ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ ตอน 12

 

ปาน เทพนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา ในเวลานั้นชายหนุ่มหมุนเก้าอี้หันออกไปยังทิศทางด้านหลังซึ่งเป็นผนังกระจก สีตัดแสงบานใหญ่ จากระดับซึ่งชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่บนอาคารสูงเสียดฟ้ากว่าสี่สิบชั้นนั้น สามารถมองออกไปได้รอบทิศทาง สายตาของเขาที่มองเหม่อๆ ไปยังภาพของตึกสูงที่ผุดขึ้นมาเป็นหย่อมๆ ทั่วพื้นที่โดยรอบบริเวณนั้นมีแววครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง


ขณะที่ปานเทพกำลังใคร่ครวญเกี่ยวกับโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งวางหูไปไม่นานก่อน หน้านี้ ในเวลานั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นและเมื่อเขาหันกลับไป น้องชายของเขาก็เปิดประตูเยี่ยมหน้าเข้ามา


ผมจะออกเดินทางแล้วนะครับ”


ปานเทพเลิกคิ้ว อ้าว...นึกว่าทนคิดถึงยายนุชไม่ไหวเผ่นไปตั้งแต่เช้าเสียอีก...ชายหนุ่มผู้พี่ยิ้มเล็กน้อย


...พี่นึกว่าแกไปตั้งนานแล้วเสียอีก...แล้วจะกลับเมื่อไรล่ะ”


น้องชายของเขายิ้มสดชื่น


พอดีมีเอกสารให้เคลียร์นิดหน่อยครับ...อีกอย่างตอนนี้น้องนุชคงวุ่นๆ อยู่กับกิจกรรมกองประกวด ตามที่ผมเช็คเวลามา...กว่าจะถึงโรงแรมก็คงค่ำๆ...ผมกะจะไปสบทบที่นั่นเลย... ส่วนขากลับ...คงจะมะรืนนี้ล่ะครับ...ตั้งใจจะพยายามชวนน้องนุชให้กลับ กรุงเทพด้วยกันกับผม”


เออ...ขอให้สำเร็จเถอะ...จะเอาใจช่วยนะ”


แม้ว่าต่อหน้าเขาต้องให้กำลังใจน้องชายเต็มที่ แต่พอลับร่างของธนาไปแล้ว ปานเทพก็อดคิดในใจไม่ได้


...ไอ้ธนาเอ๊ย...ดูตายัยนุชไม่ออกเลยสิวะ...น่าจะเบนเข็มไปจีบยายษาให้รู้ แล้วรู้รอดดีกว่า...เด็กหัวอ่อนว่าง่ายอย่างยายษาน่าจะจีบติดสบายๆ...ถึงจะ ต้องรออีกนานก็เหอะกว่าจะได้คบเป็นแฟนจริงๆ...เพราะพี่สาวเขาหวงน้องคนเล็ก จะตายไป….


พอคิดถึงตอนนี้วงหน้างามล้ำของภรรยาสุดที่รักก็ลอยเข้ามาในห้วงคำนึง


...เฮ้อ...ผมคิดถึงคุณจัง...อรจ๋า...


เมื่อปานเทพนึกถึงคำสนทนาที่คันธรสโทรมาหาเขาเมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา ชายหนุ่มก็หันไปมองรูปของอรชาที่กำลังแย้มยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนหวานสดใสใน กรอบรูปใบเล็กบนโต๊ะทำงาน พลางพูดในใจ


ผมขออนุญาตไปพบคุณรสนะครับ...ที่รัก...ผมเสียใจกับคุณรสเขาจริงๆ...อรเข้าใจผมนะครับ...


........................


ในเวลานั้นมือขวาของคมศรตาเหลือก ใบหน้าเต็มไปความตื่นตระหนก เพระร่างเล็กบางที่หนีเขาปีนเข้าไปในรั้วไม้จนได้กำลังวิ่งหัวเราะเสียงใส ล้อเล่นอยู่กับอันตรายที่สามารถทำให้สาหัสจนถึงกับพิการเอาง่ายๆ เพราะหลังม้าดำปลอดสูงใหญ่พ่วงพีตัวนั้นยังสูงท่วมศีรษะของร่างเล็กๆ นั้นเสียอีก


ว้า...คุณหนู...ออกมาก่อน...มันอันตรายครับ...แว๊กกกก...ฉิบหาย...แล้วววว”


ปิงร้องลั่น ยกมือปิดตาที่กำลังเหลือกลนลานของตัวเอง เพราะเจ้าโธโรเบลด* (พันธุ์ม้าแข่งชนิดหนึ่ง) วัยฉกรรจ์อายุกำลังครบสามปี สงสัยคงกำลังหงุดหงิดเต็มที่ ที่อยู่ดีๆ ก็มีร่างเล็กๆ มายืนล้อเลียนใกล้ๆ จึงร้อง ฮี้ยยยยยยยยยยยส์ เสียงดังสนั่น โผนเข้ามาเอาขาหน้าตะกุยเข้าใส่ร่างเล็กบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างดุร้าย


คนสนิทของพ่อเลี้ยงปางหัวสักหลับตาปี๋ กลั้นใจ ขวัญบินหายไปไปจากร่าง ขนลุกชันอย่างสยองขวัญ ไม่กล้าแม้จะลืมตาขึ้นมอง แต่จากนั้นชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงหัวเราะใสแจ๋วดังแว่วมา ค่อยพ่นลมหายใจออกมาจากปากดังพรืดใหญ่ เฮ้อออออออ.....เสียงร้องดังออกมายาวเหยียด โล่งอกโล่งใจราวกับตายแล้วเกิดใหม่


พอเขาเปิดนิ้วที่ปิดตาขึ้นมองไปก็เห็นร่างเล็กนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอย ยิ้มอย่างเฉิดฉัน ดวงตากลมโตกำลังระริกพราวสวยระยับราวกับดาวบนท้องฟ้า แต่ตอนนั้นมือขวาของพ่อเลี้ยงปางห้วยสักไม่มีแก่จะเชยชมความสวยงามตระการตา นั้น วิ่งเข้าไปหา แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้นัก เพราะถ้าถูกเจ้าหมอกเตะ ถึงแม้ว่าตัวเองจะตัวใหญ่กว่าร่างเล็กนั้นมากก็คงไม่แคล้วต้องนอนหยอดน้ำ เกลือที่โรงพยาบาลเป็นเดือน ได้ยืนห่างๆ ตะโกนเสียงสั่นเครืออย่างหวาดเสียว


โธ่...คุณหนู...ไอ้ปิง...ขอล่ะ...เจ้าหมอกมันโกรธใหญ่แล้วว....อ๊ายยย... ออกมาเร็ววววว...เดี๋ยวผมหาตัวใหม่ให้ขี่ครับ...ตายๆๆ...โอ๊ย...อย่างยื่น หน้าเข้าใกล้อย่างนั้นสิคร้าบบบ...ตายแน่ๆ...ไอ้ปิง”


คิกคิก...ไม่เอา..จะขี่ตัวนี้...”


อรนุชตะโกนตอบอย่างสนุก พลางวิ่งตื๋อสลับเท้าเล็กๆ ของตัวเธอเองหลบการจู่โจมของเจ้าโธโรเบลดกลัดมันตัวนั้นอย่างคล่องแคล่ว เจ้าหมอกร้อง ฮี้ยยยยยยยส์ ดังสนั่น หงุดหงิดเหลือเกิน ถ้ามันเป็นคนอาจจะกำลังคิดว่า ทำไมเหยียบไม่โดนวะ...ไวอย่างกับปรอท


เด็กสาวร่างเล็กบางผู้ซึ่งพิสมัยการขี่ม้ามาตั้งแต่เล็ก กำลังตื่นเต้นระทึกใจกับทีท่าอันพยศของเจ้าหมอกตรงหน้าอย่างที่สุด ตกลงใจแม่นมันจะต้องขึ้นหลังเจ้านี่ให้ได้...ทั้งอยากขี่เองเพราะแรงปราถนา ส่วนตัว...ทั้งอยากเอาชนะอีตาหน้าหมีด้วย...เช๊อะ...หวงเหรอจะขี่ให้ดู... ใส่อานไว้เรียบร้อยแล้วด้วย...คิกคิก...เสร็จเรา


อรนุชผู้ซึ่งตั้งแต่อายุได้ห้าขวบเธอก็ขึ้นหลังเจ้าโพนี่* (พันธุ์ม้าแคระชนิดหนึ่ง) เป็นครั้งแรก จนเจ้าของคอกม้าซึ่งเป็นเพื่อนกับบิดาของเธอถึงกับอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง และนับจากนั้นแทบจะทุกปิดเทอมใหญ่ ที่ร่างเล็กๆ ของอรนุชจะเริงร่าอยู่บนหลังม้าสูงใหญ่ ควบตะบึงราวกับจ๊อกกี้ผู้ชำนาญการขี่ม้า และเมื่อมีม้าตื่น...เธอก็เคยกระโจนขึ้นไปคุมจนสงบมาแล้วมากครั้ง


ดังนั้นท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของปิง กับเสียงคำรามของเจ้าหมอก เสียงกุบกับๆ ที่ดังพร้อมๆ กับเนื้อดินที่แตกกระจุยกระจายยามสองเท้าที่แข็งแกร่งนั้นดีดตะกุย ร่างเล็กบางของอรนุชก็ยังวิ่งวนอยู่รอบๆ ได้อย่างสนุกสนาน ใบหน้างามตาที่หาตัวจับได้ยากยามนั้นเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ดวงตากลมโตพราวใส เสียงหัวเราะดังกังวานไพเราะราวกับสกุณาระเริงไพร


คมศรที่เหยียบคันเร่งจนแทบมิด พารถจี๊ปที่เหินเข้ามาราวกับบิน ก็ต้องตาเหลือกเมื่อเห็นภาพหวาดเสียวตรงหน้าไกลๆ ร้องออกมาอย่างหงุดหงิด


เอ้า...เอาเข้าไป...ยัยเด็กนี่...ไม่รู้เหรอว่ามันอันตรายแค่นไหน...ฮึ่ม...อย่าให้จับได้นะ...”


ความจริงอรนุชตั้งใจจะศึกษาจังหวะสะบัดตัวของเจ้าหมอกตรงหน้าให้ดีกว่านี้ อีกหน่อย เพราะจะเป็นประโยชน์กับเธอเมื่อตอนขึ้นหลังไปแล้ว แต่พอดีหางตาเหลือบไปเห็นรถจี๊ปคนหนึ่งกำลังวิ่งปุเลงๆ เข้ามา โดยมีบุรุษร่างใหญ่ไว้เคราดกซึ่งกำลังทำหน้ายักษ์เป็นคนขับเลยเปลี่ยนใจ


ในเวลานั้นเด็กสาวสะกิดเท้าเล็กๆ กระโดดผึงไปด้านข้างเฉียงๆ หลบฉากการพุ่งเข้ามาเหยียบของเจ้าหมอกอย่างคล่องแคล่ว ร่างเล็กบางที่แม้ศีรษะยังไม่สูงเสมอหลังอานดีเลย แต่มีความไวเหลือประมาณ ก็เอื้อมมือคว้ามับไปที่สายบังเหียน ดีดตัวออกจากพื้น เท้าซ้ายจิกสอดเข้าไปที่โกลนอย่างแม่นยำ และอาศัยแรงดีดบวกกับการส่งแรงจากเท้าที่จิกสอดอยู่ในโกลนม้านั้นเหวี่ยง ร่างบางของเธอขึ้นไปบนหลังเจ้าโธโรเบลดสีดำปลอดจนได้อย่างสวยงาม ตระการตา เสียงหัวเราะใสดังกังวานเจื้อยแจ้ว


ทั้งคมศรและมือขวาของเขาเห็นอย่างหน้าก็ทำตาเหลือก คนหนึ่งยืนอยู่ในคอก อีกคนกำลังขับรถพุ่งวาบเข้ามาต่างอ้าปากร้องออกมาพร้อมๆ กับราวกับนัดเอาไว้


ฉิบหาย...!!!”


เจ้าหมอกดำร้อง ฮี้ยยยยยยยยยยยยส์ ดังลั่น ดีดขาหลังสุดแรง หมายจะเหวี่ยงร่างเล็กบางที่บังอาจขึ้นมาขี่หลังมันโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ กระเด็นไป แต่อรนุชที่กำสายบังเหียนมั่น ยืดตัวตรงสองขาหนีบไปที่อานม้า สอดเท้ายึดจิกไว้กับโกลนแน่น ขณะที่ใช้กำลังขาถีบส่งกำลังให้ร่างบางนั้นล้อไปตามจังหวะดีดของเจ้าหมอก เป็นการลดทอนแรงเหวี่ยงอันรุนแรงนั้น ส่วนมือเล็กบางงามแต่เชี่ยวชาญในการบังคับม้าเหลือขนาดนั้นกระตุกสาย บังเหียนเชิดรั้งให้หัวของเจ้าโธโรเบลดดำปรอดนั้นแหงนขึ้นอย่างคล่องแคล่ว ภาพร่างเล็กบางของอรนุชกับเจ้าหมอกเด้งดีดไปพร้อมๆ กันเป็นวงกลม ผมดำงามเป็นมันวาวปลิวไสวสยายล้อไปกับแรงสะบัดช่างเป็นภาพที่สวยงามจับตา เหลือประมาณ ถ้าไม่ติดว่าคนที่กำลังมองอยู่นั้นกำลังเครียดจัดจนแทบจะเป็นบ้า


คมศรนั้นจอดรถพรวดที่ริมรั้วไม้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะวิ่งออกมาจากรถกระโดดผึงเดียวก็ข้ามรั้วสูงนั้นมายืนเคียง ข้างคนสนิทที่ทำหน้าอย่างกับร้องไห้


ผมพยายามห้ามแล้วนะครับพ่อเลี้ยง...แต่คุณหนู...”


ปิงพูดเสียงสั่นๆ ทำตัวแหยง ๆ เตรียมรอรับบาทาจากเจ้านายร่างใหญ่ แต่ทว่าตอนนั้นคมศรไม่มีแก่ใจจะมาคิดลงโทษอะไรกับคนของเขา เพราะตอนนั้นความสนใจทั้งมวลมันมุ่งไปสู่ความกังวลกับสวัสดิภาพของร่างเล็ก บางที่เตลิดอยู่บนหลังเจ้าหมอกอย่างร่าเริง ผมดำขลับพลิ้วสยายไปกับแรงลมที่โกรกเข้ามา


ชายหนุ่มอ่านความรู้สึกของม้าตัวโปรดออก...เจ้าหมอกกำลังโกรธ...ตอนนี้แม้ กระทั่งเขาเข้าไปก็คงจะหยุดมันไม่ได้ ใบหน้าคร้ามคมจึงมีวี่แววของความตระหนกตกใจจนปิดไม่มิด


เจ้าหมอกดีดหลังอย่างไรก็สลัดไม่หลุด เลยเปลี่ยนวิธีมาเป็นยกขาหน้าขึ้นสูง ร้อง ฮี้ยยยยยยสสสสส... ดังสนั่นคอก ร่างพ่วงพีของเจ้าโธโรเบลดกลัดมันนั้นเกือบจะยกขึ้นตั้งชันกับพื้นดิน พร้อมๆ กับอาการดิ้นสะบัดเต็มแรง


โอ๊ยยยยย...คุณหนู....ตายแล้ววววว”


ปิงร้องลั่นเมื่อมองเห็นภาพที่น่าหวาดเสียวนั้น ส่วนคมศรเองก็กำหมัดแน่นเหงื่อซึมออกมาจนเหนียวมือไปหมด


ร่างเล็กบางของอรนุชเหยียดตรงเท้าสองข้างจิกไปที่โกลนแน่น โผตัวขึ้นไปตรงแผงคออันกำยำของเจ้าหมอก และใช้มือทั้งสองที่ยังไม่คลายบังเหียน ตะปบกุมไปที่ขนคอที่ดำเป็นมันนั้นเอาไว้แน่นหนา ปากบางงามแย้มเยื้อนอย่างสมใจ ดวงตาพราวระริกด้วยความสนุกสนานที่ได้รับจากการต่อกรกับเจ้าโธโรเบลดจอมพยศ ตัวนี้


ม้าตัวโปรดของคมศรดิ้นอย่างไรก็สลัดไม่หลุด เลยร้องเสียงดังลั่นก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับดีดขาหลังกระเด้ง สะโพกแข็งแรงของมันเป็นแรงบวกกระแทกใส่ร่างเล็กบางที่ตกวูบลงมาตามจังหวะ ทิ้งตัวของมัน


ทั้งคมศรและมือขวาคนสนิทสะดุ้งขึ้นพร้อมๆ กันเมื่อเห็นร่างเล็กคราวนี้ถูกสลัดอย่างแรงจนร่างบางนั้นแกว่งออกจากอานม้า แต่สองขาที่เหยียดตรงของเด็กสาวนั้นยังจิกแน่นไปกับโกลนทั้งสองข้าง พร้อมทิ้งตัวแนบหลังทำมุมไปกับอานม้าจนเกือบเท่ากับร้อยแปดสิบองศา มือบางที่จับบังเหียนนั้นเกร็งข้อกระตุกจนหน้าของเจ้าหมอกสะบัดแหงนพรืดพราด ร่างที่กำลังดีดสุดๆ ต้องชะงักงัน ผ่อนเพลาแรงลงไปมากอักโข ทำให้อรนุชรั้งตัวพลิกกลับมาหนีนอานเอาไว้ได้อีกครั้งไม่ถูกเหวี่ยงหลุดออก ไป ปากงามของเด็กสาวผ่านเสียงหัวเราะใสราวกับระฆังเงิน


เสียงถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ดังมาจากสองชายที่ยืนมองอย่างเครียดจัดอยู่ข้างๆ ขณะที่ใบหน้างามของเด็กสาวยิ้มพราว ใช้สองเข่าหนีบกระทุ้งเป็นเชิงหยอกเจ้าหมอกเล่น สร้างความหงุดหงิดให้กับมันจน ฮี้ยยยยยสสสส ฮี้ยสสสสสสส วิ่งกระโดดดีดไปมาราวกับบ้าคลั่ง


ถึงตอนนี้มือขวาของคมศรต้องยกมือขึ้นปิดหน้าอีกรอบ คอย่นอย่างหวาดเสียว เบิ่งตามองลอดผ่านร่องนิ้วของตัวเองอย่างตื่นเต้นระทึกขวัญจนหัวใจแทบ กระดอนออกมาจากอก ปากร้องซี๊ดซ๊าดดดด ออกมาไม่หยุด


แต่ทว่าสายตาประกายเหล็กของพ่อเลี้ยงปางห้วยสักเริ่มมีแววของความผ่อนคลาย ...เขามองเห็นความล้าของม้าตัวโปรดแล้ว...สองขาด้านหลังที่เป็นอาวุธหลักของ มันไม่ดีดแรงเหมือนตอนแรกจึงต้องใช้อาการสะบัดตัวเข้าช่วยเหวี่ยง แต่จากสายตาของผู้ชำนาญการบังคับม้าคนหนึ่ง...เขาคาดการณ์ได้...เจ้าหมอกน่า จะแพ้


ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่คมศรคิด...เพราะในตอนนั้นไม่ว่าร่างกำยำพ่วงพีที่ หงุดหงิดเต็มที่ ดีดเด้งอย่างไรก็ไม่สามารถสลัดร่างเล็กที่อยู่บนหลังมันออกมาได้ สายตาอันเต็มไปด้วยความกังวลของคนสนิทพ่อเลี้ยงปางห้วยสักก็เริ่มแปรเปลี่ยน ไปเป็นพิศวง และค่อยๆ ปรากฏร่องรอยของความชื่นชมขึ้นมาอย่างปิดไม่มิด ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ ดีใจว่าตัวคงรอดพ้นการถูกเตะแน่ กล่าวเสียงประจบเจ้านาย


คุณหนูเก่งนะครับ...ไม่เคยมีใครเอาเจ้าหมอกอยู่หมัดเหมือนเจ้านายมาก่อนเลย”


คมศรเริ่มมีอารมณ์ดีขึ้น มองร่างเล็กที่เด้งไปเด้งมาบนหลังเจ้าหมอกที่ค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ ด้วยนัยน์ตาที่พราวไปด้วยความรู้สึกทึ่ง ยกเท้าดีลูกแปใส่คนสนิทมือขวาไม่เบาและไม่แรงนัก เสียงปิงร้องอุ๊บ...คลำก้นป้อย...คิดในใจ....แต่ก็ดีกว่าถูกเตะเยอะล่ะวะ...


ขณะที่สองชายเริ่มคลายใจลงเพราะมองเห็นแรงดีดของเจ้าหมอกเริ่มลดระดับความ เกรี้ยวกราดลงไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็น่าจะละพยศ แต่ไม่รู้เพราะเสียงหัวเราะกังวานใสของอรนุชที่ดังพร้อมกับเสียงร้อง ร้องชู่วส์ ชู่วส์ ไปกระตุ้นต่อมโมโหของมันหรือเปล่า เจ้าโธโรเบลดกลัดมันเลยฮึดขึ้นมาอีก ดีดเด้งสุดเรี่ยวแรง ร่างกำยำนั้นดิ้นสะบัดควบตะบึงลู่ไปกับรั้วไม้คราวนี้จุดมุ่งหมายของเจ้า หมอกคือการใช้ลำตัวของมันกระแทกไปกับผนังรั้วเพื่อสลัดคนร่างบางที่อยู่บน หลังของมันออกไป


ตายแล้ว...คุณหนู...”


ปิงอุทานออกมาดังลั่น ขณะที่คมศรเองก็สบถคำหยาบออกมาคำหนึ่ง ร่างสูงใหญ่วิ่งปราดออกไปยังทิศทางของเจ้าหมอกที่กำลังพุ่งเข้าหารั้วด้วย ความเร็วสูงอย่างตกใจ ในความคิดของชายหนุ่มถ้าร่างเล็กบางกระเด็นออกมา มีทางเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือพุ่งเข้าเอาตัวไปขวางเอาไว้ เพราะรู้ดีว่าเจ้าหมอกจะต้องลงโทษอรนุชโดยการใช้เท้ากระทืบร่างเล็กๆ นั้นอย่างรุนแรงแน่นอน


ในเวลานั้นอรนุชเองก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก จากอยู่ดีๆ ที่รับรู้ว่าแรงของม้าเริ่มลดลงดูท่ากำลังจะละพยศอยู่แล้วกลับมีลูกฮึดขึ้น มาอีก แถมคราวนี้เจ้าเล่ห์พอที่จะใช้รั้วไม้มาเป็นเครื่องช่วยด้วย ทำให้ใบหน้างามนั้นเม้มปากอย่างขัดใจ โผตัวเข้าไปกอดแผงคออันกำยำของเจ้าหมอกแน่น กระซิบเสียงเขียวใส่ข้างหูของเจ้าโธโรเบลดดำปรอดนั้น


ฤทธิ์มากนักนะ..เจ้าหมอก...เอาซี้...ดูซิ...ใครจะแน่กว่ากัน...”


ปากงามพูดพลาง ชักเท้าขวาออกจากโกลนด้านที่เจ้าหมอกสีไปกับรั้วอย่างว่องไว ดีดขาไขว้สลับ ร่างบางจึงห้อยแกว่งออกมาทางด้านซ้าย แต่ยังรั้งตัวอยู่ได้ไม่ร่วงหล่นลงไปเพราะจับยึดแน่นไปที่ลำคออันแข็งแรง นั้น เสียงอาชาสีดำพ่วงพีตัวโปรดของคมศรร้อง ฮี้ยยยยยยยยสสส ดังลั่น เมื่อลำตัวของมันครูดไปกับรั้วไม้ เสียงโครมครามดังตามมาสนั่นหวั่นไหว


ตาย...ตาย...ตายแน่”


เสียงปิงร้องลั่น ขณะที่เจ้านายของเขาสบถออกมาคำหนึ่งอย่างหัวเสีย ยืนชะงักงันอยู่กับที่ เบิ่งตามองดูเจ้าหมอกที่พลิกตัวกลับวิ่งวนย้อนมาอีกด้าน คราวนี้เบียดร่างกำยำของมันเข้าทางด้านซ้ายหวังจะกระแทกร่างบางที่ห้อยแกว่ง อยู่ให้กระเด็นไป


อรนุชหัวเราะเสียงใส ร้องว่า


แหว่ะ..มุขเดิม...เจ้าหมอก...ไม่ได้กินฉันหรอก”


ร่างบางนั้นพลิกวาบขึ้นไปบนหลังอาน และใช้เทคนิคเดิมคือเหวี่ยงตัวสลับข้ามมาห้อยอยู่อีกด้านทางขวาอย่างรวดเร็ว แคล่วคล่อง เสียงโครมครามดังสนั่น เมื่อสีข้างด้านซ้ายของมันกระแทกไปรั้วไม้ เจ้าหมอกร้อง ฮี้ยยยยยยสสสส หงุดหงิดเหลือประมาณที่ไม่สามารถสลัดร่างเล็กจ้อยนั้นให้หลุดไปได้ดั่งใจ


โอ้โห...สุดยอดดดดดด...”


ปิงครางออกมา ขณะที่คมศรถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ ใบหน้าคร้ามคมนั้นทั้งยิ้มทั้งบึ้ง


จากนั้นเจ้าหมอกก็วิ่งกระแทก กระโดดดีดตัวอีกพักใหญ่จนเหนื่อยใจ ในที่สุดร่างกำยำพ่วงพีก็หมดฤทธิ์ กลายมาเป็นวิ่งเหยาะย่างให้ร่างเล็กบางบนหลังนั้นควบตะบึงตามใจ เสียงหัวเราะใสแจ๋วดังกังวานไพเราะราวกับระฆังเงิน


อรนุชขี่เจ้าหมอกวิ่งผ่านหน้าเจ้าของที่ยืนกอดอกอยู่ แล้วหันหน้ามาแสยะให้พร้อมกับแลบลิ้นหลอก ส่งเสียงหัวเราะร่วนอย่างสุขใจเหลือประมาณ คมศรส่ายศีรษะพลางหัวเราะถอนฉิวตัวเอง ก่อนจะหันไปยังมือขวาคนสนิท


ปิง...แกไปเปิดรั้วได้...ให้คุณนุชเขาขี่เจ้าหมอกเล่นตรงลานดินข้างหลัง”


ปิงหัวเราะแหะๆ รับคำรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้ว ขณะที่อรนุชหัวเราะเสียงใส ควบเจ้าโธโรเบลดซึ่งตอนนี้พอละพยศก็คึกคักใหญ่พอๆ กับเจ้านายคนใหม่ตัวจ้อยที่อยู่บนหลัง โก่งคอร้อง ฮี้ยยยยยยยยยยสสส ดังสนั่น พลางตะกุยขาหน้ากระแทกพื้นดินดีดตัวพุ่งผ่านออกรั้วออกไปอย่างคะนองเท้า


ทางที่ต่อเนื่องไปจากบริเวณคอกของเจ้าหมอกนำไปสู่บริเวณลานดินที่เป็นรูปวง รีซึ่งใช้เป็นที่ออกกำลังของเจ้าหมอกรวมไปถึงม้าที่อยู่ในคอกบริเวณนั้นอยู่ เป็นประจำ ซึ่งอรนุชยิ้มอย่างเบิกบานควบเจ้าหมอกอย่างสนุกสนาน เสียงฝีเท้าม้ากุบกับกับเสียงหัวเราะของเธอดังประสานกันอย่างสดใส


คมศรยืนกอดอกดูร่างบางที่กำลังเริงร่าอยู่บนหลังม้าตัวโปรดของตัวเอง ผมยาวพลิ้วนั้นไสวล้อลมเป็นคลื่นสีดำงามจับตา ม้าที่สูงสง่าบวกกับผู้ขับที่มีความงามโดดเด่นหาตัวจับยาก ทำให้ภาพเบื้องหน้านั้นน่าตื่นตาตื่นใจเหลือประมาณ นัยน์ตาประกายเหล็กนั้นฉาบแวววูบวาบจ้องมองอยู่อึดใจใหญ่ ก่อนที่คมศรจะหันไปกำชับมือขวาให้เฝ้ากำกับดูแล ส่วนตัวเองนั้นผละไปขึ้นรถจี๊ปขับออกไปทางด้านหน้ารีสอร์ท


ขณะที่เจ้าของปางห้วยสักกำลังคลายใจ และมอบหมายให้คนสนิทเฝ้าดูแทนตัวเองนั้น ไม่ได้สังเกตเห็นว่านอกเหนือไปจากปิงแล้วในตอนนั้นยังมีสายตาที่แข็งกร้าว ของร่างผอมเกร็งสายหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ โรงม้าจับจ้องมาอยู่ด้วยในมือถือโทรศัพท์แนบหู


ครับ พ่อเลี้ยง....ไม่ต้องห่วง...ผมคิดว่าพอมีทางครับ”


ร่างฉกรรจ์ที่ผอมเกร็ง เหลือบมองไปยังมือขวาคนสนิทของคมศร...ใบหน้าตอบเกรียมครุ่นคิด


....ถ้าจะจัดการกับนังหนูนั่น....ก็ต้องจัดการไอ้ปิงก่อน


......................


งานแสดงคอนเสิร์ตเปียโนการกุศลจบลงอย่างงดงามท่ามกลางความประทับใจของผู้ฟัง โดยส่วนใหญ่ซึ่งรวมทั้งอรอุษาด้วย เด็กสาวร่วมกับผู้ชมในหอประชุมใหญ่ปรบมือเป็นเกียรติแก่นักเปียโนชื่อดังที่ บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดการแสดงในวันนี้ ในขณะที่ศักดากับฐิติพรรณที่แสนจะเบื่อหน่ายเต็มทีแล้วก็ลุกขึ้นยืนตบมือ ด้วย ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นเป็นเพราะนึกดีใจที่การแสดงจบลงเสียทีหลังจากทนนั่ง ฟังมาเกือบสองชั่วโมงเต็ม


ขณะที่ทยอยกันเดินออกมาจากหอประชุม ฐิติพรรณก็หันไปยิ้มถามอรอุษา


เป็นไงจ๊ะ...น้องษา...สนุกไหม”


เด็กสาวยิ้มน่ารัก กล่าวเสียงอ่อนหวาน


ค่ะ...เขาเล่นได้ไพเราะมาก...ษาชอบจังค่ะ...โดยเฉพาะมูนไลท์ โซนาต้าของเบโธเฟ่น...ไม่กี่คนหรอกนะคะที่จะเล่นมูฟเม้นท์ที่สามได้ดีขนาด นี้”


ศักดาได้ช่องสบโอกาส กล่าวเสริมด้วยเสียงนุ่มนวลเอาใจ


น้องษาก็เล่นเปียนโนเก่งไม่ใช่หรือครับ ได้ยินน้องไอซ์เล่าให้พี่ว่าน้องษาน่ะ...เก่งฝีมือระดับออกแสดงงานของโรงเรียนด้วย”


ใบหน้างามของอรอุษาเป็นสีชมพูระเรื่อขึ้นทันที แม้จะพอคุ้นเคยกับชายหนุ่มบ้างแล้ว แต่สายตาของอีกฝ่ายและคำชมเชยที่นุ่มนวลก็ทำให้จิตใจของเด็กสาวเต้นแรงจนไม่ กล้าสบตาด้วย ต้องก้มหน้าลงพูดอุบอิบอย่างเขินอายว่า


ไม่...เอ่อ...ไม่หรอกค่ะ...ษาพอเล่นได้บ้างเท่านั้น”


พริตตี้สาวหัวเราะคิกๆ หันไปเย้าเสียงใส


อย่าถ่อมตัวไปเลยจ้ะ...นุชเขาก็เคยเล่าให้พี่ฟังนะ...ว่าน้องษาน่ะเล่นเปีย โนเก่งม๊ากมาก....พี่ว่า...ถ้าวันนี้เป็นน้องษาขึ้นเวทีก็คงไม่ด้อยกว่าเท่า ไหร่หรอก..ว่าไหมคะ...พี่ศัก...”


ใช่ครับ...พี่ก็ว่าอย่างนั้น”


ศักดาเออออด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อรอุษาเลยยิ่งอายจัด จนกระทั่งใบหูขาวใสสวยได้รูปราวกลับกลีบดอกไม้นั้นแดงก่ำไปจรดซอกคอเรียว ระหง เด็กสาวก้มหน้ากล่าวเสียงเบาหวิว


โธ่...อย่าล้อษาเล่นสิคะ...เดี๋ยวใครได้ยิน...อายเขาแย่เลย”


พริตตี้สาวหัวเราะเสียงดัง ขณะที่จิ้งจอกสวาทใช้สายตาที่นุ่มนวลมองไปยังเด็กสาวแสนสวย อรอุษาที่เหลือบมองไปพอดีสบกับแววตาที่จัดเจนในการสร้างภาพของศักดาแล้ว เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ยิ่งใจสั่นสะท้าน รีบก้มหน้าหลบไปหลังฐิติพรรณทันที


จ้า...ไม่ล้อแล้ว...เอ้า...ไม่ต้องไปหลบอยู่หลังพี่อย่างนั้นก็ได้”


ฐิติพรรณกล่าวเสียงเคล้าหัวเราะ หันไปจูงมือเด็กสาวที่กำลังอายจนหน้าแดงเดินออกไปตามทางที่ตรงไปยังบริเวณลานจอดรถ


ษาจ๋า...นี่เพิ่งบ่ายสามโมงกว่าเอง...ไปเป็นเพื่อนพี่ช๊อปปิ้งหน่อยสิ... ช่วยพี่เลือกหน่อย...พี่อยากซื้อชุดสวยๆ สักตัว...จะเตรียมไว้สำหรับไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนจ้ะ...”


อรอุษาผงกศีรษะ ยิ้มรับอ่อนหวาน


ค่ะ..พี่ไอซ์”


จากนั้นใจของเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ก็เต้นแรง เมื่อได้ยินเพื่อนรุ่นพี่หันไปชวนชายหนุ่มที่ยืนข้างๆ เสียงใส


พี่ศักไปด้วยกันไหมคะ”


จิ้งจอกสวาทซ่อนยิ้มหื่น เอาไว้ภายใต้ใบหน้าอันนุ่มนวลสนิทสนม ทั้งๆ ที่ความจริงนั้นยิ่งมองไปยังร่างงามของอรอุษาก็ยิ่งสร้างความกระสันซ่านให้ กับเขาจะยากจะระงับ เมื่อเดินอยู่ใกล้ๆ แลเห็นทุกอย่างได้อย่างละเอียดเต็มตา ผิวพรรณที่ขาวสะอาดเป็นประกายงามสมบูรณ์เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลอันเกิดมาจาก วัยสาวอันสะพรั่งกำดัด กลิ่นกายที่หอมอ่อนๆ เหมือนกับดอกมะลิอันบริสุทธิ์นั้นรวยรินเข้ามากระทบจมูกของเขาเป็นระยะๆ รอยยิ้มอันอ่อนหวานที่ฉาบเอาไว้ด้วยความเอียงอายของสาวน้อยอ่อนวัยไร้ เดียงสา ดวงตาที่มักจะหลบต่ำ จนอวดให้เห็นขนตาอันงอนงามเป็นแพหนา พวงแก้มที่ขาวใสจนเห็นริ้วรอยของเส้นเลือดที่ส่งให้ใบหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ ตาอยู่เสมอๆ ยามที่เธอรู้สึกประหม่าอาย ริมฝีปากที่สวยราวกลับดอกไม้แดงสดเต่งตึงที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสีวิทยา ศาสตร์ใดๆ มาจับให้ระคายเคือง ประกอบเป็นวงหน้าที่มันปั่นป่วนอารมณ์ของจิ้งจอกสวาทให้พลุ่งพล่านไปด้วย ความอยากในตัณหาระคะจนแทบจะทนไม่ได้อีกต่อไป ทั้งนี้ยังไม่ต้องคำนึงไปถึงเรือนกายที่สูงโปร่งงดงามได้รูปที่ซ่อนความ สมบูรณ์แบบเอาไว้ในชุดแต่งกายที่น่ารักสดใสสมวัยนั้น


ถ้าไอซ์คิดว่าพี่ไม่ไปเกะกะการช๊อปปิ้งของสาวๆ พี่ก็ยินดี”


ไม่หรอกค่ะ...คิกคิก...ดีซะอีก...เผลอๆ...ได้เจ้ามือด้วย...”


พริตตี้สาวพูดยิ้มๆ ศักดาหัวเราะ


โธ่...พี่ยินดีและเต็มใจอยู่แล้ว...น้องไอซ์ก็รู้”


ฐิติพรรณหัวเราะร่วน หันไปจูงมืออรอุษาให้เดินไปยังรถ


รีบไปเลยดีกว่าน้องษา...เดี๋ยวเจ้ามือเปลี่ยนใจ”


อรอุษาเห็นอาการของเพื่อนรุ่นพี่อย่างนั้น รู้สึกตลกภายในใจ จึงยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะคิกเสียงใส ดวงตากลมหวานนั้นเต็มไปด้วยประกายตารื่นเริง ทำเอาจิ้งจอกสวาทที่เห็นถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างลำบาก ขนทั่วร่างลุกชันสั่นสยิวไปด้วยความกระหาย


ฐิติพรรณกับศักดาขับรถไปสมทบกันที่ศูนย์การค้าใหญ่ในบริเวณนั้น ซึ่งพริตตี้สาวที่เดินชวนอรอุษาไปยังแผนกเสื้อผ้า ก็จงใจเปิดโอกาสให้กับศักดาโดยการเข้าไปลองเสื้อร้านโน้นร้านนี้อย่างเนิ่น นาน ทิ้งให้จิ้งจอกสวาทเริ่มเก็บเกี่ยวคะแนนกับเหยื่อชิ้นงามของตัวเอง


ใบหน้าหล่อเหลาของศักดายิ้มอบอุ่น อ่านอาการที่ยังเกร็งๆ ของเด็กสาวแสนสวยตรงหน้าออก ดังนั้นวาจาที่ออกมาจากปากจึงเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ที่ชี้ชวนให้อรอุษาพูดคุยถึงครอบครัวของเด็กสาวเป็นการเบี่ยงเบนความกังวลใจ ซึ่งก็ได้ผลอย่างที่สุด เพราะเด็กสาวแสนสวยนั้นยินดีเสมอที่จะได้พูดถึงพี่สาวอันเป็นที่รักยิ่งของ ตัวเธอทั้งสองคน ใบหน้างามล้ำนั้นจึงมีรอยยิ้มอ่อนหวานน่ารัก กล่าวเสียงใสกับศักดาอย่างเพลินไปกับหัวข้อสนทนา ค่อยๆ เกิดความรู้สึกสนิทสนมกับชายหนุ่มตรงหน้า


พี่อรกับพี่นุช...ของษาน่ะ...ทั้งสวยทั้งเก่ง...ษารักและภูมิใจพี่ทั้งสองคนอย่างที่สุดเลยค่ะ”


เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเริงรื่น จิ้งจอกสวาทกระหยิ่มยิ้มในใจ ที่สามารถพาตัวเข้าไปใกล้เหยื่ออันโอชะได้ทีละน้อยๆ กล่าวเสียงนุ่มนวล


ได้ยินน้องษาพูดถึงพี่สาวแล้ว...ผมมีความเชื่อว่าเธอจะต้องมีบุคคลที่พิเศษ จริงๆ ครับ...น้องษาโชคดีเหลือเกินนะครับมีพี่สาวที่น่ารักถึงสองคน...”


อรอุษายิ้มน่ารัก ผงกศีรษะรับคำอย่างหน้าชื่นบานไม่มีปิดบัง


ค่ะ...ษาก็คิดอย่างนั้น...ษาโชคดีจริงๆ”


คมศรยิ้มละไม ใช้วาจาย้อนเข้าจู่โจมอย่างเจนจัด


แต่ผมเชื่อนะครับว่า...พี่สาวทั้งสองคนก็คงรักและภูมิใจในตัวของน้องสาวคนเล็กด้วยเช่นกันอย่างแน่นอน”


คำพูดที่ทุ้มนุ่มนั้น พุ่งแทรกวาบเข้าสู่จิตใจของเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ราวกับใบหอกอันแหลมคม ใบหน้างามซึ้งตรึงใจของอรอุษาเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูระเรื่อขึ้นมาทันที ก้มหน้าลงพูดเสียงเบาหวิว


ไม่...ไม่หรอกค่ะ...ษาเทียบกับพี่ทั้งสองคนไม่ได้เลย...”


คมศรหัวเราะนุ่มนวล จิ้งจอกสวาทที่เจนจัดในการใช้วาจา รู้ว่าควรรุกเมื่อไรค่อยถอยเมื่อไร ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องงานอดิเรกที่เด็กสาวชื่นชอบ การเรียน การตั้งใจวางแผนศึกษาต่อ พูดเหมือนเป็นเรื่องเรื่อยๆ แต่ก็สามารถคิดค้นคำอันนุ่มนวลยวนใจให้รู้สึกชื่นมื่นเข้าวกมาเป็นชื่นชมใน ความสามารถของเด็กสาวอย่างเจนจัดในด้านคารมอันถูกฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ อา...ผู้หญิงมากหน้าหลายตาในอดีต...ทั้งร้อนแรง...ทั้งกร้านโลก...หลายต่อ หลายคนก็ลุ่มหลงไปกับวาจาอันอ่อนหวานจับใจนี้มาแล้วทั้งนั้น...


ส่วนอรอุษานั้นเล่า...เด็กสาวที่อ่อนเยาว์ไร้เดียงสา...ที่ไหนเลยจะเคยเจอ ชายหนุ่มที่อบอุ่นนุ่มนวลราวกับพี่ชายผู้ใจดีมาพูดเอาใจอย่างนี้ เพราะทั้งปานเทพกับธนานั้นแทบไม่ค่อยจะยุ่งกับเธอเลย คำพูดที่เลี้ยวลดเข้ามาชมเชยเธอ แต่สามารถใช้คำที่ไม่ทำให้เด็กสาวซึ่งเป็นคนหน้าบางเขินอายจนประหม่านั้น อย่างช้าๆ ก็ทำให้วงหน้างามนั้นเบิกบาน ยิ่งรวมกับรอยยิ้มอันหล่อเหลาที่เป็นอาวุธในกระชากใจของเพศตรงข้าม ก็ทำให้อรอุษานั้นเอิบซ่านไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ใสหวานขึ้นจับหัวใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดวงตากลมโตเปล่งแววตาอันสดใสฉายขึ้นมาจนสวยระยับราวกับดวงดาวพร่างฟ้า


ทั้งหมดนั้นมันเป็นการเปลี่ยนแปลง ที่สร้างความยินดีให้กับศักดาจนแทบร่ำร้องออกมาอย่างลิงโลด ชายหนุ่มต้องพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะซุกซ่อนอารมณ์ที่กำลังกระเจิงไป ด้วยความหฤหรรษ์ไว้ภายในหน้ากากอันนุ่มนวลอ่อนโยน


ท่ามกลางท่วงท่าที่เป็นสุภาพบุรุษไม่มีการจับจ้องมายังเธอตรงๆ ให้เกิดความประหม่าใจ อรอุษาผู้อ่อนเยาว์ถึงกับบ่อยครั้งเป็นคนแอบปรายตาขลาดๆ มองไปยังเสี้ยวหน้าที่คมสันของอีกฝ่ายเอง หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรง ยิ่งทำให้เลือดที่สูบฉีดไหลเวียนขึ้นหล่อเลี้ยงจนวงหน้าหวานใสนั้นเป็นสี ชมพูระเรื่ออยู่ตลอดเวลา จิ้งจอกสวาทที่เห็นชัดเจนแต่รักษาท่าทีเอาไว้อย่างแยบยลถึงกับตัวสั่น ใคร่กระชากร่างบางนั้นเข้ามาขยี้จูบให้สาแก่ใจ


แต่แน่นอนว่าชายหนุ่มผู้เจนสังเวียนไม่ทำอะไรโง่ๆ เช่นนั้นออกไปจริงๆ อย่างแน่นอน ภายใต้เปลือกนอกแห่งความเป็นพี่ชายที่แสนดี อรอุษาก็เพลินไปกับการใช้เวลากับชายหนุ่มเบื้องข้าง ถึงแม้ว่าฐิติพรรณจะแกล้งลองชุดต่างๆ ที่ดูเหมือนเลือกแล้วยังไม่ถูกใจ เลือกแล้วเลือกอีก หายตัวเข้าไปในห้องลองเสื้อเนิ่นนาน เด็กสาวก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับการต้องยืนคุยกับศักดาเหมือนช่วงแรกๆ อีก


แต่ทว่าจากการที่หลอกล่อสร้างความสนิทสนมกับเหยื่อสวาทตรงหน้า ทำให้จิ้งจอกโฉดที่แสนเจ้าเล่ห์เพทุบายต้องกลับมาทบทวนแผนการณ์ที่ตัวเอง ครุ่นคิดมาตั้งแต่ต้นใหม่ เพราะถึงแม้เด็กสาวตรงหน้าจะอ่อนเยาว์และซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่มีทางมีความสามารถที่จะปกป้องตัวเองเลยแม้แต่น้อย ถ้าเขาจะใช้เล่ห์สวาทกับเธอ ยิ่งมีมีฐิติพรรณเปิดทางสะดวกให้ รับรองว่าเหยื่ออันสุดโอชาชิ้นนี้ไม่มีทางรอดพ้นการตกเป็นภักษาหารของเขา อย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตามปัญหามันอยู่ที่ว่าถ้าเขาจัดการเคลมสวาทเธอแล้ว การจะสานต่อไปเพื่อคว้ารางวัลสูงสุดคือตัวของพี่สาวคนโตที่แสนสวยนั้นคงจะ มืดมนไปจนเกือบมิด เพราะความรักเทิดทูนที่อรอุษามีต่อพี่สาวอย่างสุดหัวใจ ถ้าเขาคะเนไม่ผิด เด็กสาวตรงหน้านั้นรักพี่สาวมากกว่ารักตัวเองเสียอีก อรอุษาจะต้องเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุด ถ้าเข้าใช้เล่ห์สวาทกับเธอจนทำให้เปลือกนอกของความเป็นสุภาพบุรุษของเขาถูก ทำลายไป ไม่มีวันที่เด็กสาวตรงหน้าจะกลายเป็นสะพานเชื่อมให้เขาได้ใช้ประโยชน์ในการ เข้าถึงตัวพี่สาวคนสวยของเธอเป็นแน่


ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาแต่จิตใจชั่วร้ายโสมมใช้สมองครุ่นคิดอย่างเร็วจี๋


มันต้องมีทางสิน่า...ไอ้ศัก...ต้องมีทาง


สมองอันโฉดชั่วของจิ้งจอกสวาททำงานอย่างหนัก แต่เปลือกนอกนั้นไม่มีวี่แววอะไรให้เด็กสาวแสนสวยที่ไร้เดียงสาจับเค้าได้ เลยแม้แต่น้อยนิด ยังคงรักษาสภาพของพี่ชายที่อบอุ่น ยิงคำพูดอันอ่อนหวานพุ่งเข้าจู่โจมใส่จิตใจอันบริสุทธิ์บอบบางนั้นอย่างต่อ เนื่อง


เมื่อฐิติพรรณเดินออกมาจากห้องลองเสื้อปรายตามาแว่บเดียว ก็เหยียดยิ้มอย่างพอใจ


เพราะตอนนั้นเห็นใบหน้างามของอรอุษากำลังแดงระเรื่อ เพราะศักดาสามารถรุกเร้าความสนิทสนมให้ยกระดับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จนถึงกระทั่งชี้ชวนให้เด็กสาวลองทาบเสื้อแบบต่างๆ ที่ออกแบบอย่างสวยแก๋สำหรับเด็กรุ่นสาววัยใสไปบนเรือนกายอันงามได้รูปของเธอ


พริตตี้สาวเดินยิ้มกริ่มเข้าไปร่วมวง ขณะแรกอรอุษาส่ายศีรษะระรัวเร็ว รู้สึกประหม่าเกินกว่าจะยอมรับของขวัญของชายหนุ่มที่เธอกับเขาเพิ่งรู้จัก กันไม่กี่ชั่วโมงดีเลย แต่ฐิติพรรณก็กระซิบกระซาบเสียงหวาน


น่า...ษาอย่าไปปฏิเสธน้ำใจของพี่ศักเลย...เดี๋ยวเขาจะน้อยใจเอานะ”


อรอุษาปรายตามองมายังใบหน้าคมคายของจิ้งจอกสวาทที่มองมายิ้มๆ อยู่ก่อนแล้ว ก็ต้องก้มศีรษะอย่างเอียงอาย รับเสื้อนั้นเข้าไปลองแต่โดยดี โดยมีสายตาของศักดาและฐิติพรรณจับจ้องมองตามไป และเมื่อร่างบางของเด็กสาวหายเข้าไปในห้องลองเสื้อ เสียงหัวเราะใสกังวานของฐิติพรรณกับเสียงหัวเราะของจิ้งจอกโฉดก็ประสานกัน อย่างพึงใจ รอยยิ้มเหยียดขึ้นตรงริมฝีปากของทั้งคู่มีนัยยะที่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดใน ใจที่แตกต่างกันคนละขั้ว แต่นัยยะอย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือนัยยะอันชั่วร้ายที่แฝงอยู่ในน้ำเสียง หัวเราะนั้น ซึ่งหามีใครในบริเวณนั้นจะทันสังเกตุออกไม่


ท่ามกลางเสียงหัวเราะประสาน สมองอันโฉดชั่วของจิ้งจอกสวาทก็ยังทำงานไม่หยุด


มันต้องมีทางสิน่า...ต้องมีทาง


..........................


ปานเทพเดินทางมายังจุดนัดพบที่คันธรสนัดเจอเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในยามบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ คันธรสที่นั่งคอยอยู่แล้วเป็นแขกคนเดียวของร้าน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเสี่ยทองที่จัดการเรื่องสถานที่ให้บอกว่า


เชิญคุณรสสนทนากับคุณปานเทพให้สบายใจเลยนะครับ..ร้านนั้นเป็นของคนรู้จักของผมเอง...รับรองว่าจะไม่มีแขกเหรื่อคนไหนมากวนคุณรสแน่นอน”


คันธรสตั้งใจว่าจะพยายามรวบรัดธุระที่เธอรับปากกับเสี่ยทองมาให้กระชับสั้น ที่สุด จะไม่พยายามให้ความรู้สึกใดๆ มามีผลกระทบกับอารมณ์ของเธออีกเป็นอันขาด แต่วูบหนึ่งแห่งความค้างคาใจ แค้นใจในตัวของชายหนุ่มที่เธอหญิงสาวเคยคิด เคยย้ำกับตัวเองว่าลืมเขาไปได้จนสนิทใจแล้ว แต่ยามที่ต้องมานั่งประจัญหน้ากันเช่นนี้...ไม่ต่างอะไรกับสมัยที่เธอกับเขา ยังคบหากัน...ภาพเก่าๆ ที่แสนหวาน สวยงาม มันก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในความคิดของคันธรส จนทำให้หญิงสาวแสนสวยอดไม่ได้ที่จะมองใบหน้าของอดีตคนรักด้วยความรู้สึกอัด อั้นตันใจ ความรู้สึกที่ระอุอยู่ในอกทำให้เธอต้องนั่งนิ่งๆ อยู่ช่วงใหญ่ พยายามรวบรวมพละกำลังและสติอย่างมากในการบังคับไม่ให้เสียงที่กล่าวออกไป นั้นสั่นสะท้าน


คุณเทพคงทราบดีแล้วนะคะ...ว่าวันนี้รสขอพบทำไม”


ปานเทพผงกศีรษะ แม้หญิงสาวตรงนั้นจะพยายามบังคับเสียงให้ราบเรียบ แต่แววตาที่ปกปิดความรู้สึกไม่มิดของอีกฝ่ายทำความลำบากใจให้กับเขาพอสมควร ชายหนุ่มก็ได้หวังว่าการพยายามทำตัวให้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาจะเป็น การชดใช้ให้กับการกระทำในอดีต...


ครับ...คุณรสต้องการพูดกับผมเรื่องสัญญาของเครือปาร์มบีช”


หญิงสาวเชิดใบหน้าอันสวยบาดตาขึ้นเล็กน้อย กล่าวเสียงเรียบ พลางยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้กับชายหนุ่ม


ความจริงรสก็ไม่อยากจะยุ่ง...แต่เสี่ยทอง...คนรู้จักกัน...เขาขอให้รสช่วย พูด...รสก็จะพูดตรงๆ ล่ะค่ะว่าข้อเสนอที่เสี่ยทองเขายื่นมาครั้งนี้...ไม่ทราบว่าทางคุณเทพจะ ยินดีพิจารณาให้เขาหรือเปล่า”


ชายหนุ่มรับมาเปิดออกอ่านอย่างพิจารณาด้วยความถี่ถ้วน ใบหน้าหล่อเหลาของปานเทพเคร่งขรึม ขณะที่คันธรสที่นั่งอีกด้านหนึ่ง อย่างช้าๆ อดที่จะต้องเบือนหน้ากลับมามองชายที่นั่งตรงข้ามไม่ได้


ความรู้สึกหนึ่งที่พรั่งพรูขึ้นมาจนรู้สึกวาบไปทั้งทรวงอกนั้น มันมีความอ่อนหวานแบบที่หญิงสาวไม่เคยได้รับจากการที่เธอเสพสมกับเพลิงสวาท ที่ได้รับการปรนเปรออย่างเต็มอิ่มจากศักดาและเสี่ยเซี้ยง เพลิงสวาทที่เผาผลาญให้เธอร้อนรุ่มและตกอยู่ในวังวนแห่งความหลงใหลนั้นมัน เร่าร้อน เพริดแพร้ว หฤหรรษ์...แต่มันไม่มีความอ่อนหวานสวยงามที่เธอกำลังรู้สึกอย่างรุนแรงจับ จิตเหมือนในขณะนี้


ดวงตาคู่งามของคันธรสมีแววแห่งความสับสน จินตนาการ...ถ้า...ถ้า...คนตรงหน้าของเธอจะเป็นคนที่มอบความสุขให้กับเธอ เป็นคนที่พาเธอเตลิดไปกับเกมสวาทอันเย้ายวนใจ...มันคง...คง...


หญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นออกไป ยกแก้วน้ำส้มตรงหน้าขึ้นดื่ม พลางยิ้มอย่างขมขื่น...มันสายไปแล้ว...เธอเดินในเส้นทางที่มันคงหวนกลับไป ไม่ได้อีกต่อไป


ปานเทพถอนหายใจอย่างหนักอึ้ง...เมื่อเขาอ่านเอกสารในมือเสร็จ ใบหน้าของชายหนุ่มเคร่งขรึม กล่าวช้าๆ


ถึงแม้ว่าเพดานของเปอร์เซนต์การขอใช้จ่ายเงินต่อสินทรัพย์ที่เสี่ยทองยื่น มาคราวนี้...จะลดลงกว่าข้อเสนอสุดท้ายที่เขาเคยคุยกับผม...แต่มันก็ยังสูงไป อยู่ดี...แต่...แต่ว่านะครับ...กับเรื่องนี้...ถ้าผมเห็นกับคุณรสที่ช่วยพูด ให้เสี่ยทอง...ผมอาจจะพอไปปรับหาข้อมูลมาสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อนำเสนอให้ กับคณะกรรมการบริหารได้...”


ชายหนุ่มหยุดพูดลงเล็กน้อย พลางยกแก้วน้ำเย็นเฉียบที่บริกรนำมาเสริฟให้ขึ้นดื่ม ก่อนจะกล่าวต่อไป


...แต่ว่ามูลค่าหนี้ที่ต้องชำระจากเงินทุนหมุนเวียนที่ทางเครือปาร์มบีชแจก แจงให้กับเรา มีทางเดียวคือการต้องขอกู้ใหม่ซึ่งผมเองเคยทำข้อเสนอเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ในแนวทางนี้ให้กับเสี่ยทองไปแล้ว...แต่เขาไม่ยอมรับ...สิ่งที่ทางเครือปาร์ มบีชยื่นมาก็คือการขอให้พิจารณาเลื่อนขยายระยะเวลาใช้หนี้ที่ความจริงถูก เลื่อนมาแล้วหลายครั้ง และการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษนั้น...ผมบอกตามตรงว่าเป็นเรื่องยากที่คณะ กรรมการบริหารจะพิจารณารับข้อเสนอนี้...”


คันธรสรับฟังคำพูดของปานเทพ ซึ่งตัวเธอถึงแม้จะไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องการทำธุรกิจนัก แต่พอจะเข้าใจได้ว่าสภาพคล่องของเครือปาร์มบีชนั้นอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่จนยาก จะเยียวยาแล้ว...หญิงสาวถอนหายใจ...เธอก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว...


ปานเทพเก็บเอกสารใส่ซองและยื่นส่งคืนให้กับหญิงสาว


ผมเสียใจ...ถึงแม้ว่าคุณรสจะขอ...แต่มันคงจะเป็นไปไม่ได้...”


คันธรสยักไหล่ลาดงามของเธอ


ช่างเถอะค่ะ...รสก็แค่รับปากเสี่ยทองเขาจะมาช่วยพูดให้...ไม่ได้หมายความคุณเทพจะต้องมาเทคแคร์อะไรเป็นพิเศษกับคนอย่างรสนี่คะ..”


ตอนท้ายน้ำเสียงสั่นๆ มันเจือไปด้วยความรู้สึกน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจ


คุณรส..ผมเสียใจจริงๆ...ถ้ามีเรื่องอื่น...เรื่องที่อยู่ในอาณัติที่ผมตัดสินใจได้...ผมจะต้องช่วยคุณแน่นอน”


ช่างเถอะค่ะ...เพราะรสก็คงไม่ต้องการรบกวนอะไรคุณเทพให้มากไปกว่านี้แล้ว”


คันธรสพูดเสียงห้วนด้วยอารมณ์ที่เริ่มพลุ่งพล่าน ปานเทพมีสีหน้าวิงวอนขอร้อง


ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ..นะครับ...คุณรส...ผมพูดตามตรง...เรื่องของเรา ...เมื่อก่อน...ผมยอมรับว่าผมเป็นฝ่ายผิดเอง...ผมอยากชดใช้อะไรบ้างให้กับ คุณ”


หญิงสาวมีน้ำตาขังคลอออกมา...ทำไม...ทำไมคุณจะต้องมาพูดตอกย้ำให้รสแค้นใจ ...เสียใจ...ด้วย...เรื่องทั้งหมด...เรื่องทั้งหมดที่รส...ประชดคุณ... มัน...มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รสตกอยู่ในสภาพนี้...ทุกวันนี้


ปานเทพแลเห็นน้ำตาที่กลิ้งเกลือกลงมาจากดวงตาคู่งามก็ใจหาย เขาอยากทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลงเหมือนอย่างนี้....เขา...ทำผิดไปละหรือ?


ชายหนุ่มนัยน์ตาตกลงพื้น กล่าวเสียงแหบ


ผมเพียงแต่รู้สึกผิด...ผมอยากจะทำให้ดีที่สุด...เท่านั้นเองจริงๆ นะครับ”


คันธรสพยายามกลั้นสะอื้น ใช้กระดาษเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเชิดหน้างามของเธอ


เอาเป็นว่ารสรับทราบความตั้งใจดีของคุณเทพ...แค่นี้นะคะ...เราคงจบธุระกันวันนี้แล้ว”


หญิงสาวคิดว่าหน้าที่ของเธอในการรับปากเสี่ยทองคงหมดแค่นี้ แต่...อนิจจา...ทั้งปานเทพและคันธรสหารู้ไม่ว่าเครื่องดื่มธรรมดาที่ถูกนำมา ให้ทั้งสองดื่มนั้นผสมยานอนหลับที่ออกฤทธิ์หน่วงเวลาประมาณยี่สิบนาทีเอาไว้


ยานั้นเริ่มออกฤทธิ์ไปได้สักพักแล้ว แต่ทั้งสองที่กำลังเครียดอยู่กับหัวข้อเจรจาจึงไม่รู้สึกตัว แต่พอขณะที่คันธรสคิดจะลุกขึ้นเดินออกไป พลันหญิงสาวรู้สึกตัวเองเข่าอ่อนระทวยจนลุกขึ้นไม่ไหว ใบหน้างามนั้นซีดขาว ขณะที่ปานเทพเองก็เริ่มรู้สึกมึนๆ จนต้องสะบัดศีรษะแรงๆ เป็นการกระตุ้นตัวเอง


ในมุมหนึ่งที่เสี่ยทองยืนกำลังแอบเฝ้าอยู่แต่ไกลอย่างตื่นเต้น มองดูทั้งคันธรสและปานเทพกำลังพยายามต่อสู้กับอาการมึนงงที่เกิดขึ้น แต่อย่างช้าๆ ในที่สุดทั้งสองคนฟุบลงไปกับโต๊ะสิ้นสติสัมปะชัญญะกันไปด้วยกันทั้งคู่


เสี่ยอ้วนหัวเราะพุงกระเพื่อม ดวงตาร่านระริกที่เต็มไปด้วยแววตาอันชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ มองไปยังใบหน้างามบาดตาของคันธรสที่ฟุบอยู่กับโต๊ะอย่างหื่นกระหาย


.................................


ขณะที่มือขวาของพ่อเลี้ยงปางห้วยสักกำลังยืนกอดอกเฝ้ามองร่างเล็กบางที่ควบ เจ้าหมอกสีดำปลอดวิ่งตะกุยไปรอบๆ ลานดินอยู่อย่างเพลิดเพลินนั้น เสียงแหบๆ ก็ดังขึ้นมาทางด้านหลัง


นายปิง...มาทางนี้หน่อยสิครับ”


ปิงหันกลับไปก็มองเห็นชายฉกรรจ์ผอมเกร็งยืนอยู่ด้านหลัง ก็ขมวดคิ้วถามว่า


มีอะไรหรือ คำ”


ดูเหมือนนังแสงดาวมันจะมีแผลตรงข้อเข่าครับ ไม่รู้มันสะบัดไปกระแทกผนังคอกหรือเปล่า ผมอยากรบกวนนายปิงไปดูหน่อยครับ”


ชายฉกรรจ์หน้าซูบกล่าวด้วยสีหน้าตกใจ ส่วนปิงก็รู้สึกละล้าละลังเพราะ “แสงดาว” เป็นม้าเพศเมียแม่พันธุ์ตัวสำคัญของคอกที่ทางคมศรเลี้ยงเอาไว้ หลังจากหันรีหันขวางมองไปยังอรนุชที่กำลังขี่ม้าอยู่อย่างเพลิดเพลินอยู่อึด ใจหนึ่ง ก็ตกลงใจ


คุณหนูขี่เจ้าหมอกเล่นตรงนี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง ไปดูนังแสงดาวให้รู้เรื่องก่อนดีกว่า...


คิดได้ดังนั้นปิงจึงเดินตรงไปยังนายคำซึ่งเป็นลูกจ้างที่รับเข้ามาทำงานอยู่ที่คอกม้าได้หลายเดือนแล้ว


มีใครโทรไปตามหมอมาหรือยัง”


ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้าวิตกกังวล เพราะอาการที่เกิดขึ้นตรงข้อเข่าม้านั้นถือเป็นอาการที่ค่อนข้างรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องจากสัตวแพทย์


ครับ โทรตามไปแล้วครับ แต่อยากให้นายปิงไปดูหน่อยเพราะนังแสงดาวมันค่อนข้างตื่น ผมเกรงว่ามันจะทำร้ายตัวเองจนบาดเจ็บเพิ่มขึ้น”


วาจาของอีกฝ่าย ทำให้ปิงเกิดความร้อนใจ อีกทั้งตัวเขาไม่ได้มีความคิดระแวดระวังใดๆ แม้แต่น้อย ทำให้มือขวาของคมศรพอเดินมาถึงบริเวณคอกม้า ก็เดินแกมวิ่งเข้าไปก่อนตรงไปยังซองที่นังแสงดาวอยู่


นายคำที่เดินตามหลัง ใบหน้าซูบเกรียมนั้นมีดวงตาวาวโรจน์เป็นประกาย ร่างถลันวูบไปคว้าไม้หน้าสามดุ้มใหญ่ที่ซุกซ่อนอยู่ก่อนติดมือขึ้นมา พุ่งตัวตามติดไปอย่างกระชั้นชิด


ปิงได้ยินเสียงฝีเท้าที่กระชั้นเข้ามาอย่างผิดสังเกต สัญชาตญาณทำให้เขาพลิกตัวกลับมา ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตระหนก


ไม้เนื้อแกร่งที่สวนกระหน่ำเข้ามาอย่างฉับพลัน กระแทกเข้าไปที่ขมับของชายหนุ่มถนัดถนี่ แรงจากข้อแขนที่แม้จะซูบเกร็งแต่แข็งแรงของนายคำ ก็ทำให้การรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างของมือขวาพ่อเลี้ยงปางห้วยสักนั้นดับมืดไป อย่างฉับพลัน มีเพียงสียงครางหนักๆ ดังขึ้นมา พร้อมๆ กับร่างกำยำของชายหนุ่มทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นดุจดินเหลวก้อนหนึ่ง


ดวงตาของนายคำเป็นประกายวาบ ก่อนจะลากร่างไร้สติของปิงเข้าไปซ่อนในมุมคอก และโยนมัดฟางกองใหญ่ทับปิดร่างที่นอนคุดคู้นั้นเอาไว้


.........................


ฐิติพรรณหัวเราะกระซิกกระซี้เสียงหวานกับอรอุษาหลังจากที่เธอได้รับของขวัญ จากศักดาไปหลายถุงแล้ว ส่วนเด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ตัดใจยอมรับเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีชมพูอ่อนจางจนเกือบ ขาวที่ถักทอจากเนื้อฝ้ายนุ่มอุ่นไปทั้งตัวนั้นเพียงแค่ชิ้นเดียวก็เกรงใจจน สั่นศีรษะไม่ยอมรับอะไรอีก ไม่ว่าศักดากับฐิติพรรณจะคะยั้นคะยออย่างไรก็ตาม


จิ้งจอกสวาทมองดูเวลาซึ่งประมาณสี่โมงกว่าเกือบห้าโมงแล้ว ก็เอ่ยชวน


ถ้าน้องไอซ์กับน้องษาไม่รีบไปไหน...เราหาภาพยนต์ดูกันสักรอบไหมครับ..พอ หนังเลิก...พี่อยากจะขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารค่ำกับน้องทั้งสองคน...”


ฐิติพรรณหัวเราะเสียงใส หันไปชักชวนอรอุษาทันที


นะจ๊ะ...อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อย...ษาไม่ได้รีบกลับไม่ใช่เหรอจ๊ะ...วันพรุ่งนี้เห็นว่าไม่มีสอนเหมือนกันนี่นา”


อรอุษาทำหน้าอิดเอื้อน เธอไม่เคยเที่ยวเกินสี่ห้าโมงหรืออย่างช้าก็กลับบ้านไม่เกินหกโมงเย็นสักที ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอไปด้วยกันกับพี่สาวทั้งสองคน


น่า...อย่าให้เสียน้ำใจคนชวนเลย...พี่ศักอุตส่าห์ทำตัวน่าร๊าก เลี้ยงอาหารกลางวันแล้วยังซื้อเสื้อให้ตั้งหลายชุด”


พริตตี้สาวจู่โจมไปในจุดที่รู้ดีว่าเป็นจุดอ่อนของเด็กสาวตรงหน้า...คือความ เป็นคนขี้เกรงใจคนอื่น....ซึ่งคำพูดนั้นก็ทำให้เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์มีใบหน้า ลังเลใจ จิ้งจอกสวาทที่รอเชิงอยู่ดูสีหน้าของเหยื่อสวาทของตนเองแล้ว ก็รีบเสริมอย่างนุ่มนวล


นะครับ...พี่กำลังรู้สึกสนุกกับน้องไอซ์กับน้องษา...อยากอยู่ด้วยกันให้นานๆ อีกนิด...น้องษาคงไม่รังเกียจใช่ไหมครับ”


ใบหน้างามนั้นก้มหน้าลงต่ำทันที เพราะดวงตาของอีกฝ่ายมันเปล่งประกายเว้าวอนอย่างเห็นได้ชัด หัวใจที่กำลังเอิบซ่านด้วยความรู้สึกงดงาม ทำให้เด็กสาวตัดสินใจโทรศัพท์กลับไปที่บ้าน


ป้าเอียดขา...เย็นนี้ษากลับดึกหน่อยนะคะ...พี่...พี่ไอซ์เขาชวนดูหนังรอบเย็นค่ะ”


ป้าละเอียดขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนักที่คุณษาของเธอจะกลับบ้านดึก แต่เพราะความรักทำให้เธอตามใจ..แต่ก็พูดว่า


ค่ะ...ถ้าอย่างนั้นป้าเอียดจะให้นายมากไปรับนะคะ”


อุ๊ย...ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ไอซ์เขาจะมาส่งเอง...ไม่ต้องรบกวนลุงมากหรอกค่ะ”


อรอุษาพูดเสียงอ่อนหวาน ก่อนที่จะยิ้มให้กับคำสั่งของป้าเอียดที่สำทับให้ดูแลตัวเองดีๆ อีกครั้งอย่างเป็นห่วง


ค่ะ...ป้าเอียดไม่ต้องห่วงค่ะ..ษาอยู่พี่ไอซ์...คงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วล่ะค่ะ...แค่นี้ก่อนนะคะ”


ขณะที่เด็กสาวแสนสวยพูดโทรศัพท์ นัยน์ตาของฐิติพรรณและศักดาที่สบกันนั้นเปล่งประกายวาวโรจน์อย่างสาสมใจ ริมฝีปากของทั้งสองแย้มเหยียดยิ้มออกมาให้แก่กัน นัยยะที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มที่ดูระรื่นเบิกบานนั้นมันเต็มไปด้วยความโหด เหี้ยมอำมหิตที่กำลังมุ่งทำร้ายเด็กสาวที่อ่อนเยาว์ไร้เดียงสาผู้ซึ่งไม่ได้ มีความรู้ตัวต่อชะตากรรมตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยนิด!!!


.......................


เออ...พวกแกสองคนรออยู่ที่นั่นแหล่ะ...ฉันจะโทรไปสั่งอีกทีว่าจะให้ทำอะไร...แค่นี้ล่ะ”


เสี่ยคิ้มสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ใบหน้าสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ทั้งความแค้นที่กำลังได้รับการชำระสะสาง...และความหฤหรรษ์ที่กำลังรอคอยอยู่ ตรงหน้า...ความคิดที่มาถึงตอนนี้ควยอวบเริ่มกระตุกคับเป้า


เสี่ยนักค้าทองเดินตัวปลิวเข้ามาในอีกห้องหนึ่ง ตอนนั้นเสี่ยทองกำลังกำกับให้ชายฉกรรจ์สองคนจัดท่าทางของบุรุษและสตรีที่ ร่างปวกเปียกไร้สติทั้งคู่นั้นนอนอยู่บนเตียงกว้าง ซึ่งในเวลานั้นฝ่ายบุรุษมีเพียงกางเกงในตัวเดียวเผยให้เห็นเรือนร่างที่มี กล้ามเนื้อสมส่วนบุรุษเพศ ส่วนร่างระทวยของสตรีนั้น...ร่างขาวราวกับไข่ปอกเหลือเพียงชุดชั้นในวาบหวาม สีดำปกปิดของสงวนของเธออยู่สองชิ้นสุดท้ายบนและล่างเท่านั้น สีของเนื้อผ้าลื่นเป็นมันงามนั้นตัดกับผิวผ่องของเธอ จนขับเน้นให้ดูขาวสะอาดเป็นประกาย ยองใยดุจไข่มุก นัยน์ตาของทุกคนในที่เหลือกลานจับจ้องไปอย่างกระหายหื่น


เออ..อย่างนั้นๆ...จับหน้าคุณรสเอนไปวางซบที่อกไอ้ปานเทพอีกหน่อย... เออๆๆ..ดีถูกต้อง...จับมือไอ้ปานเทพโอบเอวคุณรสไว้ด้วย...ใช่ๆ..ดีมากๆ... อย่างนั้นแหล่ะ”


เสียงสั่งการของเสี่ยทองตามมาด้วยเสียงกดปุ่มกล้องถ่ายรูปดิจิตอล แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ


เสี่ยคิ้มเดินไปสบทบกับเสี่ยทอง ซึ่งเสี่ยอ้วนกำลังหัวเราะเสียงกระเส่า


ฮ่า ฮ่า...เด็ดจริงๆ...”


เสี่ยนักค้าทองอัญมณี เบิกตาแทบถลน มองไปยังเรือนร่างงามของคันธรสที่ตอนนี้ถูกจับให้นอนซบไปกับร่างไร้สติของ ปานเทพ สมุนของเสี่ยทองคนหนึ่งจับเรียวขาขาวงามของหญิงสาวให้ก่ายไปบนตัวของชาย หนุ่ม จากมุมที่เสี่ยคิ้มเห็นนั้นทั้งปรีก้นที่ขาวงอนงานตึงเปรี๊ยะคับผ้าลูกไม้สี สวย ทั้งโคกอูมที่ซ่อนตัวอยู่เนื้อผ้ามันลื่นสีดำวาวนั้นมันอวบเด่นนูนขึ้นมาให้ เห็นอย่างชัดๆ ถนัดตายิ่งไปเสียกว่าตอนที่เห็นผ่านผนังกระจกที่ห้องพิเศษของเสี่ยทองหลาย เท่า รับกับสองขาอวบขาวผ่องปานหยกเนื้อดีไล่ไปจรดปลายเท้าที่ตัดเล็บเจียนไว้งด งาม เสี่ยนักค้าทองอัญมณีตัณหากลับถึงกับตัวสั่นสะท้านอย่างกระหายหื่น ใบหน้าสีเหลี่ยมนั้นอ้าปากเบิกตาถลนออกมา ครางซี๊ดซ๊าดดดด


อูยยยย...ทำไมช่างขาว...ช่างอวบอูมอย่างนี้...คุณรสคนสวย...”


เสี่ยอ้วนผู้ซึ่งเป็นคนต้นคิดแผนการณ์เองก็เบิ่งตามองควยตุงทะลุเป้าอยู่นานแล้ว ตอนนั้นฉีกยิ้มอย่างกระหายหื่น


ไม่ต้องกลัว...เสี่ยคิ้ม...รอให้ผมจัดการตามที่คิดไว้ก่อน...เราสองคนได้ขึ้นสวรรค์กับคุณรสคนสวยนี่แน่นอน”


จากนั้นเสี่ยทองก็สั่งการให้สมุนซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ร่างกำยำทั้งคู่จัดท่าทาง ของชายหนุ่มและหญิงสาวที่นอนสลบไสลไม่ได้สติในลักษณะการก่ายกอดกันอีกหลาย ท่าหลายมุม และถ่ายรูปเอาไว้จนหมดอย่างละเอียดละออ


เสี่ยคิ้มตอนนั้นเอ่ยถามว่า


แค่รูปพวกนี้...เสี่ยทองคิดว่าไอ้ปานเทพมันจะยอมเหรอ”


ฮ่า ฮ่า ผมมีไม้เด็ดกว่านั้นอีก...เสี่ยคิ้ม...ถ้ารูปนิ่งไม่ยอม...ผมก็จะโชว์คลิปให้ดู”


เสี่ยทองกระซุ่นกล่าว ขณะที่เสี่ยนักค้าทองมีสีหน้าไม่เข้าใจ มองร่างไร้สติที่นอนอยู่บนเตียง แล้วว่า


เสี่ยหมายความว่ายังไง...”


เสี่ยหน้าอูมตอนนั้นแสยะยิ้ม เดินไปหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาเปิดออก ในกล่องมีเข็มฉีดยากับขวดเล็กๆ มีน้ำยาสีอ่อนๆ อยู่ข้างใน


จากนั้นเสี่ยทองก็จัดการดูดยาเข้าเข็มแล้วเดินเข้าไปจิ้มใส่ท้องแขนอันแข็ง แรงของปานเทพ ก่อนจะดูดยาเข็มใหม่คราวนี้ปริมาณยาเพิ่มไปกว่าเดิมอีกประมาณเท่าหนึ่ง และหันไปตบท้องแขนขาวผ่องของคันธรสจนเส้นเลือดขึ้นเป็นริ้วๆ และกดเข็มลงไปฉีดยาเข้าไปในร่างของหญิงสาวจนหมดเข็ม


เสี่ยคิ้มสืบเท้าตามมา ดวงตาเบิกโพลง ตอนนี้ภาพที่เห็นคันธรสนอนหงายอยู่นั้น ทรวงอกที่เต่งเต้าขาวอวบนั้นเคลื่อนสะท้อนเบียดอัดตูมแน่นอยู่ภายใต้ยกทรง ผ้าลูกไม้ ซึ่งเนื้อผ้าสีดำนั้นมันช่วยเน้นให้เนินอกของสาวสวยนั้นอูมเด่นขาวสล้างเป็น ประกายล้อแสงไฟ ตูมเต้าดันเด้งสะท้อนสะท้านขึ้นมายั่วยวนให้เข้าไปเคล้นคลึงเสียเหลือเกินใน ความคิดของเสี่ยตัณหากลับ


นั่นมันยาอะไรน่ะ...เสี่ยทอง”


เสี่ยทองหัวเราะร่วน


อภินันทนาการจากเสี่ยเซี้ยงเขา...เดี๋ยวพอยาออกฤทธิ์...เสี่ยก็รู้เองแหล่ะว่ามันมีผลยังไง...ฮ่าฮ่า”


เสี่ยอ้วนจัดเก็บเข็มฉีดยาเข้ากล่องตามเดิม กล่าวต่อไป


ยานี่มันจะกระตุ้นทำให้ยานอนหลับคลายตัวลงไป...จากนั้นพวกเราก็รอดูหนังสด ...ระหว่างไอ้ปานเทพกับคุณรสกันให้สบายตาไปเลย...เสี่ยคิ้ม...ฮ่ะฮ่ะ”


เสี่ยทองผุดลุกขึ้น แสยะยิ้มว่า


เราออกไปกันก่อน ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ดูฉากเด็ด...เพราะผมติดกล้องเอาไว้แล้ว...ฮ่ะฮ่ะ... อภินันทนาการจากเสี่ยเซี้ยงเขาอีกเหมือนกัน ผมรับรองซูมกันเห็นจะจะแบบทุกรูขุมขุนเลยทีเดียว...กร๊ากกๆๆ”


เสี่ยอ้วนผู้โฉดชั่วแผดเสียงหัวเราะแหลมเล็ก เสี่ยคิ้มหัวเราะกระเส่าตามไปด้วย แลบลิ้นเลียปาก


อูยยยย..แต่..แต่...คุณรส...เธอช่างขาว...ช่างยั่ว...สวยบาดตาบาดใจผมเหลือ เกิน...เสี่ยทอง...ผมขอมัดจำไว้หน่อยก่อนได้ไหม...ก่อนยาออกฤทธิ์”


เสี่ยทองหัวเราะก๊าก


ได้สิ...เสี่ยคิ้ม...แต่อย่าให้นานนักล่ะ...”


เสี่ยนักค้าทองตัณหากลับไม่ฟังคำพูดของอีกฝ่ายจนจบ ร่างพุ่งกระซวกลงไปเบียดร่างที่นอนระทวยปวกเปียกของคันธรสก่อนจะระดมบดขยี้ จูบไปตรงริมฝีปากนุ่มงามของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย มือหยาบของเสี่ยตัณหากลับขยำขยี้ไปบนสองเต้าอวบอย่างเมามันกระหายหิว มือหยาบๆ นั้นบีบเคล้นขยี้ลงไปอย่างรุนแรงราวกับจะทำให้สองเต้าอวบขาวนั้นแหลกราญไปคา มือตน


อูยยยย...อูยยยยยย...มันช่างหอมเสียเหลือเกิน นุ่มแน่นมือไปหมด...อูยยยยย...สุดยอด...ซี๊ด...ซี๊ดดด..อยากขยำนมขาวๆ ของคุณรสมานานแล้ว....อูยยยย...เมื่อก่อนได้ดู....ได้แต่อิจฉาเสี่ยเซ้ยง ....โอวววว...นุ่มจริงๆ...เต็มมือดีจริงๆ....ซี๊ดดดด...ซี๊ดดดด”


เสียงกระเส่าของเสี่ยคิ้มคร่ำครวญออกมาผ่านริมฝีปากของตนเองที่บดเบียดอยู่ กับปากงามของคันธรส ขณะที่เสี่ยทองที่ทีแรกคิดจะเดินออกจากห้องไปก่อน แต่เห็นเพื่อนลงมืออย่างนั้นก็เปลี่ยนใจตามเข้ามาบ้าง ร่างของเสี่ยอ้วนทิ้งตัวลงไปตรงปลายขาเรียวงามของหญิงสาว ใช้มือแบะตรงขาอ่อนขาอวบนั้นให้ถ่างออกจากกัน เบิกตาแทบถลนจ้องไปบนเนินสวาทที่ห่อตัวอยู่ภายใต้ผ้าลูกไม้เนื้อดำสนิทลื่น เป็นมันนั้น ก่อนจะบีบเคล้นอุ้งมือหยาบลงไปตรงโคกอูมของหญิงสาวอย่างเมามัน สัมผัสความแน่นนูนนิ่มเต็มมือนั้นอย่างละลานใจ นิ้วหยาบของเสี่ยอ้วนลากดุนไปตามร่องหลืบผ่านเนื้อผ้าบางเบานั้น ปลายนิ้วสัมผัสไปถึงติ่งกระสันที่ซ่อนอยู่ภายใน ส่วนใบหน้าก็ก้มตามลงไปสะบัดไซร้ไปมาตรงบริเวณโคนขาขาวผ่อง ปากอ้าออกประกบดูดไปตรงเนื้อเนียนอ่อน แลบลิ้นสากๆ ออกมาโลมเลียลิ้มชิมรสเนื้ออันหอมหวานของสาวสวยที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอย่าง สุดอร่อยลิ้น ร่างอ้วนฉุนั้นสั่นระริกอย่างเสียวกระสันซ่าน ดวงตาเบิกพล่านด้วยความหฤหรรษ์ ปากร้องกระเส่า


อูววววว...อูววววว..สุดยอด....สุดยอดดด.....อูมชิบหาย...แน่นมืออีกต่างหาก ...เนื้อก็หวานเหลือเกิน...เสี่ยคิ้ม...อูววววว...อย่างที่ผมบอก...เราสองคน ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดกันแน่ๆ วันนี้...ฮ่าฮ่า...อูยยยย...ซี๊ดดดด...สุดยอดดด...”


เสี่ยชั่วทั้งสองคนละเลงปากและมือหยาบไปบนร่างกายของคันธรสอย่างกระหายหื่น คราวนี้กระทั่งชุดชั้นในบางเบาทั้งสองชิ้นก็ถูกกระตุกเหวี่ยงออกไป


เสี่ยคิ้มใช้นิ้วบีบไปตรงปลายถันงามงอนสีน้ำตาลอ่อนนวลเนียน ใช้ปากอมโอบเข้าไปดูดดื่ม ลิ้นสากๆ นั้นลากไล้ไต่ตามหัวนมที่ชูชันนั้น เสียงซู๊ดดดด ซู๊ดดดด ครางกระเส่า


อูยยยย...ซี๊ดดดด...อร่อยลิ้นของคิ้มเหลือเกิน...คนสวย...ดูสิ...หัวนมชูร่อนขึ้นมา...อย่างนี้แสดงว่าคนสวยชอบใช่ไหมจ๊ะ...ฮ่าฮ่า”


เสี่ยนักค้าทองพล่ามไป ปากก็ดูดดุนหัวนมนั้นไปเสียงซ๊วบซ๊าบ ดังต่อเนื่องจนปลายถันงอนงามนั้นเปียกชุ่มอาบไปด้วยน้ำลายของเสี่ยตัณหากลับ


เสี่ยทองก็ไม่น้อยหน้าเพื่อน ตอนนั้นแบะโคนขาอวบของคันธรสจนถ่างออก แล้วใช้นิ้วแหวะกลีบอูมนั้นจนเผยให้เห็นร่องหลืบสีชมพูสด ก่อนจะลากลิ้นลากไล้ไปบนร่องเสียวนั้นอย่างกระหาย ปลายลิ้นห่อตัวเป็นรูปฉมวกกระตุกจี้กระซวกลงไปบนเม็ดแตดที่ชูร่อนระริกอยู่ ตรงหน้า เสียงซ๊วบซ๊าบดังกระเส่าไม่แพ้กัน


ปากของเสี่ยคิ้มที่ดูดไปตรงหัวนมงามงอน และลิ้นสากของเสี่ยทองที่ละเลงดูดไปตามร่องสวาทที่เผยอกลีบอูมออกมา ต่างคนต่างระดมโลมเลียดูดดื่มความหอมหวานจากเรือนกายสุดงามตรงหน้าอย่างเมา มันกระหายหิว เสียงครางกระเส่า ซี๊ดดดด ซ๊าดดดด...เสียงซ๊วบๆๆๆ ดังต่อเนื่อง


สองเสี่ยละเลงปากมือและลิ้นไปอย่างอิ่มอกอิ่มใจ จนกระทั่งปรากฏเสียงครางออกมาเบาๆ ผ่านลำคอของหญิงสาว ทำให้พวกตนรู้ว่าเวลาแห่งการลิ้มลองช่วงมัดจำได้สิ้นสุดลงแล้ว ต่างคนต่างละมือออกจากร่างงามบาดตาบาดใจของคันธรสอย่างเสียดาย ก่อนจะพากันเดินออกไปจากห้อง โดยไม่ลืมที่จะถอดกางเกงในตัวสุดท้ายของปานเทพออกไปจากเรือนร่างของชายหนุ่ม ด้วย เสียงหัวเราะอย่างชั่วโฉดของสองเสี่ยดังจนลับหายออกไป


....................


อรนุชที่กำลังควบเจ้าโธโรเบลดดำปรอดนั้นอย่างมีความสุข ทันใดนั้นเองก็มีชายฉกรรจ์ร่างซูบเกร็งขับม้าสีน้ำตาลเข้ามาประชิด ทำให้เด็กสาวร่างบางกระตุกบังเหียน รั้งเจ้าหมอกให้ชะลอตัวจนวิ่งกุบกับไปช้าๆ


นายคมกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


พ่อเลี้ยงให้ผมมาถามว่าคุณหนูอยากจะไปขี่ม้าที่ทุ่งปลายป่าไหมครับ เป็นพื้นที่โล่งๆ หญ้ากำลังขึ้นสวยเลยครับ”


ดวงตากลมโตของอรนุชเบิกกว้างอย่างยินดี เธอควบเจ้าหมอกวนเวียนอยู่ตรงลานดินมานานแล้ว เปลี่ยนเป็นทุ่งโล่งๆ หญ้านุ่มๆ เจ้าหมอกก็คงชอบเหมือนกัน หวนนึกไปถึงคนร่างสูงตัวใหญ่


ฮึ...นายหน้าหมี...ก็ยังดีนะที่รู้จักเอาใจคนอื่นเขาเป็นด้วย


ความรู้สึกหวานๆ ที่จับใจขึ้นมา ทำให้อรนุชยิ้มกว้างขวางกล่าวเสียงใสระรื่น


ดีสิคะ...คุณช่วยนำทางฉันไปที”


ได้ครับ คุณหนูตามผมมาเลยครับ”


นายคมยิ้มกว้างกระตุ้นม้าวิ่งนำไปก่อน เด็กสาวร่างเล็กบางที่แม้จะซุกซนแก่นแก้ว แต่จิตใจนั้นบริสุทธิ์ใสอ่อนต่อสังคมอันเต็มไปด้วยเล่ห์มารยาและกลลวงอันโหด ร้าย ไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อยนิดว่าถ้าคมศรจะให้คนนำทางไปเที่ยว ทำไมไม่ใช้คนสนิทของเขาที่สั่งให้เฝ้าเธออยู่ แต่กลับเป็นคนอื่นที่เด็กสาวไม่เคยรู้จัก


ตอนนั้นอรนุชมีเพียงรอยยิ้มกว้างอย่างสดใส ก่อนที่จะกระตุกบังเหียนให้เจ้าหมอกตะกุยเท้าตามไปอย่างร่าเริง


อาชาสองตัววิ่งควบตามกันไปสักพักหนึ่ง จนในที่สุดอรนุชก็เห็นแนวเขตที่ถูกปักปัน มีต้นไม้ใหญ่ปลูกเป็นแนวยาว และมีป้ายที่เขียนว่า “ปางห้วยสัก” เด่นสะดุดตาอยู่ ก็รู้ว่าน่าจะล่วงพ้นอาณาบริเวณของปางมาแล้ว


อรนุชขี่เจ้าหมอกตามไปเรื่อยๆ ระยะทางระหว่างเธอกับปางห้วยสักก็ค่อยๆ ห่างกันไปเช่นกัน จนในไม่นานป้ายบอกอาณาเขตปางก็เห็นอยู่ลิบๆ ที่ด้านหลัง


นายคมกระตุ้นม้านำเด็กสาวร่างบางมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางที่เห็นว่ากำลังจะไป บรรจบเนินเล็กๆ ที่ทอดต่อมาจากทิวเขาขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา


นัยน์ตาของคนขี่ม้านำหน้าเป็นประกายวูบวาบสมใจ...น่าเสียดายที่อรนุชที่ตามมาอยู่ด้านหลังไม่มีทางสังเกตุเห็น


ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเด็กสาวร่างบางก็ดังกังวาน......
................


คันธรสเริ่มฟื้นคืนสติขึ้นมาท่ามกลางความรู้สึกเร่าร้อนจนเหลือประมาณ หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นมา ขณะที่ร่างงามของเธอที่เคลื่อนบิดเพื่อคลายความล้า ก็รู้สึกตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงที่ไหนสักแห่ง


ภายใต้ความรู้สึกที่ค่อยๆ คืนกลับมาทีละน้อยๆ ความตระหนกตกใจก็พุ่งวาบขึ้นมาจับจิตเมื่อลมเย็นๆ นั้นพัดเข้ามาต้องร่างกายของเธอจนตัวสั่นสะท้าน รับทราบต่อมาว่าตัวเองตอนนั้นเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดแม้แต่ชิ้นเดียว ยิ่งไปกว่านั้นผิวกายของตนเองตรงบริเวณหัวไหล่และต้นแทนนั้นรู้สึกถึงการ สัมผัสเสียดสีไปกับร่างของใครคนหนึ่งที่นอนอยู่ข้างๆ ทำให้ร่างของหญิงสาวผวาพลิกกลับมาโดยพลัน และเบิกตากว้างเมื่อมองเห็นร่างกำยำที่นอนอยู่ข้างๆ อย่างชัดเจน


คะ...คุณ..คุณ...เทพ!!!”


คันธรสเอ่ยพึมพำอย่างตระหนกตกใจ และท่ามกลางความตกใจนั้น ความระอุรุ่มเร่าร้อนที่ถูกกดดันให้สงบไปชั่วขณะนั้น ตอนนี้มันกลับพลุ่งพล่านขึ้นมาใหม่ราวกับน้ำป่าไหลหลาก เมื่อผิวกายอุ่นละเอียดของเธอสัมผัสแนบชิดกับเรือนกายของชายหนุ่ม ความร้อนร่านที่ปะทุขึ้นมาราวกับไฟป่านั้นประหนึ่งว่าการเสียดสีสัมผันนั้น เป็นประกายไฟที่กระเซ็นไปถูกเชื่อเพลิงสวาทที่กำลังอาบชุ่มไปทั่วอณูแห่ง ความรู้สึกของหญิงสาว


สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน...ใบหน้าอันหล่อเหลาที่เคยมัดใจเธอเอา ไว้...ร่างที่กำยำแข็งแรง...และ...ท่อนกายนั้นที่แม้จะยังอยู่ในสภาพปกติ แต่มันเร้าอารมณ์จนคันธรสใบหน้าแดงก่ำ ครางครวญออกมาอย่างฟุ้งซ่านรัญจวน


อา....เทพ..เทพขา....”


มือบางเรียวงามนั้นไต่ไปตามแผงหน้าอกที่กำยำสมชาย ปากนุ่มของคันธรสไต่ประกบจูบไปบนหนั่นเนื้อแข็งแรงนั้นอย่างสุดพิสวาส ความฟุ้งซ่านที่เกิดจากฤทธิ์ยาสวาทที่ไหลเวียนอย่างรุนแรงในร่างกาย บวกกับความต้องการในก้นบึ้งที่ถูกกักเก็บเอาไว้ ทำให้เพลิงปรารถนาของหญิงสาวลุกพล่านจนบดบังสติสัมปะชัญญะใดๆ ที่จะฉุกคิดว่าทำไมเธอกับปานเทพถึงมานอนเปลือยเปล่าอยู่ด้วยกันบนเตียงนี้


ปากงามของหญิงสาวระดมจูบไปตามใบหน้าหล่อเหลาของปานเทพ หญิงสาวครางครวญกระเส่าซ้ำๆ กันราวกับละเมอ


เทพ..เทพ..ขา..รส..รสรักคุณค่ะ...รักมาก...ไม่เคยลืมคุณเลย...”


ความเสียวซ่านรัญจวนที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วดุจน้ำป่าทลายนั้น ทำให้ร่างขาวเปลือยของคันธรสนั้นพลิกขึ้นไปทาบทับร่างที่ยังนอนเหยียดของปาน เทพ อวบอวบสองเต้านั้นเบียดไปกับแผงอกของชายหนุ่ม ขณะที่หญิงสาวกางเรียวขางามคร่อมตัวของคนที่เธอรักหมดใจมาโดยตลอด ส่ายสะโพกผายงามของตัวเองนั้นก็บดโคกอูมไปบนท่อนกายของปานเทพอย่างกระสัน ซ่านรัญจวน ปลายท่อนกายที่ยังไม่มีการขยายตัวแต่อย่างใดเนื่องจากเจ้าของยังคงสิ้นสติ อยู่ แต่ถึงกระนั้นรสชาติของเนื้อท่อนที่ไถไปตามติ่งกระสันของเธอมันสร้างความสุข ให้กับคันธรสจนห่อปากครางครวญ ขนอ่อนๆ ทั่วร่างลุกชันอย่างเป็นสุข


..เทพขา...รส..รสมีความสุข...สุขจังเลย...อา....ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดด....”


ปากงามของหญิงสาวจูบไปบนริมฝีปากสวยหยักได้รูปของปานเทพอย่างกระหายในรสชาติ มืองามสองข้างนั้นไต่เปะเปะไปตามกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งของชายหนุ่ม สัมผัสลากไล้ไปทั่วตัวจนมืองามของคันธรสป่ายไปถึงท่อนเนื้อของปานเทพ ก่อนที่หญิงสาวจะใช้มือรูดไปตามลำท่อนนั้นอย่างรวดเร็วแต่เบามือทะนุถนอม


การโลมไล้สัมผัสที่เร่าร้อนนั้นมันค่อยๆ แทรกเข้ามาในห้วงสติของปานเทพที่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยา อย่างช้าๆ ความเสียวซ่านที่บังเกิดขึ้นมาจากท้องน้อยก็ปั่นป่วนอารมณ์ของชายหนุ่มจน กระเจิง ร่างอุ่นละเอียดที่ทาบทับอยู่ ความเนียนนุ่มของผิวพรรณที่บดเบียดเข้ามา มันดุจดั่งเป็นน้ำมันที่ราดรดลงไปบนกองเพลิงสวาทที่ปะทุขึ้นมาเนื่องจากถูก ยาสวาทมอมเมา


ภายใต้ภาวะที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น ปานเทพละเมอไปว่าเป็นเรือนร่างสุดงามของภรรยาแสนรักที่กระแซะเข้ามาราวกับ แมวน้อย สร้างความสุขหฤหรรษ์ที่เขาใฝ่ถวิลหาทุกค่ำคืน ทำให้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นตื่นขึ้นมาจากสภาวะหลับใหล ท่อนเนื้อที่กำลังอยู่ในมือของคันธรสเริ่มกระดิกตัว และยืดขยายขึ้นมาเรื่อยๆ ตามความรู้สึกที่ไต่ระดับความร้อนแรงขึ้นของเจ้าของหนุ่มรูปงาม


โอวววว...อรจ๋า...ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน...คุณกลับมาหาผมแล้วใช่ไหมครับ


ปานเทพคำนึงในใจอย่างเป็นสุข ตวัดร่างนุ่มนิ่มที่ทับอยู่บนตัวเขาไว้แนบแน่น ทั้งๆ ที่ภาพตรงหน้ายังพร่าเลือนเหมือนอยู่ในม่านหมอก แต่ชายหนุ่มก็บดขยี้จูบไปตามริมฝีปากนุ่มที่เข้ามากระซิบเคลียดคลอ


เทพ..เทพขา....”


ชายหนุ่มผู้กำลังตกอยู่ในภวังค์สวาท บดปากแนบกระชับไปกับเรียวปากงามของคันธรส สอดลิ้นระรัวพัวพันกันอย่างดูดดื่มเร่าร้อน เสียงซ๊วบๆ ดังปนเปกับเสียงครางกระเส่าของชายหญิงที่ดังสะท้านสะท้อนมาจากความรู้สึกภาย ในที่กำลังเดือดพล่าน อืออออ...อืออออ..อาาาาาาาาาา....ซี๊ดดดดด ซี๊ดดดดดด


ปานเทพพลิกตัวขวับ ร่างกำยำของเขาก็เป็นฝ่ายทาบทับร่างอุ่นละเอียดงามนั้นแทนที่ มือของชายหนุ่มปัดป่ายไปตามผิวกายที่เนียนนวลนั้น ปากลากไซร้ไปตามซอกคอหอมละมุน ส่งเสียงครางหนักๆ ดังขึ้นอย่างรัญจวน


อร..อรจ๋า...ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน....ผมคิดถึงคุณทุกคืนเลย...โอวว...ที่รัก...ผมมีความสุขเหลือเกิน...”


คันธรสเบิกตากว้าง คำพูดของปานเทพนั้นเกี่ยวความรู้สึกของหญิงสาวให้วูบขึ้นมาอย่างน้อยใจ ทำให้เธอผลักร่างของปานเทพออกไป...นี่อะไรกัน...เขานึกว่าเธอเป็นอรชา หรือ....


การกระแทกกระทั้น ทำให้ปานเทพลืมตาขึ้นกระพริบถี่ถี่ จนปรับสายตาได้ แลเห็นเป็นใครที่ตัวเองนอนทาบทับอยู่ด้วยสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่าด้วยกัน ทั้งคู่ก็ใจหายวาบ เบิกตากว้าง


คุณรส !!!...คุณ...คุณ...อะไรกันนี่...”


ปานเทพร้องเสียงหลง ขยับตัวจะพลิกหนีไป แต่แขนบอบบางของคันธรสนั้นตวัดรัดไปที่แผงหลังกำยำของชายหนุ่มแน่น ปากพร่ำเพร้อ


ใช่ค่ะ..รสเอง...รสรักคุณค่ะ...รักเหลือเกิน...เทพขา...โอว...เทพขา...รสเสียววว....”


คันธรสครางครวญอย่างเสียวซ่าน ใบหน้าแหงนเพริด เมื่อท่อนเอ็นของชายหนุ่มที่กำลังตื่นตัวเต็มที่นั้นส่ายเบียดไปมาตามโคกอูม ของเธอ ปลายถอกที่เริ่มแผ่ตัวออกนั้นสะกิดไปตรงปุ่มกระสันของหญิงสาว ทำให้ร่างงามของคันธรสบิดพร่านอย่างรัญจวนใจ


หญิงสาวที่กำลังเพลิดไปกับเพลิงสวาท ตวัดสองขางามของเธอรัดไปที่สะโพกของปานเทพ เกร็งหน้าทองส่ายโคกสาวของเธอแนบเบียดไปกับท่อนกายของชายหนุ่ม ริมฝีปากงามนั้นก็บดจูบไปตามแผงอกของอีกฝ่ายที่พยายามยันตัวออก


อย่า..อย่าครับ..คุณรส...”


ปานเทพพยายามดันตัวออกห่าง แต่คันธรสนั้นไม่ยอม ทั้งแขนและขาของเธอตวัดรัดไปที่ร่างของชายหนุ่มที่เธอบัดนี้ยอมรับแล้วว่า ไม่เคยลืมเขาไปได้เลย...ความรัก...ความเสน่หามันแค่ถูกกดดันให้ซุกซ่อนอยู่ ในก้นบึ้งลึกสุดแห่งจิตใจ...ซึ่งตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันได้ทะลักทะลายออกมา ราวกับภูเขาไฟระเบิด


ปานเทพที่อยู่ในภาวะแห่งความตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการโอบรัดของหญิงสาว แต่ร่างอุ่นละเอียดที่บดเบียดตัวเขาอยู่นั้นมันเป็นเรือนกายที่สวยบาดตาสุด ประมาณ ทรวงอกที่อวบขาวที่แอ่นเข้ามาใช้ความหยุ่นนิ่มนั้นเสียดสีไปกับแผงอกของเขา ความเนียนนุ่มของหน้าทองขาวที่ส่ายเข้ามาทาบไปกับลำตัว ทั่วทุกตารางนิ้วของผิวเนื้อขาวผ่องมันโถมเข้ามาเบียดไปกับร่างอันเปลือย เปล่าของปานเทพ ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างช้าๆ บวกกับแรงฤทธิ์ของยาสวาทที่กระตุ้นไหวเวียนอยู่อย่างเต็มที่ ทำให้มือหนาหนักของปานเทพในที่สุดต้องเคลื่อนไปโอบร่างงามของคันธรสเอาไว้ อย่างลืมตัว ส่งเสียงครางกระเส่า


โอววว.....คุณรส....อูยยยย...คุณรส....อูยยยย...ซี๊ดดดดด”


ชายหนุ่มกัดฟันร้องออกมาอย่างเสียวซ่าน เมื่อโคกสาวอูมแน่นที่เด้งเบียดเข้ามานั้นบี้คลึงไปตามปลายถอกอันมีเส้น ประสาทอันมีความว่องไวต่อความรู้สึกอย่างนุ่มนวลแต่ทว่าเร่าร้อนเหลือประมาณ ทำให้แก่นชายของปานเทพนั้นตื่นตัวดีดเด้งเป็นการใหญ่ ร่างกำยำของชายหนุ่มสั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านรัญจวนจนขนทั่วร่างลุกชัน ขึ้นมา


คันธรสเองก็ส่งเสียงครางครวญ แหงนหน้าเพริดอย่างรัญจวนใจ ใบหน้าที่สวยบาดตาบาดใจชายนั้นแดงก่ำ ปากแดงจัดอ้าหอบพร่ำเพร้อ อาการของหญิงสาวตรงหน้าที่สุดจะยวนอารมณ์ ทำให้ปานเทพที่กำลังตกอยู่ในเพลิงเสน่หาต้องโน้มใบหน้าลงไปประทับจูบอย่าง ดูดดื่มโดยไม่สามารถต้านทานความงามที่ยั่วเย้าอยู่ตรงหน้าได้


อืออออ...อือออออ...อาาาาาาาาาา....อืออออออซซซ...เทพ...เทพขา...ซี๊ดดดดด...อื้ออออ...”


หญิงสาวประกบจูบแลกลิ้นอย่างเร่าร้อน ความเสียวซ่านที่ได้รับนั้นมันสร้างความหฤหรรษ์สุขสมให้เกิดขึ้นแก่ตัวของ คันธรสอย่างเหลือประมาณ มือของปานเทพเริ่มป่ายขยำไปบนสองเต้าอวบขาวนั้น นิ้วของชายหนุ่มลากไล้บดเบียดไปตามความเต่งของก้อนตึงนั้น ความเนียนนุ่มและหยุ่นมือสุดๆ ทำให้ปานเทพครางออกมาอย่างกระสันซ่าน ปากของเขาเลื่อนออกจากปากงามนั้น ไต่ลงมาประกบตรงบริเวณปลายงอน และก้มลงดูดไปอย่างอเร็ดอร่อยลิ้น เสียงซ๊วบซ๊วบ คันธรสใบหน้าแดงก่ำอย่างเป็นสุข แอ่นอกอวบอูมของเธอเสนอสนองการเล้าโลมของชายในดวงใจเธออย่างร้อนร่าน นิ้วเรียวงามทั้งสิบนั้นลากไล้ไปตรงท้ายทอยของเขา ถึงกับเกร็งข้อมือกดหน้าของปานเทพให้เบียดไซร้แนบชิดไปกับฐานอวบของสองเต้า เธอให้มากขึ้น แน่นขึ้น...ซึ่งจมูกโด่งงามของชายหนุ่มก็ไซร้สูดดมความหอมของเนื้อสาวตรงสอง เต้าอวบอย่างอิ่มเอม...ทำให้ปากงามของคันธรสครางกระเส่าไม่หยุด...ซี๊ดดดดด ...ซี๊ดดดดด...เทพขา...เสียวเหลือเกิน....สุขเหลือเกินค่ะ...รส...มีความสุข เหลือเกิน......


ปานเทพที่ตอนนั้นอารมร์กำลังเพลิดเตลิดเปิดเปิงไปราวกับม้าหลุดจากคอก อาวุธประจำกายที่เหยียดตรงบานร่าเต็มตัวนั้นกระดิกส่ายเพื่อหาตำแหน่งในการ สอดใส่เข้าไปในร่องหลืบที่ตอนนั้นโคกสาวร่อนร่ายเพื่อประกบให้กลีบอูมของเธอ ได้จังหวะมุมที่สอดโอบรัดเข้าไปตรงปลายเนื้อท่อนนั้น


พอชายหนุ่มได้ยินคำพูดพร่ำเพร้อของคันธรส....ฉับพลันนั้นดวงหน้าหวานสวยของอรชาก็ลอยเข้ามาในห้องคำนึง


ดวงตากลมโตคู่งามตอนนั้นเปี่ยมไปด้วยรอยเศร้าหมอง ทำให้ปานเทพครางกระเส่าออกมาอย่างเจ็บปวดใจ ผละใบหน้าออกมาจากสองเต้าอวบขาวนั้นทันที ใบหน้าหล่อเหลานั้นเปี่ยมไปด้วยความแตกตื่น ตาเบิกโพลงสับสนวุ่นวายใจ


มะ..ไม่...ผมทำไม่ได้...”
ปานเทพพยายามสะบัดหน้าเพื่อเรียกสติกลับมา แต่คันธรสนั้นกดใบหน้าของเขาให้ทิ้งต่ำลงมาเบียดกับเต้าขาวของเธออีกอย่าง เร่าร้อน ปากงามพร่ำเพร้อ


เทพ..เทพขา...รสต้องการค่ะ...ต้องการเหลือเกินนน.....ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดดดด”


ความงามที่ยวนยั่วอยู่ตรงหน้า คันธรสที่บิดส่ายไปมาอยู่บนเตียง กำลังแสดงออกอย่างที่สุดถึงความต้องการอันเร่าร้อนของเธอ ผิวกายที่ขาวเนียนเปล่งปลั่งไปทุกส่วนสัดที่ลอยเด้งอยู่ตรงหน้า มันยวนเย้าต่อกิเลศตัณหาที่กำลังเพลินพล่านในใจของชายหนุ่ม ปานเทพที่ตกอยู่ในภาวะถูกยาสวาทเล้าโลม อย่างช้าๆ มือของเขาก็เริ่มป่ายไปตามผิวกายสุดงามนั้นอีกครั้ง


โอววว์...คุณรส...คุณสวยเหลือเกิน....โอวววว....ขาวเหลือเกิน”


คันธสนแอ่นร่างให้ชายหนุ่มเฟ้นฟอนตามอำเภอใจ ปากงามคร่ำครวญ อกอูมนั้นถูกบดเบียดใบหน้าลงมาอีก ร่างงามสะท้านสะเทือนไปตามลิ้นหนาของปานเทพที่ส่ายวนไปตามปลายถันสีน้ำตาล อ่อนของเธอ


เทพ..เทพขา...ตัวของรส..ร่างกายนี้...เป็นของเทพคนเดียวค่ะ...ได้โปรด... รส...รส...เสียวเหลือเกิน...ซี๊ดดดด....ซี๊ดดดดด...อา...เทพขา....รส... ซี๊ดดดดด...เสียวววว”


ท่ามกลางความกระสันรัญจวนจนกระเจิงจนกู่ไม่กลับแล้ว คันธรสแอ่นโคกสาวของเธอร่อนให้กับชายหนุ่ม ส่วนมือบางงามนั้นเลื่อนลงไปประคองแก่นกายอันตึงตัวเต็มที่นั้นจ่อหัวบาน เข้ามายังร่องหลืบของเธอ


เทพ..เทพขา...ได้โปรดดดด...ทำกับรส....ซี๊ดดดดด...รส...อยากกก.....ไม่ไหวแล้วค่ะ...เสียวเหลือเกิน”


ปานเทพขบกรามแน่น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี กับความรู้สึกกระสันซ่านสวาทนั้นต่อสู้กันอย่างรุนแรง สะโพกผายของคันธรสที่ร่อนอยู่ด้านล่าง มืออุ่นๆ ที่จับท่อนกายของเขาจ่อเข้าไปตรงโพรงสวาทของเธอ กลีบอูมที่แสนนุ่มนิ่มกำลังโอบรัดเข้ามาในความเป็นชายของเขา ชายหนุ่มครางกระเส่า ความรู้สึกด้านต่ำค่อยๆ มีกำลังมากกว่า ทำให้มือของเขาอย่างช้าๆ เลื่อนเข้ามาตะปบไปที่สองเต้าอวบตรงหน้า และขยำลงไปอย่างสุดจะหักห้ามใจได้แล้ว


โอววว..คุณรส...ผมเองก็เสียวเหลือเกิน...คุณช่างสวยสดไปทั้งตัว...โอวววว...”


ปานเทพร่ำร้องออกมา บีบเค้นคลึงไปบนสองเต้าอวบขาวนั้นอย่างกระหาย ร่างงามของคันธรสแอ่นสะท้านเสียวกระสัน เสนอสนองการกระทำนั้นอย่างเต็มอกเต็มใจ ร้อนร่านระอุไปด้วยความหฤหรรษ์


ฉับพลันทันใดนั้นเองประกายแว๊บสายหนึ่งก็สะท้อนเข้ามาที่สายตาของปานเทพ


ประกายแสงนั้นมีต้นกำเนิดมาจากแหวนทองคำขาวเกลี้ยงที่อรชามอบให้เขาในวัน แต่งงานที่ชายหนุ่มสวมใส่เอาไว้ตลอดเวลานั่นเอง ในเวลานั้นจังหวะที่เขากำลังเฟ้นคลึงไปบนทรวงอกของคันธรส มุมตกกระทบของแสงไฟบนเพดานห้องนั้นมันสะท้อนแสงาบเข้ามาสู่สายตาของปาน เทพอย่างพอดิบพอดี


แสงปลาบนั้นมันแทรกเข้ามาสู่จิตใจที่กำลังพล่านไปด้วยเพลิงเสน่หา วงหน้างามล้ำของอรชาที่ลอยกลับมาในห้องคำนึงอีกครั้ง คราวนี้ดวงตากลมโตเศร้าสร้อยมองมายังเขาด้วยสายตาแห่งความน้อยใจ ผิดหวัง....


โอววว...อร...อรจ๋า...โอวว...ยกโทษให้ผมด้วย...โอววว...ผมมันเลวบัดซบจริงๆ...ผมทรยศความรักที่คุณมอบให้กับผม....


ปานเทพร้องลั่นออกมาในใจ ความรู้สึกผิดที่มีต่อภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ กลับมีพลังจนเอาชนะเพลิงกระสันที่กำลังพล่านอยู่ในตัวของชายหนุ่มไปได้ ทำให้ร่างกำยำนั้นพลิกพรวดออกจากร่างงามของคันธรส ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มร้อนวาบ ลนลานควานเอากางเกงในที่ตกอยู่ข้างเตียงเข้ามาสวมอย่างลุกลี้ลุกลน ยัดเก็บอาวุธประจำกายที่ยังแข็งตั้งเป็นลำทวนนั้นเข้าไปในเนื้อผ้า พร้อมกับต้องขบริมฝีปากอย่างเจ็บปวด


คันธรสผวาเข้ามารัดแผ่นหลังกำยำนั้น อกอวบเต่งเต้าเบียดไปตามแผ่นหลังของชายหนุ่ม


เทพ..เทพขา...อย่าทิ้งรสไปนะคะ....”


ปานเทพใบหน้าเต็มไปด้วยความประหวั่นลนลาน สลัดตัวให้หลุดพ้นจากการโอบรัด รีบคว้าเสื้อกางเกงที่เรื่อยราดอยู่บนพื้น ร้องเสียงกระเส่า


ผม..ผมเสียใจ...รส..ผมทำไม่ได้....”


จากนั้นชายหนุ่มก็วิ่งผลุนผลันโผเผออกไปจากห้องทันที ใบหน้าหล่อเหลานั้นเปี่ยมไปด้วยความตื่นตระหนกใจ


ขณะที่คันธรสซึ่งเปลือยเปล่าขาวโพลนทิ้งตัวลงคร่ำครวญหวนไห้ ใบหน้างามบิดเบี้ยว ความต้องการที่พรั่งพรูขึ้นมาอย่างรุนแรง เพราะเสี่ยทองมอมเมาเธอด้วยยาสวาทที่รุนแรงกว่าที่เขามอมปานเทพกว่าครึ่ง กำลังเผาผลาญร่างกายของหญิงสาวจนสุดปัญญาระงับ


คันธรสจึงแบะขาขาวเพรียวของตัวเองออกถ่างจากกัน แล้วใช้นิ้วชี้ที่เรียวงามราวกับลำเทียนป่ายคลึงไปบนปุ่มกระสันของเธออย่าง เสียวซ่านรัญจวน แอ่นสะโพกผายเด้งสู้นิ้วของตนเอง พร้อมๆ กับปากงามครางครวญ ฮื้อออ ฮื้ออออ ฮื้ออออ เสียงดังกระสันลั่นห้อง


ในเวลานั้น...เสี่ยทองกับเสี่ยเซี้ยงที่เฝ้าดูผ่านจอมอนิเตอร์อยู่อีกห้องมองตากัน เสี่ยคิ้มเบิกตากว้าง


ผิดแผนแล้ว...ไอ้ปานเทพมันหนีไปก่อน...เสี่ยจะทำยังไงล่ะ”


เสี่ยทองเองก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะสามารถต่อการกับความงามสุดยอดที่ยั่วยวนอยู่ตรงหน้า ได้ทั้งๆ ถูกมอมยา แต่ตอนนั้นใบหน้าอูมก็แสยะยิ้ม


ไม่เป็นไร...แค่ภาพที่จับได้ผมว่าก็เกินพอแล้วล่ะ...ฮ่าฮ่า”


เสี่ยคิ้มตาลุกโพลง มองไปยังจอภาพที่แลเห็น คันธรสกำลังนอนเด้งสะโพกส่ายอยู่บนเตียงอย่างร้อนร่าน


ถ้าอย่างนั้น....”


เสี่ยนักค้าทองกล่าวพลางแลบลิ้นออกมาอย่างหื่นกระหาย เสี่ยอ้วนผุดลุกขึ้นอย่างชั่วโฉด


เราก็ไปช่วยคุณรสคนสวยกันดีกว่าครับ...สงสารเธอออก...ฮ่าฮ่าฮ่า”


เสียงหัวเราะชั่วร้ายของสองเสี่ยดังลั่นขึ้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะแทบวิ่งออกไปจากห้อง


ไม่นานหลังจากนั้น จอมอนิเตอร์ที่จับภาพคันธรสกำลังนอนกระตุกเสียวตัวเองอยู่ ก็พลันปรากฏร่างของสองเสี่ยที่ถาโถมลงไปบนเตียง ตอนนั้นทั้งคู่เปลือยเปล่าจนล่อนจ้อน ควยอวบกระตุกเด้งจนแลเห็นได้ชัดเจน


เหตุการณ์ภายในจอนั้นแลเห็นเบื้องแรกร่างงามของคันธรสผวาจะลุกหนี แต่แรงกลัดมันของสองเสี่ยที่ถาโถมลงไปบนตัวเธอมันเกินกว่าที่หญิงสาวจะต้าน ทานได้ ร่างบางงามของเธอถูกจับกดหงายลงไปบนเตียง ตามติดไปด้วยเสี่ยคิ้มที่ละเลงไปใบหน้าไปตามซอกคอของหญิงสาว ส่วนเสี่ยทองนั้นเคลื่อนร่างอ้วนฉุของตัวเองไปคุดคู้อยู่ตรงบริเวณปลายเตียง แลเห็นเสี่ยร่างอ้วนจับสองขาของคันธรสแหวกออก และซุกหน้าลงไปเฟ้นฟอนเนินสวาทของหญิงสาวอย่างเมามัน มือหยาบๆ ที่ช่วยกันละเลงป่ายไปตามเนื้อตัวที่อุ่นละเอียดขาวโพลนเป็นไข่ปอกนั้นอย่าง ไม่มีหยุดยั้งเบื่อหน่าย อย่างช้า ๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนการตอบสนองของหญิงสาวไปในอีกลักษณะหนึ่ง และเมื่อเพลิงสวาทที่กรุ่นอยู่แต่เดิมกำลังหาช่องที่จะระเบิดออกนั้นพล่านไป ทั่วอณูความรู้สึก ความเสียวซ่านรัญจวนที่ได้รับการปลดเปลื้องจากสองเสี่ยโฉดก็เคลื่อนเข้า บดบังสติของหญิงสาวไปในที่สุด




ภาพในจอมอนิเตอร์จึงแลเห็นร่างงามบาดตาของคันธรสบิดไหวอย่างเร่าร้อน แอ่นอกอวบสองเต้าขาวเสนอปากของเสี่ยคิ้มที่ดูดดื่มไปบนปลายเต้างอนงามนั้น อย่างไม่มีเบื่อ และขณะเดียวกันก็กระเด้งสะโพกผายของเธอส่งโคกสาวอูมแน่นร่อนสนองตอบการโลม เลียของเสี่ยทองจนปลายเท้าที่งามได้รูปตัดเล็บไว้จนสะอาดเรียบร้อยนั้น เหยียดหยิกหงิกงอเกร็งกระตุกระริกๆ ไปกับเพลงลิ้นของเสี่ยอ้วนที่ฉกกระซวกไปบนติ่งกระสันของเธออย่างรุนแรง เชี่ยวชำนาญ


เสียงของคันธรสครางครวญอย่างกระสันรัญจวน ผสานกับเสียงหัวเราะกระเส่าของสองเสี่ยชั่วดังอย่างเร่าร้อนดังปกคลุมไปทั่ว พื้นที่ของห้องนั้น!!!


………………..


พี่แต๋วที่สมัครใจเอนหลังในห้องพักของรีสอร์ทปางห้วยสักจนเต็มอิ่ม ก็ลุกขึ้นมายืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าห้องพัก ตอนนั้นก็สอดส่ายสายตาไปรอบๆ ปางอย่างสบายใจ ส่วนป้ากานตาที่นอนอยู่ด้วยกันก็เดินมาสมทบหลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย แล้ว


เฮ้อ...สบายใจจริงๆ นะ...กานตา...ดูพวกสาวๆ แล้วกระชุ่มกระชวยหัวใจดีจริง”


กรองกนกพูดยิ้มๆ พยักเพยิดกับเพื่อนซี้ ตอนนั้นได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกใสๆ แว่วมาเป็นระยะ พลางสอดส่ายสายตาไปยังร่างสวยสมบูรณ์กำดัดไปด้วยวัยสาวที่เดินไปๆ มาๆ ให้เห็นทั่วพื้นที่


อิอิ...ใช่ฉันก็ว่างั้น...ที่สำคัญนะ...ปีนี้น่ะ...พวกเด็กๆ กลุ่มนี้น่ะดี๊ดี...นิสัยดีน่ารักกันทุกคนเลย...ตั้งแต่เริ่มกิจกรรมเก็บตัว มา...กลมเกลียวกันดีตลอด...ไม่เห็นปัญหาอะไรเลยแม้แต่สักอย่างเดียว...จะมี บ้างก็แค่กลุ่มทะโมนไพรสี่คนนั่น...ซนเซี้ยวจริงๆ”


กานตาพูดเสียงแจ่มใส เพื่อนซี้ก็ผงกศีรษะเห็นด้วย เพราะปีที่ผ่านๆ มานั้น พอเข้าร่วมกิจกรรม จะมากจะน้อยก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างประปราย ตามประสาก็เด็กสาวๆ ที่ชอบแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน


แต่ก็น่ารักใช่ไหมล่ะ...น่าเอ๊นดูน่าเอ็นดูทั้งสี่คน...”


กรองกนดพูดยิ้มๆ ขณะที่เพื่อนซี้ชี้หน้าอย่างรู้ทัน


เชอะ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่...เธอน่ะเชียร์หนูนุชออกนอกหน้า...เห็นๆ กันอยู่”


กรองกนกหัวเราะร่วน ไม่ปฏิเสธแต่ตอกกลับ


ก็พอๆ กันล่ะ...เธอก็ถือหางน้องนิดเต็มที่เหมือนกันล่ะย่ะ...”


ว่าแล้วคุณป้าทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน พอดีตอนนั้นสามสาวแกงค์ทะโมนไพรตามฉายาที่ป้ากานตาพูดก็เดินหัวเราะร่วนกัน เข้ามา ที่จอนผมทุกคนปักดอกไม้ป่าช่อสวยสีขาว ทำให้ใบหน้าสวยใสทั้งสามนั้นดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มกันไปตามๆ กัน


สองป้าจึงเดินเข้าไปทักทาย


เป็นไงจ๊ะ...สาวๆ...ไปเที่ยวไหนกันมาล่ะนั่น...โอโห...มีดอกไม้ทัดหูกันด้วย...สวยจริงเชียว”


กรองกนกเป็นคนทัก รัชนีที่เป็นหัวหน้าแกงค์สาวซ่ากลายๆ เพราะเซี้ยวที่สุด ยิ้มหวานย่อตัวพนมมือไหว้ขอบคุณในคำชมนั้น


พวกเราไปเดินเที่ยวป่ามารอบหนึ่งค่ะ...ทางไกด์เขาใจดี๊ใจดี ตัดช่อดอกไม้แจกด้วย”


นิรัชราเองก็หัวเราะผสมเสียงใส ก่อนจะกวาดตาไปรอบๆ


ใช่ค่ะ..ดอกไม้สวยเหลือเกิน...พวกเรายังบ่นถึงนุชกันอยู่เลยค่ะ...ว่าเสียดายไม่ยอมมาด้วย”


อ้าว...พี่แต๋วก็นึกว่าน้องนุชไปกับพวกน้องๆ เสียอีกแน่ะ”


กรองกนกอุทาน พลางกวาดสายตาไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นร่างเล็กบางนั้นแม้แต่เงา


มุกดาสาวน้อยจากธรรมศาสตร์ยิ้มว่า


เห็นนุชเขาบอกว่าขี้เกียจเดินค่ะ...สงสัยคงเดินเล่นอยู่แถวๆ นี้...เอ...แต่บางทีอาจจะเบื่อๆ เลยเปลี่ยนใจเดินไปทางสวนดอกไม้ก็ได้นะคะ”


กรองกนกผงกศีรษะ ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรนักในเวลานั้น


แต่ทว่าพอพวกบรรดากลุ่มสาวๆ ที่แยกย้ายกันไปเที่ยวตามใจอยากเริ่มทยอยกันกลับมา พี่แต๋วมองไปรอบๆ ใช้สายตากะๆ ก็คะเนว่าพวกนักศึกษาที่มาในกองประกวดนั้นน่าจะกลับมาจนครบแล้ว จะขาดก็อยู่แต่อรนุชคนเดียว ซึ่งไม่ว่าเธอจะมองชะเง้อไปตรงไหนในบริเวณทั่วพื้นที่นั้น ก็ยังไม่เห็นร่างเล็กบางแม้แต่เงา ในใจชักเริ่มเป็นห่วง


เอ...น้องนุชหายไปไหนล่ะนี่


กรองกนกเดินไปรอบๆ บริเวณปาง แต่ก็ยังไม่พบอรนุช ทำให้ใบหน้าของเธอจึงเริ่มมีวี่แววของความรู้สึกวิตกทุกข์ร้อน ก็พอดีเห็นเจ้าของปางห้วยสักขับรถจี๊ปกลับมาจากบริเวณสวนสัก นำคณะคุณลุงคุณป้าที่ออกทัวร์ชมการทำสวนป่าสักกลับมา ก็เดินเกร่เข้าไปหา โล่งใจขึ้น...คิดว่าอรนุชน่าจะติดตามขบวนนี้ไปเป็นแน่


แต่เสียงพูดคุยหัวเราะของบรรดาคุณลุงคุณป้าที่ทยอยกันเดินออกมาจากรถบรรทุก ขนาดเล็กนั้นจนหมด ก็ไม่เห็นมีวี่แววของอรนุชแม้แต่เงา ทำให้กรองกนกใจหายวาบ รีบเดินเข้าไปหาคมศร


พ่อเลี้ยงคะ..พ่อเลี้ยง...น้องนุช...เด็กในคณะประกวดคนหนึ่งน่ะค่ะ...ตอนนี้ไม่รู้แกหายไปไหน...”


เสียงของเธอสั่นๆ คมศรซ่อนยิ้มไว้ในหน้า ทำทีเป็นปกติ กล่าวยิ้มๆ


คนตัวเล็กๆ ผิวขาว ไว้ผมยาวเลยบ่าไปหน่อยใช่หรือเปล่าครับ?”


พี่แต๋วเบิกตาโต


ใช่..ใช่ค่ะ...พ่อเลี้ยงเห็นหรือคะ...”


เจ้าของปางห้วยสักผงกศีรษะ หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาคนสนิท พลางพูดว่า


รู้สึกตอนที่ผมกำลังจะออกไปสวนสัก เห็นเธอขี่ม้าเล่นอยู่หลังรีสอร์ทน่ะครับ...”


พี่แต๋วทาบมือกับอกอย่างโล่งใจ ถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ บ่นพึมพำ


แหม..น้องนุชน้า....น้องนุช..ทำเอาพี่แต๋วงี้ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม...”


ใบหน้ายิ้มๆ ของพ่อเลี้ยงปางห้วยสักเริ่มเลือนหายไป เมื่อเสียงเรียกสายของเขาไปยังคนสนิทไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด...


พี่แต๋วมองเห็นอย่างนั้นแล้วรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไรพิกล ในตอนนั้นฉุกคิดขึ้นมาได้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังอรนุชทันที เสียงสัญญาณเรียกดังขึ้นสองสามครั้งเสียงร่าเริงของอรนุชก็แว่วมา


พี่แต๋วหรือคะ....”


น้องนุช!!!...น้องนุชหรือจ๊ะ...โอยยย...คุณพระคุณเจ้าช่วย...โธ่เอ๋ย...น้องนุชจ๋า....พี่แต๋วจะเป็นลม...”


พี่แต๋วยกมือทาบหน้าผากตัวเอง ร้องเสียงเครือออกมาสั่นสะท้าน ท่ามกลางสีหน้าโล่งใจยินดีราวกับยกภูเขาออกจากอก พอๆ กับสีหน้าของคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินเสียงอุทานของสตรีผู้สูงวัยกว่า ร่างสูงใหญ่ลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ โดยระวังไม่ให้พี่แต๋วสังเกตเห็น


แต่ยังไม่ทันความโล่งใจ โล่งอกจะบังเกิดขึ้นสักเท่าใด เสียงอุทานอย่างตกใจของอรนุชก็แว่วมา


อุ๊ย.....”


จากนั้นเสียงที่ดังมาอีกด้านเหมือนกับเสียงโทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนพื้น ใบหน้าของพี่แต๋วซีดเผือดร้องเสียงสั่น


น้องนุช...น้องนุช”


เงียบ...ไม่มีเสียงตอบอะไรจากอีกด้าน แต่ปลายสายนั้นยังเปิดทิ้งคาอยู่อย่างนั้น คมศรถือวิสาสะดึงโทรศัพท์ไปจากมือของพี่แต๋ว และกรอกเสียงลงไป


คุณนุช...คุณนุชครับ”


เสียงซ่าๆ ดังตอบกลับมา ก่อนที่คมศรจะเบิกตาโพลงเพราะเสียงร้อง ฮียยยยยยสส์ ดังกังวานที่ลอดเข้ามานั้น เจนหูเขาเหลือเกิน...เสียงนั้นมันเต็มไปด้วยร่องรอยของความเจ็บปวดแตกตื่นใจ ของม้าตัวโปรด


เจ้าหมอก.....


คมศรร้องลั่นในใจ ใบหน้าเครียดจนเกือบๆ จะกลายเป็นเหี้ยมเกรียมไปพลัน ชายหนุ่มรีบตัดสายสัญญาณส่งคืนโทรศัพท์ให้กับพี่แต๋วซึ่งทำหน้าอย่างกับจะ ร้องไห้ ใบหน้าซีดเผือด กล่าวเสียงแหบแห้ง


น้องนุช...น้องนุช...”


ใจเย็นๆ นะครับ...ผมขอร้อง...ขอให้คุณแต๋วเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก่อน...อย่าเพิ่ง ให้แพร่ลุกลามออกไป..ผมจะตรวจสอบดูก่อน...ขอนะครับ...คุณแต๋ว...ผมจะรีบ ติดต่อกลับมาเมื่อรู้เรื่องแล้ว”


กล่าวจบ ร่างสูงนั้นหันกลับวิ่งไปยังรถจี๊ป ก่อนจะกระชากรถวิ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้กรอกกนกยืนตัวสั่นทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้อยู่กับที่นั้น


.....................


ใบหน้าของอรนุชเปี่ยมไปด้วยความตระหนกตกใจ ที่อยู่ดีๆ คนนำทางของเธอก็หวนหน้าม้าวกกลับมา ยังไม่ทันที่เธอจะมีปฏิกิริยาอะไร นายคำก็ฉวยโทรศัพท์ไปจากมือเธอ และโยนเหวี่ยงไปไกลๆ อย่างสุดแรง


อุ๊ย...นี่คุณทำอะไรน่ะ”


เด็กสาวร่างบางร้องอย่างตกใจ พลางกระตุกบังเหียนชะลอให้เจ้าหมอกชะงักตัวลง ก่อนจะพยายามเบนหน้าม้าไปยังทิศทางที่อีกฝ่ายโยนโทรศัพท์ของเธอทิ้งไป


แต่นายคำไม่อนุญาตให้เธอทำเช่นนั้น ในมือของชายฉกรรจ์หน้าซูบปรากฏมีมีดสปาร์ต้าด้ามยาวคมกริบด้ามหนึ่ง ใบหน้าซูบเกรียมนั้นไม่พูดอะไรสักคำเป็นการตอบคำถามอรนุชก็จ้วงมีดในมือลง เข้าไปสะโพกด้านหลังของเจ้าหมอกอย่างถนัดถี่


ฮียยยยยยยยยยยสส์


เสียงเจ้าโธโรเบลดดำปลอดนั้นร้องคำรามลั่นอย่างเจ็บปวด ม้าตัวพ่วงพีนั้นแผดเสียงดังก้องพร้อมๆ กับยกขาหน้าขึ้นสูง จนอรนุชที่บังคับอยู่ด้านหลังต้องยึดบังเหียน และหนีบเข่าแน่นไปกับอาน ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความแตกตื่นตกใจในการกระทำของอีกฝ่าย


เจ้าหมอกกระแทกเท้าลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด ก่อนที่ความแสบซึ่งบังเกิดขึ้นแผ่ลามไปทั่วร่างกายจะกระตุ้นให้ตัวของมัน วิ่งเตลิดออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้ทิศทางด้วยความเร็วสูงราวกับจะเหินบิน


อรนุชที่อยู่บนหลังม้า กระตุกบังเหียนอย่างไรก็ไม่มีปัญญาควบคุมอาการคุ้มคลั่งของเจ้าหมอกได้อีก ต่อไปแล้ว ขาที่หนีบกระตุ้นสัญญาณบอกให้เจ้าหมอกชะลอฝีเท้านั้นไม่มีการตอบรับ เด็กสาวกัดฟันแน่น โน้มร่างบางของตัวเองลงไปกับแผงคอของเจ้าหมอก โอบรัดไปที่ลำคอของแข็งแรง พยายามส่งเสียงปลอบไปที่ข้างหูที่ลุกชันของมัน พร้อมๆ กับลูบไปที่คออย่างนุ่มนวล ซึ่งม้าเตลิดหลายตัวที่เธอเคยขึ้นหลังในอดีตนั้น เด็กสาวก็ใช้วิธีนี้มาแล้วอย่างได้ผล


เจ้าหมอกที่กำลังคลั่งด้วยความเจ็บ ได้รับการปลอบประโลมจากเจ้านายตัวน้อยที่ด้านหลังทำให้มันค่อยๆ หายจากอาการตื่นทีละน้อย อรนุชยิ้มออกมาได้ กล่าวเสียงหวาน


อย่างนั้นจ้ะ..ดีมาก...เจ้าหมอก..ดีมาก...ช้าลงๆ...”


เสียงใสที่ราวกับมนตราที่มีอำนาจวิเศษ เจ้าโธโรเบลดเริ่มมีอาการที่สงบลง จนรับสัญญาณจากสายบังเหียนของเด็กสาวแล้ว อรนุชยอร่างของเจ้าหมอกดำช้าๆ พยายามเบนศีรษะของมันให้หันกลับ


แต่ทว่าในตอนนั้นเอง นายคำที่ควบม้าสีน้ำตาลที่แข็งแรงพ่วงพีไม่น้อย แต่ฝีเท้ายังสู้เจ้าหมอกไม่ได้ จึงได้แต่ตามหลังมา พอเจ้าหมอกผ่อนฝีเท้าลง ชายฉรรจ์ร่างซูบก็โผนม้าเข้ามาเทียบ แล้วจ้วงมีดลงย้ำลงไปที่แผลเก่าอย่างเลือดเย็น ไม่มีความปราณีแม้แต่น้อย


เจ้าหมอกร้องลั่น เสียง ฮียยยยยยยยยยยส์ ดังกันวานไปทั่วชายป่า คราวนี้ความเจ็บแสบที่ได้รับบวกเพิ่มไปเป็นทวีคูณ ทำให้ร่างเปรียวของมันเตลิดพุ่งไปอย่างบ้าคลั่ง คราวนี้ไม่ว่าอรนุชจะปลอบอย่างไรก็ไร้ผล เด็กสาวร่างบางทำได้ดีที่สุดคือพยายามเลี้ยงตัวเองให้นั่งอยู่บนหลังอานนั้น ไม่ให้ร่วงหล่นลงไปกับพื้น ใบหน้างามนั้นละล้าละลังอย่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะที่นายคำที่ควบม้าตามไปห่างๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นต่อสายไป และส่งเสียงเร่งร้อน


พ่อเลี้ยงครับ...ตอนนี้นังเด็กนั่นกำลังอยู่บนหลังม้า วิ่งตรงไปยังบริเวณทุ่งผึ้งครับ...คงจะได้ตัวเร็วๆ นี้...พ่อเลี้ยงจะให้เอาตัวไปที่ไหนครับ”


เออ...เอาไปเก็บไว้ที่กระท่อมบนดอย...ควบคุมเอาไว้ให้ดี...ฉันเสร็จธุระที่ปางแล้วจะขึ้นไป”


เสียงกระด้างดังตอบกลับมา ชายฉกรรจ์รับคำอย่างนอบน้อม ก่อนจะกระตุ้นม้าควบตามเจ้าหมอกที่วิ่งเตลิดอยู่เบื้องหน้าอย่างเต็มกำลัง


อรนุชแลเห็นเจ้าหมอกเริ่มหอบหายใจหนักๆ ฟืดฟาด ที่ปากมีน้ำลายขาวฟ่อดออกมา ก็ต้องน้ำตาไหลด้วยความสงสาร ยกมือกอดไปที่แผงคอของมันแน่น สะอื้นออกมา


เจ้าหมอก...เป็นเพราะฉันจะขี่เธอ...เธอเลยต้องเป็นแบบนี้...ฮือฮือ...”


โธโรเบลดที่เตลิดมาด้วยฤทธิ์แห่งความเจ็บปวด จนในที่สุดก็เกินกว่าที่กำลังของมันจะทนไหว ร่างพ่วงพีกำยำของเจ้าหมอกนั้นวิ่งจนหมดแรง ขาอ่อนหัวซุน ร่างที่พุ่งด้วยความเร็วสูงนั้นคู้ขาหน้าลง ก่อนจะพลิกดิ้นปัดๆ ลงไปกับพื้น พร้อมๆ กับเหวี่ยงร่างเล็กบางของอรนุชกระเด็นหวือออกไป


อรนุชขดตัวเป็นก้อนกลม ใช้สองแขนบังอยู่ตรงศีรษะ ร่างกลิ้งหลุนๆ ไปตามพื้นดินเป็นการทอนแรงเหวี่ยงอันมหาศาลของเจ้าหมอก จนกระทั่งพลิกมานอนหงายกับพื้น ถึงแม้จะทิ้งตัวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เป็นอันตรายจนบาดเจ็บรุนแรง แต่การเหวี่ยงจากเจ้าหมอกก็ยังทำให้เด็กสาวหัวหมุนตาลาย ดวงตากลมโตนั้นเบลอพร่าไปหมด


เสียงฝีเท้าม้าวิ่งกุบกับเข้ามาหยุดลง พร้อมๆ กับร่างผอมเกร็งของนายคำกระโดดลงมาจากม้า


ลุก...”


เสียงแหบนั้นตวาดมาอย่างห้วนเหี้ยม มือหยาบนั้นตะปบดึงไปที่ต้นแขนบางของอรนุชที่นอนมึนอยู่บนพื้น และฉุดร่างของเด็กสาวขึ้นมา


อรนุชที่คลายความมึนงง ก็สะบัดตัวเต็มแรงจนหลุดจากปลอกมืออันแข็งแรงนั้น ก่อนจะวิ่งน้ำตาไหลตรงไปยังร่างของเจ้าหมอกที่นอนฟุบอยู่บนพื้นน้ำลายฟูมปาก เด็กสาวร่างเล็กบางโผไปกอดที่แผงคอของมันร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ


ฮือฮือ...เจ้าหมอก...เจ้าหมอก...เธอต้องไม่เป็นอะไรนะ”


นายคำเดินหน้าเกรียมกลับมา มองร่างเล็กบางนั้นอย่างสมเพท


อะไรวะ...ตัวเองจะเป็นจะตาย...อนาคตยังไม่รู้เลยว่าจะเจออะไร...ยังทำเป็นห่วงม้าอีก...


ชายร่างผอมเกร็ง เดินเข้ามากล่าวเสียงห้วน


เลิกร่ำไรได้แล้ว เราต้องออกเดินทางอีก”


อรนุชหันขวับมา ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างอย่างขุ่นแค้น ตวัดเสียงแหลม


ใจร้าย...ทำไมต้องทำกับเจ้าหมอกขนาดนี้”


นายคำเลิกคิ้ว แค่นหัวเราะออกมา กล่าวว่า


เป็นห่วงตัวเองให้มากก่อนเถอะ...อย่าไปห่วงไอ้หมอกนี่เลย...มันโดยมีดอาบยาเข้าไป...เดี๋ยวก็ตายแล้ว”


อรนุชใจหาย หันกลับมายังเจ้าหมอกที่ตอนนั้นเริ่มหายใจแผ่วลงไปทุกขณะจิต ร้องไห้ออกมาเสียงดัง ฟุบหน้าไปกับแผงคอที่กำยำของมัน


ฮือฮือ...เจ้าหมอก...เจ้าหมอก...ฉันเสียใจ...เสียใจจริงๆ...ถ้าฉันไม่ดื้อจะขี่เธอ...ฮือฮือ


นายคำชักหงุดหงิดใจ ร้องไห้อยู่นั่นแหล่ะ...เดี๋ยวไอ้พ่อเลี้ยงสิงห์มันก็คงตามมาแล้ว


ร่างผอมเกร็งนั้นปราดเข้าไปตะปบที่หัวไหล่บางที่กำลังไหวสะท้านอยู่ราวกับกรงเล็บมาร ฉุดดึงอรนุชขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย


อรนุชครางออกมาอย่างเจ็บปวด ร่างเล็กบางสะบัดดิ้นเต็มแรงแต่ก็ไม่หลุด เด็กสาวเม้มปากอย่างโกรธจัด ร่างเล็กบางหมุนกลับ ตวัดเท้าเล็กๆ ของเธอกระหน่ำไปตรงบริเวณท้องน้อยของนายคำสุดแรง


แต่นายคำไม่ใช่สวะเหมือนกับชิดและพวกแกงค์เด็กนรก เขาเป็นมือดีที่ได้รับการไว้วางใจให้เข้ามาแทรกซึมในปางห้วยสักของคมศร อีกประการหนึ่งหลังจากเฝ้ามองอรนุชแสดงฝีมือสยบเจ้าหมอกแสนพยศลงได้กับตา ชายฉรรจ์ร่างผอมเกร็งนี้ก็คำนวนในใจว่าเด็กสาวตัวเล็กคนนี้น่าจะมีฤทธิ์ไม่ ใช่เล่น ดังนั้นจึงเข้ามาจู่โจมอรนุชด้วยท่วงทีที่ระแวดระวังอยู่ก่อนแล้ว


พอเด็กสาวหมุนตัวเตะ ร่างผอมซูบก็เบี่ยงตัวหลบทัน ก่อนที่จะใช้สันมือหนักๆ ฟันกระแทกลงไปที่บริเวณบ่าเล็กๆ ต่อต้นคอของเด็กสาวอย่างแรง อรนุชกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ่อนระทวยปวกเปียกไปโดยพลัน ร่างเล็กบางห้อยร่องแร่งอยู่กับกรงเล็บของอีกฝ่ายที่ตะปบหัวไหล่ของเธออยู่ มีสภาพไม่ต่างอะไรกับที่นายคำกำลังหิ้วตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจตัวหนึ่ง


ชายฉกรรจ์ร่างเกร็งแบกร่างของอรนุชที่สิ้นสติไปแล้ว ไปวางพาดบนหลังม้าแล้วกระโจนขึ้นไปควบม้าสีน้ำตาลตัวนั้นตะลุยฝ่าทุ่งตรงไป ยังแนวป่าที่เห็นอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า


........................


เสี่ยทองยิ้มกระเส่า มองร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องของคันธรสที่นอนระทวยปวกเปียก หลังจากที่หญิงสาวเพิ่งล้ามาจากอาการดิ้นเร่าๆ สุดขีด เพราะถึงจุดกระสันต์ทะลักแตกไปคาลิ้นสากของเสี่ยร่างอ้วนที่จู่โจมใส่ร่อง สวาทของเธออย่างชำนิชำนาญ


ใบหน้างามบาดตาของคันธรสแดงฉานก่ำไปจรดใบหู หญิงสาวนอนหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยราวกับขาดใจ อกอวบสองเต้านั้นสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะตามการสูดลมหายใจทั้งทางปากและจมูก ยั่วสายตาของเสี่ยชั่วทั้งสองที่ตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนนอนขนาบอยู่ทางซ้าย และขวาของไฮโซสาวสวย


เสี่ยอ้วนยิ้มแก้มอูมของตัวเอง กล่าวเสียงกระเส่า


คุณรสขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อย คงจะต้องถึงตาผมบ้างล่ะนะครับ”


คันธรสที่ได้ยินเสียงแหบห้าวดังแว่วเข้ามานั้น พลันเรียกสติที่กับฟุ้งซ่านให้กลับคืนมา ตอนนี้ยามที่เพลิงสวาทที่เมื่อครู่อัดอั้นอยู่ในอกจนแทบระเบิดจนทำให้เธอหมด ปัญญาหักห้ามความต้องการ ต้องเสนอร่างกายตอบสนองต่อการเล้าโลมของสองเสี่ยนั้นได้สงบลง ความรักนวลสงวนตัวก็พลุ่งขึ้นมา


ถึงแม้เธอจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ และผ่านเกมกามมากับศักดาและเสี่ยเซี้ยงอย่างโชกโชน แต่สองเสี่ยเบื้องข้างเป็นใคร? พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจาบจ้วงบนร่างกายของเธอเช่นนี้...


คันธรสพยายามดิ้นรนให้ลุกขึ้นจากเตียง กล่าวเสียงหอบถี่ใบหน้าแดงก่ำ


รส..จะกลับแล้ว”


โอ๊ว...จะรีบไปไหนล่ะครับ...เมื่อครู่นี้ผมช่วยคุณรสจนถึงฝั่งฝันไปแล้ว...เรากำลังมีความสุขด้วยกันไม่ใช่หรือครับ...คนสวย”


เสี่ยทองหัวเราะกระเส่า มือไม้ของเขาก่ายกอดไปตามเนื้อขาวที่ขาวผ่องของคันธรส ที่กรีดร้องโวยวายออกมา


อย่านะ...เสี่ยไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับรส...”


ร่างงามดิ้นพร่าน เมื่อมือของเสี่ยทองนั้นลากเข้ามาขยำตรงบริเวณขาอ่อนของเธอ ขณะที่มือของเสี่ยคิ้มก็โอบมาจากด้านหลัง อุ้งมือหยาบนั้นตะปบคลึงอยู่บนเต้าอวบขาวของเธออย่างกระหายหื่น ปากหนาๆ ของเสี่ยค้าทองก็ซอนไซร้ไปตามซอกคอขาวด้านหลังคอของเธอ สร้างความรังเกียจให้เกิดขึ้นแก่คันธรสสุดเปรียบปาน หญิงสาวกรีดร้อง ดิ้นรนสุดชีวิต พยายามสลัดตัวให้พ้นจากการเฟ้นฟอนอย่างหยาบช้านั้น


เสี่ยอ้วนหัวเราะร่วน


พวกผมไม่มีสิทธิ์...แต่นายปานเทพมีใช่ไหมครับ...ฮ่ะฮ่ะ...อะไรกัน...ผมขอ ให้คุณรสแค่ช่วยหว่านล้อมนายปานเทพ...ไม่คิดว่าคุณรสคนสวยจะเห็นแก่หน้าผม ถึงกับลงทุนทั้งตัวช่วย...ฮ่าฮ่า”


ร่างงามที่กำลังดิ้นรนนั้นอ่อนเปลี้ยไปพลัน...ใบหน้างามของคันธรสซีดสลด หญิงสาวสั่นศีรษะระรัว ปากคอสั่นเมื่อว่า


รส..รสไม่รู้...มัน...มัน...ไม่ใช่อย่างที่เสี่ยเข้าใจนะ...”


แต่ผมเห็นกับตา...แล้วนี่จะให้ผมบอกกับเสี่ยเซี้ยงยังไงครับ”


เสี่ยทองกล่าวเสียงหื่น คันธรสใจหาย ใบหน้างามซีดเผือด ละล่ำละลักวิงวอน


เสี่ย...เสี่ย...รสขอร้อง...อย่าบอกเสี่ยเซี้ยงนะคะ”


เสี่ยชั่วทั้งสองระเบิดเสียงหัวเราะ เสี่ยคิ้มแลบลิ้นเลียปาก


มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณรสจะช่วยผมปิดปากหรือเปล่าละครับ..คนสวยของคิ้ม”


คันธรสสะอื้นไห้ ร่างงามที่จำเดิมกำลังบ่ายเบี่ยงการกอดรัดจากสองเสี่ย เริ่มค่อยๆ หมดปฏิกิริยาขัดขืนไป จนในที่สุดปากหนาของเสี่ยค้าทองก็สามารถประกบจูบไปบนปากงามของหญิงสาว ที่นั่งอ่อนระทวย พ่ายแพ้...ไร้ความคิดจะขัดขืนดิ้นรนอะไรอีก


ปากนุ่มของหญิงสาวจึงถูกประกบบดเบียดอย่างกระหายจากเสี่ยค้าทอง ซึ่งฉกลิ้นเข้าไปกระหวัดพันลิ้นนุ่มของคันธรสอย่างกระหาย ส่วนเสี่ยทองที่หัวเราะจนพุงกระเพื่อม ก็กระทอกควยอวบของตัวเองจนยืดขยายบานหัวร่าดำคล้ำ หัวถอกนั้นขนาดไม่ด้อยไปกว่าของเสี่ยเซี้ยงสักเท่าใด แม้ว่าความยาวของเสี่ยร่องอ้วนนั้นจะห่างไกลกับท่อนซุงอวบของเสี่ยโฉด


ร่างงามของคันธรสถูกสองเสี่ยจับจนพลิกคว่ำ และดึงให้คลานอยู่บนเตียง เสี่ยทองที่ประกบไปด้านหลังสะโพกที่อวบขาวกลมเปรี๊ยะของหญิงสาว ก็เบิกตามองดูกลีบพลูที่แอ่นย้อนกลับมาให้เห็นเต็มๆ ด้วยดวงตาแทบเบิกถลนออกมานอกเบ้า สองมือละเลงไปตรงปรีก้อนขาวอวบนั้น แบะออกจนร่องก้นขาวผ่องนั้นถ่างออกจนเห็นรูทวารที่แดงสดของสาวสวยรวยเสน่ห์


โอววว...มันช่างขาวอะไรเช่นนี้....คุณรสคนสวยของทอง...กลีบหีของคุณน่ะช่าง สวยราวกับกลีบดอกไม้เลย...ซี๊ดดดด...ซี๊ดดด...ยิ่งมันชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยน ของคุณ...มันก็ยิ่งสวนรู้ไหมคนดีของทอง...”


เสี่ยทองครางกระเส่า ก่อนจะละเลงมือบี้ไปตามหนั่นเนื้อนุ่มตรงแก้มก้นนั้นอย่างเมามัน คันธรสครางออกมาอย่างเสียวซ่าน เพราะแท้ที่จริง...ฤทธิ์ยาสวาทที่เสี่ยทองฉีดเข้าเส้นเลือดของเธอมันยังคงมี พลังอยู่อย่างเต็มเปี่ยม...แค่รอเวลาในการระเบิดปะทุอีกรอบหนึ่งเท่านั้น


ร่างงามของหญิงสาวที่คลานอยู่บนเตียงเริ่มแอ่นไหวสะท้านไปกับการเล้าโลมของ เสี่ยทอง เสียงครางของคันธรสยิ่งแรงขึ้นเมื่อเสี่ยคิ้มที่ประกบข้างๆ เริ่มใช้มือขยำไปบนสองเต้าอวบที่ห้อยตัวหยุ่นล้อมือของเสี่ยนักค้าทองอย่าง ยั่วยวนใจ นิ้วแข็งแรงนั้นปาดขยำซึมซับความเนียนละเอียดนุ่มของสองเต้าตูมนั้นอย่าง อร่อยนิ้วสุดๆ ปากหนาของเสี่ยค้าทองก็ไม่อยู่นิ่งเฉยๆ ระดมลากเลียไปตามแผ่นหลังที่ขาวสะอาดราวกับแผ่นหยกเนื้อดีที่หาตำหนิไฝฝ้า ไม่เจอ


เสี่ยทองที่มองเพื่อนเล้าโลมร่างงามตรงหน้า ก็หัวเราะกระเส่า ควยอวบที่เด้งหงึกหงักได้ที่ ก็จ่อพรวดเข้าไปในโพรงหลืบที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำรักจากร่องสาวที่ทะลักทะลายออก มาเมื่อครู่นี้ยามที่สาวสวยถึงจุดกระสันไปคาลิ้นของเขา มือหยาบข้างหนึ่งกดไปตรงเอวคอดกิ่วของคันธรสให้ร่างงามของหญิงสาวแอ่นต่ำลง ไปกับพื้นเตียงอีก ส่วนอีกมือหนึ่งตบไปที่โคนขาอ่อนเป็นสัญญาณให้สาวสวยแบะถ่างขาเธอให้กว้าง ขึ้น ซึ่งคันธรสก็ทำตามอย่างว่าง่าย สะโพกผายของหญิงสาวจึงแอ่นโค้งหงายขึ้นมาร่อนรับหัวถอกบานที่จ่อคอยอยู่ตรง กลีบอูมเธอขึ้นไปอีก


เสี่ยทองเบิกตากว้างไปยังแคมหีแต่ละข้างที่ทั้งขาวทั้งอูมกำลังอ้าเผยอขึ้น โดยมีน้ำใสๆ ไหลเอ่ออาบออกมาจากร่องหลืบสวาท กลีบอูมสวยนั้นขมิบถี่ถี่ราวกับปากลูกนกน้อยกำลังร้องเรียกการป้อนอาหารจาก แม่นก เสี่ยชั่วไม่รอช้ากดหัวหยักแหวะโพรงหลืบของคันธรสเข้าไปอย่างหฤหรรษ์ ร่างงามของหญิงสาวสะท้านวูบ ปากครางครวญ


อูยยยยย.....ซี๊ดดดดด...อ๊ะ....ซี๊ดดดดด”


ขนาดหัวบานของเสี่ยทองที่ราวกับกำปั้นเด็กนั้นไม่ด้อยไปกว่าของเสี่ยเซี้ยง เลย ทำให้คันธรสสะดุ้งเฮือก โก่งตัวและส่ายบั้นท้ายผายกลมของเธอไปมาอย่างเสียวซ่าน รับรู้ถึงปลายบานนั้นค่อยๆ แหวกกลีบแคมเข้าไปในร่างกายของเธออย่างช้าๆ...ลำอวบนั้นครูดคราดไปกับติ่ง เสียวของเธอถนัดถี่


อูยยยย...เสี่ย...เสี่ยทอง...ซี๊ดดดดด....รส...เสียววววว....”


ซี๊ดดดดด...อูวววว...แคมหีคุณมันรัดควยผมแน่นเหลือเกิน....โอวววว...คุณรส....ผมก็เสียวววว...ซี๊ดดดดด”


เสี่ยทองครางกระเส่าสูดปากอย่างเป็นสุข จนเสี่ยคิ้มมองมาอย่างอิจฉา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงรอบของตัวเอง จึงระบายความเงี่ยนง่านไปบนสองเต้าอวบของคันธรสไม่หยุด นิ้วที่ขยำขยี้ไปบนทรวงอกของหญิงสาว มันสร้างความเสียวซ่านรัญจวนใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวเธอสุดประมาณ....อา...ตอน นี้เพลิงสวาทที่ถูกปลุกปั่นจากฤทธิ์ยามันกำลังคุกกรุ่นได้ที่แล้ว...


ใบหน้างามของคันธรสแหงนเพริด แดงก่ำไปจรดใบหู หญิงสาวส่ายศีรษะไปๆมาๆ ผมยุ่งเหยิงที่ปกคลุมหลังไหล่นั้นสะบัดตามแรงเหวี่ยงของศีรษะ ส่วนช่วงล่างของเธอนั้นเล่า...หญิงสาวแบะท่อนขาของเธอเองออกจนถ่างกว้าง แอ่นโด่งสะโพกผายกลมงามงอนนั้นเต็มที่จนเชิดหงายพรูกลีบงามให้ล้อรับกับมุม เสียบจากท่อนควยอวบของเสี่ยทองให้เหมาะเจาะ ทำให้ลำควยของเสี่ยอ้วนนั้นแหวกชำแรกเข้าไปในร่างกายของหญิงสาวได้ถนัดถนี่ ยิ่งขึ้น เสียงครางกระเส่าของเสี่ยเจ้าของโรงแรมที่กำลังจะเจ๊งจนต้องวางแผนชั่ว ร้องสูดปากอย่างอร่อยควย


ซี๊ด...แน่นชิบหายเลย....อูววววว......เสี่ยคิ้ม.....ซี๊ดด.....หีฟิตรัด ควยสุดยอดจริงๆ...โอววว...ไม่อยากเชื่อว่าผ่านควยของเสี่ยเซี้ยงมาแล้ว.... อูวววววว”


คันธรสกัดปากครางครวญ ถึงแม้ลำอวบนั้นที่ดันเข้ามาจนสุดหนอกควย จะยังไม่เข้ามาลึกถึงขนาดของเสี่ยเซี้ยง แต่ความอวบนั้นแหวกดันกลีบแคมของเธอแต่ละข้างจนแหกอ้า สร้างความเสียวซ่านรัญจวนใจให้เกิดขึ้นกับตัวเธอจนต้องเกร็งมือ เกร็งเอว ขมิบรัดโพรงสวาทของเธอรัดตอดเข้าใส่ลำอวบนั้นอย่างเร่าร้อน...


อูยยยย...หีตอด...ตอดสุดๆ...อูยยยยย....มันส์ควยชิบหาย....”


เสี่ยทองร้องลั่น เกร็งหน้าท้องที่เต็มไปด้วยไขมัน เริ่มกระเด้ากระแทกลำควยของตัวเองผลุบเข้าผลุบออก หนอกควยที่กระแทกป้าบๆ เข้าไปที่แก้มก้นนั้นทุกครั้งลำอวบของเสี่ยอ้วนก็จะครูดเบียดดูดเม็ดแตด กระสันของคันธรสให้ยู่ยี่ย่นหลุบเข้าออกไปมาในโพรงเนื้อสาวสดนั้น สร้างความเสียวซ่านระเริงให้เกิดแก่เจ้าของโพรงหลืบสาวสวยจนตัวสั่นสะท้าน แอ่นสะโพกกระตุกวาบสวนกลับรับการกระเด้ากระแทกของเสี่ยทองอย่างร้อนร่าน เสียง ปั่บๆๆๆๆๆ ดังขึ้นเป็นจังหวะจะโคน พร้อมๆ กับเสียงของหญิงสาว โอ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะๆๆๆๆ..


เสี่ยทองแสยะยิ้มอย่างกระหาย มือขยำไปที่ปรีก้นขาวงอนไม่หยุด ปากก็ร้องกระเส่า อูซซซซ อูซซซซ ไปตามจังหวะลูกสูบควยที่พรวดเข้าพรวดออกอย่างเมามัน ปั่บๆๆๆๆๆๆ


คันธรสแหงนหน้าเพริด ปากบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน แอ่นบั้นท้ายขาวงอนของเธอกระเด้งรับการกระเด้าจากควยอวบอย่างร้อนร่าน ง่ามก้นที่ขาวจั๊วะที่ลอยเด่นตรงหน้าของเสี่ยทองนั้นขมิบส่ายไปมาไม่หยุด พรูกลีบที่แหงนร่อนกลับมานั้นเริ่มผลิตน้ำเมือกขาวๆ จับไปตามลำอวบอ้วนที่กำลังบดขยี้ผนังโพรงนั้นอยู่ จนลำเอ็นดำของเสี่ยทองที่เวลากระชากออกมาจากร่องหลืบนั้นเป็นมันวาวสะท้อน แสงวูบวาบ


ซี๊ดดดด...โอววว...เย็ดมันส์สะเด่าควยจริงๆ....โอย...ตูดก็ขาว...แน่นก็ แน่น...อูยยยยย..คุณรสคนสวย...คืนนี้ทองจะกระเด้าไม่ให้คนสวยได้พักเลย...อู วววว...อูววววว”


ความเสียวซ่านที่แผ่ลามมาจากตรงโคกอูมที่กระจายไปทั่วร่างกาย บวกกับแรงเสริมจากการขยำขยี้ของเสี่ยคิ้มที่ไม่หยุดยั้งการเฟ้นฟอนสองเต้า อวบงามนั้น ก็ทำให้คันธรสสะท้านเฮือกๆๆๆ ร้องระบายความเสียวออกมาอย่างสุดรัญจวนใจ


อูวววววว...ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดดด...อูววววว.....ซี๊ดดดดด....ซี๊ดดดดดด”


เพลิงสวาทที่ลุกท่วม กระตุ้นเร้าให้โพรงสวาทของคันธรสดูดรัดท่อนอวบที่ทะลวงเข้ามาอย่างดูดดื่ม ผนังเนื้อที่อ่อนนุ่มหลั่งน้ำเมือกออกมาหล่อเลี้ยงท่อนควยของเสี่ยทองราวกับ น้ำป่าไหล ท่อนควยที่ทะลวงอย่างเมามันนั้นบังเกิดเป็นเสียงแจ๊ะๆๆๆๆ ขึ้นมาเมื่อน้ำเงี่ยนของคันธรสนั้นมันหลั่งไหลออกมาจนฉ่ำเยิ้มไปทั่วกลีบอูม ซึ่งช่วยให้การประเคนท่อนอวบเสี่ยทองทำได้อย่างคล่องขึ้นลื่นขึ้น เสียงดังต่อเนื่อง ปั่บๆๆๆๆๆๆ


แก้มก้นที่เปล่งปลั่งขาวนวลเนียนของคันธรสเริ่มแดงเป็นผื่น ความขาวสดของร่องก้นที่อยู่ผ่ากลางของปรีก้นอวบขาวไร้ร่องรอยตำหนิ มันช่างสร้างความหฤหรรษ์ให้แก่เสี่ยทองที่เบิกตาแทบถลน ก้มมองดูผลงานของตัวเองอย่างสาแก่ใจ


ซี๊ดดดดด....มันส์ควยจริงๆ....อูวววววว.....สุดยอดดดดด....ซี๊ดดดด.... เสี่ยคิ้ม...เดี๋ยวถึงรอบเสี่ยคิ้มแล้วจะรู้ว่าสวรรค์บนดินน่ะมีจริง....อู ววววว....ซี๊ดดดดด...ตอดอีกแล้ว...คุณรสคนสวยของทอง...หีตอดตุ๊บๆๆ..เลย”


คันธรสฟังคำพูดของเสี่ยทอง คราวนี้เพราะเพลิงสวาทที่ลุกท่วมจนบดบังสติสัมปปชัญญะของเธอไปแล้ว หญิงสาวจึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรกับความรู้ที่ว่าหลังจากเสี่ยทองไปแล้ว โพรงสวาทอันอ่อนนุ่มของเธอก็จะถูกส่งต่อให้เสี่ยคิ้มรับช่วงอีกทอดหนึ่ง... ราวกับเธอเป็นหญิงบริการที่ทั้งสองเช่าซื้อมากระนั้น...ปากงามของเธอห่อครวญ ครางอย่างเสียวซ่านอยู่ถ่ายเดียว ไม่คำนึงถึงอะไรอื่นๆ แม้แต่น้อย


อูววววว....โอวววว..โอวววว...อ๊ะๆๆๆๆๆ....อ๊ายย...อ๊ายยย”


ท่ามกลางเสียงครางระงม หญิงสาวก็แอ่นเอว เด้งสะโพกให้ลอยโด่งขึ้นเพื่อรับการโถมกระแทกของลำควยนั้นให้ถนัดถนี่เหมาะ เจาะมากขึ้น เสี่ยทองเห็นอย่างนั้นก็เร่งเครื่องกระเด้าลำอวบเป็นการใหญ่ เสียง ปั่บๆๆๆๆๆ ดังสนั่นหวั่นไหว


เสี่ยคิ้มที่มองเห็นอย่างนั้นก็งุ่นง่านสุดจะทนทาน เร่งเร้าภวนาให้เสี่ยทองถึงที่ไปไวๆ ตัวเองจะได้ต่อบ้าง ตอนนี้ก็ได้แต่ระบายอารมณ์โดยการบิดร่างของคันธรสที่คลานขวางอยู่ให้แอ่นตัว พลิกมาทางด้านเขา และโน้มหน้าลงไปอ้าปากโอบดูดหัวนมงามงอนบนสองเต้าอวบที่ตอนนั้นกำลังกระเด้ง กระดอนไปตามแรงกระเด้าอย่างเมามัน ปากหนานั้นวนเฟ้นสลับไปสองฟากก้อนอย่างอร่อยเสียงซ๊วบๆๆๆๆ ดังไม่หยุด


คันธรสเริ่มส่งเสียงครางหนักขึ้นๆ ตามเพลิงกระสันที่ไต่ระดับความเข้มไปเรื่อยๆ จากเพลงควยและเพลงลิ้นของสองเสี่ยที่จู่โจมเข้ามาบนเรือนร่างของเธอ


โอ้วๆๆๆ...อูวววๆๆๆๆ...อ๊ายยๆๆๆๆ....”


อูวววว..จะถึงที่แล้วใช่ไหมคุณรสคนสวย...ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวทองจะช่วยให้ถึงฝั่งฝันนะครับ...อูวววว”


ปากของเสี่ยอ้วนร้องกระเส่า กระเด้ากระแทกซอยควยเข้าใส่โพรงหลืบของคันธรสอย่างถี่ยิบ เสียง ปั่บๆๆๆๆๆ ดังสนั่น ร่างงามของหญิงสาวกระตุกเกร็งสะท้าน เนื้อขาวๆ ทั่วร่างเต้นระริกถี่ถี่ไปตามแรงกระแทกของควยอวบ
ใบหน้างามนั้นแหงนเริด ปากสูดกระเส่าคราง อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ


ซี๊ดดดดด...โอวววว...ขมิบสุดๆๆๆ...ตอดใหญ่แล้วววว....โออววววว....โอววว...อูยยยย...สุดยอด”


เสี่ยทองครางออกมา กัดฟันแน่น โหมแรงเร่งเครื่องกระเด้าลำอวบเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง หนั่นเนื้อหนอกควยบดกระแทกบี้ไปกับแก้มก้นขาวผ่องของคันธรส เสียงป้าบๆๆๆๆๆๆๆ เนื้อขาวๆ เต้นระริกรี้ แรงกระแทกนั้นแพร่ซ่านไปทั่วลำตัวงามจนสองเต้ากระเด้งกระดอน เสี่ยคิ้มโอบปากสลับซ้ายขวาตามดูดหัวนมที่เด้งดึ๋งดั๋งนั้นอย่างสนุกปาก ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดดดด


เมื่อเพลิงสวาทไต่ระดับเข้าสู่จุดทะลักเดือด ปากงามของคันธรสก็ห่อครางออกมาอย่างสุดเสียง


อ๊ะๆๆๆๆๆ...เสี่ย....เสี่ย...อ๊ะๆๆๆๆๆ...รส...รส..จะถึงแล้วค่ะ...อ๊ะๆๆๆๆ...”


ได้สิครับคนสวย...ผมก็จะถึงเหมือนกัน...”


เสี่ยทองร้องลั่น เกร็งหน้าท้องที่มีไขมันพอกจนอูมกระทอกควยถี่ยิบ ใบหน้าบิดเบี้ยวมันเยิ้มไปด้วยเหงื่อกาฬที่แตกทะลักออกมาจนชุ่มโชก เสียงปั่บๆๆๆๆๆ ดังราวกับเสียงปืนกล ประสานกับเสียงของคันธรสที่แหงนหน้าร้องกระเส่าสุดๆ อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ....อ๊ายยยย...อ๊ายยยย...อ๊ายยยยซซซซซซซซ


ร่างงามของหญิงสาวกระตุกถี่ถี่ราวกับถูกไฟฟ้าช๊อต ร่างบิดไหวพล่านไปมา แก้มก้นขาวนั้นขมิบเกร็ง โพรงสวาทดูดตอดระรัวใส่ลำควยที่บานแผ่คับอยู่ในร่องหลืบ ดูดรัดจนเสี่ยทองก็แหกปากร้องลั่นออกมา


อูวววววว....ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดดด...โอ้วววววว....อ๊าซซซซซซซซซซซ”


ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน ร่างอ้วนฉุก็กระฉอกน้ำเมือกพรวดพราดเข้าไปในร่างของคันธรสอย่างเต็มที่ โพรงสวาทของหญิงสาวนั้นยังบีบรัดและเค้นหยุบๆ ดูดดื่มรีดเร้นน้ำกามปรี๊ดๆๆๆ ออกจากหัวถอกบานที่อัดแน่นอยู่นั้นจนกระทั่งเสี่ยทองหอบหายใจราวกับจะขาดใจ ร่างอ้วนฉุเซถลาตึงๆ พลอยฉุดเอาควยอวบนั้นหลุดผลัวะออกมาจากร่องหลืบนั้น


เสี่ยคิ้มที่รอท่าอยู่นานแล้ว ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแม้แต่วินาทีเดียว วิ่งเข้ามาจ่อคิวของเสี่ยทอง แหกปากลั่นกระทอกควยอวบของตัวเองพรวดพราดผ่านกลีบอูมที่เหนอะหนะไปด้วยน้ำ เมือกของเสี่ยทองเข้าไปอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะกระเส่าหฤหรรรษ์


อูยยยย...อูยยยย...สุดยอด..สุดยอดจริๆ...อย่างที่เสี่ยทองว่าไว้เลย...ฮ่ะฮ่ะ...โอยยยยย...หีตอดตุ๊บๆๆ ไม่หยุดเลย...คนสวยของคิ้ม”


คันธรสครางออกมา เพลิงกระสันที่พลุ่งพล่านไปหยกๆ รีดเค้นพลังของเธอไปจนเกือบหมดตัว ทำให้ร่างงามนั้นล้มฟุบไปกับเตียง แต่เสี่ยคิ้มไม่สนใจ มือหยาบนั้นกำแน่นไปที่เอวคอดกิ่วของหญิงสาว จับสะโพกผายนั้นให้แอ่นตั้งขึ้น แทงกระทุ้งควยอวบเข้าใส่โพรงสวาทของหญิงสาวแสนสวยราวกับบ้าคลั่ง เสียง ปั่บๆๆๆๆๆ ดังสนั่นห้อง


เสี่ยทองหัวเราะกระเส่า นั่งแปะอยู่ข้างเตียง มองใบหน้าสวยบาดตาของหญิงสาวที่หันพลิกมาทางเขาอย่างหลงใหลในความงามนั้น และรอยยิ้มแสยะก็ยิ่งกว้างขวางขึ้น เมื่อแลเห็น อย่างช้าๆ ท่ามกลางเพลงควยของเสี่ยคิ้มที่กระเด้าราวกับลูกสูบนั้นมันได้กระตุ้นให้ สะโพกผายของคันธรสเริ่มส่ายวนไปมาและเด้งสะท้อนตอบการกระเด้าอันหนักหน่วง นั้น


เอาเลย...เสี่ยคิ้ม...หนักๆ หน่อย...คุณรสเขาอยากอีกแล้ว...ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”


เสี่ยคิ้มหัวเราะร่า ปากร้องซี๊ดดดดด ซ๊าดดดด มือจิกไปที่เอวคอดกิ่วนั้นแนบแน่น


ได้เลย...คนสวยของคิ้ม”


เสียงปั่บๆๆๆๆๆๆ แรงขึ้นถี่ขึ้น ร่างงามของคันธรสก็ค่อยๆ ยันตัวขึ้นมาและกระเด้าสะโพกผายของเธอตอบสนองอย่างร้อนร่าน ใบหน้างามแหงนเพริดนั้นแดงก่ำไปจรดใบหู ปากของหญิงสาวร้องกระเส่า


อูวววววว..โอววววว...อ๊ะๆๆๆๆ...อ๊ายยซซซซ”


เพลิงสวาทระลอกใหม่โถมทะลักเข้ามาจนคันธรสหมดปัญญาขัดขืนความต้องการ ร่างงามของเธอจึงพล่านระริกตอบสนองต่อเสี่ยคิ้มอย่างเร่าร้อน


เสี่ยนักค้าทองหัวเราะร่าน เมื่อเห็นร่างงามนั้นยันตัวขึ้นมาคลาน ก็สอดมือซ้ายอ้อมร่างของหญิงสาวเข้าไปบีบเคล้นสองเต้าอวบนั้น นิ้วหนาบีบไต่ไปมาตรงปลายงามงอนนั้น ส่วนมือขวาอีกด้านนั้นลากไล้ไปตามสะโพกผายและเอวคอดกิ่ว จนเลยไปถึงหน้าท้องที่เนียนนุ่มราบเรียบ การเล้าโลมนั้นบวกกับจังหวะกระทอกไม่หยุด ทำให้หญิงสาวแสนสวยครางแอ่นอกส่ายสะโพกเชิดหน้าสูดปากอย่างเสียวซ่าน ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดดดดด


เสี่ยคิ้มที่ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความหฤหรรษ์ ความเสียววาบๆ ที่เกิดจากโพรงสวาทที่ตอดรัดไปตามลำเอ็นอวบของตัวเอง นั้นทำให้จังหวะกระเด้านั้นเร่งขึ้นๆ ลำควยแข็งราวกับทวนที่กระเด้าซอยเข้าอกผลุบผลับเบียดขยี้กลีบอูมขาวนั้น อย่างแรง น้ำเมือกขาวข้นคลั่กของเสี่ยทองที่เอ่อนองอยู่ในโพรงสวาทนั้นก็ถูกแรงกระแทก นั้นตีจนเป็นฟองฟ๊อดขาว กระฉอกเจ๊าะแจ๊ะๆๆๆๆ ไปตามการทะลวงของเสี่ยนักค้าทองตัณหากลับ น้ำเมือกขาวข้นที่ถูกลำเอ็นอวบรีดเร้นออกมาจากร่องหลืบที่ควยคับคานั้นไหล เยิ้มซึมไปตามแคมอวบอูมเจิ่งนองลากไปเป็นตามโคนขาอ่อนของคันธรสเป็นแนวยาว


อ๊ะๆๆๆๆๆ...ซี๊ดดดด..ซี๊ดดดด...”


คันธรสส่ายหน้าไปมาอย่างบิดเบี้ยวเหยเก ปากครางออกมาไม่หยุด


อูยยยย....ทำไมโพรงมันถึงได้ตอดอย่างนี้....อร่อยควยเหลือเกิน...ทูนหัวของคิ้ม....โอวววววว...ซี๊ดดดด”


เสี่ยคิ้มพูดไปกระเด้าไป ขบกรามแน่น สูดปากซี๊ดซ๊าด เร่งกระเด้าบั้นเอวกระแทกควยซอยเข้าออกซอกแคมขาวนั้นอย่างเมามัน


โอวววว...อาวววว...ซี๊ดดดดด...เสียวววว...เหลือเกิน....ซี๊ดดดดด...ซี๊ดดดด...โอวววว.”


เสี่ยนักค้าทองได้ยินอย่างนั้นก็ร้องแหกปากออกมาอย่างกระหยิ่มยินดี ที่สามารถกระเด้าควยกระตุ้นอารมณ์ให้กับเรือนร่างงามที่ ตนเองได้แต่เก็บเอาไปฝันเปียกมาหลายคืนได้จนสะใจสะอารมณ์ควยเป็นที่สุด มือหยาบนั้นสองข้างเปลี่ยนเป้าหมายมาตะปบไปที่ปรีก้นขาวอวบที่ตอนนั้นแดง เป็นผื่นอันเนื่องมาจากการะถูกตีกระหน่ำอย่างรุนแรงต่อเนื่องมายาวนาน บดบี้มือไปตามผิวเนียนตรงแก้มก้นนั้น กระตุกดึงตัวของคันธรสให้สวนรับเข้ากับจังหวะในการซอยกระแทกดุ้นอวบของตัว เองเข้าไปเป็นแรงบวก เสียงกระทบกระแทกของหนั่นเนื้อหนอกควยที่บี้ไปเต็มๆ กลางร่องก้นดังผสานกับลำควยที่กระฉอกโพรงหลืบที่ฉ่ำแฉะ เสียง ปั๊บๆๆๆๆ...เจ๊าะแจ๊ะๆๆๆๆๆ และพร้อมๆ กันนั้นเสียงครางกระเส่าก็ดังครวญออกมาระงมจากปากคันธรส อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆ


ในเวลานั้นร่างงามของหญิงสาวมันปลาบไปด้วยเหงื่อที่ผุดพรายออกมา แต่ทว่ากลิ่นเหงื่อของหญิงสาวกับกลิ่นคาวที่ฟุ้งออกมาจากโพรงหลืบนั้นมัน กระตุ้นให้เสี่ยนักค้าทองร่อนจมูกสูดดอมดมอย่างกระหายหื่น ไม่มีความรังเกียจแม้แต่น้อยนิด มิหนำซ้ำกลับเป็นการกระตุ้นให้เพลิงความเสียวกระสันซ่านในตัวของเสี่ยตัณหา กลับลุกโชติช่วงมากไปกว่าเดิมเสียอีก


อูยยยยย...โอยยยยย...ซี๊ดดดดด...สุดยอดจริงๆๆๆ....คนสวยของคิ้ม...อูวววว”


คันธรสเองก็เช่นกันที่ความเสียวกระสันมันพล่านไปทั่วร่างกายจนต้องร้องร่ำคร่ำครวญ


อื้ออออ...อื้อออออ....อ๊ะๆๆๆๆๆ....อื้อออออ....อ๊ะๆๆๆๆ...”


เสียงปั่บๆๆๆๆๆๆ ดังต่อเนื่องถี่ยิบราวกับปืนกลไม่มีหยุด มือบางงามของหญิงสาวกางขยุ้มไปตรงฟูก ร้องครางอย่างเสียวซ่าน


โอววววว...เสี่ยขา....เสียวเหลือเกิน....รสส..เสียววววว”


เสี่ยคิ้มแสยะยิ้ม ร้องกระเส่า


เดี๋ยวคิ้มจะช่วยให้เสียวมากขึ้นไปอีกนะครับ...คุณรสคนสวย”


ว่าแล้วมือหยาบก็ดันร่างของคันธรสให้นอนคว่ำลงไป ทิ้งตัวตามไปไม่ยอมให้ควยหลุดออกมจากร่องหลืบนั้น ก่อนจะจับหญิงสาวให้นอนตะแคงโดยสอดตัวประกบอยู่ด้านหลัง มือข้างหนึ่งโอบเข้ามาขยำไปที่สองเต้าอวบ บดคลึงไปมาอย่างเมามัน อีกมือหนึ่งลากเลื่อนลงไปตามผิวกายเนียนลื่นไปตามหน้าท้องขาวเรียบจนไปบี้ บีบติ่งกระสันของสาวสวยที่ร่านระริกอยู่ท่ามกลางกลีบพลูที่อ้าแหกโอบอมท่อน ควยจนตึงแน่นนั้น พร้อมๆ กับโยกสะโพกกระเด้าซอยควยอวบนั้นเข้าใส่ซอกหลืบของคันธรสเป็นจังหวะถี่ยิบ ปั่บ ปั่บ ปั่บ


คราวนี้ทั้งควยอวบและนิ้วแข็งที่แย่งกันบี้บดไปตรงติ่งกระสัน บวกกับอุ้งมือหยาบที่ตะปบคลึงบนสองเต้านั้นต่างช่วยกันเร่งเร้าความเสียว ซ่านจนทำให้คันธรสดิ้นพร่านๆ ราวกับถูกแส้โบยตี ปากงามห่อครางสุดๆ


อูยยยยย....อูยยยยยย....ซี๊ดดดดดด...เสี่ยขา....ซี๊ดดดดดดด...เสียวเหลือเกิน....ซี๊ดดดดดดด”


ฮ่าฮ่า ผมบอกแล้ว...คนสวย...อูยยยย..หีตอดเหลือเกิน...ผมก็เสียวเหมือนกัน...โอววววว”


เสี่ยคิ้มร้องกระเส่าตอบอาการเสียวกระสันของสาวสวยที่ดิ้นพร่านอยู่ในกำมือ ของตัวเอง เสียงหน้าท้องของเสี่ยตัณหากลับกระแทกไปยังสะโพกผายของหญิงสาวดัง เปี๊ยะๆๆๆๆๆๆ คันธรสแหงนหน้าเพริด เด้งส่ายก้นอวบขาวของเธอสวนใส่จังหวะกระเด้าของเสี่ยคิ้มอย่างเร่าร้อน


การตอบสนองนั้นเร้าอารมณ์ให้กับเสี่ยค้าทองจนเหลือประมาณ เด้งควยกระทอกใส่โพรงหลืบนั้นอย่างเมามัน เร่งเร้าจังหวะเสียว ให้กับหญิงสาวที่กระเด้าสะโพกกลับอย่างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ


ซี๊ดดดดด...เสียวววว.ซี๊ดดดดด..รส...จะขาดใจแล้ว....เสียวเหลือเกิน.....”


คันธรสอ้าปากร้องร่ำคร่ำครวญ เสี่ยคิ้มที่ใบหน้าบิดเบี้ยวอยู่ด้านหลังก็รู้สึกไม่ต่างกัน นิ้วขยี้จิ๊กๆๆๆๆ ไปที่ติ่งแตดผสานจังหวะกับการกระทอกควยตัวเอง ก็ไต่ระดับความเสียวกระสันตามสาวสวยไปติดๆ


โอวววว...ไม่ไหวแล้วค่ะ...ซี๊ดดดดด..รสไม่ไหวแล้ว.....เสี่ยขา...เร็วๆ..แรงๆๆ..เลยค่ะ...โอวววว”


อูยยยยย...หีขมิบดูดเหลือเกินคนสวย....โอวววว...ได้เลย...คิ้มจัดให้.....อูววววว....ซี๊ดดดดด...”


เสี่ยคิ้มร้องกระเส่า มือที่กำลังขยี้ติ่งแตดนั้น ละออกมาขยุ้มไปที่ขาอ่อนของคันธรส และจับขานั้นให้ร่อนแหกชูขึ้นไปบนอากาศ และเกร็งสะโพกกระแทกลำควยราวกับลูกสูบยักษ์ทะลวงเข้าใส่โพรงหลืบนั้นถี่ยิบ ปั่บๆๆๆๆๆๆๆ คันธรสสะท้านเฮือกๆๆๆๆๆ จังหวะเร่งเครื่องกระเด้าโหมหนักสุดช่วงท้ายนั้นติดต่อยาวนานหลายนาที ก่อนในที่สุดหญิงสาวจะแหงนหน้าเพริด ร้องออกมาสุดเสียง อ๊ายยยยยยยยยซซซซซซซซซ


โพรงสวาทของสาวสวยยามที่ทะลักจุดแตกนั้นดูดรัดไปบนลำควยที่คับแน่นอย่าง รุนแรง ผนังอันอ่อนหนุ่มยืดหยุ่นดูดด๊วบๆๆๆ ไปตามปลายถอกบาน ทำให้เสี่ยนักค้าทองแหงนหน้าเริ่ดไม่แพ้กัน ก่อนจะซู๊ดดดด ปากดังสนั่นกระทอกควยกระฉูดน้ำเมือกเข้าไปราดรดโพรงสวาทของคันธรสต่อเนื่อง ตามของเสี่ยทองที่เข้าไปเจิ่งนองอยู่ก่อนแล้วอย่างสมอารมณ์หมาย


ใบหน้าไว้เคราคางแพะของเสี่ยคิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกปลดปล่อย รอยยิ้มที่ฉีกออกมานั้นมันแสดงให้เห็นเสี่ยนักค้าทองกำลังรู้สึกอิ่มเอม เพียงไร เพราะในที่สุดตัวเองก็ได้ลิ้มรสหอมหวานจากการตักตวงสวาทเรือนร่างอันงามบาด ตานี้ หลังจากที่ได้แต่ต้องเบิ่งตาดู คอยอุดอู้อยู่ในห้องแคบๆ กระทอกควยตัวเองเปลื้องความใคร่ในครั้งก่อนๆ


เสี่ยทองที่ต้องสูญเสียมูลค่าหุ้นไปให้กับเสี่ยเซี้ยงถึงสิบเปอร์เซ็นต์ใน การวางแผนการณ์ในวันนี้ ตกลงใจตักตวงเอาคืนให้คุ้มค่า จึงโด๊ปยาเอาไว้เต็มที่ ควยอวบนั้นแข็งเด่ขึ้นรออยู่นานแล้ว พอเพื่อนถึงสวรร์ชั้นเจ็ด ตนเองก็เดินส่ายควยเข้าไปฉุดร่างงามของคันธรสที่ป้อแป้เต็มที่ให้หลุดออกมา จากควยของเสี่ยคิ้ม


อา...เสี่ยขา...รสเหนื่อยเหลือเกิน...ไม่ไหวแล้วค่ะ”


คันธรสครางออกมาอย่างอ่อนล้า แต่เสี่ยทองไม่สนใจ ดันร่างงามของหญิงสาวเดินไปเอามือยันผนังห้อง และกระชากสะโพกผายของหญิงสาวให้กดต่ำลงจนได้จังหวะมุมพอดีกับแท่งควยที่ตั้ง แข็ง ก่อนจะคำรามอย่างกระหายหื่น


เดี๋ยวก็รู้ว่าไหวหรือเปล่าคนสวย...ฮ่าฮ่า”


ควยอวบชำแรกเข้าไปในร่างของคันธรส และกระเด้าต่อเนื่องตามไปติดๆ เสียงปั่บๆๆๆๆๆ ดังสนั่นหวั่นไหว คันธรสยืนโก้งโค้งเอามือยันผนังอยู่ ทีแรกร่างงามนั้นอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง ได้แต่ยืนถ่างขาตัวสั่นสะท้านไปตามแรงกระเด้าอยู่ถ่ายเดียว แต่ไม่นานเท่าไรเลยเพลิงสวาทกลุ่มใหม่ก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านจากเนินสวาทก็ทำให้เธอแหงนหน้าร่ำร้อง และกระเด้าสะโพกตอบสนองควยของเสี่ยทองอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง


ฮ่าๆๆๆ...ผมบอกแล้ว...คุณรสคนสวย....สนุกกันต่อดีกว่าครับ...ฮ่าฮ่า”


เสียงปั่บๆๆๆๆๆ ดังผสานกับเสียงครางครวญของคันธรส เสี่ยคิ้มที่เดินควยตุงตามมาก็ประกบตัวไปทั้งขยำนมและลากลิ้นเลียไปตามแผ่น หลังของหญิงสาวอย่างกระหายหิว


เพลงสวาทและเพลงกามนั้น ดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อน...ดูเหมือนจะอีกยาวนาน...กว่าเกมสวาทนี้จะสิ้นสุดลง


.....................


ขณะที่กำลังได้เวลาหนังเข้าฉายแล้ว จู่ๆ ฐิติพรรณก็ดึงตัวของอรอุษามากระซิบ


ตายแล้ว...พี่มีธุระด่วน...เพื่อนพี่เขาโทรมาว่าประสบอุบัติเหตุ...พี่ต้องรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล...”


เด็กสาวผู้อ่อนวัยกว่าหน้าตื่นไปด้วย รีบถามไถ่อย่างเป็นห่วงว่า


อุ๊ยตาย...แล้วเพื่อนพี่ไอซ์เป็นอะไรมากไหมคะ...”


ก็ไม่ถึงกับบาดเจ็บสาหัสหรอก..แต่ก็ต้องพักค้างคืนในโรงพยาบาล...พี่เลยจะรีบไปหาน่ะจ้ะ”


อรอุษาผงกศีรษะ ด้วยใจซื่อจึงเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายสนิท


ถ้าอย่างนั้นพี่ไอซ์ก็รีบไปเถอะค่ะ...ไม่ต้องห่วงษา...เดี๋ยวษาจะเรียกแท๊กซี่กลับบ้านเอง”


พริตตี้สาวทำหน้าพิกล ร้องเบาๆ


อะไรกัน...นี่น้องษาจะทิ้งพี่ศักเขาไปเฉยๆ อย่างนี้น่ะเหรอ”


อรอุษามีใบหน้างงๆ กับคำพูดของอีกฝ่าย...ความคิดที่จะอยู่ดูหนังต่อกับศักดาสองต่อสองนั้นไม่ เคยมีอยู่ในหัวสมองของเด็กสาวเลยแม้แต่นิดเดียว...แต่พอตั้งสติคิดได้ว่าอีก ฝ่ายหมายถึงอะไร...ใบหน้าของเด็กสาวก็กลายเป็นสีชมพูระเรื่อขึ้นมาทันที... ตอนนั้นมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ห่างๆ แล้วต้องเอ่ยเสียงขลาดๆ ตะกุกตะกัก


แต่...ษา..ษา..พี่ไอซ์ไม่อยู่...แล้ว..แล้ว...ษา...เอ่อ..ษา..”


แหม...น้องษา...ทำอย่างนี้พี่ศักดาเขาน้อยใจแย่เลย...มานี่ม๊ะ...”


พริตตี้สาวจูงข้อมือบางของเด็กสาวเดินไปหาศักดา แล้วกล่าวเสียงระรื่น


พี่ศักขา...ไอซ์มีธุระด่วนกระทันหัน...ฝากยายษาให้พี่ศักช่วยดูแลได้ไหมคะ...ดูแลน้องสาวที่น่ารักของไอซ์คนนี้ให้ดีด้วยนะคะ...”


ศักดาเลิกคิ้ว กล่าวถามเสียงซื่อ


อ้าว...น้องไอซ์จะไปไหนน่ะ”


พอดีเพื่อนประสบอุบัติเหตุน่ะค่ะ...เลยจะต้องรีบไปเยี่ยม...พี่ศักดูแลษาดีๆ..พาน้องษากลับบ้านด้วยนะคะ”


ใบหน้าของอรอุษาแดงก่ำ ก้มหน้างุด พยายามกระตุกมือของตัวเองเป็นสัญญาณประท้วงคำพูดของฐิติพรรณ จิ้งจอกสวาทหันไปมองใบหน้างามซึ้งที่กำลังประหม่าอายสุดๆ ก็กล่าวด้วยสีหน้าสะท้อนใจอย่างเชี่ยวชาญ


พี่..พี่..ว่าอย่าดีกว่าครับ...น้องษาอาจจะไม่สะดวกใจ...”


พริตตี้สาวหันมายังอรอุษากล่าวว่า


เห็นเสียงของพี่ศักไหม...เขาน้อยใจษาแล้วล่ะ...ษาคงไม่ไว้ใจพี่ศักใช่ไหมล่ะ”


อรอุษาผู้อ่อนเยาว์รีบเงยหน้าขึ้นมา กล่าวเสียงเบาบางแต่ระรัวมาจากความรู้สึกร้อนใจ...เกรงอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด


ไม่..ไม่ใช่ค่ะ...ไม่ใช่ว่าษาจะไม่ไว้ใจพี่ศัก...เพียงแต่..แต่...ษา..เอ่อ...ษา”


จะให้เธอพูดอย่างไร...ในชั่วชีวิต...เธอไม่เคยไปเที่ยวกับผู้ชายคนไหนสองต่อสองมาก่อนเลย...


จิ้งจอกสวาทยิ้มละไม จ้องไปที่ดวงตากลมใสนั้น


ถ้าอย่างนั้นขอให้พี่ได้รับเกียรติจากน้องษาในการเทคแคร์น้องษาให้ดีที่สุด...ได้หรือไม่ครับ”


เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์ใจเต้นระทึกปั่นป่วนไปด้วยความรู้สึกสับสน...จะปฏิเสธก็ กลัวอีกฝ่ายน้อยใจ จะรับปากก็กลัว...กลัวในสิ่งที่เธอไม่เคยกระทำมาก่อน...


และฐิติพรรณก็เป็นฝ่ายที่ตัดสินใจให้กับอรอุษาอย่างรวบรัด โดยการยิ้มร่าเริงและโบกไม้โบกมือให้กับเด็กสาว


ไม่ต้องถามน้องษาหรอกค่ะ...น้องษาน่ะไม่ปฏิเสธอยู่แล้วจริงไม๊จ๊ะ...น้องษา”


กล่าวจบร่างงามของพริตตี้สาวก็เดินผละออกไปทันที โดยทิ้งให้อรอุษายืนตะลึงลาน ทำอะไรไม่ถูก...จะเดินหนีไปเฉยๆ ก็ไม่กล้าทำ...


ศักดาก้มลงกล่าวเสียงนุ่มละมุนละไม


หนังจะฉายแล้วครับ...น้องษา..เราเข้าไปกันดีกว่า”


ใบหน้างามของอรอุษาแดงก่ำ ยืนอิดๆ เอื้อนๆ ไม่ขยับตัว จนกระทั่งศักดาเอ่ยเตือนเสียงหวานอีกรอบ ริมฝีปากงามเต่งตึงแดงสดนั้น ก็สั่นระริกค่อยๆ เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก


ษา..เอ่อ..ษา...”


เห็นอย่างนั้น...จิ้งจอกสวาทจึงเปลี่ยนบทบาท...ตีสีหน้าสะท้อนใจได้อย่างราวกับเป็นนักแสดงอาชีพ


พี่คงไม่มีค่าพอที่จะได้รับเกียรตินั้นจากน้องษากระมังครับ..ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร...”


เด็กสาวผู้อ่อนเยาว์มองเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่แสดงแววตาอันน้อยอกน้อยใจ จิตใจที่บริสุทธ์ไร้เล่ห์มารยานั้นก็อ่อนยวบไปด้วยความรู้สึกสงสาร ...และในที่สุด...อรอุษาก็ตัดสินใจเดินก้มหน้าอย่างประหม่าอายเคียงข้างชาย หนุ่มเข้าไปในโรงฉายภาพยนต์ ท่ามกลางรอยยิ้มอันชั่วโฉดของจิ้งจอกสวาทในความมืด


......................


ไม่มีความคิดเห็น: