ขายของ

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ปฎิหารย์แห่งรัก

ปฎิหารย์แห่งรัก หลังจากที่นิดสอบfinalวันสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว เธอมั่นใจว่าทุกวิชาทุกหน่วยกิจต้องผ่านฉลุยสบายๆ ซึ่ง หมายความถึงว่าเธอหมดภาระทางด้านการเรียนแล้ว รอเพียงขั้นตอนการรับปริญญาเท่านั้น 10กว่าวันหลังจากที่นิดสอบเสร็จ เธอมาขลุกอยู่ที่บ้านของผม ทั้งนี้เพื่อทำความคุ้นเคยและดูผลการยอมรับจากลูกสาวทั้งสองของผม ผม ค่อนข้างสบายใจเมื่อผลรับมันออกมาค่อนข้างดีเลิศ ลูกสาวของผมทั้งสองเข้ากันได้ดีกับนิด ซึ่งในไม่ช้าจะกลายเป็นแม่เลี้ยงของพวกเธอ บ้านที่เคยเงียบสงบของผมเมื่อมีสมาชิกวัยสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคนเลยค่อนข้าง ครึกครื้นขึ้น นิดและลูกสาวทั้งสองของผมหาเรื่องมาเล่นมาสร้างความบันเทิงให้กับผมได้โดย ตลอดในช่วงกลางวัน ดูๆไปคล้ายผมจะมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเรียกที่นิดเคยเรียกผมว่าพี่..ก็เปลี่ยนไปตามน้องๆ นิดเธอเรียกผมว่า..ป๊า.. เวลาพวกเราทั้งสี่ไปเดินซื้อของช็อปปิ้งตาม ศูนย์การค้า ผมเลยกลายเป็นคุณพ่อของสามสาวโดยปริยาย เดี๋ยวน้องโมลูกสาวคนโตก็เดินมากอดเอวกอดไหล่อ้อนว่า ป๊า.ๆ โมอยากได้โน่นอยากได้นี่ เจ้าส้มน้องเล็กก็ทำตามพี่สาวมั่ง..ป๊า ๆ ไปทานไอศครีมกันเหอะ ฉุดดึงลากผมไปทางโน้นทีทางนี้ที เป็นที่สนุกสนาน เรื่อง สนุกๆแบบนี้มีหรือที่นิดจะไปทำเลียนแบบมั่ง เธอเข้ามาโอบกอดผมกลางห้างเอียงหน้ามากระซิบข้างหูว่า ..ป๊า ๆ นิดขอกอดหน่อย...เพียงแค่นี้ก็เรียกเสียงหัวเราะคิกคักได้จากสามสาวจนคนเดิน ผ่านไปผ่านมาในห้างต้องหันหน้ามามองพร้อมรอยยิ้มทุกคน พวกหนุ่มๆทั้งหลายที่เดินสวนไปสวนมาก็เหล่ตามองสามสาวกันหน้าสลอน แต่เมื่อสบสายตาดุๆของผม ทุกคนก็รีบหุบยิ้มเดินจากไป พร้อมเสียงแซวแว่วๆให้ได้ยินบ่อยครั้งว่า ..แม่ง ลูกสาวสวยทั้งสามคน แต่พ่อแม่ง...หน้าดุเหมือนหมา ... พอ ถึงวันศุกร์ปลายเดือนมีนาคม ผมพร้อมญาติผู้ใหญ่ที่ยังคงเหลืออีกเพียงคนเดียว และนิดก็ขับรถไปยังชัยนาท ซึ่งเป็นบ้านของเธอ จุดประสงค์ก็คือการไปทาบทามสู่ขอนิดมาเป็นภรรยาตามกฎหมาย เมื่อผมพบหน้าพ่อแม่ของนิด ผมค่อนข้างกระอักกระอ่วนใจพอดู ซึ่งผมก็คิดว่าทางฝั่งโน้นก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน เพราะอะไรนะหรือครับ ก็เพราะทั้งพ่อและแม่ของนิดนั้นอายุยังน้อยกว่าผมทั้งสองคน พ่อนิดเพิ่ง49ส่วนแม่ก็อ่อนกว่าสักสองสามปี ทีนี้การที่จะเรียกว่าที่พ่อตาแม่ยายของผมว่าพ่อ แม่เฉกเช่นลูกเขยทั่วๆไปเรียกกัน มันจึงทำให้กระอักกระอ่วนใจดังกล่าว ส่วนทางฝ่ายนิดจะเรียกผมว่าลูก ก็คงกระดากปาก ทางออกก็คือพ่อตา แม่ยายของผมเรียกผมว่าคุณ แล้วใช้ชื่อตัวเองแทน ส่วนผมก็เรียกทางฝั่งนิดว่าคุณ..ทั้งสองคน เมื่อทาบทามสู่ขอกันเป็นที่ เรียบร้อยโดยมีหมายกำหนดงานแต่งในวันที่ศุกร์ที่ 13เมษายน แล้ว ผมกับญาติผู้ใหญ่ก็เดินทางกลับ ส่วนิดขออยู่ค้างที่บ้านเธอสัก4 หรือ5 วันก่อนจึงจะกลับมาหาผมที่กรุงเทพ ผมขับรถผ่านเส้นทางสายเอเซีย พอออกจากชัยนาทใกล้จะผ่านแยกตากฟ้า ใจผมก็แว๊บขึ้นมาถึงเหตุการสะเทือนชีวิตของผมที่ผ่านมาเมื่อ10ปีที่แล้ว ทันที แม้ล่องลอยของอุบัติเหตุจะไม่หลงเหลือไปนานแล้ว แต่มันยังจาลึกอยู่ในใจของผมทุกคราเมื่อต้องเดิน ทางผ่านถนนสายเอเซียในช่วงนี้ ผมรีบสลัดภาพความหลังออกไปจากสมอง มิฉนั้นผมคงไม่สามารถที่จะขับรถต่อไปได้ ผม กลับมาถึงบ้านก็จัดเตรียมเรื่องงานแต่งเพียงคนเดียวก่อน ผมจัดทำแบบง่ายๆออกการ์ดเชิญเฉพาะบุคคลสนิทใกล้ชิดเพียงไม่ถึงร้อยคน ซึ่งเรื่องนี้ผมกับนิดได้คุยกันแล้ว เธอก็ยินดีและเต็มใจที่จะให้งานแต่งของเธอกับผมเป็นไปแบบเรียบๆง่ายๆ สถานที่สนามบ้านผมเหลือพอสำหรับจัดงานแต่งและจำนวนแขกที่เชิญมา ผมเลือก ใช้บริการด้านอาหารในแบบบุฟเฟ่ จากโรงแรมระดับ5ดาว ที่ผมเคยทำงานอยู่ เพื่อนเจ้าบ่าวคงไม่ต้องเพราะมีแต่แก่ๆกันทั้งนั้น แต่เพื่อมิให้ผิดธรรมเนียมผมเลยให้นายติ๊กหลานชายของผมมาเป็นซะ ส่วนทางฝ่ายนิดก็ได้เพื่อนสาวจากมหาลัยของเธอ ผมจัดการเรื่องราวต่างๆ ผ่านได้อย่างเรียบร้อยทั้งนี้คงเพราะมีประสพการณ์มาก่อน นิดเพียงแค่ช่วยเหลือผมในเรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น พร้อมเตรียมตัวให้สวยสุดของการเป็นเจ้าสาวที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน ส่วนผมก็เรียบๆง่ายๆ ด้วยวัยอาวุโสขนาดนี้คงไม่ต้องพิถีพิถันกันอีกแล้วกับร่างกาย รอเพียงแค่วันเวลาเท่านั้นนิดกับผมก็จะเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมายและขนบประเพณี

ไม่มีความคิดเห็น: