ขายของ

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปฎิหาริย์แห่งรัก ตอนที่ 20 ................................................................................................ ตอนที่20 เมื่อภารับปากว่าจะจอดรถรอที่ปั้มน้ำมัน ความกังวลในใจของผมก็ผ่อนคลายลงทันที ผมขับรถออกจากปั้มร้าง ซึ่งเมื่อสักครู่เป็นสังเวียนสวาทกับเลขาหุ้นสบึมของผม อย่างไม่เร่งร้อนรีบเร่งเหมือนตอนออกมาจากโรงแรมใหม่ ๆ อีกไม่เกิน ชัวโมงผมก็จะเจอภาแล้ว ผมรู้สึกสบายใจหายห่วงอย่างประหลาด อีกทั้งการที่มีสาวสวยทั้งขี้อ้อนและซุกซนอย่างเจ้าสวยเป็นเพื่อนร่วมทาง ช่างน่าอภิรมย์ยิ่งนัก ข้างฝ่ายไอ้สวยเมื่อเห็นว่าผมอารมณ์กลับมาดีเฉกเช่นปรกติ อีกทั้งเมื่อสักครู่เพิ่งได้รับความสุขจากเพศสัมพันธ์ที่ผมมอบให้ ความซุกซนขี้เล่น เหมือนลูกแมวตัวน้อย ๆ ที่คอยเคล้าเคลียก็เริ่มแสดงออกทันที เจ้าสวยเอียงหน้ามาซบอยู่ที่ไหล่ของผม บางคราวที่เงยหน้าขึ้นจูบเบา ๆ แถว ๆ ปลายคาง เสียงบ่นอุบอิบว่าทำไมผมถึงไม่ยอมโกนหนวดโกนเครา ตอหนวดเส้นแข็ง ๆ ทิ่มแทงจนหน้ามันแสบไปหมดแล้ว " หัวหน้าอ่ะ..คราวหลังไม่โกนหนวด สวยจะไม่ให้จูบแล้ว" เสียงบ่นพึมพำเบา ๆ ใกล้ ๆ หูผม แต่เจ้าสวยก็ยังคงเงยหน้าขึ้นจูบผมเบา ๆ ไม่เลิกลา "ทำมาบ่น...มะกี้ไม่เห็นร้องว่าเจ็บ..ว่าแสบ" ผมล้อมันเล่นอย่างสนุก "สวยเจ็บจริง ๆ นะค๊า.. นี่นมแดงแล้วก็แสบไปหมดเลย" พูดพร้อมค้อนควัก น่าหมั่นไส้ "ก็ไม่เห็นร้องบอก" "ร้องไม่ออก" กระซิบเบา ๆ พร้อมหน้าเริ่มแดงขึ้น "ไมล่ะ" ผมยังไม่ล้อไม่เลิกลา พร้อมเหลือบตายักคิ้วให้ "ก็เสียวนี่...อิอิ" เรา หยอกล้อพูดเล่นกันมาตลอดทาง แต่ความเร็วของการขับรถของผมก็ไม่เคยต่ำกว่า120กิโลเมตรต่อชั่วโมง มือไม้เจ้าสวยก็ไม่เคยหยุดนิ่งไม่ลูบหน้าตาคิ้วคางของผม ก็ลูบไล้เบาๆที่แนวขนบนแผงอก "ฤทธิ์มากนัก..ตัวแค่นี้" เจ้าสวยพูดพร้อมกับลูบมือลงต่ำไปเกาะกุมอยู่ที่หว่างขาผม "ทำน้องสาวเค้าระบมไปหมดแล้วรู้ตัวมั๊ยคะ..." เสียงอ้อน ๆ ยังคงพูดเจี้ยวแจ้ว มือที่เกาะกุมก็เริ่มบีบคลึงลูบไล้ไปมา แม้ สงครามสวาทที่เพิ่งผ่านไปสองยกเมื่อสักครู่จะทำให้เจ้าตัวยุ่งของผมนอนสงบ นิ่ง แต่ฝ่ามือนุ่มนิ่มบวกกับเรือนกายที่หอมกรุ่นพร้อมอกอวบใหญ่ที่เบียดกระแซะ อยู่ที่ต้นแขน ก็สามารถทำให้ท่อนลำในกางเกงของผมขยายตัวจนแข็งน่วม ๆ ขึ้นมาอีกครั้งจนได้ "เสร็จงานแต่ง เดี๋ยวขอภาให้สวยขย่มทั้งคืนเลยเอาป่ะ" ผมแกล้งพูดล้อเล่นออกไป นึกว่าเจ้าสวยมันจะอายเลิกเล่นต่อ แต่ผิดคาด " จริงน๊า..จะขย่มให้หงอยไปเลย" เจ้าสวยไม่แค่พูดอย่างเดียว ฝ่ามือยังกำ ๆ บีบ ๆ เน้นแรงหนักขึ้น ๆ จนกระทั่งท่อนลำของผมแข็งโปนขึ้นมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ แต่ระฆัง ยกสุดท้ายช่วยไว้ทันเวลา ผมหัวเราะฮา ฮา เมื่อมองเห็นป้ายนีออนขนาดใหญ่ของปั้มน้ำมันอันเป็นจุดนัดพบของภา อยู่เบื้องหน้าไม่เกิน300เมตร เจ้าสวยหัวเราะคิก คิก พร้อมขยับตัวขยับเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย แต่ก็ไม่วายพูดให้ผมสยิวใจเล่นว่า " ฝากไว้ก่อนเจ้าตัวร้าย คราวหน้าจะขย่มให้หักคารูเลย อิอิ" พูดยังไม่ขาดคำก็แกล้งผมด้วยการออกแรงกำบีบไปที่ท่อนลำแข็งโปนของผม พร้อมหัวเราะฮาฮาอย่างชอบอกชอบใจ ผมเลี้ยวรถวาบเข้าไปยังปั้มน้ำมัน ที่นัดหมาย กวาดสายตามองหารถเฟียต 1500 สีขาว ของเจ้าเดชลูกน้องผม แต่กลับไร้ร่องรอย ผมขับรถวนรอบ ๆ อีกครั้ง ก็ยังไม่เห็น จนเริ่มหงุดหงิด พอจอดรถหน้าร้านสดวกซื้อได้เรียบร้อยผมก็โทรหาภาทันที คราวนี้เสียงสัญญาณดังกังวาลอยู่หลายครั้ง จนท้ายที่สุด เสียงโอปะเรเตอร์ก็ดังกังวาลว่า.... เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ ได้ในขณะนี้ค่ะ... ผมพยายามโทรหาอีกสองสามครั้ง หน้าเริ่มเครียดขึ้น แต่ยังคงเป็นเช่นเดิม จึงเดินเร่ไปถามพนักงานเติมน้ำมัน ได้ทราบว่ารถคันดังกล่าวเพิ่งออกไปไม่น่าจะเกิน20นาทีนี้เอง ผมลาก เจ้าสวยออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกระชากรถออกไปทันที โยนโทรศัพท์ให้เจ้าสวยพยายามโทรหาภาให้ได้ แต่ก็ยังคงเป็นเช่นเดิมผมออกรถมาได้เพียงครู่ ถนนเบื้องหน้าเริ่มมีรถหนาแน่นขึ้น ยังไม่ผ่านแยกตากฟ้า รถเลนขวาสุดเริ่มติด ๆ ขยับ ๆ แต่เลนกลางกับเลนซ้ายยังไปได้คล่องแม้ไม่เร็วนักก็ตาม จากประสพการณ์การขับรถที่ผ่านมา ผมแน่ใจว่าคงมีอุบัติเหตุข้างหน้าอย่างแน่นนอน และน่าจะอยู่ที่เลนด้านขวา หรือไม่ก็ต้องเป็นคูกลางถนน สวย ยังคงพยายามโทรศัพท์หาภา แต่ยังคงเป็นเช่นเดิม ผมพยายามจะเปลี่ยนเลนการขับรถ แต่หูก็พลันได้ยินเสียงไซเรนท์ขอทางตามมาด้านหลัง ทั้งรถพยาบาลและรถมูลนิธิ ขับตามกันมาอย่างรวดเร็ว ผมลักไก่เบี่ยง รถออกตามไปด้านหลังได้สำเร็จ ข้างหน้าด้านขวามือลิบ ๆ เห็นควันไฟทะมึน ใจผมเริ่มเสีย แต่พยายามคิดว่าอาจเป็นการเผาหญ้าข้างทางก็เป็นได้ ภาพ ควันไฟและกองเพลิงเริ่มชัดขึ้น มองเห็นลิบๆว่าไฟกำลังลุกท่วมสิ่งใดอยู่ที่คูกลางถนน ใจผมเริ่มเสีย ขอบตาร้อนผ่าว ๆ อย่างประหลาด ภาพการลุกไหม้ย่นระยะเข้ามาเรื่อย ๆ ผมร้องบอกให้สวยช่วยดู เพราะผมต้องระวังเรื่องการขับรถ เพียงไม่ถึง 20เมตรก่อนจะถึงที่เกิดเหตุ เสียงไอ้สวยร้องว๊าย ....พูดติด ๆขัด ๆว่า นั่นมันคือรถเจ้าเดช ผมเหยียบเบรคอย่างกระทันหัน ใจหายวาบเหมือนแทบจะขาดใจ เสียงดังโครมที่ท้ายรถ หน้าผมทิ่มหัวโขกกับพวงมาลัยรถ ทั้งปวดคอและ มึนหัวแทบระเบิด แต่ผมก็รีบเปิดประตูรถออกมา พอกระโจนลงจากรถได้ เสียงเบรครถและเสียงบีบแตรอย่างแรงดังสนั่นที่ด้านขวา ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัว ร่างของผมก็ลอยกระเด็นไปฟุบอยู่ที่ขอบทาง เสียวแปล๊บที่สีข้างด้านซ้าย พอพยายามจะพยุงตัวลุกขึ้น ขาด้านขวาของผมกลับไร้ความรู้สึก ขยับเขยื้อนไม่ได้ ผมตะโกนร้อง เรียก ภา ภา ดั่งคนบ้าคลั่ง พยามยามจะคลานเข้าไปหากองเพลิงเบื้องหน้า แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่เริ่มคืบคลาน ในหัวผมก็ดั่งมีเสียงวิ้ง ๆ ตาพร่าลาย ผมทรุดฮวบลงนอนคว่ำหน้า อยู่ตรงนั้น แม้จะไม่สามรถเคลื่อนไหวร่างกาย ได้อีก แต่ผมก็ร้องตะโกนเรียก ภา ภา จนเสียงแหบแห้ง เสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่มูลนิธิวิ่งเข้ามาหา หูผมเริ่มเลือนลาง ตานั้นพร่ามัวจนกองเพลิงที่อยู่เบื้องหน้าแลเห็นเพียงแค่ลิบหรี่ ก่อนที่ผมจะไร้สติรับรู้สิ่งใด สิ่งที่ได้ยินเป็นครั้งสุดท้ายอย่างชัดเจนคือ........ ถูกไฟครอกตายทั้งหมด3คนครับ

ไม่มีความคิดเห็น: