ขายของ

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปฎิหารย์แห่งรัก ตอนที่12

ตอนที่ 12 และแล้วลางสังหรณ์ผมก็ไม่พลาด ออฟฟิตผมที่เคยเงียบๆไม่ค่อยพลุกพล่าน พอมียัยสวยมาเป็นเลขาเท่านั้นเองก็คึกคักขึ้นทันตาเห็น พนักงานทุกระดับ ต่างทยอยกันแวะเวียนเข้ามา หัวหน้าและผู้จัดการแผนกต่างๆต่างทะยอยแวะเวียนเข้ามาหาเรื่องคุยกับผม แต่สายตาหาได้จับจ้องอยู่กับผู้สนทนา โน่นแลไปหน้าห้องผมเพื่อสบสายตากับยัยเลขาหน้าหวานของผม หรือไม่ก็พยายามแลลอด โต๊ะควานสายตาหาลำขาคู่งามที่พร้อมจะโชร์อยู่ตลอดเวลา ส่วน ผมแทนที่จะได้ทำงานก็ต้องมาเสียเวลากับคนพวกนี้โดยใช่เหตุ ความจริงแล้วไอ้สวยมันก็มีแฟนอยู่แล้วละเป็นหมอ ทราบว่าเป็นรุ่นพี่มันสองสามปี ผมไม่เคยเห็นหน้าหรอกจนกระทั่งถึงงาน staff party นั่นแหละที่เจ้าสวยมันพาแฟนมาแนะนำให้รู้จักผม หมอเป็นชาย หนุ่มหน้าตี๋ๆ หุ่นบางๆสวมแว่นสายตาหนาเตอะ ก็ดูหล่อพอใช้เพียงแต่หุ่นมันไม่แมนเลย ผมคิดว่าแบบนี้มันไม่น่าจะใช่สเป็คของลูกน้องตัวแสบของผมแน่ และก็เป็นจริงเมื่อผมแอบกระซิบถามมัน ถึงได้ทราบว่าพ่อแม่มันกะพ่อแม่หมอสนิทกันมากเลยจับหมั้น แต่จากสายตาที่หมอมองไอ้สวยนั้นในฐานะผู้ชายเหมือนกันผมกล้าฟันธงได้เลยว่า หมอน่ะรัก และหลงไอ้สวยขนาดไหน แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในงาน staff party ไอ้เจ้าพวกหนุ่มๆในโรงแรมทั้งหลายนี่สิพอเหล้าเข้าปากไปได้สักพักก็เริ่มเอะอะพูดกระ เซ้า เย้าแหย่เลขาของผมจนแฟนหมอมันหึง เกือบจะมีเรื่องกัน เดือดร้อนถึงผมอีกตามเคยที่ต้องใช้ทั้งพระเดชพระคุณถึงจะระงับสถานการณ์ให้ เรียบร้อย ผ่านไปได้ พอหมอกลับไปก่อนเพราะต้องเข้าเวรที่โรง พยาบาล ครานี้ไอ้สวยเลยเกาะผมแจ จนไอ้กิจเพื่อนผมที่เป็นผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มแอบมากระซิบในช่วง ที่ไอ้สว ยเข้าห้องน้ำว่า "ท่าคงอยากให้มึงจิ้มซะแล้วว่ะ" "ควย..มึงจะบ้าเหรอ ภาจะได้ตัดของกูทิ้ง" "อย่างมึงกลัวเหรอ สัด...ทำยังกะว่ากูไม่รู้จักมึง ฮ่าๆๆๆๆ" " กลัวดิ..ของกูยิ่งใหญ่ๆหายากว่ะ..ไม่เหมือนของมึง" ผมจำได้ว่าพอพูดเสร็จก็ต้องหลบตีนมันวูบวาบก่อนที่จะพูดคุยกันต่อไอ้สวยก็ เดินลิ่วๆจ ากห้องน้ำกลับมา "ถ้ามึงไม่เอา ..กูเอานะ" ไอ้กิจยังไม่ยอมจบ " เออ....มีฝีมือก็เอาไป แต่...อย่าใช้ยากะลูกน้องกูนะ.." ผมพูดเสียงเข้มๆเพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่าไอ้กิจเพื่อนผมนั้นมันถนัดการมอมยา สาวๆแล้ว พาไปเชือดเสมอ ที่พูดเตือนมันไม่ใช่เพราะผมอยากกีดกัน แต่ไม่อยากให้เด็กในปกครองของตนต้องพลาดท่าเสียทีโดยไม่เต็มใจ แต่ทว่าถ้ามันมีฝีมือจีบได้แล้วไอ้สวยยอมมันด้วยความเต็มใจผมก็คงไม่ไปขัด ขวางมันแน่ "หัวหน้าไปกัน" พอไอ้สวยเดินมาถึงก็คว้าแขนผมหมับเดินจูงออกไปทิ้งให้ไอ้กิจมองตามจนคอแทบ เคล็ด ก็จะไม่ให้มันมองได้ไงล่ะเมื่อวันนี้ไอ้สวยเลขาผมมันใส่ชุดราตรีสั้นที่ คว้านช่วงคอจ นเห็นเนินอกขนาดไม่ต่ำกว่า35นิ้ว คัพบี รำไรๆ ชายกระโปรงยามเดินพริ้วไหวไปมา รับกับสะโพกที่อวบอิ่มและเอวที่คอดกิ่ว แม้ผมไม่เคยมีจิตพิสวาทในตัวไอ้สวยเลย แต่ก็ยอมรับว่ารูปร่างแบบมันนี่นางแบบถ่ายภาพวาบหวิวกินไม่ลงแน่ พอกลับ เข้ามาในงานอีกครั้ง ครานี้แฟนหมอไอ้สวยไม่อยู่แล้ว ทั้งไอ้หนุ่มและไอ้เฒ่าหัวงูทั้งหลายเลยได้โอกาศผลัดกันมายกแก้วชวนไอ้สวย ดื่มไม่ขาด ผมเห็นแล้วก็ไม่อยากห้ามหรือเตือนมันเพราะโตๆกันแล้ว แค่ครึ่งชัวโมงไอ้สวยก็ป้อแป้เสียแล้ว แต่ก่อนที่สติมันจะขาดดันเสือกกระซิบมาบอกผมว่า "หัวหน้า...สวยไว้ใจหัว หน้านะคะ ..เอาสวยกลับบ้านด้วย" เดือดร้อนผมอีกแล้ว ไม่ผิดกะที่ผมคาดการณ์ไว้เลยว่าเมื่อมีเลขาคนนี้เมื่อไหร่ผมต้องเดือดร้อน เพราะมันแน ่ๆ พองานเลิกผมให้ลูกน้องในแผนกช่วยกันประคองร่างที่ เกือบไร้สติของไอ้สวยมายังรถของผม เดินผ่านพนักงานหนุ่มๆและบรรดาไอ้เฒ่าหัวงูทั้งหลายมีเสียงแซวแว่วๆพอได้ยิน ว่า ..เสร็จพี่ภู..ไอ้ภูแน่... ผมไม่ถือสาเพราะเป็นใครก็คงคาดเดาไปใน ทำนองนั้น สาวสวยที่เกือบไร้สติถูกผมพาออกไปจากงานเลี้ยงในลักษณะนี้ แต่ใครเล่าจะมารู้ถึงจิตใจผมว่า ผมลำบากใจแค่ไหน จะพาไอ้สวยไปส่งบ้านก็ดันไม่รู้จัก แม้ใน file พนักงานจะมีแผนผังบ้านของพนักงานทุกคนก็ตามที ผมก็คร้านที่จะเปิดออฟฟิตลงไปหา มีทางเดียวคือต้องพามันกลับบ้านของผม ระหว่างที่ขับรถอยู่นั้น ร่างไอ้สวยที่นอนพิงเบาะส่ายโงนเงนไปมาจังหวะการเลี้ยวของรถทำให้บางคราหน้ามันก็ทิ่ มไป ที่กระจกประตูด้านข้าง บางคราก็เอนมาซบกับตัวผมจนทำให้ขับรถได้ไม่ถนัดนัก พอรถจอดติดไฟแดงที่แยกคลองตัน ผมจึงเอื้อมตัวไปหาร่างอวบอิ่มของไอ้สวยหมายจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาล็อคร่าง มันไว้ไม่ใ ห้โอนเอนไปหา มือผมกำลังจะคว้าสายเข็มขัดได้อยู่แล้ว เสียงแตรจากรถคันหลังก็ดันขึ้นจนสะดุ้ง ผมจึงรีบเคลื่อนรถออกไปก่อนเพราะตอนนั้นไฟเขียวซะแล้ว พอพ้นสี่แยกมานิดหน่อยผมจอดรถเข้าข้างทางพร้อมคว้าเข็มขัดนิรภัยอีกครั้ง ระหว่างที่ร่างผมกำลังคล่อมไปที่ร่างอวบอิ่มของไอ้สวยอยู่นั้น ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆไอ้สวยเอื้อมมือมากอดผมแน่นจนร่างผมเสียหลัง แนบเข้ากับ อกอวบๆของมันเต็มๆ กลิ่นเหล้านอกโชยมาจากปากและจมูกที่หายใจฟืดๆของไอ้สวย ปากเผยอขึ้นเล็กน้อยเสมือนเป็นการเชิญชวน " สวยปล่อย..." ผมเรียกเพื่อเตือนสติ พร้อมยกมือจับหน้าสวยๆของมันให้เบนออกด้านข้าง เพราะกลัวเหมือนกันว่าจะระงับอารมณ์ไม่ได้ เมื่อใบหน้าสวยหวานของมันมาลอยอยู่ใกล้ๆขนาดนี้ "ขอสวยกอดหน่อย...อบอุ่นจังเลย" เสียงไอ้สวยพูดอ้อแอ้ๆ ด้วยความเมา "พอแล้ว..ปล่อย.." ผมพูดเสียงเข้มขึ้น "เมาแล้วนะเราน่ะ...เร็วปล่อย" ผมเริ่มทำเสียงดุๆเพื่อเตือนสติไอ้สวย หวังว่ามันน่าจะกลัว "ไม่มาว..สวยไม่มาว..." "ไม่เมาก็ปล่อย.....รู้ตัวมั๊ยว่ากำลังทำไรเนี่ยะ" ผมกำลังเริ่มหงุดหงิด เมื่อไอ้สวยมันยิ่งกอดรัดผมแน่นขึ้นทุกที "รู้ค่ะ..สวยกอดหัวหน้าอยู่ไง" พอพูดจบมันก็ซบหน้าลงมาที่บ่าของผม ทั้งกลิ่นเหล้าและกลิ่นน้ำหอมอย่างดีโชยเข้าจมูกผมอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ผมจะขาดสติปล่อยให้อารมณ์ความอยากของผู้ชายเข้ามาครอบงำให้กระทำผิดละเมิดปนิ พานที่ตัวเองตั้งไว้ ผมใช้สองมือจับไหล่ทั้งสองข้างของไอ้สวยออกแรงผลักจนหลุดออกมาจากอ้อมกอดของมัน กลับมานั่งประจำที่เช่นเดิม " คาดเข็มขัดเร็ว.." ผมพูดห้วนๆ ชำเลืองมองเห็นหน้าไอ้สวยเสียไปเหมือนกัน พอมันคาดเข็มขัดเรียบร้อยแล้วผมกระชากรถออกไปอย่างแรง ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน อารมณ์ความอยากมีเหมือนชาวบ้านเค้าแหละ แต่ทว่าผมไม่อยากให้ความหื่นกระหายแบบนี้มาทำลายปนิพานของตัวเอง แม้จิตไม่ได้คิดพิสวาทแต่ร่างกายที่อยู่เหนือการควบคุมก็ทำให้ท่อนลำใน กางเกงของผมลุ กแข็งโชนจนรู้สึกอึดอัด ผมรีบขับรถเพื่อให้หลุดพ้นจากสถาณการณ์แบบนี้ไปโดยเร็ว จุด หมายปลายทางของผมคือบ้านและภาเมียที่แสนดีของผม ไอ้สวยนั่งเงียบๆไปสักพัก ผมเริ่มแปลกใจว่าเมื่ออยู่ในงานเลี้ยงดูมันเมาอย่างหนัก แต่ทว่าบัดนี้จากการพูดจากันเหมือนว่ามันไม่เมามากเช่นที่ผมเข้าใจ "หัวหน้า..โกรธสวยเหรอ" เสียงไอ้สวยตอนนี้ไม่เหมือนคนเมาเลย "ป่าว..." "สวยขอโทษ.."ไอ้สวยอ้อมแอ้มพูดขึ้นมาเบาๆหลังจากที่เงียบไปสักครู่ "รู้มั๊ยว่า... ทำแบบนี้ไม่ดี" ผมกำลังจะเริ่มอบรม "ค่ะ..ทราบ..." ไอ้สวยรับคำเบาๆ เสียงเริ่มสั่นเครือ ทำให้ผมเริ่มใจอ่อน สิ่งที่อยากจะดุ อยากจะสั่งสอนมันเลยต้องระงับไปโดยปริยาย "สวยชอบหัวหน้า..." อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบๆไปสักพัก แต่เล่นเอาผมต้องสะดุ้งเมื่อได้ยิน "ได้ไง...ผมมีครอบครัวแล้ว" "สวยแค่อยากบอกให้ทราบ...สิ่งที่สวยทำไปมะกี้เพราะสวยชอบหัวหน้า..จึงอยากกอดแค่ นั้น" สิ่งหนึ่งที่ผมทราบอีกอย่างในตัวเลขาคนสวยของผมก็คือการที่มันเป็นคนพูดจา ตรงๆ ไม่มีการอ้อมค้อม ไม่มีลีลา เมื่อมันบอกว่าชอบผมเลยอยากกอด ผมเหลือบตามองมันอีกครั้งในจังหวะที่มันหันมามองผมพอดี ผมยิ้มนิดๆให้มันเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นทันทีที่ทราบว่าไอ้สวยมั นชอบผม "บ้านอยู่ไหน จะได้ไปส่ง" เมื่อผมเห็นว่าไอ้สวยมันไม่ได้เมามากนัก พูดกันรู้เรื่องจึงคิดอยากจะไปส่งมันที่บ้านมากกว่าพามันไปบ้านผม "อยากไปบ้านหัวหน้า..นะ..นะ" ทั้งเสียงทั้งหน้าตาที่อ้อนๆจนทำให้ผมใจอ่อน "คิดไรอยู่ละป่าว..." ผมยังคงไม่ไว้ใจมันนักแม้ใจจะอ่อนลงมากก็ตาม "อยากไปหาพี่ภาด้วย..." "ทำไม" "ไป..สารภาพผิด ว่าแอบชอบสามีพี่เค้า" พอพูดจบไอ้สวยก็หัวเราะคิกคักเมื่อมันเห็นว่าผมทำหน้าเหรอหรา "สวยล้อเล่น...ไม่พูดหรอก" ผม พาสวยมาถึงบ้านประมาณ5ทุ่มกว่าๆ เมือภาลงมารับ เธอก็ตกใจเล็กน้อยที่เจอเลขาคนสวยของผมในสภาพที่เมากลับมาด้วย ข้างฝ่ายเจ้าสวยก็ทำเป็นแกล้งเมาหนักขึ้น พูดอ้อแอ้ๆลุกเดินเข้าบ้านเองไม่ไหว "พ่อ..อุ้มน้องเค้าไปเหอะ ท่าจะเดินเองไม่ไหว" ประภาหลงกลไอ้สวยมันจนได้ ส่วนผมก็ไม่อยากให้ภาเธอต้องสงสัยเลยช้อนร่างอวบอิ่มของเจ้าสวยขึ้นในวงแขน อุ้มพาไปยังห้องรับแขกที่อยู่ชั้นล่าง "พ่อ...พาน้องเค้าเข้าห้องไปก่อน ภาไปเอาน้ำเย็นมาเช็ดหน้าให้..." พอลับร่างประภาแล้ว ไอ้สวยตัวแสบก็ลืมตา อมยิ้มสองมือของมันที่ห้อยตกเมื่อสักครู่เหมือนคนเมา ก็ยกมาคล้องหมับที่คอของผมทันที อกอวบแอ่นมาจนประชิดกับแผงอกของผม ท่อนลำในกางเกงที่อ่อนตัวไปเมื่อสักครู่ก็ลุกแข็งโชนขึ้นมาอีกครั้งอย่าง ช่วยไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น: