเก็บเขา...
ใบหน้าหล่อเหลาของศักดาขบกรามเป็นสันนูน....ครุ่นคิดอย่างคลั่งแค้น
นังงูเห่า....ระวังเอาไว้ให้ดีเหอะ...กูจะเอาคืนแน่....
รถคันงามของศักดาวิ่งฉิวออกไปจากบริเวณของหมู่บ้าน
ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ
อย่างเบาใจ
เพราะการที่เสี่ยคิ้มเลือกสถานที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่านและห่างไกลจากชุมชน
นั้นเป็นผลดีกับตัวเองในเวลานี้
เพราะนับจากบริเวณจุดเกิดเหตุจนถึงที่ตนเองขับรถกลับออกมา
สองข้างทางนั้นเงียบเชียบ...เปลี่ยวสนิท...ไม่มีใครโผล่ออกมาสนใจอะไรเลยถึง
แม้ว่าบางคนอาจจะได้ยินเสียงปืนดังแว่วเข้ามาก็ตามที
จิตใจที่ตื่นเต้นตึงเครียดของศักดาเริ่มค่อยๆ
สงบลง จากนั้นก็เปลี่ยนมาอยู่ในสภาวะที่รู้สึกในใจแปลกๆ
ไม่เคยรู้สึกมาก่อน....แต่จิ้งจอกสวาทรู้ดีว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร.
...เขาฆ่าคนตาย....
ในชีวิตของตนเองที่ไม่เคยทำอะไรที่เป็นเรื่องดี...หลอกลวงพร่าสวาทเหยื่อสวา
มมาจนนับครั้งไม่ถ้วน
ปอกลอกทั้งเงินทั้งรสสวาทจนอิ่มหนำก็ผละทิ้งไปหาเหยื่อรายใหม่...
แต่ไม่ว่าอย่างไรศักดาก็ไม่เคยมีความคิดถึงการเอาชีวิตของคนอื่นมาก่อนเลย....
แต่คืนนี้...เขาฆ่าคนตายไปถึงสามคน
ความรับรู้นั้น...ทำให้ดวงตาของชายหนุ่มอดจะฉายแววแห่งความสับสนพลุ่งพล่าน
อารมณ์อยู่ในใจไม่ได้...ความรู้สึกในเวลานี้มันทำให้ใจของศักดานั้นรู้สึก
เหมือนมีอะไรกดทับอยู่บนบ่าจนทำให้หายใจแทบไม่ออก...ร่างของชายหนุ่มหายใจ
หอบสะท้อน...มือที่กุมพวงมาลัยสั่นระริก....
หัวสมองของจิ้งจอกสวาทนั้นพล่านไปด้วยเรื่องราวต่างๆ
อย่างสับสน ขณะเหยียบคันเร่งทิ้งเหตุการณ์ต่างๆ
เอาไว้เบื้องหลัง
ก็พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง
...เสี่ยคิ้มสมควรตายอยู่แล้ว...เพราะถ้าเขาไม่ฆ่าเสี่ยคิ้ม...อีกฝ่ายก็
ต้องฆ่าเขาแน่นอน...เพราะฉะนั้นเขาไม่ได้ทำเกินไป....ทุกอย่างเป็นการ
ป้องกันตัวเองทั้งนั้น...
แต่ถึงกระนั้นใจของจิ้งจอกสวาทก็ยังพล่านไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัวลึกๆ....กลัวผลที่จะตามมาจากการกระทำของตนเองในค่ำคืนนี้
ชายหนุ่มจ่อมจมอยู่ในความคิดอันอลหม่านของตนเอง
จมูกยังคงได้กลิ่นอันชวนคลื่นเหียนของคาวเลือด
ภาพมันสมองอันแตกกระจายของเสี่ยคิ้มยังวนเวียนอยู่ในมโนภาพจนแทบจะอ้วกออก
มา...
ยิ่งคิดศักดาก็ยิ่งทนไม่ได้
จนในที่สุดสายตาก็ปะทะเข้าไปกับโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง
เขาจึงเลี้ยวรถเข้าไปอย่างใช้บริการโดยทันที
จิ้งจอกสวาทแช่ตัวอยู่ในน้ำร้อนจนตัวซีด
เนิ่นนานกว่าจะกลับออกมาที่รถ
และทรุดตัวลงนั่งกับที่นั่งคนขับ
ถอนหายใจยาวเหยียด
รู้สึกค่อยแจ่มใสขึ้นมาบ้าง...
ฉับพลันนั้นชายหนุ่มได้ยินเสียงหายใจรวยรินที่ดังเบาๆ
จากด้านข้าง...
เสียงนั้นทำให้เขาเพิ่งนึกถึงตัวของอรอุษาขึ้นมาได้....ตั้งแต่ขับรถออกมาเขาลืมนึกถึงเด็กสาวข้างกายไปเสียสนิท...
ในเวลานั้นเด็กสาวด้านข้างนั่งระทวย
คออ่อนพับพิงกับประตู
ใบหน้านั้นถึงแม้อยู่ในภาวะสลบไสล
แต่ก็ยังคงความงามเอาไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย...
ยิ่งตอนนี้...ในเวลานี้ที่ใบหน้านั้นซีดขาว
มีหยาดน้ำตาอาบคาอยู่ตามพวงแก้ม...ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความบอบบางน่าทะนุถนอม
ราวกับแก้วอันล้ำค่า
เขาจะทำอย่างไรต่อดี?
ศักดาครุ่นคิด...ท่ามกลางความรู้สึกพลุ่งพล่านสับสน...พลันภาพที่เขามองเห็น
เสี่ยคิ้มเฟ้นฟอนขยำขยี้ไปตามร่างกายอันงามของอรอุษานั้นหวนกลับเข้ามาสู่
ความคำนึง...
และสายตานั้นไวเท่ากับความคิดกับภาพที่เกิดขึ้นในใจ
จิ้งจอกสวาทเลื่อนมองต่ำลงไปตรงบริเวณกลางลำตัวงามของเด็กสาวที่นั่งระทวย
อยู่ด้วยดวงตาเบิกโพลง
เอื้อมมือสั่นระริกของตัวเองเข้าไปร่นชายเสื้อสีฟ้าตัวสวยที่อรอุษาสวมใส่
ให้เลิกขึ้น ก่อนที่จะกลืนน้ำลายเหนียวๆ
ลงคออย่างยากลำบาก....ดวงตาสาดประกายกระหายหื่นออกมาไม่มิด
เพราะในเวลานั้นกางเกงยีนส์สีขาวเข้ารูปให้เห็นช่วงขาเรียวนั้นถูกปลดกระดุม
และรูปซิบที่เป้าลงไปจนสุดเหมือนเดิม....เนินหน้าท้องที่ขาวนวลเป็นประกาย
ที่ซ่อนรูปอยู่ในเนื้อผ้าบางเบาสีชมพูอ่อนนั้นเผยออกมาก่อกวนจนความใคร่อยาก
ของชายหนุ่มสั่นกระพือ....
...ภาพที่เสี่ยคิ้มล้วงมือเข้าไปขยำเนินสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ภายในเป้ากางเกง
ตัวสวยนั้นล่องลอยเข้ามายั่วยวนอารมณ์ของเขาจนตัวสั่นสะท้าน....อารมณ์อัน
หื่นกระหายที่มาความรุนแรงพอจะกลบอารมณ์อัดอั้นที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกของ
การที่ต้องฆ่าคนตายไปจนสิ้น....
ในเวลานั้นเองที่ใบหน้างามที่แน่นิ่งอยู่นั้นเหมือนกับเริ่มมีปฏิกิริยาขึ้น
มา..ขนตางอนยาวที่กระตุกแผ่วๆ....อาการที่ร่างใบหน้างามส่ายไปมา....คิ้ว
เรียวที่ขมวด...ปากบางราวกับกลีบกุหลาบสั่นระริกและอ้าออกน้อยๆ
ส่งเสียงที่แหบโหย....แผ่วล้า....ผ่านพ้นช่วงคองามระหงนั้นออกมา...
....ดวงตาหลุกหลิกของศักดาลพล่านไปด้วยความคิด
ก่อนจะสว่างวาบออกมาด้วยประกายตาที่โฉดชั่ว...
จิ้งจอกสวาทรีบเอื้อมมือไปเปิดช่องด้านหน้ารถโดยพลัน..ล้วงมือเข้าไปหยิบของ
เล่นที่เขาพกพาเอาไว้เสมอๆ...เพื่อที่จะได้ใช้ในเวลาที่ต้องการ....เฉกเช่น
ในเวลานี้....
ชายหนุ่มลนลานกระฉอกของเหลวในขวดเล็กๆ
รดไปในผ้าเช็ดหน้า
ก่อนจะที่รีบโปไปประกบครึ่งปากครึ่งจมูกของเด็กสาวแสนสวยที่กำลังฟื้นคืนสติ
อยู่โดยทันที ในใจนั้นเต้นระทึกราวกับรัวกลอง
พอมองเห็นขนตางอนยาวที่กระพริบถี่ถี่และอาการของเปลือกตาที่กำลังพยายามเผยอ
ขึ้นมา
ทำให้จิ้งจอกสวาทต้องรีบเอื้อมมือไปประกบปิดเอาไว้แน่น
ศีรษะงามได้รูปขยับช้าๆ
ร่างบางของเด็กสาวดูเหมือนกำลังจะพยายามเกร็งขัดขืน
แต่ทุกประการนั้นเป็นไปอย่างอ่อนแรงเหลือประมาณ
และอาการบิดเกร็งนั้นเล่าก็เป็นไปได้เพียงแค่ครู่เดียว
ก่อนที่ศีรษะสวยได้รูปนั้นจะอ่อนพับไปอีกครั้ง.....
ศักดาค่อยๆ
ลดมือทั้งสองข้างที่ปิดตาปิดปากและจมูกของอรอุษาลง...เขม้นมองวงหน้างามล้ำ
ที่ค่อยๆ
แน่นิ่งไปด้วยฤทธิ์ยาที่ชุ่มผ้าเช็ดหน้าของจิ้งจอกสวาท....
ท่ามกลางรอยยิ้มแสยะ...ศักดาหัวเราะออกมาอย่างกระหายหื่น....ครุ่นคิดในใจอย่างลิงโลดหฤหรรษ์ออกมาราวกับบ้าคลั่ง
....ฟ้าเปิดโอกาสให้กูแล้ว...ปล่อยไปก็เป็นควายเท่านั้น...
ชายหนุ่มวิ่งออกไปจากที่นั่งคนขับด้วยร่างกายที่สั่นเทิ้ม
ก่อนที่จะปราดเข้าไปเปิดประตูด้านข้าง
และโอบอุ้มร่างบางงามของอรอุษาออกมาโดยทันที
ความเนียนนุ่มของผิวสาวที่สัมผัสได้รมเร้าจนอารมณ์ของชายหนุ่มระเริง
เมื่อก้มลงไปมองใบหน้าสวยซึ้งที่ศีรษะได้รูปนั้นแหงนตกลงไป
พร้อมๆ กับสยายคลื่นผมราวกับไหมดำระยับนั้นยาวเหยียด
ช่วงคอระหงบางที่เพริดแอ่นขึ้นมานั้นขาวผ่องเป็นประกาย
ทำให้จิ้งจอกสวาทอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปใช้ลิ้นโลมเลียผิวที่เต่งตึงราวกับ
เด็กทารกนั้น
ความเนียนนุ่มที่ราวกับจะละลายไปกับลิ้น
และกลิ่นหอมของจรุงขึ้นเต็มจมูกนั้นเร้าใจให้จิ้งจอกสวาทนั้นตัวสั่นเทิ้ม
ตรงเป้ากางเกงตุงคับ...
ศักดาแผดหัวเราะออกมาอย่างกระหยิ่มใจ
...นี่ขนาดมีกลิ่นหืนของน้ำลายไอ้คิ้มนะ....เนื้อยังหอมขนาดนี้....ฮ่ะฮ่ะ
...ไม่ต้องรีบร้อนเว้ย...เช็ดตัวของนังเด็กนี่ให้หมดกลิ่นน้ำลายไอ้คิ้มก็
ยังมีเวลาเหลือเฟือ...ฮ่ะฮ่ะ
เมื่ออุ้มร่างระทวยปวกเปียกของอรอุษาเข้าไปผ่านเข้าประตูห้องนอนเข้าไป
ในเวลานั้น...จิ้งจอกสวาทตัวสั่นด้วยความระเริงใจจนใบหน้าบิดเบี้ยว.....!!!
..............................
ฐิติพรรณที่กำลังขับรถวนออกไปตามทางในบริเวณจอดรถในห้างหรูนั้น
ใบหน้างามบาดตามีรอยยิ้มน้อยๆ
ที่มุมปาก
ดวงตาคู่งามนั้นฉาบไปด้วยประกายตาแห่งความสาสมใจ
แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวของเธอในที่สุดก็สำเร็จดั่งประสงค์อีกครั้ง...เด็กสาวครุ่นคิดอย่างครึ้มใจ
ฮึ...ไอ้แมงดา...แกสมควรได้รับโทษทัณฑ์ที่ทำกับฉัน....ส่วนนังเด็กหน้าโง่
...อยากเสือกเกิดมาเป็นน้องนังอรนุชเอง...มิหนำซ้ำยังแส่มายุ่งเรื่องของฉัน
ก่อน...อย่ามาโทษกันเลยนะ
ฐิติพรรณครุ่นคิดในใจ
จากนั้นในสมองของเธอก็หวนนึกไปถึงอรนุช...ศัตรูคนสำคัญ...เป้าหมายอันดับถัดไปที่เธอจะต้องจัดการให้พ้นทาง
เชอะ...มันจะโชคดีทุกครั้งก็ให้มันรู้ไป...คราวที่แล้วมันรอดไปได้...คราวต่อไปฉันจะเล่นงานมันให้ได้สิน่า...
ถึงแม้ว่าในใจของพริตตี้สาวในเวลานั้นมีความอิ่มเอมกับความสำเร็จ...แต่ใน
เบื้องลึก...เธอยังบอกกับตัวเองว่าเป้าหมายที่สำคัญยังไม่ลุล่วง
เธอยังมีงานต้องทำอีก
งานที่จะกำจัดนังอรนุชและช่วงชิงธนาให้มาเป็นของตัวเธอ...
ยิ่งคิดไปถึงตอนนี้...ก็หวนระลึกได้ว่าตอนนี้พี่ธนาของเธอแจ้นไปหานังอรนุช
ถึงคณะกองประกวด...ความรุ่มร้อนริษยาก็พรั่งพรูขึ้นมาจนจับใจ...ใบหน้างาม
ที่เมื่อครู่ยังแย้มยิ้ม...เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงอย่างฉับพลัน
..เธอจะจัดการอย่างไรกับนังอรนุชดี...
ขณะครุ่นคิด...รถคันงามของเธอกำลังจ่ออยู่บริเวณปากทางที่จะเลี้ยวออกไปยัง
ถนนใหญ่...สายตาที่จ้องมองไปตรงหน้านั้น
พลันหางตาก็สะดุดไปกับเหตุการณ์ที่ค่อนข้างโกลาหนวุ่นวายในบริเวณนั้น
ฝูงคนที่กำลังเดินเที่ยวอยู่แตกฮือ
เพราะกำลังบังเกิดการตะลุมบอนของเด็กหนุ่มสองกลุ่มที่ฟาดฟันกันด้วยไม้
และหมัดลุ่นๆ กันอย่างดุเดือด
ต่างพากันวิ่งหลบหนีกันไปคนละทิศละทางเพราะกลัวถูกลูกหลง
ฐิติพรรณที่มองเห็นไปก็ขมวดคิ้ว
คิดในใจ
“ไอ้เดนสังคมพวกนี้...ทำไมพวกมันไม่ไปตายๆ
กันซะให้หมดนะ...ทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอยู่ได้”
สถานศึกษาที่พริตตี้สาวเรียนอยู่นั้นใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ
และเด็กสาวก็ได้ยินข่าวการตีกันของเด็กนักเรียนช่างกลที่เป็นครู่อริในแถบ
นั้นอยู่เนืองๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่าพวกไหนกับพวกไหนกำลังตีกันอยู่ตรงหน้าเธอ
การตะลุมบอนกันทำให้การจราจรเป็นอัมพาตไปทันที
เสียงเอะอะโวยวาย
เสียงกรีดร้องอย่างตระหนกตกใจจากบรรดาคนที่ยืนมุงอยู่อย่างหวาดเสียวดังขึ้น
สับสน กว่าที่ตำรวจที่อยู่ในบริเวณนั้นจะพากันเข้ามาระงับเหตุ
เลือดก็สาดกระจายนองพื้นถนนกันไปแล้วหลายหย่อม
พวกนักเลงในคราบนักเรียนทั้งสองกลุ่มพอเห็นตำรวจมาก็แตกฮือกันไป
กลุ่มหนึ่งวิ่งหนีมาทางรถของฐิติพรรณที่จอดคาอยู่ตรงทางออก
สายตาอันขุ่นเคืองเหยียดหยามของพริตตี้สาวนั้นแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่แปลกใจ
ขึ้นวูบหนึ่งเมื่อแลเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังวิ่งอยู่ถนัดตา
“ไอ้สวะชิดกับพวกมันนี่นา....”
ฐิติพรรณเห็นแกงค์เด็กนรกทั้งกลุ่มนั้นวิ่งผ่านหน้าไปรถ
โดยที่ชิดกับพวกไม่ทันสังเกตุเห็น...เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาวิ่งเอาชีวิต
รอด...ทั้งห้าคนวิ่งหัวซุกหัวซุนฝ่าหายไปในกลุ่มคนที่เดินอยู่ในบริเวณนั้น
พริตตี้สาวมองตามไปจากกระจกหลังขมวดคิ้ว
ดวงตาคู่งามเบิกกว้างส่อประกายเสียดายอย่างโจ่งแจ้ง
“ฮึ...ไอ้กากเดน...สวะสังคม...พวกแกมันน่าจะถูกฆ่าตายเหมือนหมากลางถนนให้หมด....”
ใบหน้างามของเด็กสาวนั้นเต็มไปด้วยประกายเหี้ยม....ยิ่งนานไปเพลิงแค้น
...เพลิงอาฆาตก็ยิ่งเข้าเกาะกุมจิตใจของพริตตี้สาว....และเมื่อยิ่งเธอปล่อย
ตัวปล่อยใจให้ถลำเข้าไปกับการวังวนแห่งการแก้แค้น...ทำให้จนบัดนี้...ฐิติ
พรรณนั้นครุ่นคิดถึงการตัดทำลายชีวิตของคนๆ
อื่นได้ด้วยสีหน้าที่เฉยชา.......และจิตใจที่เกรียมกระด้าง...
....ใครขวางทางฉัน...ทำร้ายฉัน...ฉันจะเล่นงานมันให้หมดทุกคน....คอยดู
ดวงตาของฐิติพรรณวาวโรจน์
มองไปยังกระจกหลังในทิศทางที่ชิดกับพวกวิ่งหลบหนีไป
ใช่...ไอ้สวะพวกนั้นด้วย....ถ้าเธอมีโอกาสจะไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่...
ในใจตอนนั้นเด็กสาวครุ่นคำนึง...แต่ตอนนี้เธออาจจะยังพอใช้ประโยชน์จากพวกมันได้...ปล่อยไปก่อน...
ตอนนี้เป้าหมายอันดับแรกคือนังอรนุช...
แต่....ไอ้นรกพวกนั้นมันทำท่าแหยงไม่กล้ายุ่งกับนังอรนุชอีก...แล้วเธอจะยืมมือใครดี?
............................
...ในห้องนอนเช่าราคาถูกย่านชานเมือง...ความร้อนเร่าที่ปกคลุมอยู่ภายในนั้น
ทำให้ศักดาที่เปลือยเปล่าอยู่บนความงามล้ำที่ถูกสรรสร้างมาจากสวรรค์แทบ
สำลักตามไปกับความหฤหรรษ์ที่รมเร้าเข้ามา...
เสียงครางของจิ้งจอกสวาทดังโหยหวนออกมาราวกับภูตคร่ำครวญ
เมื่อเขาสอดใส่ความชั่วร้ายของเขาเข้าไปในดินแดนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องนั้น....
ร่างกำยำของศักดาสั่นสะท้าน...โลดแล่นมัวเมาไปกับความรู้สึกที่สุดหฤหรรษ์
ยามที่ลำเอ็นอวบของตนเองทะลวงพรากพรหมจรรย์อันมีค่าล้ำของอรอุษาไปจากตัวของ
เด็กสาว....การฉีกขาดที่สร้างความเต็มอิ่มให้กับความโฉดกระหายที่ตื่นเต้นจน
เนื้อตัวสั่นระริกรี้....
ความสูญเสียที่อรอุษาไม่มีวันเรียกร้องกลับคืนมานั้นบังเกิดขึ้นท่ามกลาง
ความลิงโลดยินดีราวกับคุ้มคลั่งของชายโฉด....ความงาม...ความบริสุทธิ์
ผุดผ่องแห่งเรือนกายที่เขากำลังเฟ้นฟอนอย่างมันมือ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่
ช่วงขณะหนึ่งภายใต้ความกดดันที่ตนเองมองเห็นเสี่ยคิ้มเค้นคลึงไปบนเรือนกาย
ของอรอุษา...ในเวลานั้น...เขาคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะหลุดลอยไปจาก
เงื้อมมือของตนเองแล้ว...
แต่ตอนนี้....ทุกอย่างมันได้กลับมาเป็นของเขา...ของเขาคนเดียวเท่านั้น....
ร่างขาวละเอียดที่ถูกปลดเปลื้องสิ่งรัดรึงทั้งมวลจนหมดสิ้น
แม้อยู่ในสภาพแห่งการถูกกดด้วยฤทธิ์ยาสลบ
แต่ทว่าความเจ็บปวดที่ถูกทำร้ายนั้นยังคงสะท้านสะเทือนเข้าไปถึงวิญญาณอัน
บอบบางที่อยู่ภายใน...
จะไม่ว่าเป็นเพราะยาสลบยังไม่ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่
หรือจะเป็นเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันรุนแรงและฉีกพร่าทำร้ายอย่างโหด
เหี้ยมจนเกินไปนั้น...ทำให้อรอุษาแทนที่จะสลบไสลจนไร้สติ...กลับโหยไห้อยู่
ภายใต้สภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นอันสุดแสนจะเจ็บปวด..ทรมาน...
ในความรับรู้ที่สั่นพร่า...ทว่าชัดเจนในความรู้สึก...เด็กสาวเจ็บปวดอย่าง
เหลือประมาณ...ความเจ็บปวดรวดร้าวนั้นแผ่ลามไปทั่วสรรพางก์ร่างกายอย่างที่
ตลอดชั่วชีวิตไม่เคยประสบมาก่อน...ร่างกายของเธอนั้นเสมือนถูกเข็มอันแหลมคม
ทิ่มตำเข้ามายังผิวกายอันบอบบางของตัวเองเป็นหมื่นๆ
แสนๆ เล่ม....
เด็กสาวร้องไห้...คร่ำครวญออกมาอย่างทรมานอย่างแสนสาหัส...
...คุณพ่อขา...คุณแม่ขา...ช่วยษาด้วย....ษาเจ็บ....พี่อร...พี่นุช...ษาทนไม่ไหวแล้ว.....เจ็บ..เจ็บเหลือเกิน...
วงหน้างามที่พลิกไปมาช้าๆ
บนกรอบไหมดำหนานุ่มที่กระจายตัวอยู่บนหมอนใบใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความรวดร้าว
...เจ็บปวด...เสียงสะอื้นไห้ดังลอดออกมาจากเรียวปากที่นุ่มงามราวกับกลีบ
กุหลาบ....
ความเจ็บปวดที่เด็กสาวแสดงออกมามันชัดเจนกระไรปานนั้น...หยาดน้ำตาที่ราวกับ
เพชรพรากออกมาอย่างรวดร้าว...ภาพตรงหน้านั้นเป็นส่วนผสมระหว่างความงามพิลา
ศล้ำที่กำลังทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส...
ภาพที่ศักดาเห็นนั้น...มีพลานุภาพที่แทรกเข้าไปแม้กระทั่งความหยาบช้ากระด้างของจิ้งจอกราคะ....
วูบหนึ่งที่ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย...ความบริสุทธิ์สูงส่งไร้มลทินของความงามล้ำตรงหน้าเขา...ไม่สมควรถูกพร่าทำลายย่ำยี....เช่นนี้
แต่ความสอดกระชับที่ลำเอ็นอวบของเขากำลังตึงตัวอยู่เต็มที่นั้นมันกระตุ้น
สันดานดิบอันชั่วร้ายของชายหนุ่มให้มีกำลังแก่กล้า
กระพือความต้องการอันกระหายหิวนั้นให้คุโชนจนขับไล่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ออกไปจากใจ...
จิ้งจอกสวาทร้องออกมาเสียงดังราวกับบ้าคลั่ง...ซุกไซร้ใบหน้าลงไปบดขยี้จูบ
ไปบนกลีบกุหลาบงาม
จงใจใช้ปากหนานั้นบดกระชับกลบเสียงครางสะอื้นที่แผ่วสะท้านออกมา...มือไม้
สะเปะสะปะไปตามผิวกายที่ขาวสะอาดราวกับหยกบริสุทธิ์นั้น
เกลื่อนอารมณ์อันอ่อนไหวของตนเองละเลียดไปกับความเนียนนุ่มที่เสพสัมผัส
อย่างเร่าร้อน...
การเฟ้นฟอนลงไป....อย่างรุนแรง...หื่นกระหาย
และต่อเนื่องราวกับขาดสติ...
ในที่สุดชายหนุ่มก็เพลิดเพลินมัวเมาไปกับความหอมหวานที่เสพสมอย่างอิ่มเอม
โลดแล่นไปกับความงามของเรือนกายที่สวรรค์เบื้องบนประทานมาให้เขาจนกลบความ
รู้สึกอื่นไปจนสิ้น...
สองแขนของศักดากระตุกรั้งช่วงขาขาวเรียวเสลาขึ้นไป
เพื่อให้ลำตัวของเขาที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างตะกระตะกรามมีความสะดวกมากยิ่ง
ขึ้นในการโถมทะลวงลำเอ็นที่ขยายตัวเต็มที่
โดยไม่สนใจว่ากลีบเกสรอันบอบบางที่กำลังถูกบดขยี้นั้นจะระบมชอกช้ำขนาดไหน
ความแน่นตีบกระชับของร่องสวรรค์นั้นทำให้ปลายถอกบานของจิ้งจอกราคะปวดแสบไป
หมดเมื่อยามที่เขาโถมอัดเข้าไปอย่างรุนแรง
เสียงร้องครางของศักดาดังโหยหวน....
...เสียงร้องนั้น...แม้แสดงความเจ็บปวด...แต่ทว่าอาการที่รับรู้ถึงความอวบ
ใหญ่ของลำกายของตนนั้นทะลวงลึกเข้าไปในความอ่อนหยุ่นบอบบางกลับสร้างความสา
แก่อารมณ์นั้นให้มากกว่าเป็นหลายเท่าทวี...ใบหน้าที่หล่อเหลาของศักดาจึงบิด
เบี้ยวด้วยความสุขที่ทะลักท่วมอารมณ์
ลมหายใจของจิ้งจอกราคะดังกระเส่า
ร่างที่อาบไปด้วยเหงื่อกาฬทั้งๆ
ที่อยู่ในห้องปรับอากาศเย็นเฉียบ
กระตุกวาบๆ
สะโพกที่แข็งแรงส่งกำลังกระเด้าลำลึงก์บดเบียดฉีกกระชากความอ่อนหยุ่นภายใน
เรือนกายของอรอุษาอย่างหักโหม...จนเกินกว่าความบอบบางของมันจะรองรับเอาไว้
ได้....
ลำอวบที่กำลังชำแรกเข้าออกขยำขยี้กลีบอันบอบบางราวกับกลีบกล้วยไม้นั้นจึง
ปรากฏคราบเลือดสีแดงจางๆ
อาบผสมผสานไปกับน้ำใสๆ
ที่หลั่งออกมาจากร่องสวรรค์นั้น
หยาดเลือดที่ค่อยๆ
รวมตัวไหลรินผ่านผิวกายอันขาวสะอาดของอรอุษาจับลากลงไปบนผ้าปูเตียง...สีแดง
ฉานเป็นด่างดวง...
ใบหน้างามล้ำแหงนเพริด
คิ้วเรียวขมวดมุ่น
เสียงครางดังลอดออกมาผ่านจากช่วงคองาม...นั้นแหบพร่า
....ได้โปรด...ตื่นเถอะ...อรอุษา...ตื่นเสียที.....ตื่น...ตื่น..ได้โปรด...ตื่น...เจ็บเหลือเกิน....
เด็กสาวร่ำร้องกับตัวเอง....ความรู้สึกประหนึ่งเหมือนกับกำลังจมอยู่ท่าม
กลางความฝันอันเลวร้าย...ทำให้เธอพยายามเร่งเร้าให้ตัวเองฟื้นจากฝันที่ทิ่ม
แทงเข้ามาอย่างทารุณนี้....
ศักดาที่กำลังโลดแล่นอย่างมัวเมา
ดวงตาก่ำไปด้วยริ้วของเลือดที่ซ่านจนแดงฉาน
จิ้งจอกสวาทตัวสั่นกระตุกถี่ถี่...ปากเบี้ยวอ้าออกร้องเสียงกระชั้น...อั๊ซ
ซซซ..อั๊ซซซซซ..อั๊ซซซซ
จับจ้องไปใบหน้างามที่กำลังพลิกไปมาบนกรอบผมที่สยายอยู่บนหมอนราวกับคลื่น
ไหมสีดำนั้นอย่างทรมาน
...อาการที่เปลือกตากระตุกถี่ถี่
ขนยาวงอนยาวแผ่พลิ้วราวกับผีเสื้อบาดเจ็บขยับปีก
ทำให้ดวงตาซ่านของจิ้งจอกโฉดลุกโพลง...
ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆ
อย่างเสียวกระสัน
ร่างที่กำลังมันเมาในกับการเสพสพความหอมหวานไม่ต้องการหยุดชะงักจังหวะอัน
อิ่มเอมนั้น
มือหนาจึงตะปบไปปิดที่เปลือกตาที่กำลังพยายามฝืนลืมขึ้นนั้นเอาไว้
ส่งเสียงคำรามเสียงหนักๆ
เกร็งกำลังที่หน้าท้องเร่งส่งกระทุ้งลำเอ็นอวบกระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วง
เสียงหนอกอันแน่นหนากระแทกไปบนเนินสวรรค์อันอ่อนนุ่มเสียงดัง
ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก
อย่างไม่มีการหยุดยั้งหรือเบาจังหวะ...ท่ามกลางอาการกระตุกเกร็งของเรือนกาย
ที่นอนระทวยอยู่บนเตียง
ร่างบางนั้นกระตุกเฮือกๆ
ไปตามแรงโถมกระแทกนั้นราวกับกวางน้อยที่ต้องกับดักนายพรานฉกรรจ์...บาดเจ็บ
จนสาหัส...
แรงที่โถมกระแทกเข้ามาอย่างไม่ปรานีปราศรัยด้วยแรงขับของตัณหาอันคุ้มคลั่ง
สร้างความปวดร้าวระบมให้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนเกินกว่าจะวิญญาณอันบอบบางจะ
ต้านรับเอาไว้ได้...และฤทธิ์ยาที่ค่อยๆ
แทรกซึมเข้ามาเกาะกินโสตประสาทของอรอุษา....ในที่สุด...สติสัมปะชัญญะของ
เด็กสาวก็ถูกกลืนหายเข้าไปภายใต้หลุมดำทมึนที่ราวกับเป็นหุบเหวอันไร้ที่
สุด....
สิ่งที่เธอรับรู้แว่บสุดท้าย....คือเสียงแผดร้องดังกระเส่าอันเต็มไปด้วย
ความปลดปล่อยอย่างสาสมใจที่ราวกับเสียงเพรียกจากอสูรนรกดึงตัวเธอให้จมดิ่ง
เข้าสู่ความมืดมนอนธการ....
อาการที่ร่างงามนั้นสิ้นไร้ปฏิกิริยาใดๆ
ตอบสนองอีก
ทำให้จิ้งจอกราคะหัวเราะออกมาอย่างสาแก่ใจกับชัยชนะบั้นปลายอันหอมหวาน
...ความหฤหรรษ์ที่รอคอยอยู่ตรงหน้าให้ตักตวงได้อย่างสบายใจ...ไร้ขีด
จำกัด...
โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือประกบปิดใบหน้าของอรอุษาอีกแล้ว
ริมฝีปากของชายโฉดก็ระดมขยี้จูบไปบนกลีบกุหลาบงามอย่างมันเมา
มือทั้งสองข้างเลื่อนเข้าตะครุบบดคลึงไปบนปทุมคู่งามที่เต่งเป็นเต้า
อูมอย่างกระหายหิว
ละเลียดความอ่อนหวานนุ่มนิ่มเข้ามาเต็มมืออย่างทะยานใจ
ปากดูดเลื่อนไล้ไปตามผิวหน้าที่เนียนนุ่มเต่งตึงไปด้วยความสมบูรณ์แห่งวัย
สาวสะพรั่งที่ยังคงจับไปด้วยคราบน้ำตา
ลากลิ้นโลมเลียซอกคอขาวผ่องหอมกรุ่น
ดูดซับรสหวานล้ำอย่างอิ่มเอม
ก่อนจะค่อยๆ
เคลื่อนหน้าเข้าไปไซร้หน้ากับร่องอกที่ขาวละมุน
เสียงหอบหายใจฟืดฟาดราวกับสัตว์ป่ากำลังสมสู่....
ศักดาสะบัดหน้าไปมาอย่างกระหายหิว
ทั้งปากทั้งจมูกและลิ้นสากนั้นลากระดมเข้าไปเสพรับความหวานหอมกรุ่นที่ปทุม
ถันตูมงามคู่นั้นอย่างเมามัน
ปลายติ่งสีชมพูระเรื่อถูกดูดดีดอย่างอร่อยลิ้น...เนิ่นนาน...ซ้ายขวา..ซ้าย
ขวา..สลับวนไปมาอย่างไม่มีรู้เบื่อ...ก่อนที่ชายหนุ่มจะอ้าปากกว้างโอบอมดูด
ตอดจนบัวตูมกระเปาะงามคู่นั้นแทบจะถูกกลืนหายเข้าไปในปากอันโฉดร้ายของ
จิ้งจอกราคะ...เสียงฮึดฮัดดังในลำคอของศักดา...เมื่อชายหนุ่มที่สะบัดศีรษะ
ไปมาอย่างเมามันรู้สึกถึงความนุ่มนิ่มระรวยรินที่ดูดเข้ามาเต็มอย่างที่
..ความหวานความหอมนั้นกรุ่นกำจายละลายไปทั่วโพรงปาก...ความอร่อยลิ้นนั้นแผ่
ซ่านความสุขหฤหรรษ์ไปยังทั่วทุกอณูแห่งความกระสัน...ขนทั่วร่างลุกชันอย่าง
เสียวสยิว...หน้าท้องเกร็งวาบ....ความเสียวกระสันพุ่งทะยานราวกับไฟที่ถูก
โหมโดยเชื้อ...
ความหอมหวาน
เนียนนุ่มที่เสพรับอย่างเต็มอิ่ม
กระตุ้นให้ความกระหายอยากของศักดาพลวยพลุ่งขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ลำเอ็นอวบที่พึ่งหลั่งน้ำกระสันต์อันสามานย์เข้าไปย่ำยีทำลายความบริสุทธิ์
ผุดผ่องภายในดินแดนสวรรค์สร้างนั้นตึงกระตุกอย่างกระหายอีกครั้งหนึ่ง.....
สองมือหนาขยับไปตะปะเนื้ออันเนียนนุ่มขาวละเอียดตรงบริเวณหลังขาอ่อน
กระตุกรั้งเพรียวขางามให้ม้วนตลบกลับพร้อมๆ
กับแอ่นเนินอันงามตานั้นให้หงายร่อนให้เห็นร่องหลืบคูหาแห่งสวรรค์ที่บัด
นั้นโลหิตที่ไหลซึมออกมานั้นถูกกลบไปด้วยน้ำเมือกขาวขุ่นข้นจนเกรอะกรัง
อย่างชัดตา
กลีบเกสรที่บอบบางบวมช้ำเพราะผ่านการถูกขยี้ทำลายอย่างรุนแรงนั้นถูกหัวถอก
บานคล้ำที่กระตุกส่ายบดคลึงเข้าไปอีกครั้ง
ปลายอันอวบใหญ่บดบี้ถูไถลำไปมา
ขบสีไซร้คลึงเข้าไปยังกลีบนุ่มนั้นสองข้างนั้นอย่างเมามันราวกับจะฉีกขาด
ความบอบบางนั้นออกเป็นชิ้นๆ...ก่อนที่ลำแข็งของจิ้งจอกโฉดจะบดทะลวงความอวบ
ยาวใหญ่ทะลุทะลวงเข้าไปในร่างกายอันอ่อนสะพรั่งของอรอุษาอย่างอเร็ดอร่อยใน
อารมณ์ของเจ้าของผู้มากไปด้วยตัณหาราคะ....
เสียงครางหนักๆ
เมื่อลูกสูบอวบของศักดาเริ่มทะลวงทำงานของมันอย่างหักโหม
ความอ่อนหยุ่นที่โพรงสวรรค์เริ่มคลายตัวโอบรัดเข้ามาแนบแน่นสร้างความสุข
หฤหรรษ์ให้กับจิ้งจอกโฉดเหลือประมาณ
ปากคำรามเสียงกระเส่าไม่หยุดปาก....อั๊ซซซ...อั๊ซซซซ...อั๊ซซซซซซ
.....เหงื่อกาฬไหลทะลักออกมาจนชุ่มโชกไปทั้งตัว...ใบหน้าแหงนเพริดนั้นเต็ม
เปี่ยมไปด้วยสุขสมอารมณ์หมาย
ร่างงามที่นอนหงายบนเตียงอย่างสลบไสลไม่ได้สตินั้นกระตุกสะเทือนไปตาม
แรงกระแทกจากหนอกควยอันหยาบกระด้างที่ปักตรงเข้าใส่เนินสวรรค์สร้างที่แอ่น
หงายเสียงดัง ปั่ก ปั่ก
ปั่ก...ต่อเนื่อง...รุนแรง....กล้ามเนื้อที่ขาวผ่องบอบบางไปทั่วส่วนสัดเต้น
ระริกไปตามแรงโถมกระเด้าอันหยาบโลนนั้น...โดยเฉพาะปทุมเต่งเต้าทั้งคู่ที่
สั่นไหว
ปลายอันงามงอนที่สั่นสะท้านนั้นยั่วเย้าสายตาของจิ้งจอกโฉดจนดวงตาเบิกพล่าน
สองมือปักลงไปขยำคลึงอย่างเมามัน
บีบเคล้นไปอย่างรุนแรงราวกับจะให้ความอ่อนนุ่มนั้นละเอียดไปคามือ...อีกทั้ง
ยังโลมปากก้มลงไปทั้งกัดทั้งดูด...มูมมาม....กระหายหิวราวกับสัตว์ป่าทึ้ง
เหยื่ออันโอชะ...
ความเสียวกระสันที่เสพรับอย่างเมามันนั้น...ทำให้หน้าท้องที่กำลังเร่งส่ง
กำลังกระเด้าอย่างหักโหมไม่มีความคิดจะหยุดยั้ง....ทั้งๆ..ที่รับทราบว่า
ความเสียวที่ไต่ระดับขึ้นไปจากโพรงสวรรค์ที่โอบรัดเข้ามาอย่างแนบแน่นกำลัง
จะเดินทางไปถึงจุดสุดยอดอีกคำรบหนึ่ง....
ด้วยนิสัยของจิ้งจอกโฉดยามที่ไม่ต้องเร่งรีบอะไรแล้วมักจะค่อยๆ
ละเลียดเสพความหอมหวานของเหยื่ออย่างช้าๆ
เพื่อไม่ให้หลั่งเร็วจนเกินไป...แต่คืนนี้ไม่ใช่....ยิ่งคิดว่าตนเองมีโอกาส
พ่นน้ำกามเข้าไปในเรือนร่างที่แสนบริสุทธิ์ของเด็กสาวตรงหน้ามากเท่าไหร่
...ยิ่งทำให้เนื้อกายของชายหนุ่มเต้นระริกอย่างหฤหรรษ์....
เสียงคราง...อ๊าซซ
อ๊าซซซ...ศักดาแหงนปากร้องพรั่งพรูอารมณ์ดิบออกมาท่ามกลางการเกร็งหน้าท้อง
ส่งกำลังโหมกระแทกลำอวบบดขยี้โพรงอันอ่อนนุ่มเสียดสีไปกับผนังที่โอบเข้ามา
อย่างอบอุ่นนั้น...สองมือเคล้นขยำไปตรงหว่างเอวคอดกิ่วของอรอุษา
ปักกรงเล็บมารเจิกลึกเข้าในผิวเนื้อที่อ่อนบางอย่างรุนแรงจนเนื้อของเด็กสาว
บุ๋มเป็นรอยนิ้วทั้งสิบพร้อมๆ
กับกระตุกร่างอ่อนปวกเปียกของเธอให้สอดรับกับจังหวะอัดกระเด้าของตนเอง
เสียง ปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก
ดังถี่ยิบ.....ต่อเนื่อง....
อั๊ซซซซ...อั๊ซซซซซ...อั๊ซซซซซซ
เสียงร้องของศักดาแหบโหย
เมื่อความเสียวที่พลุ่งพล่านไต่ระดับขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด.....
ก่อนที่จิ้งจอกโฉดจะร้องลั่นห้อง
ตัวกระตุกสั่นสะท้าน
โน้มตัวลงไปทาบร่างของอรอุษาที่นอนหงายอยู่บนเตียงสองมืออ้อมไปด้านหลัง
โอบรัดร่างบอบบางของเธอเข้ามากอดเอาไว้จนแนบแน่น
แผงหน้าอกเบียดกระชับไปกับก้อนหยุ่นงามเต่งตึงทั้งคู่นั้นอย่างพล่านอารมณ์
พร้อมๆ กับกระตุกสะโพกส่งกำลังกระแทก
ปั่ก ปั่ก ปั่ก
เข้าไปอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้วยอาการแห่งความหยาบช้ากระด้างดิบนั้น...น้ำเมือกอันคาวข้นพุ่งพรวดผ่าน
ปลายบานที่แผ่ขยายออกจนเต็มตัว....ตรงเข้าราดรดร่องสวรรค์นั้นอย่างสะใจสา
แก่ใจ....อั๊ซซซ...อั๊ซซซซ...อ๊าซซซซซซซ....
จิ้งจอกราคะหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย
ร่างมันปลาบไปด้วยเหงื่อ...ความเหนื่อที่ยังไม่โรยตัวไปเลยแม้แต่น้อย
ทว่าความอยากกระหายนั้นพล่านอยู่ในอารมณ์ไม่มีการลดลงระดับลงเลย
ร่างกำยำถอนตัวออกมาจากร่างงามที่นอนระทวยอยู่บนเตียง
ลำเอ็นอวบหลุดพรวดอออกมาจากโพรงสวรรค์พร้อมๆ
กับน้ำกามขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาเป็นทางราดรดลงไปบนผ้าปูที่นอนเป็นดวง
....ภาพที่เห็นน้ำเมือกขาวข้นที่อาบไล้อยู่ตรงกลีบเกสรอันบอบบาง...ความงาม
ตระการตาที่ถูกย่ำยีจนยับเยิน....
ศักดาจับร่างบอบบางของอรอุษาพลิกคว่ำ
คว้าหมอนใบใหญ่มาสอดเอาไว้ตรงท้องน้อยของเธอ
และจับสะโพกผายงามละลานตาของเด็กสาวให้ตั้งขึ้น
ดวงตาเบิกโพลงจับจ้องไปกับกลีบแก้มที่ขาวผ่องราวกับหยวกกล้วยกลมเป็นลอนงาม
นั้น...ใบหน้าบิดเบี้ยว...น้ำลายไหลซึมออกมา...
เสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าดังขึ้นจากปากของศักดา
ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปฟัดเฟ้นแก้มก้นที่ขาวตึงเนียนนุ่มนั้นอย่างกระหายหิว
ปากอ้าออกกัดกินเนื้ออันละเอียดอ่อนอย่างเมามัน...ส่งเสียงร้องฮึดฮัดๆ
สองมือหยาบกระด้างก็ไม่อยู่ว่าง
เคลื่อนเข้าไปกระตุกขยำไปบนขาอ่อนขาวเรียวทั้งสองข้างของเด็กสาวพร้อมๆ
กัน
เร่งเร้าอารมณ์หื่นให้ลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ต่างอะไรกับไฟไหม้ป่าที่แผด
เผาความเป็นมนุษย์ของเขาไปจนสิ้นจนหลงเหลือแต่สันดานดิบคราบแห่งสัตว์ป่าที่
ต้องการฉีกทึ้งเหยื่อชิ้นงามให้อิ่มเอมแต่ถ่ายเดียว....
เสียงกู่ร้องของจิ้งจอกโฉดดังขึ้นในเวลาต่อเนื่องอีกประเดี๋ยวเดียวถัดจาก
นั้นไม่นาน....ลำอวบของตนเองที่แข็งตัวขึ้นอีกครั้งอัดกระแทกโถมทะลวงเข้า
ใส่ร่างของอรอุษาที่นอนคว่ำแบบระทวยอยู่ในท่านั้นอย่างเมามัน.....ร่างบอบ
บางสั่นกระตุกไปตามแรงกระแทก
แผ่นหลังที่ขาวเนียนราวกับหยกตัดกับคลื่นผมสีดำราวกับไหมที่กระจายอยู่เต็ม
หลังเป็นภาพที่ยิ่งเร้าให้ความทะยานอยากของศักดาพุ่งพล่านขึ้นเป็นหลายเท่า
ทวี....เสียงกู่ร้องของชายหนุ่มดังต่อเนื่อง....ยาวนาน....นานจนกระทั่งร่าง
ของเขากระตุกวาบๆ...เอนตัวทาบไปกับแผ่นหลังขาวนวลเนียนนั้น
สอดมือเข้าขยุ้มเคล้นสองปทุมเต่งตึงเต้านั้นบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง....ปาก
ขบกัดไปตรงช่วงไหล่ลาดงาม...เสียงครึ่ดๆๆ...ดังกระชั้นจากลำคอของชายหนุ่ม
พร้อมๆ
กับอาการที่ลำเอ็นอวบ...หัวถอกบานขยับเคลื่อนไปจังหวะอย่างรู้ใจกันส่งเชื้อ
อันชั่วช้าออกมาอีกรอบ....
ไม่มีคำว่าพอสำหรับศักดาที่ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าในยามนี้....ชายหนุ่มจับ
ร่างของอรอุษาให้พลิกหงายขึ้น...และโถมทับลงไปอย่างเมามัน....เพลิงราคะที่
ร้อนแรงพลุ่งพล่าน...ต่อเนื่อง.....ไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะสงบลงเมื่อไร....
แม้กระทั่งตัวของจิ้งจอกโฉดเอง.....
.......................
คมศรจ้องมองเสี้ยวหน้างามที่สะท้อนแสงไฟพร่าพรายตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน
...ความหอมหวานยังคงกรุ่นอยู่ในอารมณ์...แต่ในเวลานี้...น่าขัน...คนที่
เปรียบเสมือนสิงห์สวาทเจนสังเวียน
กลับไม่รู้จะเอ่ยคำอะไรออกมา
...ความเงียบเคลื่อนเข้ามาปกคลุมวิมานแห่งเพลิงไพรนี้นับตั้งแต่ความเป็นชาย
และหญิงของทั้งสองประสานเข้าสู่จุดสุดยอดเป็นหนึ่งเดียว...ลมหายใจของคมศร
ค่อยๆ
สงบเป็นลำดับ..ร่างกายอันกำยำของเขาผ่อนคลาย...ละเลียดดื่มด่ำความรู้สึกที่
เสพสมได้อย่างอิ่มเอมนั้นด้วยความรู้สึกละลานใจ...
ส่วนอรนุช...เมื่อความเร่าร้อนแห่งเพลิงสวาทที่ครอบงำระอุอกนั้นคลายลง
...ความคิด...ความรู้สึก...และตัวตนที่แท้จริงได้กลับคืนเข้ามาสู่สติสำนึก
ของเด็กสาว...นับแต่นั้น...ยังไม่สุ้มเสียงอะไรลอดออกมาจากเรียวปากงามของ
เธออีกเลย
ร่างบางนั้นขยับอย่างเงียบงัน
ค่อยๆ
เก็บชิ้นส่วนอาภรณ์ของตนที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนั้นสวมใส่กลับคืน
ส่วนชายหนุ่มก็จัดการกับตัวเองเฉกเช่นกัน
ต่างตรงที่ร่างกำยำนั้นเพียงสวมแค่กางเกงขายาวเท่านั้น
ปล่อยให้แสงสีทองจากเปลวไฟฉาบไล้ไปบนผิวกายที่แข็งแกร่งประหนึ่งกับเป็นนัก
รบนั้นอย่างน่าดู...
ชายหนุ่มจับจ้องมองความนิ่งเงียบของเด็กสาวที่เขาเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์
แบบอยู่เนิ่นนาน...ร่างบางที่หันไปนั่งกอดเข่าจับจ้องมองไปยังกองไฟนั้นมี
อะไรบางอย่างที่คล้ายกับผนังอันไร้สภาพอย่างหนึ่งที่ห่อหุ้มอยู่...พลัง
บางอย่างนั้น...ไม่น่าเชื่อ...ถึงกับทำให้เขารู้สึกเกรงและประหม่าอย่างที่
ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต
ความเงียบที่มีเพียงสรรพเสียงของป่าที่ห่อล้อมอยู่กดดันจนคมศรเองอดใจไม่ไหว
ต้องใช้มือไปเกลี่ยปอยผมที่เคลียอยู่ข้างแก้มนวลนั้นเบาๆ
พึมพำถาม
“คุณคิดอะไรอยู่...อรนุช?...”
ไม่มีเสียงตอบจากเด็กสาว
ดวงตางามราวกับนิลคู่นั้นยังจ้องไปยังกองไฟแน่วนิ่ง
คมศรผ่อนลมหายใจอย่างเบาๆ...ความรู้สึกอัดอั้นบางอย่างขับให้ตัวเขาเอ่ย
ปากถามออกไปโดยไม่รู้ตัว...
“คุณเสียใจหรือ?...”
คำถามนั้นทำให้วงหน้างามล้ำหันมามองเขา....ริมฝีปากที่เรียวสวยเผยอขึ้น
น้อยๆ....พ่อเลี้ยงปางห้วยสักกลั้นลมหายใจ....สะกดความรู้สึกที่พลุ่งพล่าน
ขณะรอคอยคำตอบ...
....ความรู้สึกเช่นนี้...เขาไม่รู้จักกับมันมานานแค่ไหนแล้วนะ....
ครั้งสุดท้าย...ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกว้าวุ่นใจเช่นนี้...เนิ่นนานเหลือ
เกิน...จนเขาคิดว่าตนเองแกร่งเกินกว่าที่ความรู้สึกนั้นจะมีอิทธิพลเหนือจิต
ใจของเขาแล้ว...
ดวงตางามล้ำคู่นั้น...สวยเฉกเช่นกับมณีงามคู่ตรงหน้านี้....ประกายตาที่หวาน
ซึ้ง...หากแต่แหลมคมราวกับธนูศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งเข้าปักลึกเข้าไปถึงวิญญาณ
แห่งสิงห์ร้ายเช่นเขาทุกครั้งที่จ้องมองมา....
“ค่ะ...ฉันเสียใจ”
เสียงเบาบางที่ดังลอดออกมานั้น
ทำให้ชายหนุ่มใจหาย....ลมหายใจติดขัดขาวช่วง...มือที่แตะเล่นปลายผมของเด็ก
สาวอยู่ถึงกับอ่อนแรงตกลงแนบกาย...ร่างนั้นหนักอึ้งราวกับเหมือนว่าถูกของ
หนักกดทับเอาไว้...
....คมศรอยากจะหัวเราะสมเพทตัวเอง...ในที่สุด...เขาก็พ่ายแพ้ให้กับเธออีกครั้ง...
อรนุชถอนหายใจ
จ้องมองคมศรอย่างเปิดเผย
กล่าวว่า
“....ฉันเสียใจ...เสียใจที่ไม่สามารถทำตัวให้ดี...ดีสมกับความรัก
และความหวังดีที่คุณพ่อ..คุณแม่...พี่อรเฝ้าอบรมสั่งสอนฉันตลอดมา
...”
ฉับพลันปรากฏรอยยิ้มจางๆ
ฉาบไล้กลีบกุหลาบบางงามนั้น
เมื่อนิ้วมือที่เรียวเสลาเคลื่อนไล้ไปตามแผงหน้าอกที่กำยำราวกับนักรบทองแดง
นั้นเบาๆ
“แต่..ฉันไม่เสียดาย...เพราะสิ่งที่มีค่าของฉัน
ถูกมอบให้กับคนที่คู่ควรรับ...เช่นคุณ...”
ดวงตาประกายเหล็กของคมศรเต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งความปลดปล่อย
สีหน้าที่แสดงออก....เหมือนักโทษประหารที่ได้รับการอภัยโทษ
ใบหน้าคร้ามคมนั้นแสดงความรู้สึกภายในออกมาอย่างชัดแจ้ง
ผสานกับเสียงที่ครางออกมานั้นสั่นพร่าสะท้านจากอารมณ์อันอ่อนไหวในส่วน
ลึก....
“อรนุช....”
มือแข็งแรงที่ดึงไปที่ข้อมือเล็กบางนั้น
ทำให้ร่างงามของอรนุชอิงแอบเข้ามายังอ้อมแขนกำยำของเขาแต่โดยดี...ลมหายใจ
ของเด็กสาวเป็นสุข...ทาบหน้าไปกับแผงอกที่อบอุ่น...
“ฉันรักคุณ...แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน...”
วงแขนของคมศรกระชับเข้าร่างบางที่อิงแอบเข้ามานั้น
จรดจมูกลงไปกับศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผาดำสลวยราวกับไหมนุ่มนั้นนิ่งนาน
“...คุณเป็นคนที่พิเศษสำหรับผม...ที่สุด...อรนุช...ที่สุดจริงๆ...”
แขนบอบบางของเด็กสาวเคลื่อนเข้ารัดร่างของชายหนุ่มเป็นการตอบสนอง
ดวงตาของสิงห์ร้ายเต็มไปด้วยความตื้นตัน...ในแววตานั้นยังเคลือบฉาบไปด้วย
ความรู้สึกผิด....ลึกๆ...ในใจ...เขาใช้เธอเป็นเครื่องมือ...ตอบสนองต่อความ
เย็นชาของเธอคนนั้น....
คมศรกระซิบเสียงแผ่ว
แต่มั่นคงจริงจังจนอรนุชรู้สึกได้
“ผมขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์...ผมจะปกป้องคุณด้วยชีวิต...ไม่
ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...ชีวิตของผมจะต้องตายก่อนคุณ..อรนุช...จำคำของผมเอาไว้
นะ....”
เด็กสาวสูดลมหายใจยาว...กระซิบเสียงแผ่วหวานกับชายผู้เป็นเจ้าของเธอทั้งกายและใจ
“ไม่ค่ะ...ไม่มีใครต้องเป็นอะไร...เพราะฉันเชื่อค่ะ...เชื่อว่า
คุณจะต้องพาฉันกลับไปหาพี่อรกับยายษาได้อย่างปลอดภัย...ฉันเชื่อจริงๆ
...”
...........................
อรอุษารู้สึกตนเองวิ่งอยู่ท่ามกลางหมอกสีดำที่น่าสะพรึงกลัว...ดินแดนที่
เป็นป่าอันแห้งโกรกรกร้าง...มีเสียงกู่ร้องโหยหวนราวกับภูตินรกดังสะท้อน
อยู่รอบๆ....สภาพอันกดดันยิ่งโถมทับเข้ามาท่วมท้นจิตใจของเธอเมื่อยามที่เธอ
วิ่งวนหาทางออกอยู่นั้น
ชั่วขณะหนึ่งก็จะปรากฏเงาทมึนอันน่าหวาดหวั่นโกรกลอยเข้ามาจากทุกทิศทาง
เสียงแหบโหยหัวเราะดังกระเส่าอย่างชั่วร้ายระดมเข้ามาจนเธอรู้สึกใจหายหวาด
หวั่นพรั่นพรึงจนสุดประมาณ...
แต่ไม่ว่าเธอจะวิ่งไปไกลแค่ไหน...ทุ่มเทจนหมดเรี่ยวแรงเพียงไร...แต่ก็หาพ้น
ไปจากความน่าสะพรึงกลัวที่รายล้อมเข้ามาไม่...อรอุษาวิ่งจนเหนื่อยแทบขาดใจ
ก็ยังไม่สามารถสลัดเงาดำที่ราวกับภูตินรกนั้นที่ยังลอยคว้างตามติดเข้ามา
มือที่แห้งกรังราวกับซากโครงกระดูกที่เน่าผุไขว่คว้าเข้ามาหมายจะจับตัวเธอ
เอาไว้...
เด็กสาวพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเมื่อรู้สึกมือที่เน่าเหม็นตะครุบมายังบ่าของ
เธอ
แต่เธออ่อนแรงจนเกินกว่าจะดิ้นให้พ้นจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายนั้นที่
กระชากร่างของเธอเอาไว้ก่อนที่เงาดำทมึนที่เหม็นคาวหืนจนกลบนาสิกประสาทจะ
โอบรัดเข้ามา...ดวงตาของอรอุษาเบิกกว้าง....ใบหน้าอูบแสยะของเสี่ยคิ้มล
อยคว้างเข้ามาแนบชิด....
ความหวาดหวั่นสะพรึงกลัวที่กดดันอยู่ในส่วนลึกที่จดจำเหตุการณ์อันเลวร้าย
เอาไว้ก่อนที่เธอจนสิ้นสติสมประดีนั้นระเบิดออกมาเป็นเสียงที่กรีดร้องออกมา
อย่างโหยหวน.....
“น้องษา...น้องษา....”
เสียงเรียกดังแว่วๆ
ทำให้อรอุษาสะท้านเฮือก....ภาพทมึนดำของเสี่ยคิ้มหายวับไปกับตา
พร้อมๆ กับการรับรู้ว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงที่หนานุ่ม....
แว่บแรก...ใจที่หวาดผวานั้นคลายความตึงเครียดลง...เมื่อตระหนักว่าตนเองฝันไป....มันเป็นแค่ฝันร้ายอีกตื่นหนึ่งเท่านั้น...
แต่ฉับพลันร่างกายที่ปวดร้าวไปทั่ว...ความระบมที่แทรกเข้ามาแทบจะทุกส่วนสัด
นั้นแผ่ลามความจริงบางอย่างเข้ามาท่วมท้นอณูแห่งความรู้สึก
ทำให้ใจที่คลายความตระหนกไปเพียงแค่แว่บเดียวนั้นแหบโหยร่วงคว้างไร้หลักยึด
ราวกับใบไม้ที่ปลิดขั้วจากกิ่ง....
....โอว...ไม่นะ...นี่เรายังไม่ตื่นใช่ไหม...เรายังฝันอยู่ใช่ไหม....
แต่ควาเมป็นจริงนั้นถูกตอกย้ำด้วยร่างของใครคนหนึ่งที่เคลื่อนเข้ามา
...เสียงแหบของอีกฝ่าย...ที่เธอจำได้ว่าเป็นเสียงของศักดาดังขึ้นมาอย่าง
แผ่วเบา...สั่นพร่า...เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด...
“น้องษา...พี่...พี่เสียใจ....พี่ไม่สามารถปกป้องน้องษา....”
...ไม่จริง...เรายังฝันอยู่...ไม่จริง....ไม่จริงนะ...ตื่นสิ...ตื่นเดี๋ยวนี้....
อรอุษาคร่ำครวญ
หวนไห้...ร่ำร้องในใจ....แต่ภาพใบหน้าของเสี่ยคิ้ม...ความหยาบช้าที่อีก
ฝ่ายกระทำกับตัวเองนั้นล่องลอยเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ราวกับภาพหลอน
จากนรกนั้นทำให้เด็กสาวสิ้นหวัง....
แม้จะอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา...แต่อรอุษาก็โตความพอจะล่วงรู้ว่าความปวดระบมจน
แสบไปจนจับขั้วหัวใจที่บังเกิดตรงบริเวณส่วนพึงสงวนที่สุดของลูกผู้หญิงนั้น
มีสาเหตุมาจากอะไร....
น้ำตาแห่งความเสียใจ...เจ็บปวด...ร้าวระบมจนสุดชีวิต...ไหลรินออกมาอาบแก้ม...
คุณพ่อขา..คุณแม่ขา...พี่อร..พี่นุช...ษาอยากตาย....ษาเจ็บเหลือเกิน....
เด็กสาวสะอื้นจนตัวกระตุก
ร่างบอบบางที่ราวกับจะแตกหักไปได้ในทุกขณะ
เคลื่อนขดเป็นก้อนกลม
ท่ามกลางความปวดร้าวจับจิต...เสียงร้องไห้นั้นสั่นสะท้าน...แหบโหย....
ศักดาที่ซ่อนความสามานย์ทุกอย่างไว้ภายใต้สีหน้าท่าทางของชายหนุ่มผู้กำลัง
ชอกช้ำกับความรู้สึกผิด
เคลื่อนตัวเข้ามาแนบชิดร่างบางที่กำลังขดสะอื้นจนตัวโยน
วางมือไปที่หัวไหล่กลมมนนั้นเบาๆ
กระซิบเสียงอ่อนเบา
“น้องษาครับ...อยากร้องไห้ก็ร้องเถอะ...ร้องกับอกพี่นะ...พี่ศัก
คนนี้จะขอชดใช้ความผิดด้วยการขอดูแลน้องษาของพี่ไปจนตลอดชั่วชีวิต
...”
ในเวลานั้น...ความโดดเดี่ยว...อ้างว้าง...ทำให้อรอุษาเหมือนกับเรือน้อยที่
ขาดหางเสือ..ลอยเคว้งอยู่ท่ามกลางทะเลอันบ้าคลั่งไปด้วยความรู้สึกปั่นป่วน
ที่ถาโถมเข้ามาราวพายุลูกมหึมา....
เมื่อมืออุ่นๆ
ของศักดาเคลื่อนเข้าแตะหัวไหล่ของเธอ
พร้อมกับเสียงนุ่มนวลที่ดังกระซิบปลอบโยนผ่านเข้ามากระทบโสตประสาท
....ร่างบอบบางของอรอุษาจึงผวาเข้าไปซบกับร่างของชายหนุ่ม
ร่ำไห้ออกมาเสียงดังสะท้าน...ยึดถือจิ้งจอกโฉดผู้ซึ่งทำลายเธอจนยับเยินเป็น
หลักพึ่งพิงเพียงแห่งเดียวที่สามารถไขว่คว้าเอาไว้ได้ในตอนนี้จนหมดใจ...
อรอุษาร้องไห้จนตัวโยน...เด็กสาวร้องออกมาอย่างร้าวรานใจ....ร้องจนกระทั่ง
เสียงสะอื้นไห้นั้นเปลี่ยนเป็นเสียงแหบโหย
และน้ำตาที่ไหลรินหลั่งนั้นท่วมท้นออกมาจนไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีก...
....ดวงตาคู่งามแห้งผาก...ฉายแววแห่งความเจ็บช้ำน้ำใจจนสุดชีวิต....
ตลอดเวลาศักดาโอบประคองร่างบางงามของอรอุษาเอาไว้
ปล่อยให้เด็กสาวร้องไห้ไปโดยไม่ขัดขวางอะไร
สิ่งที่ทำมีเพียงการกอดประโลมอย่างอ่อนโยนเท่านั้น...จิ้งจอกสวาทมากตัณหา
รู้ดีว่าในอารมณ์ที่กำลังท่วมท้นไปด้วยความเสียใจของเด็กสาวนั้นมีแต่ต้อง
ปล่อยให้ระบายออกไปเท่านั้น...
จนในที่สุด...เมื่อจิ้งจอกโฉดสังเกตเห็นอาการสั่นสะท้านร่างงามเริ่มสงบลง
ก็กระซิบเสียงแผ่ว
“...น้องษาคนดีของพี่...”
เสียงอ่อนหวานที่แทรกเข้ามาในโสตประสาททำให้น้ำตาที่ไหลรินจนแห้งผากนั้น
กลับหล่อรื้นคลอเบ้าตาคู่งามนั้นออกมาอีกครั้ง
ก่อนจะหยดหยาดลงต้องแก้มใสราวกับประกายเพชร
“พี่ศัก...ษา..ษา...ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว...ษาอยากตาย...ษา..ษา..”
“ไม่ครับ...น้องษา...อย่าพูดอย่างนั้นนะครับ...”
จิ้งจอกโฉดเชยคางมนที่ซบกับอกตนเองให้เงยขึ้น
และจ้องไปยังดวงตากลมโตที่กำลังหลั่นรินน้ำตาออกมาแน่วนิ่ง
กล่าวเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล...ด้วยทีท่าแห่งผู้ปรารถนาดี...และห่วงใยอย่าง
สุดซึ้ง...ไม่หลงเหลือคราบของสัตว์ป่าที่แทบจะฉีกกระชากเรือนร่างอันบอบบาง
ของอรอุษาออกเป็นชิ้นๆ
เมื่อก่อนหน้านี้แม้แต่นิดเดียว...
“น้องษาเจ็บ..พี่ศักคนนี้เจ็บยิ่งกว่า...”
เสียงนุ่มนวลนั้นกระซิบหวานต่อเนื่องอย่างเจนจัด
“เรื่องที่ผ่านมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...น้องษาก็ปล่อยให้มันผ่าน
ไปเถอะนะ...และที่สำคัญที่สุด....ขอให้น้องษารับรู้เอาไว้ว่า...น้องษาไม่
ได้สูญเสียอะไรไปเลย....”
ใบหน้าหล่อเหลาของจิ้งจอกราคะเคลื่อนลงไปใกล้วงหน้างามล้ำนั้นกระซิบเสียงแผ่ว...
“...ตรงกันข้าม...น้องษาได้หัวใจ...ร่างกาย...ชีวิตและวิญญาณของ
พี่ศักคนนี้เอาไว้ในครอบครองไปตลอดกาล...รู้ไหมคนดีของพี่ศัก...”
อรอุษามีใบหน้าตื่นตะลึงไปกับคำพูดของอีกฝ่าย
ริมฝีปากบางงามสั่นระริกเมื่อว่า
“ษา..ษาไม่คู่ควร...ร่างกายของษามัน...สกปรก...ไร้ค่าใดๆ..อีกต่อไปแล้ว....”
ศักดาส่ายหน้า
ตวัดแขนรัดร่างบอบบางให้เข้ามาแนบชิด
สูดกลิ่นกายอันหอมสะพรั่งนั้นจนเต็มปอดอย่างสมใจ
ปากเคลื่อนลงไปไล้ที่ติ่งหูขาวใส
พึมพำ
“ใครว่ากัน...น้องษาจะเป็นแก้วมณีอันมีค่าที่พี่จะเทินทูนรักษาเอาไว้ตราบสิ้นชีวิตของพี่นี้ต่างหาก...”
คำพูดอันอ่อนหวานนั้นชำแรกเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ของอรอุษาราวกับหยาดฝน
ที่เคลื่อนเข้าหาหัวใจอันบอบช้ำแสนแห้งผากของเด็กสาว...ความอบอุ่นที่แทรก
ขึ้นมาท่ามกลางความร้าวระทมนั้นราวกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาปลดปล่อย
ความดำมืดที่เกาะกุมจิตใจ...
คำพูดนั้นส่งผลให้ร่างงามของเด็กสาวเคลื่อนอิงแอบเข้าไปในอ้อมแขนที่รั้งตัว
ของเธอเข้าไปกอดอย่างลืมตัว...ใบหน้าเอนซบไปกับหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างโอน
อ่อนด้วยแรงขับแห่งจิตใจที่เปราะบาง...ขณะที่จิ้งจอกโฉดที่ก้มหน้าลงไป
สูดกลิ่นหอมกรุ่นจากกลุ่มผมนุ่มราวกับคลื่นไหมสีดำนั้นยิ้มมุมปากออกมาอย่าง
พึงพอใจ.......
“น้องษาวางใจนะ...เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะไม่มีใครอื่นที่
ล่วงรู้...วันพรุ่งนี้...น้องษาก็จะเป็นน้องษาคนเดิมที่บริสุทธิ์...สดใส
...มีชีวิต...มีความหวัง...มีอนาคตอันงดงามเหมือนเดิม....”
ปากของจิ้งจอกโฉดเคลื่อนไปแตะพวงแก้มอิ่มงาม
กระซิบเสียงหวาน
“มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ...น้องษาจะได้หัวใจของพี่ที่ยอมเป็นทาสที่จงรักไปตลาดกาล...”
สิ้นเสียงนั้น...ใบหน้างามล้ำของอรอุษาที่ซีดขาวปรากฏรอยระเรื่อสีแดงเจือ
ขึ้นมาโดยทันที....ท่ามกลางความเศร้าระทมที่เกาะกินใจอยู่อย่างหนาแน่นนั้น
ความอ่อนหวานจับจิตสายหนึ่งส่งกระแสขึ้นมาจนทำให้หัวใจอันบอบบางนั้นตรา
ประทับภาพของชายหนุ่มที่ประคองกอดเธออยู่ด้านข้างนี้เข้าไว้จนแนบแน่น....
“น้องษาไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะครับ...ที่นี่คือบ้านของพี่เอง
...หลับซะเถอะนะ...วางใจให้พี่ศักได้ปกป้องคุ้มครองน้องษานะ...คนดีของพี่
..”
อรอุษาที่ระลึกถึงอะไรบางอย่าง
พยายามดิ้นรนจากการกอดรัดของศักดา
พลางกล่าวเสียงแผ่วเบาสะท้านด้วยความรู้สึกที่ยังไม่ห่างหายไปจากความเศร้า
เสียใจสุดประมาณนั้น....
“แล้ว...แล้ว...ที่บ้านษาล่ะคะ...ษาต้องกลับบ้าน...”
ศักดาแอบยิ้มในหน้า
กระซิบเสียงแผ่ว
“เชื่อพี่ศักนะครับ...ถ้าน้องษากลับไปตอนนี้...สภาพร่างกายอย่าง
นี้...คงจะตอบคำถามคนทางบ้านไม่ได้แน่ๆ...เราจะต้องไม่ให้เรื่องที่เกิดขึ้น
ล่วงรู้ไปถึงคนที่สาม....คืนนี้พี่ขอให้น้องษาพักที่นี่อย่างวางใจ...วัน
พรุ่งนี้พี่จะพาน้องษาไปต่างจังหวัด...ไปให้ไกลพ้นจากทุกคน...ให้น้องษาได้
พักทั้งร่างกายและจิตใจ...จนเป็นปกติแล้วค่อยกลับ...เชื่อพี่ศักเถอะนะ
...”
อรอุษามีสีหน้าลังเลใจ
...จะให้เธอค้างอ้างแรมกับชาย...ชายที่ความจริงเป็นคนแปลกหน้าที่เธอเพิ่ง
รู้จักแค่วันเดียว...แต่ในเวลานี้...เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ไร้เดียงสารับชาย
แปลกหน้าคนนี้เข้ามายึดครองจิตใจของเธอจนหมดสิ้น....
ซึ่งในเวลานี้...คำพูดของศักดานั้นมี..อิทธิพลและน้ำหนักสูงสุดในจิตใจของ
เด็กสาวที่พลัดตกเข้าไปในเงื้อมมือของจิ้งจอกโฉดโดยสมบูรณ์...ทำให้อรอุษา
เห็นคล้อยตามไปกับชายหนุ่มโดยง่ายทันที...
อย่าว่าแต่ความเป็นจริงตรงหน้า...สภาพร่างกายปวดร้าวระบมจนแทบขยับไม่ได้
อย่างนี้เธอจะกลับไปที่บ้านและไม่ให้ใครล่วงรู้สิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นได้
อย่างไร?
“แล้ว...แล้วษา..ษาจะทำยังไงดีล่ะคะ...”
ศักดายิ้มเล็กน้อยกระชับร่างงามเข้ามาแนบอก
กระซิบเบาๆ
“ไม่ยากนี่ครับ...แค่น้องษาโทรไปบอกที่บ้านว่าขอค้างบ้านพี่ไอซ์
เพราะวันพรุ่งนี้ต้องมีนัดไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยแต่เช้าตรู่...และบอก
ทางบ้านว่าเป็นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยจัดขึ้นไปทริปต่างจังหวัดด้วย
...”
“จู่ๆ...ก็มีกิจกรรม...ป้าเอียดต้องสงสัยแน่ค่ะ...”
ใบหน้างามของอรอุษามีความกังวล
ขณะที่ศักดากล่าวเบาๆ
“เชื่อพี่ศักเถอะ...เด็กดีและเรียบร้อยอย่างน้องษาน่ะไม่มีใครไม่เชื่อแน่นอน...”
จริงดั่งที่จิ้งจอกโฉดคาดการณ์
เพราะเมื่ออรุอษาโทรไปบอกที่บ้าน
ป้าละเอียดของเธอเพียงแค่ถามไถ่อย่างเป็นห่วงเท่านั้น...หลงเชื่อสนิทว่า
สิ่งที่อรอุษาพูดเป็นความจริง
“แหม...ทำไมคุณษาทำอะไรปุ๊บป๊บๆ
กระทันหันอย่างนี้ล่ะคะ.....”
“ษา...ษาลืมบอกป้าเอียดไปน่ะค่ะ...และ...และก็ไม่ตั้งใจล่วงหน้า
ด้วย...พอดี...พอดีพี่ไอซ์เขาชวนน่ะค่ะ...ทีแรกพี่ไอซ์จะมารับแต่เช้า...แต่
ษาเกรงใจก็เลยขอไปพักด้วย...”
“แล้วคุณษาจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ล่ะคะ...ออกไปตัวเปล่าอย่างนั้น...”
ป้าเอียดร้องถามอย่างเป็นห่วงแกมอ่อนใจ
นี่ถ้าคุณษาอยู่ข้างๆ
ต้องหยิกให้เนื้อเขียวซักที...ทำอะไรไม่รู้อย่างกับเป็นเด็กๆ...
ขณะที่อรอุษาอึกๆ
อักๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ต้องให้ศักดาที่เจ้าเล่ห์ในการหลอกลวงเป็นนิสัย
คิดหาทางหนีทีไล่อย่างว่องไว
กระซิบไปที่ข้างหูของเธอ
บอกบทให้เด็กสาวพูดต่อ
“เอ่อ..ไม่...ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ...ษาหาซื้อเอาไว้พอใส่แล้วค่ะ...”
“เฮ้อ...คุณษานะคุณษา...ทำตัวอย่างกับเด็กๆ...เอาเถอะค่ะ...ระวัง
ตัวและดูแลสุขภาพให้ดีด้วยแล้วกันนะคะ...มีอะไรรีบโทรกลับมาที่บ้านนะคะ
...”
ดวงตาคู่งามหล่อรื้นน้ำตาออกมาอีกรอบ...ความรักใคร่ห่วงใยอย่างสุดใจของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่เธอรับรู้ได้ดีเสมอมา
....ป้าเอียดขา...ษา...ขอโทษนะคะที่โกหกป้าเอียด...ษาจำใจจริงๆ
ค่ะ...
“ค่ะ..แค่นี้นะคะ...ป้าเอียดไม่ต้องห่วง...”
เด็กสาวกล่าวเสียงเครือสะท้านก่อนที่จะรีบตัดสายไปเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะจับหางเสียงที่ใกล้จะร้องไห้เต็มทีของตนเองได้
อรอุษาร่ำไห้ออกมาอีก...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตที่เติบโตมาแต่ในสภาพ
แวดล้อมของความรักและความอบอุ่นนั้นมันรุนแรง...และร้ายกาจจนเกินกว่าหัวใจ
อันบอบบางนั้นจะรับเอาไว้ได้...แม้จิ้งจอกโฉดจะแสดงตัวให้อรอุษายึดเหนี่ยว
เป็นที่พึ่ง...แต่ความเจ็บปวดที่เด็กสาวรับรู้มันบาดลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ
ของเธออย่างที่ไม่มีทางลบเลือนไปได้ในระยะเวลาอันสั้น...
ศักดาที่นอนพิงพนักเตียงอยู่เคียงข้างอรอุษาดึงร่างงามของเด็กสาวให้นอนซบไปกับอกของตนเอง
กระซิบเสียงอ่อนหวาน
“นิ่งซะนะคนดีของพี่ศัก...อย่าร้องไห้ต่อไปเลย...”
อรอุษาที่ซบหน้าไปกับอกกว้างของจิ้งจอกโฉดผู้ซึ่งเธอไม่ตระหนักรู้เลยแม้แต่
น้อยว่าเป็นต้นเหตุแห่งความเจ็บช้ำร้าวระบมทั้งมวลที่บังเกิดกับเรือนกายอัน
บริสุทธิ์ของเธอ...
“ษาขอบคุณค่ะ...ถ้าไม่มีพี่ศัก...ษา..ษาจะผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างไร...”
“ไม่ต้องขอบคุณพี่...แต่ขอให้พี่ได้ขอบคุณน้องษา...ที่ไม่ถือโทษโกรธพี่คนนี้ที่ไร้ความสามารถปกป้องน้องษา...”
ศักดาส่งเสียงสั่นพร่าด้วยบทบาทที่แสดงอย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติ
สร้างความตื้นตันให้เกิดขึ้นในใจของเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ไร้เดียงสาจนจับจิต
อรอุษาน้ำตาไหลรินเป็นทาง
กระซิบเสียงแผ่วสะท้าน
“พี่ศักไม่ผิดค่ะ...ทุกอย่างที่เกิดเป็นโชคร้ายของษาเอง....”
ศักดาใช้มือลูบไปที่ผมนุ่มสลวยที่เป็นคลื่นราวกับไหมดำละเอียดนั้นอย่างเบามือ
กระซิบเสียงแผ่ว
“น้องษาหลับซะนะ...ทำใจให้สบาย...เราจะทิ้งเรื่องร้ายๆ
ทั้งหมดเอาไว้ข้างหลังและเริ่มต้นกันใหม่...”
เสียงทุ้มนุ่มนวลนั้น
เหมือนมีมนตราที่ทำให้อรอุษาเชื่อฟังอย่างว่าง่าย
ดวงตาคู่งามนั้นหลับพริ้มลง...และความเหนื่อยอ่อนเพลียทั้งร่างกายและจิตใจ
ก็ทำให้เด็กสาวหลับสนิทไปกับอ้อมแขนของศักดาในที่สุด...
รอยยิ้มของจิ้งจอกโฉดแสยะออกมาที่มุมปาก...ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ..ลงตัวอย่างไม่มีที่ติ...
...ทุกอย่างสาสมกับใจของเขาทุกประการ....
........................
อากาศยามเช้ามืดในป่าโปร่งที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์นั้นแจ่มใส
สะอาดสดชื่นเหลือประมาณนัก
ในเวลานี้...ถึงแม้ความเย็นยะเยือกนั้นจะชำแรกเข้าผ่านผิวกายอันบอบบางของ
เธออย่างร้ายกาจ
แต่อรนุชก็ยังยืนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ
งดงามตระการตา...
คมศรที่กำลังจัดการกลบกองไฟอยู่หันมามองวงหน้างามพิลาศล้ำนั้นแล้วต้องสูดลม
หายใจลึกๆ...ความรู้สึกเสน่หาพอกพูนขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเมื่อตระหนักถึงความ
เป็นเจ้าของที่ตนเองครอบครอบสิทธิ์...
ความอบอุ่นนั้นยังกรุ่นในหัวใจไม่สร่างซา....คมศรยิ้มกว้างขวางกับภาพที่
เห็น...และรอยยิ้มนั้นยิ่งขยายเพิ่มขึ้นไปเมื่อแลเห็นรอยยิ้มตอบจากวงหน้า
สะอาดใสนั้น...
ร่างกำยำเดินเข้าไปหาแล้วโอบตวัดร่างแน่งน้อยนั้นเข้ามา
ก้มหน้าลงจูบไปอย่างรวดเร็วที่ซอกคอขาวอย่างมันเขี้ยว
ขณะที่อรนุชหัวเราะคิก...เสียงใสราวกับระฆังเงิน...
เด็กสาวหัวเราะคิกคิก...บ่ายเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงจมูกเจ้าชู้ของชายผู้ซึ่งถือ
ว่าเป็นสามีของเธออย่างสมบูรณ์ตามพฤตินัยที่พยายามซอกซอนเข้ามาไซร้ตามซอกคอ
ของเธอ...ใบหน้าหวานฉาบเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสุขที่อิ่มเอิบ
ตอบสนองกับการหยอกเย้านั้นด้วยอารมณ์อันเริงรื่น...ราวกับลืมไปว่าอะไรกำลัง
รอคอยอยู่เบื้องหน้า...
“..หน้าไม่อาย...เหม็นขี้ฟันจะตายอยู่แล้วว...”
...ปากงามแย้มยิ้มว่าเสียงใส
ขณะที่ย่นจมูกให้อย่างสุดน่ารัก..
คมศรยิ้มกริ่ม
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วทำจมูกฟุดฟิด
“อื่อม์
ของคุณก็ใช่เล่นนะ...”
ใบหน้างามของอรนุชแดงก่ำขึ้นมาทันทีทันควัน
เด็กสาวร้องลั่น...อุทานออกมาคำหนึ่งอย่างสุดอาย
ยกมือเล็กๆ
ของตนเหวี่ยงทุบไปที่หน้าอกแข็งแรงนั้นดังบึ้กใหญ่
พยายามดิ้นสะบัดตัวออกมาจากอ้อมแขนของพ่อเลี้ยงปางห้วยสัก
แต่ชายหนุ่มไม่ยอมกลับรัดร่างเล็กบางนั้นไว้แน่นยิ่งขึ้น
กระซิบที่ข้างหู
“ผมล้อเล่นน่ะ...ลมหายใจของคุณน่ะหอมจะตาย...หอมจนผมเคลิ้ม...ไหนพูดอีกซิ...”
อรนุชครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง
อ้าปากน้อยๆ
ขบเขี้ยวงับไปที่ต้นแขนหนาที่รัดเธออยู่อย่างหมั่นไส้
คมศรร้องโอ้ก...ความจริงไม่ได้เจ็บอะไรเลย...แต่ก็คลายวงแขนออกให้แต่โดยดี
ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...
ด้วยสัญชาตญาณแห่งความเป็นหญิงแท้ที่แม้ว่าจะซุกซ่อนอยู่ภายในท่าทางอันแก่น
แก้วนั้น
พอเป็นอิสระเด็กสาวรีบผละตัวหนีไปหากระติกน้ำไม้ไผ่ที่คมศรหามาสำรองเอาไว้
และรินน้ำส่วนหนึ่งที่เย็นเยียบขึ้นลูบหน้า
และบ้วนปากอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางสายตาประกายเหล็กที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความรื่นรมย์เอ็นดู...
ก่อนที่ชายหนุ่มจะตามเข้ามาล้างหน้าล้างปากด้วยวิธีเดียวกันบ้าง
จากนั้นคมศรก็หันไปสำรวจกองไฟอีกครั้งว่าดับสนิทจริงๆ
ก่อนจะหันไปชักชวนเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ
ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
“คุณพร้อมหรือยัง?..เราต้องไปต่อแล้วล่ะ...คงยังต้องเดินกันอีกไกล”
“ค่ะ...ฉันพร้อมแล้ว”
อรนุชกล่าวด้วยใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
สร้างความปลาบปลื้มให้เกิดขึ้นในใจของคนตัวใหญ่กว่าจนรู้สึกตัวเบาหวิว....
เมื่อคมศรยื่นมือไปหา
อรนุชก็ส่งมือเล็กบางของเธอไปให้อุ้งมือใหญ่กุม...ด้วยประกายตาสดใสที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ....
พ่อเลี้ยงปางห้วยสักสูดลมหายใจลึกๆ...รู้สึกตัวเบา...โล่งโปร่งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มานานนักหนา...
ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรรอคอยอยู่เบื้องหน้า...และเขาจะพาอรนุชกลับไปอย่างปลอดภัยหรือไม่
แต่คมศรรู้สึกกับตัวเอง...แน่แก่ใจ...เช้านี้เป็นเช้าที่ดีที่สุดในชีวิตรอบหลายปีของเขาโดยแท้จริง....
..............................
ทันทีที่เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่นั้นหยุดการเคลื่อนไหวลงจากการแล่นเอื่อยๆ
ผ่านแทกซี่เวย์ไปแตะกับทางเข้าที่เปิดงวงรอคอยอยู่
สิ่งแรกที่อรชาทำก็คือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิด....
ทันทีที่เห็นสายเรียกเข้าขณะที่เธอปิดเครื่องอยู่
คิ้วเรียวงามของหญิงสาวก็ขมวดนิดหนึ่ง
...คุณเทพโทรมา....
แต่เนื่องเพราะชายหนุ่มเคยโทรมาหาหลายครั้งทำให้หญิงสาวมิได้คิดเป็นอื่น
อย่างไร
ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการเป็นที่สุดก็คือการได้ยินเสียงของน้องสาวอันเป็นที่
รักทั้งสองคน...
อรชาโทรศัพท์ไปที่บ้าน...เสียงกริ่งที่ดังขึ้นไม่กี่ครั้งหญิงสาวก็ได้ยินเสียงแม่บ้านผู้เลี้ยงดูเธอตั้งแต่เล็กเป็นคนรับสาย
“ป้าเอียดหรือคะ...นี่อรค่ะ...ขอพูดกับยายนุชกับยายษาหน่อยค่ะ..”
หญิงสาวกรอกเสียงลงไป...ปลายเสียงนั้นสั่นสะท้านไปด้วยความรู้สึกที่กดดันจนตึงเครียด....มือขาวบางที่กุมโทรศัพท์นั้นสั่นระริก...
แม่บ้านที่จับสุ้มเสียงร้อนรนของเจ้านายสาวที่เธอเลี้ยงมาแต่แบเบาะได้
ไม่ทันจะคิดว่าอีกฝ่ายนั้นโทรศัพท์มาจากเมืองไทยเอง
รีบตอบไปว่า
“คุณนุชกับคุณษาไม่อยู่ค่ะ...พวกเธอไปต่างจังหวัดทั้งคู่...คุณ
นุชไปกับกองประกวด
ส่วนคุณษาไปทำกิจกรรมกับมหาวิทยาลัยที่เธอไปสอนพิเศษค่ะ..”
ใบหน้างามของอรชามีทั้งร่องรอยของความผิดหวัง
และความโล่งใจระคนกันไป...ผิดหวังที่ไม่คุยกับน้องสาว...แต่ก็โล่งใจที่ไม่
ได้ข่าวร้ายที่ตัวเองหวั่นเกรง....
หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาว...ก่อนจะสงบจิตใจกล่าวเรียบๆ
“ขอบคุณค่ะป้าเอียดแค่นี้นะคะ...อ้อ...ลืมบอกไป...อรมาถึงกรุงเทพแล้วนะคะ...นี่โทรมาจากในเครื่องบิน...”
“อุ๊ยตาย...ทำไมมาเงียบๆ
ล่ะคะ
ทูนหัวของป้า...เดี๋ยวจะรีบให้นายมากไปรับเลยนะคะ”
เสียงป้าละเอียดร้องอุทานโวยวายมา
อรชากล่าวด้วยน้ำเสียงที่สบายใจขึ้นกว่าเดิมจนลิบลับ
“ไม่เป็นไรค่ะ...อรจะเรียกรถเช่าของสนามบินไปส่งจะสะดวกกว่า...แค่นี้นะคะ”
“ค่ะๆ...ป้าจะเตรียมอาหารเช้าไว้คอยนะคะ...”
เสียงของแม่บ้านผู้สูงวัยละล่ำละลักรับคำ...จนหญิงสาวอดต้องยิ้มขันกับตัวเองไม่ได้...
อรชาเคาะมือถือสีแดงเพรียวบางที่สวยสดนั้นกับปลายคางตัวเองอย่างใช้ความคิด
...จะโทรกลับหาคุณเทพดีไหม...ฮื้อ...ไม่เป็นไร...คุยกับยายนุชกับยายษาก่อนดีกว่า...
คิดได้ดั่งนั้นนิ้วเรียวงามก็สะกิดไปที่หน้าปัด
รายนามที่แสดงขึ้นมานั้น...อย่างไม่ทันได้คิดอะไรมาก
ปลายเล็บมนที่เจียนไว้อย่างสะอาดก็จิ้มไปยังเบอร์ของน้องสาวคนรอง....
เสียงสัญญาณที่ดังขึ้น...เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น...เสียงรับก็ดังขึ้น
...พร้อมๆ
กับ...น้ำเสียงที่ร้อนรนอย่างปิดบังไม่มิดที่กรอกผ่านเข้ามาจากอีกด้าน
หนึ่ง.....
“อรหรือครับ...นี่ผมเองนะ...”
คิ้วเรียวของอรชาขมวดขึง...หัวใจที่เริ่มสงบเพียงแค่ไม่นานก่อนหน้านี้....พลันกระตุกวูบ....
คุณเทพ...ทำไม...
“อรครับ..ทำใจดีๆ
นะครับ...ผมมีเรื่องจะบอก....”
ข่าวที่ปานเทพเล่าอย่างฉุกละหุก
แม้จะสั้น...แต่ใจความที่ชัดเจนนั้นแหลมคมราวกับใบหอกที่ปักตรึงเข้ากลางใจของหญิงสาว...
อรชานั่งตะลึง....มือเรียวงามอ่อนระทวยปวกเปียกจนมือถือเครื่องนั้นตกลงไป
กระแทกพื้นเสียงดังลั่น...สะกิดความสนใจของผู้โดยสารในบริเวณนั้นจนหันมามอง
ดูเป็นตาเดียว
หญิงสาวแอร์โฮสเตสที่อยู่ในที่นั่งตอนหน้าได้ยินเสียงก็หันมาเช่นเดียวกัน
เห็นดังนั้นก็รีบปราดเข้ามาหยิบมือถือที่ตกบนพื้นยื่นส่งให้
แล้วถามอย่างเป็นห่วงด้วยใบหน้าตกตื่นใจ
“คุณอรชา....เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?...”
ใบหน้าของอรชาซีดเผือด....ดวงตาแห้งผาก...อาการที่รับมือถือคืนไปนั้นซึมเซาเหมือนคนไร้จิตวิญญาณ...
แอร์สาวส่งเสียงถามย้ำไปอีกหลายครั้ง
แต่อรชาก็ยังคงตะลึงงันอยู่เช่นนั้นราวกับถูกสาป...จนกระทั่งแอร์โฮสเตสที่
รู้จักหน้าและความเป็นมาของแขกผู้โดยสารอันทรงเกียรติผู้นี้เป็นอย่างดี
ตัดสินใจเอื้อมมือมาเขย่าที่ต้นแขนบอบบางของอรชาเบาๆ
อย่างสุดเกรงใจ...
“คุณอรชาคะ...คุณอรชา...คุณไม่สบายไปหรือเปล่าคะ...”
แรงเขย่าที่ต้นแขนแม้ไม่แรง
แต่ก็เรียกสติของอรชาคืนมาอย่างฉับพลัน...หญิงสาวผู้ซึ่งเรียนรู้ที่จะซุกงำ
ความรู้สึกของตนเองเสมอมา
ระงับสีหน้าลงจนราบเรียบ
ก่อนจะกล่าวเสียงเบาบาง....ทว่าปลายเสียงไม่วายสั่นนิดๆ...
“ไม่เป็นไรค่ะ...แค่หน้ามืดไปหน่อย...”
“ต้องการยาดมไหมคะ...ดิฉันจะจัดให้...”
“ไม่..ไม่เป็นไร...ดิฉันนั่งสักพักก็คงหาย....ไม่เป็นค่ะ...ขอบคุณมาก”
อรชากล่าวแล้วทรุดนั่งลงกับเก้าอี้
หันหน้าไปยังนอกหน้ากลบซ่อนแววตาที่สั่นพร่า
...หวาดหวั่น....แววตาที่เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกภายในเอาไว้ได้....
...นุช....นุชของพี่......
หญิงสาวสาวร่ำร้องในใจอย่างโหยไห้....ร่างบางงามพยายามระงับอาการสั่นกระตุกที่สะเทือนมาจากภายในอย่างสุดชีวิต...
...นี่เธอมาสายไปกระนั้นหรือ...
...เธอจะต้องสูญเสียน้องสาวสุดที่รักไปเหมือนกับคราวที่เธอสูญเสียบิดาผู้บังเกิดเกล้ากระนั้นหรือ....
อรชานั่งนิ่ง...แม้ภายนอกหญิงสาวจะดูสงบ..ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...แต่ภาย
ในนั้นอารมณ์ปั่นป่วนจนแทบจะฉีกกระชากอวัยวะภายในของเธอเป็นชิ้นๆ
...ความหวาดหวั่นที่พรั่นพรึงเกาะกินใจมาตลอดการเดินทางถูกตอกย้ำด้วยข่าว
ร้ายจนกระพือความรุนแรง
โหมเข้ากดดันจนลมหายใจของหญิงสาวแทบขาดห้วงไป
ณ ที่นั้น...
อรชานั่งอยู่ในตำแหน่งนั้นจนกระทั่งผู้โดยสารคนสุดท้ายเดินลงจากเครื่องไป
นานแล้ว...สักพักหนึ่งแอรโฮสเตสคนเดิม
เดินนำหน้ากัปตันเครื่องบินที่รู้จักกับอรชาเป็นอันดีกลับมา..
“คุณอรชาครับ...มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ...”
คำถามนั้นราวกับปลุกอรชาให้ตื่นจากภวังค์...
ดวงตาคู่งามนั้นพลันส่องประกายของธาตุแท้ของคนที่ไม่ยอมแพ้กับชะตากรรม...ดวงตาที่งามราวกับนิลเจิดจ้า...
เธอจะต้องเข้มแข็ง.....ยิ่งในเวลานี้...เธอต้องการความเข้มแข็งและสติที่
มั่นคงเพื่อหาทางช่วยน้องสาวอันเป็นที่รักของเธอให้กลับมาอย่างปลอดภัยให้จง
ได้...
อรชาหันมา
ดวงตาที่สงบระงับ
เพียงแค่สั่นไหววูบเดียวก็เอ่ยออกมาเบาๆ
“ค่ะ...ถ้าไม่เป็นการรบกวน...ดิฉันอยากขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ให้เร็วที่สุด...”
...น้ำเสียงนั้นราบเรียบ...เบาบาง..นุ่มนวลทว่าแฝงไปด้วยราศีที่สูงส่ง
...กัปตันผู้ซึ่งมีอายุสูงวัยกว่าอรชาหลายสิบปีต้องยืนค้อมตัวกุมมือรับคำ
สั่งโดยไม่ทันรู้ตัว...
“ครับ...ผมจะจัดการให้...ไฟลท์ถัดไปคงขึ้นอีกประมาณสิบนาที...ส่วนกระเป๋าเดินทางจะให้ส่งตามไปไหมครับ”
หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืน
เหยียบกายหลังตรงอย่างสง่า...
“ไม่ต้องค่ะ...ดิฉันจะให้คนมารับกระเป๋าไปเอง...ขอบคุณมากนะคะ”
ร่างบางเดินออกจากไปห้องผู้โดยสารด้วยอาการสงบระงับ...ท่าเดินที่เนิบนาบได้
จังหวะอัน...สง่างามจับตา...สายตาของหญิงสาวแอร์โฮสเตสที่มองตามไปนั้นเต็ม
ไปด้วยความชื่นชม...เลื่อมใสจนหมดหัวใจ....
อรชาที่เดินออกไปตามเส้นทางเชื่อมที่ตรงไปยังห้องพักผู้โดยสาร
ในใจครุ่นคิดถึงหนทางเท่าที่จะเป็นไปได้ในการติดต่อกับคนที่เธอรู้จัก
...ตำรวจใหญ่หลายคนที่มีความสัมพันธ์กับเธออย่างดี...ให้ช่วยตามหาน้อง
สาว...
ฉับพลัน....ในใจของเธอหวนนึกถึงน้องสาวคนเล็กขึ้นมา....
ข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกระทันหัน
ทำให้อรชาปักใจสนิทว่าลางสังหรณ์ของเธอนั้นเกิดขึ้นมาจากเรื่องของน้องสาวคน
รอง...มิได้คาดคิดไปเลยว่า...เหตุการณ์อันโหดร้ายอะไรได้บังเกิดขึ้นกับอร
อุษา..น้องสาวคนเล็กผู้อ่อนแอเปราะบางของเธอ...
ในใจอรชาครุ่นคิด...เธอควรจะโทรไปหาน้องสาวคนเล็กหรือเปล่า...มือขาวบางกำแน่นไปที่โทรศัพท์มือถือ...ชั่งใจคิดอยู่อึดใจหนึ่ง...
คำตอบที่ผุดขึ้นในใจ
ทำให้อรชาเก็บมือถือกลับเข้ากระเป๋าถือ
ก้าวเดินตรงไปยังห้องต่อเนื่องไปยังบริเวณห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อต่อเข้า
สู่ไฟลท์บินไปเชียงใหม...ณ...ที่นั้นมีพนักงามต้อนรับยืนรอคอยอยู่แล้วพร้อม
กับตั๋วเครื่องบินที่ถูกออกให้เป็นการเร่งด่วน...
อรชาผงกศีรษะรับตั๋วมา
ยิ้มบางๆ
กล่าวขอบคุณพนักงานที่นำตั๋วมาให้นั้นอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล...สีหน้าของหญิง
สาวสงบระงับราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในจิตใจของเธอ....
อรชาเดินตรงเข้าไปยังเส้นทางที่เปิดคอยสู่นกยักษ์ที่กำลังเตรียมบินขึ้นสู่ท้องฟ้าจุดหมายปลายทางคือจังหวัดเชียงใหม่...
..ถ้า...โทรศัพท์เบอร์แรกที่อรชาเลือกกดคือเบอร์ของอรอุษา...
หรือ...ถ้า..หญิงสาวจะไม่ตกลงใจกับตัวเองว่าไม่ต้องการให้เรื่องของอรนุชนั้นทำให้น้องสาวคนเล็กไม่สบายใจ...
....ถ้าเสียงสัญญาณมือถือนั้น....ดังขึ้นในรถคันงามที่กำลังมุ่งออก
จากกรุงเทพตรงไปยังเส้นทางนอกเมืองด้วยความเร็วสูงของชายหนุ่มผู้เป็นคน
ขับ....
....ถ้าอรอุษาที่กำลังว้าเหว่...สับสนใจ...ไร้ที่พึ่งพิงหลักยึด...จะได้คุยกับพี่สาวคนโตที่เธอทั้งรักและเทินทูนเหนือสิ่งอื่นใด....
เรื่องราวที่จะตามมาอีกมากมายนั้นก็คงจะพลิกแปรเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง.....
ชีวิตของตัวละครอีกหลายๆ
คนที่กำลังโลดแล่นไปในบทบาทของตนเองก็คงจะแปรเปลี่ยนกลับกลาย....
เป็นโชคชะตา...หรือพรหมลิขิต...ที่ทำให้อรชาตัดสินใจเช่นนั้น...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น