เรื่องของศรีมาอีกแล้วค่ะ....ที่ผ่านๆมานั้นสนุกมั้ยคะ
ฉันรับรองว่ายังมีเรื่องสนุกกว่านี้อีก ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 ให้ชื่อตอนว่า
"เสพสมสองสวาท" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสามีเก่าของฉัน
เขาชื่อ"วีรพงษ์ " เป็นสามีคนที่ฉันเคยเล่าให้เพื่อนๆชาว"หลุด โลก"ฟังเมื่อตอนแรกๆว่า
เราแต่งงานงานกันและเขาไม่เอาไหนกับเรื่องเซ็กส์บนเตียงเลยไงคะ...จำได้แล้ว
ใช่ไหมคะ? ตอนนี้เขากลับมาอยู่
กินกับฉันที่เมืองแอล.เอ.แล้วค่ะ
คนนี้เองค่ะที่ฉันบอกไว้ตอนแรกเหมือนกันว่า
ฉันยังมีเซ็กส์กับแฟนคนนี้ของฉันได้ทุกคืนหรือทุกวันอย่าง ไม่รู้เบื่อ
และดิฉันกับแฟนก็ยังช่วยกันหาประสบการณ์เซ็กส์ที่แปลกใหม่สำหรับเราสองคน อยู่เสมอ
อย่าเพิ่งแปลกใจนะคะว่าฉันอยู่กับเขา
ได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นต้นเหตุแห่งการหย่าร้างของฉันจนทำให้ฉันต้องหนีมา
อยู่ในยูเอส มันมีที่มาค่ะ ประสบการณ์ที่ฉันเขียนมา 3 ตอน เขาได้อ่านแล้วและชอบใจที่ฉันเขียนมาก
ดังนั้นประสบการณ์ตอนนี้เป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาโดยตรง สามีคนนี้ของฉันควรจะ
ต้องเป็นคนเขียนมาเล่าให้เพื่อนๆฟังแต่เขาบอกว่าเขาไม่ถนัดในเรื่องเขียน หนังสือ
เขาขอเป็นผู้เล่าให้ฉันฟังและให้ฉันเขียนออกมาเป็น เรื่องเล่าดีกว่า
เขายอฉันว่าฉันเรียนมาทางด้านการเขียนหนังสือมากกว่า
เขาและเขียนเรื่องเล่าเหมือนนิยาย
ทั้งยังเป็นนิยายพิศวาสที่ โรมรันพันตูกันบนเตียงได้อย่างถึงอารมณ์
สมกับความร้อนแรงที่ฉันมีต่อเขายามที่เราคลอเคลียอยู่ด้วยกันตกลงค่ะ....ฉัน
ต้องเขียนเรื่อง ของสามีฉันตามคำบอกเล่า
เริ่มตั้งแต่เขาบินมาตามหาฉันถึงแอล.เอ.โดยเขาพักอยู่กับเพื่อนชื่อ
"มนู" มาถึงแอล.เอ.วันแรกเขาก็เจอกับเซ็กส์
แบบอเมริกันสไตล์เลยแทบหมดแรง แต่ไม่ใช่กับฉันหรอกนะคะ
เขาเล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียดโดยไม่ปิดบังหรือกลัวฉันหึง เพราะบัดนี้ เขาเข้าใจฉันในเรื่องเซ็กส์อย่างลึกซึ้งแล้วว่า
ฉันชอบเซ็กส์แบบ
ไหน....โอ...เพื่อนๆที่รักขา...เพียงแค่ฉันฟังเขาเล่าเรื่อง
ที่จะให้ฉันเขียน หอยของฉันก็แฉะแล้วแฉะอีก
ขนลุกขนพองด้วยความกระสันเสียวต้องจบลงด้วยการที่เราเอากันคั่นเวลาการเล่า เสีย 2
ยกก่อน เรื่อง ของ"วีรพงษ์"อดีตสามีของฉันเสียวแค่ไหน
และเขาเจอฉันแบบพิสดารจนฉันคาดไม่ถึงได้อย่างไร.....ฉันจะเล่าให้ฟังเดี๋ยว
นี้เลยค่ะ.... มนูเดินวนเวียนไปมารอบบริเวณที่คอยผู้โดยสารในสนามบินนานชาติลอส
แองเจลีส หรือที่เรียกกัน สั้นๆว่าแอล.เอ. นานๆก็ยกนาฬิกาข้อ
มือขึ้นดูเวลาสักครั้งหนึ่ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อเห็นผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน
จาก
กรุงเทพฯเริ่มทยอยเดินออกมาเป็นทิวแถว เขารีบ
ไปยืนตรงปากช่องทางเดินออกของผู้โดยสารเวลาผ่านไปได้สักครู่
ท่ามกลางผู้โดยสารนับจำนวนร้อยเขาก็พบกับคนที่เขาต้องการรีบโบก มือส่งสัญ
ญาณให้เห็น ผู้โดยสารที่เขาต้องการพบคือเพื่อนรักของเขานั่นเองนัดหมายให้เขามารับ
เนื่องจากเพื่อนคนนี้เพิ่งเคยเดินทางมา อเมริกาเป็นครั้งแรก
มนูตะโกนเรียกเพื่อนเสียงลั่นจนเพื่อนหันมาเห็น
แล้วทั้งคู่ก็กอดรัดกันกลมด้วยความรักสนิทแบบเพื่อนฝูงทั่วไป
ระหว่างทางที่ขับรถกลับอพาร์ตเมนท์" เอ็งแน่ใจรึว่า
เมียเก่าของเอ็งน่ะเดินทางมาอยู่ที่นี่เป็นปีแล้ว
"มนูเอ่ยปากถามเพื่อนย้ำถึงเป้าหมาย
แห่งการเดินทางมาเหยียบถิ่นอเมริกัน" เออ..ข้าแน่ใจ
เพราะสืบข่าวมาอย่างละเอีดแล้ว" " เฮ้อ...." มนูทำท่าถอนใจ
"....ถ้ามาอยู่เป็นปีๆ แล้วละก็ข้าว่าป่วยการที่เอ็งจะตามหา
ป่านนี้โดนฝรั่งงาบไปแล้วหรือไม่ก็มีผัวเป็นไอ้ มืดไปแล้ว
ได้ข่าวว่าอดีตเมียของเอ็งเนี่ยตูดไวน่าดูไม่ ใช่เร๊อะ? " เนี่ย..ดูซีคะ...ดูเพื่อนของสามีเก่าฉันผู้อยู่อเมริกามาก่อน
ไม่วายปากเสียตามนิสัยเดิมที่แก้ไม่หายจริงๆ แต่วีระพงษ์อดีตสามี
ของฉันไม่ถือสาเพียงปรามเพื่อนเบาๆ ไอ้บ้า...ไม่รู้อะไรก็อย่าเสือกพูดไปเลยน่า
ถึงมีผัวแล้วข้าก็ยังคิดถึงเธออยู่ อยากจะเจออีกซักครั้งที่ ผ่านๆ มาข้ามันผิดเอง
" " เอ็งทำอะไรผิดวะไอ้พงษ์ เมียเอ็งถึงได้ขอหย่าแล้วหนีมาอยู่ที่นี่
"
มนูถามด้วยความสงสัย "
จะมีอะไร๊...ก็เรื่อง' ไอ้จ้อน ' ของข้าน่ะซี
" เพื่อนผู้เพิ่งเดินทางมาพูดพร้อมกับบุ้ยปากก้มไปที่เป้ากางเกงตัวเองเป็นการ
ประกอบความหมายก่อนเอ่ยต่อไป"...
ทะลึ่งล่มปากอ่าวได้แม่งทุกครั้งจนเมียข้าค้างเติ่ง หนักเข้าเค้าเลยพาลเลิกกับข้า
"" อ้าว..." มนูหันมามองหน้าเพื่อนแล้วร้องด้วยความ แปลกใจจนลืมมองทาง
รถแฉลบไปเกือบเฉี่ยวเอากับรถข้างๆ เสียงบีบแตรด่ากลับมาเป็นรางวัลจากรถคันนั้น
เขาโบกมือเป็นสัญญาณขอ โทษ " สมมติเอ็งตามหาเมียเก่าเกิดเจอกันเข้า
แล้วสมมติอีก ว่าเขายังไม่มีผัวและยังมีเยื่อใยดีกับเอ็ง
เอ็งคิดรึว่าจะไม่ล่มปากอ่าวอีก? "วีระ พงษ์ดีดนิ้วดังแปะตามนิสัยยามที่เขามั่นใจแล้วบอกเพื่อนเสียงมั่นคง"
สำหรับเดี๋ยวนี้เมินเสียเถอะวะ
ข้ารู้ตัวดีว่ามีจุดอ่อนในเรื่องนี้ เลยไป
ฝึกฝนเรียนรู้กับหมอมาเป็นอย่างดีแล้ว..รับรองคราวนี้ของข้าอึด
ปล่อยได้อย่างใจต้องการเชียวว่ะ " เขาเล่าให้ฉันฟังถึงตรงนี้ ฉันก็เริ่มตา
ปรอยไม่อยากจับปากกาเขียนต่อไป มันรู้สึกเสียวและคันยุบยิบขึ้นมาในช่องสวรรค์ของฉันเลยเชียวค่ะ
เพราะฉันพิสูจน์มาแล้วนั่นเอง...ติด ใจค่ะ
ตอนนี้เลยขอคั่นเวลาการเขียนเข้าคลุกเคล้ากับเขาแล้วควักท่อนเนื้อของเขามา
ดูดอมไล้เลียจนเขาตัวโก่ง บี้เม็ดเสียวพร้อมชอนไชนิ้ว
เข้าไปในหอยฉ่ำของฉันจนน้ำเมือกทะเล็ด แล้วเราก็เอากันบนโต๊ะเขียนหนังสือของฉันนั่นเอง
เขาสอดใส่กระเด้าถี่ยิบในท่ายืนโดยที่ก้น
ของฉันพาดอยู่กับแง่โต๊ะสองขาแบะถ่างรับการรุกของเขา ฉันเด้งโคก
รับอย่างเอร็ดอร่อยจนถึงขีด
เขาก็ปล่อยน้ำรักฉีดเข้ารูสวาทของฉัน เต็มที่ฉันถึงกับกรี๊ดกอดเขาแนบแน่น
กระเด้งหอยขึ้นบดเบียดกับท่อนควยของเขาอย่างสุดทน เรายืนกอดกันเป็นการพักเหนื่อยสักครู่สามี
ของฉันก็ถอนของเขาออกจากช่องของฉัน
แล้วฉันก็ลุกขึ้นตัวเปลือยเปล่ามานั่งเขียนเรื่องเล่าต่อโดยน้ำยังไหลเยิ้ม
ออกจากรูหอยลงมาตาม หน้าขา ช่างมันเถอะ..ฉันไม่ล้างหรอก ฉันชอบได้กลิ่นน้ำกาม
รู้สึกมันหอมหวนน่าดมและน่าดื่มกินจริงๆ ฉันเล่าถึงไหนแล้ว...อ้อ... ถึงตอน
ที่วีรพงษ์อดีตสามีของฉันบอกเพื่อนว่าเขาฝึกฝนมาดีอย่างไม่มีทางล่มปากอ่าว
อีกแน่นอน " บ๊ะ..มั่นใจขนาดนั้นเชียวนะเอ็ง ถ้าอย่างนั้นคง
จะต้องพาเอ็งไปทดสอบซักหน่อย จะว่าไง? " มนูสัพยอกเพื่อนรักเป็นการหยั่งท่าที"
ก็เอาซีวะ ว่าแต่เอ็งมีอะไรดีๆมากนักหรือ?
""ดี หรือไม่ดีเอ็งคอยดูเอาเองดีกว่า
ข้าจะจัดฉลองเอ็งวันแรกในอเมริกาเลย... อ้อ.เกือบลืมไปลืมถามเอ็งไปว่า
เมียเก่าของเอ็งเนี่ยชื่ออะไรวะ เผื่อว่าเพื่อนข้ารู้จักจะได้มีเบาะแสมาบอกกันบ้าง
" " ชื่อนพศรีโว้ย ไอ้บ้า ตอนข้าแต่งงานก็เคยจดหมายมาบอกเอ็งครั้งหนึ่งแล้ว
ดันทำ เป็นลืม " ดู๋ดูซีคะ...มนูเพื่อนของสามีฉันคนนี้
มาอยู่อเมริกาไม่เท่าไรเค้าลืมชื่อฉันที่เป็นแฟนเพื่อนเค้าเสียได้
แต่ก็น่าเห็นใจค่ะ. เพราะตอน ที่ฉันกับสามีเริ่มรู้จักและคบกันเป็นแฟน
มนูก็เริ่มจะเดินทางไปอเมริกาแล้วทำให้ฉันกับมนูแทบจะไม่ได้สนิทกันเลย
เพิ่งมาสนิทสนมที่ อเมริกานี้เอง
สนิทสนมถึงขนาดเราสวิงกิ้งเซ็กส์กันอย่างเมามันเย็นวันนั้น บนอพาร์ตเมนท์
หนึ่งห้องนอนของมนู สองเพื่อนรักจัดการอาบ
น้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
เพื่อนผู้เป็นเจ้าถิ่นก็ออกไปซื้อกับข้าวกับแกล้มพร้อมด้วยเบียร์มามากมาย
จนสามีฉันสงสัยว่าเขากับเพื่อนจะ
กินมันหมดได้อย่างไรแต่มนูรีบกระซิบบอกขณะที่ก้าวเข้ามาในห้องทั้งๆที่ยัง
หอบของพะรุงพะรัง" เอ็งอย่าแปลกใจไอ้พงษ์ เย็นนี้เราจะ
มีแขกมาร่วมฉลองต้อนรับเอ็งอีกสองคน " " ใครกัน? ข้ารู้จักรึเปล่า?
" มนูส่ายหน้าอย่างรวดเร็วยิ้มกว้างก่อนบอกว่า
เอ็งไม่รู้จักหรอก แต่ไม่สำคัญหรอกวะพบกับเดี๋ยวเดียวก็รู้จัก..
.ฮึเอ็งเอ้ย.เชฟบ๊ะยังงี้เลยแถมใจถึงซะด้วย" "
ก็แปลว่าผู้หญิง...ใช่มั้ยวะ? "" เออ ข้าจะเชิญ
ผู้ชายมาทำเตี่ยอะไรล่ะ เอ็งก็รู้จักข้าดีนี่หว่า "
สามีฉันบอกว่าได้ยินเพื่อนบอกเช่น
นั้น
เค้าก็ตื่นเต้นกับงานฉลองต้อนรับของเพื่อนรักที่เคย
เที่ยวกันมาทุกซอกซอยจนรู้ใจกันดี" ฝรั่งหรือเปล่าวะ ไอ้นู "
มนูสั่นหน้า แล้วจัดแจงวางกับข้าวและเบียร์ลงบนโต๊ะช่วยกันเทใส่จาน- "
เป็นฝรั่งคนนึง ส่วนอีกคนก็พวกเดียวกับเอ็งและข้า " " สวยไหม?
" บ๊ะ ไอ้นี่ชักตื่นเต้ลลล์ สวยหรือไม่สวยเอ็งคอยดูเอาเอง
แต่ว่าเรื่องใจ ถึงแล้วเป็นที่หนึ่งเลยว่ะ "
มนูพูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งประกอบสรรพคุณ " อีสองคนเป็นคนชอบสนุกว่ะ
ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตนชอบแอ่นร่อน ไปเรื่อย พอใจใครก็เอาด้วย
นี่เพิ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่กับข้าได้สองครั้งชักติดใจข้าเลยถือโอกาสชวนมาต้อน
รับเอ็งซะเลย ยังไงๆเอ็งต้องไว้ลาย บ้างนะอย่าให้เสียชื่อ
กระฉูดเลอะเทอะออกมาซะก่อน > " เฮ้ย..เรื่องนี้รับรองได้
ข้าบอกแล้วว่าฝึกมาดี "
ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดอะไรกัน
ต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบาๆมนูหันไปขยิบตากับวีระพงษ์แล้วยิ้มร่า
ถลาไปถอดกลอนประตูเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือน ทันทีที่ประตู
ห้องเปิดออก.....วีระพงษ์สามีของฉันก็เห็นหญิงสาวชาวเอเซียกับอเมริกันสองคน
ยืนเด่นอยู่ตรงหน้า รูปทรงองค์เอวและสัดส่วนโค้งเว้า
ได้ที่เหมาะแก่การกระตุ้นเซ็กส์ของผู้ชาย หน้าตาของทั้งสองจิ้มลิ้ม
ประกายตาบ่งบอกความกระหายสวาทอยู่เป็นนิจ เนื่องจากมันแวววาว และ
ชวนเชิญให้ทดลองตลอดเวลา
ที่สำคัญทั้งสองนุ่งสเกิ๊ตสั้นจู๋โชว์ท่อนขาอวบขาวทำให้วีระพงษ์เผลอกลืน
น้ำลายอย่างไม่รู้ตัว มนูรีบ แนะนำเพื่อนสาวทั้งสองทันทีที่ทรุดลงนั่งบนโซฟา
" เฮ้ยไอ้พงษ์ นี่..ข้าขอแนะนำให้เอ็งรู้จักกับซูซาน "
มนูแนะนำเจ้าหล่อนคนที่มีผมสี
ทองนัยตาสีฟ้าปนเขียว
ซูซานยิ้มเปิดเผยปรี่เข้าจับมือทักทายวีระพงษ์เป็นภาษาอังกฤษ" ไฮ..ฮาว อาร์
ยู...สวัสดีค่ะ คุณสุภาพบุรุษ หวัง ว่าเราคงสนิทสนมกันเร็วกว่าที่คิดนะคะ "
" ยินดีรู้จักครับและผมก็หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกัน "
วีระพงษ์ตอบเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่อง
แคล่วจากทักษะแห่งการศึกษาระดับสูงอันหนึ่งของเขา " แล้วก็นี่...เพ็ญนภา
" มนูแนะนำเพิ่อนหญิงอีกคนหนึ่งที่ไว้ผมทรงบ๊อบสีดำขลับ " สวัสดีค่ะ
ยินดีต้อนรับสู่แอล.เอ.นะคะ" เพ็ญนภาทักทายขึ้นเป็นภาษาไทยน้ำเสียงเป็นกันเองพร้อมกับสะเทิ้นสายตา
มองอย่างคนเจ้าชู้" เอาละ...ทุกคนลงมือดื่มกินกันไปคุยกันไปดีกว่านะ "
มนูตัดบทแล้วเชิญชวนให้ทุกคนเริ่มกินอาหารเย็นมื้อนั้น
อดีตสามีของฉันเล่าต่อไปว่า
เมื่อเวลาผ่านไปสักสองชั่วโมง ทุกคนในวงอาหารก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดี ถึงขั้นหยอกเย้าจับมือถือแขนกันอย่างไม่เคอะเขิน
บางครั้ง หยอกกันด้วยจูบ
ซึ่งสองสาวต่างเชื้อชาติก็ไม่ถือสาเนื่องจากทั้งซูซานและเพ็ญนภาต่างก็รู้ ความนัย
ถึงการมาเยือนอพาร์ตเมนท์หลังนี้ ทั้ง คู่ดื่มเบียร์เก่งพอๆกับมนูและอดีตสามีฉัน
กระทั่งเบียร์หมดไปสองโหลกระป๋องแต่ละคนเริ่มมึน
การหยอกเย้าลุกลามไปเป็นการกอดรัดฟัด จูบกัน ด้วยความเต็มใจของทุกฝ่าย
มนูพยามยามจัดคู่ให้วีระพงษ์เข้าแนบกับซูซาน
โดยกระซิบบอกเหตุผลว่าให้เขาทดลองหุงข้าวด้วย "หม้อฝรั่ง"
ในฐานะผู้มาเยือน ส่วนเขาเองกอดรัดกับเพ็ญนภาอย่างเมามันในฐานะวัวเคยขาม้าเคยขี่กันมาก่อน
เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก
ตัณหาและอารมณ์ใคร่ก็ครอบคลุมแก่คนทั้งหมด
มนูพยักหน้าบุ้ยใบ้ให้วีระพงษ์พาซูซานเข้าไปในห้องนอนของเขา ส่วนตัวเขาเองก็ดึง
เพ็ญนภาลงมาฟัดกันบนพื้นที่ปูพรมอ่อนนุ่ม ในห้องของมนูนั้นเอง.....
ซูซานนอนปรือตาด้วยแรงปรารถนาบนเตียง กระโปรงสั้นจู๋ของเธอ
บัดนี้มันถูกร่นขึ้นมาจนเห็นเนินเนื้อ อวบที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในสีขาววับแวม
วีระพงษ์โถมร่างเข้าทับซูซาน สาวอเมริกันหัวเราะลั่นด้วย ความชอบใจ แล้วกอดตอบเขาแถมด้วยการประคองใบหน้าวีระพงษ์ขึ้นมาจูบปากอย่างดูดดื่ม
ป่ายมือเปะปะลงไปที่เป้ากางเกงของเขา ลูบ คลำมันอย่างพึงพอใจ
เมื่อรู้สึกว่ามีอาการท่อนแข็งดุนดันออกมาจนกางเกงโป่ง
วีระพงษ์ผู้ซึ่งไม่ยอมเสียเชิงชาย
ขณะที่จูบให้ลิ้นพันกัน ภายในปากของหญิงสาว
มือของเขาก็เลื่อนลงมาที่บัวเต่งคู่งามซึ่งอยู่ในเสื้อพร้อม
กับบีบเคล้นด้วยความเมามัน จนซูซานต้องถอนปากออก ครางลั่นเป็นภาษาอังกฤษ "
อูย.ย.ย....คุณอย่างบีบนมฉันแรงนักซี...ฉันเจ็บนะ " "
ขอโทษครับ...ผมเผลอตัวไปหน่อยเพราะคุณน่ารักน่า จูบไปทั้งตัว ""
น่ารักน่าจูบอย่างเดียวหรือคะ "
สาวผมทองนัยตาสีฟ้าถามอย่างยั่วสวาทและเชิญชวน ทำให้วีระพงษ์กระซิบข้างหู หล่อน
" น่าฟักด้วยครับ มีส " โอ้..เหยห์.."
ซูซานสำนองรับเบาๆแล้วก็ผลักวีระพงษ์ออกจากอกให้นอนหงายผลึ่งบนเตียง จากนั้นตัวเอง
ก็ ลุกขึ้นมายืนยิ้มกริ่มตาจ้องมองที่เป้ากางเกงของเขา แล้วใช้มือลูบไล้ไปมาเบาๆ
ทำให้มันยิ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาภายในของวีระพงษ์จนแข็ง
ขึงขึ้นแทบปริออกนอกกางเกงซูซานลูบของเขาพักหนึ่งก็ดึงเข็มขัดและรูดซิป
กางเกงของวีรพงษ์ออก ปล่อยให้สิ่งที่ถูกขังอยู่อย่างอึดอัด
เป็นอิสระดีดผึงออกมาอย่างท้าทาย ! "สิ่งนั้น" ของวีระพงษ์มีลำหักลำโค่นไม่เลวเลย
ความยาวประมาณหกนิ้วครึ่งอวบล่ำเส้นเอ็นปูดโปน รอบๆ
ท่อนลำนั้นมองดูน่าเกรงขามอยู่ในที ซูซานลูบไล้ท่อนเนื้อของวีระพงษ์อย่างเบา
มือจนมันกระดกสู้หงึกหงัก ที่ปลายถอกมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมา
สาวอเมริกันเห็นแล้วยิ้มด้วยความพอใจ ก้มลงจูบส่วนหัวพร้อมกับใช้ลิ้นเรียวของหล่อนเลียน้ำใสนั้นอย่างละเลียดไร้
ความ รังเกียจตามแบบฉบับเซ็กส์สไตล์ตะวันตกซึ่งเดี๋ยวนี้แพร่หลายนิยมไปทั้งโลก
วีระพงษ์แอ่นตัวสะดุ้งเพราะไม่ทันระวังตัว
หล่อนค้อนเขา อย่างคมคายถอนปากออกจากท่อนลำ
แล้วดีดปืนโตของเขาเล่นเบาๆเป็นเชิงหยอก " อุ้ย...ใจร้อนจริงคุณนี่ "
" โธ่..ก็คุณเล่นเลียของผม อย่างนี้ ใครจะไปทนไหว " วีระพงษ์พูดยิ้มๆ
ทั้งที่สิ่งซึ่งซูซานคลึงเคล้าเล่นในมือตั้งชี้โด่เด่
และ...ที่ประตูห้องซึ่งเราสองคนแง้มเอาไว้ เพียงเล็กน้อย วีรพงษ์บอกกับฉันว่าเขาและซูซานเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ลางๆ
ซูซานชายตาชำเลืองมองไปทางนั้นก็รู้ว่ามีสายตา สองคู่แอบดูอยู่
หล่อนจึงแกล้งยั่วยวนให้คนแอบดูงุ่นง่านมากขึ้นโดยการค่อยๆปลด
เปลื้องกระโปรงและเสื้อออกจากร่าง เหลือแต่บราเซีย ตัวน้อยพร้อมกับซับในบางๆสีขาว
เพียงสองชิ้นคาดบนและล่างไว้ ปล่อยเนื้อส่วนอื่นให้ออกมาอวดแสงไฟในห้องเป็นสีชมพูอ่อนอวบอัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น