ขายของ

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปฎิหารย์แห่งรัก ตอนที่11

ปฎิหารย์แห่งรัก ตอนที่11, ประภา..เมียที่แสนดีของผม "ป๊า..ๆ.." ผมสะดุ้งจากภวังค์ภาพความหลังของวรรณ เมื่อนิดเขย่าแขนพร้อมเรียกผมเบาๆ " นึกไรอยู่คะป๊า...อุ๊ย ๆ ๆ เพื่อนนิดมา นิดไปต้อนรับก่อนน๊า..ป๊ารอตรงนี้แป๊บนึง" สาวน้อยเจ้าสาวของผมเดินปิดสะโพกดุ๊ดดิ๊กเหมือนคนยักคิ้วจากไป ในจังหวะเดียวกันกับร่างสาวใหญ่ผิวขาวจัด หน้าที่เคยสวยงามไม่เป็นรองใครแม้บัดนี้เวลาผ่านมาจนเริ่มเข้าวัยปลาย แต่ก็ยังชวนมองไม่เสื่อมคลาย วรรณเธอลุกเดินมาหาผม เธออยู่ในชุดราตรียาวผ้าต่วนสีน้ำเงินสดใส แม้ชุดจะยาวกรอมพื้น แต่ก็มีรอยผ่าอยู่ด้านหน้า ยามเธอเยื้องกายเดินไปมารอยผ่าพยับเพยิบทำให้สามารถแลลึกเข้าไปพบกับลำขา เรียวงามสีขาวอมชมพูได้รำไรๆ วรรณเธอยังดูแลรักษารูปร่างได้เป็นอย่างดีแทบจะไม่ผิดกับเมื่อครั้งเธอยัง อยู่วัยสาว รอบอกเธอดูอวบอัดขึ้น เอวหนาขึ้นเล็กน้อยสะโพกอวบใหญ่หนั่นหนา แต่หน้าท้องกลับแบนเรียบ ท้องแขนยังเรียบตึงไม่หย่อนย้วย ทั้งนี้คงเป็นเพราะการเข้าฟิตเนสเป็นประจำของเธอ มีหลายคนต้องตะลึง เมื่อได้ทราบว่าเธออายุเกือบจะ50 อยู่แล้ว...แทบไม่น่าเชื่อ...คือเสียงอุทานที่ได้ยินบ่อยครั้ง จากเพื่อนบ้านหรือคนแปลกใหม่ที่เข้ามารุ้จักเธอภายหลัง วรรณหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าผม สายตาซุกซนขี้เล่นของเธอหายไปตามวัย คงเหลือเพียงความอ่อนโยน ความอารีต่อผู้ใกล้ชิด "วันนี้คุณหล่อจังเลย" เธอเอ่ยแซวผมเบาๆ "วรรณก็สวยไม่ถอยไปกับวัยเช่นกัน" ผมแซวเธอกลับ พร้อมยักคิ้วให้ ยังผลให้หน้าเธอแดงสร้านขึ้น "แน่ะ...ทำปากหวาน เดี๋ยวจะฟ้องน้องนิด" เธอพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ ค้อนผมพองาม ก็ น่าแปลกเหลือเกินว่าเมื่อผมเสียภรรยาไปแล้ว ทำไมผมถึงไม่เคยนึกถึงวรรณเลย อาจเพราะจังหวะชีวิตมันทำให้เราต้องมีเรื่องอะไรต่ออะไรให้วุ่นวายกัน จนลืมไปเลยว่าครั้งหนึ่งสาวคนนี้เคยยอมเสียความบริสุทธิ์ให้กับผมเพราะความ รัก หลังจากวรรณแต่งงานกับวิเชียรได้10ปี สามีเธอก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เธอเศร้าโศรกทุกข์ใจอยู่ได้3ปีกว่า ประภาภรรยาผมก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เธอทุ่มแรงกายแรงใจช่วยพยุงครอบครัวของผมให้ยืนหยัดได้อีกครั้ง สาเหตุเพราะตัวผมเองเมื่อเสียประภาไปแล้วชีวิตก็เหมือนดับสูญตามไปด้วย วรรณต้องเป็นภาระในการเลี้ยงดูหลานสาวน้อยๆสองคนที่เพิ่งอยู่ในวัยประถมให้ รู้สึกอบอุ่นเสมือนไม่ได้ขาดอะไรไป ผมเสียเวลาจมอยู่ในห้วงทุกข์หลายปี จนกระทั่งมีนิดแทรกเข้ามาในใจ ฉนั้นเรื่องระหว่างผมกับวรรณจึงคล้าย ดั่งเส้นขนานอยู่คู่กันให้แลเห็นแต่ก็ไม่มาบรรจบกันสักที วรรณจับแขนผมเขย่าเรียกเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมมัวแต่มองตะลึงนิ่งที่ใบหน้าเธอ "คุณ..ๆ ดูมองวรรณเข้า..ยังกะไม่เคยเห็นกัน" ผมรู้สึกตัวได้แต่หัวเราะแหะๆกลบเกลื่อนรอยพิรุธในใจ "ผมจะชดเชยให้วรรณ" ผมกระซิบบอกเธอเบาๆ วรรณเอียงคอมองผมตาโตไม่เข้าใจความหมาย "ว่าไงนะคะ" " ผมสัญญาว่าจะชดเชยหนี้ที่ติดค้างให้วรรณ" ผมรีบพูดออกไปอย่างเร็ว เพราะเห็นว่านิด กำลังเดินตรงมาหาผมพร้อมเพื่อนๆของเธอกลุ่มใหญ่ เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จแล้ว ผมก็ลืมชื่อไปเสียเกือบหมดทันที ยกเว้นยัยผึ้งสาวใต้ตาคมนมโตคนเดียวที่ผมไม่ลืมเลือนว่ายัยคนนี้เคยพานิดไป ลองนวดตัว จนเกือบจะต้องเสียตัวให้หมอนวดมาแล้ว สักวันนึงผมจะต้องเอาคืน ผมนึกในใจด้วยความอาฆาต วรรณเข้ามาอวยพรให้ชัยผมกับนิดด้วยความยินดี ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ในใจเธอไม่มีความริษยาเลยสักนิด นี่อีกคนที่ผมต้องชดใช้ให้ความสุขกับเธอบ้างผมสัญญากับตัวเองในใจ ผม พานิดเดินจากมาเพื่อไปยังโต๊ะของกลุ่มเพื่อนเก่าๆในสมัยที่ผมยังทำงานใน โรงแรมอยู่ คนแรกที่ถลาเข้ามาคือสวย หรือสุดที่รัก สาวเหนืออดีตเลขาของผม ผมชะงักไปนิดหนึ่งเพราะไม่คิดว่าเธอจะมาในงานนี้ จากสาวสวย เธอสวยสมชื่อเมื่อผมได้รู้จักเธอในครั้งแรก บัดนี้เธอคือสาวใหญ่วัยน่าจะ30ต้นๆ เธอมาในชุดแดงเพลิง สีของมันร้อนแรงตามแบบนิสัยของผู้สวมใส่ เธอดูอวบอัดขึ้นกว่าเดิมมาก ความสวยความเซ็กซี่ยังมีอยู่ครบ เธอเคยทำให้พนักงานในโรงแรมปั่นป่วนด้วยสเน่ห์ที่ร้ายกาจของเธอ แต่สำหรับผม ไม่เคยมองเธอด้วยสายตาพิสวาทสักครั้ง ถ้าเป็นเมื่อ5ปีก่อน ผมคงตะเพิดไล่เธอออกจากงานไปแล้วเพราะความเกลียดชัง แต่บัดนี้ผมให้อภัยเธอไปหมดแล้วสำหรับความผิดที่เธอก่อขึ้นกับครอบครัวของผม แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที ผมยังจำได้ไม่ลืมเลือนว่าครั้งแรกที่ผมได้ พบกับสวยเมื่อเธอมาสมัครงานในตำแหน่ง excutive secretary เลขาของ GM ชาวญี่ปุ่น เมื่อผมสัมภาษณ์เธอ จึงได้ทราบว่าเธอจบจากมหาลัยชื่อดังย่านรามคำแหงในสาขาที่ตรงกับคุณสมบัติ ที่ผมต้องการพอดี สวยเธอเก่งทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น คอมพิวเตอร์ก็เยี่ยม คุณสมบัติเธอโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่นมากมาย และก็เป็นจริงดังคาดเธอผ่านการสัมภาษณ์สุดท้ายด้วยภาษา ญี่ปุ่นกับนายของ ผม ผมทราบได้เลยว่านายพอใจเธออย่างมาก เพียงแค่เธอเดินออกจากห้องนายก็บอกให้ผมรับเธอเข้าทำงานได้เลย สวยจึงเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของโรงแรมในตำแหน่งเลขาของนายผม สำหรับผม มันมีลางสังหรณ์อยู่แล้วว่าคราวนี้โรงแรมได้วุ่นวายแน่ และก็เป็นจริงเพียงแค่การเข้ามาทำงานได้เดือนเดียว ทั้งนายผมและหัวหน้าแผนกอื่นๆ ต่างมะรุมมะตุ้มแย่งกันจีบแย่งกันเอาใจเธอ มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่มองเธอด้วยสายตาเฉยๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะปนิพานในการทำงานของผมคือ จะต้องไม่ให้เกิดเรื่องชู้สาวกับพนักงานในโรงแรมให้เสียการปกครอง ผมมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล คุมทั้งกฎระเบียบทุกอย่างในโรงแรม ถ้าผมประพฤติชู้สาวกับพนักงานหญิง ต่อไปใครล่ะจะเชื่อใจว่าผมเที่ยงธรรมเมื่อเกิดปัญหาให้ต้องตัดสินใจ ฉนั้นอย่างที่บอกว่าสวยเธอจึงไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลย เวลาผ่านไป สามเดือนกว่า สวยกำลังจะพ้นระยะทดลองงานแล้ว ผมได้นำfileของเธอไปให้นายเซ็นต์รับ ปรากฎว่านายมีปัญหาในการรับเธอเข้าเป็นพนักงานประจำ ไม่ใช่ว่าเธอทำงานไม่ได้แต่เป็นเพราะความสวยน่ารักของเธอต่างหากที่นายชาว ญี่ปุ่นของผมโดนภรรยาเล่นงานเอา ผมจำได้ว่าผมโต้เถียงกับนายเพื่อปกป้องสิทธิ์ในการเป็นพนักงานของเธอ สวยไม่ได้ทำอะไรผิดเธอทำงานได้เป็นอย่างดี บุคคลากรที่มีคุณภาพผมไม่ยอมสูญเสียไปแน่เพราะว่าเธอสวยจนเมียนายไม่ไว้วาง ใจ ผลสรุปคือนายโยนสวยให้ผมพิจารณาว่าจะให้ย้ายไปอยู่ที่ใด เลขาทุกแผนกเต็มหมดแล้วยกเว้นแผนกบุคคลของผมที่ไม่เคยมีตำแหน่งนี้มาก่อน ผมค่อนข้างหนักใจที่จะรับเธอเข้ามาในแผนกเพราะเงินเดือนในตำแหน่งเลขาGMนั้น สูงพอสมควร ถ้ารับเธอเข้ามาจะทำให้โครงสร้างด้านเงินเดือนของแผนกผมปั่นป่วนพอควร แทนที่ลูกน้องของผมจะได้ปรับเงินเดือนสูงๆตามเพดานเงินเดือน ก็ต้องมากระจายส่วนให้กับสวยด้วย แต่ท้ายที่สุดผมก็จำยอมตามที่นาย ร้องขอ เหลือเพียงขั้นตอนการเจรจาให้สวยเธอยินยอมลดตำแหน่งลงมาเป็นเลขาของผมเท่า นั้น ในครั้งแรกผมคิดว่าเธอคงไม่ยินยอมแน่เพราะระดับของการเป็นพนักงานมันถูกลดลง มาจากเลขาGM มาเหลือแค่เลขาผู้จัดการแผนกอย่างผม แต่ผมกลับผิดคาดเมื่อเธอทราบว่าจะต้องถูกย้ายลงมาเป็นเลขาของผมเธอกลับดีใจ ลางสังหรณ์ดูเหมือนจะบอกให้ผมทราบอีกครั้งว่าชีวิตคงวุ่นวายเพราะผู้หญิงคน นี้แน่

ไม่มีความคิดเห็น: