ขายของ

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปฎิหารย์แห่งรัก ตอนที่18

ตอนที่18.... หลังผ่านเหตุการณ์ ที่ผมมีสัมพันธ์สวาทกับลูกน้องของตัวเองมา ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก เจ้าสวยยังคงเป็นแขกประจำของบ้านผมทุกวันหยุด บางครั้งก็ถือโอกาศค้างแรมด้วย เมื่อทราบว่าวันหยุดไหน ผมและครอบครัวมีโปรแกรมไปท่องเที่ยวกัน หลาย คืนที่ภาพยายามผลักไส หรือพูดตรง ๆ ก็คือไล่ให้ผมลงมาหาสาวสวยที่นอนรออยู่ในห้องรับแขก เมื่อผมพยามยามจะขอเบิ้ลครั้งที่สอง ครั้งแรกนั้นภาไม่เคยปฎิเสธ แต่พอผมจะเริ่มอีกครั้งในคืนเดียวกันนั้น ภาจะบ่ายเบี่ยงทุกครา ผมก็ใจแข็งไม่ยอมลงมาทำตามที่ภาร้องขอ เมื่อภาเธอไม่ให้ ผมก็พยายามข่มตาให้หลับ และก็สำเร็จทุกครา ผมไม่ล่วงรู้หรอกว่าการกระทำของผมเช่นนี้ กลับเป็นแรงกระตุ้นให้เจ้าสวยอยากเอาชนะ หลายครั้งที่อยู่ในที่ทำงาน คราใดที่อยู่กันสองต่อสอง เจ้าสวยมักยั่วยวนผมทั้งด้วยสายตา และคำพูด ท่าทาง สารพัดที่จะพยายามให้ผม ตะบะแตก แต่ก็ยังไม่สำเร็จอยู่ดี หา ใช่ว่าผมจะประเสริฐเลิศเลอเหนือชายอื่น แต่ผมรู้สึกไม่ดีทุกครั้งไปเมื่อนึกถึงความตั้งใจมั่นตั้งแต่เริ่มแรกของ ชีวิตทำงานว่า ผมจะไม่ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด แต่ผมก็กลับพลาดไปเสียแล้วครั้งหนึ่ง และจะพยายามไม่พลาดอีก ผมย้อนนึกไปถึงเรื่องหนึ่งที่สร้างความขบขันให้กับลูกน้องผมเสมอมา เมื่อมีพนักงานจากแผนกฟรอนรีเซฟชั่น คนหนึ่งมาลาออกจากงาน พนักงานผู้นี้ รู้กันดีในหมู่ลูกน้องและเพื่อน ๆผมในที่ทำงานว่า เธอพยายามจะอ่อยผมมานาน แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จนเธอท้อถอยไปเอง วันที่เธอมายื่นใบลาออกกับผม ก่อนที่เธอจะออกไปจากห้องทำงาน ประโยคหนึ่งที่เธอพูดว่า "ชาติหน้า..อ๋อย ขอภาวนาให้หัวหน้าเป็นกระเทย.." ผ่านไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคม ผู้ช่วยผมกำลังจะแต่งงาน โดยร้องขอให้ผมเป็นเถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้า เรื่องเพียงเท่านี้ไม่ลำบากยากเย็นทำให้ผมไม่สามารถปฎิเสธได้ เมื่อวันงานมาถึง ดูช่างแสนจะวุ่นวายนัก โรงแรมมีปัญหาแต่เช้าเมื่อ แขกชาวญี่ปุ่นมาแจ้งว่าของมีค่าหลายรายการหายไปจากห้อง ผมในฐานะผู้จัดการฝ่ายบุคคล ซึ่งควบคุมแผนกรักษาความปลอดภัยเข้าไว้ด้วย จึงต้องวุ่นวายอยู่กับการสอบถาม และหาต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างใด แขกกล่าวหาว่าพนักงานของโรงแรมต้องเป็นผู้เอาทรัพย์สินไปแน่ เพราะเขาพักเพียงผู้เดียว ผมต้องเรียกพนักงานทั้งรอบบ่ายและรอบดึกที่มีหน้าที่ข้องเกี่ยวกับแขกห้อง นี้มาสอบเป็นรายบุคคล จนในที่สุดเมื่อเปิดเทปวงจรปิดดูจึงได้รู้ว่า แขกแอบพาผู้หญิงขึ้นไปบนห้องเพื่อหลับนอน และเงินทองที่แจ้งว่าหายไปนั้นที่แท้กุเรื่องขึ้น เพื่อหวังว่าทางโรงแรมจะชดเชยให้ ผมเสียเวลาจัดการกับปัญหานี้จน ล่วงถึงช่วงเย็น ภาและลูกน้องผมรอกันอยู่ในหน้าสลอนในออฟฟิส เพราะผมต้องไปเป็นเถ้าแก่สู่ขอเมียให้กับลูกน้องนั่นเอง แต่แล้วก่อนที่เราจะออกเดินทางไปที่นครสวรรค์ อันเป็นบ้านเจ้าสาวนั้น GM ชาวญี่ปุ่นของผมก็โทรศัพท์ตามตัวผมขึ้นไปพบ เพื่อให้รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแขกชาวญี่ปุ่นให้รับทราบ ภา เสนอว่าเมื่อผมยังต้องขึ้นไปรายงานให้นายรับทราบเช่นนี้ คงไปไม่ทันฤกษ์แน่ จึงขอล่วงหน้าไปกับลูกน้องผู้ชายในแผนกอีกสองคน อย่างน้อยเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวคงไม่ต้องกระวนกระวายใจนักเมื่อผมไปสาย ผมไม่อยากให้ภาต้องเดินทางไปเพียงลำพังเลย มันรู้สึกห่วง ๆ ขึ้นมาอย่างประหลาด รถของลูกน้องผมนั้นก็แสนจะเก่า สภาพคงไม่ดีนักถ้าต้องใช้ขับไปถึงนครสวรรค์ ผมจึงทั้งสั่งทั้งกำชับว่าห้ามขับเร็ว ผมรอจนภาและลูกน้องทั้งสอง คนขึ้นรถจากไป ใจผมห่วงและกังวลขึ้นมาอย่างประหลาด แต่สถาณการณ์กระชั้นชิดเช่นนี้สิ่งที่ภาทำ น่าจะเป็นผลดี ผมเชื่อมั่นว่าภาคิดหรือทำอะไรต้องคิดดีแล้วเสมอมา ผมพาเจ้าสวยขึ้น ไปพบนายชาวญี่ปุ่น รายงานเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมนำหลักฐานขึ้นไปประกอบให้พิจารณาจน นายญี่ปุ่นวางใจว่าแขกผู้นั้นคงไม่สามารถย้อนกลับมาเล่นงานให้ทางโรงแรมต้อง เสียชื่อเสียงได้แน่ ผมเสียเวลาไปกับการรายงานเกือบชั่วโมงครึ่ง รีบโทรศัพท์หาภาว่าเดินทางไปถึงไหนแล้ว โชคดีที่รถในกรุงเทพติดหนักภาและคณะเพิ่งจะไปถึงแค่นวนครเท่านั้นเอง ถ้าผมรีบขับรถตามอย่างดีก็น่าจะทันกันก่อนที่จะถึงนครสวรรค์ ผมเร่ง เจ้าสวยให้รีบขึ้นรถออกเดินทาง มันก็มัวแต่อ้อยอิ่งคุยกับแฟนหมออยู่นั่นเอง จนผมต้องยื่นคำขาดว่าถ้ายังชักช้า ผมจะไปคนเดียว เจ้าสวยเดินยิ้มยั่วผ่านหน้าผมไปเปิดประตูรถขึ้นอีกด้านหนึ่ง ผม กระชากรถออกอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้เหมือนกันว่าหงุดหงิดเพราะเจ้าสวยชักช้า หรือหงุดหงิดที่มันคุยกับแฟนหมอแล้วดันมายิ้มยั่วผมกันแน่ ช่วงเวลาที่ผมออกจากโรงแรมนั้น การจราจรในกรุงเทพเริ่มดีขึ้น ผมเสียเวลาไม่ถึง45นาทีก็มาถึงนวนครแล้ว ผมโทรหาภาอีกครั้ง ทราบว่ารถของภาเพิ่งผ่านแยกอยุธยาไปไม่ถึง10นาที ทันแน่ผมคิดในใจ ผมห่วงภาขึ้นมาอย่างประหลาด 10นาทีผ่านไปผมอยู่แถว ๆ บางประอิน ไฟน้ำมันแดงวาบ ๆเตือนให้รู้ว่านำมันเชื้อเพลิงใกล้จะหมดถัง ผมเลี้ยวรถเข้าไปเติม เจ้าสวยก็ร้องขอเข้าห้องน้ำพร้อมหอบกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเล็ก ๆ ลงไปด้วย เมื่อผมเติมน้ำมันเสร็จ เจ้าสวยยังไม่กลับมาสักที ผมโทรหาภาอีกครั้ง จึงทราบว่าอีก10กิโลภาก็จะถึงทางแยกอ่างทอง ผมร้องขอให้ภาหยุดรถรอ แต่เธอปฎิเสธ บอกว่าขับไปเรื่อย ๆ แบบนี้เดี๋ยวผมก็จะตามทันเอง เจ้า สวยหายเข้าห้องน้ำนานจนผมเริ่มหงุดหงิด เดินวนไปวนมา ผมแปลกใจตัวเองเช่นกันว่าทำไมวันนี้จิตใจที่เคยสงบเยือกเย็นของผมหายไปไหน ผมหงุดหงิดที่มันชักช้าอ้อยอิ่ง ผมห่วงภาที่ผมต้องปล่อยให้เธอเดินทางไปลำพังกับลูกน้องของผม ผ่านไปอีก10นาทีเจ้าสวยจึงเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดใหม่แซ็กสั้นสีแดง เพลิง ผ้ากำมะหยี่มันเลื่อมสีแดงขับผิวของผ่องของเจ้าสวยให้ดูผุดผ่อง ผู้ชาย หลายคนที่อยู่บริเวณห้องน้ำมองตามร่างเจ้าสวยที่เยื้องกรายมายังรถผมเป็นตา เดียว อืม..ชุดนี้มันดูสวยจริง ๆ ผมนึกในใจ แต่ผมไม่มีเวลาที่เพ่งพิจารณานานนัก ด้วยใจที่กระวนกระวายอยากรีบเร่งให้ขับรถไปทันภาเร็ว ๆ กลิ่นน้ำ หอมอ่อน ๆ ของนิน่าริชชี่ ที่ระเหยมาจากเรือนกายของเจ้าสวยทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา ผมและเจ้าสวยแทบจะไม่ได้พูดกันเลย มีเพียงคำว่าเร้ว ๆ จากผม และขอเข้าห้องน้ำค่ะ จากปากเจ้าสวยเพียงเท่านั้น จน ผมเริ่มผิดสังเกตุ จากสาวที่มีปากช่างพูดช่างฉอเลาะของสวย แต่วันนี้ทำไมมันถึงเงียบนัก เมื่อผมเอียงหน้าเหลือบตาไปมอง ใจก็หายวาบ เมื่อเห็นหน้าสวย ๆของมันดูเศร้าหมองนัก "สวยเป็นไร..." ผมถามห้วน ๆ "เปล่าค่ะ.." มันตอบกลับมาเพียงสั้น ๆ ใบหน้าที่ดูเหงา ๆ เศร้า ๆ ยิ่งฉายแววออกมาชัดขึ้น "เมื่อหัวค่ำทะเลาะกับแฟนหรอ" ผมพยายามเดา เพราะเห็นมันคุยโทรศัพท์กับแฟนพร้อมทำหน้าเคร่งเครียด "เปล่าค่ะ..ไม่ได้ทะเลาะกัน แค่สวยบอกเลิก" คำตอบของเจ้าสวย ถึงกับทำให้ผมสะดุ้ง " อ๊าว..ทำไมล่ะ" ผมกลืนน้ำลายฝืด ๆ ถามไปแล้ว แต่ไม่อยากได้คำตอบ หวั่นใจว่าคำตอบนั้นมันจะเกี่ยวพันมาถึงตัวผม และก็เป็นจริง เมื่อเจ้าสวยพูดต่อไปให้ทราบว่า มันไม่ได้รักเจ้าหมอ แล้วจะถ่วงเวลาไปเพื่ออะไร คนที่มันรักคือคนที่กำลังขับรถคนนี้ตะหาก เจ้า สวยพูดไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามเก็บกลืนก้อนสะอื้น แต่ไม่เท่าไหร่ทำนบน้ำตาของมันก็พังทะลายลงอาบแก้ม ใจผมหายวูบรีบลดความเร็วของรถลงมา ผมพยามปลอบมัน ชี้ให้เห็นถึงผลดีผลเสียในการที่มันคิดเช่นนี้กับผม แต่คงไม่สำเร็จเพราะแทนที่มันจะเชื่อฟังผมเฉกเช่นเมื่ออยู่ในเวลางานมันจะ เชื่อฟังคำสั่งและปฎฺบัติตาม โดยไม่เคยโต้แย้ง แต่ขณะนี้มันเอาแต่ส่ายหน้า ปิดหูไม่ยอมรับฟังคำพูดของผม น้ำตาไหลอาบแก้มจนใบหน้าที่แต่งเติมมาอย่างสดสวย ดูมอมแมมไปถนัด ผม ปล่อยให้สถาณการณ์ดำเนินต่อไปในลักษณะนี้ไม่ได้แน่ จึงชลอรถจอดข้างทางมองเห็นข้างหน้าคือปั้มร้างแห่งหนึ่ง ผมดึงกระดาษเช็ดหน้าในรถส่งให้เจ้าสวยเช็ดคราบน้ำตา พยามยามปลุกปลอบมัน จนมันหยุดร้องไห้ แต่ก็ผวาร่างเข้ามากอดผมแนบแน่น เรือนกายอวบอิ่มเต็มไปด้วยส่วนสัดที่สมบูรณ์ ใบหน้าสวยหวานของมันซุกอยู่ที่ซอกคอของผม อกอวบอิ่มทั้งคู่ อัดแน่นอยู่ที่แผงอกของผม มันพร่ำพรรณาว่ามันรักผมมากเพียงใด ตัดพ้อน้อยอกน้อยใจที่ผมทำต้วห่างเหิน ใจผมนั้นหาใช่เหล็กหิน ในที่สุดก็อดที่จะโอนอ่อนผ่อนตามด้วยความเห็นใจมันไม่ได้ ผมรับปากมันว่าผมจะไม่ทำเช่นที่ผ่านมาอีก ผมจะดูแลเอาใจใส่มันมากขึ้น จะให้ความสุขกับมันดั่งเดิม มือเจ้าสวยที่ตอนแรกเพียงโอบกอดผมไว้เฉย ๆ กลับเริ่มลูบไล้ต่ำลงมาตามแผงอก จนในที่ สุดก็ซุกมือเข้าที่เป้ากางเกง ของผม ผมชะงักไปเมื่อเอียงหน้ากลับมามองสบตาก็พบสายตาหวานหยาดเยิ้ม พร้อมริมฝีปากฉ่ำหวานที่แย้มเผยอนิด ๆ รอรับการจูบ ผมทำตามแรงความปา รารถนาแห่งเพศ ในสมองไม่คิดถึงสิ่งใดแล้วในขณะนั้น ผมก้มลงไปจูบควานลิ้นสอดใส่ในปากรูปสวยของมัน และก็ได้รับการสนองจูบกลับมาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน มือเจ้าสวยกำบีบอยู่ที่แก่นกายของผมจนมันตื่นตัว มือผมก็ลูบไล้อกอวบคู่งามที่ซ่อนตัวในชุดแซ็กสั้นสีเพลิงนั้นอย่างหื่น กระหาย เราแลกจูบกันอย่างร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟแห่งความปารถนา ทรวงอกเจ้าสวยกระเพื่อมไหวตามแรงลมหายใจเมื่อผมละปากออกมา มือเจ้า สวยพยามล้วงควักเข้ามาจับกุมแก่นกายของผม แต่เมื่อผมปรามให้มันรู้ว่าเรากำลังจอดรถอยู่ข้างถนนกันนะ เจ้าสวยจึงชะงักพร้อมอ้อนวอนให้ผมหาที่จัดการกับมันก่อน

ไม่มีความคิดเห็น: