ขายของ

วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เรื่องของศรี 9



เรื่องของศรีมาอีกแล้วค่ะ....ที่ผ่านๆมานั้นสนุกมั้ยคะ ฉันรับรองว่ายังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีก ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 ให้ชื่อตอนว่า "เสพสมสองสวาท" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามีเก่าของฉัน เขาชื่อ"วีรพงษ์ " เป็นสามีคนที่ฉันเคยเล่าให้เพื่อนๆชาว"หลุด โลก"ฟังเมื่อตอนแรกๆว่า เราแต่งงานงานกันและเขาไม่เอาไหนกับเรื่องเซ็กส์บนเตียงเลยไงคะ...จำได้แล้ว ใช่ไหมคะ? ตอนนี้เขากลับมาอยู่ กินกับฉันที่เมืองแอล.เอ.แล้วค่ะ

คนนี้เองค่ะที่ฉันบอกไว้ตอนแรกเหมือนกันว่า ฉันยังมีเซ็กส์กับแฟนคนนี้ของฉันได้ทุกคืนหรือทุกวันอย่าง ไม่รู้เบื่อ และดิฉันกับแฟนก็ยังช่วยกันหาประสบการณ์เซ็กส์ที่แปลกใหม่สำหรับเราสองคน อยู่เสมอ อย่าเพิ่งแปลกใจนะคะว่าฉันอยู่กับเขา ได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นต้นเหตุแห่งการหย่าร้างของฉันจนทำให้ฉันต้องหนีมา อยู่ในยูเอส มันมีที่มาค่ะ ประสบการณ์ที่ฉันเขียนมา 3 ตอน เขาได้อ่านแล้วและชอบใจที่ฉันเขียนมาก ดังนั้นประสบการณ์ตอนนี้เป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรง สามีคนนี้ของฉันควรจะ ต้องเป็นคนเขียนมาเล่าให้เพื่อนๆฟังแต่เขาบอกว่าเขาไม่ถนัดในเรื่องเขียน หนังสือ เขาขอเป็นผู้เล่าให้ฉันฟังและให้ฉันเขียนออกมาเป็น เรื่องเล่าดีกว่า เขายอฉันว่าฉันเรียนมาทางด้านการเขียนหนังสือมากกว่า

เขาและเขียนเรื่องเล่าเหมือนนิยาย ทั้งยังเป็นนิยายพิศวาสที่ โรมรันพันตูกันบนเตียงได้อย่างถึงอารมณ์ สมกับความร้อนแรงที่ฉันมีต่อเขายามที่เราคลอเคลียอยู่ด้วยกันตกลงค่ะ....ฉัน ต้องเขียนเรื่อง ของสามีฉันตามคำบอกเล่า เริ่มตั้งแต่เขาบินมาตามหาฉันถึงแอล.เอ.โดยเขาพักอยู่กับเพื่อนชื่อ "มนู" มาถึงแอล.เอ.วันแรกเขาก็เจอกับเซ็กส์ แบบอเมริกันสไตล์เลยแทบหมดแรง แต่ไม่ใช่กับฉันหรอกนะคะ เขาเล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังหรือกลัวฉันหึง เพราะบัดนี้ เขาเข้าใจฉันในเรื่องเซ็กส์อย่างลึกซึ้งแล้วว่า ฉันชอบเซ็กส์แบบ

ไหน....โอ...เพื่อนๆที่รักขา...เพียงแค่ฉันฟังเขาเล่าเรื่อง ที่จะให้ฉันเขียน หอยของฉันก็แฉะแล้วแฉะอีก ขนลุกขนพองด้วยความกระสันเสียวต้องจบลงด้วยการที่เราเอากันคั่นเวลาการเล่า เสีย 2 ยกก่อน เรื่อง ของ"วีรพงษ์"อดีตสามีของฉันเสียวแค่ไหน และเขาเจอฉันแบบพิสดารจนฉันคาดไม่ถึงได้อย่างไร.....ฉันจะเล่าให้ฟังเดี๋ยว นี้เลยค่ะ.... มนูเดินวนเวียนไปมารอบบริเวณที่คอยผู้โดยสารในสนามบินนานชาติลอส แองเจลีส หรือที่เรียกกัน สั้นๆว่าแอล.เอ. นานๆก็ยกนาฬิกาข้อ มือขึ้นดูเวลาสักครั้งหนึ่ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อเห็นผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน จาก

กรุงเทพฯเริ่มทยอยเดินออกมาเป็นทิวแถว เขารีบ ไปยืนตรงปากช่องทางเดินออกของผู้โดยสารเวลาผ่านไปได้สักครู่ ท่ามกลางผู้โดยสารนับจำนวนร้อยเขาก็พบกับคนที่เขาต้องการรีบโบก มือส่งสัญ ญาณให้เห็น ผู้โดยสารที่เขาต้องการพบคือเพื่อนรักของเขานั่นเองนัดหมายให้เขามารับ เนื่องจากเพื่อนคนนี้เพิ่งเคยเดินทางมา อเมริกาเป็นครั้งแรก มนูตะโกนเรียกเพื่อนเสียงลั่นจนเพื่อนหันมาเห็น แล้วทั้งคู่ก็กอดรัดกันกลมด้วยความรักสนิทแบบเพื่อนฝูงทั่วไป ระหว่างทางที่ขับรถกลับอพาร์ตเมนท์" เอ็งแน่ใจรึว่า เมียเก่าของเอ็งน่ะเดินทางมาอยู่ที่นี่เป็นปีแล้ว

"มนูเอ่ยปากถามเพื่อนย้ำถึงเป้าหมาย แห่งการเดินทางมาเหยียบถิ่นอเมริกัน" เออ..ข้าแน่ใจ เพราะสืบข่าวมาอย่างละเอีดแล้ว" " เฮ้อ...." มนูทำท่าถอนใจ "....ถ้ามาอยู่เป็นปีๆ แล้วละก็ข้าว่าป่วยการที่เอ็งจะตามหา ป่านนี้โดนฝรั่งงาบไปแล้วหรือไม่ก็มีผัวเป็นไอ้ มืดไปแล้ว ได้ข่าวว่าอดีตเมียของเอ็งเนี่ยตูดไวน่าดูไม่ ใช่เร๊อะ? " เนี่ย..ดูซีคะ...ดูเพื่อนของสามีเก่าฉันผู้อยู่อเมริกามาก่อน ไม่วายปากเสียตามนิสัยเดิมที่แก้ไม่หายจริงๆ แต่วีระพงษ์อดีตสามี ของฉันไม่ถือสาเพียงปรามเพื่อนเบาๆ ไอ้บ้า...ไม่รู้อะไรก็อย่าเสือกพูดไปเลยน่า ถึงมีผัวแล้วข้าก็ยังคิดถึงเธออยู่ อยากจะเจออีกซักครั้งที่ ผ่านๆ มาข้ามันผิดเอง " " เอ็งทำอะไรผิดวะไอ้พงษ์ เมียเอ็งถึงได้ขอหย่าแล้วหนีมาอยู่ที่นี่ "

มนูถามด้วยความสงสัย " จะมีอะไร๊...ก็เรื่อง' ไอ้จ้อน ' ของข้าน่ะซี " เพื่อนผู้เพิ่งเดินทางมาพูดพร้อมกับบุ้ยปากก้มไปที่เป้ากางเกงตัวเองเป็นการ ประกอบความหมายก่อนเอ่ยต่อไป"... ทะลึ่งล่มปากอ่าวได้แม่งทุกครั้งจนเมียข้าค้างเติ่ง หนักเข้าเค้าเลยพาลเลิกกับข้า "" อ้าว..." มนูหันมามองหน้าเพื่อนแล้วร้องด้วยความ แปลกใจจนลืมมองทาง รถแฉลบไปเกือบเฉี่ยวเอากับรถข้างๆ เสียงบีบแตรด่ากลับมาเป็นรางวัลจากรถคันนั้น เขาโบกมือเป็นสัญญาณขอ โทษ " สมมติเอ็งตามหาเมียเก่าเกิดเจอกันเข้า แล้วสมมติอีก ว่าเขายังไม่มีผัวและยังมีเยื่อใยดีกับเอ็ง เอ็งคิดรึว่าจะไม่ล่มปากอ่าวอีก? "วีระ พงษ์ดีดนิ้วดังแปะตามนิสัยยามที่เขามั่นใจแล้วบอกเพื่อนเสียงมั่นคง" สำหรับเดี๋ยวนี้เมินเสียเถอะวะ

ข้ารู้ตัวดีว่ามีจุดอ่อนในเรื่องนี้ เลยไป ฝึกฝนเรียนรู้กับหมอมาเป็นอย่างดีแล้ว..รับรองคราวนี้ของข้าอึด ปล่อยได้อย่างใจต้องการเชียวว่ะ " เขาเล่าให้ฉันฟังถึงตรงนี้ ฉันก็เริ่มตา ปรอยไม่อยากจับปากกาเขียนต่อไป มันรู้สึกเสียวและคันยุบยิบขึ้นมาในช่องสวรรค์ของฉันเลยเชียวค่ะ เพราะฉันพิสูจน์มาแล้วนั่นเอง...ติด ใจค่ะ ตอนนี้เลยขอคั่นเวลาการเขียนเข้าคลุกเคล้ากับเขาแล้วควักท่อนเนื้อของเขามา ดูดอมไล้เลียจนเขาตัวโก่ง บี้เม็ดเสียวพร้อมชอนไชนิ้ว เข้าไปในหอยฉ่ำของฉันจนน้ำเมือกทะเล็ด แล้วเราก็เอากันบนโต๊ะเขียนหนังสือของฉันนั่นเอง เขาสอดใส่กระเด้าถี่ยิบในท่ายืนโดยที่ก้น ของฉันพาดอยู่กับแง่โต๊ะสองขาแบะถ่างรับการรุกของเขา ฉันเด้งโคก

รับอย่างเอร็ดอร่อยจนถึงขีด เขาก็ปล่อยน้ำรักฉีดเข้ารูสวาทของฉัน เต็มที่ฉันถึงกับกรี๊ดกอดเขาแนบแน่น กระเด้งหอยขึ้นบดเบียดกับท่อนควยของเขาอย่างสุดทน เรายืนกอดกันเป็นการพักเหนื่อยสักครู่สามี ของฉันก็ถอนของเขาออกจากช่องของฉัน แล้วฉันก็ลุกขึ้นตัวเปลือยเปล่ามานั่งเขียนเรื่องเล่าต่อโดยน้ำยังไหลเยิ้ม ออกจากรูหอยลงมาตาม หน้าขา ช่างมันเถอะ..ฉันไม่ล้างหรอก ฉันชอบได้กลิ่นน้ำกาม รู้สึกมันหอมหวนน่าดมและน่าดื่มกินจริงๆ ฉันเล่าถึงไหนแล้ว...อ้อ... ถึงตอน ที่วีรพงษ์อดีตสามีของฉันบอกเพื่อนว่าเขาฝึกฝนมาดีอย่างไม่มีทางล่มปากอ่าว อีกแน่นอน " บ๊ะ..มั่นใจขนาดนั้นเชียวนะเอ็ง ถ้าอย่างนั้นคง จะต้องพาเอ็งไปทดสอบซักหน่อย จะว่าไง? " มนูสัพยอกเพื่อนรักเป็นการหยั่งท่าที"

ก็เอาซีวะ ว่าแต่เอ็งมีอะไรดีๆมากนักหรือ? ""ดี หรือไม่ดีเอ็งคอยดูเอาเองดีกว่า ข้าจะจัดฉลองเอ็งวันแรกในอเมริกาเลย... อ้อ.เกือบลืมไปลืมถามเอ็งไปว่า เมียเก่าของเอ็งเนี่ยชื่ออะไรวะ เผื่อว่าเพื่อนข้ารู้จักจะได้มีเบาะแสมาบอกกันบ้าง " " ชื่อนพศรีโว้ย ไอ้บ้า ตอนข้าแต่งงานก็เคยจดหมายมาบอกเอ็งครั้งหนึ่งแล้ว ดันทำ เป็นลืม " ดู๋ดูซีคะ...มนูเพื่อนของสามีฉันคนนี้ มาอยู่อเมริกาไม่เท่าไรเค้าลืมชื่อฉันที่เป็นแฟนเพื่อนเค้าเสียได้ แต่ก็น่าเห็นใจค่ะ. เพราะตอน ที่ฉันกับสามีเริ่มรู้จักและคบกันเป็นแฟน มนูก็เริ่มจะเดินทางไปอเมริกาแล้วทำให้ฉันกับมนูแทบจะไม่ได้สนิทกันเลย เพิ่งมาสนิทสนมที่ อเมริกานี้เอง สนิทสนมถึงขนาดเราสวิงกิ้งเซ็กส์กันอย่างเมามันเย็นวันนั้น บนอพาร์ตเมนท์

หนึ่งห้องนอนของมนู สองเพื่อนรักจัดการอาบ น้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เพื่อนผู้เป็นเจ้าถิ่นก็ออกไปซื้อกับข้าวกับแกล้มพร้อมด้วยเบียร์มามากมาย จนสามีฉันสงสัยว่าเขากับเพื่อนจะ กินมันหมดได้อย่างไรแต่มนูรีบกระซิบบอกขณะที่ก้าวเข้ามาในห้องทั้งๆที่ยัง หอบของพะรุงพะรัง" เอ็งอย่าแปลกใจไอ้พงษ์ เย็นนี้เราจะ มีแขกมาร่วมฉลองต้อนรับเอ็งอีกสองคน " " ใครกัน? ข้ารู้จักรึเปล่า? " มนูส่ายหน้าอย่างรวดเร็วยิ้มกว้างก่อนบอกว่า เอ็งไม่รู้จักหรอก แต่ไม่สำคัญหรอกวะพบกับเดี๋ยวเดียวก็รู้จัก.. .ฮึเอ็งเอ้ย.เชฟบ๊ะยังงี้เลยแถมใจถึงซะด้วย" " ก็แปลว่าผู้หญิง...ใช่มั้ยวะ? "" เออ ข้าจะเชิญ ผู้ชายมาทำเตี่ยอะไรล่ะ เอ็งก็รู้จักข้าดีนี่หว่า " สามีฉันบอกว่าได้ยินเพื่อนบอกเช่น

นั้น เค้าก็ตื่นเต้นกับงานฉลองต้อนรับของเพื่อนรักที่เคย เที่ยวกันมาทุกซอกซอยจนรู้ใจกันดี" ฝรั่งหรือเปล่าวะ ไอ้นู " มนูสั่นหน้า แล้วจัดแจงวางกับข้าวและเบียร์ลงบนโต๊ะช่วยกันเทใส่จาน- " เป็นฝรั่งคนนึง ส่วนอีกคนก็พวกเดียวกับเอ็งและข้า " " สวยไหม? " บ๊ะ ไอ้นี่ชักตื่นเต้ลลล์ สวยหรือไม่สวยเอ็งคอยดูเอาเอง แต่ว่าเรื่องใจ ถึงแล้วเป็นที่หนึ่งเลยว่ะ " มนูพูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งประกอบสรรพคุณ " อีสองคนเป็นคนชอบสนุกว่ะ ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตนชอบแอ่นร่อน ไปเรื่อย พอใจใครก็เอาด้วย นี่เพิ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่กับข้าได้สองครั้งชักติดใจข้าเลยถือโอกาสชวนมาต้อน รับเอ็งซะเลย ยังไงๆเอ็งต้องไว้ลาย บ้างนะอย่าให้เสียชื่อ กระฉูดเลอะเทอะออกมาซะก่อน > " เฮ้ย..เรื่องนี้รับรองได้ ข้าบอกแล้วว่าฝึกมาดี "

ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดอะไรกัน ต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบาๆมนูหันไปขยิบตากับวีระพงษ์แล้วยิ้มร่า ถลาไปถอดกลอนประตูเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือน ทันทีที่ประตู ห้องเปิดออก.....วีระพงษ์สามีของฉันก็เห็นหญิงสาวชาวเอเซียกับอเมริกันสองคน ยืนเด่นอยู่ตรงหน้า รูปทรงองค์เอวและสัดส่วนโค้งเว้า ได้ที่เหมาะแก่การกระตุ้นเซ็กส์ของผู้ชาย หน้าตาของทั้งสองจิ้มลิ้ม ประกายตาบ่งบอกความกระหายสวาทอยู่เป็นนิจ เนื่องจากมันแวววาว และ ชวนเชิญให้ทดลองตลอดเวลา ที่สำคัญทั้งสองนุ่งสเกิ๊ตสั้นจู๋โชว์ท่อนขาอวบขาวทำให้วีระพงษ์เผลอกลืน น้ำลายอย่างไม่รู้ตัว มนูรีบ แนะนำเพื่อนสาวทั้งสองทันทีที่ทรุดลงนั่งบนโซฟา " เฮ้ยไอ้พงษ์ นี่..ข้าขอแนะนำให้เอ็งรู้จักกับซูซาน "

มนูแนะนำเจ้าหล่อนคนที่มีผมสี ทองนัยตาสีฟ้าปนเขียว ซูซานยิ้มเปิดเผยปรี่เข้าจับมือทักทายวีระพงษ์เป็นภาษาอังกฤษ" ไฮ..ฮาว อาร์ ยู...สวัสดีค่ะ คุณสุภาพบุรุษ หวัง ว่าเราคงสนิทสนมกันเร็วกว่าที่คิดนะคะ " " ยินดีรู้จักครับและผมก็หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกัน " วีระพงษ์ตอบเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่อง แคล่วจากทักษะแห่งการศึกษาระดับสูงอันหนึ่งของเขา " แล้วก็นี่...เพ็ญนภา " มนูแนะนำเพิ่อนหญิงอีกคนหนึ่งที่ไว้ผมทรงบ๊อบสีดำขลับ " สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่แอล.เอ.นะคะ" เพ็ญนภาทักทายขึ้นเป็นภาษาไทยน้ำเสียงเป็นกันเองพร้อมกับสะเทิ้นสายตา มองอย่างคนเจ้าชู้" เอาละ...ทุกคนลงมือดื่มกินกันไปคุยกันไปดีกว่านะ " มนูตัดบทแล้วเชิญชวนให้ทุกคนเริ่มกินอาหารเย็นมื้อนั้น

อดีตสามีของฉันเล่าต่อไปว่า เมื่อเวลาผ่านไปสักสองชั่วโมง ทุกคนในวงอาหารก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดี ถึงขั้นหยอกเย้าจับมือถือแขนกันอย่างไม่เคอะเขิน บางครั้ง หยอกกันด้วยจูบ ซึ่งสองสาวต่างเชื้อชาติก็ไม่ถือสาเนื่องจากทั้งซูซานและเพ็ญนภาต่างก็รู้ ความนัย ถึงการมาเยือนอพาร์ตเมนท์หลังนี้ ทั้ง คู่ดื่มเบียร์เก่งพอๆกับมนูและอดีตสามีฉัน กระทั่งเบียร์หมดไปสองโหลกระป๋องแต่ละคนเริ่มมึน การหยอกเย้าลุกลามไปเป็นการกอดรัดฟัด จูบกัน ด้วยความเต็มใจของทุกฝ่าย มนูพยามยามจัดคู่ให้วีระพงษ์เข้าแนบกับซูซาน โดยกระซิบบอกเหตุผลว่าให้เขาทดลองหุงข้าวด้วย "หม้อฝรั่ง" ในฐานะผู้มาเยือน ส่วนเขาเองกอดรัดกับเพ็ญนภาอย่างเมามันในฐานะวัวเคยขาม้าเคยขี่กันมาก่อน

เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก ตัณหาและอารมณ์ใคร่ก็ครอบคลุมแก่คนทั้งหมด มนูพยักหน้าบุ้ยใบ้ให้วีระพงษ์พาซูซานเข้าไปในห้องนอนของเขา ส่วนตัวเขาเองก็ดึง เพ็ญนภาลงมาฟัดกันบนพื้นที่ปูพรมอ่อนนุ่ม ในห้องของมนูนั้นเอง..... ซูซานนอนปรือตาด้วยแรงปรารถนาบนเตียง กระโปรงสั้นจู๋ของเธอ บัดนี้มันถูกร่นขึ้นมาจนเห็นเนินเนื้อ อวบที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีขาววับแวม วีระพงษ์โถมร่างเข้าทับซูซาน สาวอเมริกันหัวเราะลั่นด้วย ความชอบใจ แล้วกอดตอบเขาแถมด้วยการประคองใบหน้าวีระพงษ์ขึ้นมาจูบปากอย่างดูดดื่ม ป่ายมือเปะปะลงไปที่เป้ากางเกงของเขา ลูบ คลำมันอย่างพึงพอใจ เมื่อรู้สึกว่ามีอาการท่อนแข็งดุนดันออกมาจนกางเกงโป่ง วีระพงษ์ผู้ซึ่งไม่ยอมเสียเชิงชาย

ขณะที่จูบให้ลิ้นพันกัน ภายในปากของหญิงสาว มือของเขาก็เลื่อนลงมาที่บัวเต่งคู่งามซึ่งอยู่ในเสื้อพร้อม กับบีบเคล้นด้วยความเมามัน จนซูซานต้องถอนปากออก ครางลั่นเป็นภาษาอังกฤษ " อูย.ย.ย....คุณอย่างบีบนมฉันแรงนักซี...ฉันเจ็บนะ " " ขอโทษครับ...ผมเผลอตัวไปหน่อยเพราะคุณน่ารักน่า จูบไปทั้งตัว "" น่ารักน่าจูบอย่างเดียวหรือคะ " สาวผมทองนัยตาสีฟ้าถามอย่างยั่วสวาทและเชิญชวน ทำให้วีระพงษ์กระซิบข้างหู หล่อน " น่าฟักด้วยครับ มีส " โอ้..เหยห์.." ซูซานสำนองรับเบาๆแล้วก็ผลักวีระพงษ์ออกจากอกให้นอนหงายผลึ่งบนเตียง จากนั้นตัวเอง ก็ ลุกขึ้นมายืนยิ้มกริ่มตาจ้องมองที่เป้ากางเกงของเขา แล้วใช้มือลูบไล้ไปมาเบาๆ ทำให้มันยิ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาภายในของวีระพงษ์จนแข็ง

ขึงขึ้นแทบปริออกนอกกางเกงซูซานลูบของเขาพักหนึ่งก็ดึงเข็มขัดและรูดซิป กางเกงของวีรพงษ์ออก ปล่อยให้สิ่งที่ถูกขังอยู่อย่างอึดอัด เป็นอิสระดีดผึงออกมาอย่างท้าทาย ! "สิ่งนั้น" ของวีระพงษ์มีลำหักลำโค่นไม่เลวเลย ความยาวประมาณหกนิ้วครึ่งอวบล่ำเส้นเอ็นปูดโปน รอบๆ ท่อนลำนั้นมองดูน่าเกรงขามอยู่ในที ซูซานลูบไล้ท่อนเนื้อของวีระพงษ์อย่างเบา มือจนมันกระดกสู้หงึกหงัก ที่ปลายถอกมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมา สาวอเมริกันเห็นแล้วยิ้มด้วยความพอใจ ก้มลงจูบส่วนหัวพร้อมกับใช้ลิ้นเรียวของหล่อนเลียน้ำใสนั้นอย่างละเลียดไร้ ความ รังเกียจตามแบบฉบับเซ็กส์สไตล์ตะวันตกซึ่งเดี๋ยวนี้แพร่หลายนิยมไปทั้งโลก วีระพงษ์แอ่นตัวสะดุ้งเพราะไม่ทันระวังตัว

หล่อนค้อนเขา อย่างคมคายถอนปากออกจากท่อนลำ แล้วดีดปืนโตของเขาเล่นเบาๆเป็นเชิงหยอก " อุ้ย...ใจร้อนจริงคุณนี่ " " โธ่..ก็คุณเล่นเลียของผม อย่างนี้ ใครจะไปทนไหว " วีระพงษ์พูดยิ้มๆ ทั้งที่สิ่งซึ่งซูซานคลึงเคล้าเล่นในมือตั้งชี้โด่เด่ และ...ที่ประตูห้องซึ่งเราสองคนแง้มเอาไว้ เพียงเล็กน้อย วีรพงษ์บอกกับฉันว่าเขาและซูซานเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ลางๆ ซูซานชายตาชำเลืองมองไปทางนั้นก็รู้ว่ามีสายตา สองคู่แอบดูอยู่ หล่อนจึงแกล้งยั่วยวนให้คนแอบดูงุ่นง่านมากขึ้นโดยการค่อยๆปลด เปลื้องกระโปรงและเสื้อออกจากร่าง เหลือแต่บราเซีย ตัวน้อยพร้อมกับซับในบางๆสีขาว เพียงสองชิ้นคาดบนและล่างไว้ ปล่อยเนื้อส่วนอื่นให้ออกมาอวดแสงไฟในห้องเป็นสีชมพูอ่อนอวบอัด

ไม่มีความคิดเห็น: